Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:312001
ทั่วไป:13618713
ทั้งหมด:13930714
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 486, 487, 488, 489  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43879
Location: NECTEC

PostPosted: 18/10/2024 4:31 pm    Post subject: Reply with quote

วัดใจ “วีริศ อัมระปาล”ผู้ว่ารฟท.คนใหม่ โชว์ฝีมือ ลุยโปรเจ็กต์ระบบราง
หน้าเศรษฐกิจ-ธุรกิจ
ฐานเศรษฐกิจ
วันศุกร์ ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2567 เวลา06:30 น.

เมกะโปรเจ็กต์หน้า 8
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 4,037
วันที่ 20 - 23 ตุลาคม พ.ศ. 2567

POINTS

วีริศ อัมระปาล” ผู้ว่ารฟท.คนใหม่ ข้ามห้วยผู้ว่ากนอ. เร่งศึกษางานระบบราง
ดันรถไฟทางคู่-ไฮสปีด
เดินหน้ารื้อแผนฟื้นฟูแก้หนี้ 2.3 แสนล้านบาท
จ่อถกบริษัทลูก ปลุกพื้นที่เชิงพาณิชย์ โกยรายได้
การรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท. หนึ่ง ในหน่วยงานรัฐวิสาหกิจภายใต้กระทรวงคมนาคม ซึ่งเป็นหน่วยงานสำคัญที่ขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ระบบราง สามารถยกระดับการขนส่งสินค้าได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นในอนาคต จากการสรรหาผู้ว่ารฟท.

ในช่วงที่ผ่านมาพบว่า นาย “วีริศ อัมระปาล” ถือเป็น หนึ่ง ในแคนดิเดตอันดับต้นๆที่มีแนวโน้มจะเข้ามาดำรงในตำแหน่งนี้ เนื่องจากเป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ ซึ่งได้ข้ามห้วยจากตำแหน่งผู้ว่าการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) สู่ผู้ว่าการรฟท.ในปัจจุบัน หลังจากคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งผู้ว่ารฟท.คนใหม่

ล่าสุดเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2567 ได้ฤกษ์งานยามดีที่ “รฟท.” ได้กำหนดพิธีลงนามสัญญาว่าจ้างนายวีริศ อัมระปาล เข้ารับตำแหน่งเป็นผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เต็มตัว ถือเป็นผู้ว่ารฟท.คนที่ 20

1 เดือนศึกษางาน รฟท.

นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากการลงนามสัญญาจ้างฯ แล้วเสร็จ เบื้องต้นเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ทันที เพื่อให้งานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งในช่วงนี้จะขอระยะเวลาศึกษางานเร่งด่วนใน รฟท.อย่างละเอียด คาดว่าใช้เวลาประมาณ 1 เดือน ก่อนแถลงนโยบายต่อไป

“ผมเข้ามาคนเดียว ซึ่งมีทีมของผมที่เข้ามาร่วมด้วยประมาณ 3-4 คน อาจไม่ได้ดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว เพียงแต่ต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจของทุกคน ในระหว่างนี้จะพูดคุยร่วมกับพนักงานรฟท.ให้มากที่สุด รวมถึงพนักงานทั่วไปที่อยากให้รฟท.พัฒนาไปในทางใดบ้าง ผมก็ยินดี” นายวีริศ กล่าว

ผุดไอเดียวิสัยทัศน์ ชนะใจบอร์ดฯ

นายวีริศ ให้สัมภาษณ์ต่อว่า ในช่วงที่มีการเปิดสรรหาผู้ว่ารฟท.ให้แสดงวิสัยทัศน์ต่อคณะกรรมการสรรหาฯนั้น ได้มีไอเดียให้เอกชนด้านระบบขนส่งอุตสาหกรรมเช่าพื้นที่ระบบรางของรฟท. ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการขนส่งด้านโลจิสติกส์ โดยรฟท.จะเข้าไปสนับสนุนในการเดินรถและการดูแลเส้นทาง ฯลฯ

ทั้งนี้จะต้องพิจารณารูปแบบการลงทุนที่เหมาะสมต่อไป นอกจากนี้ยังมีไอเดียการพัฒนาที่ดินของรฟท.ให้เกิดมูลค่าสูงสุด หรือพื้นที่เชิงพาณิชย์เช่น ชุมชน,คอนโดมิเนียม เพื่อให้รฟท.และเอกชนสามารถรับประโยชน์ร่วมกันได้

“การเข้ามาทำงานในรฟท.หนักใจหรือไม่นั้น ถึงแม้ว่าเป็นโจทย์ที่ยากและท้าทาย โดยเฉพาะพระราชบัญญัติ รฟท. ที่มีมากว่า 100 ปี แต่ผมเข้ามาทำงานที่นี่ด้วยความตั้งใจและมั่นใจพาองค์กรเดินหน้าต่อไปได้ ด้วยการบริหารจัดการบุคลากรและเครื่องจักรต่างๆ ซึ่งจะต้องแก้ไขร่วมกันทั้งระบบ” นายวีริศ กล่าว

แยกบัญชี ล้างหนี้ 2.3 แสนล้าน

ส่วนการแก้ปัญหาหนี้สินและจัดทำแผนฟื้นฟูรฟท. นายวีริศ กล่าวต่อว่า รฟท.เป็นรัฐวิสาหกิจที่มีหนี้เยอะกว่า 2.3 แสนล้านบาท ซึ่งต้องพิจารณาด้วยว่าหนี้จำนวนดังกล่าว เป็นหนี้ผูกพันของภาครัฐที่จะช่วยสนับสนุนแก่รฟท.มากน้อยแค่ไหน และหนี้จริงของรฟท.อยู่ที่เท่าไร ซึ่งงบประมาณในแต่ละปีจะมีสัญญาจากภาครัฐที่ระบุไว้

เนื่องจากเป็นการขอรับจัดสรรเงินอุดหนุนเชิงสังคม (PSO) เพื่อขนส่งสาธารณะ เบื้องต้นมีแนวทางการแยกสัดส่วนบัญชีหนี้ให้ชัดเจน รวมถึงการขอประนอมหนี้ด้วย

เด้งรับนโยบายทางคู่-ไฮสปีด

นายวีริศ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้จะมีการนำนโยบายของรัฐบาลและนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมที่เร่งรัดให้เห็นการพัฒนาโครงการลงทุนต่างๆ ให้ชัดเจน เช่น โครงการรถไฟทางคู่,โครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดไทย-จีน) ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย

โครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีด) เชื่อม 3 สนามบิน ฯลฯ ซึ่งผมพยายามดำเนินการในเรื่องนี้ เพื่อให้การเดินทางด้วยรถไฟเป็นการเดินทางหลักของประเทศ


ขณะที่การลงทุนโครงการขนาดใหญ่ระบบรางของรฟท.ถือเป็นการเพิ่มหนี้ให้องค์กร แต่เป็นการสร้างหนี้เพื่อใช้ประโยชน์ด้านคมนาคมของประเทศ ลดค่าโลจิสติกส์ในประเทศ เห็นได้จากในประเทศญี่ปุ่น,เกาหลีใต้ หรือไต้หวัน ที่ผู้ใช้บริการส่วนใหญ่มักเดินทางด้วนระบบขนส่งสาธารณะมากกว่าการใช้รถส่วนตัว

“การลงทุนโลจิสติกส์ในด้านนี้ ทำให้ผู้ใช้บริการสามารถเดินทางได้สะดวกมากขึ้น ผมอยากพัฒนาให้ประเทศไทยไปสู่จุดนั้นให้ได้” นายวีริศ กล่าว

ส่วนโครงการเร่งด่วนต่างๆในช่วงที่ผ่านมามักจะมีปัญหาติดขัด โดยเฉพาะการส่งมอบพื้นที่และการเจรจาสัญญา ซึ่งผมจะประสานงานร่วมกับรองผู้ว่ารฟท.และฝ่ายที่เกี่ยวข้องต่างๆ ลงพื้นที่ดูรายละเอียดและแก้ไขปัญหาเหล่านี้ เพื่อให้โครงการต่างๆสามารถเดินหน้าเป็นอย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว

ประสบการณ์ กนอ.ปั้นพื้นที่เชิงพาณิชย์
นายวีริศ กล่าวปิดท้ายว่า จากประสบการณ์การทำงานในช่วงที่รับตำแหน่ง กนอ.นั้น จะเข้ามาปรับใช้กับรฟท.ในเรื่องของบริษัทเอสอาร์ที แอสเสท จำกัด (SRTA) ปัจจุบันรฟท.ทำได้เพียงส่งต่อการบริหารสัญญาให้บริษัทลูกดูแลจัดการทรัพย์สินของรฟท.เพื่อให้เกิดประโยชน์มากที่สุด


วัดใจ “วีริศ อัมระปาล”ผู้ว่ารฟท.คนใหม่ โชว์ฝีมือ ลุยโปรเจ็กต์ระบบราง

พบว่าปัจจุบันรฟท.มีที่ดินสามารถไปใช้ประโยชน์ได้ ปัจจุบันรฟท.มีบริษัทเอสอาร์ที แอสเสท จำกัด (SRTA) ซึ่งจะต้องพิจารณาหาสาเหตุว่าทำไมไม่สามารถเดินหน้าต่อได้ เพื่อให้มีมาตรการที่ชัดเจนมากขึ้น

นอกจากนี้ยังมีแผนพัฒนารายได้พื้นที่เชิงพาณิชย์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพและมีมูลค่ามาก เช่น พื้นที่บริเวณสถานีกลางบางซื่อ,พื้นที่มักกะสัน, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศุนย์รังสิต,มหาวิทยาลัยมหิดล,สถานีแม่น้ำ ฯลฯ ซึ่ง โดยจะประสานงานร่วมกับบริษัทเอสอาร์ที แอสเสท จำกัด (SRTA) เพื่อบริหารสัญญาที่ดินให้เกิดประโยชน์และมีประสิทธิภาพมากที่สุด
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 47077
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 18/10/2024 7:09 pm    Post subject: Reply with quote

