RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:312102
ทั่วไป:13704969
ทั้งหมด:14017071
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวกรมการขนส่งทางราง (เริ่ม 21 พ.ค. 62)
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าวกรมการขนส่งทางราง (เริ่ม 21 พ.ค. 62)
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 71, 72, 73, 74, 75  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44162
Location: NECTEC

PostPosted: 12/12/2024 10:41 pm    Post subject: Reply with quote

✨🚋 กรมรางเร่งพัฒนาระบบการขนส่งสินค้าทางราง พร้อมเดินหน้าศึกษาการกำหนดอัตราขั้นสูงและหลักเกณฑ์การทบทวนอัตราค่าขนส่งทางราง

กรมการขนส่งทางราง (ขร.) จัดการประชุมโครงการศึกษาการกำหนดอัตราขั้นสูงและหลักเกณฑ์การทบทวนอัตราค่าขนส่งทางราง (Workshop) ครั้งที่ 1 ณ โรงแรมโนโวเทลกรุงเทพ สุวรรณภูมิ แอร์พอร์ต จังหวัดสมุทรปราการ โดยเน้นไปที่การระดมความเห็นจากภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้ขนส่งสินค้าและผู้ทรงคุณวุฒิ รวมทั้งได้มีการลงพื้นที่สถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง ลาดกระบัง (ICD Ladkrabang) เพื่อศึกษากระบวนการขนส่งสินค้าทางรถไฟ พร้อมนำข้อมูลที่ได้ไปศึกษาต่อและหาแนวทางแก้ไขและพัฒนาระบบการขนส่งสินค้าทางรางให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นไปในอนาคต

วันนี้ 12 ธันวาคม 2567 กรมการขนส่งทางราง (ขร.) ได้จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการ (Workshop) ครั้งที่ 1 สำหรับโครงการศึกษาการกำหนดอัตราขั้นสูงและหลักเกณฑ์การทบทวนอัตราค่าขนส่ง ค่าใช้ประโยชน์จากราง ค่าบริการในการประกอบกิจการขนส่งทางราง ณ โรงแรมโนโวเทลกรุงเทพ สุวรรณภูมิ แอร์พอร์ต จังหวัดสมุทรปราการ โดยมีนายอธิภู จิตรานุเคราะห์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางราง เป็นประธานในการประชุมครั้งนี้ ซึ่งสาระสำคัญในการประชุมเชิงปฏิบัติการวันนี้ได้จัดให้มีการรับฟังข้อคิดเห็น ระดมความคิดเห็น และหารือร่วมกับทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้ขนส่งสินค้าและผู้ทรงคุณวุฒิ ในประเด็นเกี่ยวกับปัญหาอุปสรรคในการขนส่งสินค้าทางราง โดยเฉพาะในด้านราคาและปัจจัยที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งการแก้ไขปัญหาเรื่องอัตราค่าขนส่งสินค้าทางราง ค่ายกขน ค่าบริการที่เกี่ยวเนื่องในปัจจุบัน ความต้องการในการขนส่งสินค้าทางราง ตลอดจนข้อจำกัด ปัญหาและอุปสรรคในการขนส่งสินค้าทางราง โดยข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากการประชุมจะถูกนำไปใช้ในการศึกษาและวิเคราะห์เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาต่างๆ ร่วมกันต่อไป ทั้งนี้เพื่อเป็นการพัฒนาให้ระบบการขนส่งสินค้าทางรางของประเทศมีประสิทธิภาพและยั่งยืนในอนาคตต่อไป

สำหรับโครงการศึกษาการกำหนดอัตราขั้นสูงและหลักเกณฑ์การทบทวนอัตราค่าขนส่งและค่าบริการในการประกอบกิจการขนส่งทางรางนั้น มีวัตถุประสงค์หลัก 4 ประการ ได้แก่
1) เพื่อศึกษาโครงสร้างต้นทุนและปัจจัยที่เกี่ยวข้องในการกำหนดอัตราขั้นสูงของค่าขนส่ง ค่าใช้ประโยชน์จากราง และค่าบริการในการขนส่งทางราง ทั้งในปัจจุบันและในอนาคต
2) เพื่อจัดทำหลักเกณฑ์และวิธีการกำหนดอัตราขั้นสูงในด้านต่าง ๆ
3) เพื่อจัดทำข้อเสนอและมาตรการกำกับอัตราค่าขนส่งเพื่อส่งเสริมการขนส่งสินค้าทางราง และ
4) เพื่อจัดทำร่างข้อกำหนด กฎระเบียบ หรือกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดอัตราขั้นสูง รวมทั้งการส่งเสริมการขนส่งสินค้าทางราง เพื่อก่อให้เกิดการพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพระบบการขนส่งทางรางในอนาคต ซึ่งเป็นการดำเนินการที่สำคัญตามยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งของไทยระยะ 20 ปี ที่มุ่งเน้นการส่งเสริมการขนส่งสินค้าผ่านระบบราง ด้วยต้นทุนที่ต่ำและมีความปลอดภัยสูง

พร้อมกันนี้ ทาง ขร. ได้ลงพื้นที่ สถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง ลาดกระบัง (ICD Ladkrabang) ซึ่งถือเป็นสถานีรถไฟชั้นพิเศษของการรถไฟแห่งประเทศไทยที่สร้างขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวก ให้บริการแก่ผู้ส่งออก ผู้นำเข้า และบุคคลทั่วไป ในกิจกรรมทุกอย่างเกี่ยวกับสินค้าประเภทตู้คอนเทนเนอร์ ทั้งขาเข้า และขาออก โดยการลงพื้นที่ในวันนี้ เพื่อศึกษากระบวนการขนส่งสินค้าทางรถไฟที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน โดยปัจจุบัน บริเวณ ICD ลาดกระบัง มีเอกชนดำเนินงานบริหารสถานีขนส่งสินค้าอยู่ 4 ราย ได้แก่
บริษัท สยามชอร์ไซด์ เซอร์วิส จำกัด
บริษัท อีสเทิร์น ซี แหลมฉบัง เทอร์มินัล จำกัด
บริษัท เอเวอร์กรีน คอนเทนเนอร์ เทอร์มินัล (ประเทศไทย) จำกัด และ
บริษัท เอ็น.วาย.เค.ดิสทริบิวชั่น เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด
โดยมีขบวนรถไฟขนส่งสินค้า เส้นทาง ICD ลาดกระบัง-ท่าเรือแหลมฉบัง (ไป-กลับ) มากที่สุดถึง 30 ขบวนต่อวัน ซึ่งเส้นทางนี้เป็นรถไฟทางคู่ ระยะทาง 118 กิโลเมตร ใช้เวลาขนส่งสินค้าประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที โดยสามารถพ่วงแคร่รถไฟไปได้สูงสุดถึง 35 แคร่ต่อขบวน โดยในปีงบประมาณ 2567 มีสินค้าบนเส้นทางนี้กว่า 7.44 ล้านตัน ทั้งหมดเป็นสินค้าประเภทบรรจุตู้คอนเทนเนอร์ที่ทำรายได้ค่าระวางให้แก่ รฟท. ได้มากถึง 470 ล้านบาท หรือคิดเป็น 29% ของรายได้จากค่าขนส่งสินค้าทางรถไฟทั้งหมด
https://www.facebook.com/DRT.OfficialFanpage/posts/886980566959740
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44162
Location: NECTEC

PostPosted: 12/12/2024 10:52 pm    Post subject: Reply with quote

กรมการขนส่งทางรางเข้าร่วมการแถลงผลการดำเนินงานของรัฐบาลรอบ 3 เดือน “2568 โอกาสไทย ทำได้จริง”
วันนี้ (12 ธันวาคม 2567) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการแถลงผลการดำเนินงานของรัฐบาลรอบ 3 เดือน พร้อมมอบนโยบายแก่ข้าราชการระดับสูง ณ สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยช่อง 11 (NBT) ภายใต้ชื่อ “2568 โอกาสไทย ทำได้จริง” โดย นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง ได้เข้าร่วมการแถลงผลการดำเนินงานของรัฐบาลในครั้งนี้ด้วย
ภายในงานได้มีการแถลงนโยบายทั้งสิ้น 11 นโยบาย โดยพร้อมเดินหน้า 5 นโยบายหลัก ซึ่ง 1 ในนั้นคือ นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เพื่อลดภาระค่าครองชีพและค่าเดินทาง และให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าด้วยราคา 20 บาท ในทุกสี ทุกเส้นทางในปี 2568 ซึ่งปัจจุบันได้กระทรวงคมนาคมได้ดำเนินการสำเร็จแล้วในรถไฟฟ้า 2 สาย คือ โครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดงสายนครวิถี (กรุงเทพอภิวัฒน์ - ตลิ่งชัน) และสายธานีรัถยา (กรุงเทพอภิวัฒน์ - รังสิต) ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และโครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง) ช่วงเตาปูน - คลองบางไผ่ ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ซึ่งส่งผลให้มีประชาชนเข้าใช้บริการอย่างต่อเนื่องจากสถิติผู้โดยสายที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ของทั้ง 2 สาย โดยการดำเนินมาตรการค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายในทุกเส้นทาง ทุกสี และทุกสายนั้น คาดว่าจะเป็นไปตามที่กำหนดไว้ในเดือนกันยายน 2568 นโนบายดังกล่าวนี้จะช่วยลดภาระของประชาชนและยังช่วยให้ประชาชนในกรุงเทพและปริมณฑลได้เข้าถึงรถไฟฟ้าทุกสายได้มากยิ่งขึ้น
ในส่วนของกรมการขนส่งทางรางนั้น ยังคงร่วมผลักดันให้นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายเกิดขึ้นได้อย่างครอบคลุมทุกเส้นทาง เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่เดินทางด้วยระบบขนส่งทางรางมากให้ได้มากที่สุด
https://www.facebook.com/DRT.OfficialFanpage/posts/886966906961106
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44162
Location: NECTEC

