RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:312258
ทั่วไป:13876512
ทั้งหมด:14188770
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน)
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าวรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน)
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 590, 591, 592 ... 594, 595, 596  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44573
Location: NECTEC

PostPosted: 06/03/2025 9:24 am    Post subject: Reply with quote

เดินหน้า "อู่ตะเภา" ไม่รอไฮสปีดเทรน เล็งลดไซส์เทอร์มินอลเหลือครึ่งเดียว
ฐานเศรษฐกิจ
วันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 เวลา 06:02 น.

เล็งลดไซส์ “สนามบินอู่ตะเภา” รับการขับเคลื่อนโครงการอู่ตะเภา-เมืองการบิน 6,500 ไร่ พื้นที่ EEC “คีรี” ยืนยันเดินหน้าโครงการต่อไม่รอไฮสปีดเทรน หลังล่าช้าชี้กระทบโครงการหนัก เล็งปรับอาคารผู้โดยสารเหลือครึ่งเดียว
นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จํากัด (UTA) เปิดเผยว่า บริษัท จะเดินหน้าโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก บนพื้นที่ 6,500 ไร่ภายในพื้นที่ของ EEC มูลค่าการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานรวมกว่า 290,000 ล้านบาท โดยไม่รอโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ซึ่งมีความล่าช้าและยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเริ่มงานก่อสร้างได้เมื่อใด

ปัจจุบันโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาฯ ได้ลงนามในสัญญาไปแล้ว และกำลังจะครบ 5 ปี ในวันที่ 18 มิถุนายน 2568 แต่ยังไม่สามารถผลักดันโครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานหลักออกมาได้ โดยที่ผ่านมาโครงการรถไฟความเร็วสูงฯ ได้มีการแก้ไขสัญญา ทำให้โครงการไม่สามารถเริ่มต้นการก่อสร้างได้ และส่งผลกระทบต่อโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาฯ ออก NTP ไม่ได้

นายคีรี กล่าวว่า บริษัทรอการดำเนินการต่าง ๆ มาเป็นเวลาเกือบ 5 ปีแล้ว และคงไม่สามารถรอต่อไปได้

“ถ้าเรารอไม่ได้ ก็มีวิธีการอยู่ คือ การต่อสู้ทางคดี หรือวิธีพยายามหารือและร่วมมือให้ EEC เริ่มต้นได้ ซึ่งเราเลือกวิธีไปเริ่มต้นแทน เพราะคงไม่มีประโยชน์ที่จะไปฟ้องร้องกัน และไม่เป็นประโยชน์ต่อสังคม เศรษฐกิจ”


สำหรับขั้นตอนต่อจากนี้ บริษัทยืนยันความพร้อมที่จะเดินหน้าโครงการต่อ โดยเตรียมหารือกับสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ สกพอ. เพื่อตกลงรายละเอียดของโครงการ และเตรียมปรับลดขนาดของโครงการลงทุนจากเดิมเหลือประมาณ 40-50% ก่อน โดยเฉพาะงานก่อสร้างอาคารผู้โดยสาร จากเดิมรองรับผู้โดยสารประมาณ 12 ล้านคนต่อปี อาจปรับเหลือเพียง 5 ล้านคนต่อปี

ขณะที่เมืองการบินภาคตะวันออก ซึ่งเดิมประเมินมูลค่าการลงทุนสูงสุดกว่า 600,000 ล้านบาท ภายใต้พื้นที่ 1,200 ไร่ ปัจจุบันยังไม่สามารถระบุได้ว่า จะปรับขนาดลงลงเหลือเท่าใด เพราะรอความชัดเจนเกี่ยวกับนโยบายของรัฐก่อน

“บริษัทพร้อมเดินหน้าต่อกับโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก เมื่อได้สิทธิที่เราควรจะได้ ซึ่งเรายินดีและพร้อมเดินหน้าโครงการทันที โดยขอให้อีอีซี แจ้งความชัดเจนให้บริษัทเร็วที่สุด” นายคีรี ระบุ


นายวีรวัฒน์ ปัณฑวังกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จำกัด (UTA) กล่าวว่า ในการปรับลดขนาดของโครงการลงทุนลงนั้น ไม่จำเป็นต้องแก้ไขสัญญา เพราะในสัญญาได้เปิดโอกาสให้คู่สัญญาหารือกันได้ ซึ่งมีความยืดหยุ่นมากกว่าสัญญาของโครงการรถไฟความเร็วสูงฯ แต่การปรับปรุงรายละเอียดโครงการจะต้องตั้งมีเหตุมีผล โดยไม่ได้ปรับเปลี่ยนเงื่อนไขสำคัญในสัญญา ก็สามารถดำเนินการผ่านการหารือร่วมกันได้

ขณะที่การปรับแบบก่อสร้างนั้น จะมีผลกระทบต่องานก่อสร้างอุโมงค์รถไฟความเร็วสูงที่มีพื้นที่เชื่อมต่อภายใต้อาคารผู้โดยสารหรือไม่นั้น เห็นว่า ภาครัฐจะต้องหาข้อสรุปถึงปัญหาดังกล่าวว่า ถ้าโครงการรถไฟความเร็วสูงยังไม่สามารถดำเนินการได้ หากจะยังต้องการให้เตรียมพื้นที่ไว้รองรับรถไฟความเร็วสูง ก็ต้องแจ้งมาให้ชัดเจนว่าจะมีทางออกอย่างไร เพราะไม่อย่างนั้นจะกระทบกับการลงทุนโดยรวมของโครงการ และรัฐต้องจัดลำดับความสำคัญให้ชัดเจนต่อไปด้วย

