ข่าวเกี่ยวกับ "ที่ดิน" ของ "รฟท."

[Wisarut]

ฮอลิเดย์ อินน์ หัวหิน เช่าที่ รฟท. สร้างทางเชื่อมต่อโรงแรมไปสถานีรถไฟหนองแก
ฐานเศรษฐกิจ
วันพฤหัสบดี ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2567 เวลา 07:26 น.

โรงแรม ฮอลิเดย์ อินน์ วานา นาวา หัวหิน เช่าที่ รฟท. สร้างทางเชื่อมต่อโรงแรมฯไปสถานีรถไฟหนองแก และชายหาดเขาตะเกียบ พร้อมเปิดให้บริการตุลาคม 2567 นี้
โรงแรม ฮอลิเดย์ อินน์ วานา นาวา หัวหิน เดินหน้าทำสัญญาเช่าที่ กับ การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) ก่อสร้างเส้นทางเดินเชื่อมต่อระหว่างโรงแรมฯ และสถานีรถไฟหนองแก คาดเสร็จพร้อมให้บริการตุลาคมปี 2567 นี้ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้เข้าพัก

นักท่องเที่ยว ผู้เข้าใช้บริการให้สามารถใช้ประโยชน์จากทางเชื่อมต่อนี้ในการเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวในท้องถิ่นอย่าง ชายหาดเขาตะเกียบ ตลาดซิคาด้า ในระยะทางเพียง 700 เมตร หรือประมาณ 10 นาที


ทั้งยังมุ่งหวังให้นักท่องเที่ยวเพิ่มการใช้บริการทางรถไฟมากขึ้น ซึ่งความร่วมมือนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพด้านระบบขนส่งสาธารณะของประเทศอย่างรถไฟไทย

สามารถเป็นเครื่องมือกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี พร้อมที่จะสร้างรายได้ให้กับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน


นางสาวพราวพุธ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทพราว เปิดเผยว่า โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ วานา นาวา หัวหิน เดินหน้ารุกตลาดการท่องเที่ยวภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง ได้ลงนามทำสัญญาพัฒนาพื้นที่ร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทย เพื่อดำเนินการก่อสร้างเส้นทางเดินเชื่อมต่อระหว่างโรงแรม และสถานีรถไฟหนองแก


ทั้งนี้เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้เข้าพักของโรงแรม ให้สามารถใช้ประโยชน์จากทางเชื่อมต่อนี้ในการเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวในท้องถิ่นได้อย่างสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น โดยใช้เวลาที่น้อยลงเมื่อเทียบกับการเดินทางด้วยรถยนต์ในเส้นทางปกติ

การดำเนินการก่อสร้างในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้เข้าพัก นักท่องเที่ยว ให้สามารถใช้เพื่อเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวโดยรอบได้อย่างสะดวกสบาย

เช่น เขาตะเกียบ ตลาดซิคาด้า วัดหนองแก และบริเวณชุมชนเขาตะเกียบ ซึ่งนอกจากจะส่งผลดีต่อการให้บริการที่ยอดเยี่ยมของโรงแรมแล้ว ยังให้ประโยชน์ทางอ้อม ทำให้เกิดการกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น สร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนเศรษฐกิจฐานรากของประเทศได้


“พราว กรุ๊ป” ธุรกิจพุ่ง ปรับใหญ่ อินเตอร์คอนฯหัวหิน รุกลงทุนใหม่ขยายพอร์ต
นอกจากนั้น ยังเป็นการเพิ่มทางเลือกและความสะดวกสบายในการเดินทางระหว่างจังหวัดด้วยรถไฟ ลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลเพื่อการท่องเที่ยว โดยสามารถเดินทางด้วยรถไฟสายใต้มาลงที่สถานีรถไฟหนองแก และใช้ทางเชื่อมต่อนี้เพื่อเดินเข้ามายังโรงแรม ฮอลิเดย์ อินน์ วานา นาวา หัวหิน ได้ทันที

มร.โทมัส เฮน ผู้จัดการทั่วไป โรงแรม ฮอลิเดย์ อินน์ วานา นาวา กล่าวเพิ่มเติมว่า โรงแรมฯ มีการเตรียมให้บริการรถบักกี้รับ-ส่งระหว่างโรงแรมกับสถานีรถไฟหนองแก เพื่อช่วยย่นระยะทางและเวลาในการเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ได้สะดวกรวดเร็วกว่า ยิ่งไปกว่านั้น

ฮอลิเดย์ อินน์ หัวหิน เช่าที่ รฟท. สร้างทางเชื่อมต่อโรงแรมไปสถานีรถไฟหนองแก


ทางโรงแรมฯ ยังมีแผนนำเสนอแพ็จเกจห้องพักแบบพิเศษ โดยจะรวมค่าบริการรถไฟและห้องพักไว้ด้วยกัน เพื่อยกระดับประสบการณ์การเดินทางท่องเที่ยวหัวหินในอนาคตอันใกล้นี้อีกด้วย

ฮอลิเดย์ อินน์ หัวหิน เช่าที่ รฟท. สร้างทางเชื่อมต่อโรงแรมไปสถานีรถไฟหนองแก

ทั้งนี้ เส้นทางเดินเชื่อมระหว่างโรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ วานา นาวา หัวหิน และสถานีรถไฟหนองแก มีการเชื่อมก่อสร้างไปแล้ว โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จ พร้อมเปิดให้บริการภายในเดือนตุลาคม 2567 นี้อย่างแน่นอน

นางสาวพราวพุธ ได้กล่าวย้ำทิ้งท้ายว่า ความสำเร็จในครั้งนี้ยังสะท้อนให้เห็นศักยภาพระบบขนส่งสาธารณะของประเทศอย่างรถไฟไทย ที่มีเอกลักษณ์และเสน่ห์ในการเดินทางที่ไม่เหมือนใคร สามารถส่งเสริมการท่องเที่ยวให้เกิดขึ้นได้อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี และยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวไทยให้เติบโตและแข็งแกร่งได้อย่างแท้จริง

[Wisarut]

สหภาพฯ รฟท.บุก กทม. 22 ส.ค.นี้ ยื่นหนังสือถึง "ชัชชาติ" ทวงหนี้ค่าเช่าตลาดนัดจตุจักรเกือบ 700 ล้านบาท
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันพุธ ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2567 เวลา 13:47 น.
ปรับปรุง: วันพุธ ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2567 เวลา 15:48 น.

สหภาพฯ รฟท.เตรียมบุก กทม. 22 ส.ค.นี้ ยื่นหนังสือถึง "ชัชชาติ" ทวงค่าเช่าตลาดนัดจตุจักรตั้งแต่ปี 61 เกือบ 700 ล้านบาท ย้ำมี MOU โอนความรับผิดชอบ ล่าสุดศาลมีคำสั่งให้ กทม.ชำระค่าเช่าตามข้อตกลง

นายสราวุธ สราญวงศ์ ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.รฟท.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 22 ส.ค.นี้ สหภาพฯ รฟท.พร้อมสมาชิกประมาณ 30 คนจะขอเข้าพบนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เพื่อยื่นหนังสือและติดตามแนวทางการแก้ไขปัญหาการชำระค่าใช้ประโยชน์พื้นที่ หรือค่าเช่าในบริเวณตลาดนัดจตุจักร ทั้งนี้ สืบเนื่องจากวันที่ 1 ธ.ค. 2561 กทม.และ รฟท.ได้ทำบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือ (MOU) ในการบริหารตลาดนัดจตุจักร โดยให้ รฟท.โอนความรับผิดชอบการบริหารจัดการตลาดนัดจตุจักร บนพื้นที่ 68 ไร่ 1 งาน 88 ตารางวา ให้ กทม.รับผิดชอบ และกำหนดค่าเช่าปีละ 169,423,250 บาท ระยะเวลาเช่าไม่เกินปี 2571 กทม.ได้เริ่มบริหารตลาดนัดจตุจักรตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 61 เป็นต้นมา แต่ปรากฏว่า กทม.กลับไม่ชำระค่าเช่าให้กับ รฟท.

