RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:316788
ทั่วไป:24004410
ทั้งหมด:24321198
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - 60 ปี การเปิดเส้นทางรถไฟสายสุพรรณบุรี (16-06-66)
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

60 ปี การเปิดเส้นทางรถไฟสายสุพรรณบุรี (16-06-66)
Goto page Previous  1, 2
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> สาระความรู้วิชาการรถไฟและประวัติศาสตร์รถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45429
Location: NECTEC

PostPosted: 13/05/2025 10:50 pm    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:

ศึกษาความเหมาะสมเพื่อก่อสร้างแล้วกับรถไฟทางคู่สายใหม่ "ช่วงสุพรรณบุรี - นครหลวง - ชุมทางบ้านภาชี จ.อยุธยา" ระยะทาง 68 กม. ผ่าน จ.สุพรรณบุรี จ.อ่างทอง และ จ.อยุธยา เพื่อเชื่อมการขนส่งจากภาคเหนือและอีสานสู่ภาคตะวันตกและภาคใต้ ขณะนี้ได้ศึกษาความเหมาะสมก่อสร้างแล้วตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา โดยแผนล่าสุดของ รฟท. จะเริ่มก่อสร้างหลังปี 2571 (ขอขอบคุณข้อมูลและภาพจาก รฟท.)
https://www.facebook.com/ThailandUpdateFanPage/posts/656087570633597
https://www.youtube.com/watch?v=kJoGSaREYoU


สรุปแล้ว!!! เส้นทางรถไฟสายใหม่ สุพรรณบุรี-บ้านภาชี ระยะเชื่อมเหนือ-อีสาน-ใต้ เลี่ยงกรุงเทพ แก้ปัญหาจราจร
เพิ่มขีดความสามารถในการขนสินค้าข้ามภูมิภาค รองรับรถไฟสายทรานเอเชีย สิงคโปร์-คุนหมิง!!!!
สร้างโอกาสใหม่ ทั้งโดยสาร และขนสินค้า พร้อมเปิดพื้นที่สถานี และลานเก็บตู้คอนเทนเนอร์ใหม่!!!
วันนี้เอาข้อมูลจากการประชุมครั้งล่าสุด ของโครงทางรถไฟสายใหม่ สุพรรณบุรี-บ้านภาชี
ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทางรถไฟเลี่ยงกรุงเทพ เพื่อเชื่อมต่อกับทางรถไฟสาย ชุมทางหนองปลาดุก-สุพรรณบุรี มาต่อให้ครบวง เพื่อแก้ปัญหาจราจรของรถไฟขนส่งสินค้า
จากปัจจุบัน รถไฟจากสายใต้ ที่จะไปเหนือ-อีสาน ที่ต้องวิ่งผ่านกรุงเทพ เพื่อมาเปลี่ยนถ่ายขบวนที่ย่านสินค้าพหลโยธิน (สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์)
—————————
จากการประชุมล่าสุด ได้สรุปแนวเส้นทาง และรายละเอียดหลักของโครงการไว้ตามนี้ครับ
- แนวโครงการ
เริ่มต้นจาก สถานีสะแกย่างหมู บนทางรถไฟสายหนองปลาดุก-สุพรรณบุรี โดยมีการขยับตำแหน่งสถานีสะแกย่างหมู พร้อมปรับปรุงสถานีใหม่ทั้งหมด คู่กับการก่อสร้างลานเก็บตู้คอนเทนเนอร์(CV) ใหม่ด้านเหนือของสถานี
จากนั้นทางรถไฟจะวิ่งในแนวตะวันออก ข้ามแม่น้ำท่าจีน และข้ามถนน 340 ก่อนจะเข้าสู่สถานีสุพรรณบุรีใหม่ ซึ่งตำแหน่งนี้เป็นตำแหน่งหน้าเมืองสุพรรณบุรี ก่อนเข้าเมือง เหมาะสำหรับการเชื่อมต่อ และพัฒนาเมืองใหม่ (TOD) ตรงนี้มาก
หลังจากนั้น ก็จะวิ่งในแนวตะวันออกผ่านเข้าทุ่งรับน้ำผักไห่ และป่าโมก แล้วข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งจะสร้างเป็นสะพาน Extradose (สะพานแข็งขึง เหมือนกับสะพานจุฬาลงกรณ์ใหม่) ก่อนเข้าสู่สถานีบ้านกุ่ม
จากนั้นก็มุ่งหน้าต่อ ข้ามถนน 347 (สายบางปะหัน) และ ถนน 32 (สายเอเชีย) ก่อนเข้าสู่สถานีบางปะหัน โดยตรงนี้จะเป็นลานเก็บตู้คอนเทนเนอร์ (CY) ที่สำคัญอีกหนึ่งที่ ซึ่งจะรับสินค้าจากสายเอเชีย ท่าเรือในแม่น้ำป่าสัก และ นิคมโดยรอบได้อย่างดีมากครับ
จากนั้นก็มุ่งหน้า ลงใต้เล็กน้อยไปบรรจบกับทางรถไฟสายเหนือก่อนถึงสถานีชุมทางบ้านภาชี พร้อมกับก่อสร้าง ลานเก็บตู้คอนเทนเนอร์ (CY) อีกหนึ่งแห่ง
ระยะทางรวม 65 กิโลเมตร
ซึ่งทางรถไฟสายนี้เป็นสายที่พูดกันมามากกว่า 40 ปีแล้ว เพราะมาช่วยแก้ปัญหาจราจรสินค้า ข้ามภูมิภาค และปลดล๊อกการเดินทางระหว่างประเทศที่เรามีเป็นศูนย์กลางในการเชื่อมโยง อาเซียน-ไทย-จีน อยู่แล้ว
—————————
โดยในโครงการ จะมีตำแหน่งสถานีทั้งหมด 4 สถานีได้แก่
- สถานีสะแกย่างหมู => ตำบล มะขามล้ม อำเภอบางปลาม้า สุพรรณบุรี 72150
- สถานีสุพรรณบุรี (ใหม่) => อยู่ระหว่าง ตำบลโคกคราม และ ตำบลโพธิ์คอย อำเภอเมืองสุพรรณบุรี สุพรรณบุรี 72150
- สถานีบ้านกุ่ม => บ้านกุ่มเป็น compromise ระหว่างป่าโมกกะบางบาล แถมอยู่ด้านใต้ Bangkok Solar Power บางบาล ออกไปทางบางบาลอาไหล่ยนต์ เสียด้วย
- สถานีบางปะหัน => บางปะหันอยู่ระหว่างวัดเกาะเลิ่ง ตำบล บางปะหัน อำเภอบางปะหัน และโรงงานอยุธยา ของ บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด แถว หมู่ 2, ถนนบางปะหัน - นครหลวง (ทางหลวง 33) ตำบล บางระกำ อำเภอนครหลวง มีคลองเกาะเลิ่งอยู่ด้านตะวันตก
พร้อมกับลานเก็บตู้คอนเทนเนอร์ (CY) อีก 3 แห่งคือ
- CY สะแกย่างหมู
- CY บางปะหัน
- CY บ้านภาชี
ซึ่งแต่ละสถานี มีความน่าสนใจในการพัฒนาที่ดินโดยรอบที่แตกต่างกัน ทั้งการพัฒนาเมือง และการพัฒนาพื้นที่อุตสาหกรรมเชื่อมโยง และแปรรูป พร้อมส่งออก ผมว่าเป็นอีกจุด Highlight ของโครงการเลยทีเดียว
แต่ในเส้นทางผ่านพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก และทุ่งรับน้ำหลายแห่ง เลยอาจจะได้เห็นทางรถไฟสายใหม่ เป็นทางรถไฟยกระดับเกือบทั้งเส้น เพื่อไม่ไปกีดขวางทางไหลของน้ำและเมื่อเจอน้ำท่วม ทางรถไฟก็ไม่เสียหายไปด้วย
—————————
การคาดการณ์ปริมาณผู้โดยสาร
คาดว่ามีปริมาณผู้โดยสารผ่านเส้นทางนี้ (ต้องคู่กับการเปิดทางรถไฟข้ามภูมิภาค) ในปีแรก ประมาณ 5 ล้านคน/ปี
คาดว่ามีปริมาณสินค้าผ่านเส้นทางนี้ ในปีแรก ประมาณ 11 ล้านตัน/ปี
—————————
โครงการทางรถไฟสาย สุพรรณบุรี-บ้านภาชี เป็นหนึ่งในเส้นทางยุทธศาสตร์ของประเทศ ที่ถูกบรรจุไว้ในแผนเร่งด่วน
โดยตามแผน จะนำเสนอ ครม. ในปี 2671
เริ่มก่อสร้าง ในปี 2572
เปิดให้บริการในปี 2576
เอาจริงๆ ถ้าเป็นเส้นทางเร่งด่วน และสำคัญกับโครงข่าย และการสนับสนุนการขนส่งระหว่างประเทศขนาดนี้ ผมอยากให้เข้า Fast Track เร่งให้เปิดไม่เกิน 2572 เลยครับ!!!
https://www.facebook.com/Thailand.Infra/posts/1072556948353225
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 49143
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 14/05/2025 7:11 pm    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
สรุปแล้ว!!! เส้นทางรถไฟสายใหม่ สุพรรณบุรี-บ้านภาชี ระยะเชื่อมเหนือ-อีสาน-ใต้ เลี่ยงกรุงเทพ แก้ปัญหาจราจร
https://www.facebook.com/Thailand.Infra/posts/1072556948353225
โครงสร้างพื้นฐาน ประเทศไทย Thailand Infrastructure อยู่ที่ สถานีรถไฟสุพรรณบุรี (Suphan Buri) SRT4042

