หนังดังกับรถไฟ (แตกหน่อจ้า)

[Mongwin]

ได้รู้จักเธอ ได้ตกหลุมรักเธอ ผมจะคิดถึงช่วงเวลานั้นตลอดไป #18x2BeyondYouthfulDays #รักเรายังคิดถึง
U72
Jun 11, 2024


https://www.youtube.com/watch?v=1sWK1_K820o

ได้รู้จักเธอ
ได้ตกหลุมรักเธอ
ผมจะคิดถึงช่วงเวลานั้นตลอดไป
#18x2BeyondYouthfulDays #รักเรายังคิดถึง
ภาพยนตร์รักเรียกน้ำตาจากผกก. The Last 10 Years
20 มิถุนายน ในโรงภาพยนตร์


Albumdara
14 มิ.ย. 67

เปิดโลเคชันสุดโรแมนติกในไต้หวันและญี่ปุ่น

สถานที่ ถ่ายทำภาพยนตร์ “18 x 2 Beyond Youthful Days รักเรายังคิดถึง”

18 x 2 Beyond Youthful Days เกิดขึ้นได้เมื่อ “จางเจิ้น” (Chang Chen) นักแสดงมากความสามารถจากไต้หวันผู้มีชื่อเสียงในระดับนานาชาติได้ไปอ่านบทความท่องเที่ยวเรื่อง "18 x 2 Youth: A Slow Journey Through Japan" ซึ่งเขียน โดย Jimmy บทความนี้สร้างความฮือฮาอย่างมากในไต้หวัน จางเจิ้นก็เป็นหนึ่งในผู้ที่ประทับใจในเรื่องราวที่ไม่เหมือนใครเรื่องนี้สุด ๆ เขาเลยมีความคิดที่จะนำมาทำเป็นภาพยนตร์ จนเขาได้รู้จักกับผู้กำกับญี่ปุ่นหน้าใหม่ไฟแรง มิจิฮิโตะ ฟูจิอิ ซึ่งเป็นคนที่มีเชื้อสายไต้หวันและมีความคิดอยากสร้างภาพยนตร์ที่ไต้หวันมาแต่อายุ 20 ปี เมื่อความต้องการของทั้งคู่ตรงกันโปรเจกต์ระดับนานาชาติเรื่องนี้จึงได้เกิดขึ้น

สถานที่ถ่ายทำในเรื่องนี้มีการปรับเปลี่ยนจากต้นฉบับเล็กน้อย โดยต้นฉบับ จิมมี่กำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยในไทเป และบ้านเกิดของเขาตั้งอยู่ในเจียอี้ (ในภาษาฮกเกี้ยนไต้หวัน/ภาษาญี่ปุ่น เรียก คากิ) เมืองทางภาคใต้ของไต้หวัน แต่เมื่อทีมงานไปสำรวจสถานที่แล้วรู้สึกว่าเมืองนี้แม้จะสวยงามแต่มันยังไม่ค่อยสร้างความแตกต่างให้กับหนังมากนักเพราะเมืองนี้เป็นเมืองที่ได้รับอิทธิพลญี่ปุ่นมาเยอะ ผู้กำกับ มิจิฮิโตะ ฟูจิอิ จึงเสนอไอเดียให้เปลี่ยนเป็นเมืองไถหนาน จังหวัดที่เก่าแก่ที่สุดในไต้หวัน ซึ่งเป็นบ้านเกิดของปู่เขา ซึ่งเมื่อไปแล้วรู้สึกได้ว่า สถานที่แห่งนี้ยังคงรักษาวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และความอบอุ่นเอาไว้ และสัมผัสได้ถึงการมีอยู่ของญี่ปุ่น

