Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:318354
ทั่วไป:26890628
ทั้งหมด:27208982
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวกรมการขนส่งทางราง (เริ่ม 21 พ.ค. 62)
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าวกรมการขนส่งทางราง (เริ่ม 21 พ.ค. 62)
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 80, 81, 82
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 49322
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 06/09/2025 1:49 pm    Post subject: Reply with quote

กรมราง เปิดสูตร”ค่าขนส่งสินค้า-ใช้ประโยชน์ราง“ศึกษาอัตราขั้นสูง สะท้อนต้นทุน เป็นธรรม
Source - ผู้จัดการออนไลน์
Saturday, September 06, 2025 at 12:33

กรมราง รับฟังความคิดเห็น”ศึกษากำหนดอัตราขั้นสูงและหลักเกณฑ์การทบทวนอัตราค่าบริการขนส่งทางราง”เปิดสูตร ค่าขนส่ง -ใช้ประโยชน์ราง สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง เป็นธรรม และจูงใจเอกชนเปลี่ยนโหมดใช้รางมากขึ้น
เมื่อวันที่ 5 ก.ย. 68 นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนารับฟังความคิดเห็นภายใต้ “โครงการศึกษาการกำหนดอัตราขั้นสูงและหลักเกณฑ์การทบทวนอัตราค่าขนส่ง ค่าใช้ประโยชน์จากราง และค่าบริการในการประกอบกิจการขนส่งทางราง” โดย มีผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้ประกอบการ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียด้านการขนส่งสินค้าทางราง เข้าร่วม
นายพิเชฐกล่าวว่า โครงการฯ มีวัตถุประสงค์หลักในการศึกษาโครงสร้างต้นทุนและปัจจัยที่เกี่ยวข้องต่อการกำหนดอัตราขั้นสูงของค่าขนส่ง ค่าใช้ประโยชน์จากราง และค่าบริการในการประกอบกิจการขนส่งทางราง ทั้งในปัจจุบันและอนาคต พร้อมทั้งจัดทำหลักเกณฑ์ วิธีการ ข้อเสนอมาตรการกำกับอัตราค่าขนส่ง ตลอดจนการจัดทำข้อกำหนด กฎระเบียบ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีความสำคัญ
ต่อการการพัฒนาระบบขนส่งสินค้าทางรางของประเทศ
การดำเนินโครงการกำหนดอัตราค่าบริการขนส่งฯ จึงมีความสำคัญต่อการวางระบบการกำหนดอัตราค่าบริการขนส่งทางรางของไทย ให้มีความเหมาะสม ทันสมัย และตอบสนองความต้องการของภาคธุรกิจและประชาชน โดยจะสามารถช่วยสะท้อนต้นทุนที่แท้จริงของการเดินรถไฟขนส่งสินค้า การกำหนดอัตราขนส่งทางรางขั้นสูงบนพื้นฐานของต้นทุนและผลตอบแทนที่เหมาะสม เปิดโอกาสให้เกิดการแข่งขันที่เป็นธรรมในภาคเอกชน และสร้างความเชื่อมั่นด้านโครงสร้างราคาค่าขนส่งที่โปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ รวมถึงเอื้อต่อการวางแผนลงทุนและดำเนินธุรกิจอย่างมั่นใจ ซึ่งจะนำไปสู่การเพิ่มปริมาณการใช้บริการราง ลดต้นทุนโลจิสติกส์ ส่งเสริมการขนส่งที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

โดยหลังจากเปิดรับฟังความเห็นแล้วเสร็จจะรวบรวมสรุปข้อมูลก่อนนำมากำหนดในร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การขนส่งทางราง พ.ศ. ….ซึ่งขณะนี้ ผ่านการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรในวาระที่ 2 และ 3 แล้ว เข้าสู่ขั้นตอนอยู่ การพิจารณาจากวุฒิสภา (สว.) คาดใช้ระยะเวลาดำเนินการประมาณ 30-60 วัน ก่อนมีมติเห็นชอบ จากนั้นจะดำเนินการจัดทำกฎหมายลำดับรอง จำนวน 70 ฉบับ และออกกฎกระทรวง ใช้ระยะเวลาอีก 1 เดือน และเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาภายในเดือนต.ค.นี้ คาดว่าร่างกฎหมายดังกล่าวจะประกาศพร้อมมีผลบังคับใช้ภายในปี 2568

ปัจจุบันการขนส่งสินค้าทางรางมีสัดส่วนเพียง 2.21% ขณะที่รฟท.ยังขาดทุนในการให้บริการขนส่งสินค้าถึง 5.08 บาทต่อ ตัน-กม. ในการศึกษา นำตัวอย่าง ค่าระวางสำหรับตู้ 20 ฟุต เส้นทาง ท่าเรือแหลมฉบัง-หนองคาย ระยะทาง 718 กม. (ไป-กลับตู้หนัก ) ปัจจุบันรฟท. คิดค่าระวางขนส่งที่ 12,391 บาท ขณะที่ต้นทุนจริงอยู่ที่ 16,172 บาท
ขณะที่ ในปี 2566 พบว่า มีปริมาณการขนส่งสินค้า 2,904.50 ล้านตัน- กม. โดยมีต้นทุนการคิดค่าใช้ประโยชน์ราง (Access Charge) รวม 510.23 ล้านบาท คิดเป็นค่าเฉลี่ยต้นทุนอยู่ที่ 0.1757 ล้านตัน-กม. ประกอบด้วย 1.ค่าบำรุงรักษารางรถไฟและระบบสัญญาณ 257.20 ล้านบาท 2.งานควบคุมการเดินรถฝ่ายโยธาและอื่นๆ 14.64 ล้านบาท 3. งานควบคุมและบริหารจุดตัด 1 .24 ล้านบาท 4. ค่าใช้จ่ายสถานี 129.99 ล้านบาท 5. ค่าซ่อมบำรุงอื่นๆ (สถานีและโรงซ่อม) 60.10 ล้านบาท 6.ค่าใช้จ่ายอื่นๆในการเดินรถ 47.06 ล้านบาท
มีต้นทุนค่าใช้หัวรถจักรและแคร่ (Locomotive Charge) รวมที่ 1,043.10 ล้านบาท คิดเป็นค่าเฉลี่ยต้นทุนที่ 0.3591 ล้านตัน-กม. ประกอบด้วย 1. ค่าจ้างประจำปีของพนักงานขับรถไฟและเจ้าหน้าที่ประจำขบวน (เงินเดือน เบี้ยเลี้ยง ค่าใช้จ่ายควบคุม และบริหารงานของฝ่ายเดินรถ ฯลฯ) 633.36 ล้านบาท 2.ค่าใช้จ่ายประจำปี (ค่าทำความสะอาด ค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ดสถานี ค่าเปลี่ยนหัวรถจักร ค่าอุบัติเหตุ) 45.07 ล้านบาท 3. ค่าบำรุงใช้จ่ายรักษาหัวรถจักรรายปี 363.88 ล้านบาท 4. ค่าดำเนินการสำหรับเชื้อเพลิงและน้ำมันหล่อลื่น 7.6 แสนบาท

