Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:318534
ทั่วไป:28029824
ทั้งหมด:28348358
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 418, 419, 420 ... 426, 427, 428  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45533
Location: NECTEC

PostPosted: 15/05/2025 10:45 am    Post subject: Reply with quote

(คลิป)โจรแสบ! ขโมยสายไฟเครื่องสูบน้ำอุโมงค์ทางลอดรถไฟโคราช ทำน้ำท่วมซ้ำซาก ชาวบ้านเดือดร้อนสัญจรไม่ได้
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันพุธ ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 เวลา 19:17 น.
ปรับปรุง: วันพุธ ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 เวลา 20:39 น.

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - โจรแสบ! ขโมยสายไฟเครื่องสูบน้ำอุโมงค์ทางลอดรถไฟ โคราช ทำน้ำท่วมซ้ำซาก ชาวบ้านเดือดร้อนหนักสัญจรไม่ได้มานานกว่า 4 วัน ล่าสุด จนท.การรถไฟฯ พร้อม ปภ.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่แก้ปัญหา พร้อมหาแนวทางป้องกัน

วันนี้ (14 พ.ค. 68) จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “วรรณี พิศนอก” ได้โพสต์รูปน้ำท่วมอุโมงค์ทางลอดทางรถไฟ พร้อมกับรายละเอียดว่า “อุโมงค์ลอดทางรถไฟ หมู่บ้านออมสิน ข้ามไปถนนมิตรภาพ ทางข้ามทางรถไฟบ้านตลาด และเขตหมู่บ้านหนองกระดังงา หนักกว่าทุกปีครับ 4 วันแล้ว ยังไม่มีหน่วยงานไหนเข้ามารับผิดชอบ”

ad





วันนี้ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่บริเวณอุโมงค์ทางลอดทางรถไฟ บ้านหนองกระดังงา ตำบลจอหอ จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งพบว่าเจ้าหน้าที่จากการรถไฟแห่งประเทศไทยกำลังเร่งสูบน้ำออกจากอุโมงค์ทางลอดดังกล่าว นอกจากนี้ ยังมีเจ้าหน้าที่จาก ปภ.จังหวัดนครราชสีมา, ศูนย์ดำรงธรรม, องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมไปถึงประชาชน ได้ร่วมพูดคุยหารือปัญหาและแนวทางการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น



จากการสอบถามจากเจ้าหน้าที่ของการรถไฟฯ ทราบว่าสาเหตุที่ทำให้น้ำท่วมอุโมงค์ทางลอดดังกล่าวมาจากเครื่องสูบน้ำอัตโนมัติไม่ทำงาน เพราะมีโจรลักขโมยสายไฟฟ้าที่ต่อเข้ากับเครื่องสูบน้ำ จึงทำให้ในช่วงที่มีฝนตกหนักที่ผ่านมาเครื่องสูบน้ำดังกล่าวไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ จึงทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมอุโมงค์ทางลอด ซึ่งห่างไปไม่ไกลจากอุโมงค์ฯ บริเวณตู้ไฟที่อยู่ติดกับรางรถไฟ ได้พบหลักฐานเป็นเศษเปลือกสายไฟวางกองอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งคาดว่าหัวขโมยได้ขโมยตัดสายไฟเครื่องสูบน้ำอัตโนมัติดังกล่าว แล้วนำสายไฟมายังตู้ไฟจุดนี้ ก่อนจะปอกสายไฟเพื่อลอกดึงเอาทองแดงภายในสายไฟไปขาย





นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่การรถไฟฯ ยังบอกอีกว่า ในพื้นที่ที่รับผิดชอบของการรถไฟฯ ในเขตอำเภอเมืองนครราชสีมา ได้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้มาแล้ว 7 ครั้ง ไม่ใช่แค่อุโมงค์ทางลอดรถไฟเท่านั้น แต่สายไฟที่อยู่บริเวณใต้สะพานกลับรถก็ยังถูกขโมยไปปอกเอาทองแดงไปขายด้วย แม้ว่าสายไฟที่ใช้กับเครื่องสูบน้ำอัตโนมัติจะฝังอยู่ใต้ดินแต่หัวขโมยก็ยังสามารถขโมยเอาไปได้ ด้วยการตัดหัวตัดท้ายสายไฟ พร้อมกับใช้ไม้ม้วนดึงสายไฟออกมาจากท่อที่ถูกฝังอยู่ใต้ดิน ซึ่งหลังจากนี้จะมีการประชุมหารือแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวต่อไป



นายสงวน แป้นพะเนาว์ ชาวบ้านหนองกระดังงา หมู่ 15 บอกว่า ตนและชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้ได้รับความเดือดร้อนจากสาเหตุน้ำท่วมอุโมงค์ทางรอดทางรถไฟบ้านหนองกระดังงาเนื่องจากอุโมงค์ทางลอดดังกล่าวนั้นเป็นเส้นทางที่ชาวบ้านใช้สัญจรเป็นจำนวนมากทุกวัน แต่พอเกิดเหตุน้ำท่วมอุโมงค์ขึ้นทำให้ชาวบ้านต้องไปใช้อีกเส้นทางหนึ่งเพื่อกลับรถซึ่งเป็นระยะทางไกลกว่า 1 กิโลเมตร ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก แต่อย่างไรก็ตามวันนี้ก็รู้สึกดีใจที่มีหน่วยงานหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่มาเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าว
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 49363
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 24/05/2025 10:38 pm    Post subject: Reply with quote

สถานีรถไฟลพบุรี การรถไฟแห่งประเทศไทย
24 พ.ค. 68

🚂การรถไฟฯ เดินหน้าเปิดเดินรถไฟทางคู่ “ท่าแค – ปากน้ำโพ” เต็มรูปแบบ เริ่ม 26 พฤษภาคมนี้ ‼️ย้ำในช่วงสถานีรถไฟลพบุรี 2 และทางรถไฟยกระดับ ยังไม่เปิด❌ให้บริการในเดือนพฤษภาคมนี้‼️

🚂การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) 🚂เปิดให้บริการเดินรถไฟในระบบทางคู่ช่วง “ท่าแค – ปากน้ำโพ” อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่วันที่ 26 พฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเดินทางของประชาชนและระบบขนส่งสินค้าทางราง โดยไม่ใช้ระบบอนุญาตเดินขบวนเดี่ยวแบบเดิมอีกต่อไป การเปิดใช้เส้นทางใหม่นี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายเหนือ “ลพบุรี – ปากน้ำโพ” ซึ่งเป็นโครงการสำคัญภายใต้แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ โดยช่วงที่เปิดให้บริการครอบคลุมระยะทางตั้งแต่ กม.213+450.00 (สถานีท่าแค) ถึง กม.256+800.00 (สถานีปากน้ำโพ) โดยเส้นทางนี้ได้รับการติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณแบบสมัยใหม่ พร้อมทั้งสร้างทางรถไฟใหม่และสถานียกระดับที่ทันสมัย ♦️

💢ในวันเดียวกัน (26 พฤษภาคม) การรถไฟฯ ยังได้จัดกิจกรรมสื่อมวลชนสัญจร (Press Tour) โดยนายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย นำคณะสื่อมวลชนลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าของโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วง “ลพบุรี – ปากน้ำโพ” ซึ่งมีกำหนดเปิดเดินรถในอนาคตเร็วๆ นี้ โดยได้ขึ้นขบวนรถด่วนพิเศษที่ 111 มุ่งหน้าสู่สถานีรถไฟหนองโดน (จังหวัดสระบุรี)พร้อมทั้งการบรรยายสรุปโครงการโดยผู้ว่าการรถไฟฯและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง การนำเสนอความก้าวหน้าของโครงการ และเมื่อเดินทางถึงจะมีการเยี่ยมชมสถานที่ก่อสร้างจริง และการตอบข้อซักถามจากสื่อมวลชน เพื่อให้สามารถนำข้อมูลไปเผยแพร่ต่อสาธารณชนได้อย่างถูกต้องและครบถ้วน โดยการจัดกิจกรรมสื่อมวลชนสัญจรในครั้งนี้จะใช้เส้นทางในส่วนของทางระดับดิน สถานีรถไฟบ้านกลับ ทางยกระดับ สถานีรถไฟลพบุรี 2 และสถานีรถไฟโคกกระเทียม ซึ่งเป็นสถานีระดับดินแห่งใหม่ที่ก่อสร้างขึ้นเพื่อรองรับรถไฟทางคู่ พร้อมเยี่ยมชมการควบคุมการเดินรถ การติดตั้งระบบสัญญาณ และระบบรางในเส้นทางใหม่ ซึ่งมีการออกแบบให้ทันสมัย💢

♦️♦️การเปิดให้บริการเส้นทางใหม่ในระบบทางคู่ครั้งนี้ คาดว่าจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเดินรถ ลดระยะเวลาการเดินทาง เพิ่มความปลอดภัย และเพิ่มศักยภาพของการเดินทางและขนส่งสินค้าในเส้นทางสายเหนือได้อย่างมีประสิทธิผล♦️♦️

https://web.facebook.com/share/p/16NotABQZk/
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45533
Location: NECTEC

PostPosted: 26/05/2025 3:24 pm    Post subject: Reply with quote

“วีริศ” นำผู้บริหาร รฟท. พร้อมสื่อมวลชน ดูความพร้อมทางคู่สายเหนือ ช่วงโคกกะเทียม – ปากน้ำโพ ก่อนคิกออฟเปิดเดินรถไฟ 26 พ.ค. 68 พร้อมประกาศแจ้งปรับเวลาเดินรถ 5 ขบวน ขณะที่ “สถานีลพบุรี 2” เตรียมเปิดใช้ปลายปีนี้
ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย
วันจันทร์ที่ 26 พฤษภาคม 2568 เวลา 15:19 น.

นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย พร้อมเปิดให้บริการโครงการรถไฟทางคู่ช่วงลพบุรี – ปากน้ำโพ เฉพาะช่วงสถานีโคกกะเทียม – สถานีปากน้ำโพ ตั้งแต่วันที่ 26 พฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป สำหรับโครงการรถไฟทางคู่ช่วงลพบุรี – ปากน้ำโพ เริ่มตั้งแต่สถานีบ้านกลับ จังหวัดสระบุรี ไปสิ้นสุดที่สถานีปากน้ำโพ จังหวัดนครสวรรค์ ครอบคลุมสถานีให้บริการทั้งหมด 19 แห่ง และที่หยุดรถอีก 5 แห่ง รวมถึงศูนย์ควบคุมการเดินรถ (Central Traffic Control) แห่งใหม่ ณ สถานีนครสวรรค์ และย่านกองเก็บและขนถ่ายตู้สินค้า (CY) อีก 1 แห่ง ณ สถานีเขาทอง ซึ่งสามารถรองรับทั้งผู้โดยสารและสินค้าตลอดแนวเส้นทาง 148 กิโลเมตร โดยช่วงที่เปิดให้บริการครอบคลุมระยะทางตั้งแต่ กม.213+450.00 (สถานีท่าแค) ถึง กม.256+800.00 (สถานีปากน้ำโพ)

โครงการรถไฟทางคู่ช่วงลพบุรี – ปากน้ำโพ ระหว่างสถานีบ้านกลับ จังหวัดสระบุรี ถึงสถานีโคกกระเทียม จังหวัดลพบุรี ยังมีไฮไลท์สำคัญของโครงการ คือ “ทางรถไฟยกระดับยาวที่สุดในประเทศไทย” ระยะทางกว่า 19 กิโลเมตร ความสูงเฉลี่ย 10–20 เมตร พร้อม “สถานีลพบุรี 2” ที่ขนานไปกับทางหลวงหมายเลข 366 ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ในเดือนธันวาคม 2568
ทั้งนี้ การรถไฟฯ ขอแจ้งประกาศปรับเปลี่ยนเวลาเดินรถไฟสายเหนือ จำนวน 5 ขบวน ตั้งแต่วันที่ 30 พฤษภาคม 2568 เพื่อให้สอดคล้องกับการเปิดให้บริการเส้นทางรถไฟทางคู่ช่วงดังกล่าว ดังนี้
1. ขบวนรถเร็วที่ 102 เส้นทางเชียงใหม่ – สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์
2. ขบวนรถธรรมดาที่ 207 เส้นทางกรุงเทพ (หัวลำโพง) – นครสวรรค์
3. ขบวนรถธรรมดาที่ 210 เส้นทางบ้านตาคลี – กรุงเทพ (หัวลำโพง)
4. ขบวนรถธรรมดาที่ 211 เส้นทางกรุงเทพ (หัวลำโพง) – ตะพานหิน
5. ขบวนรถท้องถิ่นที่ 408 เส้นทางเชียงใหม่ – นครสวรรค์
ผู้โดยสารสามารถติดตามเวลาการเดินรถแบบเรียลไทม์ ผ่านระบบ Train Tracking System (TTS) ที่สามารถตรวจสอบเวลาและตำแหน่งขบวนรถทุกขบวนได้แบบทันที ช่วยให้ผู้โดยสารและผู้ที่มารอรับสามารถวางแผนการเดินทางได้อย่างสะดวกและแม่นยำยิ่งขึ้น สร้างความมั่นใจในการเดินทางแก่ผู้โดยสารตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง
สำหรับการก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ช่วงลพบุรี – ปากน้ำโพ แบ่งออกเป็น 3 สัญญาหลัก ได้แก่ สัญญาที่ 1 ช่วงบ้านกลับ – โคกกระเทียม ระยะทาง 32 กิโลเมตร มีโครงสร้างทางยกระดับ 19 กิโลเมตร และระดับพื้น 13 กิโลเมตร พร้อมสถานีลพบุรี 2 ที่ขนานไปกับทางหลวงหมายเลข 366 สัญญาที่ 2 ช่วงท่าแค – ปากน้ำโพ ระยะทาง 116 กิโลเมตร เป็นทางระดับพื้นทั้งหมด มีสถานีใหม่ 6 แห่ง และสถานีที่ก่อสร้างทดแทน 11 แห่ง และสัญญาที่ 3 ระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม ซึ่งจะมีการใช้ระบบทางสะดวกอิเล็กทรอนิกส์ (E-token) ในการเดินรถระหว่างที่มีการติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณ โดยระบบอาณัติสัญญาณจะทยอยเริ่มเปิดใช้งาน และคาดว่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ช่วงมกราคม 2569
นอกจากนี้ โครงการรถไฟทางคู่ช่วงลพบุรี – ปากน้ำโพ ยังเชื่อมต่อไปยังโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะที่ 2 ในช่วงปากน้ำโพ – เด่นชัย และช่วงเด่นชัย – เชียงใหม่ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการขออนุมัติโครงการ ทั้งนี้ หากโครงการต่างๆ ดำเนินการแล้วเสร็จ จะทำให้ขบวนรถตรงต่อเวลามากขึ้นและสามารถลดระยะเวลาในการเดินทางลง เนื่องจากไม่ต้องหยุดรอหลีกทาง
การรถไฟแห่งประเทศไทย มั่นใจว่า การเปิดเดินรถในโครงการรถไฟทางคู่ช่วงลพบุรี –ปากน้ำโพ เป็นอีกก้าวสำคัญที่จะช่วยเติมเต็มโครงข่ายระบบรางของประเทศให้ครอบคลุมและเชื่อมโยงทุกภูมิภาคเข้าด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน แต่ยังเชื่อมโยงพื้นที่เศรษฐกิจตามแนวเส้นทาง ทั้งการขนส่งสินค้าและการท่องเที่ยว ให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว
สำหรับผู้โดยสารที่ประสงค์จะเดินทาง สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 หรือเฟซบุ๊ก แฟนเพจ ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย ตลอด 24 ชั่วโมง

https://www.facebook.com/pr.railway/posts/1142291651262158

Mongwin wrote:
สถานีรถไฟลพบุรี การรถไฟแห่งประเทศไทย
24 พ.ค. 68

🚂การรถไฟฯ เดินหน้าเปิดเดินรถไฟทางคู่ “ท่าแค – ปากน้ำโพ” เต็มรูปแบบ เริ่ม 26 พฤษภาคมนี้ ‼️ย้ำในช่วงสถานีรถไฟลพบุรี 2 และทางรถไฟยกระดับ ยังไม่เปิด❌ให้บริการในเดือนพฤษภาคมนี้‼️

🚂การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) 🚂เปิดให้บริการเดินรถไฟในระบบทางคู่ช่วง “ท่าแค – ปากน้ำโพ” อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่วันที่ 26 พฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเดินทางของประชาชนและระบบขนส่งสินค้าทางราง โดยไม่ใช้ระบบอนุญาตเดินขบวนเดี่ยวแบบเดิมอีกต่อไป การเปิดใช้เส้นทางใหม่นี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายเหนือ “ลพบุรี – ปากน้ำโพ” ซึ่งเป็นโครงการสำคัญภายใต้แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ โดยช่วงที่เปิดให้บริการครอบคลุมระยะทางตั้งแต่ กม.213+450.00 (สถานีท่าแค) ถึง กม.256+800.00 (สถานีปากน้ำโพ) โดยเส้นทางนี้ได้รับการติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณแบบสมัยใหม่ พร้อมทั้งสร้างทางรถไฟใหม่และสถานียกระดับที่ทันสมัย ♦️

💢ในวันเดียวกัน (26 พฤษภาคม) การรถไฟฯ ยังได้จัดกิจกรรมสื่อมวลชนสัญจร (Press Tour) โดยนายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย นำคณะสื่อมวลชนลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าของโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วง “ลพบุรี – ปากน้ำโพ” ซึ่งมีกำหนดเปิดเดินรถในอนาคตเร็วๆ นี้ โดยได้ขึ้นขบวนรถด่วนพิเศษที่ 111 มุ่งหน้าสู่สถานีรถไฟหนองโดน (จังหวัดสระบุรี)พร้อมทั้งการบรรยายสรุปโครงการโดยผู้ว่าการรถไฟฯและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง การนำเสนอความก้าวหน้าของโครงการ และเมื่อเดินทางถึงจะมีการเยี่ยมชมสถานที่ก่อสร้างจริง และการตอบข้อซักถามจากสื่อมวลชน เพื่อให้สามารถนำข้อมูลไปเผยแพร่ต่อสาธารณชนได้อย่างถูกต้องและครบถ้วน โดยการจัดกิจกรรมสื่อมวลชนสัญจรในครั้งนี้จะใช้เส้นทางในส่วนของทางระดับดิน สถานีรถไฟบ้านกลับ ทางยกระดับ สถานีรถไฟลพบุรี 2 และสถานีรถไฟโคกกระเทียม ซึ่งเป็นสถานีระดับดินแห่งใหม่ที่ก่อสร้างขึ้นเพื่อรองรับรถไฟทางคู่ พร้อมเยี่ยมชมการควบคุมการเดินรถ การติดตั้งระบบสัญญาณ และระบบรางในเส้นทางใหม่ ซึ่งมีการออกแบบให้ทันสมัย💢

