ความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานีกลางบางซื่อและรถไฟฟ้า

[Wisarut]

บอร์ด รฟท.เคาะกิจการร่วมค้า PGWR คว้าประมูลพื้นที่เชิงพาณิชย์ “สถานีกลางกรุงเทพฯ” 20 ปี
ฐานเศรษฐกิจ
ออนไลน์เมื่อ: วันจันทร์ ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2568 เวลา 15:57 น.
อัปเดตล่าสุด : วันจันทร์ ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2568 เวลา 16:06 น.

บอร์ด รฟท.ไฟเขียวเซ็น "PGWR" พัฒนาเชิงพาณิชย์ พลิกโฉมสถานีกลางฯ 20 ปีผลตอบแทน 8 พันล้าน
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันจันทร์ ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2568 เวลา 05:54 น.
ปรับปรุง: วันจันทร์ ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2568 เวลา 10:37 น.

บอร์ดรฟท.เห็นชอบ ‘กลุ่ม PGWR’ บริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์ ‘สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์’ 20 ปี
เขียนโดย isranews
เขียนวันจันทร์ ที่ 16 มิถุนายน 2568 เวลา 09:00 น.



บอร์ดรฟท.อนุมัติเซ็นสัญญากลุ่ม PGWR พัฒนาเชิงพาณิชย์สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ พื้นที่รวม 47,675 ตารางเมตร สัญญา 20 ปี คาดรับผลตอบแทน 8 พันล้านบาท ลุยปรับปรุงพื้นที่ค้าปลีก ร้านอาหาร แฟรนไชส์ บริการผู้โดยสาร ปั้นทำเลทองพื้นที่ศูนย์กลางระบบราง

บอร์ด รฟท.ไฟเขียวกิจการร่วมค้า PGWR ชนะประมูลพื้นที่เชิงพาณิชย์ “สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์” มั่นใจสร้างรายได้สะสมพุ่ง 8 พันล้านบาท ตลอดสัญญา 20 ปี

บอร์ด รฟท.อนุมัติเซ็นสัญญา "กลุ่ม PGWR" พัฒนาเชิงพาณิชย์สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ พื้นที่รวม 47,675 ตารางเมตร สัญญา 20 ปี คาดรับผลตอบแทน 8 พันล้านบาท ลุยปรับปรุงพื้นที่ค้าปลีก ร้านอาหาร แฟรนไชส์ บริการผู้โดยสาร ปั้นทำเลทองพื้นที่ศูนย์กลางระบบราง

นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท.วันที่ 12 มิ.ย. 2568 มีมติเห็นชอบผลการประกวดราคาออกประกาศเชิญชวนเอกชนเสนอผลตอบแทนการใช้ประโยชน์พื้นที่เพื่อประกอบกิจกรรมเชิงพาณิชย์บริเวณอาคารสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ โดยให้สิทธิแก่กิจการร่วมลงทุน PGWR ซึ่งประกอบด้วยบริษัท เปรม กรุ๊ป เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด และบริษัท วราพัฒนาทรัพย์ จำกัด เป็นผู้ได้รับสิทธิการใช้ประโยชน์พื้นที่เพื่อประกอบกิจการเชิงพาณิชย์ในดำเนินกิจการในสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ พื้นที่รวม 47,675 ตารางเมตร ระยะเวลาสัญญา 20 ปี

หลังจากนี้ รฟท.จะหารือร่วมกับเอกชนคาดว่าจะลงนามสัญญาได้ภายใน 1-2 เดือนนี้ จากนั้นจะออก NTP เพื่อให้เริ่มงาน โดยจะทยอยส่งมอบพื้นที่และแบ่งการปรับปรุงเป็นเฟส และจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงภายในสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ซึ่งจะมีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร แฟรนไชส์ต่างๆ ที่มีความหลากหลายเป็นทางเลือกให้ผู้ใข้บริการมากขึ้น

