Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวรถไฟแลนด์บริดจ์สายชุมพร-ระนอง
View previous topic :: View next topic
Author
Message
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 43714
Location: NECTEC
Posted: 03/09/2024 10:09 am Post subject:
DP World ตั้งคณะทำงานร่วมไทย หนุนลงทุน 'แลนด์บริดจ์'
เศรษฐกิจ
วันจันทร์ที่ 2 กันยายน 2567 เวลา 9:51 น.
สุริยะ ยันเดินหน้าบิ๊กโปรเจกต์ แลนด์บริดจ์ เกิดในรัฐบาลยุคนี้ เปิดไทม์ไลน์เตรียมเสนอ ครม. อนุมัติร่าง พ.ร.บ. SEC ปีนี้ เผย DP World ทุนดูไบ ขอจัดตั้งคณะทำงานร่วมเพื่อศึกษาโครงการอย่างละเอียด ตอกย้ำสัญญาณเอกชนสนใจร่วมทุน
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการสะพานเศรษฐกิจเชื่อมทะเลอ่าวไทย - อันดามัน (ชุมพร - ระนอง) หรือโครงการแลนด์บริดจ์ โดยระบุว่า กระทรวงฯ ยังคงมีเป้าหมายเดินหน้าผลักดันโครงการแลนด์บริดจ์ให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมในรัฐบาลนี้ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนและประเทศชาติ รวมถึงผลักดันเศรษฐกิจไทยให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน
โดยแผนการดำเนินงานในขณะนี้ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) อยู่ระหว่างการทำหนังสือบรรจุวาระการจัดทำร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ พ.ศ. .... หรือ พ.ร.บ. SEC เข้าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ (กพศ.) เพื่อพิจารณา ก่อนเสนอไปยังที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบ เพื่อเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ภายในเดือน ก.ย.2568
อย่างไรก็ดี เมื่อ พ.ร.บ. SEC มีผลบังคับใช้แล้ว จะมีการจัดตั้งสำนักงาน SEC และเข้าสู่แผนงานอื่นๆ โดยในส่วนการออกแบบทางรถไฟ และทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) รวมถึงการจัดทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) และคาดว่าสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) พิจารณา EIA แล้วเสร็จในปี 2568 สอดคล้องกับการออกแบบท่าเรือ และการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) และส่งให้ สผ. พิจารณาแล้วเสร็จในปี 2568
ในส่วนของกระบวนการคัดเลือกเอกชน การจัดทำร่างเอกสารเชิญชวนผู้ลงทุนในการร่วมลงทุนโครงการ (RFP) คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 1/2569 ก่อนที่จะคัดเลือกผู้ลงทุนแล้วเสร็จในไตรมาส 2/2569 จากนั้นจะออก พ.ร.ฎ. เวนคืนที่ดิน ก่อนเสนอ ครม. อนุมัติโครงการภายในไตรมาส 2/2569 จากนั้นจะสามารถลงนามสัญญากับผู้ชนะการประกวดราคา และเริ่มดำเนินการก่อสร้างระยะที่ 1 ในไตรมาส 3/2569 แล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการในช่วงปลายปี 2573
นายสุริยะ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ทางบริษัท Dubai Port World (DP World) ประสานต้องการที่จะให้ สนข.ช่วยให้ข้อมูลในเรื่องต่างๆ ของโครงการอย่างละเอียด จึงมีการจัดตั้งคณะทำงานร่วมกันระหว่าง สนข.และ DP World ซึ่งแสดงให้เห็นว่าโครงการนี้มีเอกชนพร้อมลงทุน อย่างไรก็ตาม หากผู้ประกอบการเอกชนรายใด ต้องการจะตั้งคณะทำงานร่วมกับประเทศไทย ก็สามารถแสดงความประสงค์มาได้ทันที โดยยืนยันว่ากระทรวงคมนาคม และรัฐบาลไทย มีความยินดีต้อนรับนักลงทุนจากทั่วทุกมุมโลก และไม่ได้ผูกมัด หรือกีดกันรายใดรายหนึ่ง
https://www.bangkokbiznews.com/business/economic/1142821
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 46865
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 27/09/2024 11:11 am Post subject:
กสม.เขย่าแลนด์บริดจ์ ปิดกั้นไม่ให้ปชช.รับรู้ กระทบต่อสิ่งแวดล้อม
Source - เว็บไซต์แนวหน้า
Friday, September 27, 2024 06:23