เตรียมพัฒนาพื้นที่ใกล้สถานีรถไฟหนองกวย เป็นศูนย์กระจายสินค้าระบบราง-ระบบรถยนต์ | เดลินิวส์
Source - เว็บไซต์เดลินิวส์
Friday, October 18, 2024 13:38

สำหรับพื้นที่ในการใช้พัฒนาเป็นศูนย์กระจายสินค้า อยู่ในพื้นที่ความรับผิดชอบของ อบต.หนองน้ำใส บนพื้นที่ดินของบริษัทผู้ที่จะพัฒนา เนื้อที่ประมาณ 25 ไร่ โดยพื้นที่เชื่อมโยงติดต่อกับสถานีรถไฟหนองกวย และมีพื้นที่เชื่อต่อกับถนนทางหลวงหมาย 5043

ที่ห้องประชุม องค์การบริหารส่วนตำบลหนองน้ำใส ต.หนองน้ำใส อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา นายไตรรัตน์ จุรินทร นายก อบต.หนองน้ำใส นางสาวณัฏฐา ธนกิจสถาพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทไทยทรานสปอร์ต เซ็นเตอร์ จำกัด ร่วมกันลงบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ พัฒนาพื้นที่ย่านสถานีรถไฟหนองกวย อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา และเขตพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลหนองน้ำใส ติดตาม ประเมินผลการดำเนินงาน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยมี นายนพดล พลซื่อ นายอำเภอภาชี พร้อมด้วย ตัวแทนจากการรถไฟแห่งประเทศไทย นายพิชิต คุณวงษา นายก อบต.ดอนหญ้านาง กำนันผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน คณะผู้บริหาร พนักงานเจ้าหน้าที่ของ อบต.หนองน้ำใส อบต.ดอนหญ้านาง อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมรับฟัง

บริษัทไทยทรานสปอร์ต เซ็นเตอร์ จำกัด เตรียมที่จะพัฒนาพื้นที่บริเวณใกล้กับสถานีรถไฟหนองกวย อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นศูนย์การขนส่งทางราง เชื่อมต่อกับทางรถยนต์ ระบบ EV และ LNG สำหรับการกระจายสินค้า เกษตร และอุตสาหกรรม โดยการทำบันทึกข้อตกลงขณะนี้ ยังไม่ใช้ทำการตกลงอนุญาติให้ก่อสร้าง เป็นเพียงการทำการศึกษา รับฟังปัญหาผลกระทบทุกด้านจากชาวบ้านบริเวณโดยรอบสถานที่จะพัฒนาเป็นศูนย์กระจายสินค้า ระหว่างระบบรางกับระบบรถยนต์ ซึ่งมีหลายส่วนที่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยเฉพาะพี่น้องประชาชน

สำหรับพื้นที่ในการใช้พัฒนาเป็นศูนย์กระจายสินค้า อยู่ในพื้นที่ความรับผิดชอบของ อบต.หนองน้ำใส บนพื้นที่ดินของบริษัทผู้ที่จะพัฒนา เนื้อที่ประมาณ 25 ไร่ โดยพื้นที่เชื่อมโยงติดต่อกับสถานีรถไฟหนองกวย และมีพื้นที่เชื่อต่อกับถนนทางหลวงหมาย 5043 ทาง อบต. จะต้องร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการศึกษาขันตอวิธีการดำเนินการของบริษัท จะต้องไม่สร้างผลกระทบชุมชน และพี่น้องประชาชน ทั้งในพื้นที่ของ อบต.หนองน้ำส้ม และพื้นที่เขตติดต่อ พื้นที่ อบต.ดอนหญ้านาง ที่ต้องได้รับผลกระทบจากขนส่งจากระบบราง ระบบรถยนต์ ซึ่งต้องมีปริมาณรถยนต์บรรทุกวิ่งเข้าออกจำนวนมาก ต้อร่วมกันศึกษารายละเอียดทุกด้าน รับฟังความคิดเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยงาน ศึกษาระเบียบข้อกฎหมาย โดยเฉพาะเรื่องของถนนที่จะรองรับปริมาณรถ และเป็นรถบรรทุกหนักด้วย และเรื่องของมลพิษ

นางสาวณัฏฐา ธนกิจสถาพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทไทยทรานสปอร์ต เซ็นเตอร์ จำกัด กล่าวว่า มองเห็นศักยาภาพสภาพพื้นที่ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พื้นที่ภาคกลาง สามารถที่จะเป็นศูนย์ของการขนส่ง มีการเชื่อต่อกับจังหวัดทางภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคใต้ ด้วยระบบ รถยนต์ และระบบรางรถไฟ ซึ่งในระบบการขนส่งทางราง ประหยัดกว่าขนส่งทางรถยนต์ ที่รถยนต์จะวิ่งในระยะทางไกล สิ้นเปลืองทั้งเชื้อเพลิง และเพิ่มปัญหาสถาพการจราจร การเกิดอุบัติเหตุ พื้นที่ของบริษัทอยู่ในพื้นที่ที่ได้มีการเตรียมไว้ เชื่อมต่อกับสถานีรถไฟหนองกวย และถนนทางหลวงชนบท ห่างจากชุมชน รูปแบบของพื้นที่จะถูกพัฒนาให้เป็นลาน องเก็บตู้สินค้า ที่รับตู้สินค้ามาจากขบวนรถไฟ มีรางรถไฟเชื่อต่อมาจากสถานีรถไฟ แล้วนำมากองเอาไว้เพื่อรอให้รถยนต์บรรทุกมารับช่วงสินค้าไปส่ง

จากการพัฒนาพื้นที่เป็นศูนย์กระจายสินค้าระบบราง รถยนต์นี้ จะเกิดการจ้างงานและการค้าขาย ช่วยเสริมสร้างเศรษฐกิจของชุมชน จะเป็นศูนย์ของการขนส่งสินค้าทางการเกษตร และสินค้าอุตสาหกรรม ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ เพราะในปัจจุบันขนส่งระบบรางของประเทศไทยเรา เชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้านและต่างประเทศ ซึ่งยอมรับว่า การดำเนินการจะต้องมีผลกระทบกับชุมชน เราจึงต้องมีการทำข้อตกลงร่วมกันในการที่จะพัฒนาพื้นที่ ให้เป็นศูนย์กระจายสินค้า รับฟังปัญหาผลกระทบ ข้อเรียกร้องจากหน่วยงานในพื้นที่ และที่สำคัญคือพี่น้องประชาชน ศูนย์กระจายสินค้าเราไม่มีการผลิต ผลกระทบทางมลพิษจึงมีน้อย เราจะใช้การขนย้ายตู้สินค้า หรือที่ขนส่งมาทางรางรถไฟ และนำมากองไว้ที่ลานขนถ่าย เพื่อนำส่งสินค้าต่อไป ผลกระทบที่จะเกิด จะเป็นเรื่องของการจราจร และความปลอดภัย ซึ่งจะมีการวางแนวทางการแก้ไข ร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บริษัทจะต้องดำเนินการตามข้อตกลง และกฎหมายที่กำหนด


Area near Nong Kuai Railway Station to be developed as a rail-road distribution center | Daily News

Source - Daily News Website
Friday, October 18, 2024 13:38


The development area, approximately 25 rai, is under the jurisdiction of Nong Nam Sai Subdistrict Administrative Organization (SAO) and is owned by the developing company. It connects to Nong Kuai Railway Station and Highway 5043.

At the meeting room of Nong Nam Sai SAO, Mr. Trairat Churin, Mayor of Nong Nam Sai SAO, and Ms. Nattha Thanakitstaporn, CEO of Thai Transport Center Co., Ltd., signed a Memorandum of Understanding (MOU) for the development of the area near Nong Kuai Railway Station in Phachi District, Ayutthaya Province. The project aims to establish a rail-road distribution center, connecting with EV and LNG transportation systems for the distribution of agricultural and industrial goods. The MOU signing was witnessed by Mr. Noppadol Phonsue, Phachi District Chief, representatives from the State Railway of Thailand, and community leaders.

This MOU signifies the initiation of a study to assess the potential impacts on surrounding communities. It does not yet grant construction permission.

Thai Transport Center Co., Ltd. plans to develop the area near Nong Kuai Railway Station into a transportation hub, linking rail and road transport with EV and LNG systems for efficient distribution of agricultural and industrial products. The MOU aims to facilitate a comprehensive study to assess the potential impacts on the surrounding communities and address any concerns before proceeding with the development.

The development site, approximately 25 rai, falls under the jurisdiction of Nong Nam Sai SAO and is owned by the developing company. It is connected to Nong Kuai Railway Station and Highway 5043. The SAO, in collaboration with relevant agencies, will conduct a thorough study to ensure the project does not negatively impact the communities in Nong Nam Sai and neighboring Don Ya Nang SAO. This includes assessing the potential increase in truck traffic and addressing any concerns regarding pollution and road capacity.

Ms. Nattha Thanakitstaporn, CEO of Thai Transport Center Co., Ltd., highlighted the potential of Ayutthaya and the central region as a transportation hub connecting with the northern, northeastern, and southern regions via road and rail networks. Rail transport offers cost-effectiveness compared to long-haul trucking, reducing fuel consumption, traffic congestion, and accidents. The company's land, strategically located near Nong Kuai Railway Station and a rural highway, will be developed into a container yard with a rail link to the station, facilitating efficient transfer of goods between trains and trucks.

This project is expected to generate employment opportunities, stimulate trade, and bolster the local economy by serving as a distribution center for agricultural and industrial goods both domestically and internationally.

