ข่าวรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน)

[Mongwin]

ด้วน/กุด ทางรถไฟความเร็วสูงอยุธยา ล่าช้ากว่าแผนงาน #รถไฟความเร็วสูง
Jun 21, 2024
นิกเกิ้ล พาทัวร์ (Train Thailand)


https://www.youtube.com/watch?v=ixLMNh8w1v8

The high-speed rail project in Ayutthaya is behind schedule.

[Mongwin]

อัพเดต รถไฟความเร็วสูงที่สถานีโคราช อีกไม่นานก็มีการเปลี่ยนแปลงของโคราชแล้ว (มิถุนายน67)
Max Puttipong
Jun 22, 2024


https://www.youtube.com/watch?v=j_aVqHIAfcU

Update: High-speed rail at Korat Station. Korat is about to change soon (June '67).

[Mongwin]

'นายกฯ'ลงพื้นที่ดูรถไฟเชื่อมสนามบินอู่ตะเภา ทุบโต๊ะสัญญาต้องจบสิ้นปี67
Source - เว็บไซต์แนวหน้า
Sunday, June 23, 2024 11:55

'นายกฯ'ลงพื้นที่สนามบินอู่ตะเภา ดูข้อติดขัดสร้างรถไฟเชื่อมสนามบิน แย้มข่าวดี'ก.ค.'นี้เห็นข้อสรุป ก่อนเคาะโต๊ะสัญญาต้องจบสิ้นปี67 ย้ำอย่าให้เกิดปัญหาเป็นเมกกะโปรเจกต์สำคัญรัฐบาล หากติดกระดุมเม็ดแรกผิด เกิดเป็นมหากาพย์แน่

เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.67 ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์เสาร์-อาทิตย์ ลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดชลบุรีและระยอง โดยในวันที่ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมานายกฯ ลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดชลบุรี ก่อนที่วันนี้ (23 มิ.ย.67) นายกฯ ลงพื้นที่จังหวัดระยอง

เวลา 10.25 น. นายกฯ เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา ระยอง-พัทยา เพื่อพูดคุยหารือประเด็นปัญหาและการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ รองรับการลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) โดยมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯและรมว.คมนาคม นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด นายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.)และทันตแพทย์หญิงศรีญาดา ปาลิมาพันธ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ให้การต้อนรับ

นายกฯ กล่าวว่า ที่มาวันนี้เพื่อติดตามเรื่องของสนามบินอู่ตะเภา การพัฒนาอีอีซี รวมถึงรถไฟความเร็วสูง ที่ถือว่าเป็นเมกะโปรเจกต์ของรัฐบาลนี้ ซึ่งมีการทำกันมาหลายรัฐบาลแล้ว โดยรัฐบาลนี้ตระหนักถึงความสำคัญเรื่องการเชื่อมโยง และเป็นที่ทราบกันดีว่ามีความล่าช้าอยู่บ้าง เพราะฉะนั้นในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมดมีความสำคัญอย่างยิ่ง

ด้านเลขาสกพอ. กล่าวว่า มีสัญญากำหนดไว้และมีเงื่อนไขการดำเนินโครงการไว้ 3 ข้อซึ่งความจริงแล้วสัญญาเสร็จตั้งแต่ปี 2562 และควรจะเริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปี 2564 ซึ่งตอนนี้เรากำลังบริหารอดีตอยู่ เพราะหลังจากที่มีโควิด-19 บริษัทเอกชนมีปัญหาเรื่องหาคนทำงานไม่ได้ ซึ่งการดำเนินงานต่างๆทำให้ไม่สามารถเริ่มโครงการได้และการส่งมอบพื้นที่ได้ ขณะเดียวกันดอกเบี้ยเงินกู้เพิ่มขึ้น และค่าก่อสร้างยังเพิ่มขึ้นอีกด้วย ซึ่งจากสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปทำให้เขาไม่สามารถที่จะหาธนาคารมาให้กู้เงินได้ ซึ่งตรงนี้ในกระบวนการที่ผ่านมาทำให้เราจำเป็นต้องใช้วิธีการเจรจา ซึ่งปัจจุบันมีหลักการที่พยายามจะนำเสนอในกระบวนการ

ทั้งนี้ ในเดือนก.ค.2567 ตั้งเป้าจะมีการนำเสนอโซลูชั่นในการเจรจาเข้าคณะกรรมการกพอ. และนำเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี(ครม.)ต่อไป โดยจะเป็นการเสนอหลักการว่าจะมีการแก้ไขในประเด็นอะไรแค่ไหน ซึ่งหากเราเห็นชอบในหลักการ ก็จะรู้ตัวสัญญาที่จะแก้ไขใหม่ ซึ่งประมาณสิ้นปี 2567 จะเซ็นสัญญาแก้ไขใหม่ได้ โดยจะเริ่มก่อสร้างในต้นเดือนธ.ค.2567 หรือต้นเดือน.ม.ค. 2568

ขณะที่นายกฯ กล่าวว่า ตนถือเป็นหัวใจของการพัฒนาในเขตเศรษฐกิจมีทั้งหมดเชื่อว่าฝ่ายเอกชนและผู้ที่เกี่ยวข้องเรื่องสนามบินตามความเข้าใจของตนอย่างที่บอกมีความพร้อมและทำตามข้อตกลงแล้ว แต่ว่าถ้าเกิดเรื่องของโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินยังมีความล่าช้าอยู่ ซึ่งตรงนี้จะสร้างความมั่นใจให้เอกชนอย่างไรเพราะทราบว่าการมาร่วมทุนตรงนี้จะเกิดจริงหรือไม่ หากเกิดล่าช้าและไม่เกิด ทำไปมันก็ไม่ต่อภาพไม่ครบการลงทุน ทำต่อไปก็ไม่คุ้ม มันก็เป็นการอีหลัก อีเหลื่อ หากสถานการณ์เป็นไปแบบนี้ ตรงนี้ ตนอยากให้ชี้แจงความกระจ่าง