และนำไปสู่การยื่นฟ้องคดี โดยศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ กทม.ชำระค่าเช่าให้กับ รฟท. นับตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 61 จนถึงวันฟ้องวันที่ 27 มิ.ย. 65 เป็นจำนวนเกือบ 700 ล้านบาท เป็นเงินต้น 606 ล้านบาท ดอกเบี้ย 66 ล้านบาท นอกจากนี้ ศาลได้สั่งให้ กทม.ชำระค่าเช่า 14 ล้านบาทต่อเดือน นับตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 65 เป็นต้นไป จนถึงขณะนี้ กทม.ยังไม่ชำระค่าเช่าตามคำสั่งศาลแต่อย่างใด

นายสราวุธกล่าวว่า ที่ผ่านมา รฟท.ได้มีการติดตามทวงถามมาโดยตลอด แต่ กทม.กลับเพิกเฉย โดยอ้างว่า กทม.ยังไม่ได้ลงนามสัญญาเช่าพื้นที่จาก รฟท.เป็นทางการ ซึ่งตามข้อเท็จจริง รฟท.ได้มีการส่งร่างสัญญาให้อัยการสูงสุดตรวจสอบเรียบร้อย แต่ก ทม.บ่ายเบี่ยงไม่ยอมทำสัญญา ขณะที่มีการเรียกเก็บค่าเช่าจากผู้เช่ามาโดยตลอด ซึ่งประเด็นนี้ศาลได้ใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาคดีและมีคำสั่งให้ กทม.ชำระค่าเช่าแล้วด้วย นอกจากนี้ กทม.อ้างว่าขณะนี้คดีอยู่ระหว่างชั้นอุทธรณ์ รอให้คดีถึงที่สุดก่อน จึงอยากให้ กทม.พิจารณาถึงความถูกต้อง และความชอบธรรมมากกว่า

เรื่องนี้ทางสหภาพฯ เห็นว่าการกระทำดังกล่าวทำให้ รฟท.เสียผลประโยชน์ และเสียโอกาสจากการได้รับค่าเช่าที่ดินบริเวณตลาดจตุจักร

[Wisarut]

การรถไฟฯ ประกาศเชิญชวนเสนอราคาค่าเช่าพื้นที่อาคารสถานีปากช่อง (หลังเดิม)
จำหน่ายสินค้าพื้นเมืองสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) และสินค้าทั่วไป
มีกำหนดอายุสัญญา 3 ปี โดยวิธีการเสนอราคา
นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า
การรถไฟฯ ออกประกาศเชิญชวนภาคเอกชนเสนอราคาค่าเช่าพื้นที่อาคารสถานีปากช่อง (หลังเดิม)
ขนาด 237.28 ตารางเมตร เพื่อประกอบการค้าจำหน่ายสินค้าพื้นเมืองสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) และสินค้าทั่วไป อาทิ จำหน่ายอาหาร/เครื่องดื่มและสิ่งพิมพ์ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกและยกระดับ
การให้บริการกับผู้ใช้บริการรถไฟ เป็นการชั่วคราว โดยมีกำหนดอายุสัญญาเช่าระยะเวลา 3 ปี
ด้วยวิธีการเสนอราคา โดยมีกำหนดและเงื่อนไขต่างๆ ดังนี้
1.กำหนดจำหน่ายซองเสนอราคา ในราคาชุดละ 5,350 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ณ งานการเช่าและบริหารสัญญา กองพัฒนาและบริหารสัญญาธุรกิจด้านเดินรถ ฝ่ายปฏิบัติการเดินรถ
ห้อง 110 ตึกบัญชาการ การรถไฟแห่งประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 26 สิงหาคม 2567 ถึง
วันที่ 24 กันยายน 2567 ทุกวันทำการ ระหว่างเวลา 09.00 – 12.00 น. และ 13.00 – 15.00 น.
2.กำหนดชี้แจงรายละเอียดแก่ผู้ประสงค์จะยื่นซองเสนอราคาในวันที่ 30 กันยายน 2567
เวลา 09.00 น. ณ ห้องประชุมสถานีปากช่อง (หลังเดิม)
3.กำหนดยื่นซองเสนอราคา ในวันที่ 7 ตุลาคม 2567 ตั้งแต่เวลา 09.00 – 09.30 น. ณ ห้องประชุมสนาม สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ชั้น G ฝั่งขบวนรถไฟทางไกล (LD)
สำหรับ ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ งานการเช่าและบริหารสัญญา กองพัฒนา และบริหารสัญญาธุรกิจด้านเดินรถ ฝ่ายปฏิบัติการเดินรถ การรถไฟแห่งประเทศไทย ในทุกวันทำการ ระหว่างเวลา 08.30 - 16.30 น. โทรศัพท์ 02-220-4841 และ 02-621-8701 ต่อ 5082
https://www.facebook.com/pr.railway/posts/929127662578559

[Wisarut]

เปิดขุมทรัพย์ ในมือผู้ว่าฯรฟท.ที่ ดินรถไฟ 3.8หมื่นไร่ –ระบบราง6แสนล้าน
ฐานเศรษฐกิจ
วันศุกร์ ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2567 เวลา 05:48 น.

เปิดขุมทรัพย์ ดินรถไฟ3.8หมื่นไร่ แสนล้าน –โครงข่ายระบบราง 6แสนล้านในมือ"วีริศ อัมระปาล" ผู้ว่าฯรฟท.คนใหม่ ปั้นรายได้ล้างหนี้2.3แสนล้าน


การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ลงนามนามสัญญาจ้าง นายวีริศ อัมระปาล ให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ผู้ว่าฯรฟท.)คนที่ 20 อย่างเป็นทางการ ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 17 ก.ย.2567 ที่ผ่านมา โดยมีนายจิรุตม์ วิศาลจิตร ประธานกรรมการรถไฟฯ เป็นผู้ลงนามเมื่อวันที่19ก.ย.ที่ผ่านมา

นับหนึ่ง การทำหน้าที่ผู้ว่าฯรฟท.อย่างเป็นทางการ ผู้ว่าฯรฟท.เปิดเผยว่านโยบายของตนเองจะขอใช้เวลาเพื่อศึกษางานประมาณ 1 เดือนก่อน และภายใน 3 เดือนแรก

มีแผนจัดการเกี่ยวกับระบบที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน และโครงสร้างองค์กรต้องมีประสิทธิภาพโดยเฉพาะการแก้ปัญหาหนี้สะสมกว่า2.3แสนล้านบาทซึ่งเป็นเรื่องใหญ่แต่จะเร่งสะสางให้ลุล่วงภายใน4ปี


ในทางกลับกัน รฟท.มี ขุมทรัพย์ 3.8หมื่นไร่ มูลค่านับแสนล้านบาท ที่โอนให้บริษัทลูกอย่าง บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด (SRTA) ฐานะบริษัทลูก ตั้งแต่ปี2565 เพื่อนำที่ดินแปลงศักยภาพเปิดประมูลสร้างรายได้ ซึ่งผู้ว่าฯรฟท.คนใหม่ระบุได้ให้ความสำคัญในหลายทำเล