เมื่อวันที่ 26กันยายน2567 นางสาวศยามล ไกยูรวงศ์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนและเกษตรกรในจังหวัดชุมพรและระนอง ขอให้ตรวจสอบกรณีโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ เพื่อเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน หรือโครงการแลนด์บริดจ์ ซึ่งประกอบไปด้วย ท่าเรือ เส้นทางรถไฟทางคู่ และทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (motorway) ขาดการมีส่วนร่วม และจะส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมและวิถีชีวิตของประชาชนในพื้นที่ เมื่อวันที่ 29-31พฤษภาคม2567
กสม.จึงได้จัดเวทีสาธารณะเพื่อรับฟังข้อเท็จจริงและความคิดเห็นของส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคธุรกิจ ภาคประชาสังคม รวมถึงประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบจากโครงการในพื้นที่ รวมทั้งได้ประมวลรายงานการศึกษาที่เกี่ยวข้องและความเห็นของนักวิชาการ และได้รับทราบข้อเท็จจริงรวมทั้งข้อห่วงกังวลหลายประการ สรุปได้ดังนี้ (1) กระบวนการชี้แจงข้อมูลและรับฟังความคิดเห็น รวมถึงการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) มีประเด็นว่า สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) และหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง จัดการประชุมชี้แจงข้อมูลและรับฟังความคิดเห็นแยกเป็นรายโครงการเฉพาะในส่วนที่หน่วยงานของตนรับผิดชอบ ทำให้ประชาชนไม่ได้รับข้อมูลในภาพรวม นอกจากนี้การชี้แจงข้อมูลยังไม่ชัดเจน ไม่ลงลึกในรายละเอียด และยังไม่มีข้อมูลของโครงการอื่นที่เกี่ยวเนื่องอีกหลายส่วน เช่น ขอบเขตที่ชัดเจนของแนวถนนและทางรถไฟเชื่อมโยงท่าเรือฝั่งอันดามันและฝั่งอ่าวไทย ที่ตั้งนิคมอุตสาหกรรมและพื้นที่อุตสาหกรรมหลังท่า โรงไฟฟ้า เขื่อนหรืออ่างเก็บน้ำ ซึ่งเป็นระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานของโครงการ
นอกจากนี้ ขอบเขตการศึกษายังไม่ให้น้ำหนักที่มากพอในประเด็นผลกระทบของโครงการต่อประชาชน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และไม่มีการวิเคราะห์ความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นเท่าที่ควร ขณะที่การกำหนดกลุ่มเป้าหมายของการรับฟังความคิดเห็นยังไม่เปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง โดยเฉพาะกลุ่มชาติพันธุ์ คนไทยพลัดถิ่น และมีการปิดกั้นไม่ให้ประชาชนกลุ่มคัดค้านโครงการเข้าร่วมรับฟังข้อมูลและแสดงความคิดเห็นด้วย
(2) โครงการแลนด์บริดจ์จะส่งกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติ พันธุ์พืช สัตว์ป่า สัตว์น้ำ สิ่งแวดล้อม แหล่งน้ำ และวิถีชีวิตดั้งเดิมของประชาชนในพื้นที่ อีกทั้งการก่อสร้างโครงการอาจก่อให้เกิดมลพิษ และการเคลื่อนย้ายแรงงานที่อาจก่อให้เกิดปัญหาโรคระบาดและอาชญากรรม รวมถึงส่งผลกระทบต่อการขนส่ง และการคมนาคม
(3) รายงานการศึกษาที่เกี่ยวข้องพบว่าโครงการแลนด์บริดจ์มีความไม่เหมาะสมเมื่อพิจารณาเปรียบเทียบกับความคุ้มค่าและผลกระทบในมิติต่าง ๆ กล่าวคือ รายงานการศึกษาผลกระทบเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Environmental Assessment: SEA) สำหรับการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคใต้ ของ สนข. เมื่อปี 2559 สรุปว่า จังหวัดระนองมีความเหมาะสมเป็นพื้นที่อนุรักษ์ในระดับสูง มีพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระหว่างประเทศหรือแรมซาร์ไซต์ (Ramsar site) ขณะที่จังหวัดชุมพรมีศักยภาพในการพัฒนาด้านการเกษตรในระดับสูง และเป็นพื้นที่ที่มีระบบนิเวศและทรัพยากรธรรมชาติที่ค่อนข้างสมบูรณ์ มีคุณค่าในระดับภาค และระบุว่าสะพานเศรษฐกิจไม่สามารถย่นระยะทาง ไม่สามารถประหยัดค่าเชื้อเพลิงของเรือขนส่งสินค้า และเมื่อพิจารณาค่าธรรมเนียมที่จะสามารถเรียกเก็บได้จากการให้บริการขนส่งตู้สินค้าของสะพานเศรษฐกิจพบว่าไม่คุ้มค่ากับค่าใช้จ่ายในการดำเนินการและการบำรุงรักษา จึงควรชะลอการพัฒนาสะพานเศรษฐกิจออกไปก่อน
