Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311779
ทั่วไป:13496181
ทั้งหมด:13807960
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม(บางซื่อ-รังสิต และ บางซื่อ-หัวลำโพง)
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าวรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม(บางซื่อ-รังสิต และ บางซื่อ-หัวลำโพง)
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 151, 152, 153, 154  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43432
Location: NECTEC

PostPosted: 28/05/2024 10:55 am    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
บอร์ด รฟท. ตีกลับ “ต่อขยายสายสีแดง” Missing Link 4.4 หมื่นล้าน
ฐานเศรษฐกิจ
วันจันทร์ ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 เวลา 07:00 น.


รฟท.ยัน สีแดง Missing Link “บางซื่อ-มักกะสัน”ไม่กระทบไฮสปีด3 สนามบิน เคลียร์ปรับแบบย้ายสถานีรามาธิบดี งบเพิ่ม 416 ล้านบาท
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันจันทร์ ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 เวลา 11:22 น.
ปรับปรุง: วันจันทร์ ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 เวลา 11:22 น.


บอร์ดรฟท.สั่งทบทวนสายสีแดง Missing Link ช่วงบางซื่อ-หัวหมาก และ ช่วง บางซื่อ-หัวลำโพง ให้ชัดเจน เคลียร์ปรับแบบ ย้ายตำแหน่งสถานีราชวิถี เปลี่ยนชื่อเป็นสถานีรามาธิบดี วงเงินเพิ่ม 416 ล้านบาท ยันไม่กระทบกับไฮสปีด3 สนามบิน เผยค่าแรง ค่าวัสดุ ทำค่าก่อสร้างโยธารวมเพิ่มจาก 2.4 หมื่นล้านบาท เป็น 3.5 หมื่นล้านบาท

นายอนันต์ โพธิ์นิ่มแดง รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท. ที่มีนายจิรุตม์ วิศาลจิตร เป็นประธาน เมื่อวันที่ 23 พ.ค. 2567 ได้มีการพิจารณาการปรับกรอบวงเงินโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดงอ่อน (Missing Link) ช่วงบางซื่อ-พญาไท-มักกะสัน-หัวหมาก และสีแดงเข้ม ช่วง บางซื่อ-หัวลำโพง ระยะทาง 25.9 กม. ขึ้นอีกประมาณ 400 ล้านบาท จากมติครม.เดิมเมื่อปี 2559 ที่เห็นชอบวงเงิน 44,157.76 ล้านบาท เนื่องจากการปรับแบบสถานีราชวิถี และย้ายตำแหน่งสถานีใหม่ เพื่อให้ผู้โดยสารเดินเชื่อมเข้าสู่อาคารโรงพยาบาลรามาธิบดีได้สะดวก แต่บอร์ดยังไม่อนุมัติ โดยให้กลับไปทบทวนรายละเอียดและกลับมาเสนอบอร์ดอีกครั้งในการประชุมครั้งต่อไปในเดือน มิ.ย. 2567 ก่อนเสนอครม.พิจารณาปรับกรอบวงเงินใหม่ต่อไป

โดยบอร์ดรฟท.มีข้อสังเกตุ เช่น กรณีการขยับตำแน่งสถานีราชวิถี เช่น วัตถุประสงค์เพื่ออะไร มีใครได้ประโยชน์บ้าง มีใครได้รับผลกระทบบ้าง รวมไปถึงผลกระทบต่อโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน(ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ที่มีเส้นทางในแนวเดียวกันบางช่วง ต้องมีการประสานเพื่อยืนยันให้เรียบร้อยตรงกัน เพราะพื้นที่บริเวณดังกล่าวมีจำกัด

@ยันไม่กระทบ”ไฮสปีด 3 สนามบิน”ผู้โดยสารคนละกลุ่ม

ผู้สื่อข่าวถามว่า ประเด็นที่เส้นทางสายสีแดงอ่อนมีการทับซ้อนกับไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบินในบางช่วง นั้น ทาง บริษัท เอเชีย เอรา วัน จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ ซีพี. ผู้รับสัมปทาน ไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบิน มีกังวลเรื่องดังกล่าวหรือไม่ โดยเฉพาะกรณีเกิดการแย่งผู้โดยสารกัน นายอนันต์กล่าวว่า รถไฟสายสีแดงเป็นคนละระบบกับไฮสปีด และโครงการไฮสปีด 3 สนามบิน มีสถานีจอดที่สถานีพญาไท จากนั้นวิ่งยาวไปสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ไม่มีจุดจอดที่ สถานีราชวิถี จึงไม่น่าจะเกี่ยวข้องกัน ในเรื่องการแย่งผู้โดยสาร แค่เป็นเส้นทางที่ขนานกัน เท่านั้น

ในส่วนของรฟท. ยืนยันว่า ยังคงเดินหน้าโครงการรถไฟสายสีแดงอ่อน ช่วงบางซื่อ-พญาไท-มักกะสัน-หัวหมาก ตามแผนแม่บทเพื่อเกิดการเชื่อมต่อการเดินทาง เป็นเส้นทางหลัก แนวตะวันออก-ตะวันตก ทอดไปตามแนวทางรถไฟเดิม เข้าสู่ใจกลางเมืองตามแผน

ทั้งนี้ รถไฟสายสีแดงอ่อนฝั่งตะวันออก เส้นทาง บางซื่อ-หัวหมาก นั้น จะมี 5 สถานี ได้แก่
1. สถานีแยกราชวิถี (เชื่อมต่อกับสายสีแดงเข้ม)
2. สถานีพญาไท (เชื่อมต่อกับ BTS และ ARL)
3. สถานีมักกะสัน (เชื่อมต่อกับ MRT)
4. สถานีรามคำแหง (เชื่อมต่อกับ ARL)
5. สถานีหัวหมาก (เชื่อมต่อกับ BTS)

@ เฉพาะ ค่าก่อสร้างงานโยธา เพิ่มจาก 2.4 หมื่นล้านบาท เป็น 3.5 หมื่นล้านบาท จากปัจจัยค่าแรง ค่าวัสดุ เพิ่ม

รายงานข่าวแจ้งว่า จากการปรับย้ายตำแหน่งสถานีราชวิถี จากเดิม บริเวณด้านทิศเหนือของแยกอุภัยเจษฎทิศ มายังตำแหน่งใหม่ บริเวณด้านทิศใต้ขอแยกอุภัยเจษฎทิศ และมีการปรับชื่อ สถานีจากเดิม”สถานีราชวิถี” เป็น”สถานีรามาธิบดี” ขณะที่การปรับแบบก่อสร้างดังกล่าว ทำให้มูลค่าโครงการรวมเพิ่มขึ้น จากเดิมตามมติครม. เมื่อวันที่ 26 ก.ค. 2559 ที่ 44,157.79 ล้านบาท เป็น 44,573.85 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 416.09 ล้านบาท

แต่หากแยกเฉพาะ ค่างานโยธารวมในส่วนของสายสีแดงอ่อน (Missing Link) ช่วงบางซื่อ-พญาไท-มักกะสัน-หัวหมาก และสีแดงเข้ม ช่วง บางซื่อ-หัวลำโพง เพิ่มจากเดิมตามมติครม. เมื่อวันที่ 26 ก.ค. 2559 ที่ 24,189.89 ล้านบาท เป็น 35,026.59 ล้านบาท หรือมีค่างานโยธาเพิ่มขึ้น 10,417.10 ล้านบาท เนื่องจากมีการปรับ ค่าวัสดุ ค่าแรง ค่า Factoe F ให้เป็นปัจจุบัน โดยจะใช้ระยะเวลาดำเนินการก่อสร้าง 6 ปี
https://mgronline.com/business/detail/9670000045359

SRT Board Rejects 44,157.76 Million Baht "Missing link of Red Line Extension" with the distance of 25.9 km
Monday 27th May 2024

The SRT Board has ordered a review of the "Missing Link of Red Line Train Extension" project from Bang Sue (Krungthep Aphiwat) - Phyathai - Makkasan - Hua Mark
and Bang Sue (Krungthep Aphiwat) - Hua Lamphong, worth 44,157.76 million Vaht, recommending design adjustments to move Rajavithi station to connect with
Ramathibodi Hospital (the new version of Ramadhibodi Halt). The board plans to reconsider the project in June.