PostPosted: 12/12/2024 10:54 pm    Post subject: Reply with quote

“คมนาคม” ต่ออายุแถลงการณ์ร่วมฯ “เยอรมัน” ลุยพัฒนาระบบขนส่งทางรางไทย
ข่าวนวัตกรรมขนส่ง
วันอังคาร ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2567 เวลา 08:58 น.


“คมนาคม” ลุยพัฒนาระบบขนส่งทางรางของไทย ต่ออายุแถลงการณ์ร่วมฯ “เยอรมัน” เดินหน้าต่อยกระดับงานโครงสร้างพื้นฐาน-การบริการ มุ่งมั่นลดปล่อยคาร์บอน รักษ์สิ่งแวดล้อม สู่ความยั่งยืน
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ดร.แอ็นสท์ ว็อล์ฟกัง ไรเชิล เอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีประจำประเทศไทย ได้เข้าพบ และได้ลงนามในเอกสารความยินยอมร่วมกันเพื่อต่ออายุแถลงการณ์ร่วมแสดงเจตจำนงว่าด้วยการพัฒนาความร่วมมือด้านรถไฟ ระหว่างกระทรวงคมนาคมแห่งราชอาณาจักรไทย และกระทรวงดิจิทัลและคมนาคมแห่งสหพันธสาธารณรัฐเยอรมนี ซึ่งเป็นการแสดงถึงความมุ่งมั่นการสานต่อความร่วมมือด้านระบบรางในระยะยาวระหว่างประเทศไทย และเยอรมนี ที่มีร่วมกันมาอย่างยาวนาน

นายสุริยะ กล่าวต่อว่า กว่า 162 ปี ที่ประเทศไทยสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ความร่วมมือระหว่างสองประเทศครอบคลุมทุกภาคส่วน อาทิ ด้านการค้า วัฒนธรรม และเทคโนโลยี ซึ่งความร่วมมือด้านการรถไฟของประเทศไทย และเยอรมนี เปรียบเสมือนย่างก้าวสู่การพัฒนา และสร้างสรรค์นวัตกรรมที่สำคัญ ความเชี่ยวชาญของเยอรมนีในระบบรางมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการขนส่งของประเทศไทย ตั้งแต่รถไฟฟ้ามหานครสายสีน้ำเงินไปจนถึงระบบขนส่งมวลชนทางรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หรือ Airport Rail Link และรถไฟฟ้าขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (APM)


นายสุริยะ กล่าวอีกว่า แถลงการณ์ร่วมดังกล่าวลงนามครั้งแรกเมื่อวันที่ 23 พ.ย. 59 และต่ออายุมาแล้ว 2 ครั้ง การต่ออายุแถลงการณ์ร่วมครั้งนี้ จะช่วยผลักดันให้การขนส่งระบบรางของประเทศไทยมีความก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น โดยจะเป็นการให้ความช่วยเหลือทางเทคนิคแก่ประเทศไทยในการยกระดับโครงสร้างพื้นฐาน และการบริการขนส่งระบบราง ตลอดจนการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่จะมุ่งมั่นในการลดการปล่อยคาร์บอน และส่งเสริมการขนส่งทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตามแถลงการณ์ร่วมฉบับนี้จะได้รับการต่ออายุอัตโนมัติเป็นเวลา 2 ปีติดต่อกัน เพื่อให้เกิดความร่วมมือ และการแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในด้านรถไฟอย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นถึงความทุ่มเทของทั้งสองประเทศ ในการส่งเสริมนวัตกรรมระบบรางไปพร้อมกับการให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน



ด้าน ดร.แอ็นสท์ ว็อล์ฟกัง ไรเชิล กล่าวว่า ความร่วมมือด้านระบบรางที่มีร่วมกันมาอย่างยาวนานระหว่างเยอรมนีและประเทศไทย มีพื้นฐานมาจากการแลกเปลี่ยนความรู้และทักษะระหว่างผู้เชี่ยวชาญ โดยภายใต้กรอบความร่วมมือนี้ สมาคมระบบรางเยอรมัน-ไทย จะมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมความสัมพันธ์อันใกล้ชิดด้านเทคโนโลยีระบบราง ซึ่งมีความก้าวหน้ามาอย่างต่อเนื่องกว่าหนึ่งศตวรรษ และมีความมุ่งมั่นร่วมกันในการส่งเสริมแนวทางการขนส่งที่ยั่งยืนเพื่อเปลี่ยนผ่านสู่การเดินทางในอนาคต (Future Mobility) ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองประเทศ และประเทศอื่น ๆ ความร่วมมือครั้งนี้ เป็นตัวอย่างของความพยายามร่วมกันของสองประเทศในการแก้ไขปัญหาระดับโลก เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ปัญหาการจราจรติดขัด และการจัดการทรัพยากร เพื่อสร้างอนาคตที่ยืดหยุ่น และยั่งยืนยิ่งขึ้นสำหรับคนรุ่นต่อๆ ไปด้วย. : https://www.dailynews.co.th/news/4170847/

กรมการขนส่งทางราง ร่วมพิธีลงนามต่ออายุความร่วมมือไทย-เยอรมัน (Joint Declaration of Intent: JDI)
วันนี้ (9 ธ.ค. 67) นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง เข้าร่วมพิธีลงนามความตกลงว่าด้วยการต่ออายุแถลงการณ์ร่วมแสดงเจตจำนงว่าด้วยการพัฒนาความร่วมมือด้านรถไฟ (Joint Declaration of Intent: JDI) ระหว่างกระทรวงคมนาคมแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงดิจิทัลและคมนาคมแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี โดยมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และ ดร. แอ็นสท์ ว็อล์ฟกัง ไรเชิล เอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีประจำประเทศไทย ร่วมเป็นประธานพิธี พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงคมนาคม และหัวหน้าหน่วยงานด้านระบบรางในสังกัด เข้าร่วมพิธี ณ หอประชุมราชรถสโมสร กระทรวงคมนาคม
การลงนามในครั้งนี้สืบเนื่องจากความร่วมมือที่ทั้งสองประเทศได้ริเริ่มตั้งแต่วันที่ 23 พฤศจิกายน 2559 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาและกระชับความร่วมมือด้านระบบราง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาการขนส่งทางรางและระบบขนส่งมวลชนในเมือง ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการต่ออายุความร่วมมือจำนวน 2 ครั้ง สำหรับความร่วมมือฉบับใหม่นี้ จะมีผลต่อเนื่องโดยอัตโนมัติเป็นระยะเวลา 2 ปี นับตั้งแต่วันที่ 23 พฤศจิกายน 2566 ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ความร่วมมือระหว่างไทยและเยอรมนีได้ก่อให้เกิดการพัฒนาที่เป็นรูปธรรมหลายประการ อาทิ การจัดตั้งสมาคมระบบรางเยอรมัน-ไทย (German-Thai Railway Association: GTRA) เพื่อเป็นช่องทางในการแลกเปลี่ยนความรู้ การพัฒนาบุคลากร และการวิจัยต่างๆ การสร้างความร่วมมือทางวิชาการระหว่างสองประเทศ รวมถึงการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี
รัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในด้านระบบราง ซึ่งเป็นหนึ่งในรูปแบบการขนส่งที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืน ด้วยการนำเทคโนโลยีชั้นสูงที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้านระบบรางมาประยุกต์ใช้ เพื่อที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยความร่วมมือกับประเทศเยอรมนีซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำด้านอุตสาหกรรมระบบรางที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการวิจัย พัฒนา และผลิตเทคโนโลยีที่ทันสมัย ซึ่งนำไปสู่การพัฒนาระบบขนส่งที่มีประสิทธิภาพ มีความปลอดภัยสูง และตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนอย่างยั่งยืน และสอดคล้องกับเป้าหมายของประเทศไทยในการพัฒนาระบบคมนาคมที่ทันสมัย โดยหลายโครงการรถไฟฟ้าหลายสายก็ได้ใช้เทคโนโลยีจากต่างประเทศ เช่น รถไฟฟ้าสายสีเขียว สายสีน้ำเงิน และโครงการแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ อีกทั้งยังได้มีการนำระบบรถไฟฟ้าขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (APM) ในสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งล้วนเป็นเทคโนโลยีของเยอรมนี
การลงนามในครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของทั้งสองประเทศในการเสริมสร้างความร่วมมือระดับทวิภาคี เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาระบบราง ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนเป้าหมายรัฐบาลไทย ที่เน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมสร้างองค์ความรู้ด้านระบบราง เพิ่มจำนวนผู้เชี่ยวชาญในประเทศไทยผ่านการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ การฝึกอบรม และการวิจัยร่วมกัน ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาศักยภาพการให้บริการแก่ประชาชน และการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศต่อไป
https://www.facebook.com/DRT.OfficialFanpage/posts/885172063807257
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 47679
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 14/12/2024 4:20 pm    Post subject: Reply with quote

