รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่

[Wisarut]

The new Nakhon Pathom train station building is now open for service. You can buy tickets at the new location. The new station building is about 50 meters past the old station. It is big and spacious, especially the long platform. However, some parts are not yet finished. The passenger lifts that cross the platform are now available. https://www.facebook.com/teerapol.fongkaimuk/posts/9121898794553316

[Mongwin]

Nickle Paatour
·
”จุดสิ้นสุด“ โครงการรถไฟทางคู่เร่งด่วนระยะแรก“ลพบุรี-ปากน้ำโพ” 🚂🚃🚃
บริเวณนี้จะอยู่เลยสถานีรถไฟปากน้ำโพ มาทางทิศเหนือประมาณ 1,100 เมตร
🔸ในโครงการรถไฟทางคู่ลพบุรี-ปากน้ำโพ 

https://www.facebook.com/NicklePaatour/posts/1312391976468173

[Mongwin]

นั่งรถไฟเข้าอุโมงค์ผาเสด็จที่ยาวที่สุด 5.4 กิโลเมตรและอุโมงค์หินลับที่สั้นเพียง 265 เมตร
นิกเกิ้ล พาทัวร์ (Train Thailand)
Feb 6, 2025


https://www.youtube.com/watch?v=MStDla4B6hw

[Mongwin]

รายงานพิเศษ : มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ก้าวสู่ปีที่ 20 จัดการศึกษาเพื่อพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้

โปรย...มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ก้าวสู่ปีที่ 20 จัดการศึกษาเพื่อพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมขานรับนโยบายรัฐบาลในการเตรียมกำลังคนรองรับอุตสาหกรรมแห่งอนาคต.............เทป...........(สวท.นราธิวาส/รายงาน)

มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ เป็นสถาบันอุดมศึกษาลำดับที่ 77 ของประเทศ จัดตั้งเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2548 เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนและประชาชนในจังหวัดนราธิวาสและจังหวัดใกล้เคียงเข้ารับการศึกษาในระดับอุดมศึกษามากขึ้น อันจะส่งผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และคุณภาพชีวิตของประชาชน

ตลอดจนการพัฒนาให้จังหวัดนราธิวาส เป็นศูนย์กลางทางการศึกษาและวิจัย และด้านอิสลามศึกษาในภูมิภาค อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างเอกภาพและความมั่นคงของชาติ

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ปรีชา สะแลแม อธิการบดีมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 20 ปี มหาวิทยาลัยฯ มีความมุ่งมั่นที่จะดำเนินงานให้เป็นไปตามวิสัยทัศน์การจัดการศึกษา เพื่อรองรับกับการพัฒนาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะผลงานด้านวิจัยและนวัตกรรม ที่มีหลากหลายผลงาน แต่ที่โดดเด่นมากที่สุด คือ เรือ Wi-Fi นอกจากพัฒนาทักษะนักศึกษาแล้ว ยังช่วยแก้ไขปัญหายามวิกฤตของประชาชน

“...(เสียงอธิการบดี)...เรือ Wi-Fi ซึ่งถือว่าเป็นเรือที่สามารถตอบโจทย์ในเรื่องของการช่วยเหลือประชาชนในกรณีที่เกิดเหตุการณ์อุทกภัย ซึ่งที่ผ่านมาในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ได้นำเรือไวไฟไปช่วยเหลือชุมชน/สังคม//ขณะเดียวกันรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ได้ให้ความสำคัญและมอบหมายให้ มนร. ผลิตเรือ Wi-Fi เพิ่มขึ้นเพื่อจะนำไปช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยในภูมิภาคอื่น ๆ ซึ่งถือว่าเป็นผลงานวิจัยนวัตกรรมของ มนร. ที่สามารถแก้ไขปัญหายามวิกฤต ของประชาชนอย่างแท้จริง...”

