View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Vetrail
3rd Class Pass (Air)


Joined: 09/08/2006 Posts: 402
Location: ไปทุกที่ ที่มีราง
|
Posted: 27/11/2007 7:06 pm Post subject: |
|
|
ผมจะติดตามชมจนครบ(เกิน) 2700 กิโลเมตรเลยนะครับพี่เต้ย  _________________ Daewoo2528,2532 & GEA 4531 & HID 4521 & ALS4132 |
|
Back to top |
|
 |
ExtendeD
1st Class Pass (Air)


Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 27/11/2007 8:56 pm Post subject: |
|
|
Vetrail wrote: | ผมจะติดตามชมจนครบ(เกิน) 2700 กิโลเมตรเลยนะครับพี่เต้ย  |
ขอบคุณครับ ทัวร์นี้พาเที่ยว พากินแบบประหยัดครับ ถ้ากินง่ายอยู่ง่ายรับรองว่าสนุก
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
กลับมาถึงพิษณุโลกอีกครั้ง ก็จะเปลี่ยนจากโหมดเดินสำรวจเป็นโหมดกิน + เที่ยวแล้วล่ะครับ ( ท่าทางจะอยู่ที่โหมดนี้นานเสียด้วย ) อุ๊บ... พูดอะไรออกไป... ไม่ได้ยินประโยคเมื่อกี้นี้ใช่หรือเปล่าครับ
ท้องร้องแล้วล่ะครับ ไปหาดีเซลอร่อย ๆ เทลงท้องกันดีกว่า ไปที่ไหนดี อืมมม... เอาเป็นว่าระหว่างรอผมคิดว่าจะไปเติมดีเซลที่สถานีไหนเป็นมื้อกลางวัน ไปดู link ข้อมูลการท่องเที่ยวของจังหวัดพิษณุโลกกันก่อนครับ
ข้อมูลทั่วไป และข้อมูลการท่องเที่ยวของจังหวัดพิษณุโลก สามารถหาเพิ่มเติมได้จาก
1. การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
2. สำนักงานจังหวัดพิษณุโลก
3. thaitambon.com
4. moohin.com
5. thai-tour.com
6. relaxzy.com
7. lakkai.com
8. hamanan.com
สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวภายในตัวเมืองพิษณุโลก ถ้าหากไม่ได้ขับรถไปเอง ก็มีบริการรถสาธารณะครับ ก็มีทั้ง
- รถเมล์ ซึ่งก็มีทั้งรถธรรมดา และรถปรับอากาศ
- รถสามล้อเครื่อง ที่เป็นสามล้อหน้ากบ
- รถสามล้อถีบ เคยขึ้นชื่อเมื่อหลายปีก่อน ถ้าพี่ ๆ น้อง ๆ เคยดูสารคดีท่องเที่ยวจังหวัดพิษณุโลกมาบ้าง ก็น่าจะเคยเห็น หรือรู้ว่าเมื่อก่อนนี้ชาวต่างชาติจ้างรถสามล้อถีบหลายคัน ให้พาเที่ยวชมเมืองพิษณุโลกยามค่ำคืน ตอนผมยังเป็นเด็กก็เคยเห็นครับ บางกลุ่มมากันยาวเหยียดเป็น 10 คันเลยล่ะครับ ตอนกลางคืนรถสามล้อติดไฟสวยดี
- รถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง เหมือนกับที่กรุงเทพ และจังหวัดอื่น ๆ และ
- รถสองแถว เพิ่งมีเมื่อไม่นานมานี้เอง แต่ก็เป็นปีแล้วล่ะครับ
ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้วทัวร์กินง่ายอยู่ประหยัดแบบผม ก็เลือกที่จะไปกับรถเมล์แล้วกันครับ ป้ายรถเมล์ก็อยู่ไม่ไกลจากสถานีพิษณุโลกเลยครับ จากตลาดที่เมื่อเช้าผมไปซื้อข้าวเหนียวไก่ทอด หมูปิ้ง นมเย็น โอวัลตินเย็น เดินตรงผ่านไปเรื่อย ๆ ประมาณ 50 เมตรก็จะมาถึงบริเวณสี่แยกในรูปนี้ครับ
ที่เห็นในรูปนี้เป็นรถเมล์ธรรมดาครับ ตั้งแต่เล็กจนโต ผมก็เห็นรถเมล์สีแบบนี้ วิ่งไปวิ่งมาในตัวเมืองจนชินตาแล้วล่ะครับ เวลาผ่านไปจากเด็กเล็ก กลายเป็นเด็กโต ก็มีรถ ปอ. โผล่มาให้เห็น แต่สิ่งใหม่ ๆ ที่เจอบนรถเมล์เมื่อวันนั้นก็คือค่าโดยสารครับ ถ้ายังจำกันได้วันนั้นราคาค่าโดยสารของรถโดยสารร่วมบริการทั่วทั้งประเทศปรับขึ้นพอดี สำหรับที่พิษณุโลกราคาค่าโดยสารรถเมล์ธรรมดาในวันนั้นก็คือ คนละ 8 บาท 50 สตางค์ ส่วนรถปรับอากาศ 12 บาทครับ
ส่วนโรงแรมที่เห็นเป็นตึกสูง ๆ อยู่ทางด้านหลังนั้นคือ " โรงแรมอมรินทร์นคร " ที่ผมไปพักทุกครั้งที่มาทำธุระที่นี่ เหตุผลก็คือ " อยู่ใกล้บ้าน " ครับ แต่บ้านไม่มีที่นอนก็เลยต้องหอบหิ้วสัมภาระมานอนโรงแรม ราคาค่าห้องพัก 480 บาท / คืน เป็นห้องแอร์ มีโทรทัศน์ อ่างอาบน้ำ ตู้เย็น เตียงคู่ น้ำอุ่น แต่ไม่มีเคเบิ้ลทีวี 3 5 7 9 11 TITV มีแค่นี้ อ้อ... ยินดีรับบัตรเครดิตด้วยครับ
และนี่ก็คือบรรยากาศภายในรถปรับอากาศครับ ผู้โดยสารเยอะมากเลย เต็มทุกที่นั่ง ขณะนั้นเป็นช่วงที่รถเมล์คันนี้ไปจอดอยู่ที่จุดตัดถนนเสมอระดับทางด้านทิศใต้ของสถานีพิษณุโลกครับ ส่วนขบวนรถที่วิ่งผ่านมาก็คือ ขบวนรถน้ำมัน ( บทค. ) มี Alsthom ที่ผมไม่สามารถระบุรุ่นและหมายเลขได้ทำขบวนวิ่งผ่านไปอย่างรวดเร็ว...
ผมพาเจ้าตี๋ กับน้องพีลงจากรถเมล์ที่ถนนหมายเลข 12 บริเวณที่อยู่ไม่ไกลจากสถานีขนส่ง ฝั่งตรงข้ามกับจุดที่ผมลงรถเมล์นั้นเป็นที่ตั้งของ ร้านก๋วยเตี๋ยวเจ๊ตุ๊ ครับ จะเห็นเป็นเพิงไม้อยู่ตรงกลางของรูป ที่ติดป้ายสีขาวแถบแดงนั่นล่ะครับ
ก๋วยเตี๋ยวร้านนี้ขึ้นชื่อครับ ผมว่าพี่ ๆ น้อง ๆ หลายคนก็คงรู้จัก หรือเคยได้ยินชื่อกันมาบ้างแล้ว ก็ไม่แปลกครับ ที่จะมีคู่แข่งมาเปิดร้านอยู่ใกล้ ๆ ขายก๋วยเตี๋ยวเหมือนกันทุกอย่าง แต่ต่างกันตรงที่จำนวนของลูกค้าครับ ก็แต่ละคนชอบไม่เหมือนกัน ใครว่าร้านไหนอร่อยก็เข้าร้านนั้น... คล้าย ๆ กับในชีวิตจริงเลย ไม่บอกแล้วกันว่าเรื่องอะไร พูดมาถึงขนาดนี้ พี่ ๆ น้อง ๆ หลายคนคงรู้แล้วล่ะ
เจ้าตี๋กับน้องพีสั่งก๋วยเตี๋ยวน่องไก่ตุ๋นครับ รูปร่างหน้าตาก็เป็นแบบนี้ น่องไก่ชิ้นโต ๆ เนื้อนุ่ม ๆ รสชาติอร่อยครับ ผมแย่งกินไปหลายคำเหมือนกัน
ส่วนของผมก็ต้องเป็นบะหมี่ครับ วันนั้นผมสั่งบะหมี่น้ำซี่โครงหมูชามนี้มากินครับ ก็อร่อยอีกล่ะครับ บอกแล้วว่าผมเป็นคนกินง่าย...