กรมการขนส่งทางราง กระทรวงคมนาคม
14 ธ.ค. 67

กรมรางเผยศุกร์ 13 ธันวาคม 2567 มีคนใช้บริการรถไฟฟ้าเข้าร่วมงานกาชาดจำนวนมาก ส่งผลให้มีผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล (สีน้ำเงิน) 558,340 คนเที่ยว สูงสุดตั้งแต่สถานการณ์ covid-19

นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางรางเปิดเผยว่า เมื่อวาน วันศุกร์ 13 ธันวาคม 2567 มีผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล (สีน้ำเงิน) จำนวน 558,340 คน-เที่ยว สูงสุดตั้งแต่มีสถานการณ์ covid-19 (นิวไฮ) โดยก่อนหน้านี้มีผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล (สีน้ำเงิน) สูงสุดครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 15 พ.ย.67 (วันลอยกระทง) ซึ่งมียอดผู้ใช้บริการจำนวน 558,165 คน-เที่ยว ทั้งนี้ ในวันที่ 13 ธ.ค. 67 มีผู้ใช้บริการระบบราง รวมทั้งสิ้น 1,897,682 คน-เที่ยว ซึ่งประกอบด้วย

1. รถไฟระหว่างเมืองของ รฟท. ให้บริการเดินรถไฟ 210 ขบวน มีผู้ใช้บริการรวม 80,373 คน-เที่ยว แบ่งเป็น ขบวนรถเชิงพาณิชย์ 29,335 คน-เที่ยว และขบวนรถเชิงสังคม 51,038 คน-เที่ยว
2. รถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล 1,817,309 คน-เที่ยว ประกอบด้วย
- รถไฟฟ้า Airport Rail Link ให้บริการ 222 เที่ยววิ่ง (รวมเสริม 7 เที่ยววิ่ง) จำนวน 80,375 คน-เที่ยว
- รถไฟฟ้าสายสีแดง ให้บริการ 294 เที่ยววิ่ง จำนวน 41,968 คน-เที่ยว
- รถไฟฟ้าสายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง) ให้บริการ 321 เที่ยววิ่ง (รวมเสริม 3 เที่ยววิ่ง) จำนวน 85,924 คน-เที่ยว
-รถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล (สายสีน้ำเงิน) ให้บริการ 505 เที่ยววิ่ง (รวมเสริม 39 เที่ยววิ่ง) จำนวน 558,340 คน-เที่ยว ซึ่งมีผู้ใช้บริการสูงสุดตั้งแต่เปิดให้บริการ
- รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว (สายสุขุมวิทและสายสีลม) ให้บริการ 1,240 เที่ยววิ่ง จำนวน 917,863 คน-เที่ยว
- รถไฟฟ้า BTS สายสีทอง ให้บริการ 219 เที่ยววิ่ง จำนวน 10,226 คน-เที่ยว
- รถไฟฟ้ามหานคร สายสีเหลืองให้บริการ 276 เที่ยววิ่ง จำนวน 50,768 คน-เที่ยว
- รถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพูให้บริการ 276 เที่ยววิ่ง จำนวน 71,845 คน-เที่ยว

นายพิเชฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า งานกาชาดประจำปี 2567 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-22 ธันวาคม 2567 ที่สวนลุมพินี และสามารถเข้าร่วมงานได้ฟรีตั้งแต่เวลา 11.00-22.00 น. และวันสุดท้ายปิดเวลา 23.00 น. โดยขอเชิญชวนประชาชนใช้บริการระบบรถไฟในการเดินทางเข้าร่วมงานด้วยรถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล (สายสีน้ำเงิน) ที่สถานีสีลม ทางออก 1 และสถานีลุมพินี ทางออก 3 หรือรถไฟฟ้าสายสีลมที่สถานีราชดำริ ทางออก 4 และสถานีศาลาแดง ทางออก 6 เพื่อลดปัญหาการจราจรติดขัด และลดมลพิษทางอากาศ ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางรางได้ประสานผู้ให้บริการระบบรถไฟฟ้าปรับเพิ่มความถี่ในช่วงเวลาที่มีการเดินทางหนาแนน พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่จำหน่ายเหรียญ/บัตรโดยสารรถไฟฟ้าเพิ่มเติมที่สถานีรถไฟฟ้าใกล้เคียงงานกาชาด เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการระบบราง


Department of Rail Transport, Ministry of Transport of Thailand
December 14, 2024

Department of Rail Transport reports a large number of people using electric trains to attend the Red Cross Fair on Friday, December 13, 2024, resulting in the highest number of passengers on the Chalerm Ratchamongkhon (Blue) Line since the COVID-19 situation.

Mr. Pichet Kunadhamraks, Director-General of the Department of Rail Transport, revealed that yesterday, Friday, December 13, 2024, there were 558,340 passengers on the Chalerm Ratchamongkhon (Blue) Line, the highest since the COVID-19 situation (new high). Previously, the highest number of passengers on the Chalerm Ratchamongkhon (Blue) Line was on November 15, 2024 (Loy Krathong Day), with 558,165 passengers. On December 13, 2024, there were a total of 1,897,682 passengers on the rail system, consisting of:

1. Intercity trains of the State Railway of Thailand (SRT): 210 trains were in service, with a total of 80,373 passengers, divided into 29,335 passengers on commercial trains and 51,038 passengers on social trains.

2. Electric trains in Bangkok and metropolitan areas: 1,817,309 passengers, consisting of:
- Airport Rail Link: 222 train services (including 7 extra services) with 80,375 passengers.
- Red Line: 294 train services with 41,968 passengers.
- Chalong Ratchadham (Purple) Line: 321 train services (including 3 extra services) with 85,924 passengers.
- Chalerm Ratchamongkhon (Blue) Line: 505 train services (including 39 extra services) with 558,340 passengers, the highest number since its opening.
- BTS Green Line (Sukhumvit and Silom Lines): 1,240 train services with 917,863 passengers.
- BTS Gold Line: 219 train services with 10,226 passengers.
- Mahanakhon Yellow Line: 276 train services with 50,768 passengers.
- Mahanakhon Pink Line: 276 train services with 71,845 passengers.

