Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:318534
ทั่วไป:28062061
ทั้งหมด:28380595
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 421, 422, 423 ... 426, 427, 428  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 49365
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 11/07/2025 2:22 pm    Post subject: Reply with quote

Thailand Update อยู่ที่ จังหวัดขอนแก่น

เริ่มงานขุดตอ ถากถาง และดินคันทางแล้ว กับการก่อสร้าง "รถไฟทางคู่สายอีสาน (ช่วงขอนแก่น - หนองคาย)" ระยะทาง 167 กม. มี 14 สถานี ที่หยุดรถ 4 แห่ง ลานบรรทุกสินค้า 3 แห่ง ซึ่งจะมีรั้วตลอดสองข้างทาง ถนนยกระดับและทางลอดตัดตลอดเส้นทาง รวมทั้งชานชาลาสูง ทำให้รถไฟวิ่งได้เต็มกำลังสูงสุดถึง 120-160 กม./ชม. ขึ้นอยู่กับหัวรถจักร เมื่อแล้วเสร็จจะช่วยลดเวลาเดินทางในช่วงนี้ลง 1-1.5 ชั่วโมง และแล้วเสร็จปี 2571 (ขอขอบคุณข้อมูลและภาพจากโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงขอนแก่น - หนองคาย, Design Concept Architect และคุณณรงค์กร ปานประเสริฐ)

https://www.facebook.com/ThailandUpdateFanPage/posts/713042608271426
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45533
Location: NECTEC

PostPosted: 19/07/2025 12:15 am    Post subject: Reply with quote

ข้อดีของสถานีมวกเหล็กใหม่
สถานีมวกเหล็กใหม่มีข้อดีหลายประการ เช่น ¹:
- *เพิ่มศักยภาพในการขนส่ง*: การมีรถไฟทางคู่ทำให้สามารถรองรับการเดินทางและความต้องการขนส่งที่เพิ่มขึ้นได้ โดยสามารถเพิ่มปริมาณขบวนรถไฟให้ถี่ยิบและลดระยะเวลาการเดินทาง
- *ลดระยะเวลาเดินทาง*: การปรับปรุงเส้นทางรถไฟใหม่ทำให้สามารถเพิ่มความเร็วของรถไฟได้
- *เพิ่มความปลอดภัย*: การติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณแบบใหม่ เช่น European Train Control System (ETCS) Level 1 และศูนย์ควบคุมการเดินรถจากศูนย์กลาง (CTC) ช่วยให้การจัดการจราจรทางรถไฟปลอดภัยมากขึ้น
- *ลดความแออัด*: การมีรถไฟทางคู่ทำให้สามารถจัดการจราจรได้ดีขึ้น ลดความแออัดและปัญหาการจราจรติดขัด
- *การเดินทางสะดวกสบาย*: การปรับปรุงเส้นทางรถไฟใหม่ทำให้การเดินทางด้วยรถไฟสะดวกสบายและรวดเร็วขึ้น สามารถตอบสนองความต้องการของผู้โดยสารได้ดีขึ้น
โดยรวมแล้ว สถานีมวกเหล็กใหม่เป็นสถานีที่มีความสำคัญและมีศักยภาพในการรองรับการเติบโตของการขนส่งและการเดินทางในอนาคต
https://www.facebook.com/tha.art.ank/posts/4165917303692431
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45533
Location: NECTEC

PostPosted: 23/07/2025 9:00 pm    Post subject: Reply with quote

การรถไฟแห่งประเทศไทย เชิญชวนผู้ประกอบการร่วมลงพื้นที่สถานีลพบุรี 2 พิจารณาแนวทางพัฒนาธุรกิจบริการ รองรับการให้บริการแก่ผู้โดยสาร 25 ก.ค. นี้
การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ขอเชิญชวนผู้ประกอบการและผู้สนใจ ร่วมลงพื้นที่สถานีรถไฟลพบุรี 2 ในวันศุกร์ที่ 25 กรกฎาคม 2568 เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป เพื่อร่วมพิจารณาแนวทางการดำเนินธุรกิจให้บริการสิ่งอำนวยความสะดวกภายในสถานี อาทิ ร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ร้านค้าสินค้าอุปโภคบริโภค เครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ (Vending Machine) ตู้เอทีเอ็ม (ATM) รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ที่จำเป็นสำหรับรองรับการให้บริการแก่ผู้โดยสาร
ทั้งนี้ การดำเนินกิจกรรมดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของแนวทางการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ของการรถไฟฯ เพื่อเพิ่มศักยภาพของสถานีรถไฟลพบุรี 2 ในฐานะจุดเชื่อมต่อการเดินทางที่สำคัญของประชาชน พร้อมเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการส่งเสริมระบบขนส่งทางราง และยกระดับประสบการณ์ของผู้โดยสารให้สะดวกสบายยิ่งขึ้น
สำหรับผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ งานการเช่าและบริหารสัญญา ฝ่ายปฏิบัติการเดินรถ การรถไฟแห่งประเทศไทย ในทุกวันทำการ ระหว่างเวลา 08.30 น. ถึงเวลา 16.30 น. หมายเลขโทรศัพท์ 02-220-4841 และ 02-621-8701 ต่อ 5082
https://www.facebook.com/pr.railway/posts/1191430166348306
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45533
Location: NECTEC

PostPosted: 30/07/2025 9:32 am    Post subject: Reply with quote

“รฟท.” จ้าง 70 ล้าน เตรียมงานประมูล “ทางคู่ เฟส 2” 5 เส้นทาง 1 พัน กม. กว่า 2 แสนล้าน
ข่าวนวัตกรรมขนส่ง
วันพุธ ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 เวลา 08:43 น.

รถไฟทางคู่เฟส 2 อีก 6 เส้นทาง กว่า 1.2 พันกม. 2.9 แสนล้าน ยังอยู่ที่เดิม รอ “สภาพัฒน์” ไฟเขียวก่อนชง ครม. ขณะที่ “รฟท.” เตรียมพร้อมประมูลแล้ว ลุยว่าจ้างที่ปรึกษา 70 ล้าน ทำ TOR เปิดประมูลก่อน 5 เส้น ปักธงเริ่มสร้างปี 69 ส่วน “เด่นชัย-เชียงใหม่” รอผ่านอีไอเอก่อน

“ทีมข่าวนวัตกรรมขนส่งเดลินิวส์” รายงานว่า ขณะนี้โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะ(เฟส)ที่ 2 ที่เหลืออีก 6 เส้นทาง จากทั้งหมด 7 เส้นทาง ยังคงอยู่ระหว่างรอการพิจารณาของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) หรือสภาพัฒน์ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ขอข้อมูลเพิ่มเติมมายัง รฟท. อาทิ เรื่องความคุ้มค่าในการลงทุนฯ, การจัดลำดับการก่อสร้างแต่ละโครงการ และการรายได้เพิ่มจากการพัฒนาโครงการรถไฟทางคู่ดังกล่าว โดย รฟท. ได้ส่งข้อมูลทั้งหมดกลับไปยัง สศช. เพื่อพิจารณาแล้ว หากผ่านความเห็นชอบ กระทรวงคมนาคมจะเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณาอนุมัติทั้ง 6 เส้นทางต่อไป โดยโครงการนี้ผ่านความเห็นชอบจากสำนักงบประมาณ และกระทรวงการคลังแล้ว

