View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 25/10/2007 12:54 pm Post subject: |
|
|
มองไปทางสถานีชุมทางตลิ่งชันครับ จากตรงนี้ไปทางรถไฟจะตรงไปเรื่อย ๆ แล้วโค้งขวา ขนานไปกับทางประธานสายสถานีธนบุรี - สถานีชุมทางตลิ่งชัน แล้วจะเข้าสู่สถานีชุมทางตลิ่งชันครับ
มาดูที่ทางประธานขาออกจากกรุงเทพกันชัด ๆ จะเห็นว่าใช้หมอนคอนกรีต Mono Block แต่ก็มีจุดที่เป็นข้อต่อของรางที่ยังคงใช้หมอนไม้อยู่
ขนาดของราง ( น่าจะ ) เป็น 80 ปอนด์ ตัวอักษรที่อยู่ที่รางก็คือ " 1958 RSR OB " ครับ
ที่เห็นว่ารางเปียกนี่ ไม่ใช่น้ำที่มีใคร หรือตัวไหนไปปล่อยเอาไว้นะครับ เป็นน้ำดื่มของผมนั่นเอง ที่เทลงไปก็เพราะว่าก่อนหน้านั้นไปตากฝนอยู่ที่สะพานแห่งหนึ่ง พอฝนหยุดตกแล้ว ผมมองไปที่ราง เห็นตัวอักษรที่อยู่ที่รางชัดเจนมาก แทบไม่ต้องเพ่ง ไม่ต้องขัด ไม่ต้องถูเลยครับ ก็เลยลองเลียนแบบฝนตกดู วันนั้นน้ำมากกว่าครึ่งขวดหมดไปกับการเทลงบนรางนี่ล่ะครับ _________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
Adithepc20
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/07/2006 Posts: 3403
Location: ลาดพร้าว 71 หรือ ชานเมือง 9
|
Posted: 25/10/2007 1:00 pm Post subject: |
|
|
เอามาลงซะทีนะครับ พี่เต้ย เห็นดองเอาไว้นานพอสมควรเลยนะครับ _________________ ฮิตาชิ 4506 ขณะทำขบวนรถสินค้าที่ 879 ออกจากสถานีชุมทางศรีราชา วันที่ 20 เม.ย. 2553 เวลา 16.50 น.
|
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 25/10/2007 1:17 pm Post subject: |
|
|
Adithepc20 wrote: | เอามาลงซะทีนะครับ พี่เต้ย เห็นดองเอาไว้นานพอสมควรเลยนะครับ |
พี่ไม่ได้ตั้งใจจะดองนะครับน้องอู๋ เพียงแต่ว่าหยิบกระทู้นี้เอามาคั่นเวลาเล็ก ๆ น้อย ๆ ก่อนจะเดินทางไปทริปใหญ่ครับ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เดินย้อนกลับมาสำรวจ " สะพานข้ามคลองบางกอกน้อย " ที่อยู่ทางด้านทางประธานขาเข้ากรุงเทพกันครับ เริ่มจากทางฝั่งสถานีบางบำหรุ...
เดินมาดูด้านข้างครับ รูปร่างแปลกตาไปจากสะพานอื่น ๆ ที่เคยนำเสนอไปครับ สำหรับพี่ ๆ น้อง ๆ ที่เดินทางผ่านไปในเส้นทางสายใต้จะเห็นสะพานรูปร่างแบบนี้จนชินตา แต่ถ้าผ่านไปที่สถานีนาชะอัง และที่สถานีนาสารตอนกลางคืน ก็คงจะมองไม่เห็น ได้ยินเพียงแต่เสียงเท่านั้นครับ นอกจากสะพานที่อยู่ใกล้ ๆ กับสถานีนาชะอัง และสถานีนาสารแล้ว ก็ยังมีสะพานลักษณะคล้าย ๆ กันนี้อยู่ใกล้ ๆ กับสถานีอยุธยาด้วยครับ
มองลงไปดูตอม่อ 2 ต้น ที่อยู่ข้างล่างครับ เห็นฝีมือของพวกมือบอนหรือเปล่าครับ จริง ๆ แล้วตอม่อก็ไม่ได้อยู่ชิดริมตลิ่งนะครับ จะข้ามไปพ่นสี หรือเขียนอะไรก็คงจะต้องออกแรงสักหน่อย ก็ยังพยายามข้ามไปจนได้ เฮ้อ...
