RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:315885
ทั่วไป:20533327
ทั้งหมด:20849212
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวเกี่ยวกับ "ที่ดิน" ของ "รฟท."
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าวเกี่ยวกับ "ที่ดิน" ของ "รฟท."
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 216, 217, 218
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 48976
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 06/09/2025 1:54 pm    Post subject: Reply with quote

'ดีเอสไอ' ไล่บี้ รฟท. ขีดเส้นตาย แจ้งความ 'คดีเขากระโดง'
Source - ฐานเศรษฐกิจ
Saturday, September 06, 2025 at 07:03


ศึกแย่งที่ดินเขากระโดง 'ดีเอสไอ' จ่อฟันเจ้าหน้าที่รัฐกลุ่มบุคคลเอี่ยว หลัง 'รฟท.' เลื่อนแจ้งความไม่มีกำหนด ปมถือครองโฉนด จังหวัดบุรีรัมย์ 5 พันไร่ เตรียมส่งหนังสือรฟท.ชี้หากเมิน ส่อละเลยการปฏิบัติหน้าที่ ลุยดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากความคืบหน้ากรณีเขากระโดง ภายหลังนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย พร้อมด้วยเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.มหาดไทย สั่งเพิกถอนที่ดินบริเวณเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ กว่า 5,083 ไร่ โดยส่งเรื่องไปยังการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ดำเนินการรื้อถอนได้ตามกฎหมาย
ขณะเดียวกันพบว่าในจำนวนที่ดินกว่า 5,083 ไร่ดังกล่าวนั้น จำนวน 12 แปลง 288 ไร่เศษ เป็นของเครือข่ายธุรกิจ "ตระกูลชิดชอบ" ที่ปรากฏชื่อครอบครัวเข้าไปถือหุ้นอยู่ ส่งผลให้ทางพรรคภูมิใจไทยได้ส่งทนายความแถลงคัดค้านคำสั่ง มท.ที่ "สนามช้างฯ" พร้อมชาวบ้านที่มีเอกสารสิทธิหลายราย โดยยืนยันว่าจะไม่ยอมย้ายออกจากที่ดินเป็นอันขาด เนื่องจากได้มาอย่างถูกต้อง
ทั้งนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่มีนายภูมิธรรมในฐานะรองนายกฯ นั่งเป็นประธานคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ได้นำประเด็นที่ดินเขากระโดงมาสืบสวนในคดีฟอกเงินและเล็งจะดำเนินการยกเป็นคดีพิเศษ โดยอ้างอิงพยานหลักฐานจาก การรถไฟแห่งประเทศไทย พบมีผู้ถือครองที่ดินกว่า 995 แปลง รวม 5,083 ไร่ และมีประเด็น 12 หน่วยงานราชการที่มีที่ตั้งในพื้นที่พิพาทด้วย อย่างไรก็ดีเมื่อวันที่ 6 ส.ค.ที่ผ่านมา
โดยคณะพนักงานสืบสวนในเรื่องสืบสวนที่ 97/2568 ได้ประชุม เพื่อพิจารณากรณีข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการครอบครองและการออกเอกสารสิทธิในที่ดินบริเวณเขากระโดง จังหวัดบุรีรัมย์ อันอาจเป็นที่ดินของรัฐและเกี่ยวข้องกับกลุ่มคณะบุคคลหลายฝ่าย การดำเนินการดังกล่าวสืบเนื่องจากมีผู้ร้องขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษตรวจสอบการได้มาซึ่งสิทธิครอบครองที่ดินของกลุ่มบุคคลบางกลุ่มที่อาจไม่ชอบด้วยกฎหมาย
คณะพนักงานสืบสวนได้กำหนดแนวทางการดำเนินงานในเบื้องต้น ได้แก่ การสอบปากคำพยานบุคคลที่เกี่ยวข้อง การรวบรวมและตรวจสอบพยานหลักฐาน การประสานเอกสารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมที่ดิน การรถไฟแห่งประเทศไทย และจังหวัดบุรีรัมย์
