RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:312031
ทั่วไป:13626749
ทั้งหมด:13938780
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - รวมข่าวรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคตตามนโยบายรัฐบาล
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

รวมข่าวรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคตตามนโยบายรัฐบาล
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 283, 284, 285
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 47112
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 04/12/2024 12:50 pm    Post subject: Reply with quote

“สุริยะ”นั่งหัวโต๊ะนัด 23 ธ.ค.ประชุมคจร.ในรอบเกือบ 3 ปี จ่อปรับรถไฟสีแดงแค่"วงเวียนใหญ่"ผุดทางเชื่อม“สีเหลือง-แอร์พอร์ตลิงก์
ผู้จัดการออนไลน์ 4 ธ.ค. 2567 09:08

KEY POINTS
• คณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) ประชุมครั้งแรกในรอบเกือบ 3 ปี
• นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นประธานการประชุม
• มี 11 เรื่องรอพิจารณา
• ปรับแผนรถไฟฟ้าสายสีแดงเหลือช่วงวงเวียนใหญ่-มหาชัย
• มีแผนสร้าง Sky Walk เชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีเหลือง-ARL ที่หัวหมาก และสายสีชมพู-สีแดงที่หลักสี่
• กทม. โอนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเทาและสีเงินให้ รฟม.

คจร.เตรียมประชุมในรอบเกือบ 3 ปี 23 ธ.ค. 67 “สุริยะ”นั่งหัวโต๊ะเผย 11 เรื่องรอพิจารณา ปรับแผนสร้างรถไฟสีแดงเหลือ’วงเวียนใหญ่-มหาชัย’ ผุดทางเดินเชื่อม“สีเหลือง-ARL”ที่หัวหมากและสีชมพู-สีแดงที่หลักสี่ อำนวยความสะดวกผู้โดยสาร กทม.โอนรถไฟฟ้า”สีเทา-สีเงิน”ให้รฟม.
รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า คณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) ที่มีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธาน จะมีการประชุมครั้งที่ 1/2567 ในวันที่ 23 ธันวาคม 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล ถือเป็นการประชุมครั้งแรกภายใต้รัฐบาลที่มี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ขณะที่ คจร.ไม่ได้มีการประชุมมาเกือบ 3 ปีแล้ว โดยการประชุม คจร.ครั้งล่าสุด คือเมื่อวันที่ 24 ก.พ.2565 มีพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน สมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี

ซึ่งมีระเบียบวาระที่สำคัญรายงาน เป็นเรื่องเพื่อทราบรวม 8 เรื่อง เรื่องเพื่อพิจารณาจำนวน 11 เรื่อง โดยมีประเด็นพิจารณาที่สำคัญ ได้แก่ การปรับเปลี่ยนโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง จากเดิมจากหัวลำโพง-วงเวียนใหญ่-มหาชัย เป็น วงเวียนใหญ่–มหาชัย โดยตัดช่วง หัวลำโพง-วงเวียนใหญ่ เนื่องจากติดปัญหาพื้นที่มีชุมชนหนาแน่น และจากสภาพเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลง การใช้ประโยชน์ที่ดินปรับเปลี่ยน ส่งผลให้โครงการมีมูลค่าสูงเนื่องจากต้องการเวนคืนที่ดินและอสังหาริมทรัพย์จำนวนมาก รวมถึงสะพานสำหรับข้ามแม่น้ำเจ้าพระยายังไม่ผ่านการพิจารณาการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA)

ซึ่งการปรับเปลี่ยนรถไฟสายสีแดง เป็นวงเวียนใหญ่ – มหาชัย มีแผนการเชื่อมโยงกับโครงข่ายรถไฟฟ้าสายอื่นให้มีความสะดวก ได้แก่ สถานีวงเวียนใหญ่ สามารถเชื่อมต่อที่ รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ และเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีเขียว (สายสีลม) รวมไปถึงสามารถใช้สายสีม่วงใต้ ต่อไปยังรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินได้ที่สถานีท่าพระได้อีกด้วย

ทั้งนี้ ตามผลศึกษาเดิม รถไฟสายสีแดง ช่วงวงเวียนใหญ่ - มหาชัย ระยะทาง 33.16 กิโลเมตร มูลค่าประมาณ 48,129 ล้านบาท โดยหลังคจร.เห็นชอบ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จะดำเนินทบทวนผลการศึกษาความเหมาะสมโครงการ ออกแบบรายละเอียด และกรอบวงเงินที่เหมาะสมใหม่

@รฟม.ชงผุด Sky Walk และทางเดินเชื่อม“สีเหลือง-ARL”และสีชมพู-สีแดง

นอกจากนี้ การถไฟฟ้าชนส่งมวลขนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เสนอขอความเห็นเห็นชอบการดำเนินงานก่อสร้างทางชื่อมบริเวณสถานีเชื่อมต่อ ( Interchange) โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง กับ โครงการรถไฟฟ้า แอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ที่สถานีหัวหมาก โดยจะเป็นการก่อสร้างทางเดินยกระดับ Skywalk ระยะทาง 51 เมตร และทางเดินรถดับดินมีหลังคา เชื่อมรถไฟฟ้าสายสีเหลืองรถไฟทางไกลของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ระยะทาง 150 เมตร และทางเดินระดับดิน มีหลังคา เชื่อมต่อโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี กับ รถไฟชานเมืองสายสีแดง ที่สถานีหลักสี่ ระยะทาง 57 เมตร วงเงินรวม 58.74 ล้านบาท

และขอความเห็นชอบโอนภารกิจโครงการรถไฟฟ้าลงทุนใหม่ในความรับผิดชอบของกรุงเทพมหานคร (กทม.) กลับคืนให้แก่กระทรวงคมนาคม ประกอบด้วย โครงการรถไฟฟ้าสายสีเงิน สายบางนา-ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และ โครงการรถไฟฟ้าสายสีเทา ระยะที่ 1 ช่วงวัชรพล-ทองหล่อ

และเสนอพิจารณาผลการศึกษาเปรียบเทียบทางเลือกการดำเนินงานโครงการที่เหมาะสมสำหรับดำเนินโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดเชียงใหม่ สายสีแดง ช่วงโรงพยาบาลนครพิงค์–แยกแม่เหียะสมานสามัคคี ระยะทาง 12.54 กิโลเมตร และโครงการระบบขนส่งมวลชน จังหวัดนครราชสีมา สายสีเขียว ช่วงตลาดเซฟวัน-สถานคุ้มครองแ


