RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311777
ทั่วไป:13495574
ทั้งหมด:13807351
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 480, 481, 482 ... 484, 485, 486  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43432
Location: NECTEC

PostPosted: 24/06/2024 9:09 pm    Post subject: Reply with quote

ซ่อมรางรถไฟ ซุ้มราเมศวร เปิดให้รถยนต์ผ่านได้ 14:00 น.
10.15 น 24 มิถุนายน 2567 เจ้าหน้าที่ รถไฟพิษณุโลกทำการซ่อมทางรถไฟบริเวณจุดตัดซุ้มราเมศวร ถนนราเมศวรอำเภอเมืองจังหวัดพิษณุโลก เนื่องจากมีรางหัก 1 ท่อน ได้ดำเนินการเปลี่ยนรางใหม่ ในช่วงเวลา 10.15 - 11:15 น จากนั้นรถไฟจะสามารถเดินวิ่งได้ตามปกติ ส่วนรถยนต์ที่จะสัญจรผ่านนั้น คาดว่าจะเปิดได้ประมาณ 14.00 น.วันเดียวกัน เพราะต้องใส่แผ่นรองพื้นถนนด้วย
https://www.facebook.com/phitsanulokhotnews/posts/862345422590152
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43432
Location: NECTEC

PostPosted: 24/06/2024 10:00 pm    Post subject: Reply with quote

🚇Northern line: Lopburi - Pak Nampho - 148 km at 21.5 billion Baht - Progress on Progress on 31 May 2024 Reported on 24 June 2024 🚇 :
Contract 1 Ban Klub - Khok Krathiam (Tha Wung elevated bypass) - 32 km including 29 km elevated tracks and the rest are ramps
Contractor: Unique Engineering and Construction PCL & Sino Hydro
Expected Accumulated Goal: 99.14% (31 May 2024)
Expected Actual Goal: 92.82%
Delayed planned goal by 6.32 % (-6.32 % progress)
Expected date to be done: Further extension to December 2024
Still working on erecting the elevator frames along with concrete works on the platforms and platelaying at Lopburi 2 station (AKA Tha Wung station)
https://www.facebook.com/lopburipaknampho/posts/850987396946662

Contract 2 Tha Khae - Pak Nam Pho - 116 km
Contractor: Unique Engineering and Construction PCL
Deadline: Further extension to December 2024
Expected Accumulated Goal: 98.49% (31 May 2024 )
Expected Actual Goal: 85.12 %
Delayed planned goal by 13.37 % (-13.37 % progress)
Expected date to be done: Further extension to December 2024
Ban Mee station, Pak Nam Pho station, Tha Khae station are starting to take shape. More details to be done including the erection of platform roofs of Tha Khae station, stairways across the platforms for Ban Mee station, along with the underpass
https://www.facebook.com/lopburipaknampho/posts/850990676946334

Contract 3: New Signal and telecommunication including ECTS-1 from Lopburi to Pak Nam Pho (S8 Work)
Contractor: Unique Engineering and Construction PCL & Bombardier Transportation Signal (Thailand)
Expected Accumulated Goal: 100.00% (31 May 2024)
Expected Actual Goal: 41.68 %
Delayed planned goal by 58.32% (-58.32% progress)
Expected date to be done : Expected to be done at the End of 2024.
Still working on ereting LOC boxes, track circuit, erecting the traffic light signal poles and laying the cables.
https://www.facebook.com/lopburipaknampho/posts/850992873612781
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 46393
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 28/06/2024 4:36 pm    Post subject: Reply with quote

เปิดทริป 6 เส้นทางนั่งรถไฟเที่ยว ตลอดก.ค.-ส.ค. กระตุ้นเดินทางช่วง Green Season
Source - IQ สำนักข่าวอินโฟเควสท์
Friday, June 28, 2024 16:21

สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 มิ.ย. 67)

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และบริษัท บุญรอด เทรดดิ้ง จำกัด เปิดตัวกิจกรรม "สุขทันทีที่เที่ยวกับรถไฟไทย เดินทางครั้งนี้ไม่เหมือนเดิม" ชวนเปิดประสบการณ์ท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ด้วยการโดยสารรถไฟ ช่วงเดือนก.ค.-ส.ค. 67 นำร่อง 6 เส้นทางการท่องเที่ยว หวังช่วยผลักดันจำนวนนักท่องเที่ยวภาคกลางแตะ 103.07 ล้านคน-ครั้ง

นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลได้กำหนดนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยใช้ศักยภาพทางด้านระบบขนส่งสาธารณะ (Logistics) ของประเทศเป็นเครื่องมือกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวตลอดทั้งปี กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

ในครั้งนี้ ททท.ได้ร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และบริษัท บุญรอด เทรดดิ้ง จำกัด จัดกิจกรรมท่องเที่ยวทางรถไฟ "สุขทันทีที่เที่ยวกับรถไฟไทย เดินทางครั้งนี้ไม่เหมือนเดิม" นำร่องกิจกรรมในช่วงเดือนก.ค. 67 ด้วยการเดินทางเชื่อมโยงกรุงเทพฯ ไปยังจังหวัดในภาคกลางและภาคตะวันออก โดยรถไฟขบวน KIHA 183 ทุกสัปดาห์ จำนวน 4 เส้นทาง พร้อมแพ็กเกจท่องเที่ยว 2 วัน 1 คืน ราคา 3,999 บาทต่อท่าน ได้แก่

- เส้นทางที่ 1 กรุงเทพฯ-ราชบุรี วันที่ 6-7 ก.ค. 67

- เส้นทางที่ 2 กรุงเทพฯ-ประจวบคีรีขันธ์ วันที่ 13-14 ก.ค. 67

- เส้นทางที่ 3 กรุงเทพฯ-สุพรรณบุรี วันที่ 20-21 ก.ค. 67

- เส้นทางที่ 4 กรุงเทพฯ-ปราจีนบุรี วันที่ 27-28 ก.ค. 67

ทั้งนี้ เพื่อกระตุ้นบรรยากาศการท่องเที่ยวในประเทศให้คึกคักตลอดช่วง Green Season นอกจากนี้ ททท. ยังได้เพิ่มแรงส่งอย่างต่อเนื่องในเดือนส.ค. กับกิจกรรม "สิงหาแม่พาเที่ยว" นำเสนอ 2 เส้นทางท่องเที่ยวทางรถไฟ รูปแบบท่องเที่ยว One Day Trip ได้แก่