ส่วนการจัดสิทธิประโยชน์พิเศษภายใต้โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาฯ นั้น ปัจจุบันภายใต้กฎหมายของ EEC สามารถให้สิทธิประโยชน์กับนักลงทุนได้ ทั้งสิทธิประโยชน์ด้านภาษี และที่ไม่ใช่ภาษี แต่การจะออกมาทั้งหมดก็ต้องมีการออกกฎหมายจากกระทรวงการคลังเข้ามารองรับก่อน ซึ่งเชื่อว่าสามารถดำเนินการได้

“ถ้าไม่มีรถไฟความเร็วสูงก็ต้องกลับมานั่งคิดว่า สิทธิประโยชน์ที่รัฐจะให้มีอะไร และทาง EEC ต้องบอกคอนเซ็ปต์โครงการให้ชัดว่า ต่อไปโครงการนี้จะใช้รองรับคนไทยเดินทางท่องเที่ยว หรือรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ หรือสร้างรถไฟความเร็วสูงจะให้คนกรุงเทพฯเดินทางมาใช่หรือไม่ ทั้งหมดนี้ก็ต้องบอกให้ชัด เพราะการก่อสร้างในแต่ละคอนเซ็ปต์จะลงทุนไม่เหมือนกัน หากเรื่องเหล่านี้ชัดการลงทุนจะได้เริ่มต้นได้ในทันที” นายวีรวัฒน์ กล่าว

Mongwin wrote:
Wisarut wrote:

EEC พร้อมถก UTA ดัน “สนามบินอู่ตะเภา” สร้างครึ่งปีแรก ดึงรฟท.ทำอุโมงค์
ฐานเศรษฐกิจ
เผยแพร่: วันพฤหัสบดี ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 เวลา 14:01 น.
อัปเดตล่าสุด : วันพฤหัสบดี ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 เวลา14:11 น.

เปิดเงื่อนไข UTA เดินหน้าอู่ตะเภา ในวันที่ยังไม่มีรถไฟเชื่อม 3 สนามบิน
ประชาชาติธุรกิจ วันศุกร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 เวลา 09:52 น.
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 48224
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 06/03/2025 10:00 pm    Post subject: Reply with quote

ไฮสปีด ไทย-จีนสะดุด ติดหล่มส่งมอบพื้นที่ ลุ้นเปิดใช้ กทม.-โคราช ปี 71 | THANTALK | 06 มี.ค. 68
ฐานเศรษฐกิจ


https://www.youtube.com/watch?v=Tc7WjiQZQks

บอร์ด รฟท. เคาะขยายเวลา 350 วัน สร้าง "ไฮสปีดไทย-จีน" หลังพบสัญญา 3-5 ติดหล่มส่งมอบพื้นที่ดีเลย์ เร่งรื้ออาคาร 60 ห้อง จับตาความคืบหน้าแต่ละสัญญา ปี 71 กทม.-โคราช ได้ใช้แน่ ?
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44573
Location: NECTEC

PostPosted: 07/03/2025 1:39 pm    Post subject: Reply with quote

โครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงไทยจีน
สัญญา3-2 ช่วงมวกเหล็ก-ลำตะคอง🇹🇭🇨🇳🚅
update ความคืบหน้า หน้างานLG-01
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=632211542891824&id=100083089519589
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44573
Location: NECTEC

PostPosted: 07/03/2025 2:02 pm    Post subject: Reply with quote

คืบหน้าต่อเนื่องกับการก่อสร้าง "สถานีรถไฟความเร็วสูงปากช่อง จ.นครราชสีมา" (อยู่ติดตัวเมืองบริเวณ บ.ท่ามะนาว ต.หนองสาหร่าย) โดยมี 4 ชั้น คือ ชั้น 1 ที่จอดรถและชานชาลารถไฟทางไกล ชั้น 2 พื้นที่พาณิชย์ ชั้น 3 จำหนายตั๋วและโถงคอย และชั้น 4 ชานชาลารถไฟความเร็วสูง ซึ่งการก่อสร้างอยู่ในสัญญา 3-3 รถไฟความเร็วสูง ไทย - จีน เฟส 1 (ช่วงบันไดม้า-ลำตะคอง) ขณะนี้คืบหน้าโดยรวมแล้วกว่า 58% และคาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2571 (ขอขอบคุณภาพจาก AECOM และคุณ I-Tim Ka-Ti)
https://www.facebook.com/ThailandUpdateFanPage/posts/617525607823127
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 48224
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 07/03/2025 8:36 pm    Post subject: Reply with quote

วีดิทัศน์ความก้าวหน้างาน ประจำเดือนมีนาคม 2568
กิจการร่วมค้า ITD-CREC No.10
Mar 7, 2025


https://www.youtube.com/watch?v=S_9RDRuU4lU
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44573
Location: NECTEC

PostPosted: 10/03/2025 12:31 pm    Post subject: Reply with quote

บอร์ด รฟท.นัด 13 มี.ค.เคาะแก้สัญญาไฮสปีด 3 สนามบิน ซี.พี.เร่งเข้าพื้นที่ “อู่ตะเภา-และทับซ้อนไทย-จีน”
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันจันทร์ ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2568 เวลา 06:10 น.
ปรับปรุง: วันจันทร์ ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2568 เวลา 09:12 น.

