ข่าวรถไฟเวียตนาม

Wisarut · Posted: 30/10/2025 9:06 pm Post subject:

เวียดนามอนุมัติการปรับปรุงแผนโครงข่ายรถไฟแห่งชาติถึงปี 2050
รองนายกรัฐมนตรีเจิ่น ฮอง ฮา ได้ลงนามในมติอนุมัติการปรับปรุงแผนโครงข่ายรถไฟสำหรับปี 2021-2030 พร้อมวิสัยทัศน์ถึงปี 2050
หน้าธุรกิจ
ญัน ดั่น
วันพฤหัสบดีที่ 30 ตุลาคม 2568 เวลา 10:25 น.

เวียดนามอนุมัติการปรับปรุงแผนโครงข่ายรถไฟแห่งชาติถึงปี 2050
ภายใต้แผนปรับปรุงใหม่นี้ จะมีการปรับปรุงขอบเขตของเส้นทางรถไฟสองสายที่มีอยู่เดิม คือ ฮานอย-โฮจิมินห์ และฮานอย-ลาวกาย โดยส่วนเส้นทางรถไฟฮานอย-ไฮฟอง จากสถานีไฮฟองไปยังท่าเรือจัวเว จะถูกปรับเปลี่ยนเมื่อสถานีหว๊าต จาช สร้างเสร็จสมบูรณ์และเปิดให้บริการ

สำหรับเส้นทางรถไฟสายใหม่ แผนนี้ได้ปรับปรุงชื่อ ขนาด และแผนงานการลงทุนของเส้นทางรถไฟความเร็วสูงเหนือ-ใต้ พร้อมทั้งเพิ่มเส้นทางรถไฟความเร็วสูงฮานอย-กวางนิงห์

จะมีการปรับเปลี่ยนเส้นทางรถไฟสายลาวไก-ฮานอย-ไฮฟอง และโฮจิมินห์-หลกนิญ และเส้นทางรถไฟสายอื่นอีกสามเส้นทาง ได้แก่ ฮานอย-ด่งดัง, ไฮฟอง-ฮาลอง-มงกาย และทับจาม-ดาลัต

แผนนี้ยังได้ปรับปรุงขอบเขตและขนาดของเส้นทางรถไฟอีกเจ็ดเส้นทาง ได้แก่ เยนเวียน-ผาลาย-ฮาลอง-ก๋ายหลาน เส้นทางรถไฟสายวงแหวนตะวันออกของฮานอย, นามดิ่ญ-ไทบิ่ญ-ไฮฟอง, หวุงอัง-มู่ซา, เบียนฮวา-หวุงเต่า, โฮจิมินห์-เกิ่นเทอ-กาเมา และดานัง-กอนตุม-เจียลาย-ดัก-ลัก-ดัก-นอง-บิ่ญเฟื้อก

เส้นทางรถไฟสายทูเถียม-ลองแถ่งจะถูกถอดออกจากแผนและเปลี่ยนเป็นเส้นทางรถไฟในเมือง นครโฮจิมินห์และจังหวัดด่งนายมีหน้าที่นำการเปลี่ยนแปลงนี้ไปรวมไว้ในแผนระดับจังหวัดและแผนที่เกี่ยวข้อง

จะมีการเพิ่มเส้นทางรถไฟสายใหม่ อันบิ่ญ-ไซ่ง่อน (ฮว่าหุ่ง)-เตินเกียน

แผนปรับปรุงใหม่นี้จะช่วยเสริมสร้างความเชื่อมโยงระหว่างประเทศ โดยเพิ่มเส้นทางเชื่อมต่อกับระบบรถไฟจีนที่ด่านชายแดนมงก๋าย ผ่านเส้นทางรถไฟไฮฟอง-ฮาลอง-มงก๋าย และเชื่อมต่อกับกัมพูชาที่ด่านชายแดนม็อกไบ ผ่านเส้นทางรถไฟโฮจิมินห์-เตยนิญ

นอกจากนี้ แผนดังกล่าวยังปรับทิศทางการเชื่อมต่อทางรถไฟไปยังศูนย์กลางการขนส่งสำคัญๆ ได้แก่ ท่าเรืองีเซินและเฮียบเฟื้อก สนามบินนานาชาติเตินเซินเญิ๊ตและลองแถ่ง สนามบินนานาชาติแห่งที่สองของฮานอย สนามบินนานาชาติยาบิ่ญ และท่าเรือภายในประเทศของวันลัม (หุ่งเอียน) และยาบิ่ญ (บั๊กนิญ)
https://en.nhandan.vn/viet-nam-approves-adjustments-to-national-railway-network-plan-to-2050-post154772.html?

Wisarut · Posted: 31/10/2025 10:05 am Post subject:

นายกรัฐมนตรีเร่งรัดโครงการรถไฟสำคัญ
สำนักข่าวเวียดนาม -ญัน ดั่น
วันพฤหัสบดีที่ 23 ตุลาคม 2568 เวลา 12:03 น.
นายกรัฐมนตรีฝ่าม มิญ จิ่ง ประธานคณะกรรมการอำนวยการโครงการรถไฟแห่งชาติสำคัญ เป็นประธานการประชุมครั้งที่ 4 ของ
ในพิธีเปิดการประชุม ซึ่งมี 18 จังหวัดและเมืองที่มีโครงการรถไฟเข้าร่วมทางออนไลน์ นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่าการพัฒนาทางรถไฟเป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญที่ระบุไว้ในมติของสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ครั้งที่ 13 โดยกล่าวถึงข้อสรุปที่ 49-KL/TW ซึ่งออกโดยโปลิตบูโร ซึ่งกำหนดทิศทางการขนส่งทางรถไฟของเวียดนามจนถึงปี 2573 พร้อมวิสัยทัศน์สำหรับปี 2588

