RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:312102
ทั่วไป:13704924
ทั้งหมด:14017026
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 408, 409, 410 ... 412, 413, 414  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 47679
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 24/11/2024 4:50 am    Post subject: Reply with quote

ร้อง"สำนักนายกรัฐมนตรี"รถไฟฯสร้างหลังคาชานชาลารถไฟทางคู่สั้นจุ๊ดไม่กันแดด-กันฝน | เดลินิวส์
Source - เว็บไซต์เดลินิวส์
Saturday, November 23, 2024 19:27

ประชาชนร้องสำนักนายกรัฐมนตรี การรถไฟฯสร้างหลังคาชานชาลารถไฟทางคู่สั้นจุ๊ดไม่กันแดด-ฝน พร้อมค้านแหลกเหตุผลรฟท.แก้ต่างศาลปกครอง

“ทีมข่าวนวัตกรรมขนส่งเดลินิวส์“ รายงานว่า ศาลปกครองนครราชสีมา อยู่ระหว่างให้ประชาชนที่ฟ้องการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) ที่เป็นเหตุให้เกิดความเดือดร้อนเสียหายจากการก่อสร้างหลังคาชานชาลาสถานีรถไฟทางคู่สายอีสานมาบกระเบา-ชุมทางจิระ (สถานีปากช่อง)ไม่ได้มาตรฐานไม่กันแดดกันฝน ส่งคำให้การแก้ต่างรฟท.ผู้ถูกฟ้องคดีที่ส่งคำคัดค้านต่อสู้ว่าคำฟ้องไม่เป็นความจริงและไม่เคยละเลยหน้าที่ตามกฎหมาย โดยขอให้ศาลฯพิพากษายกคำฟ้องของประชาชนผู้ฟ้องคดี

ขณะที่ประชาชนผู้ฟ้องคดีได้ยื่นคำคัดค้านคำให้การของรฟท.โดยขอให้ศาลปกครองฯ พิจารณาคดีนี้ต่อไป รวมทั้งแก้ต่างคัดค้านคำให้การเพิ่มเติมของรฟท.ที่ระบุว่าสร้างหลังคาชานชาลาที่ค่อนข้างน้อยและไม่ครอบคลุมเพื่อป้องกันการเฉี่ยวชนหลังคา เพื่อการระบายควันจากรถจักรดีเซล ให้รถเครนเข้าไปได้เมื่อมีอุบัติเหตุ และระบุว่าเส้นทางมาบกระเบา-ชุมทางถนนจิระ , นครปฐม-ชุมพร และ ลพบุรี-ปากน้ำโพส่วนมากสร้างหลังคาชานชาลาสั้น

โดยผู้ฟ้องคดียืนยันว่าการสร้างสถานีใหม่ในโครงการทางคู่ช่วง ลพบุรี-ปากน้ำโพ รฟท.สร้างหลังคายาวและครอบคลุมตลอดชานชาลาได้ทุกสถานีอย่างไม่มีปัญหา อันเป็นการขัดแย้งกับเหตุผลที่รฟท.ให้การอันไปสู่การที่ปัญหาร้องเรียนจะไม่ถูกได้รับการแก้ไข ส่งผลให้เกิดความเดือดร้อนเสียหาย และมีแนวโน้มที่จะใช้งบประมาณที่ผิดปกติ มีหลักฐานเป็นภาพประกอบด้วย

นอกจากนี้ล่าสุดประชาชนยังไปยื่นข้อร้องเรียนปัญหาหลังคาชานชาลาถึงสำนักนายกรัฐมนตรีด้วย โดยสำนักนายกรัฐมนตรีได้รับเรื่องร้องเรียนแล้วเมื่อวันที่ 23 ต.ค.67 ผู้ฟ้องระบุว่ามีความจำเป็นต้องใช้รถไฟเดินทางเพื่อไปทำธุระและท่องเที่ยวจากสถานีปากช่องไปสถานีรถไฟนครราชสีมา สถานีสระบุรี และสถานีกรุงเทพอภิวัฒน์ ตั้งแต่ช่วงปลายปี 63 รฟท.รื้อถอนชานชาลาสถานีเดิมเพื่อก่อสร้างชานชาลาและอาคารหลังใหม่ในโครงการทางคู่มาบกระเบา-ชุมทางถนนจิระ ทำให้ประสบปัญหาจากหลังคาชานชาลามีจำนวนน้อย ไม่เพียงพอ สร้างเป็นหย่อมเว้นช่วงห่างกันมากเกิดความลำบากในการโดยสารขบวนรถไฟในขณะฝนตกหรือช่วงบ่ายที่อากาศร้อนและแดดแรง

ต่างจากสถานีปากช่องรูปแบบเก่า ซึ่งมีหลังคาชานชาลาครอบคลุมตลอดแนว อีกทั้งยังมีปีกกว้างไปถึงหลังคาตู้โดยสาร ต่างจากแบบปัจจุบันที่ความกว้างถึงแค่ระดับเส้นเหลือง ที่ผ่านมาได้ร้องเรียนรฟท.ทุกช่องทางแต่ไม่ได้รับการแก้ไข


Citizens complain to the Prime Minister's Office about the State Railway of Thailand's (SRT) construction of short platform roofs on the double-track railway that do not protect from sun or rain.

Source - Daily News Website
Saturday, November 23, 2024 19:27

The public has filed a complaint with the Prime Minister's Office regarding the State Railway of Thailand's (SRT) construction of short platform roofs on the double-track railway in the Northeast, specifically on the Mab Krabeau-Jira Junction line (Pak Chong Station). The complaint states that these roofs do not meet the standards for protection from sun and rain. This complaint comes as the Nakhon Ratchasima Administrative Court is in the process of hearing a case filed by citizens against the SRT for damages caused by the substandard roofs.

The SRT has submitted a statement to the court denying the allegations and claiming that they have not neglected their duties. They have requested the court to dismiss the case. However, the citizens who filed the lawsuit have submitted a counter-statement, asking the court to proceed with the case and refuting the SRT's additional arguments.

The SRT claims that the short roofs are necessary to prevent collisions, allow for smoke ventilation from diesel locomotives, and provide access for cranes in the event of an accident. They also argue that short platform roofs are common on other lines such as Mab Krabeau-Thanon Jira Junction, Nakhon Pathom-Chumphon, and Lopburi-Pak Nam Pho.

However, the plaintiffs argue that the SRT has constructed long, full-coverage platform roofs at all new stations on the Lopburi-Pak Nam Pho double-track line without any problems. This contradicts the SRT's reasoning and suggests that the complaints will not be addressed, resulting in continued inconvenience and potential misuse of budget. Photographic evidence has been submitted to support these claims.

In addition, the citizens have recently submitted a complaint about the platform roof issue to the Prime Minister's Office, which was received on October 23, 2024. The complainants state that they rely on the railway for travel and tourism from Pak Chong Station to Nakhon Ratchasima Station, Saraburi Station, and Bangkok Apiwat Station. Since the end of 2023, the SRT has demolished the old platform at Pak Chong Station to construct a new platform and building as part of the Mab Krabeau-Thanon Jira Junction double-track project. This has resulted in insufficient platform roofing, with small, spaced-out sections that do not provide adequate protection from rain or strong sunlight.