Mr. Anan Phonimdaeng, Deputy Governor of the State Railway of Thailand (SRT), revealed that the SRT board, chaired by Mr. Chirut Wisanjit, decided to review
additional details and adjust the budget for the light red line suburban railway system project, which includes the Bang Sue - Phaya Thai - Makkasan - Hua Mak
section and the dark red line, Bang Sue - Hua Lamphong section (Missing Link), spanning 25.9 kilometers. The design adjustment involves relocating
Rajavithi station to improve passenger access to Ramathibodi Hospital, and the revised plan will be presented to the board in June 2024.

The project was initially rejected to revisit specific details, such as the station relocation to Ramathibodi Hospital.

Originally, the station was located opposite Rajavithi (near Rajavithi Orphanage Home for Girls), but the preliminary study suggests moving it to the other side to
better serve the hospital.

The Light Red line commuter extension from Bang Sue to Hua Mark consists of 5 stations including:
1. Rajvidhi Intersection - to be changed to Ramadhibodi station (Connecting with Dark red line commuter extension)
2. Phyathai (Connecting with BTS and ARL)
3. Makkasan (Connecting with MRT) - No Rajprarob station as the condition NOT to compete against ARL run by Asia Aera One
4. Ram Khamhaeng station (Connecting with ARL)
5. Hua Mark (Connecting with Yellow Line Monorail by BTSC)

"We need to explain the principles and benefits of the move, assess the impact on the train linking the three airports, and provide verification documents.
The board wants to ensure this relocation does not affect other projects, such as the high-speed rail project connecting the three airports. This adjustment will
generate 416.09 million Baht cost overrun from the original 44,157.76 million baht approved by the Cabinet in 2016 to become 44,573.85 million Baht," said
Mr. Phonimdaeng. This kind of cost overrun from the readjustment of Rajvithi station to Ramadhibodee station alone caused the rejection for the proposal.
Furthermore, the civil work cost has been ballooned up from 24,189.89 million Baht to 35,026.59 million Baht due to rising inflation, the daily wage hike
rising F factor and rising of raw materials.

An SRT news report indicated that the budget for land expropriation between Bang Sue - Phaya Thai - Makkasan - Hua Mak and Bang Sue - Hua Lamphong
(Missing Link) is 61 million baht. Expropriation will begin in October 2024 and is expected to be completed by September 2025, covering approximately
78 square meters, 2 plots, and 3 houses.

SRT making a clear point that Missing link must be implemented as planned, never being cancelled since it the way to allow red line commuter networks to
connect Bangkok and Thonburi city suburbs in North-South and East-West axis with Bangkok city center along with commuter, intericity and freight services.

Red line commuter has very different groups of passengers in comparison with High Speed train connecting three airports as mentioned by Asia Aera one.

Note: this kind of words from Asia Aera one means Asia Aera One want to grab the concession of red line commuter as the complementary service for
High Speed train connecting three airports as the way to maximize the passengers of both systems.
Note: It would be better to add Klong Tan station (Gateway of RCA) to connect with the future Grey Line Monorail along with Samsen station (the gateway to Dusit district - Home of Army men)

https://www.thansettakij.com/business/economy/597004
https://www.dailynews.co.th/news/3472820/
https://mgronline.com/business/detail/9670000045359


Last edited by Wisarut on 30/05/2024 6:49 pm; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43432
Location: NECTEC

PostPosted: 28/05/2024 1:13 pm    Post subject: Reply with quote

รฟฟท.ฉลองปีที่ 14 ผู้โดยสาร "สายสีแดง" ฟรีประกันอุบัติเหตุ สแกน QR Code รับสิทธิ์ได้ที่สถานี
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันจันทร์ ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 เวลา 18:10 น.
ปรับปรุง: วันจันทร์ ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 เวลา 19:24 น.

รฟฟท.ฉลองการให้บริการก้าวสู่ปีที่ 14 จับมือ ทิพยประกันภัย มอบสิทธิประโยชน์สุดพิเศษให้แก่ผู้โดยสาร ฟรี! ประกันอุบัติเหตุ เพียงสแกน QR Code รับสิทธิ์ที่สถานี ตั้งแต่ 1 มิ.ย.-15 มิ.ย. 67 คุ้มครองนาน 30 วัน หรือลดค่าเบี้ยประกันรถยนต์ ตามเงื่อนไขที่กำหนด

นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด หรือผู้ให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้มีการบูรณาการความร่วมมือกับ ทิพยประกันภัย เนื่องในโอกาสการเฉลิมฉลองการให้บริการรถไฟฟ้าก้าวเข้าสู่ปีที่ 14 โดยภายในงานมี นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด พร้อมด้วย นางสาวสุภาพ ประดับการ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) นางณัฐญา ธนะรัชต์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) และนายวศิน วรรณพฤกษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจองค์กร บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ร่วมเปิดตัวและมอบสิทธิประโยชน์สุดพิเศษให้แก่ผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ณ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์



ทั้งนี้ บริษัทฯ เล็งเห็นถึงประโยชน์สูงสุดที่ผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงจะได้รับจากการบูรณาการความร่วมมือของทั้ง 2 หน่วยงาน โดยได้มีการคัดสรรสิทธิประโยชน์สุดพิเศษมากมาย ดังนี้

- รับ ฟรี! ประกันภัยอุบัติเหตุ หากเกิดอุบัติเหตุที่ไหน ก็คุ้มครองนาน 30 วัน โดยคุ้มครองกรณีเสียชีวิต 100,000 บาท และมีค่ารักษาพยาบาลให้สูงสุด 5,000 บาท สามารถสแกน QR Code เพื่อรับสิทธิ์ได้ที่รถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงทุกสถานี ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2567-15 มิถุนายน 2567

- ซื้อประกันรถยนต์ชั้น 1 ผ่านเว็บไซต์ www.tipinsure.com เพียงกรอกโค้ด “RED” ก่อนชำระเบี้ยประกันภัย จะได้รับสิทธิพิเศษ เบี้ยประกันภัยเริ่มต้น 4,900 บาท/ปี รวมถึงส่วนลดสูงสุด 10% สามารถผ่อนชำระผ่านบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ 0% นานสูงสุด 10 เดือน และรับบัตรโดยสารรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงมูลค่าสูงสุด 1,000 บาท โดยเป็นไปตามเงื่อนไขที่บริษัทฯ กำหนด

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาด้านการให้บริการเดินรถไฟฟ้า เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ผู้ใช้บริการอย่างเต็มความสามารถ พร้อมทั้งส่งมอบความสุขด้วยกิจกรรมส่งเสริมตลาดสุดพิเศษ เพื่อคัดสรรสิทธิประโยชน์ดีๆ ให้แก่ผู้ใช้บริการอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้โดยสารทุกท่านจะได้รับความสุขในทุกครั้งที่เดินทางด้วยรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง
https://mgronline.com/business/detail/9670000045540
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 46394
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 25/06/2024 9:40 am    Post subject: Reply with quote