This development is expected to create jobs and stimulate trade, boosting the local economy. It will serve as a distribution hub for agricultural and industrial goods, facilitating both domestic and international trade, leveraging Thailand's existing rail connections with neighboring countries. The company acknowledges the potential impact on the community and emphasizes the importance of the MOU in addressing concerns and ensuring minimal environmental impact. The focus will be on transferring containers from trains to trucks, minimizing pollution. Traffic management and safety will be prioritized, with mitigation strategies developed in collaboration with relevant agencies. The company is committed to adhering to the MOU and all applicable laws and regulations.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43879
Location: NECTEC

PostPosted: 21/10/2024 10:48 am    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
เตรียมพัฒนาพื้นที่ใกล้สถานีรถไฟหนองกวย เป็นศูนย์กระจายสินค้าระบบราง-ระบบรถยนต์ | เดลินิวส์
Source - เว็บไซต์เดลินิวส์
Friday, October 18, 2024 13:38

ควรจัดรถสินค้าโคราชเดินทุกสัปดาห์ครับ ไม่งั้นไม่คุ้ม
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 47077
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 27/10/2024 6:58 am    Post subject: Reply with quote

สรท.หนุนไทยทำไทยสร้างมุ่งสู่ฮับระบบรางภูมิภาค
Source - ไทยโพสต์
Sunday, October 27, 2024 04:38

นโยบายให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และสถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง (องค์การมหาชน) (สทร.) ต้องผลิตหัวรถจักรและรถไฟที่เป็นเทคโนโลยีของตัวเอง "ไทยทำ ไทยสร้าง เพื่อรองรับการขยายโครงข่ายรถไฟทางไกลของไทยในอนาคตที่จะเพิ่มเป็น 7,500 กิโลเมตร (กม.) จากปัจจุบันมีระยะทางรวมประมาณ 4,044 กม. รวมถึงยังมีโอกาสในการที่จะพัฒนาไปสู่การเป็นผู้ผลิตรถไฟเพื่อส่งออกไปยังต่างประเทศ

ล่าสุด นายจุลเทพ ขจรไชยกูล ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง (องค์การมหาชน) หรือ สทร. กล่าวว่า ภารกิจหลักของ สทร. คือ การพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง เพื่อสร้างอุตสาหกรรมระบบรางของไทย เราคาดหวังว่าอุตสาหกรรมนี้จะเป็นอุตสาหกรรมใหม่ที่จะช่วยผลักดันเศรษฐกิจของประเทศ และสามารถยกระดับขีดความสามารถของไทยให้เป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมระบบรางในภูมิภาคอาเซียน ดังนั้นการเตรียมความพร้อมด้านบุคลากรเพื่อป้อนสู่อุตสาหกรรมระบบรางจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องรีบดำเนินการ โดยเฉพาะการสร้างความตระหนักในกลุ่มเยาวชนซึ่งจะเป็นกำลังหลักของอุตสาหกรรมนี้ในอนาคต

โดยภารกิจแรกมีเป้าหมายในการผลิตรถไฟต้นแบบคันแรกภายในปี 2569 เบื้องต้นจะเป็นรถดีเซลราง (diesel multiple unit) หรือ DMU ก่อนจะเริ่มเดินเครื่องผลิตเฟสแรกที่ 50 คันในอีก 3 ปีข้างหน้า โดยมีที่ปรึกษาเป็นบริษัทชั้นนำของประเทศอิตาลี คือ บริษัท Blue Engineering S.r.l หนึ่งในบริษัทชั้นนำทางด้านการออกแบบและวิศวกรรมด้านการผลิตรถไฟ รวมถึงมีประวัติในการพัฒนาอุตสาหกรรมรถไฟให้กับหลายประเทศในโลก ล่าสุด สทร.ได้เสนอแผนไปยังสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) พิจารณาแล้ว และเมื่อผ่านการเห็นชอบแล้วจะนำเสนอต่อกระทรวงคมนาคม เพื่อเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อของบประมาณปี 2569 ต่อไป

นายจุลเทพกล่าวว่า ปัจจุบันถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์ระบบราง เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่อุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีจากเครื่องยนต์สันดาปสู่รถยนต์ไฟฟ้า ดังนั้นการสร้างอุตสาหกรรมระบบรางโดยอาศัยเทคโนโลยีที่เป็นของคนไทย จะสามารถช่วยแก้ปัญหาผลกระทบเชิงเศรษฐกิจและสังคมได้อีกทางหนึ่ง และอุตสาหกรรมนี้จะเป็นเครื่องยนต์ตัวใหม่ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ทำให้ สทร.สามารถเข้าไปพัฒนาร่วมกับผู้ผลิตยานยนต์ของไทยเหล่านี้เพื่อให้อุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยสามารถไปต่อได้

"ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผน เราจะได้เห็นรถไฟต้นแบบคันแรกอย่างแน่นอน โดยนอกจากคนไทยจะได้ใช้รถไฟที่มีคุณภาพแล้ว ในส่วนของต้นทุนราคารถไฟคาดว่าจะถูกกว่ารถไฟนำเข้าจากต่างประเทศประมาณ 20% ซึ่งราคาปัจจุบันอยู่ที่คันละ 140-150 ล้านบาท".

ที่มา: นสพ.ไทยโพสต์ ฉบับวันที่ 27 ต.ค. 2567


SRT supports Thai-made trains, aiming for regional rail hub

Source - Thai Post
Sunday, October 27, 2024 04:38


The policy mandates the State Railway of Thailand (SRT) and the Rail Technology Research and Development Institute (RTRI) to produce locomotives and trains using their own technology, "Made in Thailand, Built in Thailand," to support the future expansion of Thailand's long-distance rail network to 7,500 kilometers (km) from the current total distance of approximately 4,044 km. This also presents an opportunity to develop into a train manufacturer for export to other countries.

Recently, Mr. Chulatep Khachonchaiyagul, Director of the Rail Technology Research and Development Institute (RTRI), stated that RTRI's main mission is to develop rail technology to build Thailand's rail industry. They expect this industry to be a new industry that will help drive the country's economy and enhance Thailand's capabilities to become a center for the rail industry in the ASEAN region. Therefore, preparing personnel to feed into the rail industry is an important matter that needs to be expedited, especially raising awareness among young people who will be the main force of this industry in the future.

The first mission aims to produce the first prototype train within 2026. Initially, it will be a diesel multiple unit (DMU) before starting the first phase of production of 50 units in the next 3 years. They have a leading Italian company, Blue Engineering S.r.l, as a consultant. Blue Engineering is a leading company in design and engineering for train manufacturing and has a history of developing the railway industry for many countries around the world. Recently, RTRI has submitted a plan to the Office of the National Economic and Social Development Council (NESDC) for consideration. Once approved, it will be presented to the Ministry of Transport to be proposed at the Cabinet meeting for the 2026 budget.

Mr. Chulatep said that now is the right time to develop the rail vehicle manufacturing industry. This is because the Thai automotive industry is being affected by the technological transition from internal combustion engines to electric vehicles. Therefore, creating a rail industry using Thai technology can help solve the economic and social impact. This industry will be a new engine to drive the country's economy, enabling RTRI to collaborate with these Thai automotive manufacturers to allow the Thai automotive industry to move forward.

"If everything goes according to plan, we will definitely see the first prototype train. In addition to Thai people getting to use quality trains, the cost of the train is expected to be about 20% cheaper than imported trains, which currently cost 140-150 million baht per unit."

Source: Thai Post Newspaper, October 27, 2024
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 47077
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 05/11/2024 11:06 am    Post subject: Reply with quote

คอลัมน์ ทันกระแส: กระตุ้นเที่ยวหัวหินด้วยรถไฟ
Source - สยามรัฐ
Tuesday, November 05, 2024 04:17

นางสาวพราวพุธ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท พราว กล่าวว่า ที่ผ่านมาทางพราว กรุ๊ปได้พยายามผลักดันการท่องเที่ยวของเมืองหัวหินมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นการสร้าง Man made destinations ต่างๆอาทิ สวนน้ำ ศูนย์การค้า หรือการจัดงานอีเวนต์ต่างๆ ตลอดทั้งปี

ณ วันนี้เมื่อการก่อสร้างเส้นทางรถไฟรางคู่ กรุงเทพฯ หัวหิน เสร็จสมบูรณ์แล้ว เราจึงมองเห็นซึ่งศักยภาพของรูปแบบการเดินทางใหม่นี้ ที่ไม่เพียง แค่จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของการเดินทางที่จะสามารถช่วยลดปริมาณการเดินทางโดยรถยนต์ ซึ่งดีต่อสิ่งแวดล้อมและสามารถเป็นการผลักดันการ ท่องเที่ยว สีเขียวและยังคงจะช่วยสร้างสีสันใหม่ให้กับการท่องเที่ยวหัวหิน เพิ่มประสบการณ์สุดพิเศษในการเดินทางพร้อมกับเพื่อน หรือครอบครัวที่ พร้อมจะมาร่วมสัมผัสกับมนต์เสน่ห์ของความคลาสสิก ย้อนรอยการเดินทางแบบสมัยก่อนสู่หัวหิน ซึ่งเป็นเมืองตากอากาศยอดนิยมที่มีจุดเริ่มต้นมาจาก การเปิดเส้นทางรถไฟในสมัยก่อนอีกด้วย

