Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:320293
ทั่วไป:34788190
ทั้งหมด:35108483
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวรถไฟ สปป.ลาว
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าวรถไฟ สปป.ลาว
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 299, 300, 301
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> เกี่ยวกับรถไฟต่างประเทศ
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 49658
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 19/12/2025 6:40 pm    Post subject: Reply with quote

75 ปีแห่งสัมพันธ์ไทย-ลาว ผ่านสายตา 'มรกต ศรีสวัสดิ์'
Source - มติชนออนไลน์
Friday, December 19, 2025 at 13:58

75 ปีแห่งสัมพันธ์ไทย-ลาว
ผ่านสายตา 'มรกต ศรีสวัสดิ์'
หมายเหตุ "มติชน" วันที่ 19 ธันวาคมปีนี้ ถือเป็นโอกาสสำคัญของการฉลองครบ 75 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) และปี 2568 ยังเป็นปีแห่งการสถาปนาสปป.ลาวครบ 50 ปีอีกด้วย มติชนได้พูดคุยกับ น.ส.มรกต ศรีสวัสดิ์ อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ เวียงจันทน์ ที่เพิ่งเกษียณอายุราชการไปเมื่อไม่กี่เดือนมานี้ ถึงความสัมพันธ์ของสองประเทศและการเฉลิมฉลองโอกาสสำคัญดังกล่าว ระหว่างไทยกับสปป.ลาว ประเทศที่ถือเป็นเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดของไทย
น.ส.มรกต ศรีสวัสดิ์ อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ เวียงจันทน์ สปป.ลาว

๐ ปี 2568 เป็นปีที่การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-ลาว ครบ 75 ปี มองพัฒนาการของความสัมพันธ์และความร่วมมือ 2 ชาติจากวันนั้นถึงวันนี้อย่างไร?
ในภาพรวมตลอด 75 ปีที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ไทย-ลาวมีพัฒนาการอย่างต่อเนื่องในหลายมิติ ผ่านทั้งช่วงเวลาที่ราบรื่น ใกล้ชิด ห่างเหิน ตลอดจนช่วงที่มีความตึงเครียด และต้องเผชิญกับความท้าทายในรูปแบบต่าง ๆ อย่างไรก็ดี ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับ สปป.ลาว มีความใกล้ชิดในทุกระดับ ครอบคลุมหลากหลาย มิติและภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน โดยเฉพาะด้านการค้า และการลงทุนของไทยใน สปป.ลาว ที่เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนจากการที่ไทยเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งของ สปป.ลาว อย่างต่อเนื่องหลายปี และเป็นนักลงทุนอันดับ 3 ใน สปป.ลาว แม้การลงทุนของไทยในช่วงหลังจะลดลงอันดับลง แต่ความสัมพันธ์โดยรวมยังคงอยู่ในระดับที่ใกล้ชิดมาก นอกจากนี้ มีชาวไทยนิยมเดินทางมาเที่ยว สปป.ลาว มากกว่าปีละหนึ่งล้านคน และนักท่องเที่ยวไทยยังเป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยว สปป.ลาว มากที่สุดต่อเนื่องมาหลายปี

ความสัมพันธ์ดังกล่าวมิได้จำกัดอยู่เพียงด้านการเมืองและเศรษฐกิจเท่านั้น หากยังครอบคลุมถึง ความเชื่อมโยงทาง เชื้อชาติ ศาสนา และประเพณีวัฒนธรรม ซึ่งมีรากฐานทางประวัติศาสตร์ ร่วมกันมาอย่างยาวนาน เสมือนสายเลือดเดียวกัน

เปิดตัวสัญลักษณ์ฉลอง 75 ปีความสัมพันธ์ไทย-ลาว
เหตุการณ์สำคัญในอดีตที่เป็นคุณูปการต่อความสัมพันธ์ไทย-ลาวอย่างมีนัยสำคัญ และยังส่งผลต่อผู้นำในยุคปัจจุบัน คือ การเยือนไทยอย่างเป็นทางการของ นายไกสอน พมวิหาน ประธานประเทศ สปป.ลาว เมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2535 และการเสด็จพระราชดำเนินเปิดสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 (หนองคาย-เวียงจันทน์) และการเสด็จพระราชดำเนินเยือน สปป.ลาว อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2537 ของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ถือเป็นหมุดหมายสำคัญของการวางรากฐานความสัมพันธ์อันใกล้ชิดระหว่างไทยกับ สปป.ลาว ที่สืบทอดและพัฒนาต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