"Suriya" to Chair First Meeting of the Land Traffic Management Committee in Almost 3 Years on December 23rd; Red Line Train Plan Adjusted to "Wongwian Yai" with New Links to Yellow Line and Airport Rail Link

Manager Online, December 4, 2024, 09:08

**KEY POINTS**

* The Land Traffic Management Committee (LTMC) will hold its first meeting in almost 3 years.
* Mr. Suriya Jungrungreangkit will chair the meeting.
* There are 11 issues awaiting consideration.
* The Red Line electric train plan will be adjusted, running only from Wongwian Yai to Mahachai.
* There are plans to build a Sky Walk connecting the Yellow Line and ARL at Hua Mak, and the Pink Line and Red Line at Lak Si.
* Bangkok will transfer the Gray Line and Silver Line electric train projects to the Mass Rapid Transit Authority of Thailand (MRTA).

**LTMC to Meet for the First Time in Almost 3 Years on December 23rd, 2024; "Suriya" to Chair; 11 Issues Awaiting Consideration; Red Line Train Plan Adjusted to "Wongwian Yai-Mahachai"; New Walkways to Connect Yellow Line and ARL at Hua Mak, and Pink Line and Red Line at Lak Si to Facilitate Passengers; Bangkok to Transfer Gray and Silver Lines to MRTA**

According to a report from the Ministry of Transport, the Land Traffic Management Committee (LTMC), chaired by Mr. Suriya Jungrungreangkit, Deputy Prime Minister and Minister of Transport, will hold its first meeting of 2024 on December 23rd, 2024 at Government House. This marks the first meeting under the government led by Prime Minister Paetongtarn Shinawatra. The LTMC has not met for almost 3 years, with the last meeting taking place on February 24th, 2025, chaired by General Prawit Wongsuwan, Deputy Prime Minister, during the government of General Prayut Chan-o-cha.

The meeting agenda includes 8 items for acknowledgement and 11 items for consideration. Key issues include:

* **Adjusting the Red Line commuter train project:** The original plan was to run from Hua Lamphong-Wongwian Yai-Mahachai. This will be changed to Wongwian Yai-Mahachai, cutting the Hua Lamphong-Wongwian Yai section due to issues with dense communities in the area, changing economic conditions and land use, and the high cost of land expropriation and property acquisition. The bridge over the Chao Phraya River has also not yet passed the Environmental Impact Assessment (EIA).
* **Connecting the Red Line to other lines:** The adjusted Red Line (Wongwian Yai-Mahachai) will be connected to other lines for convenience, including the Purple Line South (Tao Poon-Rat Burana) at Wongwian Yai station, the Green Line (Silom Line), and the Blue Line MRT via the Purple Line South at Tha Phra station.
* **Revised study and budget:** The original study for the Red Line Wongwian Yai-Mahachai section estimated a distance of 33.16 kilometers and a cost of approximately 48.129 billion baht. After the LTMC approves the changes, the State Railway of Thailand (SRT) will review the feasibility study, detailed design, and budget.

**MRTA Proposes Skywalk and Walkways Connecting Yellow Line and ARL, and Pink Line and Red Line**

The Mass Rapid Transit Authority of Thailand (MRTA) will propose the construction of connecting walkways at interchange stations:

* **Hua Mak Station:** A 51-meter Skywalk and a 150-meter covered ground-level walkway will connect the Yellow Line (Lat Phrao-Samrong) with the Airport Rail Link and the SRT long-distance railway.
* **Lak Si Station:** A 57-meter covered ground-level walkway will connect the Pink Line (Khae Rai-Min Buri) with the Red Line commuter train. The total budget for these walkways is 58.74 million baht.

**Transfer of Gray and Silver Lines to MRTA**

The MRTA will also request approval to transfer responsibility for the following new electric train projects from the Bangkok Metropolitan Administration (BMA) back to the Ministry of Transport:

* Silver Line: Bang Na-Suvarnabhumi Airport
* Gray Line Phase 1: Watcharapol-Thonglor

Finally, the meeting will consider the results of a comparative study on the most suitable options for implementing mass transit projects in Chiang Mai (Red Line: Nakornping Hospital-Mae Hia Saman Samakkhi intersection, 12.54 kilometers) and Nakhon Ratchasima (Green Line).
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 47112
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 08/12/2024 8:02 am    Post subject: Reply with quote

(คลิปเต็ม) ยากแต่ทำได้? รถไฟฟ้า 20 บาททุกสาย! (5 ธ.ค 67) | ฟังหูไว้หู
9MCOT
Dec 6, 2024


https://www.youtube.com/watch?v=3LuT2E0uHHY
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 47112
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 09/12/2024 8:14 am    Post subject: Reply with quote

“อัตราสูญเสียเชิงรายได้”นโยบาย รถไฟฟ้า20บาทช่วง 1ปี เฉียด300ล้าน
By ปราณี หมื่นแผงวารี : Economic Scene :pranee_mue@nationgroup.com
กรุงเทพธุรกิจ 08 ธ.ค. 2024 เวลา 19:19 น.

“ค่าเดินทาง”นับเป็นค่าใช้จ่ายสำคัญของประชาชนโดยเฉพาะวัยทำงานหากรัฐสามารถลดต้นทุนค่าเดินทางให้ประชาชนได้จะเท่ากับเพิ่มขีดความสามารถของประชาชนทั้งในมุมกำลังซื้อจากส่วนต่างเงินที่เหลือหลังค่าใช้จ่ายการเดินทางลดลง
เมื่อเร็วๆนี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติ เรื่อง มาตรการอัตราค่าโดยสารสูงสุด20 บาท ตลอดสาย ตามนโยบายรัฐบาล สําหรับรถไฟชานเมือง สายสีแดง สายนครวิถี (กรุงเทพอภิวัฒน์ - ตลิ่งชัน)และสายธานีรัถยา (กรุงเทพอภิวัฒน์ - รังสิต) ของการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) และรถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง) ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) ตามที่กระทรวงคมนาคม (คค.) เสนอ

