RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:312001
ทั่วไป:13619890
ทั้งหมด:13931891
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวการประมูล จัดซื้อรถจักร รถพ่วงใหม่ของ รฟท. (เริ่มปี 2555)
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าวการประมูล จัดซื้อรถจักร รถพ่วงใหม่ของ รฟท. (เริ่มปี 2555)
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 49, 50, 51
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 47080
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 04/07/2024 7:30 am    Post subject: Reply with quote

รถไฟใหม่ 184 คันใช้ระบบไฮบริด
Source - เดลินิวส์
Thursday, July 04, 2024 05:11

รฟท.ทำข้อมูลส่ง สศช. ก.ย. ปีนี้ต้องจบสั่งผลิตนาน 3 ปี

นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้สั่งการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) พยายามเร่งรัดโครงการก่อสร้างต่าง ๆ ให้แล้วเสร็จตามแผนงานที่วางไว้ เพื่ออำนวยความสะดวกการเดินทางให้ประชาชน ขณะเดียวกันเรื่องจัดหาหัวรถจักร และรถโดยสารก็เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องเร่งดำเนินการเช่นกัน เพื่อรองรับการเปิดบริการรถไฟทางคู่ทั่วประเทศ โดยได้รับรายงานจาก รฟท. เบื้องต้นว่า การจัดหาหัวรถจักร และรถโดยสาร อยู่ระหว่างจัดทำรายละเอียดเรื่องรูปแบบเทคโนโลยีที่จะปรับมาใช้เป็นระบบไฮบริด เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน ที่ลดมลพิษทางอากาศในเขตเมือง โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งระบบขนส่งสาธารณะอื่น ๆ เริ่มหันมาใช้พลังงานไฟฟ้า (EV) กันแล้ว อาทิ รถเมล์ รถแท็กซี่ รถทัวร์

นายสุรพงษ์ กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันรถไฟไฮบริดมีการใช้แพร่หลายในต่างประเทศ อาทิ เยอรมนี ได้มอบให้ รฟท. เร่งดำเนินการ และสรุปเรื่องการจัดหารถให้แล้วเสร็จภายในปี 67 เพราะ ต้องใช้เวลาผลิตอีกประมาณ 3 ปี ส่วนการจัดหารถสินค้าบรรทุกตู้คอนเทเนอร์ (บทต.) หรือแคร่ขนส่งสินค้า อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ ในอนาคตการเดินรถไฟของ รฟท. จะกำหนดด้วยว่า ต้องเดินรถด้วยระบบไฟฟ้าในรัศมี 200 กิโลเมตร (กม.) รอบกรุงเทพฯ ส่วนนอกเหนือจากนี้ สามารถเปลี่ยนมาใช้ระบบน้ำมันดีเซลแทน เพื่อลดภาวะโลกร้อน และแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ในเขตเมือง

นายสุรพงษ์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้กระทรวงคมนาคมเสนอโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดง (รถไฟฟ้าสายสีแดง) ส่วนต่อขยาย 1 เส้นทาง ได้แก่ ช่วงรังสิต-มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ศูนย์รังสิต ระยะทาง 8.84 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 6,473.98 ล้านบาท ของ รฟท. ไปสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) แล้ว คาดว่าจะเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในเร็ว ๆ นี้ หากได้รับความเห็นชอบจะเปิดประกวดราคาได้ภายในปี 67 เริ่มก่อสร้างภายในปลายปี 67 หรือต้นปี 68 และคาดว่าจะแล้วเสร็จ พร้อมเปิดบริการประชาชนช่วงต้นปี 71

นายสุรพงษ์ กล่าวต่อว่า ส่วนอีก 2 เส้นทาง ช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา ระยะทาง 14.8 กม. วงเงิน 10,670.27 ล้านบาท และช่วงตลิ่งชันศิริราช ระยะทาง 5.7 กม. วงเงิน 4,616 ล้านบาท รฟท. อยู่ระหว่างจัดทำข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อให้การพิจารณานำเสนอเส้นทางเป็นไปด้วยความรอบคอบ และให้กระทรวงคมนาคมมีข้อมูลที่ครบถ้วนในขั้นตอนการชี้แจงต่อ ครม. โดย รฟท. คาดว่าจะเสนอที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ที่มีนาย จิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ในฐานะประธานบอร์ด รฟท. เป็นประธานพิจารณาในเดือน ก.ค. 67

รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านี้ รฟท. ได้แจ้ง สศช. แล้วว่า จะปรับโครงการจัดหารถดีเซลรางปรับอากาศ บริการเชิงพาณิชย์ พร้อมอะไหล่ 184 คัน เป็นระบบไฮบริด (ใช้พลังงานไฟฟ้า-น้ำมันดีเซล) ทาง สศช. จึงให้ รฟท. กลับมาจัดทำข้อมูลเพิ่มเติมโดยเฉพาะเรื่องความคุ้มค่า และสืบราคา รฟท. กำลังเร่งเพิ่มเติมข้อมูล คาดว่าจะตอบกลับสศช. ได้อีกครั้งประมาณเดือน ก.ย. 67.

ที่มา: นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 5 ก.ค. 2567 (กรอบบ่าย)



New 184 Hybrid System Trains
Source - Daily News Thursday, July 04, 2024 05:11

State Railway of Thailand to submit data to NESDC in September. Must finalize production order within 3 years.

Mr. Surapong Piyachoti, Deputy Minister of Transport, revealed that he has instructed the State Railway of Thailand (SRT) to expedite various construction projects to be completed according to the planned schedule to facilitate public travel. At the same time, the procurement of locomotives and passenger cars is equally important and must be accelerated to support the opening of double-track railway services nationwide. He has received a preliminary report from SRT that the procurement of locomotives and passenger cars is in the process of preparing details on the technology model to be adapted to a hybrid system. This is to suit the current situation of reducing air pollution in urban areas, especially in Bangkok, where other public transport systems have started to use electric power (EV), such as buses, taxis, and coaches.

Mr. Surapong also said that hybrid trains are now widely used in foreign countries, such as Germany. He has assigned SRT to expedite the process and conclude the procurement of trains within 2024 because it will take about 3 years to produce. As for the procurement of container freight cars or freight wagons, it is under consideration by the Office of the National Economic and Social Development Council (NESDC) or the National Economic and Social Development Board.

In the future, SRT's train operations will stipulate that trains must run on electricity within a 200-kilometer radius around Bangkok. Beyond this, they can switch to using diesel fuel to reduce global warming and solve PM 2.5 dust problems in urban areas.

Mr. Surapong further stated that the Ministry of Transport has proposed one extension route for the Red Line Commuter Rail System (Red Line Electric Train) project. This is the Rangsit-Thammasat University Rangsit Center section, with a distance of 8.84 kilometers and a budget of 6,473.98 million baht. This SRT project has been submitted to the Secretariat of the Cabinet and is expected to be considered by the Cabinet meeting soon. If approved, bidding can be opened within 2024, construction can begin in late 2024 or early 2025, and it is expected to be completed and ready for public service in early 2028.

Mr. Surapong added that for the other two routes - the 14.8 km Taling Chan-Salaya section with a budget of 10,670.27 million baht, and the 5.7 km Taling Chan-Siriraj section with a budget of 4,616 million baht - SRT is in the process of preparing additional information. This is to ensure thorough consideration of the route proposals and to provide the Ministry of Transport with complete information for explaining to the Cabinet. SRT expects to propose this to the board meeting chaired by Mr. Jirut Wisarnjit, Director-General of the Department of Land Transport, as the chairman of the SRT board, in July 2024.

News sources reported that previously, SRT had informed NESDC that it would adjust the project to procure 184 air-conditioned diesel railcars for commercial service, including spare parts, to a hybrid system (using electric-diesel power). NESDC then asked SRT to provide additional information, especially regarding cost-effectiveness and price surveys. SRT is rushing to supplement the information and expects to respond to NESDC again around September 2024.

Source: Daily News, July 5, 2024 edition (Afternoon frame)
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 47080
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 25/11/2024 11:44 am    Post subject: Reply with quote

เปิดใช้ปีใหม่ 68!รถไฟทางคู่สายเหนือ" ลพบุรี-ปากน้ำโพ"วีริศ"เตรียมซื้อรถจักรดีเซลไฟฟ้า 113 คันหวังเพิ่มขนส่งสินค้า
Source - ผู้จัดการออนไลน์
Monday, November 25, 2024 10:35

รฟท. หารือ กมธ.คมนาคม วุฒิสภา เช็กรายได้โดยสาร-สินค้าเพิ่มขึ้น "วีริศ"เผยเตรียมซื้อรถจักรดีเซลไฟฟ้า 113 คันรองรับขนส่งสินค้าหลังทางคู่เสร็จ เตรียมเปิดใช้ "ทางคู่" ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ เทศกาลปีใหม่ 68 นี้

เมื่อวันที่ 22 พ.ย. 2567 นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ประธานคณะกรรมาธิการการคมนาคม วุฒิสภา พร้อมด้วยคณะกรรมาธิการการคมนาคม วุฒิสภา เดินทางไปยังการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับผลการดำเนินงานในปี 2567 แนวทางการดำเนินงานของการรถไฟฯ ในปีงบประมาณ 2568 และความคืบหน้าการดำเนินโครงการสำคัญที่อยู่ในความรับผิดชอบของการรถไฟฯ โดยนายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ให้การต้อนรับ

นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า คณะกรรมาธิการการคมนาคม วุฒิสภา และ การรถไฟฯ ได้มีการหารือและพิจารณาแนวทางการพัฒนาการดำเนินงานในทุกมิติ ทั้งในด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการผู้โดยสารและการขนส่งสินค้า รวมถึงการยกระดับระบบรางของไทยให้ตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้บริการ มุ่งเน้นการสร้างรายได้และความยั่งยืนให้แก่การรถไฟฯ ซึ่งสอดรับกับพันธกิจสำหรับการฟื้นฟูของการรถไฟฯ ที่ต้องการสร้างรายได้และการเติบโตทางเศรษฐกิจ พัฒนาระบบการขนส่งให้มีประสิทธิภาพ ลดต้นทุนการขนส่งของประเทศ ผ่านโครงข่ายคมนาคมที่ครอบคลุม เข้าถึงได้ และราคาที่เป็นธรรม

ปัจจุบัน การรถไฟฯ ให้บริการขบวนรถโดยสารแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ขบวนรถโดยสารเชิงสังคม จำนวน 146 ขบวน/วัน และเชิงพาณิชย์ จำนวน 74 ขบวน/วัน รวมทั้งสิ้น 220 ขบวน/วัน ซึ่งมีปริมาณการขนส่งผู้โดยสาร ในปี 2567 ประมาณ 30,870,000 คน นับเป็นรายได้กว่า 3,921.30 ล้านบาท นอกจากนี้ การรถไฟฯ ยังสามารถให้บริการขนส่งสินค้า จำนวน 62 ขบวน/วัน โดยในปี 2567 มีปริมาณการขนส่งเพิ่มขึ้นจากเดิม 12,8000,000 ตัน นับเป็นรายได้กว่า 2,122.60 ล้านบาท


สำหรับการดำเนินโครงการสำคัญที่อยู่ในความรับผิดชอบของการรถไฟฯ นั้น ด้านโครงสร้างพื้นฐาน การรถไฟฯ เร่งรัดดำเนินการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้แล้วเสร็จตามแผนงาน ปัจจุบันมีความก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะเร่งด่วน จำนวน 7 เส้นทาง ที่เปิดให้บริการไปแล้ว 5 เส้นทาง ประกอบด้วย 1.ช่วงชุมทางฉะเชิงเทรา–คลองสิบเก้า-แก่งคอย 2.ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น 3.ช่วงนครปฐม-หัวหิน 4.ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ และ 5.ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ส่วนอีก 2 เส้นทาง ได้แก่ 1.ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ เตรียมเปิดให้บริการช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 เพื่อมอบเป็นของขวัญให้แก่พี่น้องประชาชน และ 2.ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ขณะนี้ดำเนินการใกล้แล้วเสร็จ คาดว่าจะสามารถเปิดใช้งานได้ในช่วงต้นปี 2568

ส่วนโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายใหม่ 2 เส้นทาง ได้แก่ 1. เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ และ 2. บ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม รวมระยะทาง 677 กม. ปัจจุบัน อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างโครงการ รวมถึงโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน (กรุงเทพฯ-นครราชสีมา-หนองคาย) รวมระยะทาง 609 กม. ซึ่งอยู่ระหว่างเร่งรัดก่อสร้าง ระยะที่ 1 (กรุงเทพฯ-นครราชสีมา) ระยะทาง 250.77 กม. คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ภายในปี 2571

ขณะที่ ด้านรถจักรและล้อเลื่อน การรถไฟฯ เร่งผลักดันโครงการจัดซื้อรถจักรดีเซลไฟฟ้าพร้อมอะไหล่ จำนวน 113 คัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการขนส่งสินค้า และรองรับโครงการรถไฟทางคู่ที่จะทยอยเปิดใช้งานในอนาคต สามารถประหยัดพลังงานได้ประมาณ 10 - 30 % รวมถึงการจัดหารถจักรสับเปลี่ยนที่ใช้แบตเตอรี่ จำนวน 17 คัน ทดแทนรถจักรสับเปลี่ยนเดิมที่มีสภาพการใช้งานกว่า 60 ปี รวมทั้งการจัดหารถดีเซลราง (Hybrid DEMU) จำนวน 184 คัน เพื่อเพิ่มปริมาณการขนส่งเชิงพาณิชย์ รองรับทางคู่ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อชี้แจง สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) สำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง เพื่อเสนอต่อกระทรวงคมนาคมต่อไป

ที่ผ่านมา การรถไฟฯ ยังมีรายได้จากการให้เช่าที่กว่า 3,987.19 ล้านบาท แต่ในอนาคตหลังจากโอนที่ทั้งหมดให้กับบริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด (SRTA) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของการรถไฟฯ แล้ว เชื่อว่าจะสามารถพัฒนาและสร้างรายได้ให้กับการรถไฟฯ เพิ่มขึ้นอีก ส่วนบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ที่ให้บริการรถไฟชานเมืองสายสีแดง 2 เส้นทาง ได้แก่ สายเหนือ ระหว่างสถานีบางซื่อ–สถานีรังสิต จำนวน 10 สถานี และสายใต้ ระหว่าง สถานีบางซื่อ–สถานีตลิ่งชัน จำนวน 3 สถานี ปัจจุบัน จากนโยบายอัตราค่าโดยสารสูงสุด 20 บาท ทำให้มีปริมาณผู้โดยสารเพิ่มขึ้นจำนวนมาก โดยในช่วงปี 2567 มีปริมาณผู้โดยสารกว่า 10,602,478 คนต่อปี

“การรถไฟฯ จะนำข้อเสนอแนะจากการหารือครั้งนี้ ไปขับเคลื่อนภารกิจต่าง ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนในทุกมิติ ทั้งภาคการขนส่งผู้โดยสาร และการขนส่งสินค้า เพราะระบบรางเป็นหนึ่งในโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของประเทศ ที่เปรียบเสมือนกระดูกสันหลังใหญ่ของภาคเศรษฐกิจ การรถไฟฯ พร้อมก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางด้านคมนาคมของภูมิภาค สอดรับกับนโยบาย “คมนาคมเพื่อโอกาสประเทศไทย” ที่มุ่งสร้างโอกาสและความยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจและสังคมไทยในอนาคต” นายวีริศกล่าว


SRT to Launch Lopburi-Pak Nam Pho Double-Track Line This New Year's

Veeris to Purchase 113 Diesel-Electric Locomotives to Boost Freight Transport

Source - Manager Online
Monday, November 25, 2024 10:35

The State Railway of Thailand (SRT) met with the Senate Transportation Committee to discuss increased passenger and freight revenue. Veeris Ammarapala, Governor of the SRT, revealed plans to purchase 113 diesel-electric locomotives to support freight transport following the completion of the double-track railway. The Lopburi-Pak Nam Pho section is set to open during the 2025 New Year holidays.

On November 22, 2024, Mr. Wuttichai Kalayanamitr, Chairman of the Senate Transportation Committee, along with the committee members, visited the SRT to exchange views on the 2024 performance, the SRT's 2025 operational plan, and progress on key projects under the SRT's responsibility. Mr. Veeris Ammarapala, Governor of the SRT, welcomed the committee.

Mr. Veeris Ammarapala disclosed that the Senate Transportation Committee and the SRT discussed and considered ways to develop operations in all dimensions, including infrastructure development, enhancing passenger and freight services, and upgrading Thailand's railway system to meet the needs of users. The focus is on generating revenue and sustainability for the SRT, in line with its mission to rehabilitate the railway by generating revenue and economic growth, and developing an efficient transportation system to reduce the country's transportation costs through a comprehensive, accessible, and fairly priced transportation network.

Currently, the SRT operates 220 passenger trains per day, divided into two categories: 146 social service trains and 74 commercial trains. In 2024, the SRT transported approximately 30,870,000 passengers, generating over 3,921.30 million baht in revenue. In addition, the SRT provides freight services with 62 trains per day. In 2024, freight volume increased from the previous year to 12,800,000 tons, generating over 2,122.60 million baht in revenue.

Regarding key projects under the SRT's responsibility, the SRT is expediting infrastructure development to complete it according to plan. Currently, progress is rapid, especially on the urgent phase of the double-track railway construction project, which consists of 7 routes. Five routes are already operational: 1. Chachoengsao Junction-Khlong Sip Kao-Kaeng Khoi 2. Thanon Jira Junction-Khon Kaen 3. Nakhon Pathom-Hua Hin 4. Hua Hin-Prachuap Khiri Khan and 5. Prachuap Khiri Khan-Chumphon. The remaining two routes are: 1. Lopburi-Pak Nam Pho, which is scheduled to open during the 2025 New Year holidays as a gift to the public, and 2. Mab Kabao-Thanon Jira Junction, which is nearing completion and is expected to open in early 2025.

The construction of two new railway lines is also underway: 1. Den Chai-Chiang Rai-Chiang Khong and 2. Ban Phai-Mahasarakham-Roi Et-Mukdahan-Nakhon Phanom, with a total distance of 677 km. Currently, the project is under construction, along with the Thai-Chinese high-speed railway project (Bangkok-Nakhon Ratchasima-Nong Khai), with a total distance of 609 km. Construction of Phase 1 (Bangkok-Nakhon Ratchasima), with a distance of 250.77 km, is being expedited and is expected to be operational by 2028.