ทั้งนี้ กิจการร่วมลงทุน PGWRเสนอผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำ (Minimum Guarantee)สำหรับปีแรกให้แก่การรถไฟฯเป็นจำนวนเงิน 79,906,463 บาทซึ่งเป็นส่วนที่ได้รับเพิ่มจากค่าตอบแทนการใช้ประโยชน์พื้นที่ให้สิทธิ (ค่าเช่า) และค่าส่วนกลางทำให้ในปีแรกการรถไฟฯ จะได้รับผลตอบแทนรวมทั้งหมดเป็นเงิน 158,585,063 บาท ถือเป็นผลตอบแทนที่สูงกว่าสัญญาเช่าอื่นๆ ของการรถไฟฯ ในพื้นที่ใกล้เคียง

สำหรับกิจการร่วมลงทุน PGWR ซึ่งประกอบด้วยบริษัท เปรม กรุ๊ป เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด และบริษัท วราพัฒนาทรัพย์ จำกัด ได้สิทธิ์ประกอบกิจกรรมเชิงพาณิชย์ อาคารสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ พื้นที่รวม 47,675 ตารางเมตร ระยะเวลา 20 ปี โดยคาดการณ์ผลตอบแทนที่การรถไฟฯ จะได้รับในปีที่ 2 จะได้รับผลตอบแทนประมาณ 222 ล้านบาท ปีที่ 3 จะได้รับผลตอบแทนประมาณ 288 ล้านบาท และปีที่ 5 จะได้รับผลตอบแทนเป็นเงินประมาณ 487 ล้านบาท ซึ่งผลตอบแทนดังกล่าวประเมินจากจำนวนพื้นที่ที่ส่งมอบ รวมทั้ง อัตราค่าเช่า และผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำ (Minimum Guarantee) ที่จะปรับตามอัตราเงินเฟ้อ

ทั้งนี้ ผลตอบแทนดังกล่าวข้างต้นได้รวมค่าส่วนกลางที่การรถไฟฯ ปรับขึ้นร้อยละ 10 ทุกๆ 3 ปี ซึ่งตลอดอายุสัญญาฯ 20 ปี คาดการณ์ว่าการรถไฟฯ จะได้รับผลตอบแทนสะสมประมาณ 8,000 ล้านบาท


สำหรับพื้นที่พาณิชย์ในอาคารสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ จะรองรับบริการค้าปลีก ร้านอาหาร และพื้นที่พักผ่อน ครอบคลุมหลากหลายทุกระดับของการให้บริการ พื้นที่รวม 47,675 ตารางเมตร โดยปีที่ 1 ส่งมอบพื้นที่ประมาณ 10,687 ตารางเมตร ปีที่ 2 ส่งมอบพื้นที่เพิ่มเติมประมาณ 7,694 ตารางเมตร ปีที่ 3 ส่งมอบพื้นที่เพิ่มเติมอีกประมาณ 7,694 ตารางเมตร ส่วนที่เหลือจะส่งมอบพื้นที่เพิ่มเติมประมาณ 21,600 ตารางเมตร (คาดการณ์ปีที่ 5 นับจากวันลงนามในสัญญา) ซึ่งสอดคล้องกับการเปิดให้บริการรถไฟความเร็วสูงสายกรุงเทพฯ-นครราชสีมา และรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา )

รายงานข่าวแจ้งว่า ส่วนอีก 3 สัญญา ที่เคยเปิดประมูล แต่ไม่มีผู้ยื่นข้อเสนอ ได้แก่
1. โครงการยื่นข้อเสนอเพื่อสิทธิการบริหารจัดการพื้นที่ติดตั้งป้ายโฆษณา บริเวณอาคารสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์
2. โครงการยื่นข้อเสนอผลตอบแทนการใช้ประโยชน์พื้นที่เพื่อประกอบกิจกรรมเชิงพาณิชย์ บริเวณอาคารสถานีรถไฟสายสีแดง 12 สถานี และ
3. โครงการยื่นข้อเสนอเพื่อใช้สิทธิการบริหารจัดการพื้นที่ติดตั้งป้ายโฆษณา บริเวณอาคารสถานีรถไฟสายสีแดง 12 สถานีนั้น แนวทางในการบริหารเชิงพาณิชย์ที่อยู่ในอาคารสถานีอยู่ระหว่างเสนอให้ รฟท. บริหารจัดการเนื่องจากเป็นพื้นที่ต่อเนื่องกับงานบริการ
https://www.thansettakij.com/economy/megaproject/630151
https://mgronline.com/business/detail/9680000056304
https://www.isranews.org/article/isranews/138833-transport-160.html
https://www.youtube.com/watch?v=UB-H96CCtPM?