ทั้งนี้นโยบายเดิมมีเป้าหมาย 10 ปี 1.25 แสนล้านบาท 30 ปี 6แสนล้านบาทตามลำดับเพื่อลบคราบภาระหนี้สิน ที่สะสมอยู่ กว่า 2 แสนล้านบาทให้หมดไป

จากการบริหารจัดการขุมทรัพย์ใหญ่ที่สามารถสร้างรายได้มหาศาล อย่าง ที่ดินศูนย์คมนาคมพหลโยธิน 2,325 ไร่ ที่ดินแปลงใหญ่ ทำเลทองเปิดให้เอกชนพัฒนาต่อยอด

โดยมีสถานีกลางบางซื่อ(สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์) ศูนย์กลางเดินทางระบบรางใหญ่สุดในภูมิภาคอาเซียน เป็นจุดขาย ตั้งเป้าหมายดึงนักลงทุนพัฒนาเชิงพาณิชย์มิกซ์ยูส ซึ่งที่ผ่านมารฟท.เคยเปิดประมูลพื้นที่โดยรอบมาแล้วสองครั้ง แต่ ไม่ ประสบความสำเร็จ ทำให้ต้องปรับแผนครั้งใหญ่ โดยอาศัยบริษัทลูก นำที่ดินทั้งหมดออกพัฒนา ประเมินว่าเอกชนจะให้ความสนใจ


วีริศ อัมระปาล ผู้ว่ารถไฟคนใหม่ เตรียมมอบนโยบาย ต.ค. หลังเซ็นสัญญา19ก.ย.67
ที่ดินสามเหลี่ยมย่านพหลโยธิน47ไร่ ซึ่งเป็นที่ตั้งของศูนย์การค้าเซ็นทรัลลาดพร้าวและโรงแรม ที่จะหมดอายุลง เซ็นทรัล ลาดพร้าวจ่ายค่าเช่าที่ดินรฟท.กว่า 1,387 ล้านบาท ประจำปี 2567 และจะหมดอายุสัญญาเช่าในปี 2571

ที่ดินรถไฟย่านรัชดาฯ 186ไร่124แปลง124สัญญา ปล่อยเช่าสร้างตึกสูงใหญ่ โรงแรม -สถานบริการอาบอบนวด ราคาที่ดินสูงสุดอยู่ที่ 1.1ล้านบาทต่อตารางวา และมีหลายแปลงที่จะหมดสัญญา ขณะเดียวกัน หลายสัญญาขอเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์เปลี่ยนรูปแบบเป็นโรงแรม3ดาวอย่างโพไซดอน ที่ประเมินว่าต้องปรับสัญญาเช่าใหม่ทั้งหมดเพื่อสร้างรายได้

นอกจากนี้ยังมีที่ดินแปลงศักยภาพรองสถานีธนบุรี 148ไร่ โดย บ้านพักพนักงานรถไฟ สถานีธนบุรี 305 ครัวเรือน เนื้อที่ 21 ไร่ รฟท. มีแผนแปลงโฉมเป็นมิกซ์ยูส ขนาดใหญ่ ให้เอกชนเช่าระยะยาว 30 ปีเพราะนอกจากใกล้โรงพยาบาลศิริราช แม่น้ำเจ้าพระยาแล้ว

บริเวณดังกล่าว ยังเป็นทำเลทองศักยภาพสถานีจุดตัดรถไฟฟ้า 2 สาย ระหว่างสายสีส้มตะวันตก (บางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรม) และสายสีแดง (ตลิ่งชัน -ศิริราช-ศาลายา)

ขณะเดียวกันยังสะดวกสบาย ใกล้สถานีอิสรภาพ รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินยังไม่รวมที่ดินบริเวณตลาดน้อยย่านฝั่งธนบุรีติดแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีรูปแบบให้เอกชนเช่าพัฒนาโรงแรม3ดาวฯลฯ

ขณะระบบรางที่ต้องดำเนินงาน เร่งด่วนที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เตรียมมอบนโยบาย ให้เร่งผลักดันโครงการลงทุนของรฟท. จำนวน 9 โครงการ วงเงิน 661,060 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วย

1. โครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดงเข้ม ช่วง รังสิต - มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ระยะทาง 8.84 กม. วงเงิน 6,473 ล้านบาท

ปัจจุบันได้เสนอต่อคณะรัฐมนตรี(ครม.)เพื่อขอทบทวนมติครม.และปรับกรอบวงเงิน หลังจากในช่วงที่ผ่านมารฟท. ได้สรุปผลการศึกษาและเสนอ ครม.ไป แล้ว แต่มีการดึงเรื่องกลับมาปรับแก้ไขใหม่เพื่อความรอบคอบ

2.โครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดงอ่อน ช่วง ช่วงศิริราช-ตลิ่งชัน-ศาลายา ระยะทางรวม 20.5 กม. วงเงิน 15,176 ล้านบาท ที่ผ่านมา รฟท.ได้มีการศึกษาควบรวม 2 เส้นทางไว้ด้วยกัน ซึ่งช่วยประหยัดงบประมาณลดลง 110 ล้านบาท

3.โครงการไฮสปีด ไทย-จีน ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย ระยะทาง 356 กม. วงเงิน 341,351 ล้านบาท แบ่งเป็น ค่างานโยธา 235,129 ล้านบาท ค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินและชดเชยทรัพย์สิน 10,310 ล้านบาท ค่าลงทุนระบบราง-ระบบรถไฟฟ้า และเครื่องกล 80,165 ล้านบาท

ปัจจุบันประเทศจีนต้องการเชื่อมต่อเส้นทางรถไฟสายนี้ไปสู่ภูมิภาค เมื่อไทยมีการก่อสร้างโครงการไฮสปีดในระยะที่ 1 แล้ว จำเป็นต้องก่อสร้างต่อในระยะที่ 2 เพื่อให้เกิดศักยภาพการขนส่งทางระบบราง

4.โครงการรถไฟความเร็วสูง(ไฮสปีด)ไทย-จีน เฟส 2 มูลค่า 3.4แสนล้านบาท คาดว่าสศช.จะอนุมัติโครงการภายในสิ้นปีนี้ จากนั้นจะเสนอต่อครม.พิจารณาเห็นชอบต่อไป



5โครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 จำนวน6โครงการ ประกอบด้วย

ช่วงปากน้ำโพ-เด่นชัย ระยะทาง 281 กม. วงเงิน 81,143 ล้านบาท โครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 ช่วงชุมพร-สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 168 กม. วงเงิน 30,422 ล้านบาท

โครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 ช่วงสุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา ระยะทาง 321 กม. วงเงิน 66,270 ล้านบาท โครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ ระยะทาง 189 กม. วงเงิน 68,222 ล้านบาท

โครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 ช่วงชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี ระยะทาง 308 กม. วงเงิน 44,103 ล้านบาท โครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 ช่วงชุมทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 45 กม. วงเงิน 7,900 ล้านบาท

[Wisarut]

ส่องที่ดินการรถไฟฯ ในกรุงเทพฯ เปิดทางพัฒนา 'เอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์'
เศรษฐกิจ
วันเสาร์ ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2567 เวลา 06:48 น.