สรุปแล้ววันนั้นผมกับเจ้าตี๋ก็กินกันไปคนละ 2 ชาม ส่วนน้องพียังคงมาตรฐานเอาไว้ที่ชามเดียวจอดเหมือนเดิม... กินน้อยแบบนี้ถึงว่าสิ... โตช้าเหลือเกิน  _________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
 |
|
Back to top |
|
 |
ExtendeD
1st Class Pass (Air)


Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 27/11/2007 9:37 pm Post subject: |
|
|
ดีเซลเต็มถังแล้วก็ออกเที่ยวล่ะครับ ก่อนอื่นเลยก็ต้องแวะไปที่ " วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร " หรือที่ชาวเมืองพิษณุโลกเรียกกันว่า " วัดใหญ่ " ก่อนเลยครับ ทุกครั้งที่ผมมาที่พิษณุโลก ถ้ามีเวลาจะต้องแวะมาที่วัดนี้แทบทุกครั้งเลยล่ะครับ
องค์พระพุทธชินราช ที่ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถครับ
ผมไปลองใช้พลังแห่ง Google ค้นหาเรื่องราวเกี่ยวกับองค์พระพุทธชินราชดู ก็ไปเจอเข้าที่ Website ของกรมธนารักษ์ ที่ให้ข้อมูลน่าสนใจมากเลยทีเดียว
เดินเที่ยวชมรอบบริเวณวัดกันจนเหนื่อย และเมื่อยแล้ว ก็มีน้ำตาลสดหวานเย็นอร่อยชื่นใจมาบริการเดินขายถึงตัวครับ เทจากกระบอกไม้ไผ่ใส่ถุงเติมน้ำแข็งพร้อมสูบ เอ๊ย ดูดได้ทันที ราคาถุงละ 10 บาทครับ
รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ " วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร " หาเพิ่มเติมได้จาก
1. Website ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
2. thai-tour.com
3. hamanan.com
ออกจาก " วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร " ทางประตูด้านทิศใต้ เดินไปอีกไม่ไกล เราก็จะมาถึง " วัดนางพญา " ครับ
องค์สมเด็จนางพญาเรือนแก้วนั้น ประดิษฐานอยู่ภายในวิหารที่เห็นไปในรูปข้างบนครับ
จริง ๆ แล้วผมอยากจะเดินดูรอบ ๆ " วัดนางพญา " แห่งนี้อีกสักหน่อย แต่ก็อย่างที่เห็นนะครับว่าภายในวัดกำลังมีการก่อสร้างอยู่ เพื่อความปลอดภัยของเจ้าตี๋ และน้องพี ที่อาจจะมีวิญญาณวานรเข้าสิงเมื่อไหร่ก็ได้ ผมก็เลยเปลี่ยนใจเดินกลับออกมาข้างนอกดีกว่า...
รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ " วัดนางพญา " นั้น ใน Website ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้ให้รายละเอียดไว้ว่า
Website ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย wrote: | วัดนางพญา
ตั้งอยู่บริเวณเดียวกับวัดราชบูรณะ ถัดไปทางทิศตะวันออก มีลักษณะสถาปัตยกรรมสมัยเดียวกับวัดราชบูรณะ ต่างกันที่วัดนางพญาไม่มีพระอุโบสถมีแต่วิหาร วัดนี้มีชื่อเสียงในด้านพระเครื่อง เรียกว่า พระนางพญา ซึ่งเล่าลือกันถึงความศักดิ์สิทธิ์ พระนางพญาเป็นสุดยอดพระ หนึ่งในชุดเบญจภาคี พระเครื่องนางพญามีชื่อเสียงทางด้านเมตตามหานิยม โดยเฉพาะสุภาพสตรีที่เป็นนักปกครองและหัวหน้างาน ต้องดูแลลูกน้องจำนวนมาก โดยจะมีความเชื่อว่าจะทำให้ผู้ใต้ปกครองยำเกรงประดุจ "นางพญา" ปัจจุบันหาได้ยากมาก มีก็แต่ที่ได้สร้างจำลองขึ้นภายหลัง มีการพบกรุพระเครื่องครั้งแรกใน พ.ศ. 2444 และครั้งหลังเมื่อ พ.ศ. 2497 |
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
 |
|
Back to top |
|
 |
ExtendeD
1st Class Pass (Air)


Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 27/11/2007 10:05 pm Post subject: |
|
|
ออกจาก " วัดนางพญา " ผมเดินไปขึ้นรถสองแถวที่ถนนเอกาทศรฐที่อยู่ทางทิศตะวันออกของ " วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร " เพื่อกลับมาที่สถานีพิษณุโลกอีกครั้งครับ
พอเดินไปถึงชานชาลาก็เห็นขบวนรถน้ำมันจอดอยู่ แปลกใจเล็กน้อยครับ เพราะมาจอดอยู่ไกลจริง ๆ เลย แถมรถจักรก็ดับเครื่องเสียด้วย ตอนนั้นคิดในใจว่าคงเป็นขบวนเดียวกันกับที่เห็นตอนอยู่บนรถเมล์ครับ
เวลาผ่านไปสักพัก ขบวนรถเร็วที่ 111 ต้นทางสถานีกรุงเทพ - ปลายทางสถานีเด่นชัย ที่ทำขบวนมาโดยรถจักรดีเซลไฟฟ้า Alsthom ( AHK. ) หมายเลข 4220 ก็เข้ามาจอดในรางที่ 3 ครับ
เมื่อ 2 พี่น้องคลานตามกันมา ก็ต้องทักทายกันบ้างเป็นธรรมดา ผมว่าเจ้าตี๋ตั้งใจจะสื่อสารออกมาแบบนี้นะครับ ถึงได้เลือกมุมแบบนี้...
