View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43714
Location: NECTEC
|
Posted: 23/10/2007 5:47 pm Post subject: ประวัติ สรพ. ปากน้ำโพ |
|
|
ถ้าจะกล่าวถึง สรพ. ปากน้ำโพ ก็ต้องเท้าความถึงสถานีปากน้ำโพด้วย
สถานีปากน้ำโพเปิดพร้อมกับทางรถไฟสาย ลพบุรี - ปากน้ำโพ เมื่อ 1 พฤศจิกายน 2448 (รศ 124)
ส่วนสถานีหนองปลิง ที่ต่อมาเป็นสถานีนครสวรรค์ นั้น เปิดเมื่อ 4 กุมภาพันธ์ 2449 (ร.ศ. 125)
ตอนแรกเป็นสถานีไม้ 2 ชั้น ต่อมาภายหลัง เป็นสถานีอาคารชั้นเดียว แต่มีที่ทำการแพทย์ซึ่งเปิดทุกอังคาร
สถานีนี้มีย่านใหญ่ทำให้ต้องมีหอประแจกล
ตอนที่เปิดมามีโรงรถจักหลังคาสังกะสี จุรถจักร ได้ 4 หัว เพราะ สถานีปากน้ำโพเป็นต้นทาง - ปลาย ทางรถไฟ ขบวน กรุงเทพ - ปากน้ำโพ และ ต่อมาก็ปากน้ำโพ - พิษณุโลก (ภายหลัง ขยายไปไปอุตรดิตถ์ แล้วก็เด่นชัย)
เพราะเป็นต้นทางปลายทางและอยู่ติดแม่น้ำน่าน ทำให้ต้องมีหอจ่ายน้ำและ ที่เก็บฟืนซึ่งเรียงเป็นตั้งสูงถึงหอประแจและยาวตลอดย่านทางเหนือ ถึงทางใต้
ตอนนี้ตค้องจ่ายน้ำกันที่นี่ครับเพราะมีประปาเทศบาลแล้ว
สมัยแรกใช้วงเวียน เส้นผ่านศูนย์กลาง 14 เมตร ต่อมาในปี 2468 จึงเปลี่ยนมาใช้วงเวียน 15.24 เมตร (50 ฟุต) เพื่อใช้กับรถจักรอีคลาสได้ เป็นประแจทำงานด้วยมือหมุนดังภาพ
เมื่อปี 2461-2462 ได้มีการรื้อสถานีหลวงที่สามเสนลง โดยนำหลังคาชานชลายกไปปลูกใหม่ ที่สถานีปากน้ำโพ ส่วนตัวพลับพลายกไปปลูกเป็น สถานีรามราชนิเวศน์ ที่เพชรบุรี (เลยสถานีเพชรบุรีไปทางใต้ประมาณ 1-2 กิโลเมตร ตรงทางตัดใกล้แยกต้นมะม่วง ... แต่ตอนหลังเห็นว่าโดนรื้อไปทำเป็นห้องสมุดกรมรถไฟ หลังจาก ที่สร้างพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน
น่าเสียดายมาก ที่หลังคาชานชลาที่งามนั้นดดยพายุพัดพังพินาศเมื่อปี 2534
Last edited by Wisarut on 23/10/2007 7:21 pm; edited 3 times in total |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43714
Location: NECTEC
|
Posted: 23/10/2007 5:54 pm Post subject: |
|
|
ต่อมาในปี 2478 ได้มีการตั้ง สรจ. ปากน้ำโพขึ้น เพื่อรองรับการจเดินรถสายเหนือที่ทวีมากขึ้น โดยได้รถปั้นจันประจำการไว้ 2 หลังคือ
1. รถโบกี้ปั้นจั่น มือเบอร์ 11 ประจำการ กรมรถไฟ เมื่อ 1 ตุลาคม 2466
เจ้าโบกี้ปั้นจั่นมือเบอร์ 11 นั้นต้องใช้คนงาน 6 คน โดย 4 คนหมุนฟันเฟือง อีก 2 คน คุมตัวปั้นจั่นให้ได้ทิศทางตามที่กำหนด และ คุมไม่ให้เกิดการ Overload จนพัง ปั้นจั่นดังกล่าว ยก รถตญ. 10 ตันได้สบายมาก เพราะพิกัดทำได้ 12 ตัน แตค่วิ่งในย่านได้แค่ 5 kph ทำให้ ต้องพ่วงท้ายรถจักร
2. รถโบกี้ปั้นจั่นไอน้ำ เบอร์ 24 ประจำการกรมรถไฟ ปี 2474 เพื่อให้สอดคล้องกับการที่กรมรถไฟสั่งรถโบกี้โดยสารที่ทำจากเหล็กจาก Metrocamell ประเทศอังกฤษ แต่ปี 2473 รถปั้นจั่นนี้ยกได้ 25 ตันแถมใช้แค่ 2 คนก็ยกได้ แล้ว คนแรก คุมปั้นจั่น คนที่ 2 คุม หม้อน้ำและเติมฟืน
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43714
Location: NECTEC
|