สรุปโครงการและเส้นทางรถไฟสายใหม่ ส่วนหนึ่งของทางรถไฟวงแหวนกรุงเทพ เส้นทาง #สุพรรณบุรี - #บ้านภาชี
เพื่อเป็นเส้นทางรองรับการขนส่งสินค้าระหว่างภูมิภาค และระหว่างประเทศ เป็นส่วนหนึ่งของโครงข่ายรถไฟ ทรานเอเชีย สิงคโปร์-คุณหมิง เพื่อพัฒนาไทยให้เป็นศูนย์กลาง Logisticsของภูมิภาค
โดยในโครงการ จะมีตำแหน่งสถานีทั้งหมด 4 สถานีได้แก่
- สถานีสะแกย่างหมู
- สถานีสุพรรณบุรี (ใหม่)
- สถานีบ้านกุ่ม
- สถานีบางปะหัน
พร้อมกับลานเก็บตู้คอนเทนเนอร์ (CY) อีก 3 แห่งคือ
- CY สะแกย่างหมู
- CY บางปะหัน
- CY บ้านภาชี
ซึ่งแต่ละสถานี มีความน่าสนใจในการพัฒนาที่ดินโดยรอบที่แตกต่างกัน ทั้งการพัฒนาเมือง และการพัฒนาพื้นที่อุตสาหกรรมเชื่อมโยง และแปรรูป พร้อมส่งออก ผมว่าเป็นอีกจุด Highlight ของโครงการเลยทีเดียว
—————————
การคาดการณ์ปริมาณผู้โดยสาร
คาดว่ามีปริมาณผู้โดยสารผ่านเส้นทางนี้ (ต้องคู่กับการเปิดทางรถไฟข้ามภูมิภาค) ในปีแรก ประมาณ 5 ล้านคน/ปี
คาดว่ามีปริมาณสินค้าผ่านเส้นทางนี้ ในปีแรก ประมาณ 11 ล้านตัน/ปี

https://www.facebook.com/share/v/16bWt9fiW9/
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 49143
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 02/06/2025 8:21 am    Post subject: Reply with quote

รฟท.เคาะเลือกแนวก่อสร้าง ทางคู่สายใหม่ 'สุพรรณบุรี - ภาชี'
Source - กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
Monday, June 02, 2025 06:55

การรถไฟฯ เคาะเลือกแนวเส้นทางก่อสร้าง "รถไฟทางคู่สายใหม่" ช่วงสุพรรณบุรี – นครหลวง – ชุมทางบ้านภาชี ระยะทาง 65.5 กิโลเมตร รับดีมานด์ขนส่งสินค้าเกษตร – อุตสาหกรรม

รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ภายหลัง รฟท.ศึกษาความเหมาะสมของการพัฒนาโครงการรถไฟทางคู่สายใหม่ ซึ่งจะถูกบรรจุอยู่ในแผนพัฒนารถไฟทางคู่ ระยะที่ 3 เป้าหมายเริ่มดำเนินการในปี 2571 ขณะนี้พบว่าเส้นทางที่มีความคุ้มค่าทางการลงทุน และจะตอบโจทย์ดีมานด์การขนส่งสินค้าและผู้โดยสารสูงสุด คือ เส้นทางรถไฟ ช่วงสุพรรณบุรี – นครหลวง – ชุมทางบ้านภาชี

อย่างไรก็ดี รฟท.ได้ว่าจ้างที่ปรึกษาเพื่อลงพื้นที่เปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชน พร้อมนำความเห็นต่างๆ มาเตรียมสรุปผลและเลือกแนวเส้นทางพัฒนาที่มีศักยภาพสูงสุด โดยคัดเลือกจาก 4 เส้นทาง ประกอบด้วย

Click on the image for full size

แนวเส้นทางเลือกที่ 1 (สีแดง) : เริ่มจากสถานีสุพรรณบุรีเดิม มุ่งทิศเหนือผ่านทางหลวงหมายเลข 321 พื้นที่ในช่วงนี้เป็นพื้นที่ชุมชนหนาแน่น จึงอาจจำเป็นต้องพิจารณาออกแบบเป็นสะพานยกระดับหรืออุโมงค์ยาวประมาณ 1 กิโลเมตร เพื่อลดผลกระทบด้านการโยกย้ายเวนคืน จากนั้นแนวเส้นทางจะตัดผ่านพื้นที่ด้านเหนือของเมืองสุพรรณบุรี มุ่งหน้าทิศตะวันออก ผ่านแม่น้ำท่าจีน ข้ามทางหลวงหมายเลข 340

ผ่านทางหลวงหมายเลข 357 เบี่ยงแนวเส้นทางเข้าใกล้ทางหลวงหมายเลข 33 ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาและทางหลวงหมายเลข 309 ใกล้ตัวเมืองป่าโมก ผ่านทางหลวงหมายเลข 32 และทางหลวงหมายเลข 347 แล้วจึงเบี่ยงแนวเส้นทางมุ่งทิศใต้ รองรับพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม และท่าเรือ อำเภอนครหลวง ผ่านทางหลวงหมายเลข 33 แล้วจึงเข้าบรรจบทางรถไฟเดิม ระยะทางรวมประมาณ 70.8 กิโลเมตร