♦️♦️การเปิดให้บริการเส้นทางใหม่ในระบบทางคู่ครั้งนี้ คาดว่าจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเดินรถ ลดระยะเวลาการเดินทาง เพิ่มความปลอดภัย และเพิ่มศักยภาพของการเดินทางและขนส่งสินค้าในเส้นทางสายเหนือได้อย่างมีประสิทธิผล♦️♦️

https://web.facebook.com/share/p/16NotABQZk/
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 49363
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 26/05/2025 8:38 pm    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
“วีริศ” นำผู้บริหาร รฟท. พร้อมสื่อมวลชน ดูความพร้อมทางคู่สายเหนือ ช่วงโคกกะเทียม – ปากน้ำโพ ก่อนคิกออฟเปิดเดินรถไฟ 26 พ.ค. 68 พร้อมประกาศแจ้งปรับเวลาเดินรถ 5 ขบวน ขณะที่ “สถานีลพบุรี 2” เตรียมเปิดใช้ปลายปีนี้
ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย
วันจันทร์ที่ 26 พฤษภาคม 2568 เวลา 15:19 น.

รฟท.โชว์ความพร้อมรถไฟทางคู่ลพบุรี-ปากน้ำโพ ก่อนเปิด 30 พ.ค.นี้
Source - เว็บไซต์สยามรัฐ
Monday, May 26, 2025 18:25

ผู้ว่าการ รฟท. นำคณะสื่อมวลชนเยี่ยมชมความพร้อมการเปิดเดินรถทางคู่ โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายเหนือ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง148 กม. วงเงิน 2.15 หมื่นล้านบาท พร้อมเปิดบริการ 30 พ.ค.68 เฟสแรก

วันที่ 26 พ.ค.68 นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) นำคณะสื่อมวลชนเยี่ยมชมความพร้อมการเปิดเดินรถทางคู่ โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายเหนือ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง148 กม. วงเงิน 2.15 หมื่นล้านบาท เดินทางด้วยขบวนรถไฟที่ 111 กรุงเทพอภิวัฒน์-เด่นชัย ออกจากสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ไปยังสถานีรถไฟหนองโดน จ.สระบุรี เพื่อรับฟังข้อมูลโครงการเกี่ยวกับการเปิดเดินรถไฟทางคู่ แบบยังไม่ใช้ระบบอาณัติสัญญาณเต็มรูปแบบ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ ไม่ผ่านสถานีลพบุรี 2 (สถานีแห่งใหม่)

จากนั้นจะออกเดินทางไปตามเส้นทางรถไฟทางคู่ ลพบุรี-ปากน้ำโพ ช่วงบ้านกลับจากสถานีหนองโคน ไปยังสถานีลพบุรี 2 เพื่อเยี่ยมชม ทางรถไฟยกระดับยาวที่สุดในประเทศไทย" ระยะทางกว่า 19 กิโลเมตร ความสูงเฉลี่ย 10-20 เมตร พร้อม "สถานีลพบุรี 2" ที่ขนานไปกับทางหลวงหมายเลข 366 ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้เต็มรูปแบบในเดือนธันวาคม 2568 โดยที่สถานีลพบุรี 2 แห่ง มีความพร้อม มีลิฟบริการสำหรบผู้พิการ และคนชรา และคณะเดินทางจากสถานีรถไฟลพบุรี 2 ไปตามทางรถไฟยกระดับ และลดระดับลงเข้าสู่บริเวณสถานีโคกกระเทียม จ.ลพบุรี ซึ่งเป็นสถานีระดับดินที่สร้างใหม่แบบอนุรักษ์ด้วยเมื่อภารกิจของคณะผู้ว่า รฟท. เสร็จสิ้น รถตรวจสภาพทางจะวิ่งไปบนรางรถไฟ เพื่อตรวจสอบ และประเมินความพร้อม รวมถึงความปลอดภัย ทั้งระบบราง ประแจ และอุปกรณ์ประกอบทางอีกครั้ง หลังจากได้ตรวจสอบมาแล้ว เพื่อเปิดทดลองใช้บริการทางคู่สายเหนือในช่วงบ่ายวันนี้เลย เร็วกว่าแผนเดิมที่จะเปิดบริการตั้งแต่วันที่ 30 พ.ค.2568

เบื้องต้นขบวนปฐมฤกษ์ที่จะได้ทดลองใช้ทางคู่สายเหนือประกอบด้วย ขาขึ้น ขบวน 201 กรุงเทพ(หัวลำโพง)-พิษณุโลก และขาล่อง ขบวน 112 เด่นชัย-กรุงเทพอภิวัฒน์ การเปิดบริการฯ ครั้งนี้ ขบวนรถไฟขาขึ้น กับขาล่อง จะใช้ทางรถไฟคนละรางได้เลย ไม่ต้องรอหลีก ทำให้การเดินทางรวดเร็วขึ้นประมาณ 15 นาที และถ้าระบบอาณัติสัญญาณเสร็จจะเร็วขึ้นประมาณ 25 นาที เนื่องจากเส้นทางระยะสั้นในระยะแรกนี้รถทุกขบวนยังคงวิ่งในเส้นทางตามเดิม ยังไม่เปิดใช้บริการที่สถานีลพบุรี 2 เนื่องจาก รฟท. เปิดให้ผู้โดยสารจองตั๋วล่วงหน้าได้ 180 วัน และมีผู้โดยสารจองตั๋วเป็นสถานีลพบุรีแห่งเดิมอยู่ จึงต้องแจ้งให้ผู้โดยสารทราบล่วงหน้าก่อน ว่าจะมีขบวนใดให้บริการที่สถานีลพบุรีเดิม และขบวนใดให้บริการที่สถานีลพบุรีแห่งใหม่ จะเปิดบริการที่สถานีลพบุรี 2 ในวันที่ 5 ธ.ค.นี้

สำหรับแผนการเดินรถเบื้องต้นยังเป็นไปตามเดิม โดยสถานีลพบุรีเดิม จะให้บริการสำหรับขบวนรถธรรมดา รถชานเมือง และรถท้องถิ่น ส่วนขบวนรถด่วน รถเร็ว และรถขนสินค้าจะย้ายไปให้บริการที่สถานีลพบุรี 2 ซึ่งตั้งอยู่ถนนเลี่ยงเมืองลพบุรี ก่อนถึงแยกสนามไชย ต.โพลาดแก้ว อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี ห่างจากสถานีลพบุรีเดิม ต.ท่าหิน อ.เมืองลพบุรี ประมาณ 9 กม.ส่วนจะมีขบวนใดบ้างเตรียมประกาศอย่างเป็นทางการเร็วๆ นี้ เมื่อเปิดบริการสถานีลพบุรี 2 จะมีรถโดยสารสาธารณะรับส่งเชื่อมต่อ 2 สถานีนี้ด้วย เพื่ออำนวยความสะดวก และลดผลกระทบผู้ใช้บริการรถไฟ


**State Railway of Thailand (SRT) Showcases Readiness of Lopburi-Pak Nam Pho Double-Track Before May 30 Opening**

**Lopburi, Thailand**—The Governor of the State Railway of Thailand (SRT), Mr. Veris Amrapal, led a media tour today to showcase the readiness of the **Lopburi-Pak Nam Pho double-track railway project**. This 148 km section, costing 21.5 billion baht, is set to open its first phase on **May 30, 2025**.

The media delegation traveled on train number 111 from Krung Thep Aphiwat Central Station to Nong Don Station in Saraburi province. There, they received a briefing on the initial operation of the double-track railway, which will not yet utilize a full signaling system. This first phase of the Lopburi-Pak Nam Pho route will bypass the new Lopburi 2 Station.

The tour then proceeded along the new double-track from Ban Klap, Nong Don Station, to Lopburi 2 Station to view **Thailand's longest elevated railway**, stretching over 19 kilometers with an average height of 10-20 meters. They also visited the new **Lopburi 2 Station**, situated alongside Highway 366. This station, equipped with lifts for people with disabilities and the elderly, is expected to be fully operational by December 2025. The delegation then continued from Lopburi 2 Station along the elevated track, descending to the new,
conserved ground-level Kok Kratiam Station in Lopburi province.

After the Governor's mission concluded, a track inspection vehicle conducted a thorough check of the railway, including the tracks, switches, and associated equipment, to ensure readiness and safety. This inspection confirmed the northern double-track section is ready for trial service this afternoon, ahead of the original May 30 schedule.

Initially, the trial runs on the new northern double-track will include **Up-train 201 from Bangkok (Hua Lamphong) to Phitsanulok** and **Down-train 112 from Den Chai to Krung Thep Aphiwat**. This new operation will allow up- and down-trains to use separate tracks, eliminating the need for trains to wait for each other, thereby **reducing travel time by approximately 15 minutes**. Once the full signaling system is implemented, travel time is expected to be reduced by approximately 25 minutes.