- เส้นทางที่ 1 แม่พาลูกเที่ยว ชวนนั่งรถจักรไอน้ำประวัติศาสตร์ กรุงเทพฯ-ฉะเชิงเทรา วันที่ 12 ส.ค. 67

- เส้นทางที่ 2 แม่ชวนลูกเที่ยว Royal Blossom รถไฟสายแห่งความสุข กรุงเทพฯ-กาญจนบุรี (ภาคกลาง) วันที่ 17 ส.ค. 67

นอกจากนี้ ทั้ง 6 เส้นทางนั้น ททท. ยังมุ่งออกแบบกิจกรรมท่องเที่ยวที่สะท้อนแนวคิดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และเส้นทางท่องเที่ยวที่นำเสนออัตลักษณ์ความเป็นไทย 5 สิ่งต้องห้ามพลาด (5 Must Do) ประกอบด้วย

Must Eat : อิ่มอร่อยกับอาหารถิ่น

Must See : ละลานตาวัฒนธรรม

Must Seek : แสวงหา unseen ถิ่นน่าเที่ยว

Must buy : หัตถกรรมล้ำค่าน่าซื้อฝาก

Must beat : สุดยอดกีฬาท้าทายกายใจ

ขณะเดียวกัน ได้เพิ่มอรรถรสระหว่างการเดินทาง โดยมัคคุเทศก์มืออาชีพบรรยายความรู้ และข้อมูลต่าง ๆ และเพิ่มความพิเศษให้แก่ช่วงเวลาแห่งความสุข ระหว่างการเดินทางในเส้นทางขบวนรถไฟ KIHA 183 ตลอดเดือนก.ค. 67 ด้วย อาทิ เส้นทางราชบุรี พบกับกิจกรรม Fashion Show ผ้าขาวม้าบนรถไฟ, เส้นทางสุพรรณบุรี พบกับการแสดงเพลงฉ่อยบนขบวนรถไฟ, เส้นทางประจวบคีรีขันธ์ พบกับการบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ด้วย Saxophone และเส้นทางปราจีนบุรี พบกับเคล็ดลับการสักการะท้าวเวสสุวัณ จากซินแสเป็นหนึ่ง

รวมทั้งยังพาแวะเยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยว Must See-Must Seek และทำกิจกรรมท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน อาทิ เส้นทางราชบุรี ชมการแสดงหนังใหญ่ ณ วัดขนอนหนังใหญ่ และตักบาตรพระล่องแพ ตลาดโอ๊ะป่อย, เส้นทางประจวบคีรีขันธ์ ศึกษาเส้นทางธรรมชาติป่าโกงกาง ทุ่งโปรงทอง และร่วมปลูกต้นจิกที่วนอุทยานปราณบุรีเพื่อเพิ่มพื้นทีสีเขียวริมชายหาด, เส้นทางสุพรรณบุรี สัมผัสอารยธรรมทวารวดี สักการะพระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ (หลวงพ่ออู่ทอง)

เส้นทางปราจีนบุรี กราบสักการะพระพุทธทวารวดีศรีปราจีน สิรินธรโลกนาถ เนื่องในวันมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา รัชกาลที่ 10, เส้นทางฉะเชิงเทรา ย้อนกลิ่นอายวันวาน นั่งรถไฟหัวรถจักรไอน้ำ กราบขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ล่องเรือชมธรรมชาติสองฝั่งแม่น้ำบางปะกง และเส้นทางกาญจนบุรี สร้างประสบการณ์สุดคลาสสิค ตามรอยประวัติศาสตร์ชมสะพานข้ามแม่น้ำแคว ถ้ำกระแซ สักการะพระโพธิสัตว์กวนอิม อวโลกิเตศวรพันมือองค์ใหญ่แกะสลักไม้ ด้วยรถไฟขบวน Royal Blossom เป็นต้น

ทั้งนี้ ททท. มั่นใจว่าการร่วมมือกับพันธมิตรในการจัดกิจกรรมท่องเที่ยวทางรถไฟดังกล่าว จะสามารถกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศตั้งแต่ช่วง Green Season ต่อเนื่องตลอดทั้งปี และจะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดการกระจายรายได้ไปสู่ชุมชนท้องถิ่น ทั้งเมืองท่องเที่ยวหลักและเมืองน่าเที่ยวทั่วประเทศอย่างทั่วถึง ช่วยผลักดันจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางท่องเที่ยวบรรลุเป้าหมาย ปี 67 สร้างรายได้ทางการท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาท โดยในเดือนม.ค.-เม.ย. 67 มีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนในประเทศแล้วกว่า 120 ล้านคน-ครั้ง และเกิดเป็นรายได้หมุนเวียนทางการท่องเที่ยวประมาณ 880,346 ล้านบาท ตลอดจนกิจกรรมนี้จะนำไปสู่การออกแบบสร้างสรรค์และนำเสนอเส้นทางท่องเที่ยวทางรถไฟในภูมิภาคอื่น ๆ ด้วย

"หวังว่าการเปิดประสบการณ์ท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ด้วยการโดยสารรถไฟ ช่วงเดือนก.ค.-ส.ค. 67 จะทำให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวรับความสุขตลอดทั้งปี และช่วยผลักดันจำนวนนักท่องเที่ยวภาคกลางแตะ 103.07 ล้านคน-ครั้ง และสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวรวม 3.5 ล้านล้านบาท ตามเป้าหมายปี 67" นายเสริมศักดิ์ ระบุ

โดย ปภัสสร องค์พิเชฐเมธา/รัชดา คงขุนเทียน

Tourism Authority of Thailand (TAT), in collaboration with the State Railway of Thailand (SRT) and Boonrawd Trading Co., Ltd., has launched a new tourism campaign, "Instant Happiness with Thai Trains: This Journey is Unlike Any Other." The campaign aims to promote train travel as a new and unique way to explore Thailand during the Green Season (July-August 2024).

Mr. Sermsak Pongpanich, Minister of Tourism and Sports, stated that the government's policy is to promote tourism by utilizing the country's public transportation system (Logistics) as a tool to stimulate travel throughout the year.