อย่างไรก็ตามในระหว่างรอการเสนอ ครม. พิจารณา ทาง รฟท. ได้เตรียมความพร้อมเตรียมเปิดประกวดราคาโครงการฯ แล้ว โดยได้ประกาศแผนการจัดซื้อจัดจ้างที่ปรึกษางานจัดเตรียมเอกสารประกวดราคา และจัดการประกวดราคาโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ เฟสที่ 2 จำนวน 5 เส้นทาง วงเงินรวม 70 ล้านบาท ผ่านทางเว็บไซต์ รฟท. แล้ว  ประกอบด้วย 
1.ช่วงชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี ระยะทาง 308 กิโลเมตร(กม.) วงเงิน 15 ล้านบาท,
2.ช่วงชุมพร-สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 168 กม. วงเงิน 15 ล้านบาท,
3.ช่วงสุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา ระยะทาง 321 กม. วงเงิน 15 ล้านบาท,
4.ช่วงปากน้ำโพ-เด่นชัย ระยะทาง 218 กม. วงเงิน 15 ล้านบาท และ 
5.ช่วงหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 45 กม. วงเงิน 10 ล้านบาท

ส่วนช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ ระยะทาง 189 กม. ยังไม่ได้เตรียมการ เนื่องจากยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม(อีไอเอ) รอให้ผ่านความเห็นชอบก่อน

สำหรับโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่เฟสที่ 2 มีทั้งหมด 7 เส้นทาง โดยช่วงขอนแก่น-หนองคาย ระยะทาง 167 กม. วงเงิน 28,679 ล้านบาท ได้ผ่านความเห็นชอบจาก ครม. แล้ว และปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้าง โดย รฟท. ได้ออกหนังสือแจ้งให้เริ่มงานแก่กิจการร่วมค้า ช.ทวี-เอเอส ก่อสร้าง ประกอบด้วย บริษัท ช.ทวีก่อสร้าง จำกัด, บริษัท เอ.เอส.แอสโซซิเอท เอนยิเนียริ่ง(1964) จำกัด, บริษัท ทิพากร จำกัด และ บริษัท เค เอส ร่วมค้า แล้ว ตั้งแต่เมื่อวันที่ 25 เม.ย.2568 ถือเป็นการเริ่มก่อสร้างรถไฟทางคู่ เฟส 2 เส้นแรก จากทั้งหมด 7 เส้นทาง ทั้งนี้การก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงขอนแก่น-หนองคาย จะใช้เวลาก่อสร้าง 36 เดือน หรือ 3 ปี คาดว่าจะแล้วเสร็จ และเปิดบริการได้ในปี 2571

ส่วนอีก 6 เส้นทาง ระยะทาง 1,249 กม. วงเงินรวมประมาณ 2.9 แสนล้านบาท อยู่ระหว่างเตรียมเสนอ ครม. พิจารณา หากผ่านความเห็นชอบจาก ครม. ทาง รฟท. ก็พร้อมดำเนินการเปิดประกวดราคาหาผู้รับจ้างแต่ละโครงการได้เลย ซึ่งจะใช้เวลาในขั้นตอนการประมูลประมาณ 6 เดือน โดยมีแผนจะเริ่มก่อสร้างให้ได้ภายในปี 2569 ทั้งนี้เมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จ และเปิดให้บริการ จะช่วยเพิ่มศักยภาพการให้บริการขนส่งระบบรางทั้งการขนส่งสินค้า และโดยสาร

ลดต้นทุนการขนส่งระบบโลจิสติกส์ ลดระยะเวลาในการเดินทางได้ 1–1.50 ชั่วโมง ไม่ต้องรอสับหลีก ประหยัดพลังงานเชื้อเพลิงลด และปัญหามลพิษต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความปลอดภัย ลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุบริเวณจุดตัดทางเสมอระดับรถไฟ-รถยนต์ อำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชน เชื่อมโยงการขนส่งสินค้าได้ทุกภูมิภาค ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวของประเทศต่อไป.
https://www.dailynews.co.th/news/4967283/


อัปเดตรถไฟทางคู่เฟส2อีก7สายกว่าพันกม.3แสนล้าน
*ส่งข้อมูลเพิ่มสภาพัฒน์ฯแล้วถ้าไฟเขียวจะเข้าครม.
*รฟท.จ้างที่ปรึกษา70ล้านเตรียมพร้อมประมูล5สาย
*ส่วน“เด่นชัย-เชียงใหม่”ยังไม่เตรียมงานรอEIAผ่าน
*เส้นแรก“ขอนแก่น-หนองคาย”เริ่มงานคันทางแล้ว
https://www.dailynews.co.th/news/4967283/
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/1288192089424689
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45533
Location: NECTEC

PostPosted: 04/08/2025 8:30 am    Post subject: Reply with quote

อัปเดตทางคู่ “สายอีสาน” ส.ค. ชงบอร์ดปรับแบบทางรถไฟยกระดับข้าม “สะพานสีมาธานี” 1.6 หมื่นล้าน
ข่าวนวัตกรรมขนส่ง
วันจันทร์ ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2568 เวลา 07:13 น.

ส.ค.นี้ ชงบอร์ด รฟท. เสนอ ครม. เคาะปรับแบบสัญญา 2 ทางคู่สายอีสาน “มาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ” จากทางรถไฟระดับดินเป็นยกระดับ ข้ามสะพานสีมาธานี งบบานกว่าเท่าตัวเป็น 1.6 หมื่นล้าน พร้อมเร่งเจรจาจ่ายเวนคืนลุยงานส่วนที่เหลือของสัญญา 1 ทำทางลงทางรถไฟยกระดับสูงสุดในไทย เปิดใช้ “มวกเหล็กใหม่-ปางอโศก”  ปี 70 สมบูรณ์ทั้งเส้นปี 72
“ทีมข่าวนวัตกรรมขนส่งเดลินิวส์” รายงานว่า ในการประชุมคณะกรรมการ(บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) เดือน ส.ค.2568 รฟท. จะเสนอพิจารณาปรับรูปแบบการก่อสร้างโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ สายตะวันออกเฉียงเหนือ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ สัญญาที่ 2 ช่วงคลองขนานจิตร-ชุมทางถนนจิระ บริเวณสะพานสีมาธานี โดยจะปรับเป็นทางรถไฟยกระดับ ข้ามสะพานเลี่ยงเมืองนครราชสีมา และสะพานสีมาธานี จากเดิมออกแบบไว้เป็นทางรถไฟระดับดิน ส่งผลให้วงเงินเพิ่มขึ้นเป็น 16,826 ล้านบาท จากเดิม 7,060 ล้านบาท ทั้งนี้ทางรถไฟยกระดับจะมีความสูงจากบริเวณกึ่งกลางสะพานสีมาธานี ถึงบริเวณท้องคานทางรถไฟยกระดับ ของรถไฟทางคู่ประมาณ 5.5 เมตร


