RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311777
ทั่วไป:13495679
ทั้งหมด:13807456
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 481, 482, 483, 484, 485, 486  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43432
Location: NECTEC

PostPosted: 05/07/2024 6:12 pm    Post subject: Reply with quote

Anti Ancoholic activists have raised the concern after they have learnt that SRT is going to lift the ban on selling alcoholic drinks in the restaurant carriages of the trains by reminding the incident of r-a-p-e before m-u-r-d-e-r-i-n-g a girl by the drunk railway man who had thrown her naked body out of the train. https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_4664791
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 46393
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 08/07/2024 7:40 pm    Post subject: Reply with quote

ไทย-เมียนมา เปิดค้าชายแดนผ่านการขนส่งทางเรือ
กรุงเทพธุรกิจ 08 ก.ค. 2024 เวลา 17:07 น.

ปธ.สภาธุรกิจไทย-เมียนมา เผย ไทย-เมียนมาเปิดการค้าชายแดนผ่านการขนส่งทางเรือ ที่ท่าเรือจังหวัดระนอง แก้ปัญหาค้าชายแดนสะดุดจากปัญหาความไม่สงบในเมียนมา ประเดิมเรือคอนเทนเนอร์ 2 ลำเที่ยวแรก จากย่างกุ้ง-เกาะสอง-ระนอง พร้อมผลักดันเป็นเส้นทางการค้าชายแดนใหม่ของไทย

นายกริช อึ้งวิฑูรสถิตย์ ประธานสภาธุรกิจไทย-เมียนมา เปิดเผยว่า ในช่วงเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ได้เกิดการสู้รบระหว่างทหารฝ่ายรัฐบาลเมียนมา กับกองกำลังกระเหรี่ยงหลายฝ่าย ทำให้การค้าชายแดนระหว่างไทย-เมียนมาได้ขาดช่วงไประยะเวลาหนึ่ง ต่อมาได้มีการเจรจาระหว่างภาครัฐกับกองกำลังหลายฝ่าย จนทำให้ด่านชายแดนแม่สอด-เมียวดี เปิดใหม่อีกครั้งในเดือนพ.ค.แต่ก็ได้มีการวางระเบิดสะพานบนถนนสายเมียวดี-ย่างกุ้ง ณ.เมืองบิรินอีกครั้ง ทำให้สะพานขาด การค้าชายแดนระหว่างไทยเมียนมาจึงได้สะดุดหยุดลงอีก

ทางสภาธุรกิจไทย-เมียนมา และนายเอกวัฒน์ ธนประสิทธิ์ ผู้อำนวยการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา สตค.ไทยประจำ ได้ร่วมกันหาช่องทางการค้าทางเลือกใหม่ ในการขนส่งสินค้าชั่วคราว เพื่อให้การค้าระหว่างประเทศไทย-เมียนมา เพื่อให้สามารถเดินหน้าต่อไป โดยได้มีการพบกับนาย U Ni Aung ผู้ว่าการท่าเรือเมียนมา เพื่อขอให้ช่วยเปิดช่องทางการขนส่งสินค้า ด้วยเรือเดินสมุทรที่บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ เพื่อเป็นการป้องกันการเสียหายในช่วงฤดูมรสุมที่กำลังจะมาถึงนี้ จนกระทั่งเรือสองลำแรกได้เข้าสู่ท่าเรือจังหวัดระนอง จึงนับว่าเป็นทางเลือกใหม่ในสถานการณ์ที่ยังไม่สงบนิ่งต่อไป

นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวว่า เรือคอนเทนเนอร์ BEYPORE SULTAN และ MCL-4 เส้นทางย่างกุ้ง-เกาะสอง-ระนอง เที่ยวแรก เดินทางถึงท่าเรือระนองเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 8 ก.ค. 2567 โดยเรือทั้ง 2 ลำ เป็นความร่วมมือระหว่างไทย-เมียนมา ในการผลักดันให้เกิดเส้นทางการค้าชายแดนใหม่ระหว่าง 2 ประเทศ สำหรับเรือ BEYPORE SULTAN ขามาจากท่าเรือย่างกุ้งบรรทุกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ จำนวน 87 ตู้ และขากลับจะบรรทุกสินค้าจำนวน 30 ตู้ เช่น สุขภัณฑ์ เครื่องดื่มชูกำลัง สายไฟฟ้า เป็นต้น ส่วนเรือ MCL-4 ขามาจากท่าเรือย่างกุ้งบรรทุกข้าวโพด เลี้ยงสัตว์ จำนวน 41 ตู้ และขากลับจะบรรทุกสินค้า จำนวน 28 ตู้

ที่ผ่านมาผู้ประกอบการค้าชายแดนโดยเฉพาะผู้นำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากเมียนมาลดความเสี่ยงโดยเปลี่ยนเส้นทางการนำเข้า จากเดิมนำเข้าทางด่านแม่สอด ซึ่งรถบรรทุกหันมานำเข้าทางด่านระนองโดยเรือ Barge มากขึ้น แต่ด้วยปัจจัยด้านสภาพอากาศทำให้มีปัญหา จึงได้มีการหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยเปลี่ยนจากการขนส่งทางบกมาขนส่งทางเรือแทนผ่านท่าเรือจังหวัดระนอง ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากทางการเมียนมาเป็นอย่างดี

นายจักรกฤษ คุ้มภัย ผู้จัดการท่าเรือระนอง กล่าว่า ท่าเรือระนองมีความพร้อมรองรับตู้สินค้า โดยได้ดำเนินการจัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งเครนยกตู้สินค้า พื้นที่วางตู้ และกำลังคน ไว้เรียบร้อยแล้วตามที่ได้รับการประสานมาก่อนหน้านี้ โดยเมื่อเรือสินค้ามาถึงและดำเนินพิธีการศุลกากรแล้วเสร็จก็สามารถยกสินค้าขึ้นรถบรรทุกได้ทันที

ทั้งนี้ทราบว่ามีผู้ประกอบการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์บางรายสนใจขนส่งสินค้าโดยใช้เส้นทางท่าเรือระนอง-สถานีรถไฟสะพลี-ICD ลาดกระบัง-ท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งปัจจุบันสถานีรถไฟสะพลี จังหวัดชุมพร เป็นรถไฟทางคู่ มีจุดขนถ่ายตู้คอนเทนเนอร์ และมีลานกองเก็บตู้คอนเทนเนอร์ (Container Yard : CY) ที่เอกชนในพื้นที่ไช้บริการขนส่งทุเรียนไปยังประเทศจีน เป็นอีกหนึ่งโครงข่ายโลจิสติกส์ที่เข้ามาเสริมศักยภาพการค้าชายแดนไทย-เมียนมา ด้านจังหวัดระนอง รองรับการขยายตัวทางการค้าทั้งในปัจจุบันและอนาคต

สำหรับจังหวัดระนองมีชายแดนติดกับประเทศเมียนมา มีจุดผ่านแดนถาวรระนอง-เกาะสอง จำนวน 4 จุด ได้แก่ ท่าเทียบเรือสะพานปลา ท่าเทียบเรือศุลกากระนอง ท่าเทียบเรือของบริษัทอันดามันคลับ จำกัด ด่านตรวจคนเข้าเมืองระนอง และจุดผ่อนปรน จำนวน 1 จุด คือ จุดผ่อนปรนบ้านเขาฝาชี ในปี 2566 ด่านศุลกากรระนอง มีมูลค่าการค้าชายแดนสูงสุดเป็นลำดับที่ 4 ของการค้าชายแดนไทย-เมียนมา รองจาก ด่านศุลกากรแม่สอด ด่านศุลกากรสังขละบุรี และด่านศุลกากรประจวบคีรีขันธ์ ตามลำดับ โดยมีมูลค่าการค้า (ม.ค.-ธ.ค. 2566) รวม 21,353 ล้านบาท มูลค่าการส่งออก 15,477 ล้านบาท มูลค่าการนำเข้า 5,876 ล้านบาท มูลค่าดุลการค้า 9,601 ล้านบาท สำหรับสินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ น้ำมันเชื้อเพลิง,น้ำมันหล่อลื่น ของปรุงแต่งชนิดที่ใช้ในการเลี้ยงสัตว์ เครื่องดื่มให้พลังงาน สินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ สัตว์น้ำ (ปลาแช่เย็น) ปลาป่น ถ่านไม้ป่าเลน เป็นต้น


Thailand-Myanmar Open Border Trade via Sea Transport

Krungthep Turakij, July 8, 2024, 17:07

The President of the Thailand-Myanmar Business Council revealed that Thailand and Myanmar have opened border trade through sea transport at Ranong Port, solving the problem of disrupted border trade due to unrest in Myanmar. The first two container ships from Yangon-Kawthaung-Ranong have inaugurated this route, which is being promoted as a new border trade route for Thailand.