ขณะที่แนวทางการจัดการศึกษาของมหาวิทยาลัยฯ ในอนาคต ต้องดูว่าอาชีพหลักมีอะไรบ้าง เมื่อรู้ความต้องการ จะจัดทำหลักสูตรเพื่อเตรียมกำลังคนเข้าสู่อุตสาหกรรมดังกล่าว อีกทั้งการพัฒนาหลักสูตรที่รองรับกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จะมีหลักสูตรสร้างนักสิ่งแวดล้อมด้วย

นอกจากนี้ จากการที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาตรวจติดตามการดำเนินโครงการต่าง ๆ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางหาดใหญ่-สุไหงโก-ลก ซึ่งทางมหาวิทยาลัยมีการสอนสาขาวิชาช่างเทคนิคระบบขนส่งทางราง จึงมีความพร้อมขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล

“...(เสียงอธิการบดี)...ตรงนี้ทางนายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญในเรื่องของที่มหาวิทยาลัยได้เตรียมกำลังคนเข้าสู่อุตสาหกรรมดังกล่าว ก็คิดว่าจะได้ตอบโจทย์ การพัฒนาของรัฐบาลต่อไปในอนาคต...”

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ปรีชา สะแลแม อธิการบดีมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เนื่องในโอกาสครบรอบ 20 ปี วันคล้ายวันสถาปนาฯ จึงได้กำหนดจัดงานขึ้น ภายใต้แนวคิด “20 ปี แห่งการสร้างโอกาส สร้างสรรค์เทคโนโลยีและนวัตกรรม พัฒนาชุมชน สู่ความยั่งยืน” เพื่อสื่อสารให้ประชาชนทั่วไปได้รับทราบภารกิจของมหาวิทยาลัยฯ

โดยในวันที่ 10-14 กุมภาพันธ์ นี้ ขอเชิญชวนได้มาเที่ยวชมกิจกรรมภายในงาน ซึ่งจะพบกับความหลากหลายของการพัฒนาทุกมิติ ทั้งการพัฒนาหลักสูตร การพัฒนางานวิจัย การพัฒนาด้านสังคม รวมถึงการช่วยเหลือประชาชน จึงขอเชิญร่วมชมงาน ร่วมเป็นกำลังใจในการพัฒนาพื้นที่ เพราะเป้าหมายของมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์คือการพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

ปพิชญานันท์ เทพรักษ์
สวท.นราธิวาส

https://thainews.prd.go.th/thainews/news/view/900000/?bid=1

[Wisarut]

รถไฟทางคู่ไปเมืองน่าน ภูมิประเทศแสนโหดฝ่า 10 ภูเขา 10 อุโมงค์ วอนทุกภาคส่วนโหมโรง!!

เอสเอ็มอี นิวส์ รีพอร์ท

9 ก.พ. 2025

เนื่องด้วยการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ทำการก่อสร้าง รถไฟทางคู่สายเด่นชัยเชียงรายเชียงของ คาดว่าจะแล้วเสร็จในปีพ.ศ 2572 ได้ผ่านกลุ่มจังหวัดล้านนาตะวันออกยกเว้นเพียงจังหวัดน่าน หลายภาคส่วนจึงมีความเห็นว่าควรที่จะสร้างรถไฟทางคู่ไปจังหวัดน่านด้วย และคณะรัฐมนตรีที่มาประชุมสัญจรที่จังหวัดพะเยา ได้มีมติเห็นชอบให้ศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ของงบประมาณจากกระทรวงคมนาคมเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ หากงบประมาณนี้ไม่ถูกตีตก จะเป็นการสานฝันครั้งยิ่งใหญ่ของพี่น้องชาวจังหวัดน่าน ที่จะได้ใช้ระบบโลจิสติกส์ทางราง

note: นี่คือสาเหตุสำคัญที่ทางไปเด่นชัย - เชียงราย เวอร์ชั่นที่ผ่านเมืองน่าน ของกรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน จึงโโนคณะกรรมการพิจารณาเส้นทาง Reject ไปแต่ปี 2503
https://www.youtube.com/watch?v=HsOJpaaKDl4