KEY POINTS
• เร่งส่งเรื่องให้สำนักงานอัยการสูงสุดพิจารณา
• จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เสนอแผนต่อบอร์ดอีอีซี เม.ย. คาดเสนอครม. พ.ค.
• ซี.พี. เตรียมเข้าพื้นที่ก่อสร้าง 2 จุดแรก คือ อู่ตะเภาใต้รันเวย์ และพื้นที่ทับซ้อนกับรถไฟไทย-จีน
• ระยะเวลาก่อสร้างและทดสอบระบบ 5 ปี


บอร์ด รฟท.นัด 13 มี.ค.นี้เคาะแก้สัญญาไฮสปีด 3 สนามบิน เร่งส่งอัยการ “จุฬา” ลุ้นเสนอบอร์ดอีอีซีใน เม.ย.คาดชง ครม.ได้ใน พ.ค. ขณะที่แผน ซี.พี.เร่งเข้าพื้นที่ 2 จุดแรก “อู่ตะเภาใต้รันเวย์” และทับซ้อนรถไฟไทย-จีน ระยะเวลาก่อสร้างทดสอบระบบ 5 ปี

นายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรืออีอีซี เปิดเผยถึงความคืบหน้าการแก้ไขสัญญาโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ว่า ขณะนี้รอขั้นตอนที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จะเสนอร่างสัญญาร่วมทุนฯ ให้คณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท.พิจารณาอนุมัติ ซึ่งล่าสุดทราบว่าจะมีการเสนอบอร์ด รฟท.พิจารณาในเดือน มี.ค. 2568 และหลังจากนั้น รฟท.จะส่งร่างสัญญาให้สำนักงานอัยการสูงสุดตรวจสอบ คาดว่าใช้เวลประมาณ 1 เดือน จากนั้นจะส่งเรื่องกลับมาเสนอบอร์ดอีอีซีีเพื่อเห็นชอบร่างสัญญา คาดหมายว่าจะอยู่ภายในเดือน เม.ย. เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขออนุมัติภายในเดือน พ.ค. 2568 และเร่งลงนามแก้ไขสัญญาร่วมทุนฯ และจะออกหนังสือให้เริ่มงาน (Notice to Proceed: NTP) ต่อไป


@ตั้งคณะทำงาน รฟท.กลั่นกรองร่างสัญญาฯ พร้อมชงบอร์ด 13 มี.ค.นี้

นายอนันต์ โพธิ์นิ่มแดง รองผู้ว่าฯ รฟท. กล่าวว่า รฟท.เตรียมเสนอร่างสัญญาร่วมทุนฯ​ รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินต่อที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท.พิจารณาอนุมัติในวันที่ 13 มี.ค. 2568 หลังจากก่อนหน้านี้มีการพิจารณากลั่นกรองจากคณะทำงานฯ ที่ผู้ว่าฯ รฟท.ตั้งขึ้นแล้ว และเมื่อวันที่ 6 มี.ค. 2568 คณะอนุกรรมการด้านกฎหมายของ รฟท.ได้ประชุมเรียบร้อยแล้ว โดยหลังจากผ่านบอร์ด รฟท.จะเร่งส่งเรื่องไปอัยการฯ เพื่อตรวจสอบตามขั้นตอนต่อไป

@ซี.พี.เร่งเข้าพื้นที่ 2 จุด “ใต้รันเวย์อู่ตะเภา-ทับซ้อนรถไฟไทย-จีน”

รายงานข่าวจาก รฟท.เปิดเผยว่า หากสามารถลงนามแก้ไขสัญญาร่วมทุนฯ​ ได้ในเดือน พ.ค. 2568 รฟท.พร้อมออก NTP ให้ บจ.เอเชีย เอราวัน (ซี.พี.) เริ่มงานได้ภายในเดือน มิ.ย. 2568 โดยที่ผ่านมามีการประสานแผนก่อสร้างกันไว้แล้ว โดย ซี.พี.จะเริ่มเข้าพื้นที่ก่อสร้าง 2 จุดที่เป็นงานเร่งด่วนก่อน คือ บริเวณใต้รันเวย์ที่ 2 สนามบินอู่ตะเภา และบางซื่อ-ดอนเมือง บริเวณที่มีโครงสร้างร่วมกับโครงการรถไฟไทย-จีน (สัญญา 4-1)

สำหรับระยะเวลาก่อสร้างและเปิดเดินรถมีระยะเวลาภายใน 5 ปี ทำให้ทาง ซี.พี.จะใช้วิธีการก่อสร้างแบบ Full Span Launching Gantries เป็นหลัก ซึ่งเป็นเทคนิคการสร้างสะพานหรือทางยกระดับที่เร็วที่สุด โดยมีโรงหล่อเซกเมนต์รวมประมาณ 3 จุด เช่น ที่บริเวณลาดกระบัง ดังนั้นจะมีการก่อสร้างฐานรากตอม่อรถไฟจากโรงหล่อ เพื่อเป็นเส้นทางส่งต่อชิ้นส่วนเซกเมนต์แต่ละช่วงยาวไม่ต่ำกว่า 30 เมตร เพราะขนส่งทางรถยนต์ไม่ได้ ส่วนช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง อาจจะใช้วิธีก่อสร้างทีละช่วงเซกเมนต์ที่สั้นกว่า เพื่อให้สามารถขนส่งเซกเมนต์ทางรถยนต์ได้

ขณะที่ช่วงที่เป็นเส้นทางรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ในปัจจุบันจากพญาไท-สุวรรณภูมินั้น รถไฟความเร็วสูง จะใช้ทางวิ่งร่วมด้วย ซึ่งทาง ซี.พี.อยู่ระหว่างพิจารณาเลือกตู้รถไฟความเร็วสูง (Rolling Stock) โดยหากเลือกชนิดตัวรถกว้างแบบ Wide Body จะต้องมีการตัดชานชาลาของสถานีแอร์พอร์ตลิงก์ออกเพื่อให้ขบวนรถวิ่งผ่านไปได้ เนื่องจากชานชาลาออกแบบสำหรับขบวนรถของแอร์พอร์ตลิงก์ที่เป็นตัวรถแบบแคบ หรือ Narrow Body

โดยตามแผนงานก่อสร้างและทดสอบระบบจะใช้เวลา 5 ปี เปิดบริการในปี 2572-2573
https://mgronline.com/business/detail/9680000022853

บอร์ดรฟท. นัดถกร่างแก้สัญญาไฮสปีด 3 สนามบิน 13 มี.ค. 68 ตอกเข็มมิ.ย.นี้
ฐานเศรษฐกิจ

เผยแพร่: วันจันทร์ ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2568 เวลา 17:23 น.
อัปเดตล่าสุด : วันจันทร์ ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2568 เวลา 17:31 น.