ส่วนรายงานโครงการศึกษาความเป็นไปได้ในการเชื่อมโยงเส้นทางขนส่งทางทะเลฝั่งอ่าวไทยและอันดามันของประเทศไทย ของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เมื่อปี 2525 ระบุว่า การพัฒนาสะพานเศรษฐกิจทางบกเส้นทางใหม่เชื่อมโยงสองฝั่งทะเลอันดามันและอ่าวไทย ซึ่งประกอบไปด้วยอุโมงค์ ทางยกระดับ และรถไฟรางคู่ จะกระทบต่อพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าควนแม่ยายหม่อน พื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระหว่างประเทศ ศาสนสถานสำคัญวัดนกงาง จังหวัดระนอง การเดินเรือจะส่งผลกระทบต่ออุทยานแห่งชาติแหลมสน ส่งผลกระทบต่อคุณภาพน้ำ ทำให้สูญเสียพื้นที่ป่าชายเลน การกัดเซาะชายฝั่ง รวมถึงส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศปะการังบริเวณเกาะพยาม จังหวัดระนอง เกาะครามและเกาะพิทักษ์ จังหวัดชุมพร
นอกจากนี้ โครงการมีข้อจำกัดเรื่องความเหมาะสม เมื่อพิจารณาจากผลกระทบในมิติต่าง ๆ เช่น ความคุ้มค่าทางการเงินและเศรษฐศาสตร์ ขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจของผู้ประกอบการไทย การกระจายรายได้ และความมั่นคงและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ (4) ความเห็นของนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญทางทะเลและเศรษฐศาสตร์ เห็นว่า ที่ตั้งท่าเรือฝั่งอันดามัน อยู่ใกล้กับพื้นที่แหล่งอนุรักษ์ทะเลอันดามันของศูนย์มรดกโลก เพื่อขอรับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก นอกจากนี้ ท่าเรือ เส้นทางเดินเรือ รวมถึงการขยายพื้นที่ชายฝั่งเพื่อรองรับระบบโลจิสติกส์และอุตสาหกรรมต่อเนื่อง ยังอาจกระทบต่อเขตอนุรักษ์ การไหลของกระแสน้ำในทะเล การเดินทางของธาตุอาหาร และการวางไข่ของปลาทะเลในพื้นที่ป่าชายเลนซึ่งเป็นแหล่งทำประมงหลักของกลุ่มประมงพื้นบ้าน รวมทั้งโครงการอาจไม่มีความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ เนื่องจากไม่อาจดึงดูดการขนส่งสินค้าทางทะเลจากเส้นทางเดินเรือหลักทางช่องแคบมะละกาได้และไม่อาจย่นระยะทางขนส่งอย่างมีนัยสำคัญ รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการขนส่งมีราคาแพง
NHRCT Criticizes the Land Bridge Project for Lack of Public Awareness and Environmental Impact
Source: Naewna Website
Friday, September 27, 2024, 06:23
On September 26, 2024, Ms. Sayamon Kaiyurawong, a member of the National Human Rights Commission of Thailand (NHRCT), revealed that the commission had received complaints from residents and farmers in Chumphon and Ranong provinces. They requested an investigation into the Southern Economic Corridor transport infrastructure development project, also known as the Land Bridge project, which aims to connect transportation between the Gulf of Thailand and the Andaman Sea. The project, comprising ports, a dual-track railway, and a motorway, has been criticized for lacking public participation and potentially impacting the environment and local livelihoods.
In response, the NHRCT held a public forum from May 29-31, 2024, to gather input from government agencies, local administrations, businesses, civil society, and residents potentially affected by the project. The commission also reviewed related studies and expert opinions. Key concerns identified include:
1. Lack of comprehensive information: The process of informing the public and collecting feedback, including the Environmental Impact Assessment (EIA), was criticized. The Office of Transport and Traffic Policy and Planning (OTP) and other relevant agencies held separate meetings for different parts of the project, preventing the public from gaining a full understanding. The information presented was vague and did not cover related infrastructure projects, such as the precise locations of roads, railways, industrial zones, power plants, and reservoirs.
2. Environmental and social impacts: The Land Bridge project is expected to affect natural resources, wildlife, aquatic life, and traditional ways of life. The construction may lead to pollution and the movement of labor, potentially causing disease outbreaks and crime. Transportation and logistics could also be disrupted.
