View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 08/11/2007 8:40 am Post subject: |
|
|
เดินไปตามทิศทางที่ป้ายบอกก็จะมาถึงบริเวณทางเข้าสู่ " พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน " ที่อยู่ทางซ้ายของป้ายชื่อที่อยู่ริมรั้วครับ
เดินผ่านประตูเข้ามาด้านใน ก็จะเห็นจุดตรวจบัตรครับ เจ้าหน้าที่ที่นี่แต่งกายด้วยชุดไทยเข้ากับบรรยากาศครับ
เดินผ่านจุดตรวจบัตรเข้ามาทางขวาจะเป็นห้องอาหารขายขนมและเครื่องดื่ม ส่วนทางซ้ายเป็นห้องแสดงรายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับ " พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน "
สำหรับป้ายที่มีข้อมูลสำคัญเท่าที่มีเวลาเก็บภาพเอาไว้ก็มีอยู่ 2 ป้ายครับ
ข้อมูลตามป้าย wrote: | ความหมายของพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทาน " มฤคทายวัน " ด้วยมีพระประสงค์จะรักษาความหมายของชื่อตำบล " ห้วยทราย " เนื่องจากเป็นท้องที่ที่ชุกชุมไปด้วยเนื้อทรายซึ่งเป็นสัตว์ป่าประเภทกวางมากินน้ำที่ตามลำห้วย
การพระราชทานนามอันเป็นสิริมงคล ตามชื่อ " ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน " ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนา และด้วยเหตุที่ทรงมีน้ำพระราชหฤทัยเมตตาต่อสัตว์ทั้งหลาย มฤคทายวัน หมายถึง ป่าที่กวางอยู่ได้อย่างเป็นสุข จึงมีพระบรมราชโองการฉบับวันที่ ๑๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๖๗ ประกาศให้เขตพระราชนิเวศน์ฯ เป็นเขตอภัยทาน ห้ามมิให้ทำอันตรายแก่สัตว์ โดยกำหนดเขต ด้านตะวันออกชายฝั่งทะเล ตั้งแต่วัดบางทรายจดบ้านบ่อเคียะ ยาว ๑๒๕ เส้น ( ๕ กิโลเมตร ) ด้านทิศเหนือจากฝั่งทะเลยื่นเข้าไปจดเขาเสวยกะปิ ยาว ๑๙๐ เส้น ( ๗.๖
กิโลเมตร ) ด้านใต้ยื่นจากชายทะเลขึ้นไปจดเขาสามพระยา ยาว ๑๒๕ เส้น ( ๕ กิโลเมตร ) |
ข้อมูลตามป้าย wrote: | ลักษณะสถาปัตยกรรมของพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชประสงค์ที่จะสร้างพระราชนิเวศน์มฤคทายวันโดยใช้ทุนทรัพย์น้อยที่สุด ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นายแอร์โคเล มันเฟรดี ( Ercole Manfredi ต่อมามีชื่อไทยว่า นายเอกฤทธิ์ หมั่นเฟ้นดี ) สถาปนิกชาวอิตาเลียน สังกัดกรมโยธาธิการ ออกแบบพระราชนิเวศน์ฯ ตามแบบที่กล่าวกันว่าทรงร่างด้วย ฝีพระหัตถ์ของพระองค์เอง และมีพระบรมราชโองการให้เจ้าพระยายมราช ( ปั้น สุขุม ) เสนาบดีกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้อำนวยการก่อสร้าง โดยใช้ช่างชาวจีนเป็นแรงงานหลักในการก่อสร้าง
ลักษณะสถาปัตยกรรมของพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน เป็นแบบไทยประยุกต์ ( เรือนไทยผสมยุโรป ) สร้างด้วยไม้สักทองทั้งหลัง บนเสาคอนกรีตมีใต้ถุนสูง พื้นล่างเทคอนกรีต ซึ่งกันปัญหาความชื้นจากดินสู่อาคาร ป้องกันอันตรายจากสัตว์ร้าย และผู้รักษาเวรยามก็สามารถเห็นพระที่นั่งได้สะดวกทั่วถึง หลังคาหมู่พระที่นั่งเป็นทรงปั้นหยาแบบไทย มุงด้วยกระเบื้องว่าวสี่เหลี่ยม ซึ่งสามารถกันแดดกันฝนดีกว่าหลังคาทรงจั่วธรรมดา มีเกล็ดระบายอากาศร้อนออกจากช่องระหว่างฝ้าเพดานกับหลังคา หน้าต่างบานกระทุ้งตีเกล็ดเพื่อให้รับลม และกันแดดตามช่วงเวลาของวัน อาคารมีเพดานสูง และมีการเจาะฉลุลายช่องลมบริเวณใกล้เพดาน ทำให้อากาศร้อนสามารถไหลออกภายนอกได้สะดวก อาคารแต่ละหลังเชื่อมกันด้วยระเบียงที่มีหลังคาคลุมกันแดดและฝน ตัวอาคารทั้งหมดใช้เสารองรับน้ำหนักทั้งสิ้น ๑,๐๘๐ ตัน ทั้งหมดตั้งระยะห่างเท่ากันเรียกว่า ระบบพิกัด ( Modular System )
พระราชฐานที่ประทับประกอบไปด้วยหมู่พระที่นั่ง ๓ องค์ ซึ่งยาวทั้งสิ้น ๓๙๙ เมตร แบ่งเป็นสามส่วน คือ ท้องพระโรง เขตที่ประทับฝ่ายหน้าและเขตที่ประทับฝ่ายใน มีชื่อเรียกตามลำดับว่า หมู่พระที่นั่งสโมสรเสวกามาตย์ หมู่พระที่นั่งสมุทพิมานและหมู่พระที่นั่งพิศาลสาคร อาคาร ๑๖ หลังของหมู่พระที่นั่งทั้ง ๓ องค์มีบันไดขึ้นลงได้โดยไม่รบกวนกันรวมถึง ๒๒ แห่ง |
ออกมาจากห้องแสดงรายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับ " พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน " มองตรงไปข้างหน้าจะเห็นเป็นทางเดินที่รอบข้างมีแต่ต้นไม้ทั้งนั้น นี่คือทางเข้าไปสู่ " อุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธร " ครับ ข้างในนั้นจะมีน้ำพุที่เห็นอยู่นี้เป็นจุดเด่นเลยครับ
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 08/11/2007 9:29 am Post subject: |
|
|
เดินตามทางเดินไปเรื่อย ๆ จนผ่าน " อุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธร " ไป ก็จะมาถึง " พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน " กันจริง ๆ เสียทีครับ
ที่บริเวณทางเข้าเจ้าหน้าที่จะปล่อยให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปเป็นกลุ่ม ๆ ครับ โดยเว้นระยะห่างกันประมาณ 10 นาที โดยที่มีเก้าอี้เตรียมเอาไว้ให้นักท่องเที่ยวนั่งรออยู่ที่ด้านหน้าทางเข้านี้ ส่วนรถจักรยานที่เช่ามา ก็แน่นอนว่าต้องจอดทิ้งเอาไว้ข้างหน้านี่ล่ะครับ
นอกจากบรรยากาศจะเย็นสบาย ได้เห็นฟ้าสวย ๆ ใส ๆ แล้ว เจ้าหน้าที่ที่คอยต้อนรับอยู่บริเวณทางเข้านี้ยังยิ้มแย้มเป็นกันเองกับนักท่องเที่ยวมาก ๆ ดูอย่างในรูปสิครับ ยิ้มกว้างเชียว รูปนี้ถ่ายตอนเผลอนะครับ แต่ผมก็ขออนุญาตกับพี่ ๆ เขาแล้ว ไม่ได้เป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลแต่ประการใด แถมยังบอกให้ถ่ายใหม่อีกรอบพร้อมโพสท์ท่าอย่างดี แต่ผมเลือกรูปนี้ดีกว่าครับเป็นธรรมชาติดี
ส่วนที่เห็นอยู่บนโต๊ะนั้นเป็นถุงผ้าดิบลายกระต่าย ที่มีไว้ขายให้กับนักท่องเที่ยว ราคาใบละ 20 บาท เพื่อเอาไว้ใส่รองเท้าที่ทุกคนจะต้องถอดออกครับ เพราะหลังจากก้าวผ่านบริเวณทางเข้านี้ไปพื้นทางเดินจะเป็นพื้นไม้ขึ้นเงาสวยงาม แต่ถ้าไม่ต้องการซื้อถุงผ้า เจ้าหน้าที่ก็มีถุงพลาสติกใสไว้คอยให้บริการเช่นกันครับ เพียงแต่ว่าหลังจากเข้าชม " พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน " แล้ว ต้องเอามาคืนเพื่อหมุนเวียนกลับมาใช้อีกเท่านั้นเองครับ