[Mongwin]

โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ

กรมการขนส่งทางรางติดตามการก่อสร้าง และตรวจความพร้อมการเปิดเดินรถไฟทางคู่ช่วงลพบุรี - ปากน้ำโพ

วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568 เจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางราง ลงพื้นที่เพื่อติดตามการก่อสร้าง และตรวจความพร้อมการเปิดเดินรถไฟทางคู่ ช่วงลพบุรี - ปากน้ำโพ ที่ สถานีรถไฟนครสวรรค์ อาคารศูนย์ควบคุมการเดินรถ (CTC) และสถานีรถไฟปากน้ำโพ โดยในการก่อสร้างโครงสร้างอาคารสถานี ชานชาลา และรางรถไฟ ได้ดำเนินการแล้วเสร็จ โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณ และโทรคมนาคม

Double-Track Railway Construction Project, Lopburi-Pak Nam Pho Section

Department of Rail Transport Monitors Construction and Inspects Readiness for Double-Track Railway Opening, Lopburi - Pak Nam Pho Section

February 10, 2025: Officers from the Department of Rail Transport visited the Nakhon Sawan railway station, the Centralized Traffic Control (CTC) building, and the Pak Nam Pho railway station to monitor the construction and inspect the readiness for the opening of the double-track railway, Lopburi - Pak Nam Pho section. The construction of station buildings, platforms, and railway tracks has been completed. Currently, the installation of signaling and telecommunication systems is underway.

https://www.facebook.com/lopburipaknampho/posts/1004245658287501

[Wisarut]

ขอแบบรถไฟความเร็วสูงสร้างถนนคู่ขนาน

Bykazzy
7 กุมภาพันธ์ 2568


รองผู้ว่าอุดรฯนำจับเข่าคุย รฟท. ขอสร้างถนนคู่ขนานทางรถไฟ 1.89 กม. เชื่อมกับถนน ทต.หนองขอนกว้าง 0.48 กม.ให้ชาวบ้านอ้อมนิคมอุตสาหกรรม แต่ต้องพบร่างแบบรถไฟความเร็วสูง ทางรถไฟยกระดับลดถึงพื้นพอดี เร่งเดินหน้าหาทางออก ยื่นยันสร้างถนนคู่ขนานทางรถไฟ หนองตะไก้-ทล.216 ขอแบบรายละเอียดทางรถไฟยกระดับ เมื่อได้ผู้รับเหมานัดคุย

เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568 นายณัฐพงศ์ คำวงศ์ปิน รองผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี เป็นประธานประชุมและลงพื้นที่ หารือแนวทางโครงการก่อสร้างถนนคู่ขนานทางรถไฟ (Local Road) ช่วงสถานีรถไฟหนองตะไก้-ทางหลวง 216 (ถนนวงแหวน) อ.เมือง จ.อุดรธานี ที่ห้องประชุม และพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมอุดรธานี ต.โนนสูง อ.เมือง มีหน่วยงานราชการ-องค์กรปกครองท้องถิ่นเกี่ยวข้อง , ตัวแทนการรถไฟแห่งประเทศไทย พร้อมที่ปรึกษาการรถไฟแห่งประเทศไทย , ประธานหอการค้าภาคอีสาน , ประธานหอการค้า จ.อุดรธานี และประธานกรรมการ บ.เมืองอุตสาหกรรมอุดรธานี เจ้าของนิคมอุตสาหกรรมอุดรธานี