"คมนาคม"เร่งเพิ่มฟีดเดอร์เชื่อมรถไฟฟ้า"แดง-ม่วง"หนุนค่าตั๋ว 20 บาทจ่อเปิดรถโดยสาร EV 4 เส้นทางเชื่อมสถานีรังสิต
ผู้จัดการออนไลน์ 25 มิ.ย. 2567 08:50

“คมนาคม”เผย นโยบายรถไฟฟ้า 20 ตลอดสาย ดันยอดผู้โดยสารพุ่ง สำรวจประชาชน เรียกร้อง เพิ่มฟีดเดอร์เชื่อมสถานี และจุดจอดรถ ล่าสุดเอกชนเดินรถโดยสารไฟฟ้า (EV) เพิ่ม 4 เส้นทางเชื่อมสายสีแดง ที่สถานีรังสิต

นายฤชนนท์ อัยยปัญญา ผู้ช่วยรัฐมนตรีและโฆษกประจำกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากการผลักดัน นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ของ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และรองนายกรัฐมนตรี โดยนำร่อง 2 โครงการ คือ 1.โครงการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน จำนวน 10 สถานี และช่วงบางซื่อ-รังสิต จำนวน 4 สถานี และ 2. โครงการรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง ช่วงเตาปูน-คลองบางไผ่ จำนวน 16 สถานี ซึ่งขณะนี้มีประชาชนเข้าใช้บริการเพิ่มขึ้นจำนวนมาก

โดยจากการลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณสถานีรถไฟฟ้าสายสีแดง สถานีรังสิต โดยได้มีการเจรจากับประชาชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบว่า ระบบขนส่งเสริม หรือ Feeder System ยังไม่เพียงพอต่อการให้บริการประชาชน โดยเฉพาะด้านของรถสาธารณะ และ สถานที่จอดรถยนต์บริเวณสถานี ซึ่งขณะนี้ทุกหน่วยงานได้จัดทำแผนและเตรียมดำเนินการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ทางหน่วยงาน ทางกรมการขนส่งทางบก ได้จัดเตรียมแผนเพิ่มจำนวนการเดินรถโดยสารไฟฟ้าสาธารณะ โดยจะเข้าที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกจังหวัดปทุมธานี ภายในช่วง กรกฎาคม 2567 โดยจากแผนเบื้องต้น จะให้เอกชนเดินรถโดยสารไฟฟ้าสาธารณะเพิ่มอีก 4 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางที่ 1 วงกลมรังสิต เส้นทางที่ 2 รังสิต – มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์รังสิต เส้นทางที่ 3 รังสิต – โรงพยาบาลกรุงสยามเซนต์คาร์ลอส และเส้นทางที่ 4 รังสิต คลอง 7

จากนั้น เตรียมเสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พิจารณาต่อไป จากปัจจุบันนี้ที่มี รถโดยสารสองแถวขนาดเล็ก สีแดง และสีเขียว จำนวน 4 เส้นทาง วิ่งให้บริการตั้งแต่เปิดเดินรถไฟฟ้าสายสีแดง ได้แก่ เส้นทาง 6188 รังสิต - จารุศร เส้นทาง 1008 รังสิต - อำเภอหนองเสือ เส้นทาง 1116 รังสิต - สถานีรถไฟเชียงราก และเส้นทาง 381 รังสิต - องครักษ์

นอกจากนี้ทางหน่วยงาน รฟท. ยังมีแผนที่จะปรับปรุงพื้นที่ เพื่อให้มีสถานที่จอดรถเพิ่มเป็น 200-300 คัน จากปัจจุบันที่สามารถจอดได้ 100 คัน พร้อมทั้งเร่งดำเนินการพัฒนาแผนการก่อสร้างเป็นอาคารจอดรถยนต์เพิ่มเติมต่อไป


Ministry of Transport accelerates feeder system to connect red and purple train lines, supporting 20 baht fare and launching 4 EV bus routes connecting Rangsit Station

MGR Online, June 25, 2024, 8:50 AM

The Ministry of Transport revealed that the 20 baht flat fare policy for trains has boosted passenger numbers. Surveys show public demand for more feeder systems connecting stations and parking spaces. Recently, private operators have added 4 electric vehicle (EV) bus routes connecting the red line at Rangsit Station.

Mr. Ratchanon Aiyapanu, Assistant Minister and Spokesperson for the Ministry of Transport, stated that the 20 baht flat fare policy, initiated by Mr. Suriya Jungrungreangkit, Minister of Transport and Deputy Prime Minister, has been piloted in two projects: 1. The Red Line suburban train project, Bang Sue-Taling Chan section (10 stations) and Bang Sue-Rangsit section (4 stations), and 2. The Purple Line MRT project, Tao Poon-Khlong Bang Phai section (16 stations). Both projects have seen a significant increase in passengers.

Inspections at the Rangsit Station on the Red Line, including discussions with the public and relevant agencies, revealed that the Feeder System is insufficient, particularly in terms of public transportation and parking spaces. All agencies have prepared plans and are ready to implement solutions.

The Department of Land Transport is preparing to increase the number of electric public buses and will present the plan to the Provincial Land Transport Control Committee of Pathum Thani in July 2024. The initial plan is to add 4 more EV bus routes operated by private companies: 1. Rangsit Circle, 2. Rangsit - Thammasat University Rangsit, 3. Rangsit - Bangkok Hospital Saint Carlos, and 4. Rangsit - Khlong 7.

The proposal will then be submitted to the Minister of Transport for consideration. Currently, there are 4 routes of small red and green buses operating since the opening of the Red Line: 6188 Rangsit - Charusorn, 1008 Rangsit - Nong Sua District, 1116 Rangsit - Chiang Rak Railway Station, and 381 Rangsit - Ongkharak.

Additionally, the State Railway of Thailand (SRT) plans to improve the area to increase parking spaces from 100 to 200-300 and is accelerating the development of plans to construct additional parking buildings.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43432
Location: NECTEC

PostPosted: 26/06/2024 4:27 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
"คมนาคม"เร่งเพิ่มฟีดเดอร์เชื่อมรถไฟฟ้า"แดง-ม่วง"หนุนค่าตั๋ว 20 บาทจ่อเปิดรถโดยสาร EV 4 เส้นทางเชื่อมสถานีรังสิต
ผู้จัดการออนไลน์
วันอังคาร ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2567 เวลา 08:50 น.



ลุยผุด “ฟีดเดอร์” อีก 4 เส้นทาง รถโดยสารเชื่อมรถไฟฟ้าสีแดง “สถานีรังสิต”
วันอังคาร ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2567 เวลา 09:21 น.

