Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:312062
ทั่วไป:13658627
ทั้งหมด:13970689
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน)
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าวรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน)
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 579, 580, 581, 582, 583  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44020
Location: NECTEC

PostPosted: 27/12/2024 10:46 am    Post subject: Reply with quote

“อีอีซี”เคลียร์แก้สัญญา”ไฮสปีด”ชงครม.รอบเดียว-ม.ค.68เสนอบอร์ดกพอ.ทบทวนขั้นตอนเม.ย.ปิดดีลออก NTP
หน้าคมนาคม-ขนส่ง
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันศุกร์ ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2567 เวลา 08:06 น.
ปรับปรุง: วันศุกร์ ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2567 เวลา 08:06 น.

“อีอีซี”เคลียร์ปมแก้สัญญาร่วมทุน”ไฮสปีด” ยึดตาม PPP EEC Track ม.ค. 68 ชงบอร์ดกพอ. ทบทวนขั้นตอนเสนอครม.อนุมัติครั้งเดียว หลังส่งอัยการตรวจร่างแก้ไขสัญญาฯ คาดมี.ค.-เม.ย. สรุปเร่งเซ็น”ซีพี.”ออก NTP เผย รฟท.ตั้งงบปี 69 ทยอยจ่ายค่าก่อสร้าง ยันเอกชนล้มสัญญารัฐดึงสร้างเอง
นายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมกตารนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรืออีอีซี เปิดเผยถึงความคืบหน้า การแก้ไขสัญญาโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน (ดอนเมือง - สุวรรณภูมิ - อู่ตะเภา) ว่า หลังจากที่ คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ที่มีนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานได้มีมติเห็นชอบหลักการแล้ว ตั้งแต่วันที่ 11 ตุลาคม 2567 แต่ยังไม่สามารถเสนอ คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ เนื่องจากยังมีความเห็นไม่ตรงกันในเรื่องขั้นตอนเสนอ ครม.พิจารณาเห็นชอบการแก้ไขสัญญาร่วมทุนฯ 2 ครั้ง ซึ่งเป็นไปตามพ.ร.บ.การร่วมทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 (พ.ร.บ. PPP) หรือ เสนอครม.พิจารณาครั้งเดียว ตามพ.ร.บ.อีอีซี
ซึ่งในการประชุมบอร์ดกพอ.วาระเดือนม.ค. 2568 นี้ อีอีซีจะรายงานความก้าวหน้าโครงการไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบิน และจะขอทบทวนมติบอร์ดกพอ.เมื่อวันที่ 11 ต.ค. 2567 กรณีเสนอครม.พิจารณา 2 ครั้ง คือ ครั้งแรกเสนอครม.รับทราบมติบอร์ด กพอ.เรื่องหลักการแก้ไขสัญญาร่วมทุนฯ ก่อน หลังจากนั้น ส่งร่างสัญญาร่วมทุนฯให้อัยการสูงสุดตรวจสอบ และกลับมาเสนอบอร์ดกพอ.เห็นชอบร่างสัญญาฯร่วมทุนและเสนอครม.อีกครั้งเพื่ออนุมัติลงนามแก้ไขสัญญาร่วมทุนฯ เป็นเสนอครม.เห็นชอบเพียงครั้งเดียว หลังจากอัยการสูงสุดตรวจร่างสัญญาเรียบร้อย และบอร์ดกพอ.เห็นชอบแล้ว



ดังนั้นขั้นตอนหลังบอร์ดกพอ.ทบทวนมติขั้นตอนการเสนอครม.พิจารณาครั้งเดียวแล้ว ทาง รฟท.จะเร่งไปหารือกับเอกชนเพื่อสรุปเรื่องสัญญา ซึ่งขณะนี้ไม่มีประเด็นสำคัญแล้วเพราะเงื่อนไขการแก้ไขสัญญาร่วมทุนฯในหลักการได้ข้อยุติไปแล้ว ตอนนี้เหลือเรื่องถ้อยคำ จากนั้นส่งร่างสัญญาฯให้อัยการตรวจสอบ คาดว่าใช้เวลาประมาณ 1 เดือน เรื่องจะกลับมาเสนอบอร์ดกพอ.เพื่อเห็นชอบร่างสัญญาฯ ในวาระประชุมเดือนก.พ. 2568 และคาดว่าจะเสนอครม.ขออนุมัติ ได้ประมาณเดือนมี.ค.-เม.ย. 2568 และลงนามแก้ไขสัญญาร่วมทุนฯ และจะออกหนังสือให้เริ่มงาน (Notice to Proceed: NTP) ทันที

ทั้งนี้ ตาม PPP EEC Track หรือพ.ร.บ.อีอีซี กำหนดไว้ว่าการแก้ไขสัญญาฯ เมื่อคู่สัญญาเจรจากับ และคณะกรรมการกำกับสัญญาเห็นชอบ ให้ส่งอัยการตรวจร่างสัญญาฯ เสร็จแล้ว รฟท.นำเรื่อง เสนออีอีซี บอร์ดกพอ. และเสนอครม.เห็นชอบ และลงนามแก้ไขสัญญาฯ



@รฟท.ตั้งงบปี 69 ทยอยจ่ายค่าก่อสร้าง ซี.พี.ล้มสัญญา รัฐดึงสร้างเอง

นายจุฬากล่าวว่า อีอีซีตั้งเป้าหมายให้ลงนามแก้ไขสัญญา เพื่อเร่งออก NTP เริ่มงานก่อสร้างให้เร็วที่สุด ก่อนหน้านี้ มักมีคำถามว่าถ้าเอกชนไม่ทำโครงการแล้วทางออกจะเป็นอย่างไร โครงการนี้เป็นการร่วมทุนระหว่างรัฐกับเอกชนดังนั้นการขับเคลื่อนรัฐกับเอกชนต้องไปด้วยกัน ซึ่งรัฐโดยรฟท. ต้องเตรียมวงเงิน 1.2 แสนล้านบาท เพื่อจ่ายคืนค่าก่อสร้างให้เอกชน ภายใน 4 ปี ซึ่งเริ่มตั้งงบประมาณตั้งแต่ปี 2569 ดังนั้น หากเอกชนไม่ทำโครงการต่อด้วยเหตุผลใดก็ตามรัฐก็มีเงินที่จะทำโครงการเองอยู่แล้ว

Wisarut wrote:
Mongwin wrote:
“รฟท.” พร้อมสร้าง “รถไฟไฮสปีดสามสนามบิน” เอง! หากรัฐไม่แก้สัญญา แต่ต้องหาเงินให้ | เดลินิวส์
Source - เว็บไซต์เดลินิวส์
วันพฤหัสบดี ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2567 เวลา 08:41 น.