The campaign will initially feature 6 pilot routes, connecting Bangkok to various provinces in the central and eastern regions of Thailand. These routes will be serviced by KIHA 183 trains every week, offering 2-day, 1-night travel packages priced at 3,999 baht per person:

- Route 1: Bangkok-Ratchaburi (July 6-7, 2024)
- Route 2: Bangkok-Prachuap Khiri Khan (July 13-14, 2024)
- Route 3: Bangkok-Suphanburi (July 20-21, 2024)
- Route 4: Bangkok-Prachinburi (July 27-28, 2024)

In August, TAT will continue to boost tourism with the "August, Mom Takes You on a Trip" campaign, featuring 2 one-day train trips:

- Route 1: Mom Takes Kids on a Trip on a Historic Steam Train: Bangkok-Chachoengsao (August 12, 2024)
- Route 2: Mom Invites Kids on a Royal Blossom Train, the Train of Happiness: Bangkok-Kanchanaburi (August 17, 2024)

All 6 routes are designed to reflect the concept of sustainable tourism and showcase the unique identity of Thailand through 5 Must-Do activities:

- Must Eat: Enjoy local cuisine
- Must See: Experience the cultural landscape
- Must Seek: Discover unseen local attractions
- Must Buy: Purchase valuable local handicrafts
- Must Beat: Challenge yourself with exciting sports activities

TAT is confident that this collaboration with partners in organizing these train travel activities will stimulate domestic travel throughout the year. The campaign is expected to generate income distribution to local communities in both major tourist cities and emerging destinations across the country. The goal is to achieve 103.07 million domestic tourist trips and 3.5 trillion baht in tourism revenue in 2024.

https://www.infoquest.co.th/2024/409903

https://www.facebook.com/pr.railway/posts/882584867232839

https://online.fliphtml5.com/ctvfc/usod/#p=1
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 46393
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 30/06/2024 6:55 pm    Post subject: Reply with quote

รฟท.เตรียมขอกู้เงิน 1.8 หมื่นลบ.ในงบปี 68 หลังขาดสภาพคล่องหนัก
ข่าวเศรษฐกิจ Sunday June 30, 2024 18:07 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท.เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.67 ที่ผ่านมา มีมติอนุมัติให้ รฟท.กู้เงินเพื่อใช้ในการดำเนินงาน (กรณีรายได้ไม่เพียงพอสำหรับรายจ่าย) ของรฟท.ประจำปีงบประมาณ 2568 วงเงิน 18,000 ล้านบาท เนื่องจาก การจัดทำประมาณปี 2568 พบว่าจะขาดกระแสเงินสด และผลประกอบการไม่เพียงพอกับรายจ่าย จากประมาณการกระแสเงินสด ปีงบประมาณ 2568 คาดว่าจะมีเงินสดรับจำนวน 39,856.10 9 ล้านบาท เงินสดจ่ายจำนวน 57,956.109 ล้านบาท จึงมีความจำเป็นต้องกู้เงินเพื่อเสริมสภาพคล่อง โดย หลังจากนี้จะเสนอกระทรวงคมนาคม เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป

ทั้งนี้ ประมาณการปี 2568 คาดว่าจะมีรายรับรวมจำนวน 10,881.35 ล้านบาทประกอบด้วย รายได้การโดยสารจำนวน 3,351.90 ล้านบาท รายได้การสินค้าจำนวน 2,473.96 ล้านบาท รายได้จากการเดินรถไฟฟ้าสายสีแดง จำนวน 229.94 ล้านบาท รายได้จากการบริหารทรัพย์สิน จำนวน 3,794.93 ล้านบาท รายได้ค่าธรรมเนียมการดำเนินงาน ICD ที่ลาดกระบัง จำนวน 499.81 ล้านบาทรายได้จากการดำเนินงานอื่น จำนวน 530.78 ล้านบาท

ประมาณการค่าใช้จ่ายรวม 23,541.35 ล้านบาท ประกอบด้วย ค่าใช้จ่ายบำรุงทางอาณัติสัญญาณ และสิ่งปลูกสร้าง จำนวน 2,795.48 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายรถไฟฟ้าสายสีแดง จำนวน 1,290.31 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายบำรุงรักษารถจักร และล้อเลื่อน จำนวน 3,525.68 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายในการเดินรถขนส่ง จำนวน8,300.95 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายในการบริหาร จำนวน 1,662.93 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายบำเหน็จบำนาญ จำนวน 5,965.96 ล้านบาท และมีภาระในการชำระดอกเบี้ยและค่าใช้จ่ายเงินกู้ จำนวน 6,293.22 ล้านบาท


State Railway of Thailand prepares to borrow 18 billion baht in fiscal year 2025 due to severe liquidity shortage

Economic News, Sunday June 30, 2024 18:07 — InfoQuest News Agency (IQ) reports from the State Railway of Thailand (SRT) that the SRT board meeting on June 19, 2024 approved SRT to borrow 18 billion baht for operational expenses (in case of insufficient revenue for expenditures) for the fiscal year 2025. This is due to the 2025 budget projection showing a cash flow shortage and operating results insufficient to cover expenses.

The fiscal year 2025 cash flow forecast estimates cash receipts of 39,856.109 billion baht and cash payments of 57,956.109 billion baht, necessitating a loan to boost liquidity. This proposal will be submitted to the Ministry of Transport for further submission to the Cabinet.

The 2025 estimate projects total revenue of 10,881.35 million baht, including:
- Passenger revenue: 3,351.90 million baht
- Freight revenue: 2,473.96 million baht
- Red Line electric train revenue: 229.94 million baht
- Asset management revenue: 3,794.93 million baht
- ICD Lat Krabang operation fee revenue: 499.81 million baht
- Other operating revenue: 530.78 million baht

Estimated total expenses are 23,541.35 million baht, including:
- Track, signaling, and building maintenance: 2,795.48 million baht
- Red Line electric train expenses: 1,290.31 million baht
- Locomotive and rolling stock maintenance: 3,525.68 million baht
- Transportation operating expenses: 8,300.95 million baht
- Administrative expenses: 1,662.93 million baht
- Pension expenses: 5,965.96 million baht

There is also a burden of interest payments and loan expenses amounting to 6,293.22 million baht.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43432
Location: NECTEC

PostPosted: 01/07/2024 3:25 am    Post subject: Reply with quote

🎥ส่งตรงจากจีน ตามมาดูวิศวกรรมระบบราง@SPU เรียนอะไรบ้าง มันว้าวขนาดไหน
โปรด👀แบบเต็มจอเพื่อความฟิน
https://www.facebook.com/chawalit.manisri/videos/819530470264279/
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43432
Location: NECTEC

PostPosted: 01/07/2024 5:52 pm    Post subject: Reply with quote

จับตาวันนี้! ประกาศ 2 ชื่อ แสดงวิสัยทัศน์ชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯ รฟท. กก.สรรหาฯ ลุยไฟดันตัวเต็ง ฝ่าปมคุณสมบัติส่อขัด กม.
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันจันทร์ ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 เวลา 00:53 น.
ปรับปรุง: วันจันทร์ ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 เวลา 07:30 น.

