Rotfaithai.Com :: View topic - รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่
View previous topic :: View next topic
Author
Message
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 48728
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 48728
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 29/06/2025 2:14 pm Post subject:
ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ประชุมคณะกรมการจังหวัด ประจำเดือนมิถุนายน 2568 ติดตามผลการขับเคลื่อนนโยบายสำคัญ เน้นย้ำการบูรณาการความร่วมมือทุกภาคส่วนในการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน พร้อมเตรียมจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ 28 กรกฎาคม เพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
Source - สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์
Friday, June 27, 2025 12:21
ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ประชุมคณะกรมการจังหวัด ประจำเดือนมิถุนายน 2568 ติดตามผลการขับเคลื่อนนโยบายสำคัญ เน้นย้ำการบูรณาการความร่วมมือทุกภาคส่วนในการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน พร้อมเตรียมจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ 28 กรกฎาคม เพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
. วันนี้ 27 มิถุนายน 2568 ที่ห้องประชุม 1 ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดสงขลา นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน ประจำเดือนมิถุนายน 2568 โดยมีนายจิรวัตร์ มณีโชติ, นายวิทยา จันทน์เสนะ และนายสังคม เกิดก่อ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เข้าร่วมประชุม พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อรายงานผลการดำเนินงาน ติดตามนโยบายสำคัญ และวางแผนขับเคลื่อนการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนในพื้นที่
. ในช่วงต้นการประชุม นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้เป็นประธานในพิธีมอบเกียรติบัตรแก่ผู้ปฏิบัติงานดีเด่นด้านการดูแลผู้ขอทานและผู้แสดงความสามารถ ประจำปี 2567 จำนวน 1 รางวัล พร้อมมอบทุนอุปการะเด็กจากกองทุนพัฒนาเด็กชนบท ในพระราชานุเคราะห์ฯ ประจำปี 2568 ให้แก่นายอำเภอและผู้แทนนายอำเภอทั้ง 16 อำเภอ เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่
. โอกาสนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของเดือนกรกฎาคม 2568 ซึ่งเป็นเดือนมหามงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วันที่ 28 กรกฎาคม โดยจังหวัดสงขลา เตรียมจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติอย่างสมพระเกียรติ ทั้งพิธีเจริญพระพุทธมนต์และทำบุญตักบาตร พิธีถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน พิธีถวายเครื่องราชสักการะ วางพานพุ่ม และจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล พร้อมขอความร่วมมือทุกหน่วยงานดำเนินการอย่างพร้อมเพรียงและสง่างาม
. นอกจากนี้ จังหวัดสงขลาเตรียมจัดโครงการ ร้อยใจไทย สืบสานราชธรรมทั้งแผ่นดิน ในวันที่ 4 กรกฎาคม 2568 ณ สวนประวัติศาสตร์ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ซึ่งจะจัดขึ้นพร้อมกันทั่วประเทศ เพื่อแสดงพลังแห่งความจงรักภักดี ความสามัคคี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ทั้งยังกล่าวแสดงความยินดีกับเทศบาลนครสงขลาและเทศบาลนครหาดใหญ่ ที่ดำเนินการเลือกตั้งผู้บริหารและสภาเทศบาลเสร็จสิ้นลงด้วยความเรียบร้อย