เปิดขุมทรัพย์ที่ดินการรถไฟฯ 3.8 หมื่นไร่ มูลค่ากว่า 3 แสนล้านบาท หลายแปลงใหญ่มีศักยภาพสูงอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ ทยอยโอน “เอสอาร์ที แอสเสท” นำไปบริหารจัดการต่อ
“วีริศ อัมระปาล” ผู้ว่าคนใหม่ เร่งเปิด PPP ที่ดินแปลงใหญ่ดึงเอกชนพัฒนาเชิงพาณิชย์ พร้อมวางแผนปั้นที่ดินริมทางรถไฟทั่วประเทศหวังหารายได้
ลั่นหากรัฐบาลมีนโยบายดัน “เอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์” ต้องเดินหน้าศึกษารายละเอียด
การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เป็นหนึ่งในหน่วยงานถือกรรมสิทธิ์ที่ดินทั่วประเทศไทยจำนวนมาก โดยในปี 2565 ได้จัดตั้งบริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด หรือ บริษัท รถไฟพัฒนาสินทรัพย์ จำกัด เพื่อเข้ามาบริหารที่ดินเหล่านี้ให้เกิดประโยชน์สร้างรายได้แก่องค์กร

อย่างไรก็ดี ข้อมูลจากในปีดังกล่าว พบว่า ร.ฟ.ท.มีที่ดินศักยภาพในการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ทั่วประเทศราว 3.8 หมื่นไร่ รวมมูลค่ากว่า 3 แสนล้านบาท โดย ร.ฟ.ท.ได้ทยอยถ่ายโอนกรรมสิทธิ์ในสัญญาเช่าที่ดินต่างๆ ไปยัง “เอสอาร์ที แอสเสท” เพื่อนำไปบริหารจัดการต่อ รวมไปถึงการศึกษาพัฒนาที่ดินแปลงใหญ่ที่มีศักยภาพในการเปิดประมูลจัดหาเอกชนร่วมลงทุน (PPP)

ส่องที่ดินการรถไฟฯ ในกรุงเทพฯ เปิดทางพัฒนา \'เอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์\'


โดยเฉพาะในระยะแรกจากแผนแนวทางการดำเนินงานของ บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด ได้ระบุถึงที่ดินในกลุ่มที่มีศักยภาพสามารถดำเนินการเร่งจัดหาประโยชน์ได้ ได้แก่

กลุ่ม 1 ที่ดินแปลงใหญ่ที่เคยดำเนินการผ่าน PPP จำนวน 669 ไร่ มูลค่าจากราคาประเมิน 34,415.28 ล้านบาท ซึ่งประกอบไปด้วย

โครงการพัฒนาพื้นที่นิคมการรถไฟฯ กม. 11 เชิงพาณิชย์
โครงการพัฒนาพื้นที่สถานีแม่น้ำ
โครงการพัฒนาพื้นที่บางซื่อแปลง A
กลุ่ม 2 ที่ดินเปล่าแปลงใหญ่ จำนวน 888 ไร่ มูลค่าจากราคาประเมิน 92,798.40 ล้านบาท ประกอบไปด้วย

โครงการพัฒนาพื้นที่มักกะสัน (เดิม 497 ไร่)
โครงการพัฒนาพื้นที่สถานีกลางบางซื่อ เชิงพาณิชย์ โซน C
โครงการพัฒนาพื้นที่สถานีกลางบางซื่อ เชิงพาณิชย์ โซน D
โครงการพัฒนาพื้นที่สถานีกลางบางซื่อ เชิงพาณิชย์ โซน B
โครงการพัฒนาพื้นที่ตึกแดง


“วีริศ อัมระปาล” ผู้ว่าการ ร.ฟ.ท. กล่าวว่า การรถไฟฯ เป็นหน่วยงานที่เรียกว่า “แลนด์ลอร์ด” เป็นเจ้าของที่ดินที่มีศักยภาพหลายแห่ง สามารถนำมาพัฒนาทำประโยชน์ สร้างรายได้ให้องค์กรจำนวนมาก โดยตนเข้ามารับตำแหน่งผู้ว่าการฯ มีเป้าหมายที่จะเร่งเปิด PPP จัดหาเอกชนเข้ามาพัฒนาที่ดินเหล่านี้ รวมไปถึง ร.ฟ.ท.ต้องมองโอกาสในการพัฒนาที่ดินริมทางรถไฟให้สามารถสร้างรายได้ด้วย

ขณะที่นโยบายรัฐบาลในการพัฒนาโครงการเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ในส่วนของการรถไฟฯ ซึ่งมีที่ดินจำนวนมาก และหลายพื้นที่มีศักยภาพอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ ตนมองว่าหากรัฐบาลมีนโยบายจะนำที่ดินของการรถไฟฯ ไปพัฒนาโครงการเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ก็คงต้องมาศึกษาในรายละเอียด

[Wisarut]

"สุริยะ" สั่ง บขส.-รฟท.สางปัญหากองขยะ "สถานีหมอชิต 2"
ฐานเศรษฐกิจ
วันอังคาร ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2567 เวลา 09:17 น.
อัปเดตล่าสุด : วันอังคาร ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2567 เวลา 09:27 น.


เก็บขยะหมดแล้ว! “สุริยะ” สั่งคุมเข้มเข้าพื้นที่หลัง “หมอชิต 2” ฝ่าฝืนลงดาบสูงสุดยกเลิกสัมปทาน
วันอังคาร ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2567 เวลา 10:12 น.

เคลียร์กองขยะรอบ “หมอชิต 2” แล้ว “สุริยะ” กำชับ “บขส.-รฟท.” คุมเข้มเข้าพื้นที่ ออกประกาศห้ามผู้ประกอบการรถร่วมเข้ามาจอด หากฝ่าฝืนให้ ขบ. ลงดาบโทษสูงสุดยกเลิกสัมปทานเดินรถ เตรียมประสาน สตช. ตีเส้นห้ามจอดขาวแดง

เก็บขยะหมดแล้ว! “สุริยะ” สั่งคุมเข้มเข้าพื้นที่หลัง “หมอชิต 2” ฝ่าฝืนลงดาบสูงสุดยกเลิกสัมปทาน

เคลียร์กองขยะรอบ “หมอชิต 2” แล้ว “สุริยะ” กำชับ “บขส.-รฟท.” คุมเข้มเข้าพื้นที่ ออกประกาศห้ามผู้ประกอบการรถร่วมเข้ามาจอด หากฝ่าฝืนให้ ขบ. ลงดาบโทษสูงสุดยกเลิกสัมปทานเดินรถ เตรียมประสาน สตช. ตีเส้นห้ามจอดขาวแดง...

”สุริยะ“ สั่ง บขส.-รฟท.เคลียร์ปัญหากองขยะรอบ สถานีขนส่งหมอชิต 2-ถนนกำแพงเพชร 6 เหตุรถร่วมฯ-ผู้ชมคณะหมอลำทิ้งขยะเกลื่อน ขู่เอาผิดยกเลิกสัญญา

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ตามที่นายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) กรุงเทพมหานคร (กทม.) พรรคประชาชน ได้ออกมาแชร์ภาพกองขยะบริเวณรอบสถานีขนส่งหมอชิต 2 ที่อยู่ในความดูแลของบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) และเป็นที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) นั้น

สำหรับการรายงานของ บขส. และการรถไฟฯ ระบุว่า ปัญหาขยะสะสมเป็นจำนวนมากนั้น เบื้องต้นคาดว่า รถขนส่งสาธารณะได้เข้าไปจอดในบริเวณดังกล่าว เนื่องจาก เป็นช่วงวันหยุดยาวต่อเนื่อง อาจจะมีผู้ใช้บริการรถขนส่งสาธารณะใช้เป็นพื้นที่สำหรับทิ้งขยะ