รัฐบาลได้เสนอให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติอนุมัติมติเกี่ยวกับโครงการรถไฟความเร็วสูงเหนือ-ใต้ รวมถึงกลไกนำร่องเฉพาะสำหรับระบบรถไฟในเมืองฮานอยและโฮจิมินห์ซิตี้ นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้ดำเนินการตามมติที่เกี่ยวข้องของพรรค โปลิตบูโร และสภานิติบัญญัติแห่งชาติด้วย

ผู้นำรัฐบาลขอให้ผู้เข้าร่วมประชุมทบทวนความคืบหน้าของภารกิจที่กำลังดำเนินการอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภารกิจที่กำหนดไว้ในการประชุมครั้งที่ 3 ท่านได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการแก้ไขอุปสรรค โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุปสรรคด้านกฎระเบียบ เพื่อให้มั่นใจว่าโครงการรถไฟรางมาตรฐานลาวไก-ฮานอย-ไฮฟอง จะเริ่มต้นได้ตามกำหนดในวันที่ 19 ธันวาคม

ขณะเดียวกัน คณะกรรมการอำนวยการได้รับมอบหมายให้ทบทวนการอนุมัติพื้นที่ก่อสร้างสำหรับรถไฟความเร็วสูงสายเหนือ-ใต้ และเสนอมาตรการดำเนินงานสำหรับโครงการรถไฟในช่วงที่เหลือของปี 2568 และปีต่อๆ ไป

กระทรวงก่อสร้างระบุว่า นับตั้งแต่การประชุมครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม นายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรีได้จัดการประชุมหลายครั้งและออกเอกสารแนวทางเกี่ยวกับโครงการโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟที่สำคัญเกือบ 20 ฉบับ โดยมอบหมายงานทั้งหมด 39 ภารกิจให้กับกระทรวง ท้องถิ่น และหน่วยงานต่างๆ โดยมุ่งเน้นที่การแก้ไขปัญหาคอขวดและเร่งรัดขั้นตอนการลงทุน

จนถึงปัจจุบัน มีงานเสร็จสิ้นแล้ว 16 ภารกิจ หลายกระทรวงและหน่วยงานต่าง ๆ แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพอันแข็งแกร่งในการปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบหมาย ขณะที่ท้องถิ่นตามแนวทางรถไฟได้ดำเนินโครงการย้ายถิ่นฐานตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ยังมีงานอีก 10 งานที่อยู่ระหว่างการดำเนินการอย่างแข็งขัน ขณะที่อีก 8 งานต้องล่าช้าออกไปเนื่องจากความร่วมมือจากต่างประเทศหรือข้อจำกัดด้านเวลา นอกจากนี้ยังมีงานอีก 5 งานที่ยังไม่ถึงกำหนดส่ง
https://en.nhandan.vn/pm-urges-acceleration-of-key-railway-projects-post154391.html?

อุตสาหกรรมรถไฟและระบบนิเวศต้องได้รับการพัฒนาอย่างทันสมัยและยั่งยืน: นายกรัฐมนตรี
สำนักข่าวเวียดนาม - ญัน ดั่น
วันพฤหัสบดีที่ 23 ตุลาคม 2568 เวลา 16:43 น.
นายกรัฐมนตรีฝ่าม มิญ จิ่ง ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการพัฒนาอุตสาหกรรมรถไฟและระบบนิเวศอย่างยั่งยืน โดยมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาอุตสาหกรรมและความทันสมัย
ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการโครงการรถไฟแห่งชาติที่สำคัญ ครั้งที่ 4 เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการส่งเสริมการถ่ายทอดเทคโนโลยีและการค่อยๆ พัฒนาเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมรถไฟ ซึ่งจะช่วยพัฒนาภาคส่วนนี้และระบบนิเวศทั้งหมด ซึ่งรวมถึงระบบรถไฟธรรมดาและระบบรถไฟฟ้าใต้ดิน

ด้วยความซับซ้อนและความเร่งด่วนของโครงการเหล่านี้ นายกรัฐมนตรีจึงเน้นย้ำว่าการดำเนินการต้องรับประกันคุณภาพ ความถูกต้องทางเทคนิค ความก้าวหน้า ประสิทธิภาพ และความเป็นไปได้ กระทรวง ภาคส่วน และท้องถิ่นควรระดมทรัพยากรอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบุคลากรที่มีทักษะและมีความรับผิดชอบสูง เพื่อนำและกำกับดูแลโครงการเหล่านี้และการดำเนินงานตามภารกิจ

กระทรวงก่อสร้างระบุว่า นับตั้งแต่การประชุมครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม นายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรีได้จัดการประชุมหลายครั้งและออกเอกสารแนวทางเกี่ยวกับโครงการโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟที่สำคัญเกือบ 20 ฉบับ มีการมอบหมายงานทั้งหมด 39 ภารกิจให้กับกระทรวง ท้องถิ่น และหน่วยงานต่างๆ โดยมุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาคอขวดและเร่งรัดกระบวนการลงทุน

จนถึงปัจจุบัน มีงานที่ได้รับมอบหมายแล้ว 16 ภารกิจ หลายกระทรวงและหน่วยงานต่างๆ แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานที่ได้รับมอบหมาย ขณะที่ท้องถิ่นตามแนวทางรถไฟได้ดำเนินโครงการย้ายถิ่นฐานตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคม

