Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน)
View previous topic :: View next topic
Author
Message
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 45724
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 26/06/2024 6:14 am Post subject:
อัพเดต! รถไฟความเร็วสูงไทย-จีน เลียบลำตะคอง - ปางช่อง - ซับม่วง มิถุนายน 67
Max Puttipong
Jun 25, 2024
https://www.youtube.com/watch?v=uFuq1w-NrZo
Update! Thai-Chinese High-Speed Train along Lam Takhong - Pang Chang - Sap Muang, June 2024
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 43076
Location: NECTEC
Posted: 26/06/2024 10:07 am Post subject:
Mongwin wrote: ปลดล็อก ไฮสปีด-อู่ตะเภา
Source - ฐานเศรษฐกิจ
วันพุธ ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2567 เวลา 05:31 น.
ปิดดีล รื้อสัญญา 'สร้างไปจ่ายไป' ลงนาม ธ.ค. 67 ปีหน้าตอกเข็มต้นแรก
ลิงก์มาแล้วครับ
รื้อสัญญาปลดล็อก "ไฮสปีด-อู่ตะเภา"ตอกเข็มต้นปี68
ฐานเศรษฐกิจ
วันพุธ ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2567 เวลา 08:00 น.
ปิดดีลแก้สัญญาไฮสปีด สร้างไปจ่ายไป เดินหน้าตอกเข็มปี 68 ชง กพอ.-ครม.เคาะหลักการสัญญา ก.ค.นี้ เปิดยื่นขอบัตรส่งเสริมฯรอบใหม่ ด้าน UTA เจรจาเงื่อนไขสัญญาลดก่อสร้างช่วงแรกลงอีกรอบ-ยืดจ่ายผลตอบแทนยาวขึ้น หลังเจอขยาย สุวรรณภูมิ-ดอนเมือง
โครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) เชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา)และโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก โครงสร้างพื้นฐานหลักในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่รัฐบาลมีหมุดหมาย เชื่อมการเดินทางถ่ายเทผู้โดยสารระหว่างกันแบบไร้รอยต่อ
เฟืองจักรสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และเป็นแม่เหล็ก ดึงนักลงทุนต่างชาติเข้าพื้นที่ แต่เมื่อสองโครงการ ตกหล่มลึก จากสถานการณ์โควิดซํ้าเติมด้วยสงครามการสู่รบรัสเซีย-ยูเครน เอกชนผู้รับสัมปทานได้รับผลกระทบอย่างแผนทางการเงินอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จึงนำมาซึ่งการขอเจรจาภาครัฐในฐานะคู่สัญญา ผ่อนคลายข้อสัญญาเพื่อให้โครงการทั้งสองเดินหน้าต่อได้
โดยเฉพาะโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ที่มีบริษัทเอเชียเอราวันจำกัดเครือซีพี เป็นคู่สัญญาและประเมินกันว่า หากล่าช้า หรือไม่สามารถก่อสร้างโครงการได้เชื่อว่า แผนพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาย่อมไร้ความหมาย
ขณะการเจรจาล่าสุดได้ข้อสรุปเกือบทั้งหมดแล้วรอเพียงขั้นตอน เสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) พิจารณาร่างแก้ไขสัญญา มีกำหนดในเดือนกรกฎาคมนี้ ที่มีประเด็นไฮไลต์ รัฐเร่งจ่ายเงินร่วมลงทุนในโครงการ (PIC) 119,425 ล้านบาท ในงวดที่ 18 นับจากวันที่ออกหนังสือ NTP ปรับเงื่อนไขรับเงินอุดหนุน รูปแบบสร้างไปจ่ายไป จากเดิมรัฐลงเงินสนับสนุนต่อเมื่อ โครงการก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดให้บริการเดินรถแล้ว
ประเด็นนี้ มีการเจรจากันอยู่นานในที่สุด รัฐต้องยอมผ่อนคลาย ขณะนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่อีอีซีขันน็อต เมื่อไม่นานมานี้เพื่อไม่ให้โครงการล่าช้า และมีคำสั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้จบในทุกขั้นตอนเจรจาภายในเดือนกรกฎาคมนี้ เพื่อลงมือก่อสร้างต่อไป
กพอ.ไฟเขียว หลักการแก้สัญญา ไฮสปีด ก.ค.
แหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) เปิดเผย ฐานเศรษฐกิจ ว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ภายในเดือนกรกฎาคมนี้ จะมีการพิจารณาในประเด็นที่รฟท.และเอกชนได้เจรจาเพื่อแก้ปัญหาในโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ทั้งนี้หากผ่านความเห็นชอบจากบอร์ด กพอ.แล้ว จะเสนอครม.พิจารณาหลักการแก้ปัญหาสอดรับกับหลักการการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (PPP) นั้น ในเรื่องนี้เกี่ยวข้องในประเด็นการปรับวิธีการชำระเงินของเอกชน เนื่องจากเอกชนขอชำระเงินเร็วขึ้น
ตามมติครม.เดิมเป็นการชำระเงินต่อเมื่อมีการก่อสร้างแล้วเสร็จค่อยเดินรถถึงจะเริ่มชำระเงิน ทำให้ต้องนำประเด็นนี้ไปทบทวนตามมติครม.ก่อน หลังจากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการแก้สัญญาต่อไป คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือนธ.ค.67 ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่กระทบกับเงื่อนไขของ PPP ในปัจจุบัน เพราะเป็นโครงการฯที่ยังดำเนินการตามขั้นตอน PPP ตามเดิม เพียงแต่การเจรจาครั้งนี้เป็นการปรับหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับทางการเงินเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน ที่ผ่านมา คณะกรรมการกำกับดูแลโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (คณะกรรมการกำกับสัญญาฯ) ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) อีอีซี ได้มีการประชุมและรับทราบผลการแก้ไขปัญหาตามที่คณะทำงานร่วม 3 ฝ่าย ได้ข้อสรุปแล้ว เบื้องต้นตามแผนจะเสนอบอร์ดกพอ.พิจารณาอีกครั้ง หลังจากนั้นเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติก่อนส่งให้สำนักงานอัยการสูงสุดตรวจร่างสัญญาฯ ส่วนแก้ไขเพิ่มเติม คาดว่าจะแล้วเสร็จ สามารถลงนามแก้ไขสัญญาได้ภายในเดือนธันวาคม2567 และรฟท.จะสามารถส่งมอบพื้นที่และออกหนังสือให้เอกชนเริ่มงาน (NTP) เริ่มก่อสร้างไม่เกินต้นปี 2568
สำหรับแนวทางการเจรจายังคงเป็นกรอบเดิมที่เคยรายงานในช่วงที่ผ่านมา ประกอบด้วย 3 ประเด็น ประกอบด้วย 1.การจ่ายค่าสิทธิแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ (ARL) จำนวน 10,671 ล้านบาท แบ่งชำระ 7 งวด 2.ภาครัฐเร่งจ่ายเงินที่รัฐร่วมลงทุนในโครงการ (PIC) วงเงิน 119,425 ล้านบาท เร็วขึ้น โดยจ่ายก่อนกำหนดในงวดที่ 18 นับจากวันที่ออกหนังสืออนุญาตเข้าพื้นที่ (NTP) ถือเป็นการปรับเงื่อนไขรับเงินอุดหนุนจากรัฐในรูปแบบสร้างไปจ่ายไป
โดยการให้สถาบันการเงินมาการันตีในครั้งนี้ เนื่องจากภาครัฐต้องการความมั่นใจว่าเอกชนคู่สัญญาจะเดินหน้าต่อทั้งการเบิกจ่ายหรือการแบ่งงวดจ่ายใดๆ ทางรฟท.และสกพอ.ได้เจรจาให้เอกชนนำสถาบันการเงินมาวางการันตีเพิ่มเติม เพื่อไม่ให้รัฐเสียประโยชน์จากการอุดหนุนจ่ายค่าก่อสร้างเร็วกว่ากำหนด