หากบอร์ด รฟท. พิจารณาเห็นชอบการปรับแบบดังกล่าว จะเสนอกระทรวงคมนาคม และคณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณา หากเห็นชอบจะเปิดประกวดราคาหาผู้รับจ้างภายในปี 2568 คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในเดือนมิ.ย.2569 ใช้เวลาก่อสร้าง 42 เดือน ก่อสร้างแล้วเสร็จ และเปิดให้บริการสัญญาที่ 2 ระยะทาง 69 กิโลเมตร(กม.) ได้ภายในปี 2572 อย่างไรก็ตามสำหรับโครงการรถไฟทางคู่ สายอีสาน ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ มีระยะทาง135 กม. วงเงิน 2.99 หมื่นล้านบาท มี 4 สัญญา โดยสัญญาที่ 1 ช่วงมาบกะเบา-คลองขนานจิตร ระยะทาง 58 กม. มีความคืบหน้า 96.36% ได้เปิดเดินรถทางคู่ ช่วงบันไดม้า-คลองขนานจิตร ระยะทาง 30 กม. ตั้งแต่วันที่ 28 ก.ค.2567 และช่วงมาบกะเบา-มวกเหล็กใหม่ ระยะทาง 13 กม. ตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค.2567 แล้ว โดยเดินรถผ่านอุโมงค์ผาเสด็จ ความยาว 5.4 กม. และอุโมงค์หินลับ ความยาว 265 เมตรด้วย


ขณะนี้สัญญาที่ 1 เหลือช่วงมวกเหล็กใหม่-ปางอโศก ระยะทาง 15 กม. ที่ยังไม่สามารถเปิดเดินรถทางคู่ได้ปัจจุบัน รฟท. กำลังเจรจาจ่ายค่าทดแทนพื้นที่เวนคืน เนื่องจาก พ.ร.ฎ.เวนคืนที่ดินหมดอายุไปตั้งแต่ปี 2564 ทำให้สร้างต่อไม่ได้ ซึ่งรวมถึงทางลงรถไฟยกระดับสูงที่สุดในไทยด้วย โดยเมื่อจ่ายค่าทดแทนพื้นที่เวนคืนแล้วเสร็จ รฟท. จะส่งมอบพื้นที่ส่วนดังกล่าวให้ผู้รับจ้างดำเนินการก่อสร้าง คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างทางลงรถไฟยกระดับ และพื้นที่ส่วนที่เหลือได้ในเดือน มี.ค.2569 ใช้เวลาก่อสร้าง 15 เดือน แล้วเสร็จ และเปิดเดินรถตลอดเส้นทางของสัญญาที่ 1 รวมถึงทางรถไฟยกระดับ สถานีมวกเหล็กใหม่ได้ในปี 2570 


สำหรับสัญญาที่ 3 งานอุโมงค์รถไฟ มีความคืบหน้าการก่อสร้าง 95.54% ก่อสร้างแล้วเสร็จ และเปิดให้บริการแล้ว 2 อุโมงค์ ได้แก่ อุโมงค์ผาเสด็จ และอุโมงค์หินลับ ปัจจุบันยังเหลืออุโมงค์ลำตะคอง ตั้งอยู่ระหว่างสถานีคลองขนานจิตร อ.ปากช่อง และสถานีคลองไผ่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ความยาว 1.40 กม. ที่ยังไม่ได้เปิดให้เดินรถผ่าน เนื่องจากปากอุโมงค์ลำตะคองฝั่งมุ่งหน้าสถานีคลองไผ่ มีพื้นที่เชื่อมต่อกับจุดเริ่มต้นงานก่อสร้างของสัญญาที่ 2 ซึ่งสัญญานี้ยังไม่ได้เริ่มก่อสร้าง ขณะที่สัญญาที่ 4 งานติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม มีความคืบหน้า61.36% ทั้งนี้ภาพรวมทั้งโครงการฯ จะก่อสร้างแล้วเสร็จ และเปิดให้บริการแบบสมบูรณ์ได้ภายในปี 2572...
https://www.dailynews.co.th/news/4982993/

อัปเดตทางคู่อีสาน! รถไฟยกข้าม“สะพานสีมาธานี”
*ชงบอร์ดเพิ่มค่าก่อสร้างเกินเท่าตัวเป็น16,826ล.
*สัญญา2คลองขนานจิตร-ชุมทางจิระ69กม.ขยับ
*ส่งครม.เห็นชอบประมูลสร้าง3ปีครึ่ง/เปิดได้ปี72
*สัญญา1มวกเหล็กใหม่-ปางอโศกกำลังเร่งเวนคืน
*เริ่มสร้างที่เหลือมี.ค.ปีหน้าใช้เวลา 15 เดือนเสร็จ
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/1292089142368317

ปรับแบบรถไฟทางคู่”คลองขนานจิตร-จิระ”งบพุ่ง 1.5 หมื่นล้าน ยกระดับข้ามสะพานสีมาธานี เร่งชงบอร์ดส.ค.นี้ แก้คอขวดสายอีสาน
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันจันทร์ ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2568 เวลา 06:29 น.
ปรับปรุง: วันจันทร์ ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2568 เวลา 06:29 น.

รฟท.แก้ทุกประเด็น ปรับแบบทางคู่ยกระดับผ่าเมืองโคราช 16 กม. ไม่ทุบสะพานสีมาธานี ดันงบพุ่งแตะ 1.5 หมื่นล้าน เตรียมเสนอบอร์ดรฟท.ส.ค.นี้ คาดประมูลสัญญา 2 คลองขนานจิตร-ชุมทางถนนจิระ กลางปี 69

รายงานข่าวจาก การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้า โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะเร่งด่วน ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 132 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 29,968 ล้านบาท ว่า ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างงานโยธา สัญญาที่ 1 ช่วงมาบกะเบา-คลองขนานจิตร ระยะทาง 58 กิโลเมตร (กม.) และสัญญาที่ 3 งานอุโมงค์ ส่วนสัญญาที่ 2 ช่วงคลองขนานจิตร-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 69 กม. อยู่ระหว่างการแก้ไขรูปแบบการก่อสร้างเป็นทางยกระดับ ช่วงสถานีโคกกรวด-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 16 กม. ตามข้อร้องเรียนของประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมา ที่สรุปช่วงผ่านกลางเมืองโดยไม่ทุบสะพานสีมาธานี และให้สอดคล้องกับโครงการรถไฟความเร็วสูงระยะที่ 1 (กรุงเทพฯ-นครราชสีมา) ช่วงโคกกรวด-นครราชสีมา งานสัญญาที่ 3-5 เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าต่องบประมาณสูงสุด



ซึ่งในการปรับรูปแบบของรถไฟทางคู่ ช่วงคลองขนานจิตร-ชุมทางถนนจิระ เป็นทางยกระดับจะเป็นทางยกระดับต่ำกว่าโครงสร้างรถไฟความเร็วสูง ไทย-จีน สัญญาที่ 3-5 มีประเด็นทางเทคนิคที่ต้องพิจารณาเพื่อไม่ให้กระทบกับฐานรากและตอม่อของรถไฟไทย-จีนที่ก่อสร้างไปก่อนแล้ว จึงมีการขยับแนวรถไฟทางคู่ และใช้สถานีโคราช ร่วมกับสถานีไฮสปีด ทำให้มีผลต่อการไต่ระดับของรถสินค้า จึงต้องปรับแบบ ทำทางเบี่ยงทางรถไฟระดับดินด้านล่าง สำหรับให้รถสินค้าใช้เหมือนเดิม

