ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์

[Wisarut]

รฟท.เผย ภาพรวมผู้โดยสารระหว่าง 10 - 13 เมษายน 68 ทะลุ 3.3 แสนคน ใต้ครองแชมป์เดินทางสูงสุด
วันจันทร์ ที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2568 เวลา 13.19 น.


นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยภาพรวมการเดินทางของวันนี้ (14 เมษายน 2568) ที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ และสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) ว่า ประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวช่วงหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ 2568 ในวันนี้เริ่มบางตาแล้ว หลังจากที่ประชาชนส่วนใหญ่ทยอยเดินทางกันมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 10 - 13 เมษายน ที่ผ่านมา ซึ่งในวันนี้ การรถไฟฯ ได้เพิ่มขบวนรถเสริมพิเศษ จำนวน 2 ขบวน ในเส้นทางสายเหนือ และสายใต้ ดังนี้1.ขบวน 984 ยะลา – สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ออกเวลา 15.35 น. ถึงเวลา 09.50 น. 2.ขบวน 6 เชียงใหม่ – สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ออกเวลา 19.35 น. ถึงเวลา 08.10 น.

สำหรับภาพรวมการเดินทางตั้งแต่วันที่ 10 - 13 เมษายน 2568 มีผู้โดยสารทั้งสิ้น 339,401 คน เป็นผู้โดยสารขบวนรถปกติ 333,270 คน และขบวนรถเสริมพิเศษช่วยการโดยสารอีก 6,131 คน แบ่งเป็น ผู้โดยสารขาเข้า 153,782 คน ขาออก 185,619 คน โดยเส้นทางที่มีผู้โดยสารเดินทางหนาแน่นที่สุดคือ สายใต้ มีผู้โดยสารเดินทาง จำนวน 120,954 คน รองลงมาคือสายตะวันออกเฉียงเหนือ 88,455 คน สายเหนือ 62,054 คน สายตะวันออก 41,101 คน สายมหาชัย 23,227 คน และสายแม่กลอง 3,610 คน


การรถไฟฯ ยังคงตระหนักถึงเรื่องความปลอดภัยของผู้ใช้บริการเป็นสำคัญ จึงจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ดูแลความปลอดภัย และจัดตั้งศูนย์ปลอดภัย เพื่อเฝ้าระวังตามสถานีรถไฟและบนขบวนรถทั่วประเทศ ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ ขอความร่วมมือผู้ใช้บริการทุกท่าน ปฏิบัติตามข้อปฏิบัติเมื่ออยู่ในสถานีรถไฟ ตรวจสอบรายละเอียดของตั๋วรถไฟให้เรียบร้อยก่อนเดินทาง ไม่รับหรือฝากสิ่งของจากคนแปลกหน้า ห้ามดื่มสุรา และสูบบุหรี่ ผู้ที่ฝ่าฝืนมีความผิดตามกฎหมาย หากพบเห็นเหตุหรือบุคคลที่มีพฤติกรรมน่าสงสัย ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่บนขบวนรถ หรือเจ้าหน้าที่บริเวณสถานีรถไฟ

ผู้โดยสารที่ประสงค์จะเดินทาง สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 หรือเฟซบุ๊กแฟนเพจ ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย ตลอด 24 ชั่วโมง

- 030

[Mongwin]

ยังหนาแน่น การรถไฟฯ คาดวันนี้ปชช.เดินทางกลับกรุงเทพฯ กว่า 1 แสนคน
กรุงเทพธุรกิจ 17 เม.ย. 2025 เวลา 15:31 น.

ยังหนาแน่น การรถไฟฯ คาดวันนี้ประชาชนเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ กว่า 1 แสนคน หลังสิ้นสุดเทศกาลสงกรานต์ 2568 - เพิ่มขบวนรถเสริมพิเศษอีก 2 ขบวน มั่นใจไม่มีผู้โดยสารตกค้าง
การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) คาดวันนี้ (17 เมษายน 2568) ประชาชนกลับเข้ากรุงเทพฯ กว่า 1 แสนคน หลังสิ้นสุดเทศกาลสงกรานต์ 2568 เพิ่มขบวนรถเสริมพิเศษอีก 2 ขบวน ครอบคลุมเส้นทางสายตะวันออกเฉียงเหนือ มั่นใจรองรับผู้โดยสารเดินทางกลับกรุงเทพฯ ได้โดยไม่มีผู้โดยสารตกค้าง

นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า วันนี้ (17 เม.ย. 68) บรรยากาศการเดินทางกลับกรุงเทพฯ ของประชาชนไม่หนาแน่นมากนักเมื่อเทียบกับเมื่อวานนี้ ซึ่งคาดว่าจะมีผู้โดยสารเดินทางกว่า 100,647 คน แบ่งเป็น ขาเข้า 56,362 คน และขาออก 44,285 คน

ทั้งนี้ การรถไฟฯ ได้จัดขบวนรถประจำ จำนวน 214 ขบวน พร้อมเพิ่มขบวนรถเสริมพิเศษอีก จำนวน 2 ขบวน ครอบคลุมเส้นทางสายตะวันออกเฉียงเหนือ ดังนี้

ขบวน 933 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ - อุบลราชธานี ออกเวลา 09.40 น. ถึงเวลา 18.55 น.
ขบวน 934 อุบลราชธานี - สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ออกเวลา 20.00 น. ถึงเวลา 06.30 น.
ยังหนาแน่น การรถไฟฯ คาดวันนี้ปชช.เดินทางกลับกรุงเทพฯ กว่า 1 แสนคน

สำหรับสถิติการเดินทางของเมื่อวานนี้ (16 เมษายน 2568) ซึ่งเป็นวันหยุดสุดท้ายของเทศกาลสงกรานต์ 2568 มีผู้โดยสารเดินทางโดยรถไฟทั่วประเทศ จำนวน 84,517 คน โดยเป็นผู้โดยสารขบวนรถปกติ 81,248 คน และขบวนรถเสริมพิเศษช่วยการโดยสารอีก 3,269 คน แบ่งเป็น ผู้โดยสารขาเข้า 48,848 คน ขาออก 35,669 คน

เส้นทางที่มีผู้โดยสารเดินทางหนาแน่นที่สุด คือ
สายใต้ มีผู้โดยสารเดินทาง จำนวน 28,520 คน
สายตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 24,616 คน
สายเหนือ จำนวน 15,886 คน
สายตะวันออก จำนวน 9,428 คน
สายมหาชัย จำนวน 4,987 คน
สายแม่กลอง จำนวน 1,080 คน
ซึ่งภาพรวมการโดยสารนั้น จำนวนขบวนรถและตู้โดยสารเพียงพอ ไม่พบว่ามีผู้โดยสารตกค้าง การจำหน่ายตั๋วยังเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

อย่างไรก็ตาม การรถไฟฯ ขอความร่วมมือผู้ใช้รถใช้ถนนบริเวณจุดตัดเสมอระดับทางรถไฟ-รถยนต์ ให้ปฏิบัติตามมาตรการด้านความปลอดภัย อาทิ การหยุดรถห่างจากทางรถไฟไม่น้อยกว่า 5 เมตร ห้ามขับรถแซงขึ้นหน้ารถคันอื่นภายในระยะ 30 เมตรก่อนถึงทางเดินรถที่ตัดข้ามทางรถไฟ และหากเห็นป้ายสัญลักษณ์ ได้แก่ ป้ายหยุด ป้ายเตือนรูปกากบาท "ระวังรถไฟ" ป้ายทรงสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนสีอำพัน มีเครื่องจักรไอน้ำและรั้วกั้น ให้ชะลอความเร็วและดูให้แน่ใจว่าไม่มีรถไฟแล่นผ่านมา เพื่อความปลอดภัยแก่ชีวิตและทรัพย์สินของผู้ใช้ทาง

[Wisarut]

บอร์ด รฟท.ไฟเขียวแต่งตั้งรองผู้ว่าฯ 2 คน เติมครบโครงสร้าง จับตา "วีริศ" เกลี่ยภารกิจรับผิดชอบงานใหม่
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันศุกร์ ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2568 เวลา 13:00 น.
ปรับปรุง: วันศุกร์ ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2568 เวลา 14:02 น.