โดยทางพราว กรุ๊ปได้มีการขอ อนุญาตจากการรถไฟแห่งประเทศไทยในการทำทางเชื่อมจากโรงแรมฮอลิเดย์อินน์ วานา นาวา หัวหิน ไปสู่สถานีหนองแก ด้วยการเช่าพื้นที่จากการ รถไฟ จะทำให้นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเมืองหัวหินได้รับความสะดวกสบายมากขึ้นในการใช้เส้นทางรถไฟสู่สถานีท่องเที่ยวอย่าง วานา นาวา สกาย รูฟท็อป บาร์ บาร์ที่สูงที่สุดในหัวหิน หรือเชื่อมต่อไปยังสถานที่ท่องเที่ยวข้างเคียงอย่าง สวนน้ำวานา นาวา วอเตอร์ จังเกิ้ล หัวหิน รวมถึงนักท่องเที่ยวในอนาคตสามารถเดินทางมายังโรงแรมฯ ผ่านการนั่งรถไฟมาลงที่สถานีหนองแก และเข้าสู่โรงแรมฯ ด้วยระยะทางเพียง 200 เมตร

โดยโรงแรมฯจะมีการเตรียมบริการรับ-ส่ง ผ่านรถบักกี้ และดูแลจัดการกระเป๋าเดินทางให้แก่ผู้เข้าพัก ของโรงแรมฯ เพื่ออำนวยความสะดวกสบายของผู้มาเข้าพัก อีกทั้งทางเชื่อมนี้ยังสามารถใช้เพื่อเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในท้องถิ่นอย่าง ชายหาดเขาตะเกียบ หมู่บ้านประมง ตลาดซิคาด้าในระยะทางเพียง 700 เมตร หรือเดินประมาณ 15 นาทีเท่านั้น ซึ่งปัจจุบันการสร้างทางเชื่อมต่อเสร็จเรียบร้อยแล้วและพร้อมเปิดใช้งานในเดือน พ.ย.67 ทั้งนี้จะเปิดให้สำรอง ที่นั่งทั้งผู้ที่มาใช้บริการที่โรงแรม ฮอลิเดย์ อินน์ วานา นาวา หัวหิน, สวนน้ำวานา นาวา วอเตอร์ จังเกิ้ล และโรงแรม อินเตอร์คอนติเนนตัล หัวหิน รีสอร์ท รวมถึงประชาชนที่สนใจได้มาสัมผัสประสบการณ์ในครั้งนี้ แบบไม่มีค่าใช้จ่าย โดยจะเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค.-31 มี.ค.68 ตลอด 3 เดือน

ที่มา: นสพ.สยามรัฐ ฉบับวันที่ 5 พ.ย. 2567

Boosting Hua Hin Tourism by Train

Ms. Proudputh Liptapanlop, Executive Director of Proud Group, stated that the company has consistently promoted tourism in Hua Hin. This includes developing man-made attractions such as water parks and shopping malls, and organizing events throughout the year. With the completion of the Bangkok-Hua Hin double-track railway, Proud Group recognizes the potential of this new mode of transportation.

This railway offers an alternative to car travel, benefiting the environment and promoting green tourism. It also adds a new dimension to Hua Hin tourism, providing a unique travel experience for friends and families. Passengers can relive the classic journey to Hua Hin, a popular seaside resort town that originally gained prominence due to the railway's establishment.

Proud Group has obtained permission from the State Railway of Thailand to construct a connecting pathway from the Holiday Inn Vana Nava Hua Hin hotel to Nong Kae train station by leasing land from the SRT. This will enhance convenience for tourists visiting Hua Hin, allowing easy access to attractions like the Vana Nava Sky rooftop bar, the highest bar in Hua Hin, and the Vana Nava Water Jungle water park.

In the future, tourists can travel to the hotel by train, disembarking at Nong Kae station and reaching the hotel within 200 meters. The hotel will provide buggy services and luggage handling for guests' convenience.

This connecting pathway also provides access to popular local attractions such as Khao Takiab beach, the fishing village, and Cicada Market, all within 700 meters or a 15-minute walk.

The pathway is now complete and ready for use in November 2024. Reservations will be open to guests of Holiday Inn Vana Nava Hua Hin, Vana Nava Water Jungle, and InterContinental Hua Hin Resort, as well as the general public, free of charge. The service will operate from January 4th to March 31st, 2025.

Source: Siam Rath Newspaper, November 5th, 2024
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43879
Location: NECTEC

PostPosted: 07/11/2024 9:52 am    Post subject: Reply with quote

สถาบันวิจัยระบบรางจับมืออิตาลีพัฒนาระบบรางไทยอย่างยั่งยืน

UpFuture Channel
7 พ.ย. 2024 ผลิตภัณฑ์ 1 รายการ

https://www.youtube.com/watch?v=Ph05T13hMjs
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 47077
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 19/11/2024 5:33 am    Post subject: Reply with quote

"สุริยะ"ปลุกแผนตั้งโรงงานผลิต"ขบวนรถไฟ-หัวจักร"
Source - ผู้จัดการรายวัน 360 องศา
Tuesday, November 19, 2024 05:21

สั่ง"สทร.-รฟท."ศึกษาเทคโนโลยีออกแบบจาก"ตุรกี"

ผู้จัดการรายวัน360 - "สุริยะ" ดูโมเดล "ตุรกี อิตาลี" ผลิตขบวนรถไฟ-หัวรถจักร ใช้เอง สั่ง สทร.-รฟท. บูรณาการ ก.อุตฯ ศึกษาเทคโนโลยีต่อยอดประยุกต์ใช้ในไทย หวังผลิตรถไฟเอง ทดแทนการนำเข้า ลดต้นทุน เผยแผนสร้างรถไฟทางคู่ -ไฮสปีด ดันความต้องการเพิ่มหนุนตั้งไทยโรงงานได้

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ตนได้เดินทางไปประชุมหารือร่วมกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมและโครงสร้างพื้นฐาน ตุรกี และ H.E. Mr. Osman Boyraz) CEO บริษัท TRASA รัฐวิสาหกิจภายใต้กำกับของกระทรวงคมนาคมและโครง สร้างพื้นฐานตุรกี ณ เมืองซากายา สาธารณรัฐตุรกี และได้เยี่ยมชมแนวทางการออกแบบ ผลิต และแนวทางการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตรถไฟภายในประเทศด้วย

ทั้งนี้ บริษัท TRASA มีความร่วมมือในการพัฒนาเทคโนโลยีผลิตรถไฟกับบริษัทชั้นนำด้านเทคโนโลยีการขนส่งทั่วโลก เช่น HYUNDAI ALSTOM และ SIEMENS ภายใต้แผนพัฒนาที่ 11 ของรัฐบาลตุรกี Eleventh Development Plan (2019- 2023) ได้กำหนดให้ประเทศตุรกีพัฒนาการผลิตรถไฟภายในประเทศ ลดการนำเข้า และเน้นการใช้อะไหล่และวัสดุภายในประเทศ

นอกจากนี้ ยังมีความร่วมมือกับบริษัท Blue Engineering S.p.L ของประเทศอิตาลี ภายหลังเริ่มสายการผลิตรถไฟในปี 2562 บริษัท TRASA ได้พัฒนารถไฟฟ้าความเร็ว 160 กม./ชม. ตามมาตรฐานยุโรป และส่งมอบให้การรถไฟตุรกี (State Railways of the Republic of Turkey) นำไปให้บริการต่อไป โดยผลจากการการพัฒนาดังกล่าว ส่งผลให้มีการผลิตรถไฟขึ้นในประเทศตุรกี ซึ่งมีราคาถูกกว่านำเข้าจากต่างประเทศถึง 20% และสามารถเพิ่มการใช้ชิ้นส่วนประกอบที่ผลิตในประเทศจากเดิม 10% ขึ้นเป็น 75% อีกทั้ง TRASA ยังมีเป้าหมายการผลิตรถไฟ ให้ได้รวม 56 ขบวน (280 คัน) ภายในปี 2573

นายสุริยะ กล่าวว่า กระทรวงคมนาคม จึงมีนโยบายผลักดันการขนส่งทางรางให้เป็นขนส่งหลักของประเทศ ซึ่งจะทำให้ต้นทุนค่าขนส่งของประเทศถูกลง และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล ที่ต้องการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ที่เป็นโครงการขนาดใหญ่ (Mega Project) โดยได้มอบนโยบายให้สำนักงานวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง (สทร.) เป็นแกนหลักทำงานร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และกระทรวงอุตสาหกรรม นำความรู้แนวทางจากการดำเนินการที่เรียนรู้จากประเทศตุรกี เพื่อเร่งดำเนิน การให้เกิดการผลิตรถไฟและหัวรถจักรขึ้นในประเทศไทย ทดแทนการสั่งซื้อนำเข้าจากต่างประเทศ เพื่อให้การพัฒนาการบริการขนส่งด้วยระบบรางของประเทศมีความยั่งยืน อย่างเป็นรูปธรรม

โดยปัจจุบันกระทรวงคมนาคม อยู่ระหว่างพัฒนาโครงการรถไฟทางคู่และรถไฟความเร็วสูง รวมถึงรถไฟฟ้าในเขตเมืองหลายเส้นทาง เป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานควบคู่ไปกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ และยกระดับให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านการขนส่งของภูมิภาค ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยมีความต้องการ หัวรถจักรและขบวนรถไฟอีกจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องผลักดันให้ประเทศไทยมีขีดความสามารถในการออกแบบและผลิตรถไฟด้วยตนเอง ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและมีมาตรฐานระดับโลก ซึ่งจะทำให้มีต้นทุนการผลิตและการบำรุงรักษาระหว่างการใช้งานที่ถูกกว่าการนำเข้า อีกทั้งสามารถผลิตให้ตรงกับความต้องการ ของ รฟท. และสามารถรองรับการผลิตตามคำสั่งซื้อในประเทศ และส่งออกไปยังต่างประเทศได้อีกด้วย

"ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ในภูมิภาคเอเชีย และมีศักยภาพในการผลิตสูง ทำให้มีความพร้อมด้านวัตถุดิบ แรงงานฝีมือ และประสบการณ์ ที่จะผลิตชิ้นส่วนและอะไหล่ในอุตสาหกรรมระบบราง หากมีการจัดตั้งโรงงานผลิตรถไฟขึ้นในประเทศไทย จะเป็นธุรกิจใหม่ ที่จะสร้างรายได้อย่างยั่งยืนให้กับการรถไฟฯ รวมไปถึงการพัฒนาผู้ผลิตชิ้นส่วนและอะไหล่รถไฟภายในประเทศ ปรับเปลี่ยนพัฒนาและสร้างผู้ผลิตชิ้นส่วนและอะไหล่รถยนต์ของไทยที่เข้มแข็งมาสู่อุตสาหกรรมราง สร้าง Supply Chain ของอุตสาหกรรมไทยได้ทั้งระบบการใช้Local Contents จากผู้ผลิตไทย จะช่วยสร้างเศรษฐกิจ New S Curve ใหม่ให้กับประเทศอีกด้วย"
สำหรับบริษัท TRASA มีโรงงาน ผลิต และซ่อมรถไฟ 3 แห่ง ประกอบด้วยเมือง ซากายา เอสกิเซเฮียร์ และซีวัส อีกทั้งยังมีศูนย์วิจัย 2 แห่ง ในเมืองซากาย่าและเอสกิ เซเฮียร์ บริษัทมีพื้นที่ทั้งหมด 400,000 ตารางเมตร ปัจุบันมีพนักงาน 4,000 คน.