During this initial phase, all trains will continue to follow their original routes, and Lopburi 2 Station will not yet be open for passenger service. This is because the SRT allows passengers to book tickets up to 180 days in advance, and many have already booked for the original Lopburi Station. The SRT will announce in advance which trains will serve the old Lopburi Station and which will serve the new Lopburi 2 Station, with the latter scheduled to open on **December 5**.

The initial operational plan remains unchanged: the **original Lopburi Station** will serve ordinary, suburban, and local trains, while express, rapid, and freight trains will be relocated to **Lopburi 2 Station**. This new station is located on Lopburi's bypass road, before the Sanam Chai Intersection in Poladkaew Subdistrict, Tha Wung District, Lopburi, approximately 9 km from the old Lopburi Station. The SRT will officially announce which specific trains will serve the new station soon. Once Lopburi 2 Station opens, public transportation will be available to connect the two stations, ensuring convenience and minimizing disruption for passengers.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 49363
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 26/05/2025 8:45 pm    Post subject: Reply with quote

วิ่งฉิวไม่ต้องรอหลีกแล้ว ทางคู่มาแล้วจ้า..จากลพบุรีสู่นครสวรรค์-ปากน้ำโพ
นิกเกิ้ล พาทัวร์ (Train Thailand)
May 26, 2025


https://www.youtube.com/watch?v=oioKNdg0htI
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 49363
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 26/05/2025 9:05 pm    Post subject: Reply with quote

ขาดแคลนขบวนรถไฟเปิดวันแรกทางคู่”ลพบุรี-ปากน้ำโพ“ครม.ยังไม่อนุมัติซื้อรถใหม่รอยาว3ปี
เดลินิวส์ 26 พ.ค. 2568 16:53 น.

เปิดวันแรกรถไฟทางคู่สายเหนือ"ลพบุรี-ปากน้ำโพ“ ขาดแคลนขบวนรถ ครม.ยังไม่อนุมัติจัดซื้อรถใหม่รอยาว2ปีครึ่ง-3ปี ย้าย 22ขบวนไปสถานีลพบุรี2เดือดร้อน 400 คน
นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจความพร้อมเปิดบริการรถไฟทางคู่สายเหนือ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพวันนี้ (26 พ.ค.) เป็นวันแรก ใช้ระบบทางสะดวกอิเล็กทรอนิกส์ (E-Token) เส้นทางปฐมฤกษ์ ขาขึ้น ขบวนที่ 201 กรุงเทพ(หัวลำโพง)-พิษณุโลก และขาล่อง ขบวน 112 เด่นชัย-กรุงเทพอภิวัฒน์ โดยใช้เส้นทางเดิมแต่คันละราง ไม่ต้องสับหลีก ยังไม่ผ่านสถานีลพบุรี 2 (สถานีแห่งใหม่) ไปจนถึงวันที่ 4 ธ.ค.2568 และเปิดสถานีลพบุรี2ตั้งแต่วันที่ 5 ธ.ค.

นายวีริศ กล่าวต่อว่า ภาพรวมการเปิดใช้งานเรียบร้อยดี ไม่พบปัญหา ตั้งแต่วันที่ 30 พ.ค.นี้ จะปรับเวลาใหม่รถไฟสายเหนือ 5 ขบวน 1. ขบวนรถเร็วที่ 102 เส้นทางเชียงใหม่ – สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์2. ขบวนรถธรรมดาที่ 207 เส้นทางกรุงเทพ (หัวลำโพง) – นครสวรรค์3. ขบวนรถธรรมดาที่ 210 เส้นทางบ้านตาคลี – กรุงเทพ (หัวลำโพง)4. ขบวนรถธรรมดาที่ 211 เส้นทางกรุงเทพ (หัวลำโพง) – ตะพานหิน 5. ขบวนรถท้องถิ่นที่ 408 เส้นทางเชียงใหม่ – นครสวรรค์

เมื่อเปิดใช้งานสถานีลพบุรี 2 ขบวนรถธรรมดา รถชานเมือง และรถท้องถิ่น ประมาณ 20 ขบวน ยังคงใช้สถานีลพบุรีเดิม ส่วนขบวนรถด่วน รถเร็ว รถด่วนพิเศษ 22 ขบวน และขบวนรถขนสินค้า จะย้ายไปให้บริการที่สถานีลพบุรี 2 ห่างจากสถานีลพบุรีเดิมประมาณ 9 กม. จะมีรถโดยสารสาธารณะให้บริการรับส่งเชื่อมต่อ 2 สถานีนี้ด้วย ปัจจุบันมีผู้โดยสารสถานีลพบุรีประมาณ600-700 คนต่อวัน คาดว่าในจำนวนนี้จะต้องย้ายไปใช้สถานีลพบุรี 2 ประมาณ 300-400 คน

นายวีริศ กล่าวด้วยว่า ระบบอาณัติสัญญาณจะแล้วเสร็จปลายปีนี้ เมื่อเปิดให้บริการทางคู่สายเหนือ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ เต็มระบบ จะช่วยลดเวลาในการเดินทาง โดยขบวนรถด่วน รถเร็ว รถด่วนพิเศษ ลดเวลาลงจากเดิม 15-25 นาที ส่วนขบวนรถธรรมดา ลดลงประมาณ 1 ชม. สาเหตุที่ขบวนรถธรรมดาใช้เวลาลดลงมากกว่า เนื่องจากเดินรถทางเดี่ยวต้องใช้เวลาหยุดนานในการรอหลีกทาง

สำหรับการเชื่อมต่อโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะที่ 2 ช่วงปากน้ำโพ – เด่นชัย และช่วงเด่นชัย – เชียงใหม่ อยู่ระหว่างขออนุมัติโครงการ คาดว่าต้นเดือน มิ.ย.นี้จะส่งข้อมูลเพิ่มเติมให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) หรือสภาพัฒน์ พิจารณาได้ หากโครงการทางคู่สายเหนือทั้งระยะที่ 1 และ 2 ก่อสร้างแล้วเสร็จ และเปิดให้บริการทั้งหมด

จะทำให้ขบวนรถตรงต่อเวลามากขึ้น ลดระยะเวลาในการเดินทางของเส้นทางสายเหนือได้มาก อาทิ รถเร็ว กรุงเทพ-เชียงใหม่ ใช้ความเร็ว 90 กิโลเมตร(กม.)ต่อชม. จากเดิมประมาณ 14 ชม. 20 นาที ลดเวลาเดินทางได้ 2 ชม. 20 นาที เหลือประมาณ 12 ชม. หากใช้ความเร็วสูงกว่า 90 กม.ต่อชม. ลดเหลือประมาณ 7 ชม.

นายวีริศ ยอมรับว่า รฟท. ทยอยเปิดใช้งานทางคู่หลายเส้นทางแล้ว แต่ยังขาดแคลนจำนวนรถที่มาให้บริการเพิ่มเติม ปัจจุบันเรื่องการจัดหาขบวนรถโดยสารต่างๆ รฟท. เสนอเรื่องไปยังกระทรวงคมนาคม เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) แล้ว หาก ครม.อนุมัติจะใช้เวลาจัดหาประมาณ 2 ปีครึ่งถึง 3 ปี ยังใช้เวลาอีกนานกว่าจะได้รถ ดังนั้นในระหว่างนี้ได้มอบให้ฝ่ายช่างกลเร่งซ่อมแซมขบวนรถ และเร่งพัฒนาปรับปรุงรถที่ได้รับบริจาคมาจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อนำมาใช้งานได้ระหว่างรอขบวนรถใหม่


Lack of Trains on First Day of Dual-Track "Lopburi-Pak Nam Pho" Line; Cabinet Yet to Approve New Purchases, Expect 3-Year Wait

**Delays Plague Northern Dual-Track Opening**
The first day of service for the northern dual-track railway line between Lopburi and Pak Nam Pho is facing a **train shortage**. The Cabinet has yet to approve the purchase of new trains, leading to an anticipated **two-and-a-half to three-year wait**. This situation will also require **22 train services to relocate to Lopburi 2 Station**, affecting an estimated **400 passengers**.

Mr. Verish Amrapal, Governor of the State Railway of Thailand (SRT), revealed these details after inspecting the readiness of the Lopburi-Pak Nam Pho section. Today, May 26th, marks the first day of operations using the **electronic E-Token system**. The inaugural trains are northbound service #201 from Bangkok (Hua Lamphong) to Phitsanulok and southbound service #112 from Den Chai to Krung Thep Aphiwat. These trains will use the original single track, eliminating the need for trains to wait for oncoming traffic. They will bypass Lopburi 2 Station (the new station) until December 4th, 2025, with Lopburi 2 Station officially opening on December 5th.

**Service Adjustments and Station Relocation**
Mr. Verish stated that the overall opening has proceeded smoothly without issues. From **May 30th**, five northern line train services will have their schedules adjusted:
1. Express Train #102: Chiang Mai – Krung Thep Aphiwat Central Station
2. Ordinary Train #207: Bangkok (Hua Lamphong) – Nakhon Sawan
3. Ordinary Train #210: Ban Takhli – Bangkok (Hua Lamphong)
4. Ordinary Train #211: Bangkok (Hua Lamphong) – Taphan Hin
5. Local Train #408: Chiang Mai – Nakhon Sawan

Once Lopburi 2 Station opens, approximately **20 ordinary, suburban, and local train services will continue to use the old Lopburi Station**. However, **22 express, rapid, and special express train services, along with freight trains, will relocate to Lopburi 2 Station**, which is about **9 kilometers away from the old station**. Public transportation will be available to connect the two stations. Currently, Lopburi Station serves around 600-700 passengers daily, with an estimated **300-400 of them expected to shift to Lopburi 2 Station**.

