RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:312368
ทั่วไป:14106655
ทั้งหมด:14419023
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 411, 412, 413 ... 420, 421, 422  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45071
Location: NECTEC

PostPosted: 08/01/2025 1:24 am    Post subject: Reply with quote

กรมการขนส่งทางราง ร่วมเตรียมความพร้อมเพื่อเพิ่มศักยภาพการพัฒนาพื้นที่และเสริมสร้างโอกาสในการแข่งขันของจังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อรองรับและเชื่อมโยงเส้นทางระบบขนส่งทางรางสายใหม่ “รถไฟทางคู่ สายปากน้ำโพ – เด่นชัย”
ข่าวประชาสัมพันธ์
6 กรกฎาคม 2566 เวลา 10:22 น.

วันที่ 6 กรกฎาคม 2566 นายอธิภู จิตรานุเคราะห์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางราง ร่วมการสัมมนาการเตรียมความพร้อมเพื่อเพิ่มศักยภาพการพัฒนาพื้นที่และเสริมสร้างโอกาสในการแข่งขันของจังหวัดอุตรดิตถ์เพื่อรองรับและเชื่อมโยงเส้นทางระบบขนส่งทางรางสายใหม่ “รถไฟทางคู่ สายปากน้ำโพ – เด่นชัย” ณ ห้องต้นทองบอลลูม โรงแรมต้นทอง อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ โดยมีนายสหวิช อภิชัยวิศรุตกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นประธานการสัมมนาดังกล่าว

นายอธิภูฯ ได้ร่วมบรรยายพิเศษในหัวข้อ “รถไฟทางคู่ ปากน้ำโพ – เด่นชัย กับโอกาสในการแข่งขันทางด้านเศรษฐกิจของประเทศไทย และจังหวัดอุตรดิตถ์ รวมทั้งจังหวัดในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 1” โดยนำเสนอกรอบแนวคิดการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่ง ประกอบด้วย การขนส่งที่ปลอดภัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green & Safe Transport) การเข้าถึงระบบขนส่งอย่างเสมอภาคและเท่าเทียม (Inclusivity) และการขนส่งที่มีประสิทธิภาพ (Transport Efficiency) มาบูรณาการผ่านนวัตกรรม (Innovation & Management) เพื่อพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งให้มีความสะดวก ปลอดภัย ตรงเวลา และราคาสมเหตุสมผล อันจะนำไปสู่การขับเคลื่อนเป้าหมายและตัวชี้วัดตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็นที่ 7 โครงสร้างพื้นฐาน ระบบโลจิสติกส์ และดิจิทัล (พ.ศ. 2561 – 2580) รวมทั้งได้นำเสนอแผนแม่บทการพัฒนาโครงข่ายทางรถไฟ ระยะ 20 ปี ประกอบด้วย การพัฒนารถไฟทางคู่ การพัฒนาทางรถไฟสายใหม่ การพัฒนารถไฟความเร็วสูง พร้อมทั้งนำเสนอสถานะความคืบหน้าโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ประกอบด้วย รถไฟทางคู่ 4 เส้นทาง รถไฟทางสายใหม่ 2 เส้นทาง และรถไฟความเร็วสูง 2 เส้นทาง โดยโครงการรถไฟทางคู่ สายปากน้ำโพ – เด่นชัย ระยะทาง 280.544 กิโลเมตร ผ่านพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ นครสวรรค์ พิษณุโลก อุตรดิตถ์ พิจิตร และแพร่ มีสถานี/ที่หยุดรถไฟ 43 แห่ง และย่านกองเก็บและขนถ่ายตู้สินค้า (CY) 3 แห่ง ที่สถานีศิลาอาสน์ สถานีวังกะพี้ และสถานีบางกระทุ่ม โดยปัจจุบันกระทรวงคมนาคมอยู่ระหว่างเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อขออนุมัติดำเนินโครงการ ซึ่งจากผลการศึกษา เส้นทางดังกล่าวจะมีการออกแบบสถานีตามมาตรฐานสากลและหลัก Universal Design ปรับปรุงจุดตัดทางรถไฟใน 4 รูปแบบ ได้แก่ สะพานข้ามทางรถไฟ (Overpass) สะพานกลับรถ (Underpass) รถไฟยกระดับ (U-Bridge) และ ทางลอดใต้ทางรถไฟ (Box Culvert) รวมถึงปรับแนวเส้นทางบางส่วนเป็นขนาดทางรถไฟ 1.00 เมตร (Meter Gauge) เพื่อรองรับความเร็วสำหรับรถไฟบรรทุกผู้โดยสารและสินค้า

มีจุดเริ่มต้นห่างจากสถานีปากน้ำโพ 1.4 กิโลเมตร และ จุดสิ้นสุดห่างจากสถานีเด่นชัย ไปทางทิศเหนือ 2.4 กิโลเมตร ประกอบด้วย 36 สถานี (สถานีรถไฟยกระดับ 5 สถานี) และ 1 ที่หยุดรถ ประกอบด้วย ทางระดับดิน (At Grade) 235 กิโลเมตร และทางยกระดับ (Elevation) 40.32 กิโลเมตร

ขณะที่แนวเส้นทางส่วนใหญ่ของโครงการฯ จะอยู่ในแนวเดียวกับทางรถไฟปัจจุบัน ซึ่งแนวเส้นทางโครงการจะดำเนินการก่อสร้างทางรถไฟขนาด 1 เมตร (Meter Gauge) เพิ่มอีก 1 ทาง ขนานไปกับแนวทางรถไฟเดิม

ทั้งนี้ โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงปากน้ำโพ-เด่นชัย จะมีแนวเส้นทางผ่านพื้นที่อ่อนไหว ประกอบด้วย 1.พื้นที่ชุ่มน้ำ จำนวน 3 แห่ง ได้แก่ พื้นที่ชุ่มน้ำบึงบอระเพ็ด พื้นที่ชุ่มน้ำแม่น้ำน่าน และพื้นที่ชุ่มน้ำแม่น้ำแควน้อย 2.พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ จำนวน 4 แห่ง ได้แก่ ป่าห้วยเกียงพา และป่าน้ำไคร้ ป่าแม่พวก ป่าแม่ปาน และป่าบึงซ่าน และ 3.พื้นที่ชั้นคุณภาพลุ่มน้ำ 1A 1B และพื้นที่ชั้นคุณภาพลุ่มน้ำ 2


สำหรับเส้นทางรถไฟทางคู่ สายปากน้ำโพ – เด่นชัย เป็นเส้นทางรถไฟที่เชื่อมต่อกับโครงการรถไฟทางสายใหม่ ช่วงเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ สามารถเชื่อมต่อประเทศเพื่อนบ้าน แหล่งเกษตรกรรม รองรับการขนส่งสินค้าทางรางระหว่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีการขนส่งสินค้าการเกษตรทางรางประเภทควบคุมอุณหภูมิไปยังสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และสาธารณรัฐประชาชนจีน โครงการฯ ดังกล่าว จะช่วยพลิกโฉมการเป็น Logistic Hub ของภูมิภาค เชื่อมโยงการเดินทางและการขนส่งสินค้าหลายรูปแบบ เชื่อมต่อการขนส่ง ไทย-ลาว-จีน (One Belt One Road) เชื่อมระเบียงเศรษฐกิจแนวเหนือ-ใต้ (North-South Economic Corridor : NSEC) ก่อให้เกิดการจ้างงาน การลงทุน ส่งเสริมการท่องเที่ยว กระจายความเจริญสู่พื้นที่ ลดระยะเวลาการเดินทาง เพิ่มความสะดวก ปลอดภัย และยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 1 ให้ดียิ่งขึ้นต่อไป

จากนั้น นายอธิภูฯ ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสถานีรถไฟอุตรดิตถ์ และสถานีรถไฟศิลาอาสน์ เพื่อสังเกตการณ์ด้านข้อมูลเดินทางและประชาสัมพันธ์ ด้านความปลอดภัย ด้านความพร้อมของสิ่งอำนวยความสะดวก ด้านการให้บริการประชาชน รวมถึงด้านสภาพแวดล้อม เพื่อพัฒนาคุณภาพการขนส่งทางรางในการให้บริการสู่ความเป็นเลิศ อำนวยความสะดวกในการให้บริการประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นไปตามมาตรฐานสากลต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 48745
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 09/01/2025 7:48 am    Post subject: Reply with quote