สรรหาผู้ว่าฯ รฟท.เริ่มเดือด สะพัด “เมฆินทร์” สละสิทธิ์ จับตาวันนี้ประธานสรรหาฯ ลุยไฟดันตัวเต็ง
เตรียมประกาศ 2 ชื่อผ่านเตรียมแสดงวิสัยทัศน์ "อวิรุทธ์" คนใน และ "วีริศ" ฝ่าปมขัดคุณสมบัติ เปิดแนวทางวินิจฉัยกฤษฎีกาส่อผิดกฎหมาย เปิดอีกกรณี การบินไทยยื้อสรรหารอ "ปิยะสวัสดิ์" พ้นตำแหน่งเก่า 3 ปี เหตุมีผลประโยชนทับซ้อน

รายงานข่าวแจ้งว่า จากที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้เปิดรับสมัครบุคคลเพื่อคัดเลือกเข้าดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ รฟท.และมีผู้ยื่นสมัครจำนวน 4 รายนั้น ต่อมาได้มีผู้สมัคร 2 รายขอสละสิทธิ์ในการเข้าร่วมคัดเลือกฯ ได้แก่ 1. นายเมฆินทร์ เพ็ชรพลาย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วอยซ์ทีวี จำกัด 2. นายอภิชัย นิมจิรวัฒน์ กรรมการ บริษัท แอ็ดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) (AIT) ทำให้เหลือผู้สมัครอีก 2 ราย คือ นายอวิรุทธ์ ทองเนตร รองผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และ นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ที่เข้าสู่ขั้นตอนการพิจารณาคุณสมบัติ

โดยเมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 2567 คณะกรรมการสรรหาฯ ผู้ว่าฯ รฟท.ที่มี นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) ในฐานะกรรมการ (บอร์ด) รฟท.เป็นประธาน ได้มีการประชุมและสรุปว่าทั้งนายอวิรุทธ์ ทองเนตร และนายวีริศ อัมระปาล ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติ โดยคาดว่านายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย ประธานคณะกรรมการสรรหาฯ จะลงนามประกาศชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติในวันนี้ (1 ก.ค. 67) และกำหนดการแสดงวิสัยทัศน์และแนวคิดในการบริหารการพัฒนากิจการรถไฟต่อไปตามขั้นตอน โดยคณะกรรมการสรรหาฯ จะประเมินผล และให้คะแนน จากนั้นจะสรุปผลการสรรหาเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท. ที่มีนายจิรุตม์ วิศาลจิตร เป็นประธานต่อไป

รายงานข่าวแจ้งว่า ตามกำหนดการเดิมจะพิจารณาคุณสมบัติ และให้ผู้ผ่านคุณสมบัติเข้าแสดงวิสัยทัศน์และแนวคิดในการบริหารการพัฒนากิจการรถไฟในวันที่ ‪28 มิ.ย. 2567 เพื่อ‬จะสรุปผลการสรรหาฯ ได้ในเดือน มิ.ย. 2567 แต่ก็ต้องมีความล่าช้าออกไป เนื่องจากมีประเด็นเกี่ยวกับคุณสมบัติของผู้สมัครบางรายโดยเฉพาะ นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าฯ กนอ. ซึ่งเป็นตัวเต็งเพราะสายสัมพันธ์แนบแน่นกับ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เมื่อครั้งเป็น รมว.อุตสาหกรรม

เนื่องจาก กนอ.มีสัญญาเช่าที่ดินการรถไฟฯ ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะเวลาเช่า 30 ปี (ตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค. 2565 ถึงวันที่ ‪14 ต.ค. 2595‬) โดยนายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าฯ กนอ. เป็นผู้ลงนามสัญญาดังกล่าว ซึ่งส่อขัดคุณสมบัติ รวมถึงนายอภิชัย นิมจิรวัฒน์ เป็นผู้บริหารบริษัท ที่มีสัญญากับ รฟท.เช่นกัน



โดยตามประกาศคุณสมบัติ ข้อ 3.1.11 ไม่เป็นหรือภายในระยะเวลา 3 ปีก่อนวันได้รับแต่งตั้ง ไม่เคยเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร หรือผู้มีอำนาจในการจัดการหรือมีส่วนได้ส่วนเสียในนิติบุคคล ซึ่งเป็นผู้รับสัมปทาน ผู้ร่วมทุน หรือมีประโยชน์ได้เสียเกี่ยวข้องกับกิจการการรถไฟฯ เว้นแต่การเป็นประธานกรรมการหรือกรรมการในนิติบุคคลดังกล่าวโดยการมอบหมายของการรถไฟฯ
ข้อ 3.1.12 ไม่ประกอบกิจการอันมีสภาพอย่างเดียวกันและเป็นการแข่งขันกับกิจการของการรถไฟฯ หรือเข้าเป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือเป็นหุ้นส่วนไม่จำกัดความรับผิดในห้างหุ้นส่วนจำกัด หรือเป็นผู้ถือหุ้น หรือเป็นกรรมการของบริษัทจำกัด หรือบริษัทมหาชนจำกัดที่ประกอบกิจการอันมีสภาพเดียวกัน และเป็นการแข่งขันกับกิจการการรถไฟฯ ไม่ว่าจะทำเพื่อประโยชน์ของตนหรือประโยชน์ผู้อื่น หรือมีส่วนได้ส่วนเสียกับสัญญากับการรถไฟฯ หรือในกิจการที่กระทำให้แก่การรถไฟฯ ไม่ว่าทางตรงหรือโดยทางอ้อมฯ

เรื่องนี้ มีกรณีตัวอย่างและสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) มีสรุปแนวทางวินิจฉัยของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา กรณีมาตรา 8 ตรี (12) และมาตรา 5 (10) แห่ง พ.ร.บ.คุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ พ.ศ.2518 และที่แก้ไขเพิ่มเติม กรณีการตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัครเข้ารับการคัดเลือกเพื่อดำรงตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำหกัด (มหาชน) หรือทอท. ซึ่งผู้สมัครเคยดำรงตำแหน่งกรรมการบริหาร และเคยรักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ซึ่งในช่วงที่ดำรงตำแหน่งดังกล่าวได้มีการทำสัญญาเช่ารถตู้โดยสารยูโรทูกับ ทอท.เพื่อเป็นรถเวียนในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิสำหรับให้บริการแก่ผู้โดยสารและผู้ปฎิบัติงาน จึงเป็นกรณีที่ ขสมก.มีประโยชน์ได้เสียเกี่ยวข้องกับกิจการหลัก ทอท.