This is in contrast to the old Pak Chong Station, which had a long, continuous platform roof that extended to cover the train cars. The current design only covers up to the yellow line on the platform. Despite numerous complaints to the SRT through various channels, the issue has not been resolved.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 47679
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 24/11/2024 7:08 pm    Post subject: Reply with quote

รถไฟทางคู่ ช่วง บางสะพานน้อย - ชุมพร


https://www.youtube.com/watch?v=MWLqP8esraU
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44162
Location: NECTEC

PostPosted: 25/11/2024 10:16 am    Post subject: Reply with quote

สร้างเสร็จ 100% ทางคู่สายเหนือ “ลพบุรี-ปากน้ำโพ”
*ส่งมอบงานแล้วแต่ต้องเลื่อนเปิดบริการไปต้นปีหน้า
*รอระบบสัญญาณ+ความชัดเจนขบวนสถานีลพบุรี 2


ทางคู่ “ลพบุรี-ปากน้ำโพ” สร้างเสร็จ 100% เร่งติดตั้งอาณัติสัญญาณ เลื่อนเปิดบริการต้นปีหน้า
ข่าวนวัตกรรมขนส่ง
วันจันทร์ ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 เวลา 08:33 น.

ปิดจ็อบทางคู่ สายเหนือ “ลพบุรี-ปากน้ำโพ” สร้างเสร็จ 100% เร่งติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณ เลื่อนเปิดเดินรถไฟทางคู่จากปลายปี 67 เป็นต้นปี 68 รอฟังเสียงสะท้อนชาวบ้านใช้สถานีลพบุรีใหม่
“ทีมข่าวนวัตกรรมขนส่งเดลินิวส์” รายงานว่า ขณะนี้การก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ระยะ(เฟส) ที่ 1 สายเหนือ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพระยะทาง 148 กิโลเมตร(กม.) วงเงิน 2.15 หมื่นล้านบาท เสร็จแล้ว 100% ทั้ง 2 สัญญา โดยผู้รับจ้างส่งมอบงานให้การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) ได้ทันตามตามกำหนดวันสิ้นสุดสัญญา โดยสัญญาที่ 1 ช่วงบ้านกลับ – โคกกระเทียม ระยะทาง 32 กม. สิ้นสุดสัญญาวันที่ 18 ก.ย.67 มีกิจการร่วมค้า ยูเอ็นเอสเอช เป็นผู้รับจ้าง ทาง รฟท. ตรวจรับงานแล้ว ส่วนสัญญาที่ 2 ช่วงท่าแค-ปากน้ำโพ ระยะทาง116 กม. สิ้นสุดสัญญาวันที่ 19 ต.ค.67 มีบริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับจ้าง รฟท. อยู่ระหว่างตรวจรับงาน


ส่วนสัญญาที่ 3 งานระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม มีกิจการร่วมค้า บีที – ยูเอ็น ประกอบด้วย บริษัท บอมบาร์ดิเอร์ ทรานสปอร์เทชั่น ซิกแนล (ประเทศไทย) และบริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับจ้าง ยังอยู่ระหว่างดำเนินการ มีความคืบหน้า 49.59% ล่าช้ากว่าแผนงาน50.41% สิ้นสุดสัญญาวันที่ 28 ก.ค.68 อย่างไรก็ตามในระหว่างที่การติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณยังไม่แล้วเสร็จ ฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง จะประสานงานกับฝ่ายปฏิบัติการเดินรถ เพื่อนำระบบทางสะดวกอิเล็กทรอนิกส์ (E-Token) มาใช้งานในการเดินรถระหว่างที่มีการติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณเป็นการชั่วคราว เพื่อให้สามารถเปิดเดินรถไฟทางคู่สายเหนือ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ ได้ โดยงานดังกล่าวอยู่นอกขอบเขตงานของผู้รับจ้างสัญญา 3 จึงต้องมีการหารือในรายละเอียดร่วมกันต่อไป

ขณะเดียวกันก็ต้องรอความชัดเจนในการจัดการเดินรถของขบวนรถธรรมดาว่า จะใช้เส้นทางผ่านสถานีลพบุรีเดิม หรือสถานีลพบุรี2 (แห่งใหม่) ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ถึงสิ้นเดือน พ.ย.67  โดยก่อนหน้านี้ รฟท. มีแผนจะย้ายขบวนรถมาให้บริการที่สถานีลพบุรีแห่งใหม่ 22 ขบวน และสถานีลพบุรีเดิม 8 ขบวน คาดว่าจะได้ข้อสรุป และสามารถเปิดให้บริการเดินรถได้ในต้นปี 68 โดยเลื่อนจากแผนงานเดิมที่วางเป้าหมายจะเปิดบริการเดินรถไฟทางคู่ สายเหนือ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ ตลอดเส้นทางในช่วงปลายปี 67 ทั้งนี้คาดว่าจะเปิดให้บริการรถไฟทางคู่ โดยใช้ระบบอาณัติสัญญาณใหม่ได้ปลายปี 68 ไม่เกินต้นปี 69 ซึ่งจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทางทางรถไฟมากขึ้น


รายงานข่าวแจ้งอีกว่า จากข้อมูลการศึกษาพบว่า ในปีแรกของการเปิดให้บริการรถไฟทางคู่ สายเหนือ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ จะมีปริมาณผู้โดยสาร 33,880 ต่อวัน และอีก 20 ปี จะเพิ่มเป็น 81,130 คนต่อวัน ขณะที่ปริมาณขนส่งสินค้า ปีเปิด 25,910 ตันต่อวัน และอีก 20 ปี จะเพิ่มเป็น 60,430 ตันต่อวัน สำหรับโครงการนี้มีไฮไลท์อยู่ที่ทางรถไฟยกระดับ ในสัญญาที่ 1 มีความยาว 19 กม. สูง 10-20 เมตร จะเริ่มตั้งแต่ออกจากสถานีบ้านกลับ จ.สระบุรี และเริ่มลดระดับลงก่อนเข้าสู่บริเวณสถานีโคกกระเทียม จ.ลพบุรี ถือเป็นทางรถไฟยกระดับที่ยาวที่สุดในไทย ซึ่งในระหว่างที่ขบวนรถอยู่บนทางรถไฟยกระดับนั้น ผู้โดยสารจะได้เห็นวิวมุมสูง ทิวทัศน์ที่สวยงาม และความเขียวขจีของท้องทุ่งนาด้วย


สำหรับรถไฟทางคู่ สายเหนือ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ มี 21 สถานี ประกอบด้วย สถานีบ้านกลับ, สถานีป่าหวาย, สถานีลพบุรี, สถานีท่าแค, สถานีโคกกระเทียม, สถานีหนองเต่า, สถานีหนองทรายขาว, สถานีบ้านหมี่, สถานีห้วยแก้ว, สถานีจันเสน, สถานีช่องแค, สถานีโพนทอง,สถานีบ้านตาคลี, สถานีดงมะกุ, สถานีบ้านหัวหวาย, สถานีหนองโพ, สถานีหัวงิ้ว, สถานีเนินมะกอก, สถานีเขาทอง, สถานีนครสวรรค์ และสถานีปากน้ำโพ https://www.dailynews.co.th/news/4115485/?
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/1113155723594994
https://www.youtube.com/watch?v=z17JYp3n6rk

Wisarut wrote:
🚇Northern line: Lopburi - Pak Nampho - 148 km at 21.5 billion Baht - Progress on Progress on 30 September 2024 Reported on 21 October 2024 🚇 :
Contract 1 Ban Klub - Khok Krathiam (Tha Wung elevated bypass) - 32 km including 29 km elevated tracks and the rest are ramps
Contractor: Unique Engineering and Construction PCL & Sino Hydro
Expected Accumulated Goal: 100% (30 September 2024)
Expected Actual Goal: 100%
Effectively Done! Lopburi 2 station Building is DONE with reddish roof tiles along with Tha Wung bypass
The platelaying along with platform roof of Lopburi 2 station is also done