ต่อมาเมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ มอบหมายให้ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผอ.กองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดำเนินการสืบสวนเรื่องข้อร้องเรียนดังกล่าว จากการสืบสวนเบื้องต้นพบว่า เมื่อวันที่ 27 พ.ค. 2498 การรถไฟแห่งประเทศไทยได้มีการแจ้ง ส.ค.1 เลขที่ 1180 เนื้อที่ประมาณ 5,083 ไร่
โดยการได้มาของที่ดิน ตามพระราชกฤษฏีกากำหนดเขตร์สร้างทางรถไฟ พ.ศ. 2464 เป็นการที่ทางรถไฟแสดงถึงการนำเอาที่ดินที่ได้มีการหวงห้ามเอาไว้ตาม พรฎ. 2464 มาแจ้ง ส.ค.1 เนื่องจากการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินก่อนวันที่ประมวลกฎมายที่ดินใช้บังคับ(1 ธันวาคม 2497) โดยไม่มีหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดิน จึงได้ไปแจ้งการครอบครองต่อนายอำเภอเมืองบุรีรัมย์เพื่อเป็นพยานหลักฐาน
ล่าสุดเมื่อวันที่ 4 กันยายน จากกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ มอบหมายให้ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผอ.กองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดำเนินการสืบสวนเรื่องข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการครอบครองและการออกเอกสารสิทธิในที่ดินบริเวณเขากระโดงจังหวัดบุรีรัมย์
อันอาจเป็นที่ดินของรัฐและเกี่ยวข้องกับกลุ่มคณะบุคคลหลายฝ่าย เป็นเรื่องสืบสวนที่ 97/2568 พร้อมให้ดำเนินการสอบสวนปากคำพยานบุคคลที่เกี่ยวข้อง รวบรวมและตรวจสอบพยานหลักฐาน ประสานเอกสารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมที่ดิน สำนักงานที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์ การรถไฟแห่งประเทศไทย แขวงการทางรถไฟลำปลายมาศ สำนักงานธนารักษ์พื้นที่บุรีรัมย์ และศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดบุรีรัมย์
พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผอ.กองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมาย รฟท.ได้ประสานกลับมายังตนในวันนี้ เวลา 14.00 การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ขอเลื่อนการเข้าแจ้งความร้องทุกข์ออกไปก่อน อย่างไม่มีกำหนด
อย่างไรก็ดีในกรณีนี้พนักงานสอบสวนดีเอสไอตรวจสอบพบ กลุ่มบุคคลและเจ้าหน้าที่การรถไฟเข้าไปเกี่ยวข้อง และการรถไฟฯเป็นผู้เสียหายจึงประสานรฟท.ไปให้มาแจ้งความดำเนินคดีอาญากับกลุ่มบุคคลและเจ้าหน้าที่การรถไฟแห่งประเทศไทย และเจ้าหน้าที่รัฐอื่นในการเข้ายึดถือครอบครองที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย บริเวณพื้นที่เขากระโดง ต.เสม็ด และ ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ หากรฟท.ไม่มาแจ้งร้องทุกข์ ก็เข้าข่ายละเลยการปฏิบัติหน้าที่
ทั้งนี้ดีเอสไอจะทำหนังสือแจ้งรฟท.อีกครั้งให้มาแจ้งความร้องทุกข์ หากยังไม่มาอีก ก็จะประชุมพนักงานสอบสวน ดำเนินการทางกฎหมายกับผู้บริหารการรถไฟฯ เรียกสอบบุคคลที่เกี่ยวข้องฐานเป็นผู้สนับสนุนเพื่อดำเนินการทางกฎหมายต่อไป



ที่มา: นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 7 - 10 ก.ย. 2568
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 48976
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 08/09/2025 9:38 am    Post subject: Reply with quote

กังขา‘เขากระโดง’ หด 4,414 ไร่ ลุ้น 2 สัปดาห์ ดีเอสไอรับ‘คดีพิเศษ’
Source - กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
Monday, September 08, 2025 at 07:36

