จากเมืองหลวง(ไทย) .... สู่เมืองหลวง(ลาว)

[srinopkun]

เป็นครั้งแรกนะครับ ที่มีรถไฟไทยเดินทางจากเมืองหลวงของไทย (กทม.) สู่เมืองหลวงของลาว (เวียงจันทน์) อย่างจริงๆซักที

แน่นอน ผมน่ะไปแน่ๆ เพราะเห็นกันมาตั้งแต่ "สุดปลายรางที่ท่านาแล้ง"
คราวนี้แหละ จะได้"สุดปลายรางที่คำสะหวาด" แล้ว

ก่อนอื่น ที่มาที่ไปของการมีวงเล็บต่อท้ายชื่อสถานีก่อน ว่าทำไม ???

-------------------------------------------------------

ทำไมต้องมีวงเล็บ(คำสะหวาด) ต่อท้ายด้วย

อ๋อ ทางการรถไฟลาวเกรงว่าผู้โดยสารจะสับสนระหว่างสองสถานี
ซึ่งก็มีเยอะที่สับสนแล้วเอามาทำคลิปบ่น/ด่า ทางรถไฟลาว
เพราะความใกล้เคียงกันของชื่อสถานีสองแห่ง ทำให้"เป็นเรื่อง" แหละ

สถานีรถไฟลาว-จีน ที่วิ่งจากเวียงจันทน์ไปบ่อเต็น ถึงคุนหมิงน่ะ ชื่อ .....
"สถานีรถไฟนครหลวงเวียงจันทน์"



ซึ่งใช้ชื่อภาษาอังกฤษว่า ..... Vientiane Railway Station ไปก่อนซะแล้ว

** ครั้นมาสถานีรถไฟลาว-ไทย ทีแรกน่ะ ใช้ชื่อ "สถานีรถไฟเวียงจันทน์" นานแล้วแหละ
แต่ .... ภาษาอังกฤษสิ เหมือนกันเด๊ะเลย 555
เอาไงดี ตั้งชื่อไว้ก่อนระบบรถไฟลาว-จีนสร้างด้วยซ้ำไป
เอางี้ละกัน วงเล็บชื่อตำบลที่ตั้งสถานีไปด้วยนะ นะ นะ
เอ๊า ได้ครับ ไม่มีปัญหา

ก็เลยเป็นที่มาของชื่อ ...... สถานีรถไฟเวียงจันทน์(คำสะหวาด) .... นั้นแล




โอเค หมดเรื่อง ได้สร้างได้ทำงานกันต่อซะที

[srinopkun]

ด้วยความที่เห็นตรงนี้มาตั้งแต่ไถปรับดิน มาจนสร้างเป็นอาคารสถานี เห็นการวางรางต่อจากท่านาแล้ง
(ผมเคยเขียนบทความ "สุดปลายรางที่ท่านาแล้ง" นานแล้วครับ)

เห็นวันทำพิธีเปิดสถานีอย่างเป็นทางการเมื่อ 30 ตค. 2566

ดังนั้น จึงยินดีและดีใจที่ได้มีวันนี้ซักที เนอะ

วันที่ ...... "สุดปลายรางที่คำสะหวาด" (ซักที ... เฮ้อ)







------------------------------------------------------------------------

ความฮา สำหรับคนบ้าเห่อที่ซื้อตั๋วไม่ทัน มีดังนี้ครับ

จอดรถ จิ้มๆดูแอพซื้อตั๋วออนไลน์กับขบวน 133 วันที่ 19 กค. .... เออ รถนอนเตียงล่างว่าง 6 ที่ เตียงบนว่าง 17 ที่
แค่เดินจากรถมาซื้อตั๋วที่สถานี ไม่ถึง 50 เมตรด้วยซ้ำ แว๊บบบบ เตียงล่างหมดทันทีที่ผมแจ้งเจ้าหน้าที่ว่าซื้อตั๋วเตียงล่าง
"เหลือเตียงบน 5 ที่ครับ"
"ขอเป็นวันที่ 20 เตียงล่างครับ"
เจ้าหน้าที่กดให้ทันใด และแจ้งว่าเหลือ 2 ที่ครับ
"เอาครับ ๆ ๆ ๆ ๆ 1 ที่ กดเลยพี่ เดี๋ยวพลาด"



ฮ่า ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ขอบคุณคร้าบบบบบบบบบบบบ

[srinopkun]