Contract 2 Tha Khae - Pak Nam Pho - 116 km
Contractor: Unique Engineering and Construction PCL
Expected Accumulated Goal: 100% (30 September 2024)
Expected Actual Goal: 98.26%
Delayed planned goal by 1.74% (-1.74% progress)
Expected date to be done: December 2024


Contract 3: New Signal and telecommunication including ECTS-1 from Lopburi to Pak Nam Pho (S8 Work)
Contractor: Unique Engineering and Construction PCL & Bombardier Transportation Signal (Thailand)
Expected Accumulated Goal: 100.00% (31 August 2024)
Expected Actual Goal: 49.59%
Delayed planned goal by 50.41% (-50.41% progress)
Expected date to be done : Expected to be done at the End of 2025.

https://www.facebook.com/lopburipaknampho/posts/927796295932438


Last edited by Wisarut on 27/11/2024 10:21 am; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 47679
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 25/11/2024 4:22 pm    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
ทางคู่ “ลพบุรี-ปากน้ำโพ” สร้างเสร็จ 100% เร่งติดตั้งอาณัติสัญญาณ เลื่อนเปิดบริการต้นปีหน้า
ข่าวนวัตกรรมขนส่ง
วันจันทร์ ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 เวลา 08:33 น.

รฟท.ปักหมุดปีใหม่เปิดใช้ทางคู่สายเหนือ-อีสาน
Source - เว็บไซต์ไทยโพสต์
Monday, November 25, 2024 16:08

รฟท. กางแผนเปิดบริการรถไฟทางคู่เฟส 1 ใน 2 เส้นสุดท้ายสายเหนือ ‘ลพบุรี-ปากน้ำโพ’ และสายอีสาน ‘มาบกะเบา-ชุมทางจิระ’ เป็นของขวัญปีใหม่ เตรียมซื้อรถจักรดีเซลไฟฟ้า 113 คันหวังเพิ่มขนส่งสินค้า

25 พ.ย. 2567 -นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยหลังต้อนรับ คณะกรรมาธิการการคมนาคม วุฒิสภา นำโดยนายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ประธานคณะกรรมาธิการฯ มาเยี่ยมเยือน รฟท. เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับผลดำเนินงานในปี 2567 แนวทางดำเนินงานปีงบฯ 2568 และความคืบหน้าโครงการสำคัญของ รฟท. โดยปัจจุบัน รฟท. ให้บริการขบวนรถโดยสาร 2 ประเภท ได้แก่ ขบวนรถโดยสารเชิงสังคม 146 ขบวน/วัน และเชิงพาณิชย์ 74 ขบวน/วัน รวม 220 ขบวน/วัน มีปริมาณการผู้โดยสารปี 2567 ประมาณ 30,870,000 คน เป็นรายได้กว่า 3,921.30 ล้านบาท ให้บริการขนส่งสินค้า 62 ขบวน/วัน ในปี 2567 มีปริมาณขนส่งเพิ่มขึ้นจากเดิม 12,8000,000 ตัน รายได้กว่า 2,122.60 ล้านบาท

สำหรับโครงการสำคัญขณะนี้ ได้เร่งรัดพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้แล้วเสร็จตามแผนงานโดยเฉพาะโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะเร่งด่วน (เฟส 1) 7 เส้นทาง เปิดบริการแล้ว 5 เส้นทาง 1.ช่วงชุมทางฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย 2.ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น 3.ช่วงนครปฐม-หัวหิน 4.ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ และ 5.ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ส่วนอีก 2 เส้นทาง 1.ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ เตรียมเปิดบริการช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 เพื่อมอบเป็นของขวัญประชาชน และ 2.ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ใกล้เสร็จคาดว่าจะเปิดใช้งานช่วงต้นปี 2568

ส่วนโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายใหม่ 2 เส้นทาง 1. เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ และ 2. บ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม รวมระยะทาง 677 กม. อยู่ระหว่างก่อสร้าง รวมถึงโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน (กรุงเทพฯ-นครราชสีมา-หนองคาย) รวมระยะทาง 609 กม. อยู่ระหว่างเร่งรัดระยะที่ 1 (กรุงเทพฯ-นครราชสีมา) ระยะทาง 250.77 กม. คาดว่าจะเปิดบริการได้ตามแผนภายในปี 2571

อย่างไรก็ตาม ในด้านรถจักรและล้อเลื่อน รฟท. เร่งผลักดันโครงการจัดซื้อรถจักรดีเซลไฟฟ้าพร้อมอะไหล่ 113 คัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้บริการขนส่งสินค้า และรองรับโครงการรถไฟทางคู่ที่จะทยอยเปิดใช้งานในอนาคต สามารถประหยัดพลังงานได้ประมาณ 10-30% รวมถึงจัดหารถจักรสับเปลี่ยนที่ใช้แบตเตอรี่ 17 คัน ทดแทนรถจักรสับเปลี่ยนเดิมที่มีสภาพการใช้งานกว่า 60 ปี รวมทั้งจัดหารถดีเซลราง (Hybrid DEMU) 184 คัน เพื่อเพิ่มปริมาณการขนส่งเชิงพาณิชย์ รองรับทางคู่ กำลังรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อชี้แจงสำนักงบประมาณ และกระทรวงการคลัง เพื่อเสนอกระทรวงคมนาคมต่อไป

นายวีริศ กล่าวว่า ที่ผ่านมา รฟท. ยังมีรายได้จากการให้เช่าที่กว่า 3,987.19 ล้านบาท แต่ในอนาคตหลังจากโอนที่ทั้งหมดให้กับบริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด บริษัทลูกของ รฟท. แล้ว เชื่อว่าจะพัฒนา และสร้างรายได้ให้กับ รฟท. เพิ่มขึ้นอีก ส่วนบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ที่ให้บริการรถไฟชานเมืองสายสีแดง 2 เส้นทางสายเหนือ ระหว่างสถานีบางซื่อ-สถานีรังสิต 10 สถานี และสายใต้ สถานีบางซื่อ-สถานีตลิ่งชัน 3 สถานี นโยบายอัตราค่าโดยสารสูงสุด 20 บาท ทำให้ปริมาณผู้โดยสารเพิ่มขึ้นจำนวนมาก ช่วงปี 2567 มีผู้โดยสารกว่า 10,602,478 คนต่อปี


SRT Aims to Launch Northern and Northeastern Double-Track Lines by New Year

Source - Thai Post Website
Monday, November 25, 2024, 16:08


The State Railway of Thailand (SRT) plans to open the last two sections of its Phase 1 double-track railway project as a New Year's gift. These sections are the Lopburi-Pak Nam Pho line in the north and the Mab Krabeau-Jira Junction line in the northeast. The SRT also intends to purchase 113 diesel-electric locomotives to boost freight transport.

On November 25, 2024, Mr. Wirith Amrapal, Governor of the SRT, made this announcement after welcoming the Senate Transportation Committee, led by Mr. Wuttichai Kalayanamitr. The committee visited the SRT to discuss the 2024 performance, 2025 operational plans, and progress on key SRT projects.

Currently, the SRT operates 220 passenger trains daily, divided into 146 social service trains and 74 commercial trains. In 2024, approximately 30,870,000 passengers used the service, generating over 3.9213 billion baht in revenue. Freight services operate 62 trains daily, with an increase in transport volume to 12,800,000 tons and revenue exceeding 2.1226 billion baht in 2024.

