RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:314334
ทั่วไป:17363532
ทั้งหมด:17677866
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวรถไฟแลนด์บริดจ์สายชุมพร-ระนอง
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าวรถไฟแลนด์บริดจ์สายชุมพร-ระนอง
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 22, 23, 24
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45291
Location: NECTEC

PostPosted: 02/05/2025 10:39 am    Post subject: Reply with quote

สภาอุตฯ-หอฯชุมพรหนุน SEC ดันร่างกฎหมายเทียบ EEC
เศรษฐกิจภูมิภาค
วันศุกร์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 เวลา 07:45 น.


เมื่อเร็ว ๆ นี้ นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และนายปัญญา ชูพานิช ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร ได้ลงพื้นที่บริเวณที่จะก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกฝั่งอ่าวไทย ณ ท่าเรือแหลมริ่ว อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร และสุราษฎร์ธานี เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองและความคิดเห็นเกี่ยวกับการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ (Southern Economic Corridor : SEC) เชื่อมการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน (โครงการแลนด์บริดจ์)

โดยมีหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ระนอง ชุมพร และนครศรีธรรมราช เข้าร่วม


ดันผุดท่าเรือรับส่งสินค้า
นายกิตติ กิตติชนม์ธวัช ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดชุมพร กล่าวว่า พ.ร.บ. SEC จะเป็นไปไม่ได้ถ้าไม่มีแลนด์บริดจ์ แต่หากมีการตั้งนิคมอุตสาหกรรมควรมีการสร้างอ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก เพื่อกักเก็บน้ำที่ไหลมาจากซอกเขาสูง เพื่อไว้ใช้ด้านเกษตรกรรม และอุตสาหกรรม

ขณะที่ นายกมล เรืองตระกูล ประธานหอการค้าจังหวัดชุมพร กล่าวว่า เห็นด้วยกับการผลักดันร่าง พ.ร.บ. SEC เป็นอย่างยิ่ง ที่จะทำให้พื้นที่ภาคใต้ และประเทศไทยได้รับประโยชน์ โดยโครงการแลนด์บริดจ์จะกลายเป็น 4 แยกใหญ่ของภูมิภาค จะทำให้ระบบโลจิสติกส์มีความสำคัญสูง จึงขอเสนอ 4 แนวทางเพื่อให้เกิดความคุ้มค่าต่อการลงทุน ได้แก่ 1) การมีท่าเรือทั้ง 2 ฝั่งถูกดีไซน์ต่างกัน โดยฝั่งชุมพรมีความลึก 17-18 เมตร ส่วนฝั่งระนอง มีความลึก 21 เมตร โดยฝั่งระนองอาจมีสินค้ากว่า 20,000 ตู้ ส่วนฝั่งชุมพรเป็นลักษณะฟีดเดอร์ ประมาณ 8,000 ตู้

2) อุตสาหกรรมหลังท่า ควรเป็นอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมตามนโยบาย ESG เพื่อรองรับการแปรรูปสินค้าเกษตรในอนาคต และ 3) พื้นที่สงวนไว้ทำแท็งก์ส่งน้ำมัน ควรทำแท็งก์ฟาร์ม 2 ฝั่งเพื่อขนส่งน้ำมันดิบ แบบที่ผ่านช่องแคบมะละกากว่า 17-20 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในส่วนแลนด์บริดจ์อาจทำเป็นรูปแบบน้ำมันสำเร็จรูป เพื่อใช้แท็งก์ฟาร์มแทนการใช้เรือขนาดใหญ่ 2 ล้านบาร์เรล

นอกจากนี้ได้เสนอแนะเพิ่มเติมโดยให้เกิดการเร่งพัฒนาฝีมือทักษะแรงงานให้ทันการเปิดใช้แลนด์บริดจ์ปี 2573 และการวางแผนบริหารจัดการน้ำ เนื่องจากชุมพร-ระนอง ไม่มีแหล่งน้ำขนาดใหญ่ เมื่อเปรียบเทียบกับเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่มีแหล่งน้ำขนาดใหญ่ถึง 6 แหล่ง รวมถึงการเริ่มต้นวางแผนการใช้พลังงานสะอาด ทั้งนี้ควรเร่งผลักดันด้วย เพราะประเทศมาเลเซียมีโครงการรถไฟความเร็วสูง 650 กม. ที่ปัจจุบันมีความคืบหน้ากว่า 78% ซึ่งปี 2027 คาดว่าจะเสร็จสิ้น หากสามารถทำการเชื่อมต่อระบบรางเราได้ อาจกลายเป็นคู่แข่งของไทย