"คมนาคม" ลุยผุดฟีดเดอร์อีก 4 เส้นทาง เชื่อมรถไฟฟ้าสายสีแดง “สถานีรังสิต” ชงบอร์ดฯขนส่งทางบกปทุมธานีเคาะ ก.ค.นี้ รองรับความต้องการในการเดินทางให้ประชาชนอย่างเพียงพอ ขณะที่ รฟท. เดินหน้าปรับปรุงพื้นที่เพิ่มที่จอดรถจาก 100 คันเป็น 300 คัน

นายฤชนนท์ อัยยปัญญา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงคมนาคม และโฆษกกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณสถานีรถไฟฟ้าสายสีแดง สถานีรังสิต ซึ่งจากการสอบถามประชาชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบว่า ระบบขนส่งเสริม (Feeder System) ยังไม่เพียงพอต่อการให้บริการประชาชน โดยเฉพาะรถโดยสารสาธารณะ และสถานที่จอดรถยนต์บริเวณสถานี โดยขณะนี้ทุกหน่วยงานได้จัดทำแผน และเตรียมดำเนินการแล้ว เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางให้ประชาชน


นายฤชนนท์ กล่าวต่อว่า กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ได้จัดเตรียมแผนเพิ่มจำนวนการเดินรถโดยสารไฟฟ้าสาธารณะ โดยจะเข้าที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกจังหวัดปทุมธานี ภายในเดือน ก.ค. 67 เบื้องต้นจะให้เอกชนเดินรถโดยสารไฟฟ้าสาธารณะเพิ่มอีก 4 เส้นทาง ได้แก่
เส้นทางที่ 1 วงกลมรังสิต
เส้นทางที่ 2 รังสิต–มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์รังสิต
เส้นทางที่ 3 รังสิต–โรงพยาบาลกรุงสยามเซนต์คาร์ลอส และ
เส้นทางที่ 4 รังสิต-คลอง 7
หากที่ประชุมเห็นชอบจะเสนอให้ รมว.คมนาคมพิจารณาต่อไป นอกจากนี้ รฟท. มีแผนปรับปรุงพื้นที่ เพื่อให้มีสถานที่จอดรถเพิ่มเป็น 200-300 คัน จากปัจจุบันจอดได้ 100 คัน พร้อมทั้งเร่งดำเนินการพัฒนาแผนการก่อสร้างเป็นอาคารจอดรถยนต์เพิ่มเติมต่อไป


นายฤชนนท์ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันที่สถานีรังสิต มีรถโดยสารสองแถวขนาดเล็ก สีแดง และสีเขียว จำนวน 4 เส้นทาง วิ่งให้บริการตั้งแต่เปิดเดินรถไฟฟ้าสายสีแดง ได้แก่ เส้นทาง 6188 รังสิต-จารุศร เส้นทาง 1008 รังสิต-อำเภอหนองเสือ เส้นทาง 1116 รังสิต-สถานีรถไฟเชียงราก และเส้นทาง 381 รังสิต–องครักษ์ ซึ่งพบว่ายังไม่เพียงพอ โดยจากการผลักดันนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม นำร่อง 2 โครงการ คือ
1.โครงการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน จำนวน 10 สถานี และช่วงบางซื่อ-รังสิต จำนวน 4 สถานี และ
2. โครงการรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง ช่วงเตาปูน-คลองบางไผ่ จำนวน 16 สถานี ส่งผลให้มีประชาชนเข้ามาใช้บริการรถไฟฟ้าทั้ง 2 สายเพิ่มมากขึ้น.
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43432
Location: NECTEC

PostPosted: 28/06/2024 3:19 pm    Post subject: Reply with quote

รฟฟท.มอบห้องนันทนาการอเนกประสงค์ให้แก่โรงเรียนวัดสนามนอก
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันศุกร์ ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2567 เวลา 02:01 น.
ปรับปรุง: วันศุกร์ ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2567 เวลา 06:25 น.


รฟฟท.ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง จัดโครงการ CSR ภายใต้โครงการ "พี่หนูแดงมอบความสุขให้น้อง ผ่านห้องแห่งการเรียนรู้ ปี 2" ส่งมอบห้องนันทนาการอเนกประสงค์ให้แก่โรงเรียนวัดสนามนอก จังหวัดนนทบุรี

นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (รฟฟท.) หรือผู้ให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง เปิดเผยว่า ด้วยความตระหนักถึงความสำคัญของเด็กและเยาวชนที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาประเทศชาติในหลายด้าน เนื่องจากเยาวชนถือได้ว่าเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีศักยภาพสูงและจะก้าวเป็นผู้นำประเทศชาติต่อไปในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ การสร้างเสริมกิจกรรมให้น้องๆ เยาวชนได้รับการศึกษาและการเล่นอย่างเหมาะสม ตลอดจนการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการพัฒนาและการเรียนรู้ของเยาวชน จะนำมาซึ่งความเจริญก้าวหน้าและความยั่งยืนของประเทศในระยะยาว เป็นการสร้างสังคมที่มั่นคงและยั่งยืน ดังนั้น การสนับสนุนส่งเสริมเด็กและเยาวชนจึงเป็นการลงทุนที่สำคัญและมีคุณค่าสำหรับอนาคตของประเทศ



ทั้งนี้ บริษัทฯ จึงได้จัดกิจกรรม CSR ภายใต้โครงการ “พี่หนูแดงมอบความสุขให้น้อง ผ่านห้องแห่งการเรียนรู้ ปี 2” ขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 27 มิถุนายน 2567 ณ โรงเรียนวัดสนามนอก หมู่ที่ 4 ถนนเทอดพระเกียรติ ตำบลวัดชลอ อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี ซึ่งกิจกรรมนี้เป็นความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตและการศึกษาให้แก่นักเรียนในชุมชนท้องถิ่น ซึ่งมีพื้นที่ใกล้เคียงกับสถานีรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง โดยห้องนันทนาการอเนกประสงค์นี้ได้ถูกออกแบบมาเพื่อให้เป็นพื้นที่สำหรับการเรียนรู้และกิจกรรมสร้างสรรค์ต่างๆ ซึ่งจะช่วยสร้างคุณประโยชน์ต่อนักเรียนในการพัฒนาศักยภาพและการเรียนรู้ต่อไปในอนาคตด้วย



บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด มุ่งเน้นดำเนินกิจการด้านต่างๆ เคียงข้างประชาชน พร้อมกับมุ่งมั่นพัฒนาองค์กรสู่การเป็นผู้นำในการให้บริการเดินรถไฟฟ้าด้วยมาตรฐานระดับสากล เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดแก่ผู้ใช้บริการ รักษามาตรฐานการปฏิบัติงานในด้านการเดินรถ และซ่อมบำรุง รวมถึงรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจขององค์กร ตลอดจนยกระดับคุณภาพชีวิตชานเมืองอย่างยั่งยืน
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 46394
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 02/07/2024 7:56 pm    Post subject: Reply with quote

รฟฟท.โชว์ผลงานค่ารถไฟฟ้า 20 บาท เผยตัวเลข 8 เดือน ยอดผู้โดยสารเพิ่ม
ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 2 กรกฎาคม 2567 - 19:38 น.

รฟฟท. เผยความสำเร็จนโยบายอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสูงสุด 20 บาท ครบ 8 เดือน มีผู้ใช้บริการเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

วันที่ 2 กรกฎาคม 2567 นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด หรือผู้ให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสาย สีแดง เปิดเผยว่า ตามที่นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้มอบนโยบายให้แก่บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ดำเนินภารกิจโดยมุ่งเน้นการอำนวยความสะดวกในด้านการเดินทางอย่างไร้รอยต่อ และสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ประชาชน โดยเฉพาะนโยบายอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสูงสุด 20 บาท ซึ่งถือเป็นหนึ่งในโครงการ Quick Win ที่สำคัญของกระทรวงคมนาคม โดยรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ได้ขานรับและเริ่มดำเนินนโยบายดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม 2566

สำหรับในระยะแรก เป็นการเก็บค่าโดยสารแบบแยกแต่ละสาย ในระบบรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ทั้ง 2 เส้นทาง ได้แก่ สายธานีรัถยา ช่วงสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – สถานีรังสิต และสายนครวิถี ช่วงสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – สถานีตลิ่งชัน ต่อมาเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 ได้เริ่มให้บริการในระยะที่ 2 ซึ่งผู้โดยสารสามารถเดินทางข้ามสายระหว่างรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง และรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง ช่วงคลองบางไผ่ – เตาปูน ได้ในอัตราค่าโดยสารรวมกันสูงสุดเพียง 20 บาท ซึ่งรถไฟฟ้าทั้งสองสายนั้น มีสถานีเชื่อมต่อการเปลี่ยนถ่ายระบบอยู่ที่สถานีบางซ่อน

