ข่าวรถไฟเวียตนาม

[Mongwin]

การเดินทางด้วยรถไฟ SSE7 จากสถานี DIEU TRI ไปยังสถานี NHA Trang ผ่าน CA PASS

HÀNH TRÌNH TÀU HỎA SSE7 TỪ GA DIÊU TRÌ ĐẾN GA NHA TRANG QUA ĐÈO CẢ
Railway TV
Oct 2, 2024


https://www.youtube.com/watch?v=VgCbyc8z97o

[Wisarut]

[Wisarut]

กลัวกับดักหนี้! เวียดนามวางแผนสร้างทางรถไฟความเร็วสูง $67,000 ล้านโดยไม่พึ่งทุนต่างชาติ
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันพฤหัสบดี ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2567 เวลา 19:37 น.
ปรับปรุง: วันศุกร์ ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2567 เวลา 05:24 น.


รอยเตอร์ - เวียดนามวางแผนที่จะจัดหาเงินทุนสร้างทางรถไฟความเร็วสูงมูลค่า 67,340 ล้านเหรียญสหรัฐด้วยตัวเอง ในการแสดงให้เห็นถึงความไม่เต็มใจของประเทศที่ปกครองด้วยระบอบคอมมิวนิสต์แห่งนี้ที่จะรับเงินกู้จากต่างประเทศ แม้ว่าผู้เชี่ยวชาญบางคนจะกล่าวว่าเป้าหมายดังกล่าวไม่น่าเป็นจริงได้ก็ตาม

โครงการทางรถไฟจากกรุงฮานอย เมืองหลวง ไปยังนครโฮจิมินห์ ศูนย์กลางธุรกิจทางภาคใต้ จะเป็นโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ที่มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อปีสำหรับงบประมาณรัฐที่ประมาณ 5,600 ล้านดอลลาร์ สำหรับระยะเวลา 12 ปี ตามการระบุของกระทรวงคมนาคม


“ด้วยจิตวิญญาณแห่งความเป็นอิสระและพึ่งพาตนเอง โปลิตบูโรได้ตัดสินใจที่จะไม่พึ่งพาต่างประเทศ ในการจัดหาทุนสำหรับโครงการทางรถไฟระยะทาง 1,541 กิโลเมตร” สื่อของรัฐรายงานอ้างคำกล่าวของรัฐมนตรีช่วยกระทรวงคมนาคม

โครงการทางรถไฟที่จะวิ่งด้วยความเร็ว 350 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2578 แหล่งทุนจะมาจากรายได้รัฐ และหากจำเป็นจะมาจากการออกพันธบัตรรัฐบาล ส่วนเงินกู้ต่างประเทศภายใต้เงื่อนไขผ่อนปรนจะได้รับการพิจารณาต่อเมื่อพบว่าทุนไม่เพียงพอเท่านั้น รัฐมนตรีช่วยกระทรวงคมนาคมระบุ

เวียดนามมีหนี้สาธารณะค่อนข้างต่ำที่ 37% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) เมื่อปีก่อน และลงทุนน้อยกว่าที่วางแผนไว้ โดยขาดไป 19,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 1 ใน 4 ของการใช้จ่ายการลงทุนสาธารณะที่คาดการณ์ไว้ ระหว่างปี 2564-2566 ตามข้อมูลของกระทรวงการคลัง

เวียดนามลังเลที่จะใช้ความช่วยเหลือจากต่างประเทศ เนื่องจากสูญเสียเงินทุนช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาหลายพันล้านดอลลาร์ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ท่ามกลางความล่าช้าของฝ่ายบริหาร การปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชันในวงกว้าง และความกลัวว่าจะติดในกับดักหนี้

รัฐมนตรีช่วยกระทรวงคมนาคมกล่าวว่าเงินทุนสำหรับโครงการทางรถไฟถูกออกแบบมาในลักษณะที่ตั้งใจจะหลีกเลี่ยงกับดักหนี้

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดหาเงินทุนสำหรับโครงสร้างพื้นฐานกล่าวว่าเวียดนามอาจประสบปัญหาในการสร้างโครงการขนาดใหญ่เช่นนี้ด้วยตัวเอง

การใช้จ่ายภาครัฐมูลค่า 5,600 ล้านดอลลาร์ต่อปีสำหรับโครงการทางรถไฟ จะเทียบเท่ากับ 1.3% ของ GDP ปี 2566 ของประเทศ และคิดเป็นประมาณ 1 ใน 5 ของการใช้จ่ายงงบประมาณโดยรวมสำหรับปีนี้