แนวเส้นทางเลือกที่ 2 (สีเหลือง) : เริ่มจากสถานีสุพรรณบุรีเดิม มุ่งทิศเหนือผ่านทางหลวงหมายเลข 321 พื้นที่ในช่วงนี้เป็นพื้นที่ชุมชนหนาแน่น จึงอาจจำเป็นต้องพิจารณาออกแบบเป็นสะพานยกระดับหรืออุโมงค์ยาวประมาณ 1 กิโลเมตร เพื่อลดผลกระทบด้านการโยกย้ายเวนคืน จากนั้นแนวเส้นทางจะตัดผ่านพื้นที่ด้านเหนือของเมืองสุพรรณบุรี มุ่งหน้าทิศตะวันออก ผ่านแม่น้ำท่าจีน

ก่อนจะเบี่ยงแนวลงทิศใต้เข้ามาใช้แนวเส้นทางตามการศึกษาของ MR10 ตัดทางหลวงหมายเลข 33 มุ่งทิศตะวันออก ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาและทางหลวงหมายเลข 309 ด้านทิศใต้ของตัวเมืองป่าโมก แล้วจึงเบี่ยงแนวไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ รองรับพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม และท่าเรือ อำเภอนครหลวง ผ่านทางหลวงหมายเลข 33 แล้วจึงเข้าบรรจบทางรถไฟเดิม ระยะทางรวมประมาณ 70.4 กิโลเมตร

แนวเส้นทางเลือกที่ 3 (สีน้ำเงิน) : เริ่มแยกจากแนวทางรถไฟเดิม บริเวณก่อนถึงสถานีสุพรรณบุรีประมาณ 4.5 กิโลเมตร โดยเบี่ยงขวาออกจากทางรถไฟเดิมก่อนถึงจุดตัดทางรถไฟกับทางหลวงหมายเลข 357 มุ่งทิศตะวันออก ขนานทางหลวงหมายเลข 357 ข้ามแม่น้ำท่าจีน ผ่านทางหลวงหมายเลข 340 ผ่านทุ่งรับน้ำบึงผักไห่ ข้ามแม่น้ำน้อย ผ่านพื้นที่บ่อทรายขนาดใหญ่

ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาและทางหลวงหมายเลข 309 ด้านทิศใต้ของตัวเมืองป่าโมก ระยะทาง 6 กิโลเมตร ผ่านทางหลวงหมายเลข 347 และทางหลวงหมายเลข 32 ข้ามแม่น้ำลพบุรี แล้วจึงเบี่ยงไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ข้ามแม่น้ำป่าสัก รองรับพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม และท่าเรือ อำเภอนครหลวง และผ่านทางหลวงหมายเลข 33 แล้วจึงเข้าบรรจบทางรถไฟเดิม ระยะทางรวมประมาณ 65.5 กิโลเมตร

แนวเส้นทางเลือกที่ 4 (สีเขียว) : เริ่มแยกจากแนวทางรถไฟเดิม บริเวณก่อนถึงสถานีสุพรรณบุรีประมาณ 4.5 กิโลเมตร โดยเบี่ยงขวาออกจากทางรถไฟเดิมก่อนถึงจุดตัดทางรถไฟกับทางหลวงหมายเลข 357 มุ่งทิศตะวันออก ขนานทางหลวงหมายเลข 357 ผ่านด่านทิศใต้ของบ้านผักไห่ ผ่านพื้นที่บ่อทรายขนาดใหญ่ด้านทิศใต้ของบ้านป่าโมก ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ผ่านทางหลวงหมายเลข 32 และทางหลวงหมายเลข 347 แล้วจึงเบี่ยงแนวไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ผ่านทางหลวงหมายเลข 32 และทางหลวงหมายเลข 33 แล้วจึงเข้าบรรจบทางรถไฟเดิม ระยะทางรวมประมาณ 69.2 กิโลเมตร

ทั้งนี้ จากการศึกษาความเหมาะสม เปรียบเทียบในด้านวิศวกรรม ด้านเศรษฐกิจการลงทุน และด้านสิ่งแวดล้อม พบว่าแนวเส้นทางเลือกที่ 3 (สีน้ำเงิน) ซึ่งมีระยะทาง 65.5 กิโลเมตร มีความเหมาะสมในการพัฒนาสูงสุด เนื่องจากแนวเส้นทางมีระยะทางน้อยที่สุด แต่สามารถเข้าพื้นที่รองรับการขนส่งสินค้าทางการเกษตร รองรับพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม และท่าเรือ อำเภอนครหลวง หลังจากนั้นเชื่อมมายังรถไฟสายเดิม ที่สามารถขนส่งสินค้าไปยังท่าเรือแหลมฉบังอย่างสะดวก

แหล่งข่าวกล่าวด้วยว่า หลังจากที่ปรึกษาโครงการรับฟังความคิดเห็นประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วเสร็จ ซึ่งคัดเลือกแนวเส้นทางที่เหมาะสมแล้ว จากนี้ รฟท.จะเริ่มกระบวนการออกแบบงานก่อสร้าง ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินการในปีงบประมาณ 2568 โดยใช้เวลาออกแบบ 1 ปีแล้วเสร็จ หลังจากนั้นจะเสนอกระทรวงคมนาคม และคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่ออนุมัติการลงทุน เบื้องต้นจึงคาดว่าจะดำเนินการตามแผนในปี 2571


Here's the English translation of the provided text:

---

## SRT Selects Alignment for New Dual-Track Railway 'Suphan Buri - Phachi'

Source: Krungthep Turakij Online
Monday, June 2, 2025, 06:55 AM

The State Railway of Thailand (SRT) has approved the alignment for the construction of a **new dual-track railway** section from Suphan Buri to Nakhon Luang – Chum Thang Ban Phachi, spanning 65.5 kilometers. This project aims to meet the demand for agricultural and industrial goods transportation.

A source from the State Railway of Thailand (SRT) revealed that after the SRT conducted a feasibility study for the new dual-track railway project, which is set to be included in the third phase of the dual-track railway development plan with an estimated commencement in 2028, it was found that the most investment-worthy route, best addressing the demand for freight and passenger transport, is the railway section from Suphan Buri – Nakhon Luang – Chum Thang Ban Phachi.

The SRT has appointed consultants to conduct on-site public hearings and gather feedback. This feedback will be summarized to select the most promising development alignment. Four potential alignments were considered:

### Alignment Option 1 (Red)
Starting from the original Suphan Buri station, this alignment heads north, passing through Highway No. 321. This section passes through densely populated areas, which may necessitate a consideration for an elevated bridge or a tunnel approximately 1 kilometer long to minimize expropriation impacts. The route then cuts through the northern part of Suphan Buri city, heading east, crossing the Tha Chin River and Highway No. 340. It then crosses Highway No. 357, veering close to Highway No. 33, crossing the Chao Phraya River and Highway No. 309 near Pa Mok town. It continues past Highway No. 32 and Highway No. 347, then veers south to support industrial estates and ports in Nakhon Luang District, passing Highway No. 33, and finally connecting to the existing railway line. The total distance is approximately 70.8 kilometers.

### Alignment Option 2 (Yellow)
Starting from the original Suphan Buri station, this alignment heads north, passing through Highway No. 321. This section passes through densely populated areas, which may necessitate a consideration for an elevated bridge or a tunnel approximately 1 kilometer long to minimize expropriation impacts. The route then cuts through the northern part of Suphan Buri city, heading east, crossing the Tha Chin River. It then veers south to utilize the alignment from the MR10 study, crossing Highway No. 33, heading east, crossing the Chao Phraya River and Highway No. 309 south of Pa Mok town. It then veers southeast to support industrial estates and ports in Nakhon Luang District, passing Highway No. 33, and finally connecting to the existing railway line. The total distance is approximately 70.4 kilometers.