Mr. Krich Aungvithayasthit, President of the Thailand-Myanmar Business Council, disclosed that in April, fighting between Myanmar government troops and various Karen forces disrupted Thailand-Myanmar border trade for a period. After negotiations between the government and various forces, the Mae Sot-Myawaddy border checkpoint reopened in May. However, a bomb explosion on the Myawaddy-Yangon road bridge in Birin town again disrupted border trade.

The Thailand-Myanmar Business Council and Mr. Ekkawat Thanaprasit, Director of International Trade Promotion in Yangon, Myanmar, collaborated to find new alternative trade routes for temporary goods transport to continue Thailand-Myanmar international trade. They met with Mr. U Ni Aung, Managing Director of Myanmar Port Authority, to request opening a sea route for container ships to prevent damage during the upcoming monsoon season. The arrival of the first two ships at Ranong Port marks a new alternative in the current unstable situation.

Mr. Naris Niramaiwong, Governor of Ranong Province, said that the container ships BEYPORE SULTAN and MCL-4, on the Yangon-Kawthaung-Ranong route, arrived at Ranong Port on the morning of July 8, 2024. These two ships represent cooperation between Thailand and Myanmar in promoting a new border trade route between the two countries. BEYPORE SULTAN carried 87 containers of animal feed corn from Yangon Port and will return with 30 containers of goods such as sanitary ware, energy drinks, and electrical wires. MCL-4 brought 41 containers of animal feed corn and will return with 28 containers of goods.

Previously, border traders, especially animal feed corn importers from Myanmar, reduced risks by changing import routes from Mae Sot to Ranong Port using barges. However, weather conditions caused problems, leading to discussions with relevant parties to switch from land to sea transport through Ranong Port, which received good support from Myanmar authorities.

Mr. Chakkrit Kumpai, Manager of Ranong Port, stated that the port is ready to handle containers, with preparations made for container cranes, storage areas, and manpower. When ships arrive and complete customs procedures, goods can be immediately loaded onto trucks. Some animal feed corn importers are interested in using the Ranong Port-Sapli Railway Station-ICD Ladkrabang-Laem Chabang Port route, utilizing the double-track railway at Sapli Station in Chumphon Province, which has container transfer points and a Container Yard (CY) used by local businesses to transport durian to China.

Ranong Province shares a border with Myanmar, with four permanent border crossings at Ranong-Kawthaung and one temporary crossing point. In 2023, Ranong Customs House had the fourth-highest border trade value between Thailand and Myanmar, with total trade value (Jan-Dec 2023) of 21,353 million baht, exports of 15,477 million baht, imports of 5,876 million baht, and a trade balance of 9,601 million baht. Major export items include fuel oil, lubricants, animal feed preparations, and energy drinks, while major imports include seafood (chilled fish), fishmeal, and mangrove charcoal.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 46393
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 10/07/2024 5:29 am    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
Anti Ancoholic activists have raised the concern after they have learnt that SRT is going to lift the ban on selling alcoholic drinks in the restaurant carriages of the trains by reminding the incident of r-a-p-e before m-u-r-d-e-r-i-n-g a girl by the drunk railway man who had thrown her naked body out of the train. https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_4664791

"สุรพงษ์"ลุ้นแก้กฎหมายให้ขายเหล้าตู้เสบียงรถไฟ
Source - ผู้จัดการรายวัน 360 องศา
Wednesday, July 10, 2024 05:21

ดันพลิกโฉมขบวนท่องเที่ยวโมเดล"แอร์ไลน์"

ผู้จัดการรายวัน360 - "สุรพงษ์"ดันยกระดับพลิกโฉมรถไฟท่องเที่ยว ยึดรูปแบบระบบสายการบิน หาวิวสวยเป็นแลนด์มาร์ก จัดเส้นทางพร้อมเสาะหาอาหารของดีริมทางตั้งแต่ยุค ร.5 ขึ้นบริการตู้เสบียง ลุ้นแก้กม.ยกเว้น ขาย-ดื่มแอลกอฮอล์ ในสถานีและขบวนรถท่องเที่ยว ตั้งเป้าเพิ่มทริปรถไฟท่องเที่ยวอย่างน้อย 700 เที่ยวต่อปี

นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า นโยบาย IGNITE Tourism Thailand เพื่อผลักดันประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวนั้น ถือเป็นนโยบายเรือธงของรัฐบาล โดยใช้ศักยภาพด้านการขนส่งสาธารณะ ทั้งทางบก ทางราง ทางน้ำ และทางอากาศ เชื่อมโยงการท่องเที่ยวจากเมืองหลัก ซึ่งได้มอบหมายให้ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เพิ่มประสิทธิภาพขบวนรถท่องเที่ยวและเพิ่มทริปท่องเที่ยว จากเดิมสัปดาห์ละ 2 วันคือ วันเสาร์และวันอาทิตย์ ให้เพิ่มเป็นอย่างน้อย สัปดาห์ละ 4 วัน ซึ่งจะทำให้เพิ่มการเดินขบวนรถท่องเที่ยวจากประมาณ 50 เที่ยวต่อปี ในปัจจุบันเป็น 700- 800 เที่ยวต่อปี โดยจะมีการร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศ ไทย (ททท.) ในทุกๆ อีกเวนต์จะมีรถไฟ รถ บขส. และเครื่องบิน เข้ามาช่วยสนับสนุนทริปการเดินทาง

นอกจากนี้ ให้รฟท.ปรับปรุงรูปแบบทริปท่องเที่ยว ให้มีทั้งแบบ One Day Trip หรือ เที่ยวแบบไปเช้า-เย็นกลับ หรือ รูปแบบ Overnight เช่น 2 วัน 1 คืน เพื่อเพิ่มทางเลือกให้หลากหลาย นอกจากนี้ ยังให้พิจารณาเส้นทางรถไฟที่ผ่านพื้นที่สวยงามทั่วประเทศ ที่รถยนต์ไม่สามารถเข้าถึงได้ เพื่อสร้างเป็นแลนด์มาร์ก และจุดขายในการเดินทางด้วยรถไฟท่องเที่ยว พร้อมกันนี้ จะให้นำอาหาร ที่เป็นของดีวิถีริมทางตั้งแต่ยุคสมัยรัชกาลที่ 5 ที่ปัจจุบันยังมีทายาทลูกหลานรุ่นที่ 3 รุ่น 4 ดำเนินการอยู่ อาหารที่อยู่มาเป็น 100 ปี นำมาอัปเกรดจำหน่ายบนตู้สเบียงรถไฟ เส้นทางในแต่ละภาค จะมีเอกลักษณ์ต่างกันไป

"เหล่านี้ถือเป็น Sofe Power แบบหนึ่ง เช่น เมนู ข้าวผัดรถไฟ ไก่ย่างบางตาล คุ้นเคยตั้งแต่สมัยเด็กๆ จะตามหาต้นตำรับและนำมาจำหน่ายบนรถไฟท่องเที่ยว ตอนนี้จะให้ทำแบบสำรวจความเห็นทั้งจากผู้โดยสารและพนักงานรถไฟ เพื่อเก็บข้อมูล ที่ประทับใจ นำมาจัดลำดับบริการเพื่อให้ตรงกับความต้องการมากที่สุด เป็นการปรับปรุงยกระดับภาพลักษณ์ของ รฟท.รูปแบบรถไฟท่องเที่ยวจะทำให้มีระบบเหมือนกับการเดินทางด้วยเครื่องบิน คือ มีการจองตั๋วล่วงหน้าและเลือกบริการ อาหาร ล่วงหน้าได้" นายสุรพงษ์กล่าว
นายสุรพงษ์กล่าวว่า การยกระดับบริการรถไฟท่องเที่ยว จำเป็นต้องแก้ไขระเบียบเรื่องห้ามขายหรือบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บริเวณสถานีรถไฟและขบวนรถไฟ ซึ่งขณะนี้รฟท.อยู่ระหว่างเสนอ ขอแก้ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อขอยกเว้นการห้ามขายหรือบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในส่วนของขบวนรถไฟท่องเที่ยว เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง น่าจะได้ข้อสรุป เร็วๆนี้

รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 5 ก.ค. 2567 นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ ครั้งที่ 3/2567 โดยได้พิจารณาเห็นชอบให้ปรับปรุงประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดวันห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2558 ให้สามารถจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในวันอาสาฬหบูชา วันวิสาขบูชา วันมาฆบูชา วันเข้าพรรษา และวันออกพรรษา ณ ท่าอากาศยานของ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) หรือ ทอท. ได้แก่ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ เชียงราย ภูเก็ต หาดใหญ่

ส่วนการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ที่ขอยกเว้นการห้ามขายหรือบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในบริเวณสถานีรถไฟ หรือในขบวนรถเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศนั้น ได้ให้ คกก.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ร่วมกับ รฟท.หรือแนวทางและมาตรการควบคุมป้องกันด้านสาธารณสุขและการท่องเที่ยว และร่างกฎหมายส่งให้ คกก.นโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ พิจารณาถึงความเหมาะสมและผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น เพื่อให้เกิดสมดุลระหว่างการกระตุ้นเศรษฐกิจและผลกระทบด้านสุขภาพของประชาชนต่อไป.