“วีริศ” ลงนามแต่งตั้งรองผู้ว่าฯ 2 คน ทดแทนที่เกษียณอายุ หลังบอร์ด รฟท.ไฟเขียวผลคัดเลือก ทำให้รองฯ มีครบ 7 คนแล้ว และเตรียมเกลี่ยภารกิจกันใหม่

รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2568 ที่ผ่านมา นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าฯ รฟท. ได้ลงนามในคำสั่งการรถไฟแห่งประเทศไทย เลขที่ บคบ.175/2568 เรื่อง แต่งตั้งเลื่อนระดับพนักงาน 2 อัตรา ได้แก่
1. นายอนันต์ เจนงามกุล วิศวกรใหญ่ฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง (นักบริหาร 13) ดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าฯ รฟท. (นักบริหาร 14)
2. นายฐากูร อินทรชม ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการเดินรถ (นักบริหาร 13) ดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าฯ รฟท. (นักบริหาร 14) มีผลตั้งแต่วันลงนามแต่งตั้งเป็นต้นไป


ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท.มีมติเมื่อวันที่ 8 เม.ย. 2568 เห็นชอบผลการคัดเลือกรองผู้ว่าฯ ตามที่คณะอนุกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งเลื่อนระดับและการแต่งตั้งเลื่อนระดับพนักงาน ตำแหน่งรองผู้ว่าการฯ โดยได้มีการประกาศรับสมัครคัดเลือกพนักงานการรถไฟฯ จำนวน 2 อัตรา และคัดเลือกผู้ที่มีความเหมาะสม โดยตามโครงสร้าง รฟท.จะมีระดับรองผู้ว่าฯ จำนวน 7 คน ซึ่งก่อนหน้านี้เนื่องจากมีการเกษีษณอายุไป 2 คน และยังไม่ได้รับการแต่งตั้งทดแทน ทำให้มีรองผู้ว่าฯ รฟท.จำนวน 5 คน จึงมีคำสั่งมอบหมายภารกิจความรับผิดชอบงาน ดังนี้

1. นายจเร รุ่งฐานีย รับผิดชอบฝ่ายการช่างโยธา, ฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง, ฝ่ายการอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม

2. นายอวิรุทธ์ ทองเนตร รับผิดชอบ สำนักงานอาณาบาล ฝ่ายปฏิบัติการเดินรถ, ฝ่ายบริการโดยสาร, ฝ่ายบริการสินค้า, สำนักงานยุทธศาสตร์ธุรกิจเดินรถ, กองควบคุมปฏิบัติการ

3. นายอนันต์ โพธิ์นิ่มแดง รับผิดชอบ ฝ่ายบริหาร ทรัพย์สิน, ฝ่ายบริหารโครงการพัฒนาที่ดิน, สำนักงานจัดหาพัสดุซ่อมบำรุง และภารกิจใหม่ ฝ่ายการช่างกล

4. นายสุชีพ สุขสว่าง รับผิดชอบ สำนักงานบริการโครงการระบบรถไฟฟ้า, สำนักงานแพทย์, ฝ่ายทรัพยากรบุคคล, สถาบันฝึกอบรมระบบราง

5. นายเอก สิทธิเวคิน รับผิดชอบ สำนักงานนโยบายแผนวิจัยและพัฒนา, ศูนย์บริหารความเสี่ยง ฝ่ายการเงินและบัญชี ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ ฝ่ายการพัสดุ

[Mongwin]

ประชาชนนั่ง "รถไฟ-รถไฟฟ้า" กลับบ้านสงกรานต์ 7 วัน 7.9 ล้านคน อุบัติเหตุทางรางลดลง 25% | เดลินิวส์
Source - เว็บไซต์เดลินิวส์
Friday, April 18, 2025 15:46

7 วันสงกรานต์ ประชาชนใช้บริการระบบราง “รถไฟ-รถไฟฟ้า” 7.9 ล้านคน เพิ่มขึ้น 1.35% อุบัติเหตุทางรางลดลง 25% ขณะที่ 18 เม.ย. ประชาชนยังทยอยเดินทางนั่งรถไฟเข้ากรุงต่อเนื่อง