### Alignment Option 3 (Blue)
This alignment branches off the existing railway line approximately 4.5 kilometers before Suphan Buri station. It veers right from the existing railway line before the railway intersection with Highway No. 357, heading east, parallel to Highway No. 357. It crosses the Tha Chin River, passes Highway No. 340, goes through the Bung Phak Hai flood plain, crosses the Noi River, and passes through large sand pit areas. It then crosses the Chao Phraya River and Highway No. 309 south of Pa Mok town for 6 kilometers, passes Highway No. 347 and Highway No. 32, crosses the Lop Buri River, and then veers southeast, crossing the Pasak River to support industrial estates and ports in Nakhon Luang District. It passes Highway No. 33 and then connects to the existing railway line. The total distance is approximately 65.5 kilometers.

### Alignment Option 4 (Green)
This alignment branches off the existing railway line approximately 4.5 kilometers before Suphan Buri station. It veers right from the existing railway line before the railway intersection with Highway No. 357, heading east, parallel to Highway No. 357. It passes south of Ban Phak Hai, goes through large sand pit areas south of Ban Pa Mok, crosses the Chao Phraya River, passes Highway No. 32 and Highway No. 347, and then veers southeast, passing Highway No. 32 and Highway No. 33, and finally connects to the existing railway line. The total distance is approximately 69.2 kilometers.

---

The feasibility study, which compared engineering, economic investment, and environmental aspects, concluded that **Alignment Option 3 (Blue)**, with a length of 65.5 kilometers, is the most suitable for development. This is because it is the shortest alignment while still being able to access areas supporting agricultural goods transport, industrial estates, and ports in Nakhon Luang District. After that, it connects to the original railway line, which can conveniently transport goods to Laem Chabang Port.

The source further stated that once the project consultants have completed public and stakeholder consultations and selected the most suitable alignment, the SRT will commence the construction design process. This is expected to begin in fiscal year 2025, taking one year to complete. Afterward, the plan will be submitted to the Ministry of Transport and the Cabinet for investment approval. Therefore, it is preliminarily anticipated that the project will proceed as planned in 2028.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45429
Location: NECTEC

PostPosted: 02/06/2025 2:11 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
รฟท.เคาะเลือกแนวก่อสร้าง ทางคู่สายใหม่ 'สุพรรณบุรี - ภาชี'
Source - กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
วันจันทร์ ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2568 เวลา 06:55 น.

Mongwin wrote:
สรุปแล้วแนวรถไฟทางคู่"สุพรรณบุรี-บ้านภาชี" เวนคืน3พันไร่เชื่อมโครงข่ายเอื้อขนส่งสินค้า
Source - ผู้จัดการรายวัน 360 องศา
วันจันทร์ ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2568 เวลา 03:21 น.

เอานี่ก็ได้ครับ
เคาะแนวรถไฟทางคู่สายใหม่”สุพรรณบุรี-บ้านภาชี” เวนคืน 3 พันไร่เชื่อมโครงข่ายเพิ่มศักยภาพขนส่งสินค้า
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันจันทร์ ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2568 เวลา 06:09 น.
ปรับปรุง: วันจันทร์ ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2568 เวลา 06:09 น.


เคาะแล้วรถไฟทางคู่สายใหม่”สุพรรณบุรี - นครหลวง - ชุมทางบ้านภาชี”แนวที่ 3 เวนคืนกว่า 3 พันไร่ สร้างทางใหม่ 65.5 กม. รฟท. ตั้งงบ 57 ล้านบาทออกแบบรายละเอียด - ศึกษา EIA เริ่มก่อสร้างปี 72 พร้อมดันทางคู่ช่วงสุพรรณบุรี-หนองปลาดุก เชื่อมต่อโครงข่ายรถไฟทั่วประเทศสะดวก
รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า จากที่รฟท.ได้ดำเนินงานศึกษาความเหมาะสม โครงการก่อสร้างทางรถไฟสายใหม่ ช่วงสุพรรณบุรี - นครหลวง - ชุมทางบ้านภาชี ขณะนี้ ได้ข้อสรุปการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบเบื้องต้น (Prelliminary Design ) และคัดเลือกแนวเส้นทางที่เหมาะสมแล้ว รวมถึงจัดทำรายนงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (IEE) โดยโครงการทางรถไฟสาย สุพรรณบุรี-บ้านภาชี อยู่ในโครงการรถไฟทางคู่ระยะถัดจากรถไฟทางคู่ระยะที่ 2 โดยเป็นแผนเร่งด่วนลำดับต้นๆ ซึ่งตามผลศึกษาพบเป็นเส้นทางที่มีความคุ้มค่าและเป็นโครงข่ายสำคัญในการเชื่อมโยงเส้นทางรถไฟที่มีในปัจจุบัน และรองรับ การขนส่งสินค้า จากภาคเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ ไปยังท่าเรือแหลมฉบัง และไปยังภาคใต้ โดยไม่ผ่านกรุงเทพฯและปริมณฑล และเห็นว่า ควรศึกษา พัฒนา เส้นทางช่วง สุพรรณบุรี-หนองปลาดุก ซึ่งปัจจุบันเป็นทางเดี่ยวให้เป็นทางคู่ตลอดสาย แก้ปัญหาคอขวด ในอนาคต

@ตั้งงบ 57 ล้านออกแบบรายละเอียด - ศึกษา EIA

โดยตามแผน ทางรถไฟ ช่วงสุพรรณบุรี - นครหลวง - ชุมทางบ้านภาชี ดำเนินการความเหมาะสมและออกแบบเบื้องต้น ระยะเวลา 300 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 16 ส.ค. 2567- วันที่ 11 มิ.ย. 2568 จะเป็นการศึกษาออกแบบรายละเอียดและการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ปี 2568-2569 วงเงิน 57 ล้านบาท (งบผูกพัน ปี 68 วงเงิน 11.4 ล้านบาท ปี 69 วงเงิน 45.6 ล้านบาท ) ขอความเห็นชอบรายงาน EIA ปี 2570 นำเสนอ คณะรัฐมนตรี (ครม.) ขออนุมัติโครงการในปี 2571 ออกพ.ร.ฎ.เวนคืนและเริ่มก่อสร้างในปี 2572เปิดให้บริการในปี 2576
“ทางจังหวัด และผู้ประกอบการในพื้นที่ มีความต้องการขนส่งสินค้าจำนวนมาก ซึ่งจะช่วยลดปริมาณรถบรรทุกบนถนนเส้นทางได้มาก แม้จะต้องเวนคืนตลอดเส้นทางแต่ผลศึกษา ระบุว่ามีความคุ้มค่า”
@เคาะแนวเส้นทางที่ 3 เหมาะสมที่สุด เวนคืนตัดเส้นทางใหม่ 65.50 กม.