. ในการประชุมครั้งนี้ ยังมีการรายงานสถานการณ์สำคัญในพื้นที่ ทั้งด้านเศรษฐกิจ การคลัง สถานการณ์น้ำ การพยากรณ์อากาศ รวมถึงความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงชุมทางหาดใหญ่ ปาดังเบซาร์ การจัดงานประมูลทะเบียนรถเลขสวย การจัดงานทำบุญลานหลวงปู่ทวดในวันที่ 26 สิงหาคม 2568 ติดตามสถานการณ์ตลาดแรงงาน และการส่งเสริมโครงการอนุรักษ์พลังงาน
. พร้อมกันนี้ ได้ติดตามความก้าวหน้าในโครงการสำคัญของจังหวัด อาทิ การขับเคลื่อนสงขลาเข้าสู่เครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโก ด้านวิทยาการอาหาร การผลักดันสงขลาสู่การขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก การพัฒนาเมืองไมซ์ซิตี้ (Songkhla MICE City) มาตรการป้องกันทุเรียนด้อยคุณภาพ การจัดการขยะในชุมชน การลดรายจ่ายสร้างรายได้ให้กับประชาชน รวมถึงการเตรียมจัดกิจกรรม สมิหลา ฮาล์ฟมาราธอน ในวันที่ 20 กรกฎาคมนี้ เพื่อส่งเสริมสุขภาพและกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา/ข่าว-ภาพ
https://thainews.prd.go.th/thainews/news/view/1226934/?bid=1
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 45053
Location: NECTEC
Posted: 29/06/2025 10:12 pm Post subject:
สถานีรถไฟมวกเหล็กใหม่
ตั้งอยู่ติดกับโรงเรียนนายเรืออากาศ นวมินทกษัตริยาธิราช ห่างจากสถานีมวกเหล็กเก่าประมาณ 3 กิโลเมตร เป็นสถานีขนาดกลาง 1 ชั้นระดับดิน มีการออกแบบตามมาตรฐาน universal design ครอบคลุมผู้ใช้บริการทุกกลุ่ม ส่วนชานชาลาเป็นแบบยกระดับประมาณ 10 เมตรจากระดับพื้น ยาว 400 เมตร มีบันไดทางขึ้นลง และลิฟต์เพื่อบริการระหว่างชานชาลา เป็นสถานีที่เป็นจุดเริ่มต้นทางคู่ยกระดับที่สูงที่สุดถึง 50 เมตร ยาว 4.8 กิโลเมตร ที่พาดผ่านเมืองมวกเหล็ก
จากเดิมรถต้องวิ่งระดับพื้นดิน คอยไต่ระดับขึ้น-ลง และเลี้ยวเลาะตามเชิงเขา ทำให้เสียเวลาในการเดินทาง เมื่อทางคู่ยกระดับนี้เปิดใช้ จะช่วยลดเวลาในการเดินทางมากขึ้น ส่วนสถานีมวกเหล็กเก่ากลางใจเมืองมวกเหล็ก ก็จะรื้อถอนออกเพราะอยู่ตรงกับแนวของตอม่อรถไฟความเร็วสูง https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=122167340210562925&id=61566887772453
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 45053
Location: NECTEC
Posted: 30/06/2025 10:31 am Post subject:
รถไฟทางคู่เตรียมบวกอีก 1,200 กม. 6 เส้นทาง รฟท.ทุ่ม 3 แสนล้าน!
https://www.youtube.com/watch?v=irBYMQJpfMs
Wisarut wrote: Mongwin wrote: ดันรถไฟทางคู่ เฟส2 จำนวน 6 เส้นทาง มูลค่ากว่า 2.9 แสนล้าน
23 มิถุนายน 2568 เวลา 10:05 น.
กรุงเทพ 23 มิ.ย.-สุริยะ ดันรถไฟทางคู่ เฟส 2 จำนวน 6 เส้นทาง ระยะทาง 1,249 กม. มูลค่ารวมกว่า297,924 ล้านบาท เร่งชงสภาพัฒน์ฯ พิจารณาอนุมัติ พร้อมจัดลำดับความสำคัญโครงการฯ เปิด 3 เส้นทางอันดับต้นลุยสร้างก่อน เน้นย้ำยกระดับการขนส่งทางราง พลิกโฉมโลจิสติกส์ไทยสู่ศูนย์กลางอาเซียน
ความสำคัญอันดับต้น จำนวน 3 เส้นทาง คือ
1. เส้นทางสุราษฎร์ธานี-หาดใหญ่-สงขลา ระยะทาง 321 กม.
2. วงเงิน 66,270 ล้านบาท, เส้นทางปากน้ำโพ-เด่นชัย ระยะทาง 280.5 กม. วงเงินประมาณ 81,143 ล้านบาท,
3. เส้นทางชุมพร-สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 168 กม. วงเงินประมาณ 30,422 ล้านบาท
"สุริยะ"เผยสภาพัฒน์แนะจัดลำดับรถไฟทางคู่ เฟส 2 จำนวน 6 เส้นทาง แบ่ง 3 กลุ่มมูลค่าลงทุนรวมกว่า 2.9 แสนล้าน
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันจันทร์ ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2568 เวลา 16:16 น.
ปรับปรุง: วันจันทร์ ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2568 เวลา 16:16 น.
รฟท.ส่งการบ้านให้สภาพัฒน์ รถไฟทางคู่เฟส2วงเงิน2.97แสนล้าน
วันอังคาร ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2568 เวลา 06.30 น.