นอกจากนี้ ยังเคยมีอีกกรณีช่วงปี 2552 ที่บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ไม่สามารถลงนามสัญญาว่าจ้าง นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ เป็นกรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัทได้ เนื่องจากมีการร้องเรียนไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่า นายปิยสวัสดิ์ เคยเป็นกรรมการ บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบาฟส์ และลาออกจากกรรมการบาฟส์เพื่อสมัครรับการสรรหาดีดีการบินไทยยังไม่ถึง 3 ปี ทำให้มีปัญหาคุณสมบัติที่กำหนดว่าต้องพ้นจากตำแหน่งอย่างน้อย 3 ปี



แหล่งข่าวจากกรรมการสรรหาฯ ระบุว่า ฝ่ายเลขาฯ คณะกรรมการสรรหาผู้ว่าฯรฟท.ไม่มีการระบุเรื่องคุณสมบัติผู้สมัครมีปัญหาแต่อย่างใด จึงจะมีการประกาศว่าผู้สมัครที่เหลืออีก 2 รายผ่านเกณฑ์และจะเข้าสู่ขั้นตอนการแสดงวิสัยทัศน์ต่อไป ทั้งนี้ ยืนยันว่า ประกาศสรรหากำหนดุณสมบัติตามประกาศ คนร. เบื้องต้น ประกาศไม่ได้ห้ามเรื่องมีสัญญาร่วมกับการรถไฟฯ จึงเห็นว่าไม่น่าอยู่ในคุณสมบัติที่ต้องตัดสิทธิ์

รฟท.ประกาศชื่อ"อวิรุทธ์-วีริศ" แคนนิเดต ชิงดำเก้าอี้ผู้ว่าฯรฟท. พร้อมสงวนสิทธิ์ ยกเลิกหาก พบขาดคุณสมบัติ-ปกปิดข้อมูล
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันจันทร์ ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 เวลา 14:59 น.
ปรับปรุง: วันจันทร์ ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 เวลา 14:59 น.

รฟท.ประกาศ "อวิรุทธ์-วีริศ" 2 แคนนิเดต ผ่านคุณสมบัติชิงดำเก้าอี้ผู้ว่าฯรฟท. แต่ยังไม่กำหนดวันแสดงวิสัยทัศน์ พร้อมระบุหากไม่เข้าแสดงวิสัยทัศน์ถือว่า สละสิทธิ์ หรือพบขาดคุณสมบัติไม่ตรงตามที่ได้รับรองไว้หรือแจ้งข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิด อาจถูกตัดสิทธิ หรือถูกเลิกสัญญาจ้างได้

รายงานข่าวการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) แจ้งว่า วันนี้ (1 ก.ค.) นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) ในฐานะประธานกรรมการสรรหาผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ลงนามในประกาศคณะกรรมการสรรหาผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย
ฉบับที่ 2/2567 แจ้งรายชื่อผู้เข้ารับการสัมภาษณ์และแสดงวิสัยทัศน์เพื่อคัดเลือกเข้าดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯรฟท. จำนวน 2 คน คือ หมายเลข 1. นายอวิรุทธ์ ทองเนตร และ หมายเลข 2. นายวีริศ อัมระปาล ทั้งนี้ กำหนดวัน เวลา และสถานที่เพื่อเข้ารับการสัมภาษณ์และแสดงวิสัยทัศน์ คณะกรรมการ สรรหาผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทยจะแจ้งให้ทราบโดยตรงต่อไป



ในประกาศ ได้ระบุอีกว่า ผู้ที่ไม่เข้ารับการสัมภาษณ์และแสดงวิสัยทัศน์ เพื่อคัดเลือกเข้าดำรงตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟฯ ตามวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าว จะถือว่าสละสิทธิ์ก่อนการสรรหาฯ เสร็จสิ้น หรือภายหลังที่ผู้สมัครได้รับการสรรหาเป็นผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย หากปรากฎว่าผู้สมัคร หรือผู้ได้รับการสรรหาเป็นผู้ว่าการรถไฟฯ แล้วแต่กรณี ขาดคุณสมบัติไม่ตรงตามที่ได้รับรองไว้หรือแจ้งข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงซึ่งแจ้งให้ทราบ คณะกรรมการสรรหาฯ อาจตัดสิทธิบุคคล
ดังกล่าวออกจากการสรรหาเป็นผู้ว่าการรรถไฟฯ หรือ การรถไฟฯ อาจบอกเลิกสัญญาจ้างและดำเนินคดีทั้งทางแพ่ง
และอาญา โดยบุคคลดังกล่าว ไม่อาจเรียกร้องค่าเสียหายหรือค่าชดเชยใด ๆ จากคณะกรรมการสรรหาผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ทั้งสิ้น ทั้งนี้ ผู้สมัครหรือผู้ได้รับการสรรหาเป็นผู้ว่าการรถไฟฯจะต้องยอมรับผลการพิจารณาของคณะกรรมการสรรหาฯ หรือคณะกรรมการรถไฟฯ แล้วแต่กรณี และคำวินิจฉัยนั้นถือว่าเป็นที่สุด

อนึ่ง คณะกรรมการสรรหาผู้ว่าการรถไฟฯ สงวนสิทธิ์ที่จะพิจารณาคัดเลือกเฉพาะ ผู้ที่มี
คุณสมบัติถูกต้องและเหมาะสมตามที่เห็นสมควรเท่านั้น เพื่อเสนอคณะกรรมการรถไฟฯ พิจารณาและผู้สมัครต้องยอมรับในผลการตัดสินของคณะกรรมการสรรหาฯ โดยถือว่าเป็นที่สิ้นสุด