โดยการศึกษาพบว่าแนวเส้นทางที่มีความเหมาะสมและได้คะแนนรวมสูงสุด คือทางเลือกที่ 3 จุดเริ่มต้นโครงการ ออกจากสถานีสะแกย่างหมู มุ่งทิศเหนือ ก่อสร้างทางคู่ใหม่ตามทางแนวเดิมจนถึงประมาณกม.ที่ 2+346 จากนั้นเบี่ยงขวาออกจากทางรถไฟเดิมก่อนถึงจุดตัดทางรถไฟกับทางหลวงหมายเลข 357 (ทางเลี่ยงเมืองสุพรรณบุรี) ประมาณ 4.5 กม. มุ่งทิศตะวันออก ขนานทางหลวงหมายเลข 357 ข้ามแม่น้ำท่าจีน ผ่านทางหลวงหมายเลข 340 ผ่านทุ่งรับน้ำทุ่งผักไห่ ผ่านทางหลวง
หมายเลข 3454 ข้ามแม่น้ำน้อย ผ่านทุ่งรับน้ำทุ่งป่าโมก ผ่านทางหลวงหมายเลข 3412 ข้ามคลองบางหลวงผ่านทุ่งรับน้ำทุ่งบางบาล ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาผ่านทางหลวงหมายเลข 309 บริเวณด้านทิศใต้ห่างจากตัวเมืองของอำเภอป่าโมก ประมาณ 6 กม. ผ่านทุ่งรับน้ำทุ่งบางกุ้ง ผ่านทางหลวงหมายเลข 347 และทางหลวงหมายเลข 32 ข้ามแม่น้ำลพบุรี แล้วจึงเบี่ยงแนวไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ข้ามแม่น้ำป่าสัก ผ่านทางหลวงหมายเลข 3063 รองรับพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม และการขนส่งสินค้าทางเรือ ของท่าเรือในเขต อ.นครหลวง แล้วจึงเข้าเชื่อมต่อทางรถไฟเดิมบริเวณก่อนถึงสถานีพระแก้ว ประมาณ กม.ที่ 67+952 จากนั้นทำการปรับปรุงทางเดิมจาก 3 ทางให้เป็น 4 ทาง จนเข้าบรรจบกับทางรถไฟเดิมบริเวณย่านสถานีชุมทางบ้านภาชี มีจุดสิ้นสุดที่สถานีชุมทางบ้านภาชี ประมาณ กม.ที่ 73+800

โดยเป็นแนวเส้นทางที่ใช้เขตทางเดิมบริเวณช่วงต้นโครงการระยะทางประมาณ 2.40 กม.เส้นทางตัดใหม่ที่ต้องมีการเวนคืนประมาณ 65.50 กม. และใช้เขตทางเดิมบริเวณปลายโครงการระยะทางประมาณ 5.90 กม. รวมระยะทางโครงการ 73.80 กม.
มีตำแหน่งสถานีทั้งหมด 4 สถานีได้แก่ สถานีสะแกย่างหมู สถานีสุพรรณบุรี (ใหม่) สถานีบ้านกุ่มสถานีบางปะหัน พร้อมกับลานเก็บตู้คอนเทนเนอร์ (CY) อีก 3 แห่งคือ CY สะแกย่างหมู CY บางปะหัน และ CY บ้านภาชี ทั้งนี้ประเมินต้องเวนคืนที่ดินประมาณ 3,448 ไร่ และรื้อย้ายสิ่งปลูกสร้างประมาณ 161 หลัง

การคาดการณ์ปริมาณผู้โดยสาร ในเส้นทางดังกล่าว ในปีเปิดให้บริการ รวมประมาณ 2.7- 4.6 ล้านคน/ปีเพิ่มขึ้น เป็น 5.9 ล้านคนในปี 2580 คาดว่ามีปริมาณสินค้าใช้เส้นทาง ในปีแรก ประมาณ 7-11 ล้านตัน/ปี เพิ่มขึ้น เป็น 9.1-13.9 ล้านตัน ในปี 2580


อย่างไรก็ตาม เส้นทางดังกล่าวจะช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัด (อยุธยา สุพรรณบุรี อ่างทอง) เนื่องจากจะเป็นทางเลือกในการเดินทางและขนส่งสินค้าที่ประหยัดและปลอดภัย เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงแหล่งรวบรวมและกระจายสินค้าทางการเกษตร เป็นเส้นทางรถไฟสายใหม่ที่เชื่อมต่อในแนวตะวันตก-ตะวันออก เชื่อมโยงกับเส้นทางรถไฟเดิม ขนส่งสินค้าลงสู่ภาคใต้ โดยไม่ผ่านพื้นที่กรุงเทพ (บางซื่อ) และลดค่าใช้จ่าย ประหยัดเชื้อเพลิง

https://mgronline.com/business/detail/9680000051492?
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 49143
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 10/06/2025 1:03 pm    Post subject: Reply with quote

ทางคู่สายใหม่ ”สุพรรณบุรี-บ้านภาชี” แล้วขบวนรถไฟโดยสารใหม่มากี่โมง?

ทำความรู้จัก! ทางคู่สายใหม่”สุพรรณบุรี-บ้านภาชี” จ. พระนครศรีอยุธยา รฟท.ลุยศึกษาออกแบบรายละเอียดก่อสร้าง.....สร้างรางรัวๆ แต่ต้องไม่ร้างรถไฟ ขบวนรถไฟโดยสารใหม่ๆจะมากี่โมง?...

https://www.dailynews.co.th/articles/4794770/
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 49143
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 15/06/2025 5:33 pm    Post subject: Reply with quote

รถไฟสายใหม่ สุพรรณบุรี-ชุมทางบ้านภาชีและทางคู่ลพบุรี
รถไฟไทยสดใส
Jun 15, 2025


https://www.youtube.com/watch?v=mbvBNa9HjBI
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45429
Location: NECTEC

PostPosted: 07/07/2025 12:39 am    Post subject: Reply with quote

ผ่า 4 แนวทาง สแกนรถไฟทางคู่สายใหม่ “สุพรรณบุรี – ชุมทางบ้านภาชี”
ฐานเศรษฐกิจ
วันอาทิตย์ ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 เวลา 05:00 น.

Click on the image for full size
“รฟท.” เปิด 4 เส้นทาง ดันรถไฟทางคู่สายใหม่ “สุพรรณบุรี – ชุมทางบ้านภาชี” 65.5 กม. ลุยเคาะแนวทางใหม่ หนุนขนส่งสินค้าเกษตร รับพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมเชื่อมแหลมฉบัง ปักธงเริ่มโปรเจ็กต์ปี 71

รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา รฟท.ได้ศึกษาความเหมาะสมของการพัฒนาโครงการรถไฟทางคู่สายใหม่ ซึ่งจะถูกบรรจุอยู่ในแผนพัฒนารถไฟทางคู่ ระยะที่ 3 เป้าหมายเริ่มดำเนินการในปี 2571 เบื้องต้นพบว่าเส้นทางรถไฟ ช่วงสุพรรณบุรี – นครหลวง – ชุมทางบ้านภาชี ถือเป็นเส้นทางที่มีความคุ้มค่าทางการลงทุน และจะตอบโจทย์ดีมานด์การขนส่งสินค้าและผู้โดยสารสูงสุด

ทั้งนี้จากการศึกษาความเหมาะสม เปรียบเทียบในด้านวิศวกรรม ด้านเศรษฐกิจการลงทุน และด้านสิ่งแวดล้อม พบว่าแนวเส้นทางเลือกที่ 3 (สีน้ำเงิน) ซึ่งมีระยะทาง 65.5 กิโลเมตร มีความเหมาะสมในการพัฒนาสูงสุด เนื่องจากแนวเส้นทางมีระยะทางน้อยที่สุด

สามารถเข้าพื้นที่รองรับการขนส่งสินค้าทางการเกษตร รองรับพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม และท่าเรือ อำเภอนครหลวง หลังจากนั้นเชื่อมมายังรถไฟสายเดิม ที่สามารถขนส่งสินค้าไปยังท่าเรือแหลมฉบังอย่างสะดวก

อย่างไรก็ดีหลังจากที่ปรึกษาโครงการรับฟังความคิดเห็นประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วเสร็จ ซึ่งคัดเลือกแนวเส้นทางที่เหมาะสมแล้ว จากนั้น รฟท.จะเริ่มกระบวนการออกแบบงานก่อสร้าง