ส่วนขบวนรถที่วิ่งเข้าสู่สถานีพิษณุโลกในรางที่ 2 ( ทางประธาน ) ก็คือ ขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางปรับอากาศที่ 9 ต้นทางสถานีกรุงเทพ - ปลายทางสถานีเชียงใหม่ ครับ _________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

Last edited by ExtendeD on 28/11/2007 2:20 pm; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
 |
ExtendeD
1st Class Pass (Air)


Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 27/11/2007 10:32 pm Post subject: |
|
|
อากาศตอนนั้นก็ร้อนจริง ๆ เลยครับ หลังจากส่งขบวนที่ 9 และขบวนที่ 111 ออกจากสถานีพิษณุโลกแล้ว ผมก็เลยพาเด็ก ๆ กลับไปนั่งพักตากแอร์ที่บ้านครับ ยังต้องเที่ยวต่ออีกหลายวัน ทะนุถนอม ดูแลดี ๆ สักหน่อย แล้วพวกเราก็กลับมาที่สถานีรถไฟอีกครั้ง เมื่อเวลาประมาณ 15.40 น. เพื่อมาขึ้น ขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางปรับอากาศที่ 3 ต้นทางสถานีกรุงเทพ - ปลายทางสถานีสวรรคโลก ไปยังจุดหมายต่อไปครับ
แต่กว่าที่ขบวนที่ 3 จะมาถึงสถานีพิษณุโลก เวลาก็ล่วงเลยผ่านไปจนถึง 16.15 น. ครับ ผู้โดยสารลงจากขบวนรถกันหลายคน ที่รอขึ้นขบวนรถไปก็หลายคนครับ เรียกว่าค่าโดยสารอัตราพิเศษนี่ก็ยังเรียกผู้โดยสารได้จำนวนหนึ่งเลยล่ะครับ 50 บาทก็ไปถึงสวรรคโลกได้ ผู้โดยสารที่เห็นยืนรอที่ประตูของกซข.ป. คันที่ 1 นี่ผมก็ว่ามีหลายคนแล้วนะครับ แต่ก็ยังมีผู้โดยสารที่รอขึ้นที่รถคันที่ 2 และ 3 อีกหลายคนเลย คึกคักจริง ๆ
ขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางปรับอากาศที่ 3 ต้นทางสถานีกรุงเทพ - ปลายทางสถานีสวรรคโลก ในวันนั้น ใช้รถสปรินเตอร์ 3 คัน คือ กซข.ป. 2510 + กซม.ป. 2117 + กซข.ป. 2505 ครับ
ผม เจ้าตี๋ แล้วก็น้องพี เป็นผู้โดยสารที่ได้ตั๋วมานั่งอยู่ใน กซข.ป. คันนำของขบวนครับ ส่วนบรรยากาศข้างใน กซข.ป. 2510 ก็เป็นอย่างที่เห็นครับ ระยะทางจากสถานีพิษณุโลก ไปจนถึงสถานีชุมทางบ้านดารา พวกเราจะนั่งหันหลังให้กับหัวขบวน แต่พอเข้าสู่เส้นทางสายสวรรคโลกแล้ว กซข.ป. คันนี้ก็จะกลายเป็นคันท้ายสุด เราก็จะได้ดูวิวข้างทางกันแบบสะดวก ๆ ล่ะครับ
แอร์บนรถเย็นมากเลยล่ะครับ ทำให้ผมลืมเรื่องเตาอบยี่ห้อสปรินเตอร์จากเมืองผู้ดีไปได้ชั่วขณะเลย แล้วก็มีกลิ่นหอม ๆ ของอาหารที่แจกให้กับผู้โดยสารก่อนหน้าที่ผมจะขึ้นมาบนขบวนรถมาเป็นของแถมด้วย จากที่ท้องอิ่มอยู่แล้ว พอได้กลิ่นนี้เข้าไปก็เลยคิดว่า ถ้าได้อาหารมาสักจานก็คงจะยังพอกินลงล่ะน่า...