ผู้เข้าร่วมประชุมร่วมรายงานว่า โครงการถนนคู่ขนานทางรถไฟ (Local Road) ช่วงสถานีรถไฟหนองตะไก้-ทางหลวง 216 (ถนนวงแหวน) เดิมเสนอผ่านคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน เพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ (กรอ.) อุดรธานี จะมีต่อไปในช่วง ทน.อุดรธานี เข้าสูงการประชุม ครม.สัญจรที่ จ.หนองคาย แต่จากการประชุมในเขต ทน.อุดรธานี ติดปัญหาพื้นที่บริเวณโรงปูน TPI จึงตัดส่วนในเขต ทน.อุดรธานี ออกไปก่อน และจากการประชุมร่วมหลายครั้ง ได้สรุปให้เสนอเรื่องเข้าไปที่การรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งตัวแทนการรถไฟแห่งประเทศไทยตอบว่า ทั้งโครงการรถไฟทางคู่ ที่กำลังจะก่อสร้างเร็วๆนี้ และรถไฟความเร็วสูง ที่จะได้ผู้รับจ้างป ลายปีนี้ ไม่มีแผนงานการสร้าง Local Road



การประชุมรายงานด้วยว่า ระหว่างนั้นอุดรธานีได้ใช้งบยุทธศาสตร์ ก่อสร้างถนนคอนกรีต 2 ช่องจราจร จากทางพาดรถไฟทิศเหนือสถานีรถไฟหนองตะไก้ ระยะทาง 1 กม. ผ่านพื้นที่ชาวบ้านไปจนถึงทางเข้าของ อาคารแวร์เฮ้าส์ ในนิคมอุตสาหกรรมอุดรธานี เป็นการนำร่องแต่ไม่ได้สร้างต่อ ทำให้มีการประชุมครั้งนี้เพื่อสานต่อ โดยเป็นข้อเสนอของ ทต.หนองขอนกว้าง และนิคมอุตสาหกรรมอุดรธานี เพื่อลดความเดือดร้อนประชาชน ที่ต้องเดินทางผ่านข้าไปในนิคมอุตสาหกรรมอุดรธานี ด้วยการสร้างถนนใหม่อ้อมนิคมอุตสาหกรรม แบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรก ถนนจากประตูนิคมอุตสาหกรรมอุดรธานี-ทางรถไฟ ระยะทาง 484 ม. (ที่ดินอุทิศ) ส่วนที่สอง สร้างถนน Local Road ต่อไปถึงถนน Local Road ที่สร้างไว้แล้ว ระยะทาง 1,892 ม. เมื่อสร้างเสร็จจะทำให้ประชาชนเดินทางระหว่าง สถานีรถไฟหนองตะไก้ กับบ้านโคกนาคลอง โดยไม่ผ่านนิคมฯ




ผู้แทนและที่ปรึกษาการรถไฟแห่งประเทศไทย รายงานว่า รถไฟทางคู่จะอยู่ด้านตะวันตก ผู้รับเหมาจะเข้าทำงานราว เม.ย.68 ไม่มีผลกระทบกับโครงการนี้ สำหรับรถไฟความเร็วสูงอยู่ด้านตะวันออก จะได้ผู้รับจ้างปลายปี 2568 ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับโครงการชัดเจน โดยจะเป็นทางยกระดับข้ามสถานีรถไฟหนองตะไก้ แล้วมาลงบริเวณปลายโครงการพอดี ตอนยกขึ้นสูงไม่มีปัญหาถนนอยู่ข้างล่างได้ แต่ช่วงทางยกระดับลดต่ำลง จะบีบให้เหลือพื้นที่ถนนน้อยมาก นอกจากนี้ระหว่างการก่อสร้าง ผู้รับจ้างจะต้องใช้พื้นที่ทั้งหมด รวมทั้งถนน Local Road 1 กม.ที่สร้างไว้แล้ว ก็จะได้รับผลกระทบด้วย