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 จำนวน 6 เส้นทาง ระยะทางรวม 1,249 กิโลเมตร (กม.) มูลค่ารวมประมาณ 297,924 ล้านบาท ว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้นำเสนอโครงการฯ ต่อสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์ฯ) เพื่อประกอบการพิจารณาอนุมัติ โดยเน้นถึงความสำคัญของโครงการในการยกระดับการขนส่งและโลจิสติกส์ของประเทศให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันที่สูงขึ้น และทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการเชื่อมต่อระบบการขนส่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ได้อย่างแท้จริง
"สุริยะ"ดันรถไฟทางคู่ เฟส 2 จำนวน 6 เส้นทาง ระยะทาง 1,249 กม. มูลค่ารวมกว่า 2.9 แสนล้าน รฟท.เร่งปรับปรุงข้อมูล หลังสภาพัฒน์ฯ แนะ จัดลำดับ แบ่ง 3 กลุ่ม เร่งสร้าง 3 เส้นทางก่อนเติมเต็มโครงข่าย ร่นเวลาเดินทาง 30% พลิกโฉมโลจิสติกส์ไทยสู่ศูนย์กลางอาเซียน
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 45053
Location: NECTEC
Posted: 02/07/2025 9:43 pm Post subject:
On 27 June 2025, starting from Special Express Train No. 43 onwards, all up trains will be changed to down track between Cha-am Station and Suan Son Pradipat Station, and all down trains will be changed to up track between Suan Son Pradipat Station and Cha-am Station. This track switching is due to maintenance work on the stability of the bridge on the way up before the elevated road at Hua Hin Station, Hua Hin Railway Station apologizes for the inconvenience.
https://www.facebook.com/athuahinstation/posts/1309632954500296
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 48728
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 04/07/2025 9:16 am Post subject:
ปูพรมรถไฟทางคู่บูมภาคเหนือ ชงงบ40ล้าน ศึกษาเส้นทาง แพร่ -น่านทะลุด่านห้วยโก๋น220กิโล
ฐานเศรษฐกิจ
04 ก.ค. 2568 | 06:48 น.
อัปเดตล่าสุด :04 ก.ค. 2568 | 08:55 น.
ปูพรมรถไฟทางคู่บูมภาคเหนือ รฟท.ชงงบ40ล้าน ศึกษาเส้นทาง แพร่ -น่านทะลุด่านพรมแดนห้วยโก๋น ยาว 220กิโล เชื่อม โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ สาย เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ชูจุดขายท่องเที่ยว ขนส่งสินค้าชายแดน-ข้ามแดน
การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) พัฒนาเส้นทางรถไฟทางคู่ จิ๊กซอว์เติมเต็มโครงข่ายระบบราง กระดูกสันหลังการเดินทางเชื่อมโยงภายในประเทศและประเทศเพื่อนบ้านตามแผนแม่บทระบบราง สมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา สร้างยุทธศาสตร์การเดินทางแบบไร้รอยต่อ จากการเล็งเห็นความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันการค้าชายแดนและการค้าข้ามแดน
ที่น่าจับตาคือภาคท่องเที่ยว แม่เหล็กสร้างรายได้เข้าประเทศอย่างมากจากคนไทยรวมถึงต่างชาติที่ชื่นชอบการเดินทาง การใช้ชีวิตบนรถไฟ ทั้งประหยัดพลังงาน ลดมลพิษ มีความปลอดภัยสูง และอานิสงส์ที่ได้กลับมา คือ สร้างความเจริญในพื้นที่ สร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนให้กับชุมชน เกิดการพัฒนาเชิงพาณิชย์ ราคาที่ดินโดยรอบมีมูลค่าสูงขึ้น
เช่นเดียวกับ การพัฒนาโครงข่ายระบบรางทางภาคเหนือ โครงการรถไฟทางคู่เส้นทางสายเหนือใหม่ เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 323.1 กิโลเมตร มูลค่ากว่า8หมื่นล้านบาท ก้าวหน้าไปมากกว่า 36% ซึ่งเร็วกว่าแผน 1.5% แม้ผ่านอุปสรรคมากมายเช่นนํ้าท่วมใหญ่ แผ่นดินไหว รวมถึงผลกระทบจากการเผา ฝุ่น PM2.5 ด้วยความแข็งแกร่งของทีมงานก่อสร้างส่งผลให้เส้นทางสายประวัติศาสตร์ที่หลายคนรอคอย มีความพร้อมเปิดให้บริการตามแผนต้นปี 2571