สำหรับสูตรอัตราค่าขนส่งสินค้าทางราง ประกอบด้วย ต้นทุนการคิดค่าใช้ประโยชน์ราง (Access Charge) บวก ต้นทุนค่าใช้หัวรถจักรและแคร่ (Locomotive Charge) บวก อัตราค่าธรรมเนียมการใช้น้ำมัน (Fuel Charge ) อัตราค่าน้ำมัน 1 เดือนก่อนหน้า
จากการศึกษา อัตราขั้นสูงของการขนส่งสินค้าทางราง มี 6 ประเภท ดังนี้ 1.การขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ ปริมาณ 62 ตัน ด้วยตู้ขนาด 20 ฟุต ระยะทาง 1-100 กม. เที่ยวเปล่าอยู่ที่ 348 บาทและเที่ยวรถบรรทุกอัตรา 521 บาท ตู้ขนาดมากกว่า 20 ฟุต ระยะทาง 1-100 กม. เที่ยวเปล่าอยู่ที่ 487 บาทและเที่ยวรถบรรทุก อัตรา 730 บาท
2.การขนส่งปูนซีเมนต์ ระยะทาง 1- 100 กม. อัตรา 78 บาทต่อตัน
3.การขนส่งน้ำมันดิบและน้ำมันใส ระยะทาง 1- 100 กม. อัตรา 65 บาทต่อกิโลลิตร
4.การขนส่งแก๊ซ LPG ระยะทาง 1- 100 กม. อัตรา 41 บาทต่อกิโลลิตร
5.การขนส่งสินค้าอื่นๆ ระยะทาง 1- 100 กม. อัตรา 78 บาทต่อตัน
6.การขนส่งวัตถุอันตราย Class 9 ระยะทาง 1- 100 กม. รถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ไม่เกิน 62 ตัน อัตรา 1,738 บาทต่อตู้ และรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ปริมาณสินค้ามากกว่า 62 ตัน อัตรา 2,260 บาทต่อตู้
และมีอัตราค่าบริการยกขนตู้คอนเทนเนอร์ 753 บาทต่อตู้

นอกจากนี้ มีการสนับสนุน ในมาตรการการทดลองใช้รางครั้งแรก โดยมอบเงินคืน (Rebate) ให้แก่เอกชนในอัตรา 20% ของค่าระวาง สำหรับการขนส่งสูงสุด 60 ตู้คอนเทนเนอร์ (ทีอียู) หรือ 324,300 ตันต่อ-กม. ภายในเวลา 1 ปี เพื่อเพิ่มแรงจูงใจทางการเงิน ลดต้นทุนการเปลี่ยนผ่าน โดยเฉพาะผู้ประกอบการ SMEs ที่ปัจจุบันขนส่งสินค้าเฉพาะทางถนนและยังไม่เคยใช้บริการขนส่งสินค้าทางรางมาก่อน

https://mgronline.com/business/detail/9680000085301
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45529
Location: NECTEC

PostPosted: 11/09/2025 4:40 pm    Post subject: Reply with quote

🚆📦 รู้หรือไม่? ค่าระวางตู้คอนเทนเนอร์และ ISO Tank ทางรถไฟ คิดกันอย่างไรในปัจจุบัน
🚂การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) มีการกำหนดอัตราค่าระวางไว้อย่างชัดเจนผ่าน ใบแทรกที่ 1000 ซึ่งใช้สำหรับตู้คอนเทนเนอร์ทุกประเภท รวมถึง ISO Tank ที่บรรทุกบนแคร่ตู้ (บทต.) โดยอัตราจะคำนวณเป็น บาท/ตู้/เที่ยว แยกตาม ขนาดตู้ (20 ฟุต และเกิน 20 ฟุต เช่น 40 ฟุต) รวมทั้งแยก เที่ยวบรรทุกจริง และ เที่ยวเปล่า วิธีคิดก็คือ ดูระยะทางต้นทาง–ปลายทางเป็นกิโลเมตร แล้วนำไปเทียบกับตารางอัตราเพื่อหาค่าระวางที่ตรงกับเส้นทางนั้น ๆ
🛢️ นอกจากค่าระวางตามใบแทรก 1000 แล้ว ยังต้องบวก ค่าน้ำมันตามใบแทรกที่ 991 ซึ่งเป็น “ค่าธรรมเนียมการใช้น้ำมัน” ที่ รฟท.กำหนดเพิ่ม เพื่อสะท้อนต้นทุนพลังงานที่เปลี่ยนแปลงไป โดยคำนวณตามช่วงระยะทางหรือคู่สถานีที่กำหนดไว้
📋 ดังนั้นเวลาจะคำนวณราคาค่าระวางต้องรวมทั้ง
อัตราค่าระวาง (ใบแทรก 1000) + ค่าน้ำมัน (ใบแทรก 991)
………………………………………………………………………………………………….
👍 ประกาศอัตราค่าขนส่งสินค้าในเส้นทางพิเศษ
🚆 เส้นทาง ICD ลาดกระบัง – ท่าเรือแหลมฉบัง 🛳️
เป็นเส้นทางการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ทางรางที่มีศักยภาพสูงที่สุดในไทย มีจำนวนตู้และจำนวนเที่ยวรถไฟมากที่สุด และเพื่อสนับสนุนการขนส่งสินค้าทางรถไฟ ให้มีสัดส่วนการขนส่งที่สูงขึ้น รฟท.ได้ประกาศอัตราค่าระวางในราคาพิเศษ ของเส้นทางนี้โดยเฉพาะ 💸 โดยใช้ชื่อว่า ใบแทรกที่ 1012 ประกาศใช้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. 2568 – 31 ธ.ค. 2568 ✨
👉 ถือเป็นโอกาสทองของผู้ประกอบการ ที่จะลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ และเชื่อมไทยสู่เวทีการค้าระดับโลก
https://www.facebook.com/DRT.OfficialFanpage/posts/1087724066885388
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 49322
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 25/09/2025 8:39 pm    Post subject: Reply with quote