3. Inadequate cost-benefit analysis: Several studies found the project to be economically unfeasible when compared to its potential environmental impacts. For example, a 2016 Strategic Environmental Assessment (SEA) concluded that Ranong is a high-priority conservation area due to its international wetlands (Ramsar sites), and Chumphon has significant agricultural potential with a relatively intact ecosystem. The project does not significantly shorten shipping routes or save fuel costs, and fees from logistics services would not cover the costs of construction and maintenance.
4. Expert concerns: Marine and economic experts expressed concerns about the project's proximity to the Andaman Sea conservation area, which is under consideration for World Heritage status. The development of ports and expanded logistics infrastructure could affect coastal ecosystems, mangroves, and local fisheries. The project might not attract significant maritime shipping away from the Malacca Strait, and the high costs of logistics could undermine its economic viability.
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 43714
Location: NECTEC
Posted: 11/10/2024 1:53 pm Post subject:
สนข.เร่งคลอด พ.ร.บ.SEC ขับเคลื่อน แลนด์บริดจ์ เผยปี 68 ลุยทำ RFP ตั้งหน่วยงานเตรียมประมูล
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันพุธ ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2567 เวลา 16:50 น.
ปรับปรุง: วันพุธ ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2567 เวลา 16:50 น
KEY POINTS
สนข. เดินหน้าพัฒนาโครงข่ายคมนาคม เพิ่มฟีดเดอร์เชื่อมรถไฟฟ้าและระบบรางในภูมิภาค
ดัน พ.ร.บ.SEC ขับเคลื่อนโครงการ "แลนด์บริดจ์" (เชื่อมโยงระบบขนส่งทางรางระหว่างไทย-จีน)
ตั้งเป้าเปิดประมูลโครงการ "มนพร" (โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน) ในปี 68
เตรียมร่าง RFP (เอกสารประกาศเชิญชวนเสนอราคา) และตั้งหน่วยงานใหม่ สำหรับโครงการ "มนพร"
มั่นใจ ครม.จะอนุมัติ พ.ร.บ.SEC ได้ในปี 67
สนข.ครบ 22 ปี เดินหน้าพัฒนาโครงข่ายคมนาคมเพิ่มฟีดเดอร์เชื่อมรถไฟฟ้า และระบบรางในภูมิภาค ดันคลอด พ.ร.บ.SEC ขับเคลื่อนแลนด์บริดจ์ ปักธงปี 68 ร่าง RFP ตั้งหน่วยงานใหม่ เตรียมพร้อมเปิดประมูลมนพรมั่นใจไทม์ไลน์ครม.เคาะกฎหมายได้ในปี 67
วันที่ 9 ต.ค. 2567 นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในงานวันคล้ายวันสถาปนาสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ครบรอบ 22 ปี ว่า สนข. เปรียบเสมือน "คลังสมอง"ให้กับกระทรวงคมนาคม ปฏิบัติภารกิจหน้าที่และมีบทบาทในการเสนอแนะนโยบายและจัดทำแผนยุทธศาสตร์แผนแม่บท แผนงานต่าง ๆ ด้านคมนาคมขนส่งและจราจร ทั้งมิติทางถนน ทางราง ทางน้ำ และทางอากาศ รวมทั้งผลักดันขับเคลื่อนแผนงาน โครงการ และมาตรการต่าง ๆ ให้เกิดผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อบรรลุเป้าหมายในการยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน การขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และเตรียมความพร้อมในการรองรับการขยายตัว และการเปลี่ยนแปลงในอนาคต และผลักดันให้ประเทศไทย ก้าวสู่การเป็น "ศูนย์กลางด้านคมนาคมในภูมิภาค"
ด้านคมนาคมทางบกนั้นให้ สนข. เป็นหน่วยงานหลัก ผ่านกลไกของคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) เพื่อบริหารจัดการการแก้ไขปัญหารจราจร และในระยะกลาง ให้พัฒนาโครงข่ายคมนาคมเชื่อมโยงรูปแบบการเดินทาง เช่น จัดระบบฟีดเดอร์เชื่อมโยงรถเมล์ กับรถไฟฟ้า