วัดใจ ม.ค.นี้ “รฟท.” ลุ้นบอร์ดกพอ.เคาะแก้สัญญา “ไฮสปีด 3 สนามบิน”
หน้าเศรษฐกิจ-ธุรกิจ
ฐานเศรษฐกิจ
วันพฤหัสบดี ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2567 เวลา 08:30 น.
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 47362
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 28/12/2024 1:58 pm    Post subject: Reply with quote

โครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง สัญญาที่ 3-5 ช่วงโคกกรวด-นครราชสีมา ประจำเดือนธันวาคม 2567
SPTK กิจการร่วมค้า
Dec 28, 2024


https://www.youtube.com/watch?v=6rGzNAGZEc8
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 47362
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 29/12/2024 12:15 pm    Post subject: Reply with quote

‘ไฮสปีดไทยจีน กทม.-โคราช’ สร้าง 7 ปี คืบแค่ 38% เปิดสารพัดปัญหา ก่อนลุ้นปี 71 ได้ใช้
วันอาทิตย์ ที่ 29 ธันวาคม 2567 เวลา 12:00 น. isranews

https://www.isranews.org/article/isranews/134566-transport-train-7.html
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 47362
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 30/12/2024 10:36 am    Post subject: Reply with quote

ย้อนเหตุการณ์ 'คมนาคม' ปี 2567 สารพัดอุบัติเหตุ สู่นโยบาย 'ล้อมคอก'
Source - กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
Monday, December 30, 2024 07:03

ย้อน 5 เหตุการณ์อุบัติเหตุ "คมนาคม" ในปี 2567 สู่นโยบาย "ล้อมคอก" เร่งจัดทำสมุดพกยกมาตรฐานด้านความปลอดภัย เพิ่มบทลงโทษผู้รับเหมา สร้างผลกระทบต่อประชาชนเตรียมถูกคาดโทษขึ้นบัญชีดำห้ามประมูลงานในอนาคต

ปี 2567 นับเป็นอีกหนึ่งปีที่กระทรวงคมนาคมเร่งงานก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของประเทศ และรองรับการเดินทางของประชาชนให้สะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะโครงการระบบขนส่งทางรางมีโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้างจำนวนมากกระจายอยู่ทั่วประเทศ ทั้งโครงการรถไฟฟ้า โครงการรถไฟความเร็วสูง และโครงการรถไฟทางคู่

อย่างไรก็ดี จากการก่อสร้างโครงการต่างๆ แม้ว่าผู้รับเหมาจะมีมาตรการด้านความปลอดภัย แต่กลับพบว่าในปีที่ผ่านมายังมีอุบัติเหตุ เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นกับโครงการในสังกัดกระทรวงคมนาคม “กรุงเทพธุรกิจ” รวบรวมเหตุการณ์อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในปี 2567 และกลายเป็นบทเรียนให้กับกระทรวงคมนาคมในการกำกับดูแลความปลอดภัยของโครงการด้านคมนาคมให้เข้มงวดมากขึ้น

รถไฟฟ้าสายสีเหลืองล้อหลุด

วันที่ 2 ม.ค.2567 “รถไฟฟ้าสายสีเหลือง” เกิดเหตุล้อหลุดตกลงมาใส่รถแท็กซี่ได้รับความเสียหายที่บริเวณถนนเทพารักษ์ ขาออกก่อนถึงสถานีศรีเทพา จังหวัดสมุทรปราการ ระหว่างสถานีศรีเทพา และศรีด่าน แต่โชคดีที่ไม่มีผู้บาดเจ็บ ซึ่งการตรวจสอบของกระทรวงคมนาคม ระบุว่า สาเหตุเกิดจากเบ้าลูกปืน (Bearing) ของล้อประคอง (Guide Wheel) เสียหาย ทำให้ล้อประคองหลุดร่วงลงมา

รถไฟฟ้าสายสีเหลืองรางจ่ายไฟร่วง

วันที่ 28 มี.ค.2567 “รถไฟฟ้าสายสีเหลือง” เกิดเหตุแผ่นเหล็ก (Finger Plate) ที่ติดตั้งอยู่บริเวณรอยต่อของทางวิ่ง (Expansion Joint) ได้มีการเลื่อนออกจากตำแหน่ง เมื่อขบวนรถเคลื่อนที่ผ่าน ทำให้แผ่นเหล็กดังกล่าวเคลื่อนตัวไปกระแทกรางจ่ายกระแสไฟฟ้าหลุดออกจากตำแหน่ง ระหว่างสถานีกลันตัน (YL12) – สถานีศรีอุดม (YL16) ส่งผลให้รถยนต์ จำนวน 2 คัน และจักรยานยนต์ จำนวน 1 คัน ได้รับความเสียหาย แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

ดินถล่มอุโมงค์ไฮสปีดไทยจีน

เมื่อเวลา 23.40 น. ของคืนวันที่ 24 ส.ค.2567 เกิดเหตุดินทรุดตัวภายในอุโมงค์รถไฟคลองไผ่ ช่วงคลองขนานจิต ตำบลจันทึก อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นอุโมงค์ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างในโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพ - นครราชสีมา สัญญา 3-2 งานก่อสร้างอุโมงค์มวกเหล็กและลำตะคอง เป็นเหตุให้มีคนงานที่กำลังปฏิบัติงานขุดเจาะอุโมงค์ ติดอยู่ภายใน 3 ราย

เหตุเพลิงไหม้รถบัสนักเรียน

1 ต.ค. 2567 เกิดเหตุเพลิงไหม้รถบัส ทัศนศึกษาจากโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จังหวัดอุทัยธานี ซึ่งถือเป็นเรื่องสะเทือนขวัญกับสิ่งที่เกิดขึ้นในเมืองไทย มีผู้เสียชีวิตมากถึง 23 ราย เป็นนักเรียน 20 คน และครู 3 คนและสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ เบื้องต้นยืนยันได้ว่าเกิดจากการรั่วไหลของแก๊สบริเวณส่วนหน้าของรถ รวมทั้งรถคันดังกล่าวติดตั้งถังแก๊สมากถึง 11 ถัง แต่จดทะเบียนแจ้งไว้เพียง 6 ถัง ทำให้เรื่องนี้สะท้อนถึงข้อบกพร่องของเจ้าพนักงานในการตรวจสอบมาตรฐานรถบัสด้วย

คานปูนและเครนถล่มบนถนนพระราม 2

29 พ.ย.2567 เกิดเหตุคานปูน (Segment) และเครน (Launching Gantry Crane) ซึ่งเป็นชิ้นส่วนและอุปกรณ์ที่ใช้ก่อสร้างทางยกระดับ โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 82 สายทางยกระดับบางขุนเทียน-บ้านแพ้ว ช่วงเอกชัย-บ้านแพ้ว ตอน 1 ถล่มขณะกำลังเชื่อมคานปูนเข้าด้วยกัน โดยเหตุการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้คนงานที่ปฏิบัติงานเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บหลายราย

ทั้งนี้ จากเหตุการณ์อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นท้ายที่สุดนำมาสู่นโยบาย “ล้อมคอก” เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ และเพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของผู้รับเหมา และผู้รับสัมปทานในโครงการต่างๆ โดยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ประกาศให้มีการเร่งจัดทำ “สมุดพก” เพื่อกำหนดบทลงโทษหากผู้รับเหมาหรือผู้รับสัมปทานทำผิด สร้างผลกระทบต่อประชาชน ต้องรับโทษตกชั้นเข้าร่วมประมูลโครงการอื่นๆ ในอนาคต

