Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:320878
ทั่วไป:36536681
ทั้งหมด:36857559
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวกรมการขนส่งทางราง (เริ่ม 21 พ.ค. 62)
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าวกรมการขนส่งทางราง (เริ่ม 21 พ.ค. 62)
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 81, 82, 83
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 49693
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 10/12/2025 9:06 pm    Post subject: Reply with quote

ลุยยกระดับ "ศูนย์ฝึกคลองบางไผ่" เทียบชั้น "โตเกียว เมโทร" รองรับออก "ใบขับขี่รถไฟฟ้า" ปีหน้า | เดลินิวส์
Source - เว็บไซต์เดลินิวส์
Wednesday, December 10, 2025 at 18:36

“รฟม.” ลุยยกระดับ “ศูนย์ฝึกอบรม” @คลองบางไผ่ เทียบชั้นมาตรฐาน “โตเกียว เมโทร” เตรียมพร้อมรองรับต้นปีหน้า “ขร.” ออก “ใบขับขี่รถไฟฟ้า” เล็งเพิ่มอุปกรณ์เรียนรู้ สร้างบรรยากาศให้เหมือนจริง

นายพัฒนพงษ์ พงศ์ศุภสมิทธิ์ รองผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า ได้นำคณะสื่อมวลชนเยี่ยมชมศูนย์ฝึกอบรมระบบรางของบริษัท โตเกียว เมโทร จำกัด (Tokyo Metro Academy) ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งที่นี่มีจุดเด่นโดยเป็นศูนย์ฝึกอบรมครบวงจรเหมือนการให้บริการจริงทุกอย่าง มีการยกตัวสถานีจำลอง และชานชาลา รวมทั้งขบวนรถไฟที่ให้บริการจริง นำมาใช้ในการฝึกปฏิบัติ ทั้งในเรื่องการให้บริการ และความปลอดภัย เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมได้เรียนรู้เกี่ยวกับโครงสร้างภายของอุปกรณ์ต่างๆ และสามารถทดลองเดินรถไฟจริงระหว่างการฝึกอบรบได้ ซึ่งเป็นการสร้างบรรยากาศแบบเดียวกับในสภาพแวดล้อมจริงของสถานี

นายพัฒนพงษ์ กล่าวอีกว่า ศูนย์ฝึกอบรมแห่งนี้ เปิดเมื่อปี 2559 โดยจะมีเจ้าหน้าที่ของ Tokyo Metro Group เข้าร่วมรับการฝึกอบรม และเรียนรู้ทุกวัน โดยเหตุการณ์สำคัญต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ในการให้บริการ จะถูกสร้างใหม่ให้เจ้าหน้าที่ได้เรียนรู้ และฝึกปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่นี่ยังเป็นสถานที่ที่ช่วยให้เจ้าหน้าที่แผนกต่างๆ และรุ่นต่างๆ สามารถเชื่อมต่อถึงกันได้ มีการแลกเปลี่ยน และแบ่งปันประสบการณ์ รวมทั้งความรู้ซึ่งกันและกัน นอกจากนี้ศูนย์แห่งนี้ ยังเป็นสถานที่ในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์หลักสูตรต่างๆ ให้กับเจ้าหน้าที่บริษัทอื่นๆ ทั้งในและต่างประเทศด้วย

นายพัฒนพงษ์ กล่าวต่อว่า ศูนย์แห่งนี้เป็นตึก 5 ชั้น มีห้องเรียนรู้ 30 ห้อง อาทิ พื้นที่ฝึกอบรมการให้บริการผู้โดยสาร ทั้งการให้ข้อมูล และการแก้ไขปัญหา, สถานีจำลอง, เครื่องจำลองรถไฟ โดยใช้รถไฟจริง, ชานชาลาที่รองรับ 3 ตู้ และ 10 ตู้ เพื่อให้ฝึกปฏิบัติด้วยรถไฟจริง ในการเฝ้าระวังชานชาลา และรถไฟ และการตอบสนองต่อสถานการณ์ฉุกเฉิน, เส้นทางรถไฟจริง เชื่อมกับสถานีจำลอง, ห้องฝึกอบรมการส่งสัญญาณต่างๆ และห้องพัฒนาจิตสำนึกด้านความปลอดภัย ใช้เวลาฝึกอบรมทั้งภาคทฤษฎี และปฏิบัติ 350 ชั่วโมง ที่นี่ยังสามารถออกใบอนุญาตให้ผู้เข้ารับการอบรมได้ด้วย

สำหรับ Tokyo Metro เป็นบริษัทเอกชนผู้ให้บริการรถไฟฟ้าใต้ดินสายหลักในโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดย Tokyo Metro Group มีเจ้าหน้าที่ประมาณ 11,328 คน ปัจจุบันให้บริการ 9 สาย ระยะทาง 195 กิโลเมตร (กม.) 180 สถานี ให้บริการผู้โดยสาร 6.84 ล้านคนต่อวัน มีขบวนรถให้บริการ 2,708 คัน ความถี่ในการเดินรถ 2.05 นาทีต่อขบวน