บรรยายใต้ภาพ
สุรพงษ์ ปิยะโชติ

ที่มา: นสพ.ผู้จัดการรายวัน 360 องศา ฉบับวันที่ 10 ก.ค. 2567


Surapong Hopes to Amend Law to Sell Alcohol on Train Dining Cars

Source: Manager Daily 360 Degrees
Wednesday, July 10, 2024, 05:21


Pushing to Revamp Tourism Trains into "Airline" Model

Manager Daily 360 Degrees - "Surapong" is pushing to elevate and transform tourist trains by adopting the airline system model, seeking scenic views as landmarks, setting routes, and sourcing notable roadside foods from the reign of King Rama V for dining car services. They hope to amend the law to allow the sale and consumption of alcohol in stations and on tourist trains, aiming to increase the number of tourist train trips to at least 700 per year.

Mr. Surapong Piyachot, Deputy Minister of Transport, revealed that the IGNITE Tourism Thailand policy aims to position Thailand as a tourism hub. It leverages public transportation modes—land, rail, water, and air—to connect tourism from major cities. The State Railway of Thailand (SRT) has been tasked to improve the efficiency of tourist trains and increase trips from the current two days a week (Saturday and Sunday) to at least four days a week, boosting the number of tourist train trips from around 50 per year to 700-800 trips per year. This initiative will involve collaboration with the Tourism Authority of Thailand (TAT), incorporating trains, buses, and planes to support travel itineraries.

Additionally, SRT is to enhance trip formats to include both one-day trips and overnight trips (2 days, 1 night), offering diverse options. They will also consider train routes that pass through scenic areas inaccessible by car to create landmarks and selling points for tourist train travel. Moreover, they plan to feature foods that have been traditional roadside delights since the era of King Rama V, now run by third and fourth-generation descendants. These century-old foods will be upgraded for sale on train dining cars, with each regional route having its unique offerings.

“These are examples of soft power, such as the classic railway fried rice and Bang Tan grilled chicken, familiar since childhood. We will trace their origins and offer them on tourist trains. We will conduct surveys among passengers and railway staff to gather feedback, prioritize services, and match passenger needs. This will improve the SRT’s image by adopting a system similar to air travel, with advance ticket booking and pre-selected meals,” said Mr. Surapong.

Mr. Surapong mentioned that enhancing tourist train services requires revising regulations that currently prohibit the sale or consumption of alcoholic beverages at railway stations and on trains. The SRT is in the process of proposing amendments to the Prime Minister's Office regulations to allow exceptions for tourist trains to promote domestic tourism, coordinating with relevant agencies for a swift resolution.

According to reports, on July 5, 2024, Deputy Prime Minister and Minister of Transport Mr. Suriya Juangroongruangkit chaired the third National Alcohol Beverage Policy Committee meeting of 2024. The committee approved an amendment to the Prime Minister’s Office regulations, permitting the sale of alcoholic beverages on Asalha Bucha, Visakha Bucha, Makha Bucha, and Buddhist Lent days at airports operated by Airports of Thailand PLC (AOT) such as Suvarnabhumi, Don Mueang, Chiang Mai, Chiang Rai, Phuket, and Hat Yai.

Regarding the SRT’s request to allow the sale and consumption of alcoholic beverages at railway stations or on trains to promote domestic tourism, the Alcohol Beverage Control Committee will collaborate with SRT on public health and tourism measures. The draft law will be reviewed by the National Alcohol Beverage Policy Committee to balance economic stimulation and public health impacts.


Source: Manager Daily 360 Degrees, July 10, 2024 Edition
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43432
Location: NECTEC

PostPosted: 10/07/2024 10:04 am    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
Wisarut wrote:
Anti Ancoholic activists have raised the concern after they have learnt that SRT is going to lift the ban on selling alcoholic drinks in the restaurant carriages of the trains by reminding the incident of r-a-p-e before m-u-r-d-e-r-i-n-g a girl by the drunk railway man who had thrown her naked body out of the train. https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_4664791

"สุรพงษ์"ลุ้นแก้กฎหมายให้ขายเหล้าตู้เสบียงรถไฟ
Source - ผู้จัดการรายวัน 360 องศา
วันพุธ ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 เวลา 05:21 น.

ดันพลิกโฉมขบวนท่องเที่ยวโมเดล"แอร์ไลน์"


ลิงก์มาแล้วครับ
ลุ้นแก้ กม.ให้ขายเหล้าตู้เสบียงรถไฟ "สุรพงษ์" ดันพลิกโฉมขบวนท่องเที่ยวโมเดล "แอร์ไลน์"
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันพุธ ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 เวลา 07:22 น.
ปรับปรุง: วันพุธ ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 เวลา 08:22 น.



“สุรพงษ์” ดันยกระดับพลิกโฉมรถไฟท่องเที่ยว ยึดรูปแบบระบบสายการบิน หาวิวสวยเป็นแลนด์มาร์ก จัดเส้นทางพร้อมเสาะหาอาหารของดีริมทางตั้งแต่ยุค ร.๕ ขึ้นบริการตู้เสบียง ลุ้นแก้ กม.ยกเว้น ขาย-ดื่มแอลกอฮอล์ ในสถานีและขบวนรถท่องเที่ยว ตั้งเป้าเพิ่มทริปอย่างน้อย 700 เที่ยวต่อปี

นายสุรพงษ์กล่าวว่า การยกระดับบริการรถไฟท่องเที่ยวจำเป็นต้องแก้ไขระเบียบเรื่องห้ามขายหรือบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บริเวณสถานีรถไฟและขบวนรถไฟ ซึ่งขณะนี้ รฟท.อยู่ระหว่างเสนอขอแก้ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อขอยกเว้นการห้ามขายหรือบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในส่วนของขบวนรถไฟท่องเที่ยว เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง น่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆนี้






รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 5 ก.ค. 2567 นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ ครั้งที่ 3/2567 โดยได้พิจารณาเห็นชอบให้ปรับปรุงประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดวันห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2558 ให้สามารถจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันอาสาฬหบูชา วันวิสาขบูชา วันมาฆบูชา วันเข้าพรรษา และวันออกพรรษา ณ ท่าอากาศยานของ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) หรือ ทอท. ได้แก่ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ เชียงราย ภูเก็ต หาดใหญ่

ส่วนการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ที่ขอยกเว้นการห้ามขายหรือบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในบริเวณสถานีรถไฟ หรือในขบวนรถเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศนั้น ได้ให้ คกก.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ร่วมกับ รฟท.หารือแนวทางและมาตรการควบคุมป้องกันด้านสาธารณสุขและการท่องเที่ยว และร่างกฎหมายส่งให้ คกก.นโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ พิจารณาถึงความเหมาะสมและผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น เพื่อให้เกิดสมดุลระหว่างการกระตุ้นเศรษฐกิจและผลกระทบด้านสุขภาพของประชาชนต่อไป
https://mgronline.com/business/detail/9670000058515
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 46393
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 11/07/2024 4:39 pm    Post subject: Reply with quote

“สหภาพฯ รถไฟ” จี้เช็กคุณสมบัติ “วีริศ อัมระปาล” อีกรอบ เชียร์คนในนั่งเก้าอี้ “ผู้ว่า รฟท.” คนใหม่
เดลินิวส์ 11 กรกฎาคม 2567 15:44 น.
นวัตกรรมขนส่ง