ส่วนการถ่ายทำในญี่ปุ่น จิมมี่เดินทางย้อนรอยไปในความทรงจำที่เขาเคยมีร่วมกับอามิ เขาออกจากโตเกียวไปยังคามาคุระ ไปยังนากาโนะ ไปยังนีงาตะ และไปยังฟุกุชิมะ ซึ่งทางกองถ่ายได้รับการสนับสนุนจากบริษัท East Japan Railway ทำให้เดินทางสะดวก โดยที่ญี่ปุ่นจะถ่ายทำไปตามสถานการณ์จริงแบบเดียวกับการถ่ายสารคดี โดยเริ่มจากคามาคุระเพราะที่นี่เป็นเหมือนแดนศักดิ์สิทธิ์ของแฟนการ์ตูน 'SLAM DUNK' ที่ทุกคนต้องมาเยือน ส่วนฉากเด็ดในญี่ปุ่นที่ทีมงานหวังว่าผู้ชมจะชอบเพราะถ่ายทำกันลำบากมาก คือฉากภูมิทัศน์อันสวยงามที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะขณะที่รถไฟออกจากอุโมงค์ เพราะทีมงานมีเวลาเพียงไม่กี่วินาทีและหวังว่าผู้ชมจะสนุกกับการตามรอยหนังเรื่องนี้เมื่อออกฉายแล้ว

"18 x 2 Beyond Youthful Days รักเรายังคิดถึง"
20 มิถุนายน ในโรงภาพยนตร์
สกู๊ปภาพยนตร์
https://www.facebook.com/albumdara.fanpage/posts/850797403735502


Rediscover Romance: Filming Locations of "18 x 2 Beyond Youthful Days" in Taiwan and Japan

"18 x 2 Beyond Youthful Days," an international collaboration inspired by the viral travelogue "18 x 2 Youth: A Slow Journey Through Japan," takes viewers on a nostalgic journey through picturesque locations in both Taiwan and Japan.

Taiwan: A Blend of Tradition and Warmth

Originally, the story was set in Chiayi, a city with Japanese influences. However, director Michihito Fujii, drawing on his family roots, decided to shift the backdrop to Tainan. Tainan, Taiwan's oldest city, offers a rich tapestry of history, culture, and warmth, subtly evoking a Japanese ambiance.

Japan: A Train Ride Through Memory Lane

The Japanese leg of the journey follows Jimmy's nostalgic trail through Tokyo, Kamakura, Nagano, Niigata, and Fukushima. Supported by East Japan Railway Company, the production team captured these locations in a documentary-style approach, offering a glimpse into the authentic beauty of Japan.

Kamakura, a popular destination for fans of the manga "SLAM DUNK," features prominently. One challenging yet rewarding scene showcases a breathtaking snow-covered landscape as a train emerges from a tunnel.

Experience the magic of "18 x 2 Beyond Youthful Days," coming to theaters on June 20th.

[Mongwin]

สุดยอดวรรณกรรม สู่จอภาพยนตร์ครั้งแรก "โต๊ะโตะจัง เด็กหญิงข้างหน้าต่าง" 15 สิงหาคม นี้
Source - บ้านเมืองออนไลน์
Sunday, July 07, 2024 11:56


https://www.youtube.com/watch?v=S_3yPYbITvs

ฉายแสง แอด.เวนเจอร์ ร่วมมือพันธมิตร TOHO ส่งมอบความประทับใจจากวรรณกรรมเยาวชนชั้นเยี่ยมจากสำนักพิมพ์ ผีเสื้อญี่ปุ่น สู่ หนังอนิเมะ "Totto-Chan: The Little Girl at the Window โต๊ะโตะจัง เด็กหญิงข้างหน้าต่าง" ได้ ชินโนะสุเกะ ยาคุวะ (ผลงาน "Doraemon series) รับหน้าที่กำกับ และ ร่วมเขียนบทโดย คุโรยานางิ เท็ตสิโกะ และ โยสุเกะ ซูซูกิ สามารถรับชมได้ทุกเพศ ทุกวัย ภาพยนตร์ลำดับ 4 ภายใต้โปรเจกต์ เมะ