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 25/10/2007 1:36 pm Post subject: |
|
|
nirakan wrote: | ชอบทางรถไฟแถวฝั่งธนจังครับ เหมือนไม่ได้อยู่ในกรุงเทพ มีแต่สวน
บางคนอาจจะไม่รู้ ถ้าไม่สังเกตุว่ามองทะลุออกแนวร่องสวนไป จะเห็นทางด่วนตีขนานอยู่ |
สำหรับตัวพี่ พี่คิดว่าเส้นทางสายใต้นี่ มีหลายช่วงที่น่าสนใจมาก ๆ ครับ แต่น่าเสียดายแค่ว่าในช่วงกลางวันมีขบวนรถวิ่งผ่านน้อยไปหน่อย แถมส่วนใหญ่ก็เป็นรถท้องถิ่นอีกต่างหาก ถ้าอยากจะเห็นเส้นทางตลอดทั้งสายอย่างชัดเจนก็คงจะต้องเผื่อเวลาเอาไว้เยอะหน่อยล่ะครับ ไหนจะต้องหาช่วงเวลาที่ฝนไม่ค่อยจะตกอีก...
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
nameplate ของสะพานแห่งนี้จะติดอยู่ที่โครงเหล็กทางด้านซ้ายของสะพานครับ เป็นสะพานสัญชาติอังกฤษครับ
พี่ ๆ น้อง ๆ ที่ได้แวะไปที่สถานีอยุธยาบ่อย ๆ ช่วงงานรถจักรไอน้ำได้เคยสังเกตเห็น nameplate ของสะพานที่อยู่ที่ราง 3 บ้างหรือเปล่าครับ
ถัดขึ้นไปข้างบนเป็นป้ายบอกพิกัดน้ำหนักกดเพลาที่สะพานแห่งนี้รับได้ นั่นก็คือ 20 ตัน ครับ
ที่คอสะพานมีป้ายบอกพิกัดน้ำหนักกดเพลาติดอยู่อีก 1 ป้าย ใกล้ ๆ กันมีตัวอักษร " สร้างเสร็จเมื่อ ๕ / ก.ค. / ๒๕๓๘ " เป็นวันที่การก่อสร้างทางคู่เสร็จสิ้นหรือเปล่าครับ
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 25/10/2007 1:52 pm Post subject: |
|
|
ทางขวา มีทางเดินอยู่ข้าง ๆ สะพานด้วย พื้นทางเดินก็เป็นแผ่นไม้เหมือนกับสะพานที่อยู่ทางด้านทางประธานขาออกจากกรุงเทพครับ
ทางประธานที่อยู่ข้างในสะพาน จากที่คิดว่าเป็นสะพานใหม่ ก็น่าจะใช้หมอนเหล็ก แต่ที่ไหนได้กลับเป็นหมอนไม้ธรรมดา ๆ ครับ ผิดคาดแฮะ...
โครงเหล็กที่รับน้ำหนักของสะพาน และช่วงรอยต่อของโครงสะพานครับ
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
tuie
1st Class Pass (Air)
Joined: 09/07/2006 Posts: 12156
Location: สถานีบ้านตุ้ย
|
Posted: 25/10/2007 1:54 pm Post subject: |
|
|
เห็นภาพสะพานข้ามคลองบางกอกน้อยแล้วนึกถึงความหลัง(อีกแล้วครับ)
ผมย้ายบ้านจากฝั่งกรุงเทพไปฝั่งธนบุรีเมื่อปี ๒๕๒๙ เหตุที่บ้านหลังใหม่อยู่ใกล้ๆสะพานข้ามคลองบางกอกน้อย ก็เพราะลูกๆซึ่งมีผมเป็นแกนนำนี่แหละครับ ที่เชียร์คุณพ่อ คุณแม่ให้ซื้อที่ดินที่ตั้งสถานีบ้านตุ้ยในปัจจุบันนี้ เพราะอยู่ในซอยชัยพฤกษ์ ตอนไปโรงเรียน หรือออกนอกบ้านผมจะได้นั่งรถข้ามทางตัดเสมอระดับซอยนี้ซึ่งอยู่ระหว่างสะพานกับสถานีชุมทางตลิ่งชันทุกๆวัน แถมว่างๆจะได้มาดักดูรถไฟสายใต้บ่อยๆ