“กระทรวงฯ ทราบดีว่าประชาชนกำลังกังวลต่อการกำกับดูแลของกระทรวงฯ ในการเอาผิดผู้รับเหมาที่ทำให้เกิดเหตุกระทบต่อความปลอดภัย เพราะปัจจุบันในสัญญามีเฉพาะบทปรับ ภาครัฐทำอะไรนอกเหนือจากนี้ไม่ได้จากปัญหาที่เกิดขึ้นก็พบว่าผู้รับเหมาไม่เกรงกลัวกับโทษปรับเท่าไหร่ ทำให้กระทรวงฯ อยู่ระหว่างเร่งจัดทำสมุดพกเข้ามาควบคุมมาตรฐานเพิ่มเติม”

อย่างไรก็ดี การจัดทำสมุดพกเพื่อกำหนดเกณฑ์หรือโทษเอาผิดที่จะมีผลต่อการขึ้นบัญชีดำตกชั้นเข้าร่วมประมูลโครงการในอนาคตนั้น ถือเป็นอำนาจของกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ทำให้เรื่องนี้กระทรวงฯ ต้องประสานไปยังกระทรวงการคลัง ให้ข้อมูลและร่วมกันกำหนดเกณฑ์เอาผิด โดยที่ผ่านมาได้มอบหมายให้กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เร่งจัดทำข้อมูลปัญหา และบทลงโทษเพื่อเตรียมไปหารือกับกรมบัญชีกลาง ดังนั้นในปี 2568 น่าจะได้เห็นภาพความชัดเจนมากขึ้น


A Year of Accidents in Transport: Thailand's Ministry Takes Action
Source - Bangkok Biz News Online
Monday, December 30, 2024 07:03


This article revisits 5 transport-related accidents in 2024 that led to a new "containment" policy. The Ministry of Transport is expediting the creation of a "pocketbook" to raise safety standards and increase penalties for contractors who endanger the public. Offenders may face blacklisting and future bidding bans.

In 2024, the Ministry of Transport focused on infrastructure construction to enhance national capabilities and improve public transportation. Numerous rail projects were underway across the country, including mass transit lines, high-speed rail, and double-track railway projects.

Despite safety measures, unexpected accidents occurred within the Ministry's projects. Bangkok Biz News has compiled these incidents, which serve as lessons for stricter safety supervision in transport-related projects.

1. Yellow Line Train Wheel Detachment

On January 2, 2024, a wheel detached from a Yellow Line train, damaging a taxi on Thepharak Road before reaching Sri Thepha Station in Samut Prakan province. Fortunately, there were no injuries. Investigations revealed that a damaged bearing in the guide wheel caused the detachment.

2. Yellow Line Train Power Rail Incident

On March 28, 2024, a finger plate at an expansion joint on the Yellow Line shifted, striking and dislodging the power rail between Khlanthai (YL12) and Sri Udom (YL16) stations. This damaged two cars and a motorcycle, but no one was injured.

3. Landslide in Thai-Chinese High-Speed Rail Tunnel

On August 24, 2024, at 11:40 PM, a landslide occurred within the Khlong Phai railway tunnel in Pak Chong district, Nakhon Ratchasima province. This tunnel is part of the Thai-Chinese high-speed rail project's first phase (Bangkok-Nakhon Ratchasima). Three workers were trapped inside.

4. School Bus Fire

On October 1, 2024, a tragic fire engulfed a school bus from Wat Khao Phraya Sangkharam School in Uthai Thani province, resulting in 23 deaths (20 students and 3 teachers). The cause was a gas leak at the front of the bus, which had 11 gas tanks installed despite registering only 6. This highlighted a failure in vehicle inspection standards.

5. Concrete Beam and Crane Collapse on Rama II Road

On November 29, 2024, a concrete beam and launching gantry crane collapsed during construction of the Bang Khun Thian-Ban Phaeo elevated highway (Eka Chai-Ban Phaeo Section 1). This resulted in worker deaths and injuries.

These accidents led to the "containment" policy, aiming to prevent recurrence and enhance contractor safety standards. Deputy Prime Minister and Transport Minister Suriya Jungrungreangkit announced the expedited development of a "pocketbook" outlining penalties for contractors and concessionaires who endanger the public. These penalties could include demotion and disqualification from future project bids.

The Ministry acknowledges public concern regarding holding contractors accountable. Currently, contracts only include fines, limiting the government's actions. This has proven ineffective as contractors often disregard fines. The "pocketbook" aims to address this by introducing stricter standards.

However, creating this "pocketbook" and implementing blacklisting falls under the jurisdiction of the Comptroller General's Department within the Ministry of Finance. The Ministry of Transport is collaborating with the Ministry of Finance to establish these penalty guidelines. The Department of Highways, the Department of Rural Roads, and other relevant agencies are compiling information on issues and potential penalties for discussion with the Comptroller General's Department. Clearer procedures are expected in 2025.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44020
Location: NECTEC

PostPosted: 31/12/2024 1:13 am    Post subject: Reply with quote

‘คมนาคม’ ผลักดันไฮสปีดไทยจีนเฟส 2 ‘โคราช-หนองคาย’ 3.28 แสนล. ชงครม.ปี 68
เขียนโดยisrasnews
เขียนวันวันจันทร์ ที่ 30 ธันวาคม 2567 เวลา 13:03 น.

‘คมนาคม’ เตรียมเสนอ ครม. พิจารณา ‘ไฮสปีดเทรนไทยจีนระยะที่ 2 ช่วงโคราช-หนองคาย’ วงเงิน 328,186 ล้านบาท ลุ้นบอร์ดสภาพัฒน์ให้ผ่านเพื่อไปต่อ ครม. หลังปีใหม่ วางไทม์ไลน์แล้วเสร็จปี 71

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 30 ธันวาคม 2567 แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ในปี 2568 นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จะผลักดันโครงการรถไฟความเร็วสูงไทยจีน ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา - หนองคาย ระยะทาง 357 กม. มูลค่าโครงการ 328,186.52 ล้านบาท

สถานะปัจจุบันของโครงการ กระทรวงคมนาคมมอบหมายให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) พิจารณาดำเนินการศึกษารูปแบบการลงทุนแบบร่วมทุนระหว่างรัฐและเอกชน (PPP) ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 (พ.ร.บ.ร่วมทุน 2562)

โดยได้รับการอนุมัติรายงานวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) จากคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ คชก. เมื่อวันที่ 16 ก.พ. 2567 และได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เมื่อวันที่ 25 ก.ค. 2567 อยู่ระหว่างรอเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณา ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนสอบถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แก่ สำนักงบประมาณ, สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) และกระทรวงคมนาคม เพื่อรับความเห็นประกอบการพิจารณาของครม. โดยหลังปีใหม่ จะมีการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) สภาพัฒน์ขึ้น ซึ่งทาง รฟท.และกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เตรียมประเด็นที่จะไปตอบทางสภาพัฒน์ไว้แล้ว คาดว่าจะสามารถบรรจุในวาระพิจารณา ครม.ได้ภายในปี 2568 นี้ โดยวางแผนที่จะเปิดให้บริการให้ได้ในปี 2571