นายพัฒนพงษ์ กล่าวด้วยว่า ปัจจุบัน รฟม. ได้จัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมบุคลากรระบบราง ที่คลองบางไผ่ รถไฟฟ้าสายสีม่วง ลักษณะเดียวกับ Tokyo Metro Academy มากว่า 6 ปี มีการจัดหลักสูตรการเรียนการสอนที่หลากหลาย ครอบคลุมองค์ความรู้ ทั้งด้านการควบคุมรถไฟฟ้า ควบคุมการเดินรถไฟฟ้า การซ่อมบำรุง และการจัดการเหตุการณ์ในสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในระบบรถไฟฟ้า รวมถึงความรู้พื้นฐานของงานระบบต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องในระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน มีเป้าหมายให้ผู้สำเร็จหลักสูตรจากศูนย์ฝึกอบรมฯ ของ รฟม. มีความรู้ความสามารถ มีทักษะความชำนาญตามมาตรฐานสากล และสามารถปฏิบัติงานในหน่วยงานผู้ให้บริการในระบบรางได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นายพัฒนพงษ์ กล่าวอีกว่า แม้ศูนย์ฝึกอบรมของ รฟม. จะมีแนวคิดคล้ายกับ Tokyo Metro Academy แต่ที่แตกต่างคือ ที่นี่มีอุปกรณ์ครบถ้วนทุกอย่าง และมีการลงทุนค่อนข้างสูงเกี่ยวกับอุปกรณ์ที่จะใช้ในการเรียนรู้ ซึ่งเหมือนจริงแทบทั้งหมด อย่างไรก็ตาม รฟม. ก็จะนำความรู้ที่ได้รับไปพัฒนาหลักสูตร และยกระดับศูนย์ฝึกอบรมฯ ของ รฟม. ให้มีมาตรฐานมากขึ้น โดยเฉพาะการฝึกอบรมพนักงานขับรถ เพื่อเตรียมพร้อมรองรับการออกใบอนุญาตขับขี่รถไฟฟ้า ภายหลังจากร่าง พ.ร.บ.การขนส่งทางราง มีผลบังคับใช้ เพื่อให้ผู้สำเร็จหลักสูตรมีความรู้ความชำนาญตามมาตรฐานสากล และสามารถปฏิบัติงานในหน่วยงานผู้ให้บริการระบบรางได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“ทีมข่าวนวัตกรรมขนส่งเดลินิวส์” รายงานว่า ปัจจุบันร่าง พ.ร.บ.การขนส่งทางราง ยังไม่ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา อยู่ระหว่างกระบวนการนำขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ภายในต้นปี 2569 และจะเริ่มดำเนินการเรื่องใบอนุญาตขับรถไฟ รถไฟฟ้า ซึ่งผู้ขอรับใบอนุญาตฯ ต้องผ่านการอบรม และการทดสอบทั้งภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติตามสถาบัน หรือหลักสูตรที่กรมการขนส่งทางราง (ขร.) กำหนด หรือให้การรับรอง เพื่อยืนยันว่ามีความรู้ และทักษะเพียงพอสำหรับการปฏิบัติหน้าที่ด้านความปลอดภัยตามที่กฎหมายกำหนด.

https://www.dailynews.co.th/news/5390431/
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45672
Location: NECTEC

PostPosted: 18/12/2025 9:47 am    Post subject: Reply with quote

"กรมราง" หารือ" JTTRI - AIRO"เตรียมจัดเวิร์กช็อปดันใช้พลังงานสะอาดในระบบราง ลดก๊าซเรือนกระจก
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันพฤหัสบดี ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2568 เวลา 09:11 น.
ปรับปรุง: วันพฤหัสบดี ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2568 เวลา 09:11 น.



กรมการขนส่งทางราง หารือ JTTRI - AIRO เตรียมจัดประชุมเชิงปฏิบัติการด้านระบบราง ครั้งที่ 2 (2nd DRT – AIRO Railway Workshop) ยกระดับความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อม มุ่งเป้าลดก๊าซเรือนกระจกและผลักดันพลังงานสะอาดในระบบรางของไทย

เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 68 นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) ให้การต้อนรับ Mr. TOMITA Akihiro ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยการขนส่งและการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น สำนักงานภูมิภาคอาเซียน - อินเดีย (JTTRI - AIRO) ในโอกาสเข้าพบเพื่อหารือเตรียมความพร้อมการจัด "การประชุมเชิงปฏิบัติการด้านระบบราง ครั้งที่ 2" (2nd DRT – AIRO Railway Workshop) ณ ห้องประชุมมนังคศิลา ชั้น 2 กรมการขนส่งทางราง

สำหรับการหารือในครั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องในการยกระดับความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อม โดยกำหนดหัวข้อการประชุมคือ “การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาคการขนส่งทางราง” (Decarbonization in the Railway Sector) เพื่อเป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ประสบการณ์ และนวัตกรรมระหว่างประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่นอย่างเป็นรูปธรรม ฝ่ายไทยเตรียมนำเสนอผลการศึกษาและมาตรการลดก๊าซเรือนกระจกที่ ขร. ได้ขับเคลื่อนมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการยอมรับ ในความมุ่งมั่นด้านสิ่งแวดล้อมของไทยบนเวทีระดับนานาชาติ

นอกจากนี้ จะมีการจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการครั้งที่ 2 (2nd DRT – AIRO Railway Workshop) เพื่อเป็นเวทีสำคัญในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับเทคโนโลยีพลังงานทางเลือก ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาระบบรางในอนาคต ได้แก่ เทคโนโลยีพลังงานไฮโดรเจน (Hydrogen Fuel) เพื่อศึกษาความเป็นไปได้และแนวทางการนำมาใช้กับรถไฟในประเทศไทย รวมถึงเชื้อเพลิงไบโอดีเซล (Biodiesel) เพื่อหาจุดสมดุลและสัดส่วนที่เหมาะสมสำหรับระบบรางของไทย ในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