นอกจากนี้ เพื่อลดปัญหาการเวนคืนที่ดิน ที่อาจส่งผลทำให้การก่อสร้างล่าช้าได้ ในสัญญา 2 จึงปรับแบบเพื่อไม่ให้มีการเวนคืน โดยให้แนวเส้นทางก่อสร้างอยู่ในเขตทางรถไฟเดิมทั้งหมด จึงทำให้ในบางช่วงรถไฟต้องใช้ความเร็วต่ำ เช่น ช่วงลำตะคอง ออกจากอุโมงค์ จะมีแนวเวนคืนเพื่อปรับโค้ง ให้ใช้ความเร็วได้มากขึ้น แต่หากไม่เวนคืนและปรับแนวเส้นทางอยู่ในเขตทางรถไฟเดิม ทำให้ความเร็วจะต้องลดลง




ส่วนจุดตัดทั้งหมดที่เดิมออกแบบบเป็นสะพานรถยนต์ข้ามทางรถไฟ (Overpass) จะปรับเป็นยูเทิร์นเพื่อให้ก่อสร้างโครงสร้างอยู่ในเขตทางรถไฟเดิมทั้งหมด โดยจะชี้แจงกับทางจังหวัด และประชาชนให้เข้าใจการปรับรูปแบบ เพื่อไม่ให้มีเวนคืน รวมถึงได้มีรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ( EIA ) กลับไปที่ สผ.ใหม่แล้ว เนื่องจากมีการเปลี่ยน ไม่ทุบสะพานสีมาธานี ซึ่งทำให้ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและปัญหาจราจรลดลง



รายงานข่าวแจ้งว่า การปรับแบบก่อสร้างสัญญาที่ 2 ช่วงคลองขนานจิตร-ชุมทางถนนจิระ เป็นทางยกระดับ และให้สอดคล้องกับโครงสร้างของรถไฟไทย -จีน และจากต้นทุนค่าวัสดุก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น ทำให้ต้องขยายวงเงินก่อสร้างจาก 9,300 ล้านบาท (กรอบปี 2560) เพิ่มเป็น 15,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่า จะเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท. ขออนุมัติดำเนินโครงการได้ ในเดือน ส.ค. 2568 หลังจากนั้น เป็นขั้นตอนเสนอครม.ขออนุมัติ คาดว่าจะประกวดราคา และได้ผู้รับจ้างในเดือนก.ค. 2569 ใช้ระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 3 ปีครึ่ง - 4 ปี

สำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย - จีน สัญญาที่ 3 - 5 งานโยธา ช่วงโคกรวด - นครราชสีมา ระยะทาง 12.38 กม. มีกิจการร่วมค้า เอสพีทีเค จำกัด เป็นผู้รับจ้าง วงเงิน 7,750 ล้านบาท บอร์ดรฟท.เห็นชอบปรับเพิ่มกรอบวงเงินค่าก่อสร้าง เพิ่ม 2,052,088,650 บาท จากการแก้ไขเปลี่ยนแปลงรูปแบบก่อสร้าง ช่วงโคกกรวด-ภูเขาลาด จากคันทาง(Embankment) สูง 4-5 เมตรเป็นรูปแบบโครงสร้างยกระดับ (Elevated) ระยะทางประมาณ 7.85 กม. ปัจจุบันอยู่ระหว่างขั้นตอนการขอความเห็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อประกอบการพิจารณาของ ครม.
https://mgronline.com/business/detail/9680000073552
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45533
Location: NECTEC

PostPosted: 07/08/2025 10:18 am    Post subject: Reply with quote

“สุริยะ”เผยแจงข้อมูลฯครบแล้ว รถไฟทางคู่เฟส 2 ลงทุนกว่า 2.9 แสนล. จ่อชงบอร์ด สศช. ก.ย.นี้
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันพฤหัสบดี ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2568 เวลา 06:29 น.
ปรับปรุง: วันพฤหัสบดี ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2568 เวลา 09:15 น.

“สุริยะ” ชงบอร์ดสภาพัฒน์เคาะ 2.9 แสนล้าน ดัน “รถไฟทางคู่ เฟส 2”
ฐานเศรษฐกิจ
เผยแพร่: วันพฤหัสบดี ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2568 เวลา 09:00 น.

‘สุริยะ’ เผยรถไฟทางคู่ระยะ 2 คืบหน้า ลุ้นบอร์ด สศช. อนุมัติ ก.ย.นี้
ในประเทศ
เผยแพร่: วันพฤหัสบดี ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2568 เวลา 11:17 น.


สุริยะเผยโครงการรถไฟทางคู่ระยะที่ 2 รวม 6 เส้นทาง ระยะทางกว่า 1,200 กม. มูลค่ากว่า 2.9 แสนล้าน เดินหน้าต่อเนื่อง ลุ้นบอร์ด สศช. อนุมัติภายในเดือนกันยายน.

* นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เตรียมเสนอโครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 จำนวน 6 เส้นทาง วงเงินรวม 297,924 ล้านบาท ให้คณะกรรมการสภาพัฒน์ (บอร์ด สศช.) พิจารณาภายในต้นเดือนกันยายนนี้
* หากบอร์ดสภาพัฒน์เห็นชอบ กระทรวงคมนาคมจะรวบรวมความเห็นจากสภาพัฒน์, สำนักงบประมาณ และกระทรวงการคลัง เพื่อเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติโครงการภายในเดือนเดียวกัน
* การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้จัดลำดับความสำคัญของเส้นทางตามคำแนะนำของสภาพัฒน์ โดยพิจารณาจากปัจจัยหลัก 5 ด้าน เช่น ความต้องการขนส่งผู้โดยสารและสินค้า และความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์
* โครงการทั้ง 6 เส้นทางประกอบด้วย ช่วงสุราษฎร์ธานี-หาดใหญ่-สงขลา, หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์, ปากน้ำโพ-เด่นชัย, ชุมพร-สุราษฎร์ธานี, ชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี และเด่นชัย-เชียงใหม่


"สุริยะ"เผยแจงข้อมูลครบแล้ว รถไฟทางคู่ เฟส 2 จำนวน 6 เส้นทาง 1,249 กม. มูลค่ารวมกว่า 2.9 แสนล้าน พร้อมชงบอร์ดสภาพัฒน์ฯเคาะลงทุนต้นก.ย.นี้ ก่อนเสนอ ครม. เติมเต็มโครงข่ายทางราง ลดต้นทุนโลจิสติกส์