สหภาพฯ รถไฟ ยื่นหนังสือถึงประธานบอร์ด รฟท. จี้สั่งเช็กคุณสมบัติ “วีริศ อัมระปาล” ผู้ว่า กนอ. อย่างละเอียดอีกรอบ มีส่วนได้เสียกับ รฟท. หวั่นเกิดความเสียหาย เชียร์คนในนั่งเก้าอี้ผู้ว่า รฟท. คนใหม่ ชี้คนนอกกว่าจะเรียนรู้ต้องใช้เวลานาน

เมื่อวันที่ 11 ก.ค. นายสราวุธ สราญวงศ์ ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.รฟท.) เปิดเผยว่า ได้ยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) โดยมีนายจิรุตม์ วิศาลจิตร ประธานบอร์ด รฟท. เป็นผู้รับหนังสือ เพื่อขอให้ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ผ่านการคัดเลือกเข้ารับการสัมภาษณ์ และแสดงวิสัยทัศน์ เพื่อคัดเลือกเข้าดำรงตำแหน่งผู้ว่า รฟท. เป็นการเร่งด่วน เนื่องจากพบว่า ผู้สมัครที่ผ่านเข้ารับการสัมภาษณ์ และแสดงวิสัยทัศน์ฯ ที่มาจากผู้บริหารของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ซึ่งมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันว่า กนอ. ในฐานะนิติบุคคล มีสัญญาเช่าที่ดินระหว่างกันกับ รฟท. ทั้งในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด และที่บริเวณสถานีมักกะสัน

หากข้อมูลดังกล่าวเป็นความจริง อาจทำให้เข้าข่ายกรณีกรรมการ หรือผู้บริหาร หรือผู้มีอำนาจในการจัดการ หรือมีส่วนได้ส่วนเสียในบุคคล ซึ่งเป็นผู้รับสัมปทาน ผู้ร่วมทุน หรือมีประโยชนได้เสียเกี่ยวข้องกับกิจการของรัฐวิสาหกิจได้ ดังนั้นก่อนเข้าสู่กระบวนการในการสัมภาษณ์ และแสดงวิสัยทัศน์ของผู้สมัครเข้ารับการสรรหาเข้าดำรงตำแหน่งผู้ว่า รฟท. จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่บอร์ด รฟท. ควรสั่งการให้คณะกรรมการสรรหาฯ ซึ่งมีนายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย เป็นประธานกรรมการสรรหาฯ พิจารณาตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครอีกครั้งอย่างละเอียดรอบคอบ โดยนำข้อมูลต่างๆ มาตรวจสอบให้เกิดความชัดเจน เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อกระบวนการสรรหา และเกิดความเสียหายต่อ รฟท. ได้

นายสราวุธ กล่าวต่อว่า ในการสรรหาผู้ว่า รฟท. คนใหม่ ถือเป็นเรื่องดีที่จะได้ผู้บริหารสูงสุดขององค์กรที่มีอำนาจในการตัดสินใจในการพัฒนาองค์กร ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากแก่ รฟท. ยิ่งในสถานการณ์ที่รัฐบาลกำลังให้ความสำคัญทุ่มงบประมาณในการปฏิรูประบบการขนส่งทางราง และ รฟท. ให้เป็นระบบหลักของการขนส่งของประเทศ โดยเฉพาะในโครงการสำคัญต่างๆ ที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ จึงจำเป็นต้องสรรหาบุคคลที่มาทำหน้าที่สูงสุดเป็นผู้นำองค์กร ต้องได้บุคคลที่มีประสบการณ์ มีความรู้จริง จัดเจน เข้าใจในการบริหารงาน บริหารบุคลากร เข้าใจในวัฒนธรรมองค์กรเป็นอย่างดี และสามารถสานต่อการทำงานได้ทันที

ขณะที่งานโครงการต่างๆ ที่กำลังจะแล้วเสร็จ ก็ต้องอาศัยความต่อเนื่อง เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญในการสานต่อนโยบายตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทย และดำเนินงานตามแผนพัฒนาของ รฟท. เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับภาพรวมองค์กร และสถานการณ์เร่งด่วนคือ การก่อสร้างระบบรถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง ซึ่งจะเริ่มแล้วเสร็จในปี 68 โครงการรถไฟทางคู่สายใหม่ 2 เส้นทาง โครงการรถไฟความเร็วสูง และการปรับปรุงพัฒนาองค์กรในด้านต่างๆ ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องการคนที่เข้าใจ และรู้จริงคือ คนภายในเข้ามาเป็นผู้นำสูงสุดของ รฟท. ที่มีความรู้ ความสามารถที่เหมาะสมต่อสถานการณ์ในการพัฒนากิจการ รฟท. ให้เจริญก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องในอนาคต ซึ่งเป็นที่ทราบกันโดยทั่วกันว่าทุกรัฐบาลในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา ให้ความสำคัญกับการขนส่งระบบรางทั้งในเมือง และภูมิภาคเพื่องานต่างๆ ตามนโยบายของรัฐบาลให้ความสำคัญสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี

นายสราวุธ กล่าวอีกว่า สร.รฟท. มิได้เจตนาที่จะกีดกันบุคคลจากภายนอก เชื่อว่าแต่ละคนมีความรู้ มีความสามารถของตนในแต่ละด้าน แต่ รฟท. เป็นองค์กรที่มีขนาดใหญ่มีความเกี่ยวโยงสัมพันธ์กับหน่วยงาน สังคม ชุมชน มากมายทั่วประเทศ หากได้คนนอกเข้ามาเป็นผู้ว่า รฟท. กว่าจะเรียนรู้เข้าใจงานที่มีเทคนิคเฉพาะหลายด้าน ทั้งโครงสร้างพื้นฐานระบบทางและราง ระบบอาณัติสัญญาณ ระบบล้อเลื่อน การบริการโดยสารและสินค้า การบริหารจัดการที่ดิน ทรัพย์สินที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก กว่าจะเข้าใจงาน เข้าใจคน เข้าใจวัฒนธรรมองค์กรก็ต้องใช้เวลา ซึ่งต้องใช้เวลาในการศึกษาเรียนรู้ ทั้งนี้เป็นหลักการตามเจตนารมณ์ของ สร.รฟท. ที่แสดงจุดยืนมาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับมีมติอย่างเป็นเอกฉันท์ของกรรมการการบริหาร สร.รฟท. และกระแสความต้องการของ สร.รฟท.สาขาภูมิภาค ที่ส่งเสียงมายัง สร.รฟท. ที่ต้องการคนที่เติบโตจากภายในของ รฟท. เข้ามาเป็นผู้ว่า รฟท. คนใหม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผู้ที่ได้เข้ารับการสัมภาษณ์ และแสดงวิสัยทัศน์ เพื่อคัดเลือกเข้าดำรงตำแหน่งผู้ว่า รฟท. จำนวน 2 คน คือ นายอวิรุทธ์ ทองเนตร รองผู้ว่า รฟท. และนายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.)


"Railway Uni0n" Urges Another Check of "Veerith Amrapal's" Qualifications, Endorses Insider for New "SRT Governor"

Daily News, July 11, 2024, 3:44 PM
Transportation Innovation

The Railway Uni0n has submitted a letter to the SRT Board Chairman, urging a thorough check of Veerith Amrapal's qualifications for the position of the new SRT Governor. They fear potential conflicts of interest and suggest an insider for the role, highlighting that outsiders would take a long time to understand the organization.

On July 11, Sarawut Saranwong, President of the State Railway of Thailand Labor Uni0n (SRLU), revealed that a letter was submitted to the State Railway of Thailand (SRT) Board, with Chairperson Jiruth Wissalchit receiving it. The letter requested an urgent review of the qualifications of candidates selected for interviews and vision presentations for the SRT Governor position. Concerns were raised about a candidate from the Industrial Estate Authority of Thailand (IEAT), amid criticisms that IEAT, as a legal entity, has land lease agreements with SRT in both Map Ta Phut Industrial Estate and Makkasan Station.

If these concerns are valid, it might involve board members, executives, or those with management authority, or those with vested interests with the enterprise, potentially benefiting from state enterprise activities. Therefore, before the interview and vision presentation process, it is crucial that the SRT Board instruct the selection committee, chaired by Aphirat Chaiwongnoi, to thoroughly re-examine the candidates' qualifications, using all available information to ensure clarity and prevent any impact on the selection process and potential harm to SRT.