พ.ร.บ. SEC เข้า ครม. พ.ค.นี้
ขณะที่ นายปัญญา ชูพานิช ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร กล่าวว่า ทาง สนข.ได้ดำเนินการศึกษาความเหมาะสม ออกแบบเบื้องต้น ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและวิเคราะห์รูปแบบโมเดลการพัฒนาการลงทุน (Business Development Model) คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 2 เดือน กระทรวงได้มีการกำหนดกรอบระยะเวลาของโครงการแลนด์บริดจ์ คาดว่า พ.ร.บ. SEC จะนำเข้า ครม.ได้ภายในเดือนพฤษภาคมนี้ เพื่อเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร

นอกจากนี้ยังได้นำเสนอถึงจุดเด่นของการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกที่บริเวณท่าเรือแหลมริ่ว มีเกาะเล็ก ๆ หลายเกาะ ที่ช่วยบังคลื่นลมทะเล เหมาะสำหรับการให้เป็นพื้นที่จอดเรือพัก จะทำการขุดลอกร่องน้ำให้เรือขนาดใหญ่สามารถเข้าได้ ระยะทาง 9.7 กม. มีความลึก 17 กม. และจะนำดินที่ได้จากการขุดลอกร่องน้ำลึกมาถมเพื่อทำการก่อสร้างสะพานให้ชาวประมงสามารถเดินได้ปกติ

ส่วนความก้าวหน้าโครงการ “แลนด์บริดจ์” ระยะทาง 89.35 กม. ขณะนี้อยู่ระหว่างจัดทำร่างเอกสารการประกาศประกวดราคาเพื่อคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุน ภายในปลายปี 2569 ในระหว่างนี้จะดำเนินการออกพระราชกฤษฎีกาเวนคืนที่ดิน ภายในปี 2569 และลงนามสัญญาร่วมลงทุนกับเอกชนที่ชนะการประกวดราคาเฟสที่ 1 มูลค่า 5 แสนล้านล้านบาทในช่วงกลางปี 2569 จากนั้นปี 2570 จะเริ่มก่อสร้างในระยะที่ 1 ทันที และจะเปิดให้บริการภายในปี 2573



กำหนดให้การลงทุนพัฒนาแบ่งออกเป็น 4 ระยะ โดยเฟส 1/1 มูลค่าลงทุน 5.22 แสนล้านบาท ประกอบด้วย ท่าเรือฝั่งชุมพรและฝั่งระนอง วงเงิน 2.60 แสนล้านบาท, พื้นที่เปลี่ยนรูปแบบการขนส่งสินค้า SRTO ทั้งฝั่งชุมพรและฝั่งระนอง วงเงิน 6.08 หมื่นล้านบาท และเส้นทางเชื่อมโยงท่าเรือ อาทิ เส้นทางมอเตอร์เวย์ รถไฟ วงเงิน 2.01 แสนล้านบาท

ด้านนางมนพรกล่าวทิ้งท้ายว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งมีศักยภาพทั้งด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว รวมทั้งมีความได้เปรียบในเชิงภูมิศาสตร์ที่อยู่ระหว่างสองฝั่งทะเลที่สามารถเชื่อมโยงไทยไปสู่ภูมิภาคเอเชีย และเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่สำคัญของประเทศในการพลิกโฉมการพัฒนาเศรษฐกิจในภาพรวม ทั้งนี้ การเปิดรับฟังความเห็นครั้งนี้

โดยภาพรวมทุกคนเห็นดีด้วยอยากให้ร่าง พ.ร.บ.นี้ เป็นกฎหมายมีผลบังคับใช้ แต่มีข้อเสนอแนะว่า ควรให้มีลักษณะการบริหารคล้ายอีอีซี และมีความเป็นห่วงด้านการบริหารจัดการน้ำอาจไม่เพียงพอ อย่างไรก็ตาม มีความมั่นใจโครงการจะต้องเกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลนี้ โดยจะเริ่มต้นโครงการปี 2570 ใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปี แล้วเสร็จประมาณปี 2573.
https://www.prachachat.net/local-economy/news-1802090


แลนด์บริดจ์..ไทยไปต่อ..เจาะลึกที่ไม่เคยมีใครบอก ใกล้กว่าแต่แพง!!
https://www.youtube.com/watch?v=Jy74JEGYCgo
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45291
Location: NECTEC