เมื่อวันที่ 18 เม.ย. นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2568 ระหว่างวันที่ 11-17 เม.ย. 2568 รวม 7 วัน มีผู้ใช้บริการระบบรางรวม 7,938,560 คน-เที่ยว มากกว่าเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2567 จำนวน 105,425 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้น 1.35% ประกอบด้วย 1. รถไฟระหว่างเมืองของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) มีผู้ใช้บริการรวม 575,874 คน-เที่ยว มากกว่าผู้ใช้บริการสะสม 7 วัน ของเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2567 จำนวน 11,095 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้น 1.96%

และ 2. ระบบรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล สะสม 7 วัน มีผู้ใช้บริการ 7,362,686 คน-เที่ยว มากกว่าเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2567 จำนวน 94,330 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้น 1.30% ประกอบด้วย รถไฟฟ้า Airport Rail Link 384,391 คน-เที่ยว (มากกว่าสงกรานต์ 67 จำนวน 2,088 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้น 0.55%), รถไฟฟ้าชานเมือง (สายสีแดง) 190,370 คน-เที่ยว (มากกว่าสงกรานต์ 67 จำนวน 33,880 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้น 21.65%), รถไฟฟ้าสายฉลองรัชธรรม (สีม่วง) 302,781 คน-เที่ยว (มากกว่าสงกรานต์ 67 จำนวน 11,872 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้น 4.08%)

รถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล (สีน้ำเงิน) 2,122,194 คน-เที่ยว (มากกว่าสงกรานต์ 67 จำนวน 66,567 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้น 3.24%), รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว (สายสุขุมวิทและสายสีลม) 3,798,818 คน-เที่ยว (น้อยกว่าสงกรานต์ 67 จำนวน 86,655 คน-เที่ยว หรือลดลง 3.62%) รถไฟฟ้าสายสีทอง 62,226 คน-เที่ยว (น้อยกว่าสงกรานต์ 67 จำนวน 7,662 คน-เที่ยว หรือลดลง 10.96%), รถไฟฟ้าสายนัคราพิพัฒน์ (สีเหลือง) 236,786 คน-เที่ยว (มากกว่าสงกรานต์ 67 จำนวน 60,687 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้น 34.46%) และรถไฟฟ้าสายสีชมพู 265,120 คน-เที่ยว (มากกว่าสงกรานต์ 67 จำนวน 13,553 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้น 5.39%)

สำหรับด้านความปลอดภัย ตลอดช่วงวันหยุดต่อเนื่องของเทศกาลสงกรานต์ 2568 รวม 7 วัน พบว่า มีอุบัติเหตุทางรางลดลง 25% เมื่อเทียบกับเทศกาลสงกรานต์ 2567 โดยมีอุบัติเหตุทางราง รวม 9 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และผู้บาดเจ็บ 3 ราย ส่วนระบบรถไฟฟ้ามีเหตุรถไฟฟ้าขัดข้อง 4 ครั้ง (เทศกาลสงกรานต์ 2567 มีรถไฟฟ้าขัดข้อง 4 ครั้ง)

ด้านนายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่า รฟท. กล่าวว่า บรรยากาศการเดินทางของวันที่ 18 เม.ย. 2568 ยังคงมีประชาชนทยอยเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ อย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของขบวนรถทางไกล และรถไฟชานเมือง ซึ่ง รฟท. จัดเตรียมเจ้าหน้าที่คอยให้บริการไว้อย่างเต็มกำลัง เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และปลอดภัย โดยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 ระหว่างวันที่ 11-17 เม.ย. จัดขบวนรถให้บริการอย่างเพียงพอ ไม่มีผู้โดยสารตกค้าง

[Mongwin]

รฟท.เซ็นจ้าง”สกาย ไอซีที -ร็อคเทค”กว่า 1.48 พันล้านบาทติดตั้งระบบโครงข่ายโทรคมนาคมเพิ่มความปลอดภัยเดินรถทั่วประเทศ
Source - ผู้จัดการออนไลน์
Monday, April 21, 2025 17:44