@พลิกรายละเอียดโครงการ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูงไทยจีน ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา - หนองคาย มีระยะทาง 357 กม. ตัวโครงสร้างแบ่งเป็นยกระดับ 202 กม. และวิ่งระดับดิน 154 กม. ระบบรถไฟเป็นระบบรถไฟความเร็วสูงที่ให้บริการเฉพาะการขนส่งผู้โดยสาร โดยมีการเดินรถร่วมกับรถสินค้าจากประเทศจีนและลาว เฉพาะช่วงสะพานข้ามแม่น้ำโขง – นาทา โดยความเร็วสูงสุดที่ใช้ในการออกแบบ คือ 250 กม./ชม. เพื่อให้สอดคล้องโครงการรถไฟความเร็วสูง ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพมหานคร –นครราชสีมา มีความยาวของขบวนรถ 200 เมตร สามารถจุผู้โดยสารสูงสุดได้ที่ 600 คนต่อขบวน

สถานีรถไฟมี 5 แห่ง ได้แก่ บัวใหญ่, บ้านไผ่, ขอนแก่น, อุดรธานี และหนองคาย โดยจะมีศูนย์ซ่อมบำรุงอยู่ที่เชียงรากน้อย จ.ปทุมธานี และนาทา จ.หนองคาย ส่วนรายละเอียดงานระบบรถไฟฟ้าจะเป็นระบบรถไฟฟ้าเหนือหัวขบวนรถ (Overhead Catenary System) โดยจะมีสถานีจ่ายไฟฟ้าขับเคลื่อน (Traction Power Substation) ทุกๆ 50 กม. จำนวน 6 แห่ง ตามแนวเส้นทาง และอีก 1 แห่งที่ศูนย์ซ่อมบำรุงนาทา นอกจากนี้ยังมีสถานีจุดแบ่งตอนระบบไฟฟ้า (Section Post) ทุกๆ 50 กม. จำนวน 7 แห่งตามแนวเส้นทาง

ส่วนแผนการเดินรถคาดว่า จะใช้ขบวนรถที่มีความยาว 200 เมตร จุผู้คนได้ 890 คน/ขบวน มีอัตราความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. แต่จะใช้ความเร็วเฉลี่ยอยู่ที่ 192 กม./ชม. หากเดินทางจากรุงเทพฯ - หนองคาย จะใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชม. 28 นาที แต่ถ้าเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปนครราชสีมา จะใช้เวลาประมาณ 1 ชม. 26 นาที
https://www.isranews.org/article/isranews/134583-transport-train-8.htm
Mongwin wrote:
‘ไฮสปีดไทยจีน กทม.-โคราช’ สร้าง 7 ปี คืบแค่ 38% เปิดสารพัดปัญหา ก่อนลุ้นปี 71 ได้ใช้
วันอาทิตย์ ที่ 29 ธันวาคม 2567 เวลา 12:00 น. isranews

https://www.isranews.org/article/isranews/134566-transport-train-7.html
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 47362
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 01/01/2025 2:25 pm    Post subject: Reply with quote

เบื้องลึก!รถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ-โคราช สร้าง7ปี คืบแค่38% ยิ่งสร้างยิ่งไม่เสร็จ สารพัดปัญหา
Bright TV
Jan 1, 2025


https://www.youtube.com/watch?v=Jr_40iwVmaQ
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 47362
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 03/01/2025 5:37 am    Post subject: Reply with quote

รื้อสัมปทานไฮสปีดเทรนเชื่อม 3 สนามบิน.. แน่ใจหรือ จะไม่จบด้วยค่าโง่แสนล้าน!
เนตรทิพย์ 2025-01-03 04:40:38

1 ในโครงการลงทุนที่เป็นแม่เหล็กสำคัญของเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) คือ โครงการรถไฟความเร็งสูงเชื่อม 3สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) วงเงินลงทุนกว่า 224,544 ล้านบาทนั้น ปฏิเสธไม่ได้ว่า กำลังเดินมาถึงโค้งสุดท้ายของการชี้ชะตาโครงการนี้ จะอยู่หรือไป?
…

หลังจากที่ผ่านมากว่า 5 ปีแล้ว นับแต่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ลงนามในสัญญากับบริษัท เอเชีย เอรา วัน จำกัด ของกลุ่มทุน ซีพี. เมื่อ 24 ต.ค. 62 แต่จนถึงวันนี้กลับไม่มีความคืบหน้าใด ๆ

ที่เห็นและเป็นไปมีแต่ความพยายามเจรจาแก้ไขสัญญาสัมปทาน แก้ไขกันจนปรุ จนแทบไม่เหลือเค้าลางของสัญญาร่วมลงทุนที่มีการประมูลกันไว้ตั้งแต่แรก ด้วยข้ออ้างเพราะวิกฤตเศรษฐกิจและสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 รวมทั้งผลกระทบจากสถานการณ์สงครามรัสเซีย ยูเครน ที่เป็น "เหตุสุดวิสัย"

ทั้งที่โครงการลงทุนรัฐอื่นๆ ไม่ยักจะมีรายไหนหยิบยกมาเป็นข้ออ้างขอแก้สัญญากันเป็นวรรคเป็นเวรขนาดนี้

จนหลายฝ่ายสัพยอก สกพอ. และรัฐบาลว่า นี่หากรัฐบาลไทยระหองระแหงกับกัมพูชาในเรื่องการแบ่งปันผลประโยชน์ทรัพยากรใต้ทะเลบนพื้นที่ทับซ้อนรอบเกาะกูด จนลาวยาวกันไปสัก 5-10 ปี ก็ไม่รู้จะมีการหยิบยกประเด็นนี้มาขอให้รัฐผ่อนปรนหรือแก้ไขสัญญาสัมปทานในประเด็นอื่นๆ ตามมาอีกหรือไม่?

