Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:312258
ทั่วไป:13876990
ทั้งหมด:14189248
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน)
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าวรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน)
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 591, 592, 593, 594, 595, 596  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 48224
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 14/03/2025 2:03 pm    Post subject: Reply with quote

สถานีรถไฟความเร็วสูงสระบุรี สถานีที่คืบหน้าที่สุดในโครงการ อัพเดตล่าสุด 2568 | Saraburi hsr station
nanny official
Mar 14, 2025


https://www.youtube.com/watch?v=2622x3BvPHM

สถานีสระบุรี สัญญาที่4-7 ต.ตะกุด อ.เมืองสระบุรี
ชั้นที่ 1 ชั้นชานชาลารถไฟทางไกลในอนาคต
ชั้นที่ 2 ชั้นจำหน่ายตั๋วและเปลี่ยนถ่ายผู้โดยสารชั้นที่ 3 พื้นที่โถงพักคอยรถไฟความเร็วสูง
และชั้นที่ 4 ชั้นชานชลารถไฟความเร็วสูง
ตัวสถานีเป็นอาคารยกระดับ ความยาว 310 เมตร (สามารถรองรับตู้รถไฟได้มากถึง 12 ตู้ขบวน) กว้าง 6 - 8 เมตร ระดับความสูงชานชาลาจากระดับสันราง 1 - 1.25 เมตร (ขึ้นอยู่กับชนิดของขบวนรถ)
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44579
Location: NECTEC

PostPosted: 14/03/2025 3:24 pm    Post subject: Reply with quote

เผย 8 ปีสร้างไฮสปีดไทยจีน คืบเพียง 40% ผ่า 12 สัญญาก่อสร้างช้ายกแผง อุปสรรคเพียบ
เขียนโดยisranews
เขียนวันพฤหัสบดี ที่ 13 มีนาคม 2568 เวลา 17:06 น.

ผ่าความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงไทยจีน ช่วงกทม.-โคราช 14 สัญญา พบสร้าง 8 ปีคืบหน้าเพียง 40% ก่อนเปิดรายละเอียดทั้ง 14 สัญญางานโยธา เสร็จ 2 สัญญา อีก 10 สัญญาช้ายกแผง ขณะที่อีก 2 สัญญา ติดพัน ‘สถานีอยุธยา-ต่อเชื่อมไฮสปีด 3 สนามบิน’

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 13 มีนาคม 2568 จากกรณีที่คณะกรรมการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือบอร์ด รฟท. เมื่อวันที่ 6 มี.ค. 68 อนุมัติให้ขยายเวลาทำการตามสัญญา และแก้ไขสัญญาจ้างก่อสร้างโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย และรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพมหานคร - หนองคาย (ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพมหานคร–นครราชสีมา) งานสัญญาที่ 3-5 งานโยธา สำหรับช่วงโคกกรวด – นครราชสีมา โดยให้ขยายเวลาทำการตามสัญญาออกไปอีก 350 วัน นับถัดจากวันสิ้นสุดสัญญาคือวันที่ 25 มีนาคม 2568 และสิ้นสุดขยายเวลาปฏิบัติงานตามสัญญาในวันที่ 10 มีนาคม 2569

Liang060368 Cover01

บอร์ดรฟท.ขยายเวลาก่อสร้างสัญญา 3-5 โคกกรวด-โคราชอีก 350 วัน หลังส่งมอบพื้นที่ล่าช้า
@8 ปี ไปไกลแค่ 40%
ล่าสุด แหล่งข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ความคืบหน้าการก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทางรวม 250.77 กม. วงเงินลงทุน 179,412.21 ล้านบาท จำนวน 14 สัญญา หลังจากเริ่มก่อสร้างตั้งแต่ช่วงปลายปี 2560

ภาพรวมคืบหน้าไปแล้ว 40.52% ล่าช้ากว่าแผน 42.58% โดยมีเพียง 2 สัญญาเท่านั้นที่ก่อสร้างเสร็จ คือสัญญา 1-1 ช่วงกลางดง-ปางอโศก ระยะทาง 3.5 กม. ก่อสร้างโดยกรมทางหลวง (ทล.) และสัญญา 2–1 ช่วงสีคิ้ว–กุดจิก ระยะทาง 11 กม. วงเงิน 3,114.98 ล้านบาท มีบริษัท ซีวิลเอ็นจีเนียริง จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับจ้าง

Liang13036800



@10 สัญญาก่อสร้าง ช้ายกแผง
อยู่ระหว่างก่อสร้าง 10 สัญญา ประกอบด้วย

สัญญา 3-1 ช่วงแก่งคอย - กลางดง และปางอโศก - บันไดม้า ระยะทาง 30.2 กม.วงเงิน 9,300 ล้านบาท มีกิจการร่วมค้า ITD - CREC No.10 (มีบมจ.บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ ร่วมทุนกับ บจ.ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10) เป็นผู้รับจ้าง ปัจจุบันคืบหน้า 5.47% ล่าช้ากว่าแผน 10.36% กำหนดแล้วเสร็จปี 2569 โดยอุปสรรคที่ทำให้งานล่าช้าคือ ยังมีปัญหาเวนคืนบางจุด รวมถึงมีบางพื้นที่ที่ยังรอการอยนุญาตการใช้พื้นที่จากหน่วยงานรัฐ และการขาดสภาพคล่องของรับเหมา

สัญญา 3-2 อุโมงค์มวกเหล็กและลำตะคอง ระยะทาง 12.2 กม. วงเงิน 4,200 ล้านบาท มีบมจ.เนาวรัตน์พัฒนาการเป็นผู้รับจ้าง ปัจจุบันคืบหน้า 85.24% ล่าช้ากว่าแผน 9.79% กำหนดแล้วเสร็จภายในปี 2568

สัญญา 3-3 ช่วงบันไดม้า - ลำตะคอง ระยะทาง 26.1 กม. วงเงิน 9,800 ล้านบาท มีบจ.ไทยเอ็นยิเนียร์และอุตสาหกรรมเป็นผู้รับจ้าง ปัจจุบันคืบหน้าไปแล้ว 57.1% ล่าช้ากว่าแผน 20.12% มีกำหนดแล้วเสร็จในปี 2569

สัญญา 3-4 ช่วงลำตะคอง - สีคิ้ว และช่วงกุดจิก - โคกกรวด ระยะทาง 37.4 กม. วงเงิน 9,800 ล้านบาท มีมีบมจ.อิตาเลียนไทยดีเวล๊อปเมนต์เป็นผู้รับจ้าง ปัจจุบันคืบหน้าไปแล้ว 87.11% ล่าช้ากว่าแผน 11% มีกำหนดแล้วเสร็จ ภายในปี 2568 สำหรับอุปสรรคที่ทำให้งานยังช้าประกอบด้วยการขอใช้พื้นที่บางแห่งกับกรมชลประทาน และปัญหาสภาพคล่องของทางผู้รับเหมา

สัญญ 3-5 ช่วงโคกกรวด – นครราชสีมา ระยะทาง 12.3 กม. วงเงิน 9,800 ล้านบาท มีกิจการร่วมค้า SPTK (นภาก่อสร้างร่วมกับรับเหมาประเทศมาเลเซีย) เป็นผู้รับจ้างงาน ปัจจุบันคืบหน้าไปแล้ว 12.42% ล่าช้ากว่าแผน 83.46% โดยมีปัญหาสำคัญคือ ประชาชนร้องเรียนเพื่อปรับพื้นที่ก่อสร้างบางส่วนให้ยกระดับจากเดิมที่จะก่อสร้างเป็นระดับพื้นดิน รวมระยะทางที่ยังมีปัญหาประมาณ 7.8 กม.