คาดว่าจะเริ่มดำเนินการในปีงบประมาณ 2568 โดยใช้เวลาออกแบบ 1 ปีแล้วเสร็จ หลังจากนั้นจะเสนอกระทรวงคมนาคม และคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่ออนุมัติการลงทุน เบื้องต้นจึงคาดว่าจะดำเนินการตามแผนในปี 2571

ที่ผ่านมา รฟท.ได้ว่าจ้างที่ปรึกษาเพื่อลงพื้นที่เปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชน พร้อมนำความเห็นต่างๆ มาเตรียมสรุปผลและเลือกแนวเส้นทางพัฒนาที่มีศักยภาพสูงสุด โดยคัดเลือกจาก 4 เส้นทาง ประกอบด้วย


แนวเส้นทางเลือกที่ 1 (สีแดง) : เริ่มจากสถานีสุพรรณบุรีเดิม มุ่งทิศเหนือผ่านทางหลวงหมายเลข 321 พื้นที่ในช่วงนี้เป็นพื้นที่ชุมชนหนาแน่น จึงอาจจำเป็นต้องพิจารณาออกแบบเป็นสะพานยกระดับหรืออุโมงค์ยาวประมาณ 1 กิโลเมตร เพื่อลดผลกระทบด้านการโยกย้ายเวนคืน

จากนั้นแนวเส้นทางจะตัดผ่านพื้นที่ด้านเหนือของเมืองสุพรรณบุรี มุ่งหน้าทิศตะวันออก ผ่านแม่น้ำท่าจีน ข้ามทางหลวงหมายเลข 340

ผ่านทางหลวงหมายเลข 357 เบี่ยงแนวเส้นทางเข้าใกล้ทางหลวงหมายเลข 33 ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาและทางหลวงหมายเลข 309 ใกล้ตัวเมืองป่าโมก

ผ่านทางหลวงหมายเลข 32 และทางหลวงหมายเลข 347 แล้วจึงเบี่ยงแนวเส้นทางมุ่งทิศใต้ รองรับพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม และท่าเรือ อำเภอนครหลวง ผ่านทางหลวงหมายเลข 33 แล้วจึงเข้าบรรจบทางรถไฟเดิม ระยะทางรวมประมาณ 70.8 กิโลเมตร

แนวเส้นทางเลือกที่ 2 (สีเหลือง) : เริ่มจากสถานีสุพรรณบุรีเดิม มุ่งทิศเหนือผ่านทางหลวงหมายเลข 321 พื้นที่ในช่วงนี้เป็นพื้นที่ชุมชนหนาแน่น จึงอาจจำเป็นต้องพิจารณาออกแบบเป็นสะพานยกระดับหรืออุโมงค์ยาวประมาณ 1 กิโลเมตร เพื่อลดผลกระทบด้านการโยกย้ายเวนคืน จากนั้นแนวเส้นทางจะตัดผ่านพื้นที่ด้านเหนือของเมืองสุพรรณบุรี มุ่งหน้าทิศตะวันออก ผ่านแม่น้ำท่าจีน

ก่อนจะเบี่ยงแนวลงทิศใต้เข้ามาใช้แนวเส้นทางตามการศึกษาของ MR10 ตัดทางหลวงหมายเลข 33 มุ่งทิศตะวันออก ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาและทางหลวงหมายเลข 309 ด้านทิศใต้ของตัวเมืองป่าโมก

แล้วจึงเบี่ยงแนวไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ รองรับพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม และท่าเรือ อำเภอนครหลวง ผ่านทางหลวงหมายเลข 33 แล้วจึงเข้าบรรจบทางรถไฟเดิม ระยะทางรวมประมาณ 70.4 กิโลเมตร


แนวเส้นทางเลือกที่ 3 (สีน้ำเงิน) : เริ่มแยกจากแนวทางรถไฟเดิม บริเวณก่อนถึงสถานีสุพรรณบุรีประมาณ 4.5 กิโลเมตร โดยเบี่ยงขวาออกจากทางรถไฟเดิมก่อนถึงจุดตัดทางรถไฟกับทางหลวงหมายเลข 357

มุ่งทิศตะวันออก ขนานทางหลวงหมายเลข 357 ข้ามแม่น้ำท่าจีน ผ่านทางหลวงหมายเลข 340 ผ่านทุ่งรับน้ำบึงผักไห่ ข้ามแม่น้ำน้อย ผ่านพื้นที่บ่อทรายขนาดใหญ่

ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาและทางหลวงหมายเลข 309 ด้านทิศใต้ของตัวเมืองป่าโมก ระยะทาง 6 กิโลเมตร ผ่านทางหลวงหมายเลข 347 และทางหลวงหมายเลข 32 ข้ามแม่น้ำลพบุรี แล้วจึงเบี่ยงไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้

ข้ามแม่น้ำป่าสัก รองรับพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม และท่าเรือ อำเภอนครหลวง และผ่านทางหลวงหมายเลข 33 แล้วจึงเข้าบรรจบทางรถไฟเดิม ระยะทางรวมประมาณ 65.5 กิโลเมตร

แนวเส้นทางเลือกที่ 4 (สีเขียว): เริ่มแยกจากแนวทางรถไฟเดิม บริเวณก่อนถึงสถานีสุพรรณบุรีประมาณ 4.5 กิโลเมตร โดยเบี่ยงขวาออกจากทางรถไฟเดิมก่อนถึงจุดตัดทางรถไฟกับทางหลวงหมายเลข 357 มุ่งทิศตะวันออก ขนานทางหลวงหมายเลข 357 ผ่านด่านทิศใต้ของบ้านผักไห่

ผ่านพื้นที่บ่อทรายขนาดใหญ่ด้านทิศใต้ของบ้านป่าโมก ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ผ่านทางหลวงหมายเลข 32 และทางหลวงหมายเลข 347 แล้วจึงเบี่ยงแนวไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ผ่านทางหลวงหมายเลข 32 และทางหลวงหมายเลข 33 แล้วจึงเข้าบรรจบทางรถไฟเดิม ระยะทางรวมประมาณ 69.2 กิโลเมตร
https://www.thansettakij.com/economy/megaproject/630984
Wisarut wrote:
Mongwin wrote:
รฟท.เคาะเลือกแนวก่อสร้าง ทางคู่สายใหม่ 'สุพรรณบุรี - ภาชี'
Source - กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
วันจันทร์ ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2568 เวลา 06:55 น.

Mongwin wrote:
สรุปแล้วแนวรถไฟทางคู่"สุพรรณบุรี-บ้านภาชี" เวนคืน3พันไร่เชื่อมโครงข่ายเอื้อขนส่งสินค้า
Source - ผู้จัดการรายวัน 360 องศา
วันจันทร์ ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2568 เวลา 03:21 น.

เอานี่ก็ได้ครับ
เคาะแนวรถไฟทางคู่สายใหม่”สุพรรณบุรี-บ้านภาชี” เวนคืน 3 พันไร่เชื่อมโครงข่ายเพิ่มศักยภาพขนส่งสินค้า
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันจันทร์ ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2568 เวลา 06:09 น.
ปรับปรุง: วันจันทร์ ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2568 เวลา 06:09 น.


เคาะแล้วรถไฟทางคู่สายใหม่”สุพรรณบุรี - นครหลวง - ชุมทางบ้านภาชี”แนวที่ 3 เวนคืนกว่า 3 พันไร่ สร้างทางใหม่ 65.5 กม. รฟท. ตั้งงบ 57 ล้านบาทออกแบบรายละเอียด - ศึกษา EIA เริ่มก่อสร้างปี 72 พร้อมดันทางคู่ช่วงสุพรรณบุรี-หนองปลาดุก เชื่อมต่อโครงข่ายรถไฟทั่วประเทศสะดวก
https://mgronline.com/business/detail/9680000051492?