ที่มา: นสพ.ผู้จัดการรายวัน 360 องศา ฉบับวันที่ 19 พ.ย. 2567


Suriyan Lights Up Plans to Establish Train and Locomotive Factory

Source - Manager Daily 360 degrees
Tuesday, November 19, 2024 05:21

Orders SRT and SRTET to study design technology from Turkey

Manager Daily 360 - Suriyan examines Turkish and Italian models for domestic train and locomotive production. He orders the SRT and SRTET, in collaboration with the Ministry of Industry, to study and adapt the technology for use in Thailand. The goal is to produce trains domestically, replacing imports, and reducing costs. He reveals plans for double-track and high-speed rail, driving increased demand and supporting the establishment of a Thai factory.

Deputy Prime Minister and Minister of Transport, Suriyan Juangroongruangkit, revealed that he traveled to meet with the Deputy Minister of Transport and Infrastructure of Turkey and H.E. Mr. Osman Boyraz, CEO of TRASA, a state enterprise under the supervision of the Turkish Ministry of Transport and Infrastructure, in Sakarya, Turkey. He visited to observe their approach to train design, production, and technology transfer for domestic train manufacturing.

TRASA collaborates in developing train production technology with leading global transportation technology companies such as HYUNDAI, ALSTOM, and SIEMENS. Under the Turkish government's Eleventh Development Plan (2019-2023), Turkey aims to develop domestic train production, reduce imports, and emphasize the use of domestic parts and materials.

Furthermore, there is cooperation with the Italian company Blue Engineering S.p.L. After starting train production lines in 2023, TRASA developed a 160 km/h electric train according to European standards and delivered it to the State Railways of the Republic of Turkey for service. As a result of this development, train production in Turkey has become 20% cheaper than importing from abroad, and the use of domestically produced components has increased from 10% to 75%. TRASA also aims to produce a total of 56 trains (280 cars) by 2030.

Suriyan said that the Ministry of Transport has a policy to promote rail transport as the main mode of transportation for the country. This will reduce the country's transportation costs and be environmentally friendly, in line with the government's policy to develop large-scale infrastructure projects (Mega Projects). He has assigned the Rail Technology Research and Development Institute (SRTET) to work with the State Railway of Thailand (SRT) and the Ministry of Industry to apply the knowledge learned from Turkey to accelerate the production of trains and locomotives in Thailand, replacing imports from abroad. This will ensure the sustainable development of the country's rail transport services.

Currently, the Ministry of Transport is developing double-track railway projects, high-speed trains, and several urban rail lines. This is to develop infrastructure in parallel with economic growth and elevate Thailand as a regional transportation hub. This will lead to a significant increase in Thailand's demand for locomotives and trains. Therefore, it is necessary to push for Thailand to have the ability to design and manufacture trains domestically with modern technology and world-class standards. This will result in lower production and maintenance costs compared to imports. It will also enable production to meet the specific needs of the SRT and accommodate domestic and international orders.

"Thailand is a hub for automobile production in the Asian region and has high production potential. This provides readiness in terms of raw materials, skilled labor, and experience to produce parts and components for the rail industry. If a train factory is established in Thailand, it will be a new business that will generate sustainable income for the SRT. It will also lead to the development of domestic train parts and component manufacturers, adapting and developing Thailand's strong automobile parts manufacturers for the rail industry, and creating a complete supply chain for the Thai industry. The use of local content from Thai manufacturers will help create a new S-curve economy for the country."

TRASA has 3 train production and repair plants located in Sakarya, Eskişehir, and Sivas. It also has 2 research centers in Sakarya and Eskişehir. The company has a total area of 400,000 square meters and currently employs 4,000 people.

Source: Manager Daily 360 degrees, November 19, 2024
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43879
Location: NECTEC

PostPosted: 19/11/2024 10:29 am    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
"สุริยะ"ปลุกแผนตั้งโรงงานผลิต"ขบวนรถไฟ-หัวจักร"
Source - ผู้จัดการรายวัน 360 องศา
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันอังคาร ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 เวลา 05:21 น.
ปรับปรุง: วันอังคาร ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 เวลา 08:52 น.

“สุริยะ” ถก 2 ประเทศ ศึกษาเทคโนโลยีผลิตขบวนรถไฟ-หัวรถจักร หนุนระบบราง
ฐานเศรษฐกิจ
วันอังคาร ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 เวลา 08:15 น.
“สุริยะ" ถกตุรกี-อิตาลี ศึกษาเทคโนโลยีผลิตขบวนรถไฟ-หัวรถจักร สั่ง สทร.-รฟท.จับมือกระทรวงอุตสาหกรรม ทดแทนการนำเข้าจากต่างประเทศ หวังลดต้นทุน หนุนเมกะโปรเจ็กต์ระบบราง
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้เดินทางไปประชุมหารือร่วมกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมและโครงสร้างพื้นฐาน ตุรกี และ H.E. Mr. Osman Boyraz) CEO บริษัท TÜRASAŞ รัฐวิสาหกิจภายใต้กำกับของกระทรวงคมนาคมและโครงสร้างพื้นฐานตุรกี ณ เมืองซากาย่า สาธารณรัฐตุรกี พร้อมกันนี้ ยังได้เยี่ยมชมแนวทางการการออกแบบ ผลิต และแนวทางการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตรถไฟภายในประเทศด้วย

ทั้งนี้ บริษัท TÜRASAŞ มีความร่วมมือในการพัฒนาเทคโนโลยีผลิตรถไฟกับบริษัทชั้นนำด้านเทคโนโลยีการขนส่งทั่วโลก เช่น HYUNDAI ALSTOM และ SIEMENS ภายใต้แผนพัฒนาที่ 11 ของรัฐบาลตุรกี Eleventh Development Plan (2019- 2023) ได้กำหนดให้ประเทศตุรกีพัฒนาการผลิตรถไฟภายในประเทศ ลดการนำเข้า และเน้นการใช้อะไหล่และวัสดุภายในประเทศ บริษัท TÜRASAŞ ได้ดำเนินการตามแผนดังกล่าว

นอกจากนี้ ยังมีความร่วมมือกับบริษัท Blue Engineering S.p.L ของประเทศอิตาลี ภายหลังเริ่มสายการผลิตรถไฟในปี 2562 บริษัท TÜRASAŞ ได้พัฒนารถไฟฟ้าความเร็ว 160 กม./ชม. ตามมาตรฐานยุโรป

“สุริยะ” ถก 2 ประเทศ ศึกษาเทคโนโลยีผลิตขบวนรถไฟ-หัวรถจักร หนุนระบบราง

ขณะเดียวกันได้ส่งมอบให้การรถไฟตุรกี (State Railways of the Republic of Turkey) นำไปให้บริการต่อไป โดยผลจากการการพัฒนาดังกล่าว ส่งผลให้มีการผลิตรถไฟขึ้นในประเทศตุรกี ซึ่งมีราคาถูกกว่านำเข้าจากต่างประเทศถึง 20%

นอกจากนี้สามารถเพิ่มการใช้ชิ้นส่วนประกอบที่ผลิตในประเทศจากเดิม 10% ขึ้นเป็น 75% อีกทั้ง TÜRASAŞ ยังมีเป้าหมายการผลิตรถไฟ ให้ได้รวม 56 ขบวน (280 คัน) ภายในปี 2573



นายสุริยะ กล่าวต่อว่า ตามนโยบายของรัฐบาลภายใต้นายกรัฐมนตรีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ที่ต้องการมุ่งเน้นให้มีการจัดทำโครงการขนาดใหญ่ (Mega Project) เพื่อเร่งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านระบบราง
าง

ขณะเดียวกันกระทรวงคมนาคม จึงมีนโยบายให้การขนส่งทางรางเป็นการขนส่งหลักของประเทศ เพื่อให้ต้นทุนราคาค่าขนส่งของประเทศถูกลง และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งได้มอบนโยบายให้สำนักงานวิจัยและพัฒนา เทคโนโลยีระบบราง (สทร.) เป็นแกนหลักทำงานร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)

ส่วนกระทรวงอุตสาหกรรม นำความรู้แนวทางจากการดำเนินการที่เรียนรู้จากประเทศตุรกี ไปดำเนินการให้เกิดการผลิตรถไฟและหัวรถจักรขึ้นในประเทศไทย ทดแทนการสั่งซื้อนำเข้าจากต่างประเทศโดยเร็ว เพื่อให้การพัฒนาการบริการขนส่งด้วยระบบรางของประเทศมีความยั่งยืนตามนโยบายดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรม


ทั้งนี้ในปัจจุบันกระทรวงคมนาคม อยู่ระหว่างพัฒนาโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่และรถไฟความเร็วสูง รวมถึงรถไฟฟ้าในเขตเมืองหลายเส้นทาง ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานควบคู่ไปกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ และยกระดับให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านการขนส่งของภูมิภาค


อย่างไรก็ตามด้วยเหตุผลดังกล่าว ทำให้ประเทศไทยมีความต้องการที่จะต้องจัดหาหัวรถจักรและขบวนรถไฟอีกจำนวนมาก ดังนั้นจำเป็นต้องผลักดันให้ประเทศไทยมีขีดความสามารถในการออกแบบและผลิตรถไฟด้วยตนเอง ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและมีมาตรฐานระดับโลก

ทั้งนี้จะทำให้มีต้นทุนการผลิตและการบำรุงรักษาระหว่างการใช้งานที่ถูกกว่าการนำเข้า อีกทั้งสามารถผลิตให้ตรงกับความต้องการของ รฟท. และสามารถรองรับการผลิตตามคำสั่งซื้อในประเทศ และส่งออกไปยังต่างประเทศได้อีกด้วย

นายสุริยะ กล่าวต่อว่า ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ในภูมิภาคเอเชีย และมีศักยภาพในการผลิตสูง ทำให้มีความพร้อมด้านวัตถุดิบ แรงงานฝีมือ และประสบการณ์ ที่จะผลิตชิ้นส่วนและอะไหล่ในอุตสาหกรรมระบบราง

ทั้งนี้หากมีการจัดตั้งโรงงานผลิตรถไฟขึ้นในประเทศไทย จะเป็นธุรกิจใหม่ ที่จะสร้างรายได้อย่างยั่งยืนให้กับการรถไฟแห่งประเทศไทย รวมถึงการพัฒนาผู้ผลิตชิ้นส่วนและอะไหล่รถไฟภายในประเทศ

ขณะที่การปรับเปลี่ยนพัฒนาและสร้างผู้ผลิตชิ้นส่วนและอะไหล่รถยนต์ของไทยที่เข้มแข็งมาสู่อุตสาหกรรมราง สร้าง Supply Chain ของอุตสาหกรรมไทยได้ทั้งระบบการใช้ Local Contents จากผู้ผลิตไทย จะช่วยสร้างเศรษฐกิจ New S Curve ใหม่ให้กับประเทศอีกด้วย

สำหรับบริษัท TÜRASAŞ เป็นรัฐวิสาหกิจภายใต้กำกับของกระทรวงคมนาคมและโครงสร้างพื้นฐานตุรกี มีโรงงานผลิตและซ่อมรถไฟ 3 แห่ง ประกอบด้วย เมืองซากาย่า เอสกิเซเฮียร์ และซีวัส อีกทั้งยังมีศูนย์วิจัย 2 แห่งในเมืองซากาย่า และเอสกิเซเฮียร์ บริษัทมีพื้นที่ทั้งหมด 400,000 ตารางเมตร ปัจจุบันมีพนักงาน 4,000 คน

“สุริยะ” สั่งลุยผลิต “หัวรถจักร-ขบวนรถไฟ” ใช้เอง ถูกกว่านำเข้า 20% ชู “ตุรกี” ต้นแบบ
ข่าวนวัตกรรมขนส่ง
เผยแพร่: วันอังคาร ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 เวลา 08:18 น.

“สุริยะ” สั่ง “สทร.-รฟท.-ก.อุตสาหกรรม” ทำงานร่วมกัน ลุยผลิตขบวนรถไฟ-หัวรถจักรใช้เองในไทย ชู “TÜRASAŞ” รัฐวิสาหกิจตุรกี ต้นแบบ ผลิตเองถูกกว่านำเข้า 20% ใช้ชิ้นส่วนในประเทศเพิ่มเป็น 75% ชี้ช่วยสร้างรายได้ให้ประเทศได้อย่างยั่งยืน
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้เดินทางไปประชุมหารือร่วมกับรมช.คมนาคม และโครงสร้างพื้นฐาน ตุรกี และนายออสมาน บอยราช ซีอีโอบริษัท TÜRASAŞ รัฐวิสาหกิจภายใต้กำกับของกระทรวงคมนาคมและโครงสร้างพื้นฐานตุรกี ณ เมืองซากาย่า สาธารณรัฐตุรกี พร้อมกันนี้ยังเยี่ยมชมแนวทางการออกแบบ ผลิต และการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตรถไฟภายในประเทศด้วย ทั้งนี้บริษัท TÜRASAŞ บริษัท TÜRASAŞ มีโรงงานผลิต และซ่อมรถไฟ 3 แห่ง ประกอบด้วย เมืองซากาย่า เอสกิเซเฮียร์ และซีวัส


อีกทั้งยังมีศูนย์วิจัย 2 แห่งในเมืองซากาย่า และเอสกิเซเฮียร์ บริษัทมีพื้นที่ทั้งหมด 400,000 ตารางเมตร มีพนักงาน4,000 คน โดยมีความร่วมมือในการพัฒนาเทคโนโลยีผลิตรถไฟกับบริษัทชั้นนำด้านเทคโนโลยีการขนส่งทั่วโลกอาทิ HYUNDAI ALSTOM และ SIEMENS ดำเนินการภายใต้แผนพัฒนาที่ 11 ของรัฐบาลตุรกี Eleventh Development Plan (2019- 2023) ซึ่งกำหนดให้ประเทศตุรกีพัฒนาการผลิตรถไฟภายในประเทศ ลดการนำเข้าและเน้นการใช้อะไหล่และวัสดุภายในประเทศ

นายสุริยะ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังมีความร่วมมือกับบริษัท Blue Engineering S.p.L ของประเทศอิตาลี ภายหลังเริ่มสายการผลิตรถไฟในปี 2562 บริษัท TÜRASAŞ ได้พัฒนารถไฟฟ้าความเร็ว 160 กิโลเมตร(กม.)/ชั่วโมง(ชม.) ตามมาตรฐานยุโรป และส่งมอบให้การรถไฟตุรกี (State Railways of the Republic of Turkey) นำไปให้บริการต่อไปโดยผลจากการการพัฒนาดังกล่าว ส่งผลให้มีการผลิตรถไฟขึ้นในประเทศตุรกี ซึ่งมีราคาถูกกว่านำเข้าจากต่างประเทศถึง 20% และสามารถเพิ่มการใช้ชิ้นส่วนประกอบที่ผลิตในประเทศจากเดิม 10% ขึ้นเป็น 75% อีกทั้งTÜRASAŞ ยังมีเป้าหมายการผลิตรถไฟ ให้ได้รวม 56 ขบวน (280 คัน) ภายในปี 2573

นายสุริยะ กล่าวอีกว่า ในส่วนของประเทศไทย รัฐบาล และกระทรวงคมนาคม ก็มีนโยบายให้การขนส่งทางรางเป็นการขนส่งหลักของประเทศ เพื่อให้ต้นทุนราคาค่าขนส่งของประเทศถูกลง และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จึงมอบนโยบายให้สำนักงานวิจัยและพัฒนา เทคโนโลยีระบบราง (สทร.) เป็นแกนหลักทำงานร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และกระทรวงอุตสาหกรรม นำความรู้แนวทางจากการดำเนินการที่เรียนรู้จากประเทศตุรกี ไปดำเนินการให้เกิดการผลิตรถไฟ และหัวรถจักรขึ้นในประเทศไทย ทดแทนการสั่งซื้อนำเข้าจากต่างประเทศโดยเร็วเพื่อให้การพัฒนาการบริการขนส่งด้วยระบบรางของประเทศมีความยั่งยืนตามนโยบายดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรม


นายสุริยะ กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันกระทรวงคมนาคม อยู่ระหว่างพัฒนาโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ รถไฟความเร็วสูงและรถไฟฟ้าในเขตเมืองหลายเส้นทาง ทำให้ไทยมีความต้องการหัวรถจักร และขบวนรถไฟอีกจำนวนมาก ดังนั้นจึงจำเป็นต้องผลักดันให้ไทยมีขีดความสามารถในการออกแบบ และผลิตรถไฟด้วยตนเอง ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและมีมาตรฐานระดับโลก จะทำให้มีต้นทุนการผลิต และการบำรุงรักษาระหว่างใช้งานถูกกว่านำเข้า อีกทั้งสามารถผลิตให้ตรงกับความต้องการของ รฟท. และรองรับการผลิตตามคำสั่งซื้อในประเทศ และส่งออกไปยังต่างประเทศได้อีกด้วย


นายสุริยะ กล่าวอีกว่า ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ในภูมิภาคเอเชีย และมีศักยภาพในการผลิตสูงทำให้มีความพร้อมด้านวัตถุดิบ แรงงานฝีมือ และประสบการณ์ ที่จะผลิตชิ้นส่วน และอะไหล่ในอุตสาหกรรมระบบรางหากมีการจัดตั้งโรงงานผลิตรถไฟขึ้นในประเทศไทย จะเป็นธุรกิจใหม่ ที่จะสร้างรายได้อย่างยั่งยืนให้ รฟท. รวมถึงการพัฒนาผู้ผลิตชิ้นส่วน และอะไหล่รถไฟภายในประเทศ ปรับเปลี่ยนพัฒนา และสร้างผู้ผลิตชิ้นส่วน และอะไหล่รถยนต์ของไทยที่เข้มแข็งมาสู่อุตสาหกรรมราง สร้างกระบวนการจัดการผลิต (Supply Chain) ของอุตสาหกรรมไทยได้ทั้งระบบ การใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศ(Local Contents) จากผู้ผลิตไทย ช่วยสร้างเศรษฐกิจจากอุตสาหกรรมใหม่ให้กับประเทศด้วย...
https://www.dailynews.co.th/news/4095028/

'สุริยะ'ศึกษาเทคโนโลยีการผลิตขบวนรถไฟ-หัวรถจักร ตุรกี อิตาลี

เผยแพร่: วันอังคาร ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 เวลา 10.23 น.