หนังสือ "โต๊ะโตะจัง เด็กหญิงข้างหน้าต่าง" ได้รับการตีพิมพ์เป็นภาษาไทยครั้งแรกเมื่อ พ.ศ.2527 ได้รับเลือกเป็นหนังสืออ่านนอกเวลา ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น วิชาภาษาไทย ตามประกาศของกรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ ถ่ายทอดมาจากประสบการณ์จริงของผู้เขียน ที่เล่าออกมาในรูปของวรรณกรรมทำให้อ่านง่าย สนุก และชวนติดตาม

'โต๊ะโตะจัง เด็กหญิงข้างหน้าต่าง' ทำลายสถิติหนังสือในญี่ปุ่น ระยะเวลาเพียง 3 ปีเศษ จำหน่ายได้ถึง 6 ล้าน 5 แสนเล่ม เฉพาะภาษาญี่ปุ่น และได้เป็นภาษาอื่น ๆ อีก 35 ภาษา ฉบับแปลภาษาไทยต้องพิมพ์ซ้ำถึง 4 ครั้ง ในเวลาไม่ถึงปี โดยผู้จัดพิมพ์อย่างโคดันชะได้เปิดเผยว่าจนถึงสิ้นเดือน ก.ย. 2023 ที่ผ่านมามีการตีพิมพ์หนังสือเรื่องนี้ไปแล้วมากถึง 25,113,862 เล่มทั่วโลก กระทั่งได้รับการบันทึกสถิติจาก "กินเนสส์ เวิลด์ เรกคอร์ด" ให้ครองตำแหน่ง "หนังสืออัตชีวประวัติโดยนักเขียนเพียงคนเดียวที่ได้รับการตีพิมพ์มากที่สุดในโลก"

"โต๊ะโตะจัง เด็กหญิงข้างหน้าต่าง" ได้รับรางวัล Paul Grimault Award ซึ่งเป็นหนึ่งรางวัลพิเศษที่มอบให้ในงานเทศกาลภาพยนตร์แอนิเมชันนานาชาติ Annecy International Animation Film Festival ประจำปี 2024 จัดที่เมือง Annecy ประเทศฝรั่งเศส

เรื่องราวของ "โต๊ะโตะจัง" เด็กนักเรียนสาวที่ถูกไล่ออกจากโรงเรียนเก่าขณะเรียนชั้นประถมหนึ่ง ด้วยความซุกซนตามประสาเด็ก แต่ครูกลับคิดว่าเป็นการรบกวนเพื่อนร่วมชั้น จึงเป็นเหตุให้ต้องหาโรงเรียนใหม่

โรงเรียนโทโมเอ โรงเรียนใหม่ของโต๊ะโตะจัง ใช้ตู้โดยสารรถไฟเป็นห้องเรียน มีครูที่รักและเชื่อมั่นในตัวเด็กอย่าง "ครูโคบายาชิ" ระบบการเรียนการสอนของโรงเรียนนี้จะแตกต่างจากโรงเรียนทั่วไป ทำให้โต๊ะโตะจัง กับ เพื่อน ๆ ของเธอ ได้ค้นพบความฝันและสามารถสร้างฝันนั้นให้เป็นจริงได้เมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่

"Totto-Chan: The Little Girl at the Window โต๊ะโตะจัง เด็กหญิงข้างหน้าต่าง" 15 สิงหาคม ในโรงภาพยนตร์

[Mongwin]

🇹🇭EP. ตะลุยกิน Street Food ตลาดพลู กรุงเทพฯ | Natcha in Bangkok
Jul 9, 2024

นัชชาพาตามรอยภาพยนตร์ดัง “ หลานม่า ”
จะมีสถานที่เด็ดๆ ร้านอาหารดังๆ ที่ไหนบ้าง ตามมาดูกันเลยย


https://www.youtube.com/watch?v=lCNzmzobdoc


EP. Exploring Street Food at Talat Phlu, Bangkok | Natcha in Bangkok
Jul 9, 2024
Natcha takes you on a tour following the footsteps of the famous movie "Lan Ma" (Grandma's Grandson)
What are the must-visit places and famous restaurants? Let's find out together!