3.การออกหนังสือแจ้งให้เริ่มงาน (NTP) นั้นในการเจรจาร่วมกับเอกชนได้เสนอให้ตัดสิทธิ์เงื่อนไขสิทธิประโยชน์จากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ออกจากสัญญาฉบับนี้ด้วย เนื่องจากเลยกำหนดระยะเวลาการขยายขอออกบัตรส่งเสริมด้านการลงทุน เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา ทำให้เงื่อนไขที่เกี่ยวข้องบีโอไอจะไม่อยู่ในเงื่อนไขการออก NTP อีกต่อไป
บีโอไอ เปิดทางยื่นคำขอรับส่งเสริมรอบใหม่
นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวว่า หลังจากที่การขยายเวลาออกบัตรส่งเสริมครั้งสุดท้ายได้สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา ผู้บริหารของบริษัท เอเชีย เอรา วัน จำกัด หรือซีพีได้เข้ามาพบ เพื่อชี้แจงความคืบหน้าในการเจรจาแก้ไขสัญญาโครงการ รวมทั้งแนวทางดำเนินการในระยะต่อไป โดยบริษัทได้แจ้งยืนยันที่จะขอรับสิทธิประโยชน์ในการส่งเสริมการลงทุนจาก บีโอไอ
ส่วนสาเหตุที่เอกชนมีการยื่นคำขอรอบใหม่จนทำให้การขอขยายเวลาการออกบัตรส่งเสริมฯสิ้นสุดลงครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมาเนื่องจากเอกชนแจ้งว่าอยู่ระหว่างกระบวนการรอแก้ไขสัญญาโครงการฯ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้มีแหล่งเงินทุนเพื่อขอยื่นคำขอในการออกบัตรส่งเสริมฯ
โดยปัจจุบันเอกชนอยู่ระหว่างเตรียมเอกสารเพื่อยื่นคำขอรับสิทธิประโยชน์ในการส่งเสริมการลงทุนจาก บีโอไอรอบใหม่ หากใช้เอกสารเดิมจะไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะระยะเวลาดำเนินการสิ้นสุดไปแล้ว ทั้งนี้เมื่อกระบวนการลงนามแก้ไขสัญญาผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการ กพอ. คาดว่าเอกชนจะมีความพร้อมในการยื่นคำขอใหม่ โดยกระบวนการจะแล้วเสร็จภายในเดือนกรกฎาคมนี้
แก้สัญญาไฮสปีดจบปีนี้-ตอกเสาเข็มต้นปีหน้า
นายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรืออีอีซี กล่าวว่า กรณีที่เอกชนจะกลับไปขอใช้สิทธิประโยชน์ด้านการลงทุนจาก บีโอไอนั้น เป็นสิทธิของเอกชนที่สามารถดำเนินการได้ตามกฎหมาย ซึ่งจะต้องเริ่มกระบวนการใหม่ แต่ทางอีอีซีไม่ได้กังวลในประเด็นนี้ เพียงแต่ต้องการให้โครงการเดินหน้าไปได้ก่อน
เมื่อถามว่าเอกชนกลับไปขอสิทธิประโยชน์จากบีโอไอจะกระทบต่อการลงนามแก้ไขสัญญาในครั้งนี้หรือไม่นั้น ยืนยันว่าไม่กระทบ เนื่องจากในการแก้ไขสัญญานี้จะตัดเงื่อนไขในดังกล่าวโดยไม่มีการผูกในสัญญา หากมีการอนุมัติแก้ไขสัญญาแล้วเสร็จจะสามารถออก NTP เพื่อให้เอกชนเดินหน้าก่อสร้างได้เลย ตามกระบวนการคาดว่าจะลงนามแก้ไขสัญญาได้ภายในปีนี้
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการดำเนินงานระหว่างรฟท.และเอกชนด้วยว่าจะสามารถดำเนินการได้แค่ไหน เพราะมีหลายขั้นตอนที่จะผ่านอัยการสูงสุดตรวจร่างสัญญาฯก่อน ซึ่งต้องใช้เวลาดำเนินการ หลังจากนั้นจะเริ่มออก NTP เพื่อดำเนินการก่อสร้างภายในต้นปี 2568 ซึ่งมั่นใจว่าจะก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ให้แล้วเสร็จสอดรับกับการเปิดสนามบินอู่ตะเภา
UTA เจรจาสัญญา ยืดจ่ายผลตอบแทนยาวขึ้น