ทั้งนี้ที่ประชุมได้เสนอแนวทางทำงาน ตามรูปแบบของพื้นที่ศาลเจ้าปู่-ย่า และตามรูปแบบของทางพาดรถไฟ สถานที่จัดงานมหกรรมพืชสวนโลกอุดรธานี ที่จะนำเอาแบบแปลนมาพิจารณา ว่าจุดก่อสร้างตอม่ออยู่ตรงไหน แล้วจะสามารถสร้างถนนลอดได้จุดไหนบ้าง โครงการที่ประชุมในวันนี้ก็น่าจะใช้รูปแบบนั้นได้ แต่ที่ประชุมไม่สามารถนำแบบแปลนละเอียดมานำเสนอได้



นายณัฐพงศ์ คำวงศ์ปิน รองผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี กล่าวสรุปว่า
1.ให้สำนักงาน จ.อุดรธานี แจ้งการขับเคลื่อนโครงการถนน Local Road ช่วงสถานีรถไฟหนองตะไก้-ทางหลวง 216 (ถนนวงแหวน) ไปยังผู้รับผิดชอบว่าทำอะไรไปบ้าง เราจะได้ขับเคลื่อนต่อไปในส่วนนั้น ,
2. ให้สำนักงานจังหวัดฯ ทำเรื่องขอแบบแปลนทางรถไฟความเร็วสูงจาก รฟท. เหมือนที่เคยขอกรณีหนองแด เพื่อเราจะได้มาวางแผนเบื้องต้น ,
3.ให้ที่ประชุม กรอ.อุดรธานี ยืนยันเสนอโครงการถนน Local Road ,
4.เมื่อได้ผู้รับจ้างรถไฟความเร็วสูง ให้นัดหมายมาพูดคุยกันเพื่อหาทาง ,
5.ให้ ทต.หนองขอนกว้าง ประมาณการออกแบบถนน 484 เมตร ให้พร้อมในการบรรจุแผนจัดงบประมาณ
https://udontoday.co/070268/

[Mongwin]

พร้อมเปิดกลางปี 68 รถไฟทางคู่ “ลพบุรี - ปากน้ำโพ” กรมรางเช็กความพร้อม ขนส่งจัดรถโดยสารเชื่อมสถานีลพบุรี
Source - ผู้จัดการออนไลน์
Wednesday, February 12, 2025 11:07

กรมรางเช็กความพร้อม รถไฟทางคู่ ช่วงลพบุรี - ปากน้ำโพ เตรียมทดสอบเดินรถ พ.ค.68 ก่อนเปิดวิ่งทางคู่ช่วงกลางปีนี้ แบ่งใช้งานสถานีลพบุรีใหม่รับรถทางไกล สถานีเดิมรับรถท้องถิ่น ด้านขนส่งฯลพบุรี จัดรถโดยสาร 2 เส้นทางเชื่อมต่อ

เมื่อวันที่ 10 - 11 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา กรมการขนส่งทางราง (ขร.) ได้ลงพื้นที่ติดตามงานก่อสร้างและตรวจความพร้อมการเปิดให้บริการรถไฟทางคู่ ช่วงลพบุรี - ปากน้ำโพ ระยะทาง 148 กิโลเมตร ที่สถานีลพบุรี 2 สถานีจันเสน สถานีนครสวรรค์ อาคารควบคุมการเดินรถ (CTC) และสถานีปากน้ำโพ โดยมีผู้แทนจากฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง ฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง ฝ่ายการอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม ฝ่ายปฏิบัติการเดินรถ ฝ่ายบริการโดยสาร และฝ่ายบริการสินค้า ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) พร้อมด้วยบริษัทที่ปรึกษาควบคุมงานและบริษัทผู้รับจ้าง รวมถึง ขนส่งจังหวัดลพบุรีร่วมลงพื้นที่ ละหารือเพื่อเตรียมความพร้อมจัดระบบขนส่งสาธารณะ (Feeder) เชื่อมต่อระหว่างสถานีลพบุรีเดิมและสถานีลพบุรี 2 ด้วย