“ในทางทฤษฎีแล้วเป็นไปได้ แต่ไม่น่าเป็นเรื่องจริง” ผู้เชี่ยวชาญด้านโครงสร้างพื้นฐานต่างประเทศ ที่ประจำอยู่ในเวียดนาม กล่าว โดยอ้างถึงแผนการใช้เงินทุนจากภาครัฐเพียงอย่างเดียว

ผู้เชี่ยวชาญด้านโครงสร้างพื้นฐานคนที่ 2 กล่าวว่าต้นทุนจะสูง ที่ทำให้เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของโครงการโดยไม่มีการสนับสนุนจากต่างประเทศ

ในช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมา เวียดนามใช้งบประมาณรัฐราว 20% ไปกับโครงสร้างพื้นฐาน โดยส่วนใหญ่เป็นโครงการถนนในชนบท ตามข้อมูลของธนาคารโลก

“การตัดสินใจใช้แนวทางการหาทุนด้วยตนเองนั้น เป็นการแสวงหาแนวทางสมดุลในเวทีการเมือง รวมกับความสำคัญของการปกครองส่วนกลาง ความเป็นอิสระ และเสรีภาพ” เหวียน หุ่ง ผู้เชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์ จากมหาวิทยาลัย RMIT Vietnam กล่าว

แต่เขาเสริมว่าเขาคาดว่าในท้ายที่สุดเวียดนามจะแสวงหาเงินกู้ เงินทุน และเทคโนโลยีจากจีน ญี่ปุ่น เยอรมนี และพันธมิตรอื่นๆ.

[Wisarut]

เวียดนามเล็งสร้างทางรถไฟความเร็วสูงเหนือ-ใต้ 2 ช่วงแรกปลายปี 2570
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันอาทิตย์ ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2567 เวลา 18:43 น.
ปรับปรุง: วันจันทร์ ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2567 เวลา 05:11 น.



MGR ออนไลน์ - กระทรวงคมนาคมเวียดนามเผยว่า เส้นทางรถไฟความเร็วสูงเหนือ-ใต้ของประเทศ 2 ช่วง ที่เชื่อมต่อกรุงฮานอยและนครโฮจิมินห์ มีกำหนดเริ่มก่อสร้างในปลายปี 2570 ตามการรายงานของกระทรวงคมนาคม

ในการประชุมเมื่อวันเสาร์ (5) ระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐและภาคส่วนต่างๆ กระทรวงคมนาคมเผยว่า แผนการลงทุนในโครงการรถไฟความเร็วสูงจะถูกส่งไปยังรัฐสภาเพื่ออนุมัติรับรองในเดือนนี้ และในช่วง 2 ปีข้างหน้า กระทรวงจะเลือกที่ปรึกษาและดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้

เส้นทางรถไฟช่วงฮานอย-วีง และญาจาง-โฮจิมินห์ จะเริ่มสร้างในช่วงปลายปี 2570 ขณะที่การก่อสร้างเส้นทางรถไฟช่วงวีง-ญาจาง มีกำหนดเริ่มสร้างระหว่างปี 2571-2572 โดยทางรถไฟความเร็วสูงเหนือ-ใต้ ความยาวทั้งหมด 1,541 กิโลเมตร คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2578

ทางรถไฟสายนี้ถูกออกแบบให้รองรับความเร็วที่ 350 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีค่าใช้จ่ายราว 67,340 ล้านดอลลาร์ ตามการระบุของกระทรวงคมนาคม และยังระบุว่าเงินทุนของโครงการจะไม่พึ่งพาเงินกู้จากต่างประเทศ

ทางรถไฟสายนี้จะเชื่อมสถานีหงอกโห่ยในกรุงฮานอย กับสถานีถูเทียมในนครโฮจิมินห์ และวิ่งผ่าน 20 จังหวัดและเมือง สำหรับราคาตั๋วโดยสารจะแบ่งเป็น 3 ระดับตามประเภทของการให้บริการ

ทั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรีได้เสนอให้ขยายเส้นทางให้เกินไปกว่าจุดสิ้นสุดในปัจจุบัน โดยให้ครอบคลุมไปถึง จ.กว๋างนีง ทางภาคเหนือ ที่เป็นที่ตั้งของอ่าวฮาลอง และ จ.ก่าเมา ที่อยู่ใต้สุด.