ด้านนายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หนึ่งในพันธมิตรผู้คว้าประมูลโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา และเมืองการบินภาคตะวันออก เปิดเผยว่า บริษัทอู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จำกัด หรือ UTA จะต้องมีการเจรจาเงื่อนไขสัญญา กับทางอีอีซีใหม่อีกครั้ง จากเดิมที่ขอเจรจาขยายเฟสการลงทุน จาก 4 ระยะ เป็น 6 ระยะ
ซึ่งการก่อสร้างในช่วงแรกเดิมได้ขอลดการให้บริการโดยสารผู้โดยสารจาก 15.9 ล้านคน เป็น 12 ล้านคนต่อปี แต่ยังคงจำนวนตามแผนเดิมที่ 60 ล้านคนต่อปี แต่ล่าสุดเมื่อดูจากปัจจัยหลักหลายเรื่องที่เกิดขึ้น ทำให้คาดการณ์จำนวนผู้โดยสารที่จะมาใช้บริการสนามบินอู่ตะเภา อาจจะไม่เหมือนที่คาดไว้ตั้งแต่แรกที่เสนอแผนพัฒนาไป
ดังนั้น UTA อาจจะต้องเจรจากับอีอีซี ขอลดการก่อสร้างในระยะแรก ลดลงไปอีก โดยยังอยู่ระหว่างการหารือเป็นการภายในว่าควรจะอยู่เท่าไหร่ ควรจะอยู่ที่ 8 ล้านคน หรือจะเคาะตัวเลขที่เท่าไหร่ แต่ปลายทางก็ยังจะรองรับผู้โดยสารได้เท่าเดิมตามแผนที่เสนอไป เนื่องจากโครงการนี้ได้รับผลกระทบหลักๆใน 3 เรื่องหลัก ได้แก่
1. การที่รัฐบาลประกาศจะพัฒนาและปรับปรุง สนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินดอนเมืองเต็มเฟส ซึ่งไม่ได้มีเรื่องนี้ ตอนนี้เราคำนวณการลงทุนอู่ตะเภาในตอนนั้น
2.ความล่าช้าต่างๆที่ทำให้อีอีซี ยังไม่สามารถส่งมอบพื้นที่ให้ UTA เข้าไปลงทุนได้ ซึ่งล่าช้ามากว่า 4 ปีแล้ว อาทิ โครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีด) เชื่อม 3 สนามบิน
และ 3. สถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้น
จากผลกระทบที่เกิดขึ้นเราต้องไปขอเจรจาเงื่อนไขสัญญากับทางอีอีซี โดยจะขอปรับลดการลงทุนในช่วงต้นให้น้อยลง เพื่อให้สอดคล้องกับผู้โดยสาร แต่ตัวเลขสุดท้ายก็ลงทุนเท่าเดิม รวมถึงขอจ่ายค่าตอบแทนให้รัฐในช่วงแรกจ่ายที่จะขอจ่ายน้อยหน่อย หรือมีรูปแบบการจ่ายยังไงได้บ้าง แต่ท้ายสุดตัวเลขสุดท้าย ก็ยังเท่าเดิม แต่อาจจะขอให้ยืดการจ่ายยาวขึ้น หรือลดยอดรวมลงบ้าง เพื่อช่วยชดเชยผลกระทบต่างๆเหล่านี้ที่เกิดขึ้น ซึ่งจะต้องมีการเจรจากับอีอีซีเพื่อให้ได้ข้อสรุป ก่อน UTA จะได้รับหนังสือแจ้งให้เอกชนเริ่มงาน (NTP) ที่คาดว่าจะได้เข้าพื้นที่ก่อสร้าง โดยขณะนี้เราต้องไปปรับคาดการณ์การเติบโตที่บริษัทที่ปรึกษาวางไว้ใหม่ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์จริงที่เกิดขึ้น
นายพุฒิพงศ์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ UTA ได้ ออกแบบอาคารผู้โดยสาร ลานจอด การเชื่อมต่อแท็กซี่ เวย์ ไว้พร้อมแล้ว UTA หวังว่าจะได้เข้าพื้นที่ก่อสร้างได้ในช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า เนื่องจากคาดว่า การเจรจาเรื่องของไฮสปรีดเทรน 3 สนามบินจะได้ข้อสรุปในเร็วๆนี้ ขณะที่การก่อสร้างรันเวย์ 2 ของกองทัพเรือ (ทร.) ก็เตรียมเปิดประมูลแล้ว ซึ่ง UTA จะลงทุนสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 3 และเมืองการบิน ที่จะประกอบไปด้วย ศูนย์แสดงสินค้า จัดแสดงคอนเสิร์ต โลจิสติกส์ สนามแข่งรถฟอร์มูล่าวัน (F1) โดยเรามองว่านักสะสมรถก็นำรถมาไว้ที่นี่ได้ แล้วมาขับในช่วงเสาร์-อาทิตย์ได้