Mongwin wrote:
ทางคู่สายใหม่ ”สุพรรณบุรี-บ้านภาชี” แล้วขบวนรถไฟโดยสารใหม่มากี่โมง?

ทำความรู้จัก! ทางคู่สายใหม่”สุพรรณบุรี-บ้านภาชี” จ. พระนครศรีอยุธยา รฟท.ลุยศึกษาออกแบบรายละเอียดก่อสร้าง.....สร้างรางรัวๆ แต่ต้องไม่ร้างรถไฟ ขบวนรถไฟโดยสารใหม่ๆจะมากี่โมง?...

https://www.dailynews.co.th/articles/4794770/
รถไฟสายใหม่ สุพรรณบุรี-ชุมทางบ้านภาชีและทางคู่ลพบุรี
รถไฟไทยสดใส
วันอาทิตย์ ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2568
https://www.youtube.com/watch?v=mbvBNa9HjBI
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 49143
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 21/07/2025 8:53 pm    Post subject: Reply with quote

สร้างทางรถไฟใว้อย่างดี แต่ไม่มีรถไฟวิ่ง
ลุงคนพวน
Jul 20, 2025

ทางรถไฟสุพรรณบุรี-กรุงเทพ ถูกซ่อมแซมปรับปรุงอย่างดี แต่กลับไม่มีรถไฟวิ่งเพราะคนหันไปใช้บริการรถโดยสารประจำทางกันหมด


https://www.youtube.com/watch?v=owxKkW1s4zE
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45429
Location: NECTEC

PostPosted: 26/09/2025 12:20 am    Post subject: Reply with quote

25ก.ย.68 ที่ประชุมคณะกรรมการรถไฟแห่งประเทศไทย (คกร.) มีมติเห็นชอบจ้างกิจการค้าร่วม (consortium) ในนามของกลุ่มบริษัท เอ็ม เอ เอ คอนซัลแตนท์ จำกัด (MAA) เป็นที่ปรึกษางานสำรวจ ออกแบบรายละเอียด และจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม(EIA) โครงการก่อสร้างทางรถไฟ สายสุพรรณบุรี - นครหลวง - บ้านภาชี โดยวิธีคัดเลือก วงเงิน 54.7983 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินงาน 360 วัน นับถัดจากวันที่ได้รับหนังสือแจ้งจาก รฟท. ให้เริ่มปฏิบัติงาน
โดยผลการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบเบื้องต้นโครงการดังกล่าวมีลักษณะเป็นการก่อสร้างรถไฟทางคู่ขนาดทางกว้าง 1 เมตร ระยะทางประมาณ 73.80 กิโลเมตร ในพื้นที่ จังหวัดสุพรรณบุรี และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยแบ่งเป็นก่อสร้างทางคู่เส้นทางใหม่ 65.5 กิโลเมตร (โดยจะเป็นโครงสร้างสะพานและสะพานยกระดับรวมความยาว 54.6 กิโลเมตร) และใช้เส้นทางรถไฟเดิม (ช่วงต้นและปลายโครงการ) 8.3 กิโลเมตร เพื่อเชื่อมต่อไปยังสถานีชุมทางบ้านภาชี มีจำนวนสถานีทั้งหมด 5 สถานี ได้แก่ สถานีสะแกย่างหมู สถานีสุพรรณบุรี (ใหม่) สถานีบ้านกุ่ม สถานีบางปะหัน และสถานีพระแก้ว โดยมีแนวเส้นทางบางช่วงจะใช้ร่วมกันกับแนวเส้นทางของ MR10
https://www.facebook.com/ake.bluechifamily/posts/24685143697772576
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 49143
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 11/10/2025 2:46 pm    Post subject: Reply with quote

รถไฟ สุพรรณบุรี-บ้านภาชี เคาะแนวที่ 3 จ่อเวนคืน 65.50 กม.
Source - เว็บไซต์ประชาชาติธุรกิจ
Saturday, October 11, 2025 at 10:25

เมื่อการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เคาะเส้นทางรถไฟทางคู่สายใหม่ "โครงการก่อสร้างทางรถไฟช่วงสุพรรณบุรี-นครหลวง-ชุมทางบ้านภาชี" วงเงิน 57 ล้านบาท ระยะทางกว่า 65 กิโลเมตร เพื่อลดความแออัดการเดินทางเข้าเมือง เพิ่มขีดความสามารถในการขนสินค้าข้ามภูมิภาค และโอกาสทางเศรษฐกิจ

โครงการทางรถไฟ ช่วงสุพรรณบุรี-นครหลวง-ชุมทางบ้านภาชี เป็นการพัฒนาทางรถไฟสายใหม่เชื่อมต่อเส้นทางรถไฟเดิม

"สายสุพรรณบุรี-หนองปลาดุก" จ.ราชบุรี เข้าด้วยกัน เพื่อรองรับการเดินทาง และการขนส่งระหว่างภูมิภาคอย่างไร้รอยต่อ โดยไม่จำเป็นต้องผ่านเข้าไปในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (บางซื่อ) ถือเป็นการสนับสนุนให้มีโครงข่ายคมนาคมขนส่งที่สมบูรณ์และมีประสิทธิภาพตามนโยบายของรัฐด้านการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของประเทศ

# เร่งทำ EIA ก่อนชง ครม.
ข้อมูลจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ระบุว่า โครงการก่อสร้างทางรถไฟ ช่วงสุพรรณบุรี-นครหลวง-ชุมทางบ้านภาชี ยังคงเดินหน้าต่อเนื่อง ขณะนี้อยู่ระหว่างออกแบบรายละเอียดและการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ปี 2568-2569 วงเงิน 57 ล้านบาท ซึ่งตามขั้นตอนหลัง EIA แล้วเสร็จจะเสนอขอความเห็นชอบปี 2570 และนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อขออนุมัติโครงการปี 2571 และก่อสร้างได้ภายในปี 2572 พร้อมเปิดให้บริการปี 2576

ในโครงการกำหนดตำแหน่งสถานีทั้งหมด 4 สถานี ได้แก่ สถานีสะแกย่างหมู, สถานีสุพรรณบุรี (ใหม่), สถานีบ้านกุ่ม และสถานีบางปะหัน พร้อมกับลานเก็บตู้คอนเทนเนอร์ (CY) อีก 3 แห่ง คือ CY สะแกย่างหมู, CY บางปะหัน และ CY บ้านภาชี คาดการณ์ว่าจะมีปริมาณผู้โดยสารผ่านเส้นทางนี้ในปีแรก ประมาณ 5 ล้านคน/ปี และคาดว่าจะมีปริมาณสินค้าผ่านเส้นทางนี้ในปีแรก ประมาณ 11 ล้านตัน/ปี

จะช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับประชาชน เพื่อเป็นทางเลือกการเดินทางที่ปลอดภัย และเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงแหล่งรวบรวม และกระจายสินค้าของภาคเกษตร และโอกาสทางเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค ลดค่าใช้จ่าย ลดการเดินทาง ประหยัดเชื้อเพลิงที่ใช้ขนส่ง ลดปัญหามลพิษ และสร้างแรงจูงใจให้ผู้ประกอบการมาใช้บริการระบบรางมากขึ้น