นายปัฐตพงษ์ บุญแก้ว วิศวกรโครงการรถไฟทางคู่เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ เปิดเผย ฐานเศรษฐกิจ ว่า นอกจากโครงการรถไฟทางคู่ เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของแล้ว รฟท.ได้ผลักดันโครงการรถไฟทางคู่สายใหม่ช่วง แพร่-น่าน-ห้วยโก๋น (ด่านพรมแดน) ระยะทางรวม 220 กิโลเมตร เพื่อเติมเต็ม จังหวัดน่าน ให้มีเส้นทางรถไฟเชื่อมถึง เสริมศักยภาพในพื้นที่ ซึ่งประเมินมูลค่าโครงการแต่ละเฟสมากกว่า 2 หมื่นล้านบาทขึ้นไป
เบื้องต้น เสนอของบกลางปี 2568 ซึ่งเป็นงบกระตุ้นเศรษฐกิจ ตามนโยบายรัฐบาล 1.57 แสนล้านบาท จำนวน 40 ล้านบาท ต้องการศึกษาเฟสแรก ช่วง แพร่-น่าน ระยะทาง 90 กิโลเมตรในปี2568ก่อน เพื่อจุดชนวนการก่อสร้าง ต่อจากนั้นจะศึกษาเฟสที่ 2 จากน่าน-ด่านพรมแดนห้วยโก๋น ระยะทาง 120 กิโลเมตร ทั้งนี้ที่ผ่านมา รฟท.ได้เสนองบในปีงบประมาณ 2569 แล้ว แต่ต้องชะลอออกไป
อย่างไรก็ตามมองว่า เส้นทางดังกล่าว มีศักยภาพสูง ซึ่งเป็นเส้นทางส่วนต่อขยายจากโครงการ รถไฟทางคู่สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ จิ๊กซอว์เติมเต็มการเดินทาง ภาคเหนือให้มีศักยภาพสูงสุด หากได้งบประมาณศึกษาจะดำเนินการคู่ขนานไปกับ การก่อสร้างเส้นทางรถไฟทางคู่เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของเพื่อให้โครงการทยอยเสร็จและเปิดบริการในเวลาไล่เลี่ยกัน ไม่ให้เกิดลักษณะฟันหลอเหมือนในอดีต เนื่องจาก รฟท.รอไม่ได้ เพราะการขยายเส้นทางรถไฟทางคู่ ถือเป็นหนึ่งในเฟืองจักรสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ
โครงการรถไฟทางคู่สายใหม่ แพร่-น่าน-ห้วยโก๋น มีเป้าหมายเชื่อมโยงจังหวัดแพร่และน่านเข้ากับโครงข่ายรถไฟทางคู่ และมีแผนจะเชื่อมต่อไปยังด่านชายแดนห้วยโก๋น เพื่อส่งเสริมการค้าและการท่องเที่ยว
ส่วนการเวนคืนที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ต้องรอผล การศึกษา เพราะกว่าจะถึงขั้นตอนการเวนคืน ทั้งมูลค่าที่ดินและแปลงที่ดินจะเปลี่ยนแปลงไป ทั้งการยุบรวมแปลง หรือการแบ่งแยกแปลง คาดว่าจะมีที่ดินหลายแปลงได้รับผลกระทบซึ่งรฟท.มีความพยายามหลบเลี่ยงการเวนคืนสิ่งปลูกสร้างให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยเฟสแรก ช่วงแพร่-น่าน การเวนคืน ประมาณ 2,812 ไร่
สำหรับแนวเส้นทาง เริ่มจากสถานีชุมทางหนองเสี้ยว จังหวัดแพร่-สถานีน่าน (เฟสแรก) ระยะทาง ประมาณ 90 กิโลเมตร รวม 10 สถานี ความเร็วสูงสุด 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยจังหวัด แพร่ และ น่านมีลานกองเก็บตู้สินค้า 1 แห่ง การก่อสร้างใช้เวลา 5 ปีนับจากปีที่เริ่มโครงการ ส่วนเฟสที่ 2 จากสถานีน่าน-ด่านห้วยโก๋น 120 กิโลเมตร ใช้เวลาก่อสร้าง 6 ปี เนื่องจากต้องผ่านภูเขาสูงชั้น
ทั้งนี้ การลงทุนโครงข่ายระบบรางหนึ่งในเฟืองจักร สำคัญ ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ โดยเฉพาะภาคเหนือ ถือเป็นเส้นเลือดใหญ่ของภาคท่องเที่ยว และเส้นทางการค้าที่น่าจับตายิ่ง!!!
เมกะโปรเจ็กต์ หน้า 8 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4,111 วันที่ 6 - 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
Double-Track Railway Expansion to Boost Northern Thailand: Baht 40 Million Budget Proposed for Phrae-Nan-Huai Kon Border Route Study (220 km)
Thansettakij
July 4, 2025 | 06:48 AM
Latest Update: July 4, 2025 | 08:55 AM
The double-track railway expansion is set to boost Northern Thailand. The State Railway of Thailand (SRT) has proposed a 40 million baht budget to study a new 220-kilometer route from Phrae to Nan, extending through the Huai Kon border checkpoint. This new line will connect to the ongoing Den Chai-Chiang Rai-Chiang Khong double-track railway project, promoting tourism and cross-border freight transportation.