จับตาท่าที ทิศทางการทำคดีสำคัญทั้ง “ฮั้ว สว.-เขากระโดง” หลังจากนี้ หากมี “มือมืด” แทรกแซงกระบวนการยุติธรรม “ก๊กส้ม” จะดำเนินการอย่างไร
ท่ามกลางความรื่นเริงของ “ก๊กสีน้ำเงิน” ที่รวมเสียงผลักดัน “อนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ขึ้นเป็นนายกฯคนที่ 32 ได้สำเร็จ ท่ามกลาง 2 แผลใหญ่ที่สังคมยังกังขา นั่นคือกรณี “ฮั้ว สว.” ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการไต่สวนของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) มีการเรียกตัวบุคคลที่เกี่ยวข้อง และผู้ถูกกล่าวหาเข้าไปชี้แจงหลายหลายร้อยราย หนึ่งในนั้นปรากฏชื่อ “บ้านใหญ่อีสานใต้-บิ๊กเนมสีน้ำเงิน” หลายคน
นอกจากนี้ ยังมีประเด็น “ที่ดินเขากระโดง” มหากาพย์ที่ลากยาวมากว่า 50 ปี ตั้งแต่ยุค “ปู่ชัย ชิดชอบ” บิดา “เนวิน ชิดชอบ" ”ดีตนักการเมืองชื่อดัง จนถึงปัจจุบันข้อเท็จจริงจากศาลฎีกา ศาลอุทธรณ์ และศาลปกครองสูงสุด เป็นที่ยุติแล้วว่า ที่ดินกว่า 5,083 ไร่ บริเวณเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ เป็นที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ในจำนวนนี้มีอย่างน้อย 12 แปลง 288 ไร่ อยู่ในเครือข่ายธุรกิจ “ตระกูลชิดชอบ” ซึ่งกินเนื้อที่ไปถึงสนามช้างอารีน่าด้วย
เรื่องนี้ ในส่วนดีเอสไอ ดำเนินการสอบสวนตามข้อร้องเรียนการครอบครองและการออกเอกสารสิทธิในที่ดินบริเวณเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ อันอาจเป็นที่ดินของรัฐ โดยอธิบดีดีเอสไอ มีคำสั่งสืบสวน และดีเอสไอได้ดำเนินการสอบสวนปากคำพยานบุคคลที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบรวบรวมพยานหลักฐานพบกลุ่มบุคคลและเจ้าหน้าที่การ รฟท.เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย
ทว่า พลันที่ “ก๊กน้ำเงิน” กระแสสูง กำลังรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลใหม่ เริ่มมีกระแสสะพัดไปทั่ว มีความพยายามจาก “บางฝ่าย” ต้องการให้ “ชะลอ” เรื่องนี้ออกไปก่อน แม้ว่าขณะนี้อยู่ในขั้นตอนที่ “กรมที่ดิน” กระทรวงมหาดไทย ภายใต้ยุค “บิ๊กอ้วน” ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย และ “นายกฯชาย” เดชอิศม์ ขาวทอง รมช.มหาดไทย สั่งการให้ รฟท.ดำเนินการยึดคืนที่ดินของรัฐกลับคืนมาแล้วก็ตาม
รฟท.แจ้งดีเอสไอ ให้ข้อมูล‘เขากระโดง’