กรมการขนส่งทางราง กระทรวงคมนาคม

🚆 อนาคตใหม่ของการขนส่งสินค้าทางรางไทย 🚆
กรมการขนส่งทางรางกำลังเดินหน้ามาตรการสำคัญ เพื่อผลักดันให้ รางไทย ก้าวสู่การเป็นโครงข่ายโลจิสติกส์หลักของประเทศ และแข่งขันได้ในระดับสากล 🌏
มาตรการสำคัญที่กำลังผลักดัน ได้แก่
🌿 Eco Rail Thailand – ให้ตราสัญลักษณ์และสิทธิประโยชน์แก่ผู้ประกอบการที่ใช้รางมากขึ้น สร้างแรงจูงใจด้าน “โลจิสติกส์สีเขียว”
⚖️ ปรับปรุงกฎหมายราง – ทำให้กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง “ทันสมัย-ยืดหยุ่น-เป็นธรรม” เปิดทางให้เอกชนแข่งขันได้สะดวกขึ้น
🛰️🤖 Digital Rail – ยกระดับระบบรางด้วยเทคโนโลยีใหม่ เช่น AI, IoT, Big Data, Digital Logistics Platform และการติดตามแบบเรียลไทม์
ทั้งหมดนี้ คือก้าวสำคัญที่ทำให้การขนส่งทางรางไทย
✅ มีประสิทธิภาพ
✅ รักษ์สิ่งแวดล้อม
✅ และพร้อมเชื่อมโลกการค้าในอนาคต
มาร่วมกันผลักดันให้ “รางไทย” เป็นหัวใจของโลจิสติกส์สู่อนาคตไปด้วยกันครับ 🚆✨

https://web.facebook.com/DRT.OfficialFanpage/posts/1099145929076535
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 49322
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 16/10/2025 4:50 pm    Post subject: Reply with quote

📰 วุฒิสภาเห็นชอบ “ร่าง พ.ร.บ.การขนส่งทางราง พ.ศ. ....” ก้าวสำคัญสู่ระบบรางไทยยุคใหม่ คาดปี 69 ประกาศใช้
เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2568 ที่ประชุม วุฒิสภา ได้พิจารณา ร่างพระราชบัญญัติการขนส่งทางราง พ.ศ. ... ในวาระที่ 2 และ 3 ครอบคลุมตั้งแต่ชื่อร่างจนถึงมาตรา 158 โดยมีมติเห็นชอบ 146 เสียง จากผู้ลงมติทั้งหมด 150 เสียง และไม่มีผู้ไม่เห็นด้วย ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของประเทศไทยในการพัฒนาระบบขนส่งทางรางให้มีมาตรฐานและประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ขณะนี้ อยู่ในขั้นตอนนายกรัฐมนตรีนำขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย ก่อนประกาศใช้เป็นกฎหมายอย่างเป็นทางการ คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ได้ในปี 2569
พระราชบัญญัติการขนส่งทางราง พ.ศ. .... ฉบับนี้จะเป็นกฎหมายหลักในการยกระดับการบริหารจัดการระบบรางของประเทศให้เป็นเอกภาพ เปิดโอกาสให้ภาคเอกชนสามารถใช้โครงสร้างพื้นฐานของการรถไฟแห่งประเทศไทยร่วมกัน เพื่อให้บริการขนส่งผู้โดยสารและสินค้าที่มีความถี่และประสิทธิภาพสูงขึ้น ช่วยลดต้นทุนการขนส่งและเพิ่มความคุ้มค่าในการใช้โครงสร้างพื้นฐาน
นอกจากนี้ ยังมีการจัดตั้งคณะกรรมการนโยบายการขนส่งทางรางเพื่อกำหนดทิศทางการพัฒนาอย่างชัดเจน ส่งเสริมการเชื่อมต่อกับระบบขนส่งรูปแบบอื่น รวมถึงกำหนดอัตราค่าโดยสารและค่าขนส่งที่เป็นธรรม พร้อมระบบการจดทะเบียนรถขนส่งทางรางและบทกำหนดโทษที่เข้มงวด เพื่อสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยและมาตรฐานของระบบรางไทย
พระราชบัญญัติการขนส่งทางราง พ.ศ. .... ถือเป็นหมุดหมายสำคัญในการยกระดับระบบรางของประเทศไทย ให้ก้าวสู่การพัฒนาที่มั่นคง มีมาตรฐาน และยั่งยืนอย่างแท้จริง กฎหมายฉบับนี้จะเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญในการสร้างระบบการเดินทางที่ปลอดภัย คุ้มค่า และเชื่อมต่อกันอย่างไร้รอยต่อทั่วประเทศ เพื่อให้ “ระบบรางไทย” เป็นเส้นเลือดใหญ่ของการคมนาคมที่พร้อมพาประเทศไทยก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นใจในทุกเส้นทาง

https://web.facebook.com/DRT.OfficialFanpage/posts/pfbid02J8Ud6GMTh9tGGX44CgK1Rbc2kt4VakqQjDm2pauX9KjEkD2GR4vy5U7Vztuk3ZjSl
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45529
Location: NECTEC