“มาตรการค่าโดยสาร สูงสุด 20 บาทตลอดสายรถไฟฟ้าทั้งสองเส้นทาง ดำเนินการมาตั้งแต่ ต.ค. 2566 เดิมที่สิ้นสุดลงในวันที่ 30 พ.ย.2567 ที่ประชุมครม.จึงเห็นควรให้ขยายเวลามาตรการดังกล่าวออกไป ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2567 จนถึงวันที่ 30 พ.ย.2568 โดยให้การรฟท. ขอรับการจัดสรรงบประมาณแผ่นดิน เพื่อชดเชยการขาดรายได้ส่วนต่างค่าโดยสารตามจริง ตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561”

อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินมาตรการฯ เปรียบเทียบกับการสูญเสียรายได้ที่เกิดขึ้นจริง พบว่า กรณีรถไฟชานเมืองสายสีแดง รายได้ค่าโดยสารที่สูญเสียเป็นการนําประมาณการ รายได้ค่าโดยสารกรณีจัดเก็บค่าโดยสารสูงสุดไม่เกิน 20 บาทจะมีรายได้ 239.47 ล้านบาท มาหักลบกับรายได้ที่จัดเก็บได้ในช่วงการดําเนินมาตรการฯ ระหว่างเดือนต.ค.2566 - ก.ย. 2567 จํานวน 210.56 ล้านบาทเท่ากับว่าสูญเสียรายได้ 28.91 ล้านบาท

ส่วนกรณีรถไฟฟ้าสายสีม่วง รายได้ค่าโดยสารที่สูญเสีย เป็นการนํารายได้ค่าโดยสาร กรณีเก็บตามอัตราจริงสูงสุด 42 บาท ในช่วงระหว่างเดือนต.ค. 2566 - ก.ย. 2567 ซึ่งควรจะมีรายได้จํานวน 588.27 ล้านบาท มาหักลบกับรายได้ที่จัดเก็บได้ในช่วงการดําเนินมาตรการฯ ระหว่างเดือนต.ค. 2566 - ก.ย. 2567 ซึ่งมีรายได้จริง 336.12 ล้านบาท เท่ากับว่ามีการสูญเสียรายได้ 252.15 ล้านบาท

ขณะที่ ประมาณการสูญเสียรายได้ กรณีขยายเวลานโยบายดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2567 ถึงวันที่ 30 พ.ย. 2568นั้น กระทรวงคมนาคม ได้จัดทําข้อมูลตามมาตรา 27 ของพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 มาเพื่อประกอบการพิจารณาของ

ครม.แล้ว โดยประมาณการว่าจะต้องขอรับการสนับสนุนงบประมาณ ให้ รฟท. และมีการสูญเสียรายได้ ของ รฟม. ดังนั้น

สำหรับรถไฟชานเมืองสายสีแดง ประมาณการค่าใช้จ่ายหรือการสูญเสียรายได้ 35.35 ล้านบาท โดยแหล่งที่มาของเงินชดเชยค่าโดยสารรฟท.จะเสนอขอรับจัดสรรงบประมาณ

สำหรับรถไฟฟ้าสายสีม่วง ประมาณการค่าใช้จ่ายหรือการสูญเสียรายได้ 272.99 ล้านบาท โดยแหล่งที่มาของเงินชดเชยค่าโดยสารรฟม. จะนําเงินรายได้ ที่ต้องส่งคลังมาชดเชย

ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมประเมินผลการดําเนินมาตรการเมื่อสิ้นปีงบประมาณ โดยพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ ปริมาณผู้โดยสารและรายได้ ซึ่งจะส่งผลต่อภาระการชดเชยจากภาครัฐ และคํานึงถึงความสะดวกสบายในการเดินทางและการช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางของประชาชน เป็นต้น

"กรณีรถไฟฟ้าสายสีม่วงมีรายได้ค่าโดยสารรวม 336.13 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม หากเปรียบเทียบกับกรณีจัดเก็บค่าโดยสารในอัตราปกติ (14 - 42 บาท) โดยมีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นจากการดําเนินมาตรการฯ คาดว่าจะจัดเก็บรายได้ ประมาณ 588.27 ล้านบาท จึงสูญเสียรายได้รวม 252.15 ล้านบาท แต่เมื่อพิจารณามูลค่าผลประโยชน์ที่ได้รับในด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมการดําเนินมาตรการฯ ในช่วงที่ผ่านมา ช่วยสร้างมูลค่าผลประโยชน์ที่ได้รับในด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม สุทธิ 937.59 ล้านบาท ซึ่งมีมูลค่ามากกว่ารายได้ค่าโดยสารที่สูญเสีย"

สำหรับแผนการทำงานในระยะยาว รัฐบาลจะต้องเร่งทำงานให้เป็นไปตามที่ รัฐบาลได้แถลงนโยบายต่อที่ประชุมรัฐสภา เมื่อวันที่12 ก.ย. 2567 โดยรัฐบาลจะลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนาดใหญ่ (Mega Project)ทั้งทางราง ทางน้ำ ทางถนน และทางอากาศอย่างไร้รอยต่อ ส่งเสริมให้เกิดความปลอดภัยทางถนน ลดต้นทุนระบบโลจิสติกส์

สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม คาดว่า นโยบาย รถไฟฟ้าทุกสีทุกสายราคาเดียว ตลอดสาย หรือ รถไฟฟ้า20บาทตลอดสาย จะ สามารถดำเนินการได้ตามเป้าหมาย ภายในเดือนก.ย. 2568 เนื่องด้วยต้องมีการจัดทำร่างพระราชบัญญัติการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม พ.ศ. ...เพื่อจัดตั้งกองทุนตั๋วร่วม จัดหาแหล่งเงินมาชดเชยค่าโดยสารรถไฟฟ้าที่ปรับลดลงให้แก่เอกชนคู่สัญญาจึงจำเป็นต้องรอให้กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง เป็นผู้พิจารณาเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องด้วย

โดยกระทรวงฯ คาดว่าจะสามารถเสนอร่าง พรบ.ตั๋วร่วม เพื่อให้ ครม.พิจารณาได้ในวันที่ 3 ธ.ค.2567 ก่อนผลักดันตามขั้นตอนและมีผลบังคับใช้ตามเป้าหมายในเดือน ก.ย.2568

โดยภายในร่างพระราชบัญญัติการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม พ.ศ. .... จะมีการระบุรายละเอียดเกี่ยวกับกองทุนส่งเสริมระบบตั๋วร่วมไว้ในมาตรา 29 และมาตรา 30 โดยแบ่งเป็น มาตรา 29 กำหนดให้จัดตั้งกองทุนขึ้นกองทุนหนึ่งในสำนักงาน เรียกว่า“กองทุนส่งเสริมระบบตั๋วร่วม” มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนในการดำเนินงาน การพัฒนา และการส่งเสริมเกี่ยวกับการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม รวมทั้งมีวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