นายกฯ กล่าวต่อว่า โครงการนี้ควรจะเริ่มก่อสร้าง ปี 2564 แต่เกิดปัญหาโควิด-19 เรื่องผู้รับเหมาและเรื่องอะไรต่างๆไม่เป็นไปตามที่คาดหวังไว้ สัญญาอยู่ระหว่างการต่อรองอันนี้ตนไม่ได้พูดถึงความชอบธรรม หรือความถูกต้อง ตนจะสรุปข้อมูลว่าเป็นลักษณะนี้ ในระหว่างที่เราเริ่มงาน 2-3 ปีเป็นเรื่องการต่อรองว่าจะทำอย่างไรต่อไปซึ่งขณะนี้เวลาของสัญญาหมดไปแล้ว แต่เดี๋ยวจะมีการหาทางออก โดยการตั้งสมมุติฐานทางด้านการเงินใหม่ รวมถึงอาจจะรวมไปถึงการต่อรองกับทางรัฐบาล เรื่องของความเงื่อนไขของผลตอบแทน ซึ่งตนไม่ขอคอมเมนต์ว่าทำได้หรือทำไม่ได้ ซึ่งทุกอย่างจะต้องจบให้ได้ภายในสิ้นปี 2567 และก่อสร้างได้ต้นปี 2568

นายกฯ กล่าวอีกว่า คำถามต่อมาคือระหว่างนี้คนที่ทำสนามบินอู่ตะเภา เขาจะเดินหน้าต่อหรือเปล่าและความเสี่ยงมันก็มีว่าหากจบไม่ได้หรือหากกระบวนการยุติธรรม ไม่สามารถหาข้อยุติได้ ตัวบทสัญญามันจะทำอย่างไรต่อไป ตนขอฝากไว้อย่าให้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับการก่อสร้างสนามบินหากรถไฟเชื่อม 3 สนามบินมีปัญหา ตนเชื่อว่าหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับโปรเจกต์นี้ต้องไปพูดคุยกันให้ดี เพราะสนามบินอู่ตะเภามีความสำคัญอย่างยิ่งกลับเมกะโปรเจกต์ของเรา ซึ่งเมื่อวันที่ 22 มิ.ย.ที่ตนได้ลงพื้นที่ไปดูเรื่องพื้นที่สร้างสนามแข่งขัน F 1 หากไม่มีสนามบินมันก็ลำบากกับเรื่องการกระตุ้นการท่องเที่ยว ฉะนั้นเรื่องของรถไฟเชื่อม 3 สนามบินเป็นเรื่องที่สำคัญ ซึ่งประมาณสิ้นเดือนก.ค.เราก็น่าจะข้อสรุปและเป็นข่าวดี

"ในฐานะรัฐบาลอยากให้ไปต่อเพราะถือเป็นจิ๊กซอว์การลงทุนข้ามชาติต่อยอดบริษัทที่จะมาลงทุนในอีอีซี ทำธุรกิจการค้า หรือธุรกรรมการลงทุนต่างๆในภูมิภาคนี้ ถ้าหากขาดไปตัวหนึ่งก็คงลำบาก ซึ่งเราไม่ต้องไปลงรายละเอียดว่าเชื่อม 3 สนามบินต้องไปลิงก์กับสนามบินที่กรุงเทพฯอย่างไร ย้ำว่าอย่าให้เกิดปัญหาไม่เช่นนั้นหากติดกระดุมเม็ดแรกผิดตั้งแต่ต้นก็จะเกิดปัญหาตามมาเป็นมหากาพย์" นายเศรษฐา กล่าว

ด้านนายสุริยะ กล่าวว่า เรื่องรถไฟเชื่อม 3 สนามบินในขณะนี้ได้สั่งให้ทุกหน่วยงานเร่งรัดแล้ว ซึ่งแนวโน้มตนเชื่อว่าก่อนสิ้นเดือนก.ค. น่าจะมีข้อสรุป


Prime Minister Visits U-Tapao Airport, Addresses High-Speed Rail Project Concerns
Date: June 23, 2024

On June 23, 2024, Prime Minister Settha Thavisin visited U-Tapao Rayong-Pattaya International Airport to discuss development plans and address concerns about the delayed high-speed rail project linking three major airports.

During his visit, the Prime Minister acknowledged the importance of the project for the Eastern Economic Corridor (EEC) and reassured stakeholders that the government is working towards a resolution. He emphasized the need for collaboration between the public and private sectors to ensure the successful completion of this crucial infrastructure project.

Transport Minister Suriya Jungrungreangkit provided an update on the project, citing challenges such as the COVID-19 pandemic, rising interest rates, and increased construction costs as contributing factors to the delays. He expressed optimism that a solution would be reached by the end of July 2024, with a revised contract expected by the end of the year and construction commencing in early 2025.

The Prime Minister stressed that the airport development and the high-speed rail project are independent but complementary components of the EEC's growth strategy. He assured investors that the airport would continue to operate and develop regardless of the rail project's timeline.

In conclusion, the Prime Minister expressed confidence that the high-speed rail project would be successfully resolved, paving the way for a seamless transportation network and further economic development in the EEC region.