โดยจากที่ฟท.เปิดรับสมัครบุคคลเพื่อคัดเลือกเข้าดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ รฟท. และมีผู้ยื่นสมัครจำนวน 4 รายนั้น โดยมีผู้สมัคร 2 ราย ขอสละสิทธิ์ในการเข้าร่วมคัดเลือกฯ ได้แก่ 1. นายเมฆินทร์ เพ็ชรพลาย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วอยซ์ทีวี จำกัด 2.นายอภิชัย นิมจิรวัฒน์ กรรมการ บริษัท แอ็ดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) (AIT) ทำให้เหลือ เข้าพิจารณาคุณสมบัติ 2 ราย คือ นายอวิรุทธ์ ทองเนตร รองผู้ว่าฯรฟท. และ หมายเลข 2. นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ท่ามกลางกระแสข่าว นายวีริศ อัมระปาล ซึ่ง เป็นตัวเต็งมีประเด็นคุณสมบัติอาจมีปัญหา กรณีกนอ.มีสัญญาร่วมกับ รฟท. ที่ขัดกับ ประกาศรับสมัครคุณสมบัติ ข้อ 3.1.11 และ ข้อ 3.1.12
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43432
Location: NECTEC

PostPosted: 01/07/2024 5:56 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
รฟท.เตรียมขอกู้เงิน 1.8 หมื่นลบ.ในงบปี 68 หลังขาดสภาพคล่องหนัก
ข่าวเศรษฐกิจ
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)
วันอาทิตย์ ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2567 เวลา 18:07 น.


บอร์ดรฟท.ไฟเขียวชงครม.ขอกู้ 1.8 หมื่นล้านบาทเสริมสภาพคล่องปี 68 หวั่นเงินขาดมือกระทบบริการ
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันอาทิตย์ ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2567 เวลา 15:10 น.
ปรับปรุง: วันอาทิตย์ ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2567 เวลา 15:10 น.

รฟท.ยังวิกฤติ บอร์ดรฟท.เห็นชอบกู้เงิน 1.8 หมื่นล้านเสริมสภาพคล่องปี 2568 หลังคาดการณ์รายรับ ต่ำกว่ารายจ่าย หวั่นขาดกระแสเงินสดกระทบบริการ เร่งเสนอคมนาคม ชงครม.แผนเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย ยังทำไม่ได้ตามเป้าหมาย

รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท.เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. 2567 ที่ผ่านมา มีมติอนุมัติให้ รฟท.กู้เงินเพื่อใช้ในการดำเนินงาน (กรณีรายได้ไม่เพียงพอสำหรับรายจ่าย) ของ รฟท.ประจำปีงบประมาณ 2568 วงเงิน 18,000 ล้านบาท เนื่องจาก การจัดทำประมาณปี 2568 พบว่าจะขาดกระแสเงินสด และผลประกอบการไม่เพียงพอกับรายจ่าย จากประมาณการกระแสเงินสด ปีงบประมาณ 2568 คาดว่าจะมีเงินสดรับจำนวน 39,856.10 9 ล้านบาท เงินสดจ่ายจำนวน 57,956.109 ล้านบาท จึงมีความจำเป็นต้องกู้เงินเพื่อเสริมสภาพคล่อง โดย หลังจากนี้จะเสนอกระทรวงคมนาคม เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป


ทั้งนี้ประมาณการปี 2568 คาดว่าจะมีรายรับรวมจำนวน 10,881.35 ล้านบาท ประกอบด้วย รายได้การโดยสารจำนวน 3,351.90 ล้านบาท รายได้การสินค้า จำนวน 2,473.96 ล้านบาท รายได้จากการเดินรถไฟฟ้าสายสีแดง จำนวน 229.94 ล้านบาท รายได้จากการบริหารทรัพย์สิน จำนวน 3,794.93 ล้านบาท รายได้ค่าธรรมเนียมการดำเนินงาน ICD ที่ลาดกระบัง จำนวน 499.81 ล้านบาท รายได้จากการดำเนินงานอื่น จำนวน 530.78 ล้านบาท

ประมาณการค่าใช้จ่ายรวม 23,541.35 ล้านบาท ประกอบด้วย ค่าใช้จ่ายบำรุงทางอาณัติสัญญาณ และสิ่งปลูกสร้าง จำนวน 2,795.48 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายรถไฟฟ้าสายสีแดง จำนวน 1,290.31 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายบำรุงรักษารถจักร และล้อเลื่อน จำนวน 3,525.68 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายในการเดินรถขนส่ง จำนวน 8,300.95 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายในการบริหาร จำนวน 1,662.93 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายบำเหน็จบำนาญ จำนวน 5,965.96 ล้านบาท และมีภาระในการชำระดอกเบี้ยและค่าใช้จ่ายเงินกู้ จำนวน 6,293.22 ล้านบาท

ซึ่งทาง สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) กระทรวงการคลัง จะให้ความเห็นต่อ ครม.พิจารณา โดยให้กระทรวงการคลังค้ำประกันการกู้เงิน รวมทั้ง พิจารณาจัดหาแหล่งเงินกู้ วิธีการกู้เงิน เงื่อนไข และรายละเอียดตามความเหมาะสม พร้อมทั้งขอยกเว้นการคิดค่าธรรมเนียมการค้ำประกันเงินกู้ให้แก่การรถไฟฯ ต่อไป ซึ่งปัจจุบัน รฟท.มีภาระหนี้สินสะสมประมาณ 200,000 ล้านบาท

รายงานข่าวระบุว่า แม้รายได้ด้านขนส่งผู้โดยสาร ทั้งเส้นทางปกติและเส้นทางท่องเที่ยวจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แต่ยังไม่มากนัก เนื่องจากรถไฟยังมีปัญหา รถจักรและรถโดยสารมีจำนวนไม่เพียงพอต่อความต้องการ ประกอบกับต้นทุนค่าใช้จ่าย ทั้งต้นทุนเชื้อเพลิงและต้นทุนในด้านการให้บริการ การซ่อมบำรุงเส้นทางและขบวนรถต่างๆยังสูง เพราะรถส่วนใหญ่มีสภาพเก่า
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43432
Location: NECTEC

PostPosted: 03/07/2024 10:33 am    Post subject: Reply with quote

รฟม. ร่วมกับ Mahidolrail จัดงานสัมมนาวิชาการและถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านระบบราง ในวันที่ 9 กรกฏาคม 2567 นี้!!! ณ ศูนย์การเรียนรู้ รฟม.