Note: โผบัญชี 23 สถานี
01. Ngọc Hồi (ชานกรุงฮานอยด้านใต้)
02. Phủ Lý
03. Nam Định
04. Ninh Bình
05. Thanh Hóa
06. เมืองท่า Vinh => เปิดช่วงแรก
07. Ha Tinh
08. เมืองท่า Vũng Áng (ท่าเรือหวุ่งอัง)
09. นคร Đồng Hới (นครดองฮอย)
10. นคร Đông Hà (นครดงฮา)
11. นคร Huế (นครเว้)
12. นคร Đà Nẵng (นครดานัง)
13. นคร Tam Kỳ (นคร ตามกี่)
14. นคร Quảng Ngãi (นคร กว๋างไหง)
15. Bồng Sơn
16. Diêu Trì (สถานี รถไฟสำหรับ Quy Nhon - กวีเญิน)
17. Tuy Hòa
18. Diên Khánh (สถานี รถไฟสำหรับ Nha Trang - ญาจาง)
19. นคร Tháp Chàm (นคร ท้าปจ่าม)
20. Phân kỳ
21. Mương Mán
22. Long Thành (ท่าอากาศยานนานาชาติล็องถั่ญ)
23. นคร Thủ Thiêm (ฝั่งตะวันออกของนครโฮจิมินห์ และ แม่น้ำไซ่ง่อน)
https://mgronline.com/indochina/detail/9670000095046

[Mongwin]

การเดินทางด้วยรถไฟจากสถานีเดียวจรีถึงสถานีญาจาง ผ่านเขาก๋า

HÀNH TRÌNH TÀU HỎA TỪ GA DIÊU TRÌ ĐẾN GA NHA TRANG QUA ĐÈO CẢ
Railway TV
Oct 6, 2024


https://www.youtube.com/watch?v=akvCpEFNhtQ

[Mongwin]

บริษัทขนส่งทางรถไฟฮานอยและไซ่ง่อนเตรียมควบรวมกิจการในปีนี้

ฮานอย, 11 ตุลาคม 2567 - นายหว่าง ซา คั้ญห์ ผู้อำนวยการทั่วไปของบริษัทการรถไฟเวียดนาม (VNR) เปิดเผยว่า การควบรวมกิจการระหว่างบริษัทขนส่งทางรถไฟฮานอยและบริษัทขนส่งทางรถไฟไซ่ง่อน เป็นบริษัทขนส่งทางรถไฟแห่งใหม่ คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในสิ้นปีนี้

การควบรวมกิจการครั้งนี้เป็นไปตามแผนปรับโครงสร้าง VNR ที่ได้รับอนุมัติจากนายกรัฐมนตรีเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์เวียดนามอยู่ระหว่างการพิจารณาการควบรวมกิจการ (ตามมติเลขที่ 562/QĐ-TTg) และคาดว่าจะได้รับอนุมัติให้เสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไปได้ในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้

นายคั้ญห์เน้นย้ำว่าการควบรวมกิจการครั้งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบรถไฟและการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยกล่าวว่า การใช้ทรัพยากรที่ได้รับการจัดสรรอย่างมีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากแผนการบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟของรัฐมีผลกระทบโดยตรงต่อกิจกรรมการผลิตและธุรกิจของ VNR

เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต VNR จำเป็นต้องมีกรรมสิทธิ์และอำนาจในการบริหารจัดการสินทรัพย์ของตนเองเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟของประเทศ ให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้โดยสารและการขนส่งสินค้า รวมถึงการปรับปรุงบริการและเพิ่มขีดความสามารถในการขนส่งผ่านด่านชายแดนที่สำคัญ เช่น ด่งดัง และหล่าวกาย การพัฒนานี้คาดว่าจะสร้างงาน เพิ่มรายได้ เพิ่มรายรับ และรักษามูลค่าสินทรัพย์

นอกจากนี้ ภายใต้กฤษฎีกาฉบับแก้ไขของรัฐบาล ฉบับที่ 46 การดึงดูดการลงทุนจากภาคเอกชนสำหรับสถานีรถไฟกว่า 300 แห่งภายใต้การบริหารจัดการของ VNR จะต้องเป็นไปตามข้อกำหนดทางกฎหมาย โดยบริษัทจะต้องจัดทำแผนการลงทุนและขออนุมัติก่อนดำเนินการ เพื่อให้ทรัพยากรสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของประเทศ

VNR ได้รับการจัดสรรงบประมาณเกือบ 4 ล้านล้านด่ง (162.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ต่อปีสำหรับการบำรุงรักษา ซึ่งครอบคลุมประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ของเงินทุนที่จำเป็น บริษัทกำลังทบทวนและเสนอแผนการซ่อมแซมและปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟอย่างแข็งขัน เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยในการดำเนินงาน

เมื่อบริษัทขนส่งทางรถไฟแห่งใหม่ก่อตั้งขึ้น VNR วางแผนที่จะลดสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทเพื่อดึงดูดการลงทุน โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับคุณภาพการบริการทางรถไฟ กลยุทธ์นี้จะถูกระบุไว้ในแผนปรับโครงสร้างสำหรับปีหน้า และรายงานต่อนายกรัฐมนตรีโดยคณะกรรมการการจัดการทุนรัฐวิสาหกิจ (CMSC)

หลังจากดำเนินงานไปแล้ว 1-2 ปี VNR จะประเมินสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทใหม่ โดยมุ่งเน้นไปที่การยกระดับบริการขนส่งสินค้าและผู้โดยสารให้เป็นมืออาชีพ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนปรับโครงสร้างปี 2573 นายคั้ญห์กล่าวเสริม

https://vietnamnews.vn/economy/1664719/ha-noi-and-sai-gon-railway-transport-companies-set-to-merge-this-year.html

[Mongwin]

การเดินทางโดยรถไฟ | ชมทิวทัศน์อันงดงามของช่องเขาเขเน็ต ระหว่างการเดินทางโดยรถไฟ SE8 จากด่งเลไปเฮืองโฟ


HÀNH TRÌNH TÀU HOẢ | NGẮM CẢNH ĐÈO KHE NÉT TUYỆT ĐẸP TRÊN HÀNH TRÌNH TÀU SE8 ĐỒNG LÊ ĐI HƯƠNG PHỐ
TP Channel
Oct 10, 2024


https://www.youtube.com/watch?v=lwkfHBbfY8k

[Mongwin]

จุดเปลี่ยนการค้า ‘จีน - เวียดนาม’ ขยายเส้นทางรถไฟ เชื่อมชำระเงินข้ามประเทศ
กรุงเทพธุรกิจ 13 ต.ค. 2024 เวลา 18:00 น.

จีน และเวียดนาม ลงนามข้อตกลง 10 ฉบับ รวมถึงขยายการเชื่อมเส้นทางรถไฟ ชำระเงินดิจิทัล และความร่วมมือหลายด้าน จะเป็นการเพิ่มความเร็วให้โอกาสทางเศรษฐกิจของ 2 ประเทศอย่างไร

การลงนามข้อตกลงนี้ เกิดขึ้นภายหลังการประชุมระหว่างฝั่ม มิญ จิ๊ญ นายกรัฐมนตรีเวียดนาม กับหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีน โดยทั้งสองได้ตกลงจะร่วมกันจัดทำแผนทางเทคนิค เพื่อเชื่อมโยงทางรถไฟระหว่างลาวไก ทางภาคเหนือของเวียดนาม และเหอโขว่ มณฑลยูนนานของจีน

จีนเป็นพันธมิตรทางการค้ารายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม แต่ทั้งสองประเทศก็มีความตึงเครียดทางประวัติศาสตร์เช่นเดียวกัน ซึ่งรวมถึงปัญหาทะเลจีนใต้ ซึ่งเป็นเส้นทางขนส่งทางเรือที่สร้างมูลค่าการค้าหลายล้านดอลลาร์ทุกปี

สื่อเวียดนามรายงานวันนี้ว่า พลโทอาวุโสโต เลิม ประธานาธิบดีเวียดนามกับนายกรัฐมนตรีหลี่ ได้พบปะกันเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (12 ต.ค.) ซึ่งนายกรัฐมนตรีจีนเยือนเวียดนามในรอบ 11 ปี โดยสองฝ่ายได้เห็นพ้องที่จะส่งเสริมความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศและเศรษฐกิจ

ทั้งสองฝ่ายตกลงจะ “ รักษาการแลกเปลี่ยนเยือนระดับสูง และความร่วมมือด้านการป้องกัน ความมั่นคง และกิจการต่างประเทศให้สม่ำเสมอ ตลอดจนการขยายกลไกดำเนินการใหม่ๆ

“เวียดนามจะอำนวยความสะดวกให้กับการลงทุนด้านเทคโนโลยีขั้นสูงของจีนในเวียดนามมากขึ้น ขณะที่ปักกิ่งจะสร้างการเข้าถึงตลาดให้กับผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรของเวียดนาม” หนังสือพิมพ์ Nhan Dan ของเวียดนามระบุ