ระหว่างที่นั่งรออยู่ที่ทางเข้า เจ้าหน้าที่ก็ได้อธิบายเพิ่มเติมว่า
เจ้าหน้าที่ wrote: | การเดินขึ้นไปบน " พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน " นั้น
- ให้ขึ้นทางด้านทิศเหนือ แล้วลงทางด้านทิศใต้
- อนุญาตให้ถ่ายเฉพาะภาพนิ่ง ไม่ให้ถ่าย VDO
- ในส่วนของที่ประทับที่มีป้ายห้ามถ่ายรูป ก็ห้ามถ่ายอย่างเด็ดขาด
- ห้ามใช้โทรศัพท์มือถือ |
ผมชอบที่นี่จริง ๆ ครับ เพราะนอกจากจะได้เห็นสถาปัตยกรรมที่สวยงาม เรียบง่าย แล้วบรรยากาศที่นี่ก็ยังเงียบสงบ เสียงคลื่นพัดเข้าฝั่งลอยเข้าหูมาเป็นระยะ ๆ ช่วงที่นั่งรอ 10 นาทีนี่ถ้าได้มารอที่นี่จะรู้สึกว่าไม่นานเลยครับ ไม่นานก็ถึงเวลาได้เข้าไปชมด้านในของ " พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน " แล้วครับ
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 08/11/2007 10:22 am Post subject: |
|
|
บันไดทางเดินขึ้นไปสู่ด้านบนมีลักษณะโค้ง ๆ คล้ายบันไดวนตามแบบที่เคยเห็นทั่วไปครับ พอขึ้นมาถึงด้านบนก็เห็นว่าไม่ได้เงียบเหงาเหมือนกับข้างล่างนะครับ เพราะมีนักท่องเที่ยวอีกหลายคนที่ได้มาเที่ยวที่ " พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน " เช่นกัน ในตอนนั้นได้ยินแว่ว ๆ มาว่าที่นี่เพิ่งจะทาสีใหม่ไปไม่นานครับ
ลักษณะเด่นที่สำคัญของ " พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน " น่าจะเป็นระเบียงที่ยื่นออกไปทางชายหาดครับ ที่เห็นนี้เป็นทางเดินไปสู่ " ศาลาลงสรงฝ่ายหน้า " ครับ
ในวันที่ผมไปนั้น มีป้ายห้ามไม่ให้นักท่องเที่ยวเดินผ่านระเบียงนี้ไปครับ ผมไม่แน่ใจว่าป้ายนี้ติดมานานแค่ไหนแล้ว แต่จำได้ว่ามาเที่ยวที่นี่ครั้งก่อนหน้านี้ ยังเดินไปถึงปลายสุดของระเบียงนี้ได้ครับ
ที่อยู่ระหว่างทางเดินไปสู่ " ศาลาลงสรงฝ่ายหน้า " กับ " ศาลาลงสรงฝ่ายใน " ที่ผมกำลังจะเดินไปนี้ก็คือ " สวนมัทธะพาธา " ที่เห็นอยู่ในรูปนี้ครับ
เดินผ่านมาอีกด้านก็จะเป็นระเบียงทางเดินไปสู่ " ศาลาลงสรงฝ่ายใน " ครับ แล้วก็เหมือนกับที่ระเบียงทางเดินไปสู่ " ศาลาลงสรงฝ่ายหน้า " ที่มีป้ายแจ้งว่าห้ามเดินผ่านไปเช่นกัน
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 08/11/2007 11:11 am Post subject: |
|
|
ที่เห็นอยู่นี้คือ " หอเสวยฝ่ายใน " ครับ
นอกจากนี้ยังมีห้องเล็ก ๆ อีกหลายห้องครับ ยกตัวอย่างคร่าว ๆ ก็มี
- พระที่นั่งพิศาลสาคร
- พระที่นั่งสมุทพิมานองค์แรก
- ห้องแสดงนิทรรศการบทพระราชนิพนธ์ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
- เรือนพักอธิการบดีกรมมหาดเล็ก เป็นต้นครับ
แต่ผมคิดว่ายังมีอีกห้องหนึ่งที่น่าสนใจครับ เป็นห้องที่พูดถึงนี้มีรูปภาพติดอยู่ที่ฝาผนังหลายรูปเลยครับ แต่มีอยู่ 2 รูปที่ผมคิดว่าพวกเราน่าจะให้ความสนใจมากกว่ารูปอื่นครับ