นอกจากนี้ในช่วงนั้นมีผู้เข้าชมคณะหมอลำที่จัดขึ้นในพื้นที่ใกล้เคียงโดยไม่ได้รับอนุญาต จึงทำให้เกิดการทิ้งขยะ และเกิดปัญหาดังกล่าวขึ้น

​ "ยืนยันว่า กระทรวงคมนาคม ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อปัญหาที่เกิดขึ้น และได้สั่งการให้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาขยะสะสมในพื้นที่บริเวณรอบสถานีขนส่งหมอชิต 2 มาโดยตลอดอย่างต่อเนื่อง" นายสุริยะ กล่าว

ขณะเดียวกันกระทรวงคมนาคมได้สั่งการให้บขส.ปรับปรุงสถานที่ให้มีความสะอาดเรียบร้อย มีทัศนียภาพที่สวยงาม และพร้อมอำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชน

นายสุริยะ กล่าวต่อว่า ได้กำชับให้ บขส. และการรถไฟฯ เข้มงวดในการเข้าพื้นที่ด้านหลังสถานีขนส่งหมอชิต 2 เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก


ทั้งนี้ได้ออกคำสั่งให้ผู้ประกอบการรถร่วมบริการ บขส. ห้ามใช้พื้นที่ดังกล่าว เป็นที่จอดรถ ซึ่งหากฝ่าฝืนมอบหมายให้กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) พิจารณาบทลงโทษปรับ และสั่งพักใบอนุญาตประกอบกิจการฯ รวมถึงยกเลิกสัมปทานการเดินรถด้วย

ขณะเดียวกัน เตรียมประสานงานร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ในฐานะผู้มีอำนาจใรการดำเนินการตีเส้นขาวแดง บริเวณโดยรอบสถานีขนส่งหมอชิต 2

นอกจากนี้หากรถประเภทใดเข้าจอดรถในพื้นที่ดังกล่าว ถือว่าฝ่าฝืนกฎหมายจราจรทันที ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถเปรียบเทียบปรับ และดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

อย่างไรก็ตาม บขส. และการรถไฟฯ จะต้องบูรณาการ เพื่อซ่อมแซมถนนเป็นหลุม เป็นบ่อ ด้านหลังสถานีขนส่งหมอชิต 2 เพื่อให้ได้มาตรฐาน และสร้างความปลอดภัยต่อผู้ใช้บริการอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดต่อไป

ส่วนการจัดระเบียบ และแก้ปัญหาบริเวณถนนกำแพงเพชร 6 นั้น ได้สั่งการให้การรถไฟฯ ในฐานะเจ้าของพื้นที่ เร่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหาแบบบูรณาการ ในการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่สัญจรในเส้นทางดังกล่าว ให้ได้รับความสะดวกและปลอดภัย

นายสุริยะ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ มอบหมายให้การรถไฟฯ สั่งการไปยังฝ่ายการช่างโยธา ระดมเจ้าหน้าที่เข้าทำความสะอาดและเก็บขยะมูลฝอย บริเวณถนนกำแพงเพชร 6 ด้านข้างสถานีขนส่งหมอชิต 2

จากการรายงานล่าสุด แจ้งว่า ได้ทำความสะอาดและเก็บขยะเสร็จเรียบร้อย ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันที่ 14 ตุลาคม 2567

ขณะที่มาตรการการแก้ไขปัญหาดังกล่าวนั้น การรถไฟฯ จะดำเนินการจัดระเบียบการจราจรในพื้นที่บริเวณสถานีขนส่งหมอชิต 2 ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และเฝ้าระวังไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นอีก โดยการติดป้ายห้ามจอด


ทั้งนี้หากฝ่าฝืนจะมีโทษปรับตามกฎหมายกำหนดไว้ ขณะเดียวกัน จะมีการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ขบ. และ บขส. ร่วมประชุมหารือ เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเร่งด่วน และยั่งยืนต่อไป

อย่างไรก็ตาม ขอความร่วมมือประชาชน กรุณาช่วยกันรักษาความสะอาด โดยไม่ทิ้งขยะในที่สาธารณะ เพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบ เรียบร้อย สะอาด และปลอดภัย ต่อผู้สัญจรบนท้องถนนด้วย



เก็บหมดแล้ว! ขยะรอบ “สถานีขนส่งหมอชิต 2” สุริยะสั่ง รฟท.-บขส.จัดระเบียบใหม่ ห้ามรถร่วมฯ จอด
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันอังคาร ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2567 เวลา 09:29 น.
ปรับปรุง: วันอังคาร ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2567 เวลา 12:15 น.

KEY POINTS
• ปัญหาขยะรอบสถานีขนส่งหมอชิต 2: เกิดจากรถร่วมบริการและผู้ชมคณะหมอลำ
• มาตรการแก้ไข:
• บขส. และการรถไฟฯ: เข้มงวดการเข้าพื้นที่สถานีขนส่ง, ห้ามเหตุการณ์ซ้ำรอย
• บขส.: ออกคำสั่งห้ามรถร่วมจอดรถหลังสถานีฯ
• การรถไฟฯ: เล็งจัดระเบียบถนนกำแพงเพชรใหม่




"สุริยะ" สั่งเคลียร์ขยะรอบ 'สถานีขนส่งหมอชิต 2' เผยเกิดจากรถร่วมฯ-ผู้ชมคณะหมอลำ ย้ำ บขส.-การรถไฟฯ เข้มงวดการเข้าพื้นที่ ห้ามเกิดขึ้นอีก ให้ บขส.ออกคำสั่งห้ามรถร่วมฯ จอดรถหลังสถานีฯ หากฝ่าฝืนขู่ยกเลิกสัญญา-ด้าน รฟท.เล็งจัดระเบียบถนนกำแพงเพชร 6 ใหม่ แก้ปัญหาเด็ดขาด

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ตามที่นายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) กรุงเทพมหานคร (กทม.) พรรคประชาชน ได้ออกมาแชร์ภาพกองขยะบริเวณรอบสถานีขนส่งหมอชิต 2 ที่อยู่ในความดูแลของบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) และเป็นที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ว่า ได้รับรายงานจาก บขส.และการรถไฟฯ ระบุว่าปัญหาขยะสะสมเป็นจำนวนมากนั้น เบื้องต้นคาดว่ารถขนส่งสาธารณะได้เข้าไปจอดในบริเวณดังกล่าว เนื่องจากเป็นช่วงวันหยุดยาวต่อเนื่อง อาจจะมีผู้ใช้บริการรถขนส่งสาธารณะใช้เป็นพื้นที่สำหรับทิ้งขยะ ประกอบกับในช่วงนั้น มีผู้เข้าชมคณะหมอลำที่จัดขึ้นในพื้นที่ใกล้เคียงโดยไม่ได้รับอนุญาต จึงทำให้เกิดการทิ้งขยะ และเกิดปัญหาดังกล่าวขึ้น​



ทั้งนี้ ยืนยันว่ากระทรวงคมนาคมไม่ได้นิ่งนอนใจต่อปัญหาที่เกิดขึ้น และได้สั่งการให้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาขยะสะสมในพื้นที่บริเวณรอบสถานีขนส่งหมอชิต 2 มาโดยตลอดอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการปรับปรุงสถานที่ให้มีความสะอาดเรียบร้อย มีทัศนียภาพที่สวยงาม และพร้อมอำนวยความสะดวกในการเดินทางของพี่น้องประชาชน อย่างไรก็ตาม ได้กำชับให้ บขส.และการรถไฟฯ เข้มงวดในการเข้าพื้นที่ด้านหลังสถานีขนส่งหมอชิต 2 เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก โดยการออกคำสั่งให้ผู้ประกอบการรถร่วมบริการ บขส.ห้ามใช้พื้นที่ดังกล่าวเป็นที่จอดรถ ซึ่งหากฝ่าฝืนมอบหมายให้กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) พิจารณาบทลงโทษปรับ และสั่งพักใบอนุญาตประกอบกิจการฯ รวมถึงยกเลิกสัมปทานการเดินรถด้วย