PostPosted: 02/05/2025 12:30 pm    Post subject: Reply with quote

ทางรถไฟในแลนด์บริดจ์ คือ "โครงการก่อสร้างทางรถไฟ ช่วงชุมพร-ท่าเรือน้ำลึกระนอง" โดยเป็นทางรถไฟขนาด 4 ทาง ควบคู่กับมอเตอร์เวย์ (MR8) ระยะทางกว่า 91 กม. มี 5 สถานี คือ สถานีท่าเรือชุมพร สถานีวังตะกอ สถานีพะโต๊ะ สถานีราชกรูด และสถานีท่าเรือระนอง ซึ่งทำการสำรวจ ออกแบบ และทำ EIA แล้ว คาดว่าจะก่อสร้างปี 2569 และแล้วเสร็จปี 2573 (ขอขอบคุณข้อมูลและภาพจาก รฟท.)
https://www.facebook.com/ThailandUpdateFanPage/posts/662005953375092
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45291
Location: NECTEC

PostPosted: 07/05/2025 12:24 pm    Post subject: Reply with quote

‘ไทย’จีบ‘เกาหลีใต้’ลงทุน‘แลนด์บริดจ์’ หยอดคำหวานเชื่อใจทุนโสมขาวมากกว่า‘จีน’
วันพุธ ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 เวลา 11.17 น.

7 พ.ค. 2568 นสพ.The Korea Herald ของเกาหลีใต้ เสนอรายงานพิเศษ $100 billion Land Bridge project aims to attract Korean firms across finance, shipbuilding, port operations and civil engineering ว่าด้วยประเทศไทยได้ชักชวนให้เกาหลีใต้ร่วมลงทุนในโครงการ “แลนด์บริดจ์ (Land Bridge)” ซึ่งเชื่อมการขนส่งสินค้าระหว่าง 2 ฟากฝั่งทะเล คืออ่าวไทยฝั่ง จ.ชุมพร และทะเลอันดามันฝั่ง จ.ระนอง โดยจะมีท่าเรือน้ำลึกใน 2 จังหวัดข้างต้น และเชื่อมต่อกันด้วยเส้นทางรถไฟและถนน

โครงการดังกล่าวซึ่งมีเม็ดเงินลงทุน 3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 1 ล้านล้านบาท คาดหวังว่าจะช่วยลดเวลาการขนส่งได้ 4 วัน เมื่อเทียบกับการไปใช้เส้นทางช่องแคบมะละกา ทำให้ต้นทุนด้านโลจิสติกส์ลดลงได้ร้อยละ 15 ทั้งนี้ สื่อแดนโสมขาว อ้างคำกล่าวของ ศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ (Suksit Srichomkwan) รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีของไทย ที่ให้สัมภาษณ์กับทาง Korea Herald ในช่วงที่มาร่วมงาน Ignite Thailand-Korea Business Forum เมื่อวันที่ 22 เม.ย. 2568 ที่ระบุว่า เรือมากกว่า 85,000 ลำผ่านช่องแคบมะละกาทุกปี และจำนวนดังกล่าวเพิ่มขึ้นร้อยละ 2 ทุกปี ทำให้มีความเสี่ยงต่อความแออัด อุบัติเหตุ และความล่าช้า



ด้วยการคาดการณ์ว่าช่องแคบจะเต็มความจุภายในปี 2573 ศึกษิษฏ์ กล่าวว่า แลนด์บริดจ์ไม่ใช่แค่ทางเลือกแต่เป็นสิ่งจำเป็น แต่ก็ย้ำว่าโครงการนี้ไม่ได้มุ่งหวังที่จะแข่งขันกับสิงคโปร์และมะละกา โดยเปลี่ยนเส้นทางการจราจรติดขัดและรองรับระบบขนส่งและเรือขนาดเล็ก ซึ่งนอกจากจะช่วยบรรเทาการจราจรทางทะเลแล้ว ยังอาจเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาวของไทยได้ด้วย โดยอาจดึงดูดการลงทุนได้มากถึง 1 แสนล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 3.4 ล้านล้านบาท และกระตุ้น GDP ของไทยได้ร้อยละ 1 – 2 1 ขึ้นอยู่กับประเภทของความร่วมมือที่เกิดขึ้น

สำหรับประเทศไทย โครงการแลนด์บริดจ์สามารถกระตุ้นการพัฒนาในจังหวัดภาคใต้ได้ด้วยการขยายเส้นทางการส่งออกผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรและอาหารทะเล ขณะเดียวกันก็เพิ่มการไหลเวียนของการค้าผ่านเขตระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งเป็นเขตเศรษฐกิจที่ครอบคลุม 3 จังหวัดภาคตะวันออก (ฉะเชิงเทรา ชลบุรีและระยอง)