โดยปัจจุบันก่อสร้างโครงสร้างอาคารสถานี ชานชาลา และวางรางเรียบร้อยแล้ว การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กำหนดว่า ภายในเดือนพฤษภาคม 2568 จะทดสอบเดินรถทางคู่ โดยใช้ระบบทางสะดวกอิเล็กทรอนิกส์ (E-Token) ร่วมกับระบบอาณัติสัญญาณไฟสี สำหรับช่วงที่ยังติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณฯ ยังไม่แล้วเสร็จ


สำหรับโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงลพบุรี - ปากน้ำโพ แบ่งเป็น 3 สัญญา ได้แก่

สัญญาที่ 1 ช่วงบ้านกลับ - โคกกระเทียม 32 กิโลเมตร (ทางรถไฟยกระดับ 19 กิโลเมตร และระดับพื้น 13 กิโลเมตร) มีการก่อสร้างสถานีใหม่ 1 แห่ง คือ สถานีลพบุรี 2 ซึ่งเป็นโครงสร้างทางรถไฟยกระดับที่ยาวที่สุดในประเทศไทย บนทางหลวงหมายเลข 366 เพื่อเบี่ยงแนวเส้นทางเดิมบริเวณพื้นที่ที่ผ่านเข้าตัวเมืองลพบุรี เนื่องจากข้อจำกัดด้านพื้นที่แหล่งประวัติศาสตร์และโบราณคดี

สัญญาที่ 2 ช่วงท่าแค - ปากน้ำโพ 116 กิโลเมตร เป็นโครงสร้างระดับพื้นทั้งหมด โดยก่อสร้างสถานีใหม่ 6 สถานี และก่อสร้างทดแทนสถานีเดิม 11 สถานี

สัญญาที่ 3 งานระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม อยู่ระหว่างติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณฯ มีความคืบหน้า 54.88%


@แบ่งการใช้งานสถานีลพบุรีใหม่รับรถทางไกล สถานีเดิมรับรถท้องถิ่น

สำหรับสถานีลพบุรี 2 เป็นสถานียกระดับ แบ่งเป็น 3 ชั้น คือ ชั้นระดับดิน ชั้นจำหน่ายตั๋วโดยสาร และชั้นชานชาลา รองรับรถไฟทางไกล ได้แก่ รถด่วนพิเศษ รถด่วน รถเร็ว และรถสินค้า

ส่วนสถานีลพบุรีเดิมยังคงเปิดให้บริการสำหรับขบวนรถธรรมดา รถชานเมือง และรถท้องถิ่น เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนจังหวัดลพบุรี


ซึ่งเมื่อเปิดให้บริการสถานีลพบุรี 2 แล้ว สำนักงานขนส่งจังหวัดลพบุรีมีแผนนำร่องจัดรถโดยสารสาธารณะอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนใน 2 เส้นทาง ได้แก่

รถโดยสารประจำทางหมวด 4 สายที่ 6168

ช่วงลพบุรี - บ้านข่อย และรถโดยสารประจำทางหมวด 4 สายที่ 6167 ช่วงลพบุรี - บ้านเบิก

ทั้งนี้ จะจัดให้มีจุดพักคอยผู้โดยสารพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกให้เพียงพอ เช่น ที่นั่ง ไฟส่องสว่าง เป็นต้น

สถานีจันเสนเป็นสถานีสร้างใหม่ มีพื้นที่บริเวณสถานีเป็นลานขนถ่ายตู้สินค้า รองรับขบวนรถสินค้า จำนวน 16 แคร่ ซึ่งมีต้นทางจากสถานีมาบตาพุดมาสถานีจันเสน