1. เพื่อส่งเสริมและอุดหนุนประชาชนผู้ใช้บริการระบบตั๋วร่วมให้สามารถใช้ระบบขนส่งสาธารณะด้วยความสะดวก โดยมีต้นทุนการเดินทางที่สมเหตุสมผล 2. เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานระบบตั๋วร่วมของผู้รับใบอนุญาตที่ได้รับผลกระทบเนื่องจากการเข้าร่วมระบบตั๋วร่วม3. เพื่อให้ผู้รับใบอนุญาตกู้ยืมสำหรับดำเนินการลงทุน ปรับปรุง และพัฒนาการให้บริการระบบตั๋วร่วม ขณะแหล่งที่มาของเงินกองทุนฯมีการกำหนดไว้ใน มาตรา 30 กองทุนประกอบด้วยเงินและทรัพย์สิน ดังต่อไปนี้ 1. เงินทุนประเดิมที่รัฐบาลจัดสรรให้ 2. เงินอุดหนุนที่รัฐบาลจัดสรรให้ 3. เงินค่าธรรมเนียมการออกใบอนุญาต 4. เงินที่ได้รับตามมาตรา 31 ว่าด้วยให้ผู้รับใบอนุญาตนำส่งเงินเข้ากองทุน 5. เงินที่ได้รับจากผู้ให้บริการขนส่ง เมื่อมีสัญญาสัมปทาน สัญญาร่วมงาน หรือสัญญาร่วมลงทุนแล้วแต่กรณี มีข้อสัญญาให้ผู้ให้บริการขนส่งจะต้องส่งเงินเข้ากองทุน 6. เงินค่าปรับทางปกครองตามมาตรา 40 ส่วนแหล่งที่ 7 คือเงินหรือทรัพย์สินที่มีผู้บริจาคให้แก่กองทุน 8. ดอกผลของเงินหรือทรัพย์สินของกองทุน ทั้งนี้ เงินอุดหนุนตาม ข้อ2 นั้น ให้รัฐมนตรีดำเนินการขอรับการจัดสรรงบประมาณเพื่อสมทบเข้ากองทุนในแต่ละปีงบประมาณตามความจำเป็น เงินและทรัพย์สินของกองทุนตามวรรคหนึ่ง ไม่ต้องนำส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน

Click on the image for full size


"Revenue Loss Rate" of the 20 Baht Flat Fare Policy for Electric Trains Nears 300 Million Baht in One Year

By Pranee Muanpangwaree : Economic Scene :pranee_mue@nationgroup.com
Krungthep Turakij 08 Dec. 2024 at 7:19 PM.

"Travel expenses" are a significant cost for people, especially working-age individuals. If the government can reduce travel costs for the public, it will increase people's capabilities both in terms of purchasing power from the remaining money after travel expenses decrease.

Recently, the Cabinet meeting approved the 20 baht maximum fare measure across the entire line, in accordance with government policy, for the Red Line suburban train, Nakhon Withi Line (Krung Thep Aphiwat - Taling Chan) and Thani Ratthaya Line (Krung Thep Aphiwat - Rangsit) of the State Railway of Thailand (SRT), and the Chalong Ratchadham Line (Purple Line) of the Mass Rapid Transit Authority of Thailand (MRTA), as proposed by the Ministry of Transport.

"The maximum fare measure of 20 baht for both electric train lines has been implemented since October 2023. Originally ending on November 30, 2024, the Cabinet meeting deemed it appropriate to extend the measure from December 1, 2024, until November 30, 2025. The SRT is to request the allocation of a budget to compensate for the actual loss of revenue from the fare difference, according to the State Fiscal and Financial Disciplines Act 2018."

However, the results of implementing the measure compared to the actual revenue loss show that in the case of the Red Line suburban train, the lost fare revenue is an estimate. The fare revenue in the case of collecting a maximum fare of no more than 20 baht would be 239.47 million baht, minus the revenue collected during the implementation of the measure between October 2023 and September 2024, amounting to 210.56 million baht, meaning a loss of 28.91 million baht in revenue.

In the case of the Purple Line, the lost fare revenue is calculated by taking the fare revenue in the case of collecting the actual maximum rate of 42 baht between October 2023 and September 2024, which should have been 588.27 million baht, minus the revenue collected during the implementation of the measure between October 2023 and September 2024, which was actually 336.12 million baht. This equates to a revenue loss of 252.15 million baht.

Meanwhile, the estimated loss of revenue in the case of extending the policy from December 1, 2024, to November 30, 2025, the Ministry of Transport has prepared information according to Section 27 of the State Fiscal and Financial Disciplines Act 2018 for the Cabinet's consideration. It is estimated that budget support will need to be requested for the SRT, and there will be a loss of revenue for the MRTA.

For the Red Line suburban train, the estimated cost or revenue loss is 35.35 million baht. The source of funds to compensate for the fare, the SRT will propose to request budget allocation.

For the Purple Line, the estimated cost or revenue loss is 272.99 million baht. The source of funds to compensate for the fare, the MRTA will use the revenue that must be sent to the treasury to compensate.

The Ministry of Transport will evaluate the results of the measure at the end of the fiscal year, considering various relevant factors, such as passenger volume and revenue, which will affect the burden of compensation from the government sector, and taking into account the convenience of travel and helping to reduce the burden of travel expenses for the public.

"In the case of the Purple Line, the total fare revenue is 336.13 million baht. However, compared to the case of collecting fares at the normal rate (14 - 42 baht), with an increase in passengers from the implementation of the measure, it is expected that approximately 588.27 million baht in revenue would be collected. Therefore, there is a total revenue loss of 252.15 million baht. But when considering the value of the benefits received in economic, social, and environmental aspects, the implementation of the measure in the past has helped create a net value of benefits received in economic, social, and environmental aspects of 937.59 million baht, which is more than the lost fare revenue."

For the long-term work plan, the government will have to expedite work to be in accordance with the government's policy statement to the National Assembly on September 12, 2024. The government will invest in large-scale transportation infrastructure (Mega Projects) seamlessly across rail, water, road, and air, promoting road safety and reducing logistics costs.