STI พร้อมลุยโครงการใหญ่ร่วมงานรถไฟทางคู่604ล้าน
Source - ทันหุ้น
Thursday, January 09, 2025 07:02

#STI #ทันหุ้น - บริษัท เอเชี่ยน เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแต้นส์ จำกัด หรือ AEC ในกลุ่มบริษัท สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ STI พร้อมลุยรับปีใหม่ 2568 ร่วมงานกลุ่มบริษัทที่ปรึกษา ควบคุมการก่อสร้าง "รถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 ช่วงขอนแก่น - หนองคาย" มูลค่า 604 ล้านบาท นายไพบูลย์ โชคไพรสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชี่ยน เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแต้นส์ จำกัด หรือ AEC ในกลุ่มบริษัท สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ จำกัด (บมหาชน) หรือ STI ผู้นำในกลุ่มธุรกิจวิศวกรที่ปรึกษาบริหารและควบคุมงานก่อสร้างครบวงจร ได้ลงนามในสัญญาจ้างกลุ่มบริษัทที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้าง (กลุ่มกิจการค้าร่วม) โครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 ช่วงขอนแก่น - หนองคาย กับการรถไฟแห่งประเทศไทย มูลค่าโครงการรวม 28,679 ล้านบาท

โดยค่าจ้างควบคุมงานก่อสร้าง มูลค่ารวม 604 ล้านบาทซึ่งโครงการนี้เป็นโครงการที่สำคัญในการเติมเต็มระบบรถไฟทางคู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ช่วยเพิ่มศักยภาพในการให้บริการขนส่งทางราง สนับสนุนการขนส่งทั้งผู้โดยสารและสินค้า สอดคล้องตามนโยบายการพัฒนาระบบขนส่งและ โลจิสติกส์ของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคม ที่ต้องการลดต้นทุนการขนส่งสินค้า และสามารถประหยัดการใช้พลังงานของประเทศได้ในระยะยาว

ลุยโครงการใหญ่

โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 ช่วงขอนแก่น - หนองคาย เป็นเส้นทางที่เชื่อมต่อการเดินทางจาก ช่วงชุมทางถนนจิระ - ขอนแก่น ผ่านจังหวัดอุดรธานี และสิ้นสุดเส้นทางที่สถานีหนองคาย โดยมีรูปแบบโครงการเป็นงานก่อสร้างทางรถไฟใหม่เพิ่ม 1 ทาง ขนานไปกับทางรถไฟเดิม และมีการก่อสร้างปรับแนวเส้นทางใหม่บางส่วน รวมระยะทางก่อสร้างปรับแนวเส้นทางใหม่บางส่วน รวมระยะทางประมาณ 167 กิโลเมตร ประกอบด้วย อาคารสถานี 14 สถานี ที่หยุดรถ 4 แห่ง ลานบรรทุกสินค้า 3 แห่ง พร้อมทั้งงานติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณ และโทรคมนาคมตลอดทั้งสายทาง คาดก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดให้บริการได้ในปี 2571

สำหรับเอเชี่ยน เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแต้นส์ จำกัด หรือ AEC มีความเชี่ยวชาญในด้านการบริหารและควบคุมงานก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ ที่ครอบคลุม ตั้งแต่การวางแผน การจัดการ และการควบคุมคุณภาพ งานให้ได้ตามมาตรฐานสูงสุด พร้อมทั้งมีประสบการณ์ในการดำเนินงานกับโครงการที่มีความซับซ้อนสูง จึงมั่นใจได้ว่าโครงการนี้จะสำเร็จลุล่วงด้วยดีตามแผนงานที่กำหนด

ขยายฐานต่อเนื่อง

อนึ่งก่อนหน้านี้ กลุ่มบริษัท สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) ได้เป็นผู้ออกแบบงานสถาปัตยกรรมอาคาร ท่าเรือและอาคารนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ "ชลวิถี ธีรพัฒน์" พร้อมควบคุมงานก่อสร้างโครงการสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ "เปรมประชาวนารักษ์"

สวนเปรมประชาวนารักษ์ พัฒนาโดย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว บนพื้นที่ดินประมาณ 10 ไร่ ริมคลองเปรมประชากร ถนนกำแพงเพชร 6

โครงการนี้เกิดจากความร่วมมือระหว่างภาคเอกชน หน่วยราชการในพระองค์ หน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และประชาชนในพื้นที่ โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาพื้นที่ ซึ่งเคยเป็นพื้นที่รกร้างว่างเปล่าให้กลายเป็นพื้นที่สีเขียวที่มีคุณค่าและประโยชน์ต่อชุมชน ภายใต้แนวคิด "สงบ - เติบโต - ยั่งยืน"

ที่มา: นสพ.ทันหุ้น ฉบับวันที่ 9 ม.ค. 2568


## STI Ready to Take on Major Rail Project Worth 604 Million Baht

**Asian Engineering Consultants, a subsidiary of STI, secures a contract for the double-track railway project.**

Asian Engineering Consultants Co., Ltd. (AEC), a subsidiary of Stonehenge Inter Plc. (STI), is ready to kick off the new year 2025 by participating in the construction supervision of the "Double-Track Railway Phase 2: Khon Kaen - Nong Khai" project, worth 604 million baht.

Mr. Paiboon Chokpraisin, CEO of AEC, a leading company in integrated engineering consulting, management, and construction supervision, has signed a contract with the State Railway of Thailand (SRT) for the aforementioned project. The total project value is 28.679 billion baht.

The construction supervision contract is worth 604 million baht. This project is crucial for completing the double-track railway system in the upper northeastern region of Thailand. It will enhance rail transport capacity, supporting both passenger and freight transport, in line with the government's and Ministry of Transport's policy to reduce logistics costs and save energy in the long run.

**Embarking on a Major Project**

The Double-Track Railway Phase 2: Khon Kaen - Nong Khai project connects the existing line from Chum Tang Thanon Chira - Khon Kaen, passing through Udon Thani province and ending at Nong Khai station. The project involves constructing a new track parallel to the existing one, with some route adjustments. The total construction distance is approximately 167 kilometers.

The project includes 14 stations, 4 stops, 3 freight yards, and the installation of signaling and telecommunication systems along the entire route. Construction is expected to be completed and operational by 2028.

AEC has expertise in managing and supervising large-scale construction projects, encompassing planning, management, and quality control to the highest standards. With experience in handling complex projects, AEC is confident in successfully completing this project according to the planned schedule.

**Continuous Expansion**

Previously, Stonehenge Inter Plc. designed the architecture of the "Chon Vithee Thep Phat" pier and exhibition building and supervised the construction of the "Prem Pracha Vanarak" Royal Park.

The Prem Pracha Vanarak Park, developed by PTT Public Company Limited, commemorates the 6th cycle birthday anniversary of His Majesty the King. It covers approximately 10 rai of land along the Prem Prachakorn Canal on Kamphaeng Phet 6 Road.

This project is a collaboration between the private sector, royal agencies, government agencies, state enterprises, and local communities. Its goal is to transform a formerly vacant area into a valuable green space for the community, under the concept of "Serenity - Growth - Sustainability."