เป็นเวลาหลายปีแล้วที่จีนพยายามขยายอิทธิพลในพื้นที่ข้อพิพาททางทะเลจีนใต้ และเพิกเฉยต่อคำตัดสินของศาลระหว่างประเทศ ในพื้นที่ส่วนใหญ่ ซึ่งเวียดนามอ้างสิทธิในพื้นที่ดังกล่าว

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ฮานอยได้ออกมาประท้วงพร้อมระบุว่า เรือจีนได้โจมตีเรือประมงเวียกนามอย่างโหดร้าย ในพื้นที่พิพาททะเลจีนใต้

ถัดมาเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา มีการประชุมระหว่างผู้นำระดับสูงของจีนและเวียดนาม ซึ่งเวียดนามได้เรียกร้องให้ทั้งสองฝ่าย “ จัดการและแก้ไขความแตกต่างให้ดีขึ้น”

ข้อตกลงนี้ จะเป็นจุดเปลี่ยนและเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจเวียดนามได้เชื่อมโยงกับจีนมากขึ้น ซึ่งเวียดนามเป็นผู้ค้ารายใหญ่อันดับ 8 ของจีน และใหญ่ที่สุดในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งการค้ากับจีนคิดเป็น 15.5% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมดของเวียดนาม และ 32.9% ของการนำเข้าของเวียดนาม

ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2024 การค้าระหว่างเวียดนามและจีนมีมูลค่าเกือบ 1 แสนล้านดอลลาร์ โดยเวียดนามส่งออกสินค้าไปยังซีนมูลค่า 27,800 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 5.3% จากปีก่อน

การนำเข้าจากจีนมีมูลค่า 67,000 ล้านดอลลาร์ ส่งผลให้เวียดนามขาดดุลการค้า 39,200 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 67.9% แม้ว่าจะเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจทั่วโลก แต่การค้าระหว่างสองประเทศก็ฟื้นตัวได้ดี

ขณะที่จีนเป็นพันธมิตรการค้ารายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม และเป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจากสหรัฐ โดยการค้าระหว่างสองประเทศเติบโตจาก 20,800 ล้านดอลลาร์ในปี 2008 มาเป็นเกือบ 172,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2023 และภายในกลางปี 2024 การค้าได้ทะลุเป้าอยู่ที่ 112,000 ล้านดอลลาร์ไปแล้ว

สินค้าส่งออกสำคัญของเวียดนามไปจีน ยังคงเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ผลิตภัณฑ์ทางเกษตร และรองเท้า ขณะที่สินค้านำเข้าจากจีนที่สำคัญได้แก่ เครื่องจักร สารเคมี และวัสดุก่อสร้าง

https://www.thedailystar.net/business/news/vietnam-china-expand-rail-links-cross-border-payments-3726536

[Mongwin]

จีนเยือนเวียดนาม ตกลงเชื่อมโยงรถไฟ | ย่อโลกเศรษฐกิจ 14 ต.ค.67
TNN
Oct 14, 2024

จีนและเวียดนามคาดว่าจะลงนามข้อตกลงใหม่ ที่รวมถึงข้อตกลงเพื่อส่งเสริมการเชื่อมโยงทางรถไฟและการค้าด้านการเกษตร ระหว่างการเยือนกรุงฮานอยอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียง เป็นเวลา 3 วัน


https://www.youtube.com/watch?v=3omM-wmqxiA

[Mongwin]

เสนอสร้างทางรถไฟระยะทาง 48 กม. เชื่อมนครโฮจิมินห์กับสนามบินลองถั่น
15 ตุลาคม 2567 - 07:51

ทางรถไฟสายใหม่ระยะทาง 48 กม. เชื่อมนครโฮจิมินห์กับสนามบินลองถั่นที่กำลังก่อสร้างในจังหวัดด่งไนข้างเคียง จะถูกสร้างขึ้นระหว่างปี 2569-2572 ด้วยงบประมาณ 84.7 ล้านล้านด่ง (3.42 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)


ภาพจำลองเส้นทางรถไฟที่เสนอระยะทาง 48 กม. เชื่อมนครโฮจิมินห์กับสนามบินลองถั่นที่กำลังก่อสร้างในจังหวัดด่งไนข้างเคียง — ภาพจากกระทรวงคมนาคม

นครโฮจิมินห์ — ทางรถไฟระยะทาง 48 กม. เชื่อมนครโฮจิมินห์กับสนามบินลองถั่นที่กำลังก่อสร้างในจังหวัดด่งไนข้างเคียง จะถูกสร้างขึ้นระหว่างปี 2569-2572 ด้วยงบประมาณ 84.7 ล้านล้านด่ง (3.42 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)

เส้นทางรถไฟที่เสนอระหว่างถูเทียม – ลองถั่น จะประกอบด้วยเส้นทางหลักระยะทาง 41.8 กม. (11.7 กม. ในนครโฮจิมินห์ และ 30.8 กม. ในด่งไน) และเส้นทางเข้าสู่ศูนย์ซ่อมบำรุงระยะทาง 4.4 กม.