[Mongwin]

นายกฯ ยันรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบินต้องเกิดในปี 71
Source - ผู้จัดการออนไลน์
Sunday, June 23, 2024 12:51

ศูนย์ข่าวศรีราชา- นายกฯ ติดตามการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์สนามบินอู่ตะเภา จ.ระยอง รองรับการลงทุนในพื้นที่ EEC ยันผลักดัน รถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบินเกิดในปี 71

วันนี้ (23 มิ.ย.) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายสุริยะ รุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายจุลพรรณ อมรวิวัฒน์รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้ลงพื้นที่ติดตามการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ของสนามบินอู่ตะเภา และตรวจติดตามโครงการสำคัญตามนโยบายของรัฐบาล ทั้งมาตรการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก Eastern Economic Corridor (EEC)

และได้เข้าร่วมประชุมหารือกับผู้แทนการท่าอากาศยานอู่ตะเภา และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นโดยรอบ ซึ่งประเด็นการพูดคุยส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องโครงการพัฒนาและ ส่งเสริมการลงทุนเศรษฐกิจ รวมทั้งระบบโลจิสติกส์ที่สำคัญ

โดยเฉพาะโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินที่ปัจจุบันการดำเนินงานมีความล่าช้าจากกำหนดเดิมที่จะต้องแล้วเสร็จภายในช่วงสิ้นปี 67 แต่ปัจจุบันกลับยังไม่ได้มีดำเนินการ

เนื่องจากติดปัญหาการแพร่ระบาดของโรค โควิด-19 และการเกิดสงครามระหว่างประเทศยูเครนและรัสเซีย จนทำให้ขาดแคลนแรงงานอย่างหนัก รวมทั้งมาตรการส่งเสริมการลงทุนของ BOI ที่ยังไม่แล้วเสร็จดำเนินการยังไม่แล้วเสร็จ

อย่างไรก็ตามกรณีดังกล่าว นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ชี้แจงว่าที่ผ่านมาได้มีการหารือกับบริษัทผู้รับจ้างแล้ว และมีแนวทางในการแก้ไขปัญหาร่วมกันโดยคาดว่าจะสามารถได้ผลสรุปภายในเดือนกรกฎาคมนี้ย่างแน่นอน

ซึ่งนายกรัฐมนตรี ระบุว่าควรจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปี 71 เพราะเป็นโครงการที่มีความสำคัญทั้งด้านการขนส่งการ และสนับสนุนการลงทุน รวมทั้งเรื่องของการท่องเที่ยวที่เข้ามามีส่วนร่วม

นอกจากนั้นในส่วนของท่าอากาศยานอู่ตะเภา จะต้องเร่งดำเนินการในส่วนของการสร้างรันเวย์ รวมทั้งต้องมีการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ รวมทั้งจัดทำพื้นที่สำหรับคาร์โก้ศูนย์ซ่อมอากาศยานและโรงเรียนการบิน ในอนาคตด้วย


Prime Minister Affirms High-Speed Rail Link Between Three Airports by 2028

Source: Manager Online
Date: Sunday, June 23, 2024, 12:51

Sriracha News Center - The Prime Minister has reviewed the commercial development of U-Tapao Airport in Rayong to support investment in the Eastern Economic Corridor (EEC) and confirmed that the high-speed rail link connecting three airports will be completed by 2028.

Today (June 23), Prime Minister Srettha Thavisin, along with Transport Minister Suriya Juangroongruangkit and Deputy Finance Minister Chulapant Amornvivat, visited the commercial development area of U-Tapao Airport and inspected key projects under government policy, including investment promotion measures in the EEC.

They participated in discussions with representatives from U-Tapao Airport and local government organizations. The discussions primarily focused on economic development projects, investment promotion, and critical logistics systems.

A key topic was the high-speed rail project connecting three airports, which has been delayed from the original completion date of late 2024. The delays are attributed to the COVID-19 pandemic and the Ukraine-Russia war, causing severe labor shortages and incomplete BOI investment promotion measures.

Transport Minister Suriya Juangroongruangkit explained that discussions have been held with the contractor company to find solutions, and a resolution is expected by July.

The Prime Minister emphasized the importance of completing the project by 2028, highlighting its significance for transportation, investment support, and tourism.

Additionally, U-Tapao Airport must expedite the construction of a new runway, a new passenger terminal, cargo areas, an aircraft maintenance center, and a future aviation school.

[Mongwin]

เลื่อนเซ็นสัญญา 4-5 บ้านโพ-พระแก้ว
Source - เดลินิวส์
Monday, June 24, 2024 05:02

รอความชัดเจน HIA สถานีอยุธยา หวั่นไฮสปีดไม่ทัน'พืชสวนโลก'

"ทีมข่าวนวัตกรรมขนส่งเดลินิวส์" รายงานว่า ขณะนี้ ยังไม่มีข้อเสนอแนะใด ๆ จากคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก กลับมาที่การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) หลังจากได้ส่งรายงานผลกระทบด้านทรัพย์สินทางวัฒนธรรม (Heritage Impact Assessment : HIA) ของแหล่งมรดกโลกนครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เชื่อมโยงกับสถานีรถไฟความเร็วสูงอยุธยา ในโครงการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีด) ระยะ (เฟส) ที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯนครราชสีมา ไปให้คณะกรรมการฯ เพื่อพิจารณาว่าต้องปรับแก้ใด ๆ เพิ่มเติมอีกหรือไม่ ก่อนเสนอองค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสต่อไป

เวลานี้กำหนดกรอบเวลาไม่ได้แล้วว่าสัญญา 4-5 ช่วงบ้านโพ-พระแก้ว ระยะทาง 13.3 กิโลเมตร (กม.) ซึ่งเป็นสัญญาที่มีการก่อสร้างสถานีรถไฟความเร็วสูงอยุธยา จะดำเนินการได้เมื่อใด เนื่องจาก รฟท. พิจารณาแล้วเห็นว่าควรต้องรอความชัดเจนเรื่อง HIA ให้จบก่อน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมาภายหลัง ส่งผลให้ รฟท. ต้องชะลอการลงนามสัญญากับบริษัท บุญชัยพาณิชย์(1979) จำกัด ผู้รับจ้างสัญญาที่ 4-5 ออกไป ไม่มีกำหนด จากการเจรจากับเอกชนเบื้องต้น ยังยืนราคาเดิม 10,325 ล้านบาท และยังไม่ถอยยังทำงานก่อสร้างในสัญญาอื่นของโครงการฯ อยู่ด้วย