รฟท.-อีอีซี ลุยเดินหน้า ก่อสร้างไฮสปีดเชื่อม 3สนามบิน ดีเดย์ บอร์ดรฟท. นัดถก 13มี.ค.68 พิจารณาวาระร่างแก้สัญญาไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบิน ส่งอัยการฯตรวจภายใน1เดือนก่อนเสนอบอร์ดอีอีซี-ครม.ไฟเขียว เม.ย.-พ.ค.นี้ พร้อมออก NTP มิ.ย. 68 ตอกเสาเข็ม-เปิดให้บริการปี73




โครงการอภิโปรเจ็กต์ รถไฟความเร็วสูง เชื่อม3 สนามบิน (สุวรรณภูมิ-ดอนเมือง-อู่ตะเภา ) 220 กิโลเมตร หรือไฮสปีดเทรน มูลค่า 224,544 ล้านบาท ที่มีการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และบริษัท เอเชียเอราวัน จำกัด (กลุ่มซีพี) เป็นคู่สัญญาผู้รับสัมปทาน 50 ปี หลังมีความล่าช้ามานานล่าสุดได้เห็นสัญญาณความก่าวหน้าในการก่อสร้าง



ที่นายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรืออีอีซี ประเมินว่า การแก้ไขสัญญาโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน (ดอนเมือง - สุวรรณภูมิ - อู่ตะเภา) ปัจจุบันอยุ่ระหว่างรอขั้นตอนรฟท. จะเสนอร่างสัญญาร่วมทุนฯ ให้คณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท.พิจารณาอนุมัติ

ล่าสุด ทราบว่าจะมีการเสนอบอร์ด รฟท.พิจารณาในเดือนมีนาคม2568 หลังจากนั้น รฟท.จะส่งร่างสัญญาให้สำนักงานอัยการสูงสุดตรวจสอบ คาดว่าใช้เวลาประมาณ 1 เดือน จากนั้นจะส่งเรื่องกลับมาเสนอบอร์ดอีอีซี เพื่อเห็นชอบร่างสัญญา คาดว่าจะอยู่ภายในเดือนเมษายน เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขออนุมัติ ภายในเดือนพฤษภาคม2568 พร้อมทั้งเร่งลงนามแก้ไขสัญญาร่วมทุนฯ และออกหนังสือให้เริ่มงาน (Notice to Proceed: NTP) ต่อไป

เบื้องต้น นายอนันต์ โพธิ์นิ่มแดง รองผู้ว่าฯ รฟท. กล่าวว่า รฟท.เตรียมเสนอร่างสัญญาร่วมทุนฯรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ต่อที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท. พิจารณาอนุมัติในวันที่ 13 มีนาคม 2568 หลังจากก่อนหน้านี้ มีการพิจารณากลั่นกรองจาก คณะทำงานฯที่ผู้ว่าฯรฟท.ตั้งขึ้น แล้ว และเมื่อวันที่ 6 มีนาคม 3568 คณะอนุกรรมการด้านกฎหมายของรฟท.ได้ประชุมเรียบร้อยแล้ว โดยหลังจากผ่านบอร์ดรฟท. จะเร่งส่งเรื่องไปอัยการฯเพื่อตรวจสอบตามขั้นตอนต่อไป

ขณะรายงานข่าวจากรฟท. ระบุว่า หากลงนามแก้ไขสัญญาร่วมทุนฯได้ในเดือนพฤษภาคม 2568 รฟท.พร้อมออก NTP ให้ บจ.เอเชีย เอราวัน เริ่มงานได้ภายในเดือนมิถุนายน 2568 ทั้งนี้ที่ผ่านมามีการประสานแผนก่อสร้างกันไว้แล้ว โดยเอกชนจะเริ่มเข้าพื้นที่ก่อสร้าง 2 จุด ที่เป็นงานเร่งด่วนก่อน คือ บริเวณใต้รันเวย์ ที่ 2 สนามบินอู่ตะเภา และบางซื่อ-ดอนเมือง บริเวณที่มี โครงสร้างร่วมกับโครงการรถไฟไทย-จีน(สัญญา 4-1 )

สำหรับระยะเวลาก่อสร้างและเปิดเดินรถมีระยะเวลาภายใน 5 ปี ทำให้ ทางเอกชนจะใช้วิธีการก่อสร้างแบบ Full Span Launching Gantries เป็นหลัก ซึ่งเป็นเทคนิคการสร้างสะพานหรือทางยกระดับที่เร็วที่สุด โดยมี โรงหล่อเซกเมนต์รวมประมาณ 3 จุด เช่น ที่บริเวณลาดกระบัง ดังนั้นจะมีการก่อสร้างฐานรากตอม่อรถไฟจากโรงหล่อ เพื่อเป็นเส้นทางส่งต่อชิ้นส่วนเซกเมนต์แต่ละช่วงยาวไม่ต่ำกว่า 30 เมตร เพราะขนส่งทางรถยนต์ไม่ได้ ส่วนช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง อาจจะใช้วิธีก่อสร้างทีละช่วงเซกเมนต์ที่สั้นกว่า เพื่อให้สามารถขนส่งเซ็กเมนต์ทางรถยนต์ได้