Regarding key projects, the SRT is accelerating infrastructure development to meet planned schedules, particularly the Phase 1 double-track railway project. Five out of seven routes are already operational:

1. Chachoengsao Junction-Khlong Sip Kao-Kaeng Khoi
2. Thanon Jira Junction-Khon Kaen
3. Nakhon Pathom-Hua Hin
4. Hua Hin-Prachuap Khiri Khan
5. Prachuap Khiri Khan-Chumphon

The remaining two routes are:

1. Lopburi-Pak Nam Pho, scheduled to open during the 2025 New Year holidays as a gift to the public.
2. Mab Krabeau-Thanon Jira Junction, nearing completion and expected to open in early 2025.

Construction is underway for two new railway lines:

1. Den Chai-Chiang Rai-Chiang Khong
2. Ban Phai-Mahasarakham-Roi Et-Mukdahan-Nakhon Phanom

These lines cover a total distance of 677 km. The Thai-Chinese high-speed railway project (Bangkok-Nakhon Ratchasima-Nong Khai), with a total distance of 609 km, is also being expedited. The first phase (Bangkok-Nakhon Ratchasima), covering 250.77 km, is expected to be operational by 2028.

To enhance its rolling stock, the SRT is pushing forward with the procurement of 113 diesel-electric locomotives and spare parts. This aims to increase the efficiency of freight services, support upcoming double-track lines, and achieve fuel savings of approximately 10-30%. The SRT is also procuring 17 battery-powered shunting locomotives to replace 60-year-old units, and 184 hybrid DEMU trains to increase commercial transport capacity on the double-track lines. Information is being gathered to present to the Budget Bureau and the Ministry of Finance for further submission to the Ministry of Transport.

Mr. Wirith added that the SRT currently earns over 3.98719 billion baht from land rental. However, after transferring all land to SRT Asset Co., Ltd., a subsidiary of the SRT, he believes this will generate even more revenue. The SRT Electrified Train Co., Ltd., which operates the Red Line commuter train service with two routes (Bang Sue-Rangsit with 10 stations and Bang Sue-Taling Chan with 3 stations), has seen a significant increase in passengers due to its maximum fare policy of 20 baht. In 2024, the Red Line served over 10,602,478 passengers.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44162
Location: NECTEC

PostPosted: 25/11/2024 9:17 pm    Post subject: Reply with quote

เปิดใช้ปีใหม่ 68! รถไฟทางคู่สายเหนือ "ลพบุรี-ปากน้ำโพ" "วีริศ" เตรียมซื้อรถจักรดีเซลไฟฟ้า 113 คันหวังเพิ่มขนส่งสินค้า
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันจันทร์ ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 เวลา 10:28 น.
ปรับปรุง: วันจันทร์ ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 เวลา 11:20 น.
• รฟท.เตรียมซื้อรถจักรดีเซลไฟฟ้า 113 คัน รองรับการขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้นหลังทางคู่แล้วเสร็จ
• รฟท.เตรียมเปิดใช้ทางคู่ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568


รฟท.หารือ กมธ.คมนาคม วุฒิสภา เช็กรายได้โดยสาร-สินค้าเพิ่มขึ้น "วีริศ" เผยเตรียมซื้อรถจักรดีเซลไฟฟ้า 113 คันรองรับขนส่งสินค้าหลังทางคู่เสร็จ เตรียมเปิดใช้ "ทางคู่" ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ เทศกาลปีใหม่ 68 นี้

เมื่อวันที่ 22 พ.ย. 2567 นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ประธานคณะกรรมาธิการการคมนาคม วุฒิสภา พร้อมด้วยคณะกรรมาธิการการคมนาคม วุฒิสภา เดินทางไปยังการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับผลการดำเนินงานในปี 2567 แนวทางการดำเนินงานของการรถไฟฯ ในปีงบประมาณ 2568 และความคืบหน้าการดำเนินโครงการสำคัญที่อยู่ในความรับผิดชอบของการรถไฟฯ โดยนายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย ให้การต้อนรับ

นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า คณะกรรมาธิการการคมนาคม วุฒิสภา และการรถไฟฯ ได้มีการหารือและพิจารณาแนวทางการพัฒนาการดำเนินงานในทุกมิติ ทั้งในด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการผู้โดยสารและการขนส่งสินค้า รวมถึงการยกระดับระบบรางของไทยให้ตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้บริการ มุ่งเน้นการสร้างรายได้และความยั่งยืนให้แก่การรถไฟฯ ซึ่งสอดรับกับพันธกิจสำหรับการฟื้นฟูของการรถไฟฯ ที่ต้องการสร้างรายได้และการเติบโตทางเศรษฐกิจ พัฒนาระบบการขนส่งให้มีประสิทธิภาพ ลดต้นทุนการขนส่งของประเทศ ผ่านโครงข่ายคมนาคมที่ครอบคลุม เข้าถึงได้ และราคาที่เป็นธรรม


ปัจจุบันการรถไฟฯ ให้บริการขบวนรถโดยสารแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ขบวนรถโดยสารเชิงสังคม จำนวน 146 ขบวน/วัน และเชิงพาณิชย์ จำนวน 74 ขบวน/วัน รวมทั้งสิ้น 220 ขบวน/วัน ซึ่งมีปริมาณการขนส่งผู้โดยสารในปี 2567 ประมาณ 30,870,000 คน นับเป็นรายได้กว่า 3,921.30 ล้านบาท นอกจากนี้ การรถไฟฯ ยังสามารถให้บริการขนส่งสินค้า จำนวน 62 ขบวน/วัน โดยในปี 2567 มีปริมาณการขนส่งเพิ่มขึ้นจากเดิม 12,8000,000 ตัน นับเป็นรายได้กว่า 2,122.60 ล้านบาท


สำหรับการดำเนินโครงการสำคัญที่อยู่ในความรับผิดชอบของการรถไฟฯ นั้น ด้านโครงสร้างพื้นฐาน การรถไฟฯ เร่งรัดดำเนินการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้แล้วเสร็จตามแผนงาน ปัจจุบันมีความก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะเร่งด่วน จำนวน 7 เส้นทาง ที่เปิดให้บริการไปแล้ว 5 เส้นทาง ประกอบด้วย
1. ช่วงชุมทางฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย
2. ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น
3. ช่วงนครปฐม-หัวหิน
4. ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ และ
5. ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร

ส่วนอีก 2 เส้นทาง ได้แก่
1. ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ เตรียมเปิดให้บริการช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 เพื่อมอบเป็นของขวัญให้แก่พี่น้องประชาชน และ
2. ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ขณะนี้ดำเนินการใกล้แล้วเสร็จ คาดว่าจะสามารถเปิดใช้งานได้ในช่วงต้นปี 2568

ส่วนโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายใหม่ 2 เส้นทาง รวมระยะทาง 677 กม. ที่ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างโครงการ ได้แก่
1. เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 323.1 กม. และ
2. บ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม ระยะทาง 354.78 กม.
รวมถึงโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน (กรุงเทพฯ-นครราชสีมา-หนองคาย) รวมระยะทาง 609 กม. ซึ่งอยู่ระหว่างเร่งรัดก่อสร้าง ระยะที่ 1 (กรุงเทพฯ-นครราชสีมา) ระยะทาง 250.77 กม. คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ภายในปี 2571