กระทั่งมีกระแสข่าวว่าบิ๊ก รฟท.เบี้ยวนัดเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับดีเอสไอ เมื่อ 4 ก.ย.ที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้ รฟท.ติดต่อว่าจะมอบให้ฝ่ายกฎหมายเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อขอให้ดำเนินการสอบสวนตาม พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง พร้อมมอบเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องในวันที่4 ก.ย. เวลา 14.00 น.
โดย พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผอ.กองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดีเอสไอ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมาย รฟท.ได้ประสานกลับมายังตน ขอเลื่อนการเข้าแจ้งความร้องทุกข์ออกไปก่อนอย่างไม่มีกำหนด กรณีนี้พนักงานสอบสวนดีเอสไอตรวจสอบพบ กลุ่มบุคคลและเจ้าหน้าที่การรถไฟเข้าไปเกี่ยวข้อง และ รฟท.เป็นผู้เสียหายจึงประสาน รฟท. ไปให้มาแจ้งความดำเนินคดีอาญากับกลุ่มบุคคลและเจ้าหน้าที่ รฟท. และเจ้าหน้าที่รัฐอื่นในการเข้ายึดถือครอบครองที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย บริเวณพื้นที่เขากระโดง ต.เสม็ด และ ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์
หาก รฟท.ไม่มาแจ้งร้องทุกข์ ก็เข้าข่ายละเลยการปฏิบัติหน้าที่ ดีเอสไอจะทำหนังสือแจ้ง รฟท.อีกครั้งให้มาแจ้งความร้องทุกข์ หากยังไม่มาอีก ก็จะประชุมพนักงานสอบสวน ดำเนินการทางกฎหมายกับผู้บริหาร รฟท. เรียกสอบบุคคลที่เกี่ยวข้องฐานเป็นผู้สนับสนุนเพื่อดำเนินการทางกฎหมายต่อไป
อย่างไรก็ดี รฟท.ได้ชี้แจงเรื่องดังกล่าวทันควันว่า ไม่ได้เลื่อนนัด แต่ดีเอสไอนัดพบในวันที่ 5 ก.ย.ที่ผ่านมา ดังนั้น รฟท.จะเดินทางไปตามกำหนดนัดหมายที่ระบุไว้ในหนังสือของดีเอสไอต่อไป ยืนยันจะยังคงเดินหน้าดำเนินการตามกฎหมายเพื่อประโยชน์ของประเทศ
ปัดตอบ ‘ตระกูลดัง’ พัวพันในพื้นที่


ต่อมา 5 ก.ย. 2568 เจ้าหน้าที่อาณาบาล (ตัวแทนฝ่ายกฎหมาย) รฟท. เดินทางมาแจ้งความ และให้ข้อมูลแก่ดีเอสไอ หลังพบว่ามีการบุกรุกพื้นที่เขากระโดง จ.บุรีรัมย์ โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ได้เปิดเผยว่า มาเพื่อยืนยันกรรมสิทธิ์ในการถือครองที่ดินของ รฟท. ที่ผ่านมาได้ดำเนินการมาโดยตลอด ในเรื่องเพิกถอนที่ที่รุกล้ำ โดยมีความประสงค์ให้ดีเอสไอดำเนินคดี กับกลุ่มบุคคลที่บุกรุกยึดถือครอบครอง ที่ดินในส่วนของเขากระโดงทั้งหมด 4,414 ไร่ รวมทั้งดำเนินคดีที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
โดยในประเด็นหากมีกลุ่มบุคคลร่วมกับเจ้าหน้าที่รัฐกระทำการครอบครองยึดถือที่ดินนั้น เจ้าหน้าที่อาณาบาล กล่าวว่า คงเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน ส่วนให้ข้อมูลอย่างไรและเจอกี่คนนั้น อันนี้ให้เป็นเรื่องของสำนวน ทางการรถไฟฯ แค่มายืนยันกรรมสิทธิ์ในส่วนของการรถไฟและการได้มา ส่วนกรรมสิทธิ์ดังกล่าวเป็นเรื่องของช่วงปีใดนั้น ก็ตั้งแต่ในหลวงท่านพระราชทานให้เป็นที่ดินของการรถไฟ
ผู้สื่อข่าวถามว่า รฟท. ทราบว่ามีกลุ่มคนบุกรุกที่ดินเขากระโดงของทางการรถไฟตั้งแต่เมื่อไรนั้น เจ้าหน้าที่อาณาบาล กล่าวว่า หากเป็นเรื่องรายละเอียดขอให้ไปสอบถามกับดีเอสไอแทน ส่วนเหตุใดจึงเพิ่งเข้ามาร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีในตอนนี้ ต้องเรียนว่าเราดำเนินการมาโดยตลอด ตั้งแต่เริ่มแรก เพียงแต่ไม่ได้เป็นข่าว สิ่งที่เราดำเนินการคือขับไล่
เมื่อถามว่า กรณีว่ามีเจ้าหน้าที่ของการรถไฟไปเกี่ยวข้องอย่างไร หรือไปเซ็นรับรองว่าพื้นที่ดังกล่าวไม่ใช่พื้นที่ของการรถไฟฯ จนสามารถออกเอกสารสิทธิโฉนดที่ดินได้นั้น เจ้าหน้าที่อาณาบาล กล่าวว่า ขอให้เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนแทน ซึ่งทราบว่าในสำนวนมีรายชื่อของเจ้าหน้าที่ที่เซ็นรับรองไว้อยู่แล้ว และต้องขออนุญาตให้รายละเอียดอยู่ในสำนวนของพนักงานสอบสวน
เมื่อซักว่าพื้นที่ดังกล่าวมี “ตระกูลดัง” รวมอยู่ด้วย แต่ทางนั้นก็ยืนยันว่าได้เอกสารโฉนดมาโดยชอบ และผ่านเวลามาเนิ่นนานแล้ว รวมทั้ง เมื่อถามถึงเรื่องกรรมสิทธิ์การครอบครองที่ดิน มีการออกโฉนดทับที่การรถไฟ ได้มีการตรวจสอบอย่างไรบ้าง รวมถึงคำถามถึงพื้นที่เขากระโดง ที่มีการตั้งอยู่ของ 12 หน่วยงานราชการ สรุปว่าเป็นที่ดินราชพัสดุ หรือไม่ อย่างไร ปรากฏว่า เมื่อผู้สื่อข่าวถามคำถามเหล่านี้ เจ้าหน้าที่อาณาบาล ได้ขอยุติการให้สัมภาษณ์ และกล่าวขอบคุณสื่อมวลชนทันที
ที่ดินหด 669 ไร่ เหลือแค่ 4,414 ไร่