ส่วนระบบรางให้เร่ง จัดระบบขนส่งสาธารณะในเมืองใหญ่ในภูมิภาค และ ให้ สนข. เป็นหน่วยงานร่วมในการเจรจากับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อหาข้อสรุปในโครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งใหม่ ที่จังหวัดหนองคาย เพื่อเชื่อมโยงถนนกับระบบราง ส่วนในระยะกลางให้หาข้อสรูปแนวทางการพัฒนารถไฟทางคู่ระบบรถไฟฟ้าในเมืองภูมิภาค และ คมนาคมทางอากาศ ให้พิจารณาการเชื่อมต่อการเดินทางทางอากาศกับการขนส่งทางบก เพื่อให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวก
นางมนพรกล่าวถึงโครงการโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้และเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน (ชุมพร-ระนอง) หรือโครงการแลนด์บริดจ์ว่า ให้ สนข. เร่งเดินหน้าให้เป็นรูปธรรม และเป็นไปตามกรอบเวลาที่กำหนดโดยจะเร่งผลักดันร่างพระราชบัญญัติเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ (พ.ร.บ. SEC) เพื่อขับเคลื่อนแลนด์บริดจ์ และเข้าสู่ขั้นตอนการเปิดประมูลหาผู้ร่วมลงทุน (PPP)
ซึ่งขณะนี้ สนข.ได้เสนอเรื่องไปที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ในฐานะเลขาฯคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ (กพศ.) เพื่อรอเสนอที่ประชุม กพศ.พิจารณามอบอำนาจให้ สนข. เป็นผู้จัดทำร่าง พ.ร.บ. SEC ก่อน เสนอร่าง พ.ร.บ.SEC ไปยังที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบ เพื่อเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
@ลุ้นคณะกก.เขตศก.พิเศษ มอบอำนาจ เร่งคลอดพ.ร.บ.SEC ขับเคลื่อนแลนด์บริดจ์
นายปัญญา ชูพานิช ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งแลงและจราจร (สนข.) กล่าวว่า หลังจากสนข.ได้รับมอบอำนาจในการจัดทำร่างพ.ร.บ. SEC แล้วจะนำร่างพ.ร.บ.SEC รับฟังความคิดเห็นฯ มีระยะเวลา 7 วัน คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน จะสรุปความเห็นมาปรับปรุงประกอบ และ นำเสนอ กระทรวงคมนาคม และครม. ได้ภายในปี 2567 เข้าสู่กระบวนการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ต่อไป
นายปัญญากล่าวว่า ในปี 2568 สนข. จะดำเนินการคู่ขนาน เช่น การจัดเตรียมเอกสารและให้คำปรึกษาในการคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมลงทุนโครงการแลนด์บริดจ์ (RFP) และศึกษา EHIA รวมถึงเตรียมการจัดตั้งหน่วยงาน SEC ซึ่งจะต้องจัดตั้งให้เสร็จก่อน เพื่อทำหน้าที่ในการประมูลคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุน
สำหรับพ.ร.บ. SEC จะใช้เป็นกฎหมาย เพื่อขับเคลื่อนแลนด์บริดจ์ จะมีการกำหนดพื้นที่ 4 จังหวัด คือสุราษฏร์ธานี นครศรีธรรมราช ชุมพร ระนอง เป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ เหมือนอีอีซี
@มอบทุนการศึกษาบุตร เจ้าหน้าที่สนข.
และเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนาสนช.ครบรอบ 22ปีนางมนพรเจริญศรีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมได้กล่าวอวยพรและชื่นชมคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่สนข.ที่เป็นฟันเฟืองสำคัญในการเร่งรัดผลักดันการดำเนินงานตามตามนโยบายสำคัญของกระทรวงคมนาคมจนประสบความสำเร็จในหลายๆเรื่องสมกับที่เป็น"องค์กรนำในการกำหนดทิศทางและขับเคลื่อนการพัฒนาระบบคมนาคมของไทย"นอกจากนี้ยังได้รับเกียรติมอบทุนการศึกษา"คำรบลักขิ์สุรัสวดี"ให้แก่บุตรข้าราชการและเจ้าหน้าที่สนข.ที่มีผลการเรียนดีจำนวน 3ทุนในระดับประถมศึกษาจำนวน 1ทุนและ
ระดับมัธยมศึกษาจำนวน 2ทุนรวมทั้งได้มอบรางวัลให้กับนักกีฬาสนข.เพื่อเป็นขวัญกำลังใจจากการเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาสีกระทรวงคมนาคม "MOT GAMES 2024"ระหว่างวันที่ 2-6กันยายน 2567ที่ผ่านมา
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 46865
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 23/10/2024 6:14 am Post subject:
หวิดล่ม! กรมทางหลวงประชุมชี้แจงโครงการแลนด์บริดจ์ หลังชาวชุมพรระนองบุกยื่นหนังสือคัดค้าน
วันอังคาร ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2567, 18.19 น.