Posted: 23/10/2007 6:18 pm Post subject: |
|
|
การคุมปั้นจั่นไอน้ำใช้สายตากะระยะ ให้ดีๆ อย่าให้ยกเกินพิกัด 25 ตันเป็นใช้ได้
จากนั้น ให้คุมคันยกไปซ้ายไปขวา โยกขึ้นลง ตามควร อย่าให้เกินพิกัด 25 ตัน
คนคุมหม้อน้ำ ต้องคอยดูระดับน้ำให้ดีๆ อย่าให้พร้อง ถ้าพร่องให้เติมน้ำเย็นเพิ่มเข้าไป
ให้เต็มแท่งแก้ว
เมื่อทำไอน้ำได้ดีแล้วก็โยก คันบังคับไอน้ำไป
ถ้าแรงดันไอเกินกำหนด 100 ปอนด์/ตารางนิ้ว ให้หมุนก๊อก ปล่อยไอออกไปเสียบ้างอย่าให้ไอเกินกำหนด
ถ้ามืดก็เดินเครื่องปั่นไฟ บนปั้นจั่นก็ได้
อย่างไรก็ตาม เจ้าปั้นจั่นไอน้ำนี้ได้คยสร้างอภินิหารยก คุณปู่ยีอี ที่ตกในย่านสถานีปากน้ำโพมาแล้ว งานนี้ใช้แค่ 2 วันก็ยกรถจักรนยีอีให้ขึ้นมาได้ แต่ต้องใช้ไม้หมอนหนุนขึ้นมา ไม่ต้องรอให้ ปั้นจั่นที่ศิลาอาศน์ มายกให้
Last edited by Wisarut on 23/10/2007 7:45 pm; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43714
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43714
Location: NECTEC
|
Posted: 23/10/2007 6:56 pm Post subject: |
|
|
ตอนนี้ สถานีปากน้ำโพก็โดนน้ำท่วมถล่มบ้านพักเอาแบบนี้ วันดีคืนดี พี่เห่า พี่เหลือม และ อ้ายเคี่ยม มาร่วมวงไพบูลย์กันในบ้านพักรถไฟ จนคนรถไฟอยู่ไม่ได้ เอา กำมะถันมาไล่พี่เห่า พี่เหลือมก็ไม่ไหว คราวนี้คงได้อยู่แพแน่ๆ ถ้า ครม. ไม่อนุมัติงบให้สร้างบ้านพักที่หนองปลิง หรืองบประมาณเพื่อยกเสาเรือนพักไปอยู่ที่หนองปลิงได้
ขณะนี้ต้องตั้งเต็นท์หนีน้ำแล้วอย่างที่เห็น
แม้แต่ทางไปท่าข้าวกำนันทรงก็ไม่เว้น
ถ้าขืนปล่อยไว้แบบนี้ ครฟ. ปากน้ำโพต้องมีหางเป็นปลา และ ครีบงอกที่แก้ม นอกหเหนือ จก มือเท้ามีพังผืด เพื่อว่ายน้ำได้ ... กลายเปนมนุษย์มัจฉาเต็มตัวก็คราวนี้เอง
แม้แต่ RUnning Room ก็ไม่ชวนให้ คนขับและช่างเครื่อง อยากจะพัก
หนักเข้า น้องปลวงก็เอาโรงรถจักรปากน้ำโพเป็นอาหารซะแล้ว
Last edited by Wisarut on 23/10/2007 7:44 pm; edited 2 times in total |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43714
Location: NECTEC
|
Posted: 23/10/2007 7:02 pm Post subject: |
|
|
ขณะนี้ สรจ. ปากน้ำโพได้รับงานซ่อมรถพ่วงเล้กๆ น้อยๆ ดังที่เห็นในภาพ
รถ บรช 35 ใช้ขนเครื่องมือซ่อมรถในสนาม
รถตญ. แบบ CH เบอร์ 381
เครื่อองอัดแหวน
เชื่อไหมครับว่า โรงงานปากนำโพทำพเครื่อง Blower แบบนี้เองได้
แหม ... ถ้าได้เครื่องกลึงแบบ CNC ที่ใช้คอมพิวเตอร์คุม มากลึงล้อพวกนี้หละก็เรี่ยมไปเลย
ที่นี่ก็เป้นจุดเติมน้ำมันด้วยนะ
บ่อนี้เขาว่ามีญี่ปุ่นมาจมน้ำตายที่บ่อในโรงรถจักรนี้ด้วย
ที่นี่เขาซ่อมล้อรถจักรกันแบบนี้
ถ้าหน่วยซ่อมอื่นมีเครื่องมือที่ไม่ใช้ จะบริจาคมาช่วยราชการ โรงซ่อมรถพ่วงปากน้ำโพก็จะยินดีมากเพราะจะได้ทำในสางที่คนโรงงานมักกะสันเขาทำกันแต่รุ่นปู่รุ่นพ่อได้ต่อเนื่องไปนะ
Last edited by Wisarut on 23/10/2007 7:28 pm; edited 2 times in total |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43714
Location: NECTEC
|
Posted: 23/10/2007 7:12 pm Post subject: |