รฟท.เซ็นสัญญาจ้าง กิจการค้าร่วม อาร์ยูทีเอส (บมจ.สกาย ไอซีที -ร็อคเทค โกลบอล- ยูไนเต็ด เทเลคอมฯ”ติดตั้งระบบโครงข่ายโทรคมนาคมครอบคลุมทั่วประเทศ วงเงิน 1.48 พันล้านบาท เพื่อเสริมประสิทธิภาพการเดินรถและความปลอดภัย กรอบเวลาดำเนินงาน 560 วัน

รายงานข่าวจาก การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) แจ้งว่า วันนี้ (21 เมษายน 2568) นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าฯรฟท. ได้ลงนามสัญญาโครงการติดตั้งระบบโครงข่ายโทรคมนาคม กับกิจการค้าร่วม อาร์ยูทีเอส ประกอบด้วย ผู้แทนจาก บริษัท สกาย ไอซีที จำกัด (มหาชน) บริษัท ร็อคเทค โกลบอล จำกัด (มหาชน) บริษัท ยูไนเต็ด เทเลคอม เซลส์ แอนด์ เซอร์วิสเซส จำกัด วงเงิน 1,487.6 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ) พร้อมด้วยนายสุชีพ สุขสว่าง รองผู้ว่าการรถไฟฯ ลงนามจ้างที่ปรึกษาโครงการฯ กลุ่มบริษัท CMSR วงเงิน 46.759 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ) ควบคุมเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารให้ครอบคลุมทุกเส้นทางรถไฟทั่วประเทศ เพิ่มประสิทธิภาพการเดินรถ ลดความเสี่ยงในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ รวมถึงสนับสนุนระบบอาณัติสัญญาณ เครื่องกั้นถนน กล้องวงจรปิด (CCTV) และระบบติดตามขบวนรถ

โดย มีระยะเวลาดำเนินงาน 560 วัน นับถัดจากวันลงนามสัญญา กำหนดจ่ายเงิน จำนวน 10 งวด ทั้งนี้ กรณีผู้รับจ้าง นำงานจ้างไปจ้างช่วงให้ผู้อื่นอีกทอดหนึ่งโดยไม่ได้รับอนุญาตจากฝ่ายการอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม การรถไฟฯ กำหนดค่าปรับสำหรับการฝ่าฝืนดังกล่าว 10% ของวงเงินจ้างช่วงนั้น และกรณีที่ผู้รับจ้างปฏิบัติผิดสัญญาจ้างจะมีค่าปรับเป็นรายวันในอัตรา 0.10% ของราคางาน

ทั้งนี้กำหนดระยะเวลารับประกันความชำรุดบกพร่องของงานที่เกิดขึ้นภายในระยะเวลาไม่น้อยกว่า 730 วันนับถัดจากวันที่การรถไฟฯได้รับมอบงานโดยจะต้องจัดการซ่อมแซมแก้ไขให้ใช้การได้ดีดังเดิมภายใน 1 วัน นับถัดจากวันที่ได้รับแจ้งความชำรุดบกพร่อง

นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าฯรฟท. กล่าวว่า สำหรับการติดตั้งระบบโครงข่ายโทรคมนาคมในครั้งนี้ จะช่วยยกระดับมาตรฐานด้านการสื่อสารของการรถไฟฯ ด้วยการติดตั้งสายเคเบิลใยแก้วนำแสง (Fiber Optic) ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีที่ครอบคลุมเส้นทางรถไฟทั่วประเทศ ทำให้ระบบสารสนเทศของฝ่าย/สำนักงานต่าง ๆ ที่ใช้งานภายในการรถไฟฯ สามารถใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ และยังมีการติดตั้งระบบโทรศัพท์ควบคุมการเดินรถและโทรศัพท์พื้นฐาน ทำให้การเดินรถมีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ในอนาคตโครงข่ายเคเบิลใยแก้วนำแสงนี้ ยังสามารถเปิดให้ภาคเอกชนเช่าใช้งานหรือให้บริการเพิ่มเติมได้อีกด้วย