อยู่บนรถปรับอากาศไม่สะดวกจะถ่ายภาพครับ แต่ยังไง ๆ ก็ไม่พลาดที่จะเก็บภาพเสาสัญญาณออกสำหรับขบวนรถที่จะวิ่งเข้าสู่เส้นทางสายสวรรคโลกเอาไว้ครับ น่าเสียดายที่ห้องน้ำของ กซข.ป. 2510 คันนี้อยู่ทางด้านขวาของขบวนรถ ( ฝั่งตัวอาคารสถานีชุมทางบ้านดารา ) ไม่อย่างนั้นผมก็คงจะได้ภาพของเสาสัญญาณหางปลาต้นนี้แบบชัด ๆ แล้วล่ะครับ
ผู้โดยสารที่อยู่บนขบวนที่ 3 ส่วนใหญ่จะลงจากขบวนรถที่สถานีคลองมะพลับครับ แต่พอผ่านสถานีคลองมะพลับไปแล้ว บรรยากาศบนรถก็ไม่ถึงขั้นเงียบเหงานะครับ ในกซข.ป. 2510 ยังเหลือผู้โดยสารคนอื่น ๆ อีกประมาณ 5 - 6 คน
แล้วพวกเราก็มาถึงสถานีสวรรคโลก เมื่อเวลา 18.15 น. ช้าไป 15 นาที สำหรับผมในตอนนั้นเรื่องเล็กครับ
ตัวอาคารสถานีสวรรคโลกในช่วงหัวค่ำของคืนนั้นครับ
สถานีสวรรคโลก ในเส้นทางสายเหนือ ( สถานีชุมทางบ้านดารา - สถานีสวรรคโลก )
เป็นสถานีระดับที่ 3 อักษรย่อ สว. รหัสสถานี 1143
ตั้งอยู่ในตำบลเมืองสวรรคโลก อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย
ระยะทางจากสถานีกรุงเทพ 487.14 กิโลเมตร
ระบบสัญญาณที่ใช้ : ใช้ป้ายเขตสถานี ง. *
* อ้างอิงจาก file station_north.pdf ที่ download มาจาก http://portal.rotfaithai.com
รายละเอียดเกี่ยวกับตำบลเมืองสวรรคโลก อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย สามารถหาเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaitambon.com
สำหรับการเดินทางผ่านไปในช่วงเส้นทางสายสวรรคโลกนั้น น้องเจฟ ( KTTA-50-L ) ผู้ตรวจการของเราได้เคยนำเสนอไปแล้วในกระทู้ " ตะลอนทัวร์ ท่าเรือ - พิษณุโลก - สวรรคโลก " ครับ _________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
 |
|
Back to top |
|
 |
black_express
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 27/11/2007 10:58 pm Post subject: |
|
|
ได้บรรยากาศดีมากๆ ครับ คุณเต้ย สถานีสวรรคโลกช่วงกลางคืน
ถ้าคุณเต้ยมีเวลาว่างจริงๆ ( ขอย้ำว่าว่างจริงๆ ) ที่พิษณุโลก จะพาเด็กๆ ลองนั่งรถรางชมเมืองพิษณุโลกก็ได้นะครับ ต้นทางอยู่ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุนั่นแหละ ได้เกร็ดความรูเกี่ยวกับเมืองพิษณุโลกเยอะแยะ ที่ช้าเพราะรอรอบออกเดินทางนั่นแหละ ช่วงไหนคนน้อย รอกันเป็นชั่วโมง....
พักที่โรงแรมเมืองอินทร์นี่เองหรือ ? โรงแรมเจ้าประจำของชาวสวรรคโลกเชียวล่ะ
Last edited by black_express on 27/11/2007 11:49 pm; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
 |
ExtendeD
1st Class Pass (Air)


Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 27/11/2007 11:00 pm Post subject: |
|
|
รถสาธารณะที่วิ่งให้บริการภายในตัวเมืองสวรรคโลกเป็นรถสามล้อรูปร่างหน้าตาแปลก ๆ แบบที่เห็นอยู่นี้ครับ ผมเห็นครั้งแรกยังเหวอเลย... แต่ก็ยังดีที่มีรถให้เรียกไปที่โรงแรมล่ะครับ ในตอนนั้นจอดอยู่คันเดียวเองด้วย
รถคันนี้ทำให้ผมเหวอ... แต่ในทางกลับกัน รถคันนี้ก็เป็นที่ถูกอกถูกใจของเจ้าตี๋และน้องพีมากเลยครับ เพราะเวลาที่รถวิ่งนั้น เราจะมองเห็นวิวด้านหน้าได้อย่างชัดเจนแบบที่ไม่มีอะไรมาบังเลย
ผมให้คุณลุงที่เป็นคนขับรถสามล้อพาไปส่งที่โรงแรมครับ ราคาค่าโดยสารจากสถานีสวรรคโลก มาจนถึงโรงแรมนั้นระยะทางประมาณ 500 เมตร แต่คุณลุงคิดคนละ 10 บาทเท่านั้นครับ ผมพิมพ์ไม่ผิดนะครับ คนละ 10 บาทจริง ถูกแสนถูก ทำให้อยากไปอีก เพราะค่าครองชีพที่นั่นค่อนข้างถูก หาที่ไหนได้ค่ารถ 10 บาท ( นอกจากรถเมล์ )
หลังจากอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็ออกมาหาดีเซลมื้อเย็น เทลงถังน้ำมันก่อนกลับไปนอนครับ สืบทราบมาว่า ที่ " ตลาดสาย 8 " หรือ " ตลาดซอย 8 " นั้น มีดีเซลให้เลือกมากมายหลายแบบ เป็นตลาดโต้รุ่งดี ๆ นี่เอง อย่ารอช้าครับ จะ 5 ทุ่มแล้ว รีบเดินไปที่ตลาดแห่งนั้นกันเลย...