นายพิเชฐ กล่าวว่า ความร่วมมือกับ JTTRI-AIRO ในครั้งนี้ จะช่วยให้ประเทศไทยสามารถเข้าถึงองค์ความรู้และเทคโนโลยีชั้นนำจากญี่ปุ่น เพื่อนำมาปรับใช้ให้สอดคล้องกับบริบทของไทย ซึ่งจะเป็นการยกระดับระบบขนส่งทางรางให้มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมีประสิทธิภาพสูงสุดต่อไป
https://mgronline.com/business/detail/9680000121696
https://www.facebook.com/DRT.OfficialFanpage/posts/1166734895650971
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45672
Location: NECTEC

PostPosted: 18/12/2025 9:48 am    Post subject: Reply with quote

ขร. จับมือญี่ปุ่น ประชุมความร่วมมือเชิงปฏิบัติการระบบรางไทย–ญี่ปุ่น ครั้งที่ 6 มุ่งยกระดับการซ่อมบำรุงรถไฟสายสีแดง
วันนี้ (16 ธ.ค. 2568) กรมการขนส่งทางราง (ขร.) จัดการประชุมหารือความร่วมมือเชิงปฏิบัติการด้านรถไฟไทย–ญี่ปุ่น ครั้งที่ 6 ร่วมกับกระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน การขนส่ง และการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น (MLIT) โดยมีนายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง เป็นประธาน พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม เพื่อหารือแนวทางการซ่อมบำรุงรถไฟชานเมืองสายสีแดงและการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ฝ่ายญี่ปุ่นได้นำเสนอแนวทางและข้อเสนอแนะด้านการซ่อมบำรุง โดยเปรียบเทียบกับมาตรการของ JR West เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการดำเนินงานและการซ่อมบำรุง (Operation and Maintenance: O&M) ของรถไฟชานเมืองสายสีแดง โดยแสดงให้เห็นว่า การนำมาตรฐานการตรวจสอบ (Inspection) ของ JR West มาใช้ จะช่วยลดภาระงานบำรุงรักษาลงอย่างมีนัยสำคัญ คิดเป็นอัตราส่วนการลดภาระงานรวม ร้อยละ 22 โดยลดภาระงานตลอด 40 ปี สำหรับรถไฟ 25 ขบวน จากเดิม 215,076 คน-ชั่วโมง (ตามคู่มือเดิม) เหลือ 167,989 คน-ชั่วโมง อีกทั้ง ยังมุ่งเน้นการเสริมสร้างศักยภาพบุคลากรของ รฟฟท. ในการบริหารจัดการด้านการซ่อมบำรุง โดยมีเป้าหมายให้ รฟฟท. สามารถดำเนินการ Overhaul Maintenance ได้เองภายในปี 2030
โดยที่ประชุมยังได้หารือการแก้ไขปัญหาระบบรางในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล อาทิ การบรรเทาความแออัดภายในขบวนรถ (Congestion Mitigation) โดยเสนอให้มีการกำหนดดัชนีความหนาแน่นภายในขบวนรถที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน และความคืบหน้าการพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานี (TOD) ของรถไฟชานเมืองสายสีแดง ส่วนต่อขยาย เพื่อส่งเสริมการพัฒนาระบบขนส่งทางรางควบคู่กับการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง กล่าวสรุปว่า ความร่วมมือครั้งนี้ได้แบ่งปันข้อมูลผลการศึกษาที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ทั้งในด้านแนวทางการซ่อมบำรุงรักษารถไฟฟ้าสายสีแดง และนโยบายระบบรางที่เกี่ยวข้องกับแผนแม่บท M-MAP 2 ซึ่งเชื่อมั่นว่าความร่วมมือของทั้งสองฝ่ายจะก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่มีคุณค่า ช่วยยกระดับมาตรฐานระบบรางไทย และเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันการคมนาคมขนส่งของประเทศให้ก้าวไปสู่ความทันสมัยและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นในอนาคต
https://www.facebook.com/DRT.OfficialFanpage/posts/1165578432433284
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45672
Location: NECTEC

PostPosted: 24/12/2025 9:38 am    Post subject: Reply with quote

“กรมฯราง” เปิดสถิติรถไฟฟ้าขัดข้อง “ต.ค.-พ.ย.68” รวม 24 ครั้ง ระบบขับเคลื่อนเจ๊งบ่อยสุด
ข่าวนวัตกรรมขนส่ง
วันอังคาร ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2568 เวลา 10:28 น.
‘กรมรางฯ’ สั่งคุมเข้ม รถไฟฟ้า กทม.-ปริมณฑล หลังสถิติขัดข้อง พุ่ง 24 ครั้ง ใน 2 เดือน
อนัญญา จั่นมาลี
ออนไลน์เมื่อ : วันอังคาร ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2568 เวลา 12:54 น.
อัปเดตล่าสุด : วันอังคาร ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2568 เวลา 13:01 น.


กรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยสถิติรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ และปริมณฑล เกิดเหตุขัดข้อง 24 ครั้ง ในช่วง 2 เดือน (ตุลาคม - พฤศจิกายน 2568)
สาเหตุหลักของความขัดข้องมาจากระบบขับเคลื่อน จุดสับราง และระบบอาณัติสัญญาณ
กรมรางฯ ได้สั่งการให้ผู้ให้บริการเดินรถไฟฟ้าเพิ่มมาตรการตรวจสอบและบำรุงรักษาอุปกรณ์ให้เข้มงวดขึ้น เพื่อลดจำนวนเหตุขัดข้อง


