YTL เสนอสร้างรถไฟไฮสปีดเชื่อม มาเลย์ - สิงคโปร์

Mongwin · Posted: 08/01/2025 8:01 am Post subject:

## ผู้เชี่ยวชาญชี้ การวางแผนและธรรมาภิบาลเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จของรถไฟความเร็วสูง

โดย รากานันทินี
วันพุธที่ 8 มกราคม 2568

**เปตาลิง จายา:** ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า การมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวางจากภาคเอกชนเป็นหนทางเดียวที่โครงการรถไฟความเร็วสูง (HSR) กัวลาลัมเปอร์-สิงคโปร์ จะเกิดขึ้นได้ เนื่องจากข้อจำกัดทางการคลังของรัฐบาล

“เห็นได้ชัดว่าโครงการนี้สามารถดำเนินการต่อไปได้ด้วยเงินทุนจากภาคเอกชน” ศาสตราจารย์ ดร. เย่ คิม เล้ง ศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยซันเวย์ กล่าว พร้อมเสริมว่า ประเทศต้องรอดูว่าข้อเสนอใดที่ส่งมานั้นตรงตามเกณฑ์การระดมทุนด้วยตนเองที่รัฐบาลกำหนดไว้หรือไม่

“สถานการณ์ที่เป็นไปได้คือ โครงการจะดำเนินต่อไปหลังจากที่รัฐบาลมีเสถียรภาพทางการคลังแล้ว และฐานะทางการเงินแข็งแกร่งพอที่จะลงทุนในโครงการ HSR” เขากล่าว

ดร. เย่ ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะที่ปรึกษาพิเศษของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลกำลังมุ่งเน้นไปที่โครงการขนาดใหญ่อีกโครงการหนึ่ง นั่นคือ โครงการรถไฟชายฝั่งตะวันออก (ECRL) เพื่อสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจแบบทวีคูณ

“สำหรับ HSR เป็นที่เข้าใจกันว่าในปัจจุบันต้นทุนสูงกว่าผลประโยชน์ ผู้เสนอโครงการจะต้องแสดงให้รัฐบาลเห็นถึงประโยชน์ทางเศรษฐกิจและความเป็นไปได้ของ HSR หากข้อเสนอของพวกเขาต้องการเงินทุนจากรัฐบาล” เขากล่าว

ดร. แอนโทนี ดาส ผู้อำนวยการบริหารสถาบันวิจัยเศรษฐกิจแห่งมาเลเซีย (MIER) กล่าวว่า การฟื้นฟูโครงการโดยให้ภาคเอกชนมีส่วนร่วมและรัฐบาลมีส่วนร่วมน้อยที่สุดเป็นกลยุทธ์ที่เป็นไปได้ เนื่องจากข้อจำกัดทางการคลังในปัจจุบัน

“อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จขึ้นอยู่กับการวางแผนอย่างพิถีพิถัน ธรรมาภิบาลที่โปร่งใส และกฎระเบียบที่มีประสิทธิภาพ บทบาทของรัฐบาลแม้จะน้อยที่สุด ควรมุ่งเน้นไปที่การเปิดใช้งานการลงทุนภาคเอกชน การปกป้องผลประโยชน์สาธารณะ และการสร้างความสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาในระยะยาวของมาเลเซีย การฟื้นฟู HSR อาจเป็นโครงการเปลี่ยนแปลงสำหรับมาเลเซีย หากมีการจัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพและมีการกระจายผลประโยชน์อย่างเท่าเทียมกันในทุกภาคส่วน” เขากล่าว

ดร. แอนโทนี กล่าวว่า โครงการนี้มีประโยชน์ในแง่ของการเสริมสร้างการเชื่อมต่อระดับภูมิภาคและการเติบโตทางเศรษฐกิจ อำนวยความสะดวกในการดำเนินธุรกิจ การท่องเที่ยว และการค้าที่ราบรื่นยิ่งขึ้น และกระตุ้นผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) โดยดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศและส่งเสริมกิจกรรมทางเศรษฐกิจในเมืองต่างๆ ตามเส้นทาง เช่น มะละกา มัวร์ และบาตู ปาฮัต

นอกจากนี้ยังจะกระตุ้นการสร้างงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคการก่อสร้าง วิศวกรรม บริการ และการพัฒนาอุตสาหกรรม ตลอดจนสนับสนุนอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น โลจิสติกส์ การบริการ และค้าปลีก

ภาคเอกชนยังสามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้ด้วยการนำความเชี่ยวชาญ นวัตกรรม และประสิทธิภาพในการดำเนินงานเข้ามา

อย่างไรก็ตาม ความท้าทายอาจมาในรูปแบบของความเสี่ยงจากการลงทุนเริ่มต้นที่สูง เนื่องจากโครงการนี้ต้องการการลงทุนล่วงหน้าจำนวนมากซึ่งอาจใช้เวลาหลายปีกว่าจะให้ผลตอบแทนที่สำคัญ

“และหากประเมินความต้องการของผู้โดยสารสูงเกินไป ภาคเอกชนอาจประสบภาวะขาดทุนทางการเงิน ซึ่งอาจทำให้รัฐบาลต้องเข้ามาช่วยเหลือในอนาคต” เขากล่าว

ดร. แอนโทนี กล่าวว่า ความท้าทายอื่นๆ อาจมาในรูปแบบของปัญหาการเข้าถึงที่อาจเกิดขึ้นสำหรับกลุ่มผู้มีรายได้น้อย หากกำหนดราคาตั๋วสูงเกินไป ดังนั้นจึงจำกัดผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและสังคม ในขณะที่เมืองเล็กๆ เสี่ยงต่อการถูก bỏ qua หรือไม่ได้รับบริการ ดังนั้นจึงทำให้เกิดปัญหาความเหลื่อมล้ำ

แม้ว่ารัฐบาลจะมีส่วนร่วมน้อยที่สุด แต่อาจยังคงมีความเสี่ยงทางการคลังทางอ้อม เช่น การให้เงินอุดหนุนการเวนคืนที่ดินหรือการค้ำประกันเงินกู้ และหากภาคเอกชนไม่สามารถส่งมอบได้ รัฐบาลอาจต้องเข้ามาดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จ ซึ่งจะเพิ่มหนี้สาธารณะ” เขากล่าว

รองศาสตราจารย์ ดร. ลอว์ เต็ก ฮัว ผู้เชี่ยวชาญด้านการขนส่งและหัวหน้าศูนย์วิจัยความปลอดภัยทางถนน คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัย Putra Malaysia เชื่อว่าแนวคิดเรื่องการมีส่วนร่วมของรัฐบาลน้อยที่สุดควบคู่ไปกับการมีส่วนร่วมของภาคเอกชนในโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่เช่น HSR สามารถมีประสิทธิภาพได้อย่างแท้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากภาคเอกชนมีความเชี่ยวชาญและทรัพยากรในการจัดการโครงการ

ดร. ลอว์ กล่าวว่า HSR หากเกิดขึ้นจริง จะช่วยปรับปรุงการเชื่อมต่อโดยลดเวลาในการเดินทาง เพิ่มการบูรณาการระดับภูมิภาค และเชื่อมโยงศูนย์กลางเมืองกับเมืองเล็กๆ

https://www.thestar.com.my/news/nation/2025/01/08/planning-and-governance-vital-for-success-say-experts

Wisarut · Posted: 08/01/2025 4:28 pm Post subject:

การฟื้นฟูโครการรถไฟความเร็วสูง กัวลาลัมเปอร์ - สิงคโปร์ ยังต้องมีอุปสรรคอีกมาก และ ตอนนี้ค่าก่อสร้างก็บานปลายถึง 1แสนล้านริงกิตแล้ว โดยรัฐบาลมาเลเซียต้องการผลักภาระให้เอกชนเพราะตอนนี้หนี้สินสาธารณะพุ่งถึง 1 ล้าน 2 แสน4 หมื่น ล้านริงกิต และ จีนก็ไม่อยากลงทุนโครงกรนี้เพราะดูแล้วน่าจะขาดทุนแน่ๆ เพราะ ขนาดที่เมืองจีน เฉพาะสาย Beijing-Shanghai และ Guangzhou-Shenzhen ที่ทำกำไร นอกนั้นต้องพึ่งพาเงินอุดหนุนของรัฐ แม้จีนจะสามารถหาทุนได้ 2 หมื่นล้านริงกิตแต่จะให้ลงทุนอีก 8 หมื่นล้านริงกิต จีนคงไม่เอาแน่
https://www.malaymail.com/news/malaysia/2025/01/05/kl-singapore-hsr-revival-faces-uphill-battle-due-to-funding-hurdles/162142?