Mr. Pichet added that the 2024 Red Cross Fair is being held from December 11-22, 2024, at Lumpini Park and is free to enter from 11:00 AM to 10:00 PM, with the last day closing at 11:00 PM. He invited the public to use the rail system to travel to the event by taking the Chalerm Ratchamongkhon (Blue) Line and getting off at Silom Station Exit 1 or Lumphini Station Exit 3, or the Silom Line and getting off at Ratchadamri Station Exit 4 or Sala Daeng Station Exit 6 to reduce traffic congestion and air pollution. The Department of Rail Transport has coordinated with the electric train service providers to increase the frequency of trains during peak hours and has also arranged for additional staff to sell tokens/tickets at stations near the Red Cross Fair to facilitate passengers.

https://www.facebook.com/DRT.OfficialFanpage/posts/888339806823816
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44162
Location: NECTEC

PostPosted: 15/12/2024 11:12 am    Post subject: Reply with quote

กรมรางลงพื้นที่”แหลมฉบัง”ถกผู้ประกอบการ เร่งศึกษาโครงสร้างต้นทุนหวังเพิ่มปริมาณขนส่งทางราง
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันศุกร์ ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2567 เวลา 23:02 น.
ปรับปรุง: วันศุกร์ ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2567 เวลา 23:02 น.
• วัตถุประสงค์เพื่อศึกษาโครงสร้างต้นทุนและกำหนดอัตราค่าขนส่งที่เหมาะสม
• ปริมาณตู้สินค้าไอซีดีลาดกระบัง-ท่าเรือแหลมฉบัง เพิ่มขึ้น 15.2% ในปี 2567
• กรมการขนส่งทางรางมีแผนพัฒนาโครงข่ายรถไฟเฟส 3 เพื่อเพิ่มปริมาณการขนส่งทางราง


กรมรางลงพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง Workshop ผู้ประกอบการขนส่ง ศึกษาโครงสร้างต้นทุนเพื่อกำหนดอัตราที่เหมาะสม เผย ปี 67 ตู้สินค้าไอซีดีลาดกระบัง-ทลฉ.เพิ่มขึ้น 15.2% และเตรียมแผนรถไฟเชื่อมเฟส 3 เพิ่มปริมาณขนส่งทางราง

วันที่ 13 ธ.ค. 67 นายอธิภู จิตรานุเคราะห์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) นำเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางราง พร้อมด้วยผู้แทนจากหน่วยงานด้านระบบราง และผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งสินค้าทางราง ลงพื้นที่สำนักงานด่านศุลกากรแหลมฉบัง และศูนย์การขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟ ท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี เพื่อติดตามการเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งสินค้าทางรางระหว่าง ICD ลาดกระบัง และท่าเรือแหลมฉบัง

โดยโครงการศูนย์การขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟ ท่าเรือแหลมฉบัง(Single Rail Transfer Operator: SRTO) นั้น ขร. ได้ติดตามแก้ไขปัญหาจุดตัดทางรถไฟภายในท่าเรือแหลมฉบัง โดยการติดตั้งเครื่องกั้นถนนหรือการก่อสร้างจุดตัดต่างระดับ และหารือแนวทางการพัฒนาระบบอาณัติสัญญาณเพื่อรองรับการขนส่งทางรางที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น


พร้อมทั้งได้ติดตามการบริหารจัดการขนถ่ายตู้สินค้าพื้นที่ SRTO ซึ่งจากสถิติการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) พบว่า ในปีงบประมาณ 2567 มีจำนวนตู้สินค้าเข้า-ออกท่าเรือแหลมฉบังกว่า 9.46 ล้านทีอียู มีขบวนรถไฟขนส่งสินค้าเส้นทางไอซีดีลาดกระบัง – ท่าเรือแหลมฉบัง วันละ 30 เที่ยว (ไป-กลับ) โดยในปี 2567 มีปริมาณขนส่งสินค้าทางรถไฟเพิ่มขึ้นจากปีก่อนคิดเป็น 15%


@ปี 67 ขนส่งทางรางจากไอซีดีลาดกระบัง-ทลฉ.เพิ่มขึ้น 15.2%

โดยปริมาณการขนส่ง เส้นทางจากไอซีดีลาดกระบัง-แหลมฉบังในปี 2566 พบว่ามีจำนวน 1.266 ล้านทีอียู แบ่งเป็นการขนส่งโดยรถยนต์จำนวน 8.627 แสนทีอียู (68.1%) ขนส่งทางรถไฟจำนวน 4.037 แสนทีอียู (31.9%) ส่วนปี 2567 มีปริมาณการขนส่งรวม 1.278 ล้านทีอียู เพิ่มขึ้นจากปี 66 ประมาณ 1% แบ่งเป็นการขนส่งโดยรถยนต์จำนวน 8.134 แสนทีอียู (63.6%) ลดลงจากปีก่อน 5.7% ขนส่งทางรถไฟจำนวน 4.653 แสนทีอียู (36.4%) เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 15.2%

@หารือผุดรถไฟสายใหม่เชื่อมตรงเข้าทลฉ.เฟส3

นอกจากนี้ยังได้มีการหารือเพื่อเตรียมความเป็นไปได้ในการพัฒนาทางรถไฟเส้นใหม่เชื่อมท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 โดยตรงเพิ่มเติม เพื่อขยายความขีดสามารถการขนส่งสินค้าทางรางเข้าสู่ท่าเรือแหลมฉบังให้เป็นไปตามเป้าหมายรัฐบาลที่ 30 % ของปริมาณตู้สินค้าผ่านท่าเรือทั้งหมด


ในส่วนของสำนักงานด่านศุลกากรแหลมฉบัง ขร. ได้มีการหารือเกี่ยวกับการนำเทคโนโลยีในการตรวจวิเคราะห์สินค้าภายในตู้คอนเทนเนอร์ การใช้เทคโนโลยี Fast Scan และการตรวจสอบตู้สินค้าผ่านการ X-ray Scan ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่กรมศุลกากรนำมาใช้เพื่ออำนวยความสะดวกในการตรวจปล่อยสินค้า และป้องกันการลักลอบนำเข้าสินค้าและสิ่งผิดกฎหมายต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการติดตามการแก้ไขปัญหาอุปสรรคในการขนส่งสินค้าทางรถไฟเข้าไปยังท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อผลักดันแนวทางส่งเสริมการขนส่งสินค้าทางราง ซึ่งถือว่าเป็นการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาการจราจรภายในท่าเรือแหลมฉบังอีกด้วย


อย่างไรก็ตาม ขร.จะนำข้อมูลที่ได้จาก Workshop ผู้ประกอบการขนส่งสินค้าในครั้งนี้ ไปวิเคราะห์ เพื่อศึกษาโครงสร้างต้นทุนและปัจจัยที่เกี่ยวข้องในปัจจุบัน เพื่อกำหนดอัตราขั้นสูงของค่าขนส่ง ค่าใช้ประโยชน์จากราง และค่าบริการในการประกอบกิจการขนส่งทางรางในอนาคตอย่างเหมาะสม รวมถึงการจัดทำหลักเกณฑ์ วิธีการกำหนดอัตราขั้นสูงในด้านต่างๆ มาตรการกำกับ หรือกฎระเบียบ ที่เกี่ยวกับอัตราค่าขนส่งทางราง เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการหันมาใช้บริการขนส่งสินค้าทางรางมากยิ่งขึ้น

Wisarut wrote:
✨🚋 กรมรางเร่งพัฒนาระบบการขนส่งสินค้าทางราง พร้อมเดินหน้าศึกษาการกำหนดอัตราขั้นสูงและหลักเกณฑ์การทบทวนอัตราค่าขนส่งทางราง

https://www.facebook.com/DRT.OfficialFanpage/posts/886980566959740
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44162
Location: NECTEC

PostPosted: 16/12/2024 11:50 am    Post subject: Reply with quote

ผู้โดยสารพุ่ง!งานกาชาดศุกร์ 13 ธ.ค.ดัน ยอดรถไฟฟ้าสีน้ำเงินทะลัก กว่า 5.58 แสนคน
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันอาทิตย์ ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2567 เวลา 10:54 น.
ปรับปรุง: วันอาทิตย์ ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2567 เวลา 10:54 น.

งานกาชาด ศุกร์ 13 ธ.ค. ผู้โดยสาร “สายสีน้ำเงิน” นิวไฮ! 558,340 คน สูงสุดตั้งแต่เปิดบริการ
ข่าวนวัตกรรมขนส่ง
วันเสาร์ ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2567 เวลา 16:21 น.

ศุกร์ 13 ธ.ค. “สายสีน้ำเงิน” ผู้โดยสารนิวไฮ 558,340 คน สูงสุดนับตั้งแต่เปิดให้บริการ ขณะที่ภาพรวมผู้ใช้บริการระบบรางอยู่ที่ 1.89 ล้านคน “กรมราง” ชวนประชาชนนั่งรถไฟฟ้าเที่ยวงานกาชาด ปี 67 ช่วยลดปัญหารถติด มลพิษทางอากาศ.

• รถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล (สีน้ำเงิน) มีผู้โดยสารสูงสุด 558,340 คน นับตั้งแต่สถานการณ์โควิด-19

กรมรางเผยศุกร์ 13 ธันวาคม 2567 มีคนใช้บริการรถไฟฟ้าเข้าร่วมงานกาชาดจำนวนมาก ส่งผลให้มีผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล (สีน้ำเงิน) 558,340 คน สูงสุดตั้งแต่สถานการณ์ covid-19

นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยว่า
เมื่อวาน วันศุกร์ 13 ธันวาคม 2567 มีผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล (สีน้ำเงิน) จำนวน 558,340 คน-เที่ยว สูงสุดตั้งแต่มีสถานการณ์ covid-19 (นิวไฮ) โดยก่อนหน้านี้มีผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล (สีน้ำเงิน) สูงสุดครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 15 พ.ย.67 (วันลอยกระทง) ซึ่งมียอดผู้ใช้บริการจำนวน 558,165 คน-เที่ยว ทั้งนี้ ในวันที่ 13 ธ.ค. 67 มีผู้ใช้บริการระบบราง รวมทั้งสิ้น 1,897,682 คน-เที่ยว ซึ่งประกอบด้วย

1. รถไฟระหว่างเมืองของ รฟท. ให้บริการเดินรถไฟ 210 ขบวน มีผู้ใช้บริการรวม 80,373 คน-เที่ยว แบ่งเป็น ขบวนรถเชิงพาณิชย์ 29,335 คน-เที่ยว และขบวนรถเชิงสังคม 51,038 คน-เที่ยว

2. รถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล 1,817,309 คน-เที่ยว ประกอบด้วย
- รถไฟฟ้า Airport Rail Link ให้บริการ 222 เที่ยววิ่ง (รวมเสริม 7 เที่ยววิ่ง) จำนวน 80,375 คน-เที่ยว
- รถไฟฟ้าสายสีแดง ให้บริการ 294 เที่ยววิ่ง จำนวน 41,968 คน-เที่ยว
- รถไฟฟ้าสายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง) ให้บริการ 321 เที่ยววิ่ง (รวมเสริม 3 เที่ยววิ่ง) จำนวน 85,924 คน-เที่ยว
-รถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล (สายสีน้ำเงิน) ให้บริการ 505 เที่ยววิ่ง (รวมเสริม 39 เที่ยววิ่ง) จำนวน 558,340 คน-เที่ยว ซึ่งมีผู้ใช้บริการสูงสุดตั้งแต่เปิดให้บริการ



- รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว (สายสุขุมวิทและสายสีลม) ให้บริการ 1,240 เที่ยววิ่ง จำนวน 917,863 คน-เที่ยว
- รถไฟฟ้า BTS สายสีทอง ให้บริการ 219 เที่ยววิ่ง จำนวน 10,226 คน-เที่ยว

- รถไฟฟ้ามหานคร สายสีเหลืองให้บริการ 276 เที่ยววิ่ง จำนวน 50,768 คน-เที่ยว
- รถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพูให้บริการ 276 เที่ยววิ่ง จำนวน 71,845 คน-เที่ยว



นายพิเชฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า งานกาชาดประจำปี 2567 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-22 ธันวาคม 2567 ที่สวนลุมพินี และสามารถเข้าร่วมงานได้ฟรีตั้งแต่เวลา 11.00-22.00 น. และวันสุดท้ายปิดเวลา 23.00 น. โดยขอเชิญชวนประชาชนใช้บริการระบบรถไฟในการเดินทางเข้าร่วมงานด้วยรถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล (สายสีน้ำเงิน) ที่สถานีสีลม ทางออก 1 และสถานีลุมพินี ทางออก 3 หรือรถไฟฟ้าสายสีลมที่สถานีราชดำริ ทางออก 4 และสถานีศาลาแดง ทางออก 6 เพื่อลดปัญหาการจราจรติดขัด และลดมลพิษทางอากาศ ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางรางได้ประสานผู้ให้บริการระบบรถไฟฟ้าปรับเพิ่มความถี่ในช่วงเวลาที่มีการเดินทางหนาแนน พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่จำหน่ายเหรียญ/บัตรโดยสารรถไฟฟ้าเพิ่มเติมที่สถานีรถไฟฟ้าใกล้เคียงงานกาชาด เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการระบบราง


Mongwin wrote:
กรมการขนส่งทางราง กระทรวงคมนาคม
วันเสาร์ ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2567

กรมรางเผยศุกร์ 13 ธันวาคม 2567 มีคนใช้บริการรถไฟฟ้าเข้าร่วมงานกาชาดจำนวนมาก ส่งผลให้มีผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล (สีน้ำเงิน) 558,340 คนเที่ยว สูงสุดตั้งแต่สถานการณ์ covid-19
https://www.facebook.com/DRT.OfficialFanpage/posts/888339806823816
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44162
Location: NECTEC

PostPosted: 23/12/2024 11:45 pm    Post subject: Reply with quote

กรมการขนส่งทางราง (ขร.) ดำเนินการศึกษามาตรฐานสากล UIC ด้านการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อป้องกันเหตุอันตรายต่อระบบราง โดยส่วนหนึ่งของการศึกษาคือการใช้กล้อง CCTV ที่มีระบบ AI มาช่วยในการตรวจจับเหตุอันตรายและแจ้งเตือนโดยอัตโนมัติแบบเรียลไทม์ โดย ขร. ได้สนับสนุนการนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาใช้ในการตรวจจับผู้บุกรุกในพื้นที่ระบบรางของรถไฟสายสีแดงและการลักลอบขโมยสายไฟ ซึ่งพบการก่อเหตุมากว่า 14 ครั้งในช่วงที่ผ่านมา
ภายหลังการติดตั้งกล้อง CCTV ที่มีระบบ AI ตรวจจับเหตุอันตรายพบว่า เหตุบุกรุกในพื้นที่ระบบรางรถไฟสายสีแดงและเหตุลักลอบขโมยสายไฟจากจำนวนการก่อเหตุ 14 ครั้ง ลดลงเหลือเพียง 2 ครั้ง
ขร. จึงได้ขยายผลโดยได้ดำเนินการร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทยและสถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง
ศึกษาพื้นที่นำร่องเพิ่มเติมในการนำเทคโนโลยีดังกล่าวที่ใช้งานได้ผลมาแล้ว มาใช้ในบริเวณจุดตัดทางรถไฟเพื่อตรวจจับยานพาหนะและป้องกันการฝ่าเครื่องกั้นหรือการติดค้างบนจุดตัดทางรถไฟจำนวน 3 จุด ได้แก่
1.ที่หยุดรถคลองแขวงกลั่น (กม.50+9995:60)
2.วัดพนัญเชิง (กม.69+582.00) และ
3.บ้านคลองสำพรึง (กม.272+406.00)
ทั้งนี้ ขร. ยังคงมุ่งศึกษาแนวทางในการดำเนินการที่จะนำเทคโนโลยีการติดตั้งกล้อง CCTV ที่มีระบบ
การตรวจจับด้วยระบบ AI ตรวจจับเหตุอันตรายและแจ้งเตือนโดยอัตโนมัติ โดยจะมีการหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
โดยคาดว่าจะมีการดำเนินการติดตั้งกล้อง CCTV เพิ่มเติมอีก 5 จุด เพื่อเป็นแนวทางในการแก้ไขและลดปัญหาเหตุอันตรายต่อระบบรางให้เกิดประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูงสุดต่อไป
https://www.facebook.com/DRT.OfficialFanpage/posts/894554199535710
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 47679
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 29/12/2024 5:28 am    Post subject: Reply with quote

ยอดใช้บริการขนส่งทางรางช่วงหยุดเทศกาลปีใหม่วันแรกต่ำกว่าคาด 3.31%
Source - IQ สำนักข่าวอินโฟเควสท์
Saturday, December 28, 2024 16:33

กรมการขนส่งทางราง เผยวันแรกของวันหยุดต่อเนื่องในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 (27 ธ.ค.67 - 2 ม.ค.68 ) มีผู้ใช้บริการระบบราง รวมทั้งสิ้นจำนวน 1,611,827 คน-เที่ยว ต่ำกว่าประมาณการ 55,136 คน-เที่ยว หรือต่ำกว่าประมาณการ 3.31% (ที่ประมาณการ 1,666,963 คน-เที่ยว) แบ่งเป็น รถไฟระหว่างเมืองของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จำนวน 99,515 คน-เที่ยว และรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลและรถไฟชานเมือง จำนวน 1,512,312 คน-เที่ยว