ไปครับ ไปลาวกัน








รถนอนเจอาร์ ได้ชื่อเรื่องความเย็นเจี๊ยบอยู่แล้ว ขนาดมีผ้าม่านกั้นนะเนี่ย อูย




--------------------------------------------------------------

21 กค. 2567 สถานีหนองคาย

ขบวน 133 ถึงหนองคายช้าไปเล็กน้อย เริ่มช้าที่อุดรธานีครับ หลังจากที่วิ่งตรงเวลามาตลอดคืน
เนื่องจากผู้โดยสารขึ้นใหม่ ยังไม่คุ้นชินกับการเดินทางข้ามประเทศด้วยรถไฟจากอุดร
(เดิมมีวิ่งแค่หนองคาย - ท่านาแล้ง เท่านั้น)

เมื่อถึงหนองคาย ทุกคนต้องจากรถเพื่อมาตรวจพาสปอร์ตที่ตู้ตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย
ซึ่ง อยู่ใกล้กับตัวขบวนรถไฟที่สุดในโลก จริงๆนะเออ


ผมคุ้นชินกับตู้ตรวจคนเข้าเมืองตรงนี้อยู่แล้ว จึงลงมาแล้วเดินไปตรวจพาสปอร์ตคนแรกเลย
ซึ่งรถนอนคันที่มานั้น อยู่ใกล้จุดตรวจกว่าใคร เพราะอยู่คันแรก ๆ ของขบวนรถ

แต่ตรวจเสร็จ มีผู้โดยสารยืนรอขึ้นรถอยู่กลุ่มใหญ่ๆเลยละ
(เขามาก่อนขบวน 133 จะไปถึงครับ มาขบวน 25 ซึ่งถึงหนองคายก่อนขบวน 133 นั่นเอง)



อ้อ 5233 ทำขบวน 133 มาครับ

พอถึงก็สับเปลี่ยนออกไปพักและพารถพนักงาน 3 คันหน้าออกไปด้วย
ก็จะเหลือชุด"รถข้ามประเทศ" 5 คัน เป็นชั้น 2 ปรับอากาศ 3 คัน ชั้น 3 พัดลม 2 คัน

และนำ 4150 มาทำขบวนสำหรับ"ข้ามแดน"ครับ





ข้ามสะพานฯยังไง ไม่ได้ถ่ายหรอกครับ เนื่องจากเคยถ่ายทั้งรูปทั้งคลิปจนชินแล้ว
ก็เลยนั่งมองขบวนรถเคลื่อนตัวข้ามสะพานมิตรภาพ 1 อย่างมีความสุข

-------------------------------------------------

ถึงสถานีเวียงจันทน์(คำสะหวาด) ทุกคนต้องขนของลงจากรถ และมาเข้าแถวตรวจคนเข้าเมือง



ณ จุดนี้ เจ้าหน้าที่จะเดินแจกแบบฟอร์มสำหรับกรอกเข้าเมือง แนบพาสปอร์ต
ก็จะวุ่นวายหาปากกากันใหญ่ ฮิ ฮิ

ผมน่ะเหรอ เขียนมาเรียบร้อยตั้งแต่อยู่บนรถแล้วครับ และรับใบใหม่ใส่กระเป๋าไว้ครั้งต่อไป
ทำแบบนี้มานานแสนนาน ทำให้เรารวดเร็วกว่าคนอื่นแหละ



ตู้ตรวจนี่ทำแล้วแต่ใช้ไม่ได้ เดินเหยียบเดินเตะสายสัญญาณกันอุตลุต เลยต้องถอยร่นเข้าไปอยู่ในห้องทำงานตามเดิม



ผมเดินดูทุกมุม เห็นรอยเท้าเยียบย่ำสาย LAN ให้กระจุยไปหมด เขาเลยต้องถอยร่นกลับไปอยู่ในห้องทำงาน

[srinopkun]

พ้นจากจุดตรวจพาสปอร์ต ก่อนออกจากเขตควบคุม จะมีเจ้าหน้าที่คอยขอดูเล่มพาสปอร์ตอีกครั้ง เพื่อให้คุณมั่นใจว่า ได้ตรวจลงตราของทั้งสองฝั่งมาเรียบร้อยแล้วนะ

เพราะมีปัญหาเรื่องนี้กันประจำ ก็ไม่ดูไม่สังเกตว่าเขาทำอะไรกับพาสปอร์ตเราบ้าง มัวแต่คุยกันมั่ง เล่นมือถือมั่ง (ใช้มือถือนี่เห็นประจำ ไม่รู้ว่าติดอะไรนักหนา มือถือเนี่ย)