Mongwin · Posted: 25/01/2025 6:34 am Post subject:

เขตศก.มาเลย์-สิงคโปร์ สะเทือน EEC แลนด์บริดจ์ อุตฯเป้าหมายคล้ายไทย
Source - ฐานเศรษฐกิจ
Saturday, January 25, 2025 05:09

ผู้เชี่ยวชาญชี้มาเลเซียจับมือสิงคโปร์ ดันเขตเศรษฐกิจใหม่ "JS-SEZ" สะเทือน EEC ไทย หลากหลายมิติ ทั้งอุตสาหกรรมเป้าหมาย แลนด์บริดจ์ โลจิสติกส์ เศรษฐกิจสีเขียว ท่องเที่ยว พร้อมยกระดับเป็นศูนย์กลางการพัฒนาเศรษฐกิจของอาเซียนครบวงจร

เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2568 นายลอว์เรนซ์ หว่อง (Lawrence Wong) นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ และนายอันวาร์ อิบราฮิม (Anwar Ibrahim) นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษยะโฮร์กับสิงคโปร์ (JS-SEZ) ที่เมืองปุตราจายา (Putrajaya) ในวาระครบรอบ 60 ปี (ในปี 2025) แห่งความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ ทั้งนี้โครงการดังกล่าวคาดจะมีผลกระทบกับประเทศไทย

รองศาสตราจารย์ ดร.อัทธ์ พิศาลวานิช ผู้เชี่ยวชาญเศรษฐกิจระหว่างประเทศและอาเซียน เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า เขตเศรษฐกิจพิเศษยะโฮร์กับสิงคโปร์ (JS-SEZ) จะส่งผลกระทบต่อเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ของไทยในหลากหลายมิติ ทั้งอุตสาหกรรมเป้าหมาย ศักยภาพคน โลจิสติกส์ เศรษฐกิจสีเขียว และการท่องเที่ยว เป็นต้น

ทั้งนี้ทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจ ปี 2566 สิงคโปร์ส่งออกมาเลเซียเป็นตลาดอันดับที่ 3 (รองจากจีนและสหรัฐ) สัดส่วนการค้า 15% มูลค่า 4.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ และนำเข้าจากมาเลเซีย มากเป็นอันดับที่ 4 มูลค่า 4.7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ สิงคโปร์ขาดดุลมาเลเซีย 2 พันล้านดอลลาร์ และสิงคโปร์คือนักลงทุนอันดับหนึ่งของมาเลเซียสัดส่วน 25% ของ FDI มาเลเซีย ตามด้วยนักลงทุนจากจีน และสหรัฐฯ

สำหรับมาเลเซีย มีระเบียงเศรษฐกิจ หรือเขตอุตสาหกรรมทั้งหมด 5 เขตอุตสาหกรรม ที่แบ่งตาม 5 ภูมิภาค คือ 1.ระเบียงเศรษฐกิจภาคเหนือ (NCER) เป็นภูมิภาคการพัฒนาเศรษฐกิจระดับเวิลด์คลาส ประกอบด้วยรัฐปะลิส ปีนัง เคดาห์และเประ เน้นภาคเกษตร พัฒนาบุคลากร อุตสาหกรรม และท่องเที่ยว

มีโครงการเมืองยางพาราเรียกว่า "Kota Putra Rubber City : หรือ "South East Asia First Rubber Industrial Hub" ในรัฐเคดาห์ (ห่างจากหาดใหญ่ 89 กม.) ซึ่งเจ้าของโครงการคือ บริษัท Tradewinds Plantation Bhd : TPB หรือ TWS (หนึ่งในบริษัทอุตสาหกรรมการเกษตรรายใหญ่ของมาเลเซีย) ทำทั้งปาล์มน้ำมันและยางพาราครบวงจร ผ่านทางบริษัทลูกที่มีความชำนาญเรื่องยางพาราครบวงจรที่ชื่อว่า "MARDEC" มีการตั้งเป้าหมายรัฐเคดาห์ เป็น อุตสาหกรรม 4.0 ของมาเลเซีย