ช่วงระหว่างการก่อสร้างอาคารสถานีบ้านตุ้ยประมาณต้นปี-กลางปี ๒๕๒๙ ผมติดตามคุณพ่อคุณแม่มาดูการก่อสร้างแทบทุกอาทิตย์ ไม่ค่อยจะสนใจความคืบหน้าในการก่อสร้างสักเท่าใด เพราะความจริงแล้วตั้งใจจะไปดูรถไฟซะมากกว่า ผมเดินจากที่ก่อสร้างลัดเลาะตามซอกซอยซึ่งยังเป็นสวนร่มรื่นประมาณ ๑๕ นาที ก็ถึงเชิงสะพานข้ามคลองบางกอกน้อยแล้วละครับ ขบวนรถยอดฮิตที่ดักรอดูเป็นประจำ คือ ขบวนรถด่วนที่ ๑๙ กรุงเทพ-ยะลา (ปัจจุบัน คือ ขบวน ๓๗) ขบวนรถด่วนที่ ๑๑ กรุงเทพ-บัตเตอร์เวอร์ธ/สุไหงโกลก (ปัจจุบัน คือ ขบวน ๓๕)
แม้สมัยนั้น(จนกระทั่งบัดนี้) ผมไม่เคยมี ปดร. แต่สามารถกะเวลาดักรอดูรถไฟที่สะพานนี้ได้ไม่พลาด เพราะเวลานั่งรถไฟลงใต้ ผมสังเกตเวลาที่รถวิ่งจากสถานีกรุงเทพ-สะพานนี้ ประมาณ ๓๕ นาที ผมนำเวลารถออกจากกรุงเทพบวกเวลาเข้าไป ๓๕ นาที แล้วไปดักรอดูก่อนขบวนรถมาถึงสะพานประมาณ ๑๐ นาที อย่างขบวน ๑๙ ออกจากกรุงเทพ ๑๔.๓๐ น. จะถึงสะพานนี้ประมาณ ๑๕.๐๕ น. ผมก็เดินออกจากบ้าน ๑๔.๔๐ น. ถึงสะพาน ๑๔.๕๕ น. ครับ ยุคนั้นขบวนรถค่อนข้างจะตรงเวลาจึงใช้เวลาไม่เกิน ๓๕-๔๐ นาที ก็จะแล่นถึงสะพานนี้เสมอ
ในปีนั้นขบวนรถด่วน รถเร็ว สายใต้ ยังไม่จอดบางบำหรุ ขบวนรถจึงแล่นผ่านสะพานนี้ด้วยความเร็วประมาณ ๘๐-๘๕ ก.ม./ช.ม. เสียงสะพานดัง สั่นสะเทือน สะใจดีแท้ ยิ่งวันที่ขบวนรถช้า พขร. เร่งทำเวลายิ่งน่าดูชมครับ เสียงน้าต้อมคำรามดังลั่นมาแต่ไกล ชักหวีดดังสนั่น แล้วแล่นโผล่พ้นโค้งออกจากบางบำหรุมาอย่างรวดเร็ว ยากที่จะบรรยายความมันส์เป็นลายลักษณ์อักษรจริงๆครับ เสียดายที่ในยุคนั้นไม่มีกล้องดิจิตอลเหมือนปัจจุบันไม่อย่างนั้นคงเก็บภาพไว้เพียบเลยละครับ
อ้อ! สมัยนั้น(๒๕๒๙)ทางช่วงนี้ยังเป็นทางเดี่ยว สะพานมีเพียงสะพานเดียว คือ สะพานดำ ครับ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43925
Location: NECTEC
|
Posted: 25/10/2007 2:00 pm Post subject: |
|
|
ExtendeD wrote: | พี่ ๆ น้อง ๆ ที่ได้แวะไปที่สถานีอยุธยาบ่อย ๆ ช่วงงานรถจักรไอน้ำได้เคยสังเกตเห็น nameplate ของสะพานที่อยู่ที่ราง 3 บ้างหรือเปล่าครับ |
ออ สะพานนั้นอิตาเลียนไทยทำเอง ที่กม. 70+9xxx น่อ |
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 25/10/2007 2:11 pm Post subject: |
|
|
ทางประธานขาเข้ากรุงเทพเป็นรางขนาด 100 ปอนด์ครับ
เดินผ่านช่วง Span แรกไปถึงช่วง Span ที่ 2 ของสะพานแห่งนี้แล้วครับ เท่าที่ผมลองสังเกตดูด้วยสายตา ถ้าตาผมไม่ลายจนเบลอไปเอง ผมเห็นว่าช่วง Span ที่ 2 นี้มีความยาวกว่าช่วง Span ที่ 1 และ 3 ครับ
มองออกไปด้านนอกสะพาน จะเห็นบ้านเรือนหลายหลังอยู่ริมคลองบางกอกน้อย รู้สึกคล้าย ๆ กับอยู่ต่างจังหวัด เพราะแทบจะมองไม่เห็นตึกสูง ๆ เลยครับ
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 25/10/2007 2:34 pm Post subject: |
|
|