ขณะที่ช่วงที่เป็นเส้นทางรถไฟฟ้า แอร์พอร์ตเรลลิงก์ ในปัจจุบัน จากพญาไท-สุวรรณภูมิ นั้น รถไฟความเร็วสูง จะใช้ทางวิ่งร่วมด้วย ซึ่ง ทางเอกชนอยู่ระหว่างพิจารณาเลือกตู้รถไฟความเร็วสูง (Rolling Stock) โดยหากเลือกชนิดตัวรถกว้างแบบ Wide Body จะต้องมีการตัดชานชลาของสถานีแอร์พอร์ตลิงก์ออก เพื่อให้ขบวนรถวิ่งผ่านไปได้ เนื่องจากชานชลาออกแบบสำหรับขบวนรถของแอร์พอร์ตลงก์ ที่เป็นตัวรถแบบแคบ หรือ Narrow Bodyโดยตามแผนงานก่อสร้างและทดสอบระบบจะใช้เวลา 5 ปี กำหนดเปิดบริการในปี 2573

ที่มา :สำนักข่าวอิศรา


Last edited by Wisarut on 10/03/2025 10:26 pm; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44573
Location: NECTEC

PostPosted: 10/03/2025 3:35 pm    Post subject: Reply with quote

‘โรม’ โต้ ‘วันนอร์’ งัดเอกสารญัตติสภาขอตั้ง กมธ.ศึกษารถไฟเชื่อม 3 สนามบิน ระบุชื่อ “เจริญโภคภัณฑ์” ชัด บอก “วันนอร์” เป็นคนเสนอเอง! ไม่รู้ว่า “ลืม” หรือ “ตั้งใจโกหก” ย้ำ สภาเคยเอ่ยชื่อคนภายนอกมาแล้วหลายครั้ง เหน็บ แค่จำการกระทำของตัวเองในปี 62 ให้ได้ก่อน ยันหลักการ “ฝ่ายค้าน” ใส่ชื่อ “ทักษิณ” ได้
วันที่ 10 มี.ค.68 นายรังสิมันต์ โรม สส.พรรคประชาชน โพสต์
เพิ่งได้ฟังอาจารย์วันนอร์ ประธานสภาให้สัมภาษณ์รายการของคุณสรยุทธว่า "ผมอยู่ในสภามา 44 ปี ยังไม่เห็นมีญัตติไหนมีชื่อคนนอกแล้วอยู่ได้"
การพูดแบบนี้ไม่แน่ใจว่า อาจารย์วันนอร์ "ลืม" หรือ ตั้งใจ "โกหก" เพราะในความเป็นจริง สภาเรามีการเอ่ยถึงบุคคลภายนอกมาแล้วหลายครั้ง ก่อนหน้านี้คุณพริษฐ์ก็เคยเอาญัตติหนึ่งที่เกี่ยวกับนักกิจกรรมทางการเมืองมาแสดงให้ประชาชนได้เห็นว่า ญัตติที่เอ่ยถึงบุคคลภายนอกมันก็มีจริงๆ
ครั้งนี้ ผมขอเอาญัตติของอาจารย์วันนอร์เองนี่แหละ ที่เสนอตั้งกรรมาธิการศึกษาเรื่องรถไฟสามสนามบิน ซึ่งมีการพาดพิงบุคคลภายนอกชัดเจน โดยกรณีนี้คือ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์ โฮลดิ้ง จำกัด โดยรายละเอียดของญัตติก็มีการพูดถึงผลกระทบต่างๆ จำนวนมากอีกด้วย
ทั้งนี้ญัตตินี้ก็ได้รับการบรรจุโดยท่านประธานสภาในเวลานั้นคือ ท่านชวน หลีกภัย ถ้าใช้มาตรฐานเดียวกัน ญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคฝ่ายค้านในวันนี้ ที่ใส่ชื่อคุณทักษิณในฐานะการให้ข้อเท็จจริง ว่าคุณทักษิณอยู่เบื้องหลังคุณอุ๊งอิ๊ง ย่อมสามารถทำได้อยู่แล้ว
อาจารย์วันนอร์ไม่ต้องอ้างว่าตลอด 44 ปี ไม่เคยเห็นญัตติที่มีชื่อบุคคลภายนอก เอาแค่จำการกระทำของตัวเองในปี 62 ให้ได้ก่อน ผมไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับอาจารย์วันนอร์ทำไมถึงให้สัมภาษณ์รายการของคุณสรยุทธ์แบบนั้น
แต่ผมขอยืนยันตรงนี้ว่า การใส่ชื่อคุณทักษิณในญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน สามารถทำได้ ไม่มีกฎหมายห้าม การอ้างเรื่องบกพร่องไม่ได้ให้อำนาจประธานมาดูว่าควรมีชื่อบุคคลภายนอกได้หรือไม่
https://www.facebook.com/sorrayuth9115/posts/1265269388293331
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 48224
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 12/03/2025 5:58 pm    Post subject: Reply with quote

รฟท.ปรับแบบสถานีอยุธยาไฮสปีด”ไทย-จีน”เปลี่ยนหลังคาหน้าจั่วเป็นแบบเรียบ ลุ้นมรดกโลกไฟเขียวเซ็นสัญญา4-5 เม.ย.นี้
ผู้จัดการออนไลน์ 12 มี.ค. 2568 17:06

รฟท.เคลียร์ปมสถานีอยุธยา”รถไฟไทย-จีน”ปรับแบบหลังคาหน้าจั่วเปลี่ยนเป็นแบบเรียบ และขยับไม่ให้ซ้อนกับสถานีเดิม รอรายงานผู้เชี่ยวชาญมรดกโลกแจ้งผลการลงพื้นที่ คาดเซ็นสัญญา 4-5 ไม่เกินเม.ย.นี้ ส่วนทับซ้อนไฮสปีด 3 สนามบิน รอแก้สัญญาฯคาดเริ่มสร้างไม่เกินกลางปีนี้