2.ระเบียงเศรษฐกิจฝั่งตะวันออก (ECER) เป้าหมายต้องการเป็น "ภูมิภาคแห่งศักยภาพอุตสาหกรรม" ครอบคลุมรัฐกลันตัน ตรังกานู และปะหัง คิดเป็น 51% ของพื้นที่เพนนินซูลา เน้นอุตสาหกรรมเกษตร การศึกษา อุตสาหกรรม น้ำมัน แก๊ส ปิโตรเคมีและท่องเที่ยว ในพื้นที่ของ ECER ยังมีเขตอุตสาหกรรมย่อยได้แก่ Malaysia-China Kuantan Industrial Park, Pekan Automotive Park, Kuantan Integrated Industrial Park ในรัฐปะหัง Kerteh Biopolymer Park ในรัฐตรังกานู และ Pasir Mas Halal Park ในรัฐกลันตัน

3.Iskandar Malaysia in Southern Johor ถูกขนานนามว่าเป็น "Malaysia Shenzhen" ครอบคลุม การศึกษา การเงิน สุขภาพ ไอที โลจิสติกส์ และท่องเที่ยว มีการสร้างรถไฟความเร็วสูงจากกัวลาลัมเปอร์ อิสกันดาร์และสิงคโปร์ มีมหาวิทยาลัยนิวคาสเซิล University of Southampton และ Marlborough College มีทางหลวง Coastal Highway Link และเขตอุตสาหกรรม Legoland Malaysia ซึ่งนอกจากจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวยังมีเขตอุตสาหกรรม Nusa Cemerlang Industrial Park และ Puteri Harbour Family Theme Park และ4.Sabah Development Corridor : (SDC) และ 5.Sarawak Corridor of Renewable Energy (SCORE)

"สำหรับ JS-SEZ คือการพัฒนาในเขต Iskandar Malaysia in Southern Johor ซึ่งพัฒนามาตั้งแต่ปี 2006 การมี JS-SEZ ทำให้ EEC ไทยสะเทือนเพราะ1.เป็นการพัฒนาร่วมกันของ 2 ประเทศที่นำจุดเด่นมายกระดับพัฒนาร่วมกัน 2.JS-SEZ จะเป็นศูนย์กลางการพัฒนาเศรษฐกิจอาเซียนที่ครบวงจร เพราะมีเขตอุตสาหกรรมของมาเลเซียและสิงคโปร์สนับสนุนและอยู่ในพื้นที่ท่าเรือสิงคโปร์และมาเลเซีย (ท่าเรือยะโฮร์ และท่าเรือสิงคโปร์ บนเส้นทางขนส่งช่องแคบมะละกา)"
3.อยู่บนเส้นทาง BRI ของจีนทั้งขนส่งทางเรือของช่องแคบมะละกา และแลนด์บริดจ์จากฝั่งตะวันตะวันตก (ท่าเรือกลาง) ไปยังท่าเรือกลันตันของมาเลเซีย 4.อยู่บนแผนการขยายท่าเรือมาเลเซียจาก 28 เป็น 60 ล้านตู้ TEU ในปี 2060 และท่าเรือสิงคโปร์จาก 39 เป็น 65 ล้านตู้ TEU ในปี 2040 และ 5.สิทธิประโยชน์ด้านภาษีลดลง เช่น โอกาสภาษีนิติบุคคลเหลือ 10-15% มีความเป็นไปได้สูง เพราะเป็น SEZ ที่ใหญ่ที่สุดของมาเลเซีย

ที่มา: นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 26 - 29 ม.ค. 2568

Wisarut · Posted: 26/06/2025 10:47 pm Post subject:

การยกเลิกรถไฟความเร็วสูงถือเป็นการพลาดโอกาสในการรวมชาติ ผู้นำฝ่ายค้านของสิงคโปร์กล่าว
พรีดีป นัมเบียร์
24 มิถุนายน 2025

ปรีตัม สิงห์ เลขาธิการพรรคแรงงาน กล่าวว่ารถไฟความเร็วสูงกัวลาลัมเปอร์-สิงคโปร์จะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างชาวมาเลเซียและสิงคโปร์ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