ขณะเดียวกัน เตรียมประสานงานร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ในฐานะผู้มีอำนาจในการดำเนินการตีเส้นขาวแดง บริเวณโดยรอบสถานีขนส่งหมอชิต 2 หากรถประเภทใดเข้าจอดรถในพื้นที่ดังกล่าวถือว่าฝ่าฝืนกฎหมายจราจรทันที ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถเปรียบเทียบปรับ และดำเนินการตามกฎหมายต่อไป อีกทั้ง บขส.และการรถไฟฯ จะต้องบูรณาการ เพื่อซ่อมแซมถนนเป็นหลุมเป็นบ่อด้านหลังสถานีขนส่งหมอชิต 2 เพื่อให้ได้มาตรฐาน และสร้างความปลอดภัยต่อผู้ใช้บริการอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดต่อไป



นายสุริยะกล่าวต่อว่า ส่วนการจัดระเบียบ และแก้ปัญหาบริเวณถนนกำแพงเพชร 6 นั้น ได้สั่งการให้การรถไฟฯ ในฐานะเจ้าของพื้นที่ เร่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหาแบบบูรณาการ ในการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนที่สัญจรในเส้นทางดังกล่าวให้ได้รับความสะดวกและปลอดภัย นอกจากนี้ มอบหมายให้การรถไฟฯ สั่งการไปยังฝ่ายการช่างโยธาระดมเจ้าหน้าที่เข้าทำความสะอาดและเก็บขยะมูลฝอยบริเวณถนนกำแพงเพชร 6 ด้านข้างสถานีขนส่งหมอชิต 2 ซึ่งจากการรายงานล่าสุดแจ้งว่าได้ทำความสะอาดและเก็บขยะเสร็จเรียบร้อยตั้งแต่เวลา 18.00 น.ของวันที่ 14 ตุลาคม 2567



ขณะที่มาตรการการแก้ไขปัญหาดังกล่าวนั้น การรถไฟฯ จะดำเนินการจัดระเบียบการจราจรในพื้นที่บริเวณสถานีขนส่งหมอชิต 2 ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และเฝ้าระวังไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นอีก โดยการติดป้ายห้ามจอด หากฝ่าฝืนจะมีโทษปรับตามกฎหมายกำหนดไว้ ขณะเดียวกัน จะมีการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ขบ.และ บขส.ร่วมประชุมหารือเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเร่งด่วน และยั่งยืนต่อไป

อย่างไรก็ตาม ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนกรุณาช่วยกันรักษาความสะอาด โดยไม่ทิ้งขยะในที่สาธารณะ เพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบ เรียบร้อย สะอาด และปลอดภัยต่อผู้สัญจรบนท้องถนนด้วย

‘สุริยะ’เตรียมเรียก‘กรมการขนส่งฯ-รฟท.’ถกแก้ปัญหาขยะล้นหมอชิต ขู่เอาผิดรถร่วมฯ
วันอังคาร ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2567 เวลา 10.56 น.

‘สุริยะ’เผยเตรียมเรียก‘กรมการขนส่งทางบก-รฟท.’หารือแก้ปัญหาขยะล้นหมอชิต ขู่เอาผิดรถร่วมฯ

เมื่อเวลา 09.20 น. วันที่ 15 ต.ค.2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ สส.พรรคประชาชน ออกมาเปิดเผยว่ามีขยะโดยรอบสถานีขนส่งหมอชิต โดยเจ้าของสถานที่คือการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ไม่สนใจเข้ามาดูแล ว่า ทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว และได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงไปดูแล ซึ่งได้มีการเก็บทำความสะอาดเรียบร้อยไปแล้วตั้งแต่ เวลา 18.00 น. เมื่อวันที่14 ต.ค.


เมื่อถามว่าแต่ดูเหมือนเจ้าหน้าที่จะไม่ให้ความสนใจเข้าไปดูแลอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดปัญหาเป็นระยะๆ ในลักษณะมีปัญหาทีค่อยแก้ที นายสุริยะ กล่าวว่า ส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่าปัญหาเกิดจากรถร่วมบริการที่นำเอาขยะมาทิ้ง และถ้ายังคงเกิดปัญหาแบบนี้ทางเราจะพิจารณาโดยจะมอบหมายให้ทางกรมขนส่งทางบกไม่ให้เข้ามาอยู่ในระบบรถร่วมฯ ต่อไป


เมื่อถามว่าในส่วนของเจ้าหน้าที่ที่มีหน้าที่กำกับดูแล เช่น รฟท. จะมีการกำหนดบทลงโทษในฐานะที่ละเลยในการกำกับดูแลหรือไม่ นายสุริยะ กล่าวว่า จะเรียกประชุมทั้งกรมการขนส่งทางบก และทางการรถไฟฯ เพื่อมาพิจารณาร่วมกันว่าจะแก้ปัญหาอย่างถาวร

[Wisarut]

[Wisarut]

“รฟท.” ลุยปรับปรุงผิวจราจรรอบ “หมอชิต 2” เร่งส่งมอบ “ถ.กำแพงเพชร 6-7” ให้ กทม. ดูแล
ข่าวนวัตกรรมขนส่ง
วันอาทิตย์ ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2567 เวลา 12:07 น.

รฟท. บูรณาการ ขบ.-บขส. เพิ่มความเข้มงวดบังคับใช้กฎหมาย ลักลอบจอดบริเวณรอบ “หมอชิต 2” ล็อกล้อทันที ลักลอบทิ้งขยะปรับไม่เกิน 2 พัน ลุยปรับปรุงผิวจราจรแล้วเสร็จ ก.พ.68 เร่งมอบถนนกำแพงเพชร 6-7 ให้ กทม. ดูแล
นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า รฟท. ได้เร่งบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการจัดระเบียบ แก้ไขปัญหาขยะบริเวณรอบสถานีขนส่งหมอชิต 2 ตามนโยบายของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม โดยเบื้องต้น รฟท. ได้จัดการทำความสะอาด และเก็บขยะพื้นที่บริเวณดังกล่าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่วันที่ 14 ต.ค. 67 สำหรับการแก้ปัญหาระยะเร่งด่วนนั้น รฟท. ได้ดำเนินการตีเส้นขาวแดง พร้อมติดตั้งป้ายห้ามจอดรถ ป้ายห้ามทิ้งขยะตลอดเส้นทาง 


ตลอดจนประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) และ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ให้มาช่วยจัดระเบียบ เพิ่มความเข้มงวดการบังคับใช้กฎหมายตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก และกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเด็ดขาด หากพบรถยนต์ลักลอบจอดในพื้นที่ห้ามจอด ให้ดำเนินการล็อกล้อทันที และมีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 1,000 บาท ส่วนผู้ลักลอบทิ้งขยะในพื้นที่จะมีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 2,000 บาท ทั้งนี้หลังจากจัดระเบียบจราจรเรียบร้อยแล้ว จะดำเนินการปรับปรุงผิวจราจรให้เสร็จสิ้นภายในเดือน ก.พ. 68