[Mongwin]

หนังสั้น Apple มองกันในมุมไหน ? โปรโมทเที่ยวเมืองไทย หรือแฝงไว้ในการดูถูก
ผู้จัดการออนไลน์ 31 ก.ค. 2567 06:59

กลายเป็นประเด็นร้อนที่สังคมออนไลน์ได้ถกเถียงกัน สำหรับหนังสั้นของแบรนด์ดังอย่าง Apple หลังจากปล่อยหนังสั้นชุด The Underdogs: Out Of Office ซึ่งถ่ายทำในเมืองไทย และสื่อภาพกรุงเทพฯ (ในฐานะประเทศไทย) ออกไปสู่สายตาชาวโลกเมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา

https://mgronline.com/travel/detail/9670000064555

The Underdogs: OOO (Out Of Office) | Apple at Work
Apple
Jul 18, 2024

Join Apple at Work for one heck of a business trip as the Underdogs head to Thailand to get stuff made! See Mac, iPhone, iPad, and Apple Vision Pro come together to help them find a new packaging factory, solve last-minute design changes, create prototypes, break down language barriers, and so much more.

This is Apple at Work.


https://www.youtube.com/watch?v=SbYckRAt5os

[Mongwin]

The Children’s Train | Official Trailer | Netflix
Netflix


https://www.youtube.com/watch?v=76Aljh0U8Hk

รถไฟขนเด็ก

**The Children's Train (2024)** หรือ *Il treno dei bambini* เป็นภาพยนตร์ดราม่าประวัติศาสตร์จากอิตาลี กำกับโดย Cristina Comencini และสร้างจากนวนิยายชื่อเดียวกันของ Viola Ardone ภาพยนตร์นี้สำรวจชีวิตของเด็กชายวัย 7 ขวบชื่อ Amerigo ในปี 1946 ผู้ซึ่งต้องออกจากครอบครัวยากจนในเมืองเนเปิลส์เพื่อไปอยู่กับครอบครัวที่มั่งคั่งกว่าในภาคเหนือของอิตาลี ผ่านโครงการช่วยเหลือเด็กหลังสงครามโลกครั้งที่สอง[1][3][5]

## **เรื่องย่อ**
แม่เลี้ยงเดี่ยวชื่อ Antonietta (รับบทโดย Serena Rossi) ตัดสินใจส่ง Amerigo (Christian Cervone) ลูกชายวัย 8 ขวบของเธอขึ้นรถไฟไปยังภาคเหนือ เพื่อเข้าร่วมโครงการที่จัดโดยพรรคคอมมิวนิสต์อิตาลี ซึ่งมุ่งหวังให้เด็กๆ ได้รับการศึกษาและอาหารที่เพียงพอ แม้ว่า Amerigo จะลังเลในตอนแรก แต่เขาก็เริ่มปรับตัวและสร้างความสัมพันธ์กับ Derna (Barbara Ronchi) ผู้ดูแลใหม่ของเขา ซึ่งในตอนแรกก็ไม่เต็มใจที่จะรับเด็กมาเลี้ยงเช่นกัน

ระหว่างการอยู่ที่นั่น Amerigo ค้นพบพรสวรรค์ด้านไวโอลินและพัฒนาความผูกพันกับ Derna อย่างลึกซึ้ง อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงเวลาที่ต้องกลับบ้าน เขาต้องเผชิญกับความขัดแย้งในใจระหว่างความรักที่มีต่อบ้านใหม่และความผูกพันกับแม่แท้ๆ ของเขา[1][3][5]

## **ประเด็นสำคัญและการตอบรับ**
ภาพยนตร์นี้นำเสนอประเด็นทางสังคมและประวัติศาสตร์ เช่น ความยากจนหลังสงคราม ความเสียสละของพ่อแม่ และผลกระทบของข้อมูลเท็จในสังคม โดยเฉพาะข่าวลือที่แพร่กระจายเกี่ยวกับโครงการช่วยเหลือเด็กว่าเป็นแผนการร้ายของโซเวียต

แม้ว่า *The Children's Train* จะได้รับคำชมเรื่องภาพยนตร์ที่ถ่ายทอดบรรยากาศยุคหลังสงครามได้อย่างสมจริง แต่ก็ถูกวิจารณ์เรื่องการแสดงที่ไม่สม่ำเสมอและจังหวะเรื่องที่ช้าในช่วงแรก อย่างไรก็ตาม เนื้อเรื่องยังคงสร้างความสะเทือนใจและสะท้อนถึงความรักและการเสียสละของแม่ได้อย่างลึกซึ้ง[1][3].