Suriya Jungrungreangkit, Deputy Prime Minister and Minister of Transport, expects that the policy of a single price for all electric train lines across the entire line, or a 20 baht flat fare for all electric train lines, will be able to proceed as planned by September 2025. This is because the draft Act on the Management of the Common Ticket System B.E. ... must be prepared to establish a common ticket fund, find sources of funds to compensate for the reduced electric train fares for private concessionaires. Therefore, it is necessary to wait for the Comptroller General's Department, Ministry of Finance, to consider the relevant conditions.

The Ministry expects to be able to propose the draft Common Ticket Act for the Cabinet's consideration on December 3, 2024, before pushing it forward according to the steps and having it come into force as planned in September 2025.

Within the draft Act on the Management of the Common Ticket System B.E. ..., details about the Common Ticket Promotion Fund will be specified in Sections 29 and 30, divided as follows: Section 29 stipulates the establishment of a fund in the office called the "Common Ticket Promotion Fund," with the objective of supporting the operation, development, and promotion of the common ticket system management, including the following objectives:

1. To promote and subsidize the public who use the common ticket system to be able to use public transportation conveniently with reasonable travel costs.
2. To support the operation of the common ticket system of licensees affected by participating in the common ticket system.
3. To allow licensees to borrow for investment, improvement, and development of common ticket system services.

The sources of funds for the fund are specified in Section 30. The fund consists of money and assets as follows:

1. Initial capital allocated by the government.
2. Subsidies allocated by the government.
3. License issuance fees.
4. Money received according to Section 31, concerning licensees submitting money to the fund.
5. Money received from transportation service providers when there is a concession contract, joint venture contract, or joint investment contract, as the case may be, with a clause that the transportation service provider must submit money to the fund.
6. Administrative fines according to Section 40.
7. Money or assets donated to the fund.
8. Interest and returns on money or assets of the fund.

The subsidy according to item 2, the Minister shall proceed to request budget allocation to contribute to the fund in each fiscal year as needed. The money and assets of the fund according to paragraph one do not have to be submitted to the treasury as state revenue.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 47112
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 10/12/2024 12:49 pm    Post subject: Reply with quote

เช็คผลงาน 1 ปี 'คมนาคม' ใต้เงา 'เพื่อไทย' กับนโยบายชิ้นโบว์แดง
Source - กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
Tuesday, December 10, 2024 11:06

เช็คผลงาน "คมนาคม" ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา เดินหน้านโยบายเรือธง "รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย" ขึ้นแท่นผลงานชิ้นโบว์แดง ลดค่าครองชีพ ปรับพฤติกรรมประชาชนใช้ขนส่งสาธารณะเพิ่มขึ้น พร้อมชง ครม.ต่ออายุอีก 1 ปี ขณะที่การลงทุนเมกะโปรเจกต์จับตาปี 2568 ถึงเวลาเปิดประมูล "แลนด์บริดจ์"

12 ธ.ค.นี้ “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี เตรียมแถลงผลการดำเนินงานของรัฐบาล พร้อมนำเสนอกรอบการทำงานและโครงการเรือธงที่จะทำต่อไปในปี 2568 ภายใต้ชื่อ “2568 โอกาสไทย ทำได้จริง” ขณะที่กระทรวงคมนาคมก็ใกล้ครบรอบ 1 ปี ใต้เงา 3 รัฐมนตรี “เพื่อไทย” ซึ่งพบว่าตลอดปีที่ผ่านมา มีผลงานที่เห็นเป็นรูปธรรมตามนโยบายประกาศไว้ และยังมีโครงการค้างท่อที่พลาดเป้ายังไม่สามารถดำเนินการได้ รอส่งไม้ต่อในปี 2568

กระทรวงคมนาคมใต้เงา “เพื่อไทย” ซึ่งนำโดย “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มีนโยบายเรือธงคือการมุ่ง “ลดค่าครองชีพ” ระบบขนส่งสาธารณะจะต้องเข้าถึงประชาชนทุกกลุ่ม รวมทั้งเร่งพัฒนาโครงข่ายระบบขนส่งทางราง เพื่อลดต้นทุนการเดินทางและโลจิสติกส์

โดยในปี 2567 นโยบายที่กระทรวงคมนาคมเร่งดำเนินการและเห็นผลเป็นรูปธรรม คือ “ค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย” ซึ่งเริ่มเชื่อมต่อระบบให้ประชาชนสามารถเดินทางระหว่างรถไฟชานเมือง สายสีแดง สายนครวิถี (กรุงเทพอภิวัฒน์ - ตลิ่งชัน)และสายธานีรัถยา (กรุงเทพอภิวัฒน์ - รังสิต) และรถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง) ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2566 และตลอดทั้งปี 2567

สำหรับผลของการดำเนินการตามนโยบายดังกล่าว หลังจากกระทรวงฯ เริ่มนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท ตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค.2566 เป็นต้นมา พบว่าสูญเสียรายได้ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยผลการดำเนินมาตรการ สะสม ณ สิ้นเดือน ก.ย.2567 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 ผลปรากฎว่า

รถไฟชานเมืองสายสีแดง ก่อนดำเนินมาตรการ มีรายได้ 203.47 ล้านบาท เมื่อดำเนินมาตรการแล้วรายได้ลดลงจากเดิม 2.59 ล้านบาท

รถไฟฟ้าสายสีม่วง ก่อนดำเนินมาตรการ มีรายได้ 455.46 ล้านบาท เมื่อดำเนินมาตรการแล้วรายได้ลดลงจากเดิม 119.33 ล้านบาท

ขณะที่ปริมาณผู้โดยสารเฉลี่ยของรถไฟฟ้าทั้งสองสาย เมื่อเปรียบกับช่วงเดียวกับของปี 2566 ภายหลังเริ่มดำเนินมาตรการ ตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค. 2566 เป็นต้นมา ในภาพรวมพบว่ามีผู้โดยสารรวมเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน โดยจำนวนผู้โดยสารรถไฟชานเมืองสายสีแดง เพิ่มขึ้นประมาณ 51.86% ในขณะที่ปริมาณผู้โดยสารรถไฟฟ้าสายสีม่วง เพิ่มขึ้นประมาณ 17.54% ทำให้นโยบายนี้กระทรวงคมนาคมเรียกว่าเป็นผลงานชิ้น “โบว์แดง” ที่สามารถกระตุ้นให้ประชาชนปรับพฤติกรรมการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะเพิ่มขึ้น