กรมทางหลวงร่วมกลุ่มบริษัทที่ปรึกษา จัดประชุมปฐมนิเทศโครงการจ้างวิศวกรที่ปรึกษาสำรวจและออกแบบทางหลวงพิเศษสาย ชุมพร-ระนอง (โครงการแลนด์บริดจ์เพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ เชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยอันดามัน) หวิดล่มหลังเครือข่ายรักษ์พะโต๊ะและเครือข่ายรักษ์ระนอง กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการดังกล่าวประมาณ 300 คน พร้อมชูป้ายคัดค้านการจัดประชุมไม่เป็นไปตามขั้นตอนพร้อมขอให้ยุติการประชุมดังกล่าวและยื่นหนังสือคัดค้านโครงการแลนด์บริดจ์ และคัดค้านร่างพ.ร.บ.SEC
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 22 ต.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมใหญ่บริเวณภายในศูนย์ราชการสามแก้ว ตำบลนาชะอัง อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร นายกีฑา เดชพิน ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงชุมพร กรมทางหลวงและกลุ่มบริษัทที่ปรึกษาประกอบด้วย นายฤทธิชัย วุ้นศิริ ผู้ชำนาญการด้านสิ่งแวดล้อม นายมนูญ แสงเพลิง ผู้ชำนาญการด้านสิ่งแวดล้อม นายเด่นศักดิ์ สุขกูล จัดการโครงการ นายมรรครินทร์ จันโทภาส วิศวกรงามทาง จัดการประชุมภายใต้ชื่อ ปฐมนิเทศโครงการ(สัมมนา ครั้งที่ 1 ) โครงการจ้างวิศวกรที่ปรึกษาสำรวจและออกแบบทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายชุมพร-ระนอง หรือ โครงการแลนด์บริดจ์ เพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ เชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยอันดามัน ชุมพร-ระนอง โดยมีนายธนนท์ พรรพีภาส รองผู้ว่าจังหวัดชุมพร รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เป็นประธานเปิดการประชุม
แต่ปรากฏว่าขณะเดียวกันได้มีกลุ่มเครือข่ายรักษ์พะโต๊ะและรักษ์ระนอง ประมาณ 300 คน เดินทางเข้าห้องประชุมพร้อมชูป้ายคัดค้านโครงการแลนด์บริดจ์ฯ ทั้งนี้นายสมโชค จุงจารันต์ คณะทำงานเครือข่ายรักษ์พะโต๊ะและตัวแทนชาวบ้านเพื่อเรียกร้องให้ระงับการประชุมในครั้งนี้ไว้ก่อนและยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร โดยผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร
ระหว่างรอการยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพรนายสมโชคฯ กล่าวหน้าเวทีการประชุมโดยมีเครือข่ายรักษ์พะโต๊ะ-รักษ์ระนองและประชาชนผู้เข้าร่วมประชุมว่า วันนี้เรามาไม่ได้เป็นปฏิปักษ์ แต่อยากให้ท่านได้เข้าใจว่าบริบถพะโต๊ะบริบถระนองเราอยู่เย็นเป็นสุข
โครงการนี้เข้ามาตามที่รัฐชี้แจงการสร้างงาน สร้างรายได้กว่า 2.8 แสนตำแหน่ง ดูจากราชบัญญัติ พ.ร.บ.SEC จำนวน 2 ฉบับที่เกิดขึ้นจากนายอนุทินฯหรือผู้ที่เกี่ยวข้อง ไม่มีมาตราไหนให้สิทธิผลประโยชน์คนไทย ไม่เชื่อกลับไปอ่านดูได้ โดยเฉพาะในส่วนของให้อำนาจคณะกรรมการกำหนดนโยบายสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงผังเมือง สิ่งเหล่านี้เราไม่สามารถยอมรับได้ การเปลี่ยนแปลงผันเมืองเป็นขั้นแรกสู่ความเปลี่ยนแปลงเป็นนิคมอุตสาหกรรม แล้วจะมีอัตราการทำงาน
นายสมโชคฯ กล่าวอีกว่า แล้วจะมีอัตราการทำงานอันนี้เป็นเรื่องโกหก เพราะร่างพ.ร.บ.SEC กฎหมายฉบับนี้ 8 หมวด 67 มาตรา ระบุชัดเจนว่า ให้สิทธิผู้ประกอบการนำเข้าแรงงานต่างด้าว พร้อมที่พักพิง ถามว่าวันนี้ลูกหลานเองทำงานตรงไหน ยกตัวอย่างง่ายๆที่โคราชอุโมงค์ถล่มแรงงานที่ตายเป็นแรงงานชาวพม่า จีน นี่คือข้อเท็จจริงที่ต้องยอมรับ
เวลาต่อมานายธนนท์ พรรพีภาส รองผู้ว่าจังหวัดชุมพร รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เดินทางมารับหนังสือร้องเรียน โดยนายสมโชค น.ส.วิไลวรรณ ยอดไหม และน.ส.ประพิศ โหยบคาน ร่วมกันอ่านหนังสือร้องเรียนคัดค้านระบุ เรื่อง ขอให้ยุติการดำเนินโครงการแลนด์บริดจ์ และยกเลิกกระบวนการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ของโครงการสำรวจและออกแบบทางหลวงพิเศษสาย ระนอง - ชุมพร ภายใต้โครงการแลนด์บริดจ์ ที่ดำเนินการโดยไม่ขอบธรรมและจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนอย่างรุนแรง