## **ข้อมูลเพิ่มเติม**
- ความยาว: 105 นาที
- ผู้กำกับภาพ: Italo Petriccione
- ดนตรีประกอบ: Nicola Piovani
- เผยแพร่ทาง Netflix วันที่ 4 ธันวาคม 2024 หลังเปิดตัวครั้งแรกในเทศกาลภาพยนตร์โรมครั้งที่ 19[5].

Citations:
[1] https://parentpreviews.com/movie-reviews/the-childrens-train
[2] https://www.rottentomatoes.com/m/the_childrens_train
[3] https://www.imdb.com/title/tt29242846/
[4] https://www.filmaffinity.com/en/film571935.html
[5] https://en.wikipedia.org/wiki/The_Children's_Train

[Mongwin]

'Netflix'ยกรถไฟโผล่กลางกรุงเปิดตัว'เขาชุมทอง คะนองชุมโจร'
Source - ไทยโพสต์
Friday, August 22, 2025 at 04:16


Netflix เปิดตำนานบทใหม่ของอ้ายเสือแดนปักษ์ใต้ ลุยภารกิจระเบิดภูเขาเผากระท่อม ยกรถไฟเมืองคอนมาไว้กลางเมืองกรุง เนรมิตสถานีรถไฟชุมทางเขาชุมทอง ในงานแถลงข่าวอภิมหาภาพยนตร์ เขาชุมทอง คะนองชุมโจร ผลงานล่าสุดของหม่ำ-เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา ผู้ริเริ่มโครงเรื่อง ร่วมเขียนบท และรับบทแสดงนำ ประกบ วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง ร่วมกันถ่ายทอดมหากาพย์ความบันเทิงครบรสที่เขียนขึ้นใหม่โดยได้แรงบันดาลใจจากตำนานของ โกหว่า ทุ่งสง ในแบบฉบับ หม่ำคิด-วิศิษฏ์ทำ ติดตามรับชมได้ 21 สิงหาคมนี้ ที่ Netflix เท่านั้น
โดยยังได้ทัพนักแสดงมาร่วมงานคับคั่ง ไม่ว่าจะเป็น หม่ำ-เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา (รับบท โกหว่า ทุ่งสง), แบงค์ธิติ มหาโยธารักษ์ (รับบท จง ลานสกา), นิล-ชิงดวง ดอยเกอร์ส (รับบท ญาดา นพพิตำ), ปอนด์-โอภาภูมิ ชิตาพัณณ์ (รับบท ดำ สิชล) พร้อมด้วย นัท-มีเรีย เบนเนเดดตี้ (รับบท ชมจันทร์), พีพี-ปุญญ์ปรีดี คุ้มพร้อม รอดสวาสดิ์ (รับบท ชมเพ็ญ), บ่าววี-วีรยุทธิ์ นานช้า (รับบท หลวงอรุณภิวัฒน์) และวิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง ผู้กำกับ ที่พร้อมใจมาร่วมสร้างสีสันและพูดคุยถึงเบื้องหลังการร่วมงานกันในภาพยนตร์เขาชุมทอง คะนองชุมโจร