Sarawut emphasized that selecting a new SRT Governor is critical for obtaining a leader who can decisively develop the organization, benefiting SRT significantly. With the government prioritizing and investing heavily in rail transport system reforms, it is vital to appoint someone experienced and knowledgeable in organizational management, personnel management, and the organizational culture, who can continue the work immediately.

Ongoing projects nearing completion also require continuity to align with strategic plans for Thailand's transport infrastructure development and SRT's development plans. This is crucial to avoid any negative impact on the organization, especially with the urgent task of constructing double-track railways on five routes expected to be completed in 2025, along with two new double-track routes, high-speed rail projects, and various organizational improvements. Therefore, someone who understands and truly knows the intricacies of the system, ideally an internal candidate, should lead SRT. It is well-known that over the past decade, successive governments have prioritized rail transport development in both urban and regional areas to achieve government policy goals effectively.

Sarawut reiterated that SRLU does not intend to exclude external candidates, recognizing that everyone has expertise in their respective fields. However, SRT is a large organization deeply connected with numerous agencies, communities, and society nationwide. An outsider would take significant time to understand the technical aspects of infrastructure, track systems, signaling systems, rolling stock, passenger and freight services, land management, and vast assets, as well as the organizational culture. Therefore, it is crucial to have someone from within SRT who has grown with the organization to become the new Governor.

Reporters noted that the two candidates interviewed and presenting their visions for the SRT Governor position are Aviroot Thongnet, SRT Deputy Governor, and Veerith Amrapal, Governor of the Industrial Estate Authority of Thailand (IEAT).
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43432
Location: NECTEC

PostPosted: 11/07/2024 5:46 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
“สหภาพฯ รถไฟ” จี้เช็กคุณสมบัติ “วีริศ อัมระปาล” อีกรอบ เชียร์คนในนั่งเก้าอี้ “ผู้ว่า รฟท.” คนใหม่
เดลินิวส์ วันพฤหัสบดี ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 เวลา 15:44 น.
นวัตกรรมขนส่ง


ลุ้นตัดเชือกชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯ รฟท. กก.สรรหากำหนด 24 ก.ค.แสดงวิสัยทัศน์
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันพฤหัสบดี ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 เวลา 16:24 น.
ปรับปรุง: วันพฤหัสบดี ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 เวลา 16:24 น.

โค้งสุดท้ายสรรหาผู้ว่าฯ รฟท.เรียกสัมภาษณ์แสดงวิสัยทัศน์ 24 ก.ค.นี้ “ประธานสรรหาฯ” คาดให้คะแนนสรุปผลได้ ยันพิจารณาคุณสมบัติและวิสัยทัศน์ตามเงื่อนไขที่ประกาศไว้

นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) ในฐานะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และประธานคณะกรรมการสรรหาผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังจากที่คณะกรรมการสรรหาฯ ได้ประกาศรายชื่อผู้เข้ารับการสัมภาษณ์และแสดงวิสัยทัศน์เพื่อคัดเลือกเข้าดำรงตำแหน่งผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย ไปเมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2567 คือผู้สมัครหมายเลข 1 นายอวิรุทธ์ ทองเนตร รองผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และผู้สมัครหมายเลข 2 นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ล่าสุดคณะกรรมการสรรหาฯ เตรียมทำหนังสือแจ้งถึงผู้มีสิทธิ์ทั้ง 2 ราย เพื่อให้เข้าแสดงวิสัยทัศน์ในช่วงบ่ายวันที่ 24 ก.ค. 2567

ทั้งนี้ ในการให้คะแนนจะมี 2 ส่วน คือ คะแนนด้านคุณสมบัติ และคะแนนในการแสดงวิสัยทัศน์ และนำคะแนน 2 ส่วนมารวมกัน จากนั้นจะสรุปผลคะแนน ซึ่งในการสัมภาษณ์แสดงวิสัยทัศน์นั้นคณะกรรมการสรรหาฯ จะยึดตามเงื่อนไขและคุณสมบัติที่ต้องการตามประกาศคณะกรรมการสรรหาฯ ฉบับที่ 1/2567 อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่าการสรรหาฯ จะเดินหน้าต่อไปตามขั้นตอน ส่วนหลังสัมภาษณ์แสดงวิสัยทัศน์แล้วจะสามารถประกาศผลได้เลยหรือไม่ จะต้องรอคณะกรรมการสรรหาฯ ประชุมหารือกันก่อนเนื่องจากยังไม่รู้ว่าจะมีประเด็นอะไรเพิ่มเติมหรือไม่
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43432
Location: NECTEC

PostPosted: 11/07/2024 10:37 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
Wisarut wrote:
Anti Ancoholic activists have raised the concern after they have learnt that SRT is going to lift the ban on selling alcoholic drinks in the restaurant carriages of the trains by reminding the incident of r-a-p-e before m-u-r-d-e-r-i-n-g a girl by the drunk railway man who had thrown her naked body out of the train. https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_4664791

"สุรพงษ์"ลุ้นแก้กฎหมายให้ขายเหล้าตู้เสบียงรถไฟ
Source - ผู้จัดการรายวัน 360 องศา
วันพุธที่ 10 กรกฎาคม 2567 เวลา 05:21 น.


ลิงก์มาแล้ว
ลุ้นแก้ กม.ให้ขายเหล้าตู้เสบียงรถไฟ "สุรพงษ์" ดันพลิกโฉมขบวนท่องเที่ยวรูปแบบเหมือน"แอร์ไลน์"
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันพุธที่ 10 กรกฎาคม 2567 เวลา 07:22 น.
ปรับปรุง: วันพุธที่ 10 กรกฎาคม 2567 เวลา 13:00 น.

รฟท.จ่อแก้ประกาศฯ ปลดล็อก "ขายอาหาร-เครื่องดื่มแอลกอฮอล์" บนรถไฟ
ฐานเศรษฐกิจ
วันพุธที่ 10 กรกฎาคม 2567 เวลา 16:19 น.
“สุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.” เผย รฟท. เล็งแก้ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ให้ขายอาหาร-เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บนรถไฟ ดึงต้นแบบการให้บริการสายการบิน ยกระดับนักท่องเที่ยวใช้บริการ หนึ่ง Soft Power ของประเทศไทย

“สุรพงษ์” ดันยกระดับพลิกโฉมรถไฟท่องเที่ยว ยึดรูปแบบระบบสายการบิน หาวิวสวยเป็นแลนด์มาร์ก จัดเส้นทางพร้อมเสาะหาอาหารของดีริมทางตั้งแต่ยุค ร.๕ ขึ้นบริการตู้เสบียง ลุ้นแก้ กม.ยกเว้น ขาย-ดื่มแอลกอฮอล์ ในสถานีและขบวนรถท่องเที่ยว ตั้งเป้าเพิ่มทริปอย่างน้อย 700 เที่ยวต่อปี
https://mgronline.com/business/detail/9670000058515

รถไฟท่องเที่ยวคึกคัก! บริการเพิ่ม 4 วัน/สัปดาห์ ลุยแก้กฎขาย-ดื่มแอลกอฮอล์ได้
นวัตกรรมขนส่ง
วันพุธที่ 10 กรกฎาคม 2567 เวลา 08:11 น.

ขบวนรถท่องเที่ยว KIHA 183 คึกคัก! ลุยขยายแผนให้บริการจาก 2 เป็น 4 วันต่อสัปดาห์ ดึง “ROYAL BLOSSOM” ร่วมให้บริการ 400 ทริปต่อปี ก่อนดันเป็น 700 ทริปต่อปี เล็งเปิดทางเลือกขายตั๋วแบบไม่รวมทัวร์ เสิร์ฟอาหารสุดฮิตบนรถไฟ ยึดโมเดลเครื่องบิน ชงสำนักนายกฯ แก้ประกาศขาย-ดื่มแอลกอฮอล์บนรถไฟขบวนท่องเที่ยวได้


นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า การให้บริการขบวนรถท่องเที่ยว(Tourist Train Line) ในรูปแบบขบวนรถพิเศษนำเที่ยวของการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) ได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้โดยสารทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ปัจจุบันจัดให้บริการเฉพาะช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ สัปดาห์ละ 2 วัน ด้วยขบวนรถไฟ KIHA 183 มีทั้งเช้าไปเย็นกลับ (วันเดย์ทริป) และพักค้างคืน รวมประมาณ 70 ทริปต่อปี โดยภายในปี 67 รฟท. มีแผนจะขยายการให้บริการเพิ่มขึ้นในวันธรรมดา รวมเป็นสัปดาห์ละ 4 วัน และเพิ่มขบวนรถพิเศษท่องเที่ยว SRT ROYAL BLOSSOM  เข้ามาให้บริการด้วย จะส่งผลให้มีขบวนรถพิเศษนำเที่ยวให้บริการรวมประมาณ 400 ทริปต่อปี ทั้งนี้ในอนาคตจะผลักดันให้เป็น 700 ทริปต่อปีด้วย