PostPosted: 16/10/2025 7:40 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
📰 วุฒิสภาเห็นชอบ “ร่าง พ.ร.บ.การขนส่งทางราง พ.ศ. ....” ก้าวสำคัญสู่ระบบรางไทยยุคใหม่ คาดปี 69 ประกาศใช้

https://web.facebook.com/DRT.OfficialFanpage/posts/pfbid02J8Ud6GMTh9tGGX44CgK1Rbc2kt4VakqQjDm2pauX9KjEkD2GR4vy5U7Vztuk3ZjSl


ใช้ลิงก์นี้ดีกว่าครับ
https://www.facebook.com/DRT.OfficialFanpage/posts/1117541040570357

Senator votes the the third reading on Rail Transportation Act of MP version: 146 yeahs 0 nays 3 abstains, 1 refused to vote
https://www.facebook.com/TPchannelFan/posts/1310755291085501
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45529
Location: NECTEC

PostPosted: 28/10/2025 1:13 pm    Post subject: Reply with quote

🌏🚂 R-Reg takes you on a tour of Thailand!
Do you know where the "containers" you see running on the tracks come from?
Today, we'll take you to Thailand's "4 regions, 4 rail freight routes."
This analysis is based on annual railway freight statistics as of fiscal year 2024.
📦 Central + Eastern Region
The country's largest origins! These include Lat Krabang ICD, Laem Chabang Port, and Map Ta Phut Port.
Deliveries are distributed throughout every region, from Lampang, Nong Khai, and all the way to Hat Yai.
🏔️ Northern Region
Containers from Ban Pa Wan Station in Lopburi Province, Phitsanulok Station, and Phichit Station mostly travel to Laem Chabang and Map Ta Phut Ports. A small number also reach Bang Klam Station in Songkhla Province.
🌴 Southern Region
The largest origins of containers in the South are Kantang Station in Trang Province, Surat Thani Station, and Hat Yai Junction. Most are exported to Padang Besar Station in Malaysia for further shipment to Penang Port. Some trains also run from Malaysia via Thailand to Laos!
🌾 Northeastern Region
Major originating points are Nong Khai, Bua Yai, and Ban Kradon in Nakhon Ratchasima Province, leading to Laem Chabang Port and Map Ta Phut Port. There is also inter-provincial transport between Thailand and Laos from Nong Khai to Thanaleng. ✨
🚆💡 The Thai rail route not only provides domestic transport,
but also connects Thailand, Laos, and Malaysia to the global market!
https://www.facebook.com/DRT.OfficialFanpage/posts/1124534273204367
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45529
Location: NECTEC

PostPosted: 28/10/2025 9:51 pm    Post subject: Reply with quote

🚆 มาตรฐานทางรถไฟที่ปลอดภัยจากภัยพิบัติ เพื่อความมั่นคงของระบบรางไทย
กรมการขนส่งทางราง (ขร.) ดำเนินงานภายใต้ “โครงการศึกษาจัดทำมาตรฐานระบบระบายน้ำโครงสร้างพื้นฐานระบบราง และจัดทำมาตรการลดความเสี่ยงต่อภัยระบบราง” โดยมุ่งเน้นการสร้าง “มาตรฐานทางรถไฟที่ปลอดภัยจากภัยพิบัติ” เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และลดผลกระทบจากเหตุการณ์ภัยธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม ดินถล่ม และแผ่นดินไหว ที่ส่งผลโดยตรงต่อความปลอดภัยของระบบรางและผู้โดยสาร
📍 แนวคิดหลักของมาตรฐานใหม่
มาตรฐานการออกแบบและก่อสร้างทางรถไฟในยุคใหม่ ไม่ได้เน้นเพียง “ความมั่นคงแข็งแรง” แต่ต้อง “พร้อมรับมือภัยพิบัติทุกรูปแบบ” เพื่อให้ระบบรางไทยเดินหน้าได้อย่างปลอดภัยและยั่งยืน
กรมการขนส่งทางราง (ขร.) ได้ดำเนินการ สำรวจพื้นที่เสี่ยงภัยทั่วประเทศ เพื่อหาสาเหตุของปัญหาและออกแบบแนวทางแก้ไขให้สอดคล้องกับบริบทของแต่ละพื้นที่ ทั้งในด้านภูมิประเทศ สภาพดิน น้ำฝน และปริมาณการเดินรถ
โดยได้จัดทำแนวทางทางวิศวกรรมที่สามารถนำไปปรับใช้ในทางปฏิบัติจริง ได้แก่
✅ การสร้างระบบดักและหน่วงน้ำ เพื่อชะลอการไหลของน้ำเข้าสู่แนวราง
✅ การจัดทำเส้นทางระบายน้ำออกจากทางรถไฟ อย่างมีประสิทธิภาพ
✅ การบำรุงรักษาระบบระบายน้ำในเขตทางรถไฟ เพื่อให้ระบบคงประสิทธิภาพตลอดเวลา
✅ การยกระดับสันรางในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม เพื่อป้องกันความเสียหายต่อโครงสร้างและราง
✅ การลดความรุนแรงของผลกระทบภัยพิบัติ ทั้งในด้านโครงสร้างและการให้บริการเดินรถ
🛠️ เป้าหมายของการพัฒนา
• สร้าง มาตรฐานระบบรางที่ทนทาน ปลอดภัย และพร้อมใช้งานในทุกสภาพอากาศ
• เพิ่มความปลอดภัยของผู้โดยสารและการขนส่งทางราง
• ลดความรุนแรงของภัยพิบัติ เช่น น้ำท่วมราง ดินโคลนถล่ม หรือแผ่นดินไหว
• สร้างแนวทางแก้ไขปัญหาในระยะยาว ที่สอดคล้องกับบริบทของแต่ละพื้นที่
• ยกระดับคุณภาพโครงสร้างพื้นฐานระบบรางไทยให้เป็นมาตรฐานสากล
🌧️ “มาตรฐานใหม่ของระบบรางไทย” ไม่ใช่แค่แข็งแรง แต่ต้อง “ปลอดภัยจากภัยพิบัติ”
https://www.facebook.com/DRT.OfficialFanpage/posts/1127965809527880
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45529
Location: NECTEC