แหล่งข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้า การก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทางรวม 250.77 กม. วงเงินลงทุน 179,412.21 ล้านบาท ว่า ขณะนี้ยังเหลืองานโยธาอีก 2 สัญญา ที่ยังไม่ได้เริ่มก่อสร้าง จากงานโยธาทั้งหมด 14 สัญญา ได้แก่ สัญญา 4-5 ช่วงบ้านโพ-พระแก้ว ที่มีประเด็นมรดกโลกที่สถานีอยุธยา และสัญญา 4-1 ช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง มีประเด็นที่เส้นทางทับซ้อนกับโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) โดยคาดว่า จะได้ข้อยุติและเริ่มงานก่อสร้างได้ภายในกลางปีนี้

สำหรับ สัญญา 4-5 ช่วงบ้านโพ-พระแก้ว ภายหลังจากที่ผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์นานาชาติเพื่อการศึกษาการสงวนรักษาและการบูรณะมรดกทางวัฒนธรรม (ICCROM) และ ผู้เชี่ยวชาญจากสภาการโบราณสถานระหว่างประเทศ (ICOMOS) ซึ่งเป็นผู้แทนองค์กรที่ปรึกษาของคณะกรรมการมรดกโลก ได้ลงสำรวจพื้นที่จริงและรับฟังข้อมูลเกี่ยวกับรายงานการประเมินผลกระทบทางทรัพย์สินและวัฒนธรรมต่อแหล่งมรดกโลก นครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา (HIA) และขอให้รฟท.แก้ไข 2 เรื่อง คือ ปรับลดความสูงของสถานีซึ่งสรุปให้มีการปรับแบบหลังคาจากหน้าจั่ว เป็นหลังคาแบบเรียบ และขยับสถานีเพื่อไม่ให้โครงสร้างของหลังคาสถานีใหม่ ซ้อนทับกับสถานีรถไฟอยุธยาเดิมที่ประกาศเป็นโบราณสถานแล้ว พร้อมทั้งให้อนุรักษ์และคงคุณค่าของสถานีรถไฟอยุธยาเดิมไว้

ซึ่งรฟท.ได้ดำเนินการแก้ไขตามความเห็นของผู้เชี่ยวชาญเรียบร้อยแล้ว ส่วนเรื่องความสูงของโครงสร้างสถานีจากเดิม 37.45 เมตร ปรับเหลือ 35.45 เมตร และปรับลดความสูงของสันรางจาก 19 เมตร เหลือ 17 เมตร ได้อธิบายทำความเข้าใจแล้วว่า ไม่สามารถลดไปกว่านี้ได้แล้ว

โดยขณะนี้รฟท.ได้ส่งรายละเอียดไปที่สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) แล้ว เพื่อรายงานต่อคณะอนุกรรมการมรดกโลกทางวัฒนธรรม และคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลกทราบ เพื่อนำส่งรายงานให้ศูนย์มรดกโลก (World heritage Centre) ต่อไป

แหล่งข่าวกล่าวว่า ในส่วนของการก่อสร้างสัญญาที่ 4-5 ช่วงบ้านโพ - พระแก้ว ระยะทาง 13.30 กิโลเมตร วงเงิน 10,325.90 ล้านบาท ซึ่งคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท.มีมติสั่งจ้าง บริษัท บุญชัยพาณิชย์ (1979) จำกัดไปแล้ว โดยทางเอกชนยืนราคาถึงสิ้นเดือนมี.ค.2568 ขณะนี้ รฟท.รอหนังสือจากผู้เชี่ยวชาญฯมรดกโลก รายงานผลการลงพื้นที่ จ.อยุธยา อย่างเป็นทางการ ซึ่งคาดว่าจะส่งหนังสือเป็นทางการ ภายในเดือนมี.ค.และจะลงนามสัญญาก่อสร้างได้ไม่เกินเดือนเม.ย. 2568

“จากการพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญฯที่ลงพื้นที่ ไม่ได้กังวลประเด็นของรถไฟความเร็วสูงแล้ว เนื่องจากมีการปรับแก้ไขตามความเห็นไปหมดแล้ว โดยขอให้ทางจังหวัด เตรียมแผนรองรับกรณีมีรถไฟความเร็วสูง ที่ความว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาที่อยุธยามากขึ้น ทั้งด้านการบริหารจัดการจราจร และจัดการผังเมือง ขณะที่ ทางกรมศิลป์เอง มีความกังวล เรื่องเกาะเมืองอยุธยา ให้ความเห็นว่า ในระหว่างการก่อสร้าง จะต้องเฝ้าระวัง เรื่องแรงสั่นสะเทือน และมีแผนบูรณะไว้รองรับ รวมถึงให้มีการขุดค้นโบราณวัตถุในทุกฐานรากตอม่อ ด้วย

@สัญญา 4-1 ทับซ้อน ไฮสปีด คาดจบในเม.ย.นี้

ส่วนสัญญา 4-1 ช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง ระยะทาง 15.2 กม. เป็นช่วงที่เส้นทางทับซ้อนกับโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) อยู่ในขั้นตอนการแก้ไขสัญญาร่วมลงทุนฯ โดยจะเสนอบอร์ดรฟท.ในวันที่ 27 มี.ค. 2568 คาดว่าจะแก้ไขสัญญาและลงนามและเริ่มก่อสร้างในกลางปี 2568 และทางเอกชนจะเริ่มก่อสร้าง ช่วงโครงสร้างร่วมเป็นลำดับแรก และคาดว่าจะใช้เวลาในการก่อสร้างเสาตอม่อ 1 ปีครึ่ง ซึ่งจะทำให้โครงกากรรถไฟไทย-จีน เริ่มวางรางและระบบได้ ประมาณ ปี 2570


SRT Adjusts Ayutthaya High-Speed Station Design for Thai-China Railway, Changing Gable Roof to Flat Roof, Awaiting World Heritage Approval to Sign Contract 4-5 in April

Manager Online March 12, 2024, 5:06 PM

The State Railway of Thailand (SRT) has resolved the issue of the Ayutthaya station for the Thai-China high-speed railway by changing the gable roof design to a flat roof and shifting the station to avoid overlap with the existing station. They are awaiting a report from World Heritage experts after a site visit, with contract signing 4-5 expected no later than April. Overlap with the 3-airport high-speed rail project is awaiting contract amendment, with construction expected to begin by mid-year.