ขร. เปิดสถิติรถไฟฟ้าขัดข้อง ต.ค.-พ.ย.68 รวม 24 ครั้ง ระบบขับเคลื่อนเจ๊งบ่อยสุด แนะผู้ให้บริการเพิ่มมาตรการในการตรวจสอบ กำหนดแนวทางป้องกัน ลดจำนวนขัดข้องให้น้อยลง ด้าน “ชมพู-เหลือง” เปลี่ยนล้อประคองแล้ว 22 ขบวน ขณะที่มาตรการเหมาจ่ายรายวัน “แดง-ม่วง” คนหันมาใช้ EMV เพิ่มขึ้น 73% กำชับปีใหม่จัดแนวทางบริหารคนหนาแน่นคืนเคาน์ดาวน์

นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง(ขร.) เปิดเผยว่า ได้ประชุมคณะกรรมการกำกับและบริหารจัดการระบบขนส่งทางราง ร่วมกับหน่วยงานผู้ให้บริการระบบรางที่เกี่ยวข้อง โดยในที่ประชุมได้ติดตามประเด็นต่างๆ ที่มีผลกระทบต่อประชาชน และผู้ใช้บริการระบบขนส่งทางราง และกำหนดแนวทางการปรับปรุงและแก้ไขปัญหา รวมทั้งการเตรียมความพร้อมรองรับการเดินทางของประชาชนเข้าร่วมกิจกรรม Countdown ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2569 โดยมีประเด็นหารือที่สำคัญ ดังนี้ 

สถิติเหตุขัดข้องของรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ช่วงเดือน ต.ค. – พ.ย. 2568 รวม 24 ครั้งประกอบด้วย ระบบขับเคลื่อน 6 ครั้ง ระบบเบรค 1 ครั้ง ระบบประตูรถ 1 ครั้ง ระบบจ่ายไฟฟ้า 2 ครั้ง จุดสับราง 5 ครั้งเครื่องนับเพลา 2 ครั้ง ระบบอาณัติสัญญาณ 3 ครั้ง ปัจจัยภายนอก 2 ครั้ง ATP 1 ครั้ง และเหตุอื่น ๆ 1 ครั้ง ซึ่ง ขร. ได้เสนอแนะผู้ให้บริการเดินรถไฟฟ้าเพิ่มมาตรการในการตรวจสอบ และบำรุงรักษาอุปกรณ์ให้เหมาะสมกับสภาพการใช้งาน และร่วมกันกำหนดแนวทางการป้องกัน เพื่อลดจำนวนเหตุรถไฟฟ้าขัดข้องต่อไป 


นายพิเชฐ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ที่ประชุมได้รับทราบการติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาเหตุขัดข้องของรถไฟฟ้าโมโนเรล โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว – สำโรง และโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย – มีนบุรี กรณีเกิดเหตุล้อประคองรถไฟฟ้าโมโนเรลหลุดร่วง โดยการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) ร่วมกับบริษัท อีสเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด (EBM) และบริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด(NBM) ดำเนินการเปลี่ยนล้อประคองของรถไฟฟ้าทั้ง 2 สายแล้ว ได้แก่ สายสีชมพู 11 ขบวน และสายสีเหลือง 11 ขบวน รวมทั้งความคืบหน้าการดำเนินการกรณีรางนำไฟฟ้า (conductor rail) หลุดร่วง โดยเพิ่มความถี่ในการตรวจสอบ ติดตั้งอุปกรณ์ลดแรงกระแทกของขารับกระแสไฟฟ้ากับปลายรางจ่ายกระแสไฟฟ้า และติดตั้งอุปกรณ์ยึดรางจ่ายไฟฟ้าทุกระยะ 60 เมตร เพื่อจำกัดระยะความเสียหายของรางจ่ายกระแสไฟฟ้า ซึ่งผู้ให้บริการได้ติดตั้ง conductor rail เพื่อเปิดให้บริการเดินรถเต็มรูปแบบแล้ว ตั้งแต่เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.2568


นายพิเชฐ กล่าวอีกว่า ที่ประชุมยังได้รับทราบมติคณะรัฐมนตรี(ครม.) เรื่อง การดำเนินมาตรการบัตรโดยสารเหมาจ่ายรายวัน สำหรับรถไฟชานเมืองสายสีแดง สายนครวิถี (กรุงเทพอภิวัฒน์ – ตลิ่งชัน) และสายธานีรัถยา(กรุงเทพอภิวัฒน์ – รังสิต) ของการรถไฟแห่งประเทศไทย และรถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง) ของรฟม. โดยมีกรอบระยะเวลาดำเนินมาตรการตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2568 – 30 พ.ย. 2569 ซึ่งจากการดำเนินมาตรการดังกล่าว พบว่า ปริมาณผู้โดยสารที่ใช้บัตร EMV เฉลี่ยต่อวัน เพิ่มขึ้น 10,377 คน-เที่ยว/วัน จากเดิม 14,085 คน-เที่ยว/วัน เป็น 24,462 คน-เที่ยว/วัน หรือเพิ่มขึ้นคิดเป็น 73.68% (เปรียบเทียบข้อมูลระหว่างวันที่ 1 – 31 ธ.ค. 2567 กับข้อมูลระหว่างวันที่ 1 – 15 ธ.ค. 2568)