อย่างไรก็ตามเรื่อง HIA ควรจะจบให้ได้ภายในปี 67 มิฉะนั้นจะกระทบกับภาพรวมการก่อสร้างทั้งโครงการฯ ที่จะทำให้การก่อสร้าง และการเปิดบริการล่าช้าไปอีกเรื่อย ๆ จากแผนงานที่วางไว้ล่าสุดว่าจะเปิดบริการได้ภายในปี 71 โดย รฟท. มี เป้าหมายให้โครงการเปิดบริการให้ได้ตามแผนงานล่าสุดก่อนการจัดมหกรรมพืชสวนโลก นครราชสีมา 2572 หรือ Korat Expo 2029 ที่ประเทศไทยได้รับการคัดเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดงานที่ จ.นครราชสีมา ระหว่างวันที่ 10 พ.ย. 72-28 ก.พ. 73 เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกการเดินทางให้ประชาชน และนักท่องเที่ยว

สำหรับการก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูงฯ เฟสที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 253 กม. ในภาพรวม 14 สัญญา วงเงิน 1.79 แสนล้านบาท ได้ผลงาน 33.44% ล่าช้า 33.06% ก่อสร้างเสร็จ 100% รวม 2 สัญญา กำลังก่อสร้าง 10 สัญญา และรอลงนาม 2 สัญญา.

ที่มา: นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 25 มิ.ย. 2567 (กรอบบ่าย)


Postponement of Signing for Section 4-5 Ban Pho-Phra Kaeo

Source - Daily News
Monday, June 24, 2024, 05:02

Waiting for HIA Clarity for Ayutthaya Station, Fearing High-Speed Rail Won’t Meet 'World Horticultural Exposition' Deadline

The "Daily News Transport Innovation Team" reports that there have been no recommendations from the National Committee on the Protection of World Cultural Heritage back to the State Railway of Thailand (SRT). This follows the submission of the Heritage Impact Assessment (HIA) report concerning the Ayutthaya Historical Park, a World Heritage Site, in connection with the Ayutthaya high-speed rail station within Phase 1 of the Bangkok-Nakhon Ratchasima high-speed rail project. The report is currently under review by the committee to determine if any additional adjustments are necessary before being presented to the United Nations Educational, Scientific and Cultural Organization (UNESCO) in Paris, France.

As of now, no timeline can be set for the signing of the contract for Section 4-5, spanning Ban Pho-Phra Kaeo, which covers 13.3 kilometers and includes the construction of the Ayutthaya high-speed rail station. The SRT believes it is prudent to await clarity on the HIA to avoid future issues. Consequently, the SRT has postponed the signing of the contract with Boonchai Panich (1979) Co., Ltd., the contractor for Section 4-5, indefinitely. Preliminary negotiations with the private sector have maintained the original price of 10.325 billion baht, and work on other contracts within the project continues.

However, the HIA matter must be resolved by 2024 to avoid delays in the overall construction and opening of the service, which is planned for 2028. The SRT aims to have the project operational before the World Horticultural Exposition 2029 in Nakhon Ratchasima, also known as Korat Expo 2029, scheduled from November 10, 2029, to February 28, 2030, to facilitate travel for the public and tourists.

The Phase 1 construction of the high-speed rail project from Bangkok to Nakhon Ratchasima covers 253 kilometers, involving 14 contracts and a budget of 179 billion baht. Currently, 33.44% of the work is completed, with a delay of 33.06%. Two contracts are 100% complete, ten are under construction, and two are awaiting signing.

Source: Daily News Newspaper, June 25, 2024 (Afternoon Edition)

[Wisarut]

[Wisarut]

[Wisarut]

รูปแบบทางวิ่งรถไฟความเร็วสูง ช่วงผ่านสถานีรังสิต ของงานสัญญา 4-2 ดอนเมือง - นวนคร (UNIQ)
➡️ทางวิ่งจะยกระดับข้ามถนนรังสิต-ปทุมธานี โดยจะเป็นโครงสร้างแบบคานต่อเนื่อง (Continous Beam) ความยาวประมาณ 140 เมตร (ช่วงเสากว้างสุด 64 เมตร)
➡️จากนั้นจะค่อยๆเบี่ยงซ้ายเล็กน้อย เพื่อให้ทางวิ่งใกล้กับสถานีรังสิต (ลดผลกระทบกับประชาชน) ช่วงนี้เสาตอม่อจะมีลักษณะเป็นตัว U คว่ำ เพราะต้องการเว้นช่องไว้สำหรับถนนทางเข้า/ออกสถานี
⚠️ซึ่งถือว่างานส่วนนี้พื้นที่มีข้อจำกัดพอสมควรเพราะปัจจุบันที่ด้านข้างสถานีจนถึงขอบรั้วกว้างประมาณ 10-13 เมตร ทำให้ตำแหน่งของตอม่อต้องมีการวางสลับฟันปลา (Staggered) เพื่อไม่ให้กระทบกับโครงสร้างหลักของสถานี
🚧ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเดือน เมษายน 2567 มีการเข้าพื้นที่เพื่อเจาะสำรวจดิน คาดว่าตอนนี้ขั้นตอนออกแบบคงเกือบ 100% แล้ว มารอลุ้นกันว่าจุดนี้จะเริ่มขึ้นได้ประมาณช่วงไหน
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=122119990262320927&id=61559627833443

[Wisarut]