สัญญา 4-2 ช่วงดอนเมือง - นวนคร ระยะทาง 21.8 กม. วงเงิน 10,500 ล้านบาท มีบมจ.ยูนิคเอ็นจิเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่นเป็นผู้รับจ้าง คืบหน้า 1.94% ล่าช้า 98.06% เนื่องจากมีการกลับไปใช้รายงานวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) ฉบับเดิม จึงต้องปรับปรุงรายละเอียดใหม่ เช่น การย้ายท่อน้ำมัน

สัญญา 4-3 ช่วงนวนคร-บ้านโพ ระยะทาง 23 กม. วงเงิน 11,500 ล้านบาท มีกิจการร่วมค้า CAN (บจ.เอ.เอสแอสโซศซิเอทเอนยิเนียริ่ง (1964) ร่วมกับบมจ.เนาวรัตน์พัฒนาการ และบริษัทไชน่าสเตทคอนสตรัคชั่นเอนยิเนียริ่งคอร์ปอเรชั่นลิมิเต็ดเป็นผู้รับจ้าง คืบหน้า 48.89% ล่าช้า 51.11% โดยยังติดปัญหาการรื้อย้ายท่อและปรับปรุงฐานรากบางจุด

สัญญา 4-4 งานศูนย์ซ่อมบำรุงเชียงรากน้อย วงเงิน 6,573 ล้านบาท มีบมจ.อิตาเลียนไทยดีเวล๊อปเมนต์เป็นผู้รับจ้าง งานคืบหน้า 32.55% ล่าช้า 5.18%

สัญญา 4-6 ช่วงพระแก้ว-สระบุรี ระยะทาง 31.60 กม. วงเงิน 9,429 ล้านบาท มีบมจ.ยูนิคเอ็นจิเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่นเป็นผู้รับจ้าง คืบหน้า 9.56% ล่าช้า 90.44% สาเหตุมาจากการย้ายท่อก๊าซ ท่อน้ำมัน และสายส่งไฟฟ้าความยาวรวม 10 กม. รวมถึงมีปัญหาร้องเรียนของประชาชนบางจุด และการเวนคืนที่ดิน

และสัญญา 4-7 ช่วงสระบุรี-แก่งคอย ระยะทาง 12.99 กม. วงเงิน 8,560 ล้านบาท มีบมจ.ซีวิลเอนจีเนียริงเป็นผู้รับจ้าง คืบหน้า 61.91% ล่าช้า 32.55% โดยติดปัญหาเวนคืน ซึ่งกำลังจจะได้พื้นที่ครบแล้ว รวมถึงอยู่ระหว่างรอกรมชลประทานอนุมัติใ้พื้นที่สำหรับก่อสร้างสถานีรถไฟ

Liang130368 01

@2 สัญญาติดสถานีอยุธยา - ไฮสปีด 3 สนามบิน
ขณะนี้ยังเหลืองานโยธาอีก 2 สัญญา ที่ยังไม่ได้เริ่มก่อสร้าง จากงานโยธาทั้งหมด 14 สัญญา ได้แก่ สัญญา 4-5 ช่วงบ้านโพ-พระแก้ว ระยะทาง13.30 กม. วงเงิน 9,913 ล้านบาท ที่มีบริษัท บุญชัยพาณิชย์ (1979) จำกัด เป็นผู้รับจ้าง แต่ยังไม่สามารถเซ็นสัญญาจ้างได้ เพราะมีประเด็นมรดกโลกที่สถานีอยุธยา และสัญญา 4-1 ช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง ที่มีประเด็นที่เส้นทางทับซ้อนกับโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) โดยคาดว่า จะได้ข้อยุติและเริ่มงานก่อสร้างได้ภายในกลางปีนี้

@4-5 รอสรุปผลปับแบบ สถานีอยุธยา
สำหรับ สัญญา 4-5 ช่วงบ้านโพ-พระแก้ว ภายหลังจากที่ผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์นานาชาติเพื่อการศึกษาการสงวนรักษาและการบูรณะมรดกทางวัฒนธรรม (ICCROM) และ ผู้เชี่ยวชาญจากสภาการโบราณสถานระหว่างประเทศ (ICOMOS) ซึ่งเป็นผู้แทนองค์กรที่ปรึกษาของคณะกรรมการมรดกโลก ได้ลงสำรวจพื้นที่จริงและรับฟังข้อมูลเกี่ยวกับรายงานการประเมินผลกระทบทางทรัพย์สินและวัฒนธรรมต่อแหล่งมรดกโลก นครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา (HIA) และขอให้รฟท.แก้ไข 2 เรื่อง คือ ปรับลดความสูงของสถานีซึ่งสรุปให้มีการปรับแบบหลังคาจากหน้าจั่ว เป็นหลังคาแบบเรียบ และขยับสถานีเพื่อไม่ให้โครงสร้างของหลังคาสถานีใหม่ ซ้อนทับกับสถานีรถไฟอยุธยาเดิมที่ประกาศเป็นโบราณสถานแล้ว พร้อมทั้งให้อนุรักษ์และคงคุณค่าของสถานีรถไฟอยุธยาเดิมไว้

ซึ่งรฟท.ได้ดำเนินการแก้ไขตามความเห็นของผู้เชี่ยวชาญเรียบร้อยแล้ว ส่วนเรื่องความสูงของโครงสร้างสถานีจากเดิม 37.45 เมตร ปรับเหลือ 35.45 เมตร และปรับลดความสูงของสันรางจาก 19 เมตร เหลือ 17 เมตร ได้อธิบายทำความเข้าใจแล้วว่า ไม่สามารถลดไปกว่านี้ได้แล้ว

โดยขณะนี้รฟท.ได้ส่งรายละเอียดไปที่สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) แล้ว เพื่อรายงานต่อคณะอนุกรรมการมรดกโลกทางวัฒนธรรม และคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลกทราบ เพื่อนำส่งรายงานให้ศูนย์มรดกโลก (World heritage Centre) ต่อไป

อย่างไรก็ตาม ทางบริษัท บุญชัยพาณิชย์ (1979) จำกัด ในฐานะผู้รับจ้าง มีระยะเวลายืนราคาถึงสิ้นเดือนมี.ค.2568 ขณะนี้ รฟท.รอหนังสือจากผู้เชี่ยวชาญฯมรดกโลก รายงานผลการลงพื้นที่ จ.อยุธยา อย่างเป็นทางการ ซึ่งคาดว่าจะส่งหนังสือเป็นทางการ ภายในเดือนมี.ค.และจะลงนามสัญญาก่อสร้างได้ไม่เกินเดือนเม.ย. 2568

“จากการพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญฯที่ลงพื้นที่ ไม่ได้กังวลประเด็นของรถไฟความเร็วสูงแล้ว เนื่องจากมีการปรับแก้ไขตามความเห็นไปหมดแล้ว โดยขอให้ทางจังหวัด เตรียมแผนรองรับกรณีมีรถไฟความเร็วสูง ที่ความว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาที่อยุธยามากขึ้น ทั้งด้านการบริหารจัดการจราจร และจัดการผังเมือง ขณะที่ ทางกรมศิลป์เอง มีความกังวล เรื่องเกาะเมืองอยุธยา ให้ความเห็นว่า ในระหว่างการก่อสร้าง จะต้องเฝ้าระวัง เรื่องแรงสั่นสะเทือน และมีแผนบูรณะไว้รองรับ รวมถึงให้มีการขุดค้นโบราณวัตถุในทุกฐานรากตอม่อ ด้วย

@สัญญา 4-1 ทับซ้อน ไฮสปีด คาดจบในเม.ย.นี้
ส่วนสัญญา 4-1 ช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง ระยะทาง 15.2 กม. เป็นช่วงที่เส้นทางทับซ้อนกับโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) อยู่ในขั้นตอนการแก้ไขสัญญาร่วมลงทุนฯ โดยจะเสนอบอร์ดรฟท.ในวันที่ 27 มี.ค. 2568 คาดว่าจะแก้ไขสัญญาและลงนามและเริ่มก่อสร้างในกลางปี 2568 และทางเอกชนจะเริ่มก่อสร้าง ช่วงโครงสร้างร่วมเป็นลำดับแรก และคาดว่าจะใช้เวลาในการก่อสร้างเสาตอม่อ 1 ปีครึ่ง ซึ่งจะทำให้โครงกากรรถไฟไทย-จีน เริ่มวางรางและระบบได้ ประมาณ ปี 2570
https://www.isranews.org/article/isranews/136396-transport-117.html
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44579
Location: NECTEC

PostPosted: 14/03/2025 4:38 pm    Post subject: Reply with quote

เร่งตอกเข็ม “ไฮสปีด-อู่ตะเภา” บีโอไอหนุนเต็มพิกัดลงทุนอีอีซี
ฐานเศรษฐกิจ
วันศุกร์ ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2568 เวลา 05:30 น.


รัฐเร่งเครื่องยนต์ ลุยตอกเข็ม “ไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบิน” ชงครม.ไฟเขียว พ.ค.นี้
หลัง รฟท.เลื่อนชงบอร์ด 14 วัน เคาะร่างแก้สัญญาร่วมทุน นำร่องตอกเข็มพื้นที่ทับซ้อน-ใต้รันเวย์อู่ตะเภา
ด้าน UTA ถกรับสิทธิประโยชน์ลงทุน จบมิ.ย.นี้ เข้าพื้นที่ ปี 68
BOI ชี้ขอรับส่งเสริมลงทุน โตไม่หยุด ปี 67 กว่า 5.04 แสนล้าน
การผลักดันโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ ภาคตะวันออก (EEC) ทั้งโครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) เชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ที่มี บริษัท เอเชีย เอรา วัน จำกัด เครือซีพีเป็นคู่สัญญา และ โครงการสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบิน ฯ แม่เหล็กสำคัญ ที่จะดึงเม็ดเงินนักลงทุนข้ามชาติเข้าพื้นที่ และประเมินว่าหากโครงการดังกล่าว ลงมือก่อสร้าง จะกระตุ้นความมั่นใจ และมีเม็ดเงินหมุนเวียนเข้าประเทศได้อย่างมหาศาล

หลังจากที่ผ่านมาโครงการไฮสปีดมีความล่าช้ากว่า 5 ปีส่งผลกระทบต่อโครงการที่เกี่ยวเนื่องโดยเฉพาะสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออกที่บริษัท อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่นจำกัด (UTA) ในฐานะผู้รับสัมปทาน พื้นที่ 6,500 ไร่

ล่าสุดนายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) เปิดเผยว่า ความคืบหน้าโครงการไฮสปีด เชื่อม 3 สนามบิน ขณะนี้อยู่ระหว่างรอรฟท.เตรียมเสนอร่างแก้ไขสัญญาร่วมทุนฯ ต่อคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท.พิจารณา

ทั้งนี้ทราบว่าจะมีการเสนอต่อบอร์ด รฟท.พิจารณาเมื่อวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา แต่มีการเลื่อนประชุมคระกรรมการรฟท.ออกไป ทำให้กระบวนการล่าช้าเล็กน้อย

ตามแผน รฟท.จะส่งร่างแก้ไขสัญญาต่อสำนักงานอัยการสูงสุดตรวจสอบ คาดว่าใช้เวลาประมาณ 1 เดือน หรือเสนอได้ภายในเดือนเมษายนนี้

หลังจากนั้นจะเสนอรายงานต่อคณะกรรมการอีอีซีพิจารณาเห็นชอบร่างแก้ไขสัญญาฯ ก่อนเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบภายในเดือนพฤษภาคม 2568 และดำเนินการลงนามแก้ไขสัญญาร่วมทุนฯ และออกหนังสือให้เริ่มงาน (Notice to Proceed: NTP) กับเอกชนต่อไป

ฟากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) สะท้อนว่า การประชุมคณะกรรมการรฟท.มีการเลื่อนออกไป ทำให้รฟท.จะเสนอร่างแก้ไขสัญญาร่วมทุนฯโครงการไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบิน ภายในวันที่ 27 มีนาคมนี้แทน จากเดิมที่มีแผนเสนอต่อคณะกรรมการ รฟท.ในวันที่ 13 มีนาคม 2568 เพราะมีวาระเร่งด่วนเป็นจำนวนมาก อาจทำให้พิจารณาไม่ทัน

ขณะที่องค์ประชุมคณะกรรมการรฟท.บางรายติดภารกิจไม่สามารถเข้าร่วมการประชุมได้ตามกำหนด ทำให้ที่ประชุมคณะกรรมการรฟท.เลื่อนออกไปตามกำหนดข้างต้น

อย่างไรก็ตามหากลงนามแก้ไขสัญญาร่วมทุนฯได้ภายในเดือนพฤษภาคม 2568 คาดว่ารฟท.พร้อมออก NTP ให้เอกชนเริ่มงานได้ภายในเดือนมิถุนายน 2568 โดยเอกชนจะเริ่มเข้าพื้นที่ก่อสร้าง 2 จุด ที่เป็นงานเร่งด่วนก่อน คือ บริเวณใต้รันเวย์ ที่ 2 สนามบินอู่ตะเภา และบางซื่อ-ดอนเมือง บริเวณที่มี โครงสร้างร่วมกับโครงการรถไฟไทย-จีน(สัญญา 4-1 )

ส่วนการก่อสร้างและเปิดเดินรถมีระยะเวลาดำเนินการ 5 ปี ทำให้เอกชนจะใช้วิธีการก่อสร้างแบบ Full Span Launching Gantries เป็นหลัก ซึ่งเป็นเทคนิคการสร้างสะพานหรือทางยกระดับที่เร็วที่สุด โดยมีโรงหล่อเซ็กเมนต์รวมประมาณ 3 จุด เช่น ที่บริเวณลาดกระบัง