ล่าสุด นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อเองว่า เหตุผลในการขอแก้ไขสัญญานี้ที่อ้างเป็น "เหตุสุดวิสัย" นั้น มองว่าเรื่องนี้ไม่มีเหตุสุดวิสัย เป็นเพียงการผ่อนปรน เพราะในช่วงโควิด-19 ทุกภาคส่วนและทั่วโลกประสบปัญหาเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางหยุดชะงัก ธุรกรรมทางเศรษฐกิจทั่วโลกก็หยุดชะงัก

"โครงการนี้ไม่ได้มีเหตุสุดวิสัย แต่เป็นเพียงการผ่อนปรนเงื่อนไขในสัญญา โดยสัญญาจะกำหนดเงื่อนไขการชำระเงิน เป็นการแบ่งจ่ายระยะเวลา 10 ปี โดยทางผู้รับสัมปทานจะมีการนำเอกสารทางการเงินเต็มจำนวนมาวางค้ำประกัน"

ขณะที่ นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการ รฟท. ก็ออกตัวหลังคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) มีมติเห็นชอบหลักการแก้ไขสัญญาสัมปทานโครงการนี้ใน 5 ประเด็นไปก่อนหน้า เพื่อผลักดันโครงการดำเนินการต่อไปได้ แต่จนกระทั้งบัดนี้ยังไม่มีการนำเสนอ ครม. พิจารณาอนุมัติ จนส่งผลให้เกิดความล่าช้า และอาจกระทบแผนการลงทุนในโครงการอื่น ๆ ด้วยว่า

หากท้ายที่สุดรัฐบาลไม่เห็นชอบกับการแก้ไขสัญญาสัมปทานและสั่งให้รถไฟดำเนินโครงการต่อ รฟท. ก็พร้อมดำเนินการก่อสร้างเอง แต่คงไม่ขอเดินรถเอง หากคู่สัญญา “เอเชีย เอรา วัน” ไม่สามารถดำเนินโครงการได้

ฟังเหตุผลของผู้ว่า รฟท. และประธาน กพอ. ข้างต้นแล้ว ก็ไม่รู้นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร จะมองเห็นความไม่ชอบมาพากลที่ซ่อนเร้นอยู่ใต้พรมภายใต้ข้อเสนอแก้ไขสัญญาสัมปทานไฮสปีดเทรนครั้งนี้หรือไม่ ?

เหตุใดสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถึงออกโรงทักท้วงว่า แนวทางแก้ไขสัญญาสัมปทานที่ทำลายหลักการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน และยังแต่จะทำให้รัฐเสียประโยชน์ ทั้งในอนาคตยังอาจทำให้รัฐต้องเผชิญกับค่าโง่ตามมาด้วยอีก

การที่ประธาน กพอ. ออกมายอมรับอย่างหน้าชื่นว่า เหตุผลในการแก้ไขสัญญาสัมปทานโครงการ เพียงเพื่อให้โครงการนี้เดินหน้าต่อไปได้ เพราะเป็นโครงการสำคัญของอีอีซี ไม่ได้เกิดจากเหตุสุดวิสัยที่มาจากพวงวิกฤตเศรษฐกิจหรือไวรัสโควิดแต่อย่างใดนั้น

สะท้อนให้เห็นอยู่แล้วว่า ความพยายามในการแก้ไขสัญญาสัมปทานโครงการนี้รังแต่จะเรียกแขกให้งานเข้าและหากในอนาคตเกิดปัญหาขึ้น หนีไม่พ้นที่ รฟท. และรัฐบาลเองนั่นแหละจะต้องรับผิดชอบไปเต็มๆ

และหากรัฐบาลไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขสัญญา รฟท. ก็บอกเองว่า พร้อมที่จะดำเนินการก่อสร้างโครงการเอง เพราะมีประสบการณ์ในการก่อสร้างรถไฟไทย-จีนอยู่แล้ว (เพียงแต่รัฐต้องจัดหางบประมาณก่อสร้างให้ เพราะ รฟท. คงไม่สามารถจะจัดสรรงบลงทุนเองได้) แล้วเหตุใดถึงจะให้เอกชน "จับเสือมือเปล่า" จากการแก้ไขสัญญาสัมปทานที่กำลังดั้นเมฆอยู่นี้

จะว่าไป รฟท. เอง ก็มีการตั้งที่ปรึกษาและคณะที่ปรึกษาด้านต่างๆ เต็มลำเรืออยู่ไม่ใช่หรือ อย่างคณะทำงานศึกษาด้านกฎหมายและสัญญา ที่มีนายดำรงศักดิ์ เครือแก้ว เป็นประธาน คณะทำงานศึกษาติดตามปัญหาการดำเนินโครงการของการรถไฟ ที่มีนายพิสิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส อดีตผู้ว่าการ สตง. เป็นประธานด้วยอีก

ก็แล้วเหตุใดจึงไม่ส่งเรื่องแก้ไขสัญญาโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินนี้ ให้คณะทำงานทั้ง 2 ชุดได้ชำแหละออกมาให้รู้ดำรู้แดง จะได้รู้ว่าการแก้ไขสัญญาที่ดำเนินการไปก่อนหน้าและที่กำลังดำเนินการอยู่นี้ทำลายหลักการร่วมลงทุนทำให้รัฐเสียประโยชน์หรือไม่ สกพอ. และ กพอ. มีอำนาจที่จะดำเนินการโดยลำพังหรือไม่

ไม่แปลกใจเลย ที่เหตุใดกรณีการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดิน "เขากระโดง" ที่จังหวัดบุรีรัมย์ ที่แม้ศาลปกครองสูงสุดจะมีคำพิพากษาว่าเป็นที่ดินของการรถไฟฯ ตั้งแต่ปีมะโว้ แต่กลับไม่สามารถจะบังคับใช้กฎหมายให้สะเด็ดน้ำ จนป่านนี้ยังไม่สามารถผลักดันนายทุนผู้มีอิทธิพล หรือนักการเมืองออกจากพื้นที่ได้

แล้วอย่างนี้จะให้ประชาชนคนไทยเชื่อใจได้อย่างไรว่า การแก้ไขสัญญาสัมปทานไฮสปีดเรนเชื่อม 3 สนามบิน ที่กำลังดั้นเมฆดำเนินการอยู่นี้จะยังประโยชน์ให้รัฐ หรือไม่ทำให้รัฐเสียประโยชน์หรือเผชิญค่าโง่ในภายหลังเอาได้ จริงไม่จริง!!!


## High-Speed Train Linking 3 Airports: Are We Sure We Won't End Up with a 100 Billion Baht Penalty?

Natethip 2025-01-03 04:40:38

One of the key investment projects of the Eastern Economic Corridor (EEC) is the high-speed train project linking 3 airports (Don Mueang - Suvarnabhumi - U-Tapao) worth over 224,544 million baht. It is undeniable that this project is approaching the final curve of its fate. Will it stay or go?

…

After more than 5 years have passed since the State Railway of Thailand (SRT) signed a contract with Asia Era One Company Limited of the CP Group on October 24, 2019, but until today there has been no progress.

What we see are only attempts to amend the concession agreement, amended so much that it barely resembles the original joint investment agreement that was bid on. The excuses given are the economic crisis, the COVID-19 situation, and the impact of the Russo-Ukrainian War, all of which are considered "force majeure".

Yet, no other government investment projects have used these excuses to request contract amendments to this extent.

Many parties have sarcastically remarked to the EEC Office and the government that if the Thai government had disagreements with Cambodia over the sharing of benefits from undersea resources in the overlapping area around Koh Kut, and it dragged on for 5-10 years, would this issue be used to ask the government to relax or amend the concession agreement on other issues as well?