โดยล่าสุดในการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่จังหวัดเชียงใหม่ (ครม.สัญจร) เมื่อ 29 พ.ย.ที่ผ่านมา กระทรวงคมนาคมได้เสนอต่ออายุมาตรการค่าโดยสาร สูงสุด 20 บาทตลอดสายรถไฟฟ้าทั้งสองเส้นทาง จากเดิมจะสิ้นสุดลงในวันที่ 30 พ.ย.2567 ขยายเวลามาตรการดังกล่าวออกไปอีก 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2567 จนถึงวันที่ 30 พ.ย.2568 และคาดว่าจะส่งผลทำให้ประชาชนเลือกเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

เนื่องจากเป้าหมายในปี 2568 กระทรวงคมนาคมจะเร่งผลักดันมาตรการรถไฟฟ้า 20 บาท ครอบคลุมรถไฟฟ้า “ทุกสีทุกสาย” ผ่านการจัดทำร่างพระราชบัญญัติการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม พ.ศ. .... เพื่อจัดตั้งกองทุนตั๋วร่วม และจัดหาแหล่งเงินมาชดเชยค่าโดยสารรถไฟฟ้าที่ปรับลดลงให้แก่เอกชนคู่สัญญา โดยมีเป้าหมายผลักดันให้เกิดเป็นรูปธรรมในเดือน ก.ย.2568

ขณะที่ผลงานผลักดันโครงการลงทุนขนาดใหญ่ (เมกะโปรเจกต์) ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา พบว่ามีการประกวดราคา 2 โครงการ ประกอบด้วย

รถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 ช่วงขอนแก่น - หนองคาย 167 กิโลเมตร มูลค่า 28,719 ล้านบาท
โครงการทางพิเศษสายฉลองรัช ส่วนต่อขยาย (ช่วงจตุโชติ - ถนนลำลูกกา) ระยะทาง 16.21 กิโลเมตร มูลค่า 24,060 ล้านบาท

ส่วนโครงการสำคัญที่ต้องจับตาในปี 2568 คาดว่าจะมีการผลักดันเปิดประกวดราคา อาทิ

โครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 เหลือ 6 โครงการรอเสนอ ครม.และประกวดราคา วงเงินลงทุนรวม 245,260 แสนล้านบาท ประกอบด้วย

ช่วงปากน้ำโพ-เด่นชัย ระยะทาง 285 กิโลเมตร วงเงิน 62,800 ล้านบาท
ช่วงชุมพร-สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 168 กิโลเมตร วงเงิน 24,200 ล้านบาท
ช่วงสุราษฎร์ธานี-หาดใหญ่-สงขลา ระยะทาง 321 กิโลเมตร วงเงิน 57,300 ล้านบาท
ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ ระยะทาง 189 กิโลเมตร วงเงิน 56,800 ล้านบาท
ช่วงชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี ระยะทาง 308 กิโลเมตร วงเงิน 37,500 ล้านบาท
ช่วงชุมทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 45 กิโลเมตร วงเงิน 6,660 ล้านบาท

โครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง รวมวงเงินกว่า 2.1 หมื่นล้านบาท ประกอบด้วย

รถไฟชานเมืองสายสีแดงเข้ม ช่วงรังสิต – มธ. ศูนย์รังสิต วงเงิน 6,468 ล้านบาท
รถไฟชานเมืองสายสีแดงช่วงศิริราช - ตลิ่งชัน – ศาลายา วงเงิน 15,286 ล้านบาท

โครงการทางพิเศษ สายกระทู้ - ป่าตอง มูลค่าลงทุน 14,670 ล้านบาท

มอเตอร์เวย์หมายเลข 5 (M5) ส่วนต่อขยายทางยกระดับอุตราภิมุข ช่วงรังสิต-บางปะอิน วงเงิน 31,358 ล้านบาท

มอเตอร์เวย์หมายเลข 9 (M9) สายวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ด้านตะวันตก ช่วงบางขุนเทียน-บางบัวทอง วงเงิน 56,035 ล้านบาท

โครงการทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ตอน N2 ช่วงถนนประเสริฐมนูกิจ – ถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ วงเงิน 16,960 ล้านบาท

โครงการรถไฟความเร็วสูง นครราชสีมา - หนองคาย ระยะทาง 357.12 กิโลเมตร วงเงิน 341,351 ล้านบาท

พัฒนาท่าอากาศยานแห่งใหม่

ท่าอากาศยานล้านนา (ท่าอากาศยานเชียงใหม่ แห่งที่ 2) วงเงินลงทุน 70,000 ล้านบาท
ท่าอากาศยานอันดามัน (ท่าอากาศยานภูเก็ต แห่งที่ 2) วงเงินลงทุน 80,000 ล้านบาท

โครงการสะพานเศรษฐกิจภาคใต้เชื่อมฝั่งทะเลอ่าวไทย-อันดามัน หรือ แลนด์บริดจ์ วงเงินลงทุน 1 ล้านล้านบาท จะเริ่มต้นขั้นตอนประมูลในปี 2568


## One Year Review: Transport Ministry Under Pheu Thai and its Flagship Policies

**Source - Bangkok Biz News Online**
**Tuesday, December 10, 2024 11:06**

This article reviews the performance of the Transport Ministry over the past year, highlighting the flagship policy of "20 Baht flat fare for all electric train lines." This policy has successfully reduced living costs and encouraged greater use of public transport. The cabinet is also considering extending this policy for another year. Meanwhile, the focus for 2025 is on the bidding process for the "Land Bridge" megaproject.

On December 12th, Prime Minister Paethongtarn Shinawatra will announce the government's performance, outlining its framework and flagship projects for 2025 under the theme "2025: Thailand's Opportunities, Achievable Goals." The Transport Ministry, under the leadership of three Pheu Thai ministers, is also approaching its one-year mark. This review reveals concrete achievements in line with announced policies, alongside some projects that have missed their targets and remain pending for 2025.

The Transport Ministry, led by Deputy Prime Minister and Transport Minister Suriya Jungrungreangkit, has focused on reducing living costs by making public transport accessible to all, and accelerating rail network development to lower travel and logistics costs.