In terms of locomotives and rolling stock, the SRT is accelerating the procurement of 113 diesel-electric locomotives and spare parts to increase the efficiency of freight services and support the double-track railway project, which will be gradually opened in the future. These locomotives can save approximately 10-30% on energy consumption. The SRT is also procuring 17 battery-powered shunting locomotives to replace the existing ones, which are over 60 years old. Additionally, the procurement of 184 Hybrid DEMU trains is underway to increase commercial transport capacity and support the double-track railway. Currently, the SRT is gathering additional information to clarify the project to the Office of Transport and Traffic Policy and Planning (OTP), the Bureau of the Budget, and the Ministry of Finance, before submitting it to the Ministry of Transport.

The SRT also generates revenue from land rental, amounting to over 3,987.19 million baht. In the future, after transferring all land to SRT Asset Co., Ltd. (SRTA), a subsidiary of the SRT, it is believed that SRTA will be able to develop the land and generate more revenue for the SRT. SRT Electrified Train Co., Ltd., which operates the Red Line commuter train on two routes: the northern line between Bang Sue Station and Rangsit Station with 10 stations, and the southern line between Bang Sue Station and Taling Chan Station with 3 stations, has seen a significant increase in passengers due to the policy of a maximum fare of 20 baht. In 2024, the number of passengers exceeded 10,602,478.

"The SRT will take the suggestions from this discussion to drive various missions to meet the needs of the people in all dimensions, both in passenger and freight transport. The railway system is one of the country's transport infrastructure backbones, supporting the economy. The SRT is ready to become a regional transportation hub, in line with the 'Transportation for Thailand's Opportunities' policy, which aims to create opportunities and sustainability for the Thai economy and society in the future," said Mr. Veeris.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 47080
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 29/11/2024 6:30 am    Post subject: Reply with quote

บอร์ดอนุมัติซื้อรถจักร113คัน2.3หมื่นล.
Source - เดลินิวส์
Friday, November 29, 2024 03:51

ดีเซลไฟฟ้าไฮบริดเซฟพลังงาน รถโดยสาร184คันทำข้อมูลเพิ่ม

นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท. ซึ่งมีนายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เป็นประธาน มีมติเห็นชอบให้ รฟท. ดำเนินโครงการจัดหา รถจักรดีเซลไฟฟ้า พร้อมอะไหล่ ขนาดกดเพลา 20 ตันต่อเพลา จำนวน 113 คัน วงเงินงบประมาณ 23,730 ล้านบาท เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการขนส่งสินค้า รวมทั้งรองรับโครงการรถไฟทางคู่ที่จะทยอยเปิดใช้งานในอนาคต โดยหัวรถจักรมีระบบการทำงานแบบไฮบริด สามารถประหยัดพลังงานได้ประมาณ 10-30%

นายวีริศ กล่าวต่อว่า สำหรับคุณสมบัติของหัวรถจักร เป็นเครื่องยนต์ดีเซลไฟฟ้า (ไฮบริด) น้ำหนักกดเพลาไม่เกิน 20 ตันต่อเพลา ถูกออกแบบและผลิตด้วยเทคโนโลยีทันสมัย มีสมรรถนะการลากจูงขบวนรถสินค้าที่ความเร็วสูงสุด 70 กม.ต่อชม. น้ำหนักไม่น้อยกว่า 2,500 ตัน ทางราบที่ความเร็ว 70 กม.ต่อชม. สมรรถนะลากจูงสินค้าน้ำหนักไม่น้อยกว่า 1,900 ตัน ทางชัน 12 เพอร์มิล สมรรถนะลากจูงสินค้า น้ำหนักไม่น้อยกว่า 1,000 ตัน ทางชัน 20 เพอร์มิล ขั้นตอนหลังจากนี้ รฟท. จะเร่งเสนอเรื่องไปยังกระทรวงคมนาคม ก่อนเสนอที่ประชุม ครม. พิจารณาต่อไป ส่วนการจัดหารถดีเซลราง (Hybrid DEMU) 184 คัน อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อชี้แจงสำนักงบประมาณ และกระทรวงการคลัง

"ทีมข่าวนวัตกรรมขนส่งเดลินิวส์" รายงานว่า การจัดหาหัวรถจักรดีเซลไฟฟ้าใหม่กล่าวถึงกันมานานเกือบ 10 ปี ผ่านมาแล้วหลายรัฐบาล แต่ยังไม่ผลักดันจริงจัง ทั้งที่เป็นเรื่องจำเป็นมาก ส่วนใหญ่ มีอายุใช้งานหลายสิบปีไม่สามารถตัดออกบัญชีการใช้งานได้ เพราะขาดแคลนหนักและต้องซ่อมบำรุงตลอด ขณะนี้ รฟท. มี นโยบายส่งเสริมการขนส่งสินค้าทางรถไฟ เพื่อสร้างรายได้ให้ รฟท. มากขึ้น จึงจำเป็นต้องมีหัวรถจักรมาใช้ลากจูงแคร่ขนส่งสินค้า ทั้งนี้ รฟท. จัดซื้อรถจักรดีเซลไฟฟ้าครั้งล่าสุดเมื่อปี 2563 จำนวน 50 คัน วงเงินประมาณ 6,500 ล้านบาท ที่แฟนรถไฟเรียกกันว่าหัวรถจักร "อุลตร้าแมน" นำมาให้บริการทดแทนหัวรถจักรเก่าเพื่อรักษาขีดความสามารถขนส่งผู้โดยสารและสินค้าให้คงเดิม

ปัจจุบัน รฟท. ให้บริการขบวนรถโดยสาร 220 ขบวน/วัน แบ่ง 2 ประเภท ขบวนรถโดยสารเชิงสังคม 146 ขบวน/วัน และเชิงพาณิชย์ 74 ขบวน/วัน มีปริมาณการขนส่งผู้โดยสารปี 67 ประมาณ 30,870,000 คน นับเป็นรายได้กว่า 3,921.30 ล้านบาท นอกจากนี้ยังให้บริการขนส่งสินค้า 62 ขบวน/วัน ในปี 67 มีปริมาณการขนส่งเพิ่มขึ้นจากเดิม 12,800,000 ตัน นับเป็นรายได้ กว่า 2,122.60 ล้านบาท.

ที่มา: นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 29 พ.ย. 2567


Board Approves 23 Billion Baht Purchase of 113 Locomotives

Source - Daily News
Friday, November 29, 2024, 03:51

Hybrid diesel-electric locomotives to save energy, 184 passenger cars require further information

Veeris Ammarapala, Governor of the State Railway of Thailand (SRT), revealed that the SRT Board of Directors, chaired by Chirut Wisanjit, Director-General of the Department of Land Transport, has approved the procurement of 113 diesel-electric locomotives with spare parts, with an axle load of 20 tons per axle, worth 23.73 billion baht. This aims to enhance freight service efficiency and support upcoming double-track railway projects. The locomotives feature a hybrid system, enabling energy savings of 10-30%.

Ammarapala stated that the locomotives will be equipped with modern hybrid diesel-electric engines, with an axle load not exceeding 20 tons per axle. They are designed to haul freight trains at a maximum speed of 70 km/h, with a minimum weight of 2,500 tons on level ground at 70 km/h. They can also haul at least 1,900 tons on a 12 per mille gradient and at least 1,000 tons on a 20 per mille gradient.

The SRT will now submit the proposal to the Ministry of Transport before presenting it to the Cabinet for consideration. As for the procurement of 184 Hybrid DEMU (diesel-electric multiple unit) trains, the SRT is gathering further information to clarify details for the Budget Bureau and the Ministry of Finance.

"Daily News Transportation Innovation News Team" reported that the procurement of new diesel-electric locomotives has been discussed for almost 10 years, spanning several governments, but has not been seriously pursued despite its necessity. Most existing locomotives are decades old and cannot be decommissioned due to severe shortages and constant maintenance needs. The SRT's current policy promotes rail freight transport to increase revenue, necessitating new locomotives for cargo carriages.

The SRT's last purchase of diesel-electric locomotives was in 2023, with 50 units worth approximately 6.5 billion baht. These locomotives, nicknamed "Ultraman" by train enthusiasts, replaced older locomotives to maintain passenger and freight transport capacity.

Currently, the SRT operates 220 passenger trains per day, divided into two categories: 146 social service trains and 74 commercial trains. In 2024, passenger transport volume reached approximately 30,870,000 people, generating over 3.92 billion baht in revenue. Additionally, the SRT operates 62 freight trains per day. In 2024, freight volume increased from the previous year to 12,800,000 tons, generating over 2.12 billion baht in revenue.