ไทยยังให้การสนับสนุน สปป.ลาวเข้าเป็นสมาชิกอาเซียน เมื่อปี พ.ศ. 2540 และรัฐบาลไทย ได้จัดสรรงบประมาณด้านความร่วมมือเพื่อการพัฒนาให้กับ สปป.ลาว มาอย่างต่อเนื่อง ความสัมพันธ์ของทั้งสองฝ่ายจึงงอกงามขึ้นตามลำดับ และได้ยกระดับความสัมพันธ์เป็น หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เพื่อการเจริญเติบโตและการพัฒนาอย่างยั่งยืน เมื่อปี พ.ศ. 2565

อดีตนายกรัฐมนตรี สปป.ลาว ท่านพันคำ วิพาวัน ได้เปรียบความสัมพันธ์อันใกล้ชิดของไทย-ลาวไว้ว่า "กินข้าวร่วมนา กินปลาร่วมน้ำ" ซึ่งสะท้อนถึงความผูกพันอันลึกซึ้งทางเชื้อชาติ
วัฒนธรรมประเพณี และวิถีชีวิตของประชาชนสองฝั่งแม่น้ำโขง เสมือนเป็นญาติพี่น้องกัน
๐ อะไรทำให้ความสัมพันธ์ไทย-ลาวมีความพิเศษ มีเอกลักษณ์เฉพาะ และมีความร่วมมือใดที่โดดเด่นตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา?
ในความเห็นส่วนตัว เห็นว่าความพิเศษของความสัมพันธ์ไทย-ลาวสะท้อนอยู่ในภาษา ศาสนา และวัฒนธรรมประเพณี ที่ผูกพันประชาชนสองฝั่งแม่น้ำโขงไว้ด้วยกันอย่างใกล้ชิด แม้ว่าทั้งสองประเทศจะมีภาษาพูดและภาษาเขียนเป็นของตนเอง แต่สามารถสื่อสาร และเข้าใจกันได้อย่างลึกซึ้ง

คนไทยและคนลาวต่างยึดมั่นในคุณค่าความกตัญญูรู้คุณ มีจิตใจโอบอ้อมอารี เป็นมิตร และสามารถเข้าถึงกันได้ง่ายด้วยขนบธรรมเนียมประเพณี และกิจกรรมทางศาสนา ส่งผลให้ทั้งสองสังคมเปิดกว้าง ยอมรับความแตกต่าง และเคารพซึ่งกันและกัน

ความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและใกล้ชิดดังกล่าว ได้รับการสนับสนุนเกื้อกูลอย่างสำคัญ จากโครงการความช่วยเหลือตามพระราชดำริของพระราชวงศ์ไทยในด้านต่าง ๆ อาทิ การพัฒนาการเกษตร (โครงการศูนย์พัฒนาและบริการด้านการเกษตรห้วยซอน - ห้วยซั้ว (หลัก 22)) สาธารณสุข การศึกษา และการฝึกทักษะอาชีพ ตลอดจนความร่วมมือเพื่อการพัฒนา ที่ดำเนินการโดยมูลนิธิชัยพัฒนา สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ (กปร.) และกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ ที่ได้น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้อย่างเหมาะสมกับบริบทของ สปป.ลาว รวมถึงการพระราชทานทุนการศึกษาในระดับต่าง ๆ เพื่อพัฒนาทรัพยากรมนุษย์อย่างต่อเนื่อง เป็นเวลาหลายทศวรรษ ปัจจัยเหล่านี้ล้วนมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างความผูกพันของประชาชน สองฝั่งแม่น้ำโขงอย่างมั่นคงและยั่งยืนมาโดยตลอด