นายสุรพงษ์ กล่าวต่อว่า รฟท.อยู่ระหว่างการพิจารณานำอาหารที่มีชื่อเสียงตามแนวรถไฟ รวมถึงของดีวิถีริมรางขึ้นมาจำหน่ายบนขบวนรถไฟของขบวนรถไฟท่องเที่ยว อาทิ ข้าวผัดรถไฟ ห่อหมกวังก์พง ไก่ย่างบางตาล และอาหารที่ได้รับรางวัลมิชลิน โดยจะดำเนินการในลักษณะเดียวกับการให้บริการของสายการบิน ส่วนรูปแบบ และวิธีการจะเป็นอย่างไรนั้น อยู่ระหว่างการพิจารณา อาทิ สามารถเลือกสั่งอาหารต่างๆ ได้เองล่วงหน้า พร้อมกับการจองตั๋วโดยสาร หรือจะนำมาจำหน่ายบนตู้เสบียงเพิ่มเติม เป็นต้น ซึ่งการดำเนินการดังกล่าว เพื่อเป็นการยกระดับการให้บริการแก่ผู้โดยสาร และนักท่องเที่ยว ตลอดจนยังเป็นการยกระดับภาพลักษณ์ของ รฟท. สอดรับนโยบายของรัฐบาลในการกระตุ้นการท่องเที่ยว และยังถือเป็นอีกหนึ่ง Soft Power ของประเทศไทย

ADVERTISEMENT



นายสุรพงษ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ รฟท. ยังมีแนวคิดเปิดจำหน่าย และให้สามารถบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนขบวนรถไฟท่องเที่ยวได้ ซึ่งขณะนี้ รฟท. ทำหนังสือเสนอเรื่องดังกล่าวไปยังสำนักนายกรัฐมนตรีแล้ว เพื่อพิจารณาแก้ไขประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดสถานที่ หรือบริเวณห้ามขาย หรือบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนทางรถไฟ พ.ศ.2558 ในการยกเว้นบังคับใช้ประกาศดังกล่าวกับขบวนรถไฟท่องเที่ยว เนื่องจากประกาศฉบับนี้ระบุว่าห้ามไม่ให้ผู้ใดขาย หรือบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในบริเวณสถานีรถไฟ หรือในขบวนรถไฟที่อยู่บนทางรถไฟ ส่วนขบวนโดยสารอื่นๆ ยังคงให้ประกาศฯ บังคับใช้ตามปกติต่อไป อย่างไรก็ตามได้กำชับ รฟท. ว่า การเปิดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนขบวนรถไฟท่องเที่ยว จะต้องให้ความสำคัญสูงสุดในการควบคุมดูแลความปลอดภัยแก่ผู้โดยสารด้วย

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ ที่ รฟท. จะเปิดจำหน่ายตั๋วขบวนรถท่องเที่ยวแบบเดินทางเอง ไม่ต้องซื้อตั๋วรวมทัวร์เหมือนในปัจจุบัน ตามกระแสเรียกร้องของประชาชนบางส่วน นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ขบวนรถท่องเที่ยวเพิ่งจะเริ่มเปิดให้บริการมาไม่นาน ในระยะแรกนี้จึงขอให้การดำเนินงานในลักษณะนี้ไปได้ก่อน เมื่ออยู่ตัวสักพักจะมีนโยบายให้ปรับเพิ่มทางเลือกในการซื้อตั๋วขบวนรถท่องเที่ยวแบบไม่เป็นทัวร์ เพื่อให้ผู้โดยสารสามารถเดินทางเองได้ ส่วนเรื่องของราคาขบวนรถท่องเที่ยวที่มีบางส่วนมองว่า อาจจะแพงเกินไปหรือไม่ ตนมองว่า ควรจะดูรายละเอียดของราคาที่ซื้อด้วยว่า ประกอบด้วยอะไรบ้าง และเดินทางไปเส้นทางไหน อย่างไร วันเดย์ทริป หรือค้างคืน มีอาหาร มีที่พักรวมด้วยหรือไม่ ซึ่งตนได้กำชับ รฟท. แล้วว่า การคิดราคาต้องทำให้ผู้โดยสารได้ความคุ้มค่า และมีราคาไม่แพงจนเกินไป...
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43432
Location: NECTEC

PostPosted: 12/07/2024 10:57 am    Post subject: Reply with quote

‘เหยื่อเมาแล้วขับ’บุกการรถไฟฯ ค้านเลิกห้ามขายสุราบนรถไฟ
การเมือง
วันพฤหัสบดี ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 เวลา 14:50 น.

เหยื่อเมาแล้วขับ บุกรฟท. ค้านข้อเสนอ ยกเลิกมาตรการห้ามขาย ห้ามดื่มสุรา บนรถไฟและสถานี ทวงถามการเยียวยาเหยื่อ 10 ปีก่อน แนะควรพัฒนาการให้บริการ ปลอดภัย ตรงต่อเวลา ดีกว่าส่งเสริมคนเมา


เมื่อวันที่ 11 ก.ค. ที่การรถไฟแห่งประเทศไทย หัวลำโพง นายเจษฎา  แย้มสบาย ประธานเครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับกรุงเทพฯ นายธีรภัทร์ คหะวงศ์  ผู้ประสานงานเครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพเยาวชน พร้อมด้วย เครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์  เครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง เครือข่ายพัฒนาคุณภาพชีวิต  และเครือข่ายชุมชนลดปัจจัยเสี่ยง กว่า 50 คน ยื่นหนังสือถึงนายจเร รุ่งฐานีย รักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เพื่อคัดค้านการยกเลิกมาตรการห้ามขายหรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนรถไฟและภายในสถานีรถไฟ รวมถึงทวงถามการติดตามการเยียวยาและฟื้นฟูสภาพจิตใจครอบครัวเด็กหญิงจากคดีที่ถูกพนักงานของรฟท.ข่มขืน แล้วทิ้งศพริมทางรถไฟเมื่อปี 2557 ทั้งนี้ มีผู้แทนมารับหนังสือและจะรายงานให้รักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย รับทราบต่อไป


​นายเจษฎา กล่าวว่า จากกรณีเด็กหญิงถูกพนักงานรถไฟข่มขืน และทิ้งร่างน้องลงข้างทาง จนเสียชีวิต สร้างความสะเทือนใจกับประชาชนทั้งประเทศ เหตุเกิดเมื่อสิบปีที่ผ่านมา โดยหลังจากเหตุการณ์ เครือข่ายได้ร่วมกันผลักดันให้มีมาตรการห้ามขายห้ามดื่มเหล้าเบียร์บนรถไฟและสถานีรถไฟ จนมีประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดสถานที่หรือบริเวณห้ามขายหรือบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนทางรถไฟ พ.ศ. 2558 ประกาศ ณ วันที่ 5 ก.พ.2558 โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ต่อมาเครือข่ายฯ มีการติดตามการบังคับใช้กฎหมายมาต่อเนื่อง จึงไม่เห็นด้วยที่ รฟท.เสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติเมื่อวันที่ 4 ก.ค. 2567 ขอให้มีการพิจารณาทบทวน ยกเว้นสถานที่ หรือบริเวณห้ามขายหรือการดื่มแอลกอฮอล์ บริเวณสถานีรถไฟ หรือในขบวนรถเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ ซึ่งเป็นการเพิ่มความเสี่ยง  ความไม่ปลอดภัย  ปัญหาอาชญากรรม ความรุนแรง ทะเลาะวิวาท คุกคามทางเพศ จนไปถึงการเสียชีวิตย่อมตามมาอีกแน่นอน