นายวีริศ กล่าวอีกว่า รฟท. ตระหนักถึงความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนของประชาชน ซึ่งที่ผ่านมา รฟท. ได้ส่งมอบถนนกำแพงเพชรช่วง 1-4 ให้กับกรุงเทพมหานคร (กทม.) ดูแลไปแล้ว ตั้งแต่ปี 42 สำหรับถนนกำแพงเพชร 5 จากสถานีสามเสน ถึงด้านหลังอาคารกรมทางหลวง เตรียมส่งมอบพื้นที่เพื่อใช้สำหรับก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ส่วนถนนกำแพงเพชร 6 ช่วงบางซื่อ–รังสิต และช่วงรอบสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (หมอชิต2) อยู่ระหว่างเตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อส่งมอบให้กับ กทม. เช่นกัน


นายวีริศ กล่าวด้วยว่า ขณะที่ถนนกำแพงเพชร 7 ช่วงมักกะสันถึงสถานีหัวหมาก รฟท. ได้ยื่นเอกสารส่งมอบให้ กทม. ไปแล้ว อยู่ระหว่างประชุมหารือในคณะกรรมการรับมอบถนน กทม. ซึ่งประกอบด้วย สำนักการโยธา สำนักการจราจร สำนักการระบายน้ำ สำนักสิ่งแวดล้อม และสำนักงานเขตที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เพื่อตรวจรับมอบถนนจาก รฟท. ให้ กทม.ดูแลต่อไป อย่างไรก็ตาม รฟท. มุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหา และพร้อมเปิดรับฟังทุกความเห็น เพื่อนำมาพัฒนาปรับปรุงระบบการขนส่งสาธารณะของไทยให้ดียิ่งขึ้น ตลอดจนส่งมอบความห่วงใย และความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชน ให้ถึงที่หมายได้อย่างปลอดภัย.
https://www.dailynews.co.th/news/3992237/

[Wisarut]

รฟท. เตรียมทำMOU อบจ.ปทุมธานี ส่งมอบ”โลคัลโรด”ช่วงคลองรังสิตประยูรศักดิ์ – รังสิต
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันจันทร์ ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2567 เวลา 19:58 น.
ปรับปรุง: วันจันทร์ ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2567 เวลา 19:58 น.
• ส่งมอบถนนโลคัลโรด: วีริศ หารือ คำรณวิทย์ เพื่อส่งมอบถนนโลคัลโรด ช่วงคลองรังสิตประยูรศักดิ์ – สะพานปทุมธานี – รังสิต ให้ อบจ.ปทุมธานี ดูแล
• เร่งซ่อมถนน: เน้นการซ่อมแซมถนนช่วงสถานีหลักหก – รังสิต เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชน


“วีริศ” หารือ “คำรณวิทย์”เตรียมส่งมอบถนนโลคัลโรด ช่วงคลองรังสิตประยูรศักดิ์ – สะพานปทุมธานี – รังสิต ให้ อบจ.ปทุมธานีดูแล พร้อมเร่งซ่อมถนนช่วงสถานีหลักหก – รังสิต อำนวยความสะดวกประชาชน

นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม ที่ผ่านมา ได้ประชุมร่วมกับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี เพื่อหารือถึงการทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) สำหรับการส่งมอบถนนโลคัลโรด ช่วงคลองรังสิตประยูรศักดิ์ – สะพานปทุมธานี – รังสิต ให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี เป็นผู้ดูแลและบำรุงรักษา เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่ใช้เส้นทางดังกล่าวในการสัญจรไปมา ให้ได้รับความสะดวกและปลอดภัย รวมทั้งได้ลงพื้นที่สำรวจผิวการจราจรที่ได้รับความเสียหาย ร่วมกับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ด้วย อย่างไรก็ตาม จากนี้การรถไฟฯ จะเร่งร่างบันทึกข้อตกลงความร่วมมือดังกล่าวให้ครอบคลุมมากที่สุด เพื่อจะได้เร่งแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนอย่างถาวรและยั่งยืน

สำหรับการแก้ปัญหาในระยะยาว เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการดูแลรักษาถนน รวมถึงพื้นผิวจราจรให้เกิดความปลอดภัยมากที่สุดกับผู้ใช้รถใช้ถนนเส้นทางดังกล่าวนั้น การรถไฟฯ จะบูรณาการความร่วมมือกับกรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบท ในการตั้งด่านตรวจชั่งน้ำหนักเคลื่อนที่ รวมถึงติดตั้งคานเหล็กกั้นจำกัดความสูงบริเวณก่อนถึงจุดเชื่อมต่อกับถนนกำแพงเพชร 6 เพื่อเพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมน้ำหนักของรถบรรทุก ไม่ให้รถบรรทุกที่น้ำหนักเกินกว่ากฎหมายกำหนด ตามมาตรการของกระทรวงคมนาคม เข้ามาใช้เส้นทางอย่างเด็ดขาด หากพบว่ามีการฝ่าฝืนจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มงวดต่อไป



“ผมได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ซ่อมแซมผิวจราจรช่วงระหว่างสถานีหลักหก – รังสิต พร้อมทั้งให้ติดตั้งคานเหล็กกั้นจำกัดความสูงโดยเร็วที่สุดแล้ว เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่ใช้เส้นทางดังกล่าวสัญจรไปมาในระหว่างนี้เป็นการชั่วคราวก่อน ทั้งนี้ เชื่อว่าการส่งมอบถนนโลคัลโรด ช่วงคลองรังสิตประยูรศักดิ์ – สะพานปทุมธานี – รังสิต ให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี เป็นผู้ดูแลและปรับปรุงบำรุงรักษาถนนนั้น จะสร้างประโยชน์สูงสุดให้กับพี่น้องประชาชนทั้งในจังหวัดปทุมธานี และพื้นที่ใกล้เคียง ตลอดจนผู้ที่สัญจรไปมาในเส้นทางดังกล่าวด้วย ซึ่งจะได้รับความสะดวกและปลอดภัยจากกการใช้รถ ใช้ถนน” นายวีริศกล่าว

“รฟท.” เตรียมมอบถนน “โลคัลโรด” คลองรังสิตประยูรศักดิ์-รังสิตให้ “อบจ.ปทุมธานี” ดูแล
ข่าวนวัตกรรมขนส่ง
วันศุกร์ ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2567 เวลา 17:02 น.


รฟท. เตรียมลงนาม MOU ส่งมอบถนนโลคัลโรด ช่วงคลองรังสิตประยูรศักดิ์–สะพานปทุมธานี–รังสิต ให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีดูแล เดินหน้าส่งมอบถนนกำแพงเพชร 5 ใช้สร้างรถไฟไฮสปีดสามสนามบิน พร้อมประสาน ทช. ตั้งด่านชั่งน้ำหนักเคลื่อนที่ ติดตั้งคานเหล็กกั้นจำกัดความสูง ไม่ให้รถบรรทุกใหญ่เข้ามาใช้ถนนโลคัลโรด
นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า รฟท. เตรียมหารือกับองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ปทุมธานี เพื่อลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ในการส่งมอบถนนโลคัลโรด ช่วงคลองรังสิตประยูรศักดิ์–สะพานปทุมธานี–รังสิต ให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี เป็นผู้ดูแล และปรับปรุงบำรุงรักษาถนนดังกล่าว เชื่อว่าจะก่อเกิดประโยชน์สูงสุดให้กับประชาชน ทั้งในจังหวัดปทุมธานี และพื้นที่ใกล้เคียง ตลอดจนผู้ที่สัญจรไปมาในเส้นทางดังกล่าว ที่จะได้รับความสะดวก ปลอดภัยในการใช้รถ ใช้ถนน