นายพิเชฐ กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมยังได้มีการหารือเกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมรองรับการเดินทางของประชาชนเข้าร่วมกิจกรรม Countdown ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2569 ระหว่างวันที่ 31 ธ.ค. 2568 – 1 ม.ค. 2569 ซึ่งคาดว่าจะมีประชาชนใช้บริการเป็นจำนวนมากบริเวณสถานีที่อยู่ใกล้เคียงสถานที่จัดกิจกรรม Countdown ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2568 อาทิ รถไฟฟ้าบีทีเอส ที่สถานีสยาม (CEN) สถานีชิดลม (E1) สถานีพร้อมพงษ์ (E5) สถานีสะพานตากสิน (S6) และสถานีกรุงธนบุรี (S7) รถไฟฟ้าสายสีทองที่สถานีเจริญนคร (G2) และสถานีกรุงธนบุรี (G1) รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่สถานีลุมพินี (BL25) รวมถึงสถานีที่เป็นจุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสองสายทาง (Interchange station) และสถานที่จอดรถ Park and Ride 


ซึ่งที่ประชุมได้หารือแนวทางการบริหารจัดการความหนาแน่นของผู้โดยสาร และอำนวยความสะดวกและปลอดภัยภายในสถานีรถไฟฟ้าในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ โดยให้หน่วยงานผู้ให้บริการจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกและประชาสัมพันธ์ การเพิ่มจุดขายบัตรโดยสารเพิ่มเติม การปรับทิศทางประตูจัดเก็บค่าโดยสารให้สอดคล้องกับปริมาณผู้โดยสาร รวมทั้งการบริหารจัดการผู้โดยสารโดยทำ Crowd Control ที่สถานี เพื่อให้เกิดความปลอดภัยแก่ผู้โดยสาร ควบคู่กับเพิ่มความถี่ของขบวนรถไฟฟ้าในช่วงเวลาที่มีผู้โดยสารหนาแน่น 

โดยในวันที่ 31 ธ.ค. 2568 รถไฟฟ้าทุกเส้นทางขยายเวลาการให้บริการจนถึงเวลา 02.00 น. ของวันที่ 1 ม.ค. 2569 นอกจากนี้ที่ประชุมมอบหมายให้หน่วยงานผู้ให้บริการรถไฟฟ้า ประสานงานกับผู้จัดกิจกรรมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2569 เพื่อประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับจุดจอดรถบริเวณสถานีรถไฟฟ้า รวมทั้งขอความร่วมมือผู้ให้บริการยกเว้นค่าบริการจอดรถอาคารและลานจอดแล้วจรของสถานีรถไฟฟ้า ระหว่างวันที่ 31 ธ.ค. 2568 – 1 ม.ค. 2569 เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนเดินทางด้วยระบบขนส่งทางราง ทั้งนี้ผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ ขร. จะลงพื้นที่ตรวจสอบการดำเนินงานตามมาตรการอำนวยความสะดวก และความปลอดภัยในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2569 ต่อไป..
https://www.dailynews.co.th/news/5432225/
https://www.facebook.com/DRT.OfficialFanpage/posts/1170475101943617
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 49693
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 28/12/2025 1:09 pm    Post subject: Reply with quote

ขร.เผยวันแรกปชช.ใช้ระบบรางเดินทางกว่า 1.61 ล้านคน-เที่ยว ประสานผู้ให้บริการดูแลความปลอดภัย ไม่มีผดส.ตกค้าง
Source - เว็บไซต์สยามรัฐ
Sunday, December 28, 2025 at 10:11

วันที่ 27 ธันวาคม 2568 นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง เปิดเผยว่า เมื่อวาน (วันที่ 26 ธ.ค. 68) ซึ่งเป็นวันแรกของแผนการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยรองรับการเดินทางของประชาชน ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2569 ระหว่างวันที่ 26 ธันวาคม 2568 - 5 มกราคม 2569 (รวม 11 วัน) ของกระทรวงคมนาคม มีประชาชนใช้บริการระบบราง รวมทั้งสิ้นจำนวน 1,618,867 คน-เที่ยว ต่ำกว่าประมาณการ 101,314 คน-เที่ยว หรือต่ำกว่าประมาณการร้อยละ 5.89 (ที่ประมาณการ 1,720,181 คน-เที่ยว) แบ่งเป็น รถไฟระหว่างเมืองของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จำนวน 88,750 คน-เที่ยว และรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลและรถไฟชานเมือง จำนวน 1,530,117 คน-เที่ยว โดยมีรายละเอียด ดังนี้

1. รถไฟระหว่างเมืองของ รฟท. ให้บริการรวม 211 ขบวน (รวมขบวนรถพิเศษช่วยการโดยสาร 2 ขบวน คือขบวน 5 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ - เชียงใหม่ และขบวน 983 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ - ยะลา รองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 584 คน-เที่ยว) มีผู้ใช้บริการจำนวน 88,750 คน-เที่ยว น้อยกว่าประมาณการ 3,304 คน-เที่ยว หรือต่ำกว่าประมาณการร้อยละ 3.59 (ประมาณการ 92,054 คน-เที่ยว) แบ่งเป็นผู้โดยสารเชิงพาณิชย์ 36,025 คน-เที่ยว และเชิงสังคม 52,725 คน-เที่ยว โดยมีผู้โดยสารขาออกจำนวน 47,155 คน-เที่ยว และผู้โดยสารขาเข้า 41,595 คน-เที่ยว โดยพบว่า สายใต้มีผู้ใช้บริการมากสุดถึง 27,266 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 14,331 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 12,935 คน-เที่ยว) รองลงมาคือสายตะวันออกเฉียงเหนือมีผู้ใช้บริการ 23,910 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 13,283 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 10,627 คน-เที่ยว) สายเหนือ 18,417 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 9,985 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 8,432 คน-เที่ยว) สายตะวันออก 10,304 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 5,044 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 5,260 คน-เที่ยว) และสายแม่กลองและมหาชัย 8,853 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 4,512 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 4,341 คน-เที่ยว) โดยไม่มีผู้โดยสารตกค้างที่สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) และสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์