Source: Daily News Newspaper, November 29, 2024
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 47080
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 02/12/2024 10:39 am    Post subject: Reply with quote

บอร์ดรฟท.เคาะซื้อรถจักรไฮบริด 113 คัน 2.3 หมื่นล. คาดเปิดประมูลก.ย. 68 เร่งรับมอบล็อตแรกปี 71
Source - ผู้จัดการออนไลน์
Monday, December 02, 2024 06:48

รฟท.เดินหน้าจัดซื้อรถจักรดีเซลไฟฟ้า ระบบไฮบริด 113 คัน วงเงินกว่า 2.37 หมื่นล้านบาท รองรับทางคู่และยกระดับบริการเพิ่มรายได้ เร่งชงคมนาคมและครม. คาดประมูล ส.ค.-ก.ย. 68 รับมอบมี.ค.71 ทดแทนรถเก่าเตรียมปลดระวาง และเตรียมจัดหารถโดยสาร 182 คัน 1.05 หมื่นล้านบาท

นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)​เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการรถไฟฯ (บอร์ดรฟท.) ครั้งที่ 15/2567 เมื่อวันที่ 25 พ.ย. 2567 โดย มีนายจิรุตม์ วิศาลจิตร เป็นประธานกรรมการ มีมติอนุมัติให้ดำเนินโครงการจัดหารถจักรดีเซลไฟฟ้าพร้อมอะไหล่ ขนาดน้ำหนักกดเพลา 20 ตันต่อเพลา จำนวน 113 คัน วงเงินงบประมาณ 23,730 ล้านบาท โดยหลังจากนี้ รฟท.จะสรุปรายละเอียดนำเสนอกระทรวงคมนาคมพิจารณาเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติตามขั้นตอนต่อไป

รายงานข่าวแจ้งว่า ตามแผนงานคาด ครม.อนุมัติ ภายในเดือนมิ.ย. 2568 ซึ่งในทางคู่ขนาน รฟท.ได้ดำเนินการเตรียมเอกสารประกวดราคาไปด้วย โดยจะมีการทำร่างTOR และเปิดรับฟังวิจารณ์ร่างTOR ช่วงมี.ค.68- ก.ย. 68 ,เปิดประกวดราคาช่วงเดือน ส.ค.-ก.ย. 68 ,พิจารณาผลประกวดราคาและลงนามสัญยษในช่วงต.ค.68- ก.พ. 69 ใช้เวลาในการประกอบรถ จำนวน 113 คัน 66 เดือน ช่วง เดือนมี.ค. 69-ส.ค.74

ตามแผนงานจะแบ่งการส่งมอบรถเป็น 4 งวด งวดแรก จำนวน 23 คน ช่วงเดือนมี.ค.71-พ.ค.71 , งวดที่ 2 จำนวน 30 คัน ช่วงเดือนก.ย. 71-พ.ย.71 ,งวดที่ 3 จำนวน 30 คัน ช่วงเดือนก.ย. 72 -พ.ย.72 , งวดที่4 จำนวน 30 คัน ช่วงเดือนก.ย. 73 -พ.ย. 74

สำหรับ การจัดหา รถจักรดีเซลไฟฟ้า พร้อมอะไหล่ ขนาดน้ำหนักกดเพลา 20 ตันต่อเพลา จำนวน 113 คัน จะเป็นรถดีเซลไฟฟ้า (ไฮบริด) มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขัน ส่งเสริมและพัฒนาระบบขนส่งที่ลดการใช้น้ำมัน โดยใช้เทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ประเมินการสิ้นเปลืองน้ำมันรถจักรไฮบริดลดลง20% เมื่อเทียบกับ รถจักรดีเซล

ขณะที่ราคา รถจักรไฮบริด (รวมอะไหล่)​ คันละ 210 ล้านบาท เปรียบเทียบรถจักรดีเซลไฟฟ้า (รวมค่าอะไหล่) คันละ 139 ล้านบาท เมื่อคิดการประหยัดน้ำมันของรถจักรไฮบริด เปรียบเทียบกับรถจักรดีเซลที่ใช้ในปัจจุบัน พบว่า ในปี 2571 จะลดค่าใช้จ่ายรายปีได้ 225.89 ล้านบาท หักผลต่างราคารถจักรดีเซลกับ รถจัดรไฮบริด (ค่าเปลี่ยนแบตเตอรี่ และซ่อมบำรุง ปีที่ 6 และปีที่ 12 ) ผลตอบแทนของรถจักรไฮบริดจะเป็นบวกในปีที่10 จำนวน 106.69 ล้านบาท และในระยะเวลา 12 ปี หรือช่วงปี 2571 - 2582 จะสามารถประหยัดค่าน้ำมันได้รวม จำนวน 44,231 ล้านบาท


โครงการจัดหารถจักรดีเซลไฟฟ้าพร้อมอะไหล่ ขนาดน้ำหนักกดเพลา 20 ตันต่อเพลา จำนวน 113 คัน เป็นการดำเนินตามแผนวิสาหกิจ การรถไฟฯ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพการให้บริการ และเพิ่มรายได้ของการรถไฟฯ ซึ่งปัจจุบัน รฟท. มีรถจักร (ไม่รวมรถจักรสับเปลี่ยน) จำนวน 187 คัน มีสภาพเก่าและอายุใช้งานมาก ทำให้มีภาระด้านงบประมาณ ในการซ่อมบำรุง เพื่อให้รถจักรมีสภาพพร้อมใช้งาน (Availability ) และในปี 2576-2579 จะตัดหัวรถจักรดีเซลไฟฟ้าอัลสตรอม จำนวน 50 คันออก เนื่องจากมีอายุใช้งานเกินกว่า 50 ปี เหลือไว้ 10 คันที่มีการเปลี่ยนเครื่องยนต์ ทำให้ หลังปี 2580 จะเหลือรถจักรใช้งานจำนวน 137 คัน

ขณะที่รฟท.มีความต้องการรถจักรเพื่อรองรับการให้บริการและเส้นทางรถไฟทางคู่ เพื่อให้บริการเดินรถเชิงพาณิชย์และรถสินค้า โดยตามแผนในปี 2567-2580 ต้องการรถจักร ตำรวร 127 คัน และในปี 2580 ต้องการรถจักรเพิ่มเป็น 242 คัน หรือเพิ่มขึ้นอีก 115 คัน

@ดันแผนจัดหารถโดยสาร 182 คัน 1.05 หมื่นล้านบาท

นอกจากนี้ รฟท.ยังเตรียมแผนดำเนินโครงการจัดหารถโดยสารทดแทนรถด่วนพิเศษและรถด่วน จำนวน 182 คัน พร้อมอะไหล่ วงเงินงบประมาณรวมทั้งสิ้น 10,50.1 ล้านบาท


## SRT Board Approves Purchase of 113 Hybrid Locomotives for 23 Billion Baht, Bidding Expected to Open in September 2025

Source - Manager Online
Monday, December 2, 2024, 06:48


The State Railway of Thailand (SRT) is moving forward with the procurement of 113 hybrid diesel-electric locomotives, worth over 23.7 billion baht, to support double-track lines and enhance services to increase revenue. The SRT is expediting the proposal to the Ministry of Transport and the Cabinet, with bidding expected to open between August and September 2025 and the first batch of locomotives to be delivered in March 2028, replacing old locomotives that are scheduled for retirement. The SRT is also preparing to procure 182 passenger cars for 10.5 billion baht.

Mr. Wirat Amrapal, Governor of the State Railway of Thailand (SRT), revealed that at the 15th meeting of the SRT Board of Directors in 2024, chaired by Mr. Jiruth Wisanjit, on November 25, 2024, the board approved the project to procure 113 diesel-electric locomotives with spare parts, with an axle load of 20 tons per axle, worth 23.73 billion baht. Following this, the SRT will finalize the details and submit them to the Ministry of Transport for consideration before presenting them to the Cabinet for approval.

According to the plan, the Cabinet is expected to approve the project by June 2025. In parallel, the SRT has been preparing bidding documents, including drafting the Terms of Reference (TOR) and holding public hearings on the draft TOR between March and September 2025. The bidding is expected to open between August and September 2025, with bid evaluation and contract signing between October 2025 and February 2026. The assembly of the 113 locomotives is expected to take 66 months, from March 2026 to August 2031.

The delivery of the locomotives will be divided into four phases: the first phase of 23 locomotives between March and May 2028; the second phase of 30 locomotives between September and November 2028; the third phase of 30 locomotives between September and November 2029; and the fourth phase of 30 locomotives between September and November 2030.

The procurement of 113 diesel-electric locomotives with spare parts, with an axle load of 20 tons per axle, will be hybrid locomotives. The objective is to enhance competitiveness, promote and develop a transportation system that reduces oil consumption by using environmentally friendly technology. It is estimated that the fuel consumption of hybrid locomotives will be reduced by 20% compared to diesel locomotives.

The price of a hybrid locomotive (including spare parts) is 210 million baht, compared to 139 million baht for a diesel-electric locomotive (including spare parts). When calculating the fuel savings of hybrid locomotives compared to current diesel locomotives, it is found that in 2028, annual costs will be reduced by 225.89 million baht. After deducting the price difference between diesel and hybrid locomotives (including battery replacement and maintenance costs in the 6th and 12th year), the return on hybrid locomotives will be positive in the 10th year, amounting to 106.69 million baht. Over a period of 12 years, or from 2028 to 2039, a total of 44.231 billion baht in fuel costs will be saved.

The project to procure 113 diesel-electric locomotives with spare parts, with an axle load of 20 tons per axle, is in line with the SRT's corporate plan to enhance the efficiency and quality of services and increase the SRT's revenue. Currently, the SRT has 187 locomotives (excluding shunting locomotives), which are old and have been in service for a long time, resulting in a budgetary burden for maintenance to ensure that the locomotives are ready for use. In 2033-2036, 50 Alsthom diesel-electric locomotives will be retired due to their age exceeding 50 years, leaving 10 locomotives with replaced engines. As a result, after 2037, there will be 137 locomotives remaining in service.