[Mongwin]

พลาดไม่ได้! มหกรรมยิ่งใหญ่แห่งปี “รถไฟอุตสาหกรรม...นำความสุขสู่คนไทย”
ผู้จัดการออนไลน์ 7 ก.ค. 2568 18:30

ก.อุตสาหกรรม x ก.คมนาคม แท็กทีมจัด

"รถไฟอุตสาหกรรม...นำความสุขสู่คนไทย" มหกรรมยิ่งใหญ่แห่งปี! พบกับสินค้าดี ราคาถูก เครื่องใช้ไฟฟ้า รวมถึงรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าค่ายดังกว่า 23 ค่ายที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ในวันที่ 31 ก.ค.-3 ส.ค. 68

กระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกับกระทรวงคมนาคม รวมพลังครั้งยิ่งใหญ่! จัดมหกรรมสินค้าแห่งปี “รถไฟอุตสาหกรรม...นำความสุขสู่คนไทย” ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคม-3 สิงหาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 10.00-21.00 น. ณ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์

เตรียมพบกับ
1. GOOD PRICE สินค้าสหพัฒน์กว่า 500 รายการ
2. THAI SHOWCASE สินค้าดี โชว์ศักยภาพ SME ไทย เช่น สินค้าอุปโภค-บริโภค เสื้อผ้า เครื่องประดับ คราฟต์ของตกแต่ง อาหาร เครื่องดื่ม กว่า 300 รายการ
3. BEST CHOICE รถที่ใช่...ดีลที่ชอบ รถยนต์และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าค่ายดังกว่า 23 ค่าย
4. HIGH QUALITY ชอปของดีมีมาตรฐาน เครื่องใช้ไฟฟ้า พาวเวอร์แบงก์ โซลาร์เซลล์ เครื่องครัวมี มอก. กว่า 15 บูท ลดสูงสุด 70%

[Wisarut]