การลงทุนครั้งนี้ เป็นการปูทางสู่การใช้เทคโนโลยีสื่อสารขั้นสูงในอนาคต อาทิ ระบบควบคุมการเดินรถอัตโนมัติ ETCS Level 2 และระบบสื่อสารไร้สายสำหรับระบบราง (FRMCS) ซึ่งเป็นมาตรฐานการสื่อสารของเครือข่ายรถไฟทั่วโลก รองรับเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่กำลังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และยังรองรับการเติบโตของระบบขนส่งทางรางที่จะเป็นระบบการขนส่งหลักทั้งในด้านการขนส่งผู้โดยสารและสินค้า โดยเฉพาะด้านการบริการผู้โดยสารที่จะสะดวกสบายและทันสมัยยิ่งขึ้น ถือเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลที่มอบหมายให้การรถไฟฯ ดำเนินงานอย่างเร่งด่วน เพื่อยกระดับการให้บริการขนส่งระบบรางให้สอดคล้องกับโครงสร้างพื้นฐานที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง

“พิธีลงนามในวันนี้ นับเป็นก้าวสำคัญของการรถไฟฯ ในการยกระดับระบบสื่อสารโทรคมนาคมในทุก ๆ ด้าน ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ใช้งานของการรถไฟฯ และเพียงพอต่อความต้องการของผู้ใช้บริการในส่วนของการขนส่งผู้โดยสาร และการขนส่งสินค้า ทั้งในปัจจุบันและอนาคต ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับการรถไฟฯ ในระดับสากลได้อย่างยั่งยืน”

SRT Signs Contract Worth Over 1.48 Billion Baht with "SKY ICT - ROCKTECH" to Install Nationwide Telecommunications Network for Enhanced Train Safety

Source - Manager Online
Monday, April 21, 2025 17:44

The State Railway of Thailand (SRT) has signed a contract with the RUTS Joint Venture (SKY ICT PCL - ROCKTECH Global - United Telecom Sales and Services Ltd.) to install a nationwide telecommunications network. The project, valued at 1.48 billion baht, aims to enhance train operation efficiency and safety, with a timeframe of 560 days.

According to a news report from the SRT, on this day (April 21, 2025), Mr. Weerayut Amrphala, the Governor of the SRT, signed the contract for the telecommunications network installation project with the RUTS Joint Venture. Representatives from SKY ICT Public Company Limited, ROCKTECH Global Company Limited (Public), and United Telecom Sales and Services Company Limited were present. The contract value is 1,487.6 million baht (including 7% VAT). Additionally, Mr. Suchip Suksawang, Deputy Governor of the SRT, signed a contract with the CMSR Group, the project consultant, for 46.759 million baht (including 7% VAT). The consultancy aims to oversee the development of communication infrastructure to cover all railway lines nationwide, improve train operation efficiency, reduce operational risks for staff, and support signaling systems, level crossings, CCTV, and train tracking systems.

The project has a duration of 560 days from the contract signing date, with payments scheduled in 10 installments. The SRT has stipulated a penalty of 10% of the subcontracted value if the contractor subcontracts work without permission from the Signaling and Telecommunications Division. Furthermore, a daily penalty of 0.10% of the contract value will be imposed for any breach of contract.

The warranty period for defects occurring within the work is no less than 730 days from the date the SRT receives the completed work. The contractor is required to repair and restore any defects to proper working order within one day of being notified.

Mr. Weerayut Amrphala, the Governor of the SRT, stated that the installation of the telecommunications network will elevate the SRT's communication standards by implementing a Fiber Optic cable infrastructure covering railway lines nationwide. This will enable the efficient use of information systems by various SRT departments and offices. The project also includes the installation of train control telephones and landline telephones, enhancing the safety and efficiency of train operations. Moreover, the fiber optic network can be leased to the private sector for additional services in the future.

This investment paves the way for the adoption of advanced communication technologies in the future, such as the European Train Control System (ETCS) Level 2 and the Future Railway Mobile Communication System (FRMCS), which are global railway network communication standards. It supports continuously emerging new technologies and accommodates the growth of rail transport as a primary mode of passenger and freight transport, particularly enhancing passenger services with greater convenience and modernity. This is a crucial policy of the government, tasking the SRT with urgent implementation to upgrade rail transport services in line with continuously developing infrastructure.