Meanwhile, the SRT needs locomotives to support services and double-track railway lines for commercial and freight train services. According to the plan, in 2024-2037, a total of 127 locomotives are required, and in 2037, the number will increase to 242 locomotives, or an additional 115 locomotives.

**@ Pushing for the procurement of 182 passenger cars for 10.5 billion baht**

In addition, the SRT is also preparing a plan to implement a project to procure 182 passenger cars to replace special express and express trains, along with spare parts, with a total budget of 10.501 billion baht.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43880
Location: NECTEC

PostPosted: 02/12/2024 11:13 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
บอร์ดรฟท.เคาะซื้อรถจักรไฮบริด 113 คัน 2.3 หมื่นล. คาดเปิดประมูลก.ย. 68 เร่งรับมอบล็อตแรกปี 71
Source - ผู้จัดการออนไลน์
Monday, December 02, 2024 06:48

ดูแล้วจีนกะฝรั่งเศสและเยอรมันน่าจะได้เปรียบเพราะมีเทคโนโลยีรถจักรไฮบริด เดินรถโดยสารและรถสินค้า
https://www.railway-technology.com/news/siemens-db-cargo-new-hybrid-locomotives/
https://www.alstom.com/solutions/rolling-stock/traxx-locomotives-superior-performance-every-environment
https://en.wikipedia.org/wiki/Hybrid_train
https://www.railway-technology.com/sponsored/hybrid-locomotives-replace-diesel-locomotives/


แต่ถ้าเป็นรถ MU แบบ Hybrid ก็คงไม่พ้นฮิตาชิที่ทำให้อังกฤษ
https://www.youtube.com/watch?v=sARTvQj5jIg
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 47080
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 11/12/2024 8:41 am    Post subject: Reply with quote

ถ้าประเทศไทย ผลิตรถไฟเป็นของตัวเองได้ | Brand Inside
Brand Inside
Dec 9, 2024

ไทยมีรถไฟมาตั้งแต่ 130 ปีก่อน แต่เราซื้อเขาใช้มาตลอด ถึงเวลาหรือยังที่เราจะผลิตใช้เอง ไม่ต้องนำเข้าแบบเดิม
.
เป็นไปได้ไหมที่ไทยสร้างอุตสาหกรรมใหม่ และมีเทคโนโลยีเป็นของตัวเอง บอย ธงชัย ชลศิริพงษ์ บรรณาธิการบริหาร Brand Inside บุกไปสัมภาษณ์หน่วยงานที่เกิดขึ้นมาเพื่อทำเรื่องนี้โดยเฉพาะ


https://www.youtube.com/watch?v=mgqaHXMMb0w
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 47080
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 19/12/2024 5:33 am    Post subject: Reply with quote

“รฟท.” เร่งสืบราคา! ปรับวงเงินซื้อ “รถโดยสารดีเซลรางฯ” 184 คัน ชงบอร์ด ม.ค.ปีหน้า
เดลินิวส์ 18 ธ.ค. 2567 21:10 น.

รฟท. เร่งสืบราคา วิเคราะห์ผลตอบแทน ปรับกรอบวงเงินจัดซื้อรถโดยสารดีเซลรางปรับอากาศแบบไฮบริด184 คันให้สอดคล้องกับปัจจุบัน คาดชงบอร์ดเคาะ ม.ค.ปีหน้า ลุ้น เม.ย.เข้า ครม. ตั้งงบปี 69 ชี้หากเป็นไปตามแผนปลายปีหน้าได้เซ็นสัญญาจัดซื้อ
นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) เปิดเผยว่า ได้รับรายงานเบื้องต้นจากฝ่ายบริการโดยสาร รฟท. ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งดำเนินการวิเคราะห์ผลตอบแทนโครงการจัดหารถดีเซลรางปรับอากาศ บริการเชิงพาณิชย์ พร้อมอะไหล่ 184 คัน และข้อมูลแวดล้อมเบื้องต้น อาทิ ทบทวนค่าโดยสาร โดยการเปรียบเทียบคู่แข่งทางถนน เส้นทางการเดินรถ และผลตอบแทนด้านการเงิน ซึ่งเป็นไปตามคำแนะนำของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) หรือสภาพัฒน์ โดยเตรียมเสนอที่ประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการของ รฟท. (Management Committee : MC) และคณะอนุกรรมการกลั่นกรอง (Executive Committee :Excom) ของ รฟท. ก่อนเสนอคณะกรรมการ(บอร์ด) รฟท. พิจารณาต่อไป

นายวีริศ กล่าวต่อว่า หากที่ประชุมบอร์ด รฟท. เห็นชอบ คาดว่าประมาณเดือน มี.ค.68 รฟท. จะสามารถเสนอเรื่องไปยังกระทรวงคมนาคม เพื่อเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) อนุมัติโครงการต่อไป อย่างไรก็ตามนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม ได้เร่งรัดให้ดำเนินการในเรื่องดังกล่าว โดยขบวนรถใหม่ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ รฟท. จะพยายามผลักดัน เพื่อเร่งจัดหารถมาทดแทนรถเก่า และนำมาให้บริการประชาชน ซึ่งจะช่วยเพิ่มปริมาณการขนส่งเชิงพาณิชย์ และรองรับการเปิดให้บริการทางคู่ทั่วประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

รายงานข่าวแจ้งว่า ปัจจุบัน รฟท. อยู่ระหว่างการสืบราคาการจัดหารถโดยสารฯ เพื่อให้ทราบราคาและหรือแหล่งวัสดุก่อสร้าง ที่มีความเป็นปัจจุบัน และสอดคล้องกับราคาวัสดุก่อสร้างที่เป็นจริง โดยส่งหนังสือสอบถามไปยังผู้ผลิตรถไฟประเทศต่างๆ อาทิ เกาหลีใต้ จีน ญี่ปุ่น และประเทศในทวีปยุโรป คาดว่าจะสามารถสรุปนำเสนอที่ประชุมMC ได้ประมาณเดือน ม.ค.68 จากนั้นจะเสนอบอร์ด รฟท. ในช่วงประมาณเดือน ม.ค.-ก.พ.68 ก่อนเสนอกระทรวงคมนาคม และส่งเรื่องรับฟังความคิดเห็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สภาพัฒน์, สำนักงบประมาณ และกระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นขั้นตอนปกติก่อนส่งเรื่องเข้า ครม. จากนั้นจึงจะเสนอที่ประชุม ครม. พิจารณาต่อไป เบื้องต้นจะใช้งบประมาณในปี 2569 (ต.ค.68-ก.ย.69) ในการจัดหารถดีเซลรางปรับอากาศ ซึ่งจะเป็นระบบไฮบริด ตามความคิดเห็นของสภาพัฒน์ที่ให้ใช้พลังงานทางเลือก

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า เนื่องจากโครงการนี้มีการจัดทำมาเป็นเวลานาน ส่งผลให้อาจจะต้องมีการปรับกรอบวงเงินเพิ่มเติมด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้วงเงินโครงการอยู่ที่ประมาณ 1.4 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตามหากสามารถเสนอโครงการฯ ต่อที่ประชุม ครม. ตามแผนงานที่ รฟท. วางไว้ประมาณเดือน เม.ย.68 และหาก ครม. เห็นชอบ ก็จะดำเนินการจัดทำเอกสารการประกวดราคา และเปิดประกวดราคาหาผู้รับจ้าง คาดว่าจะได้ผู้ชนะการประมูล รวมทั้งลงนามสัญญาได้ประมาณปลายปี 68 โดยการจัดหารถโดยสารฯ จะใช้เวลาประมาณ 2-3 ปี


SRT Speeds Up Price Research! Adjusts Budget for 184 Diesel Rail Cars, Proposal to Board in Jan Next Year

Daily News, December 18, 2024, 9:10 PM

The State Railway of Thailand (SRT) is accelerating price research and return analysis to adjust the budget for the purchase of 184 hybrid air-conditioned diesel rail cars to align with current conditions. It is expected that the proposal will be submitted to the board for approval in January next year, with hopes of Cabinet approval in April and budget allocation in the 2026 fiscal year. If everything goes according to plan, the procurement contract could be signed by the end of next year.

Mr. Weerith Ammarapala, Governor of the State Railway of Thailand (SRT), revealed that he has received a preliminary report from the SRT Passenger Service Department stating that they are currently expediting the analysis of the returns for the project to procure 184 commercial air-conditioned diesel rail cars with spare parts. This includes preliminary data such as reviewing fares by comparing them with road transport competitors, train routes, and financial returns, in accordance with the recommendations of the Office of the National Economic and Social Development Council (NESDC). The proposal will be presented to the SRT Management Committee (MC) and the Executive Committee (Excom) before being submitted to the SRT Board of Directors for further consideration.

Mr. Weerith added that if the SRT Board approves the project, it is expected that around March 2025, the SRT will be able to submit the matter to the Ministry of Transport for proposal to the Cabinet meeting for project approval. However, Mr. Suriya Jungrungreangkit, Deputy Prime Minister and Minister of Transport, has urged the SRT to expedite the process, as the new trains are a priority for the SRT to replace old trains and provide services to the public. This will help increase commercial transport capacity and support the opening of double-track railways across the country more efficiently.

