Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน)
View previous topic :: View next topic
Author
Message
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 44271
Location: NECTEC
Posted: 21/02/2025 9:43 am Post subject:
20 กุมภาพันธ์ 2568
ความคืบหน้าสถานีรถไฟความเร็วสูงสระบุรี
บริเวณทางเลี่ยงเมืองสระบุรี มี 4 ชั้น เป็นส่วนหนึ่งโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพมหานคร -นครราชสีมา สัญญา 4-7 ช่วงสระบุรี-แก่งคอย และรองรับการเชื่อมต่อรถไฟทางไกลที่ชั้นล่าง
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=477493885435106&id=100095234953794&locale=th_TH
ภาพแสดงโครสร้างอาคารสถานีรถไฟความเร็วสูง สระบุรี บริเวณด้านหน้าอาคาร
มีทั้งหมด 4 ชั้น ประกอบด้วย
ชั้นที่ 1 ทางเข้าสถานีรถไฟความเร็วสูง และชานชาลารถไฟทางไกล
ชั้นที่ 2 ชั้นจำหน่ายตัว และเปลี่ยนถ่าย ผู้โดยสาร
ชั้นที่ 3 พื้นที่พักคอย ผู้โดยสารรถไฟ ความเร็วสูง
ชั้นที่ 4 ชานชาลารถไฟความเร็วสูง
https://www.facebook.com/groups/164027930945387/posts/1529385787742921/?locale=th_TH
Mongwin wrote: งานช้างอีกแล้ว
งานก่อสร้างสถานีรถไฟความเร็วสูงสระบุรีและสถานีรถไฟสระบุรีแห่งใหม่สุดยิ่งใหญ่อลังการ
นิกเกิ้ล พาทัวร์ (Train Thailand)
Feb 15, 2025
https://www.youtube.com/watch?v=WcANJbO4hBE
การก่อสร้างสถานีรถไฟความเร็วสูงสระบุรีและสถานีรถไฟห่างไกลสระบุรีแห่งใหม่
เป็นทางรถไฟยกระดับระยะทาง 12.99 กิโลเมตร ยกข้ามเมืองสระบุรีนี้ก็็เพื่อลดปัญหาการจราจรในเมืองสระบุรี
และการระบายน้ำ ในอนาคตที่สถานีรถไฟสระบุรีแห่งใหม่นี้ จะเป็นศูนย์กลางเชื่อมต่อการเดินทางได้เป็นอย่างดี 
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 47849
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 21/02/2025 11:49 am Post subject:
สปีดเทรน-อู่ตะเภาคืบ
Source - เดลินิวส์
Friday, February 21, 2025 08:05
นายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรืออีอีซี เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการเมืองการบินที่อู่ตะเภา ว่า ภายในกลางปี 68 นี้ การก่อสร้างโครงสร้างสนามบินอู่ตะเภา ในส่วนของรันเวย์ที่ 2 และการก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมืองสุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) หรือไฮสปีดเทรน จะสามารถเริ่มดำเนินการได้เป็นรูปธรรม โดยจะสามารถออกหนังสือแจ้งให้เริ่มงานหรือเอ็นทีพี ได้ในเดือนเม.ย.นี้ โดยโครงการสนามบินอู่ตะเภาสามารถดำเนินการได้ โดยไม่ต้องรอ โครงการไฮสปีดเทรน แต่อย่างใด
ขณะเดียวกันในเรื่องของการลงทุนในอีอีซี นั้น ยังเชื่อว่าไทยจะได้อานิสงส์อย่างมากจากการย้ายฐานการผลิตของจีน ซึ่งไทยจำเป็นที่ต้องมีเครื่องมือสำคัญในการดึงการลงทุนเข้ามาและรักษานักลงทุนรายเก่าเอาไว้ ไม่ให้หนีไทยไปลงทุนที่อื่น ซึ่งยอมรับว่าขณะนี้สิงคโปร์และเวียดนามถือเป็นคู่แข่งที่น่ากลัว ดังนั้นไทยจึงต้องมีแต้มต่อเครื่องมือสำคัญ ทั้งพื้นที่เป้าหมายที่ชัดเจน แรงงานที่พร้อมในอุตสาหกรรมไฮเทค เช่น วิศวกรไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ และแรงงานด้านบริการ ระบบการขนส่งซึ่งรวมไปถึงโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภค นอกจากนี้ ไทยจะต้องปรับกฎระเบียบ ขั้นตอนการขอใบอนุญาตต่าง ๆ ให้ง่ายขึ้น หรือการใช้ Ease of
อย่างไรก็ตามยังเน้นไปที่อุตสาหกรรมเป้าหมาย ทั้ง 12 อุตสาหกรรม คาดได้เห็นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ เซมิคอนดักเตอร์ ดาต้าเซ็นเตอร์ ยานยนต์ การแพทย์ เป็นต้น.