ทั้งนี้ ก่อนเริ่มนโยบายอัตราค่าโดยสารสูงสุด 20 บาท รถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง มีปริมาณผู้ใช้บริการเฉลี่ยในวันธรรมดา(จันทร์ – ศุกร์) อยู่ที่ 21,813 คน/วัน แต่หลังจากเริ่มนโยบายอัตราค่าโดยสารสูงสุด 20 บาท มีจำนวนผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 30,952 คน/วัน เพิ่มขึ้น 41.90% และสามารถทำสถิติผู้ใช้บริการสูงสุด (New High) อยู่ที่ 39,567 คน เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2567 หรือหากนับจำนวนผู้โดยสารรวมตั้งแต่เริ่มนโยบายอัตราค่าโดยสารสูงสุด 20 บาท จนถึงปัจจุบัน เป็นระยะเวลากว่า 8 เดือน มีจำนวนผู้โดยสารรวมสูงถึง 7,078,082 คน

โดยก่อนเริ่มนโยบายดังกล่าวมีการประเมินว่าอาจส่งผลให้บริษัทฯมีรายได้ลดลง แต่เนื่องจากมีปริมาณผู้ใช้บริการเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงคาดการณ์ว่าเมื่อดำเนินการตามนโยบายฯครบ 1 ปี จะไม่ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทฯ หากเปรียบเทียบกับช่วงก่อนเริ่มนโยบายฯ ทั้งนี้ สะท้อนให้เห็นว่า นโยบายอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสูงสุด 20 บาท ของกระทรวงคมนาคม ประสบผลสำเร็จเป็นอย่างมาก สามารถบรรลุเป้าหมายตามวัตถุประสงค์ที่จะช่วยแบ่งเบาภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชนได้

นายสุเทพ กล่าวเพิ่มเติมว่า นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ยังได้มอบหมายและติดตามผลการให้บริการประชาชนของบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด อย่างต่อเนื่องเป็นระยะ ทั้งในด้านการเดินทางเชื่อมต่อกับระบบขนส่งอื่น ต้องมีความสะดวก และไร้รอยต่อ รวมถึงมีความปลอดภัยในทุกการเดินทาง พร้อมสนับสนุนให้มีการนำนวัตกรรม เทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาบูรณาการโครงข่ายคมนาคมทุกระบบเข้าด้วยกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการ และคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของประชาชนเป็นสำคัญ

ทั้งนี้ บริษัทฯยังคงมุ่งมั่น พัฒนาองค์กรสู่การเป็นผู้นำในการให้บริการเดินรถไฟฟ้าด้วยมาตรฐานระดับสากล มุ่งเน้นการสร้างความพึงพอใจสูงสุดแก่ผู้ใช้บริการ รักษามาตรฐานการปฏิบัติงานในด้านการเดินรถ และซ่อมบำรุง พัฒนาบุคลากรให้มีศักยภาพอยู่เสมอ รวมถึงรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจขององค์กร อีกทั้งสามารถเชื่อมโยงทุกการเดินทางกับระบบขนส่งสาธารณะอื่นๆ ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย ตลอดจนยกระดับคุณภาพชีวิตชานเมืองได้อย่างยั่งยืน


SRTET showcases results of 20 baht train fare, revealing 8-month passenger increase figures

Prachachat Turakij, July 2, 2024 - 19:38

SRTET reveals the success of the maximum 20 baht train fare policy after 8 months, with continuously increasing ridership.

On July 2, 2024, Mr. Suthep Panpeng, CEO of SRT Electrified Train Co., Ltd. (SRTET), the operator of the Red Line commuter rail, disclosed that following the policy given by Mr. Surapong Piyachot, Deputy Minister of Transport, to SRTET to focus on facilitating seamless travel and maximizing public satisfaction, especially the maximum 20 baht train fare policy, which is considered one of the important Quick Win projects of the Ministry of Transport, the Red Line commuter rail has implemented this policy since October 16, 2023.

Initially, fares were collected separately for each line of the Red Line commuter rail system, including the Thani Ratthaya line (from Bangkok Grand Station to Rangsit station) and the Nakhon Withi line (from Bangkok Grand Station to Taling Chan station). Later, on November 30, 2023, phase 2 of the service began, allowing passengers to travel across lines between the Red Line commuter rail and the MRT Purple Line (Khlong Bang Phai - Tao Poon section) at a combined maximum fare of only 20 baht. Both train lines have a connection at Bang Son station.

Before implementing the maximum 20 baht fare policy, the Red Line commuter rail had an average weekday (Monday - Friday) ridership of 21,813 passengers/day. After the policy began, ridership increased to 30,952 passengers/day, a 41.90% increase. A new high of 39,567 passengers was recorded on February 9, 2024. Counting from the start of the policy until now, over 8 months, the total number of passengers has reached 7,078,082.

Although it was initially estimated that the policy might result in decreased revenue for the company, due to the continuously increasing ridership, it is now projected that after a full year of implementation, there will be no negative impact on the company's performance compared to the period before the policy.

Mr. Suthep added that Mr. Surapong Piyachot, Deputy Minister of Transport, has also assigned and regularly monitored SRTET's public service performance, emphasizing convenient and seamless connections with other transport systems, safety in all travel, and supporting the integration of innovation and modern technology into all transport networks to increase service efficiency and prioritize public benefit.

The company remains committed to developing into a leader in electric train services with international standards, focusing on maximizing user satisfaction, maintaining operational standards in train operations and maintenance, continuously developing staff potential, and being responsible to society and the environment related to the organization's business. It aims to connect all travel with other public transport systems conveniently, quickly, and safely, as well as sustainably improve the quality of life in suburban areas.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43432
Location: NECTEC

PostPosted: 03/07/2024 5:58 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
รฟฟท.โชว์ผลงานค่ารถไฟฟ้า 20 บาท เผยตัวเลข 8 เดือน ยอดผู้โดยสารเพิ่ม
ประชาชาติธุรกิจ วันอังคารที่ 2 กรกฎาคม 2567 เวลา 19:38 น.


8 เดือน “สายสีแดง” เก็บ 20 บาท ผู้โดยสารใช้บริการกว่า 7 ล้านคน เพิ่มขึ้น 41%
นวัตกรรมขนส่ง
วันอังคารที่ 2 กรกฎาคม 2567 เวลา 18:22 น.