"Today's signing ceremony marks a significant step for the SRT in upgrading telecommunications systems in all aspects, covering all operational areas of the SRT and meeting the needs of both passenger and freight transport users, both now and in the future. This will sustainably enhance the SRT's competitiveness at an international level," Mr. Weerayut concluded.

[Wisarut]

[Wisarut]

เรื่องจริงบนรถไฟกับภารกิจยื้อชีวิต 30 นาที
“เพราะความตาย…ไม่เคยเตือนล่วงหน้า”
เมื่อคืนนี้ ฉันขึ้นรถไฟจากชุมพร เวลาประมาณสี่ทุ่ม มุ่งหน้าไปประชุมที่กรุงเทพฯ ด้วยความตั้งใจแค่จะพักผ่อนให้พอ
แต่ในช่วง ตีสามถึงเกือบตีสี่ เสียงร้องของผู้โดยสารทำให้ฉันต้องลุกขึ้น
“เจ้าหน้าที่หมดสติ!”
ฉันรีบเข้าไปดู…
เขาไม่หายใจ ไม่มีชีพจร หัวใจหยุดเต้นแน่นิ่ง
ฉันเริ่ม #CPR ทันที
มีเพียงผู้โดยสาร 2 คนที่เข้ามาช่วย —
คนหนึ่งจับเวลา อีกคนช่วยกดหน้าอกกับฉัน
ส่วนเจ้าหน้าที่รถไฟ แม้ไม่ได้ช่วยกู้ชีพโดยตรง แต่ก็รีบ โทรแจ้ง 1669
และช่วย หยุดขบวน ให้รถกู้ชีพจากราชบุรีเข้ามารับตัว
เราทำ CPR ต่อเนื่อง 30 นาทีเต็ม
แต่สุดท้าย เมื่อทีมกู้ชีพมาถึง
เขาไม่ตอบสนอง…และ #เสียชีวิต
ฉันขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตอย่างสุดหัวใจ
และในฐานะแพทย์ — ฉันตั้งคำถาม:
• ทำไมขบวนรถไฟไม่มีเครื่อง AED ติดไว้เลย?
• ทำไมเจ้าหน้าที่รถไฟถึงยังไม่ได้รับการฝึก CPR?
• และทำไม…ในนาทีที่ชีวิตแขวนอยู่กับความช่วยเหลือ จึงมีเพียงแค่ผู้โดยสารธรรมดา 2 คนที่ยื่นมือเข้ามา?
เพราะ CPR ไม่ใช่หน้าที่ของหมอเท่านั้น
แต่คือหน้าที่ของมนุษย์ ที่ไม่อยากเห็นใครตายต่อหน้า
เรียนรู้ไว้ — อาจถึงตาคุณต้องช่วยใครสักคน
• กดหน้าอก 100–120 ครั้ง/นาที ลึก 5–6 ซม.
• โทร 1669 ทันที
• ใช้ AED ถ้ามี
https://www.facebook.com/PPobgyn12/posts/1323889365872737

[Wisarut]

(คลิป) “เขื่อนลำตะคอง” แห้งขอด เหลือน้ำเลี้ยงเมืองโคราชแค่ 9% ทางรถไฟสายประวัติศาสตร์ ร.5 โผล่ยาว
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันพุธที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2568 เวลา 17:32 น.
ปรับปรุง: วันพุธที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2568 เวลา 17:32 น.


ศูนย์ข่าวนครราชสีมา-โคราชแล้งจัด เขื่อนลำตะคอง แห้งขอด ถนนมิตรภาพสายเก่า -คันทางรถไฟสายประวัติศาสตร์ สมัยรัชกาลที่ 5 โผล่พ้นน้ำยาวหลายกิโลฯ เหลือน้ำใช้การได้ เพื่อส่งจ่ายหล่อเลี้ยงเมืองโคราช 5 อำเภอ แค่ 9 %