The SRT is developing the double-track railway network as a crucial piece of the rail system, forming the backbone of domestic and cross-border travel. This aligns with the rail master plan from General Prayut Chan-o-cha's government, aiming to create seamless travel. The project acknowledges the significant economic benefits, enhancing the competitiveness of border and cross-border trade.
The tourism sector, a major revenue generator for the country, is a key focus. Both Thai and international tourists enjoy train travel due to its energy efficiency, reduced pollution, and high safety. The anticipated benefits include fostering regional development, stimulating local economies, and promoting commercial growth, which will in turn increase land values in surrounding areas.
Similarly, the development of the northern rail network, specifically the new Den Chai-Chiang Rai-Chiang Khong double-track railway, spanning 323.1 kilometers with a value exceeding 80 billion baht, is now over 36% complete, 1.5% ahead of schedule. This progress has been made despite numerous challenges such as major floods, earthquakes, and the impact of burning and PM2.5 dust. The resilience of the construction team means this long-awaited historic line is expected to be ready for service as planned in early 2028.
Mr. Pattapong Boonkaew, Project Engineer for the Den Chai-Chiang Rai-Chiang Khong double-track railway, revealed to "Thansettakij" that in addition to this project, the SRT is pushing for a new double-track line from Phrae to Nan and Huai Kon (border checkpoint), covering a total distance of 220 kilometers. This aims to provide Nan province with a rail connection, enhancing its potential. Each phase of this project is estimated to be worth more than 20 billion baht.
Initially, a 40 million baht budget is being sought from the government's 2025 mid-year economic stimulus budget of 157 billion baht. This funding is intended for the first phase study of the Phrae-Nan section (90 kilometers) in 2025 to ignite construction. Subsequently, the second phase, from Nan to the Huai Kon border checkpoint (120 kilometers), will be studied. The SRT had previously proposed a budget for the 2026 fiscal year, but it has been postponed.
Nevertheless, the SRT believes this route has high potential as an extension of the Den Chai-Chiang Rai-Chiang Khong double-track railway project, completing the northern travel network to its fullest potential. If the study budget is approved, the study will run in parallel with the construction of the Den Chai-Chiang Rai-Chiang Khong line, ensuring projects are completed and opened for service around the same time, avoiding the fragmented development seen in the past. The SRT cannot afford to wait, as expanding the double-track railway is a crucial mechanism for driving the country's economy.
"The new Phrae-Nan-Huai Kon double-track railway project aims to connect Phrae and Nan provinces to the double-track rail network, with plans to extend to the Huai Kon border checkpoint to promote trade and tourism," said Mr. Pattapong.
Regarding land expropriation, the process must await the study results, as both land values and plots will change before expropriation, including plot consolidation or subdivision. Many land plots are expected to be affected, but the SRT is trying to avoid expropriating structures as much as possible. For the first phase (Phrae-Nan), approximately 2,812 rai of land are expected to be expropriated.
The proposed route for the first phase begins at Nong Sieo Junction Station in Phrae province and extends to Nan Station, covering approximately 90 kilometers with 10 stations. The maximum speed will be 160 kilometers per hour. Both Phrae and Nan provinces will have one container yard. Construction is expected to take five years from the project's start. The second phase, from Nan Station to Huai Kon border checkpoint (120 kilometers), will take six years to construct due to the challenging mountainous terrain.
Overall, investing in the rail network is a vital cog in driving the country's economy, especially in the North, which is considered a major artery for tourism and an increasingly important trade route.