นอกจากนี้ ยังมีงานอีก 10 ภารกิจที่กำลังดำเนินการอยู่ ขณะที่อีก 8 ภารกิจยังคงล่าช้าเนื่องจากความร่วมมือจากต่างประเทศหรือข้อจำกัดด้านเวลา และอีก 5 ภารกิจยังไม่ถึงกำหนด

กำลังเร่งดำเนินการเพื่อให้มั่นใจว่าโครงการรถไฟรางมาตรฐานลาวไก-ฮานอย-ไฮฟองจะเริ่มต้นตามกำหนดในวันที่ 19 ธันวาคม กระทรวงและภาคส่วนต่างๆ กำลังทำงานร่วมกับฝ่ายจีนอย่างใกล้ชิดเพื่อวางแผนเส้นทางฮานอย-ลางเซิน และไฮฟอง-มงไก
ที่กรุงฮานอย ขั้นตอนการลงทุนในรถไฟในเมืองสองสายกำลังดำเนินการอยู่ ขณะที่โครงการอื่นๆ มีความคืบหน้า ในนครโฮจิมินห์ กำลังเตรียมการสำหรับรถไฟในเมืองเจ็ดสาย โดยมีแผนจะปรับปรุงโครงการรถไฟสายเบ๊นถั่ญ-ถั่มเลือง โดยมีเป้าหมายที่จะเริ่มต้นก่อสร้างภายในสิ้นปี พ.ศ. 2568

นายกรัฐมนตรีจิญได้ชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นเร่งด่วนที่กระทรวงและภาคส่วนต่างๆ จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จและออกมาตรฐานสำหรับรถไฟความเร็วสูง รถไฟมาตรฐาน และรถไฟในเมือง เขายังเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการกำหนดเกณฑ์การคัดเลือกนักลงทุนและรูปแบบการลงทุนสำหรับโครงการรถไฟเพื่อดึงดูดทรัพยากร

นอกจากนี้ ผู้นำรัฐบาลยังเรียกร้องให้มีการอนุมัติพื้นที่ก่อสร้างอย่างรวดเร็วและการสร้างพื้นที่ตั้งถิ่นฐานใหม่สำหรับโครงการรถไฟ พร้อมกับการจัดสรรทรัพยากรสำหรับโครงการต่างๆ อย่างรวดเร็ว

นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำหลักการสำคัญในการดำเนินโครงการ ได้แก่ ภารกิจที่ชัดเจน ความรับผิดชอบที่ชัดเจน และกำหนดเวลาที่ชัดเจน พร้อมผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมและความรับผิดชอบ ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อรัฐ ประชาชน และภาคธุรกิจ ปราศจากการทุจริต ฟุ่มเฟือย หรือการบริหารจัดการทรัพยากรของรัฐที่ผิดพลาด

สำหรับโครงการลาวไก-ฮานอย-ไฮฟอง กระทรวงก่อสร้างมีหน้าที่ประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ในฮานอย ไฮฟอง และบั๊กนิญ เพื่อหาข้อสรุปเกี่ยวกับสถานที่ตั้งสถานีและเส้นทางโครงการภายในเดือนตุลาคม 2568 โดยมีเป้าหมายที่จะเริ่มต้นโครงการในระยะแรกโดยใช้เงินทุนภายในประเทศภายในวันที่ 19 ธันวาคม

สำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูงเหนือ-ใต้ กระทรวงก่อสร้างร่วมกับกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จะต้องจัดทำมาตรฐานรถไฟความเร็วสูง 37 มาตรฐานของเวียดนาม (TCVN) ให้แล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนตุลาคม 2568

นายกรัฐมนตรียังได้ขอให้กรุงฮานอยและนครโฮจิมินห์ให้ความสำคัญกับการเร่งรัดขั้นตอนที่จำเป็นสำหรับโครงการที่กำลังดำเนินอยู่
https://en.nhandan.vn/railway-industry-ecosystem-must-be-developed-in-modern-sustainable-way-pm-post154411.html?

นายกรัฐมนตรีสั่งวางศิลาฤกษ์โครงการรถไฟลาวกาย-ฮานอย-ไฮฟอง ในเดือนธันวาคม
วันพฤหัสบดีที่ 23 ตุลาคม 2568 เวลา 15:08 น.

เช้าวันพฤหัสบดี นายกรัฐมนตรีฝัม มิญ จิญ กล่าวระหว่างการประชุมคณะกรรมการอำนวยการโครงการรถไฟแห่งชาติครั้งที่ 4 ว่า การพัฒนาทางรถไฟเป็นประเด็นสำคัญที่ระบุไว้ในมติของการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคครั้งที่ 13

ฮานอย — นายกรัฐมนตรีฝัม มิญ จิญ ได้สั่งการให้กระทรวงและหน่วยงานท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการเตรียมการสำหรับโครงการรถไฟลาวกาย-ฮานอย-ไฮฟอง โดยมีกำหนดพิธีวางศิลาฤกษ์ในวันที่ 19 ธันวาคม

คำสั่งดังกล่าวออกในระหว่างการประชุมคณะกรรมการอำนวยการโครงการรถไฟแห่งชาติครั้งที่ 4 ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีฝัม มิญ จิญ เป็นประธานคณะกรรมการ การประชุมซึ่งจัดขึ้นในเช้าวันพฤหัสบดี ณ ทำเนียบรัฐบาลในกรุงฮานอย ได้เชื่อมต่อออนไลน์กับ 18 จังหวัดและเมืองตามเส้นทางรถไฟที่วางแผนไว้