**Source:** Thunhoon Newspaper, January 9, 2025
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 48745
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 09/01/2025 7:59 pm    Post subject: Reply with quote

รมว.คค.เตรียมชง ครม.พิจารณา 9 โครงการลงทุน วงเงินกว่า 3.7 แสน ล.
Source - ผู้จัดการออนไลน์
Thursday, January 09, 2025 13:43

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคม มีแผนจะเสนอโครงการลงทุนต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเร็วๆ นี้ จำนวน 9 โครงการ วงเงินรวม 373,542 ล้านบาท ดังนี้

1.โครงการรถไฟชานเมืองส่วนต่อขยายสายสีแดง ช่วงศิริราช-ตลิ่งชัน-ศาลายา ระยะทาง 20.5 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 15,176 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างรอความเห็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนเสนอครม.อนุมัติต่อไป

2.โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างงเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 9 สายถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ด้านตะวันตก ช่วงบางบัวทอง – บางปะอิน ระยะทาง 35.9 กิโลเมตร (กม.) วงเงินลงทุน 15,862 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างจัดทำรายงานชี้แจงเพิ่มเติม เสนอ คชก. เสนอ ครม.อนุมัติดำเนินโครงการภายในไตรมาส 1-2 ในปีนี้

3.โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) นครปฐม-ชะอำ ช่วงที่ 1 นครปฐม-ปากท่อ ระยะทาง 61 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 44,444 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างเตรียมเสนอครม.เร็วๆนี้

4.โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 จำนวน 6 เส้นทาง ระยะทางรวม 1,312 กิโลเมตร (กม.) วงเงินรวม 298,060ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างเตรียมเสนอครม.เร็วๆนี้ ประกอบด้วย

4.1 ช่วงปากน้ำโพ - เด่นชัย ระยะทาง 281 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 81,143 ล้านบาท

4.2 ช่วงชุมทางถนนจิระ - อุบลราชธานี ระยะทาง 308 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 44,103 ล้านบาท

4.3 ช่วงชุมพร-สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 168 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 30,422 ล้านบาท

4.4 ช่วงสุราษฎร์ธานี – หาดใหญ่ - สงขลา ระยะทาง 321 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 66,270 ล้านบาท

4.5 ช่วงหาดใหญ่ - ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 45 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 7,900 ล้านบาท

ช่วงเด่นชัย - เชียงใหม่ ระยะทาง 189 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 68,222 ล้านบาท


The Minister of Transport, Mr. Suriya Jungrungreangkit, revealed that the Ministry of Transport plans to propose 9 investment projects worth over 373.542 billion baht to the Cabinet (ครม.) for consideration soon. These projects include:

1. **Red Line Suburban Railway Extension Project, Siriraj - Taling Chan - Salaya Section:** This 20.5 kilometer extension has a budget of 15.176 billion baht. It is currently awaiting comments from related agencies before being submitted to the Cabinet for approval.

2. **Intercity Motorway Project No. 9, Western Outer Ring Road, Bang Bua Thong - Bang Pa-in Section:** This 35.9 kilometer section has an investment budget of 15.862 billion baht. It is currently in the process of preparing a supplementary explanatory report to be submitted to the Cabinet for approval within the first or second quarter of this year.

3. **Nakhon Pathom - Cha-am Intercity Motorway Construction Project, Phase 1, Nakhon Pathom - Pak Tho Section:** This 61 kilometer section has a budget of 44.444 billion baht and is currently being prepared for submission to the Cabinet soon.

4. **Double-Track Railway Construction Project, Phase 2:** This project includes 6 routes with a total distance of 1,312 kilometers and a total budget of 298.060 billion baht. It is currently being prepared for submission to the Cabinet soon. The routes include:

4.1 Pak Nam Pho - Den Chai Section (281 km, 81.143 billion baht)
4.2 Chumtang Thanon Chira - Ubon Ratchathani Section (308 km, 44.103 billion baht)
4.3 Chumphon - Surat Thani Section (168 km, 30.422 billion baht)
4.4 Surat Thani - Hat Yai - Songkhla Section (321 km, 66.270 billion baht)
4.5 Hat Yai - Padang Besar Section (45 km, 7.900 billion baht)
Den Chai - Chiang Mai Section (189 km, 68.222 billion baht)

This information comes from the online news source "ผู้จัดการออนไลน์" published on Thursday, January 9, 2025, at 13:43.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45071
Location: NECTEC

PostPosted: 10/01/2025 5:12 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
รมว.คค.เตรียมชง ครม.พิจารณา 9 โครงการลงทุน วงเงินกว่า 3.7 แสน ล.
Source - ผู้จัดการออนไลน์
วันพฤหัสบดี ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2568 เวลา 13:43 น.


“สุริยะ” เข็นลงทุนปี 68 รวม 223 โครงการ 1.36 แสนล้าน ผุด 116 โครงการใหม่ วงเงิน 8.28 หมื่นล้าน
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันพุธที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2568 เวลา 18:22 น.
ปรับปรุง: วันพฤหัสบดี ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2568 เวลา 09:53 น.

KEY POINTS
• มีโครงการใหม่ 116 โครงการ วงเงิน 8.28 หมื่นล้านบาท
• มีแผนลงทุนต่อเนื่องในปี 2569 อีก 64 โครงการ วงเงิน 1.16 แสนล้านบาท
• โครงการครอบคลุมมอเตอร์เวย์ ทางด่วน ทางคู่ และรถไฟความเร็วสูง




“สุริยะ” เข็นลงทุนโปรเจกต์ "คมนาคฒ" ปี 68 รวม 223 โครงการ วงเงิน 1.36 แสนล้าน ผุด 116 โครงการใหม่ วงเงิน 8.28 หมื่นล้านบาท พร้อมดันอีก 64 โครงการลงทุนปี 69 วงเงิน 1.16 แสนล้าน ทั้งมอเตอร์เวย์-ทางด่วน-ท่าเรือท่องเที่ยว-ทางคู่-ไฮสปีด-สนามบิน

วันที่ 8 มกราคม 2568 นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการจัดโครงการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “ขับเคลื่อนนโยบายคมนาคม เพื่อโอกาสประเทศไทย” เพื่อวางแผนการขับเคลื่อนการดำเนินโครงการให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคม และเร่งขับเคลื่อนการดำเนินโครงการในปีงบประมาณ 2568 และปี 2569 ให้เป็นรูปธรรม ว่า รัฐบาลภายใต้การนำของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มุ่งมั่นพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม เพื่อส่งเสริมให้เกิดความปลอดภัย ลดต้นทุนโลจิสติกส์ กระจายความเจริญสู่ภูมิภาค และยกระดับให้บริการระบบขนส่งสาธารณะ เพื่อสร้างอนาคตที่ดีกว่าให้ประเทศ



ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคม และหน่วยงานในสังกัดฯ ได้เร่งเดินหน้าขับเคลื่อนโครงการสำคัญในปี 2568 พร้อมทั้งได้ระดมความคิดในการวางแผนงานการดำเนินงานโครงการใหม่ที่สำคัญในปี 2569 เพื่อสร้างโอกาสให้ประเทศไทย ให้พี่น้องประชาชนได้รับบริการที่สะดวก รวดเร็ว ตรงเวลา ราคาสมเหตุสมผล ทุกคนสามารถเข้าถึงบริการได้อย่างเสมอภาค เท่าเทียม ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมผลักดันให้ไทยก้าวสู่การเป็น “ศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งในระดับภูมิภาค” อย่างยั่งยืน

กระทรวงคมนาคมได้วางแผนการดำเนินโครงการด้านคมนาคมในปี 2568 จำนวนทั้งสิ้น 223 โครงการ วงเงินลงทุน 136,492.43 ล้านบาท เป็นโครงการต่อเนื่อง 107 โครงการ วงเงินลงทุน 53,622.78 ล้านบาท และโครงการใหม่ 116 โครงการ วงเงินลงทุน 82,869.65 ล้านบาท โดยแบ่งตามรูปแบบการขนส่งเพื่อให้เห็นทิศทางภาพความสำเร็จการดำเนินงานเป็น 5 มิติ ดังนี้



1. มิติพัฒนาการขนส่งทางถนน เพื่อแก้ไขปัญหาจราจร ยกระดับความปลอดภัย และเพิ่มประสิทธิภาพโครงข่ายถนน และพัฒนาการขนส่งระหว่างเมือง 50 โครงการ แบ่งเป็นโครงการต่อเนื่อง 15 โครงการ และโครงการใหม่ 35 โครงการ เช่น โครงการทางพิเศษฉลองรัชส่วนต่อขยาย (ช่วงจตุโชติ-ลำลูกกา) และขยายทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง M5 ทางยกระดับอุตราภิมุข (โทลล์เวย์) รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเชื่อมต่อถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร M9 ช่วงถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ ให้ครบทุกเส้นทาง เพื่อเป็นวงแหวนที่สมบูรณ์ โครงการแก้ไขปัญหาจราจรเมืองหลักในภูมิภาค จ.ภูเก็ต (ระยะที่ 1 ช่วงกะทู้-ป่าตอง) และ จ.เชียงใหม่ (บริเวณแยกสันกลาง แยกต้นเปาพัฒนา แยกซูเปอร์ไฮเวย์ แยกกองทราย แยกสะเมิง)

2. มิติพัฒนาการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคมได้ให้ความสำคัญโดยส่งเสริมพัฒนาการขนส่งสาธารณะที่สะดวก ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งในปี 2568 มีโครงการที่สำคัญ 41 โครงการ เป็นโครงการต่อเนื่อง 17 โครงการ เช่น การส่งเสริมการเชื่อมต่อระบบขนส่งมวลชนเสริม (Feeder) ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล การจัดหารถเมล์ปรับอากาศพลังงานไฟฟ้า 1,520 คัน และรถโดยสารระหว่างจังหวัดพลังงานไฟฟ้า 54 คัน การพัฒนาสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) เพื่อยกระดับการให้บริการ มีสิ่งอำนวยความสะดวก รวมถึงศึกษาแนวทางการดำเนินมาตรการจัดเก็บค่าธรรมเนียมการใช้ถนนในเขตพื้นที่จราจรหนาแน่นในพื้นที่กรุงเทพฯ และเพิ่มศักยภาพการขนส่งสินค้าทางบก

3. มิติการพัฒนาการขนส่งทางราง ได้ให้ความสำคัญในการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ เปลี่ยนการขนส่งจากถนนมาสู่ทางรางและน้ำ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งสินค้า และลดต้นทุนโลจิสติกส์ โดยในปี 2568 มีโครงการที่สำคัญ 69 โครงการ เป็นโครงการต่อเนื่อง 36 โครงการ เช่น การผลักดันกฎหมายร่าง พ.ร.บ.การบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม และร่าง พ.ร.บ.การขนส่งทางรางฯ รวมถึงการจัดทำกฎหมายลำดับรองภายใต้ร่าง พ.ร.บ. และการเดินหน้านโยบายลดค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาท ทุกสาย เพื่อแบ่งเบาภาระค่าครองชีพของประชาชน รวมถึงโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง 3 เส้นทางเพื่อเติมเต็มโครงข่ายรถไฟฟ้าให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น

4. มิติการพัฒนาการขนส่งทางน้ำ ในปี 2568 มีโครงการที่สำคัญ 26 โครงการ เป็นโครงการต่อเนื่อง 20 โครงการ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการพัฒนาการขนส่ง เปิดประตูการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว สร้างการเป็น Hub เพื่อเชื่อมโยงการเดินทางในทุกมิติ เช่น โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 การพัฒนาท่าเรือกรุงเทพ และการใช้ประโยชน์พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมถึงการผลักดันกฎหมายร่าง พ.ร.บ. ระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ พ.ศ. .... เพื่อสนับสนุนการพัฒนาโครงการแลนด์บริดจ์และการท่องเที่ยว โดยให้เอกชนร่วมลงทุนโครงการพัฒนาท่าเรือท่องเที่ยว (Cruise Terminal) สมุย พัทยา ภูเก็ต และพัฒนาท่าเรือโดยสารสาธารณะในแม่น้ำเจ้าพระยา (Smart Pier) 29 แห่ง สู่ความเป็นมาตรฐานสากล

5. มิติการพัฒนาการขนส่งทางอากาศ ได้เร่งรัดเพิ่มศักยภาพท่าอากาศยานหลักของประเทศรองรับผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวที่จะเพิ่มขึ้น ขับเคลื่อนสู่การเป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาคหรือ Aviation Hub ด้วยการยกระดับการให้บริการ 37 โครงการ แบ่งเป็น โครงการต่อเนื่อง 19 โครงการ เช่น การพัฒนาท่าอากาศยานเชียงใหม่ ระยะที่ 1 การพัฒนาท่าอากาศยานภูเก็ต ระยะที่ 2 การพัฒนาท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ระยะที่ 1 ต่อเติมความยาวทางวิ่ง ขยายทางขับ ลานจอดเครื่องบินท่าอากาศยานชุมพร รวมทั้งการเตรียมความพร้อมการให้บริการการเดินอากาศ รองรับการปฏิบัติการบินอากาศยานทางทะเล (Seaplane Operations) และติดตั้ง Automatic Border Control ระยะที่ 2 ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดอนเมือง ภูเก็ต เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการ ณ บริเวณจุดตรวจหนังสือเดินทาง



@ ปี 69 จัดคิวลงทุนอีก 64 โครงการ 1.16 แสนล้านบาท

สำหรับแผนการดำเนินโครงการในปี 2569 จำนวน 64 โครงการ วงเงินลงทุนประมาณ 116,962.12 ล้านบาท แบ่งเป็น 5 มิติ ประกอบด้วย มิติพัฒนาการขนส่งทางถนน 21 โครงการ โดยจะเร่งผลักดันการพัฒนาโครงข่ายมอเตอร์เวย์และทางพิเศษ เพื่อเพิ่มทางเลือกการเดินทางและการขนส่งสินค้า เช่น การแก้ไขปัญหาจราจร จ.เชียงใหม่ โครงก่อสร้างทางพิเศษจังหวัดภูเก็ต ระยะที่ 2 ช่วงเมืองใหม่-เกาะแก้ว-กะทู้ และการพัฒนาเชื่อมโยงโครงข่ายการเดินทางสู่เมืองหลักในภูมิภาค เช่น ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 8 ช่วงนครปฐม-ปากท่อ ศึกษาและออกแบบเส้นทาง MR1 ช่วงนครปฐม-นครสวรรค์ ที่ใช้เขตทางร่วมกันระหว่างทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองและทางรถไฟ ตามแผนแม่บท MR-Map และวงแหวนฯ รอบที่ 3 ด้านเหนือ ช่วงสุพรรณบุรี-ทล.32

สำหรับมิติพัฒนาการขนส่งทางบก ได้ดำเนินโครงการใหม่ 10 โครงการ เพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของการให้บริการรถสาธารณะ พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งและกระจายสินค้า ขับเคลื่อนไทยสู่การเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ระดับภูมิภาค เช่น ศึกษาจัดทำรถโดยสารสาธารณะต้นแบบ รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งและกระจายสินค้า อาทิ การก่อสร้างสถานีขนส่งสินค้าจังหวัดสุราษฎร์ธานี พัฒนาระบบการกำกับดูแลการขนส่งสินค้าด้วยรถบรรทุกผ่านระบบดิจิทัล



การขับเคลื่อนมิติการพัฒนาระบบขนส่งทางราง จำนวน 14 โครงการ เพื่อเติมเต็มโครงข่ายระบบราง ยกระดับการเดินทางของประชาชนให้มีความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย เช่น โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) รวมถึงการเพิ่มศักยภาพด้านระบบรางของประเทศ ผลักดันการพัฒนารถไฟความเร็วสูง ไทย-จีน ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย และจัดหารถจักรดีเซลไฟฟ้า พร้อมอะไหล่ 113 คัน เป็นต้น

ขณะที่การพัฒนาการขนส่งทางน้ำ ส่งเสริมการท่องเที่ยวด้วยการพัฒนาเขื่อนกันทรายและคลื่นบริเวณร่องน้ำ 10 โครงการ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้า-ออกของเรือโดยสารและเสริมทรายเพื่อป้องกันการกัดเซาะชายหาด เช่น เสริมทรายเพื่อป้องกันการกัดเซาะบริเวณชายหาดจอมเทียน จ.ชลบุรี ชายหาดชะอำ จ.เพชรบุรี เขาหลัก-แหลมปะการัง จ.พังงา ชายหาดสมิหลา จ.สงขลา หาดบางเสร่ จ.ชลบุรี กันทรายและคลื่นบริเวณร่องน้ำปากพร-สารสิน จ.ภูเก็ต รวมทั้งศึกษาแนวทางการส่งเสริมประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางมารีนาของภูมิภาคอาเซียน พร้อมสนับสนุนให้ทุกภาคส่วนได้บูรณาการความร่วมมือ เพื่อให้เกิดการปฏิบัติการบินอากาศยานทางทะเล หรือ Seaplane Operations

นอกจากนี้ มิติการพัฒนาการขนส่งทางอากาศ เสริมศักยภาพท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานดอนเมือง เพื่อขับเคลื่อนสู่การเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค 9 โครงการ เช่น ก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารด้านทิศตะวันออก (East Expansion) และออกแบบอาคารผู้โดยสารด้านใต้ (South Terminal) และทางวิ่งเส้นที่ 4 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ



“กระทรวงคมนาคมมีความพร้อมที่จะเดินหน้าขับเคลื่อนแผนงานโครงการให้สำเร็จตามเป้าหมายที่กำหนด เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน สร้างโอกาสและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ กระผมรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมจะได้ติดตามเร่งรัดการดำเนินงานให้เร็ว เป็นไปตามแผน เกิดผลในทางปฏิบัติ สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล เพื่อโอกาสประเทศไทยต่อไป” นายสุริยะกล่าว
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 48745
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 16/01/2025 12:58 pm    Post subject: Reply with quote

นายกฯลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ติดตามโครงการช่วยประชาชน | เดลินิวส์
Source - เว็บไซต์เดลินิวส์
Thursday, January 16, 2025 10:23

นายกฯ พร้อมคณะ บิน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ติดตามความคืบหน้าโครงการพัฒนาจังหวัด ก่อนพบปะ ‘ผู้นำศาสนา-นักเรียน’ คุยผู้ประกอบการอุตสาหกรรมประมง ปัตตานี

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 16 ม.ค. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะประกอบด้วย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คมนาคม พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ท.ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ เจ้ากรมยุทธการทหารบก ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานนราธิวาส ต.โคกเคียน อ.เมืองนราธิวาส จ.นราธิวาส

โดยเมื่อเดินทางถึง นายกฯ เป็นประธานพิธีเปิดงานมหกรรมไกล่เกลี่ยช่วยลูกหนี้ มีอยู่ มีกิน มีใช้และพบปะประชาชน ที่มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ต.โคกเคียน อ.เมืองนราธิวาส จ.นราธิวาส จากนั้นนายกฯ เป็นประธานการประชุมติดตามความคืบหน้างานด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ โครงการก่อสร้างสะพานคู่ขนานข้ามแม่น้ำโก-ลก และโครงการรถไฟทางคู่หาดใหญ่-สุไหงโก-ลก ที่มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ต.โคกเคียน อ.เมืองนราธิวาส จ.นราธิวาส

จากนั้นนายกฯ เดินทางต่อไปยัง จ.ยะลา พบปะผู้นำศาสนาและนักเรียน ที่โรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ ก่อนเป็นประธานการประชุมติดตามความคืบหน้างานด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ศาลากลางจังหวัดปัตตานี ต.สะบารัง อ.เมืองปัตตานี จ.ปัตตานี เพื่อติดตามโครงการขุดลอกและบำรุงรักษาร่องน้ำชายฝั่งทะเลที่ร่องน้ำปัตตานี และจุดจอดพักเรือ จ.ปัตตานี โครงการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบกิจการใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ซอฟต์โลน) พร้อมพบปะผู้ประกอบการอุตสาหกรรมประมง จ.ปัตตานีก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 48745
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 17/01/2025 7:20 am    Post subject: Reply with quote

“นายกฯ”ลงพื้นที่”นราธิวาส”เร่งเครื่องรถไฟทางคู่ 3 เส้นทาง ยกระดับขนส่งทางรางหนุนศก.ชายแดนใต้
Source - ผู้จัดการออนไลน์
Thursday, January 16, 2025 21:46

“นายกฯ”ลงพื้นที่”นราธิวาส”ติดตามเร่งรัดพัฒนาโครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 จำนวน 3 เส้นทาง”คมนาคม-รฟท.”แจงแผนเตรียมเสนอครม. พร้อมชงของบกลางปี 68 ศึกษา ทางคู่ ช่วงชุมทางหาดใหญ่ – สุไหงโกลก เดินหน้ายกระดับระบบขนส่งทางราง หนุนเศรษฐกิจชายแดนใต้

วันนี้ (16 ม.ค. 2568) ณ ห้องประชุมมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และนายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าโครงการรถไฟทางคู่ เพื่อเร่งรัดการพัฒนาระบบขนส่งทางรางจากทางเดี่ยวเป็นทางคู่ ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญในการพัฒนาขนส่งทางรางให้เป็นแกนหลักของระบบการขนส่งสาธารณะ โดยมีเป้าหมายยกระดับโครงสร้างพื้นฐานให้ครอบคลุมทุกภูมิภาค เพื่อรองรับการเติบโตด้านเศรษฐกิจ การค้า และการท่องเที่ยว อีกทั้งยังช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ด้วย

นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า รัฐบาล โดยกระทรวงคมนาคม และการรถไฟฯ เล็งเห็นถึงความสำคัญในการสนับสนุนโครงการรถไฟทางคู่ ซึ่งการลงพื้นที่ในครั้งนี้ ได้ติดตามความคืบหน้าการพัฒนาระบบรางในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีโครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 จำนวน 3 เส้นทาง ได้แก่ 1.ช่วงชุมพร – สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 168 กิโลเมตร 2.ช่วงสุราษฎร์ธานี - ชุมทางหาดใหญ่ - สงขลา ระยะทาง 321 กิโลเมตร และ 3.ช่วงชุมทางหาดใหญ่ - ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 45 กิโลเมตร ซึ่งปัจจุบันทั้ง 3 เส้นทาง อยู่ระหว่างจัดเตรียมข้อมูลนำเสนอต่อ คณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่ออนุมัติโครงการต่อไป

@ของบกลางปี 68 ศึกษาทางคู่ ช่วงชุมทางหาดใหญ่ - สุไหงโกลก

ส่วนโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางหาดใหญ่ - สุไหงโกลก ที่ปัจจุบันเป็นทางเดี่ยว ระยะทาง 216 กิโลเมตร การรถไฟฯ มีแผนพัฒนาก่อสร้างเส้นทางดังกล่าวให้เป็นทางคู่ ครอบคลุมสถานีรถไฟ 27 สถานี และที่หยุดรถไฟ 8 แห่ง พร้อมย่านเก็บกองและขนถ่ายสินค้า (Container Yard) ที่สถานีนาม่วง และสถานีสุไหงโกลก จำนวน 2 แห่ง ด้วยงบประมาณ 34,590 ล้านบาท โดยการรถไฟฯ อยู่ระหว่างขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 งบกลาง เพื่อศึกษาความเหมาะสมของโครงการ

หากโครงการรถไฟทางคู่ต่างๆ ดำเนินการแล้วเสร็จ จะเป็นหนึ่งในระบบขนส่งสาธารณะที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและตอบโจทย์การเดินทางของประชาชนในเส้นทางสายใต้ รองรับการเดินทางด้วยราคาที่ประหยัด อีกทั้งยังช่วยอำนวยความสะดวกในการเชื่อมต่อการเดินทางไปยังประเทศเพื่อนบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก่อให้เกิดการค้า การลงทุน ระหว่างสองประเทศอย่างยั่งยืน รวมถึงยังเป็นการพัฒนาพื้นที่ชายแดนใต้ การค้าชายแดน การท่องเที่ยว ซึ่งถือเป็นการเสริมสร้างระบบขนส่งทางรางให้มีประสิทธิภาพ เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ และยกระดับความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้

นายวีริศกล่าวว่า นายกฯ ได้สั่งการให้เร่งรัดพัฒนารถไฟทางคู่ให้เกิดความสะดวก ปลอดภัยกับผู้ใช้บริการ และส่งเสริมการขนส่งสินค้าเกษตรต่างๆ เพื่อเพิ่มการส่งออกสินค้า ซึ่งจะช่วยเร่งจีดีพีของประเทศ รวมถึงให้ติดตามเทคโนโลยีเพื่อการเกษตรต่างๆ และเทคโนโลยีของประเทศเพื่อนบ้านว่ามีอะไรที่ก้าวหน้ากว่าเราหรือไม่ เพื่อนำมาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ในการสนับสนุนสินค้าการเกษตร ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นในทุก ๆ พื้นที่


## Prime Minister Visits Narathiwat to Accelerate 3 Double-Track Railway Projects, Boosting Southern Border Economy

**Source - ผู้จัดการออนไลน์ (Manager Online)**
**Thursday, January 16, 2025 21:46**

Prime Minister Paetongtarn Shinawatra, along with Deputy Prime Minister and Minister of Defense Phumtham Wechayachai, Deputy Prime Minister and Minister of Transport Suriya Jungrungreangkit, and Permanent Secretary of the Ministry of Transport Chayathan Phromsorn, visited Narathiwat province today to follow up on the progress of double-track railway projects. The government is prioritizing the development of rail transport as the backbone of the public transportation system, aiming to upgrade infrastructure to cover all regions to support economic growth, trade, and tourism, as well as improve the quality of life for people in the southern border provinces.