ตามที่รัฐบาลประกาศเดินหน้าผลักดันโครงการสะพานเศรษฐกิจเชื่อมทะเลอ่าวไทย-อันดามัน หรือ แลนด์บริดจ์ ในพื้นที่จังหวัดระนองและชุมพร ซึ่งประกอบด้วยโครงการก่อสร้างระบบคมนาคมขนส่งขนาด ใหญ่ อย่างน้อย 4 โครงการ คือ ท่าเรือน้ำลึก 2 ท่าบริเวณชายฝั่งทะเลระนองและชุมพร ทางหลวงพิเศษ ระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) และรถไฟทางคู่ รวมถึงอยู่ระหว่างการผลักดันนโยบายและร่างกฎหมายระเบียง เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ (SEC) อย่างเร่งรีบ โดยอ้างว่าเพื่อกระตุ้นการลงทุนทางเศรษฐกิจนั้น
ที่ผ่านมา มีการวิพากษ์และมีเสียงทักท้วงทั้งจากประชาชนในพื้นที่ จากเครือข่ายภาคประชาสังคมด้าน สิ่งแวดล้อมและสิทธิชุมชน นักวิชาการ และผู้ประกอบการทั้งด้านการขนส่งและการท่องเที่ยว ที่พยายาม ส่งสารและสื่อสารไปยังรัฐบาลให้ทบทวนและใคร่ครวญอย่างรอบคอบต่อโครงการแลนด์บริดจ์และนโยบาย ระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ (SEC) ทั้งในมิติความสูญเสียของฐานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัย รวมถึงฐานอาชีพของคนในท้องถิ่น สังคมวัฒนธรรม และที่สำคัญคือ ความคุ้มค่า คุ้มทุนของโครงการนี้ในทางเศรษฐศาสตร์ และทั้งหมดนี้มีข้อมูลงานศึกษาวิจัยของนักวิชาการอ้างอิงได้ แต่รัฐบาลกลับไม่รับฟังและยังเดินหน้าโครงการดังกล่าว ทั้งๆ ที่นโยบายเศรษฐกิจที่มุ่งเน้นการพัฒนา อุตสาหกรรมอย่างเข้มข้นได้ถูกพิสูจน์ให้เห็นแล้วจากกรณีของเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่เป็น แม่พิมพ์ต้นแบบของ SEC ที่เอื้อประโยชน์ให้กับคนเฉพาะกลุ่มเท่านั้น แต่ความเสียหายกลับเกิดขึ้นกับ ประชาชนทั่วไปอย่างกว้างขวาง มีข้อมูลเชิงประจักษ์ว่ามีความล้มเหลวหลายประการที่เกิดขึ้นจากการใช้ กฎหมายดังกล่าว ทั้งด้านการจัดการมลพิษ กากสารพิษ หรือของเสียจากโรงงานที่อยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษ รวมถึงความเสียหายและการสูญเสียทางด้านระบบสิ่งแวดล้อมที่หนักหนาสาหัสเกินเยียวยา รวมถึงการละเลย ไม่ดำเนินการตามกฎหมายในหลายมาตราที่ว่าด้วยการคุ้มครองสิทธิชุมชนและสิทธิมนุษยชน รวมถึงการ เยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น เครือข่ายรักษ์พะตะ-รักษ์ระนอง ซึ่งเป็นประชาชนในพื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบจากการดำเนิน โครงการ ขอยืนยันอีกครั้งถึงความไม่ชอบธรรมไม่เหมาะสม ของโครงการแลนด์บริดจ์ มีผลกระทบความเสียหายอย่างร้ายแรงที่จะเกิดขึ้นต่อสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ ระบบนิเวศ และวิถีชีวิตของชุมชนเป็นต้น
หลังจากที่ยื่นหนังสือขอให้ยุติการดำเนินโครงการแลนด์บริดจ์ และยกเลิกกระบวนการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมฯนั้น นายสมโชคให้เหตุผลว่า ขอให้การประชุมในครั้งนี้ยกเลิกเนื่องจาก ไม่เป็นไปตามขั้นตอน เพราะว่าก่อนหน้านี้มีเจ้าหน้าที่ใช้โดรนและกำลังเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่โครงการฯไปปักหมุดหลักฐานMR 8 002 ของกรมทางหลวง ถึงจะมีการประชุมใช้หัวข้อ การประชุมปฐมนิเทศ(สัมมนาครั้งที่ 1 )นั้น มองว่า แต่สิ่งที่ จนท.ทำคือปักหมุดก่อนแล้วค่อยปฐมนิเทศ นั้นเท่ากับว่าจนท.เอาปืนจ่อหัวผม จ่อด้วยข้อกฎหมาย พูดกันตรงๆฉันจะเอาของคุณ กระบวนการมันผิด ถ้าแจ้งให้ชาวบ้านทราบก่อนเท่ากับว่าเป็นการกระทำเยี่ยงเสรีชนชาวบ้านรับได้ แต่ที่ทำอยู่ชาวบ้านผมรับไม่ได้ มองว่ารัฐกำลังบีบบังคับภาคประชาชนเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยยุคใหม่ ประชาชนไม่อยากที่จะเป็นเมืองขึ้นให้กับต่างชาติถึง 99 ปี อันนี้คือข้อเท็จจริง แล้วผู้พัฒนาโครงการคนไหนเคยออกมาพูดบ้างว่าตัวนี่อยู่ภายใต้ พ.ร.บ.SEC ข้าราชการบางคนยังไม่รู้เลยร่างพ.ร.บ.SEC คืออะไร นายสมโชค กล่าวต่อหน้านายธนนท์ ภายในห้องประชุม