In 2024, the ministry achieved tangible results with its "20 Baht flat fare for all electric train lines" policy. This initiative began connecting the Red Line suburban train (Nakhorn Withi Line: Krung Thep Aphiwat - Taling Chan and Thani Ratthaya Line: Krung Thep Aphiwat - Rangsit) with the Purple Line (Chalong Ratchadham Line) in late 2023 and throughout 2024.

The impact of this policy has been significant. Since its launch on October 16, 2023, revenue loss has been lower than anticipated. Comparing data from the end of September 2024 with the same period in 2023 shows:

* **Red Line suburban train:** Revenue decreased by 2.59 million baht after the policy was implemented (from an initial 203.47 million baht).
* **Purple Line:** Revenue decreased by 119.33 million baht after the policy was implemented (from an initial 455.46 million baht).

However, average passenger numbers on both lines have increased significantly since October 16, 2023. The Red Line saw a 51.86% increase in passengers, while the Purple Line saw a 17.54% increase. This policy is considered a major success for the Transport Ministry, effectively encouraging a shift towards public transport.

At the recent mobile cabinet meeting in Chiang Mai on November 29th, the Transport Ministry proposed extending the 20 baht fare cap for another year, from December 1, 2024, to November 30, 2025. This is expected to further promote public transport use.

Looking ahead to 2025, the ministry aims to expand the 20 baht fare policy to all electric train lines. This will involve drafting the "Integrated Ticket Management Act" to establish a fund for subsidizing fare reductions for private operators. The goal is to implement this by September 2025.

In terms of megaprojects, the past year has seen bidding for two projects:

* **Double-track railway Phase 2, Khon Kaen - Nong Khai section:** 167 kilometers, valued at 28.719 billion baht.
* **Chalong Ratchadham Expressway extension (Chatu Chot - Lam Luk Ka Road):** 16.21 kilometers, valued at 24.060 billion baht.

Key projects anticipated for bidding in 2025 include:

* **Remaining 6 double-track railway Phase 2 projects:** Total investment of 245.26 billion baht.
* **Red Line suburban train extensions:** Total investment exceeding 21 billion baht.
* **Kathu - Patong Expressway:** 14.67 billion baht.
* **M5 Motorway extension (Rangsit - Bang Pa-in):** 31.358 billion baht.
* **M9 Motorway (western outer ring road, Bang Khun Thian - Bang Bua Thong):** 56.035 billion baht.
* **N2 Expressway (northern section, Prasert Manukitch Road - outer ring road):** 16.960 billion baht.
* **High-speed rail, Nakhon Ratchasima - Nong Khai:** 357.12 kilometers, 341.351 billion baht.
* **New airports:** Lanna Airport (Chiang Mai 2) and Andaman Airport (Phuket 2).
* **Land Bridge:** Connecting the Gulf of Thailand and Andaman Sea, with an estimated investment of 1 trillion baht; bidding to commence in 2025.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43921
Location: NECTEC

PostPosted: 12/12/2024 9:56 pm    Post subject: Reply with quote

“สุริยะ” ขานรับนโยบาย “นายกฯ” เดินหน้ารถไฟฟ้า 20 บาท ตลอดสาย มาครบ “ทุกสี-ทุกสาย” ปี 2568 พร้อมเดินหน้าโครงการพัฒนาที่ดิน “การรถไฟฯ” ทำบ้านให้คนไทยเป็นเจ้าของในราคาถูก ได้ครบทั้งระบบสาธารณูปโภคเข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะ
•
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมพร้อมเดินหน้านโยบายจากที่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงผลงานครบรอบ 90 วันที่รัฐบาลได้ปฏิบัติหน้าที่ “2568 โอกาสไทย ทำได้จริง” และมอบนโยบายแก่ข้าราชการระดับสูง ได้แก่ หัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวง กรม ผู้ว่าราชการจังหวัด โดยนายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายให้กระทรวงคมนาคมเดินหน้าโครงการรถไฟฟ้า 20 บาท ตลอดสาย เพื่อลดภาระค่าครองชีพและค่าเดินทาง และให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าด้วยราคา 20 บาท ในทุกสี ทุกเส้นทางในปี 2568 ซึ่งปัจจุบันได้กระทรวงคมนาคมได้ดำเนินการสำเร็จแล้วในรถไฟฟ้า 2 สาย คือ โครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดงสายนครวิถี (กรุงเทพอภิวัฒน์ - ตลิ่งชัน) และสายธานีรัถยา (กรุงเทพอภิวัฒน์ - รังสิต) ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และโครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง) ช่วงเตาปูน - คลองบางไผ่ ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ซึ่งส่งผลให้มีประชาชนเข้าใช้บริการอย่างต่อเนื่องจากสถิติผู้โดยสายที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ของทั้ง 2 สาย ขณะที่การดำเนินมาตรการค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายในทุกเส้นทาง ทุกสี และทุกสายนั้น ยืนยันว่าจะเป็นไปตามที่กำหนดไว้ในเดือนกันยายน 2568 อย่างแน่นอน ส่วนความคืบหน้าของร่าง พ.ร.บ.ตั๋วร่วมฯ นั้น ปัจจุบันได้ผ่านการอนุมัติในหลักการจากคณะรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้วโดยจะเข้าสู่ขั้นตอนการเสนอต่อรัฐสภาต่อไป
•
นอกจากนี้กระทรวงคมนาคมได้ให้ รฟท. ดำเนินโครงการบ้านเพื่อคนไทยด้วยการให้พัฒนาที่อยู่อาศัยของที่ดิน รฟท. สามารถผ่อนได้นานถึง 30 ปี อยู่อาศัยได้ 99 ปี ซึ่งจะทำให้คนไทยที่ไม่เคยมีบ้านมาก่อน สามารถมีบ้านที่มีคุณภาพสูงด้วยราคาประหยัด มีสาธารณูปโภคและการรักษาความปลอดภัยที่ครบครัน พร้อมกับสามารถเข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะได้อย่างสะดวก สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนและประเทศอย่างยั่งยืน
https://www.facebook.com/sod.mot/posts/988030240034004
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43921
Location: NECTEC

PostPosted: 15/12/2024 11:16 am    Post subject: Reply with quote

ลงรถไฟฟ้าปุ๊ปต่อรถแท็กซี่ไฟฟ้าสะดวก รฟม.เปิดบริการเรียกรถผ่านแอป MRTA
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันศุกร์ ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2567 เวลา 19:02 น.
ปรับปรุง: วันศุกร์ ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2567 เวลา 19:02 น.