PostPosted: 28/10/2025 9:54 pm    Post subject: Reply with quote

🚆 มาตรฐานห้องขับ…ยกระดับความปลอดภัยทุกการเดินทาง
👉 มาตรฐานด้านขนาด มิติและการจัดวางอุปกรณ์ในห้องขับรถขนส่งทางราง (มขร. – R – 009 – 2568)
(GENERAL DESIGN AND LAYOUT STANDARD FOR ROLLING STOCK DRIVER’S CAB)
📌 เพราะการจัดวางอุปกรณ์ในห้องขับไม่ได้มีแค่เรื่อง “ความสวยงาม” แต่ยังเกี่ยวข้องโดยตรงกับ “ความปลอดภัย” ของทั้งผู้ขับและผู้โดยสาร ดังนั้นทุกปุ่มควบคุมจึงอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ใช้งานง่าย และลดความผิดพลาดในการขับขี่
📚 ศึกษามาตรฐานฉบับเต็มได้ที่ : https://drive.google.com/file/d/1PMCFOCYWf7aKz4tgvgp02ma1C1brZhPm/view
https://www.facebook.com/DRT.OfficialFanpage/posts/1128040286187099
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45529
Location: NECTEC

PostPosted: 06/11/2025 12:24 am    Post subject: Reply with quote

กรมการขนส่งทางรางลงพื้นที่ตรวจความพร้อมระบบรถไฟฟ้ารองรับการเดินทางของประชาชนที่เดินทางเข้าร่วมสักการะพระบรมศพ ที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท
วันนี้ (4 พฤศจิกายน 2568) นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง พร้อมคณะเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางราง (ขร.) ลงพื้นที่สถานีรถไฟฟ้าสนามไชย (BL31) ของรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล (สายสีน้ำเงิน) เนื่องจากสำนักพระราชวังได้มีประกาศให้ประชาชนเข้าเฝ้าฯ กราบถวายบังคมพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ภายหลังจากการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลครบ 15 วัน ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายน 2568 เป็นต้นไป ทุกวัน ช่วงเวลา 09.00 -21.00 น.
ซึ่งคาดว่าจะมีประชาชนจากทั่วประเทศเดินทางเข้าสักการะพระบรมศพเป็นจำนวนมาก โดยสถานีรถไฟฟ้าสนามไชยเป็นสถานีรถไฟฟ้าที่อยู่ใกล้พระบรมมหาราชวังมากที่สุด โดยประชาชนสามารถใช้ทางออก 1 (พิพิธภัณฑ์สยาม) และเดินไปขึ้นรถ Shuttle Bus ที่องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จัดให้บริการฟรี เส้นทางสถานีรถไฟฟ้าสนามไชย-สนามหลวง-สถานีรถไฟฟ้าสนามไชย ได้ที่ประตูพิพิธภัณฑ์สยาม เพื่อเดินทางไปยังสนามหลวงเข้าสู่จุดคัดกรอง ก่อนเข้าสักการะพระบรมศพที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวังได้อย่างสะดวก โดยช่วงเวลา 08.00-11.00 น. และช่วงเย็นถึง 20.00 น. รถ shuttle bus จะออกประมาณทุก 10 นาที หรือปรับตามจำนวนผู้โดยสาร โดยมีการประชาสัมพันธ์เส้นทางภายในสถานีรถไฟฟ้า MRT และมีเจ้าหน้าที่ ขสมก.บริเวณประตูทางออก 1 เพื่ออำนวยความสะดวกด้วย
ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางรางได้ประสานผู้ให้บริการระบบรถไฟฟ้าทุกเส้นทาง มีการเฝ้าติดตามผ่านระบบโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) หากพบว่า ในช่วงเวลาที่มีประชาชนใช้บริการรถไฟฟ้าหนาแน่น ให้พิจารณาจัดเดินรถไฟฟ้าเสริม หรือเพิ่มความถี่ในการให้บริการ เพื่อให้สามารถรองรับการเดินทางของประชาชนได้อย่างเพียงพอ อย่างไรก็ตาม สำหรับสถานีที่เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างสถานีรถไฟฟ้า และสถานีที่เป็นจุดเชื่อมต่อกับรถ shuttle bus ที่ขสมก.จัดให้บริการฟรี พิจารณาเพิ่มป้ายแนะนำเส้นทางที่ชัดเจนไปยังทางออกที่มีรถ shuttle bus รองรับให้บริการบริเวณทางออกสถานีรถไฟฟ้า รวมทั้งพิจารณาจัดเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่เพิ่มเติม สำหรับการจำหน่ายบัตร/เหรียญโดยสาร และพิจารณาเพิ่มเติมเครื่อง tablet เพื่อรองรับการสแกน QR code ในกรณีที่ใช้คนละครึ่งพลัส สำหรับการซื้อบัตร/เหรียญโดยสาร ที่เคาเตอร์จำหน่ายบัตร/เหรียญโดยสารระบบรถไฟฟ้า และกรณีที่มีประชาชนใช้บริการหนาแน่นมาก ให้พิจารณาจัดลำดับการเข้าใช้บริการของผู้โดยสาร (group release) เพื่อควบคุมปริมาณผู้ใช้บริการไม่ให้เกิดความแออัดทั้งบริเวณชานชาลาและในขบวนรถไฟฟ้า เพื่อให้ผู้ใช้บริการระบบรางได้รับความสะดวก รวดเร็วและมีความปลอดภัยสูงสุด
นายพิเชฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้มอบนโยบายให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม จัดเตรียมระบบขนส่งสาธารณะ เชื่อม-เรือ รวมท้้งสถานที่จอดรถส่วนบุคคล รถโดยสารไม่ประจำทาง (หมวด 30) และเจ้าหน้าที่ให้บริการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่จะเดินทางมาสักการะพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดย ขสมก. ได้จัดรถ shuttle bus (บริการฟรี) อำนวยความสะดวกให้ประชาชนในการเดินทางไปสนามหลวง
เพื่อเข้าร่วมสักการะพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จำนวน 14 เส้นทาง (M1-M14) ให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 – 20.00 น. หรือจนกว่าประชาชนจะออกจากพื้นที่สนามหลวงหมด โดยมีเส้นทางที่เชื่อมต่อสถานีรถไฟฟ้า รวม 5 เส้นทาง ได้แก่
M1 รถไฟฟ้าสถานีท่าพระ (ทางออก 1) - สนามหลวง
M2 รถไฟฟ้าสถานีสนามไซย (ทางออก 1) - สนามหลวง
M3 รถไฟฟ้าสถานีสามยอด (ทางออก 3) - สนามหลวง
M4 รถไฟฟ้าสถานีสยาม (ทางออก 6)- สนามหลวง
M5 รถไฟฟ้าสถานีวงเวียนใหญ่ (ทางออก 1) - สนามหลวง
และมีเส้นทาง shuttle bus ใกล้สถานีรถไฟฟ้าอีก 3 เส้นทาง ได้แก่
M7 อนุสาวรีย์ชัยฯ (ฝั่งพญาไท : ใกล้สถานีรถไฟฟ้า BTS อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ทางออก 4 ) - สนามหลวง
M8 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ บริเวณประตู 10 (ใกล้สถานีรถไฟฟ้าบางซื่อ ทางออก 1) - สนามหลวง
M10 สถานีกรุงเทพ(หัวลำโพง) (ใกล้สถานีรถไฟฟ้าหัวลำโพง ทางออก 2) - สนามหลวง
นายพิเชฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับรถไฟทางไกล ตนได้ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2568 ที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)ได้พ่วงตู้เพิ่ม 1-2 ตู้ไปกับขบวนรถปกติ และพิจารณาพ่วงตู้เพิ่มเติมในขบวนที่มีประชาชนหนาแน่น โดยประชาชนสามารถเชื่อมต่อรถ shuttle bus ฟรี ได้ทั้งที่สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) และสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ นอกจากนี้ รฟท. ยังให้บริการที่จอดรถฟรีที่สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) และสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายน 2568 เป็นต้นไปจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลงอีกด้วย
นายพิเชฐ กล่าวปิดท้ายว่า กรมการขนส่งทางราง (ขร.) ได้ประสานผู้ให้บริการระบบราง เตรียมความพร้อมรองรับการเดินทางของประชาชนที่จะเดินทางมาสักการะพระบรมศพได้อย่างเพียงพอ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ติดตามการดำเนินงานตามแผนอำนวยความสะดวกฯ และกรณีเกิดเหตุรถไฟฟ้าขัดข้องจะมีการประสานงานและแก้ไขปัญหา เพื่อลดผลกระทบต่อการเดินทางของประชาชนและให้สามารถกลับมาให้บริการได้ตามปกติต่อไป
https://www.dailynews.co.th/news/5267280/
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/1367799088130655 https://www.facebook.com/DRT.OfficialFanpage/posts/1133464485644679
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45529
Location: NECTEC