หม่ำ เพ็ชรทาย ในฐานะผู้ริเริ่มโครงเรื่องและผู้ร่วมเขียนบท เล่าถึงที่มาที่ไปของชื่อตัวละครว่า "สมัยก่อนกลุ่มแก๊งจะนิยมตั้งฉายาให้คล้องจองกัน นามสกุลของแก๊งโจรทั้งห้าคนในเขาชุมทอง คะนองชุมโจร ตั้งจากชื่ออำเภอในจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นฉากหลังของเรื่องราวในภาพยนตร์เรื่องนี้ จึงตั้งใจให้ตั้งชื่อคล้องจองกันเพื่อให้ได้กลิ่นอายของหนังบู๊ไทยสมัยก่อนครับ นอกจากนี้เรายังตั้งใจให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ใช้สำเนียงใต้ที่ฟังง่าย ไม่ใช้ศัพท์ที่ลึก เพื่อให้ผู้ชมทุกคนเข้าใจได้ แต่ยังคงได้กลิ่นอาย รสชาติ และสีสันของความเป็นใต้ครับ"
วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง ผู้กำกับระบุว่า "กลิ่นอายคาวบอยใน เขาชุมทอง คะนองชุมโจร มาจากแรงบันดาลใจที่โกหว่าเป็นคนกว้างขวาง ช่วยเหลือชาวบ้าน ซึ่งบริบทในยุคนั้นคล้ายกับการเป็นคาวบอยในโลกตะวันตก และเมืองนครศรีธรรมราชสมัยก่อนก็มีบรรยากาศคล้ายเช่นนั้น อย่างคำกล่าวที่ว่า ประตูมีกลอน คนคอนมีปืน ก็สะท้อนเอกลักษณ์ของตัวละครในเรื่องได้เป็นอย่างดีครับ
เรื่องราวใน เขาชุมทอง คะนองชุมโจร เกิดขึ้นในช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่สอง เมื่อเหล่าแก๊งโจรวางแผนปล้นทองคำจากขบวนรถไฟทหารญี่ปุ่นเพื่อปราบศัตรูนำทองไปช่วยชาวบ้าน แต่หารู้ไม่ว่าภารกิจดังกล่าวกลับพาให้โกหว่าได้หวนมาเจอศัตรูคู่อริผู้พรากเมียรักไปจากเขา นำไปสู่ความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนซ่อนเงื่อน หรอยแรงครบรสทั้งเสียงหัวเราะและคราบน้ำตา"
ด้าน แบงค์ ธิติ ซึ่งยืนยันขอเล่นคิวบู๊เองโดยไม่ใช้นักแสดงแทน เล่าให้ฟังว่า "ตัวละครจง ลานสกา ต้องขี่ม้า ควงปืนพกคู่ ซึ่งค่อนข้างไกลตัวมากเลยครับ ผมเริ่มฝึกตั้งแต่พื้นฐานอยู่เป็นระยะเวลาสองสามเดือน แต่ผมมองว่าเป็นความท้าทายที่สนุกดี และอยากจะทำออกมาให้ดีที่สุด เพราะเราได้ฉีกกรอบตัวเองออกมาจากผลงานเรื่องก่อนๆ ครับ"
ส่วน พีพี ปุญญ์ปรีดี ทุ่มเทฝึกสำเนียงกับแม่ซึ่งเป็นคนใต้ จนผู้กำกับออกปากชมว่า "ตอนพีพีมาแคสต์ เราเชื่อเลยว่าเขาพูดได้ ตอนหลังจึงได้รู้ว่าเขาปรึกษาแม่และท่องบทมาอย่างละเอียด นักแสดงทุกคนมีความพยายามและได้บทนั้นไปด้วยความพยายามครับ".



ที่มา: นสพ.ไทยโพสต์ ฉบับวันที่ 22 ส.ค. 2568
ที่มา: นสพ.ไทยโพสต์ ฉบับวันที่ 22 ส.ค. 2568

[Mongwin]

โอ๊ยเล่าเรื่อง: เขาชุมทอง คะนองชุมโจร
Source - แนวหน้า
Saturday, August 30, 2025 at 06:16