A source from the SRT revealed the progress of the Thai-China High-Speed Railway Project Phase 1, Bangkok-Nakhon Ratchasima, covering 250.77 km with a budget of 179,412.21 million baht. Currently, 2 civil works contracts remain uninitiated out of a total of 14 contracts: Contract 4-5 (Ban Pho-Phra Kaeo), which has World Heritage issues at Ayutthaya station, and Contract 4-1 (Bang Sue-Don Mueang), which overlaps with the Three-Airport Connector High-Speed Rail Project (Don Mueang-Suvarnabhumi-U-Tapao). It is expected that a resolution will be reached, and construction will begin by mid-year.

For Contract 4-5 (Ban Pho-Phra Kaeo), after experts from the International Centre for the Study of the Preservation and Restoration of Cultural Property (ICCROM) and the International Council on Monuments and Sites (ICOMOS), 1 representing advisory bodies to the World Heritage Committee, inspected the site and reviewed the Heritage Impact Assessment (HIA) report for the Historic City of Ayutthaya, they requested the SRT make two changes: reduce the station's height (achieved by changing the roof from a gable to a flat design) and relocate the station to prevent the new station's roof structure from overlapping the existing Ayutthaya railway station, which is a declared historical site. They also requested preservation and maintenance of the existing Ayutthaya station's value.  

The SRT has made the adjustments according to the experts' opinions. Regarding the station structure's height, originally 37.45 meters, reduced to 35.45 meters, and the track height, reduced from 19 meters to 17 meters, the SRT explained that further reduction was impossible.

The SRT has submitted the details to the Office of Natural Resources and Environmental Policy and Planning (ONEP) for reporting to the Sub-committee on Cultural World Heritage and the National Committee on the World Heritage Convention. This will then be forwarded to the World Heritage Centre.

The source stated that for the construction of Contract 4-5 (Ban Pho-Phra Kaeo), a 13.30 km section with a budget of 10,325.90 million baht, the SRT Board has already approved the hiring of Boonchai Phanich (1979) Co., Ltd. The company has confirmed its price until the end of March 2024. The SRT is awaiting an official report from the World Heritage experts on their site visit to Ayutthaya. This report is expected within March, and the construction contract should be signed no later than April 2024.

"From discussions with the experts who visited the site, they are no longer concerned about the high-speed rail issues, as adjustments have been made according to their recommendations. They have requested that the province prepare a plan to accommodate the anticipated increase in tourists to Ayutthaya due to the high-speed rail, including traffic management and urban planning. The Fine Arts Department has expressed concerns about Ayutthaya Island, suggesting that vibration monitoring and a restoration plan be in place during construction, and that archaeological excavations be conducted at every pier foundation.

@Contract 4-1 Overlap with High-Speed Rail Expected to be Resolved in April

Contract 4-1 (Bang Sue-Don Mueang), a 15.2 km section, overlaps with the Three-Airport Connector High-Speed Rail Project. It is currently undergoing amendment of the joint investment contract. This will be presented to the SRT Board on March 27, 2024. It is expected that the contract will be amended and signed, and construction will begin in mid-2024. The private sector will begin construction of the shared structure first, and it is expected that the pier construction will take 1.5 years. This will allow the Thai-China railway to begin track and system installation around 2027."
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44573
Location: NECTEC

PostPosted: 12/03/2025 8:27 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
รฟท.ปรับแบบสถานีอยุธยาไฮสปีด”ไทย-จีน”เปลี่ยนหลังคาหน้าจั่วเป็นแบบเรียบ ลุ้นมรดกโลกไฟเขียวเซ็นสัญญา4-5 เม.ย.นี้
ผู้จัดการออนไลน์ วันพุธ ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2568 เวลา 17:06 น.


“รฟท.” ปรับแบบ “สถานีรถไฟไฮสปีดอยุธยา” เหลือสูง 28 เมตร ไม่คร่อมสถานีรถไฟเดิม
ข่าวนวัตกรรมขนส่ง
วันพุธ ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2568 เวลา 19:13 น.

ส่งข้อมูลเพิ่มเติมถึงมือ “ผู้เชี่ยวชาญฯมรดกโลก” แล้ว “รฟท.” ปรับแบบ “สถานีรถไฟไฮสปีดอยุธยา” เหลือสูง 28 เมตร ขยับสถานีไม่คร่อมสถานีรถไฟเดิม รอฟังผลกลาง มี.ค.นี้ คาดลงนามสัญญา 4-5 กับ “บุญชัยพาณิชย์ฯ” เม.ย.68 ขณะที่สัญญา 4-1 “บางซื่อ-ดอนเมือง” รอร่างสัญญาร่วมทุนไฮสปีดสามสนามบิน ชงเข้าบอร์ด รฟท. เคาะ 27 มี.ค.
นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า รฟท. ได้ส่งข้อมูลเพิ่มเติม พร้อมภาพเสมือนจริง (Perspective) แบบการก่อสร้างสถานีอยุธยา ซึ่งอยู่ในงานสัญญาที่ 4-5 ช่วงบ้านโพ-พระแก้ว ระยะทาง 13.3 กิโลเมตร (กม.) ของโครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีด) ไทย-จีน ระยะ (เฟส) ที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ไปยังสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) แล้ว เพื่อเสนอให้คณะผู้เชี่ยวชาญจากองค์กรที่ปรึกษาของคณะกรรมการมรดกโลก ใช้ประกอบการพิจารณา หลังจากลงพื้นที่เมื่อวันที่ 19-21 ม.ค.68 และได้ขอให้ รฟท. ส่งข้อมูลเหล่านี้เข้ามาเพิ่มเติม