"สุริยะ" ศึกษาเทคโนโลยีการผลิตขบวนรถไฟ-หัวรถจักร ตุรกี อิตาลี สั่ง สทร.-รฟท. บูรณาการ ก.อุตฯ ลุยพัฒนานำมาต่อยอดประยุกต์ใช้ในไทย ทดแทนการนำเข้าจากต่างประเทศ ช่วยลดต้นทุน พร้อมหนุนเมกะโปรเจกต์ระบบราง สนองนโยบายรัฐบาล

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้เดินทางไปประชุมหารือร่วมกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมและโครงสร้างพื้นฐาน ตุรกี และ H.E. Mr. Osman Boyraz) CEO บริษัท TÜRASAŞ รัฐวิสาหกิจภายใต้กำกับของกระทรวงคมนาคมและโครงสร้างพื้นฐานตุรกี ณ เมืองซากาย่า สาธารณรัฐตุรกี พร้อมกันนี้ ยังได้เยี่ยมชมแนวทางการการออกแบบ ผลิต และแนวทางการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตรถไฟภายในประเทศด้วย


ทั้งนี้ บริษัท TÜRASAŞ มีความร่วมมือในการพัฒนาเทคโนโลยีผลิตรถไฟกับบริษัทชั้นนำด้านเทคโนโลยีการขนส่งทั่วโลก เช่น HYUNDAI ALSTOM และ SIEMENS ภายใต้แผนพัฒนาที่ 11 ของรัฐบาลตุรกี Eleventh Development Plan (2019- 2023) ได้กำหนดให้ประเทศตุรกีพัฒนาการผลิตรถไฟภายในประเทศ ลดการนำเข้า และเน้นการใช้อะไหล่และวัสดุภายในประเทศ บริษัท TÜRASAŞ ได้ดำเนินการตามแผนดังกล่าว

นอกจากนี้ ยังมีความร่วมมือกับบริษัท Blue Engineering S.p.L ของประเทศอิตาลี ภายหลังเริ่มสายการผลิตรถไฟในปี 2562 บริษัท TÜRASAŞ ได้พัฒนารถไฟฟ้าความเร็ว 160 กม./ชม. ตามมาตรฐานยุโรป และส่งมอบให้การรถไฟตุรกี (State Railways of the Republic of Turkey) นำไปให้บริการต่อไป โดยผลจากการการพัฒนาดังกล่าว ส่งผลให้มีการผลิตรถไฟขึ้นในประเทศตุรกี ซึ่งมีราคาถูกกว่านำเข้าจากต่างประเทศถึง 20% และสามารถเพิ่มการใช้ชิ้นส่วนประกอบที่ผลิตในประเทศจากเดิม 10% ขึ้นเป็น 75% อีกทั้ง TÜRASAŞ ยังมีเป้าหมายการผลิตรถไฟ ให้ได้รวม 56 ขบวน (280 คัน) ภายในปี 2573

นายสุริยะ กล่าวต่อว่า ตามนโยบายของรัฐบาลภายใต้นายกรัฐมนตรีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ที่ต้องการมุ่งเน้นให้มีการจัดทำโครงการขนาดใหญ่ (Mega Project) เพื่อเร่งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านระบบราง ดังนั้น กระทรวงคมนาคม จึงมีนโยบายให้การขนส่งทางรางเป็นการขนส่งหลักของประเทศ เพื่อให้ต้นทุนราคาค่าขนส่งของประเทศถูกลง และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งได้มอบนโยบายให้สำนักงานวิจัยและพัฒนา เทคโนโลยีระบบราง (สทร.) เป็นแกนหลักทำงานร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และกระทรวงอุตสาหกรรม นำความรู้แนวทางจากการดำเนินการที่เรียนรู้จากประเทศตุรกี ไปดำเนินการให้เกิดการผลิตรถไฟและหัวรถจักรขึ้นในประเทศไทย ทดแทนการสั่งซื้อนำเข้าจากต่างประเทศโดยเร็ว เพื่อให้การพัฒนาการบริการขนส่งด้วยระบบรางของประเทศมีความยั่งยืนตามนโยบายดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรม

ทั้งนี้ ในปัจจุบันกระทรวงคมนาคม อยู่ระหว่างพัฒนาโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่และรถไฟความเร็วสูง รวมถึงรถไฟฟ้าในเขตเมืองหลายเส้นทาง ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานควบคู่ไปกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ และยกระดับให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านการขนส่งของภูมิภาค ด้วยเหตุผลดังกล่าว จะทำให้ประเทศไทยมีความต้องการที่จะต้องจัดหาหัวรถจักรและขบวนรถไฟอีกจำนวนมาก ดังนั้น จำเป็นต้องผลักดันให้ประเทศไทยมีขีดความสามารถในการออกแบบและผลิตรถไฟด้วยตนเอง ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและมีมาตรฐานระดับโลก ซึ่งจะทำให้มีต้นทุนการผลิตและการบำรุงรักษาระหว่างการใช้งานที่ถูกกว่าการนำเข้า อีกทั้ง สามารถผลิตให้ตรงกับความต้องการของ รฟท. และสามารถรองรับการผลิตตามคำสั่งซื้อในประเทศ และส่งออกไปยังต่างประเทศได้อีกด้วย

นายสุริยะ กล่าวอีกว่า ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ในภูมิภาคเอเชีย และมีศักยภาพในการผลิตสูง ทำให้มีความพร้อมด้านวัตถุดิบ แรงงานฝีมือ และประสบการณ์ ที่จะผลิตชิ้นส่วนและอะไหล่ในอุตสาหกรรมระบบราง หากมีการจัดตั้งโรงงานผลิตรถไฟขึ้นในประเทศไทย จะเป็นธุรกิจใหม่ ที่จะสร้างรายได้อย่างยั่งยืนให้กับการรถไฟแห่งประเทศไทย รวมไปถึง การพัฒนาผู้ผลิตชิ้นส่วนและอะไหล่รถไฟภายในประเทศ ปรับเปลี่ยนพัฒนาและสร้างผู้ผลิตชิ้นส่วนและอะไหล่รถยนต์ของไทยที่เข้มแข็งมาสู่อุตสาหกรรมราง สร้าง Supply Chain ของอุตสาหกรรมไทยได้ทั้งระบบการใช้ Local Contents จากผู้ผลิตไทย จะช่วยสร้างเศรษฐกิจ New S Curve ใหม่ให้กับประเทศอีกด้วย

สำหรับบริษัท TÜRASAŞ เป็นรัฐวิสาหกิจภายใต้กำกับของกระทรวงคมนาคมและโครงสร้างพื้นฐานตุรกี มีโรงงานผลิตและซ่อมรถไฟ 3 แห่ง ประกอบด้วย เมืองซากาย่า เอสกิเซเฮียร์ และซีวัส อีกทั้งยังมีศูนย์วิจัย 2 แห่งในเมืองซากาย่า และเอสกิเซเฮียร์ บริษัทมีพื้นที่ทั้งหมด 400,000 ตารางเมตร ปัจุบันมีพนักงาน 4,000 คน
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43879
Location: NECTEC

PostPosted: 19/11/2024 8:12 pm    Post subject: Reply with quote

ครม.เห็นชอบ ร.ฟ.ท.กู้เงิน 1.7 หมื่นล้าน ชดเชยการขาดทุน
ข่าวรอบวัน
เผยแพร่: วันอังคาร ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 เวลา 16:20 น.


ครม.เห็นชอบ ร.ฟ.ท.กู้เงิน 1.7 หมื่นล้าน ชดเชยการขาดทุน – บำรุงระบบราง

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบตามที่กระทรวงคมนาคม เสนอขออนุมัติเพื่อให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กู้เงินเพื่อเยียวยาชดเชยการขาดทุน วงเงิน 17,500 ล้านบาท

สืบเนื่องจาก ร.ฟ.ท.ขาดทุนอย่างต่อเนื่อง โดยมีกระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำ เพื่อนำเงินดังกล่าวมาเป็นค่าใช้จ่ายในการจ่ายดอกเบี้ย และซ่อมบำรุงโครงสร้างพื้นฐานระบบรางต่อไป

นอกจากนี้ ครม.ยังเห็นชอบอนุมัติปรับเพิ่มราคาการจัดจำหน่ายนมในโครงการอาหารเสริม หรือ นมโรงเรียน ทั้งในส่วนของนมชนิดพาสเจอร์ไรซ์ จากเดิม 6.89 บาท เป็น 7.35 บาท และชนิดยูเอชที จากเดิม 8.13 บาท เป็น 8.59 บาท ให้มีผลตั้งแต่ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567 ซึ่งใช้งบประมาณเพิ่มเติม 777.44 ล้านบาท...
https://www.prachachat.net/breaking-news/news-1698404
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 47077
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 20/11/2024 8:29 pm    Post subject: Reply with quote

ทีม “รถไฟไทยทำ” พร้อมผลิตทันที! อยากให้สานต่อ รถโดยสารขาดแคลนหนัก | เดลินิวส์
Source - เว็บไซต์เดลินิวส์
Wednesday, November 20, 2024 19:49