|
|
ดูเอาเถอครับว่าเมืองปากน้ำโพ นั้นน้ำท่วมขนาดไหน ที่เห็นงามๆ แบบนี้จริงๆ ชาวบ้านแทบจะมีชีวิตอยู่ไม่ได้นะครับ
อรุณรุ่งที่คลองบางปลากด
อรุณรุ่งที่ ทับกฤช
เมืองนครสวรรค์ยามหน้าน้ำ
แม่น้ำน่านยามน้ำหลาก
น้ำท่วมทับกฤช
น้ำท่วมชุมแสง
บึงบรเพ็ดยามน้ำหลาก
ประตูน้ำที่เป็นตัวสร้างบึงบรเพ็ดขึ้นมา
สิ่งที่เคลื่อนที่ไปมายามน้ำท่วมปากน้ำโพ
Last edited by Wisarut on 23/10/2007 7:22 pm; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43714
Location: NECTEC
|
Posted: 23/10/2007 7:20 pm Post subject: |
|
|
มาดูอะไรที่ผ่อนคลายบ้างดีกว่า
สะพานปากนำโพที่เห็นนี้สร้างใหม่โดยญี่ปุ่นเมื่อปี 2491 เพื่อแทนสะพานเก่าที่โดนกองทัพสัมพันธมิตรถล่มเมื่อปี 2488
สะพาน ปากน้ำโพ เมื่อมีขบววนรถน้ำมันไปบึงพระผ่านมา
รถต็อก โค้งปากน้ำโพ
รถปั้นจั่นมือจำลองทำด้วยไม้
|
|
Back to top |
|
|
tuie
1st Class Pass (Air)
Joined: 09/07/2006 Posts: 12156
Location: สถานีบ้านตุ้ย
|
Posted: 23/10/2007 9:09 pm Post subject: |
|
|
ขอบคุณ คุณวิศรุต ที่กรุณาเรียบเรียงเรื่องราวสาระความรู้เกี่ยวกับแขวงฯปากน้ำโพ ซึ่งชาวคณะ RFT เพิ่งจะเข้าเยี่ยมชมครับ
ที่แห่งนี้มีประวัติศาสตร์ ความเป็นมาอันยาวนาน ถึงบุคลากรจะประสบปัญหาจากภัยธรรมชาติเป็นประจำ ชีวิตความเป็นอยู่ยากลำบากไปบ้าง แต่ทุกท่านต่างไม่ย่อท้อต่อปัญหา อุปสรรค ความไม่สะดวกประการต่างๆ จึงต้องขอแสดงความชื่นชมมา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ปล. มีแมงหวี่ฝากถามมาว่า คุณวิศรุตปีนขึ้นไปเก็บภาพกลไกบนรถปั้นจั่นได้อย่างไร ออกจะสูงขนาดนั้น ผมจะอธิบายวิธีการปีนขึ้นให้ฟัง แมงหวี่อาจไม่เข้าใจ จึงขออนุญาตนำภาพมาประกอบการอธิบายในกระทู้นั่งยางฯ ของพี่ว๊ากได้ไหมครับ หากไม่ค้านภายใน ๓ นาที นับจากนี้ ถือว่าผู้เสียหายอนุญาตโดยจำใจ เอ๊ย! โดยปริยายนะครับ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43714
Location: NECTEC
|
Posted: 23/10/2007 9:24 pm Post subject: |
|
|
tuie wrote: | ขอบคุณ คุณวิศรุต ที่กรุณาเรียบเรียงเรื่องราวสาระความรู้เกี่ยวกับแขวงฯปากน้ำโพ ซึ่งชาวคณะ RFT เพิ่งจะเข้าเยี่ยมชมครับ
ที่แห่งนี้มีประวัติศาสตร์ ความเป็นมาอันยาวนาน ถึงบุคลากรจะประสบปัญหาจากภัยธรรมชาติเป็นประจำ ชีวิตความเป็นอยู่ยากลำบากไปบ้าง แต่ทุกท่านต่างไม่ย่อท้อต่อปัญหา อุปสรรค ความไม่สะดวกประการต่างๆ จึงต้องขอแสดงความชื่นชมมา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ปล. มีแมงหวี่ฝากถามมาว่า คุณวิศรุตปีนขึ้นไปเก็บภาพกลไกบนรถปั้นจั่นได้อย่างไร ออกจะสูงขนาดนั้น ผมจะอธิบายวิธีการปีนขึ้นให้ฟัง แมงหวี่อาจไม่เข้าใจ จึงขออนุญาตนำภาพมาประกอบการอธิบายในกระทู้นั่งยางฯ ของพี่ว๊ากได้ไหมครับ หากไม่ค้านภายใน ๓ นาที นับจากนี้ ถือว่าผู้เสียหายอนุญาตโดยจำใจ เอ๊ย! โดยปริยายนะครับ |
กรณีเช่นนี้ ก็ใช้แรงแขนไต่ขึ้นแล้วลงโดยอย่าหันหัวลงไปข้างล่างเหมือนลิง นะครับ |
|
Back to top |
|
|
|