นอกจากนี้จะดำเนินการการก่อสร้างฐานรากตอม่อรถไฟจากโรงหล่อ เพื่อเป็นเส้นทางส่งต่อชิ้นส่วนเซ็กเมนต์แต่ละช่วงยาวไม่ต่ำกว่า 30 เมตร เพราะขนส่งทางรถยนต์ไม่ได้ ส่วนช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง อาจจะใช้วิธีก่อสร้างทีละช่วงเซ็กเมนต์ที่สั้นกว่า เพื่อให้สามารถขนส่งเซ็กเมนต์ทางรถยนต์ได้

ด้านความคืบหน้าโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภานั้น นายจุฬา กล่าวต่อว่า ขณะนี้สกพอ.ได้หารือร่วมกับบริษัท อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จำกัด (UTA) ซึ่งเป็นเอกชนคู่สัญญาพัฒนาโครงการฯ โดยยืนยันความพร้อมเตรียมดำเนินการเข้าพื้นที่ก่อสร้างเพื่อเริ่มโครงการ เบื้องต้นคาดว่าจะมีการส่งมอบพื้นที่ได้ภายในเดือนเมษายน-พฤษภาคมนี้

ในปัจจุบันตามแผนการก่อสร้างท่าอากาศยานอู่ตะเภามีพื้นที่ทับซ้อนบริเวณชั้นล่างของอาคารผู้โดยสารที่เชื่อมต่อกับโครงการไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบิน นั้น เบื้องต้นได้มีการหารือกับ UTA โดยเอกชนยืนยันขอปรับรายละเอียดเงื่อนไขสัญญา เพื่อให้โครงการพัฒนาท่าอากาศยานอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออกสามารถเดินหน้าได้ทันที

ขณะเดียวกันสกพอ.ได้มีการหารือกับ UTA ถึงรายละเอียดการยืนยันสิทธิประโยชน์ด้านการลงทุน เพราะเอกชนมีความพร้อมเตรียมชวนผู้ร่วมลงทุนเข้ามาดำเนินการด้วย ซึ่งจะต้องเสนอต่อกระทรวงการคลังพิจารณา คาดว่ากระบวนการหารือรายละเอียดเหล่านี้แล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายน 2568 ตามแผนเอกชนจะเริ่มเข้าพื้นที่ก่อสร้างได้ภายในปีนี้ ระยะเวลาก่อสร้าง 4 ปี ซึ่งจะเปิดให้บริการประมาณปี 2572

ทั้งนี้การปรับเงื่อนไขสัญญาดังกล่าวนั้น ยืนยันว่าสามารถดำเนินการได้ โดยไม่ต้องแก้ไขสัญญาโครงการสนามบินอู่ตะเภาโดยตัดเงื่อนไขที่เคยระบุต้องรอความชัดเจนไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบิน จึงจะดำเนินการออกหนังสือให้เอกชนเข้าพื้นที่ (NTP) ออกไป เปลี่ยนเป็นเริ่มก่อสร้างส่วนของอาคารผู้โดยสารทันทีตามแผน

ขณะที่พื้นที่ทับซ้อนต้องก่อสร้างอุโมงค์ไฮสปีดฯ โดย รฟท.จะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายและดำเนินการไปก่อน

ด้านบีโอไอชี้การขอรับส่งเสริมลงทุนในอีอีซียังโตไม่หยุด ยอดปี 2567 กว่า 5.04 แสนล้าน ยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ ดิจิทัลยังบูม ลุยดึงสหรัฐลงทุนเซมิคอนดักเตอร์

นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC / อีอีซี) ถือเป็นพื้นที่หลักมากกว่าครึ่งหนึ่งของโครงการที่มาขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอในปีที่ผ่านมาเนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน และมีซัพพลายเชนที่เกี่ยวเนื่องอยู่เป็นจำนวนมาก และมีระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ

โดยอุตสาหกรรมที่มีอยู่ในพื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ใน 3 คลัสเตอร์หลักได้แก่ ยานยนต์, เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์, ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ ซึ่งในปีนี้บีโอไอยังคงมุ่งเน้นให้การส่งเสริมเพื่อต่อยอดใน 3 คลัสเตอร์ดังกล่าว เช่น

ในอุตสาหกรรมยานยนต์จะต่อยอดในเรื่องของยานยนต์ไฟฟ้า (EV) อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ต่อยอดเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะ เซมิคอนดักเตอร์ และอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง

ส่วนอุตสาหกรรมปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์จะส่งเสริมเคมีภัณฑ์ในกลุ่มที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม


นอกจากนี้สอดคล้องกับสถิติการขอรับการส่งเสรริมการลงทุนจากบีโอไอในปี 2567 มีการขอรับการส่งเสริมการลงทุนทั้งสิ้น 3,137 โครงการเพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 40 และมีมูลค่าเงินลงทุน 1.13 ล้านล้านบาท (สูงสุดในรอบ 10 ปี) เพิ่มขึ้นร้อยละ 35 แบ่งเป็น

โครงการต่างชาติมูลค่าเงินลงทุน 703,090 ล้านบาท, โครงการของนักลงทุนไทย เงินลงทุน 267,427 ล้านบาท และโครงการร่วมลงทุนไทยและต่างชาติ เงินลงทุน 167,991 ล้านบาท

ทั้งนี้ในจำนวนโครงการขอรับการส่งเสริมการลงทุนทั้งหมดในปี 2567 เป็นคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่อีอีซี จำนวน 1,315 โครงการเพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 65 และมีเงินลงทุน 504,945 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 37

เร่งตอกเข็ม “ไฮสปีด-อู่ตะเภา” บีโอไอหนุนเต็มพิกัดลงทุนอีอีซี

ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ และอุตสาหกรรมดิจิทัล แบ่งเป็นการลงทุนใน 3 จังหวัดในพื้นที่อีอีซี ดังนี้

ชลบุรี 718 โครงการ เงินลงทุน 261,197 ล้านบาท, ระยอง 469 โครงการ เงินลงทุน 202,333 ล้านบาท และฉะเชิงเทรา 128 โครงการ เงินลงทุน 41,415 ล้านบาท

ส่วนที่เหลือเป็นคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมหรือเขตอุตสาหกรรมที่ได้รับการส่งเสริม จำนวน 955 โครงการเงินลงทุน 468,578 ล้านบาท, เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษชายแดน 5 โครงการ เงินลงทุน 558 ล้านบาท และใน 20 จังหวัดที่มีรายได้ต่อหัวต่ำจำนวน 60 โครงการ เงินลงทุน 16,379 ล้านบาท

“นอกจากใน 3 กลุ่มคลัสเตอร์อุตสาหกรรมหลักข้างต้นที่การลงทุนยังขยายต่อเนื่องและเราจะต่อยอดแล้ว ในพื้นที่อีอีซียังมีอีกอุตสาหกรรมที่เข้าไปตั้งเป็นจำนวนมากในช่วงปีที่ผ่านมาคือ ดาต้าเซ็นเตอร์ซึ่งคาดว่าจะยังคงมีการลงทุนอย่างต่อเนื่องในปีนี้”