วันนี้ (23 เม.ย.68) โครงการชลประทานนครราชสีมา รายงานว่า อ่างเก็บน้ำลำตะคอง อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ระดับน้ำเก็บกักลดฮวบ อยู่ในเกณฑ์น้ำน้อยวิกฤติ เหลือปริมาตรน้ำเก็บกักปัจจุบันอยู่ที่ 51.25 ล้านลูกบาศก์เมตร(ลบ.ม.) หรือ คิดเป็น 16.30 % ของระดับความจุเก็บกักทั้งหมด 314.49 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยเป็นน้ำใช้การได้พียง 28.53 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 9.78 % เท่านั้น ซึ่งจะต้องส่งจ่ายไปให้ 5 อำเภอของ จ.นครราชสีมา ได้แก่ อ.สีคิ้ว สูงเนิน ขามทะเลสอ เมืองนครราชสีมา และ อ.เฉลิมพระเกียรติ ได้ใช้ผลิตประปาอุปโภค-บริโภค นอกจากนี้ ยังต้องส่งจ่ายไปรักษาระบบนิเวศลำน้ำ ช่วยภาคการเกษตร และภาคอุตสาหกรรมด้วย



เมื่อผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจอ่างเก็บน้ำลำตะคองหรือเขื่อนลำตะคอง บริเวณ ต.จันทึก อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา พบว่า ระดับน้ำภายในอ่างฯ ที่ลดลงอย่างมาก ทำให้ถนนมิตรภาพสายเก่าที่เคยจมอยู่ใต้น้ำ โผล่ให้เห็นเป็นทางยาว ซึ่งถนนมิตรภาพ สายเก่านี้ ถือเป็นเส้นทางประวัติศาสตร์ ใช้งบประมาณก่อสร้างระหว่างรัฐบาลสหรัฐอเมริกากับรัฐบาลไทย เพื่อเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคม บริเวณบ้านท่างอย ต.จันทุก อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ไปยัง จ.อุดรธานี แต่เมื่อมีการสร้างอ่างเก็บน้ำและเปิดใช้งานเมื่อปี 2512 ถนนมิตรภาพสายเก่านี้ ก็จมอยู่ใต้น้ำนับแต่นั้นมา และโผล่ให้เห็นเฉพาะปีที่ระดับน้ำภายในอ่างฯ ลดลงอย่างมาก ซึ่งปีนี้ถนนก็โผล่ขึ้นมาให้เห็นพร้อมกับสันดอนยาว กว่า 10 กิโลเมตร จนกลายเป็นทุ่งเลี้ยงสัตว์ของชาวบ้านในแถบนี้


ยิ่งกว่านั้น ปีนี้ที่บริเวณบ้านป่าไผ่ หมู่ 1 ต.จันทึก อ.ปากช่อง ยังเห็นคันทางรถไฟสายเก่า ซึ่งเป็นทางรถไฟสายประวัติศาสตร์ สายแรกของประเทศไทย สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 เมื่อปีพ.ศ. 2443 หรือ 125 ปี มาแล้ว รวมทั้งพื้นคอนกรีตชานชาลาสถานีรถไฟจันทึกเก่า ที่เคยทอดยาวลงไปในอ่างเก็บน้ำลำตะคอง ก็โผล่ให้เห็นเป็นทางยาวหลายกิโลเมตรด้วย โดยแนวรางรถไฟที่โผล่ให้เห็นจะทอดยาวลงไปในน้ำ ปัจจุบันเห็นเส้นทางเต็มไปด้วยก้อนหินหลายขนาด เพราะเหล็กรางรถไฟ คาดว่า จะผุกร่อนและถูกชาวบ้านลอบตัดไปขายเกือบหมดแล้ว


นอกจากนี้ชาวบ้าน (ขอสงวนชื่อ) บอกว่า ถนนมิตรภาพสายเก่า ทางรถไฟเดิม หรือ อาคารก่อสร้างต่างๆ จะโผล่พ้นน้ำมาให้เห็นเฉพาะในปีที่น้ำในอ่างเก็บน้ำลำตะคองเหลือน้ำน้อยมากๆ เท่านั้น ชาวบ้านที่ปลุกผัก หรือทำประมงจับปลาไปกินไปขาย ก็ต้องปรับสภาพ เพราะน้ำลด ทำให้หาปลาได้ยากขึ้น ต้องออกเรือไปจับปลาไกลจากฝั่งมากกว่าเดิม แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ต้องรอให้ฝนตกมาช่วยเดิมน้ำลงในอ่างฯ เท่านั้น
https://mgronline.com/local/detail/9680000038147