8 เดือนรถไฟฟ้า “สายสีแดง” เก็บ 20 บาท ผู้โดยสารใช้บริการกว่า 7 ล้านคน เพิ่มขึ้น 41.9% เฉลี่ยกว่า 3 หมื่นคนต่อวัน พีคสุด 3.95 หมื่นคนต่อวัน คาดครบ 1 ปี ไม่กระทบผลประกอบการ รฟฟท. เดินหน้าพัฒนางานบริการ สร้างความพึงพอใจสูงสุดให้ผู้โดยสาร


นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (รฟฟท.) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง เปิดเผยว่า หลังจากเริ่มดำเนินนโยบายค่าโดยสารรถไฟฟ้าสูงสุด 20 บาท ตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค. 66 ทั้ง 2 เส้นทาง ได้แก่ สายธานีรัถยา ช่วงสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์-สถานีรังสิต และสายนครวิถี ช่วงสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์-สถานีตลิ่งชัน และเริ่มให้บริการเดินทางข้ามสายระหว่างรถไฟฟ้าสายสีแดง และรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง ช่วงคลองบางไผ่-เตาปูน ในอัตราค่าโดยสารรวมกันสูงสุดเพียง 20 บาท ตั้งแต่เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 66 ปรากฏว่า ได้รับการตอบรับที่ดี ปริมาณผู้โดยสารเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง


นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ก่อนเริ่มนโยบาย รถไฟฟ้าสายสีแดง มีปริมาณผู้ใช้บริการเฉลี่ยในวันธรรมดา (จันทร์-ศุกร์) อยู่ที่ 21,813 คน/วัน แต่หลังจากเริ่มนโยบาย มีจำนวนผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 30,952 คน/วัน เพิ่มขึ้น 41.90% และสามารถทำสถิติผู้ใช้บริการสูงสุด (New High) อยู่ที่ 39,567 คน เมื่อวันที่ 9 ก.พ. 67 หรือหากนับจำนวนผู้โดยสารรวมตั้งแต่เริ่มนโยบายอัตราค่าโดยสารสูงสุด 20 บาท จนถึงปัจจุบัน เป็นระยะเวลากว่า 8 เดือน มีจำนวนผู้โดยสารรวมสูงถึง 7,078,082 คน ทั้งนี้ ก่อนเริ่มนโยบายมีการประเมินว่า อาจส่งผลให้บริษัทฯ มีรายได้ลดลง แต่เนื่องจากมีปริมาณผู้ใช้บริการเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง จึงคาดการณ์ว่าเมื่อดำเนินการตามนโยบายครบ 1 ปี รายได้จะเท่ากับก่อนดำเนินนโยบาย จะไม่ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทฯ หากเปรียบเทียบกับช่วงก่อนเริ่มนโยบาย และไม่ต้องชดเชยรายได้ที่สูญเสียไปด้วย สะท้อนให้เห็นว่า นโยบายค่าโดยสารรถไฟฟ้าสูงสุด 20 บาท ประสบผลสำเร็จอย่างมาก สามารถบรรลุเป้าหมายตามวัตถุประสงค์ที่จะช่วยแบ่งเบาภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชนได้ อย่างไรก็ตามขณะนี้รายได้ยังคงน้อยกว่าก่อนดำเนินนโยบายประมาณ 3%

นายสุเทพ กล่าวอีกว่า นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม ได้มอบหมาย และติดตามผลการให้บริการประชาชนของ รฟฟท. อย่างต่อเนื่องเป็นระยะ ทั้งด้านการเดินทางเชื่อมต่อกับระบบขนส่งอื่น ต้องมีความสะดวก และไร้รอยต่อ รวมถึงมีความปลอดภัยในทุกการเดินทาง พร้อมสนับสนุนให้มีการนำนวัตกรรม เทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาบูรณาการโครงข่ายคมนาคมทุกระบบเข้าด้วยกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการ และคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของประชาชนเป็นสำคัญ

ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่น พัฒนาองค์กรสู่การเป็นผู้นำในการให้บริการเดินรถไฟฟ้าด้วยมาตรฐานระดับสากล มุ่งเน้นสร้างความพึงพอใจสูงสุดแก่ผู้ใช้บริการ รักษามาตรฐานการปฏิบัติงานในด้านการเดินรถ และซ่อมบำรุง พัฒนาบุคลากรให้มีศักยภาพอยู่เสมอ รวมถึงรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจขององค์กร อีกทั้งสามารถเชื่อมโยงทุกการเดินทางกับระบบขนส่งสาธารณะอื่นๆ ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และยกระดับคุณภาพชีวิตชานเมืองได้อย่างยั่งยืน....
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43432
Location: NECTEC

PostPosted: 04/07/2024 11:01 am    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
ลั่นชงครม.เคาะ ส่วนขยายสีแดง 3เส้นภายในปีนี้
Source - ไทยโพสต์
วันพฤหัสบดี ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 เวลา 04:08 น.

นครราชสีมา * "สุรพงษ์" เร่งเครื่องสายสีแดงต่อขยาย 3 เส้นทาง วงเงิน 2.17 หมื่นล้าน ช่วงรังสิต-มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ลั่นชง ครม.เคาะ ภายในปี 67 คาดใช้เงินกู้ภายในประเทศ


ขยายรถไฟฟ้าสายสีแดงเส้นแรก“รังสิต-มธ.”จ่อเข้าครม. เปิดประมูลปีนี้อีก 2 เส้นรอบอร์ด
นวัตกรรมขนส่ง
วันพฤหัสบดี ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 เวลา 8:37 น.

รถไฟฟ้าสายสีแดงส่วนต่อขยาย “รังสิต-มธ.” จ่อเข้าครม. เปิดประมูลปีนี้เส้นแรก รฟท.ชงบอร์ดเคาะ 2 เส้นตลิ่งชัน-ศาลายา และช่วงตลิ่งชัน-ศิริราช อีกรอบ


นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคมได้เสนอโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดง(รถไฟฟ้าสายสีแดง) ส่วนต่อขยาย 1 เส้นทาง ได้แก่ ช่วงรังสิต-มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์(มธ.) ศูนย์รังสิต ระยะทาง 8.84 กิโลเมตร(กม.) วงเงิน 6,473.98 ล้านบาท ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี(สลค.) แล้ว


คาดว่าจะเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ในเร็วๆ นี้ หากได้รับความเห็นชอบจะเปิดประกวดราคาได้ภายในปี 67 เริ่มการก่อสร้างภายในปลายปี 67 หรือต้นปี 68 และคาดว่าจะแล้วเสร็จ พร้อมเปิดให้บริการประชาชนได้ในช่วงต้นปี 71


 นายสุรพงษ์ กล่าวต่อว่า ส่วนอีก 2 เส้นทาง ได้แก่ ช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา ระยะทาง 14.8 กม. วงเงิน 10,670.27 ล้านบาท และช่วงตลิ่งชัน-ศิริราช ระยะทาง 5.7 กม. วงเงิน 4,616 ล้านบาท รฟท. รายงานว่า อยู่ระหว่างเร่งจัดทำข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อให้การพิจารณานำเสนอเส้นทางเป็นไปด้วยความรอบคอบ และเพื่อให้กระทรวงคมนาคมมีข้อมูลที่ครบถ้วนในขั้นตอนการชี้แจงต่อ ครม.

รฟท. คาดว่าจะเสนอที่ประชุมคณะกรรมการ(บอร์ด) ที่มีนายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก(ขบ.) ในฐานะประธานบอร์ด รฟท. เป็นประธาน พิจารณาในเดือน ก.ค.67..

Note: งานนี้ CRRC Zhuzhou โรงงาน Batu Gajah กะ อินโดนิเซีย คงเสนอตัวเข้าแข่งขันในการหารถไฟฟ้า มาเพิ่ม แน่ๆ
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43432
Location: NECTEC

PostPosted: 11/07/2024 8:06 pm    Post subject: Reply with quote

SRT Board approving the missing link with the distance of 25.9 km (Bangsue - Hua Lamphong and Bang Sue - Hua Mark) with the price tag of 44,573.85 million Baht, up from the previous approval at 44,157.76 million Baht and effectively up by 410.09 million Baht.
This extra cost is Rajvithi station to interchange with the future Orange Line MRT and the clearance with Asia Aera One to ensure that this missing link would NOT compete against High Speed train connecting airports.
SRT Boars has already approved the first 3 extensions:
1. Rangsit - Thammasart Rangsit - 8.84 km at 6,473.98 million Baht => Submitted to the Secretariat of Cabinet to reach cabinet soon
2. Taling Chan - Salaya - 14.8 km at 10,670.27 million Baht => still drafting before submitting to Secretariat of Cabinet
3. Taling Chan - Siriraj - 5.7 km at 4,616 million Baht => still drafting before submitting to Secretariat of Cabinet
However, it may hint the plan that Asia Aera One want to grab the 30-50 year concession the whole red line commuter system to function as the feeders for High Speed train connecting airports just the line way the Octopus is speading its powerful tentacles to catch the smaller fish : https://www.bangkokbiznews.com/business/economic/1135442
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 46394
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 11/07/2024 9:17 pm    Post subject: Reply with quote

บอร์ด รฟท. สั่งทบทวนผลประมูลพื้นที่เชิงพาณิชย์-ป้ายโฆษณา “รถไฟสายสีแดง”
ฐานเศรษฐกิจ
11 ก.ค. 2567 | 20:09 น.