เลขาธิการบีโอไอ กล่าวอีกว่าในปี 2568 บีโอไอคาดการขอรับการส่งเสริมการลงทุนในภาพรวม จะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่าในปีที่ผ่านมา โดยในอุตสาหกรรมสำคัญๆ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มยานยนต์และชิ้นส่วน กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มเคมีภัณฑ์ รวมถึงกิจการด้านดิจิทัลโดยเฉพาะดาต้าเซ็นเตอร์ ยังมีแนวโน้มการเติบโตต่อเนื่อง

ทั้งนี้บีโอไอยังมุ่งเน้นดึงการลงทุนจากประเทศหลัก ได้แก่ ญี่ปุ่น จีน เกาหลีใต้ สหรัฐอเมริกา และยุโรป โดยในเดือนเมษายนนี้บีโอไอมีแผนจะไปโรดโชว์ที่สหรัฐอเมริกา มีเป้าหมายเพื่อดึงการลงทุนในกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์

“บีโอไอมีหลายแพ็คเก็จเพิ่มเติม เพื่อดึงการลงทุนจากต่างประเทศ เฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่อีอีซี เช่นจะได้รับการลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มเติมร้อยละ 50 อีก 3 ปี จากเกณฑ์ปกติ แต่มีเงื่อนไขว่าโครงการต้องมีความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาในพื้นที่เพื่อพัฒนาบุคลากรด้วย เป็นต้น”
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 48224
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 15/03/2025 2:03 pm    Post subject: Reply with quote

เร่งตอกเข็ม'ไฮสปีด-อู่ตะเภา' บีโอไอหนุนเต็มพิกัดดันลงทุนอีอีซี
Source - ฐานเศรษฐกิจ
Saturday, March 15, 2025 06:24

รัฐเร่งเครื่องยนต์ ลุยตอกเข็ม "ไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบิน" ชงครม.ไฟเขียว พ.ค.นี้ หลัง รฟท.เลื่อนชงบอร์ด 14 วัน เคาะร่างแก้สัญญาร่วมทุน นำร่องตอกเข็มพื้นที่ทับซ้อน-ใต้รันเวย์อู่ตะเภา ด้าน UTA ถกรับสิทธิประโยชน์ลงทุน จบมิ.ย.นี้ เข้าพื้นที่ ปี 68 BOI ชี้ขอรับส่งเสริมลงทุน โตไม่หยุด ปี 67 กว่า 5.04 แสนล้าน

การผลักดันโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ ภาคตะวันออก (EEC) ทั้งโครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) เชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิอู่ตะเภา) ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ที่มี บริษัท เอเชีย เอรา วัน จำกัด เครือซีพีเป็นคู่สัญญา และ โครงการสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบิน ฯ แม่เหล็กสำคัญ ที่จะดึงเม็ดเงินนักลงทุนข้ามชาติเข้าพื้นที่ และประเมินว่าหากโครงการดังกล่าว ลงมือก่อสร้าง จะกระตุ้นความมั่นใจ และมีเม็ดเงินหมุนเวียนเข้าประเทศได้อย่างมหาศาล

หลังจากที่ผ่านมาโครงการไฮสปีดมีความล่าช้ากว่า 5 ปีส่งผลกระทบต่อโครงการที่เกี่ยวเนื่องโดยเฉพาะสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออกที่บริษัท อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่นจำกัด (UTA) ในฐานะผู้รับสัมปทาน พื้นที่ 6,500 ไร่

ล่าสุดนายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) เปิดเผยว่า ความคืบหน้าโครงการไฮสปีด เชื่อม 3 สนามบิน ขณะนี้อยู่ระหว่างรอรฟท.เตรียมเสนอร่างแก้ไขสัญญาร่วมทุนฯ ต่อคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท.พิจารณา

ทั้งนี้ทราบว่าจะมีการเสนอต่อบอร์ด รฟท.พิจารณาเมื่อวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา แต่มีการเลื่อนประชุมคระกรรมการรฟท.ออกไป ทำให้กระบวนการล่าช้าเล็กน้อย ตามแผน รฟท.จะส่งร่างแก้ไขสัญญาต่อสำนักงานอัยการสูงสุดตรวจสอบ คาดว่าใช้เวลาประมาณ 1 เดือน หรือเสนอได้ภายในเดือนเมษายนนี้

หลังจากนั้นจะเสนอรายงานต่อคณะกรรมการอีอีซีพิจารณาเห็นชอบร่างแก้ไขสัญญาฯ ก่อนเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบภายในเดือนพฤษภาคม 2568 และดำเนินการลงนามแก้ไขสัญญาร่วมทุนฯ และออกหนังสือให้เริ่มงาน (Notice to Proceed: NTP) กับเอกชนต่อไป

ด้านการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) สะท้อนว่า การประชุมคณะกรรมการรฟท.มีการเลื่อนออกไป ทำให้รฟท.จะเสนอร่างแก้ไขสัญญาร่วมทุนฯโครงการไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบิน ภายในวันที่ 27 มีนาคมนี้แทน จากเดิมที่มีแผนเสนอต่อคณะกรรมการ รฟท.ในวันที่ 13 มีนาคม 2568 เพราะมีวาระเร่งด่วนเป็นจำนวนมาก อาจทำให้พิจารณาไม่ทัน ขณะที่องค์ประชุมคณะกรรมการรฟท.บางรายติดภารกิจไม่สามารถเข้าร่วมการประชุมได้ตามกำหนด ทำให้ที่ประชุมคณะกรรมการรฟท.เลื่อนออกไปตามกำหนดข้างต้น

อย่างไรก็ตามหากลงนามแก้ไขสัญญาร่วมทุนฯได้ภายในเดือนพฤษภาคม 2568 คาดว่ารฟท.พร้อมออก NTP ให้เอกชนเริ่มงานได้ภายในเดือนมิถุนายน 2568 โดยเอกชนจะเริ่มเข้าพื้นที่ก่อสร้าง 2 จุด ที่เป็นงานเร่งด่วนก่อน คือ บริเวณใต้รันเวย์ ที่ 2 สนามบินอู่ตะเภา และบางซื่อดอนเมือง บริเวณที่มี โครงสร้างร่วมกับโครงการรถไฟไทย-จีน(สัญญา 4-1 )

ส่วนการก่อสร้างและเปิดเดินรถมีระยะเวลาดำเนินการ 5 ปี ทำให้เอกชนจะใช้วิธีการก่อสร้างแบบ Full Span Launching Gantries เป็นหลัก ซึ่งเป็นเทคนิคการสร้างสะพานหรือทางยกระดับที่เร็วที่สุด โดยมีโรงหล่อเซ็กเมนต์รวมประมาณ 3 จุด เช่น ที่บริเวณลาดกระบัง