นายกรัฐมนตรีจิ๋นกล่าวว่า คณะกรรมการต้องทบทวนและประเมินความคืบหน้าของภารกิจที่ได้รับมอบหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งภารกิจที่กำหนดไว้ในการประชุมครั้งที่สาม เขาเรียกร้องให้มีการประเมินความสำเร็จ ปัญหา และอุปสรรคเชิงสถาบันอย่างละเอียด เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว และนำเสนอต่อรัฐสภาเพื่อพิจารณาและแก้ไขตามความจำเป็น

คณะกรรมการยังมีหน้าที่ตรวจสอบการเวนคืนที่ดินสำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูงเหนือ-ใต้ และนำเสนอแนวทางแก้ไขที่เป็นรูปธรรม เพื่อให้มั่นใจว่าโครงการรถไฟจะดำเนินไปอย่างทันท่วงทีในช่วงที่เหลือของปี พ.ศ. 2568 และหลังจากนั้น ผู้นำรัฐบาลกล่าวเสริมว่า การพัฒนาทางรถไฟเป็นประเด็นสำคัญที่ระบุไว้ในมติของการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคครั้งที่ 13

บทสรุปของโปลิตบูโร ฉบับที่ 49-KL/TW กำหนดทิศทางเชิงกลยุทธ์สำหรับการพัฒนาระบบขนส่งทางรถไฟของเวียดนามจนถึงปี 2573 โดยมีวิสัยทัศน์มุ่งสู่ปี 2588 รัฐบาลได้เสนอญัตติหลายฉบับที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนด้านทางรถไฟต่อรัฐสภา รวมถึงโครงการรถไฟความเร็วสูงเหนือ-ใต้ และกลไกนำร่องสำหรับระบบรถไฟในเมืองในฮานอยและนครโฮจิมินห์ นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้ประกาศใช้ญัตติหลายฉบับเพื่อนำญัตติของพรรคกลาง โปลิตบูโร และรัฐสภาไปปฏิบัติจริง

สำหรับโครงการรถไฟในเมืองในฮานอยและนครโฮจิมินห์ นายกรัฐมนตรีจิ่งได้สั่งการให้คณะกรรมการประชาชนฮานอยเร่งจัดทำเอกสารโครงการให้แล้วเสร็จโดยด่วน และส่งให้กระทรวงการคลังรวบรวม และรายงานต่อนายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติการระดมทุน ODA และเงินกู้แบบมีเงื่อนไขสำหรับรถไฟฟ้าใต้ดินสาย 3 (สถานีฮานอย – ฮองมาย) คณะกรรมการยังได้รับการร้องขอให้ประสานงานกับกระทรวงกลาโหมแห่งชาติเพื่อบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับแผนฟื้นฟูที่ดินสำหรับสถานีรถไฟฟ้าสาย 5 (วันกาว – ฮหว่าหลัก) ในเร็วๆ นี้

นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้คณะกรรมการประชาชนนครโฮจิมินห์ มุ่งเน้นการดำเนินการปรับปรุงโครงการรถไฟฟ้าสาย 2 (เบ๊นถั่น – ถัมลือง) ของนครโฮจิมินห์ให้แล้วเสร็จ โดยตั้งเป้าเริ่มก่อสร้างภายในสิ้นปี พ.ศ. 2568 นายกรัฐมนตรียังเน้นย้ำว่าโครงการรถไฟฟ้าเชื่อมต่อสนามบินนานาชาติลองถั่นในจังหวัดด่งนาย ซึ่งจะมีกำหนดเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ภายในสิ้นปี พ.ศ. 2568 และต้นปี พ.ศ. 2569 กับสนามบินนานาชาติเตินเซินเญิ้ตในนครโฮจิมินห์ ควรให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก

รายงานจากกระทรวง

รายงานจากกระทรวงก่อสร้างเปิดเผยว่า โครงการรถไฟลาวไก-ฮานอย-ไฮฟอง แบ่งออกเป็นสองโครงการย่อย โครงการแรกครอบคลุมโครงสร้างพื้นฐานที่เชื่อมต่อสถานีรถไฟและจัตุรัสสถานี ได้เสร็จสิ้นการศึกษาความเหมาะสมและได้รับการอนุมัติแล้ว เครื่องหมายแสดงการเคลียร์พื้นที่ได้ถูกส่งมอบให้กับท้องถิ่น ณ สถานีเริ่มต้น 5 แห่ง เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับพิธีวางศิลาฤกษ์

โครงการย่อยที่สอง ซึ่งเกี่ยวข้องกับการก่อสร้างทางรถไฟ ได้เสร็จสิ้นการคัดเลือกผู้รับเหมาที่ปรึกษาภายในประเทศสำหรับแพ็คเกจสี่แพ็คเกจแล้ว อีกแพ็คเกจหนึ่ง คือ การประเมินการศึกษาความเหมาะสม ซึ่งจะเริ่มต้นขึ้นเมื่อฝ่ายจีนดำเนินงานเสร็จสิ้นและส่งมอบเอกสารที่เกี่ยวข้องให้กับเวียดนาม

หน่วยงานท้องถิ่นและกลุ่มบริษัทไฟฟ้าเวียดนาม (EVN) กำลังดำเนินการเคลียร์พื้นที่และย้ายโครงสร้างพื้นฐานไฟฟ้าขนาด 110 กิโลโวลต์ขึ้นไปอย่างแข็งขัน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจและวางแผนการจ่ายค่าตอบแทน

สำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูงสายเหนือ-ใต้ จังหวัดทั้ง 15 จังหวัดตามแนวเส้นทางได้จัดตั้งคณะกรรมการกำกับดูแลการกวาดล้างที่ดินและทบทวนความต้องการในการย้ายถิ่นฐานแล้ว หน่วยบริหารโครงการรถไฟกำลังคัดเลือกที่ปรึกษาเพื่อสนับสนุนการเตรียมโครงการ ขณะที่กระทรวงก่อสร้างกำลังสรุปเกณฑ์การคัดเลือกนักลงทุนและร่างมติต่อรัฐสภาเกี่ยวกับกลไกและนโยบายพิเศษที่เกี่ยวข้องกับโครงการ

ขณะเดียวกัน กระทรวงการคลังได้ออกคำแนะนำแก่หน่วยงานท้องถิ่นเกี่ยวกับการแบ่งส่วนค่าตอบแทน การสนับสนุน และการย้ายถิ่นฐานออกเป็นโครงการย่อย และขั้นตอนการจัดหาเงินทุนล่วงหน้าสำหรับการกวาดล้างที่ดิน กลุ่ม EVN ได้รายงานต่อนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับแผนการย้ายสายส่งไฟฟ้าขนาด 110 กิโลโวลต์ขึ้นไป

จังหวัดตามแนวเส้นทางรถไฟได้เริ่มพัฒนาพื้นที่สำหรับการย้ายถิ่นฐานแล้ว โดยมีพิธีวางศิลาฤกษ์สำหรับเขตการย้ายถิ่นฐานเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรี — VNS
https://vietnamnews.vn/society/1727916/pm-orders-ground-breaking-for-lao-cai-ha-noi-hai-phong-railway-in-december.html

Wisarut · Posted: 07/11/2025 12:01 pm Post subject:

ฝรั่งเศสพร้อมแบ่งปันประสบการณ์การสร้างทางรถไฟความเร็วสูงกับเวียดนาม
เหงียน เล
ธุรกิจ - การลงทุน
วันพฤหัสบดีที่ 6 พฤศจิกายน 2568 - 21:05 น.

ด้วยประสบการณ์ในการดำเนินการก่อสร้างทางรถไฟความเร็วสูงระยะทางประมาณ 2,800 กิโลเมตร พร้อมด้วยรูปแบบทางการเงินที่หลากหลาย ฝรั่งเศสพร้อมที่จะแบ่งปันประสบการณ์กับเวียดนาม

เวียดนามมุ่งส่งเสริมการลงทุนจากฝรั่งเศส

ในการประชุมหารือเศรษฐกิจเวียดนาม-ฝรั่งเศสประจำปี เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เจิ่น ก๊วก เฟือง ได้แจ้งถึงผลการดำเนินงานทางเศรษฐกิจและสังคมที่โดดเด่นของเวียดนามในช่วงที่ผ่านมา ท่ามกลางสถานการณ์การพัฒนาที่ซับซ้อนของโลกที่มีความผันผวนอย่างไม่อาจคาดการณ์ได้

ด้วยเหตุนี้ เศรษฐกิจของเวียดนามจึงสามารถรักษาความสามารถในการต้านทานต่อปัจจัยภายนอก และรักษาอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจให้อยู่ในระดับสูงสุดของโลก

คาดว่าในปี 2568 GDP ของเวียดนามจะเติบโตมากกว่า 8% ขนาดเศรษฐกิจจะเพิ่มขึ้นจาก 346 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2563 เป็น 510 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2568 สูงขึ้น 5 อันดับ อยู่ที่อันดับ 32 ของโลก GDP ต่อหัวในปี 2568 คาดว่าจะสูงถึงประมาณ 5,000 ดอลลาร์สหรัฐ สูงกว่าปี 2563 ถึง 1.4 เท่า เข้าสู่กลุ่มผู้มีรายได้ปานกลางระดับสูง โครงสร้างเศรษฐกิจและคุณภาพการเติบโตจะเปลี่ยนแปลงไปในทางบวก...

รองรัฐมนตรีเจิ่น ก๊วก เฟือง กล่าวว่า เวียดนามกำลังอยู่ในช่วงสำคัญ เตรียมออกแนวทางเชิงกลยุทธ์สำหรับช่วงปี 2569-2573 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การลงทุนภาครัฐคาดว่าจะเป็นแรงขับเคลื่อนหลักสำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งจะช่วยให้บรรลุเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจสองหลักอย่างต่อเนื่องในอีก 5 ปีข้างหน้า

โครงการโครงสร้างพื้นฐานเชิงกลยุทธ์ด้านพลังงาน การขนส่ง เทคโนโลยีดิจิทัล และการพัฒนาเมืองจะมีความสำคัญเป็นลำดับแรก ซึ่งจะเปิดโอกาสความร่วมมือมากมายสำหรับพันธมิตรระหว่างประเทศ รวมถึงฝรั่งเศส

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังฝรั่งเศส ยืนยันว่าฝรั่งเศสเป็นหุ้นส่วนสำคัญตามประเพณีในยุทธศาสตร์การบูรณาการระหว่างประเทศของเวียดนาม โดยกล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุผลสำเร็จเชิงบวกหลายประการในความร่วมมือทางเศรษฐกิจ และกำลังมุ่งสู่ความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ใหม่ๆ ที่มียุทธศาสตร์มากขึ้น