งานอุโมงค์จะอยู่ในสัญญาที่ 3-2 โดย บมจ.เนาวรัตน์ พัฒนาการ ระยะทางรวม 12.23 กิโลเมตร โดยในสัญญาที่ 3-2 จะเป็นงานก่อสร้าง เช่น
-ทางยกระดับระยะทางรวม 1 กิโลเมตร
-คันทางระดับดินระยะทางรวม 3 กิโลเมตร
-งานอุโมงค์ระยะทางรวม 8 กิโลเมตร
***ในภาพจะเป็นปากอุโมงค์คลองไผ่ ระยะทางยาว 4.1 กิโลเมตร เป็นอุโมงค์เดี่ยวทางคู่ กว้าง 13.04 เมตร สูง 11.82 เมตร
***จากทั้งหมด 4 อุโมงค์
-อุโมงค์ผาเสร็จ ความยาว 274 เมตร
-อุโมงค์มวกเหล็ก ความยาว 3,400 เมตร
-อุโมงค์หินลับ ความยาว 162 เมตร
-อุโมงค์คลองไผ่ ความยาว 4,100 เมตร
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=856756709814733&id=100064412361050

[Mongwin]

ปลดล็อก ไฮสปีด-อู่ตะเภา
Source - ฐานเศรษฐกิจ
Wednesday, June 26, 2024 05:31

ปิดดีล รื้อสัญญา 'สร้างไปจ่ายไป' ลงนาม ธ.ค. 67 ปีหน้าตอกเข็มต้นแรก

UTA ลุยเจรจาสัญญา

ปิดดีลแก้สัญญาไฮสปีด 'สร้างไปจ่ายไป' เดินหน้าตอกเข็มปี 68 ชง กพอ.-ครม.เคาะหลักการสัญญา ก.ค.นี้ เปิดยื่นขอบัตรส่งเสริมฯรอบใหม่ ด้าน UTA เจรจาเงื่อนไขสัญญาลดก่อสร้างช่วงแรกลงอีกรอบ-ยืดจ่ายผลตอบแทนยาวขึ้น หลังเจอขยาย "สุวรรณภูมิ-ดอนเมือง"

โครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) เชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา)และโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก โครงสร้างพื้นฐานหลักในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่รัฐบาลมีหมุดหมาย เชื่อมการเดินทางถ่ายเทผู้โดยสารระหว่างกันแบบไร้รอยต่อ เฟืองจักรสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และเป็นแม่เหล็ก ดึงนักลงทุนต่างชาติเข้าพื้นที่ แต่เมื่อสองโครงการ "ตกหล่มลึก" จากสถานการณ์โควิดซ้ำเติมด้วยสงครามการสู่รบรัสเซีย-ยูเครน เอกชนผู้รับสัมปทานได้รับผลกระทบอย่างแผนทางการเงินอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จึงนำมาซึ่งการขอเจรจาภาครัฐในฐานะคู่สัญญา ผ่อนคลายข้อสัญญาเพื่อให้โครงการทั้งสองเดินหน้าต่อได้

ปิดดีลสร้างไปจ่ายไปนายกขันน็อตเร่งสร้าง

โดยเฉพาะโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ที่มีบริษัทเอเชียเอราวันจำกัดเครือซีพี เป็นคู่สัญญาและประเมินกันว่า หากล่าช้า หรือไม่สามารถก่อสร้างโครงการได้เชื่อว่า แผนพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาย่อมไร้ความหมาย ขณะการเจรจาล่าสุดได้ข้อสรุปเกือบทั้งหมดแล้วรอเพียงขั้นตอน เสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) พิจารณาร่างแก้ไขสัญญา มีกำหนดในเดือนกรกฎาคมนี้ ที่มีประเด็นไฮไลต์ รัฐเร่งจ่ายเงินร่วมลงทุนในโครงการ (PIC) 119,425 ล้านบาท ในงวดที่ 18 นับจากวันที่ออกหนังสือ NTP ปรับเงื่อนไขรับเงินอุดหนุน "รูปแบบสร้างไปจ่ายไป" จากเดิมรัฐลงเงินสนับสนุนต่อเมื่อ โครงการก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดให้บริการเดินรถแล้ว

ประเด็นนี้ มีการเจรจากันอยู่นานในที่สุด รัฐต้องยอมผ่อนคลาย ขณะนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่อีอีซีขันน็อต เมื่อไม่นานมานี้เพื่อไม่ให้โครงการล่าช้า และมีคำสั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้จบในทุกขั้นตอนเจรจาภายในเดือนกรกฎาคมนี้ เพื่อลงมือก่อสร้างต่อไป

กพอ.ไฟเขียว หลักการแก้สัญญา ไฮสปีด ก.ค.

แหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ภายในเดือนกรกฎาคมนี้ จะมีการพิจารณาในประเด็นที่รฟท.และเอกชนได้เจรจาเพื่อแก้ปัญหาในโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ทั้งนี้หากผ่านความเห็นชอบจากบอร์ด กพอ.แล้ว จะเสนอครม.พิจารณาหลักการแก้ปัญหาสอดรับกับหลักการการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (PPP) นั้น ในเรื่องนี้เกี่ยวข้องในประเด็นการปรับวิธีการชำระเงินของเอกชน เนื่องจากเอกชนขอชำระเงินเร็วขึ้น