**Improved Travel Times and Future Expansion**
Mr. Verish added that the **signaling system will be completed by the end of this year**. Once the Lopburi-Pak Nam Pho dual-track line is fully operational, it will **significantly reduce travel times**. Express, rapid, and special express trains will see a reduction of **15-25 minutes**, while ordinary trains will save approximately **1 hour**. The greater time saving for ordinary trains is due to the current single-track operation requiring longer stops for trains to pass each other.

Regarding the connection to **Phase 2 of the dual-track railway project (Pak Nam Pho – Den Chai and Den Chai – Chiang Mai)**, project approval is currently pending. Additional information is expected to be submitted to the National Economic and Social Development Council (NESDC) by early June. If both phases of the northern dual-track line are completed and fully operational, trains will be **more punctual** and travel times on the northern line will be greatly reduced. For example, the **Bangkok-Chiang Mai express train**, currently taking about 14 hours and 20 minutes at 90 km/h, could see a **2-hour and 20-minute reduction**, bringing the total travel time down to approximately **12 hours**. If speeds exceed 90 km/h, the journey could be reduced to around **7 hours**.

Mr. Verish acknowledged that while the SRT has been gradually opening dual-track sections, there's still a **shortage of additional trains for service**. The SRT has submitted a proposal to the Ministry of Transport for new passenger train procurement to the Cabinet. If approved, it will take approximately **two and a half to three years to acquire the new trains**. Therefore, in the interim, the mechanical department has been instructed to **expedite train repairs and to develop and improve trains donated from Japan** for temporary use while waiting for the new rolling stock.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45533
Location: NECTEC

PostPosted: 27/05/2025 10:44 am    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
ขาดแคลนขบวนรถไฟเปิดวันแรกทางคู่”ลพบุรี-ปากน้ำโพ“ครม.ยังไม่อนุมัติซื้อรถใหม่รอยาว3ปี
เดลินิวส์ วันจันทร์ ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 เวลา 16:53 น.
.

เปิดใช้แล้ว!รถไฟทางคู่”ลพบุรี-ปากน้ำโพ” ดีเดย์ 5 ธ.ค.68 ย้ายรถไฟทางไกล 22 ขบวนไปขึ้น-ลงสถานีลพบุรี 2
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันจันทร์ ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 เวลา 17:52 น.
ปรับปรุง: วันจันทร์ ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 เวลา 20:58 น.


ข่าวสารใกล้ได้เวลาเปิดแล้ว เร็วๆนี้ "สถานีลพบุรี 2" ทางรถไฟคู่ยกระดับยาวสุดในไทย #รถไฟทางคู่ #ลพบุรี

เปิดใช้แล้ว รถไฟทางคู่ สายเหนือ ช่วงลพบุรี - ปากน้ำโพ”ตั้งแต่ 26 พ.ค.68 ส่วนสถานีลพบุรี 2 เปิดใช้ 5 ธ.ค.68 รอระบบอาณัติสัญญาณเสร็จ ย้ายรถไฟทางไกล 22 ขบวนใช้บริการ คาดมีผู้โดยสาร 400 คน เร่งหารถโดยสารเชื่อมต่อ ส่วนเฟส 2 ต้องชี้แจงสศช.ปมลงทุนพร้อมกัน 6 เส้นทาง

นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันที่ 26 พฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป รฟท. พร้อมเปิดให้บริการโครงการรถไฟทางคู่ช่วงลพบุรี – ปากน้ำโพ เฉพาะช่วงสถานีโคกกะเทียม – สถานีปากน้ำโพ จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งอยู่ในโครงการรถไฟทางคู่ช่วงลพบุรี – ปากน้ำโพ ระยะทาง 148 กิโลเมตร โดยครอบคลุมสถานีให้บริการทั้งหมด 19 แห่ง และที่หยุดรถอีก 5 แห่ง รวมถึงศูนย์ควบคุมการเดินรถ (Central Traffic Control) แห่งใหม่ ณ สถานีนครสวรรค์ และย่านกองเก็บและขนถ่ายตู้สินค้า (CY) อีก 1 แห่ง ณ สถานีเขาทอง ซึ่งสามารถรองรับทั้งผู้โดยสารและสินค้าตลอดแนวเส้นทาง


โครงการรถไฟทางคู่ช่วงลพบุรี – ปากน้ำโพ ช่วงระหว่างสถานีบ้านกลับ จังหวัดสระบุรี ถึงสถานีโคกกระเทียม จังหวัดลพบุรี มีการก่อสร้างแนวเส้นทางใหม่ เป็นทางยกระดับพร้อมกับสร้างสถานีลพบุรี 2 ทำให้เป็นช่วงที่มีไฮไลท์สำคัญของโครงการ คือ “ทางรถไฟยกระดับยาวที่สุดในประเทศไทย” ระยะทางกว่า 19 กิโลเมตร ด้วยความสูงเฉลี่ย 10–20 เมตร แนวเส้นทางขนานไปกับทางหลวงหมายเลข 366 ซึ่งช่วงดังกล่าว และสถานีลพบุรี 2 จะสามารถเปิดให้บริการได้ในวันที่ 5 ธันวาคม 2568



โดยที่ สถานีลพบุรี 2 จะย้ายรถไฟทางไกลขบวนเชิงพาณิชย์ ประมาณ 22 ขบวน/วัน ไปให้บริการ ซึ่งจะมีผู้โดยสารรถไฟทางไกลประมาณ 400 คน/วัน ส่วนขบวนรถท้องถิ่นอีกประมาณ 20 ขบวน /วัน จะยังคงให้บริการที่สถานีลพบุรี 1 เหมือนเดิม เพื่อรองรับการเดินทางของชุมชน โรงเรียน และโรงพยาบาลและสถานีที่ราชการ ในพื้นที่

“สาเหตุที่ยังไม่เปิดใช้สถานีลพบุรี 2 ในขณะนี้ เนื่องจาก ต้องมีการประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชนรับทราบก่อน รวมถึงระยะเวลาของระบบจองตั๋วล่วงหน้า 6 เดือน จึงเป็นช่วงต้นเดือนธันวาคมพอดี นอกจากนี้ รฟท.จะหารือกับทางจังหวัดลพบุรี เพื่อจัดหาผู้ประกอบการเข้ามาเดินรถโดยสารเชื่อมต่อระหว่างสถานีลพบุรี 1 และสถานีลพบุรี 2 อีกด้วย”นายวีริศกล่าว



สำหรับการก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ช่วงลพบุรี – ปากน้ำโพ แบ่งออกเป็น 3 สัญญา ได้แก่ สัญญาที่ 1 งานโยธา ช่วงบ้านกลับ – โคกกระเทียม 29 กิโลเมตร (ทางรถไฟยกระดับ 19 กม. และระดับพื้น 10 กม.) พร้อมสถานีลพบุรี 2 ที่ขนานไปกับทางหลวงหมายเลข 366 ค่าก่อสร้าง 10,050 ล้านบาท สัญญาที่ 2 ช่วงท่าแค – ปากน้ำโพ ระยะทาง 116 กิโลเมตร เป็นทางระดับพื้นทั้งหมด มีสถานีใหม่ 6 แห่ง และสถานีที่ก่อสร้างทดแทน 11 แห่ง ค่าก่อสร้าง 8,649 ล้านบาท งานแล้วเสร็จ 100%

สัญญาที่ 3 ระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม ค่าก่อสร้าง 2,988.57 ล้านบาท ณ.เดือนเม.ย. 2568 มีความก้าวหน้า 71.67 % ล่าช้ากว่าแผนงาน 45.12%



โดยในระหว่างที่การติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม ยังไม่แล้วเสร็จ รฟท. ได้มีการใช้ระบบทางสะดวกอิเล็กทรอนิกส์ (E-token) เพื่อให้การเดินรถมีความปลอดภัยสูงสุด โดยระบบอาณัติสัญญาณจะทยอยเริ่มเปิดใช้งานตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2568 และคาดว่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ตลอดเส้นทางช่วงมกราคม 2569

ทั้งนี้เมื่อระบบอาณัติสัญญาณแล้วเสร็จ จะลดระยะเวลาเดินทางจาก กรุงเทพ-นครสวรรค์ จาก 3 ชั่วโมง 15 นาที เหลือ 2 ชั่วโมง 50 นาที



ทั้งนี้ การรถไฟฯ ขอแจ้งประกาศปรับเปลี่ยนเวลาเดินรถไฟสายเหนือ จำนวน 5 ขบวน ตั้งแต่วันที่ 30 พฤษภาคม 2568 เพื่อให้สอดคล้องกับการเปิดให้บริการเส้นทางรถไฟทางคู่ช่วงดังกล่าว ดังนี้

1. ขบวนรถเร็วที่ 102 เส้นทางเชียงใหม่ – สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์