---
Mega Project, Page 8, Thansettakij Newspaper, Issue No. 4,111, July 6-9, 2025
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 48728
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 08/07/2025 5:27 pm Post subject:
อีกแล้ว ! น้ำท่วมอุโมงค์โครงการรถไฟทางคู่ ชุมทางจิระ - ขอนแก่น | 7 สีช่วยชาวบ้าน
Ch7HDNews
Jul 8, 2025
https://www.youtube.com/watch?v=69sOItpSPn4
7 สีช่วยชาวบ้าน - มาอีกแล้วกับปัญหานี้ ฝนตกต่อเนื่องทีไรได้อ่านข่าวนี้ตลอด และเชื่อว่า หากยังไม่มีการแก้ไข เราได้อ่านข่าวนี้กันอีกแน่ ๆ เป็นเรื่องอะไร ดูภาพ
น้ำท่วมอุโมงค์ทางลอด โครงการรถไฟทางคู่ ชุมทางจิระ - ขอนแก่น ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา จุดนี้คือชุมชนบ้านโนนดินทราย เชื่อมชุมชนบ้านมะค่า ตำบลมะค่า อำเภอโนนสูง เป็นอุโมงค์แบบ 1 ช่อง กว้าง 2.5 เมตร สำหรับรถมอเตอร์ไซด์ จักรยาน และชาวบ้านใช้เดินไปมาหาสู่กัน ถูกน้ำท่วมเต็มอุโมงค์ เพราะปั๊มน้ำไฟฟ้าไม่ทำงาน ทำให้ชาวบ้านต้องไปใช้อุโมงค์ในตำบลดอนใหญ่ อำเภอคง ที่อยู่ห่างไป 3 กิโลเมตร แต่ก็พบว่าถูกน้ำท่วมเหมือนกัน แม้ว่าจุดนี้ปั๊มน้ำไฟฟ้ายังใช้งานได้ แต่ไม่สามารถระบายน้ำได้ทัน ชาวบ้านดอนใหญ่ เล่าว่า เดิมน้ำจะไหลลงร่องระบายน้ำริมทางรถไฟ แต่พอมีการสร้างรถไฟทางคู่ ทำให้น้ำระบายไม่ได้ก็เลย ไหลเข้าท่วมในอุโมงค์
สำหรับอุโมงค์จุดนี้เด็กนักเรียนใช้เดินทางไปโรงเรียน แต่พอถูกน้ำท่วมก็ต้องเสียเวลาไปหาเส้นทางอื่น และสิ่งที่น่ากังวลคือ ยังไม่มีการตัดไฟ อาจเกิดอันตรายกับเด็ก ๆ ที่แอบมาเล่นน้ำ หรือชาวบ้านที่ต้องเดินผ่านบริเวณนี้ จึงอยากให้การรถไฟแห่งประเทศไทย ส่งเจ้าหน้าที่มาแก้ปัญหา เพื่อให้ชาวบ้านใช้เส้นทางด้วยความปลอดภัย
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 48728
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 45053
Location: NECTEC
Posted: 09/07/2025 10:23 am Post subject:
แนวเส้นทางของโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงขอนแก่น-หนองคาย ผ่านพื้นที่ใน 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดขอนแก่น จังหวัดอุดรธานี และจังหวัดหนองคาย มีจุดเริ่มต้นที่ประมาณ กม.453+955 (เป็นจุดสิ้นสุดของโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงจิระ-ขอนแก่น) ซึ่งอยู่ถัดขึ้นไปทางเหนือของสถานีขอนแก่น (กิโลเมตรที่449+750) ประมาณ 4.2 กิโลเมตร และมีจุดสิ้นสุดที่สถานีหนองคาย (กิโลเมตรที่ 623+000) รวมระยะทางประมาณ 167 กิโลเมตร
เป็นการพัฒนาการเดินรถไฟโดยการออกแบบก่อสร้างเพิ่มทางวิ่งอีก 1 ทาง ทำให้มีความรวดเร็วในการเดินรถมากขึ้น โดยกำหนดไว้ที่ความเร็วสูงสุด 160 กิโลเมตร/ชั่วโมง เพิ่มความปลอดภัยในการเดินทางเมื่อเปิดเดินรถและยกเลิกจุดตัดทางรถไฟเสมอระดับ โดยมีการกั้นรั้วตลอดแนวเส้นทาง ลดปัญหามลพิษที่มีต่อสิ่งแวดล้อม เพิ่มประสิทธิภาพของการขนส่งสาธารณะ ทั้งพื้นที่ชนบท เมือง และระหว่างประเทศ และจูงใจให้ประชาชนหันมาใช้บริการทางรางให้มากยิ่งขึ้นทำให้ลดจำนวนอุบัติเหตุทางถนน ซึ่งการพัฒนาระบบจะให้ความสำคัญทั้งในการให้บริการขนส่งผู้โดยสารและการบริการขนส่งสินค้า ซึ่งจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของโครงข่ายการขนส่งทางรถไฟ