"ตามมติครม.เดิมเป็นการชำระเงินต่อเมื่อมีการก่อสร้างแล้วเสร็จค่อยเดินรถถึงจะเริ่มชำระเงิน ทำให้ต้องนำประเด็นนี้ไปทบทวนตามมติครม.ก่อน หลังจากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการแก้สัญญาต่อไป คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือนธ.ค.67 ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่กระทบกับเงื่อนไขของ PPP ในปัจจุบัน เพราะเป็นโครงการฯที่ยังดำเนินการตามขั้นตอน PPP ตามเดิม เพียงแต่การเจรจาครั้งนี้เป็นการปรับหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับทางการเงินเท่านั้น"
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน ที่ผ่านมา คณะกรรมการกำกับดูแลโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (คณะกรรมการกำกับสัญญาฯ) ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) อีอีซี ได้มีการประชุมและรับทราบผลการแก้ไขปัญหาตามที่คณะทำงานร่วม 3 ฝ่าย ได้ข้อสรุปแล้ว เบื้องต้นตามแผนจะเสนอบอร์ดกพอ.พิจารณาอีกครั้ง หลังจากนั้นเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติก่อนส่งให้สำนักงานอัยการสูงสุดตรวจร่างสัญญาฯ ส่วนแก้ไขเพิ่มเติม คาดว่าจะแล้วเสร็จ สามารถลงนามแก้ไขสัญญาได้ภายในเดือนธันวาคม2567 และรฟท.จะสามารถส่งมอบพื้นที่และออกหนังสือให้เอกชนเริ่มงาน (NTP) เริ่มก่อสร้างไม่เกินต้นปี 2568

สำหรับแนวทางการเจรจายังคงเป็นกรอบเดิมที่เคยรายงานในช่วงที่ผ่านมา ประกอบด้วย 3 ประเด็น ประกอบด้วย 1.การจ่ายค่าสิทธิแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ (ARL) จำนวน 10,671 ล้านบาท แบ่งชำระ 7 งวด 2.ภาครัฐเร่งจ่ายเงินที่รัฐร่วมลงทุนในโครงการ (PIC) วงเงิน 119,425 ล้านบาท เร็วขึ้น โดยจ่ายก่อนกำหนดในงวดที่ 18 นับจากวันที่ออกหนังสืออนุญาตเข้าพื้นที่ (NTP) ถือเป็นการปรับเงื่อนไขรับเงินอุดหนุนจากรัฐในรูปแบบสร้างไปจ่ายไป

โดยการให้สถาบันการเงินมาการันตีในครั้งนี้ เนื่องจากภาครัฐต้องการความมั่นใจว่าเอกชนคู่สัญญาจะเดินหน้าต่อทั้งการเบิกจ่ายหรือการแบ่งงวดจ่ายใดๆ ทางรฟท.และสกพอ.ได้เจรจาให้เอกชนนำสถาบันการเงินมาวางการันตีเพิ่มเติม เพื่อไม่ให้รัฐเสียประโยชน์จากการอุดหนุนจ่ายค่าก่อสร้างเร็วกว่ากำหนด

3.การออกหนังสือแจ้งให้เริ่มงาน (NTP) นั้นในการเจรจาร่วมกับเอกชนได้เสนอให้ตัดสิทธิ์เงื่อนไขสิทธิประโยชน์จากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ออกจากสัญญาฉบับนี้ด้วย เนื่องจากเลยกำหนดระยะเวลาการขยายขอออกบัตรส่งเสริมด้านการลงทุน เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา ทำให้เงื่อนไขที่เกี่ยวข้องบีโอไอจะไม่อยู่ในเงื่อนไขการออก NTP อีกต่อไป

บีโอไอ เปิดทางยื่นคำขอรับส่งเสริมรอบใหม่

นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวว่า หลังจากที่การขยายเวลาออกบัตรส่งเสริมครั้งสุดท้ายได้สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา ผู้บริหารของบริษัท เอเชีย เอรา วัน จำกัด หรือซีพีได้เข้ามาพบ เพื่อชี้แจงความคืบหน้าในการเจรจาแก้ไขสัญญาโครงการ รวมทั้งแนวทางดำเนินการในระยะต่อไป โดยบริษัทได้แจ้งยืนยันที่จะขอรับสิทธิประโยชน์ในการส่งเสริมการลงทุนจาก บีโอไอ

ส่วนสาเหตุที่เอกชนมีการยื่นคำขอรอบใหม่จนทำให้การขอขยายเวลาการออกบัตรส่งเสริมฯสิ้นสุดลงครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมาเนื่องจากเอกชนแจ้งว่าอยู่ระหว่างกระบวนการรอแก้ไขสัญญาโครงการฯ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้มีแหล่งเงินทุนเพื่อขอยื่นคำขอในการออกบัตรส่งเสริมฯ

โดยปัจจุบันเอกชนอยู่ระหว่างเตรียมเอกสารเพื่อยื่นคำขอรับสิทธิประโยชน์ในการส่งเสริมการลงทุนจาก บีโอไอรอบใหม่ หากใช้เอกสารเดิมจะไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะระยะเวลาดำเนินการสิ้นสุดไปแล้ว ทั้งนี้เมื่อกระบวนการลงนามแก้ไขสัญญาผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการ กพอ. คาดว่าเอกชนจะมีความพร้อมในการยื่นคำขอใหม่ โดยกระบวนการจะแล้วเสร็จภายในเดือนกรกฎาคมนี้

แก้สัญญาไฮสปีดจบปีนี้-ตอกเสาเข็มต้นปีหน้า

นายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรืออีอีซี กล่าวว่า กรณีที่เอกชนจะกลับไปขอใช้สิทธิประโยชน์ด้านการลงทุนจาก บีโอไอนั้น เป็นสิทธิของเอกชนที่สามารถดำเนินการได้ตามกฎหมาย ซึ่งจะต้องเริ่มกระบวนการใหม่ แต่ทางอีอีซีไม่ได้กังวลในประเด็นนี้ เพียงแต่ต้องการให้โครงการเดินหน้าไปได้ก่อน