Edit wrote: | นั่นก็คือรูปของ " สถานีหัวหิน " ในอดีตครับ |
ส่วนรูปนี้ถ่ายที่ " สถานีหัวหิน " ครับ กลุ่มคนที่อยู่ในรูปดูจากการแต่งกายแล้วน่าจะเป็นชนชั้นเจ้านาย
จริง ๆ แล้วที่ " พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน " ยังมีอะไรที่น่าสนใจอีกหลายอย่างครับ แต่ผมว่าถ้ามีโอกาสลองมาเดินเที่ยวดูเองดีกว่าครับ รายละเอียดบางอย่างนอกจากจะได้มาเห็นด้วยตาแล้ว อาจจะได้ข้อมูลเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าที่ที่ยืนเฝ้าอยู่ตามจุดต่าง ๆ รอบ ๆ บริเวณนี้ แม้แต่บันไดทางลงด้านทิศใต้ ก็ยังมีเจ้าหน้าที่ยืนเฝ้าเลยครับ... _________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
Last edited by ExtendeD on 08/11/2007 11:26 am; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43723
Location: NECTEC
|
Posted: 08/11/2007 11:19 am Post subject: |
|
|
โฮ่ย นี่มันสถานีหัวหิน ถ่ายเมื่อปี 2469 หลังจากยกอาคารที่จะนำมาใช้ในงานสยามรัฐพิพิธภัณฑ์ ในสวนลุมพินีเอาไปใช้งานในกรมรถไฟ นี่หว่า มีใน หจช. ด้วย |
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 08/11/2007 11:25 am Post subject: |
|
|
Wisarut wrote: |
โฮ่ย นี่มันสถานีหัวหิน ถ่ายเมื่อปี 2469 หลังจากยกอาคารที่จะนำมาใช้ในงานสยามรัฐพิพิธภัณฑ์ ในสวนลุมพินีเอาไปใช้งานในกรมรถไฟ นี่หว่า มีใน หจช. ด้วย |
อ้าว.. สถานีหัวหินเหรอครับ พี่วิศรุต ข้อมูลผมผิดอีกแล้ว
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
หลังจากที่ลงมาจาก " พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน " แล้ว ยังไม่ได้เห็นทะเลแบบชัด ๆ เลย ผมก็เดินจากบริเวณทางด้านหลังมาตามทางเดินที่อยู่ข้างใต้ระเบียงไปสู่ " ศาลาลงสรงฝ่ายใน " มาจนถึงบริเวณชายหาด มองไปทาง " ศาลาลงสรงฝ่ายหน้า " หรือทางทิศเหนือครับ
หันไปทางขวาก็เป็นทางด้านทิศใต้ ถ้าไปตามทางนี้ก็จะไปถึงหัวหินครับ
ก็คงปิดท้ายสำหรับ " พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน " ด้วยรูปนี้ครับ " ศาลาลงสรงฝ่ายใน " ( ทางซ้าย ) และ " ศาลาลงสรงฝ่ายหน้า " ( ทางขวา ) มุมมองจากบริเวณชายหาดครับ
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
umic2000
2nd Class Pass
Joined: 06/07/2006 Posts: 676
Location: Lenin Grad , U.S.S.R.
|
Posted: 08/11/2007 1:34 pm Post subject: |
|
|
แหม พี่เต้ย กล้องพี่นี้มีอาถรรพ์จริงๆนะครับ ถ่ายอะไรเป็นสวยงามมีเสน่ห์น่าดูน่าชมไปหมด ขนาดวันฟ้าหม่นพี่ยังถ่ายออกมาให้ดูดีได้เลย
ศิษย์ขอคารวะท่านอาจารย์เต้ย 1 จอกขอรับ
ผมละชอบจริงๆภาพทิวทัศน์ของพระที่นั่งมฤคทายวันของพี่ ผมเคยไปแต่ไม่ได้เข้าเพราะไปตอนเขากำลังปิดวังพอดี สรุปว่าได้แต่ดูข้างนอกแต่ไม่มีสิทธิ์เข้าไปดูด้านในครับ |
|
Back to top |
|
|
palm_gea
1st Class Pass (Air)
Joined: 03/07/2006 Posts: 1321
Location: ธ.ก.ส.