tuie wrote: | ในปีนั้นขบวนรถด่วน รถเร็ว สายใต้ ยังไม่จอดบางบำหรุ ขบวนรถจึงแล่นผ่านสะพานนี้ด้วยความเร็วประมาณ ๘๐-๘๕ ก.ม./ช.ม. เสียงสะพานดัง สั่นสะเทือน สะใจดีแท้ ยิ่งวันที่ขบวนรถช้า พขร. เร่งทำเวลายิ่งน่าดูชมครับ เสียงน้าต้อมคำรามดังลั่นมาแต่ไกล ชักหวีดดังสนั่น แล้วแล่นโผล่พ้นโค้งออกจากบางบำหรุมาอย่างรวดเร็ว ยากที่จะบรรยายความมันส์เป็นลายลักษณ์อักษรจริงๆครับ เสียดายที่ในยุคนั้นไม่มีกล้องดิจิตอลเหมือนปัจจุบันไม่อย่างนั้นคงเก็บภาพไว้เพียบเลยละครับ |
ได้อ่านความหลังของพี่ตุ้ยแล้ว ทำให้อดจินตนาการไม่ได้ว่า ถ้ามีโอกาสได้ปลูกบ้านสักหลัง จะไปปลูกอยู่ใกล้ ๆ กับสะพาน จะเลือกสะพานไหนดี เอาไว้คิดเล่น ๆ ตอนกำลังว่าง ๆ หรือพักสายตาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ คงจะสุขใจไม่น้อยเลยครับ
Wisarut wrote: | ออ สะพานนั้นอิตาเลียนไทยทำเอง ที่กม. 70+9xxx น่อ |
เป็นของอิตาเลียน - ไทย เหรอครับพี่วิศรุต ผมดูแล้ว คล้ายกับ " สะพานข้ามคลองบางกอกน้อย " มากกว่า " สะพานข้ามแม่น้ำป่าสัก " ที่สถานีท่าเรือ ก็เลยคิดว่าเป็นสะพานสัญชาติอังกฤษเหมือนกันเสียอีกครับ ขอบคุณมากครับพี่
ผมเคยมีโอกาสพา ส. แขวงกับรถพ่วงทั้ง 2 คันไปไหว้หลวงพ่อโต วัดพนัญเชิงที่อยุธยาครั้งหนึ่ง เมื่อหลาย ๆ เดือนก่อนหน้าโน้น พอคุณเธอก้าวลงจากรถไฟ ก็รีบเดินไปเรียกสามล้อที่จอดรออยู่ข้างหน้าสถานีทันที อะ... ไม่ว่าอะไร ถือซะว่าอยากจะไหว้พระเร็ว ๆ
แต่พอตอนกลับมาถึงสถานีก็บอกว่าจะกลับขบวนที่ 212 ทั้ง ๆ ที่รออีกประมาณ 15 นาที ขบวนที่ 110 ( ที่ตอนนั้นยังวิ่งอยู่ ) ก็จะไล่หลังมา สรุปแล้ววันนั้นไปที่อยุธยามีเวลาอยู่ที่สถานีไม่ถึง 10 นาทีเลยครับ ไม่ได้เดินดูอะไรเลย รีบร้อนจริงแม่คุณ...
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
คานรับน้ำหนัก และจุดเชื่อมโครงสะพาน มองจากสะพานที่อยู่ทางด้านทางประธานขาออกจากกรุงเทพครับ
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
OutRun
1st Class Pass (Air)
Joined: 26/05/2006 Posts: 1187
|
Posted: 25/10/2007 2:36 pm Post subject: |
|
|
ExtendeD wrote: |
ที่คอสะพานมีป้ายบอกพิกัดน้ำหนักกดเพลาติดอยู่อีก 1 ป้าย ใกล้ ๆ กันมีตัวอักษร " สร้างเสร็จเมื่อ ๕ / ก.ค. / ๒๕๓๘ " เป็นวันที่การก่อสร้างทางคู่เสร็จสิ้นหรือเปล่าครับ |
ปี 2538 เสร็จแค่ตอม่อสะพานครับ ตัวสะพานยังไม่ได้สร้าง และดินคันทางก็เพิ่งจะถมเสร็จได้ไม่นาน
ตัวสะพานน่าจะเสร็จประมาณ พ.ศ. 2540 หน่ะครับ ถ้าผมจำไม่ผิด ส่วนรางก็เพิ่งจะวางประมาณปี พ.ศ. 2540 นั่นแหละครับ
แต่กว่าจะเปิดใช้ทางคู่จริง ๆ โน่นแหน่ะครับ เดือน พฤษภาคม 2546 ส่วนภาพข้างล่างนี้ ณ สถานี ชุมทางตลิ่งชัน พ.ศ. 2539 ครับ
_________________ นายจักรยานกับการรถไฟ ฯ |
|
Back to top |
|
|
|