2. ขบวนรถธรรมดาที่ 207 เส้นทางกรุงเทพ (หัวลำโพง) – นครสวรรค์
3. ขบวนรถธรรมดาที่ 210 เส้นทางบ้านตาคลี – กรุงเทพ (หัวลำโพง)
4. ขบวนรถธรรมดาที่ 211 เส้นทางกรุงเทพ (หัวลำโพง) – ตะพานหิน
5. ขบวนรถท้องถิ่นที่ 408 เส้นทางเชียงใหม่ – นครสวรรค์

ผู้โดยสารสามารถติดตามเวลาการเดินรถแบบเรียลไทม์ ผ่านระบบ Train Tracking System (TTS) ที่สามารถตรวจสอบเวลาและตำแหน่งขบวนรถทุกขบวนได้แบบทันที ช่วยให้ผู้โดยสารและผู้ที่มารอรับสามารถวางแผนการเดินทางได้อย่างสะดวกและแม่นยำยิ่งขึ้น สร้างความมั่นใจในการเดินทางแก่ผู้โดยสารตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง



นอกจากนี้ โครงการรถไฟทางคู่ช่วงลพบุรี – ปากน้ำโพ ยังเชื่อมต่อไปยังโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะที่ 2 ในช่วงปากน้ำโพ – เด่นชัย และช่วงเด่นชัย – เชียงใหม่ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการขออนุมัติโครงการ ทั้งนี้ หากโครงการต่างๆ ดำเนินการแล้วเสร็จ จะทำให้ขบวนรถตรงต่อเวลามากขึ้นและสามารถลดระยะเวลาในการเดินทางลง เนื่องจากไม่ต้องหยุดรอหลีกทาง

ผู้ว่าฯรฟท. มั่นใจว่า การเปิดเดินรถในโครงการรถไฟทางคู่ช่วงลพบุรี –ปากน้ำโพ เป็นอีกก้าวสำคัญที่จะช่วยเติมเต็มโครงข่ายระบบรางของประเทศให้ครอบคลุมและเชื่อมโยงทุกภูมิภาคเข้าด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน แต่ยังเชื่อมโยงพื้นที่เศรษฐกิจตามแนวเส้นทาง ทั้งการขนส่งสินค้าและการท่องเที่ยว ให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว



@เร่งทำข้อมูลแจงสศช. ถามความคุ้มค้า ลงทุนทางคู่เฟส 2 จำนวน6 เส้นทาง

ผู้ว่าฯรฟท.กล่าวว่า สำหรับโครงการรถไฟทางคู่ ระยะ2 จำนวน 6 เส้นทาง รฟท.ได้ส่งเรื่องไปที่กระทรวงคมนาคมแล้ว โดย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ให้ความเห็นมาแล้วขนาดนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติหรือ สศช. ซึ่งมีการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม เช่น ประเด็นเรื่องความคุ้มค่า , หลักเกณฑ์ในการคัดเลือกจัดลำดับการก่อสร้าง 6 โครงการแนวทางการหารายได้เพิ่มจากโครงสร้างพื้นฐาน และ CY ซึ่งขนาดนี้รถไฟอยู่ระหว่างทำข้อมูลเพื่อตอบ ไปยังสศช. และเสนอ คณะรัฐมนตรี(ครม. ) พิจารณาอนุมัติ



ตามแผนคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ ระยะ2 จำนวน 6 เส้นทาง ในเดือนพฤษภาคม2569 โดยทยอยก่อสร้างแล้วเสร็จ 4-5 ปี

โครงการรถไฟทางคู่ ระยะ2 จำนวน 6 เส้นทาง มีระยะทางรวม1,310.84 กม. วงเงินลงทุน รวมทั้งสิ้น 297,926 ล้านบาท ประกอบด้วย
1. เส้นทางปากน้ำโพ-เด่นชัย ระยะทาง 280.54 กม. วงเงินลงทุน 81,143.24 ล้านบาท,
2. เส้นทาง ชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี ระยะทาง 307.60 กม. วงเงินลงทุน 44,095.36 ล้านบาท,
3. เส้นทาง ชุมทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 44.50 กม. วงเงินลงทุน 7,772.90 ล้านบาท,
4. เส้นทาง ชุมพร-สุราษฎร์ธานี ระยะทาง168.20 กม. วงเงินลงทุน 30,422.53 ล้านบาท ,
5. เส้นทาง สุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา ระยะทาง 321.00 กม. วงเงินลงทุน 66,270.51 ล้านบาท ,
6. เส้นทาง เด่นชัย-เชียงใหม่ ระยะทาง 189.00 กม. วงเงินลงทุน 68,222.14 ล้านบาท
https://mgronline.com/business/detail/9680000049268?
https://www.youtube.com/watch?v=jrJS6lADbEA
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 49363
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 28/05/2025 10:00 am    Post subject: Reply with quote

'รฟท.'ส่อชวด สร้าง 'ศูนย์ขนถ่ายตู้สินค้า นครสวรรค์' เชื่อมทางคู่ ลพบุรี-ปากน้ำโพ
Source - ฐานเศรษฐกิจ
Wednesday, May 28, 2025 05:28

ปัจจุบัน "การรถไฟแห่งประเทศไทย" ยังคงเดินหน้าโครงการก่อสร้างย่านเก็บกองและขนถ่ายตู้สินค้า จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งเป็นสถานีที่รับมอบและส่งตู้ขนถ่ายสินค้า ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งสินค้าทางรางและสนับสนุนการเชื่อมโยงท่าเรือแหลมฉบัง

สำหรับความคืบหน้าโครงการก่อสร้างย่านเก็บกองและขนถ่ายตู้เก็บสินค้า (Container Yard) จังหวัดนครสวรรค์ แหล่งข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ที่ผ่านมารฟท.เคยมีการออกแบบรายละเอียดโครงการฯและจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม(อีไอเอ) โดยมีพื้นที่ โครงการตั้งอยู่บริเวณสถานีนครสวรรค์ ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานีของรถไฟทางคู่ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ แต่ถูกเบรกจากประชาชนในพื้นที่ เนื่องจากมีข้อคิดเห็นว่าพื้นที่ดังกล่าวอยู่ใกล้ชุมชนไม่เหมาะสมต่อโครงการฯ

ทั้งนี้เป็นเหตุให้รฟท.มีความจำเป็นต้องเลือกพื้นที่แห่งใหม่เพื่อเดินหน้าโครงการก่อสร้างย่านเก็บกองและขนถ่ายตู้เก็บสินค้า (Container Yard) จังหวัดนครสวรรค์ พบว่าพื้นที่ที่เหมาะสมต่อโครงการนี้ คือ บริเวณสถานีเขาทอง จังหวัดนครสวรรค์ แต่ทางกระทรวงคมนาคมกลับมีข้อคิดเห็นถึงพื้นที่แห่งนี้มีข้อจำกัดอยู่ใกล้โรงเรียนเขาทอง, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลโดยอยากให้รฟท.พิจารณาพื้นที่แห่งใหม่ออกไปอีก 3 กิโลเมตร (กม.)

ขณะเดียวกันที่ผ่านมากระทรวงคมนาคมได้มอบหมายให้รฟท.หารือกับกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ขอใช้พื้นที่แห่งใหม่เพื่อก่อสร้างย่านเก็บกองและขนถ่ายตู้เก็บสินค้า (Container Yard) จังหวัดนครสวรรค์ของกระทรวงกลาโหม

สำหรับพื้นที่ดังกล่าวอยู่ระหว่างสถานีเขาทองและสถานีนครสวรรค์ ห่างจากพื้นที่เดินที่รฟท.เคยศึกษาประมาณ 10 กิโลเมตร (กม.) ประมาณ 66.22 ไร่ ประกอบด้วย พื้นที่ลานคอนกรีต 33,460 ตาราเมตร คิดเป็น 20.9 ไร่ พื้นที่ลานคอนกรีต 32,500 ตาราเมตร คิดเป็น 20.3 ไร่ พื้นที่ถนนทางเข้า 4,357 ตารางเมตร คิดเป็น 2.7 ไร่ และพื้นที่ย่าน CY 35,677 ตาราเมตรหรือ 22.30 ไร่

อย่างไรก็ดีจากข้อคิดเห็นของกระทรวงคมนาคมในช่วงที่ผ่านมานั้น โดยทางกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ได้ส่งหนังสือถึงผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ถึงการพิจารณาโครงการก่อสร้างย่านเก็บกองและขนถ่ายตู้เก็บสินค้า (Container Yard) ที่สถานีเขาทอง จังหวัดนครสวรรค์ โดยระบุว่า จากรายงานผลการศึกษาฉบับปรับปรุงโครงการจ้างศึกษาและวิเคราะห์การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พบว่ามีสถานีขนส่งสินค้า จังหวัดนครสวรรค์ มีอัตราผตอบแทนทางเศรษฐศาสตร์และผลตอบแทนทางการเงินไม่คุ้มค่าที่ภาครัฐจะลงทุนพัฒนาสถานีขนส่งสินค้า

นอกจากนี้กรมขนส่งทางบก (ขบ.) มีข้อคิดเห็นให้ชะลอโครงการก่อสร้างย่านเก็บกองและขนถ่ายตู้เก็บสินค้า (Container Yard) ที่สถานีเขาทอง จังหวัดนครสวรรค์ ในพื้นที่ของกระทรวงกลาโหมออกไปก่อน และให้มีการทบทวนผลการวิเคราะห์ความเป็นไปได้ ของโครงการอีกครั้งในปีงบประมาณ 2568