Recently, Mr. Pichet Chunnhavchira, Deputy Prime Minister and Minister of Finance, as chairman of the Eastern Special Development Zone Policy Committee (EEC Committee), gave an interview to the media himself stating that the reasons for requesting to amend the contract, which are claimed to be "force majeure", are not considered force majeure, but merely a relaxation. This is because during the COVID-19 period, all sectors and the whole world experienced the same problems, whether it was travel disruptions or the global economic shutdown.

"This project does not have force majeure, but is merely a relaxation of the conditions in the contract. The contract stipulates payment conditions as installments over a period of 10 years, and the concessionaire will provide full financial documents as collateral."

Meanwhile, Mr. Wirot Amrapal, Governor of the SRT, stated after the Eastern Special Development Zone Policy Committee (EEC Committee) approved the principle of amending the concession agreement on this project in 5 issues earlier to push the project forward. However, until now, it has not been presented to the Cabinet for approval, resulting in delays and potentially affecting investment plans in other projects.

If in the end the government does not agree with the amendment of the concession agreement and orders the SRT to proceed with the project, the SRT is ready to carry out the construction itself, but will not operate the train if the contracting party "Asia Era One" is unable to proceed with the project.

After listening to the reasons of the SRT Governor and the EEC Committee Chairman, I wonder if Prime Minister Paethongtarn Shinawatra sees the irregularities hidden under the rug beneath the proposed amendment to the high-speed train concession agreement this time?

Why did the Office of the Auditor General (OAG) come out to object, stating that the approach to amending the concession agreement undermines the principle of public-private partnership and will only cause the government to lose benefits? In the future, it may also cause the government to face penalties.

The fact that the EEC Committee Chairman openly admitted that the reason for amending the project concession agreement is simply to allow this project to move forward because it is an important project of the EEC, and not due to force majeure arising from the economic crisis or COVID-19,

reflects that the attempt to amend this concession agreement will only invite trouble, and if problems arise in the future, the SRT and the government itself will inevitably be held responsible.

If the government does not agree with the contract amendment, the SRT itself says it is ready to carry out the project construction itself, as it has experience in constructing the Thai-Chinese railway (but the government must provide the construction budget, as the SRT will not be able to allocate the investment budget itself). So why allow the private sector to "catch a tiger with bare hands" from this cloud-cuckoo-land concession amendment?

Speaking of which, doesn't the SRT itself have consultants and advisory committees of all kinds already? Such as the legal and contract study working group chaired by Mr. Damrongsak Krukaew, and the working group to study and monitor problems in the railway project chaired by Mr. Pisit Leelavachirophas, former Auditor General.

So why not submit the matter of amending the high-speed train project linking 3 airports to both working groups for thorough analysis to determine whether the amendments made previously and those currently underway undermine the principle of joint investment and cause the government to lose benefits? Does the EEC Office and the EEC Committee have the authority to proceed on their own?

It's no surprise then why in the case of encroachment on "Khao Kra Dong" land in Buriram province, even though the Supreme Administrative Court ruled that it was the SRT's land since time immemorial, it has not been able to enforce the law decisively. Until now, it has not been able to push influential businessmen or politicians out of the area.

So how can the Thai people be confident that the amendment to the high-speed train concession agreement linking 3 airports, which is currently being pursued in this unrealistic manner, will benefit the government and not cause the government to lose benefits or face penalties later on? Is it true or not!!!
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 47362
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 03/01/2025 10:15 am    Post subject: Reply with quote

บอร์ด EEC เดินหน้าไฮสปีดเทรน แก้สัญญาจบ
TOP NEWS
Jan 3, 2025


https://www.youtube.com/watch?v=CGIKMZ1z3Ic
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 47362
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 06/01/2025 8:37 am    Post subject: Reply with quote

คอลัมน์ อ่านระหว่างบรรทัด: คำตอบสุดท้ายรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน
Source - แนวหน้า
Monday, January 06, 2025 06:16

สันติสุข มะโรงศรี

โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน วงเงิน 224,544 ล้านบาท ล่าช้ามากว่ากำหนดเดิม 5 ปี

การแก้สัญญาที่ว่าจะเสร็จก่อนสิ้นปี 2567 ก็ลากยาวข้ามปีมา ยังไม่ได้เสนอเข้า ครม.เห็นชอบ

ประเทศชาติกำลังเสียโอกาสในการพัฒนาโครงการต่อเนื่องในพื้นที่อีอีซี ทั้งสนามบินอู่ตะเภาเมืองการบิน พื้นที่ตลอดแนวรถไฟฟ้า การลงทุนต่างๆ ก็เฝ้ามองว่าโครงการโครงสร้างพื้นฐานสำคัญจะไปต่ออย่างไร

ถ้าการแก้สัญญากับกลุ่มซีพีติดขัด รัฐบาลก็ต้องเดินไปหาทางเลือกอื่นๆ

จะประมูลใหม่ หรือจะให้ ร.ฟ.ท.ลงมือก่อสร้าง ระบบรางเอง คาดว่าจะงบ 120,000 ล้านบาท และค่อยหาเอกชนเข้ามาบริหารการเดินรถต่อไป

รัฐบาลอุ๊งอิ๊งค์ ต้องทุบโต๊ะตัดสินใจได้แล้ว ว่าจะเอาอย่างไร?

1. กว่าครม.จะพิจารณาอนุมัติร่างสัญญาฉบับใหม่ หาก ร.ฟ.ท. และกลุ่มซีพีลงนามกันแล้ว เริ่มต้น ก่อสร้างแล้ว ก็จะต้องใช้เวลากว่า 5 ปี จึงจะก่อสร้างเสร็จ พร้อมเปิดการเดินรถได้จริง

จนถึงตอนนี้ น่าจะเดินรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินได้อย่างเร็ว ปี 2573

กระทบกับโครงการต่อเนื่องอีกมากมาย เพราะโครงการนี้ เป็น 1 ใน 4 EEC Project Lists ภายใต้การลงทุนรูปแบบรัฐร่วมลงทุนกับเอกชน (PPP)

ตามแผนเดิม ในปี 2567 เราจะต้องมีรถไฟวิ่งแล้ว

ใครรับผิดชอบกับโอกาสที่เสียไป ทั้งโอกาสในการที่จะพัฒนาเมือง พัฒนาสถานีฉะเชิงเทรา-ศรีราชา-สัตหีบ รวมถึงสนามบิน อู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก เพราะทางรถไฟความเร็วสูงจะสร้างเป็นทางลอด เชื่อมเข้าสนามบิน ด้านบนจะเป็นรันเวย์ที่ 2 ของสนามบิน ทำให้การสร้างรันเวย์ที่ 2 ต้องพลอยชะงักไปด้วย

ในอนาคต ผู้ชนะการประมูลโครงการอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบ อาจจะขอเยียวยาจากเหตุของความล่าช้าที่ต้นทางมาจากรถไฟเชื่อม 3 สนามบินด้วย

2. ที่ผ่านมา ผู้เกี่ยวข้อง 3 ฝ่าย ได้แก่ ร.ฟ.ท.- บริษัทเอเชีย เอรา วัน (กลุ่มซีพี) และคณะกรรมการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) มีการดำเนินเพื่อแก้ไขสัญญาใน 5 ประเด็น คือ