กระทรวงคมนาคมกำลังขอความเห็นเกี่ยวกับเส้นทาง การใช้ที่ดิน และการเชื่อมต่อสถานีจากหน่วยงานท้องถิ่น รวมถึงนครโฮจิมินห์ จังหวัดด่งไน และกระทรวงต่างๆ

ระบบรถไฟฟ้าจะมีความเร็วสูงสุด 110 กม./ชม. บนเส้นทางหลัก และ 80 กม./ชม. ในอุโมงค์

ตามข้อเสนอของกระทรวง เส้นทางจะเริ่มต้นที่สถานีถูเทียมในเมืองถูดึ๊ก ข้ามแม่น้ำด่งไน และลงใต้ดินในอำเภอลองถั่น

ในที่สุด ทางรถไฟจะเชื่อมต่อกับทางรถไฟความเร็วสูงสายเหนือ-ใต้ และอำนวยความสะดวกในการเข้าถึงสนามบินนานาชาติลองถั่น ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง

โครงการจะประกอบด้วยทั้งส่วนยกระดับและใต้ดิน มีสถานีใต้ดิน 4 แห่งใกล้สนามบินลองถั่น พร้อมศูนย์ซ่อมบำรุง 2 แห่ง — แห่งหนึ่งครอบคลุมพื้นที่ 21.4 เฮกตาร์ในลองถั่นสำหรับการซ่อมบำรุงหลัก และอีกแห่งหนึ่งครอบคลุมพื้นที่ 1.2 เฮกตาร์ในถูดึ๊กสำหรับการซ่อมแซมเล็กน้อย

ระหว่างปี 2578-2588 คาดว่าเส้นทางนี้จะใช้รถไฟ 4 ตู้จำนวน 9 ขบวน เพิ่มเป็น 28 ขบวนระหว่างปี 2588-2598 และในที่สุดจะใช้รถไฟ 6 ตู้จำนวน 31 ขบวนภายในปี 2598

รถไฟจะใช้เทคโนโลยีการจ่ายพลังงานแบบกระจาย คล้ายกับที่ใช้ในทางรถไฟความเร็วสูงสายเหนือ-ใต้ที่เสนอ

ตามข้อเสนอ จะใช้เงินงบประมาณและพันธบัตรของรัฐสำหรับการเวนคืนที่ดินและการก่อสร้าง ในขณะที่เงินกู้ ODA จะถูกจัดสรรสำหรับการจัดซื้อรถไฟและระบบจำหน่ายตั๋ว

หากได้รับการอนุมัติ คาดว่าการก่อสร้างจะเริ่มต้นในช่วงปลายปี 2569 โดยคาดว่าจะเริ่มเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ในปี 2573

ปัจจุบัน ทางด่วนลองถั่น – เซาเซยเป็นเส้นทางเดียวที่เชื่อมสนามบินกับใจกลางนครโฮจิมินห์ ซึ่งมีการจราจรที่คับคั่ง

โครงการนี้สอดคล้องกับแนวโน้มทั่วโลกในการเชื่อมต่อสนามบินหลักกับใจกลางเมืองด้วยระบบรางความจุสูง

แผนพัฒนารถไฟฟ้าของนครโฮจิมินห์ประกอบด้วยรถไฟฟ้า 8 สาย และรถไฟฟ้ารางเดี่ยว 3 สาย รวมระยะทางประมาณ 220 กม. โดยมี 2 สายที่กำลังก่อสร้าง

คาดว่ารถไฟฟ้าสายแรกจะเปิดให้บริการในช่วงปลายปีนี้ ในขณะที่มีการวางแผนสร้างเส้นทางรถไฟเพิ่มเติมอีก 3 สายในภาคใต้ภายในปี 2573 — VNS

https://vietnamnews.vn/society/1664889/48km-railway-proposed-to-connect-hcm-city-with-long-thanh-airport.html