ปัจจุบันรฟท.อยู่ระหว่างดำเนินการขอรับจัดสรรงบประมาณปี 2570 เพื่อออกแบบและศึกษารายละเอียดของโครงการฯ วงเงิน 100 ล้านบาท เบื้องต้นฝ่ายโยธาของรฟท.ได้เตรียมความพร้อมเพื่อดำเนินการปรับแบบรายละเอียดโครงการฯแล้ว ซึ่งตามแผนโครงการนี้จะใช้ระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 2 ปี ก่อนเปิดให้บริการ

"ปัจจุบันรฟท.ยังคงยืนยันว่าโครงการนี้ยังคงเดินหน้าต่อเพื่อไม่ให้รฟท.เสียโอกาสในการขนส่งสินค้าทางรถไฟของจังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งปัจจุบันมีการขนส่งข้าวประมาณ 100,000 คิวบ์ต่อปี อย่างไรก็ดีคาดว่าจะมีการพิจารณาพื้นที่อื่นที่ใกล้เคียงกับสถานีเขาทองหรือจะดำเนินการศึกษารายละเอียดโครงการบริเวณสถานีเขาทอง เนื่องจากเป็นพื้นที่ของรฟท." แหล่งข่าวจากรฟท.กล่าว
สำหรับโครงการก่อสร้างย่านเก็บกองและขนถ่ายตู้เก็บสินค้า (Container Yard) จังหวัดนครสวรรค์ จากผลการศึกษาที่ผ่านมาพบว่า ใช้พื้นที่ 1,300 ไร่ วงเงิน 3,300 ล้านบาท หากโครงการแล้วเสร็จจะช่วยลดการพึ่งพาการขนส่งทางถนนและลดต้นทุนโลจิสติกส์ ตลอดจนสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและการจ้างงานในพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์และจังหวัดใกล้เคียง

"รฟท." โอด "ศูนย์ขนถ่ายตู้สินค้า นครสวรรค์" 66 ไร่ส่อพับแผน หลังติดหล่มพื้นที่ตั้งโครงการใหม่เล็งตั้งบปี 70 ลุยศึกษาต่อหวั่นรฟท.เสียโอกาส-ลดต้นทุนขนส่งโลจิสติกส์

ที่มา: นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 29 - 31 พ.ค. 2568


The State Railway of Thailand (SRT) may miss out on building the Nakhon Sawan Container Transshipment Center, which would connect to the Lop Buri-Pak Nam Pho double-track railway.

The SRT has been moving forward with the Nakhon Sawan container yard and transshipment center project. This station is intended to handle and transfer cargo containers, enhancing rail freight efficiency and supporting connections to Laem Chabang Port.

Progress on the Nakhon Sawan Container Yard project has faced setbacks. Sources from the SRT revealed that while a detailed design and Environmental Impact Assessment (EIA) report were completed for a site near Nakhon Sawan Station (part of the Lop Buri-Pak Nam Pho double-track railway), local residents objected. They felt the area was too close to the community and unsuitable for the project.

Consequently, the SRT had to find a new location for the container yard. The Khao Thong Station area in Nakhon Sawan was identified as a suitable alternative. However, the Ministry of Transport raised concerns about this site's proximity to Khao Thong School and a sub-district health promotion hospital. They advised the SRT to consider a location an additional 3 kilometers away.

The Ministry of Transport also instructed the SRT to discuss with the Department of Land Transport (DLT) the possibility of using a new site belonging to the Ministry of Defense for the Nakhon Sawan Container Yard.

This proposed site is situated between Khao Thong and Nakhon Sawan stations, approximately 10 kilometers from the SRT's initially studied area. It covers about 66.22 rai (approximately 26.15 acres) and includes:

* Concrete yard 1: 33,460 square meters (20.9 rai)
* Concrete yard 2: 32,500 square meters (20.3 rai)
* Access road: 4,357 square meters (2.7 rai)
* Container yard area: 35,677 square meters (22.30 rai)

However, the DLT has sent a letter to the SRT Governor regarding the Nakhon Sawan Container Yard project at Khao Thong Station. The letter stated that a revised feasibility study, which explored public-private partnerships, concluded that the Nakhon Sawan freight station would not yield sufficient economic or financial returns for government investment.

Furthermore, the DLT recommended delaying the construction of the container yard at Khao Thong Station on the Ministry of Defense land. They suggested a re-evaluation of the project's feasibility analysis in fiscal year 2025.

Currently, the SRT is seeking a budget allocation of 100 million baht for fiscal year 2027 to design and study the project in detail. The SRT's civil engineering department is ready to adjust the project's detailed design. This project is expected to take approximately two years to construct once approved, before it can open for service.

An SRT source stated that the project is still moving forward to ensure the SRT does not lose opportunities in Nakhon Sawan's rail freight sector, which currently transports about 100,000 cubic meters of rice annually. The source added that other areas close to Khao Thong Station might be considered, or detailed studies of the Khao Thong Station area itself (as it is SRT land) will proceed.

Previous studies for the Nakhon Sawan Container Yard project indicated it would require 1,300 rai (approximately 513.7 acres) and an investment of 3.3 billion baht. If completed, the project is expected to reduce reliance on road transport, lower logistics costs, and create economic opportunities and employment in Nakhon Sawan and neighboring provinces.

The SRT is reportedly lamenting the potential shelving of the 66-rai Nakhon Sawan container transshipment center plan due to issues with the new project site. The SRT plans to allocate a budget in 2027 to continue the study, fearing lost opportunities and higher logistics costs if the project doesn't proceed.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45533
Location: NECTEC

PostPosted: 29/05/2025 6:16 pm    Post subject: Reply with quote

การรถไฟฯ เร่งตอบคำถาม สศช. ดันลงทุนทางคู่เฟส 2 สร้างปีหน้า
เศรษฐกิจ
วันอังคาร ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 เวลา 10:02 น.


รฟท. เร่งเสนอทางคู่เฟสสอง 6 เส้นทาง แตะ 3 แสนล้านบาท เตรียมส่งหนังสือตอบกลับความเห็น สศช. ภายในเดือน มิ.ย.นี้ ยันทุกเส้นทางมีความสำคัญและพร้อมก่อสร้างตามแผน พ.ค.2569

นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้า โครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 โดยระบุว่า ตามแผนพัฒนา 7 เส้นทาง ขณะนี้ได้ผ่านการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้วจำนวน 1 เส้นทาง คือ ขอนแก่น - หนองคาย ปัจจุบัน รฟท.เปิดประมูลแล้วเสร็จ พร้อมออกหนังสืออนุญาตเข้าพื้นที่ (NTP) เริ่มงานก่อสร้างเมื่อ เม.ย.ที่ผ่านมา ทำให้ปัจจุบันเหลือ 6 โครงการที่อยู่ในขั้นตอนรอเสนอ ครม.เพื่อดำเนินโครงการ วงเงินรวมเกือบ 3 แสนล้านบาท

อย่างไรก็ดี ตามแผนดำเนินงาน รฟท.จะเสนอ 6 โครงการดังกล่าวเพื่อผลักดันโครงการและเปิดประกวดราคาไปพร้อมกัน ซึ่งสถานะปัจจุบัน รฟท.ได้เสนอโครงการไปยังกระทรวงคมนาคม และผ่านการอนุมัติแล้ว รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเห็นชอบให้ดำเนินการ เหลือเพียงสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ที่มีหนังสือให้ รฟท.ตอบกลับเพื่อประกอบการพิจารณา ซึ่ง รฟท.ได้เตรียมข้อมูลแล้วเสร็จ เตรียมตอบกลับไปยัง สศช.ในเดือน มิ.ย.นี้

สำหรับประเด็นที่ สศช.สอบถามเพิ่มเติมเพื่อประกอบการพิจารณาโครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 อาทิ ความคุ้มค่าทางการลงทุน หลักเกณฑ์การคัดเลือกจัดลำดับการก่อสร้างทั้ง 6 โครงการ เนื่องจาก รฟท.เสนอลงทุนพร้อมกันทั้ง 6 เส้นทาง รวมไปถึงแนวทางการหารายได้หลังการพัฒนารถไฟทางคู่ และการพัฒนาศูนย์ขนส่งสินค้าที่จะเกิดขึ้น ทั้งนี้ รฟท.ยืนยันว่าทุกโครงการมีความสำคัญ และพร้อมเริ่มก่อสร้าง และกำหนดแผนจะเร่งผลักดันรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 ทั้งหมด 6 เส้นทาง เพื่อเริ่มก่อสร้างในเดือน พ.ค.2569


สำหรับ 6 โครงการรถไฟทางคู่ที่จะนำมาเปิดประมูลหลังจากนี้ วงเงินรวมกว่า 2.9 แสนล้านบาท ประกอบด้วย
1. รถไฟทางคู่ช่วงปากน้ำโพ - เด่นชัย ระยะทาง 281 กิโลเมตร วงเงิน 81,143 ล้านบาท

2. ช่วงชุมทางถนนจิระ - อุบลราชธานี ระยะทาง 308 กิโลเมตร วงเงิน 44,103 ล้านบาท

3. ช่วงชุมพร-สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 168 กิโลเมตร วงเงิน 30,422 ล้านบาท