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=122136122804803496&id=61574104897708
แผนงานก่อสร้าง 3 ปี
การรถไฟฯ ได้เริ่มดำเนินงานก่อสร้างเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2568 โดยมีกิจการร่วมค้า ช.ทวี-เอเอส ก่อสร้าง เป็นผู้รับจ้าง และกิจการร่วมค้า CSCKN มีผู้ควบคุมงาน โดยโครงการจะก่อสร้างในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น อุดรธานี และหนองคาย มีกำหนดแล้วเสร็จของงานวันที่ 8 เมษายน 2571
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=122136124178803496&id=61574104897708
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 48728
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 10/07/2025 12:52 pm Post subject:
บขส.ทุ่ม 3 พันล้าน เช่ารถโดยสารใหม่ 311 คันแทนรถเก่า ตั้งเป้ารายได้ 3.5 พันล้านบาทล้างขาดทุนใน 2 ปี
ผู้จัดการออนไลน์ 9 ก.ค. 2568 17:59
บขส.ครบ 95 ปี ทุ่ม 3 พันล้านเช่ารถโดยสารใหม่ป้ายแดง 311 คัน แทนรถเก่าเตรียมปลดระวาง ลดค่าซ่อมบำรุง100 ล้านบาท รับล็อตแรก วัน 9 เดือน9 จำนวน 99 คัน เป้าดันรายได้ที่ 3.5 พันล้านบาทล้างขาดทุนสะสมใน 2 ปี สุรพงษ์แนะการพัฒนาเส้นทางใหม่ เน้นฟีดเดอร์เชื่อมระบบราง
วันที่ 9 ก.ค.68 นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงานวันคล้ายวันสถาปนา บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ครบรอบปีที่ 95 ว่า ที่ผ่านมาบขส. มีการพัฒนาปฎิรูป องค์กรให้มีความคล่องตัวและมีบริการที่ทันสมัย โดยไม่พึ่งพางบประมาณของรัฐ มีการยกระดับการให้บริการเพื่อประชาชน ได้รับความสะดวกสบายมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงเทศกาลสำคัญมีการปรับปรุงบริการ กระจายการเดินทางของผู้โดยสาร และสามารถรองรับผู้โดยสารได้ ตั้งแต่ 80,000-140,000 คนต่อวัน โดยไม่มีตกค้าง
โดยหลังจากนี้ บขส.จะนำรถโดยสารใหม่ให้บริการทดแทนรถเก่า ตนได้ให้นโยบายในการพัฒนาบริการใหม่ ๆ หรือธุรกิจใหม่ ๆ เพื่อรองรับรูปแบบการเดินทางที่เปลี่ยนไปในเร็วๆนี้ เนื่องจากโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่จะแล้วเสร็จ จะทำให้ผู้โดยสารของบขส.ส่วนหนึ่งที่เดินทางไกล อาจจะหันไปใช้บริการรถไฟทางคู่แทน ดังนั้น บขส.ต้องปรับตัว บริการในเส้นทางที่เป็นฟีดเดอร์เชื่อมต่อกับระบบราง และเส้นทางที่ระบบรางเข้าไม่ถึง เปิดเส้นทางเดินรถโดยสารเชื่อมต่อท่าอากาศยาน เพื่ออำนวยความสะดวกและลดระยะเวลาในการเดิน รวมถึงบุกเบิกตลาดเส้นทางเชื่อมต่อประเทศเพื่อนบ้านรองรับด้านการท่องเที่ยวและการเดินทางเพื่อธุรกิจ
นอกจากนี้ บขส.จะมีการปรับปรุงพัฒนาสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ หรือหมอชิต 2 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและอำนวยความสะดวกผู้โดยสารที่ใช้บริการเข้าถึงทุกกลุ่มทุกวัยและยกระดับความปลอดภัยให้แก่ประชาชน ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษา คาดว่าจะสรุปใน 2 -3 เดือนนี้จะมีแนวทาง และรูปแบบที่เหมาะสม หลักการ จะใช้พื้นที่เดิมและจัดวางพื้นที่การใช้ประโยชน์ให้เหมาะสมมากขึ้น และไม่ให้มีปัญหารถติดในเขตกทม.รวมถึง การเชื่อมต่อกับระบบราง และพัฒนาสถานีรอบนอก
@เป้ารายได้ 3,500 ล้านบาท ภายใน 2 ปี เลิกขาดทุน