นอกจากนี้จะดำเนินการการก่อสร้างฐานรากตอม่อรถไฟจากโรงหล่อ เพื่อเป็นเส้นทางส่งต่อชิ้นส่วนเซ็กเมนต์แต่ละช่วงยาวไม่ต่ำกว่า 30 เมตร เพราะขนส่งทางรถยนต์ไม่ได้ ส่วนช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง อาจจะใช้วิธีก่อสร้างทีละช่วงเซ็กเมนต์ที่สั้นกว่า เพื่อให้สามารถขนส่งเซ็กเมนต์ทางรถยนต์ได้

ส่วนความคืบหน้าโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภานั้น นายจุฬา กล่าวต่อว่า ขณะนี้สกพอ.ได้หารือร่วมกับบริษัท อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จำกัด (UTA) ซึ่งเป็นเอกชนคู่สัญญาพัฒนาโครงการฯ โดยยืนยันความพร้อมเตรียมดำเนินการเข้าพื้นที่ก่อสร้างเพื่อเริ่มโครงการ เบื้องต้นคาดว่าจะมีการส่งมอบพื้นที่ได้ภายในเดือนเมษายน-พฤษภาคมนี้

ทั้งนี้ในปัจจุบันตามแผนการก่อสร้างท่าอากาศยานอู่ตะเภามีพื้นที่ทับซ้อนบริเวณชั้นล่างของอาคารผู้โดยสารที่เชื่อมต่อกับโครงการไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบิน นั้น เบื้องต้นได้มีการหารือกับ UTA โดยเอกชนยืนยันขอปรับรายละเอียดเงื่อนไขสัญญา เพื่อให้โครงการ

พัฒนาท่าอากาศยานอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออกสามารถเดินหน้าได้ทันที

ขณะเดียวกันสกพอ.ได้มีการหารือกับ UTA ถึงรายละเอียดการยืนยันสิทธิประโยชน์ด้านการลงทุน เพราะเอกชนมีความพร้อมเตรียมชวนผู้ร่วมลงทุนเข้ามาดำเนินการด้วย ซึ่งจะต้องเสนอต่อกระทรวงการคลังพิจารณา คาดว่ากระบวนการหารือรายละเอียดเหล่านี้แล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายน 2568 ตามแผนเอกชนจะเริ่มเข้าพื้นที่ก่อสร้างได้ภายในปีนี้ ระยะเวลาก่อสร้าง 4 ปี ซึ่งจะเปิดให้บริการประมาณปี 2572

ทั้งนี้การปรับเงื่อนไขสัญญาดังกล่าวนั้น ยืนยันว่าสามารถดำเนินการได้ โดยไม่ต้องแก้ไขสัญญาโครงการสนามบินอู่ตะเภาโดยตัดเงื่อนไขที่เคยระบุต้องรอความชัดเจนไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบิน จึงจะดำเนินการออกหนังสือให้เอกชนเข้าพื้นที่ (NTP) ออกไป เปลี่ยนเป็นเริ่มก่อสร้างส่วนของอาคารผู้โดยสารทันทีตามแผน ขณะที่พื้นที่ทับซ้อนต้องก่อสร้างอุโมงค์ไฮสปีดฯ โดย รฟท.จะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายและดำเนินการไปก่อน

ด้านบีโอไอชี้การขอรับส่งเสริมลงทุนในอีอีซียังโตไม่หยุด ยอดปี 2567 กว่า 5.04 แสนล้าน ยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ปิโตรและเคมีภัณฑ์ ดิจิทัลยังบูม ลุยดึงสหรัฐลงทุนเซมิคอนดักเตอร์

นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ"ว่า เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC / อีอีซี) ถือเป็นพื้นที่หลักมากกว่าครึ่งหนึ่งของโครงการที่มาขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอในปีที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน และมีซัพพลายเชนที่เกี่ยวเนื่องอยู่เป็นจำนวนมาก และมีระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ

โดยอุตสาหกรรมที่มีอยู่ในพื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ใน 3 คลัสเตอร์หลักได้แก่ ยานยนต์, เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์, ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ ซึ่งในปีนี้บีโอไอยังคงมุ่งเน้นให้การส่งเสริมเพื่อต่อยอดใน 3 คลัสเตอร์ดังกล่าว เช่นในอุตสาหกรรมยานยนต์จะต่อยอดในเรื่องของยานยนต์ไฟฟ้า (EV) อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ต่อยอดเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะ เซมิคอนดักเตอร์ และอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง ส่วนอุตสาหกรรมปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์จะส่งเสริมเคมีภัณฑ์ในกลุ่มที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

สอดคล้องกับสถิติการขอรับการส่งเสรริมการลงทุนจากบีโอไอในปี 2567 มีการขอรับการส่งเสริมการลงทุนทั้งสิ้น 3,137 โครงการเพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 40 และมีมูลค่าเงินลงทุน 1.13 ล้านล้านบาท (สูงสุดในรอบ 10 ปี) เพิ่มขึ้นร้อยละ 35 แบ่งเป็นโครงการต่างชาติมูลค่าเงินลงทุน 703,090 ล้านบาท, โครงการของนักลงทุนไทย เงินลงทุน 267,427 ล้านบาท และโครงการร่วมลงทุนไทยและต่างชาติ เงินลงทุน 167,991 ล้านบาท

ทั้งนี้ในจำนวนโครงการขอรับการส่งเสริมการลงทุนทั้งหมดในปี 2567 เป็นคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่อีอีซี จำนวน 1,315 โครงการเพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 65 และมีเงินลงทุน 504,945 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 37 โดยส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ และอุตสาหกรรมดิจิทัล

แบ่งเป็นการลงทุนใน 3 จังหวัดในพื้นที่อีอีซี ดังนี้ ชลบุรี 718 โครงการ เงินลงทุน 261,197 ล้านบาท, ระยอง 469 โครงการ เงินลงทุน 202,333 ล้านบาท และฉะเชิงเทรา 128 โครงการ เงินลงทุน 41,415 ล้านบาท ที่เหลือเป็นคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมหรือเขตอุตสาหกรรมที่ได้รับการส่งเสริม จำนวน 955 โครงการ เงินลงทุน 468,578 ล้านบาท, เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษชายแดน 5 โครงการ เงินลงทุน 558 ล้านบาท และใน 20 จังหวัดที่มีรายได้ต่อหัวต่ำจำนวน 60 โครงการ เงินลงทุน 16,379 ล้านบาท

"นอกจากใน 3 กลุ่มคลัสเตอร์อุตสาหกรรมหลักข้างต้นที่การลงทุนยังขยายต่อเนื่องและเราจะต่อยอดแล้ว ในพื้นที่อีอีซียังมีอีกอุตสาหกรรมที่เข้าไปตั้งเป็นจำนวนมากในช่วงปีที่ผ่านมาคือ ดาต้าเซ็นเตอร์ซึ่งคาดว่าจะยังคงมีการลงทุนอย่างต่อเนื่องในปีนี้"
เลขาธิการบีโอไอ กล่าวอีกว่าในปี 2568 บีโอไอคาดการขอรับการส่งเสริมการลงทุนในภาพรวม จะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่าในปีที่ผ่านมา โดยในอุตสาหกรรมสำคัญๆ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มยานยนต์และชิ้นส่วน กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มเคมีภัณฑ์ รวมถึงกิจการด้านดิจิทัลโดยเฉพาะดาต้าเซ็นเตอร์ ยังมีแนวโน้มการเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งบีโอไอยังมุ่งเน้นดึงการลงทุนจากประเทศหลัก ได้แก่ ญี่ปุ่น จีน เกาหลีใต้ สหรัฐอเมริกา และยุโรป โดยในเดือนเมษายนนี้บีโอไอมีแผนจะไปโรดโชว์ที่สหรัฐอเมริกา มีเป้าหมายเพื่อดึงการลงทุนในกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์