4. ช่วงสุราษฎร์ธานี – หาดใหญ่ - สงขลา ระยะทาง 321 กิโลเมตร วงเงิน 66,270 ล้านบาท

5.ช่วงหาดใหญ่ - ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 45 กิโลเมตร วงเงิน 7,900 ล้านบาท

6. ช่วงเด่นชัย - เชียงใหม่ ระยะทาง 189 กิโลเมตร วงเงิน 68,222 ล้านบาท
https://www.bangkokbiznews.com/business/economic/1182043?
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 49363
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 02/06/2025 8:41 am    Post subject: Reply with quote

สรุปแล้วแนวรถไฟทางคู่"สุพรรณบุรี-บ้านภาชี" เวนคืน3พันไร่เชื่อมโครงข่ายเอื้อขนส่งสินค้า
Source - ผู้จัดการรายวัน 360 องศา
Monday, June 02, 2025 03:21

ผู้จัดการรายวัน360 - เคาะแล้ว รถไฟทางคู่สายใหม่ "สุพรรณบุรี-นครหลวง-ชุมทางบ้านภาชี" เลือกแนวที่ 3 เวนคืนกว่า 3 พันไร่ ตัดเส้นทางใหม่ 65.5 กม. รฟท. ตั้งงบ 57 ล้านบาท ออกแบบละเอียด-ศึกษา EIA เริ่มก่อสร้างปี 72 พร้อมดันทางคู่ช่วงสุพรรณบุรี-หนองปลาดุก เชื่อมต่อโครงข่ายรถไฟทางเลี่ยงกรุงเทพ ทั่วประเทศไร้คอขวด ขนส่งสินค้าสะดวก

Click on the image for full size

รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า จากที่ รฟท. ได้ดำเนินงานศึกษาความเหมาะสม โครงการก่อสร้างทางรถไฟสายใหม่ ช่วงสุพรรณบุรีนครหลวง-ชุมทางบ้านภาชี ขณะนี้ได้ข้อสรุปการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบเบื้องต้น (Prelliminary Design) และคัดเลือกแนวเส้นทางที่เหมาะสมแล้ว รวมถึงจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (IEE) โดยโครงการทางรถไฟสาย สุพรรณบุรี-บ้านภาชี อยู่ในโครงการรถไฟทางคู่ระยะถัดจากรถไฟทางคู่ระยะที่ 2 โดยเป็นแผนเร่งด่วนลำดับต้นๆ ซึ่งตามผลศึกษาพบเป็นเส้นทางที่มีความคุ้มค่าและเป็นโครงข่ายสำคัญในการเชื่อมโยงเส้นทางรถไฟที่มีในปัจจุบัน และรองรับการขนส่งสินค้าจากภาคเหนือ และตะวันออกเฉียงเหนือ ไปยังท่าเรือแหลมฉบัง และไปยังภาคใต้ โดยไม่ผ่านกรุงเทพฯ และปริมณฑล และเห็นว่าควรศึกษาพัฒนาเส้นทางช่วง สุพรรณบุรี-หนองปลาดุก ซึ่งปัจจุบันเป็นทางเดี่ยวให้เป็นทางคู่ตลอดสาย แก้ปัญหาคอขวดในอนาคต

@ตั้งงบ 57 ล้าน ออกแบบรายละเอียด-ศึกษา EIA

โดยตามแผนทางรถไฟ ช่วงสุพรรณบุรี-นครหลวง-ชุมทางบ้านภาชี ดำเนินการความเหมาะสมและออกแบบเบื้องต้น ระยะเวลา 300 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 16 ส.ค. 2567-วันที่ 11 มิ.ย. 2568 จะเป็นการศึกษาออกแบบรายละเอียดและการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ปี 2568-2569 วงเงิน 57 ล้านบาท (งบผูกพัน ปี 68 วงเงิน 11.4 ล้านบาท ปี 69 วงเงิน 45.6 ล้านบาท) ขอความเห็นชอบรายงาน EIA ปี 2570 นำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขออนุมัติโครงการในปี 2571 ออก พ.ร.ฎ เวนคืนและเริ่มก่อสร้างในปี 2572 เปิดให้บริการในปี 2576

"ทางจังหวัดและผู้ประกอบการในพื้นที่ มีความต้องการขนส่งสินค้าจำนวนมากซึ่งจะช่วยลดปริมาณรถบรรทุกบนถนนเส้นทางได้มาก แม้จะต้องเวนคืนตลอดเส้นทางแต่ผลศึกษา ระบุว่ามีความคุ้มค่า"
@เคาะแนวเส้นทางที่ 3 เหมาะสมที่สุด เวนคืนตัดเส้นทางใหม่ 65.50 กม.

โดยการศึกษาพบว่าแนวเส้นทางที่มีความเหมาะสมและได้คะแนนรวมสูงสุด คือ ทางเลือกที่ 3 จุดเริ่มต้นโครงการ ออกจากสถานีสะแกย่างหมู มุ่งทิศเหนือก่อสร้างทางคู่ใหม่ตามทางแนวเดิมจนถึงประมาณกม. ที่ 2+346 จากนั้นเบี่ยงขวาออกจากทางรถไฟเดิมก่อนถึงจุดตัดทางรถไฟกับทางหลวงหมายเลข 357 (ทางเลี่ยงเมืองสุพรรณบุรี) ประมาณ 4.5 กม. มุ่งทิศตะวันออก ขนานทางหลวงหมายเลข 357 ข้ามแม่น้ำท่าจีน ผ่านทางหลวงหมายเลข 340 ผ่านทุ่งรับน้ำทุ่งผักไห่ ผ่านทางหลวงหมายเลข 3454 ข้ามแม่น้ำน้อย ผ่านทุ่งรับน้ำทุ่งป่าโมก ผ่านทางหลวงหมายเลข 3412

และข้ามคลองบางหลวง ผ่านทุ่งรับน้ำทุ่งบางบาล ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ผ่านทางหลวงหมายเลข 309 บริเวณด้านทิศใต้ห่างจากตัวเมืองของอำเภอป่าโมก ประมาณ 6 กม. ผ่านทุ่งรับน้ำทุ่งบางกุ้ง ผ่านทางหลวงหมายเลข 347 และทางหลวงหมายเลข 32 ข้ามแม่น้ำลพบุรี แล้วจึงเบี่ยงแนวไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ข้ามแม่น้ำป่าสัก ผ่านทางหลวงหมายเลข 3063 รองรับพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม และการขนส่งสินค้าทางเรือ ของท่าเรือในเขต อ.นครหลวง แล้วจึงเข้าเชื่อมต่อทางรถไฟเดิมบริเวณก่อนถึงสถานีพระแก้ว ประมาณ กม. ที่ 67+952 จากนั้นทำการปรับปรุงทางเดิมจาก 3 ทางให้เป็น 4 ทาง จนเข้าบรรจบกับทางรถไฟเดิมบริเวณย่านสถานีชุมทางบ้านภาชี มีจุดสิ้นสุดที่สถานีชุมทางบ้านภาชี ประมาณกม. ที่ 73+800

โดยเป็นแนวเส้นทางที่ใช้เขตทางเดิมบริเวณช่วงต้นโครงการระยะทางประมาณ 2.40 กม. เส้นทางตัดใหม่ที่ต้องมีการเวนคืนประมาณ 65.50 กม. และใช้เขตทางเดิมบริเวณปลายโครงการระยะทางประมาณ 5.90 กม. รวมระยะทางโครงการ 73.80 กม.

มีตำแหน่งสถานีทั้งหมด 4 สถานี ได้แก่ สถานีสะแกย่างหมู สถานีสุพรรณบุรี (ใหม่) สถานีบ้านกุ่ม สถานีบางปะหัน พร้อมกับลานเก็บตู้คอนเทนเนอร์ (CY) อีก 3 แห่ง คือ CY สะแกย่างหมู CY บางปะหัน และ CY บ้านภาชี ทั้งนี้ประเมินต้องเวนคืนที่ดินประมาณ 3,448 ไร่ และรื้อย้ายสิ่งปลูกสร้างประมาณ 161 หลัง

การคาดการณ์ปริมาณผู้โดยสารในเส้นทางดังกล่าวในปีเปิดให้บริการรวมประมาณ 2.7- 4.6 ล้านคน/ปี เพิ่มขึ้นเป็น 5.9 ล้านคน ในปี 2580 คาดว่ามีปริมาณสินค้าใช้เส้นทางในปีแรก ประมาณ 7-11 ล้านตัน/ปี เพิ่มขึ้นเป็น 9.1-13.9 ล้านตัน ในปี 2580

อย่างไรก็ตาม เส้นทางดังกล่าวจะช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัด (อยุธยา สุพรรณบุรี อ่างทอง) เนื่องจากจะเป็นทางเลือกในการเดินทางและขนส่งสินค้าที่ประหยัดและปลอดภัย เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงแหล่งรวบรวมและกระจายสินค้าทางการเกษตร เป็นเส้นทางรถไฟสายใหม่ที่เชื่อมต่อในแนวตะวันตก-ตะวันออก เชื่อมโยงกับเส้นทางรถไฟเดิม ขนส่งสินค้าลงสู่ภาคใต้โดยไม่ผ่านพื้นที่กรุงเทพ (บางซื่อ) และลดค่าใช้จ่าย ประหยัดเชื้อเพลิง
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 418, 419, 420 ... 426, 427, 428  Next
Page 419 of 428

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©