ทั้งนี้ เมื่อถามว่าเอกชนกลับไปขอสิทธิประโยชน์จากบีโอไอจะกระทบต่อการลงนามแก้ไขสัญญาในครั้งนี้หรือไม่นั้น ยืนยันว่าไม่กระทบ เนื่องจากในการแก้ไขสัญญานี้จะตัดเงื่อนไขในดังกล่าวโดยไม่มีการผูกในสัญญา หากมีการอนุมัติแก้ไขสัญญาแล้วเสร็จจะสามารถออก NTP เพื่อให้เอกชนเดินหน้าก่อสร้างได้เลย ตามกระบวนการคาดว่าจะลงนามแก้ไขสัญญาได้ภายในปีนี้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการดำเนินงานระหว่างรฟท.และเอกชนด้วยว่าจะสามารถดำเนินการได้แค่ไหน เพราะมีหลายขั้นตอนที่จะผ่านอัยการสูงสุดตรวจร่างสัญญาฯก่อน ซึ่งต้องใช้เวลาดำเนินการ หลังจากนั้นจะเริ่มออก NTP เพื่อดำเนินการก่อสร้างภายในต้นปี 2568 ซึ่งมั่นใจว่าจะก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ให้แล้วเสร็จสอดรับกับการเปิดสนามบินอู่ตะเภา

UTA เจรจาสัญญา ยืดจ่ายผลตอบแทนยาวขึ้น

ด้านนายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หนึ่งในพันธมิตรผู้คว้าประมูลโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา และเมืองการบินภาคตะวันออก เปิดเผยว่า บริษัทอู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จำกัด หรือ UTA จะต้องมีการเจรจาเงื่อนไขสัญญา กับทางอีอีซีใหม่อีกครั้ง จากเดิมที่ขอเจรจาขยายเฟสการลงทุน จาก 4 ระยะ เป็น 6 ระยะ ซึ่งการก่อสร้างในช่วงแรกเดิมได้ขอลดการให้บริการโดยสารผู้โดยสารจาก 15.9 ล้านคน เป็น 12 ล้านคนต่อปี แต่ยังคงจำนวนตามแผนเดิมที่ 60 ล้านคนต่อปี แต่ล่าสุดเมื่อดูจากปัจจัยหลักหลายเรื่องที่เกิดขึ้น ทำให้คาดการณ์จำนวนผู้โดยสารที่จะมาใช้บริการสนามบินอู่ตะเภา อาจจะไม่เหมือนที่คาดไว้ตั้งแต่แรกที่เสนอแผนพัฒนาไป

ดังนั้น UTA อาจจะต้องเจรจากับอีอีซี ขอลดการก่อสร้างในระยะแรก ลดลงไปอีก โดยยังอยู่ระหว่างการหารือเป็นการภายในว่าควรจะอยู่เท่าไหร่ ควรจะอยู่ที่ 8 ล้านคน หรือจะเคาะตัวเลขที่เท่าไหร่ แต่ปลายทางก็ยังจะรองรับผู้โดยสารได้เท่าเดิมตามแผนที่เสนอไป เนื่องจากโครงการนี้ได้รับผลกระทบหลักๆใน 3 เรื่องหลัก ได้แก่ 1. การที่รัฐบาลประกาศจะพัฒนาและปรับปรุง สนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินดอนเมืองเต็มเฟส ซึ่งไม่ได้มีเรื่องนี้ ตอนนี้เราคำนวณการลงทุนอู่ตะเภาในตอนนั้น 2.ความล่าช้าต่างๆที่ทำให้อีอีซี ยังไม่สามารถส่งมอบพื้นที่ให้ UTA เข้าไปลงทุนได้ ซึ่งล่าช้ามากว่า 4 ปีแล้ว อาทิ โครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีด) เชื่อม 3 สนามบิน และ 3. สถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้น

"จากผลกระทบที่เกิดขึ้นเราต้องไปขอเจรจาเงื่อนไขสัญญากับทางอีอีซี โดยจะขอปรับลดการลงทุนในช่วงต้นให้น้อยลง เพื่อให้สอดคล้องกับผู้โดยสาร แต่ตัวเลขสุดท้ายก็ลงทุนเท่าเดิม รวมถึงขอจ่ายค่าตอบแทนให้รัฐในช่วงแรกจ่ายที่จะขอจ่ายน้อยหน่อย หรือมีรูปแบบการจ่ายยังไงได้บ้าง แต่ท้ายสุดตัวเลขสุดท้าย ก็ยังเท่าเดิม แต่อาจจะขอให้ยืดการจ่ายยาวขึ้น หรือลดยอดรวมลงบ้าง เพื่อช่วยชดเชยผลกระทบต่างๆเหล่านี้ที่เกิดขึ้น ซึ่งจะต้องมีการเจรจากับอีอีซีเพื่อให้ได้ข้อสรุป ก่อน UTA จะได้รับหนังสือแจ้งให้เอกชนเริ่มงาน (NTP) ที่คาดว่าจะได้เข้าพื้นที่ก่อสร้าง โดยขณะนี้เราต้องไปปรับคาดการณ์การเติบโตที่บริษัทที่ปรึกษาวางไว้ใหม่ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์จริงที่เกิดขึ้น"
นายพุฒิพงศ์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ UTA ได้ ออกแบบอาคารผู้โดยสาร ลานจอด การเชื่อมต่อแท็กซี่ เวย์ ไว้พร้อมแล้ว UTA หวังว่าจะได้เข้าพื้นที่ก่อสร้างได้ในช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า เนื่องจากคาดว่า การเจรจาเรื่องของไฮสปรีดเทรน 3 สนามบินจะได้ข้อสรุปในเร็วๆนี้ ขณะที่การก่อสร้างรันเวย์ 2 ของกองทัพเรือ (ทร.) ก็เตรียมเปิดประมูลแล้ว ซึ่ง UTA จะลงทุนสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 3 และเมืองการบิน ที่จะประกอบไปด้วย ศูนย์แสดงสินค้า จัดแสดงคอนเสิร์ต โลจิสติกส์ สนามแข่งรถฟอร์มูล่าวัน (F1) โดยเรามองว่านักสะสมรถก็นำรถมาไว้ที่นี่ได้ แล้วมาขับในช่วงเสาร์อาทิตย์ได้

อย่างไรที่ผ่านมา UTA มีค่าใช้จ่ายที่ปรึกษาออกแบบ เราลงไปแล้วกว่า 3 พันล้านบาท รวมถึงได้มีการเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 4,500 ล้านบาท เป็น 15,000 ล้านบาท เพื่อเป็นไปตามเงื่อนไขว่าเมื่อ NTP ต้องมีทุนจดทะเบียนอยู่ที่ 9 พันล้านบาท

ที่มา: นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 27 - 29 มิ.ย. 2567


Unlock High-Speed - U-Tapao

Source: Thansettakij
Wednesday, June 26, 2024, 05:31

Deal closed, "Build-Operate-Transfer" contract restructured. Sign in Dec. 2024, first pile driven next year.