นอกจากนี้ ภาคเอกชนไทยที่ลงทุนใน สปป.ลาว อาทิ เครือ SCG เครือ CP โรงไฟฟ้าหงสา บริษัทน้ำตาลมิตรลาว ราช-ลาว ปตท. อมตะคอร์ปอเรชั่น บริษัทมอนซูนพาวเวอร์ และบริษัทไทยอื่น ๆ ต่างมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การถ่ายทอดองค์ความรู้ ด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน การส่งเสริมงานด้านสาธารณสุข และการมอบทุนการศึกษาควบคู่ไปกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนใน สปป.ลาว ที่รวมถึงการเปิดโอกาสให้พนักงานชาวลาว ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงขององค์กรด้วย

น่าดีใจและภูมิใจที่ภาคเอกชนไทยยึดถือแนวทางการลงทุนที่มีคุณภาพใน สปป.ลาว อย่างต่อเนื่อง มุ่งส่งเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืน และสร้างประโยชน์ร่วมกัน มิใช่การแสวงหาผลประโยชน์ฝ่ายเดียว ซึ่งเป็นสิ่งที่ได้เน้นย้ำกับภาคเอกชนไทยเสมอมา

ดังนั้น จึงถือได้ว่า การสนับสนุนและความร่วมมือเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน เป็นสิ่งที่ทุกภาคส่วนของไทยได้มอบให้แก่ สปป.ลาว อย่างเต็มที่

๐ สถานทูตได้จัดกิจกรรมใด ๆ เนื่องในโอกาสสำคัญนี้บ้าง?
ในปี พ.ศ. 2568 ซึ่งเป็นปีที่ไทยและ สปป.ลาว เฉลิมฉลองครบรอบ 75 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ เวียงจันทน์ และสถานกงสุลใหญ่ ณ แขวงสะหวันนะเขต ได้จัดกิจกรรมเฉลิมฉลองตลอดทั้งปีมากกว่า 60 กิจกรรม โดยเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนไทยเข้ามามีส่วนร่วมอย่างกว้างขวาง

กิจกรรมต่าง ๆ ประกอบด้วย การเยือนไทยอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี สปป.ลาว การเยือน สปป.ลาว อย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีไทย การร่วมเปิดตัวตราสัญลักษณ์ครบรอบ 75 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต กิจกรรมด้านวิชาการเพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ระหว่างไทยและ สปป.ลาว ทั้งในภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน อาทิ การสัมมนาด้านกฎหมาย การเสวนาทางเศรษฐกิจ 4 ครั้ง การประกวดวาดภาพจิตรกรรม และการจัดนิทรรศการ "75 ปีแห่งความงดงามของความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-ลาว" งานแสดงศิลปวัฒนธรรม "รวมใจไทย-ลาว" ซึ่งมีการแสดงศิลปวัฒนธรรรมของสองประเทศที่ได้รับรางวัลมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ได้แก่ โนรา และฟ้อนรำวงลาว ตลอดจนการแสดงดนตรีคลาสสิคของนักเรียนและอาจารย์ของทั้งสองประเทศ การมอบทุนการศึกษา การเปิดตัวหนังสือ "เล่าเรื่องลาว" และการมอบเรือกู้ภัยมิตรภาพไทย-ลาว

นอกจากนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯยังสนับสนุนกิจกรรมด้านศาสนา สนับสนุนงบประมาณและอุปกรณ์ ให้แก่สหกรณ์ผู้ผลิตกาแฟวันใหม่ แขวงหัวพัน สหกรณ์ผู้ผลิตชาเมิงเมิง แขวงบ่อแก้ว เพื่อส่งเสริมการพัฒนาทางเลือก และการพัฒนาอย่างยั่งยืนใน สปป.ลาว ให้ประชาชนได้รับประโยชน์โดยตรงด้วย

๐ โอกาสสำหรับการเพิ่มพูนความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนของไทยในลาวเป็นอย่างไร?