นายธีรภัทร์ กล่าวว่า การรถไฟจะคิดง่ายๆ แบบนี้ไม่ได้ เราจะตอบครอบครัวของผู้สูญเสียในวันนั้นได้อย่างไร เพราะกฎหมายนี้เกิดขึ้นหลังจากเกิดเหตุร้ายกับน้อง  ก็เพื่อป้องกันไม่ให้เรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นกับคนอื่นอีก เครือข่ายฯ จึงขอแสดงจุดยืนและมีข้อเสนอต่อการรถไฟดังนี้ 1.ขอคัดค้านการยกเลิก ข้อยกเว้นการห้ามขายหรือบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในบริเวณสถานีรถไฟ หรือในขบวนรถไฟที่อยู่บนทางรถไฟ 2.ขอสอบถามความคืบหน้าไปยัง รฟท.เกี่ยวกับการช่วยเหลือเยียวยาเหยื่ออายุ 13 ปี ที่ถูกกระทำเมื่อ 10 ปีที่แล้ว 3.ขอเรียกร้องให้ รฟท.เร่งพัฒนาคุณภาพการบริการ ความปลอดภัยในการใช้รถไฟ ความตรงต่อเวลาของสถานีรถไฟ เพื่อประโยชน์ของประชาชนในการใช้บริการรถไฟมากยิ่งขึ้น มากกว่าการมุ่งจะขายและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งจะสร้างผลกระทบตามมาอีกมากมาย และ 4. ขอเรียกร้องให้เปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนก่อนการตัดสินใจต่อมาตรการนี้ เพื่อให้เกิดความรอบคอบมากที่สุด.
Wisarut wrote:
Anti Ancoholic activists have raised the concern after they have learnt that SRT is going to lift the ban on selling alcoholic drinks in the restaurant carriages of the trains by reminding the incident of r-a-p-e before m-u-r-d-e-r-i-n-g a girl by the drunk railway man who had thrown her naked body out of the train. https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_4664791
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 46393
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 13/07/2024 5:31 am    Post subject: Reply with quote

รฟท.เปิดแผนสร้าง 'ทางรถไฟเชื่อม 5 นิคมอุตสาหกรรม' รุกพื้นที่อีอีซี
Source - ฐานเศรษฐกิจ
Saturday, July 13, 2024 05:18

คมนาคม กางแผน รฟท.เดินหน้าศึกษาทางรถไฟเชื่อม 5 นิคมอุตสาหกรรม วงเงิน 3.2 พันล้านบาท หวังเพิ่มศักยภาพการขนส่งสินค้าทางรางในพื้นที่อีอีซี ผุดแผนปี 71-85 สร้างทางรถไฟเพิ่ม 6 แห่ง อุ้มผู้ประกอบการลดต้นทุนโลจิสติกส์

การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เร่งพัฒนาเส้นทางรถไฟเชื่อมต่อเข้าพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม หากสามารถดำเนินการได้ตามแผนที่วางไว้จะส่งผลให้ผู้ประกอบการเอกชนสนใจมาใช้การขนส่งระบบรางที่สะดวกและรวดเร็วมากขึ้น

รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ปัจจุบันการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้เดินหน้าโครงการพัฒนาทางรถไฟเชื่อมต่อนิคมอุตสาหกรรม เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาโครงข่ายรถไฟให้ครอบคลุมและเชื่อมโยงพื้นที่ทั่วประเทศและรองรับการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบได้อย่างไร้รอยต่อ (R-Map) ซึ่งจะช่วยเพิ่มความเชื่อมโยงในการเข้าถึงพื้นที่ ทำให้ผู้ประกอบการมีความสะดวกในการขนส่งสินค้าทางราง รวมทั้งลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์และลดระยะเวลาในการขนส่งที่จะช่วยเพิ่มฐานลูกค้า ทำให้มีปริมาณการขนส่งสินค้าทางรางมากขึ้น

ทั้งนี้รฟท.ได้จัดทำแผนงาน การพัฒนาทางรถไฟเชื่อมต่อนิคมอุตสาหกรรมที่มีความต้องการและมีความพร้อมในการดำเนินการในระยะเร่งด่วน (ปี 2566-2570) จำนวน 5 โครงการ ระยะทางรวม 14.4 กิโลเมตร (กม.) วงเงินรวม 3,261 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในปี 2570 ประกอบด้วย

1. เขตอุตสาหกรรมเหล็กของกลุ่มสหวิริยาสตีลอินดัสตรี ช่วงสถานีนาผักขวง และ SSI's Distribution Hub กับ SSI's Logistics Terminal จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 2.4 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 400 ล้านบาท โดยเอกชนเป็นผู้ดำเนินการศึกษารถไฟทางเดี่ยวและดำเนินการต่อไป

2. นิคมอุตสาหกรรมสีเขียวสำหรับสินค้าเกษตรและอาหาร กฟผ.แม่เมาะ ระยะที่ 1 : ช่วงสถานีแม่เมาะ-CY กฟผ.แม่เมาะ ระยะทาง 2 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 80 ล้านบาท ปัจจุบัน รฟท. อยู่ระหว่างขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี เพื่อสำรวจ ออกแบบรายละเอียดและจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม(อีไอเอ) วงเงิน 17 ล้านบาท แบ่งเป็นปีงบประมาณ 2568 จำนวน 3.4 ล้านบาท และผูกพันปีงบประมาณ 2569 จำนวน 13.6 ล้านบาท โดยเป็นการศึกษาสร้างรถไฟทางเดี่ยว

3. นิคมอุตสาหกรรม WHA ตะวันออก จังหวัดระยอง ระยะทาง 3 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 690 ล้านบาท ปัจจุบัน รฟท. อยู่ระหว่างขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีเพื่อสำรวจออกแบบรายละเอียด และจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม(อีไอเอ) วงเงิน 13 ล้านบาท แบ่งเป็นปีงบประมาณ 2568 จำนวน 2.6 ล้านบาท และผูกพันปีงบประมาณ 2569 จำนวน 10 ล้านบาท โดยเป็นการศึกษาสร้างรถไฟทางคู่

4. นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จังหวัดชลบุรี ระยะทาง 5 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 1,071 ล้านบาท เบื้องต้น รฟท. อยู่ระหว่างขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีเพื่อสำรวจออกแบบรายละเอียดและจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม(อีไอเอ) วงเงิน 21 ล้านบาท แบ่งเป็น ปีงบประมาณ 2568 จำนวน 4.2 ล้านบาท และผูกพันปีงบประมาณ 2569 จำนวน 16.8 ล้านบาท โดยเป็นการศึกษาสร้างรถไฟทางคู่

5. นิคมอุตสาหกรรมเวิร์ล จังหวัดลำพูน ระยะทาง 2 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 1,020 ล้านบาท ขณะนี้ รฟท. อยู่ระหว่างขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีเพื่อสำรวจออกแบบรายละเอียดและจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบ สิ่งแวดล้อม วงเงิน 20 ล้านบาท แบ่งเป็น ปีงบประมาณ 2568 จำนวน 4 ล้านบาท และผูกพันปีงบประมาณ 2569 จำนวน 16 ล้านบาทโดยเป็นการศึกษาสร้างรถไฟทางคู่

รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า ทั้งนี้ตามแผนหากได้รับจัดสรรงบประมาณเพื่อดำเนินการศึกษาแล้ว หลังจากนั้นจะดำเนินการออกแบบรายละเอียดความเหมาะสมของโครงการฯ (Detail Design) ใช้ระยะเวลาประมาณ 1 ปี คาดแล้วเสร็จภายในปี 2568 หลังจากนั้นจะขอรับจัดสรรงบประมาณเพื่อดำเนินการก่อสร้างได้ภายในปี 2568 โดยโครงการนี้รฟท.จะเป็นผู้ดำเนินการเองทั้งหมด เบื้องต้นการก่อสร้างแนวเส้นทางรถไฟจะเชื่อมต่อเขตนิคมอุตสาหกรรมได้โดยตรง

"ปัจจุบันอุตสาหกรรมรถยนต์ได้เริ่มมีบทบาทมากขึ้นในไทย อีกทั้งไทยยังมีความสามารถในการผลิตรถยนต์สูงขึ้น โดยโครงการเหล่านี้ส่วนใหญ่อยู่ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพในการพัฒนา หากรฟท. สามารถผลักดันได้จะเป็นโมเดลแรก ที่จะช่วยพัฒนาระบบรางบนโครงสร้างพื้นฐานของรฟท.ที่ดำเนินการไว้อย่างต่อเนื่อง"
ขณะเดียวกันในปี 2571-2575 รฟท.ยังมีแผนเดินหน้าโครงการพัฒนาทางรถไฟเชื่อมต่อนิคมอุตสาหกรรม อีกจำนวน 3 แห่ง ระยะทางรวม 19.60 กิโลเมตร (กม.) วงเงินรวม 7,132 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.นิคมอุตสาหกรรมแก่งคอย ระยะทาง 5.1 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 1,749 ล้านบาท2.นิคมอุตสาหกรรมสินสาคร ระยะทาง 6 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 3,791 ล้านบาท 3.เขตอุตสาหกรรมเหล็กของกลุ่มสหวิริยาสตีลอินดัสตรี ระยะที่ 2 ช่วงสถานีนาผักขวงและอุตสาหกรรมเหล็กสหวิริยาฯ ท่าเรือประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 8.5 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 1,592 ล้านบาท