นายวีริศ กล่าวต่อว่า สำหรับถนนโลคัลโรด ช่วงคลองรังสิตประยูรศักดิ์–สะพานปทุมธานี-รังสิต สร้างขึ้นในพื้นที่ของ รฟท. เมื่อปี 41 ในช่วงที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ต่อมาในปี 56 รฟท. ได้ปรับปรุงขยายถนน เพื่อรองรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงจนแล้วเสร็จทั้งหมดในปี 65 ทั้งนี้ที่ผ่านมา รฟท. ได้ส่งมอบถนนในพื้นที่ของ รฟท. ให้กับหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญดูแลอย่างต่อเนื่อง อาทิ การส่งมอบถนนกำแพงเพชรช่วง 1-4 ให้กับกรุงเทพมหานคร (กทม.) ดูแล ตั้งแต่ปี 42 ส่วนถนนกำแพงเพชร 5 ช่วงสถานีสามเสนถึงด้านหลังอาคารกรมทางหลวง (ทล.) อยู่ระหว่างเตรียมส่งมอบพื้นที่เพื่อใช้สำหรับก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ขณะที่ถนนกำแพงเพชร 6 ช่วงบางซื่อ–รังสิต และช่วงรอบสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (หมอชิต2) อยู่ระหว่างจัดทำหนังสือส่งมอบให้กับ กทม.เช่นกัน


นายวีริศ กล่าวด้วยว่า เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการดูแลรักษาถนน รวมถึงพื้นผิวจราจรให้เกิดความปลอดภัยกับผู้ใช้รถใช้ถนนในระยะยาวนั้น รฟท. จะบูรณาการความร่วมมือกับกรมทางหลวงชนบท (ทช.) ในการตั้งด่านตรวจชั่งน้ำหนักเคลื่อนที่ บริเวณก่อนจุดเชื่อมต่อกับถนนกำแพงเพชร 6 เพื่อเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบ และควบคุมน้ำหนักของรถบรรทุกไม่ให้น้ำหนักเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ตามมาตรการของกระทรวงคมนาคม หากพบว่ามีการฝ่าฝืนจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดต่อไป นอกจากนี้จะติดตั้งคานเหล็กกั้นจำกัดความสูง เพื่อไม่ให้รถบรรทุกขนาดใหญ่เข้ามาวิ่งในพื้นที่ถนนโลคัลโรดด้วย เนื่องจากถนนสายดังกล่าวมักมีรถบรรทุกใช้ในการสัญจรค่อนข้างมาก และบ่อยครั้งที่พบว่ามีการบรรทุกน้ำหนักเกินกำหนด ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ถนน และพื้นผิวจราจรชำรุดเสียหายก่อนเวลา สร้างความอันตรายให้กับประชาชนผู้ใช้เส้นทางสัญจรไปมา ตลอดจนทำให้ภาครัฐต้องสูญเสียงบประมาณในการบำรุงซ่อมแซมอีกด้วย

นายวีริศ กล่าวอีกว่า รฟท. มุ่งมั่นดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนอย่างเต็มที่ และพร้อมรับฟังทุกความเห็น เพื่อนำมาพัฒนาปรับปรุงระบบการขนส่งสาธารณะของไทยให้ดียิ่งขึ้น เพราะเรื่องความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชนจนถึงที่หมายอย่างปลอดภัยนั้น เป็นเรื่องที่ รฟท. ให้ความสำคัญมาอย่างต่อเนื่อง.... สามารถติดตามต่อได้ที่ : https://www.dailynews.co.th/news/4011455/

[Wisarut]

รัฐเล็งใช้ที่ “ธนารักษ์-รถไฟ” ให้รายได้น้อยมีที่อยู่อาศัยในเมือง 99 ปี
ฐานเศรษฐกิจ
เผยแพร่: วันพุธ ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2567 เวลา 15:25 น.
อัปเดตล่าสุด : วันพุธ ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2567 เวลา 15:31 น.

“พิชัย” รองนายกฯ และรมว.คลัง ชี้รัฐพร้อมยืดเวลาต่างชาติเช่าที่ดินไทยนาน 99 ปี ใช้กฎหมายทรัพย์อิงสิทธิ์ หนุนลงทุน เล็งจัดสรรที่ “ธนารักษ์-รถไฟ” ให้รายได้น้อยมีที่อยู่อาศัยในเมือง 99 ปี
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ประเทศไทยมีผืนดินกว่า 300 ล้านไร่ 5.4 แสนตารางกิโลเมตร ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ราบ เมื่อเทียบกับจำนวนประชากร 67 ล้านคน ถือว่า เรามีพื้นที่เหลือเฟือ

ขณะที่การลงทุนของนักลงทุนต่างชาตินั้น ปัจจุบันแม้จะมีความสนใจเข้ามาจำนวนมาก แต่ต่างชาติที่ต้องการลงทุน ต้องการความยาวนาน การปักหลักฐานเขาจะมาอยู่กับไทยที่มีสัญญาเช่าที่นาน เช่น 99 ปี หากไม่มีสัญญาณให้เช่าขนาดนี้ โอกาสที่จะทำให้การลงทุนนั้นยากขึ้น

ฉะนั้น นโยบายส่งเสริมการลงทุนหนึ่งที่รัฐบาลชุดนี้จึงจะผลักดัน คือ การสนับสนุนการใช้กฎหมายทรัพย์อิงสิทธิ์ และการขยายการเช่าที่ดินให้ยาวนานถึง 99 ปี แทนที่จะเป็น 30 ปี แบบในปัจจุบัน เพื่อให้นักลงทุนต่างชาติมีความมั่นใจในการลงทุนที่ยาวนานเพียงพอที่จะคุ้มค่าต่อการลงทุน รวมถึงสามารถได้สิทธิการใช้ที่ดิน ตามกฎหมายทรัพย์อิงสิทธิ์ ที่ทำให้ต่างชาติ สามารถขายสิทธิ์ หรือนำสิทธิ์นั้นไปเป็นหลักประกันการกู้จากสถาบันการเงินได้


ทั้งนี้ เมื่อสัญญาครบ 99 ปี สินทรัพย์จะตกมาเป็นของของรัฐ หรือคนรายได้น้อย เพราะจะนำที่ดังกล่าวมาจัดสรรต่อ ขณะเดียวกัน จะนำที่ดินของกรมธนารักษ์ หรือที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ที่เป็นของรัฐ ซึ่งไม่ได้ใช้ประโยชน์มานาน จะนำมาใช้ในหลักการทรัพย์อิงสิทธิ์ด้วน

โดยจะนำมาจัดสรรให้เป็นที่พักอาศัยสำหรับคนรายได้น้อย 99 ปี ในราคาประมาณ 70% ของที่ควรเป็น ก็เป็นโอกาสที่ดีของคนรายได้น้อยที่จะมีที่อยู่บนทรัพย์สิน บนสัญญา 99 ปี

“พิชัย” รมว.คลัง อยากเห็นเงินเฟ้อ 2% สั่งธปท. ออกมาตรการหนุนเศรษฐกิจโต
“คนรายได้น้อยต้องการอาศัยในตัวเมือง เช่น สีสม สุขุมวิท พระราม 4 เพราะคนรายได้น้อยต้องการเดินทางถึงที่ทำงานเร็วที่สุด เพื่อใช้แรงงาน ไม่สามารถอยู่ข้างนอก และเสียค่ารถวันละ 300 บาทได้ ฉะนั้น จึงเป็นความจำเป็นของทุกประเทศที่คนรายได้น้อยต้องอยู่ในเมืองได้”