ความร่วมมือข้ามพรมแดนถือเป็นหัวใจสำคัญของความพยายามของไทยในการดึงดูดการลงทุนจากภาครัฐและเอกชน โดยมีการเจรจาเชิงบวกกับทั้งจีนและมาเลเซียอย่างต่อเนื่อง ตัวอย่างหนึ่งคือการที่โครงการต้องพึ่งพาสินค้าจากจีนเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานเบื้องต้น ในเรื่องนี้ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีของไทย คาดหวังว่า จะพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีใต้และไทย ซึ่งแต่เดิมก็มีความแข็งแกร่งอยู่แล้วในภาคการท่องเที่ยว ให้กลายเป็นความสัมพันธ์ทางธุรกิจและการลงทุนที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

ศึกษิษฏ์ กล่าวถึงรูปแบบธุรกิจของเกาหลีใต้ที่มีศักยภาพในการขยายขนาดในประเทศไทยว่า ไทยนั้นให้ความสำคัญกับนักลงทุนที่นำห่วงโซ่อุปทานทั้งหมดมาสู่ประเทศ ไม่ใช่แค่การประกอบขั้นสุดท้ายเท่านั้น โดยเน้นย้ำถึงจุดแข็งของเกาหลีใต้ในด้านการต่อเรือ โลจิสติกส์ การดำเนินงานท่าเรือ และงานวิศวกรรมโยธา ซึ่งทำให้บริษัทต่างๆ ของเกาหลีใต้เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะคว้าโอกาสนี้

“เมื่อเทียบกับปัญหาในอดีตกับผู้รับเหมาชาวจีนแล้ว ประเทศไทยมีความไว้วางใจในบริษัทของเกาหลีใต้ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่เชื่อถือได้มากกว่า นอกจากนี้ ประเทศไทยยังเปิดกว้างมากต่อสถาบันการเงินของเกาหลีใต้ที่สนับสนุนโครงการที่นำโดยเกาหลีใต้” ศึกษิษฏ์ กล่าว

รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีของไทย ขยายความเพิ่มเติมว่า สถาบันการเงินและผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของเกาหลีใต้ สามารถได้รับประโยชน์จากโอกาสการลงทุนในระดับขั้นพื้นฐาน (Ground-floor Investment) เนื่องจากพื้นที่โครงการส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับการพัฒนา ดังตัวอย่างหนึ่งที่อยู่ระหว่างดำเนินการแล้ว คือ SK Bioscience บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพของเกาหลีใต้ สนใจที่จะผลิตวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ในประเทศไทย ซึ่งชีวการแพทย์และอุตสาหกรรมแห่งอนาคตเป็นภาคส่วนที่มีความสำคัญสำหรับความร่วมมือทวิภาคี

ทั้งนี้ โอกาสในอนาคตคาดว่าจะเติบโตขึ้น เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวจะได้รับการกำหนดให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ โดยมีกฎระเบียบที่รัดกุมขึ้นและมีแรงจูงใจเฉพาะสำหรับอุตสาหกรรมหลัก ซึ่ง ศึกษิษฏ์ ระบุว่า จะมีแรงจูงใจทางภาษีสูงสุด 8 ปี เงินอุดหนุน และตัวเลือกการลงทุนร่วม อีกทั้งจะปรับแต่งผลประโยชน์เหล่านี้ตามความเหมาะสมเชิงกลยุทธ์และความต้องการของนักลงทุนแต่ละราย

ศึกษิษฏ์ ยังกล่าวอีกว่า โครงการนี้คาดว่าจะแยกตัวออกจากการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในขณะที่ดำเนินไป โดยเน้นย้ำว่าเป็นความพยายามในระยะยาว มีการร่างกฎหมายเฉพาะสำหรับเขตนี้ โดยทำให้การสนับสนุนของรัฐบาลมีผลผูกพันทางกฎหมายไม่ว่าในอนาคตพรรคการเมืองใดจะเข้ามามีอำนาจก็ตาม อนึ่ง เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ ประเทศไทยกำลังวางแผนจัดฟอรัมเศรษฐกิจระดับภูมิภาคในกรุงเทพฯ ซึ่งอาจจัดขึ้นในเดือน ธ.ค. 2568 โดยหวังว่าจะเชิญนายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้เข้าร่วมด้วย

“นอกจากนี้ ยังหวังว่าจะมีการเจรจาหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ (EPA) ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น และรูปแบบความร่วมมือทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับเกาหลีใต้และประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค” รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีของไทย กล่าว