ในด้านการค้าและการลงทุน ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะดำเนินความตกลงการค้าเสรีเวียดนาม-สหภาพยุโรป (EVFTA) อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป และเวียดนามเสนอให้ฝรั่งเศสให้สัตยาบันความตกลงคุ้มครองการลงทุนเวียดนาม-สหภาพยุโรป (EVIPA) ในเร็วๆ นี้ เพื่อปรับปรุงกรอบกฎหมายให้สมบูรณ์ และสร้างสภาพแวดล้อมการลงทุนที่โปร่งใสและมั่นคงยิ่งขึ้น

เวียดนามมุ่งหวังที่จะส่งเสริมการลงทุนจากฝรั่งเศสในสาขาที่มีความแข็งแกร่ง เช่น การพัฒนาที่ยั่งยืน พลังงานหมุนเวียน เทคโนโลยีขั้นสูง การขนส่ง และการเกษตรสมัยใหม่

การเสริมสร้างความร่วมมือด้านรถไฟในเมืองและรถไฟความเร็วสูง

ในด้านความร่วมมือด้านการขนส่ง คุณมากาลี เชซานา ผู้อำนวยการกรมกิจการทวิภาคี ฝ่ายส่งเสริมวิสาหกิจฝรั่งเศสระหว่างประเทศและการดึงดูดต่างชาติ กรมการคลังฝรั่งเศส กล่าวว่า โครงการรถไฟในเมืองฮานอยหมายเลข 3 เป็นหนึ่งในโครงการความร่วมมือที่สำคัญระหว่างสองประเทศ

โครงการรถไฟฟ้าใต้ดินส่วนยกระดับเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2567 งานก่อสร้างใต้ดินกำลังเร่งดำเนินการ แต่ความคืบหน้ายังคงล่าช้า คุณมากาลี เชซานา กล่าวว่า เธอได้ประชุมกับผู้นำกรุงฮานอยเพื่อหารือเกี่ยวกับปัญหานี้

“กลุ่ม UJV และคณะกรรมการบริหารรถไฟเมืองฮานอย (MRB) ได้ยื่นข้อเสนอใหม่เพื่อดำเนินการก่อสร้างส่วนใต้ดิน เช่น ระบบไฟฟ้าและสัญญาณโทรคมนาคม โดยมีเป้าหมายที่จะแล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้” คุณมากาลี เชซานา แจ้ง ทั้งสองฝ่ายจำเป็นต้องเจรจากันต่อไปเพื่อตกลงเรื่องต้นทุนและมูลค่าสัญญา

ตัวแทนจากกรุงฮานอยกล่าวว่า กลุ่ม UJV เสนอราคาสูงกว่ากฎระเบียบของเวียดนาม จึงจำเป็นต้องมีการประเมินราคาใหม่ “ฮานอยจะขอให้ MRB รายงานปัญหาดังกล่าวโดยเฉพาะ เพื่อให้หน่วยงาน นักลงทุน และผู้รับเหมาสามารถแก้ไขปัญหาได้ในเร็วๆ นี้” ตัวแทนจากกรุงฮานอยกล่าว

สำหรับโครงการปรับปรุงทางรถไฟสายฮานอย-ไฮฟอง ผู้แทนสาธารณรัฐฝรั่งเศสกล่าวว่า ได้อนุมัติเงินช่วยเหลือแบบไม่คืนเงินจำนวน 500,000 ยูโร เพื่อศึกษาความเป็นไปได้เบื้องต้นของโครงการ อย่างไรก็ตาม เงินจำนวนนี้ไม่เพียงพอต่อการดำเนินการ ฝ่ายฝรั่งเศสจึงเสนอให้สำนักงานพัฒนาแห่งฝรั่งเศส (AFD) จัดสรรเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมอีก 400,000 ยูโร จากกองทุนช่วยเหลือแบบไม่คืนเงินของสหภาพยุโรป

ผู้แทนกระทรวงการก่อสร้างคาดว่าภายในเดือนพฤศจิกายน ฝ่ายฝรั่งเศสและคณะกรรมการบริหารทางรถไฟจะตกลงกันเกี่ยวกับเนื้อหาการประสานงานเพื่อให้กระทรวงอนุมัติ และสามารถเริ่มดำเนินการโครงการได้ตั้งแต่เดือนธันวาคม

สำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูงเหนือ-ใต้ ฝ่ายฝรั่งเศสยืนยันว่าพร้อมที่จะแบ่งปันประสบการณ์กับเวียดนาม เนื่องจากได้ดำเนินการก่อสร้างทางรถไฟความเร็วสูงไปแล้วประมาณ 2,800 กิโลเมตร โดยมีรูปแบบทางการเงินที่หลากหลาย

สำหรับโครงการนี้ กระทรวงก่อสร้างได้ขอให้ฝรั่งเศสให้การสนับสนุนทางเทคนิคและการฝึกอบรมด้านทรัพยากรบุคคล ซึ่งรวมถึงโครงการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ในประเทศ 120 คน และคัดเลือกบุคลากร 30 คน เพื่อเข้ารับการฝึกอบรมอย่างเข้มข้น ณ ศูนย์ฝึกอบรมการรถไฟในโมร็อกโก

สำหรับความร่วมมือเพื่อการพัฒนานั้น ความต้องการในการระดมทุนเพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและการพัฒนาอย่างยั่งยืนในเวียดนามในอนาคตนั้นมีสูงมาก รัฐบาลเวียดนามกำลังปรับปรุงกรอบกฎหมายเกี่ยวกับการระดมทุนและการจัดการเงินทุน ODA และเงินกู้ต่างประเทศที่ได้รับสิทธิพิเศษ โดยมุ่งเน้นความโปร่งใส ประสิทธิภาพ และการปฏิบัติตามแนวปฏิบัติระหว่างประเทศ

ในกระบวนการนี้ เวียดนามหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากพันธมิตรที่มีเทคโนโลยีขั้นสูงและประสบการณ์ด้านการจัดการการพัฒนา ซึ่งรวมถึงฝรั่งเศสด้วย
https://www.vietnam.vn/en/phap-san-sang-chia-se-kinh-nghiem-lam-duong-sat-toc-do-cao-voi-viet-nam
https://vietnamnet.vn/phap-san-sang-chia-se-kinh-nghiem-lam-duong-sat-toc-do-cao-voi-viet-nam-2460112.html?