ผู้ที่สนใจอุตสาหกรรมราง และผู้ที่ต้องการ Upskill/ Reskill เข้าสู่อุตสาหกรรมรางห้ามพลาด!!!
ข้อมูลรายละเอียด กำหนดการ สามารถลงทะเบียนได้ตามนี้ครับ
https://forms.gle/87egWSbJxob5x3HN7
https://www.facebook.com/Thailand.Infra/posts/806163224992600/
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43432
Location: NECTEC

PostPosted: 03/07/2024 12:19 pm    Post subject: Reply with quote

“ดร.มนพร” ผลักดันท่าเรือบก Dry Port พร้อมให้เกิดแน่ ! เพื่อลดต้นทุนการขนส่งเชื่อมโยงบก – ราง – น้ำ
ดร.มนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า รัฐบาลได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการขับเคลื่อนการพัฒนาท่าเรือบก (Dry Port) ให้เกิดเป็นรูปธรรม เพื่อลดต้นทุนการขนส่งสินค้าและเชื่อมโยงโครงข่ายการขนส่งสินค้าของประเทศให้มีประสิทธิภาพ การพัฒนา Dry Port จึงเป็นหนึ่งในการดำเนินโครงการสำคัญของกระทรวงคมนาคมที่จะช่วยส่งเสริมโครงข่ายการเชื่อมโยงสินค้าและระบบโลจิสติกส์ ทั้งภายในและระหว่างประเทศให้ใช้การขนส่งทางรางและทางน้ำเป็นหลัก เนื่องจากเป็นระบบการขนส่งที่มี
ความปลอดภัย ต้นทุนต่ำกว่าการขนส่งทางถนน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
จากการศึกษาเบื้องต้นพบว่า จังหวัดนครราชสีมา เป็น 1 ใน 4 จังหวัดที่มีความเหมาะสมที่สุดในการพัฒนา Dry Port เพื่อยกระดับการขนส่งสินค้าในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตามนโยบายส่งเสริมการลงทุนและระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือของรัฐบาล เนื่องจากมีความพร้อมด้านการเป็นศูนย์กลางของภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างที่เชื่อมต่อกับ สปป.ลาว ตอนใต้ และเมียนมา และยังมีศักยภาพที่จะสามารถเชื่อมโยงการขนส่งไปยังประเทศจีนได้ในอนาคต นอกจากนี้ พื้นที่ยังครอบคลุมการขนส่งทั้งทางถนนและทางราง โดยอยู่ห่างจากท่าเรือแหลมบัง 320 กิโลเมตร ประกอบกับมีจุดแข็งที่สำคัญ คือ มีสินค้าส่งออกที่สำคัญทั้งสินค้าทางการเกษตร อาทิ แป้งมันสำปะหลัง ข้าว น้ำตาล และยังเป็นพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมที่เน้นการขนส่งภายในประเทศด้วย
ดร.มนพร กล่าวต่อว่า ได้มอบให้ กทท. เร่งสำรวจพื้นที่ภายในจังหวัดนครราชสีมาที่มีความเหมาะสมกับการพัฒนา Dry Port และผลักดันให้เกิดเป็นรูปธรรม เพื่อช่วยสนับสนุนการขนส่งหลายรูปแบบอย่างไร้รอยต่อ (Seamless Transport) ที่จะช่วยลดปัญหาความแออัดจากการขนส่งสินค้าเข้า – ออก ที่ท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งเป็นเส้นทางขนส่งหลักของประเทศในขณะนี้ ช่วยยกระดับการให้บริการให้สะดวกรวดเร็ว ลดระยะเวลาการรอคอย ลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ของประเทศ รองรับการเติบโตด้านการขนส่งสินค้าผ่านทางเรือชายฝั่งและทางรถไฟที่จะเกิดขึ้นจากโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 สร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศโดยรวม อันจะเป็นกลไกที่จะช่วยผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์ของภูมิภาคต่อไป
นายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการสำรวจพื้นที่โครงการพัฒนาพื้นที่ท่าเรือบก Dry Port บริเวณสถานีรถไฟบ้านกระโดน ตำบลหนองไข่น้ำ อำเภอเมือง และบริเวณตำบลกุดจิก อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา และการประชุมศึกษาแผนการดำเนินการความเป็นไปได้ของรูปแบบการลงทุนที่เหมาะสม ร่วมกับสถาบันชุณหะวัณเพื่อการพัฒนาธุรกิจเอสเอ็มอี อย่างยั่งยืน มหาวิทยาลัยราชมงคลอีสาน ในฐานะผู้จัดการโครงการพัฒนาท่าเรือบกในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น และคณะที่ปรึกษาโครงการฯ พบว่า มีความเป็นไปได้ของรูปแบบการลงทุนที่เหมาะสมกับ กทท. ในการพัฒนา Dry Port 4 แนวทาง ได้แก่ รูปแบบพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 (PPP) รูปแบบการลงทุนร่วมกับบริษัทเอกชน (Joint Venture) รูปแบบการใช้เงินลงทุนของ กทท. และรูปแบบอื่น ๆ แผนการลงทุน และการป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นของโครงการฯ ที่อาจจะเกิดขึ้นในทุกมิติ โดยจะพิจารณาด้านความพร้อมในการดำเนินโครงการฯ เพื่อให้เกิดเป็นรูปธรรมต่อไป
https://www.facebook.com/sod.mot/posts/875103257993370


“มนพร” สั่งลุยแจ้งเกิด “ท่าเรือบก” @นครราชสีมา ลดแออัด “แหลมฉบัง”
นวัตกรรมขนส่ง
วันพุธ ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 เวลา 12:26 น.

“มนพร” สั่ง กทท. ลุยแจ้งเกิด “ท่าเรือบก” @นครราชสีมา หนุนการขนส่งแบบไร้รอยต่อ ลดแออัดขนส่งสินค้าที่ท่าเรือแหลมฉบัง ลดต้นทุนโลจิสติกส์ประเทศ ชี้เป็นพื้นที่ที่เหมาะสม ครอบคลุมขนส่งทั้งทางถนน-ราง ห่างจากแหลมฉบัง 320 กม.


นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้มอบให้การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เร่งสำรวจพื้นที่ภายในจังหวัดนครราชสีมาที่มีความเหมาะสมกับการพัฒนาท่าเรือบก (Dry Port) และผลักดันให้เกิดเป็นรูปธรรมเพื่อช่วยสนับสนุนการขนส่งหลายรูปแบบอย่างไร้รอยต่อ (Seamless Transport) ที่จะช่วยลดปัญหาความแออัดจากการขนส่งสินค้าเข้า-ออก ที่ท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งเป็นเส้นทางขนส่งหลักของประเทศในขณะนี้ ช่วยยกระดับการให้บริการให้สะดวกรวดเร็ว ลดระยะเวลาการรอคอย ลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ของประเทศ รองรับการเติบโตด้านการขนส่งสินค้าผ่านทางเรือชายฝั่ง และทางรถไฟที่จะเกิดขึ้นจากโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 สร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศโดยรวม อันจะเป็นกลไกที่จะช่วยผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์ของภูมิภาคต่อไป

นางมนพร กล่าวต่อว่า จากการศึกษาเบื้องต้นพบว่า จังหวัดนครราชสีมา เป็น 1 ใน 4 จังหวัด ที่มีความเหมาะสมที่สุดในการพัฒนา Dry Port เพื่อยกระดับการขนส่งสินค้าในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตามนโยบายส่งเสริมการลงทุนและระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือของรัฐบาล เนื่องจากมีความพร้อมด้านการเป็นศูนย์กลางของภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างที่เชื่อมต่อกับ สปป.ลาว ตอนใต้ และเมียนมา และยังมีศักยภาพที่จะสามารถเชื่อมโยงการขนส่งไปยังประเทศจีนได้ในอนาคต นอกจากนี้ พื้นที่ยังครอบคลุมการขนส่งทั้งทางถนน และทางราง โดยอยู่ห่างจากท่าเรือแหลมบัง 320 กิโลเมตร (กม.) ประกอบกับมีจุดแข็งที่สำคัญคือ มีสินค้าส่งออกที่สำคัญทั้งสินค้าทางการเกษตร อาทิ แป้งมันสำปะหลัง ข้าว น้ำตาล และยังเป็นพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมที่เน้นการขนส่งภายในประเทศด้วย 


ด้านนายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการ กทท. กล่าวว่า จากการสำรวจพื้นที่โครงการพัฒนาพื้นที่ Dry Port บริเวณสถานีรถไฟบ้านกระโดน ตำบลหนองไข่น้ำ อำเภอเมือง และบริเวณตำบลกุดจิก อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา รวมถึงการประชุมศึกษาแผนการดำเนินการความเป็นไปได้ของรูปแบบการลงทุนที่เหมาะสม ร่วมกับสถาบันชุณหะวัณ เพื่อการพัฒนาธุรกิจเอสเอ็มอีอย่างยั่งยืน มหาวิทยาลัยราชมงคลอีสาน ในฐานะผู้จัดการโครงการพัฒนาท่าเรือบกในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น และคณะที่ปรึกษาโครงการฯ พบว่า มีความเป็นไปได้ของรูปแบบการลงทุนที่เหมาะสมกับ กทท. ในการพัฒนา Dry Port 4 แนวทาง


ได้แก่ รูปแบบพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 (PPP) รูปแบบการลงทุนร่วมกับบริษัทเอกชน (Joint Venture) รูปแบบการใช้เงินลงทุนของ กทท. และรูปแบบอื่น ๆ แผนการลงทุน และการป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นของโครงการฯ ที่อาจจะเกิดขึ้นในทุกมิติ โดยจะพิจารณาด้านความพร้อมในการดำเนินโครงการฯ เพื่อให้เกิดเป็นรูปธรรมต่อไป.
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 46393
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 05/07/2024 11:05 am    Post subject: Reply with quote

รฟท. ร่วมกับบริษัทเซี่ยงไฮ้ ไทย รับเบอร์ โปรดักส์ จำกัด ตรวจสอบโครงการก่อสร้างสถานีขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ระบบราง และสถานที่ก่อสร้างท่าเรือบก
Source - สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์
Friday, July 05, 2024 10:25

นางกนกวรรณ สุวรรณกษิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายกองบริการสินค้า การรถไฟแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยนายยงยุทธ คงสวัสดิ์ กรรมการผู้มีอำนาจลงนามบริษัทเซี่ยงไฮ้ ไทยรับเบอร์ โปรดักส์ จำกัดและเจ้าหน้าที่การรถไฟแห่งประเทศไทย ลงพื้นที่บริเวณสถานีบ้านวังเย็น อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เพื่อตรวจสอบพื้นที่ก่อสร้างสถานีขนส่งสินค้าระบบราง และสถานที่ก่อสร้างท่าเรือบก เพื่อเป็นคลังสินค้าก่อนนำเข้าและออกไปยังประเทศต่างๆ ได้แก่ เมียนมา - เวียดนาม- ลาว-จีน- มาเลย์ และประเทศสิงคโปร์

นางกนกวรรณฯ กล่าวว่า โครงการก่อสร้างสถานีขนส่งสินค้าฯ แห่งนี้ เป็นการทำความตกลง ความร่วมมือกันระหว่าง การรถไฟแห่งประเทศไทย กับ บริษัท เซี่ยงไฮ้ ไทยรับเบอร์ โปรดักส์ จำกัด จากการลงพื้นที่ตรวจสอบครั้งนี้ คาดว่าปลายปี 2567 จะเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ ซึ่งเมื่อแล้วเสร็จจะทำให้การรถไฟแห่งประเทศไทยมีรายได้จากค่าขนส่งสินค้า และทำให้เศรษฐกิจในพื้นที่เติบโตมากขึ้น ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้น

ข่าว ณัฏฐภัส เหลืองพฤกษชาติ


SRT Collaborates with Shanghai Thai Rubber Products Co., Ltd. to Inspect International Rail Freight Station and Inland Port Construction Projects
Source - Public Relations Department News Agency
Friday, July 05, 2024, 10:25

Mrs. Kanokwan Suwannakasit, Director of the Cargo Service Department, State Railway of Thailand (SRT), along with Mr. Yongyuth Kongsawat, Authorized Director of Shanghai Thai Rubber Products Co., Ltd., and officials from the State Railway of Thailand, inspected the area at Ban Wang Yen Station, Mueang District, Kanchanaburi Province, to review the construction site for the rail freight station and inland port. These facilities will serve as warehouses for goods before import and export to various countries including Myanmar, Vietnam, Laos, China, Malaysia, and Singapore.

Mrs. Kanokwan stated that the construction of this rail freight station is a collaborative agreement between the State Railway of Thailand and Shanghai Thai Rubber Products Co., Ltd. From this site inspection, it is expected that construction will commence by the end of 2024. Upon completion, this project will generate revenue for the State Railway of Thailand from freight transportation fees and will stimulate economic growth in the area, leading to increased income for the local population.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 480, 481, 482 ... 484, 485, 486  Next
Page 481 of 486

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©