- รถไฟระหว่างเมืองของ รฟท. ให้บริการรวม 215 ขบวน (รวมขบวนรถพิเศษช่วยการโดยสาร 5 ขบวน คือ ขบวน 955 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ - ศิลาอาสน์ / ขบวน 977 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ - อุบลราชธานี / ขบวน 967 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ - อุดรธานี / ขบวน 983 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ - ชุมทาง หาดใหญ่ และขบวน 5 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – เชียงใหม่ รองรับผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น 3,023 คน-เที่ยว) มีผู้ใช้บริการจำนวน 99,515 คน-เที่ยว สูงกว่าประมาณการ 4,251 คน-เที่ยว หรือสูงกว่าประมาณการ4.46% (ประมาณการ 95,264 คน-เที่ยว) แบ่งเป็นผู้โดยสารเชิงพาณิชย์ 44,366 คน-เที่ยว และเชิงสังคม 55,149 คน-เที่ยว โดยมีผู้โดยสารขาออกจำนวน 54,448 คน-เที่ยว และผู้โดยสารขาเข้า 45,425 คน-เที่ยว โดยพบว่า สายใต้มีผู้ใช้บริการมากสุดถึง 30,110 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 15,809 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 14,301 คน-เที่ยว) รองลงมาคือสายตะวันออกเฉียงเหนือมีผู้ใช้บริการ 28,591 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 16,821 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 11,770 คน-เที่ยว) สายเหนือ 21,098 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 11,886 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 9,212 คน-เที่ยว) สายตะวันออก 11,485 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 5,675 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 5,810 คน-เที่ยว) และสายแม่กลองและมหาชัย 8,231 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 4,257 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 3,974 คน-เที่ยว) โดยไม่มีผู้โดยสารตกค้างที่สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) และสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์

- ระบบรถไฟฟ้า ให้บริการเดินรถไฟฟ้ารวม 3,512 เที่ยว (รวมเสริม 75 เที่ยว) มีผู้ใช้บริการรวมจำนวน 1,512,312 คน-เที่ยว ต่ำกว่าประมาณการ 59,387 คน-เที่ยว หรือต่ำกว่าประมาณการ 3.78% (ที่ประมาณการ 1,571,699 คน-เที่ยว) ประกอบด้วย

- รถไฟฟ้า Airport Rail Link ให้บริการ 221 เที่ยว (รวมเสริม 7 เที่ยว) มีผู้ใช้บริการจำนวน 70,280 คน-เที่ยว

- รถไฟฟ้าชานเมือง (สายสีแดง) ให้บริการ 294 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 37,584 คน-เที่ยว

- รถไฟฟ้าสายฉลองรัชธรรม (สีม่วง) ให้บริการ 502 เที่ยว (รวมเสริม 36 เที่ยว) มีผู้ใช้บริการจำนวน 70,122 คน

- รถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล (สีน้ำเงิน) ให้บริการ 484 เที่ยว (รวมรถเสริม 32 เที่ยว) มีผู้ใช้บริการจำนวน 432,770 คน-เที่ยว

- รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว (สายสุขุมวิทและสายสีลม) ให้บริการ 1,240 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 779,980 คน-เที่ยว

- รถไฟฟ้าสายสีทอง ให้บริการ 219 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 13,211 คน- เที่ยว

- รถไฟฟ้าสายนัคราพิพัฒน์ (สีเหลือง) ให้บริการ 276 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 43,560 คน-เที่ยว

- รถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู ให้บริการ 276 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 64,805 คน-เที่ยว


สำหรับในวันนี้ รฟท. ได้พ่วงตู้โดยสารไปกับขบวนรถโดยสารที่มีผู้โดยสารหนาแน่น และจัดขบวนรถพิเศษช่วยการโดยสาร 4 ขบวน แบ่งเป็นเที่ยวไป 1 ขบวน คือขบวน 973 ออกจากสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ เวลา 23.30 น. ถึงสถานีอุบลราชธานีเวลา 10.55 น. ของวันรุ่งขึ้น และเที่ยวกลับ 3 ขบวน ได้แก่ ขบวน 978 อุบลราชธานี-กรุงเทพอภิวัฒน์ ขบวน 984 ชุมทางหาดใหญ่-กรุงเทพอภิวัฒน์ และขบวน 6 เชียงใหม่- กรุงเทพอภิวัฒน์ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนผู้ใช้ระบบราง โดยคาดว่าไม่มีผู้โดยสารตกค้าง

ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางรางได้ประสาน รฟท. ให้กำชับเจ้าหน้าที่บนขบวนรถและนายสถานีประชาสัมพันธ์ผู้โดยสารงดนั่งและยืนบริเวณบันไดและบริเวณรอยต่อของตู้รถไฟ (gangway) เพื่อป้องกันอุบัติเหตุผู้โดยสารพลัดตกจากขบวนรถ นอกจากนี้ กรมการขนส่งทางรางประสานผู้ให้บริการระบบราง ดำเนินการตรวจวัดแอลกอฮอล์ผู้ปฏิบัติงานก่อนปฏิบัติหน้าที่เดินรถขนส่งทางราง รวมทั้งประสานฝ่ายความมั่นคงมาช่วยดูแลในพื้นที่ระบบรางมากขึ้น อีกทั้งประสานจังหวัดที่มีทางรถไฟผ่าน ให้จัดเจ้าหน้าที่/อาสาสมัคร/กู้ภัย/ อปพร. มาเฝ้าระวังเหตุบริเวณจุดตัดทางรถไฟกับถนนที่เป็นทางลักผ่าน เพื่ออำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 นี้ด้วย โดยประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือผู้ใช้รถใช้ถนน ปฏิบัติตามกฎจราจร โดยหยุดรถก่อนถึงจุดตัดทางรถไฟไม่น้อยกว่า 5 เมตร เมื่อเห็นว่าปลอดภัยจึงขับผ่าน และไม่ฝ่าฝืนสัญญาณเครื่องกั้นทางรถไฟ


## Rail Transport Usage on First Day of New Year Holidays Lower Than Expected by 3.31%
Source - IQ Infoquest
Saturday, December 28, 2024, 16:33

The Department of Rail Transport (DRT) reported that on the first day of the New Year holidays (December 27, 2024, to January 2, 2025), a total of 1,611,827 passenger trips were recorded on the rail system. This figure is lower than the projected 1,666,963 passenger trips, marking a 3.31% decrease.

This total comprises:

* **Intercity trains operated by the State Railway of Thailand (SRT):** 99,515 passenger trips
* **Urban rail systems in Bangkok, metropolitan areas, and suburban trains:** 1,512,312 passenger trips

**Details:**

* **SRT Intercity Trains:** 215 trains operated, including 5 special trains to accommodate increased passenger numbers. The actual passenger count of 99,515 exceeded the estimate by 4.46%. The Southern Line saw the highest usage. No passengers were stranded at Bangkok (Hua Lamphong) Station or Krung Thep Aphiwat Central Terminal.
* **Urban Rail Systems:** A total of 3,512 train trips were operated, including 75 additional trips. The total of 1,512,312 passenger trips was 3.78% lower than projected. A breakdown of passenger numbers by line is provided (Airport Rail Link, SRT Red Line, Purple Line, Blue Line, BTS Green Line, Gold Line, Yellow Line, and Pink Line).

**Measures to Facilitate Travel:**

* The SRT has added carriages to crowded trains and arranged 4 special trains to accommodate passengers.
* The DRT is coordinating with the SRT to ensure passenger safety by discouraging sitting or standing on stairs and between carriages.
* Alcohol tests are being conducted on rail staff before their shifts.
* Security personnel are present in rail areas.
* Provinces with railway lines are deploying personnel to monitor safety at unauthorized railway crossings.
* Road users are urged to comply with traffic laws at railway crossings.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 47679
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 30/12/2024 8:23 pm    Post subject: Reply with quote

กรมรางเผยยอดผู้โดยสารรถไฟ-รถไฟฟ้า ปีใหม่ 68 สะสม 3 วัน รวมกว่า 3.86 ล้านคน
ผู้จัดการออนไลน์ 30 ธ.ค. 2567 13:29

KEY POINTS
• เกิดอุบัติเหตุรถไฟชนเสาโทรเลข แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ
• กรมรางเข้มงวดมาตรการความปลอดภัย โดยเฉพาะจุดตัดทางลักผ่าน เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ

กรมรางเผยผู้โดยสารรถไฟ-รถไฟฟ้า ต่ำกว่าคาดการณ์ หยุดยาวปีใหม่ 68 สะสม 3 วัน รวมกว่า 3.86 ล้านคน เกิดเหตุรถไฟชนเสาโทรเลขหัก ไม่มีผู้บาดเจ็บ เข้มเฝ้าระวังบริเวณจุดตัดทางลักผ่าน เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ

นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง เปิดเผยว่า ภาพรวม ของวันหยุดยาวต่อเนื่องของเทศกาลปีใหม่ 2568 ตั้งแต่วันที่ 27-29 ธ.ค.2567 รวม 3 วันที่ผ่านมา มีผู้ใช้บริการระบบรางสะสม รวม 3,868,520 คน-เที่ยว แบ่งเป็นรถไฟระหว่างเมืองของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จำนวน 295,022 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารเชิงพาณิชย์ 127,530 คน-เที่ยว และผู้โดยสารเชิงสังคม 167,482 คน-เที่ยว) แบ่งเป็นผู้โดยสารขาออก 161,264 คน-เที่ยว และผู้โดยสารขาเข้า 131,758 คน-เที่ยว