# เคาะแนว 3 จ่อเวนคืน 65 กม.
ล่าสุดการศึกษาพบว่าแนวเส้นทางที่มีความเหมาะสม และได้คะแนนรวมสูงสุด คือทางเลือกที่ 3 จุดเริ่มต้นโครงการ ออกจากสถานีสะแกย่างหมู มุ่งทิศเหนือ ก่อสร้างทางคู่ใหม่ตามทางแนวเดิมจนถึงประมาณ กม.ที่ 2+346 จากนั้นเบี่ยงขวาออกจากทางรถไฟเดิมก่อนถึงจุดตัดทางรถไฟกับทางหลวงหมายเลข 357 (ทางเลี่ยงเมืองสุพรรณบุรี) ประมาณ 4.5 กม. มุ่งทิศตะวันออก ขนานทางหลวงหมายเลข 357 ข้ามแม่น้ำท่าจีน ผ่านทางหลวงหมายเลข 340 ผ่านทุ่งรับน้ำทุ่งผักไห่

จากนั้นผ่านทางหลวงหมายเลข 3454 ข้ามแม่น้ำน้อย ผ่านทุ่งรับน้ำทุ่งป่าโมก ผ่านทางหลวงหมายเลข 3412 ข้ามคลองบางหลวงผ่านทุ่งรับน้ำทุ่งบางบาล ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาผ่านทางหลวงหมายเลข 309 บริเวณด้านทิศใต้ห่างจากตัวเมืองของอำเภอป่าโมก ประมาณ 6 กม. ผ่านทุ่งรับน้ำทุ่งบางกุ้ง ผ่านทางหลวงหมายเลข 347 และทางหลวงหมายเลข 32 ข้ามแม่น้ำลพบุรี

จากนั้นเบี่ยงแนวไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ข้ามแม่น้ำป่าสัก ผ่านทางหลวงหมายเลข 3063 รองรับพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม และการขนส่งสินค้าทางเรือ ของท่าเรือในเขต อ.นครหลวง แล้วจึงเข้าเชื่อมต่อทางรถไฟเดิมบริเวณก่อนถึงสถานีพระแก้ว ประมาณ กม.ที่ 67+952 จากนั้นทำการปรับปรุงทางเดิมจาก 3 ทาง ให้เป็น 4 ทาง จนเข้าบรรจบกับทางรถไฟเดิมบริเวณย่านสถานีชุมทางบ้านภาชี มีจุดสิ้นสุดที่สถานีชุมทางบ้านภาชี ประมาณ กม.ที่ 73+800

โดยเป็นแนวเส้นทางที่ใช้เขตทางเดิมบริเวณช่วงต้นโครงการระยะทางประมาณ 2.40 กม.เส้นทางตัดใหม่ ต้องมีการเวนคืน ประมาณ 65.50 กม. และใช้เขตทางเดิมบริเวณปลายโครงการระยะทางประมาณ 5.90 กม. รวมระยะทางโครงการ 73.80 กม.

# พัฒนาขนส่งรับท่องเที่ยว
ทางด้าน นายวีระ ตั้งวุทฒิไกรวิทย์ ประธานหอการค้าจังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า หอการค้าจังหวัดให้ความสำคัญกับโครงการรถไฟทางคู่สุพรรณบุรี-ภาชี มาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้พยายามผลักดันผ่านคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจจังหวัดสุพรรณบุรี (กรอ.จังหวัด) และหอการค้าไทย ขอให้เร่งการศึกษา ซึ่งเมื่อปลายปีที่แล้วก็มีการกลับมาศึกษาอย่างจริงจังอีกครั้ง จนล่าสุดสามารถสรุปเส้นทางได้แล้ว จึงนับว่าเป็นโอกาสดีของจังหวัดที่จะมีเส้นทางคมนาคมเพิ่มขึ้น แม้สุพรรณบุรี เป็นจังหวัดที่ห่างจากกรุงเทพฯเพียง 100 กม. แต่การคมนาคมมีเพียงทางถนนเป็นเส้นทางหลักอย่างเดียว ระบบขนส่งสาธารณะในจังหวัดมีเพียงรถตู้โดยสารเท่านั้น

ส่วนระบบรางรถไฟมีเส้นทางสั้น วิ่งเพียงสัปดาห์ละ 2 ขบวน จากราชบุรี-นครปฐม แล้วมาสิ้นสุดที่สุพรรณบุรีเท่านั้น รวมถึงมีอัตราการใช้งานน้อย ในขณะที่การพัฒนาขนส่งทางน้ำเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากแม่น้ำท่าจีนเป็นแม่น้ำสายเล็ก มีประตูน้ำต่างระดับมาก นอกจากนี้ สุพรรณบุรีถือเป็นเมืองเกษตร มีการทำนาและทำโรงสีข้าว ส่งผลให้มีการขนส่งสินค้าเกษตรโดยรถบรรทุกจำนวนมากไปยังหลายภูมิภาค

ดังนั้น หอการค้าจังหวัดจึงเล็งเห็นความสำคัญของ "ระบบราง" เพราะหากเส้นทางสุพรรณบุรีสามารถเชื่อมต่อไปที่ อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธา โดยไม่ต้องผ่านกรุงเทพฯ จะช่วยลดความแออัดในเมือง ลดความเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ รวมถึงลดต้นทุนการขนส่งได้ ถือเป็นเส้นทางที่เกิดประโยชน์ต่อภาพรวมการคมนาคมขนส่งทั้งประเทศ

อย่างไรก็ตาม หอการค้าจังหวัดอยู่ระหว่างศึกษาเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อเตรียมแผนพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะภายในจังหวัดให้มีประสิทธิภาพ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนในอนาคต

# อยุธยาขอปรับแนวลดแออัด
ขณะที่ นายชัยกฤต พุ่มเข็ม ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดพระนครศรีธยุธยา กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ได้มีข้อเสนอแนะต่อการจัดทำโครงการดังกล่าวเพื่อให้เกิดความคุ้มค่าต่อการลงทุนมากที่สุด เนื่องจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยามีแผนโครงการพัฒนาท่าเรือบก (Dry port) ที่สถานีชุมทางบ้านภาชีอยู่แล้ว ขณะเดียวกัน กรมทางหลวงมีโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายถนนวงแหวนรอบนอก กทม. รอบที่ 3

โดยแนวเส้นทางพื้นที่ศึกษาครอบคลุมอำเภอบางปะหัน อ.นครหลวง อ.ภาชีอีกด้วย ดังนั้น หากต้องการทำให้สถานีชุมทางบ้านภาชีเป็นจุดสิ้นสุดโครงการรถไฟทางคู่ รวมถึงยังมีการสร้างลานเก็บตู้คอนเทนเนอร์ CY จะทำให้เส้นทางถนนถูกปิดโดยปริยาย รวมถึงเป็นการเพิ่มพื้นที่ถูกเวนคืนมากขึ้น

จึงเสนอให้มีการ Matching โดยให้มีการปรับเปลี่ยนเส้นทางเบี่ยงขึ้นไปทิศเหนือผ่าน จ.อ่างทอง ขนานกับถนน 3267 แล้วสิ้นสุดที่ อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งบริเวณจุดนี้เป็นทางรถไฟระบบรางคู่ จึงสามารถทำเป็น CY เพื่อรองรับกับโครงการ Dry Port ที่สถานีชุมทางบ้านภาชีได้

"เนื่องจากเป็นโครงการใหญ่ระดับประเทศ จึงต้องการเสนอแนะให้มองภาพกลุ่มจังหวัดมากกว่าจังหวัดใดจังหวัดหนึ่ง มิเช่นนั้นจะเป็นการพัฒนาประเทศอย่างไร้ทิศทางแน่นอน"

https://www.prachachat.net/local-economy/news-1899754
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> สาระความรู้วิชาการรถไฟและประวัติศาสตร์รถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2
Page 2 of 2

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©