“การรถไฟฯ จะนำข้อเสนอแนะจากการหารือครั้งนี้ไปขับเคลื่อนภารกิจต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนในทุกมิติ ทั้งภาคการขนส่งผู้โดยสาร และการขนส่งสินค้า เพราะระบบรางเป็นหนึ่งในโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของประเทศ ที่เปรียบเสมือนกระดูกสันหลังใหญ่ของภาคเศรษฐกิจ การรถไฟฯ พร้อมก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางด้านคมนาคมของภูมิภาค สอดรับกับนโยบาย “คมนาคมเพื่อโอกาสประเทศไทย” ที่มุ่งสร้างโอกาสและความยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจและสังคมไทยในอนาคต” นายวีริศกล่าว


ขณะที่ด้านรถจักรและล้อเลื่อน การรถไฟฯ เร่งผลักดันโครงการจัดซื้อรถจักรดีเซลไฟฟ้าพร้อมอะไหล่ จำนวน 113 คัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการขนส่งสินค้า และรองรับโครงการรถไฟทางคู่ที่จะทยอยเปิดใช้งานในอนาคต สามารถประหยัดพลังงานได้ประมาณ 10-30% รวมถึงการจัดหารถจักรสับเปลี่ยนที่ใช้แบตเตอรี่ จำนวน 17 คัน ทดแทนรถจักรสับเปลี่ยนเดิมที่มีสภาพการใช้งานกว่า 60 ปี รวมทั้งการจัดหารถดีเซลราง (Hybrid DEMU) จำนวน 184 คัน เพื่อเพิ่มปริมาณการขนส่งเชิงพาณิชย์ รองรับทางคู่ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อชี้แจงสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) สำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง เพื่อเสนอต่อกระทรวงคมนาคมต่อไป

ที่ผ่านมาการรถไฟฯ ยังมีรายได้จากการให้เช่าที่กว่า 3,987.19 ล้านบาท แต่ในอนาคตหลังจากโอนที่ทั้งหมดให้กับบริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด (SRTA) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของการรถไฟฯ แล้ว เชื่อว่าจะสามารถพัฒนาและสร้างรายได้ให้กับการรถไฟฯ เพิ่มขึ้นอีก ส่วนบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ที่ให้บริการรถไฟชานเมืองสายสีแดง 2 เส้นทาง ได้แก่ สายเหนือ ระหว่างสถานีบางซื่อ-สถานีรังสิต จำนวน 10 สถานี และสายใต้ ระหว่างสถานีบางซื่อ‐สถานีตลิ่งชัน จำนวน 3 สถานี ปัจจุบันจากนโยบายอัตราค่าโดยสารสูงสุด 20 บาท ทำให้มีปริมาณผู้โดยสารเพิ่มขึ้นจำนวนมาก โดยในช่วงปี 2567 มีปริมาณผู้โดยสารกว่า 10,602,478 คนต่อปี

Mongwin wrote:


รฟท.ปักหมุดปีใหม่เปิดใช้ทางคู่สายเหนือ-อีสาน
Source - เว็บไซต์ไทยโพสต์
วันจันทร์ ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 เวลา 16:08 น.

รฟท. กางแผนเปิดบริการรถไฟทางคู่เฟส 1 ใน 2 เส้นสุดท้ายสายเหนือ ‘ลพบุรี-ปากน้ำโพ’ และสายอีสาน ‘มาบกะเบา-ชุมทางจิระ’ เป็นของขวัญปีใหม่ เตรียมซื้อรถจักรดีเซลไฟฟ้า 113 คันหวังเพิ่มขนส่งสินค้า

Wisarut wrote:
สร้างเสร็จ 100% ทางคู่สายเหนือ “ลพบุรี-ปากน้ำโพ”
*ส่งมอบงานแล้วแต่ต้องเลื่อนเปิดบริการไปต้นปีหน้า
*รอระบบสัญญาณ+ความชัดเจนขบวนสถานีลพบุรี 2


ทางคู่ “ลพบุรี-ปากน้ำโพ” สร้างเสร็จ 100% เร่งติดตั้งอาณัติสัญญาณ เลื่อนเปิดบริการต้นปีหน้า
ข่าวนวัตกรรมขนส่ง
วันจันทร์ ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 เวลา 08:33 น.

ปิดจ็อบทางคู่ สายเหนือ “ลพบุรี-ปากน้ำโพ” สร้างเสร็จ 100% เร่งติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณ เลื่อนเปิดเดินรถไฟทางคู่จากปลายปี 67 เป็นต้นปี 68 รอฟังเสียงสะท้อนชาวบ้านใช้สถานีลพบุรีใหม่
https://www.dailynews.co.th/news/4115485/?
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/1113155723594994

Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 47679
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 26/11/2024 6:02 am    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
เปิดใช้ปีใหม่ 68! รถไฟทางคู่สายเหนือ "ลพบุรี-ปากน้ำโพ" "วีริศ" เตรียมซื้อรถจักรดีเซลไฟฟ้า 113 คันหวังเพิ่มขนส่งสินค้า
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันจันทร์ ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 เวลา 10:28 น.
ปรับปรุง: วันจันทร์ ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 เวลา 11:20 น.
• รฟท.เตรียมซื้อรถจักรดีเซลไฟฟ้า 113 คัน รองรับการขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้นหลังทางคู่แล้วเสร็จ
• รฟท.เตรียมเปิดใช้ทางคู่ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568

ทางคู่สายเหนือ-อีสานมาแต่รางรถใหม่ไม่มา
Source - เดลินิวส์
Tuesday, November 26, 2024 05:21

นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยหลังต้อนรับ คณะกรรมาธิการการคมนาคม วุฒิสภา นำโดยนายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ประธานคณะกรรมาธิการฯ มาเยี่ยมเยือน รฟท. ว่า ให้บริการขบวนรถโดยสาร 2 ประเภท ขบวนรถโดยสารเชิงสังคม 146 ขบวน/วัน และเชิงพาณิชย์ 74 ขบวน/วัน รวม 220 ขบวน/วัน มีปริมาณผู้โดยสารปี 67 ประมาณ 30,870,000 คน เป็นรายได้กว่า 3,921.30 ล้านบาท ให้บริการขนส่งสินค้า 62 ขบวน/วัน ในปี 67 มีปริมาณขนส่งเพิ่มขึ้นจากเดิม 12,8000,000 ตัน รายได้กว่า 2,122.60 ล้านบาท โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะเร่งด่วน (เฟส 1) 7 เส้นทาง เปิดบริการแล้ว 5 เส้นทาง 1.ช่วงชุมทางฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย 2.ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น 3.ช่วงนครปฐม-หัวหิน 4.ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ และ 5.ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ส่วนอีก 2 เส้นทาง 1.ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ เตรียมเปิดบริการช่วงเทศกาลปีใหม่ 68 มอบเป็นของขวัญประชาชน และ 2.ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ใกล้เสร็จคาดว่าจะเปิดใช้งานต้นปี 68

ส่วนโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายใหม่ 2 เส้นทาง 1. เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ และ 2. บ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม รวมระยะทาง 677 กม.อยู่ระหว่างก่อสร้าง รวมถึงโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน (กรุงเทพฯ-นครราชสีมา-หนองคาย) รวมระยะทาง 609 กม. อยู่ระหว่างเร่งรัดระยะที่ 1 (กรุงเทพฯ-นครราชสีมา) ระยะทาง 250.77 กม. คาดว่าจะเปิดบริการได้ตามแผนภายในปี 71 ด้านรถจักรและล้อเลื่อน รฟท. เร่งผลักดันโครงการจัดซื้อรถจักรดีเซลไฟฟ้าพร้อมอะไหล่ 113 คัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้บริการขนส่งสินค้า และรองรับโครงการรถไฟทางคู่ที่จะทยอยเปิดใช้งานในอนาคต สามารถประหยัดพลังงานได้ประมาณ 10-30% รวมถึงจัดหารถจักรสับเปลี่ยนที่ใช้แบตเตอรี่ 17 คัน ทดแทนรถจักร สับเปลี่ยนเดิมที่มีสภาพการใช้งานกว่า 60 ปี รวม ทั้งจัดหารถดีเซลราง (Hybrid DEMU) 184 คัน เพื่อเพิ่มปริมาณการขนส่งเชิงพาณิชย์ รองรับทางคู่ กำลังรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติม ชี้แจงสำนักงบประมาณ และกระทรวงการคลัง เพื่อเสนอกระทรวงคมนาคมต่อไป.