ที่มา: นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 22 ก.พ. 2568 (กรอบบ่าย)
High-Speed Train U-Tapao Progressing
Source: Daily News
Friday, February 21, 2025, 08:05
Mr. Chula Sukmanop, Secretary-General of the Eastern Economic Corridor (EEC) Policy Committee, provided an update on the progress of the Aviation City project at U-Tapao. He stated that by mid-2025, the construction of U-Tapao Airports infrastructure, including the second runway and the high-speed train project connecting the three airports (Don Mueang, Suvarnabhumi, and U-Tapao), will take concrete steps forward. The Notice to Proceed (NTP) is expected to be issued in April. The U-Tapao Airport project can proceed independently without waiting for the high-speed train project.
Regarding investment in the EEC, Thailand is expected to benefit significantly from the relocation of Chinese manufacturing bases. To attract new investments and retain existing investors, Thailand must develop key competitive advantages. Currently, Singapore and Vietnam are strong competitors, making it essential for Thailand to enhance its strategic position. This includes clearly defined target areas, a skilled workforce in high-tech industries (such as electrical and electronics engineers and service sector workers), and a well-developed transportation system, including infrastructure and utilities. Additionally, regulatory processes, such as permit applications, must be simplified to improve ease of doing business.
The focus remains on 12 target industries, with expected growth in sectors such as electronics, semiconductors, data centers, automotive, and medical industries.
Source: Daily News, February 22, 2025 (Afternoon Edition)
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 47849
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 22/02/2025 11:12 am Post subject:
EECมั่นใจกลางปีขึ้น2โปรเจ็กต์ ลุยรันเวย์2อู่ตะเภา-รถไฟเชื่อม3สนามบิน
Source - ประชาชาติธุรกิจ
Saturday, February 22, 2025 06:15
เลขาฯ EEC ฉายภาพอาเซียนแข่งกัน ดึงต่างชาติเข้าลงทุน ชี้ไทยเจอเวียดนาม อินโดฯ ฟิลิปปินส์บี้หนัก งัดกลยุทธ์จีบรายตัว ให้สิทธิประโยชน์ไม่เท่ากัน โชว์ผลงาน 7 ปีกวาดเงินแล้ว 1.8 ล้านล้าน มั่นใจกลางปีนี้ได้ขึ้นแน่โครงการสร้างรันเวย์ที่ 2 สนามบินอู่ตะเภา และรถไฟเชื่อม 3 สนามบิน
นายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรือ EEC กล่าวภายในงานสัมมนา Matichon Leadership Forum 2025 : Trust Thailand เชื่อมั่นประเทศไทย หัวข้อ "เชื่อมั่น ลงทุนไทย" ว่า แนวโน้มการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในกลุ่มอาเซียน จะเห็นว่าการเติบโตการลงทุนมีมาเรื่อย ๆ โดยเฉพาะหลังโควิดเป็นต้นมา ขณะนี้แต่ละประเทศต่างเร่งมือที่จะนำเครื่องมือต่าง ๆ มาใช้ดึงดูดการลงทุนเพื่อดึงเม็ดเงินเข้าประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาพบว่าในกลุ่มอาเซียนนั้น สิงคโปร์เป็นประเทศที่ใช้กลยุทธ์ดึงดูดการลงทุนได้เก่งและดีที่สุด รองลงมาคือ อินโดนีเซีย และเวียดนามกับฟิลิปปินส์ เป็นคู่แข่งที่น่ากลัวและพยายามจะชนะไทย
เล็งคุยให้สิทธิประโยชน์รายตัว
ดังนั้น ไทยจำเป็นที่ต้องใช้เครื่องมือเข้ามาช่วยเช่นกัน คือ การเจรจากับนักลงทุนเป็นรายบริษัท รายโครงการ และต้องผ่านการตอบคำถาม 13 ข้อหลัก เพื่อที่จะให้รู้ถึงเป้าหมายการลงทุน การใช้ทรัพยากรในประเทศ วัตถุดิบจากแหล่งใด ซัพพลายเชนคือใคร ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ไม่เพียงทำให้แผนการลงทุนมีความชัดเจน แต่ยังทำให้ประเทศไทยสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลเหล่านี้เชื่อมโยงหรือหาพาร์ตเนอร์ ซัพพลายเออร์รายเล็ก เพื่อเข้าไปสู่การเป็นซัพพลายเชนของโครงการนั้น ๆ ได้ด้วย เมื่อเห็นความชัดเจนจะนำมาด้วยการแลกกับเงื่อนไขที่จะได้ตามที่สิทธิประโยชน์ของ EEC กำหนดไว้ ดังนั้น นักลงทุนแต่ละรายแม้ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมเดียวกันแต่ได้สิทธิประโยชน์ไม่เหมือนกัน
"เราดูจากประเทศที่เก่ง ๆ ส่วนใหญ่มีรัฐบาลกลางดูแลการลงทุนทั้งประเทศ และจะเป็นหน่วยเฉพาะไว้เจรจากับนักลงทุนแต่ละรายคล้ายกับ EEC และรัฐบาลประกาศโซนพิเศษ เตรียมปัจจัยเพื่อดึงดูดนักลงทุน ตอนนี้มีนักลงทุนที่คุยและรอสิทธิประโยชน์จากเราเหลือ 11 ราย จาก 12 ราย เงินลงทุน 135,000 ล้านบาท หายไป 1 ราย มูลค่าประมาณ 50,000 ล้านบาท เป็นอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์จากไต้หวัน เขารอไม่ไหวจึงต้องไปขอรับการส่งเสริมจากสำนักงานคณะกรรมการ ส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) แทน"
นอกจากสิทธิประโยชน์ที่ดึงการลงทุนใหม่แล้ว EEC ยังเตรียมแพ็กเกจที่เป็นสิทธิประโยชน์สำหรับนักลงทุนรายเก่าที่ตั้งฐานการผลิตในไทยมานาน 20-30 ปี ซึ่งนักลงทุนกลุ่มนี้จำเป็นต้องลงทุนซ้ำครั้งใหญ่เพื่อให้สอดรับกับสังคมสมัยใหม่ เช่น ความยั่งยืน และ Green ซึ่งแพ็กเกจดังกล่าวจะเป็นการดึงให้รายเก่ายังคงปักหลักลงทุนไทยต่อรีบตัดสินใจลงทุนใหม่ และย้ายฐานการผลิตไปที่อื่น
รถไฟเชื่อม 3 สนามบินเริ่ม เม.ย.
สำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมายปี 2568 จะยังคงมุ่งที่ 12 อุตสาหกรรม (S-Curve) ซึ่งก็อาจจะเห็นมากที่สุดตามเทรนด์ของปี 2567 ที่ผ่านมา คือ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เซมิคอนดักเตอร์ ดาต้าเซ็นเตอร์ ยานยนต์ สมัยใหม่ โดยอุตสาหกรรมเหล่านี้มียอดขอรับการส่งเสริมจากบีโอไอมากที่สุด ในอนาคตจะมีกลุ่มการแพทย์และสุขภาพ โดยเฉพาะการบริการเกี่ยวข้องกับสังคมผู้สูงวัย BCG รีโซเคิล และพลังงานสะอาดจะเข้ามามากขึ้น นอกจากอุตสาหกรรมที่พร้อมจะเห็นการลงทุนแล้ว สำหรับโครงการใหญ่ที่จะเริ่มก่อสร้างใน EEC ช่วงกลางปี 2568 จำนวน 2 โครงการคือ 1.การก่อสร้างโครงการสนามบินอู่ตะเภา ในส่วนของรันเวย์ที่ 2 และ 2.การก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา) หรือไฮสปีดเทรน ซึ่งคาดว่าทั้ง 2 โครงการนี้จะสามารถออกหนังสือแจ้งให้เริ่มงาน (Notice to Proceed : NTP) ในช่วงเดือนเมษายน 2568
โชว์ 7 ปีดึงเม็ดเงิน 1.8 ล้าน ล.
ทั้งนี้ ตลอด 7 ปีที่ผ่านมา (2561-2568) EEC สามารถดึงเงินลงทุนเข้ามาในพื้นที่ได้สูงถึง 1,823,805 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 50% ของการลงทุนทั้งประเทศ โดยจีนขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ตามด้วยญี่ปุ่น สิงคโปร์ ฮ่องกง สหรัฐ
"สิ่งที่เราต้องเตรียมตอนนี้คือ สิทธิประโยชน์ คนที่ใช้ในอุตสาหกรรมขั้นสูง โดยเฉพาะวิศวกรไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ คนที่ใช้สกิลมาบังคับหุ่นยนต์ คนด้านบริการ เตรียมพื้นที่ที่เป็นเขตส่งเสริม เขตเศรษฐกิจพิเศษที่ไม่จำเป็นต้องเป็นนิคมอุตสาหกรรม เช่น การแปลงสนามกอล์ฟทำเวลเนส เตรียมเรื่องน้ำและพลังงานสะอาด ช่วง 1-2 ปีนี้ เราจำเป็นต้องใช้กลยุทธ์หนักเพื่อดึงเม็ดเงินเข้าประเทศ เพราะหมดรอบ 1-2 ปีนี้ แล้ว การลงทุนเราจะหายไป 20 ปี เพราะในแง่ของการลงทุนเมื่อใครตัดสินใจลงทุนในที่ใดที่หนึ่งแล้วจะอยู่ยาว หากรอบนี้เราไม่เร่งดึงเขาเข้ามา เราก็จะไม่ทัน"
บรรยายใต้ภาพ
รอลุ้น เม.ย.นี้ - โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน มูลค่า 224,000 ล้านบาท ซึ่ง บริษัท เอเซีย เอรา วัน จำกัด เป็นผู้ชนะประมูล
ที่มา: นสพ.ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 24 - 26 ก.พ. 2568
Back to top
You cannot post new topics in this forum You cannot reply to topics in this forum You cannot edit your posts in this forum You cannot delete your posts in this forum You cannot vote in polls in this forum
Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group