PostPosted: 10/11/2025 1:17 pm    Post subject: Reply with quote

“กรมราง”ลงพื้นที่ชุมพร เช็กปรับปรุงสะพานรถไฟข้ามคลองผันน้ำ คืบหน้า 55% แก้น้ำท่วมซ้ำซาก เพิ่มประสิทธิภาพขนส่ง
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันจันทร์ ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 เวลา 11:37 น.
ปรับปรุง: วันจันทร์ ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 เวลา 12:16 น.


“กรมราง”ลงพื้นที่เช็กปรับปรุงสะพานรถไฟข้ามคลองผันน้ำคลองชุมพร คืบหน้า 55% แผนเสร็จมี.ค. 69 เผยสะพานรถไฟทั่วปท.สภาพเก่า ชำรุด 1,434 แห่ง ปรับปรุงแล้ว 646 แห่งเร่งขับเคลื่อนปรับปรุงรองรับน้ำหนักตามมาตรฐาน U.20 แก้ปัญหาน้ำท่วม เสริมประสิทธิภาพขนส่งทางราง
กรมการขนส่งทางราง
เผยแพร่: วันศุกร์ ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 เวลา 14:37 น.

กรมรางลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าการปรับปรุงสะพานรถไฟข้ามคลองผันน้ำคลองชุมพร และขับเคลื่อนการปรับปรุงสะพานรถไฟรองรับน้ำหนักตามมาตรฐาน U.20 เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก เสริมประสิทธิภาพขนส่งสินค้าทางราง