นายอรรถวิท รักจำรูญ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บขส. กล่าวว่า บขส.เดินหน้าปรับปรุงบริการ เพิ่มความสะดวกสบายให้ผู้โดยสาร โดยที่ตนเข้ารับตำแหน่ง ได้ตั้งเป้าสร้างรายได้ที่ 3,500 ล้านบาทต่อปี ภายใน 2 ปี จากปัจจุบันที่มีรายได้ 1,988 ล้านบาท โดยแบ่งสัดส่วน เป็นรายได้จากการเดินรถประมาณ 2,500 ล้านบาทจากปัจจุบันมีประมาณ 1,300 ล้านบาท,รายได้จากการขนส่งพัสดุภัณฑ์ประมาณ 500 ล้านบาท จากปัจจุบัน มีประมาณ 200 ล้านบาท และรายได้เชิงพาณิชย์ ในพื้นที่สถานีให้มากกว่า 500 ล้านบาทจากปัจจุบัน มี 500 ล้านบาท
หลักการคือเพิ่มรายได้อีกเท่าตัว ด้วยการเพิ่มช่องทางการขายทั่วประเทศ เพิ่มจุดรับส่งพัสดุฯ เป็นเป้าKPI พนักงานขายกว่า 400 คนทั่วประเทศด้วย เพื่อให้บขส. อยู่ได้โดยไม่ของบประมาณจากรัฐ
ผลประกอบการบขส.ดีขึ้นตามลำดับ จาก ก่อนหน้านี้ มีผลดำเนินงานขาดทุน 1,600 ล้านบาท และขาดทุนเหลือ 500 ล้านบาท จนปัจจุบันขาดทุน 170 ล้านบาท มีผลขาดทุนสะสม 3,000 ล้านบาท ซึ่งตั้งเป้าปี 2569 ต้องมีกำไร ประมาณ 1,000 ล้านบาท และแก้ขาดทุนสะสมได้ใน 2 ปี จากที่มีรถใหม่เข้ามาให้บริการและมีการปรับปรุงบริหารจัดการที่ดีขึ้น
@ทุ่ม 3 พันล้านบาท เช่ารถใหม่ 311 คัน แทนรถเก่าทั่วประเทศ
นายอรรถวิทกล่าวอีกว่า ขณะนี้บขส. ได้ดำเนินการจัดหารถโดยสารใหม่ป้ายแดงจำนวน 311 คันเรียบร้อยแล้ว ในรูปแบบเช่าดำเนินการ พร้อมซ่อมบำรุง ระยะเวลา 5 ปี วงเงินลงทุน 3,018 ล้านบาท ซึ่งจะรับมอบชุดแรก จำนวน 99 คัน วันที่ 9 ก.ย.2568 เพื่อทดแทนรถเก่า จำนวน 250 คัน ที่มีอายุใช้งาน ตั้งแต่ 10-30 ปี ในทุกเส้นทางทั่วประเทศ
โดยรถโดยสารใหม่ ยี่ห้อ MAN เครื่องยนต์รุ่นใหม่มาตรฐานยูโร 5 ลดการปล่อยมลพิษ เกียร์ออโต้ ประหยัดต้นทุนค่าน้ำมัน 20-30% ลดค่าซ่อมบำรุงลงกว่า100 ล้านบาทต่อปี และบขส.ได้ปรับโครงสร้าง ยุบกองซ่อมบำรุงบขส.ลงด้วย
สำหรับค่าเช่ารถโดยเฉลี่ยที่ 5,000 บาทต่อคันต่อวัน รวมค่าซ่อมบำรุงดูแลรักษา ค่าเปลี่ยนยาง เปลี่ยนอะไหล่ ทั้งหมด ต้นทุนจะอยู่ที่ผู้รับจ้างทั้งหมด ทำให้ประเมินว่า รถโดยสารใหม่จำนวน311 คันนี้จะสร้างกำไรให้บขส. 300-400 ล้านบาทต่อปี จะช่วยลดขาดทุนสะสมลงได้
รายงานข่าว แจ้งว่า โดยบขส.เปิดประมูลเช่ารถโดยสารมาตรฐานยูโร 5 โดยมี บริษัท อิทธิพร อิมปอร์ต จำกัด เป็นคู่สัญญา ระยะเวลาเช่า 5 ปี เริ่มนับอายุสัญญาเริ่มวันที่ 9 ก.ย.2568 แบ่งส่งมอบ 4 งวด งวด 1 วันที่ 9 ก.ย.2568 จำนวน 99 คัน ,งวด 2 วันที่ 9 ต.ค.2568 จำนวน 95 คัน ,งวด 3 วันที่ 8 พ.ย.2568 จำนวน 76 คัน ,งวด 4 วันที่ 8 ธ.ค.2568 จำนวน 41 คัน
สำหรับรถโดยสาร 311 คัน แบ่งเป็น 3 ประเภท ได้แก่ 1.รถโดยสารปรับอากาศชั้น 1 VIP (ม.1 ก) ขนาด 12 เมตร จำนวน 24 ที่นั่ง จำนวน 28 คัน 2.รถโดยสารปรับอากาศ ชั้น 1 พิเศษ (ม.1 พ) ขนาด 12 เมตร จำนวน 32 ที่นั่ง จำนวน 50 คัน และ 3.รถโดยสารปรับอากาศชั้น 1 (ม.1 ข) ขนาด 12 เมตร จำนวน 36 ที่นั่ง จำนวน 233 คัน
Back to top
You cannot post new topics in this forum You cannot reply to topics in this forum You cannot edit your posts in this forum You cannot delete your posts in this forum You cannot vote in polls in this forum
Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group