ดังนั้น ผ่านคนนี้ออกไปได้ แสดงว่าเรียบร้อยเด้อ

[srinopkun]

มาถึงสถานีเวียงจันทน์(คำสะหวาด) แล้ว .... จะพบกับคำถามยอดฮิต

Q1. แลกเงินได้ที่ไหน ?
A1. ไม่มีที่ให้แลกเงินครับ ทางการห้ามบุคคลธรรมดาทำการแลกเปลี่ยนเงินตรา

Q2. อ้าว แล้วทำไงถึงจะมีเงินจ่ายค่ารถเข้าเมืองล่ะ ?
A2. เตรียมเงิน 30 บาท ครับ สำหรับรถเมล์เข้าเมือง สาย 12
(สถานีรถไฟเวียงจันทน์ - ตลาดเช้า)
ค่าโดยสารน่ะ 20,000 กีบ แต่เมื่อใช้เรทธนาคารกลาง 670 กีบ ต่อ 1 บาท
ก็จะเท่ากับ 29.85 บาท
(ไม่ต้องไปเชื่อข่าวลือว่าเขาจะโขกเรท 250 - 300 / 1 นั่นก็"เว่อร์" เกินไป)





Q3. แล้วถ้าจะไปแท๊กซี่, สามล้อ, รถตู้, ตุ๊กๆ ฯลฯ ล่ะ
A3. อ่ะ นี่ครับ หลักฐาน ราคาเขาชัดเจนนะ

- รถตู้ไปที่ต่างๆ มีป้ายบอกราคาเสร็จสรรพ






- แท๊กซี่ ก็มีราคาชัดเจนนะครับ




- สองแถว ก็มีนะ




- ตุ๊ก ๆ ก็มีเด้อ




-------------------------------------

หยิบเงินไทยออกมาจ่าย แล้วจิ้มเครื่องคิดเลขดูเด่ะ ว่าเขาเอาเปรียบหรืออำนวยความสะดวก
ดูเอาเองครับ

อ้อ .... เวลาทอน เขาทอนมาเป็นเงินบาทให้นะ ไม่ต้องกลัวหรอก

ตัวอย่าง 1. ค่าโดยสารรถตู้ไปสถานีรถไฟลาวจีน 60,000 กีบต่อคน หรือ 90 บาท
คุณหยิบแบ๊งค์ 100 จ่ายไป เขาก็ทอนเหรียญ 10 บาทมาให้ เอาเด๊ จบมั้ย
(ขอความกรุณาอย่าทะลึ่งหยิบแบ๊งค์พันจ่ายล่ะ อย่างงี้คือเราเริ่มก่อนนะ)
* ยังไม่ได้แลกเงิน เงินบาทที่เป็นแบ๊งค์ปลีกน่ะ ต้องมี อย่า"หาทำ"ไม่เข้าเรื่อง

2. แท๊กซี่ ไปตลาดเช้า 250,000 กีบ คิดเป็นเงินไทยก็ 373.13 บาท
อ่ะ หยิบแบ๊งค์ 500 จ่าย เขาก็ทอนมาเป็นเงินบาท 125 บาทนะ
(เขามีแค่เหรียญ 10 เหรียญ 5 ไม่มีเหรียญบาทหรอก มันหนักกระเป๋าเขา)
บางคนก็ทอนมา 100 บาท กับอีก 16,000 กีบ
(แบ๊งค์หมื่น 1 ใบ + แบ๊งค์ 2,000 อีก 3 ใบ)


เขาก็รักษาชื่อเสียงประเทศเขานะ เรื่องความซื่อๆเนี่ย


** ลองมาแล้วกับตัวผมเองทั้งหมดที่บอกมาสำหรับเรื่องรับเงิน - ทอนเงิน ก็ประกาศแล้วไงจะไปเก็บข้อมูลของจริงมาให้ดูกัน

[srinopkun]

Q4. แล้วตกลงว่าจะบอกมั้ย ว่าแลกเงินได้ตรงไหน
A4. บอกอยู่แล้ว ก็ไปเพื่อการช่วยเหลือคนไทยไม่ให้โดนตามข่าวปล่อยไง

* ย้ำ ต้องเข้าเมืองก่อนนะครับ แถวคำสะหวาดไม่มีที่แลกหรอก ฟันธง

- ถ้ามารถเมล์ ลงรถเมล์ที่ท่ารถตลาดเช้านะ ที่แลกเงินเพียบ เอาแบบใกล้ๆเลยนะ
เดินออกมาทางที่รถเมล์วิ่งเข้าไปตะกี้น่ะ ออกมาที่ริมถนน เดินเลาะมาทางซ้าย
ตรงนั้นจะเป็นตึกที่ขายตั๋วรถโดยสารระหว่างประเทศจากเวียงจันทน์ไปหนองคาย,
อุดร, กทม.
หน้าตึกมีร้านค้าอยู่ เข้าไปเลยครับ เรทธนาคาร 670/1 แต่ที่ร้านให้ 700/1
ก็แลกมาแล้ว เมื่อวานนี่แหละ (21 กค.)