Veeris Ammarapala, Governor of the State Railway of Thailand (SRT), stated that the government, through the Ministry of Transport and the SRT, recognizes the importance of supporting double-track railway projects. This visit focused on the progress of rail system development in the southern border provinces, with three Phase 2 double-track railway projects:

1. Chumphon - Surat Thani line (168 km)
2. Surat Thani - Hat Yai Junction - Songkhla line (321 km)
3. Hat Yai Junction - Padang Besar line (45 km)

Currently, all three routes are in the process of preparing data for submission to the Cabinet for project approval.

**Budget Request for Hat Yai Junction - Sungai Kolok Double-Track Study**

For the Hat Yai Junction - Sungai Kolok double-track railway project, which is currently a single-track line with a distance of 216 km, the SRT has plans to develop and construct the route into a double track, covering 27 railway stations and 8 train stops. It will also include container yards at Namwong Station and Sungai Kolok Station. The project has a budget of 34.59 billion baht, and the SRT is in the process of requesting budget allocation from the 2025 fiscal year budget for a feasibility study.

Upon completion, these double-track railway projects will be a crucial part of the public transportation system, increasing efficiency and meeting the travel needs of people in the southern region. They will support affordable travel and facilitate convenient connections to neighboring countries, promoting trade and investment between the two countries sustainably. This development will also boost the southern border region's economy, border trade, and tourism, strengthening the rail transport system, stimulating the economy, and improving the livelihoods of people in the three southern border provinces.

Veeris added that the Prime Minister has ordered the acceleration of double-track railway development to ensure convenience and safety for users and promote the transportation of agricultural products to increase exports, which will boost the country's GDP. The Prime Minister also urged officials to keep track of agricultural technology and technologies in neighboring countries to see if there are any advancements that can be adapted to benefit Thailand and support agricultural products, increasing farmers' income in all areas.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45071
Location: NECTEC

PostPosted: 17/01/2025 10:46 am    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
“นายกฯ”ลงพื้นที่”นราธิวาส”เร่งเครื่องรถไฟทางคู่ 3 เส้นทาง ยกระดับขนส่งทางรางหนุนศก.ชายแดนใต้
Source - ผู้จัดการออนไลน์
Thursday, January 16, 2025 21:46


นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า รัฐบาล โดยกระทรวงคมนาคม และการรถไฟฯ เล็งเห็นถึงความสำคัญในการสนับสนุนโครงการรถไฟทางคู่ ซึ่งการลงพื้นที่ในครั้งนี้ ได้ติดตามความคืบหน้าการพัฒนาระบบรางในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีโครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 จำนวน 3 เส้นทาง ได้แก่ 1.ช่วงชุมพร – สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 168 กิโลเมตร 2.ช่วงสุราษฎร์ธานี - ชุมทางหาดใหญ่ - สงขลา ระยะทาง 321 กิโลเมตร และ 3.ช่วงชุมทางหาดใหญ่ - ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 45 กิโลเมตร ซึ่งปัจจุบันทั้ง 3 เส้นทาง อยู่ระหว่างจัดเตรียมข้อมูลนำเสนอต่อ คณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่ออนุมัติโครงการต่อไป

@ของบกลางปี 68 ศึกษาทางคู่ ช่วงชุมทางหาดใหญ่ - สุไหงโกลก

ส่วนโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางหาดใหญ่ - สุไหงโกลก ที่ปัจจุบันเป็นทางเดี่ยว ระยะทาง 216 กิโลเมตร การรถไฟฯ มีแผนพัฒนาก่อสร้างเส้นทางดังกล่าวให้เป็นทางคู่ ครอบคลุมสถานีรถไฟ 27 สถานี และที่หยุดรถไฟ 8 แห่ง พร้อมย่านเก็บกองและขนถ่ายสินค้า (Container Yard) ที่สถานีนาม่วง และสถานีสุไหงโกลก จำนวน 2 แห่ง ด้วยงบประมาณ 34,590 ล้านบาท โดยการรถไฟฯ อยู่ระหว่างขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 งบกลาง เพื่อศึกษาความเหมาะสมของโครงการ


ตอนนี้คงต้องรอวาช่วงไหนจะได้รับอนมัติงบให้ทำก่อน ส่วนสายไปสุไหงโกลก ยาว 216 กิโลเมตร นั้น อย่าลืมฟื้นฟูกรเดินรถสินค้า 703/704 ให้เดินประจำและ เดินรถขบวนสุไหงโกลก - ปาดังเบซาร์ด้วย
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45071
Location: NECTEC