วันนี้ (7 พ.ย. 68) นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง พร้อมเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางราง (ขร.) ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้างานปรับปรุงสะพานรถไฟข้ามคลองผันน้ำคลองชุมพร เป็นสะพานเหล็กโครงถัก (Through Truss Bridge: TT) ขนาด 1x110.056 เมตร บริเวณเสาโทรเลขที่ 473/10-12 ระหว่างสถานีแสงแดด – สถานีทุ่งคา จังหวัดชุมพร
โดยที่ผ่านมากรมชลประทานได้ดำเนินโครงการป้องกันและบรรเทาอุทกภัยเมืองชุมพรตามแนวพระราชดำริ (คลองผันน้ำคลองชุมพร) เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมบริเวณสี่แยกปฐมพร และพื้นที่ลุ่มต่ำ 6 ตำบลของอำเภอเมืองชุมพร ได้แก่ ตำบลบ้านนา ตำบลขุนกระทิง ตำบลตากแดด ตำบลบางหมาก ตำบลทุ่งคา และตำบลวังไผ่ มีพื้นที่ได้รับผลประโยชน์ 37,500 ไร่ ซึ่งกรมชลประทานได้ออกแบบให้คลองชุมพรสามารถรองรับปริมาณน้ำได้ 200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และคลองผันน้ำรองรับปริมาณน้ำได้ 350 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที รวม 550 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที การดำเนินโครงการดังกล่าว มีจุดที่เป็นสิ่งกีดขวางทางน้ำเกี่ยวข้องกับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จำนวน 1 จุด คือพื้นที่ทางรถไฟข้ามคลองผันน้ำ มีทางระบายน้ำกว้าง 15 เมตร สามารถระบายน้ำได้เพียง 60 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ปัจจุบันเป็นสะพานเหล็ก ขนาดกว้าง 2x25 เมตร ดังนั้นเพื่อแก้ไขปัญหาการระบายน้ำบริเวณดังกล่าว รฟท. จึงขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 ปรับปรุงขยายสะพานรถไฟข้ามคลองผันน้ำคลองชุมพร โดยว่าจ้างกลุ่มกิจการร่วมค้า เอ.เอส.เอ็ม. 3 ดำเนินการ ปัจจุบันมีความคืบหน้าร้อยละ 55.28 (ณ สิ้นเดือนตุลาคม 2568)
ภายหลังจากการลงพื้นที่ ขร. ได้กำชับให้ รฟท. เร่งประสานผู้รับจ้างปรับปรุงแผนการดำเนินงาน ได้แก่ งานตะม่อสะพาน งานคลองชลประทาน งานปรับปรุงทางประธาน งานทำทางเบี่ยงและรื้อทางเบี่ยง และงานรื้อย้ายและติดตั้งเสาโทรเลข รวมถึงเพิ่มทรัพยากรทั้งเครื่องมือและบุคลากร เพื่อให้สามารถก่อสร้างแล้วเสร็จได้ตามแผนงานภายในเดือนมีนาคม 2569 ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากในพื้นที่อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร ตั้งแต่ปี 2569 เป็นต้นไปได้อย่างเป็นรูปธรรม
รวมทั้ง ปัจจุบัน ขร. ได้ดำเนินการศึกษาจัดทำมาตรฐานระบบระบายน้ำโครงสร้างพื้นฐานระบบรางและจัดทำมาตรการลดความเสี่ยงต่อภัยระบบราง โดยได้จัดทำมาตรฐานระบบระบายน้ำ แผนปฏิบัติการ (Action Plan) สำหรับการแก้ไขปัญหาของการเกิดภัยต่อระบบราง และออกแบบรายละเอียดการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ดินถล่มที่มีความเสี่ยงสูง พร้อมทั้งจัดทำเอกสารประมาณราคาจำนวน 10 แห่ง เพื่อส่งมอบให้ รฟท. เป็นแนวทางดำเนินการก่อสร้างตามมาตรฐานต่อไป
นายพิเชฐ กล่าวว่า ในการลงพื้นที่ครั้งนี้ ได้มีการติดตามงานจ้างเปลี่ยนหรือเสริมความมั่นคงสะพานที่ชำรุดหรือรับน้ำหนักกดลงเพลามาตรฐาน U.20 (20 ตัน/เพลา) ไม่ได้ ในพื้นที่จังหวัดชุมพรด้วย เนื่องจากที่ผ่านมาทางรถไฟทั่วประเทศมีสะพานรถไฟรวมทั้งสิ้น 2,630 แห่ง เป็นสะพานรถไฟที่มีสภาพเก่า ชำรุด ไม่ปลอดภัยต่อการเดินรถและจำเป็นต้องปรับปรุงให้ปลอดภัยต่อการเดินรถ จำนวน 1,434 แห่งตามแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของ รฟท. ระยะเร่งด่วน พ.ศ. 2553 - 2558 แต่เนื่องจากติดข้อจำกัดเรื่องการขอรับการจัดสรรงบประมาณ จึงยังไม่สามารถดำเนินการได้ครบถ้วน โดยในช่วงปี 2554 – 2568 รฟท. ได้รับการจัดสรรงบประมาณและดำเนินการแล้ว 646 แห่ง โดยทางรถไฟสายใต้ได้ปรับปรุงสะพานให้สามารถรองรับน้ำหนักมาตรฐาน U20 จากกรุงเทพมหานครถึงจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ รวมทั้งทางรถไฟสายแยกไปสุพรรณบุรี และสายวงเวียนใหญ่ -มหาชัย นอกจากนี้ รฟท. ได้ดำเนินการปรับปรุงสะพานที่ทรุดโทรม ระยะเร่งด่วนพื้นที่จังหวัดชุมพร โดยใช้งบทำการ รฟท. ปี 2567 ปรับปรุงสะพานแล้วเสร็จ จำนวน 6 แห่ง ส่วนในปีงบประมาณ 2569 รฟท. ได้รับการจัดสรรงบประมาณเพื่อดำเนินงานเปลี่ยนหรือเสริมความมั่นคงสะพานที่ชำรุดหรือรองรับน้ำหนักกดเพลามาตรฐาน U.20 จำนวน 64 แห่ง อยู่ในพื้นที่จังหวัดชุมพร 17 แห่ง (ช่วงสถานีปะทิว - สถานีชุมพร) วงเงิน 160.308 ล้านบาท ปัจจุบัน รฟท. อยู่ระหว่างจัดทำร่างขอบเขตงาน (TOR) และราคากลางก่อนดำเนินการประกวดราคาต่อไป นอกจากนี้ รฟท. ได้เสนอขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2570 สำหรับดำเนินการปรับปรุงสะพานรถไฟในพื้นที่จังหวัดชุมพรอีก 64 แห่ง (ช่วงสถานีชุมพร - สถานีคลองขนาน) วงเงิน 499.541 ล้านบาท โดยส่วนที่เหลือของพื้นที่จังหวัดชุมพร จากสถานีคลองขนาน - สถานีบ้านดวด 21 แห่ง จะขอรับการจัดสรรงบประมาณในปี 2571 ซึ่ง ขร. ช่วยผลักดันและขับเคลื่อนการขอรับงบประมาณในการปรับปรุงสะพานรถไฟดังกล่าวอย่างเต็มที่
นายพิเชฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า การเปลี่ยนหรือเสริมความมั่นคงสะพานที่ชำรุดหรือรับน้ำหนักกดลงเพลามาตรฐาน U.20 เป็นการดำเนินงานเพื่อแก้ไขปัญหาสะพานรถไฟที่มีสภาพเก่า ชำรุด เนื่องจากมีการใช้งานมานาน ให้มีสภาพมั่นคงแข็งแรง ได้มาตรฐานและปลอดภัยต่อการเดินรถ และหากปรับปรุงสะพานรถไฟแล้วเสร็จจะสามารถรองรับการขนส่งสินค้าซึ่งเป็นรายได้หลักของ รฟท. ได้อย่างมีประสิทธิภาพและครอบคลุมทั่วประเทศ เนื่องจากปัจจุบันได้นำรถจักร CSR น้ำหนักกดลงเพลา 20 ตันต่อเพลา มาวิ่งลากจูงผ่านสะพานรถไฟที่ยังไม่ได้รับการปรับปรุงให้ได้มาตรฐาน 20 ตันต่อเพลาในเส้นทางการเดินรถ จึงจำเป็นต้องลดความเร็วขบวนรถในช่วงที่วิ่งผ่านสะพานรถไฟและบรรทุกสินค้าได้ไม่เต็มที่ ซึ่งการปรับปรุงสะพานดังกล่าวจะทำให้มีสะพานในทางรถไฟเดิมสอดคล้องกับงานโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ที่มีแผนจะดำเนินการก่อสร้างใหม่
เนื่องจากที่ผ่านมาโครงการปรับปรุงทางในเส้นทางเดิมถูกปรับปรุงเสร็จสิ้นแล้ว โดยยังคงเหลืองานปรับปรุงสะพาน โดย รฟท. จะต้องขอรับการจัดสรรงบประมาณจากรัฐบาลเพื่อดำเนินการอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม รฟท. ได้ใช้งบลงทุนปี 2567 ของ รฟท. เพื่อดำเนินการผลิตหรือจัดหาหมอนเหล็กรูปพรรณเปลี่ยนทดแทนหมอนไม้บนสะพานเหล็ก และยกปรับระดับสะพานในทางรถไฟสายใต้ของพื้นที่แขวงบำรุงทางชุมพร จังหวัดชุมพร จำนวน 48 ช่วง วงเงิน 20.392 ล้านบาท เนื่องจากปัจจุบันหมอนบนสะพานรถไฟยังเป็นหมอนไม้ มีสภาพชำรุด จัดหามาเปลี่ยนทดแทนได้ยาก รองรับน้ำหนักขบวนรถได้น้อย ชำรุดได้ง่าย และยากต่อการบำรุงรักษา จึงจำเป็นต้องเปลี่ยนเป็นหมอนเหล็กรูปพรรณที่มีอายุการใช้งานยาวนาน มีความแข็งแรงมั่นคง สามารถรองรับน้ำหนักของขบวนรถอย่างปลอดภัยมากขึ้น และยังลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาในระยะยาว ปัจจุบัน รฟท. อยู่ระหว่างเตรียมลงนามในสัญญาจ้างบริษัท เวสท์โคสท์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด เป็นผู้รับจ้างงานผลิตหรือจัดหาหมอนเหล็กรูปพรรณ โดยจะลงนามภายในเดือนพฤศจิกายน 2568 กำหนดระยะเวลาดำเนินการ 300 วัน ก่อนดำเนินการเปลี่ยนหมอนเหล็กรูปพรรณและยกระดับสะพานรถไฟตามแผน
นายพิเชฐ กล่าวปิดท้ายว่า นอกจากงานปรับปรุงสะพานรถไฟในทางเดิมแล้ว เส้นทางรถไฟสายใต้ยังมีโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ 3 เส้นทาง ระยะทาง 534 กิโลเมตร ได้แก่ โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงชุมพร – สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 168 กิโลเมตร ช่วงสุราษฎร์ธานี - ชุมทางหาดใหญ่ - สงขลา ระยะทาง 321 กิโลเมตร และช่วงชุมทางหาดใหญ่ - ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 45 กิโลเมตร ซึ่งเป็นการดำเนินงานที่สอดคล้องกับนโยบายระยะเร่งด่วน (Quick Win) ของนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม โดย ขร.ได้ประมวลเรื่องเสนอกระทรวงคมนาคมเพื่อพิจารณา ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีอนุมัติดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ตามแผน ทั้งนี้ ขร.ได้แจ้งให้ รฟท. โดยฝ่ายการช่างโยธาขอรับการจัดสรรงบประมาณตั้งแต่แปี 2570 ในการปรับปรุงสะพานรองรับมาตรฐาน U.20 ให้สอดคล้องกับช่วงเวลาที่ก่อสร้างรถไฟทางคู่ให้แล้วเสร็จใกล้เคียงกัน นอกจากนี้ รฟท. ยังมีแผนดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางหาดใหญ่ - สุไหงโก-ลก ระยะทาง 215 กม. ซึ่งรฟท. ลงนามสัญญาจ้างกลุ่มที่ปรึกษา เทสโก้ จำกัด เพื่อศึกษาความเหมาะสมทางด้านเศรษฐกิจ วิศวกรรม และสิ่งแวดล้อม วงเงิน 69.98 ล้านบาท วันที่ 7 พฤศจิกายน 2568 และหากโครงการรถไฟทางคู่สายใต้ดำเนินการแล้วเสร็จก็จะช่วยให้โครงข่ายรถไฟทางคู่ครอบคลุมพื้นที่ภาคใต้สายหลักทั้งหมด รองรับการขนส่งผู้โดยสารและขนส่งสินค้าได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
https://mgronline.com/business/detail/9680000107192
https://www.facebook.com/DRT.OfficialFanpage/posts/1136117505379377
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 80, 81, 82
Page 82 of 82

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©