2. ระบบรถไฟฟ้า ให้บริการเดินรถไฟฟ้ารวม 3,590 เที่ยว (รวมเสริม 41 เที่ยว) มีผู้ใช้บริการรวมจำนวน 1,530,117 คน-เที่ยว ต่ำกว่าประมาณการ 98,010 คน-เที่ยว หรือต่ำกว่าประมาณการร้อยละ 6.02 (ที่ประมาณการ 1,628,127 คน-เที่ยว) ประกอบด้วย
2.1 รถไฟฟ้า Airport Rail Link ให้บริการ 223 เที่ยว (รวมเสริม 8 เที่ยว) มีผู้ใช้บริการจำนวน 72,853 คน-เที่ยว
2.2 รถไฟฟ้าชานเมือง (สายสีแดง) ให้บริการ 294 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 39,650 คน-เที่ยว
2.3 รถไฟฟ้าสายฉลองรัชธรรม (สีม่วง) ให้บริการ 321 เที่ยว (รวมเสริม 3 เที่ยว) มีผู้ใช้บริการจำนวน 71,681 คน
2.4 รถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล (สีน้ำเงิน) ให้บริการ 501 เที่ยว (รวมรถเสริม 30 เที่ยว) มีผู้ใช้บริการจำนวน 454,788 คน-เที่ยว
2.5 รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว (สายสุขุมวิทและสายสีลม) ให้บริการ 1,240 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 762,401 คน-เที่ยว
2.6 รถไฟฟ้าสายสีทอง ให้บริการ 219 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 10,585 คน- เที่ยว
2.7 รถไฟฟ้าสายนัคราพิพัฒน์ (สีเหลือง) ให้บริการ 276 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 48,300 คน-เที่ยว
2.8 รถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู ให้บริการ 516 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 69,859 คน-เที่ยว (รวมส่วนต่อขยาย 240 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 4,748 คน-เที่ยว)

นายพิเชฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับด้านความปลอดภัย ในวันที่ 26 ธันวาคม 2568 มีเหตุอันตรายต่อการเดินรถไฟจำนวน 2 ครั้ง โดย (1) เมื่อเวลา 10.20 น. เกิดอุบัติเหตุขบวนรถท้องถิ่นที่ 456 (ยะลา - นครศรีธรรมราช) เฉี่ยวชนคนนั่งอยู่บริเวณคอสะพานรถไฟ ใกล้เสาโทรเลขที่ 896/12 ระหว่างสถานีควนเนียง - สถานีโคกทราย จ.พัทลุง โดยพนักงานรถจักรได้ชักหวีดแจ้งเตือนแล้ว เพื่อให้ผู้เสียชีวิตหลบออกจากบริเวณดังกล่าว แต่ผู้เสียชีวิตไม่ได้หลบออกแต่อย่างใด และพนักงานรถจักรได้ลงห้ามล้อฉุกเฉิน แต่เนื่องจากเป็นระยะกระชั้นชิด จึงทำให้เฉี่ยวชนชายดังกล่าวเสียชีวิตรวม 1 ราย ไม่พบเอกสารติดตัว (2) เมื่อเวลา 14.50 น. นายสถานีบ้านทับช้างรับแจ้งเหตุมีรถกระบะจอดกีดขวางกลางทางรถไฟบริเวณเสาโทรเลขที่ 21/13 ระหว่างสถานีบ้านทับช้าง-สถานีลาดกระบัง จึงประสานกู้ภัยนำรถมาลาดรถกระบะออกจากที่เกิดเหตุ เวลา 15.41 น. ไม่มีขบวนใดได้รับผลกระทบจากเหตุนี้ ส่วนระบบรถไฟฟ้ามีเหตุรถไฟฟ้าขัดข้องจำนวน 1 ครั้ง เมื่อเวลา เวลา 06.53 น. รถไฟฟ้ามหานครสายเฉลิมรัชมงคล (สีน้ำเงิน) ขบวนรถไฟฟ้าหมายเลข 52 เกิดจอดไม่ตรงจุดจอดหลายสถานี ประตูรถไฟฟ้าไม่เปิด ดำเนินการถอนขบวนรถออกจากการให้บริการ ส่งผลให้เกิดความล่าช้าในการให้บริการประมาณ 5-10 นาที โดยสถานีได้ประชาสัมพันธ์ให้ผู้โดยสารรับทราบ และประชาสัมพันธ์ผ่าน PID ก่อนกลับมาเดินรถได้ตามปกติ

ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางรางได้ประสาน รฟท. ให้กำชับเจ้าหน้าที่บนขบวนรถและนายสถานีประชาสัมพันธ์ผู้โดยสารงดนั่งและยืนบริเวณบันไดและบริเวณรอยต่อของตู้รถไฟ (gangway) เพื่อป้องกันอุบัติเหตุผู้โดยสารพลัดตกจากขบวนรถ นอกจากนี้ กรมการขนส่งทางรางประสานผู้ให้บริการระบบราง ดำเนินการตรวจวัดแอลกอฮอล์ผู้ปฏิบัติงานก่อนปฏิบัติหน้าที่เดินรถขนส่งทางราง รวมทั้งประสานฝ่ายความมั่นคงมาช่วยดูแลในพื้นที่ระบบรางมากขึ้น อีกทั้งประสานจังหวัดที่มีทางรถไฟผ่าน ให้จัดเจ้าหน้าที่/อาสาสมัคร/กู้ภัย/ อปพร. มาเฝ้าระวังเหตุบริเวณจุดตัดทางรถไฟกับถนนที่เป็นทางลักผ่าน เพื่ออำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2569 ระหว่างวันที่ 26 ธันวาคม 2568 - 5 มกราคม 2569 นี้ด้วย โดยประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือผู้ใช้รถใช้ถนน ปฏิบัติตามกฎจราจร โดยหยุดรถก่อนถึงจุดตัดทางรถไฟไม่น้อยกว่า 5 เมตร เมื่อเห็นว่าปลอดภัยจึงขับผ่าน และไม่ฝ่าฝืนสัญญาณเครื่องกั้นทางรถไฟ