PostPosted: 17/01/2025 3:49 pm    Post subject: Reply with quote

โครงการทางคู่
1. ขอนแก่น-หนองคาย 167 กม. มูลค่า 29,748 ล้านบาท ตอนนี้รอลงนามผู้รับเหมาต้นปี 2568 หวังว่าจะเสร็จปี 2571
2. ปากน้ำโพ-เด่นชัย 280.544 กม. มูลค่า 62,860 ล้านบาท EIA เห็นชอบแล้วอยู่ระหว่างขออนุมัติโครงการรออนุมัติงบสำหรับโครงการและประมูลหาผู้รับเหมาวังว่าเริ่มโครงการปลายปี 2568 หวังว่าจะเสร็จปลายปี 2572
3. ชุมพร-สุราษฎร์ธานี 168 กม. มูลค่า 24,294 ล้านบาท EIA เห็นชอบแล้วอยู่ระหว่างขออนุมัติโครงการรออนุมัติงบสำหรับโครงการและประมูลหาผู้รับเหมาโดยหวังว่าเริ่มโครงการปลายปี 2569 หวังว่าจะเสร็จปลายปี 2572
4. ชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี 308 กม. มูลค่า 37,527 ล้านบาท EIA เห็นชอบแล้วอยู่ระหว่างขออนุมัติโครงการรออนุมัติงบสำหรับโครงการและประมูลหาผู้รับเหมาโดยหวังว่าเริ่มโครงการปลายปี 2569 หวังว่าจะเสร็จปลายปี 2573
5. สุราษฎร์ธานี-หาดใหญ่-สงขลา 321 กม. มูลค่า 57,375ล้านบาท EIA เห็นชอบแล้วอยู่ระหว่างขออนุมัติโครงการรออนุมัติงบสำหรับโครงการและประมูลหาผู้รับเหมาโดยหวังว่าเริ่มโครงการปลายปี 2569 หวังว่าจะเสร็จปลายปี 2573
6. ชุมทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ 45 กม. มูลค่า 7,942 ล้านบาท EIA เห็นชอบแล้วอยู่ระหว่างขออนุมัติโครงการรออนุมัติงบสำหรับโครงการและประมูลหาผู้รับเหมาโดยหวังว่าเริ่มโครงการปลายปี 2569 หวังว่าจะเสร็จปลายปี 2573
7. เด่นชัย-เชียงใหม่ 189 กม. มูลค่า 59,924 ล้านบาท ขออนุมัติโครงการ/พิจารณา EIA โดยหวังว่าเริ่มโครงการปลายปี 2572 หวังว่าจะเสร็จปลายปี 2576
8. ชุมทางศรีราชา-พัทยา - มาบตาพุด 70 กม. มูลค่า 10,472 ล้านบาท อยู่ระหว่างเตรียมขออนุมัติโครงการ หวังว่า EIA จะผ่าน และอนุมัติงบประมาณโดยหวังว่าเริ่มโครงการปลายปี 2569 หวังว่าจะเสร็จปลายปี 2572
9. สุราษฎร์ธานี-ท่านุ่น 158 กม. มูลค่า 34,237 ล้านบาท อยู่ระหว่างเตรียมขออนุมัติโครงการ หวังว่า EIA จะผ่าน และอนุมัติงบประมาณโดยหวังว่าเริ่มโครงการปลายปี 2568 หวังว่าจะเสร็จปลายปี 2572
10. นครสวรรค์-กำแพงเพชร-ตาก-แม่สอด 256 กม. มูลค่า 96,785 ล้านบาท อยู่ระหว่างเตรียมขออนุมัติโครงการ หวังว่า EIA จะผ่าน และอนุมัติงบประมาณโดยหวังว่าเริ่มโครงการปลายปี 2569 หวังว่าจะเสร็จปลายปี 2574 เนื่องจากมีปัญหา EIA กับพระซึ่งมีวัดและสำนักสงฆ์ที่ตีนภูซึ่งเป็นต้นน้ำในทางระหว่างตากกะแม่สอด และ ความไม่สงบในพม่า
11. อุบลราชธานี-ช่องเม็ก 87 กม. มูลค่า 15,009 ล้านบาท ยังไม่เริ่มโครงการ กำลังศึกษาความเหมาะสมเบื้องต้น หวังว่าเริ่มโครงการปลายปี 2573-4 หวังว่าจะเสร็จปลายปี 2576-7
12. ทับปุด-กระบี่ 68 กม. มูลค่า 17,201 ล้านบาท ยังไม่เริ่มโครงการ อยู่ระหว่างจัดทำแผน/จัดลำดับความสำคัญ หวังว่าเริ่มโครงการปลายปี 2576 หวังว่าจะเสร็จปลายปี 2579
13. สุราษฎร์ธานี-ดอนสัก 78 กม. มูลค่า 19,240 ล้านบาท ยังไม่เริ่มโครงการ อยู่ระหว่างจัดทำแผน/จัดลำดับความสำคัญ หวังว่าเริ่มโครงการปลายปี 2578หวังว่าจะเสร็จปลายปี 2582
14. มาบตาพุด-ระยอง-จันทบุรี-ตราด 197 กม. มูลค่า 96,785 ล้านบาท ขอ งบ เพื่อ ออกแบบรายละเอียด และจัดทำรายงาน EIA หวังว่าเริ่มโครงการปลายปี 2573 หวังว่าจะเสร็จปลายปี 2576
15. กาญจนบุรี (ท่ากิเลน) -บ้านพุน้ำร้อน 36 กม. มูลค่า 9,565 ล้านบาท กำลังศึกษาความเหมาะสมเบื้องต้น หวังว่าเริ่มโครงการปลายปี 2582 หวังว่าจะเสร็จปลายปี 2585 เว้นแต่ถ้าเมืองพม่ามีสันติภาพแล้ว อาจเริ่มปลายปี 2574 หวังว่าจะเสร็จปลายปี 2578
16. กาญจนบุรี (ท่ากิเลน) - หนองปลาดุก - สุพรรณบุรี - บ้านภาชี 221 กม. มูลค่า 41,771 ล้านบาท อยู่ระหว่างจัดทำแผนและจัดลำดับ ความสำคัญ หวังว่าเริ่มโครงการปลายปี 2580 หวังว่าจะเสร็จปลายปี 2583 เว้นแต่ถ้าเมืองพม่ามีสันติภาพแล้ว อาจเริ่มปลายปี 2569 หวังว่าจะเสร็จปลายปี 2573
17. ชุมทางศรีราชา-มาบตาพุด 70 กม. มูลค่า 10,472 ล้านบาท อยู่ระหว่างเตรียมขออนุมัติโครงการ หวังว่าเริ่มโครงการปลายปี 2569 หวังว่าจะเสร็จปลายปี 2572
18. ชุมทางศรีราชา - บ่อวิน - ระยอง (79 กม.) มูลค่า 22,220 ล้านบาท ยังไม่เริ่มโครงการ หวังว่าเริ่มโครงการปลายปี 2576 หวังว่าจะเสร็จปลายปี 2579
19. มาบตาพุด-ระยอง-จันทบุรี-ตราด 197 กม. มูลค่า 41,360 ล้่านบาท เพื่อออกแบบรายละเอียด และจัดทำรายงาน EIA หวังว่าเริ่มโครงการปลายปี 2573 หวังว่าจะเสร็จปลายปี 2577
20. ชุมทางคลองสิบเก้า-อรัญประเทศ 174 กม. มูลค่า 28,864 ล้านบาท ยังไม่เริ่มโครงการหวังว่าเริ่มโครงการปลายปี 2576 หวังว่าจะเสร็จปลายปี 2579 แต่ถ้าสัมพันธ์ระหว่างประเทศดีขึ้นอาจเริ่มโครงการปลายปี 2573 หวังว่าจะเสร็จปลายปี 2576
21. ชุมทางหาดใหญ่-สุไหงโกลก 216 กม. มูลค่า 34,590 ล้านบาท ยังไม่เริ่มโครงการหวังว่าเริ่มโครงการปลายปี 2580 หวังว่าจะเสร็จปลายปี 2584 แต่ถ้าภาคใต้สงบอาจเริ่มโครงการปลายปี 2578 หวังว่าจะเสร็จปลายปี 2582
22. นครสวรรค์ - บ้านไผ่ 304 กม. มูลค่า 52,445 ล้านบาท ยังไม่เริ่มโครงการหวังว่าเริ่มโครงการปลายปี 2576 หวังว่าจะเสร็จปลายปี 2584
23. ชุมพร (แหลมริ้นที่หลังสวน) - พะโต๊ะ - ระนอง (อ่าวอ่าง) 91 กม. มูลค่า 48,112 ล้านบาท อยู่ระหว่างสำรวจออกแบบรายละเอียดและจัดทำรายงาน EIA หวังว่าเริ่มโครงการปลายปี 2579 หวังว่าจะเสร็จปลายปี 2583 แต่ถ้าโชคดีทำได้ในปี 2570 และสำเร็จในปี 2573
https://www.drt.go.th/wp-content/uploads/2025/01/Final-Report_R-MAP_.pdf?
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45071
Location: NECTEC

PostPosted: 17/01/2025 4:28 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
“นายกฯ”ลงพื้นที่”นราธิวาส”เร่งเครื่องรถไฟทางคู่ 3 เส้นทาง ยกระดับขนส่งทางรางหนุนศก.ชายแดนใต้
Source - ผู้จัดการออนไลน์
วันพฤหัสบดี ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2568 เวลา 21:46 น.

Mongwin wrote:
นายกฯลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ติดตามโครงการช่วยประชาชน | เดลินิวส์
Source - เว็บไซต์เดลินิวส์
วันพฤหัสบดี ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2568 เวลา 10:23 น.


นายกฯ นำทีมกระทรวงคมนาคม และการรถไฟฯลงพื้นที่ จ.นราธิวาสเร่งรัดติดตามความคืบหน้าโครงการรถไฟทางคู่
วันศุกร์ ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2568 เวลา11.48 น.

นายกฯ นำทีมกระทรวงคมนาคม และการรถไฟฯ ลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เร่งรัดติดตามความคืบหน้าโครงการรถไฟทางคู่ ขณะที่ 'วีริศ' เผย เร่งเดินหน้ายกระดับระบบขนส่งทางราง ช่วยหนุนเศรษฐกิจชายแดนใต้




วันนี้ (16 มกราคม 2568) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และนายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าโครงการรถไฟทางคู่ เพื่อเร่งรัดการพัฒนาระบบขนส่งทางรางจากทางเดี่ยวเป็นทางคู่ ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญในการพัฒนาขนส่งทางรางให้เป็นแกนหลักของระบบการขนส่งสาธารณะ โดยมีเป้าหมายยกระดับโครงสร้างพื้นฐานให้ครอบคลุมทุกภูมิภาค เพื่อรองรับการเติบโตด้านเศรษฐกิจ การค้า และการท่องเที่ยว อีกทั้งยังช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ด้วย โดยมีนายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ให้การต้อนรับ ณ ห้องประชุมมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส

นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่า รัฐบาล โดยกระทรวงคมนาคม และการรถไฟฯ เล็งเห็นถึงความสำคัญในการสนับสนุนโครงการรถไฟทางคู่ต่างๆ ซึ่งการลงพื้นที่ในครั้งนี้ ได้ติดตามความคืบหน้าการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในโครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 จำนวน 3 เส้นทาง ซึ่งปัจจุบันทั้ง 3 เส้นทาง อยู่ระหว่างจัดเตรียมข้อมูลนำเสนอต่อ ครม. เพื่ออนุมัติโครงการต่อไปได้แก่
1.ช่วงชุมพร – สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 168 กิโลเมตร
2.ช่วงสุราษฎร์ธานี - ชุมทางหาดใหญ่ - สงขลา ระยะทาง 321 กิโลเมตร และ
3.ช่วงชุมทางหาดใหญ่ - ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 45 กิโลเมตร