สถานีกลางฯ ใช้มากว่า 2 ปี เริ่มมีร้านค้า ร้านอาหาร แต่ยังขาดร้านหนังสือ!!!
ฝากผู้บริหารพื้นที่รายใหม่ เปิดพื้นที่รองรับร้านหนังสือ
ต้นแบบ จากสถานี Milan Central Station
จากเรื่องเครียดๆช่วงนี้ เลยขอเอาเรื่องเบาๆมาฝากเพื่อนๆกันบ้าง
ผมขอเอาเรื่องเล่าจาก จากทริปที่ผมไปอิตาลี มาเล่าเป็น Idea เรื่องการพัฒนาพื้นที่สถานี มาฝากเพื่อนๆ กันหน่อยครับ
อย่างที่ทุกคนทราบ และผ่านมากว่า 2 ปี หลายๆคนก็น่าจะได้ใช้บริการสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ มากันแล้วบ้าง ซึ่งตอนนี้ร้านค้า สาธารณูปโภค ก็เริ่มมากขึ้น เพื่อมาบริการผู้โดยสาร ที่เดินทางผ่านสถานีกลาง วันละ หลายหมื่นคน
แต่มีอย่างนึงที่ผมไปเห็นจากต่างประเทศ หลายๆประเทศ แต่ยังไม่เห็นร้านแบบนี้ ในสถานีประเทศไทยเราคือ “ร้านหนังสือ”
เข้าใจว่าคนไทยเราไม่ได้เป็นนักอ่านซักเท่าไหร่ แต่ถ้าเราต้องการพัฒนาเรื่องการอ่านให้เข้าถึงทุกคน การจะมีร้านหนังสือ อยู่ในพื้นที่ศูนย์กลางการเดินทาง ก็เป็นสิ่งที่สำคัญ ซึ่งถ้าเราเคยเห็น ต่างชาติ โดยเฉพาะ ฝรั่งยุโรป จะมีหนังสือหรือ หนังสือปัญหาเชา เช่น Sodoku เพื่ออ่านระหว่างการเดินทาง
—————————
ผมเลยขอยกตัวอย่าง ร้านหนังสือ ในสถานี Milan Central Station
ซึ่งถ้าสำหรับคนชอบอ่านหนังสือ ร้านหนังสือ la feltrinelli ในสถานี Milan Central Station เป็นเหมือนสวรรค์ ของคนชอบหนังสือเลย ถ้าเทียบกันก็ประมาณ B2S ของเรา แต่ใหญ่และหลากหลายกว่ามาก
ตำแหน่งร้าน อยู่บริเวณโถงหลัก หน้าทางเข้าชานชาลา ชั้น 1 โดยร้านนี้มีถึง 3 ชั้น จากชั้น G ถึงชั้น 2 เชื่อมกันภายในด้วยบันไดเลื่อน
ความน่าสนใจ อีกส่วนคือ สินค้าที่มีข้างใน
- หนังสือ ภาษาอิตาลี (เป็นหลัก)
- ภาษาหลักในยุโรป เช่น อังกฤษ เยอรมัน ฝรั่งเศษ เสปน
- แผ่น CD และ แผ่นเสียง Vinyl (อาจจะไม่เกี่ยวกับการเดินทางเท่าไหร่)
- หนังสือเชาว์ปัญญา เช่า Sodoku, Crossword
- หนังสือนำเที่ยว ในอิตาลี และยุโรป
- หนังสือเด็ก และนำเที่ยวเด็ก (ผมเองก็ซื้อมาฝากลูกเหมือนกัน)
ซึ่งระหว่างที่ผมอยู่ในร้าน เห็นผู้โดยสารระหว่างรอรถ เข้า-ออก ร้านหนังสือเยอะมากๆ
—————————
ซึ่งล่าสุด เมื่อเดือนมิถุนายน 68 ที่ผ่านมา การรถไฟ พึ่งประกาศผลผู้ชนะการประมูล
พัฒนาพื้นที่ภายในสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ให้กับ กิจการร่วมลงทุน PGWR
ซึ่งก็อยากฝากให้ผู้บริหารพื้นที่ และการรถไฟ พิจารณาการหาร้านหนังสือเข้ามาในพื้นที่ของสถานีด้วย อย่างน้อยก็ได้ความหลากหลายของสินค้า และน่าจะตอบโจทย์ผู้โดยสารไม่มากก็น้อย…
ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย
https://www.facebook.com/Thailand.Infra/posts/1141332364809016

[Mongwin]

'SRTA' กางแผนปั้นสถานีกลางบางซื่อ ฮับระบบรางใหญ่สุดในอาเซียน
Source - เว็บไซต์ไทยโพสต์
Monday, November 03, 2025 at 17:21

‘SRTA’ เดินหน้าแผนพัฒนาพื้นที่บริเวณบางซื่อ ชู ‘เมืองน่าอยู่อัจฉริยะ’ ต้นแบบ ศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่ ผุดโครงการที่อยู่อาศัยรอบสถานีรถไฟ จับมือญี่ปุ่นปั้นสถานีกลางบางซื่อเป็นฮับระบบรางที่ใหญ่ที่สุดในประเทศและอาเซียน