ทีม “รถไฟไทยทำ” หนุนนโยบาย “ผลิตขบวนรถไฟ-หัวรถจักร” ในไทย ชู “สุดขอบฟ้า” ตู้โดยสารต้นแบบคันแรกของไทย พิสูจน์ให้เห็นว่าคนไทยทำได้จริง เตรียมส่งมอบ รฟท. เปิดเดินรถเที่ยวปฐมฤกษ์เร็วๆ นี้ พร้อมขยายผลผลิตตู้โดยสารต่อ ชี้ไทยยังต้องการอีกมาก ส่วนหัวรถจักรเทคโนโลยีแอดวานซ์ ต้องใช้เวลา

“ทีมข่าวนวัตกรรมขนส่งเดลินิวส์” รายงานว่า ภายหลังจากนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม มีนโยบายให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) สำนักงานวิจัยและพัฒนา เทคโนโลยีระบบราง (สทร.) และกระทรวงอุตสาหกรรม ทำงานร่วมกันในการนำความรู้ แนวทางที่ได้เรียนรู้จากประเทศตุรกี ไปดำเนินการให้เกิดการผลิตขบวนรถไฟ และหัวรถจักรขึ้นในประเทศไทย ด้วยการจัดตั้งโรงงานผลิตขึ้นเองในไทย ทดแทนการสั่งซื้อนำเข้าจากต่างประเทศโดยเร็ว ซึ่งจากนโยบายดังกล่าวอาจส่งผลให้โครงการรถไฟไทยทำ หรือการผลิตรถไฟโดยสารต้นแบบ ที่ได้ดำเนินการก่อนหน้านี้ในรัฐบาลชุดที่ผ่านมาอาจจะไม่ได้ไปต่อ

ล่าสุด “ทีมข่าวนวัตกรรมขนส่งเดลินิวส์” ได้รับข้อมูลจากทางทีมโครงการรถไฟไทยทำว่า จากการหารือกับ รฟท. ในเบื้องต้น ยังมีการขยายผลโครงการนี้ต่อไป แต่ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะดำเนินการขยายผลในรูปแบบใด ที่จะเกิดประโยชน์ที่สุด ซึ่งในส่วนของรถไฟไทยทำ “สุดขอบฟ้า (Beyond Horizon)” ถือเป็นตู้โดยสารต้นแบบคันแรกของไทย ตามโครงการ “ไทยเฟิร์ส” ไทยทำ ไทยใช้ คนไทยต้องได้ก่อน ที่สนับสนุนอุตสาหกรรมในประเทศ และลดนำเข้าเทคโนโลยี โดยขณะนี้ได้จัดทำ และทดสอบการเดินรถ รวมถึงระบบต่างๆ เสร็จสิ้นแล้ว 1 ตู้ พร้อมส่งมอบให้ รฟท. เพื่อเป็นทรัพย์สินของ รฟท. นำไปใช้ประโยชน์ในการเดินรถให้บริการประชาชนในเส้นทางต่างๆ ต่อไป ซึ่งจะมีการจัดขบวนปฐมฤกษ์ในเร็วๆ นี้

สำหรับรถไฟไทยทำ “สุดขอบฟ้า” ผ่านการทดสอบการเดินรถมากกว่า 5 พันกิโลเมตร (กม.) เป็นไปตามมาตรฐานสากล และสามารถต่อพ่วงกับขบวนรถได้ทุกขบวน รวมทั้งยังสามารถทำความเร็วได้เข้ากับทุกขบวนตั้งแต่ 80-120 กม.ต่อชั่วโมง (ชม.) สามารถปรับจูนความเร็วได้หลายระดับ ขบวนรถนี้ได้แรงบันดาลใจจากที่นั่งในเครื่องบินชั้นธุรกิจ และชั้นเฟิร์สคลาสในรถไฟความเร็วสูง มีความยาว 24 เมตร กว้าง 2.80 เมตร มีที่นั่ง 25 ที่ ประกอบด้วย ชั้น Super Luxury 8 ที่นั่ง และชั้น Luxury 17 ที่นั่ง ทุกที่นั่งมีจอภาพส่วนตัวให้บริการด้านความบันเทิง และสั่งอาหาร มีพนักงานเสิร์ฟหุ่นยนต์นำอาหารมาส่งถึงที่นั่ง มีระบบห้องน้ำสุญญากาศ และสิ่งอำนวยความสะดวก รวมทั้งทางขึ้นรถไฟที่ได้รับการออกแบบเพื่อรองรับการใช้งานของผู้พิการ

การผลิตรถไฟไทยทำ “สุดขอบฟ้า” ถือเป็นความสำเร็จ และพิสูจน์ให้เห็นว่าคนไทยสามารถผลิตตู้โดยสารรถไฟด้วยตัวเองได้ และใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศ (Local Contents) จากผู้ผลิตไทยประมาณ 44% ด้วย จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่จะทำให้เห็นภาพชัดเจนว่า นโยบายการผลิตรถไฟ และหัวรถจักรในไทย สามารถเกิดขึ้นได้จริง ซึ่งทางโครงการฯ พร้อมสนับสนุนนโยบายนายสุริยะ เพราะการผลิตรถไฟ หรือหัวรถจักรได้เอง จะมีต้นทุนที่ถูกกว่าการนำเข้ามาก อย่างไรก็ตาม การผลิตหัวรถจักรเองนั้น ถือเป็นเรื่องใหม่ที่ต้องใช้ความรู้ และเทคโนโลยีขั้นสูงขึ้น (Advance) ดังนั้นการถ่ายทอดเทคโนโลยี และนำความรู้จากประเทศที่ประสบความสำเร็จมาพัฒนาต่อยอด เป็นเรื่องที่ดี แต่คาดว่าคงต้องใช้เวลากว่าจะเกิดขึ้นได้ ซึ่งระหว่างนี้สิ่งใดที่ทำได้ก่อน ก็อยากให้สานต่อโครงการต่อ เพราะประเทศไทยยังต้องการตู้โดยสารอีกมาก

เบื้องต้นจากการหารือเรื่องการขยายผลโครงการฯ กับ รฟท. จะมี 2 รูปแบบ คือ 1.ขบวนรถสำหรับเชิงท่องเที่ยว และ 2. ขบวนรถสำหรับขนส่งผู้โดยสารระยะไกล ซึ่งหาก รฟท. ให้ดำเนินการผลิต ก็พร้อมทำทันที โดยเริ่มตั้งแต่การออกแบบ จนถึงขั้นตอนการผลิต ส่วนหัวรถจักรนั้น เชื่อว่าสามารถทำได้ ไม่เกินความสามารถคนไทย แต่ต้องทำในปริมาณที่มากพอ จึงจะคุ้มค่ากับการลงทุน.


Thai-made Train Team Ready to Produce Immediately! Urges Continuation as Passenger Carriages are in Severe Shortage | Daily News
Source - Daily News Website
Wednesday, November 20, 2024 19:49

The "Thai-made Train" team supports the policy of "manufacturing train sets and locomotives" in Thailand. They highlight "Beyond Horizon," the first prototype passenger carriage in Thailand, as proof that Thais can actually do it. They are preparing to deliver it to the State Railway of Thailand (SRT) for its inaugural run soon and are ready to expand production of passenger carriages, pointing out that Thailand still needs many more. However, advanced technology locomotives will take time.

"Daily News Transportation Innovation News Team" reports that following Deputy Prime Minister and Minister of Transport Suriya Jungrungreangkit's policy for the SRT, the National Rail Technology Research and Development Institute (NRDIT), and the Ministry of Industry to work together to utilize the knowledge and approaches learned from Turkey to produce train sets and locomotives in Thailand by setting up a manufacturing plant in Thailand to replace imports as soon as possible, this policy may affect the Thai-made train project or the production of prototype passenger trains that were carried out earlier in the previous government, which may not continue.

Recently, the "Daily News Transportation Innovation News Team" received information from the Thai-made train project team that, from initial discussions with the SRT, there are plans to expand this project further, but it is still under consideration how to proceed with the expansion in a way that will be most beneficial. As for the Thai-made train "Beyond Horizon," it is considered the first prototype passenger carriage in Thailand under the "Thai First" project, which supports domestic industries and reduces technology imports. Currently, one carriage has been manufactured and tested, including its various systems, and is ready to be delivered to the SRT to be used for passenger service on various routes. There will be an inaugural run soon.

The Thai-made train "Beyond Horizon" has undergone more than 5,000 kilometers of operational testing, meeting international standards, and can be coupled with any train set. It can also match the speed of any train set from 80-120 kilometers per hour (km/h) and can be adjusted to various speed levels. This train is inspired by business class seats on airplanes and first-class seats on high-speed trains. It is 24 meters long, 2.80 meters wide, and has 25 seats, consisting of 8 Super Luxury seats and 17 Luxury seats. Every seat has a personal screen for entertainment and food ordering. There is a robot waiter to deliver food to the seats, a vacuum toilet system, and various amenities, including a train entrance designed to accommodate people with disabilities.

The production of the Thai-made train "Beyond Horizon" is considered a success and proves that Thais can produce train carriages themselves, using approximately 44% local content from Thai manufacturers. This is a starting point that provides a clear picture that the policy of manufacturing trains and locomotives in Thailand can truly happen. The project team is ready to support Minister Suriya's policy because manufacturing trains or locomotives domestically will cost much less than importing. However, manufacturing locomotives domestically is a new endeavor that requires advanced knowledge and technology. Therefore, technology transfer and utilizing knowledge from successful countries for further development is a good thing, but it is expected to take time. In the meantime, whatever can be done first, the project should be continued because Thailand still needs many passenger carriages.

Initially, from discussions about expanding the project with the SRT, there are two formats: 1. Tourist trains, and 2. Long-distance passenger trains. If the SRT allows production, they are ready to proceed immediately, starting from design to the production stage. As for locomotives, they believe that it can be done and is not beyond the capabilities of Thais, but it must be done in sufficient quantities to be worth the investment.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 486, 487, 488, 489  Next
Page 487 of 489

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©