According to sources, the SRT is currently investigating the price of procuring the passenger cars to determine current prices and sources of construction materials that are in line with actual construction material costs. Inquiries have been sent to train manufacturers in various countries, including South Korea, China, Japan, and European countries. It is expected that a summary can be presented to the MC meeting around January 2025, and then to the SRT Board around January-February 2025, before submitting it to the Ministry of Transport. The project will then undergo a public hearing process with relevant agencies such as NESDC, the Bureau of the Budget, and the Ministry of Finance, which is a standard procedure before submitting the matter to the Cabinet. Initially, the budget for procuring the air-conditioned diesel rail cars, which will be a hybrid system as per NESDC's recommendations for alternative energy use, will be allocated in the 2026 fiscal year (October 2025 - September 2026).

Sources also said that since this project has been in development for a long time, the budget may need to be adjusted. Previously, the project budget was approximately 140 billion baht. However, if the project can be proposed to the Cabinet meeting according to the SRT's plan around April 2025, and if the Cabinet approves it, the bidding documents will be prepared and the bidding process will be opened. It is expected that the winning bidder will be selected, and the contract will be signed around the end of 2025. The procurement of the passenger cars will take approximately 2-3 years.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 47080
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 19/12/2024 5:25 pm    Post subject: Reply with quote

บอร์ด “รฟท.” เคาะซื้อรถโดยสาร 182 ตู้ 1.05 หมื่นล้าน รถแอร์ทุกชั้น ให้บริการ 5 เส้นทาง
เดลินิวส์ 19 ธ.ค. 2567 16:55 น.

บอร์ด รฟท. เคาะจัดซื้อรถโดยสาร 182 ตู้ 14 ขบวน 1.05 หมื่นล้าน สเปกเดียวกับรถโดยสาร CNR 115 คัน วิ่งทดแทนรถด่วนพิเศษ และรถด่วนเก่าใช้งานมากว่า 50 ปี วิ่งให้บริการ 5 เส้นทาง ชี้เป็นรถชั้น 3 แอร์ชุดแรก ลุยชง “คมนาคม” ธ.ค.นี้ เสนอ ครม. ขอกู้เงิน มี.ค.ปีหน้า ปักธงรับมอบขบวนรถชุดแรก 2 ขบวน พ.ค.71

นายอนันต์ โพธิ์นิ่มแดง รองผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ(บอร์ด) รฟท. มีมติเห็นชอบให้รฟท. ดำเนินโครงการจัดหารถโดยสารทดแทนรถด่วนพิเศษ และรถด่วน จำนวน 14 ขบวน 182 คัน(ตู้) พร้อมอะไหล่ วงเงินงบประมาณรวมทั้งสิ้นประมาณ 10,502 ล้านบาท เพื่อทดแทนขบวนรถไฟเก่าที่มีอายุการใช้งานมากว่า 50 ปี โดยจะให้บริการ 12 ขบวน และสำรองไว้ 2 ขบวน ซึ่งคาดว่าประมาณเดือน ธ.ค.67 จะสามารถเสนอกระทรวงคมนาคม เพื่อขอกู้เงินในการจัดซื้อรถโดยสารดังกล่าว และเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณาได้ประมาณเดือน มี.ค.68 เปิดประมูลประมาณเดือน ก.พ.69

นายอนันต์ กล่าวต่อว่า คาดว่าจะส่งมอบขบวนรถชุดแรก 2 ขบวนได้ประมาณเดือน พ.ค.71 จากนั้นจะส่งมอบขบวนรถอีก 4 ขบวน ประมาณเดือน ก.ย.71 อีก 4 ขบวน ประมาณเดือน ม.ค.72 และอีก 4 ขบวนสุดท้าย ประมาณเดือน พ.ค.72 อย่างไรก็ตามสำหรับขบวนรถไฟดังกล่าว จะมีคุณสมบัติ(Spec)เดียวกับรถโดยสาร 115 คัน (CNR) ซึ่งที่ผ่านมาตลอดระยะเวลาการให้บริการ 6 ปี รถดังกล่าวได้รับความนิยมจากผู้โดยสารอย่างมาก เมื่อเปิดจองตั๋วโดยสารเต็มอย่างรวดเร็วทุกครั้ง ทั้งนี้ขบวนรถชุดใหม่จะนำไปให้บริการในเส้นทาง กรุงเทพ-เชียงใหม่ ขบวนที่ 13,14,51 และ 52, เส้นทางกรุงเทพ-อุบลราชธานี ขบวนที่ 67 และ68, เส้นทาง กรุงเทพ-สุไหงโก-ลก ขบวนที่ 37 และ 38, เส้นทางกรุงเทพ-กันตัง ขบวนที่ 83 และ 84 และกรุงเทพ-นครศรีธรรมราช ขบวนที่ 85 และ 86

นายอนันต์ กล่าวอีกว่า สำหรับรถโดยสารฯ 1 ขบวน ประกอบด้วย 12 ตู้ รวม 444 ที่นั่ง (ขบวนเดิม 460 ที่นั่ง) ให้บริการทั้งชั้น 1 ชั้น 2 และชั้น 3 แบ่งเป็นชั้น 1 จำนวน 3 ตู้ รวม 72 ที่นั่ง, ชั้น 2 จำนวน 6 ตู้ รวม 236 ที่นั่ง, ชั้น 3 จำนวน 2 ตู้ รวม 136 ที่นั่ง และตู้สำหรับปั่นไฟ 1 ตู้ อย่างไรก็ตามขบวนรถดังกล่าวจะเป็นรถปรับอากาศทั้งหมด ถือเป็นการให้บริการรถชั้น 3 ชุดแรกที่ปรับจากการให้บริการพัดลม เป็นรถปรับอากาศ ตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม สำหรับขบวนรถที่รถใหม่จะไปวิ่งทดแทนนั้น จะพิจารณาเลือกคันที่ยังสามารถใช้งานได้ดีไปเสริมการเดินรถในเส้นทางอื่นๆ ต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า ส่วนค่าโดยสารชั้น 3 ที่ปรับจากพัดลม เป็นปรับอากาศ จะมีการปรับขึ้นหรือไม่ นายอนันต์ กล่าวว่า ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา เบื้องต้นค่าโดยสารจะยังเท่าเดิม แต่อาจจะมีการปรับเพิ่มในส่วนของค่าธรรมเนียม

## SRT Board Approves 182 New Air-Conditioned Passenger Carriages Worth 10.5 Billion Baht

**Daily News, December 19, 2027, 4:55 PM**

The State Railway of Thailand (SRT) board has approved the procurement of 182 new passenger carriages, forming 14 trains, with a budget of 10.5 billion baht. These carriages will have the same specifications as the existing 115 CNR carriages and will replace the old express and rapid trains that have been in service for over 50 years. The new trains will serve five routes and will be the first to offer air-conditioned third-class carriages. The SRT will propose this project to the Ministry of Transport this December for loan approval, aiming for cabinet consideration in March 2028. The first two trainsets are expected to be delivered in May 2029.

Mr. Anan Potnimdaeng, Deputy Governor of the SRT, revealed that the board has approved the procurement project to replace the aging rolling stock. 12 trains will be in active service, with 2 as backup. The Ministry of Transport will review the loan request for the purchase this December, followed by cabinet consideration in March 2028, and bidding will open around February 2029.

Mr. Anan added that the first two trainsets are expected to be delivered around May 2029, followed by four more in September 2029, another four in January 2030, and the final four in May 2030. These carriages will have the same specifications as the 115 CNR carriages, which have been popular with passengers over the past six years, with tickets often selling out quickly. The new trains will serve the following routes:

* Bangkok-Chiang Mai (Trains 13, 14, 51, and 52)
* Bangkok-Ubon Ratchathani (Trains 67 and 68)
* Bangkok-Sungai Kolok (Trains 37 and 38)
* Bangkok-Kantang (Trains 83 and 84)
* Bangkok-Nakhon Si Thammarat (Trains 85 and 86)

Each train will consist of 12 carriages with a total of 444 seats (compared to 460 seats in the older trains), offering first, second, and third-class services:

* First class: 3 carriages, 72 seats
* Second class: 6 carriages, 236 seats
* Third class: 2 carriages, 136 seats
* Power generation car: 1 carriage

All carriages will be air-conditioned, marking the first time third-class carriages will have air conditioning, in line with the Ministry of Transport's policy. Older carriages in good condition will be reassigned to other routes.

Regarding the fares for the upgraded third-class carriages, Mr. Anan stated that the matter is under consideration. Initially, the fares will remain the same, but there may be an increase in fees.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43880
Location: NECTEC

PostPosted: 19/12/2024 7:59 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
บอร์ด “รฟท.” เคาะซื้อรถโดยสาร 182 ตู้ 1.05 หมื่นล้าน รถแอร์ทุกชั้น ให้บริการ 5 เส้นทาง
เดลินิวส์ วันพฤหัสบดี ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2567 เวลา 16:55 น.
.

บอร์ดรฟท.ไฟเขียวซื้อรถโดยสาร 182 คัน 1.05 หมื่นล้าน ทดแทนรถเก่ายกระดับบริการ คาดรับรถต้นปี 71
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันพฤหัสบดี ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2567 เวลา 17:33 น.
ปรับปรุง: วันพฤหัสบดี ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2567 เวลา 17:33 น.