3 พ.ย. 2568 – นายกษพล บวรศรีการ รองกรรมการผู้จัดการสายงานธุรกิจ ปฏิบัติหน้าที่กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด (อทส.) หรือ SRTA เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินการที่สำคัญของ SRTA รัฐวิสาหกิจที่เป็นบริษัทลูกของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ซึ่ง SRTA มีพันธกิจในการเพิ่มประสิทธิภาพการหารายได้เชิงพาณิชย์จากที่ดินที่ไม่ได้ใช้ในการประกอบกิจการรถไฟ (Non-Core Asset) ทั้งด้านการบริหารสัญญาเช่า การจัดหาผู้ลงทุน และการเช่าพื้นที่ เพื่อพัฒนาโครงการบนที่ดินของ รฟท. รวมทั้งพัฒนาด้วยตนเอง การซื้อหรือเช่าที่ดินจากบุคคลภายนอก เพื่อพัฒนาหรือร่วมทุน เพื่อสร้างการเติบโตในระยะยาวให้แก่ รฟท. อย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ ปัจจุบัน SRTA อยู่ระหว่างจัดทำแผนวิสาหกิจประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 – 2570 เพื่อกำหนดทิศทางกลยุทธ์ที่ชัดเจน และเหมาะสม สามารถรองรับ และปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของบริบททางเศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยีได้อย่างรวดเร็ว จนนำไปสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม ทั้งนี้ การจัดทำแผนวิสาหกิจของ SRTA ดังกล่าว ยังมุ่งเน้นให้มีความเชื่อมโยงกับแผนปฏิบัติการและแผนวิสาหกิจของ รฟท. โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับตัวชี้วัดผลการดำเนินงานของ SRTA ภายใต้กรอบแผนของ รฟท. ซึ่งคาดว่าแผนดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายในต้นปี 2569

สำหรับการดำเนินการโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยรอบสถานีรถไฟที่มีศักยภาพ ภายหลังคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2568 (งบกลาง) วงเงิน 151 ล้านบาท และรับทราบแนวทางการดำเนินงานโครงการฯ โดย SRTAได้ว่าจ้างที่ปรึกษาเพื่อออกแบบรายละเอียดงานสถาปัตยกรรมและวิศวกรรม และจัดทำรายงาน EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) โครงการนำร่องระยะที่ 1 จำนวน 4 พื้นที่ รวมถึงศึกษาความเป็นไปได้, งานออกแบบทางแนวคิด และรายงาน IEE (ผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น) จำนวน 21 พื้นที่ ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการตามแผน สำหรับแผนปฏิบัติด้านการพัฒนาพื้นที่บริเวณบางซื่อ ในระยะ 14 ปี (พ.ศ. 2569 – 2582)

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน SRTA ได้จัดทำแผนปฏิบัติการฯ เสร็จสิ้นแล้ว ภาพรวมโครงการฯ ตั้งเป้าหมายหลักในการพัฒนาพื้นที่ให้เป็น “เมืองน่าอยู่อัจฉริยะ” ต้นแบบ และเป็นศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่ (New CBD) ซึ่งแผนฉบับนี้อยู่ระหว่างนำเสนอกระทรวงคมนาคม เพื่อพิจารณาในลำดับต่อไป หากได้รับการอนุมัติเชื่อว่าจะสร้างประโยชน์ในทุกมิติ และสร้างรายได้มหาศาลต่อ รฟท. ในอนาคต

ซึ่งภายใต้แผนปฏิบัติการฯ ระยะที่ 1 SRTA ได้เดินหน้าดำเนินโครงการสำคัญในพื้นที่บริเวณบางซื่ออย่างต่อเนื่อง อาทิ การขอเช่าพื้นที่แปลง E1 เพื่อก่อสร้างที่ทำการกระทรวงคมนาคมแห่งใหม่ การขอเช่าพื้นที่แปลง G9 เพื่อเปิดโอกาสให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุนในพื้นที่ ตลอดจนการประสานความร่วมมือกับภาคเอกชนในการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคส่วนกลาง ซึ่ง SRTA มีแผนจะดำเนินการเพื่อรองรับการพัฒนาตามแผนปฏิบัติการฯ ดังกล่าว

นอกจากนี้ SRTA ยังเดินหน้าพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ (สถานีกลางบางซื่อ) โดยร่วมมือกับองค์กรพัฒนาและฟื้นฟูเมืองแห่งประเทศญี่ปุ่น (UR) เพื่อพัฒนาให้สถานีกลางบางซื่อเป็นศูนย์กลางการเดินทางระบบรางที่ใหญ่ที่สุดในประเทศและอาเซียน และพัฒนาพื้นที่บริเวณบางซื่อให้เป็น “เมืองอัจฉริยะบางซื่อ” ตามแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาพื้นที่บริเวณบางซื่อ และคาดว่าจะเริ่มลงนามสัญญาเพื่อดำเนินงานร่วมกันได้ในช่วงต้นปี 2569

https://www.thaipost.net/economy-news/889411/