ที่มา: นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 26 พ.ย. 2567
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44162
Location: NECTEC

PostPosted: 26/11/2024 8:30 am    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
Wisarut wrote:
เปิดใช้ปีใหม่ 68! รถไฟทางคู่สายเหนือ "ลพบุรี-ปากน้ำโพ" "วีริศ" เตรียมซื้อรถจักรดีเซลไฟฟ้า 113 คันหวังเพิ่มขนส่งสินค้า
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันจันทร์ ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 เวลา 10:28 น.
ปรับปรุง: วันจันทร์ ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 เวลา 11:20 น.
• รฟท.เตรียมซื้อรถจักรดีเซลไฟฟ้า 113 คัน รองรับการขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้นหลังทางคู่แล้วเสร็จ
• รฟท.เตรียมเปิดใช้ทางคู่ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568

ทางคู่สายเหนือ-อีสานมาแต่รางรถใหม่ไม่มา
Source - เดลินิวส์
วันอังคาร ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 เวลา 05:21 น.

ที่มา: นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันอังคาร ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567


ลิงก์มาแล้วครับ

ของขวัญปีใหม่เปิดทางคู่2เส้นเหนือ “ลพบุรี-ปากน้ำโพ”กับอีสาน “มาบกะเบา-จิระ”แต่หารถใหม่ๆยังอืด
ข่าวนวัตกรรมขนส่ง
วันจันทร์ ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 เวลา 13:15 น.


รฟท. พร้อมเปิดบริการรถไฟทางคู่เฟส 1 ใน 2 เส้นสุดท้ายสายเหนือ “ลพบุรี-ปากน้ำโพ” และสายอีสาน “มาบกะเบา-ชุมทางจิระ” เป็นของขวัญปีใหม่ จัดหารถจักร-รถโดยสารใหม่ๆ ยังทำข้อมูลเพิ่มเติมแจงสำนักงบประมาณและกระทรวงการคลัง https://www.dailynews.co.th/news/4116973/
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44162
Location: NECTEC

PostPosted: 26/11/2024 10:24 am    Post subject: Reply with quote

3 ธ.ค. เปิด”อุโมงค์ผาเสด็จ”เร่งรีเช็กคุณภาพอากาศถ้าผ่านมาตรฐานจะให้ทุกขบวนลอด100%
ข่าวนวัตกรรมขนส่ง
วันอังคาร ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 เวลา 9:56 น.

3ธ.ค. เปิดใช้"อุโมงค์ผาเสด็จ" การรถไฟฯร่วมกับกรมควบคุมมลพิศเร่งรีเช็กคุณภาพอากาศ เตรียมความพร้อมทุกด้าน ถ้าผ่านเกณฑ์มาตรฐานจะให้ทุกขบวนลอดอุโมงค์100%
“ทีมข่าวนวัตกรรมขนส่งเดลินิวส์”  รายงานว่า  ปลายเดือน พ.ย.67 นี้คาดว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) จะยังไม่สามารถเปิดใช้อุโมงค์ผาเสด็จ  ในโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ สายตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ตามที่รฟท.ระบุไว้ก่อนหน้านี้ได้ เนื่องจากยังอยู่ระหว่างตรวจวัดเกณฑ์มาตรฐานค่าฝุ่นละออง และค่ามลพิษภายในอุโมงค์ ของกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และบริษัทเอกชน ผู้ให้บริการตรวจวัดคุณภาพอากาศในปล่องระบายอากาศ เพื่อสร้างความมั่นใจ และสร้างความปลอดภัยในการให้บริการแก่ผู้โดยสารอย่างแท้จริง เบื้องต้นรฟท. ปรับแผนใหม่เพื่อเปิดใช้งานอุโมงค์ผาเสด็จตั้งแต่วันที่ 3 ธ.ค.67


ระหว่างวันที่ 25 พ.ย.-2 ธ.ค.67 รฟท., กรมควบคุมมลพิษ และบริษัทเอกชน ผู้ให้บริการตรวจวัดคุณภาพอากาศฯ จะร่วมกันตรวจสอบค่าฝุ่นละออง และค่ามลพิษ ภายในอุโมงค์อีกครั้ง โดยจะตรวจสอบคุณภาพอากาศ ควัน และกลิ่นภายในอุโมงค์ ทั้งก่อนนำรถเข้าอุโมงค์ และหลังนำรถเข้าวิ่งผ่านอุโมงค์ 

นอกจากนี้ผู้เกี่ยวข้องจะซักซ้อมการทดสอบเรื่องคลื่นสัญญาณวิทยุในการติดต่อสื่อสารระหว่างขบวนรถเข้าในอุโมงค์ กับสถานีมาบกะเบา และสถานีมวกเหล็ก รวมถึงศูนย์ควบคุมด้วย   ในส่วนของการแก้ไขประแจ ซึ่งเป็นจุดที่สับรางรถไฟให้เกิดการเปลี่ยนทิศทาง ทั้ง 2 ข้าง เพื่อให้การเดินรถเกิดความปลอดภัยนั้น   รฟท. ดำเนินการเสร็จแล้ว ฝ่ายการอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม รฟท. อยู่ระหว่างส่งมอบประแจให้ฝ่ายปฏิบัติการเดินรถ เพื่อประกาศเปิดใช้ประแจ สำหรับเดินรถไฟในรูปแบบทางคู่ผ่านอุโมงค์ผาเสด็จต่อไป

 ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 3 ธ.ค.67 ขบวนรถทั้งปรับอากาศ และรถพัดลม จะเข้ามาเดินรถผ่านภายในอุโมงค์ผาเสด็จทุกขบวน เริ่มตั้งแต่ขบวนรถด่วนที่ 72 (อุบลราชธานี-กรุงเทพอภิวัฒน์) วิ่งเข้าอุโมงค์เป็นขบวนแรกสำหรับเที่ยวล่อง และขบวนรถด่วนที่ 71 (กรุงเทพอภิวัฒน์-อุบลราชธานี) วิ่งเข้าอุโมงค์เป็นขบวนแรกสำหรับเที่ยวขึ้น

 สำหรับอุโมงค์ผาเสด็จ เป็นอุโมงค์ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย มีระยะทาง 5.4 กม.รฟท. เปิดให้ขบวนรถเข้าใช้บริการเมื่อวันที่ 28 ก.ค.67 เป็นวันแรก แต่เมื่อขบวนรถไฟวิ่งเข้าอุโมงค์ กลับมีฝุ่นตลบเข้าห้องโดยสารพัดลมชั้น 3 เกาะติดตามเนื้อตัวและสัมภาระผู้โดยสาร จากนั้นได้ทำความสะอาดอุโมงค์ และมีแผนเปิดบริการในวันที่ 12 ส.ค.67 แต่ไม่สามารถเปิดได้ เนื่องจากยังพบว่า ค่าฝุ่น และค่ามลพิษ เกินมาตรฐาน จะส่งผลกระทบต่อผู้โดยสารได้ อาทิ แสบตาและระคายคอ


นอกจากนี้ยังพบว่าประแจทั้ง 2 ข้าง ยังไม่เรียบร้อยดี เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย จึงต้องเร่งแก้ไขให้เรียบร้อย เพื่อให้กลับมาเดินรถเข้าอุโมงค์ได้อีกครั้งในเดือน ก.ย.67 แต่จนปัจจุบันก็ยังไม่สามารถใช้งานอุโมงค์ได้... สามารถติดตามต่อได้ที่ : https://www.dailynews.co.th/news/4119513/
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 47679
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 27/11/2024 11:09 am    Post subject: Reply with quote

โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ
27 พ.ย. 67 10:12 น.