"บีโอไอมีหลายแพ็กเกจเพิ่มเติม เพื่อดึงการลงทุนจากต่างประเทศ เฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่อีอีซี เช่นจะได้รับการลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มเติมร้อยละ 50 อีก 3 ปี จากเกณฑ์ปกติ แต่มีเงื่อนไขว่าโครงการต้องมีความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาในพื้นที่เพื่อพัฒนาบุคลากรด้วย เป็นต้น"

ที่มา: นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 16 - 19 มี.ค. 2568
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 48224
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 20/03/2025 5:12 pm    Post subject: Reply with quote

อุโมงค์รถไฟความเร็วสูงผาเสด็จและมวกเหล็ก อัพเดทงานก่อสร้างทางรถไฟความเร็วสูงสัญญาที่ 3-2
นิกเกิ้ล พาทัวร์ (Train Thailand)
Mar 20, 2025


https://www.youtube.com/watch?v=5hs2Vlbtdio
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 48224
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 21/03/2025 11:17 am    Post subject: Reply with quote

พาสำรวจสัญญาที่4-6 ช่วงพระแก้ว-สระบุรี รถไฟความเร็วสูงไทย-จีน Thailand-China High Speed Rail ล่าสุด
nanny official
Mar 21, 2025


https://www.youtube.com/watch?v=paMiLk1-5Io

**สัญญาที่ 4-6 ช่วงพระแก้ว-สระบุรี มีทั้งงานก่อสร้างคันทางระดับดินและโครงสร้างแบบยกระดับ ระยะทาง 31.6 กิโลเมตร หรือประมาณ 19.6 ไมล์ งบประมาณ 9,429 ล้านบาท ดำเนินการก่อสร้างโดย บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น ปัจจุบันดำเนินการคืบหน้า 8.57% ค่ะ
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 48224
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 23/03/2025 1:06 pm    Post subject: Reply with quote

งานก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงประเทศไทยล่าสุด (แก่งคอย-ปากช่อง)
รถไฟไทยสดใส
Mar 23, 2025


https://www.youtube.com/watch?v=KEKx5JbeHyM
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 48224
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 23/03/2025 5:33 pm    Post subject: Reply with quote

รถไฟ 3 สนามบินช้าอีก 3 เดือน EEC ชงร่างสัญญาร่วมทุนฉบับใหม่ มิ.ย.
Source - เว็บไซต์ประชาชาติธุรกิจ
Sunday, March 23, 2025 07:47

ช้าไปอีก 3 เดือน เลขาฯ อีอีซี กางร่างสัญญาร่วมทุนฉบับใหม่ ลุยเจรจาสถาบันการเงินปล่อยกู้โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน การันตีเอกชนผู้รับสัมปทานเดินหน้าคู่ขนานเมืองการบิน คาด ครม.เห็นชอบ มิ.ย.นี้ "อู่ตะเภา" ลุ้นคำตอบกระทรวงการคลังไฟเขียว "เมืองปลอดภาษี"

ดร.จุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ขณะนี้การแก้ไขร่างสัญญาโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) กับเอกชนมีความก้าวหน้าเกือบจะ 100% แล้ว

โดยเมื่อวันศุกร์ที่ 14 มีนาคม 2568 ทาง กพอ.ได้ไปประชุมกับธนาคารเพื่อสร้างความมั่นใจให้ธนาคาร โดยการปรับสัญญาสัมปทาน เพื่อจะทำให้โครงการสามารถเดินหน้าต่อไปได้ ทั้งนี้ ร่างสัญญาฉบับใหม่มีการปรับบางอย่างที่ต้องหย่อนลงจากสัญญาเดิม เพื่อให้โครงการดำเนินการไปได้เร็วขึ้น

สำหรับขั้นตอนทางกฎหมายภายในสิ้นเดือนมีนาคม 2568 จะนำร่างสัญญาที่แก้ไขเข้าที่ประชุมคณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือบอร์ด รฟท.พิจารณา เดือนเมษายน 2568 จะส่งให้สำนักงานอัยการสูงสุดตรวจสอบร่างสัญญา และเดือนพฤษภาคม 2568 จะส่งกลับมาเข้าบอร์ด กพอ.

จากนั้นนำร่างสัญญาฉบับใหม่เสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติต่อไป ตามขั้นตอนจะมีการลงนามในสัญญา ทางอีอีซีจะแจ้งให้เริ่มโครงการ คาดว่าประมาณเดือนมิถุนายน 2568 จะมีความชัดเจน จากเดิมจะต้องจบในเดือนเมษายน 2568

"แต่หากมีปัญหาเอกชนไม่สามารถดำเนินการตามกรอบที่วางไว้ กรณีเอกชนไม่ทำต่อ ผมเตรียมแผนก๊อก 2 ไว้ กรณีเลวร้ายสุด (Worst Case) รัฐเตรียมลงทุนก่อสร้างเอง อย่างไรก็ตาม โครงการรถไฟความเร็วสูงเส้นนี้อย่างไรก็ต้องเกิด มีการกำหนดความเร็วของรถไฟความเร็วสูงไว้ที่ 160 กม./ชม. จริง ๆ ไม่จำเป็นต้องไปเร็วกว่านี้

เพราะระยะทาง 200 กม. และแต่ละสถานีสั้น ๆ หากอัดความเร็วเข้าไปพอใกล้ ๆ ถึงสถานีต้องลดความเร็ว สถานีไกลสุดระยะทาง 50-60 กม.เท่านั้น จึงไม่ต้องเพิ่มความเร็วให้สูงมาก เพราะค่าการบำรุงดูแลรักษาแพง ที่ผ่านมามีความล่าช้าในการส่งมอบพื้นที่ ตอนนี้เรียบร้อยหมดแล้ว ถ้าเอกชนพร้อมทุกอย่างเดินไปได้" ดร.จุฬากล่าว

ดร.จุฬากล่าวต่อไปว่า สำหรับโครงการสนามบินอู่ตะเภาได้หารือกันล่าสุดสัปดาห์ที่แล้ว โดยทางบริษัท อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จำกัด (UTA) ผู้ได้รับสัมปทานในการก่อสร้างได้ทำหนังสือมายัง กพอ. แจ้งว่าจะเริ่มดำเนินโครงการโดยไม่รอโครงการรถไฟความเร็วสูง ทาง UTA ได้สอบถามถึงเรื่องสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่จะได้รับ