บอร์ดรฟท. สั่งรฟท.ทบทวนผลประมูล “พื้นที่เชิงพาณิชย์-ป้ายโฆษณา” รถไฟสายสีแดง หลังคณะอนุกรรมการทรัพย์สินฯ หวั่นเอกชนรับมือบริหารความเสี่ยงสัญญาสัมปทาน 20 ปี ไม่ไหว แนะถกฝ่ายกฎหมาย คาดชงบอร์ดรอบใหม่ภายในเดือนส.ค.นี้
นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก(ขบ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการ(บอร์ด)การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท.รับทราบความคิดเห็นของคณะอนุกรรมการด้านทรัพย์สินฯ ต่อรายงานผลการพิจารณาการออกประกาศเชิญชวนเสนอผลตอแทนการใช้ประโยชน์ เพื่อประกอบกิจการเชิงพาณิชย์และติดตั้งป้ายโฆษณาบริเวณอาคารสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์และสถานีรถไฟสายสีแดง 12 สถานี

“คณะอนุกรรมการทรัพย์สินฯ มีความเห็นถึงความเป็นไปได้ในการบริหารจัดการโครงการฯของเอกชน ว่าจะสามารถดำเนินการได้หรือไม่ โดยเฉพาะแคชโฟลว์และการลงทุนในอนาคต ตลอดจนสัดส่วนการถือหุ้นของเอกชน เบื้องต้นบอร์ดรฟท.ได้มอบหมายให้รฟท.นำความเห็นของคณะอนุกรรมการทรัพย์สินฯไปประกอบการพิจารณาร่วมกับคณะอนุกรรมการด้านกฎหมายฯ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนให้ถูกต้องกฎหมาย”

นายจิรุตม์ กล่าวต่อว่า การพิจารณาความเห็นดังกล่าวอยู่ในอำนาจของคณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้าง หากท้ายที่สุดมีการยกเลิกการประมูลในครั้งนี้จะอยู่ในอำนาจของผู้ว่าการรฟท. ซึ่งเป็นไปตามระเบียบพ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้าง โดยรฟท.ต้องกลับไปทวบทวนทีโออาร์ใหม่ด้วย เนื่องจากการประมูลที่ผ่านคาดว่าการลงทุนอาจไม่คุ้มค่าสำหรับเอกชน ทำให้ไม่มีเอกชนสนใจร่วมประมูล ในระหว่างที่ยังหาเอกชนมาลงทุนไม่ได้ เบื้องต้นจะให้รฟท.เป็นผู้ดำเนินการไปก่อน

นายอนันต์ โพธิ์นิ่มแดง รองผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า การประมูลโครงการฯนี้ถือเป็นโครงการที่มีสัญญาสัมปทาน 20 ปี มีมูลค่าการลงทุนที่สูง ซึ่งเอกชนที่เข้าร่วมประมูลให้ผลตอบแทนอยู่ในเกณฑ์ดี อีกทั้งยังผ่านเกณฑ์การพิจารณาด้านคุณสมบัติที่กำหนดไว้ในทีโออาร์ที่มีทุนจดทะเบียนไม่เกิน 100 ล้านบาท

แต่ทุนจดทะเบียนของเอกชนอาจไม่เพียงพอที่จะร่วมลงทุนโครงการขนาดใหญ่ที่ใช้งบประมาณมาก ทำให้คณะอนุกรรมการด้านทรัพย์สินฯ มีความคิดเห็นว่า หากมีการลงทุนในสัญญาสัมปทาน 20 ปี ในขณะที่ค่าเช่าที่เพิ่มขึ้นอยู่ต่อเนื่องอาจจะทำให้เอกชนมีความเสี่ยงในด้านการบริหารได้

“รฟท.ให้เอกชนผู้ยื่นเสนอราคายืนยันในเรื่องนี้ว่าสามารถดำเนินการได้หรือไม่ ซึ่งเอกชนยืนยันว่าสามารถดำเนินการได้ ขณะที่คณะอนุกรรมการด้านทรัพย์สินฯยังมีความกังวลถึงความเป็นไปได้ให้โครงการสำเร็จตามแผนลงทุนที่เสนอต่อรฟท. โดยที่รฟท.ยังได้รับค่าเช่าต่อเนื่อง เพราะหากโครงการฯต้องลงทุนประมาณ 700 ล้านบาท ในช่วงระยะเวลาอันสั้น เอกชนอาจรับไม่ไหว ซึ่งอาจจะต้องกู้เงินเพื่อมาลงทุน”

นายอนันต์ กล่าวต่อว่า ตามแผนการลงทุนโครงการฯเอกชนจะต้องลงทุนดำเนินการภายในระยะเวลา 4 ปี โดยจะต้องเร่งรัดเปิดพื้นที่ร้านอาหาร,ตู้ ATM ธนาคารต่างๆ และร้านสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (โอท็อป) ซึ่งเป็นแผนเร่งด่วนที่เอกชนต้องดำเนินการ ปัจจุบันพบว่าเอกชนยังขอยืนราคาตามเดิมเมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมา

ทั้งนี้หลังจากบอร์ดรฟท.รับทราบผลการพิจารณาฯแล้ว หลังจากนั้นจะเข้าสู่คณะอนุกรรมการด้านกฎหมายพิจารณาเพื่อพิจารณาเงื่อนไขว่าสามารถดำเนินการโครงการฯต่อไปได้หรือไม่ และกลับมาเสนอต่อบอร์ดรฟท.พิจาณาอีกครั้งภายในเดือน ส.ค.นี้ ก่อนลงนามสัญญาร่วมกับเอกชนต่อไป

สำหรับผลตอบแทนการลงทุนของเอกชนในโครงการฯที่เสนอต่อรฟท.อยู่ที่ 79 ล้านบาท จากผลตอบแทนขั้นต่ำ โดยเพิ่มขึ้นมาจากราคาที่ดิน เบื้องต้นแบ่งพื้นที่การก่อสร้างเป็น 4 ระยะ ซึ่งแต่ละปีจะดำเนินการก่อสร้างอยู่ที่ 10,000 ตารางเมตร (ตร.ม.) โดยในปีแรกมีค่าเช่าคงที่ อยู่ที่ 78 ล้านบาทต่อปีต่อพื้นที่ 10,000 ตารางเมตร (ตร.ม.) ทำให้รฟท.ได้รับผลตอบแทนรวมอยู่ที่ 157 ล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 15 มี.ค.-28 เม.ย.66 ที่ผ่านมา รฟท. ได้ออกประกาศเชิญชวนภาคเอกชนที่สนใจ เข้ายื่นข้อเสนอผลตอบแทนการใช้ประโยชน์พื้นที่ เพื่อประกอบกิจกรรมเชิงพาณิชย์ และสิทธิการบริหารจัดการพื้นที่ติดตั้งป้ายโฆษณา บริเวณอาคารสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์