เปอตาลิงจายา :ปรีตัม สิงห์ หัวหน้าฝ่ายค้านของสิงคโปร์ กล่าววันนี้ว่าโครงการรถไฟความเร็วสูง (HSR) กัวลาลัมเปอร์-สิงคโปร์ที่ถูกยกเลิก ถือเป็นการพลาดโอกาสในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศ
ในระหว่างการพูดในรายการพอดแคสต์ “Keluar Sekejap” ซึ่งจัดรายการโดย Khairy Jamaluddin และ Shahril Hamdan Pritam กล่าวว่าเส้นทางรถไฟระยะทาง 350 กม. มีศักยภาพที่จะเปลี่ยนแปลงวิธีการเชื่อมต่อระหว่างชาวมาเลเซียและสิงคโปร์

“ผมคิดว่าสิ่งที่เป็นเชอร์รี่บนเค้กก็คือรถไฟความเร็วสูง ซึ่งจะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริง

“รถไฟความเร็วสูงเปลี่ยนแปลงหลายๆ อย่าง ระยะทางสั้นลงมาก น่าเสียดายที่มันถูกยกเลิกไปแล้ว” เขากล่าว

รถไฟฟ้าความเร็วสูงซึ่งจะช่วยลดเวลาการเดินทางระหว่างกรุงกัวลาลัมเปอร์และสิงคโปร์ลงเหลือ 90 นาที ถูกยกเลิกในปี 2021 หลังจากทั้งสองฝ่ายไม่สามารถตกลงกันเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงที่เสนอได้

อย่างไรก็ตาม ทั้งสองรัฐบาลได้ส่งสัญญาณถึงความเต็มใจที่จะทบทวนโครงการดังกล่าวเมื่อเร็วๆ นี้

ระหว่างการถอยทัพของผู้นำในเดือนมกราคม นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม กล่าวว่า ปุตราจายาเปิดกว้างที่จะฟื้นฟู HSR หากได้รับเงินทุนสนับสนุนทั้งหมดจากภาคเอกชน ในขณะที่ลอว์เรนซ์ หว่อง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ กล่าวว่า รัฐบาลของเขาเปิดกว้างที่จะรับฟังข้อเสนอใหม่ๆ

นอกเหนือจากโครงสร้างพื้นฐานแล้ว ปริทัมยังเรียกร้องให้ชาวสิงคโปร์มีส่วนร่วมกับมาเลเซียอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น โดยเสนอให้แลกเปลี่ยนนักศึกษากับมหาวิทยาลัยในมาเลเซียแทนที่จะสนับสนุนสหรัฐอเมริกาหรือสหราชอาณาจักร

เลขาธิการพรรคแรงงานกล่าวว่ามาเลเซียและสิงคโปร์มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดและควรมุ่งเน้นไปที่ความร่วมมือในทางปฏิบัติ

“เรามีความเชื่อมโยงกันอย่างใกล้ชิด มาเลเซียที่ประสบความสำเร็จจะส่งผลดีต่อสิงคโปร์ เราต้องการปฏิสัมพันธ์ที่มากขึ้น ไม่ใช่น้อยลง” เขากล่าว

ปรีทัมยังกล่าวอีกว่าชาวสิงคโปร์บางคนอาจดูไม่เป็นมิตร แต่ส่วนใหญ่เห็นคุณค่าของมาเลเซีย

“คุณไปคุยกับคนสิงคโปร์บนถนนแล้วถามว่า 'คุณชอบไปยะโฮร์บาห์รูไหม' แน่นอนว่าพวกเขาชอบ แม้ว่าจะเป็นเพียงการเดินทางสั้นๆ ก็ตาม” เขากล่าว
https://www.freemalaysiatoday.com/category/nation/2025/06/24/cancelled-hsr-a-missed-opportunity-to-unite-nations-says-spore-opposition-leader

ศาลฎีกามาเลเซียยกฟ้องคำร้องขออนุญาตอุทธรณ์คดี HSR
26 พฤษภาคม 2025
ผู้สื่อข่าว FMT

คณะตุลาการสามคนมีมติเอกฉันท์ว่าคำถามทางกฎหมายที่ผู้ยื่นอุทธรณ์ตั้งขึ้นไม่ตรงตามเกณฑ์ภายใต้มาตรา 96 แห่งพระราชบัญญัติศาลยุติธรรม พ.ศ. 2507

เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2021 มาเลเซียและสิงคโปร์ประกาศยุติโครงการรถไฟความเร็วสูงระยะทาง 350 กม. (ภาพจากเบอร์นามา)
เปอตาลิงจายา :ในวันนี้ ศาลรัฐบาลกลางได้ตัดสินยกฟ้องคำร้องของ Hatta Sanuri ที่ขออนุญาตอุทธรณ์ในความพยายามที่จะฟื้นคดีที่ท้าทายการยกเลิกโครงการรถไฟความเร็วสูง (HSR) กัวลาลัมเปอร์–สิงคโปร์
คณะตุลาการสามคนประกอบด้วยผู้พิพากษา Zabariah Yusof, Abu Bakar Jais และ Hanipah Farikullah ต่างมีคำตัดสินเป็นเอกฉันท์ว่าคำถามทางกฎหมายที่ถูกถามนั้นไม่เป็นไปตามเกณฑ์ภายใต้มาตรา 96 แห่งพระราชบัญญัติศาลยุติธรรม พ.ศ. 2507

เมื่อพิจารณาคำตัดสินของศาล ซาบาเรียห์เห็นว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเพียงเรื่องระหว่างกาลและไม่เกี่ยวข้องกับประเด็นทางกฎหมายใหม่หรือคำถามที่มีความสำคัญสาธารณะใดๆ

เธอสังเกตว่า ปัญหาที่ถูกหยิบยกขึ้นมา โดยเฉพาะปัญหาที่เกี่ยวข้องกับสถานะการดำเนินคดีและการดำเนินคดี ได้รับการยุติโดยเด็ดขาดในกฎหมายที่มีอยู่แล้ว

เธอยังกล่าวอีกว่าศาลถือว่าข้อเรียกร้องทางกฎหมายที่ไม่สำคัญเป็นเรื่องจริงจังและสังเกตว่าคำถามทางกฎหมายที่ยื่นนั้นยืดยาวและขาดความแม่นยำ

“หากมีการร่างคำถามไว้อย่างดี บางทีเราอาจสามารถระบายอากาศได้” ซาบาเรียห์กล่าวในการยกคำร้องขอลาออกของฮัตตา โดยไม่มีคำสั่งให้จ่ายเงินค่าใช้จ่าย

การตัดสินใจครั้งนี้ถือเป็นการยุติการท้าทายทางกฎหมายของ Hatta ต่อรัฐบาล อดีตนายกรัฐมนตรี ดร. มหาธีร์ โมฮัมหมัด และมูฮิดดิน ยาสซิน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ มุสตาปา โมฮัมเหม็ด และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม วี กา ซิอง

ฮัตตาได้ขออนุญาตอุทธรณ์คำตัดสินของศาลอุทธรณ์เมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2567 ซึ่งยืนตามคำตัดสินของศาลชั้นต้นที่ว่าคดีของเขาไม่สามารถฟ้องร้องได้และไม่ได้เปิดเผยสาเหตุการดำเนินคดีที่สมเหตุสมผล

ฮัตตายื่นฟ้องในนามของตนเองและคนมาเลเซียมากกว่า 32 ล้านคนที่ได้รับผลกระทบจากการยกเลิกโครงการเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2022

ในคำฟ้อง เขายื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้การยกเลิกโครงการเป็นโมฆะ รวมทั้งให้จำเลยทั้งหมดชำระเงินชดเชยจำนวน 1 ล้านริงกิตให้แก่เขาและคนมาเลเซียทุกคน สำหรับการยกเลิกโครงการ HSR อันไม่ยุติธรรมและประมาทเลินเล่อ

เมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2564 มาเลเซียและสิงคโปร์ประกาศยุติโครงการระยะทาง 350 กม. หลังจากที่ทั้งสองประเทศไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงที่มาเลเซียเสนอ ก่อนที่ข้อตกลงโครงการจะหมดอายุในวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2563

โครงการนี้คาดว่าจะให้บริการเดินทางตรงระหว่างมาเลเซียและสิงคโปร์ โดยใช้เวลาเดินทางจากกัวลาลัมเปอร์ไปยังสิงคโปร์เป็นเวลา 90 นาที

ฮัตตาได้รับการเป็นตัวแทนโดยทนายความ Mohaji Selamat ในขณะที่ทนายความอาวุโสของรัฐบาลกลาง Donald Joseph Franklin ปรากฏตัวในนามของรัฐบาล
https://www.freemalaysiatoday.com/category/nation/2025/05/27/federal-court-dismisses-bid-for-leave-to-appeal-hsr-case