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 จำนวน 6 เส้นทาง ระยะทางรวม 1,249 กิโลเมตร (กม.) มูลค่ารวมประมาณ 297,924 ล้านบาทว่า ที่ผ่านมารฟท.ได้ชี้แจงข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติม ต่อสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์ฯ) เพื่อประกอบการพิจารณาอนุมัติ ครบถ้วนแล้ว โดยจากที่มีการหารือกับรองเลขาธิการสภาพัฒน์ฯ ได้ข้อสรุปร่วมกัน แล้ว และจะนำเสนอที่ประชุมบอร์ดสภาพัฒนฯ์ได้ในต้นเดือนก.ย. 2568

ขณะที่ หน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง ได้ให้ความเห็นมาแล้ว ดังนั้นหลังจาก บอร์สภาพัฒน์ฯให้ความเห็นชอบ กระทรวงคมนาคมจะรวบรวมความเห็น และนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.)​ พิจารณาต่อไป น่าจะส่งไปครม.ได้ในเดือนก.ย.2568

รฟท. ได้แบ่งความสำคัญของการดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 จำนวน 6 เส้นทาง ออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่ม 1 ความสำคัญอันดับต้น จำนวน 3 เส้นทาง คือ เส้นทางสุราษฎร์ธานี-หาดใหญ่-สงขลา ระยะทาง 321 กม. วงเงิน 66,270 ล้านบาท, เส้นทางปากน้ำโพ-เด่นชัย ระยะทาง 218 กม. วงเงินประมาณ 81,143 ล้านบาท, เส้นทางชุมพร-สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 168 กม. วงเงินประมาณ 30,422 ล้านบาท




กลุ่ม 2 ความสำคัญอันดับกลาง จำนวน 2 เส้นทาง คือ เส้นทางชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี ระยะทาง 308 กม. วงเงินประมาณ 44,095 ล้านบาท, เส้นทางเด่นชัย-เชียงใหม่ ระยะทาง 189 กม. วงเงินประมาณ 68,222 ล้านบาท

และ กลุ่ม 3 ความสำคัญอันดับท้าย คือ หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 45 กม. วงเงินประมาณ 7,772 ล้านบาท

การจัดลำดับความสำคัญเป็นไปตามตามคำแนะนำของสภาพัฒน์ฯ โดยพิจารณาจากปัจจัยหลัก 5 ด้าน คือ ความต้องการขนส่งผู้โดยสาร, ความต้องการขนส่งสินค้า, ความจุทาง, เศรษฐศาสตร์และการเงิน, และยุทธศาสตร์และนโยบาย รวมถึงปัจจัยรองอีก 11 ด้าน เช่น ข้อมูลผลการคาดการ์จำนวนผู้โดยสาร, ข้อมูลสถิติผู้โดยสารปัจจุบัน, ข้อมูลผลการคาดการณ์ปริมาณสินค้า, การเชื่อมโยงโครงข่ายภายในประเทศและระหว่างประเทศ, ความพร้อมในการดำเนินโครงการเป็นต้น

สำหรับโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะที่ 2 มีเป้าหมายหลักคือการเปลี่ยนการขนส่งสินค้าจากทางถนนมาสู่ทางราง นอกจากนี้ ยังจะช่วยลดระยะเวลาการเดินทางลงได้ถึง 30% เนื่องจากไม่ต้องรอหลีกขบวนรถ ทำให้ขบวนรถตรงต่อเวลามากขึ้น พร้อมทั้งยังช่วยลดอุบัติเหตุ ลดต้นทุนโลจิสติกส์ของประเทศเป็นโครงการที่จะยกระดับการขนส่งและโลจิสติกส์ของประเทศให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันที่สูงขึ้น และทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการเชื่อมต่อระบบการขนส่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ได้อย่างแท้จริง
https://www.prachachat.net/general/news-1860777
https://mgronline.com/business/detail/9680000074712
https://www.thansettakij.com/economy/megaproject/635284

“สภาพัฒน์” เคลียร์แล้ว “ทางคู่ เฟส 2” 6 เส้นทาง ชงบอร์ดเคาะ ต้น ก.ย.นี้
ข่าวนวัตกรรมขนส่ง
วันพฤหัสบดี ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2568 เวลา 08:12 น.

“สภาพัฒน์” เคลียร์แล้ว “รถไฟทางคู่ เฟส 2” 6 เส้นทาง เกือบ 3 แสนล้าน ชงบอร์ดเคาะต้น ก.ย.นี้ “สุริยะ” ชี้หากไฟเขียว “คมนาคม” พร้อมรวบรวมความคิดเห็น 3 หน่วย เสนอ ครม.อนุมัติ ใน ก.ย.ทันที ใช้เงินกู้ลุยงาน  

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) หรือสภาพัฒน์ ได้ส่งรองเลขาธิการสภาพัฒน์ พร้อมคณะ มาประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกระทรวงคมนาคมเกี่ยวกับโครงการรถไฟทางคู่ระยะ(เฟส)ที่ 2 ที่เหลืออีก 6 เส้นทาง จากทั้งหมด 7 เส้นทาง และได้ข้อสรุปแล้วว่าจะเสนอให้คณะกรรมการ(บอร์ด) สภาพัฒน์พิจารณา ประมาณต้นเดือน ก.ย.2568 จากนั้นกระทรวงคมนาคมจะรวบรวมความคิดเห็นของทั้ง 3 หน่วยงาน ได้แก่ สภาพัฒน์, สำนักงบประมาณ และกระทรวงการคลัง เสนอขออนุมัติโครงการฯ ต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ภายในเดือน ก.ย.นี้ ต่อไป


นายสุริยะ กล่าวต่อว่า โครงการรถไฟทางคู่ เฟสที่ 2 มีทั้งหมด 7 เส้นทาง ระยะทางรวม 1,479 กิโลเมตร(กม.) วงเงินรวม 3.26 แสนล้านบาท
ขณะนี้ช่วงขอนแก่น-หนองคาย ระยะทาง 167 กม. วงเงิน 28,679 ล้านบาท ผ่านความเห็นชอบจาก ครม. และเริ่มงานก่อสร้างแล้วตั้งแต่วันที่ 25 เม.ย.2568 คาดว่าจะแล้วเสร็จ และเปิดบริการได้ในปี 2571

ส่วนที่เหลืออีก 6 เส้นทาง อยู่ระหว่างเตรียมเสนอ ครม. พิจารณา โดย รฟท. ได้จัดลำดับความสำคัญตามคำแนะนำของสภาพัฒน์ แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่
กลุ่มที่ 1 ความสำคัญอันดับต้น 3 เส้นทาง ประกอบด้วย 
เส้นทางสุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา ระยะทาง 321 กม. วงเงิน 66,270 ล้านบาท,
เส้นทางปากน้ำโพ-เด่นชัย ระยะทาง 281 กม. วงเงินประมาณ 81,143 ล้านบาท, 
เส้นทางชุมพร-สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 168 กม. วงเงิน 30,422 ล้านบาท, 
กลุ่มที่ 2 ความสำคัญอันดับกลาง 2 เส้นทาง คือ
เส้นทางชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี ระยะทาง 308 กม. วงเงิน 44,095 ล้านบาท, 
เส้นทางเด่นชัย-เชียงใหม่ ระยะทาง 189 กม. วงเงินประมาณ 68,222 ล้านบาท และ
กลุ่มที่ 3 เส้นทางชุมทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 45 กม. วงเงินประมาณ 7,772 ล้านบาท