ส่วนโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางหาดใหญ่ - สุไหงโกลก ที่ปัจจุบันเป็นทางเดี่ยว ระยะทาง 216 กิโลเมตร การรถไฟฯ มีแผนพัฒนาก่อสร้างเส้นทางดังกล่าวให้เป็นทางคู่ ครอบคลุมสถานีรถไฟ 27 สถานี และที่หยุดรถไฟ 8 แห่ง พร้อมย่านเก็บกองและขนถ่ายสินค้า (Container Yard) ที่สถานีนาม่วง และสถานีสุไหงโกลก จำนวน 2 แห่ง ด้วยงบประมาณ 34,590 ล้านบาท โดยการรถไฟฯ อยู่ระหว่างขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 งบกลาง เพื่อศึกษาความเหมาะสมของโครงการ



หากโครงการรถไฟทางคู่ต่างๆ ดำเนินการแล้วเสร็จ จะเป็นหนึ่งในระบบขนส่งสาธารณะที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและตอบโจทย์การเดินทางของประชาชนในเส้นทางสายใต้ รองรับการเดินทางด้วยราคาที่ประหยัด อีกทั้งยังช่วยอำนวยความสะดวกในการเชื่อมต่อการเดินทางไปยังประเทศเพื่อนบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก่อให้เกิดการค้า การลงทุน ระหว่างสองประเทศอย่างยั่งยืน รวมถึงยังเป็นการพัฒนาพื้นที่ชายแดนใต้ การค้าชายแดน การท่องเที่ยว ซึ่งถือเป็นการเสริมสร้างระบบขนส่งทางรางให้มีประสิทธิภาพ เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ และยกระดับความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้




“ท่านนายกฯ ได้สั่งการให้เร่งรัดพัฒนารถไฟทางคู่ให้เกิดความสะดวก ปลอดภัยกับผู้ใช้บริการ และส่งเสริมการขนส่งสินค้าเกษตรต่างๆ เพื่อเพิ่มการส่งออกสินค้า ซึ่งจะช่วยเร่งจีดีพีของประเทศ รวมถึงให้ติดตามเทคโนโลยีเพื่อการเกษตรต่างๆ และเทคโนโลยีของประเทศเพื่อนบ้านว่ามีอะไรที่ก้าวหน้ากว่าเราหรือไม่ เพื่อนำมาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ในการสนับสนุนสินค้าการเกษตร ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นในทุก ๆ พื้นที่” นายวีริศ กล่าวทิ้งท้าย
https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=1033639935460664&id=100064440019733&_rdr
Note:
1. ชุมพร-สุราษฎร์ธานี 168 กม. มูลค่า 24,294 ล้านบาท EIA เห็นชอบแล้วอยู่ระหว่างขออนุมัติโครงการรออนุมัติงบสำหรับโครงการและประมูลหาผู้รับเหมาโดยหวังว่าเริ่มโครงการปลายปี 2569 หวังว่าจะเสร็จปลายปี 2572
2. สุราษฎร์ธานี-หาดใหญ่-สงขลา 321 กม. มูลค่า 57,375ล้านบาท EIA เห็นชอบแล้วอยู่ระหว่างขออนุมัติโครงการรออนุมัติงบสำหรับโครงการและประมูลหาผู้รับเหมาโดยหวังว่าเริ่มโครงการปลายปี 2569 หวังว่าจะเสร็จปลายปี 2573
3. ชุมทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ 45 กม. มูลค่า 7,942 ล้านบาท EIA เห็นชอบแล้วอยู่ระหว่างขออนุมัติโครงการรออนุมัติงบสำหรับโครงการและประมูลหาผู้รับเหมาโดยหวังว่าเริ่มโครงการปลายปี 2569 หวังว่าจะเสร็จปลายปี 2573
4. ชุมทางหาดใหญ่-สุไหงโกลก 216 กม. มูลค่า 34,590 ล้านบาท ยังไม่เริ่มโครงการหวังว่าเริ่มโครงการปลายปี 2580 หวังว่าจะเสร็จปลายปี 2584 แต่ถ้าภาคใต้สงบอาจเริ่มโครงการปลายปี 2578 หวังว่าจะเสร็จปลายปี 2582
https://www.drt.go.th/wp-content/uploads/2025/01/Final-Report_R-MAP_.pdf?
https://www.youtube.com/watch?v=D9Yaje2kD-4


Last edited by Wisarut on 02/05/2025 1:57 am; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 48745
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 17/01/2025 5:30 pm    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
นายกฯ นำทีมกระทรวงคมนาคม และการรถไฟฯลงพื้นที่ จ.นราธิวาสเร่งรัดติดตามความคืบหน้าโครงการรถไฟทางคู่

Note:
1. ชุมพร-สุราษฎร์ธานี 168 กม. มูลค่า 24,294 ล้านบาท EIA เห็นชอบแล้วอยู่ระหว่างขออนุมัติโครงการรออนุมัติงบสำหรับโครงการและประมูลหาผู้รับเหมาโดยหวังว่าเริ่มโครงการปลายปี 2569 หวังว่าจะเสร็จปลายปี 2572
2. สุราษฎร์ธานี-หาดใหญ่-สงขลา 321 กม. มูลค่า 57,375ล้านบาท EIA เห็นชอบแล้วอยู่ระหว่างขออนุมัติโครงการรออนุมัติงบสำหรับโครงการและประมูลหาผู้รับเหมาโดยหวังว่าเริ่มโครงการปลายปี 2569 หวังว่าจะเสร็จปลายปี 2573
3. ชุมทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ 45 กม. มูลค่า 7,942 ล้านบาท EIA เห็นชอบแล้วอยู่ระหว่างขออนุมัติโครงการรออนุมัติงบสำหรับโครงการและประมูลหาผู้รับเหมาโดยหวังว่าเริ่มโครงการปลายปี 2569 หวังว่าจะเสร็จปลายปี 2573
4. ชุมทางหาดใหญ่-สุไหงโกลก 216 กม. มูลค่า 34,590 ล้านบาท ยังไม่เริ่มโครงการหวังว่าเริ่มโครงการปลายปี 2580 หวังว่าจะเสร็จปลายปี 2584 แต่ถ้าภาคใต้สงบอาจเริ่มโครงการปลายปี 2578 หวังว่าจะเสร็จปลายปี 2582
https://www.drt.go.th/wp-content/uploads/2025/01/Final-Report_R-MAP_.pdf?

ครม.สัญจรนัดแรกปีนี้ ปักหมุดสงขลา 16-18 ก.พ. เล็งถกสร้างรถไฟทางคู่ลงชายแดนใต้
Source - IQ สำนักข่าวอินโฟเควสท์
Friday, January 17, 2025 13:34

สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 ม.ค. 68)

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในวันที่ 21 ม.ค.นี้ จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตามวาระปกติ โดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมแทน เนื่องจากนายกฯ มีกำหนดเดินทางไปร่วมประชุม World Economic Forum ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

สำหรับการประชุม ครม.สัญจรในช่วงวันที่ 16-18 ก.พ.68 ที่จังหวัดสงขลา นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้หน่วยราชการที่เกี่ยวข้องไปดูข้อมูลต่าง ๆ เพื่อเสนอต่อที่ประชุม ครม. เช่น เรื่องโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ในเส้นทางจากจังหวัดชุมพร-สุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่-สุไหงโกลก-ปาดังเปซาร์ เข้าสู่ชายแดนมาเลเซีย นอกจากนี้ยังมีเรื่องการบริหารจัดการน้ำ การแก้ปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้ง รวมถึงเรื่องการพัฒนาการศึกษา


## Cabinet's First Mobile Meeting of the Year Set for Songkhla, February 16-18; Focus on Southern Rail Line

**Source - IQ Infoquest**
**Friday, January 17, 2025 13:34**

Infoquest News Agency (17 Jan 2025) - Government Spokesperson Chirayu Huengtrakul disclosed that the regular Cabinet meeting scheduled for January 21st will be chaired by Deputy Prime Minister and Defense Minister Phumtham Wechayachai, as Prime Minister Paetongtarn Shinawatra will be attending the World Economic Forum in Davos, Switzerland.

The first mobile Cabinet meeting of the year will be held in Songkhla province from February 16th to 18th. The Prime Minister has tasked relevant government agencies with preparing information for the meeting's agenda, including a proposed double-track railway project running from Chumphon province through Surat Thani, Hat Yai Junction, Sungai Kolok, and Padang Besar, ultimately connecting to the Malaysian border. Other topics to be addressed include water management, flood and drought mitigation, and educational development.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 411, 412, 413 ... 420, 421, 422  Next
Page 412 of 422

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©