นายวีริศ กล่าวต่อว่า การลงพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ของคณะผู้เชี่ยวชาญฯ ครั้งนั้น แนวโน้มดี ไม่ได้มีประเด็นใดมากที่จะส่งผลกระทบต่อการเดินหน้างานสัญญาที่ 4-5 อย่างไรก็ตามจากการสอบถามไปยัง สผ. ได้รับข้อมูลเบื้องต้นว่า คาดว่าคณะผู้เชี่ยวชาญฯ จะส่งหนังสือตอบกลับมายัง สผ. ช่วงประมาณกลางเดือน มี.ค.68 หากเป็นไปตามกรอบเวลานี้ เมื่อได้รับหนังสือตอบกลับมาแล้ว หากพบว่า ไม่ได้มีปัญหาอะไร และสามารถดำเนินการได้ รฟท. จะนำเรื่องดังกล่าวรายงาน และหารือร่วมกับนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม เพื่อเดินหน้างานสัญญาที่ 4-5 ทันที เบื้องต้นคาดว่าจะลงนามสัญญากับเอกชนผู้รับจ้างได้ภายในเดือน เม.ย.68

“ทีมข่าวนวัตกรรมขนส่งเดลินิวส์” รายงานว่า ข้อมูลเพิ่มเติมที่ สผ. ส่งไปยังคณะผู้เชี่ยวชาญฯ เป็นข้อมูลทั้งของ รฟท. และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในส่วนของ รฟท. เป็นการส่งภาพ Perspective แบบการก่อสร้างสถานีอยุธยา ที่มีการปรับลดขนาดความสูงของตัวสถานีลงแล้ว โดยก่อนหน้านี้ รฟท. ได้ปรับลดลงมาแล้วจาก 37.45 เมตร เหลือ 35.45 เมตร และครั้งนี้ได้ปรับเพิ่มอีกให้เหลือ 28 เมตร รวมทั้งขยับสถานีเล็กน้อยไม่ให้โครงสร้างคร่อมสถานีรถไฟเดิม ซึ่งเป็นโบราณสถานตามคำแนะนำของคณะผู้เชี่ยวชาญฯ ส่วนความสูงจากสันรางได้ปรับลดก่อนหน้านี้แล้วจาก 19 เมตร เหลือ 17 เมตร เพื่อลดข้อกังวลเรื่องการส่งผลกระทบต่อแหล่งมรดกโลกนครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา


สำหรับกรอบเวลาการดำเนินงานสัญญาที่ 4-5 ในเบื้องต้น หาก รฟท. สามารถลงนามสัญญาจ้างกับบริษัท บุญชัยพาณิชย์(1979) จำกัด ผู้รับจ้าง ได้ภายในเดือน เม.ย.68 ซึ่งผู้รับจ้างยังคงยืนราคาเดิมที่ 10,325.90 ล้านบาท คาดว่าหลังจากนั้นอีกไม่เกิน 2 เดือน จะสามารถออกหนังสือแจ้งให้ผู้รับจ้างเริ่มงาน (NTP) เพื่อเริ่มงานการก่อสร้างได้ไม่เกินกลางปี 68 ส่วนจะออก NTP ทั้งการสร้างทางวิ่ง และสถานีอยุธยาหรือไม่นั้น รฟท. ขอพิจารณาความคิดเห็นของคณะผู้เชี่ยวชาญฯ ที่จะส่งกลับมาก่อน

ส่วนความคืบหน้าสัญญาที่ 4-1 ช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง ระยะทาง 15.21 กม. ปัจจุบันยังอยู่ระหว่างรอการลงนามสัญญา ต้องรอการแก้ไขสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) เนื่องจากเป็นช่วงที่มีโครงสร้างทับซ้อนกันก่อน ซึ่งเบื้องต้นจะมีการเสนอร่างแก้ไขสัญญาร่วมทุนโครงการรถไฟไฮสปีดเชื่อมสามสนามบิน ต่อที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท. ในวันที่ 27 มี.ค.68 หากเห็นชอบจะส่งร่างฯ ให้สำนักงานอัยการสูงสุดตรวจสอบ และคาดว่าจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาได้ประมาณเดือน พ.ค.68 อย่างไรก็ตาม สำหรับภาพรวมการก่อสร้างโครงการรถไฟไฮสปีด ไทย-จีน เฟสที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 253 กม. ทั้ง 14 สัญญา มีความคืบหน้าประมาณ 41.70% ล่าช้าจากแผน 28.06% ยังคงเป้าหมายที่จะเปิดให้บริการในปี 2571.
https://www.dailynews.co.th/news/4489682/
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/1185687643008468
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44573
Location: NECTEC

PostPosted: 13/03/2025 10:53 am    Post subject: Reply with quote


"สส.ส้ม" โชว์กลวง โวย EEC สร้างรถไฟความเร็วสูง-สนามบิน ห่างไกล ปชช.
https://www.youtube.com/watch?v=nwDvLT78_k0
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 590, 591, 592 ... 594, 595, 596  Next
Page 591 of 596

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©