หรือจะเดินข้ามถนนมาทางทิศตะวันตก ก็มีบูธธนาคารเยอะแยะในตลาดเช้ามอลล์
ทั้งตึกเก่าและตึกใหญ่
แลกที่ธนาคารสิ มีกี่หมื่นบาทจะไปแลก .... เชิญจ้า
นี่ก็แลกมาแล้วเช่นกัน เมื่อวานเหมือนกัน ของแทร่

ที่อื่น .... ไม่รู้ครับ วันนี้ก็ไม่ได้ออกไปไหนเลยไม่รู้ว่าจะไป"ลองแลก"ได้ที่ไหนบ้าง

[srinopkun]

มีแคมเปญนะเออ





อะอ๊ะ ต้องลองครับ ต้องลอง




ไงล่ะ ๆ ๆ 544.7 / 1 ไงล่ะ
(ก็บอกแล้วไง เพิ่งไปแลกเงินสดได้ 700/1 ร้านแรก อีกร้านนึงแลกไปสองหมื่น ได้เรท 710/1)

ถ้าไปกดเงินสดตามตู้เอทีเอ็มบ้านเขา ก็เรทนี้แหละครับ 544 - 545 / 1 แถมโดนค่าธรรมเนียมกดเงินข้ามแดน 100 บาท นะจ๊ะ

ดังนั้น ไม่แนะนำเด้อ 55555

[srinopkun]

บทส่งท้าย ....

ชาวลาวชอบขบวน 134 มากครับ จองซื้อที่นั่งเกือบเต็มทุกวัน

ผมสัมภาษณ์มาเยอะมาก ทุกคนเลยว่าชอบเพราะค่าโดยสารถูกมาก
ถูกจริงๆครับ ชั้น 3 นั่ง จากเวียงจันทน์ถึงกรุงเทพ 281 บาท
เพราะถ้าเขามารถทัวร์ ไม่ได้ราคานี้แน่นอน
* รถประจำทางที่วิ่งไกลๆ เป็นรถแอร์ทั้งหมดนานแล้ว แหงละ รถแอร์แพงกว่าสิ

ขาไป ขบวน 133 ยังมีที่นั่งชั้น 3 เหลือเยอะกว่าขากลับ ขบวน 134 นะเออ

------------------------------------------------------------------------------------

วางแผนแล้วแหละ ไปครั้งหน้า ไป/กลับ กับรถด่วนพิเศษ CNR ขบวน 25/26 ดีกว่า
แล้วไปซื้อตั๋วรถข้ามประเทศที่อุดรมั่ง หนองคายมั่ง ตามอัธยาศัย

เรื่องของเรื่องคือ ถ้ามาขบวน 25 ลงหนองคายแล้วต้องเดินไปนู้นนนน เกือบถึงแยกไฟแดงหน้าด่านนู่น ถึงจะมีของกินอร่อยๆตอนเช้า



คือถ้าเดินไปกินร้านนี้ละก็ ผมไม่เดินย้อนกลับมาสถานีหนองคายครับ เลี้ยวขวาก็ด่านสะพานแล้ว ข้ามด่านรถยนต์ไปโลด 555

ลงอุดรสิ ของกินเพียบ หน้าสถานีอุดรนี่ไม่ต้องห่วงเลย มีทุกอย่างที่อยากกิน 5555




ขากลับเหมือนกัน นั่งรถไฟข้ามมาหนองคาย ตรวจพาสปอร์ตเสร็จ เดินออกมาหน้าสถานีรถไฟ

ข้าวกระเพราเนื้อ เจ้าเก่า กินมานานมากกกก สองจานเบิ้ลเลย

ยังเหลือเวลามาลัลลาที่สถานี แวะซื้อกาแฟสดกิน แล้วค่อยเดินไปขึ้นขบวน 26 (ออกตั้ง 19.40 น. นู่น)