UTA negotiates contract.

Deal closed to amend high-speed "Build-Operate-Transfer" contract. Construction to start in 2025. Approval from EEC and Cabinet expected in July. New application for promotion certificate opened. UTA negotiates contract conditions to reduce initial construction phase and extend the payout period due to expansions of "Suvarnabhumi-Don Mueang."

The high-speed train project connecting three airports (Don Mueang, Suvarnabhumi, U-Tapao) and the U-Tapao Airport and Eastern Aviation City development project are key infrastructure projects in the Eastern Economic Corridor (EEC). These projects aim to provide seamless passenger transfer and drive economic growth by attracting foreign investors. However, both projects have faced significant delays due to COVID-19 and the Russia-Ukraine war, affecting the financial plans of private concessionaires and leading to negotiations with the government to relax contract conditions to ensure the projects proceed.

Deal closed, construction to begin, PM urges swift action.

The high-speed train project, led by State Railway of Thailand (SRT) and Asia Erawan Co., Ltd. under the CP Group, is crucial. Delays or inability to proceed would undermine the U-Tapao airport development plan. Recent negotiations have almost concluded, pending review by the EEC Policy Committee in July. Key issues include the government accelerating its investment payment (PIC) of 119,425 million baht in the 18th installment from the NTP date, shifting from post-construction completion payments.

After lengthy negotiations, the government agreed to relax terms. Prime Minister Srettha Thavisin recently visited the EEC to push for timely project completion, instructing all related agencies to conclude negotiations by July for construction to proceed.

EEC Policy Committee approves principle amendment of high-speed contract in July.

An EEC Office source revealed to Thansettakij that the EEC Policy Committee will review the amendments negotiated by SRT and private parties for the high-speed train project in July. If approved, it will proceed to the Cabinet for principles agreement aligning with PPP guidelines. This adjustment concerns the private sector's earlier payment request, altering the original post-construction payment term.

"According to the original Cabinet resolution, payments were to commence only after construction completion. This issue needs to be reconsidered under the original resolution before contract amendments proceed, expected to complete by Dec. 2024. This adjustment does not affect current PPP conditions as the project follows PPP steps, only adjusting financial terms."

On June 4, the high-speed train project oversight committee acknowledged the three-party working group's resolution. The plan will be presented to the EEC board and then to the Cabinet for approval before sending the contract amendment to the Attorney General for review. The contract amendment is expected to be signed by Dec. 2024, allowing SRT to hand over the area and issue the NTP by early 2025.

The negotiation framework remains as previously reported, with three main points: 1) ARL rights fee payment of 10,671 million baht in 7 installments; 2) government accelerating 119,425 million baht investment payment in the 18th installment from NTP date; and 3) removing BOI benefits from this contract due to the expired extension period on May 22.

BOI opens new round of promotion certificate applications.

Narut Therdsteerasukdi, BOI Secretary-General, stated that after the last extension expired on May 22, Asia Era One Co., Ltd. executives met to update on contract amendment progress and future plans, confirming their intent to apply for BOI investment promotion benefits.

The private sector’s delay in the third extension request was due to ongoing contract amendment processes, crucial for securing funding for the promotion certificate application.

The private sector is preparing documents for a new promotion certificate application, as the old documents are no longer valid. The contract amendment process is expected to be approved by the EEC board in July, allowing the private sector to submit a new application.

High-speed contract amendment to conclude this year, construction to begin early next year.

Chula Sukmanop, EEC Secretary-General, confirmed that the private sector can reapply for BOI benefits legally, starting a new process. EEC is not concerned about this and focuses on progressing the project.

Asked if reapplying for BOI benefits will affect contract amendment signing, Chula confirmed it will not, as BOI conditions are excluded from the contract. If the amendment is approved, NTP can be issued for construction to start by early 2025, aiming to complete the high-speed train project alongside U-Tapao airport's opening.

UTA negotiates to extend payout period.

Puttipong Prasarttong-Osoth, CEO of Bangkok Airways and a partner in the U-Tapao Airport and Eastern Aviation City project, stated that U-Tapao International Aviation Co., Ltd. (UTA) needs to renegotiate contract terms with EEC, initially requesting to extend the investment phases from 4 to 6, reducing the initial passenger service capacity from 15.9 million to 12 million per year, while maintaining the final capacity at 60 million per year. Due to various factors, UTA may need to further reduce the initial construction phase, currently under internal discussion.

UTA will negotiate with EEC to lower the initial phase construction, while maintaining the final capacity, and request to extend or reduce the initial government payout, balancing the impacts faced.

UTA has already designed the terminal, parking apron, and taxiway connection. UTA aims to start construction by late this year or early next year, pending high-speed train project resolution. The Navy’s second runway construction bid is also prepared. UTA will invest in the third terminal and aviation city, including an exhibition center, concert hall, logistics, and F1 racetrack.

UTA has spent over 3 billion baht on design consultation and increased registered capital from 4,500 million baht to 15,000 million baht, meeting the condition of having 9 billion baht registered capital by NTP.

Source: Thansettakij Newspaper, June 27-29, 2024 Issue.