ปัจจุบันทั้ง 6 เส้นทาง ระยะทาง 1,312 กม. วงเงินรวมประมาณ 2.97 แสนล้านบาท ผ่านความเห็นชอบจากสำนักงบประมาณ และกระทรวงการคลังแล้ว ยังรอการพิจารณาของสภาพัฒน์ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ขอข้อมูลเพิ่มเติมมายัง รฟท. อาทิ เรื่องความคุ้มค่าในการลงทุนฯ, การจัดลำดับการก่อสร้างแต่ละโครงการ และการรายได้เพิ่มจากการพัฒนาโครงการรถไฟทางคู่ดังกล่าวมายัง รฟท. หากผ่านความเห็นชอบ กระทรวงคมนาคมจะสามารถรวบรวมความคิดเห็นเสนอทั้ง 6 โครงการต่อ ครม. พิจารณาได้ทันที ซึ่งเป็นขั้นตอนปกติก่อนเสนอโครงการต่างๆ เข้า ครม. ต้องสอบถามความคิดเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เรียบร้อยก่อน

“ทีมข่าวนวัตกรรมขนส่งเดลินิวส์” รายงานว่า หาก ครม. เห็นชอบ รฟท. จะดำเนินการในขั้นตอนการประกวดราคาต่อไป โดยขณะนี้ รฟท. ประกาศแผนการจัดซื้อจัดจ้างที่ปรึกษางานจัดเตรียมเอกสารประกวดราคา และจัดการประกวดราคาโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ เฟสที่ 2 จำนวน 5 เส้นทาง วงเงินรวม 70 ล้านบาท ผ่านทางเว็บไซต์ รฟท. แล้ว  ยกเว้นช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ ระยะทาง 189 กม. ยังไม่ได้เตรียมการ เนื่องจากยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม(อีไอเอ) รอให้ผ่านความเห็นชอบก่อน สำหรับโครงการรถไฟทางคู่ เฟสที่ 2 ทั้ง 6 เส้นทาง จะใช้เงินกู้ โดยกระทรวงการคลังจะเป็นผู้จัดหาแหล่งเงินกู้ให้ รฟท. เพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการก่อสร้าง ในลักษณะเดียวกับโครงการรถไฟทางคู่ เฟสที่ 1 ดังนั้นหาก ครม. เห็นชอบโครงการฯ รฟท. จะมีเงินนำไปใช้ดำเนินการก่อสร้างแต่ละเส้นทางได้ แม้ว่าช่วงนี้รัฐบาลจะต้องใช้งบประมาณจำนวนมากในการดำเนินงานเรื่องต่างๆ ก็ตาม..
https://www.dailynews.co.th/news/4993940/

“สภาพัฒน์”เคลียร์แล้ว“รถไฟทางคู่เฟส2” 6 เส้นทาง
*เกือบ3แสนล้านใช้เงินกู้ชงบอร์ดสศช.เคาะต้นก.ย.
*“สุริยะ” อัปเดตถ้าได้ไฟเขียวพร้อมชงครม.อนุมัติ
*รฟท.เตรียมพร้อมจัดเอกสารประมูลทันที5เส้นทาง
* ยกเว้น”เด่นชัย-เชียงใหม่189กม.“รอEIAผ่านก่อน
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/1294499038793994
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 49365
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 22/08/2025 6:38 pm    Post subject: Reply with quote

“สุริยะ” เข็น “รถไฟทางคู่เฟส 2-มอเตอร์เวย์นครปฐม” 3.58 แสนล้าน ชงครม.ปีนี้
ฐานเศรษฐกิจ
22 ส.ค. 2568 | 10:04 น.
อัปเดตล่าสุด :22 ส.ค. 2568 | 10:18 น.

KEY POINTS
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม เร่งผลักดันโครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 (6 เส้นทาง) และมอเตอร์เวย์สายนครปฐม-ปากท่อ รวมวงเงิน 3.58 แสนล้านบาท
ตั้งเป้าเสนอโครงการดังกล่าวให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติภายในปีนี้
หลัง ครม. อนุมัติ จะเริ่มดำเนินการใน 3 เส้นทางรถไฟทางคู่ก่อน ได้แก่ ช่วงปากน้ำโพ-เด่นชัย, ชุมพร-สุราษฎร์ธานี และสุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา
นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้กรมทางหลวงเร่งเปิดประมูลมอเตอร์เวย์อีก 2 โครงการที่ผ่านการอนุมัติแล้ว คือ M5 รังสิต-บางปะอิน และ M9 บางขุนเทียน-บางบัวทอง

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ในปี 2568 กระทรวงคมนาคม ยังคงมีเป้าหมายผลักดันโครงการต่างๆ โดยเฉพาะการพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐาน ให้เข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้เป็นรูปธรรมและเกิดประโยชน์ต่อประชาชน

ทั้งนี้ในปัจจุบันมีหลายโครงการที่กระทรวงคมนาคมเสนอต่อสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี(สลค.) แล้ว อยู่ระหว่างรับฟังความคิดเห็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) หรือสภาพัฒน์

นายสุริยะ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ได้เร่งรัดโครงการต่างๆ ที่ผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) แล้ว ให้เปิดประกวดราคา และเริ่มงานก่อสร้างภายในปีงบประมาณ 2569

สำหรับโครงการสำคัญที่กระทรวงคมนาคมเร่งผลักดันเข้าสู่การพิจารณาของ ครม. อาทิ โครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 เหลืออีก 6 เส้นทาง ในปัจจุบันกระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้หารือร่วมกับผู้แทนจากสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) โดยชี้แจงรายละเอียดการดำเนินโครงการฯ อย่างครบถ้วนแล้ว

นายสุริยะ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาจากการหารือร่วมกับสศช.ซึ่งมีแนวโน้มที่ดี หลังจากนี้สศช.จะนำเสนอต่อคณะกรรมการ(บอร์ด) สศช.ภายในปลายเดือน ส.ค.2568 หากผ่านความเห็นชอบ ทางกระทรวงคมนาคมมีแผนจะเสนอขออนุมัติทั้ง 6 เส้นทางต่อที่ประชุม ครม. ต่อไป

ขณะที่การหารือกับสศช. ได้ข้อสรุปว่า ภายหลังโครงการรถไฟทางคู่ เฟส 2 ทั้ง 6 เส้นทาง ระยะทาง 1,312 กม. วงเงินรวมประมาณ 2.97 แสนล้านบาท ผ่านความเห็นชอบจาก ครม. จะเริ่มดำเนินการก่อนใน 3 เส้นทางแรก ได้แก่

ช่วงปากน้ำโพ-เด่นชัย ระยะทาง 281 กม. วงเงิน 81,143 ล้านบาท, ช่วงชุมพร-สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 168 กม. วงเงิน 30,422 ล้านบาท และช่วงสุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่-สงขลาระยะทาง 321 กม. วงเงิน 66,270 ล้านบาท