และอาคารสถานีรถไฟสายสีแดง 12 สถานี ได้แก่ สถานีตลิ่งชัน สถานีบางบำหรุ สถานีบางซ่อน สถานีจตุจักร สถานีวัดเสมียนนารี สถานีบางเขน สถานีทุ่งสองห้อง สถานีหลักสี่ สถานีการเคหะ สถานีดอนเมือง สถานีหลักหก(ม.รังสิต) และสถานีรังสิต โดยออกประกาศเชิญชวนฯ เป็น 4 สัญญา ใช้วิธีประกวดข้อเสนอผลตอบแทน ประกอบด้วย

สัญญาที่ 1 โครงการยื่นข้อเสนอผลตอบแทนการใช้ประโยชน์พื้นที่ เพื่อประกอบกิจกรรมเชิงพาณิชย์ บริเวณอาคารสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ คิดเป็นพื้นที่จำนวน 47,675 ตารางเมตร

มีเอกชนร่วมซื้อเอกสารประกวดราคา จำนวน 3 ราย ได้แก่ 1. บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) 2. บริษัท คิง เพาเวอร์ สุวรรณภูมิ จำกัด 3. บริษัท เปรม กรุ๊ป เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด และปรากฎว่า มีเอกชนยื่นข้อเสนอฯ จำนวน 1 ราย คือ บริษัท เปรม กรุ๊ป เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด

สัญญาที่ 2 โครงการยื่นข้อเสนอผลตอบแทนการใช้ประโยชน์พื้นที่ เพื่อประกอบกิจกรรมเชิงพาณิชย์ บริเวณอาคารสถานีรถไฟสายสีแดง จำนวน 12 สถานี คิดเป็นพื้นที่จำนวน 3,759 ตารางเมตร

มีผู้สนใจซื้อเอกสารประกวดราคา จำนวน 2 ราย ได้แก่ 1.บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) และ 2.บริษัท คิง เพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด แต่ปรากฏว่าไม่มีเอกชนเข้ายื่นข้อเสนอฯ

สัญญาที่ 3 โครงการยื่นข้อเสนอเพื่อสิทธิการบริหารจัดการพื้นที่ติดตั้งป้ายโฆษณา บริเวณอาคารสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ คิดเป็นพื้นที่จำนวน 2,303 ตารางเมตร ไม่มีผู้ซื้อซองเอกสารข้อเสนอฯ

สัญญาที่ 4 โครงการยื่นข้อเสนอเพื่อสิทธิการบริหารจัดการพื้นที่ติดตั้งป้ายโฆษณา บริเวณอาคารสถานีรถไฟสายสีแดง จำนวน 12 สถานี คิดเป็นพื้นที่จำนวน 2,080 ตารางเมตร

มีผู้สนใจซื้อเอกสารประกวดราคา จำนวน 2 ราย ได้แก่ 1.บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) และ 2.บริษัท คิง เพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด แต่ปรากฏว่าไม่มีเอกชนเข้ายื่นข้อเสนอฯ


SRT Board Orders Review of Commercial Area and Advertising Space Auction for "Red Line Train"

Thansettakij
July 11, 2024 | 8:09 PM


The SRT board has ordered a review of the auction results for "commercial areas and advertising space" on the Red Line train. This follows concerns from the Asset Subcommittee that the private sector may not be able to handle the risk management of the 20-year concession contract. They recommend discussions with the legal department and expect to present the matter to the board again in August.

Mr. Chirut Wisanjit, Director-General of the Department of Land Transport (DLT), as Chairman of the Board of Directors of the State Railway of Thailand (SRT), revealed that the SRT Board meeting acknowledged the opinions of the Asset Subcommittee regarding the report on the consideration of the announcement inviting proposals for the use of benefits for commercial activities and the installation of advertising signs at the Krung Thep Aphiwat Central Terminal Building and 12 Red Line train stations.

"The Asset Subcommittee has expressed opinions on the feasibility of the private sector managing the project, whether it can be done or not, especially in terms of cash flow and future investments, as well as the shareholding ratio of the private sector. Initially, the SRT board has assigned the SRT to take the opinions of the Asset Subcommittee into consideration along with the Legal Subcommittee to proceed according to the legal process."

Mr. Chirut continued that the consideration of such opinions is within the authority of the Procurement Committee. If, in the end, the auction is canceled, it will be within the authority of the SRT Governor, following the Procurement Act regulations. The SRT will have to revise the TOR (Terms of Reference) again since the previous auction did not attract private sector interest due to concerns about the investment not being worthwhile. While a private investor is being sought, the SRT will be responsible for the operations.

Mr. Anan Pho Nim Daeng, Deputy Governor of the State Railway of Thailand (SRT), stated that this project is a 20-year concession with a high investment value. The private companies participating in the auction offered good returns and met the qualification criteria specified in the TOR, with registered capital not exceeding 100 million baht.

However, the registered capital of the private companies may not be sufficient for investing in a large-scale project with a high budget. Therefore, the Asset Subcommittee is concerned that if there is investment in a 20-year concession, while rental fees continue to increase, it could pose a risk to the private sector in terms of management.

"The SRT asked the private bidders to confirm whether they can proceed, and they confirmed that they can. However, the Asset Subcommittee is still concerned about the feasibility of completing the project according to the investment plan proposed to the SRT, while the SRT continues to receive rental fees. If the project requires an investment of about 700 million baht within a short period, the private sector may not be able to handle it and might have to borrow money for the investment."

Mr. Anan added that according to the project investment plan, the private sector must complete the investment within 4 years. They need to expedite the opening of restaurant areas, bank ATMs, and One Tambon One Product (OTOP) shops, which are urgent plans that the private sector must implement. Currently, it is found that the private sector is still maintaining the same price as in February.

After the SRT board acknowledges the consideration results, it will be forwarded to the Legal Subcommittee for consideration of the conditions to determine whether the project can proceed. It will then be presented to the SRT board again in August before signing a contract with the private sector.

The return on investment for the private sector in the project proposed to the SRT is 79 million baht, exceeding the minimum return, based on the land price. The construction area is divided into 4 phases, with each year's construction covering 10,000 square meters. In the first year, there is a fixed rental fee of 78 million baht per year per 10,000 square meters, resulting in a total return for the SRT of 157 million baht.

Reporters added that between March 15 and April 28, 2023, the SRT invited interested private sectors to submit proposals for the use of benefits for commercial activities and the right to manage advertising space at the Krung Thep Aphiwat Central Terminal Building and 12 Red Line train stations. The invitation was for 4 contracts using a bidding process:

Contract 1: Proposal for the use of benefits for commercial activities at the Krung Thep Aphiwat Central Terminal Building, covering an area of 47,675 square meters. Three private companies purchased the bidding documents: Central Pattana Public Company Limited, King Power Suvarnabhumi Company Limited, and Prem Group Engineering Company Limited. Only Prem Group Engineering Company Limited submitted a proposal.

Contract 2: Proposal for the use of benefits for commercial activities at 12 Red Line train stations, covering an area of 3,759 square meters. Two companies purchased the bidding documents: Plan B Media Public Company Limited and King Power International Company Limited. No proposals were submitted.

Contract 3: Proposal for the right to manage advertising space at the Krung Thep Aphiwat Central Terminal Building, covering an area of 2,303 square meters. No one purchased the bidding documents.

Contract 4: Proposal for the right to manage advertising space at 12 Red Line train stations, covering an area of 2,080 square meters. Two companies purchased the bidding documents: Plan B Media Public Company Limited and King Power International Company Limited. No proposals were submitted.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 151, 152, 153, 154  Next
Page 152 of 154

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©