|
Posted: 08/11/2007 1:45 pm Post subject: |
|
|
เอาตัวเองมาขายครับพี่เต้ย ตอนเด็กๆรู้ว่าเพชรบุรีมีเขาวัง แต่ไม่รู้ว่าเพชรบุรีมีรถไฟ เขาวังผมเคยไปตอนเด็กๆ ตั้งแต่สมัยโค้กขวดละ 6 บาทน่ะครับ แต่บนนั้นขาย 9 บาทมั้งถ้าจำไม่ผิด _________________
|
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 08/11/2007 2:52 pm Post subject: |
|
|
umic2000 wrote: | แหม พี่เต้ย กล้องพี่นี้มีอาถรรพ์จริงๆนะครับ ถ่ายอะไรเป็นสวยงามมีเสน่ห์น่าดูน่าชมไปหมด ขนาดวันฟ้าหม่นพี่ยังถ่ายออกมาให้ดูดีได้เลย
ศิษย์ขอคารวะท่านอาจารย์เต้ย 1 จอกขอรับ
ผมละชอบจริงๆภาพทิวทัศน์ของพระที่นั่งมฤคทายวันของพี่ ผมเคยไปแต่ไม่ได้เข้าเพราะไปตอนเขากำลังปิดวังพอดี สรุปว่าได้แต่ดูข้างนอกแต่ไม่มีสิทธิ์เข้าไปดูด้านในครับ |
คงเป็นอาถรรพ์ของ Photoshop น่ะครับน้องเอก รูปต้นฉบับไม่ได้ดูดีอย่างที่คิดหรอกครับ
พี่คิดว่าพี่โชคดีที่วันที่ไปที่พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ท้องฟ้าสวยมาก ๆ เห็นแบบนี้ถึงแดดจะแรงก็ไม่กลัวแล้วครับ เพราะมันคงไม่ดำไปกว่านี้แล้วล่ะครับ ลุยอย่างเดียว
อ้อ... เดือนที่แล้วก่อนที่จะไปรวมพลกับพี่ ๆ น้อง ๆ ที่ปากน้ำโพ พี่ได้แวะไปที่ที่หนึ่งมา ไม่รู้น้องเอกจะยังสนใจอยู่หรือเปล่า แล้วที่สำคัญพี่จะมีเวลาลงรูปให้ดูหรือเปล่าเนี่ย เหลือเวลาอีกแค่ 3 อาทิตย์เอง
palm_gea wrote: | เอาตัวเองมาขายครับพี่เต้ย ตอนเด็กๆรู้ว่าเพชรบุรีมีเขาวัง แต่ไม่รู้ว่าเพชรบุรีมีรถไฟ เขาวังผมเคยไปตอนเด็กๆ ตั้งแต่สมัยโค้กขวดละ 6 บาทน่ะครับ แต่บนนั้นขาย 9 บาทมั้งถ้าจำไม่ผิด |
เรื่องที่เราไม่รู้ยังมีอีกเยอะครับน้องปาล์ม ก็คงต้องเรียนรู้กันต่อไป...