น่าสังเกตว่า จำนวน “ที่ดิน” หดลงจาก 5,083 ไร่ เหลือเพียง 4,414 ไร่เท่านั้น โดยหายไปกว่า 669 ไร่ ซึ่งไม่มีข้อมูลยืนยันว่า ส่วนเนื้อที่ที่หายไปนั้น อยู่ในมือใครครอบครองบ้าง
ทั้งที่ข้อเท็จจริงเรื่องนี้ ตั้งแต่ 2 ส.ค.ที่ผ่านมา รฟท.และกรมที่ดิน ได้ไปรังวัดที่ดิน บริเวณเขากระโดง ต.อิสาณ และ ต.เสม็ด อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ ร่วมกันแล้ว โดยทั้งสองหน่วยมาลงนามรับรองแผนที่ และทำการเพิกถอนตามคำสั่งศาลได้เลยตาม มาตรา 61(8) ที่ให้อำนาจอธิบดีกรมที่ดิน มีอำนาจเพิกถอนได้ทันที
โดยคณะพนักงานสืบสวนได้นำภาพถ่ายทางอากาศ ปี 2496 ซึ่งเป็นภาพถ่ายทางอากาศปีแรกที่ใช้ บริเวณเขากระโดงมาตรวจสอบเบื้องต้น ไม่พบร่องรอยการทำประโยชน์ ส่วนใหญ่มีสภาพเป็นพื้นที่ป่าสอดคล้องกับ พ.ร.ฎ.รถไฟฯ ที่ได้สำรวจและจ่ายค่าทดแทนให้ราษฎร ที่ครอบครองที่ดิน 18 รายเท่านั้น ส่วนที่เหลือในพื้นที่มีสภาพเป็นพื้นที่ป่า
เมื่อไม่ปรากฏร่องรอยการทำประโยชน์ จึงไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ที่สามารถออกเอกสารสิทธิที่ดินได้ จึงต้องเพิกถอนเอกสารสิทธิที่ดินดังกล่าวตาม มาตรา 61 เพราะการสำรวจตามแผนที่ท้าย พ.ร.ฎ.รถไฟฯ พบว่า มีคนอยู่ 18 ราย และรัฐได้ซื้อที่ดินไปแล้ว นอกนั้นเป็นป่าและที่รกร้างว่างเปล่า ไม่มีผู้ใดครอบครอง จึงเป็นหลักฐานเชิงประจักษ์แล้ว เพียงแต่พิสูจน์เขตที่ดินรถไฟเท่านั้น ก็เพิกถอนได้ทั้งหมดแล้ว
โดยการรังวัดพื้นที่ตามคำสั่งศาลปกครอง ซึ่งเดิมระบุว่ามีพื้นที่ 5,083 ไร่ แต่จากการรังวัดล่าสุดเมื่อเดือน ก.ค. 2567 ในยุค “มท.น้ำเงิน” กลับพบว่าพื้นที่จริงเหลือเพียง 4,414 ไร่ โดยทางดีเอสไอกำลังตรวจสอบในประเด็นเหล่านี้ด้วย
คาด 2 สัปดาห์ชง ‘ดีเอสไอ’ ทำคดีพิเศษ