ขอบคุณเรื่องจาก

https://www.koreaherald.com/article/10481664
Note: ไปๆ มาๆ ผู้รับเหมาเกาหลี ท่าจะเค็มพอๆ กะผู้รับเหมาจีนและยังมีคดีเขื่อนแตกที่ลาว คดีตึก wawoon ที่ล้มครืนและโรงแรมไฟไหม้ช่วงคริสต์มาสอีฟที่เกาหลีสมัยประธานาธิบดีปักจุนฮี จะหนีเสือปะจระเข้หรือเปล่าหนอ
https://www.naewna.com/inter/882369?
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45291
Location: NECTEC

PostPosted: 21/05/2025 10:54 pm    Post subject: Reply with quote

Video โครงการศึกษาทางรถไฟ สายใหม่ ชุมพร-ระนอง แนวเส้นทาง Landbridge
มาทำความรู้จัก เส้นทางรถไฟ Land Bridge ชุมพร-ระนอง ซึ่งเป็นเส้นทางหลักเชื่อมท่าเรือ ทั้ง 2 ฝั่งทะเลกับแนวทางรถไฟไทย ที่ขนาดราง 1 เมตร
โดยโครงการนี้ จะเป็นเส้นเลือดหลักที่จะสนับสนุนทั้งการให้บริการ Landbridge และ การเชื่อมต่อทางรถไฟไทย เข้ามาใช้ท่าเรือทั้ง 2 ฝั่งทะเลอีกด้วย จุดเริ่มต้นโครงการจากแหลมริ่ว ตำบลบางน้ำจืด อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร
แนวเส้นทางมุ่งไปทางทิศตะวันตก ตัดผ่านทางรถไฟสายใต้ ทางหลวงหมายเลข 41 และขนานไปกับทางหลวงหมายเลข
4006 ผ่านพื้นที่ตำบลนาขา ตำบลวังตะกอ ตำบลหาดยาย อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร ตำบลปังหวาน ตำบลพระรักษ์
ตำบลพะโต๊ะ ตำบลปากทรง อำเภอพะโต๊ะ จังหวัดชุมพร และไปสิ้นสุดที่บริเวณที่มีแผนจะก่อสร้างเป็นท่าเรือระนองใน
อนาคต บริเวณอ่าวอ่าง ตำบลราชกรูด อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง ระยะทางรวมประมาณ 87.5 กิโลเมตร มีการ
กำหนดตำแหน่งสถานีรถไฟเบื้องต้นทั้งหมด 5 สถานี ได้แก่ สถานีท่าเรือชุมพร สถานีวังตะกอ สถานีพะโต๊ะ สถานีราชกรูด
และสถานีท่าเรือระนอง โดยมีอุโมงค์ 3 แห่ง ความยาวรวม 15 กิโลเมตร ทางรถไฟขนาด 4 ทาง เป็นรางขนาด1 เมตร 2 ทาง และ รางมาตรฐาน 2 ทาง
อีกหนึ่งความน่าสนใจของโครงการ คือการวางแผน Spur line แยกจากสถานีราชกรูด เพื่อมุ่งหน้าไปสนามบิน และเมืองระนอง เพื่อรองรับการเดินทางเข้าสู่เขตเมืองรองรับการโดยสารอีกด้วยหลังจากที่ชาวเมืองระนองบ่นว่าไม่มีรถไฟเข้าตัวเมืองระนอง
https://www.srt-cprn.com/?
https://www.facebook.com/Thailand.Infra/videos/1194297775242794
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 48794
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 28/05/2025 7:25 pm    Post subject: Reply with quote

ไฟเขียวทุ่มงบ 50 ล้านบาท หนุนระนองสู่ศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของกลุ่มจังหวัดอันดามัน | เดลินิวส์
Source - เว็บไซต์เดลินิวส์
Wednesday, May 28, 2025 16:51

ที่ประชุมคณะ กรอ. กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน มีมติทุ่มงบประมาณ 50,000,000 ล้านบาท ลงจ.ระนอง ผลักดันโครงการพัฒนาศูนย์ธาราบำบัดน้ำแร่ร้อนธรรมชาติ ยกระดับสู่ศูนย์วัฒนธรรมเทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้ และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ของกลุ่มจังหวัดอันดามัน