นายพิเชฐ กล่าวปิดท้ายว่า สำหรับในวันนี้ (27ธ.ค.68 ) รฟท. ได้พ่วงตู้โดยสารไปกับขบวนรถโดยสารที่มีผู้โดยสารหนาแน่น และจัดขบวนรถพิเศษช่วยการโดยสารเที่ยวกลับ 2 ขบวน ได้แก่ ขบวน 984 ชุมทางหาดใหญ่-กรุงเทพอภิวัฒน์ และขบวน 6 เชียงใหม่- กรุงเทพอภิวัฒน์ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนผู้ใช้ระบบราง

https://siamrath.co.th/economy/business/119863
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 49693
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 28/12/2025 6:13 pm    Post subject: Reply with quote

โปรดเกล้าฯ พ.ร.บ.การขนส่งทางราง พ.ศ. 2568 ตรากฎหมายกำกับคุณภาพระบบราง เปิดทางเอกชนร่วมใช้ราง
Source - ผู้จัดการออนไลน์
Sunday, December 28, 2025 at 17:58

ราชกิจจาฯประกาศแล้ว พ.ร.บ.การขนส่งทางราง พ.ศ. 2568 มีผลบังคับใช้กำหนดเก้าสิบวันนับแต่วันประกาศ เป็นกฎหมายหลักใช้กำกับดูแลมาตรฐานคุณภาพ จัดสรรตารางเดินรถเปิดทางเอกชนร่วมใช้ราง เพื่อยกระดับการบริหารจัดการระบบรางยุคใหม่ของประเทศ
เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ พระราชบัญญัติการขนส่งทางราง พ.ศ. 2568 ความว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า
โดยที่เป็นการสมควรมีกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางราง
พระราชบัญญัตินี้ มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา 26 ประกอบกับมาตรา 29 มาตรา 33 มาตรา 37 และมาตรา 40 ของ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย
เหตุผลและความจำเป็นในการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลตามพระราชบัญญัตินี้ เพื่อให้การกำกับดูแลการประกอบกิจการขนส่งทางรางเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพอันจะเป็นประโยชน์ ในการพัฒนาระบบการขนส่งทางรางและด้านเศรษฐกิจของประเทศ รวมทั้งควบคุมให้เกิดความ ปลอดภัยกับประชาชนและผู้ใช้บริการ ซึ่งการตราพระราชบัญญัตินี้สอดคล้องกับเงื่อนไขที่บัญญัติไว้ใน มาตรา 26 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแล้ว
จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของรัฐสภาดังต่อไปนี้
มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติการขนส่งทางราง พ.ศ. 2568 ”
มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดเก้าสิบวันนับแต่วันประกาศ ในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
มาตรา 3 ในพระราชบัญญัตินี้
“การขนส่งทางราง” หมายความว่า การขนส่งผู้โดยสารหรือสินค้าโดยรถขนส่งทางราง
“รถขนส่งทางราง” หมายความว่า รถที่ใช้ในการขนส่งผู้โดยสารหรือสินค้า โดยขับเคลื่อนไปบนทางซึ่งมีราง เช่น รถไฟ รถไฟฟ้า รถราง และให้หมายความรวมถึงรถที่ใช้วิ่ง บนรางหรือทางเฉพาะตามที่กำหนดในกฎกระทรวงด้วย
“ทางเฉพาะ” หมายความว่า ทางที่มีลักษณะเป็นการบังคับรถขนส่งทางรางให้ขับเคลื่อนไปตามทางนั้น
“รางเพื่อการขนส่ง” หมายความว่า โครงสร้างพื้นฐานทางราง ระบบราง โครงสร้างทางวิ่ง ระบบอาณัติสัญญาณ ระบบการสื่อสาร ระบบแหล่งจ่ายไฟ สถานี ย่านขนส่งสินค้าทางราง ศูนย์ควบคุมการเดินรถ อาคารสำนักงาน โรงซ่อมบำรุง และเขตระบบการขนส่งทางราง และรวมถึง โครงสร้างพื้นฐานและทรัพย์สินที่จำเป็นในการประกอบกิจการขนส่งทางราง
“กิจการขนส่งทางราง” หมายความว่า การประกอบกิจการรางเพื่อการขนส่ง การประกอบกิจการเดินรถขนส่งทางราง และการประกอบกิจการรางเพื่อการขนส่งและการเดินรถขนส่ง ทางราง
“กิจการรางเพื่อการขนส่ง” หมายความว่า กิจการบริหารจัดการ และบำรุงรักษา รางเพื่อการขนส่ง
“กิจการเดินรถขนส่งทางราง” หมายความว่า กิจการเดินรถขนส่งทางรางสำหรับขนส่ง ผู้โดยสารหรือสินค้า
“กิจการขนส่งทางรางเพื่อกิจการของตน” หมายความว่า การขนส่งทางรางซึ่งไม่ใช่ เพื่อการพาณิชย์ หรือการขนส่งทางรางเพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับกิจการนั้น โดยไม่มีการเรียกเก็บค่าโดยสาร ค่าขนส่ง หรือค่าบริการ
“ค่าโดยสาร” หมายความว่า ค่าตอบแทนที่ต้องจ่ายเพื่อการโดยสารที่ผู้ได้รับใบอนุญาต เรียกเก็บจากผู้ใช้บริการ