อย่างไรก็ดี พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผอ.กองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยืนยันว่าแม้ “การเมืองเปลี่ยนขั้ว” จะยังคงดำเนินคดีตามข้อเท็จจริง และข้อกฎหมายต่อไป โดยระบุว่า ต้องเดินหน้าทำตามกรอบหน้าที่ อยู่ที่ขั้นตอนและพยานหลักฐานที่เรามี ต้องดำเนินการไปตามปกติ คาดว่ากรอบระยะเวลา ที่จะมีการประมวลเรื่องเสนอผู้บังคับบัญชารับเป็นคดีพิเศษนั้น หาก รฟท.มีการให้ข้อมูลครบถ้วน และไม่มีการให้ดีเอสไอดำเนินการอะไรเพิ่มเติม ราวสองสัปดาห์หลังจากนี้ จะสามารถขออธิบดีดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษได้
“ถึงแม้ว่าจะมีผู้มีอิทธิพลครอบครองที่ดินในพื้นที่นี้ด้วย ก็ยืนยันว่าไม่กดดันในการทำคดี เพราะเราผิดชอบคดีใหญ่อยู่แล้ว และเป็นคดีที่มีความสลับซับซ้อน เป็นคดีที่มีผู้มีอิทธิพล หรือเป็นอาชญากรรมข้ามชาติ กองทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมก็ทำคดีเหล่านี้มาโดยตลอด จึงไม่มีความกดดันแต่อย่างใด เราทำไปตามกรอบอำนาจหน้าที่และกฎหมายที่กำหนดไว้ ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีผู้มีอำนาจมากดดันอะไร” พ.ต.ต.ณฐพล กล่าว
ทั้งหมดคือข้อมูล “เขากระโดง” ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อทางการเมือง “เปลี่ยนขั้ว” จาก “ก๊กแดง” เป็น “ก๊กน้ำเงิน”
จับตาท่าที ทิศทางการทำคดีสำคัญทั้ง “ฮั้ว สว.-เขากระโดง” หลังจากนี้ หากมี “มือมืด” แทรกแซงกระบวนการยุติธรรม “ก๊กส้ม” ซึ่งโหวตหนุน “ก๊กน้ำเงิน” เถลิงอำนาจ จะดำเนินการ “กำกับ” อะไรได้ อย่างที่พูดหรือไม่ ต้องติดตาม

https://www.bangkokbiznews.com/politics/1197756
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 48976
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 11/09/2025 8:18 pm    Post subject: Reply with quote

ว่าที่รัฐมนตรีคมนาคมลั่นจะสาง 'คดีเขากระโดง' เป็นเรื่องแรกๆ
Source - เว็บไซต์ไทยโพสต์
Thursday, September 11, 2025 at 14:11