วันนั้นพี่ไปซื้อน้ำตาลสดครับ ระหว่างยืนดูดหวานอร่อยเย็นชื่นใจ... แม่ค้าเขาก็เล่าว่านักท่องเที่ยวน้อยลงเยอะ ที่พี่เห็นก็น้อยอย่างที่เขาพูดจริง ๆ เรียกว่าเงียบเหงาจนน่าแปลกใจเลยล่ะครับ ถ้าเขาไม่ได้ขูดรีดอะไรมากมาย แล้วเรามีความสามารถ ก็ช่วย ๆ เขาไป เป็นกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นครับ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ต่อจาก " พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน " ผมขับรถตามรถอีก 2 คันไปตามถนนเพชรเกษมสายเก่า ไปทางอำเภอหัวหินครับ จากนั้นก็เลี้ยวขวาข้ามทางรถไฟที่บริเวณจุดตัดถนนที่อยู่ทางด้านทิศเหนือของ " สถานีหัวหิน " แล้วก็ตรงไปตามทางเรื่อย ๆ ตอนที่มาติดไฟแดงอยู่ที่สี่แยกตัดกับถนนเพชรเกษมที่เป็นทางเลี่ยงเมืองมา ก็เห็นว่ามีรถทัวร์ 4 คัน ที่มีนักท่องเที่ยวนั่งอยู่เต็มคันรถ เลี้ยวขวาจากถนนเพชรเกษมมุ่งตรงไปตามถนนที่จะไปทางเดียวกับผม แค่นั้นก็พอจะรู้แล้วล่ะครับ ว่าจุดหมายที่ผมกำลังจะมุ่งหน้าไปต้องมีนักท่องเที่ยวแวะไปกันหลายกลุ่มแน่ ๆ เลยครับ ตอนแรกคิดเอาไว้ว่าไม่ไกล แต่กว่าจะถึงที่หมายนี่ ก็นานอยู่เหมือนกันครับ จุดหมายที่ผมพูดถึงนี้ก็คือ " วัดห้วยมงคล " ที่อยู่ในเขตตำบลทับใต้ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ครับ ถ้ามาที่นี่ใคร ๆ ก็คงรู้ว่าต้องมาไหว้ " หลวงปู่ทวด " แน่ ๆ ก็ถูกต้องตามนั้นครับ
สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ " วัดห้วยมงคล " จาก
1. การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
2. oceansmile.com
รายละเอียดเกี่ยวกับตำบลทับใต้ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สามารถหาเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaitambon.com
พอมาถึงที่ " วัดห้วยมงคล " ก็รู้สึกผิดคาดเล็กน้อยครับ เพราะจำนวนนักท่องเที่ยวที่อยู่ในบริเวณรอบข้างองค์หลวงปู่ทวดนั้นไม่ได้เยอะเหมือนกับที่คิดเอาไว้ก่อนหน้าที่จะมาถึงที่นี่ครับ ส่วนร้านขายธูปเทียนจะอยู่ด้านล่างครับ เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้วก็เดินขึ้นบันไดไปไหว้รูปหล่อของหลวงปู่ทวดกันเลยครับ
ที่บริเวณฐานของรูปหล่อของหลวงปู่ทวดนั้น สามารถมองเห็นพระนามาภิไธยย่อ ส.ก. ได้แต่ไกลเลยครับ โดยที่ความเป็นมานั้นใน oceansmile.com ให้รายละเอียดเอาไว้ว่า
oceansmile.com wrote: | สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ทรงเสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตร เททองหล่อองค์หลวงพ่อทวด เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2547 และพระราชทานพระราชานุญาตให้คณะกรรมการจัดสร้างอันเชิญพระนามาภิไธยย่อ ส.ก. ขึ้นประดิษฐานที่หน้าองค์รูปหล่อองค์หลวงพ่อทวด |
ข้อมูลจำเพาะของรูปหล่อองค์หลวงปู่ทวดจาก oceansmile.com ครับ
oceansmile.com wrote: | รูปหล่อหลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ที่สุดในโลกซึ่งหล่อด้วยโลหะผสม หน้าตักกว้าง 9.9 เมตร สูง 11.5 เมตร บนฐานสูง 3 ชั้น ชั้นล่างกว้าง 70 เมตร ยาว 70 เมตร |