โดย รฟท. พ่วงตู้เสริมไปกับขบวนรถที่มีผู้โดยสารหนาแน่น และจัดขบวนพิเศษช่วยการโดยสารแล้ว 11 ขบวน (เที่ยวไป 8 ขบวน และเที่ยวกลับ 3 ขบวน) มีผู้ใช้บริการ 5,468 คน-เที่ยว โดยมีผู้โดยสารสายใต้มากสุด 94,826 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 49,428 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 45,398 คน-เที่ยว) รองลงมาคือสายตะวันออกเฉียงเหนือมีผู้ใช้บริการ 80,516 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 47,715 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 32,801 คน-เที่ยว) สายเหนือ 58,753 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 31,670 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 27,083 คน-เที่ยว) สายตะวันออก 35,174 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 19,039 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 16,135 คน-เที่ยว) และสายแม่กลองและมหาชัย 25,753 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 13,412 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 12,341 คน-เที่ยว)

ส่วนระบบรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล มีผู้ใช้บริการสะสม 3 วันรวม 3,573,498 คน-เที่ยว

@ระบบราง ผู้โดยสารต่ำกว่าคาดการณ์

โดยเมื่อวานนี้ (29 ธันวาคม 67) มีประชาชนใช้บริการระบบราง รวมทั้งสิ้นจำนวน 1,081,779 คน-เที่ยว ต่ำกว่าประมาณการ 115,178 คน-เที่ยว หรือต่ำกว่าประมาณการร้อยละ 9.62 (ที่ประมาณการ 1,196,957 คน-เที่ยว) แบ่งเป็น รถไฟระหว่างเมืองของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จำนวน 93,744 คน-เที่ยว และรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลและรถไฟชานเมือง จำนวน 988,035 คน-เที่ยว โดยมีรายละเอียด ดังนี้

1. รถไฟระหว่างเมืองของ รฟท. ให้บริการรวม 208 ขบวน มีผู้ใช้บริการจำนวน 93,744 คน-เที่ยว สูงกว่าประมาณการ 3,760 คน-เที่ยว หรือสูงกว่าประมาณการร้อยละ 4.17 (ที่ประมาณการ 89,984 คน-เที่ยว) แบ่งเป็นผู้โดยสารเชิงพาณิชย์ 39,509 คน-เที่ยว และเชิงสังคม 54,235 คน-เที่ยว โดยมีผู้โดยสารขาออกจำนวน 50,814 คน-เที่ยว และผู้โดยสารขาเข้า 42,930 คน-เที่ยว

โดยพบว่า สายใต้มีผู้ใช้บริการมากสุดถึง 30,499 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 15,604 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 14,895 คน-เที่ยว) รองลงมาคือสายตะวันออกเฉียงเหนือมีผู้ใช้บริการ 23,715 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 14,144 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 9,571 คน-เที่ยว) สายเหนือ 18,143 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 9,581 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 8,562 คน-เที่ยว) สายตะวันออก 11,636 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 6,446 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 5,190 คน-เที่ยว) และสายแม่กลองและมหาชัย 9,751 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 5,039 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 4,712 คน-เที่ยว)

2. ระบบรถไฟฟ้า ให้บริการเดินรถไฟฟ้ารวม 2,743 เที่ยว มีผู้ใช้บริการรวมจำนวน 988,035 คน-เที่ยว ประกอบด้วย

-รถไฟฟ้า Airport Rail Link ให้บริการ 174 เที่ยว จำนวน 49,980 คน-เที่ยว
-รถไฟฟ้าชานเมือง (สายสีแดง) ให้บริการ 294 เที่ยว จำนวน 21,456 คน-เที่ยว
-รถไฟฟ้าสายฉลองรัชธรรม (สีม่วง) 218 เที่ยว จำนวน 34,200 คน-เที่ยว
-รถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล (สีน้ำเงิน) 306 เที่ยว จำนวน 277,336 คน-เที่ยว
-รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว (สายสุขุมวิทและสายสีลม) ให้บริการ 1,102 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 529,843 คน-เที่ยว
-รถไฟฟ้า สายสีทอง ให้บริการ 217 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 16,412 คน-เที่ยว
-รถไฟฟ้าสายนัคราพิพัฒน์ (สีเหลือง) ให้บริการ 216 เที่ยว จำนวน 28,121 คน-เที่ยว
-รถไฟฟ้าสายสีชมพู 216 เที่ยว จำนวน 30,687 คน-เที่ยว

@เกิดเหตุรถไฟชนไม้ค้ำเสาโทรเลขหัก ไม่มีผู้บาดเจ็บ

สำหรับด้านความปลอดภัย ในวันที่ 29 ธันวาคม 2567 มีเหตุอันตรายต่อการเดินรถไฟจำนวน 1 ครั้ง เมื่อเวลา 03.13 น. เกิดเหตุดีเซลเปล่า 4152 ชนไม้ค้ำเสาโทรเลขหัก เป็นเหตุให้สายโทรเลขตกลงพาดทางรถไฟ บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 766/6 ระหว่างสถานีช่องเขา – สถานีร่อนพิบูลย์ ไม่มีผู้ใดได้รับอันตราย ส่วนการให้บริการระบบรถไฟฟ้าไม่มีเหตุขัดข้องแต่อย่างใด

นายพิเชฐ กล่าวว่า ประชาชนส่วนใหญ่เดินทางกลับต่างจังหวัดเรียบร้อยแล้ว โดยสามวันที่ผ่านมา พบว่าไม่มีผู้โดยสารตกค้างที่สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) และสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ สำหรับมาตรการด้านความปลอดภัยบริเวณจุดตัดทางรถไฟกับถนนเสมอระดับ รฟท.ได้จัดเจ้าหน้าที่ฝ่ายการช่างโยธา และประสานจังหวัดรวมถึงหน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่นจัดเจ้าหน้าที่มาเฝ้าระวังบริเวณจุดตัดทางลักผ่าน เพื่อป้องกันอุบัติเหตุขบวนรถไฟชนยานพาหนะ และประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือผู้ใช้รถใช้ถนน ปฏิบัติตามกฎจราจร โดยหยุดรถก่อนถึงจุดตัดทางรถไฟไม่น้อยกว่า 5 เมตร เมื่อเห็นว่าปลอดภัยจึงขับผ่าน และไม่ฝ่าฝืนสัญญาณเครื่องกั้นทางรถไฟ


Department of Rail Transport (DRT) reports lower-than-expected rail passenger numbers during New Year 2024 holidays
Bangkok, Thailand - December 30, 2024 - The Department of Rail Transport (DRT) announced that the total number of passengers using rail and metro services during the New Year 2024 holidays (December 27-29, 2024) reached over 3.86 million, lower than initial projections.

KEY POINTS:

A train collided with a telegraph pole, resulting in no injuries.
DRT is enforcing safety measures, particularly at unauthorized crossings, to prevent accidents.
Mr. Pichet Kunadhammaraksa, Director-General of the DRT, disclosed that during the first three days of the New Year holidays, a total of 3,868,520 passenger trips were recorded. This figure includes:

State Railway of Thailand (SRT) intercity trains: 295,022 passenger trips (127,530 commercial passengers and 167,482 public service passengers).
Bangkok metropolitan and suburban metro systems: 3,573,498 passenger trips.
Passenger numbers lower than forecast:

On December 29, 2024, a total of 1,081,779 passenger trips were recorded, which is 9.62% lower than the estimated 1,196,957 passenger trips.

SRT intercity train services:

SRT operated 208 trains, serving 93,744 passengers, exceeding the forecast by 4.17%.
The Southern Line had the highest number of passengers (30,499), followed by the Northeastern Line (23,715), Northern Line (18,143), Eastern Line (11,636), and Mae Klong and Mahachai Line (9,751).
Bangkok metropolitan and suburban metro systems:

A total of 2,743 train trips were operated, serving 988,035 passengers across various metro lines, including Airport Rail Link, SRT Red Line, MRT Purple Line, MRT Blue Line, BTS Green Line, Gold Line, Yellow Line, and Pink Line.
Train collision with a telegraph pole:

On December 29, 2024, at 3:13 AM, a diesel locomotive collided with a telegraph pole, causing the telegraph wire to fall onto the railway track. This incident occurred between Chong Khao Station and Ron Phibun Station. No injuries were reported.

Safety measures:

Mr. Pichet stated that most people had already traveled to their hometowns for the holidays, with no passengers stranded at Bangkok Railway Station (Hua Lamphong) or Krung Thep Aphiwat Central Terminal.