'พิพัฒน์' จ่อจับมือมหาดไทยสางคดีเขากระโดง หลังรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ ย้ำยิ่งกังขายิ่งต้องทำให้คนไทยได้รับความกระจ่าง ลั่นไม่มีมวยล้มต้มคนดู
11 ก.ย.2568 - นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ ว่าที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่าตอนนี้น่าจะมีความชัดเจนแล้ว ที่จะนั่งในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม แต่เรื่องของนโยบายต่างๆ ที่จะดำเนินการขอให้เป็นเรื่องของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นผู้แถลง
ส่วนเรื่องของข้อกังขาต่างๆ ทั้งในส่วนของกระทรวงคมนาคมและกระทรวงมหาดไทย โดยเฉพาะเรื่องที่ดินเขากระโดง นายพิพัฒน์ ระบุว่า น่าจะเป็นเรื่องที่ต้องเร่งดำเนินการเป็นเรื่องแรกๆ ให้ความกระจ่างกับคนไทยทั้งประเทศ ว่าสรุปแล้วสองกระทรวงนี้จะดำเนินการอย่างไร โดยเฉพาะในส่วนของการรถไฟแห่งประเทศไทย และกรมที่ดิน จะต้องมีแนวนโยบายดำเนินการออกมาที่ชัดเจน ซึ่งจะเริ่มจากการหารือ เพื่อดูว่าเรื่องนี้จะต้องมีการพูดคุยกันไปจนถึงชั้นศาลหรือไม่ แต่ตนคิดว่าสิ่งที่ดีที่สุดต้องให้ทางการรถไฟฯ ดำเนินการในขอบเขตที่หน่วยงานคิดว่าจะดำเนินการได้
ส่วนได้มีการตั้งกรอบระยะเวลาไว้หรือไม่ที่จะให้การรถไฟ ฯ เข้าไปดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง หลังจากได้เข้าไปทำหน้าที่ในกระทรวงคมนาคมแล้ว นายพิพัฒน์ กล่าวว่า แน่นอนว่าหลังจากได้รับการโปรดเกล้าถวายสัตย์ฯ เรียบร้อยแล้ว ก็เป็นสิ่งแรกที่ตนเองต้องดำเนินการ โดยจะมีการหารือกับนายอนุทิน ในฐานะนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยย้ำว่าต้องทำให้คนไทยสบายใจในเรื่องที่ดินเขากระโดง ว่าบทสรุปแล้วจะเป็นอย่างไร
ส่วนอาจจะมีข้อกังขาว่า คนของพรรคภูมิใจไทยเข้ามานั่งดูแลในสองกระทรวงนี้ที่กำลังมีกรณีพิพาท นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ยิ่งพรรคภูมิใจไทยมาดูแลสองกระทรวงนี้ ยิ่งเป็นสิ่งที่เราต้องทำให้สังคมหายคาใจให้ได้ แม้ว่าสองกระทรวงนี้พรรคภูมิใจไทยจะได้รับหน้าที่ทั้งสองกระทรวง แต่ก็ไม่เกี่ยวกัน เพราะเป็นเรื่องที่ดินของชาติ ต้องทำให้กระจ่างในที่ดินที่ประชาชนได้โฉนดมากว่า 900 ราย หากการรถไฟฯ มองว่าสามารถฟ้องเป็นรายแปลงได้ ก็จะรีบดำเนินการทันที เป็นสิ่งที่ตั้งธงไว้อย่างแรกที่ต้องทำ
ส่วนระยะเวลา 4 เดือนของรัฐบาลเพียงพอหรือไม่ ที่จะทำให้เรื่องนี้กระจ่าง นายพิพัฒน์ ยอมรับว่า 4 เดือนนี้ ตนไม่แน่ใจ ที่จะนำเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายจะเสร็จเรียบร้อยหรือไม่ แต่ตนจะให้ทางการรถไฟฯ เริ่มดำเนินการทันทีหลังรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ พร้อมย้ำในตอนท้ายว่าอะไรที่ทำให้กระจ่าง เป็นเรื่องของกฎหมายที่จะต้องทำและดำเนินการ แต่ยืนยันได้เลยว่า ไม่ใช่มวยล้มต้มคนดู และคนไทยต้องได้รับความกระจ่าง

https://www.thaipost.net/politics-news/859903/
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 216, 217, 218
Page 218 of 218

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©