“ค่าขนส่ง” หมายความว่า ค่าระวางหรือค่าตอบแทนที่ต้องจ่ายเพื่อการรับขนสินค้า ที่ผู้ได้รับใบอนุญาตเรียกเก็บจากผู้ใช้บริการ
“ค่าใช้ประโยชน์จากรางและทรัพย์สินที่จำเป็นในการประกอบกิจการขนส่งทางราง” หมายความว่า ค่าตอบแทนการใช้ประโยชน์จากรางเพื่อการขนส่ง หรือโครงสร้างพื้นฐานอื่น ในการขนส่งทางราง
“ค่าบริการ” หมายความว่า ค่าบริการที่เกิดขึ้นนอกเหนือจากค่าโดยสารและ ค่าขนส่งที่ผู้ได้รับใบอนุญาตเรียกเก็บจากผู้ใช้บริการ
“สถานี” หมายความว่า สถานที่ที่ใช้รับส่งผู้โดยสารหรือรับขนสินค้าในการประกอบ กิจการขนส่งทางราง
“เขตระบบรถขนส่งทางราง” หมายความว่า เขตที่กำหนดขึ้นเพื่อใช้ในการดำเนินกิจการขนส่งทางราง
“เขตปลอดภัยระบบรถขนส่งทางราง” หมายความว่า เขตที่กำหนดขึ้นเพื่อรักษาความปลอดภัยแก่ระบบรถขนส่งทางรางหรือคนโดยสารระบบขนส่งทางราง และบุคคลอื่นที่อยู่ในเขตระบบรถขนส่งทางราง
“ผู้ได้รับใบอนุญาต” หมายความว่า ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการขนส่งทางราง ตามพระราชบัญญัตินี้
“ใบอนุญาต” หมายความว่า ใบอนุญาตประกอบกิจการขนส่งทางรางตาม พระราชบัญญัตินี้
“ผู้ประจำหน้าที่” หมายความว่า ผู้ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ประจำหน้าที่ตาม พระราชบัญญัตินี้
“เจ้าของโครงการ” หมายความว่า หน่วยงานของรัฐที่ดำเนินการเกี่ยวกับกิจการขนส่งทางราง
“หน่วยงานของรัฐ” หมายความว่า ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานอื่นของรัฐ
“ผู้จัดการโครงสร้างพื้นฐาน” หมายความว่า ผู้ดูแลบริหารจัดการรางเพื่อการขนส่ง และทรัพย์สินที่ใช้ในการประกอบกิจการรางเพื่อการขนส่ง โดยเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการราง เพื่อการขนส่งหรือใบอนุญาตประกอบกิจการรางเพื่อการขนส่งและการเดินรถขนส่งทางราง
“นายทะเบียน” หมายความว่า ข้าราชการสังกัดกรมการขนส่งทางรางซึ่งอธิบดีแต่งตั้ง ให้เป็นนายทะเบียนตามพระราชบัญญัตินี้
“ผู้ตรวจการขนส่งทางราง” หมายความว่า ข้าราชการสังกัดกรมการขนส่งทางราง ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งให้เป็นผู้ตรวจการขนส่งทางรางตามพระราชบัญญัตินี้
“พนักงานเจ้าหน้าที่” หมายความว่า อธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีแต่งตั้งให้ปฏิบัติการตาม พระราชบัญญัตินี้
“คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการนโยบายการขนส่งทางราง
“อธิบดี” หมายความว่า อธิบดีกรมการขนส่งทางราง
“รัฐมนตรี” หมายความว่า รัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
มาตรา 4 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ และให้มีอำนาจแต่งตั้งผู้ตรวจการขนส่งทางราง กับออกกฎกระทรวง ระเบียบ และประกาศ เพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ รวมทั้งออกกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมไม่เกินอัตราท้ายพระราชบัญญัตินี้ และยกเว้นค่าธรรมเนียม
กฎกระทรวง ระเบียบ และประกาศนั้น เมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ให้ใช้บังคับได้

สำหรับ พระราชบัญญัติการขนส่งทางราง พ.ศ. 2568 มี 11 หมวด 158 มาตรา เป็นกฎหมายหลักในการยกระดับการบริหารจัดการระบบรางของประเทศให้เป็นเอกภาพ เปิดโอกาสให้ภาคเอกชนสามารถใช้โครงสร้างพื้นฐานของการรถไฟแห่งประเทศไทยร่วมกันเพื่อให้บริการขนส่งผู้โดยสารและสินค้าที่มีความถี่และประสิทธิภาพสูงขึ้น ช่วยลดต้นทุนการขนส่งและเพิ่มความคุ้มค่าในการใช้โครงสร้างพื้นฐาน
นอกจากนี้ ยังมีการจัดตั้งคณะกรรมการนโยบายการขนส่งทางรางเพื่อกำหนดทิศทางการพัฒนาอย่างชัดเจน ส่งเสริมการเชื่อมต่อกับระบบขนส่งรูปแบบอื่นรวมถึงกำหนดอัตราค่าโดยสารและค่าขนส่งที่เป็นธรรม พร้อมระบบการจดทะเบียนรถขนส่งทางรางและบทกำหนดโทษที่เข้มงวด เพื่อสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยและมาตรฐานของระบบรางไทย

https://mgronline.com/business/detail/9680000125575

https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/94159.pdf
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 81, 82, 83
Page 83 of 83

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©