To ensure safety at railway crossings, SRT has deployed civil engineering personnel and coordinated with provincial and local authorities to monitor unauthorized crossings, preventing accidents between trains and vehicles. The public is urged to comply with traffic regulations by stopping at least 5 meters before railway crossings, ensuring safety before proceeding, and not violating railway crossing signals.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44162
Location: NECTEC

PostPosted: 30/12/2024 11:55 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
กรมรางเผยยอดผู้โดยสารรถไฟ-รถไฟฟ้า ปีใหม่ 68 สะสม 3 วัน รวมกว่า 3.86 ล้านคน
ผู้จัดการออนไลน์ 30 ธ.ค. 2567 13:29

KEY POINTS
• เกิดอุบัติเหตุรถไฟชนเสาโทรเลข แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ
• กรมรางเข้มงวดมาตรการความปลอดภัย โดยเฉพาะจุดตัดทางลักผ่าน เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ



กรมการขนส่งทางรางเผยวันที่สาม (29 ธันวาคม 2567) ของวันหยุดยาวต่อเนื่องของเทศกาลปีใหม่ 2568 มีผู้ใช้บริการระบบราง รวม 1,081,779 คน-เที่ยว สะสม 3 วัน รวม 3,868,520 คน-เที่ยว มีเหตุอันตรายต่อการเดินรถไฟจำนวน 1 ครั้ง
วันนี้ (30 ธันวาคม 67) นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง เปิดเผยว่า เมื่อวาน (วันที่ 29 ธันวาคม 67) ซึ่งเป็นวันที่สามของวันหยุดต่อเนื่องของเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2568 ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2567 - 2 มกราคม 2568 มีประชาชนใช้บริการระบบราง รวมทั้งสิ้นจำนวน 1,081,779 คน-เที่ยว ต่ำกว่าประมาณการ 115,178 คน-เที่ยว หรือต่ำกว่าประมาณการร้อยละ 9.62 (ที่ประมาณการ 1,196,957 คน-เที่ยว) แบ่งเป็น รถไฟระหว่างเมืองของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จำนวน 93,744 คน-เที่ยว และรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลและรถไฟชานเมือง จำนวน 988,035 คน-เที่ยว โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1. รถไฟระหว่างเมืองของ รฟท. ให้บริการรวม 208 ขบวน มีผู้ใช้บริการจำนวน 93,744 คน-เที่ยว สูงกว่าประมาณการ 3,760 คน-เที่ยว หรือสูงกว่าประมาณการร้อยละ 4.17 (ที่ประมาณการ 89,984 คน-เที่ยว) แบ่งเป็นผู้โดยสารเชิงพาณิชย์ 39,509 คน-เที่ยว และเชิงสังคม 54,235 คน-เที่ยว โดยมีผู้โดยสารขาออกจำนวน 50,814 คน-เที่ยว และผู้โดยสารขาเข้า 42,930 คน-เที่ยว โดยพบว่า สายใต้มีผู้ใช้บริการมากสุดถึง 30,499 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 15,604 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 14,895 คน-เที่ยว) รองลงมาคือสายตะวันออกเฉียงเหนือมีผู้ใช้บริการ 23,715 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 14,144 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 9,571 คน-เที่ยว) สายเหนือ 18,143 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 9,581 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 8,562 คน-เที่ยว) สายตะวันออก 11,636 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 6,446 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 5,190 คน-เที่ยว) และสายแม่กลองและมหาชัย 9,751 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 5,039 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 4,712 คน-เที่ยว)
2. ระบบรถไฟฟ้า ให้บริการเดินรถไฟฟ้ารวม 2,743 เที่ยว มีผู้ใช้บริการรวมจำนวน 988,035 คน-เที่ยว ประกอบด้วย
2.1 รถไฟฟ้า Airport Rail Link ให้บริการ 174 เที่ยว จำนวน 49,980 คน-เที่ยว
2.2 รถไฟฟ้าชานเมือง (สายสีแดง) ให้บริการ 294 เที่ยว จำนวน 21,456 คน-เที่ยว
2.3 รถไฟฟ้าสายฉลองรัชธรรม (สีม่วง) 218 เที่ยว จำนวน 34,200 คน-เที่ยว
2.4 รถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล (สีน้ำเงิน) 306 เที่ยว จำนวน 277,336 คน-เที่ยว
2.5 รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว (สายสุขุมวิทและสายสีลม) ให้บริการ 1,102 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 529,843 คน-เที่ยว
2.6 รถไฟฟ้า สายสีทอง ให้บริการ 217 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 16,412 คน-เที่ยว
2.7 รถไฟฟ้าสายนัคราพิพัฒน์ (สีเหลือง) ให้บริการ 216 เที่ยว จำนวน 28,121 คน-เที่ยว
2.8 รถไฟฟ้าสายสีชมพู 216 เที่ยว จำนวน 30,687 คน-เที่ยว
นายพิเชฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับด้านความปลอดภัย ในวันที่ 29 ธันวาคม 2567 มีเหตุอันตรายต่อการเดินรถไฟจำนวน 1 ครั้ง เมื่อเวลา 03.13 น. เกิดเหตุดีเซลเปล่า 4152 ชนไม้ค้ำเสาโทรเลขหัก เป็นเหตุให้สายโทรเลขตกลงพาดทางรถไฟ บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 766/6 ระหว่างสถานีช่องเขา – สถานีร่อนพิบูลย์ ไม่มีผู้ใดได้รับอันตราย ส่วนการให้บริการระบบรถไฟฟ้าไม่มีเหตุขัดข้องแต่อย่างใด
นายพิเชฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า ภาพรวม 3 วันที่ผ่านมา มีผู้ใช้บริการระบบรางสะสม รวม 3,868,520 คน-เที่ยว แบ่งเป็นรถไฟระหว่างเมืองของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จำนวน 295,022 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารเชิงพาณิชย์ 127,530 คน-เที่ยว และผู้โดยสารเชิงสังคม 167,482 คน-เที่ยว) แบ่งเป็นผู้โดยสารขาออก 161,264 คน-เที่ยว และผู้โดยสารขาเข้า 131,758 คน-เที่ยว โดย รฟท. พ่วงตู้เสริมไปกับขบวนรถที่มีผู้โดยสารหนาแน่น และจัดขบวนพิเศษช่วยการโดยสารแล้ว 11 ขบวน (เที่ยวไป 8 ขบวน และเที่ยวกลับ 3 ขบวน) มีผู้ใช้บริการ 5,468 คน-เที่ยว โดยมีผู้โดยสารสายใต้มากสุด 94,826 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 49,428 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 45,398 คน-เที่ยว) รองลงมาคือสายตะวันออกเฉียงเหนือมีผู้ใช้บริการ 80,516 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 47,715 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 32,801 คน-เที่ยว) สายเหนือ 58,753 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 31,670 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 27,083 คน-เที่ยว) สายตะวันออก 35,174 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 19,039 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 16,135 คน-เที่ยว) และสายแม่กลองและมหาชัย 25,753 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 13,412 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 12,341 คน-เที่ยว) ส่วนระบบรถไฟฟ้ามีผู้ใช้บริการสะสมสามวันรวม 3,573,498 คน-เที่ยว
นายพิเชฐ กล่าวปิดท้ายว่า ประชาชนส่วนใหญ่เดินทางกลับต่างจังหวัดเรียบร้อยแล้ว โดยสามวันที่ผ่านมา พบว่าไม่มีผู้โดยสารตกค้างที่สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) และสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ สำหรับมาตรการด้านความปลอดภัยบริเวณจุดตัดทางรถไฟกับถนนเสมอระดับ รฟท.ได้จัดเจ้าหน้าที่ฝ่ายการช่างโยธา และประสานจังหวัดรวมถึงหน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่นจัดเจ้าหน้าที่มาเฝ้าระวังบริเวณจุดตัดทางลักผ่าน เพื่อป้องกันอุบัติเหตุขบวนรถไฟชนยานพาหนะ และประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือผู้ใช้รถใช้ถนน ปฏิบัติตามกฎจราจร โดยหยุดรถก่อนถึงจุดตัดทางรถไฟไม่น้อยกว่า 5 เมตร เมื่อเห็นว่าปลอดภัยจึงขับผ่าน และไม่ฝ่าฝืนสัญญาณเครื่องกั้นทางรถไฟ
กรมการขนส่งทางรางห่วงใยผู้ใช้บริการระบบราง ปีใหม่เดินทางสะดวก ปลอดภัย แบบไร้รอยต่อ
https://www.facebook.com/DRT.OfficialFanpage/posts/899166942407769
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 71, 72, 73, 74, 75  Next
Page 72 of 75

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©