(1) วิธีชำระเงินที่รัฐร่วมลงทุน (Public Investment Cost : PIC)

จากเดิม รัฐจะจ่ายเมื่อเอกชนเปิดเดินรถไฟความเร็วสูง โดยรัฐจะ "แบ่งจ่าย" เป็นเวลา 10 ปี ปีละเท่าๆ กันรวมเป็นเงินจำนวน 149,650 ล้านบาท

เปลี่ยนมาเป็น รัฐจะจ่ายเป็นงวดตามความก้าวหน้าของงานก่อสร้างที่ ร.ฟ.ท.ตรวจรับ วงเงินไม่เกิน 120,000 ล้านบาท แต่มีเงื่อนไขให้ บริษัทเอเชีย เอรา วัน ต้องวางหลักประกันเพิ่มเติมจากสัญญาเดิมรวมเป็นจำนวน 160,000 ล้านบาท เพื่อประกันว่า งานก่อสร้างและรถไฟความเร็วสูงจะเปิดให้บริการได้ภายในระยะเวลา 5 ปี กรรมสิทธิ์สิ่งปลูกสร้างจะทยอยตกเป็นของ ร.ฟ.ท.ทันทีตามงวดการจ่ายเงินนั้นๆ

(2) การกำหนดการชำระค่าสิทธิให้ร่วมลงทุนใน โครงการแอร์พอร์ตเรลลิงก์ (ARL)

จะให้ บริษัทเอเชีย เอรา วัน แบ่งชำระค่าสิทธิจำนวน 10,671.09 ล้านบาท ออกเป็น 7 งวด เป็นรายปี ในจำนวนแบ่งชำระเท่าๆ กัน แต่บริษัทจะต้องชำระงวดแรก ณ วันที่ลงนามแก้ไขสัญญากับ ร.ฟ.ท. และบริษัทยังต้องวางหนังสือค้ำประกันที่ออกโดยธนาคารในมูลค่าเท่ากับค่าสิทธิ ARL รวมถึงค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเงินอื่นๆ ที่ ร.ฟ.ท.จะต้องรับภาระด้วย

(3) การกำหนดส่วนแบ่งผลประโยชน์ตอบแทน (Revenue Sharing) เพิ่มเติม

หากในอนาคตอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของโครงการลดลงอย่างมีนัยสำคัญและเป็นผลทำให้ บริษัทเอเชีย เอรา วัน ได้ผลประโยชน์ตอบแทน (IRR) เพิ่มขึ้นเกินกว่า 5.52% แล้วก็จะ "ให้สิทธิ" ร.ฟ.ท.เรียกให้บริษัท ชำระส่วนแบ่งผลประโยชน์เพิ่มได้ตามแต่จะตกลงกันต่อไป

(4) การ "ยกเว้น" เงื่อนไขการออกหนังสือแจ้งให้เริ่มงาน (Notice to Proceed : NTP) เพื่อให้ ร.ฟ.ท.สามารถออกหนังสือ NTP ให้กับ บริษัทเอเชีย เอรา วัน ได้ทันทีหลัง 2 ฝ่ายลงนาม ในการแก้ไขสัญญา

(5) ป้องกันการเกิดปัญหาในอนาคต ที่อาจเกิดขึ้นจากเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อสถานะทางการเงินของโครงการ

โดยทำการปรับปรุงข้อสัญญาในส่วนของ "เหตุสุดวิสัย" กับ "เหตุผ่อนปรน" ให้สอดคล้องกับสัญญาร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนในโครงการอื่น

การแก้ไขปรับปรุงสัญญาทั้ง 5 ประเด็นข้างต้น รอเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.

3. ในมุมของเอกชน หากทำตามเงื่อนไขที่มีการแก้ไขเดิม ก็มีภาระเพิ่มเติมเหมือนกัน

คงต้องเอาสัญญาที่จะต้องแก้ไขปรับปรุงทั้ง 5 ข้อ ไปหารือกับธนาคารที่จะปล่อยกู้โครงการนี้

ทราบว่า ธนาคารเจ้าของแหล่งเงินลงทุน วงเงิน 200,000 ล้านบาท มีความกังวลในความเสี่ยงของโครงการที่เกิดขึ้นมาก, ค่าก่อสร้างที่ปรับสูงขึ้นมาก จนมีการประเมินผลตอบแทนการลงทุนลดลง, การพัฒนาพื้นที่มักกะสัน ผลตอบแทนการลงทุนก็ลดลงจากที่เคยประเมินไว้เดิม, จำนวนผู้โดยสารจะลดลง, อัตราดอกเบี้ยแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นจากที่ประเมินไว้ตอนต้นโครงการ ฯลฯ

ที่สำคัญ แนวทางที่จะแก้ไขสัญญานั้น เอกชนก็มีภาระจะต้องวางหลักประกันสัญญา วงเงินรวมกว่า 3 แสนล้านบาท ไม่ว่าจะเป็น จะต้องวางหลักประกันสัญญาวงเงิน 4,500 ล้านบาท ตลอดสัญญา 50 ปี

หนังสือค้ำประกันผู้ถือหุ้นวงเงิน 160,000 ล้านบาท ตลอดสัญญา 50 ปี

หนังสือค้ำประกันค่าก่อสร้างวงเงิน 120,000 ล้านบาท

หนังสือค้ำประกันค่างานระบบวงเงิน 16,000 ล้านบาท

หนังสือค้ำประกันคุณภาพเดินรถวงเงิน 750 ล้านบาท ระยะเวลา 10 ปี

หนังสือค้ำประกันค่ารถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ (ARL) รวมกับการชำระงวดที่ 1 ที่เหลือ (456.9 ล้านบาท) วงเงิน 9,147 ล้านบาท เฉพาะวงเงินหลังจะต้องวางหลักประกันไว้อีก 6 ฉบับ ฉบับละ 1,524 ล้านบาท

4. ที่ผ่านมา โครงการนี้ล่าช้าต่อเนื่องมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลลุงตู่

รัฐบาลไม่สามารถส่งมอบพื้นที่ให้กับเอกชนได้ ขณะที่เอกชนก็ไม่สามารถดำเนินการได้ จึงเป็นต่างคนต่างทำไม่ได้ตามเงื่อนไขสัญญาเดิม จึงต้องพิจารณาใหม่ เนื่องจากเป็นหนึ่งในโครงการยุทธศาสตร์ชาติ

ถ้าไม่แก้สัญญา โครงการก็คงไปต่อไม่ได้แน่ๆ สุดท้าย ผลกระทบก็เกิดแก่เอกชนและประเทศชาติส่วนรวม โดยเป็นผลกระทบลูกโซ่ไปยังโครงการอื่นๆ ในพื้นที่อีอีซีด้วยอย่างแน่นอน รวมทั้งคงมีการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายระหว่างกันยาวนาน