อัพเดตความก้าวหน้าโครงการ เดือนตุลาคม พ.ศ. 2567
สัญญาที่ 1 ช่วงบ้านกลับ-โคกกะเทียม (ทางรถไฟยกระดับ)
*ก่อสร้างแล้วเสร็จ*
ความก้าวหน้าสะสม = 100%
แผนงานสะสม = 100%

สัญญาที่ 2 ช่วงท่าแค-ปากน้ำโพ
*ก่อสร้างแล้วเสร็จ*
ความก้าวหน้าสะสม = 100%
แผนงานสะสม = 100%

สัญญาที่ 3 งานระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม (ST8)
ความก้าวหน้าสะสม = 54.88%
แผนงานสะสม = 100%
ช้ากว่าแผนงาน = -45.12%


October 2024 Construction Progress Update

Contract 1: Ban Klap - Khok Krathiam Section (Elevated Railway)

Construction Complete
Overall Progress = 100%
Planned Progress = 100%

Contract 2: Tha Khae - Pak Nam Pho Section

Construction Complete
Overall Progress = 100%
Planned Progress = 100%

Contract 3: Signaling and Telecommunications System Works (ST8)

Overall Progress = 54.88%
Planned Progress = 100%
Behind Schedule = -45.12%

https://www.facebook.com/lopburipaknampho/posts/952983106747090


https://www.youtube.com/watch?v=z17JYp3n6rk
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 47679
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 28/11/2024 4:54 pm    Post subject: Reply with quote

“คมนาคม”ลุ้มครม.เคาะ 5 โปรเจ็กต์1.09 แสนล้านส่งท้ายปี 67 มอเตอร์เวย์”บางขุนเทียน-บางบัวทอง,ขยายโทลล์เวย์,สายสีแดง
Source - ผู้จัดการออนไลน์
Thursday, November 28, 2024 12:27

“คมนาคม”ลุ้นครม.โค้งสุดท้ายปลายปี ธ.ค. 67 นี้ ดัน 4 โปรเจ็กต์ 1.09 แสนล้านบาท จ่อคิวอนุมัติลงทุน”มอเตอร์เวย์”บางขุนเทียน-บางบัวทอง, ต่อขยายโทลล์เวย์,สีแดง มธ.รังสิต ส่วนต้นปี 68 ชงอีก 9 โครงการ”ทางด่วน -มอเตอร์เวย์-รถไฟทางคู่ -ไฮสปีดเฟส 2 “ต่อเนื่อง

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและติดตามผลการดำเนินโครงการสำคัญตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ครั้งที่ 4/2567 เมื่อวันที่ 26 พ.ย. 2567 ได้มีการติดตามโครงการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของกระทรวงคมนาคม ที่เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งขณะนี้มีโครงการที่ผ่านการพิจารณาความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและอยู่ระหว่างรอบรรจุวาระการประชุมครม. แล้ว จำนวน 5 โครงการ ซึ่งคาดว่าจะได้รับการอนุมัติจากครม.ภายในเดือนธ.ค. 2567

ได้แก่ โครงการทางบก 2 โครงการ ได้แก่ โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 9 สายถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร (ด้านตะวันตก) หรือ M9 ตอน ทางยกระดับบางขุนเทียน-บางบัวทอง ระยะทาง 35.85 กม. วงเงินลงทุน 56,035 ล้านบาท ใช้รูปแบบการลงทุน PPP Net Cost ที่เอกชนลงทุนงานโยธาด้วยเป็นเส้นทางแรก

โครงการโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) ส่วนต่อขยายดอนเมืองโทลล์เวย์ (M5) สายรังสิต-บางปะอิน ระยะทาง 22 กม.วงเงินลงทุน 31,358 ล้านบาท โดยจะดำเนินการในรูปแบบ PPP Gross Cost โดยเอกชนลงทุนในส่วนก่อสร้างงานโยธาและงาน O&M ทั้งหมด ซึ่งก่อนหน้านี้ กระทรวงคมนาคมได้เคยดึงเรื่องกลับมาเพื่อพิจารณาแนวทางการดำเนินโครงการและรูปแบบการลงทุนที่มีความเหมาะสมกับสภาพปัจจุบัน เช่น ให้กรมทางหลวง (ทล.) ดำเนินการลงทุนก่อสร้างเองได้ แต่พบว่า รูปแบบ PPP Gross Cost เหมาะสมที่สุด จึงเสนอไปครม.อีกครั้ง


ทางราง 2 โครงการได้แก่ โครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดงเข้ม ช่วง รังสิต - มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ระยะทาง 8.84 กม. วงเงินลงทุน 6,473.98 ล้านบาท เสนอครม.เพื่อขอทบทวนมติครม.และปรับกรอบวงเงิน

และเสนอ ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม พ.ศ. ...ของสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ซึ่งคาดว่าจะได้รับการบรรจุวาระในวันที่ 3 ธ.ค. 2567

ทางอากาศ 1 โครงการ คือ โครงการให้บริการคลังสินค้า ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ของผู้ประกอบการรายที่ 2 ของ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.ซึ่งจะเปิดให้เอกชนร่วมลงทุนโครงการในรูปแบบ PPP Net Cost มูลค่าของโครงการรวม 15,253 ล้านบาท โดยโครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่มีการดำเนินการอยู่เดิม ซึ่งเอกชนจะรับผิดชอบการจัดหาเงินทุน การออกแบบและก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างของโครงการ พร้อมทั้งการจัดหาเครื่องจักรและอุปกรณ์สำหรับการให้บริการ ตลอดจนรับผิดชอบในการดูแล บำรุงรักษา และบูรณะสิ่งปลูกสร้างโครงการ รวมถึงการบริหารจัดการโครงการ

ส่วนเรื่องสำคัญอื่น ๆ ที่กระทรวงคมนาคม เสนอสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแล้ว อยู่ระหว่างกระบวนการนำเสนอ ครม. ขออนุมัติหลักเกณฑ์การคำนวณเงินชดเชยค่างานก่อสร้าง K (Price Adjustment) เพื่อขอยกเว้นการปฏิบัติตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2532 เป็นกรณีพิเศษเฉพาะสำหรับโครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ - รังสิต เฉพาะในส่วนของงานโยธาของสัญญาที่ 1 และสัญญาที่ 2 พร้อมทั้งขออนุมัติกรอบวงเงินเพิ่มเติมสำหรับงานเวนคืนที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงมาบกะเบา - ชุมทางถนนจิระ