สถานีนครสวรรค์เป็นสถานีสร้างใหม่ขนาดใหญ่ มีการปรับปรุงตัวอาคารสถานีเดิมเป็นสำนักงานของฝ่ายปฏิบัติการเดินรถและมีอาคารควบคุมการเดินรถ (CTC) สำหรับควบคุมการเดินรถจากลพบุรีถึงพิจิตร ซึ่งปัจจุบันก่อสร้างโครงสร้างอาคารแล้วเสร็จ โดยในอนาคตมีแผนจะใช้สำหรับควบคุมการเดินรถจากนครสวรรค์ถึงแม่สอดและนครสวรรค์ถึงบ้านไผ่ด้วย

และสถานีปากน้ำโพเป็นจุดสิ้นสุดของรถไฟทางคู่ช่วงนี้ มีการก่อสร้างสถานีใหม่ทดแทนสถานีเดิม เป็นสถานีอนุรักษ์ (Renovate Station) ซึ่งมีการปรับปรุงอาคารสถานีใหม่แต่ยังคงรูปแบบสถานีเดิมไว้

ทั้งนี้ กรมรางจะกำกับติดตามให้โครงการรถไฟทางคู่ ช่วงลพบุรี - ปากน้ำโพ สามารถเปิดให้บริการเดินรถทางคู่ได้ภายในกลางปี 2568 เพื่อลดระยะเวลาเดินทาง เพิ่มความปลอดภัยให้แก่ประชาชนโดยการลดความเสี่ยงจากการเกิดอุบัติเหตุบริเวณจุดตัดทางเสมอระดับรถไฟและรถยนต์ อีกทั้งยังเป็นการเชื่อมต่อระบบการขนส่งเส้นทางท่องเที่ยวสู่ภาคเหนือต่อไป


Double-track railway "Lopburi - Pak Nam Pho" to open in mid-2025

The Department of Rail Transport has been inspecting the readiness of the double-track railway project between Lopburi and Pak Nam Pho. The project is scheduled to begin testing in May 2025 before opening for service in the middle of the year.

The project includes the construction of a new Lopburi 2 station, which will be used for long-distance trains. The original Lopburi station will continue to be used for local trains. The Lopburi Transport Department will also organize two bus routes to connect the two stations.

The double-track railway project between Lopburi and Pak Nam Pho is divided into three contracts:

* Contract 1: Ban Kab - Khok Krathiam section (32 kilometers). This contract includes the construction of the new Lopburi 2 station, which is the longest elevated railway structure in Thailand.
* Contract 2: Tha Khae - Pak Nam Pho section (116 kilometers). This contract includes the construction of six new stations and the replacement of 11 existing stations.
* Contract 3: Signal and telecommunications systems. This contract is currently under construction and is 54.88% complete.

The Department of Rail Transport will continue to monitor the project to ensure that it can be opened for service in mid-2025 as planned. The double-track railway will help to reduce travel time, improve safety, and connect the transportation system to tourist routes in the North.

Here are some additional details about the project:

* The new Lopburi 2 station is an elevated station with three floors: a ground floor, a ticket sales floor, and a platform floor.
* The original Lopburi station will continue to be used for ordinary trains, suburban trains, and local trains.
* The Chan Sen station is a new station with a cargo container transfer area.
* The Nakhon Sawan station is a new large station with a train control building (CTC).
* The Pak Nam Pho station is a new station that replaces the old station. It is a renovated station that retains the original station's design.

The double-track railway project between Lopburi and Pak Nam Pho is an important infrastructure project that will benefit the people of Thailand. It will help to improve transportation, reduce travel time, and boost the economy.