ประเด็นสำคัญ คือ การแก้สัญญาครั้งนี้ เกี่ยวข้องกับเงื่อนไขสาระสำคัญทางการเงินของโครงการ ผิดไปจากตอนประมูล (อาจไม่เป็นธรรมต่อเอกชนที่แพ้การประมูลตามเงื่อนไขเดิม) ดังนั้น จึงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ต้องผ่านความเห็นของอัยการสูงสุด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

เพื่อมิให้ซ้ำรอยกรณีแก้สัญญาหลังการประมูลโครงการบางโครงการโดยมิชอบ ดังที่เคยมีกรณีถูกดำเนินคดี ศาลพิพากษาจำคุกผู้เกี่ยวข้อง

ถึงเวลาที่รัฐบาลอุ๊งอิ๊งค์ จะต้องตัดสินใจอย่างเด็ดขาด และลงมือผลักดันให้บรรลุผล

คาราคาซังอย่างนี้ คือ การปล่อยให้ประเทศชาติเสียโอกาสไปเรื่อยๆ

ที่มา: นสพ.แนวหน้า ฉบับวันที่ 6 ม.ค. 2568


## High-Speed Rail Linking 3 Airports: A Delayed Decision

**The high-speed rail project connecting 3 airports, worth 224.544 billion baht, is already 5 years behind schedule.**

The contract amendment, which was supposed to be finalized by the end of 2024, has been delayed and has not yet been submitted to the Cabinet for approval. This delay is causing the nation to lose valuable opportunities for development in the EEC area, including the U-Tapao airport and aviation city, as well as investment along the rail line.

If the contract amendment with the CP Group continues to stall, the government must explore alternative options. These options include re-bidding the project or having the State Railway of Thailand (SRT) undertake the construction itself, with an estimated budget of 120 billion baht, and then seeking a private operator for the train service.

**The Yingluck government needs to make a decisive decision on how to proceed.**

1. **Even if the Cabinet approves the new contract draft and the SRT and CP Group sign and commence construction, it will take more than 5 years for the project to be completed and operational.**

The high-speed train is unlikely to be running before 2030. This delay will impact many related projects, as this is one of the four EEC Project Lists under the Public-Private Partnership (PPP) investment model.

According to the original plan, the train should have been operational in 2024. Who is responsible for the lost opportunities, including the development of cities and stations in Chachoengsao, Sriracha, and Sattahip, as well as the U-Tapao Airport and the Eastern Aviation City? The high-speed rail line was planned to be built as an underpass connecting to the airport, with the airport's second runway built above it. This delay has also halted the construction of the second runway.

In the future, winners of other affected projects may seek compensation for delays caused by the 3-airport rail link.

2. **The three parties involved - the SRT, Asia Era One Company (CP Group), and the Eastern Special Development Zone Policy Committee (EEC) - have been working to amend the contract in 5 key areas:**

(1) **Payment method for the Public Investment Cost (PIC):** Originally, the government would pay after the private sector started operating the high-speed train. The payment would be spread over 10 years in equal annual installments, totaling 149.65 billion baht. This has been changed to payments in installments based on the progress of construction as inspected by the SRT, with a total amount not exceeding 120 billion baht. However, Asia Era One is required to provide additional security from the original contract, totaling 160 billion baht, to guarantee that the construction and high-speed train will be operational within 5 years. Ownership of the structures will be transferred to the SRT immediately according to each payment installment.

(2) **Payment schedule for the right to co-invest in the Airport Rail Link (ARL) project:** Asia Era One will pay the 10.671 billion baht fee in 7 equal annual installments. The first installment must be paid on the date of signing the amended contract with the SRT. The company must also provide a bank guarantee for the ARL fee and other financial expenses borne by the SRT.

(3) **Additional Revenue Sharing:** If the project's loan interest rate decreases significantly in the future, resulting in Asia Era One's Internal Rate of Return (IRR) exceeding 5.52%, the SRT has the "right" to request the company to pay additional revenue sharing as agreed upon later.

(4) **"Exemption" from the Notice to Proceed (NTP) condition:** This allows the SRT to issue the NTP to Asia Era One immediately after both parties sign the amended contract.

(5) **Preventing future problems that may arise from events that severely impact the project's financial status:** This involves amending the "force majeure" and "relief events" clauses to align with other public-private partnership contracts.

These 5 amendments are awaiting Cabinet consideration.

3. **From the private sector's perspective, complying with the amended conditions also presents additional burdens.**

They will need to discuss the 5 amendments with the banks financing the project. The banks, providing 200 billion baht in funding, are reportedly concerned about the increased risks of the project, the significantly higher construction costs leading to lower estimated returns on investment, the reduced return on investment from the Makkasan area development, the potential decrease in passenger numbers, and the higher interest rate trend compared to initial projections.

Importantly, the proposed contract amendments require the private sector to provide security totaling over 300 billion baht. This includes a 4.5 billion baht performance bond for the 50-year contract, a 160 billion baht shareholder guarantee for the 50-year contract, a 120 billion baht construction guarantee, a 16 billion baht system work guarantee, a 750 million baht 10-year operational quality guarantee, and a 9.147 billion baht guarantee for the ARL fee and remaining first installment payment (456.9 million baht), with 6 additional guarantees required for the latter, each worth 1.524 billion baht.

4. **This project has been continuously delayed since the Prayut government.**

The government was unable to deliver the land to the private sector, and the private sector was unable to proceed. This mutual inability to fulfill the original contract conditions necessitates a review, as this is a national strategic project.

Without amending the contract, the project will likely be stalled indefinitely. Ultimately, the impact will be felt by both the private sector and the nation as a whole, creating a ripple effect on other projects in the EEC. Lengthy lawsuits and claims for damages are also likely.

The key issue is that this contract amendment involves significant changes to the project's financial terms, deviating from the original bidding conditions. This could be unfair to other bidders who lost under the original conditions. Therefore, careful consideration is needed, including review by the Attorney General and relevant agencies.

This is to avoid repeating past mistakes where contract amendments after bidding were deemed unlawful, leading to legal action and imprisonment of those involved.

**It is time for the Yingluck government to make a decisive decision and push for a resolution. Continuing this indecision is a disservice to the nation and its potential for progress.**

Source: Naew Na Newspaper, January 6, 2028
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 47362
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 07/01/2025 12:54 pm    Post subject: Reply with quote

[เริ่มก่อสร้างแล้ว] รถไฟความเร็วสูง ช่วงผ่านป้ายรถไฟ ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต จุดที่หลายคนรอคอย
nanny official
Jan 7, 2025


https://www.youtube.com/watch?v=0kCprHOku_k

The video is about the construction of the high-speed rail line passing through Thammasat University, Rangsit Center.

The construction started in December 2024 and is expected to be completed in 2025.

The project is currently 1.45% complete and is expected to be completed by 2025.

The video also provides a brief overview of the project, including the length of the line, the cost of construction, and the names of the companies involved in the project.

The video also shows the construction site and provides updates on the progress of the project.

The video ends with a call to action, asking viewers to like, share, and comment on the video.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 579, 580, 581, 582, 583  Next
Page 580 of 583

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©