• มีจุดให้บริการ 11 แห่ง เริ่มต้นปีนี้ 4 แห่ง (ลาดพร้าว, คลองบางไผ่, แยก คปอ., คูคต)
• มุ่งเน้นเพิ่มความสะอาดและส่งเสริมการใช้ขนส่งสาธารณะ


รฟม. เปิดตัวโครงการ "MRTA Taxi EV by MRTA Parking Application" จุดเรียกรถแท็กซี่ไฟฟ้าผ่านแอป MRTA จำนวน 11 แห่ง นำร่องปีนี้ 4 แห่ง สถานีลาดพร้าว , สถานีคลองบางไผ่ ,สถานีแยก คปอ. , สถานีคูคต เพิ่มความสะอาด หนุนเดินทางขนส่งสาธารณะ
นายวิทยา พันธุ์มงคล รองผู้ว่าการ (ปฏิบัติการ) รักษาการแทนผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า รฟม. ได้จัดทำโครงการ MRTA Taxi EV by MRTA Parking Application (sPark EV Terminal App) โดยจับมือกับพันธมิตร บริษัท อีวี มี พลัส จำกัด (EVme) ในการให้บริการรถแท็กซี่ไฟฟ้า (Taxi EV) ผ่านแพลตฟอร์มแอปพลิเคชัน MRTA Parking ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันหลักในการให้บริการที่จอดรถของ รฟม. โดยแอปพลิเคชันจะจับรัศมีรถแท็กซี่ไฟฟ้าที่ลงทะเบียนไว้กับ EVme ในระยะ 500 เมตร ผู้โดยสารสามารถเรียกรถและระบุจุดรับ-ส่ง ได้ที่อาคารและลานจอดรถ รวมถึงสถานีรถไฟฟ้า ที่กำหนดเป็นจุดให้บริการ MRTA Taxi EV พร้อมทั้งสามารถตรวจสอบค่าโดยสารโดยประมาณได้อย่างสะดวกสบายผ่านหน้าจอในแอปพลิเคชัน

พร้อมกันนี้ ยังได้จัดให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกไว้รองรับในจุดที่ให้บริการ MRTA Taxi EV เช่น จุดพักคอยสำหรับผู้ใช้บริการ และหน้าจอประชาสัมพันธ์ข้อมูลต่างๆ เป็นต้น

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสนับสนุนการเชื่อมต่อระบบขนส่งมวลชน และอำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารรถไฟฟ้าให้สามารถวางแผนการเดินทางได้อย่างรวดเร็ว และปลอดภัย ซึ่งการนำรถยนต์ไฟฟ้ามาให้บริการนั้น จะเป็นการสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาดและสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีในพื้นที่ของ รฟม. อีกทั้งยังเป็นการตอบสนองนโยบายภาครัฐในการขับเคลื่อนรถสาธารณะให้เป็นยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อลดการปล่อยมลพิษ


สำหรับจุดให้บริการ MRTA Taxi EV มีทั้งสิ้น จำนวน 11 แห่ง ในเส้นทางรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล (MRT สายสีน้ำเงิน) รถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม (MRT สายสีม่วง) รถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต - สะพานใหม่ - คูคต และ รถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง - สมุทรปราการ โดย รฟม. จะเริ่มทดสอบระบบเสมือนจริงสำหรับการให้บริการ MRTA Taxi EV ในวันที่ 16 ธันวาคม 2567 เป็นต้นไป ในช่วงเวลา 16.30 - 20.30 น. โดยมีสถานีทดสอบระบบในช่วงแรก จำนวน 4 แห่ง ได้แก่

- อาคารจอดรถ 9 ชั้น สถานีลาดพร้าว ทางออก 4 รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน
- อาคารจอดรถ 3 ชั้น สถานีคลองบางไผ่ ทางออก 4 รถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง
- อาคารจอดรถ 3 ชั้น สถานีแยก คปอ. ทางออก 3 รถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต - สะพานใหม่ - คูคต
- อาคารจอดรถ 6 ชั้น สถานีคูคต ทางออก 2 รถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต - สะพานใหม่ - คูคต


จากนั้นประมาณกลางเดือนมกราคม 2568 จะเปิดให้บริการเพิ่มอีก 7 แห่ง ได้แก่

- อาคารจอดรถ 3 ชั้น สถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ทางออก 2 รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน
- อาคารจอดรถ 10 ชั้น สถานีสามแยกบางใหญ่ ทางออก 2 รถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง
- อาคารจอดรถ 10 ชั้น สถานีบางรักน้อยท่าอิฐ ทางออก 1 รถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง
- สถานีสะพานพระนั่งเกล้า ทางออก 3 รถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง
- อาคารจอดรถ 10 ชั้น สถานีแยกนนทบุรี 1 ทางออก 4 รถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง
- สถานีเตาปูน ทางออก 4 รถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง
- ลานจอดรถ สถานีเคหะฯ ทางออก 2 รถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง - สมุทรปราการ


โครงการดังกล่าว รฟม. ได้ดำเนินงานตามนโยบายกระทรวงคมนาคม ในการส่งเสริมให้ประชาชนหันมาใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแทนการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลเพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรและลดฝุ่นละออง PM 2.5 โดยมุ่งเน้นการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่สร้างสรรค์มาพัฒนาการให้บริการและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ภายในอาคารจอดรถตามแนวสายทางรถไฟฟ้าของ รฟม. ทุกแห่ง ให้มีความพร้อม สามารถรองรับและตอบสนองความต้องการของผู้ใช้บริการทุกกลุ่ม


ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการหรือประชาชนทั่วไปที่สนใจสามารถดาวน์โหลด Application MRTA Parking ได้ทั้งระบบปฏิบัติการแบบ android และ ios ซึ่งนอกจากผู้ใช้บริการจะสามารถสมัครและต่ออายุการใช้บริการจอดรถยนต์รายเดือนแบบออนไลน์ได้แล้ว ยังสามารถชำระค่าบริการจอดรถแบบรายเดือนได้ “ครบจบภายในแอปเดียว” ตลอดจนสามารถรับทราบข้อมูลที่จอดรถว่างและข้อมูลประชาสัมพันธ์ของ รฟม. ได้อีกหนึ่งช่องทาง
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 283, 284, 285
Page 285 of 285

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©