@ต้นปี 68 ชงอีก 9 โครงการ”ทางด่วน -มอเตอร์เวย์-รถไฟทางคู่ -ไฮสปีดเฟส 2 “

นอกจากนี้ ยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการ ในขั้นตอนขอความเห็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงการคลัง สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ก่อนนำเสนอครม. ซึ่งคาดว่าจะเสนอครม.ได้ในต้นปี 2568 ได้แก่

1. โครงการทางพิเศษสายฉลองรัช-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ด้านตะวันออก ของ กทพ.หรือ ตอน N2 เดิม ระยะทาง 11.3 กม. มูลค่าลงทุน 16,960 ล้านบาท สถานะล่าสุดสำนักงบประมาณเสนอความเห็นแล้ว รอความเห็นจากกระทรวงการคลัง และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.),

2 มอเตอร์เวย์ วงแหวนรอบนอก กทม. ช่วงบางบัวทอง -บางปะอิน (M9) ระยะทาง 35 กิโลเมตร มูลค่าโครงการ 16,986 ล้านบาท

3. โครงการทางพิเศษ จ.ภูเก็ต ระยะที่ 1 ช่วงกะทู้ –ป่าตอง ของ กทพ.ภูเก็ต หรือโครงการอุโมงค์ป่าตอง ระยะทาง 3.98 กม.มูลค่าประมาณ 16,190 ล้านบาท

4. โครงการเช่ารถโดยสารประจาทางปรับอากาศพลังงานสะอาด (EV) ของ ขสมก.

5. การขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีและขออนุมัติรวมโครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงตลิ่งชัน -ศาลายา และสถานีเพิ่มเติม 3 สถานี (สถานีสะพานพระราม 6 สถานีบางกรวย -กฟผ. และสถานีบ้านฉิมพลี) และโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดงอ่อน ช่วงตลิ่งชัน -ศิริราช เข้าด้วยกัน เพื่อดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างให้เป็นสัญญาเดียว ระยะทางรวม 20.5 กม. วงเงินโครงการ 15,176.21 ล้านบาท

6. ขออนุมัติดำเนินโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพมหานคร -หนองคาย (ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา -หนองคาย) ระยะทาง 357 กม. มูลค่า 341,351.42 ล้านบาท

7. โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะ 2 จำนวน 6 เส้นทาง วงเงินลงทุน 245,535 แสนล้านบาท

8. ขออนุมัติจัดหารถโบกี้บรรทุกตู้สินค้า (บทต.) โดยกาหนดให้นำชิ้นส่วนภายในประเทศและต่างประเทศมาประกอบภายในประเทศจำนวน 946 คัน วงเงิน 2,450 ล้านบาท

9.โครงการพัฒนาและบริหารจัดการที่พักริมทางในเขตทางพิเศษบริเวณบางโปรง ของ กทพ.ซึ่งขณะนี้ สนข.อยู่ระหว่างวิเคราะห์เรื่องเสนอโครงการ


Transport Ministry Pushes for Cabinet Approval of 5 Projects Worth 109 Billion Baht by End of 2024: Motorway, Tollway Extension, and Red Line

Source - Manager Online
Thursday, November 28, 2024 12:27

The Ministry of Transport is hoping the Cabinet will approve four projects worth 109 billion baht by the end of December 2024. These include the Bang Khun Thian-Bang Bua Thong motorway, tollway extensions, and the Red Line to Thammasat University Rangsit Campus. In early 2025, nine more projects will be proposed, including expressways, motorways, double-track railways, and the second phase of the high-speed rail.

Deputy Prime Minister and Minister of Transport, Mr. Suriya Jungrungreangkit, revealed that during the 4th meeting of the Committee for Driving and Monitoring the Implementation of Key Projects according to the Policies of the Minister of Transport and the Deputy Minister of Transport on November 26, 2024, infrastructure investment projects were reviewed. Five projects have passed the relevant agencies' considerations and are awaiting Cabinet approval, expected within December 2024.

These include:

Land Transport (2 projects):

1. Intercity Motorway No. 9 (M9), Bangkok Outer Ring Road (West) Section, Bang Khun Thian-Bang Bua Thong Elevated Road: 35.85 km, with an investment of 56.035 billion baht. This will be the first project to use the PPP Net Cost investment model where the private sector invests in civil works.

2. Intercity Motorway Extension (M5), Don Mueang Tollway, Rangsit-Bang Pa-in Section: 22 km, with an investment of 31.358 billion baht. This will be implemented under the PPP Gross Cost model, with the private sector investing in all civil construction and O&M. The Ministry of Transport had previously reconsidered the project and investment model but found the PPP Gross Cost to be the most suitable.

Rail Transport (2 projects):

1. Red Line Commuter Train System, Rangsit-Thammasat University Rangsit Center Section: 8.84 km, with an investment of 6.47398 billion baht. This will be submitted to the Cabinet to review the previous Cabinet resolution and adjust the budget.

2. Draft Act on Joint Ticket Management System: Proposed by the Office of Transport and Traffic Policy and Planning (OTP), it is expected to be on the Cabinet agenda on December 3, 2024.

Air Transport (1 project):

1. Warehouse Service at Suvarnabhumi Airport for the 2nd Operator: Airports of Thailand Public Company Limited (AOT) will open this project for private sector participation under the PPP Net Cost model with a total project value of 15.253 billion baht. The private sector will be responsible for financing, design, construction, machinery and equipment procurement, maintenance, and project management.

Other important issues:

* The Ministry of Transport has submitted a request to the Office of the Cabinet Secretariat to approve the criteria for calculating K Price Adjustment compensation for construction work. This seeks an exemption from the Cabinet resolution of August 22, 1989, specifically for the Red Line Commuter Train System (Bang Sue-Rangsit section) for civil works under contracts 1 and 2. It also requests approval for an additional budget for land and property expropriation for the Maeb Kabao-Thanon Chira Junction double-track railway construction project.

9 More Projects to be Proposed in Early 2025:

These include:

1. Chalong Rat Expressway - Bangkok Outer Ring Road (East) Section (formerly N2), 11.3 km, with an investment value of 16.960 billion baht.
2. Bangkok Outer Ring Road Motorway, Bang Bua Thong-Bang Pa-in Section (M9), 35 km, with a project value of 16.986 billion baht.
3. Phuket Expressway Project Phase 1, Kathu-Patong Section (Patong Tunnel Project), 3.98 km, with a value of approximately 16.190 billion baht.
4. Electric Bus Rental Project by the Bangkok Mass Transit Authority (BMTA).
5. Review of the Cabinet resolution and request for approval to combine the Red Line Commuter Train System (Taling Chan-Salaya Section) with 3 additional stations (Rama VI Bridge Station, Bang Kruai-EGAT Station, and Ban Chim Phli Station) and the Light Red Line Commuter Train System (Taling Chan-Siriraj Section) into a single procurement contract, with a total distance of 20.5 km and a project value of 15.17621 billion baht.
6. Approval to proceed with the cooperation project between the Thai and Chinese governments to develop a high-speed rail linking the regions, Bangkok-Nong Khai Section (Phase 2, Nakhon Ratchasima-Nong Khai), 357 km, with a value of 341.35142 billion baht.
7. Construction of Phase 2 of the double-track railway, consisting of 6 routes, with a total investment of 245.535 billion baht.
8. Approval to procure 946 freight train bogies by assembling domestic and foreign parts within the country, with a budget of 2.450 billion baht.
9. Development and management of rest areas along the expressway in the Bang Porong area.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 408, 409, 410 ... 412, 413, 414  Next
Page 409 of 414

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©