อย่างไรก็ดีอีก 3 เส้นทางจะทยอยดำเนินการในลำดับถัดไป ได้แก่ ช่วงชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี ระยะทาง 308 กม. วงเงิน 44,095 ล้านบาท, ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ ระยะทาง 189 กม. วงเงินประมาณ 68,222 ล้านบาท และช่วงชุมทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 45 กม. วงเงินประมาณ 7,772 ล้านบาท

นายสุริยะ กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันยังมีโครงการมอเตอร์เวย์หมายเลข 8 ช่วงนครปฐม-ปากท่อ-ชะอำแทน เฟส 1 ช่วงนครปฐม-ปากท่อ ระยะทาง 61 กม. วงเงิน 61,154 ล้านบาท ที่ต้องเร่งผลักดันเข้า ครม. ขณะนี้อยู่ระหว่างรับฟังความคิดเห็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้ได้กำชับให้กรมทางหลวง (ทล.) เร่งเปิดประกวดราคาโครงการที่ผ่าน ครม. แล้ว อาทิ โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง(มอเตอร์เวย์) ส่วนต่อขยายดอนเมืองโทลล์เวย์ (M5) สายรังสิต-บางปะอิน ระยะทาง 22 กม. วงเงินลงทุน 31,358 ล้านบาท

และโครงการมอเตอร์เวย์ หมายเลข 9 (M9) สายถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ตอน ทางยกระดับบางขุนเทียน - บางบัวทอง รวมระยะทาง 35.85 กม. วงเงิน 56,035 ล้านบาท

https://www.thansettakij.com/economy/megaproject/636702
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 49365
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 22/08/2025 7:59 pm    Post subject: Reply with quote

ผู้ว่าอุดรฯขอแก้แบบ ทางพาดรถไฟทางคู่บ้านจั่น รฟท.ยอมพบกันครึ่งทางยกรางทางคู่ข้าม แต่ยังคงรางเดิมไว้
Source - มติชนออนไลน์
Friday, August 22, 2025 at 19:10

ผู้ว่าอุดรฯขอแก้แบบ ทางพาดรถไฟทางคู่บ้านจั่น รฟท.ยอมพบกันครึ่งทางยกรางทางคู่ข้าม แต่ยังคงรางเดิมไว้

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 22 สิงหาคม ที่ห้องประชุม POC ชั้น 4 อาคาร 2 ศาลากลาง จ.อุดรธานี นายราชันย์ ซุ้นฮั้ว ผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี เป็นประธานการหารือเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการ ในรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการรถไฟทางคู่ ช่วง ขอนแก่น-อุดรธานี บริเวณจุดตัดทางรถไฟทางหลวง 216 (แยกบ้านจั่น) อ.เมือง จ.อุดรธานี มีผู้แทนจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) นำ บ.เทสโก้ จก. , บ.เอ็มเอชพีเอ็น. จก. และ บ.เอเชียน เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแต้นท์ จก. ที่ปรึกษาจ้างงานออกแบบรายละเอียด และจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม มาชี้แจงตลอดจนข้อสอบถาม โดยมีหน่วยงานราชการ , อปท.ในพื้นที่ , ภาคเอกชน และภาคประชาชน เข้าร่วมประชุม

ที่ประชุมรายงานว่า โครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 ขอนแก่น-หนองคาย ได้ออกแบบและทำรายงานประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมมาตั้งแต่ ม.ค.2562 , คณะรัฐมนตรีอนุมัติดำเนินการ 16 ต.ค.2567 , รฟท.เริ่มก่อสร้าง เม.ย.2568 ที่ผ่านมา โดยเมื่อ 2 ปีก่อน คณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.)อุดรธานี ขอให้ รฟท.ปรับปรุงแก้ไขรูปแบบ บริเวณจุดตัดทางรถไฟกับทางหลวงเลข 216 หรือทางพาดรถไฟ บ้านจั่น ซึ่ง รฟท.เห็นด้วยที่จะยกรางรถไฟทางคู่ข้ามทางพาด แต่ยังคงรางรถไฟเดิม เพื่อให้รถไฟไปส่งค้าที่โรงงาน และโกดังใกล้สถานีหนองขอนกว้าง

ที่ปรึกษาได้รับการว่าจ้าง เข้ามาศึกษาออกแบบ โดยจุดเริ่มต้นการยกระดับราง จะอยู่บริเวณสถานีจอดบ้านคำกลิ่ง ต.บ้านจั่น อ.เมือง จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นบริเวณใกล้เคียงกับการเริ่มยกระดับรถไฟความเร็วสูง จนมาถึงบริเวรสถานีหนองขอนกว้างราว 5 กม. ทำให้ช่วงนี้ผู้รับจ้างสร้างโครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 จะชะลอการก่อสร้างบริเวณนี้ได้ เพื่อรอการออกแบบที่มีสัญญาว่าจ้าง 3 ก.ค.2568-29 มี.ค.2569 รวม 270 วัน จึงจะนำไปแก้ไขปรับปรุงสัญญา เพื่อดำเนินการก่อสร้างต่อไป

นายราชันย์ ซุ้นฮั้ว ผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี ได้ขอความคิดเห็นจากที่ประชุม โดยเริ่มจากคำถามของตนเองก่อนว่า " ทำไมการศึกษาออกแบบตอนแรก จึงไม่ยกระดับทางรถไฟข้ามทางพาด และเห็นด้วยกับการแก้ไข แต่ก็อยากเห็นการแก้ไขที่ยั่งยืน คือแก้กันครั้งเดียวไม่ต้องแก้ไขอีก " ได้รับคำตอบจากผู้แทน รฟท.ว่า ในการออกแบบได้มองในมิติ ของการให้บริการของ รฟท. ที่มีการให้บริการขนส่งทางรางเป็นหลัก และบริเวณนั้นมีคลังสินค้า ของเอกชน และได้ใช้บริการของ รฟท.อยู่แล้ว จึงคงให้มีรางรถไฟระดับเดิมไว้ แต่เมื่อภาคประชาชนมาให้ข้อเสนอภายหลัง ก็พิจารณาแล้วเห็นว่าน่าจะแก้ไข

นายชัยฤทธิ์ หรือทนายแม็ค เขาวงศ์ทอง ตัวแทนภาคประชาชนที่เริ่มขับเคลื่อนให้แก้ไข กล่าวขอบคุณ รฟท. ที่ยอมรับฟังความเห็นชาวอุดรธานี ที่เห็นว่ารูปแบบเดิมของรถไฟทางคู่ จะอยู่บนดินในระนาบเดิม เพื่อไปส่งสินค้าที่ห่างไปราว 1 กม. ก่อนจะยกระดับขึ้น ขณะที่รถไฟความเร็วสูงจะยกระดับข้ามไป จะส่งผลกระทบด้วยการจราจร และวิถีชีวิตประชาชน อย่างรุนแรงและตลอดไป เนื่องจากมีข้อจำกัดหลายประการ และได้แก้ไขให้ยกระดับรางรถไฟทางคู่ขึ้น แต่ยังมีเรื่องฝากไปยัง รฟท. ว่าการออกแบบแก้ไขครั้งนี้ จะทำให้เกิดถนนคู่ขนานทางรถไฟ ช่วงผ่าน ทน.อุดรธานี ไปพร้อมกัน