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 28 .พ.ค. ที่ห้องประชุมรัตนรังสรรค์ ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดระนอง นายสุพจน์ ภูติเกียรติขจร ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง พร้อมด้วย นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต หัวหน้ากลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน นายสลิล โตทับเที่ยง ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคใต้ หอการค้าไทย และนายธนูศักดิ์ พึ่งเดช ประธานหอการค้ากลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐ และเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ครั้งที่ 4/2568 โดยมีนายสมโชค วงศ์ภิวัฒนา ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดระนอง และนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดระนอง ผู้แทน ผู้ว่าฯกระบี่ สตูล และตรัง ฝ่ายเลขานุการ กรอ. กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน คณะกรรมการ กรอ. กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน 86 คน ผู้แทนจากส่วนราชการและภาคเอกชน เข้าร่วม

โดยที่ประชุมได้ติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานตามความต้องการของพื้นที่ นโยบายเร่งด่วนและข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี เมื่อคราวประชุมกับผู้ว่าราชการจังหวัดผู้แทนภาคเอกชน ผู้บริหารท้องถิ่น เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน 2 เรื่อง ดังนี้ 1. เรื่องความก้าวหน้าการทบทวนโครงการการศึกษาความเหมาะสมทางด้านเศรษฐกิจ วิศวกรรมและสิ่งแวดล้อมเส้นทางรถไฟชุมพร – ท่าเรือน้ำลึกระนอง พ.ศ.2561 และะ2. เรื่องการขุดลอกร่องน้ำในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน

นอกจากนี้ที่ประชุมได้ มีมติเห็นชอบ เรื่องการขอความเห็นชอบในการผลักดันโครงการพัฒนาศูนย์ธาราบำบัดน้ำแร่ร้อนธรรมชาติ ยกระดับสู่ศูนย์วัฒนธรรมเทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้ และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ของกลุ่มจังหวัดอันดามัน งบประมาณ 50,000,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังมีเรื่อง เพื่อพิจารณา ในการผลักดันโครงการพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามันให้เป็นศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวและการขนส่งทางทะเล (Maritime Hub) และพัฒนาท่าเรือชุมชน ในพื้นที่จ.ระนอง รวมถึงเรื่องการขอความเห็นชอบให้ผลักดันการจัดลำดับความสำคัญต่อการพัฒนาพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ภาคใต้โครงการพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามันให้เป็นศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวและการขนส่งทางทะเล (Maritime Hub)
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45291
Location: NECTEC

PostPosted: 20/06/2025 1:14 pm    Post subject: Reply with quote

อัปเดต! ร่าง พ.ร.บ. SEC รอกรมบัญชีกลางเช็กแหล่งเงินกองทุน "แลนด์บริดจ์" คาด 1 เดือนสรุป ชง ครม.
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันอังคาร ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2568 เวลา 07:01 น.
ปรับปรุง: วันอังคาร ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2568 เวลา 20:41 น.

“มนพร” เผย สคร.แนะส่งร่าง พ.ร.บ. SEC ให้กรมบัญชีกลางตรวจสอบแหล่งเงิน "กองทุนแลนด์บริดจ์" คาดเสร็จใน 1 เดือน ก่อนส่งต่อ ครม. ไม่กระทบไทม์ไลน์ ประกาศใช้ในปีนี้ ตั้ง สนง.และเปิด PPP ต้นปี 69

นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ (Southern Economic Corridor : SEC) เพื่อเชื่อมการขนส่งระหว่างอ่าวไทย-อันดามัน (แลนด์บริดจ์) และการจัดทำร่าง พ.ร.บ.ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ พ.ศ. .... ว่า จากที่สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้จัดรับฟังความเห็นจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ระนอง ชุมพร และนครศรีธรรมราช ครบถ้วนและสรุปร่างพ.ร.บ. SEC แล้วนั้น ซึ่งกระทรวงคมนาคมได้เสนอร่าง พ.ร.บ. SEC ไปที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) แล้ว โดย สคร.มีความเห็นว่า เนื่องจากพ.ร.บ. SEC เป็นกฎหมายที่นอกจากจะมีการจัดตั้งสำนักงาน SEC ในลักษณะเดียวกัน พ.ร.บ. EEC แล้วจะเงินกองทุนด้วย จึงให้ส่งร่าง พ.ร.บ. SEC ให้กรมบัญชีกลางช่วยตรวจสอบ แหล่งเงินของกองทุนแลนด์บริดจ์ก่อน โดยคาดว่าขั้นตอนนี้จะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน



ทั้งนี้ เงินกองทุนแลนด์บริดจ์มีวัตถุประสงค์เพื่อนำมาใช้สำหรับชดเชยเป็นค่าเวนคืน หรือค่าชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการลงทุนในพื้นที่แลนด์บริดจ์ ซึ่งขณะนี้ได้ส่งไปที่กรมบัญชีกลางแล้ว เมื่อตรวจสอบเรียบร้อย จะส่งร่างฯกลับมาที่กระทรวงคมนาคม เพื่อส่งไปที่สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ​ต่อไป

“แม้จะมีขั้นตอนให้กรมบัญชีกลางตรวจสอบเรื่องกองทุนแลนด์บริดจ์ที่คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน ซึ่งตามแผนงานขั้นตอนต่างๆ ขณะนี้ยังอยู่ในไทม์ไลน์ที่วางไว้ เนื่องจากผลการรับฟังความคิดเห็นจากผู้เกี่ยวข้องในพื้นที่แลนด์บริดจ์ทั้ง 3 จังหวัด มีความเห็นเป็นความเห็นเชิงบวก และได้นำมาดำเนินการในร่างพ.ร.บ. SEC แล้ว โดยคาดว่า.ภายในเดือน พ.ย.-ธ.ค. 2568 ร่างพ.ร.บ. SEC จะแล้วเสร็จ ประกาศใช้ และจะเปิดประมูลคัดเลือก PPP โคงการแลนด์บริดจ์ได้ตามเป้าหมาย ที่กำหนดไว้”



อย่างไรก็ตาม ตามแผนงาน สนข.ได้สรุปร่าง พ.ร.บ. SEC โดยประมวลความเห็นต่างๆ ในพื้นที่ จ.ชุมพร, ระนอง, สุราษฎร์ธานี มาปรับปรุงให้เหมาะสม และประชุมสรุปครั้งสุดท้าย เดิมคาดนำเสนอครม.ได้ภายในเดือน พ.ค. 2568 และคาดว่า จะเสนอร่าง พ.ร.บ. SEC ต่อสภาผู้แทนราษฎรได้ในการประชุมสามัญที่จะเปิดสมัยประชุมวันที่ 3 ก.ค. 2568 ซึ่งจากที่ประเมินเวลา ผ่านเข้าสภาวาระ 1, 2, 3 ประมาณเดือน ก.ย. 2568 จากนั้นจะเสนอวุฒิสภา ใช้เวลาอีกประมาณ 2 เดือน หรือในเดือน ต.ค.-พ.ย. 2568 จะแล้วเสร็จและนำร่างทูลเกล้าฯ เพื่อจัดตั้งสำนักงานSEC และคณะกรรมการ SEC ภายในปลายปี 2568 เพื่อให้ดำเนินการประกาศประมูล PPP โครงการแลนด์บริดจ์ในปี 2569
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45291
Location: NECTEC

PostPosted: 07/08/2025 9:43 am    Post subject: Reply with quote

สนข.ฟังเสียงประชาชน พัฒนาท่าเรืออ่าวอ่าง”แลนด์บริดจ์”ยันมาตรการดูแลสิ่งแวดล้อมเข้มข้น
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันพุธ ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2568 เวลา 17:22 น.
ปรับปรุง: วันพุธ ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2568 เวลา 17:22 น.

สนข. ลงพื้นที่”ระนอง”รับฟังความคิดเห็นของคนในพื้นที่ ครั้งที่ 3 ในการพัฒนาท่าเรือบริเวณแหลมอ่าวอ่าง ศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมและโมเดลการลงทุน”แลนด์บริดจ์”ยันนำข้อกังวล กำหนดเป็นมาตรการกำกับและปฏิบัติอย่างเคร่งครัด

นายจิรโรจน์ ศุกลรัตน์ รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยว่า สนข.ได้จัดการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 3 โครงการพัฒนาท่าเรือบริเวณแหลมอ่าวอ่าง อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง ภายใต้โครงการศึกษาความเหมาะสม ออกแบบเบื้องต้น ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและวิเคราะห์รูปแบบโมเดลการพัฒนาการลงทุน (Business Development Model) โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้เพื่อเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน (โครงการแลนด์บริดจ์) เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2568 ณ ห้องราชาวดี ชั้น 3 เฮอริเทจ แกรนด์ คอนเวนชั่น อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนองโดยมีนายราชัน มีน้อย รองผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง เป็นประธานการประชุม ฯ มีผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค ส่วนท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง สถาบันการศึกษา ผู้นำชุมชนผู้แทนกลุ่มอาชีพ เครือข่ายภาคประชาสังคม นักวิชาการและผู้ที่อาจได้รับผลกระทบทั้งด้านบวกและด้านลบจากการพัฒนาโครงการ สื่อมวลชน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภาคส่วนต่าง ๆ เข้าร่วมการประชุมรับฟังความคิดเห็นดังกล่าวเป็นจำนวนมาก