Wisarut · Posted: 07/11/2025 12:05 pm Post subject:

ทางรถไฟเป็นอัมพาต ถนนถูกตัดขาดจากพายุลูกที่ 13
ข่าว - การจราจร
วันศุกร์ที่ 7 พฤศจิกายน 2568 - 11:48 น.
Vu Diep

เนื่องจากผลกระทบของพายุลูกที่ 13 (คัลแมกี) ฝนตกหนักและลมแรงได้สร้างความเสียหายอย่างรุนแรงให้กับทางรถไฟและทางหลวงแผ่นดินหลายสายในภาคกลาง ผู้โดยสารกว่า 1,500 คนต้องเดินทางโดยทางถนน ขณะที่หลายเส้นทางยังคงถูกน้ำท่วมหนัก ถูกกัดเซาะ และถูกตัดขาด

ทางรถไฟต้องขนส่ง

พายุคัลแมกีทำให้เกิดฝนตกหนักและลมแรง ทำให้ระบบขนส่งในเขตที่ราบสูงตอนกลาง - ภาคกลางเป็นอัมพาต ทางรถไฟสายเหนือ - ใต้ประสบเหตุดินถล่มลึกเกือบ 9 เมตร ผู้โดยสารกว่า 1,500 คนต้องเดินทาง ทางหลวงแผ่นดินหลายสายถูกน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร สะพานถูกน้ำพัดพัง และต้นไม้ล้มขวางถนน

เนื่องจากผลกระทบของพายุลูกที่ 13 (กัลแมกี) ทำให้เกิดฝนตกหนักและลมแรงในพื้นที่ตั้งแต่จังหวัดกวางงายไปจนถึงจังหวัดตุยฮวา ทำให้ทางรถไฟและถนนหลายสายในภาคกลางได้รับความเสียหายอย่างหนัก ผู้โดยสารรถไฟเกือบ 1,500 คนต้องถูกย้ายไปยังถนน

บริษัทรถไฟเวียดนามรายงานว่า เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน อุตสาหกรรมรถไฟได้จัดการย้ายผู้โดยสารประมาณ 1,500 คนบนรถไฟที่ผ่านพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ จากสถานีตุยฮวา (ฟูเอียน) ไปยังสถานีดิ่วจรี (บิ่ญดิ่ญ) โดยระหว่างรอผู้โดยสารจะได้รับอาหารว่างและเครื่องดื่มฟรี

เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสาร อุตสาหกรรมรถไฟยังอนุญาตให้คืนเงินค่าตั๋วได้ฟรีสำหรับรถไฟเลขคู่ที่ผ่านสถานีตุยฮวา และรถไฟเลขคี่ที่ผ่านสถานีดิ่วจรี ในวันที่ 7 และ 8 พฤศจิกายน 2568 ขอแนะนำให้ผู้โดยสารเช็คอินก่อนเวลาออกเดินทางที่ระบุไว้ในตั๋ว

รายงานเบื้องต้นระบุว่าพายุคัลแมกีสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงต่อเส้นทางรถไฟสายเหนือ-ใต้ โดยเฉพาะที่กิโลเมตรที่ 1136+850 ในส่วนเส้นทางฟุกลานห์-วันแญห์ ซึ่งพื้นถนนถูกกัดเซาะจนมีความลึกเฉลี่ย 9 เมตร พื้นที่อื่นๆ หลายแห่งถูกหินพัดหายไป ต้นไม้ล้ม เสาสัญญาณหัก ไฟฟ้าดับ และเกิดการขัดข้องทางการสื่อสาร ส่งผลให้ระบบข้อมูลและสัญญาณหยุดชะงัก

ขณะนี้หน่วยงานรถไฟกำลังเร่งซ่อมแซมดินถล่ม แต่เนื่องจากสภาพภูมิประเทศที่แตกกระจายและกระแสน้ำที่แรง จึงยังไม่สามารถระบุได้ว่าเส้นทางรถไฟจะเปิดให้บริการอีกครั้งเมื่อใด

ถนนหลายสายยังคงถูกปิดกั้นเนื่องจากน้ำท่วมหนักและดินถล่ม

รายงานจากสำนักงานบริหารถนนเวียดนามเมื่อเช้าวันที่ 7 พฤศจิกายน พายุหมายเลข 13 (คัลแมกี) ทำให้เกิดฝนตกหนักและลมแรงในจังหวัดต่างๆ ตั้งแต่กวางงายไปจนถึงดั๊กลัก ทำให้ทางหลวงแผ่นดิน ทางด่วน และถนนจืออองเซินดงหลายสายได้รับความเสียหาย เกิดน้ำท่วมหนัก และการจราจรติดขัด