โดยเฉพาะประเด็นเรื่องเมืองปลอดภาษี ว่าจะให้สิทธิประโยชน์ในส่วนนี้อย่างไร เพราะ UTA อาจต้องเตรียมไปชักชวนผู้ประกอบการรายอื่นมาลงทุน ซึ่ง กพอ.มีอำนาจทำได้ส่วนหนึ่ง แต่อีกส่วนหนึ่งต้องให้กระทรวงการคลังออกกฎหมายเพิ่มเติม คาดว่าน่าจะเริ่มดำเนินการได้ใกล้เคียงกันกับโครงการรถไฟความเร็วสูง
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 48224
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 24/03/2025 8:44 pm    Post subject: Reply with quote

สำรวจความคืบหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูง โดยนั่งรถไฟจากโคราช-บางซื่อ วันที่ 9 มีนาคม 2568
ไปตามราง Pai Tam Rang
Mar 24, 2025


https://www.youtube.com/watch?v=wVaM21hI3uw

สำรวจความคืบหน้าการก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน กรุงเทพ-นครราชสีมา(ระยะแรก) ด้วยการนั่งรถไฟขบวนรถธรรมดา ขบวนที่ 234 สุรินทร์-กรุงเทพ(หัวลำโพง) จากสถานีนครราชสีมา-ชุมทางบางซื่อ วันที่ 9 มีนาคม 2568
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44579
Location: NECTEC

PostPosted: 24/03/2025 10:33 pm    Post subject: Reply with quote

”สุรเชษฐ์“ สับ รบ.แก้สัญญารถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน ย้อนถามใครสั่ง
การเมือง
วันจันทร์ ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2568 เวลา 20:17 น.

“สุรเชษฐ์” สับ รบ.แก้สัญญารถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน ย้อนถามใครสั่ง จวกหาเหตุขยายสัมปทานทางด่วนยาวจนข้ามศตวรรษ จี้ “นายกฯ อิ๊งค์” ลุกแจง

เมื่อเวลา 18.10 น.วันที่ 24 มี.ค.68 นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายว่า ขออภิปรายการทุจริตเชิงนโยบาย 2 เรื่องจากยุคอำนาจเก่า แต่มาเอื้อประโยชน์โดยรัฐบาลแพทองธาร คือ 1.การแก้สัญญาโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน มีลักษณะให้นายทุนคว้าสัมปทานให้ได้ก่อนแล้วประโยชน์เพิ่มโดยการแก้ไขสัญญาในภายหลัง เป็นความร่วมมือระหว่างทุนใหญ่กับนายใหญ่ที่หาประโยชน์ผลประโยชน์เพิ่มจากการแก้สัญญา

โครงการนี้เซ็นสัญญาไปแล้ว 5 ปีตั้งแต่วันที่ 24 ต.ค.62 แต่ยังไม่เริ่มโครงการ ทราบว่านายทุนใหญ่ยังไม่อยากเริ่มงาน ขอเลื่อนไปเรื่อยๆ เพราะขาดสภาพคล่องทางการเงิน อยากแก้สัญญาก่อนค่อยเริ่มงาน แม้ที่ผ่านมา นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม บอกจะไม่มีการแก้สัญญาให้ แต่สุดท้ายก็มีการแก้สัญญา ใครสั่งให้กลับลำ นายใหญ่ ทุนใหญ่หรือนายน้อยสั่งการเอง จนทำให้ นายสุริยะ เป็นโมฆะบุรุษ

นายสุรเชษฐ์ กล่าวว่า สัญญาที่แก้ไขจากเดิมรัฐจะแบ่งจ่ายเมื่อเอกชนเปิดเดินรถไฟความเร็วสูง รัฐจะจ่ายเป็นงวดตามความก้าวหน้าของงานที่การรถไฟฯ ตรวจรับ นี่เป็นการทุจริตเชิงนโยบายที่รัฐหาเงินมาประเคนเอกชน ส่วนประชาชนทั่วไปและข้าราชการซวยเพราะเป็นการเบียดบังพื้นที่งบประมาณในอีกหลายปี กล่าวโดยสรุปคือเป็นการทุจริตเชิงนโยบาย นายทุนใหญ่พยายามคว้าสัมปทาน หากไปต่อได้ก็กำไร หากไปไม่ไหวก็มาต่อรองขอแก้สัญญา ทราบมาว่านายกฯ จะแก้สัญญาแน่ๆ เพื่อเพื่อนพ่อ นายกฯ รู้หรือไม่

นายสุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า และ 2.การขยายสัมปทานทางด่วนที่ทุนใหญ่ได้สิทธิ์กินต่อ และขอขยายสัมปทานไปเรื่อยๆ คือทางด่วนขั้นที่ 2 เป็นเส้นที่สร้างรายได้หลัก เส้นนี้ทำกำไรงามมาก จึงต้องหาเหตุขยายสัมปทานโดยทุนใหญ่กับนักการเมืองร่วมกัน ขณะนี้มีความพยายามจะขยายสัมปทานอีกครั้ง โดยการพยายามจะทำทางด่วนซ้อนทางด่วน หรือทางพิเศษชั้นที่สองหรือ Double deck ระยะทาง 17 กิโลเมตรจากงามวงศ์วานถึงพระราม 9 งบประมาณ 34,800 ล้านบาท ที่สำคัญทางขึ้นและทางลงขึ้นจากทางด่วนเดิม

ซึ่งโครงสร้างนี้ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาการจราจรติดขัด ถือเป็นการผลาญงบประมาณโดยไม่จำเป็น สร้างโดยไม่ช่วยแก้ปัญหา โอกาสคุ้มค่ามีน้อย โอกาสคุ้มทุนไม่มีเลย แม้จะขาดทุนแต่ก็ยังหาสร้างกัน แต่แท้จริงแล้วอยากกอดรายได้ก้อนเดิมจากทางด่วนขั้นที่ 2 ถือเป็นดีลที่ช่วยให้มีกินมีใช้ไปพร้อมกันทั้งนายทุนและนายใหญ่

“ตระกูลชินวัตรกล้าหาเหตุมาขยายสัมปทาน จากเดิมที่จะหมดอายุในปี 2578 จะขอขยายไปอีก 22 ปี 5 เดือน หมดสัมปทานในปี 2601 เรียกว่าข้ามศตวรรษกันไปเลย เรียกว่าดีลซ่อนไพ่ ต้องเข้าใจว่าการลดค่าทางด่วนให้เหลือ 50 บาทต่อสาย ไม่ใช่ว่าเอกชนใจดียอมลดราคาให้ เอกชนได้เงินเท่าเดิมในรูปแบบที่เปลี่ยนไป พร้อมกับกำไรที่เพิ่มขึ้นจากการขยายสัมปทาน นายทุน นายใหญ่สั่งแก้สัญญาผ่านนายน้อยแน่ๆ ขอให้นายกฯ ลุกขึ้นมาชี้แจงเรื่องนี้ด้วยตนเอง เพราะซูเปอร์ดีลทั้งสองเรื่อง ต้องใช้อำนาจของคณะรัฐมนตรีที่มีนายกฯ เป็นผู้รับผิดชอบหลัก ท่านจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้“ นายสุรเชษฐ์ กล่าว... อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.khaosod.co.th/politics/news_9688110
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 591, 592, 593, 594, 595, 596  Next
Page 592 of 596

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©