จากนั้นที่ประชุมได้มีข้อเสนอให้พิจารณา 1.ยกรางรถไฟข้ามไปทั้งหมดได้หรือไม่ (ไม่เหลือรางของปูน) , 2.ทำถนนคู่ขนานทางรถไฟ พร้อมกับทำทางระบายน้ำ เพื่อป้องกันน้ำท่วมไปพร้อมกัน เพราะน้ำท่วมใหญ่เมืองอุดรธานี ปี 43,44 ก็เกิดจากทางรถไฟ , 3.ให้สร้างกำแพงป้องกันเสียงไว้เลย เพราะที่ผ่านมาปัญหาเสียง "โอเวอร์พาค 2 แห่ง" ทั้งที่แยกสันตพล ถ.นิตโย และแยกรังสินา ถ.มิตรภาพ กำลังส่งผลกระทบกับประชาชน ที่อาศัยนอยู่บริเวณนั้น หากสร้างแล้วจะได้ไม่ต้องมาแก้ไขอีก และ 4.ขอให้เปิดเผยแบบโครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 อย่างละเอียด

นายราชันย์ ซุ้นฮั้ว ผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี กล่าวตอนท้ายว่า ยังไม่เห็นด้วยที่ยังคงรางรถไฟขนส่งสินค้า ไม่ยกข้ามทางพาดรถไฟบ้านจั่น อยากจะให้ข้ามไปทั้งหมดเลย ประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนผ่านวันละ 3-4 แสนคน จะได้ไม่ต้องมาชะลอหรือหยุดรถ อยากให้ รฟท.กลับไปคิดทางวิศวกรรมด้วยว่า จะสามารถนำรถขนสินค้าที่ไปส่งโกดังใกล้ๆ วิ่งข้ามไปได้หรือไม่ หากการศึกษาออกแบบมาแล้ว ผลต่อแทนอยู่ที่ 50 / 50 ก็อยากจะให้รถขนสินค้ายกข้ามไป และยอกรับได้หากจะยังคงรางที่พื้นราบ คือ 73 / 30 รวมไปถึงเรื่องในอนาคต โรงงานขนาดใหญ่ที่มีโกดังสินค้า ตั้งอยู่ในเขต ทน.อุดรธานี น่าจะต้องพิจารณาขยับขยาย เอาที่ดินไปพัฒนาเป็นห้างฯ หรืออย่างอื่นจะดีกว่า ฝาก รฟท.พิจารณาศึกษาเรื่องนี้มาด้วย

https://www.matichon.co.th/region/news_5335615
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 49365
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 23/08/2025 10:01 am    Post subject: Reply with quote

รฟท.ประชาสัมพันธ์โครงการก่อสร้างรถไฟรางคู่ช่วงขอนแก่น-หนองคาย
Source - สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์
Saturday, August 23, 2025 at 01:31

การรถไฟแห่งประเทศไทย เข้าพบหารือผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประชาสัมพันธ์โครงการก่อสร้างรถไฟรางคู่ช่วงขอนแก่น-หนองคาย หลังรับมติ กรอ.จังหวัดอุดรธานี ยอมยกรางรถไฟรางคู่ “ทางพาดรถไฟบ้านจั่น” อำเภอเมืองอุดรธานี

วันที่ 22 สิงหาคม 2568 ที่ห้องประชุม POC ชั้น 4 อาคาร 2 ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี นายราชันย์ ซุ้นฮั้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เป็นประธานประชุมหารือเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการ ในรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการ“รถไฟทางคู่ ช่วง ขอนแก่น-อุดรธานี” บริเวณจุดตัดทางรถไฟทางหลวง 216 (แยกบ้านจั่น) อ.เมือง จ.อุดรธานี มีผู้แทนจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) นำ บ.เทสโก้ จก. , บ.เอ็มเอชพีเอ็น. จก. และ บ.เอเชียน เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแต้นท์ จก. ที่ปรึกษาจ้างงานออกแบบรายละเอียด และจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม มาชี้แจงตลอดจนข้อสอบถาม โดยมีหน่วยงานราชการ , อปท.ในพื้นที่ , ภาคเอกชน และภาคประชาชน ร่วมประชุม

โครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 ขอนแก่น-หนองคาย ได้ออกแบบและทำรายงานประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ในเดือน มกราคม 2562 , คณะรัฐมนตรีอนุมัติดำเนินการ 16 ตุลาคม 2567 , รฟท.เริ่มก่อสร้าง เมษายน 2568 ที่ผ่านมา คณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.)อุดรธานี ขอให้ รฟท.ปรับปรุงแก้ไขแบบบริเวณจุดตัดทางรถไฟกับทางหลวงเลข 216 หรือทางพาดรถไฟ “บ้านจั่น” ซึ่ง รฟท.เห็นด้วยที่จะยกรางรถไฟทางคู่ข้ามทางพาด เพื่อแก้ไขปัญหาจราจร แต่ยังคงทางรถไฟเดิม เพื่อใช้ขนส่งปูนซีเมนต์

จากนั้นที่ประชุมได้มีข้อเสนอให้พิจารณา 1.ยกรางรถไฟข้ามไปทั้งหมดได้หรือไม่ (ไม่เหลือรางของปูน) , 2.ทำถนนคู่ขนานทางรถไฟ พร้อมกับทำทางระบายน้ำ เพื่อป้องกันน้ำท่วมไปพร้อมกัน เพราะน้ำท่วมใหญ่เมืองอุดรธานี ปี 43,44 ก็เกิดจากทางรถไฟ , 3.ให้สร้างกำแพงป้องกันเสียงไว้เลย เพราะที่ผ่านมาปัญหาเสียง “โอเวอร์พาส 2 แห่ง” ทั้งที่แยกสันตพล ถ.นิตโย และแยกรังสินา ถ.มิตรภาพ กำลังส่งผลกระทบกับประชาชน ที่อาศัยนอยู่บริเวณนั้น หากสร้างแล้วจะได้ไม่ต้องมาแก้ไขอีก และ 4.ขอให้เปิดเผยแบบโครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 อย่างละเอียด

............. ทีมข่าว ส.ปชส.อด.ศรีภูมิ ทองใหญ่ ณ อยุธยา ข่าว/ภาพ,ทิตยาภรณ์ เงินพูล นศ.มกาฬสินธุ์ ภาพนิ่ง

https://thainews.prd.go.th/thainews/news/view/1371094/?bid=1
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 49365
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 23/08/2025 9:32 pm    Post subject: Reply with quote

บอร์ดรฟท.สั่งจ้างที่ปรึกษาศึกษา 2 ทางคู่สายใหม่ ‘สุพรรณฯ-บ้านภาชี / ทับปุด-กระบี่’
เขียนวันที่ วันเสาร์ ที่ 23 สิงหาคม 2568 เวลา 11:00 น.

https://www.isranews.org/article/isranews/140817-transport-183.html
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 421, 422, 423 ... 426, 427, 428  Next
Page 422 of 428

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©