ในพื้นที่ราบสูงตอนกลาง ต้นไม้ เสาไฟฟ้า ป้าย หลังคาเหล็กลูกฟูก และวัตถุลอยน้ำจำนวนมากกีดขวางถนน โดยเฉพาะบนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 ผ่านซ่งเกา ตุยอาน ด่งฮวา (ฟูเอียน) และถนนจืออองเซินดง (ยาลาย ดั๊กลัก) บางช่วงมีน้ำท่วมสูง 0.7-1.8 เมตร จนปิดกั้นทั้งหมด

สะพานที่ร้ายแรงที่สุดคือสะพานดั๊กปอโต (กม. 378+130) ถนนเจื่องเซินดง (จังหวัดยาลาย) ซึ่งน้ำท่วมได้พัดพาหัวสะพานยาว 25 เมตร ลึก 8 เมตร ออกไป เจ้าหน้าที่ได้ปิดกั้นการจราจร เปลี่ยนเส้นทาง และระดมอุปกรณ์เพื่อแก้ไขปัญหา และคาดว่าจะเปิดให้สัญจรได้อีกครั้งในวันที่ 7 พฤศจิกายน

บนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 ผ่านกวางงาย หลายจุดมีทางลาดพัง เสาไฟฟ้าหัก ราวสะพาน และหลุมบ่อบนพื้นผิวถนน บริเวณกม. 1121+850 ระดับน้ำยังคงมีความลึก 15-30 เซนติเมตร ทำให้รถสัญจรได้ยาก

เส้นทางอื่นๆ เช่น QL.40B (ดานัง) และ QL.15D และ QL.49C (กวางตรี) ยังคงท่วมขังและมีดินถล่ม คาดว่าจะได้รับการซ่อมแซมภายในวันนี้

กรมทางหลวงเวียดนามได้ระดมยานพาหนะกว่า 50 คัน ตะกร้าเหล็ก คานเหล็ก และวัสดุเหลือใช้หลายหมื่นชิ้น เพื่อเคลียร์เส้นทางอย่างเร่งด่วน พร้อมเตือนประชาชนให้จำกัดการเดินทางในพื้นที่ที่มีน้ำท่วมสูงและดินถล่ม

ขณะนี้ ฝนยังคงตกต่อเนื่องในพื้นที่ภาคเหนือตอนกลางและภาคกลางตอนกลาง งานซ่อมแซมกำลังดำเนินการอย่างเร่งด่วน แต่ถนนหลายช่วงยังไม่ปลอดภัยสำหรับการจราจร
https://vietnamnet.vn/duong-sat-te-liet-vi-bao-so-13-hang-ngan-hanh-khach-mac-ket-cho-tren-tau-2460200.html

Wisarut · Posted: 10/11/2025 8:39 am Post subject:

VinSpeed เสนอสร้างทางรถไฟความเร็วสูงฮานอย-ฮาลองเบย์ ตั้งเป้าเปิดใช้งานปี 71
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันอาทิตย์ ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 เวลา 15:58 น.
ปรับปรุง: วันอาทิตย์ ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 เวลา 15:58 น.

MGR ออนไลน์ - วินสปีด (VinSpeed) บริษัทเอกชนของเวียดนาม ได้เสนอสร้างทางรถไฟความเร็วสูงสายฮานอย-ฮาลองเบย์ ด้วยงบประมาณ 5,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และตั้งเป้าที่จะเริ่มให้บริการภายในปี 2571

หากโครงการได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลในไตรมาสนี้ การก่อสร้างจะเริ่มต้นทันที และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในไตรมาสสุดท้ายของปี 2570 โดยจะมีการทดสอบและเปิดตัวเชิงพาณิชย์ภายในไตรมาสแรกของปี 2571 เอกสารที่วินสปีดยื่นต่อรัฐบาลระบุ

เส้นทางรถไฟความยาว 120 กิโลเมตรนี้จะเริ่มต้นจากศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุมแห่งชาติในกรุงฮานอย ตัดผ่านจังหวัดบั๊กนีง และเมืองไฮฟอง และสิ้นสุดที่เขตตวนเจิว เมืองฮาลอง จ.กว๋างนีง

โครงการวางแผนให้เส้นทางนี้ใช้ความเร็วได้สูงสุด 350 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในช่วงเริ่มต้นของการดำเนินงาน โดยบริษัทวินสปีดคาดว่าจะให้บริการรถไฟทุก 60 นาที และปรับเป็นทุก 30 นาทีตั้งแต่ปี 2573

โครงการทางรถไฟความเร็วสูงสายฮานอย-ฮาลองเบย์ ถูกเพิ่มเข้าไปในแผนงานโครงข่ายรถไฟทั่วประเทศของรัฐบาลเวียดนามสำหรับช่วงเวลาจนถึงปี 2573 แต่รัฐบาลยังไม่ได้เลือกผู้พัฒนา

อีกหนึ่งโครงการสำคัญที่บริษัทวางแผนไว้คือเส้นทางรถไฟความเร็วสูงระหว่างกรุงฮานอยและนครโฮจิมินห์ ระยะทาง 1,541 กิโลเมตร โดยโครงการดังกล่าวบริษัทได้ยื่นขอก่อสร้างทางรถไฟด้วยงบประมาณ 61,350 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 13% ของจีดีพีของเวียดนาม

บริษัทวินสปีดก่อตั้งขึ้นโดยฝ่าม เญิต เวือง มหาเศรษฐีชาวเวียดนามเมื่อเดือนพ.ค. ที่ผ่านมา โดยดำเนินธุรกิจการก่อสร้างทางรถไฟและผลิตยานพาหนะที่วิ่งบนรางรถไฟ.
https://mgronline.com/indochina/detail/9680000106992