[Mongwin]

สะพานยกระดับมวกเหล็ก ลุ้นเปิดใช้ปลายปี68
สุรเสียง พลับพลาสวรรค์
Feb 12, 2025


https://www.youtube.com/watch?v=VHeV3Or2niU

[Mongwin]

พ.ค.เดินรถไฟทางคู่สายเหนือจัดรถเชื่อมต่อสถานีลพบุรี2
Source - เดลินิวส์
Thursday, February 13, 2025 04:55

"ทีมข่าวนวัตกรรมขนส่งเดลินิวส์" รายงานว่า กรมการขนส่งทางราง (ขร.) ลงพื้นที่ติดตามงานก่อสร้างและตรวจความพร้อมการเปิดบริการรถไฟทางคู่ช่วงลพบุรีปากน้ำโพ ระยะทาง 148 กม. โดยมีข้อสรุปว่าภายในเดือนพ.ค. 2568 การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กำหนดทดสอบเดินรถทางคู่ โดยใช้ระบบทางสะดวกอิเล็กทรอนิกส์ (E-Token) ร่วมกับระบบอาณัติสัญญาณไฟสีสำหรับช่วงที่ยังติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณฯ ยังไม่แล้วเสร็จ (เลื่อนจากแผนเดิมในเดือน ก.พ. 2568) ขร.จะกำกับติดตามให้เปิดบริการเดินรถทางคู่ได้ภายในกลางปี 2568 เพื่อลดระยะเวลาเดินทางเพิ่มความปลอดภัยแก่ประชาชน โดยลดความเสี่ยงจากการเกิดอุบัติเหตุบริเวณจุดตัดทางเสมอระดับรถไฟและรถยนต์ อีกทั้งยังเชื่อมต่อระบบการขนส่งเส้นทางท่องเที่ยวสู่ภาคเหนือ

สำหรับสถานีลพบุรี 2 ที่ห่างสถานีลพบุรีเดิมประมาณ 9 กม. เป็นสถานียกระดับ ใช้รองรับรถไฟทางไกล ได้แก่ รถด่วนพิเศษ รถด่วน รถเร็ว และรถสินค้า ส่วนสถานีลพบุรีเดิมยังเปิดบริการสำหรับขบวนรถธรรมดา รถชานเมือง และรถท้องถิ่น เพื่ออำนวยความสะดวกชาวลพบุรี ทั้งนี้สำนักงานขนส่งจังหวัดลพบุรีมีแผนนำร่องจัดรถโดยสารสาธารณะอำนวยความสะดวกประชาชนเชื่อมต่อ 2 เส้นทาง 1.รถโดยสารประจำทางหมวด 4 สาย 6168 ช่วงลพบุรี-บ้านข่อย และ 2.รถโดยสารประจำทางหมวด 4 สาย 6167 ช่วงลพบุรี-บ้านเบิก โดยจัดจุดพักคอยผู้โดยสารพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกให้เพียงพอ เช่น ที่นั่ง ไฟส่องสว่าง เป็นต้น.

ที่มา: นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 14 ก.พ. 2568 (กรอบบ่าย)

This is a news article about the progress of the double-track railway project in Thailand. Here's a summary of the key points:
• Double-track railway project: The State Railway of Thailand (SRT) is working on a double-track railway project in the northern region of the country. This project will allow trains to run in both directions simultaneously, which will increase the number of trains that can run and reduce travel times.
• New Lopburi 2 station: As part of the project, a new elevated station called Lopburi 2 is being built. This station will be used for long-distance trains, while the existing Lopburi station will be used for local trains.
• E-Token system: The SRT will be using an electronic token (E-Token) system to manage train traffic on the new double-track line. This system will help to improve safety and efficiency.
• Bus connections: The Lopburi Provincial Transport Office is planning to provide public bus services to connect passengers to the new Lopburi 2 station.
Overall, the double-track railway project is expected to improve transportation in the northern region of Thailand. It will make it easier and faster for people to travel by train, and it will also help to reduce traffic congestion.
Here are some additional details about the project:
• Location: The double-track railway line is being built between Lopburi and Pak Nam Pho, which are both located in the northern region of Thailand.
• Distance: The total distance of the line is 148 kilometers.
• Completion date: The project is expected to be completed in the middle of 2025.
• Benefits: The project is expected to bring a number of benefits to the region, including reduced travel times, increased safety, and improved connectivity.