นอกจากนี้ในปี 2576-2585 ยังมีโครงการพัฒนาทางรถไฟเชื่อมต่อนิคมอุตสาหกรรม อีกจำนวน3 แห่ง ระยะทางรวม 100.4 กิโล เมตร (กม.) ประกอบด้วย 1.นิคมอุตสาหกรรมเอเชีย สุวรรณภูมิ ระยะทาง 6 กิโลเมตร (กม.) 2.นิคมอุตสาหกรรมภาคใต้ จังหวัดสงขลา ระยะทาง 11.4 กิโลเมตร (กม.) และ 3.นิคมอุตสาหกรรมสีเขียวสำหรับสินค้าเกษตรและอาหาร กฟผ.แม่เมาะ ระยะที่ 2 : ช่วง CY กฟผ.แม่เมาะ-สถานีงาว จังหวัดลำปาง ระยะทาง 78 กิโล เมตร (กม.)

ที่มา: นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 14 - 17 ก.ค. 2567


SRT Reveals Plan to Build 'Rail Link Connecting 5 Industrial Estates' in the EEC Region

Source: Thansettakij
Saturday, July 13, 2024, 05:18


The Ministry of Transport unveils SRT's plan to study a railway connecting five industrial estates, with a budget of 3.2 billion baht, aimed at enhancing rail freight transportation in the EEC region. The plan spans 2028-2042, proposing the construction of six new rail lines to help businesses reduce logistics costs.

The State Railway of Thailand (SRT) is accelerating the development of rail routes connecting industrial estates. If the plan proceeds as scheduled, private businesses will be more inclined to use the convenient and swift rail transport system.

A report from the Ministry of Transport reveals that SRT is currently advancing a project to develop rail connections to industrial estates. The feasibility study aims to expand and integrate the rail network nationwide and support seamless multimodal transportation (R-Map). This would enhance accessibility, facilitate freight rail transport, reduce logistics costs, and shorten delivery times, thus increasing the customer base and the volume of rail freight.

SRT has drafted a plan to urgently develop rail connections to industrial estates that are ready and in need (2023-2027), comprising five projects with a total distance of 14.4 kilometers and a budget of 3.261 billion baht. The projects are expected to be operational by 2027 and include:

1. Sahaviriya Steel Industries Group Industrial Zone, between Napakhuan Station and SSI's Distribution Hub with SSI's Logistics Terminal in Prachuap Khiri Khan, spanning 2.4 kilometers with a budget of 400 million baht. The private sector will conduct a single-track rail study.

2. Green Industrial Estate for Agricultural and Food Products, EGAT Mae Moh Phase 1: Mae Moh Station - CY EGAT Mae Moh, spanning 2 kilometers with a budget of 80 million baht. SRT is currently seeking an annual budget allocation for a detailed design and environmental impact assessment (EIA) report, with 17 million baht allocated over fiscal years 2025-2026.

3. WHA Eastern Industrial Estate in Rayong, spanning 3 kilometers with a budget of 690 million baht. SRT is seeking an annual budget for a detailed design and EIA report, with 13 million baht allocated over fiscal years 2025-2026.

4. Amata City Industrial Estate in Chonburi, spanning 5 kilometers with a budget of 1.071 billion baht. SRT is seeking an annual budget for a detailed design and EIA report, with 21 million baht allocated over fiscal years 2025-2026.

5. World Industrial Estate in Lamphun, spanning 2 kilometers with a budget of 1.020 billion baht. SRT is seeking an annual budget for a detailed design and EIA report, with 20 million baht allocated over fiscal years 2025-2026.

A report from SRT states that after receiving the budget allocation for the study, a detailed design (Detail Design) will be conducted, taking approximately one year, expected to be completed by 2025. Construction can then commence by 2025, with SRT handling the entire project. Initially, the rail routes will directly connect the industrial estates.

"Currently, the automotive industry is becoming more prominent in Thailand, and the country’s automotive production capacity is increasing. These projects are primarily located in the Eastern Economic Corridor (EEC), an area with high development potential. If SRT can push these forward, it will serve as the first model for developing rail systems on the existing infrastructure," the report says.

Additionally, from 2028-2032, SRT plans to advance rail connection projects to three more industrial estates, spanning a total of 19.6 kilometers with a budget of 7.132 billion baht. These projects include:

1. Kaeng Khoi Industrial Estate, spanning 5.1 kilometers with a budget of 1.749 billion baht
2. Sinsakhon Industrial Estate, spanning 6 kilometers with a budget of 3.791 billion baht
3. Sahaviriya Steel Industries Group Industrial Zone Phase 2, between Napakhuan Station and Prachuap Khiri Khan Port, spanning 8.5 kilometers with a budget of 1.592 billion baht

Furthermore, from 2033-2042, three additional industrial estate rail connection projects are planned, spanning a total of 100.4 kilometers. These include:

1. Asia Suvarnabhumi Industrial Estate, spanning 6 kilometers
2. Southern Industrial Estate in Songkhla, spanning 11.4 kilometers
3. Green Industrial Estate for Agricultural and Food Products, EGAT Mae Moh Phase 2: CY EGAT Mae Moh - Ngao Station in Lampang, spanning 78 kilometers

Source: Thansettakij Newspaper, July 14-17, 2024 edition.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43432
Location: NECTEC

PostPosted: 15/07/2024 6:04 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
รฟท.เปิดแผนสร้าง 'ทางรถไฟเชื่อม 5 นิคมอุตสาหกรรม' รุกพื้นที่อีอีซี
Source - ฐานเศรษฐกิจ
Saturday, July 13, 2024 05:18


Source: Thansettakij Newspaper, July 14-17, 2024 edition.


SRT Plan for the Branch lines to Industrial estates to boost up the industries.
1. Here is the list for the plan in 2023 - 2027:
1.1. Na Phakkhuang Railway station to Sahaviriya Steel Industries Distribution center and Sahaviriya Steel Industries Logistic Hub within Sahaviriya Steel Industries Group Industrial Zone (SSI) - 2.4 km at 400 million Baht => this one done by SSI as single track branch line
1.2 Mae Mo railway station to Container Yard of EGAT Green, Agricultural and Food Industrial Estate - 2 km single track at 80 million Baht => SRT has an obligation to work on EIA in 2025 - 2026 with total budget of 18 million Baht
1.3 Map Ta Phut railway station to WHA East Industrial Estate -3 km double track at 690 million Baht => SRT has an obligation to work on EIA in 2025 - 2026 with total budget of 12.6 million Baht
1.4 Phan Thong railway station to Amata City Chonburi - 5 km double track at 1,071 million Baht => SRT has an obligation to work on EIA in 2025 - 2026 with total budget of 21 million Baht
1.5 Lamphun Railway station - World Industrial estate in Lamphun - 2 km double track at 1,020 million Baht => SRT has an obligation to work on EIA in 2025 - 2026 with total budget of 20 million Baht

2. Here is the list for the middle term plan in 2028 - 2032:
2.1 Ban Chong Tai railway station to Kaeng Khoi Industrial Estate - 5.1 km at 1,749 million baht
2.2 Khok Kwai railway station to Sin Sakhon Industrial estate - 6 km at 3,791 million baht
2.3 Na Phakkhuang Railway station to Sahaviriya Steel Industries Group Industrial Zone Phase 2 - Na Phakkhuang Railway station to Prachuab kirikhan Port - 8.5 km at 1,592 million baht

3. Here is the list for the long term plan in 2033 - 2042:
3.1 Preng Railway station to Asia Industrial Estate Suvannabhum - 6 km
3.2 Ban Din Lan railway station to Southern Industrial Estate in Tha Chang township, Bang Klam district of Songkla - 11.4 km
3.3 Mae Mo railway station to Container Yard of EGAT Green, Agricultural and Food Industrial Estate Phase 2 - Ngao to Container Yard of EGAT Green, Agricultural and Food Industrial Estate - 78 km - effectively creating the bypass to allow the train to Chiang Mai to access to Denchai - Chiang Rai - Chiang Khong
https://www.thansettakij.com/business/economy/601533
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 481, 482, 483, 484, 485, 486  Next
Page 482 of 486

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©