บอร์ดรฟท.อนุมัติ จัดซื้อรถโดยสาร 182 คัน พร้อมอะไหล่ วงเงิน 1.05 หมื่นล้านบาท ทดแทนรถโดยสารเก่าอายุ 50 ปี ยกระดับบริการปรับอากาศ ปลดระวางรถพัดลม โดยใช้เงินกู้ คาด ชงครม.มี.ค. 68 ประมูลต้นปี 69 รับรถชุดแรก พ.ค. 71

นายอนันต์ โพธิ์นิ่มแดง รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 2567 ที่ประชุมคณะกรรมการรถไฟฯ (บอร์ดรฟท.) ครั้งที่ 16 /2567 ที่มีนายจิรุตม์ วิศาลจิตร เป็นประธาน มีมติเห็นชอบให้ดำเนินโครงการจัดหารถโดยสารทดแทนรถด่วนพิเศษและรถด่วนจำนวน 182 คันพร้อมอะไหล่ วงเงินงบประมาณรวมทั้งสิ้น 10,502.1 ล้านบาท โดยใช้เงินกู้ โดยขั้นตอนหลังจากนี้ จะสรุป นำเสนอกระทรวงคมนาคม ภายในเดือน ธ.ค.นี้ เพื่อพิจารณาและนำเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบตามลำดับ

สำหรับการจัดหาขบวนรถโดยสารดังกล่าว เพื่อจะนำมาใช้ทดแทนรถรุ่นเก่าอายุ 50 ปี ซึ่งปัจจุบันให้บริการอยู่ขบวนรถไฟทางไกล มีชั้นให้บริการชั้น 1 ปรับอากาศ ชั้น 2 ปรับอากาศ และชั้น 3 พัดลม โดยรถขบวนใหม่จะเป็นรถปรับอากาศทั้งหมดให้บริการชั้น 1-3 รูปแบบคล้ายขบวนรถ 115 คันที่ใช้งานมา 6 ปี ซึ่งมีการตอบรับที่ดีมาก ถือเป็นการจัดหาเพื่อรองรับความต้องการที่มีจำนวนมาก แต่ รฟท. มีขบวนรถให้บริการไม่เพียงพอ


โดยจะเป็นรถโดยสารจำนวน 14 ขบวน ประกอบด้วยรถด่วนให้บริการ 12 ขบวน ขบวนสำรองอีก 2 ขบวน ขบวนละ 12 คัน (11 ตู้โดยสารและ 1 ตู้จ่ายไฟฟ้า) เบื้องต้น รถโดยสารใหม่ 1 ขบวน จำนวน 12 คัน มีทั้งหมด 444 ที่นั่ง ประกอบด้วย ชั้น 1 ปรับอากาศ จำนวน 3 คัน รวม 72 ที่นั่ง, ชั้น 2 ปรับอากาศ จำนวน 6 คัน รวม 236 ที่นั่ง และชั้น 3 ปรับอากาศ จำนวน 2 คัน รวม 36 ที่นั่ง สำหรับทั้ง 12 ขบวนวางเป้าหมายจะให้บริการใน 6 เส้นทาง ดังนี้

1.เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่-กรุงเทพฯ ขบวนที่ 13-14 จำนวน 2 ชุด รวม 26 คัน
2.เส้นทางกรุงเทพฯ - เชียงใหม่ - กรุงเทพฯ ขบวนที่ 51-52 จำนวน 2 ชุด รวม 26 คัน
3.เส้นทางกรุงเทพฯ - อุบลราชธานี - กรุงเทพฯ ขบวนที่ 67-68 จำนวน 2 ชุด 26 คัน
4.เส้นทางกรุงเทพฯ - สุไหงโกลก - กรุงเทพฯ ขบวนที่ 37-38 จำนวน 2 ชุด 26 คัน
5.เส้นทางกรุงเทพฯ - กันตัง - กรุงเทพฯ ขบวนที่ 83-84 จำนวน 2 ชุด 26 คัน
6.เส้นทางกรุงเทพฯ - นครศรีธรรมราช - กรุงเทพฯ ขบวนที่ 85-86 จำนวน 2 ชุด 26 คัน

สำหรับไทม์ไลน์การรับมอบขบวนรถทั้งหมด จะเสนอครม.ต้นเดือน มี.ค. 2568 เปิดประมูลเดือน ก.พ. 2569 จะสามารถรับมอบขบวนรถ 2 ชุดแรกในเดือน พ.ค. 2571 อีก 4 ชุดในเดือน ก.ย. 2571 อีก 4 ชุดในเดือน ม.ค. 2572 และล็อตสุดท้ายในเดือน พ.ค. 2572 อีก 4 ชุด

ปัจจุบัน รถโดยสารที่ใช้งานอยู่ส่วนใหญ่จะมีอายุมากกว่า 50 ปี มีจำนวนถึง 727 คัน คิดเป็นร้อยละ 57 ทำให้ความพร้อมใช้งานของรถลดลง มีค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงเพิ่มมากขึ้น อะไหล่ที่ใช้ในการซ่อมบำรุงหายากขึ้น และเมื่อซ่อมบำรุงแล้วอาจไม่คุ้มค่า และไม่ตรงความต้องการของผู้โดยสารที่ต้องการความสะดวกสบายเพิ่มมากขึ้น จึงมีแผนตัดบัญชีรถโดยสารที่มีอายุการใช้มากกว่า 50 ปี และรถที่ไม่สามารถซ่อมบำรุงกลับมาใช้งานได้ แต่การตัดบัญชีรถโดยสารทำให้ขบวนรถที่พร้อมใช้งานมีจำนวนลดลง ส่งผลต่อการพ่วงขบวนรถในอนาคต ดังนั้น จึงจำเป็นต้องจัดหารถโดยสารมาทดแทน

การรถไฟฯ จึงมีแผนโครงการจัดหารถโดยสารทดแทนรถด่วนพิเศษ และรถด่วน จำนวน 182 คัน พร้อมอะไหล่ เพื่อปรับปรุงคุณภาพการให้บริการแก่ผู้โดยสารทุกกลุ่ม ตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งของไทย และเพิ่มบทบาทการให้บริการขนส่งผู้โดยสาร ตลอดจนการใช้ประโยชน์ของโครงสร้างพื้นฐานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด


ปัจจุบัน รถโดยสารที่ใช้งานอยู่ส่วนใหญ่จะมีอายุมากกว่า 50 ปี มีจำนวนถึง 727 คัน คิดเป็นร้อยละ 57 ทำให้ความพร้อมใช้งานของรถลดลง มีค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงเพิ่มมากขึ้น อะไหล่ที่ใช้ในการซ่อมบำรุงหายากขึ้น และเมื่อซ่อมบำรุงแล้วอาจไม่คุ้มค่า และไม่ตรงความต้องการของผู้โดยสารที่ต้องการความสะดวกสบายเพิ่มมากขึ้น จึงมีแผนตัดบัญชีรถโดยสารที่มีอายุการใช้มากกว่า 50 ปี และรถที่ไม่สามารถซ่อมบำรุงกลับมาใช้งานได้ แต่การตัดบัญชีรถโดยสารทำให้ขบวนรถที่พร้อมใช้งานมีจำนวนลดลง ส่งผลต่อการพ่วงขบวนรถในอนาคต ดังนั้น จึงจำเป็นต้องจัดหารถโดยสารมาทดแทน

การรถไฟฯ จึงมีแผนโครงการจัดหารถโดยสารทดแทนรถด่วนพิเศษ และรถด่วน จำนวน 182 คัน พร้อมอะไหล่ เพื่อปรับปรุงคุณภาพการให้บริการแก่ผู้โดยสารทุกกลุ่ม ตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งของไทย และเพิ่มบทบาทการให้บริการขนส่งผู้โดยสาร ตลอดจนการใช้ประโยชน์ของโครงสร้างพื้นฐานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
https://mgronline.com/business/detail/9670000121937

SRT Board agree in principal for the 182 new airconditioned carriages for 14 express trains and special express trains with the price tags of 10502 million Baht using 115 carriages of CRRC Changchun as the models for the new carriages to allow the retirement of some old carriages dated 1970s even though they would be assigned for 12 trains in practice with 2 sets as the spare carriages for special trains.
SRT Board will submit the proposal to MoT in December 2024 to get cabinet approval in March 2025 and the bidding after drafting TOR in February 2026.
Once the winner has been announce, the first 2 sets will be delivered in May 2028, the other 4 sets delivered in September 2028, the other 2 set delivered in January 2029, and the last 4 sets will be delivered in May 2029.
The new sets will be assigned to the following expresses:
SP13/14 : Krungthep Aphiwat <=> Chiang Mai
EXP51/52 : Krungthep Aphiwat <=> Chiang Mai
EXP67/68 : Krungthep Aphiwat <=> Ubon Ratchathani
SP37/38 : Krungthep Aphiwat <=> Sugei Golok
EXP83/84: Krungthep Aphiwat <=> Kantang (extended from Trang by popular demands)
EXP85/86 : Krungthep Aphiwat <=>Nakhon Srithammarat
1 set consists of 12 airconditioned carriages for passengers with total 444 seats/beds with first class (3 carriages with 72 seats (beds)), second class (6 carriages with 236 seats/beds) and third class (2 carriages with 136 seats) with 1 power car and 1 restaurant car.
The new surcharges for third class airconditioned carriages will be applied but it is up to the discretion of SRT Board even though it will remain the same at the time being. The old carriages which are still in serviceable conditions will be assigned to the other popular routes. ฺBTW, we have learnt that there are 727 passenger carriages which are at least 50 years old which need to be on retirement due to the lack of appropriate spare parts and those carriages are obsolete or broken beyond repairs.
https://mgronline.com/business/detail/9670000121937 https://www.dailynews.co.th/news/4205153/ https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/1129118361998730
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 47080
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 22/12/2024 7:42 am    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
บอร์ดรฟท.ไฟเขียวซื้อรถโดยสาร 182 คัน 1.05 หมื่นล้าน ทดแทนรถเก่ายกระดับบริการ คาดรับรถต้นปี 71
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันพฤหัสบดี ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2567 เวลา 17:33 น.
ปรับปรุง: วันพฤหัสบดี ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2567 เวลา 17:33 น.