จุดธูป เทียนไหว้รูปหล่อหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ที่สุดในโลกกันไปแล้ว ถือทองคำเปลวเดินมาที่ด้านข้างของฐานรูปหล่อหลวงปู่ทวดครับ ที่นั่นจะมีรูปหล่อขนาดเล็กของหลวงปู่ทวดไว้ให้พุทธศาสนิกชนมาปิดทองด้วยครับ
บริเวณลานกว้างข้างบนนี้ลมเย็นสบายครับ มองลงไปก็จะเห็นรถทัวร์จอดเรียงกันอยู่หลายคันเลยครับ แต่เอ... คนหายไปไหนกันหมด พอได้เดินลงมาดูรอบ ๆ บริเวณวัด ก็หายสงสัยเลยครับ ที่เห็นอยู่ในรูปนี้เป็นบริเวณร้านที่เปิดให้เช่าวัตถุมงคล ข้างในมีผู้คนจำนวนมาก ( เยอะจริง ๆ ) เข้าไปเช่า - ยืนดูวัตถุมงคลอยู่ด้านในครับ อย่าถามผมนะครับ ว่าได้อะไรติดไม้ติดมือกลับมาหรือเปล่า เพราะทุกวันนี้ผมก็ยังใส่เชือกสีดำราคาเส้นละ 10 บาท ห้อยหลวงพ่อพุทธชินราชอยู่เหมือนเดิมไม่เคยคิดจะเปลี่ยน ทุกอย่างก็สุดแล้วแต่ความเชื่อความศรัทธาของแต่ละคนครับ
แรงศรัทธาจากพุทธศาสนิกชนที่ได้มากราบไหว้ " หลวงปู่ทวด " ก็คงจะมีไม่น้อยครับ เท่าที่เห็นสิ่งก่อสร้างภายใน " วัดห้วยมงคล "แห่งนี้ ยังดูใหม่เอี่ยมและดูสวยงามทั้งนั้นเลยครับ แถมบริเวณรอบ ๆ วัดก็ดูสวยและเป็นธรรมชาติมาก ๆ เลยครับ
ช่วงเวลาเหมาะ ๆ ที่จะได้ถ่ายรูปองค์รูปหล่อของหลวงพ่อทวดนี้ น่าจะเป็นช่วงเช้านะครับ เพราะแดดจะส่องมาจากทางด้านหน้า อย่างวันที่ผมไปนั้นเป็นช่วงหลัง 13.40 น. ไปแล้ว จะเห็นว่าแดดส่องมาจากทางด้านหลังขององค์รูปหล่อแล้วครับ _________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 08/11/2007 3:54 pm Post subject: |
|
|
กลับออกจาก " วัดห้วยมงคล " ก็ได้เวลาขับรถเข้าที่พักล่ะครับ ในครั้งนั้นครอบครัวผมได้มาพักที่ " บ้านสุขสามัคคี " อยู่ที่หัวหินซอย 9 ครับ ที่นี่เป็นบ้านพักที่มีไว้ให้พนักงานธนาคารกสิกรไทยพาครอบครัวมาพักผ่อนได้ครับ แต่ก็ต้องจ่ายค่าห้องเหมือนกับโรงแรมทั่ว ๆ ไปนะครับ
คืนนั้นครอบครัวผมก็พักที่ห้อง " เนตรเดือน " นี้ล่ะครับ ตอนนั้นรถอีก 1 คันพาเด็ก ๆ ไปซื้อเสบียงมื้อบ่าย รวมทั้งชุดว่ายน้ำที่จะเอาไว้ว่ายน้ำในสระช่วงตอนเย็นครับ
ภายในห้อง " เนตรเดือน " ก็มีทั้งโทรทัศน์ เคเบิ้ล แอร์ น้ำอุ่น ตู้เย็น ห้องครัว ทุกอย่างก็เหมือนบ้านหลังเล็ก ๆ นั่นเองครับ ส่วนห้องนอนก็มีทั้ง ห้องเตียงเดี่ยว และ ห้องเตียงคู่ ก็คงเอาไว้ให้พ่อกับแม่ผม แล้วก็พวกผู้หญิงนอนในห้องครับ ส่วนผม พี่ชาย น้องชาย แล้วก็รถพ่วงคันเล็ก ๆ ทั้งหลายที่ก็เป็นผู้ชายทั้งนั้นนอนหลับคาโทรทัศน์อยู่ข้างนอกครับ
เดินไปดูบริเวณอื่นของ " บ้านสุขสามัคคี " แห่งนี้กันบ้างดีกว่า ตรงข้ามกับสำนักงานจะเป็นบริเวณที่ออกกำลังกายครับ เท่าที่ผมเห็นข้างล่างนั้นมีโต๊ะปิงปองตั้งเอาไว้หลายตัวครับ ส่วนข้างบนผมไม่ได้เดินไปดูครับ เดินต่อไปก็จะมาถึงบริเวณสระว่ายน้ำ ที่เจ้ารถพ่วงทั้งหลายต่างหมายปอง มองกันตาไม่กระพริบ ที่นี่ก็มีทั้งสระเด็ก และสระผู้ใหญ่ครับ
ถัดจากสระว่ายน้ำไปก็จะเป็นร้านอาหาร ที่ชั้นบนเป็นฟิตเนสครับ ถัดไปอีกก็จะเป็นทางเดินลงไปที่ชายหาดแล้วล่ะครับ
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
|