สุดท้ายมีการ่างหนังสือบันทึกความเข้าใจด้วยลายมือในกระดาษเอ 4 การประชุมในวันนี้ บริษัทที่ปรึกษาและกรมทางหลวง ไม่นับเป็นการประชุมปฐมนิเทศโครงการ เนื่องจากมีการดำเนินสำรวจและปักหมุดที่ดินของโครงการก่อนการประชุม โดยจะถอนหมุดที่ดินในเดือนพฤศจิกายน 2567 วันนี้จึงถือได้ว่าเป็นการประชุมเสนอข้อมูลรายละเอียดเบื้องต้นเนื่องจากมีประชาชนอยู่ในห้องประชุม
ซึ่งข้อความดังกล่าวได้มีนายธนนท์ฯ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการฯ และนายสุพัฒน์ ชุ่มมุณีรัตน์ ผู้จัดการโครงการฯกรมทางหลวง เซ็นรับทราบ ก่อนที่นายสมโชคฯและกลุ่มเครือข่ายรักษ์พะโต๊ะ-รักษ์ระนอง จะทยอยเดินทางกลับ
ส่วนด้านกลุ่มบริษัทที่ปรึกษาเริ่มจัดประชุมชี้แจงต่อประชามชนที่เข้าร่วมฟังค่อนข้างบางตา
Land Bridge Project Meeting in Thailand Nearly Derailed by Protests
Chumphon, Thailand A meeting to discuss the proposed Land Bridge project, a major infrastructure development intended to connect the Gulf of Thailand and the Andaman Sea, was almost disrupted by protests from local residents and environmental groups.
Around 300 people from the Rak Pato and Rak Ranong networks gathered at the meeting venue in Chumphon province on Tuesday, October 22, 2024, voicing their opposition to the project. They argued that the project would have detrimental effects on the environment and local communities.
The protesters raised concerns about the lack of transparency in the project's environmental impact assessment process and the potential for the project to facilitate the influx of foreign labor at the expense of local jobs. They also criticized the proposed Special Economic Zone (SEC) legislation, claiming it would grant excessive power to corporations and pave the way for industrial development that could harm the environment and displace communities.
The protesters called for the project to be halted and for the government to reconsider the SEC legislation. They presented a letter to the deputy governor of Chumphon, outlining their concerns and demanding a more thorough and transparent review of the project's potential impacts.
In response to the protest, the meeting organizers, including representatives from the Department of Highways and the consulting firm involved in the project, agreed to invalidate the meeting as an official "first briefing." They acknowledged that preliminary surveys and land demarcation had been conducted before the meeting, which they admitted was a procedural misstep. They committed to removing the land markers in November 2024 and pledged to conduct a more inclusive and transparent consultation process in the future.
Despite the concessions made by the meeting organizers, the protest highlights the significant opposition to the Land Bridge project and the broader concerns about the government's approach to economic development in southern Thailand. The controversy surrounding the project is likely to continue as the government moves forward with its plans.
Back to top
You cannot post new topics in this forum You cannot reply to topics in this forum You cannot edit your posts in this forum You cannot delete your posts in this forum You cannot vote in polls in this forum
Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group