สปป.ลาว เป็นประเทศที่ตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์สำคัญของภูมิภาค และมีนโยบายเศรษฐกิจเอกราชเป็นเจ้าตนที่มุ่งเน้นการพึ่งพาตนเอง การพัฒนาเศรษฐกิจสีเขียว การเป็น "แบตเตอรี่แห่งเอเชีย" และการเปลี่ยนสถานะจากประเทศ Landlocked เป็น Land-Linked ผ่านโครงสร้างพื้นฐาน เช่น เส้นทางรถไฟลาว-จีน และท่าบกต่าง ๆ

แม้หลังวิกฤตโควิด-19 สปป.ลาว จะเผชิญความท้าทายทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะปัญหาหนี้สาธารณะ แต่ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ นโยบายดังกล่าวข้างต้น ยังคงเปิดโอกาสให้เกิดการลงทุนจากนักลงทุนไทย
ไทยมีบทบาทสำคัญในการลงทุนและนำเข้าพลังงานไฟฟ้าสะอาดจาก สปป.ลาว ขณะเดียวกัน สปป.ลาว ยังมีศักยภาพด้านสินค้าเกษตร อุตสาหกรรมเหมืองแร่ การขนส่ง และบริการที่เกี่ยวเนื่อง รวมถึงโอกาสในการพัฒนาอุตสาหกรรมสีเขียวที่สามารถแปรรูปวัตถุดิบเพื่อเพิ่มมูลค่าการส่งออก โดยปัจจัยด้านความสัมพันธ์อันใกล้ชิด การติดต่อสื่อสาร และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ จะช่วยเสริมสร้างโอกาสด้านการลงทุนของไทยในลาวต่อไป

๐ มีสิ่งใดที่คนไทยอาจเข้าใจผิด หรือควรเข้าใจประเทศลาวให้ถูกต้องมากขึ้นหรือไม่?
เวลาและการประทำเป็นเครื่องที่พิสูจน์ความเป็นมิตรที่ใกล้ชิดและผูกพันระหว่างไทยกับ สปป.ลาว ได้อย่างดี การให้ความเคารพและให้เกียรติซึ่งกันและกัน ทำให้ความสัมพันธ์แน่นแฟ้น มีความไว้วางใจกัน และควรรักษาไว้ให้มั่นคง

สปป.ลาว เป็นประเทศขนาดเล็กที่มีศักยภาพและโอกาสในการเติบโตอย่างยั่งยืนอีกมาก ความร่วมมือในลักษณะหุ้นส่วนเป็นสิ่งที่ควรส่งเสริม และไม่ควรมุ่งเพียงโอกาสทางอุตสาหกรรมขนาดใหญ่เท่านั้น หากควรส่งเสริมการพัฒนาในระดับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในฐานะ engine of growth ด้วย

สปป.ลาว ตั้งเป้าหมายที่จะหลุดพ้นจากสถานะประเทศพัฒนาน้อยที่สุด ดังนั้น ความร่วมมือในลักษณะหุ้นส่วนอย่างใกล้ชิดและการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในภาคธุรกิจ SMEs จะเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาและเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งไทยสามารถทำงานร่วมกับ ประเทศคู่ร่วมพัฒนาอื่น ๆ ตลอดจนองค์การระหว่างประเทศทั้งในระดับโลก ระดับภูมิภาค หรืออนุภูมิภาค เช่น คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (Mekong River Commission - MRC) เพื่อสร้างเสริมศักยภาพด้านการผลิต ด้านทรัพยากรมนุษย์ การบริหารจัดการทรัพยากร และการพัฒนาที่ยั่งยืน ให้กับ สปป.ลาวได้ นอกจากนี้ ความร่วมมือด้านความมั่นคง เช่น การแก้ไขปัญหายาเสพติดและศูนย์หลอกลวงออนไลน์ (Scam Center) เป็นประเด็นสำคัญ ที่ทั้งสองประเทศต้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังด้วย

การพัฒนาความร่วมมือของภาคส่วนต่าง ๆ ควรคำนึงถึงและผสานการทำงานระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน สื่อมวลชน และหน่วยงานของ สปป.ลาว เช่น ศูนย์กลางสหพันธ์แม่หญิงลาว ศูนย์กลางซาวหนุ่ม ประชาชนปฏิวัติลาว และภาคประชาชน เพื่อสร้างพลังร่วม (synergy) ในการนำนโยบาย ไปสู่การปฏิบัติให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม และเป็นประโยชน์ ต่อประชาชนของทั้งสองประเทศ

https://www.matichon.co.th/foreign/news_5511269
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> เกี่ยวกับรถไฟต่างประเทศ All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 299, 300, 301
Page 301 of 301

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©