https://mgronline.com/business/detail/9670000121937 https://www.dailynews.co.th/news/4205153/ https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/1129118361998730

เชียร์ล้น'สภาพัฒน์-ครม.อย่ากั๊กรถไฟ'
Source - เดลินิวส์
Sunday, December 22, 2024 07:22
รฟท.ประมูลเปิดกว้างโปร่งใส จะผ่านฉลุยบริการประชาชน

"ทีมข่าวนวัตกรรมขนส่งเดลินิวส์" รายงานว่า หลังจากที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 67 มีมติเห็นชอบให้รฟท. ดำเนินโครงการจัดหารถโดยสารทดแทนรถด่วนพิเศษ และรถด่วน 14 ขบวน 182 คัน (ตู้) ซึ่งเป็นรถปรับอากาศทุกชั้น (1,2,3) พร้อมอะไหล่ วงเงินงบประมาณรวมทั้งสิ้น 10,502 ล้านบาท เพื่อทดแทนขบวนรถไฟเก่าที่มีอายุการใช้งานมากว่า 50 ปี โดยวางแผนตามเงื่อนเวลา (ไทม์ไลน์) เสนอกระทรวงคมนาคมขอกู้เงินจัดซื้อฯและเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเดือน มี.ค. 68 เปิดประมูล ก.พ. 69 ส่งมอบขบวนรถชุดแรก 2 ขบวน พ.ค. 71 ส่งมอบอีก 4 ขบวน ก.ย. 71 อีก 4 ขบวน ม.ค. 72 และ 4 ขบวนสุดท้ายเดือน พ.ค. 72 มีคุณสมบัติ (Spec)เดียวกับรถโดยสาร 115 คัน CNR(China CNR Corporation Limited จากจีน วงเงิน 4,660 ล้านบาท) ซึ่ง รฟท.จัดซื้อใหม่ล่าสุดและให้บริการตั้งแต่ปี 59 ซึ่งได้รับความนิยมจากผู้โดยสารอย่างมากจองตั๋วโดยสารเต็มทุกครั้ง

ต่อมาในวันที่ 20 ธ.ค. ประชาสัมพันธ์ รฟท.ส่งข่าวแจกถึงสื่อมวลชนโดยมีรายละเอียดเพิ่มเติมว่า โครงการจัดซื้อครั้งนี้สามารถเพิ่มความเร็วสูงสุดจากเดิม 90 กม./ชม. เป็น 120 กม./ชม. ทำให้ผู้ใช้บริการเดินทางถึงจุดหมายได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ส่วนด้านความปลอดภัย เพิ่มระบบ CCTV ภายในห้องโดยสาร และบันไดประตูปิด-เปิดอัตโนมัติ รองรับการให้บริการทั้งสถานีชานชาลาต่ำและชานชาลาสูง พร้อมลิฟต์สำหรับผู้พิการในกรณีสถานีมีชานชาลาต่ำ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมลดการใช้พลังงานจากน้ำมันเชื้อเพลิงต่อคันได้มากถึง 30% เมื่อเทียบกับขบวนรถเดิม สอดคล้องกับโครงการก่อสร้างทางคู่ระยะ (เฟส) แรก 7 เส้นทาง ระยะทาง 993 กม. โครงการก่อสร้างทางรถไฟสายใหม่ 2 เส้นทาง 678 กม. การซื้อรถจักรใหม่ 50 คัน และโครงการทางคู่เฟส 2 อีก 7 เส้นทาง รวม 1,488 กม.นั้น

มีประชาชนและผู้โดยสารแสดงความเห็นในเรื่องนี้ผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊กข่าวนวัตกรรมขนส่งเดลินิวส์, เพจทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย และแฟนเพจด้านรถไฟล้นหลาม โดย ส่วนใหญ่แสดงความดีใจและเห็นด้วยที่บอร์ดอนุมัติจัดซื้อรถโดยสารใหม่เพิ่ม เนื่องจากกำลังขาดแคลนขบวนรถ อย่างหนัก และกังวลว่าสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) จะดองเรื่องอีก ต้องการให้ผ่านโครงการ รวมทั้งให้ รฟท.จัดทำข้อมูลให้ครบถ้วน สามารถชี้แจงสภาพัฒน์ได้ในทุกเรื่อง เมื่อผ่านไปถึง ครม.ให้เร่งอนุมัติจัดซื้อ

นอกจากนี้ยังมีบางรายแสดงความเห็นว่า รฟท.สร้างทางคู่ออกแบบให้รถไฟวิ่งได้ 160 กม./ชม. แต่จัดซื้อทั้งหัวรถจักรและตู้โดยสารให้วิ่งแค่ 120 กม./ชม. ควรลดงบประมาณสร้างทางคู่ราง 1 เมตรวิ่ง 120 ให้ประหยัดลงนำเงินส่วนที่เหลือไปเติมงบสร้างรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีด) หรือจะให้รถไฟราง 1 เมตรวิ่ง 160 แบบมาเลเซียก็ซื้อรถสเปก 160 มาวิ่งรถดีเซลรางได้ 160 ไม่จำเป็นต้องเป็นรถไฟฟ้า รวมถึงไม่ต้องการให้ลอกสเปกจีน ควรประกวดราคาให้เกิดความโปร่งใสอย่าให้เกิดข้อครหาต่าง ๆ การจัดซื้อรถไฟโดยสารจะได้ราบรื่นเดินหน้าได้อย่างรวดเร็วและรับมอบรถมาให้บริการประชาชนตามเป้าหมาย.

ที่มา: นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 23 ธ.ค. 2567 (กรอบบ่าย)


People urge State Planning Commission and Cabinet to approve new train purchase

Source - Daily News
Sunday, December 22, 2024 07:22

SRT's open and transparent bidding process expected to smoothly deliver service to the public

The "Daily News Transportation Innovation News Team" reports that following the State Railway of Thailand (SRT) Board of Directors meeting on December 19, 2024, the board approved the SRT's project to procure 182 passenger carriages (14 trains) to replace special express and express trains. These air-conditioned carriages (classes 1, 2, and 3), along with spare parts, have a total budget of 10.502 billion baht. This aims to replace old trains that have been in service for over 50 years.

The timeline for the project is as follows:

* **March 2025:** Submit a loan request to the Ministry of Transport and propose the project to the Cabinet for consideration.
* **February 2026:** Open bidding process.
* **May 2027:** Deliver the first 2 train sets.
* **September 2027:** Deliver another 4 train sets.
* **January 2028:** Deliver another 4 train sets.
* **May 2028:** Deliver the final 4 train sets.

The specifications for these carriages are the same as the 115 carriages (worth 4.66 billion baht) recently purchased from China CNR Corporation Limited, which have been in service since 2016 and are highly popular with passengers, with tickets often fully booked.

On December 20, the SRT Public Relations department released further details to the media, stating that this project will increase the maximum speed from 90 km/h to 120 km/h, allowing passengers to reach their destinations faster. Safety features include CCTV systems inside the carriages and automatic door steps. The trains will be compatible with both low and high platforms, with lifts provided for disabled passengers at stations with low platforms. They are also environmentally friendly, reducing fuel consumption per carriage by up to 30% compared to the old trains. This aligns with the first phase of the double-track railway construction project (7 routes, 993 km), the construction of 2 new railway lines (678 km), the purchase of 50 new locomotives, and the second phase of the double-track project (7 routes, 1,488 km).

The public and passengers have expressed their opinions on this matter overwhelmingly through the Facebook fan pages of Daily News Transportation Innovation News, the SRT Public Relations team, and various train enthusiast pages. Most people expressed their joy and agreement with the board's approval of the new passenger carriages, citing a severe shortage of trains. They are concerned that the Office of the National Economic and Social Development Council (NESDC) might delay the project and urge its approval. They also encourage the SRT to prepare comprehensive information to address any questions from the NESDC and the Cabinet to expedite the purchase approval.

Some have commented that while the SRT designed the double-track lines for trains to run at 160 km/h, both the locomotives and carriages are only capable of 120 km/h. They suggest reducing the budget for the 120 km/h meter-gauge double-track lines and allocating the remaining funds to high-speed rail projects. Alternatively, they propose adopting Malaysia's model of running 160 km/h diesel trains on meter-gauge tracks. There are also calls for open bidding instead of copying Chinese specifications to ensure transparency and avoid controversies, thus facilitating a smooth and swift procurement process to deliver the trains for public service as planned.

Source: Daily News, December 23, 2024 (Afternoon Edition)
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 49, 50, 51
Page 51 of 51

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©