นายจิรโรจน์ กล่าวว่า นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้มีข้อสั่งการให้ สนข. เร่งรัดผลักดันโครงการแลนด์บริดจ์ให้เป็นไปตามแผนการดำเนินงานที่กำหนดไว้เพื่อประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ และเน้นย้ำต่อกระบวนการสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ทุกขั้นตอนของการดำเนินงาน เพื่อกำหนดร่างมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมให้เป็นไปได้ในทางปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เพื่อให้การพัฒนาท่าเรือฝั่งอันดามันในพื้นที่จังหวัดระนอง และท่าเรือฝั่งอ่าวไทยในพื้นที่จังหวัดชุมพร เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม Green Port ตามนโยบายที่มอบให้ไว้กับ สนข.



สำหรับโครงการแลนด์บริดจ์ ใช้หลักการท่าเรือเดียวเชื่อมสองฝั่ง (One Port Two Sides) ที่จะต้องก่อสร้างและบริหารงานพร้อมกันทั้งโครงการ ซึ่งจะพัฒนาให้เป็นท่าเรือน้ำลึกที่ทันสมัย โดยได้มีการศึกษาความเหมาะสมการบริหารจัดการท่าเรือ ด้วยระบบ Automation มาใช้ในการขนย้ายสินค้า เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางถนน และทางรถไฟเชื่อมโยงท่าเรือทั้ง 2 ฝั่ง เพื่อสนับสนุนนโยบายด้านการขนส่งของปะเทศไทยจากการได้เปรียบทางที่ตั้งและภูมิศาสตร์ในภาคใต้ที่มีลักษณะทางกายภาพสามารถเปิดสู่ทะเลทั้งสองด้าน จึงเป็นโอกาสที่จะได้ใช้ประโยชน์จากทำเลที่ตั้งดังกล่าว เพื่อนำมาพัฒนาเป็นเส้นทางทางเลือกในการขนส่งสินค้าทางทะเล เพื่อเชื่อมโยงฝั่งอ่าวไทยและฝั่งอันดามัน นอกเหนือจากการขนส่งสินค้าผ่านช่องแคบมะละกาในปัจจุบัน

เป็นการสนับสนุนการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและศักยภาพทางการค้าของประเทศไทยกับกลุ่มประเทศที่อยู่ทางด้านมหาสมุทรอินเดีย สอดคล้องต่อยุทธศาสตร์ นโยบาย และผลการศึกษาของโครงการต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนา Landbridge ต่าง ๆ ในภูมิภาคภาคใต้ของประเทศไทย เพื่อเชื่อมโยงการขนส่งสินค้าสองฝั่งทะเล (อ่าวไทย - อันดามัน) ต่อไป



สำหรับการจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 3 โครงการพัฒนาท่าเรือบริเวณแหลมอ่าวอ่าง อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนองตรั้งนี้ มีผู้สนใจเข้าร่วมประชุมเป็นจำนวนมาก เช่น ผู้นำชุมชนในพื้นที่ ผู้แทนกลุ่มอาชีพ เครือข่ายภาคประชาสังคม นักวิชาการและผู้ที่อาจได้รับผลกระทบจากการพัฒนาโครงการ ได้ร่วมกันเสนอความคิดเห็นที่หลากหลาย ทั้งที่เห็นด้วยและเห็นต่าง

โดยผู้เห็นต่างได้เสนอข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินโครงการ โดย สนข. จะนำเอาข้อเสนอแนะ และข้อคิดเห็นต่าง ๆ มากำหนดร่างมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมให้เป็นไปได้ในทางปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมประชุมส่วนใหญ่เห็นด้วยต่อการดำเนินโครงการและให้ สนข. รีบดำเนินการให้เป็นไปตามแผนการดำเนินรงานที่กำหนดไว้ ซึ่งจะเป็นการสร้างโอกาสที่ดี ที่จะทำให้ประเทศไทย ก้าวสู่การเป็นเส้นทางเดินเรือใหม่ของโลก และเป็นศูนย์กลางการขนส่งและเศรษฐกิจใหม่ทางทะเล ที่จะสร้างรายได้ สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ประชาชนในพื้นที่ และสร้างเศรษฐกิจไทยให้เติบโตได้อย่างแท้จริง
https://mgronline.com/business/detail/9680000074619
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 22, 23, 24
Page 24 of 24

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©