หนังไทยในโครงการทีไทยทีมันส์ ของ Netflix ผลงาน การจับมือทำของ วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง กับ หม่ำ-เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา ที่เคยสร้างความชื่นชอบมาแล้วจากใน เมอร์เด้อเหรอ ฆาตกรรมอิหยังวะ ซึ่ง "เขาชุมทอง คะนองชุมโจร"..พาไป..โลดโผนโจนทะยานบนเส้นทางหลากอารมณ์ ทั้งดุเดือดด้วยฉากบู๊ ระเบิดภูเขาเผากระท่อม และยิ้มร่าน้ำตารินไปกับปมรักซ้อน- ซ่อนเงื่อน-เพื่อนทรยศ

โกหว่า ทุ่งสง จอมโจรในตำนานแห่งแดนปักษ์ใต้ ผู้ยึดมั่น ในอุดมการณ์ปล้นคนรวยช่วยคนจน กับแก๊งสมุนเด็กกำพร้าสุดแสบ วางแผน ปล้นขบวนรถไฟของทหารญี่ปุ่น จนทำให้เขาต้องกลับมาเจอกับ หลวงอรุณภิวัฒน์ ที่หักหลัง ทำให้เขาติดคุกกลายเป็นโจร แย่ง ชมจันทร์ เมียรักไป ขณะเดียวกันเด็กๆ ในแก๊งก็เกิดเรื่อง รักสามเส้า จง ลานสกา ดันไปรัก ชมเพ็ญ ลูกสาว หลวงอรุณภิวัฒน์โดยที่ไม่รู้ว่า ญาดา นบพิตำ แอบรักเขามาตั้งแต่เด็ก โดยมี ดำ สิชล หลงรัก ญาดา ความแค้นส่วนตัว ความรักที่ผิดที่ผิดทาง และมิตรภาพที่ถูกทดสอบจึงเริ่มขึ้น

เขาชุมทอง คะนองชุมโจร ชัดเจน ในความเป็น หนังบู๊ตลก ดูสบาย ขายตลกในแบบ หม่ำ มกจ๊ก กับบั้งไฟฟิลม์ ที่ได้ วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง มาเป็นผู้กำกับ ตัวหนังเลยออกมาแบบครึ่งๆ ลูกผสม งานโปรดักชั่นดีงามชวนให้นึกถึงสีสันจัดจ้าน ตัวละคร ที่ย้อมสีย้อนยุคสวยงามใน ฟ้าทะลายโจร ผลงานมาสเตอร์พีชของ วิศิษฏ์ กับหนังตลกในแบบบั้งไฟฟิลม์ ที่เน้นๆ นำหนังที่ หม่ำ ชื่นชอบ มาสร้างใหม่ ในแบบที่เป็นตัวเอง เขาชุมทอง คะนองชุมโจร พาย้อนกลับไปสู่ยุคหนังไทยเก่าๆ หนังยุค 16 มม. บรรยากาศมาแบบจัดเต็ม ตัวละครในชุดเครื่องแต่งกาย อาวุธ การต่อสู้ พาหนะ รถ ม้า รถไฟ มาแบบเต็มๆ ฉากแอ๊กชั่นก็ไม่เลวนักดูได้เพลินๆ