อย่างไรที่ผ่านมา UTA มีค่าใช้จ่ายที่ปรึกษาออกแบบ เราลงไปแล้วกว่า 3 พันล้านบาท รวมถึงได้มีการเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 4,500 ล้านบาท เป็น 15,000 ล้านบาท เพื่อเป็นไปตามเงื่อนไขว่าเมื่อ NTP ต้องมีทุนจดทะเบียนอยู่ที่ 9 พันล้านบาท
https://www.thansettakij.com/business/economy/600166
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 45724
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 45724
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 28/06/2024 1:43 pm Post subject:
โครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง สัญญาที่ 3-5 งานโยธาช่วงโคกกรวด-นครรราชสีมา ประจำเดือน มิถุนายน 2567
Jun 28, 2024
SPTK กิจการร่วมค้า
https://www.youtube.com/watch?v=snD-hkNzjTU
High-Speed Rail Construction Project, Contract 3-5, Civil Works for the Khok Kruat - Nakhon Ratchasima Section, June 2024
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 43076
Location: NECTEC
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 45724
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 45724
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 30/06/2024 7:04 pm Post subject:
พาชมก่อนใคร | เริ่มก่อสร้างแล้วถนนเข้าออกย่านสถานีสระบุรี รถไฟความเร็วสูงไทยจีน เชื่อมถนนเลี่ยงเมือง
nanny official
Jun 30, 2024
อลังการงานสร้าง ถนนทางเข้าออกสถานีสระบุรี 1 ในงานก่อสร้างประกอบของย่านสถานีสระบุรี สัญญาที่4-7 โครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน
เป็นถนนขนาด 4 ช่องชราจร แบบไป-กลับ เขตทางกว้าง 30 เมตร เชื่อมกับถนนเลี่ยงเมืองสระบุรีฝั่งตะวันออก
https://www.youtube.com/watch?v=sSrIlCvb8KY
Here's the English translation of the Thai text:
Preview Before Anyone Else | Construction Begins on Access Road to Saraburi Station Area of Thai-Chinese High-Speed Rail, Connecting to Bypass Road
nanny official
Jun 30, 2024
An impressive construction project, the access road to Saraburi Station is one of the ancillary construction works for the Saraburi Station area, Contract 4-7 of the Thai-Chinese High-Speed Rail Project.
It is a 4-lane road (2 lanes each way) with a right-of-way width of 30 meters, connecting to the eastern Saraburi Bypass Road.
Back to top
You cannot post new topics in this forum You cannot reply to topics in this forum You cannot edit your posts in this forum You cannot delete your posts in this forum You cannot vote in polls in this forum
Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group