หม่ำ เด่นมากๆ ในบท โกหว่า ศูนย์กลางของเรื่อง ดูดีกับการเป็นพ่อบุญธรรมของเด็กๆ ช่วยส่งบทให้หลายคนเด่นขึ้น ขำๆ ไปกับ นิกกี้ ดันบทรักให้กับ แบงค์ รักหวานกับ นัท มีเรีย บทตลกก็มาในแบบที่คุ้นเคย แม้ฉากบู๊อาจจะดูแหม่งๆ
แบงค์-ธิติ มหาโยธารักษ์ หล่อเนี้ยบ น่ารัก เล่นแบบสบายๆ บู๊ดูดี กับบท จง ลานสกา ที่มาในมาดพระเอกหนังไทย แบบเต็มๆ
นิล-ชิงดวง ดอยเกอร์ส รับบท ญาดา นบพิตำ น่ารัก ในแบบแก่นๆ ดูขึ้นมากๆ กับชุดคาวบอย ไฝ ที่แก้ม เพิ่มเสน่ห์ เป็น ตัวละครที่คนดูน่าจะรัก
ปอนด์-โอภาภูมิ ชิตาพัณ มาในบท ดำ สิชล ที่ดูเงียบๆ ขรึมๆ ดูเด็กลดวัยลงจากที่คุ้นตาในละครจักรๆ วงศ์ๆ ด้วยความเรียบของบทเลยทำให้ ดำ เรียบไปด้วย รวมทั้งด้วยวัย (จริง) ที่มาก กว่าอีกสามคนพี่น้อง เลยรู้สึกว่าโดดไปจากพี่น้องแต่ก็เล่นดีนะ
นิกกี้-ณฉัตร จันทพันธ์ รับบท มนต์ ร่อนพิบูลย์ เล่นแบบยียวนในแบบที่คุ้นเคยกันดี เน้นๆ บทตลกมากกว่าแอ๊กชั่น
พีพี-ปุญญ์ปรีดีคุ้มพร้อม รอดสวาสดิ์ รับบท ชมเพ็ญสวยใสในแบบนางเอกหนังไทย ดูน่ารักๆ หน้าตาท่าทางถอดแบบพิมพ์เดียวกับแม่ในเรื่อง
นัท-มีเรีย เบนเนเดดตี้ เป็น ชมจันทร์ แฟนเก่า หม่ำ แม่ พีพี สวยน่ารัก เล่นดี เล่นน่ารัก มีพลังสะกดคนดูได้ในทุกๆ ฉาก

บ่าววี-วีรยุทธิ์ นานช้า รับบท หลวงอรุณภิวัฒน์ ตัวร้ายของเรื่อง เล่นได้ร้ายหน้าตายโดยมี เคตะ อาราอิน กับ เปรอน ยาสุ มารับบทนายทหารญี่ปุ่นแต่ที่โดดมากๆ ไม่น่าใส่เข้ามาคือ น้าค่อมเสน่ห์อีกอย่างของเรื่องคือการให้ตัวละครพูดใต้ แหล่งใต้กันทุกคน สิ่งที่ชอบมากๆ คือ เพลงและดนตรีประกอบที่มีความไพเราะ เพราะมากๆ ดีมากจนทำให้ดูเรื่องนี้ได้แบบไม่น่าเบื่อ แม้ตัวหนังอาจจะ ดูธรรมดาไม่ค่อยสนุกนักแต่เพราะดนตรีกับเพลงเข้ามาขยี้ ดึงให้อยู่กับตัวหนังได้จนจบเพลง ชุมทางเขาชุมทอง ที่ดึงเอาเสียงร้องต้นฉบับของ ระพิน ภูไท ออกมา ใส่ดนตรีออเคสตร้าวงใหญ่ เพราะสุดๆ หรือเพลงเศร้าท้ายเรื่อง ฟังเพราะเหงาๆ ชอบมากฟังแล้ว เคลิ้มน้ำตาซึมจนต้องย้อนฟังซ้ำไป-มา

เขาชุมทอง คะนองชุมโจร อาจจะเป็นหนังที่ไม่โดนใจ สร้างความผิดหวัง ไม่สนุก แต่ก็เป็นเรื่องของความชอบ รสนิยม ยังมีอีกหลายคนที่ดูสนุกดูแล้วชอบ หนังไม่ได้เลวร้าย มีข้อบกพร่องแต่ก็ดูได้สนุกเรื่อยๆ ดูได้แบบเพลิน ถ้าฉาย โรงใหญ่ หลายคนอาจจะบ่นเสียดายเงิน แต่พอมาเป็นสตรีมมิ่ง ถ้าไม่สนุก ไม่ชอบ ก็เลือกดูเรื่องอื่นซะ ไม่เสียเงินเพิ่มอยู่แล้วสนุกสนาน เพลินไปภาพ ภาพสวย เพลงเพราะในระดับ 6/10 คะแนน


ที่มา: นสพ.แนวหน้า ฉบับวันที่ 30 ส.ค. 2568
ที่มา: นสพ.แนวหน้า ฉบับวันที่ 30 ส.ค. 2568