บรรยากาศที่ " ตลาดสาย 8 " ก็เป็นอย่างที่เห็นครับ มีร้านอาหารเปิดขายกันอยู่ 2 ข้างทาง มีอาหารมากมายหลายอย่างให้เลือกซื้อ จะนั่งกินที่นี่ หรือซื้อกลับไปหม่ำที่บ้านก็ได้
จากการสอบถามพ่อค้าแม่ค้าที่นี่ได้ความว่า ส่วนใหญ่แล้วร้านจะเปิดช่วงเย็น ๆ ไปจนถึงประมาณ 4 ทุ่มครับ แต่สมัยที่เศรษฐกิจยังดี ๆ อยู่นี่ปิดเที่ยงคืนนะครับ โดนหางเลขด้วยกันถ้วนทั่วหน้าเลย
อาหารที่นี่ก็อร่อยครับ คืนนั้นได้กินทั้งก๋วยเตี๋ยวหมู เส้นใหญ่ราดหน้า ( คนที่นี่เขาราดซอสพริกด้วยครับ อร่อยดี ) น้ำมะพร้าวปั่นใส่นม โอวัลตินเย็น ปิดท้ายด้วยโรตีกล้วยหอมเหมือนเดิม อิ่มแปล้เลยครับ
กลับมาที่โรงแรม คืนนั้นผมกับพวกเด็ก ๆ นอนกันอยู่ในห้องนี้ครับ เป็นห้องพักที่อยู่ใน" โรงแรมเมืองอินทร์ " ราคา 350 บาท / คืน มีแอร์ โทรทัศน์ เคเบิ้ล น้ำอุ่น เตียงคู่ โทรศัพท์ครับ ( ห้องพัดลม 230 บาท / คืน )
สีของที่นอนถูกใจผมจริง ๆ เลยครับ แสบตาสุด ๆ _________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
 |
|
Back to top |
|
 |
ExtendeD
1st Class Pass (Air)


Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 28/11/2007 6:23 am Post subject: |
|
|
black_express wrote: | ได้บรรยากาศดีมากๆ ครับ คุณเต้ย สถานีสวรรคโลกช่วงกลางคืน
ถ้าคุณเต้ยมีเวลาว่างจริงๆ ( ขอย้ำว่าว่างจริงๆ ) ที่พิษณุโลก จะพาเด็กๆ ลองนั่งรถรางชมเมืองพิษณุโลกก็ได้นะครับ ต้นทางอยู่ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุนั่นแหละ ได้เกร็ดความรูเกี่ยวกับเมืองพิษณุโลกเยอะแยะ ที่ช้าเพราะรอรอบออกเดินทางนั่นแหละ ช่วงไหนคนน้อย รอกันเป็นชั่วโมง....
พักที่โรงแรมเมืองอินทร์นี่เองหรือ ? โรงแรมเจ้าประจำของชาวสวรรคโลกเชียวล่ะ |
รูปของสถานีสวรรคโลกที่เอามาโพสท์นี่คัดจาก 12 รูปที่ผมกับเจ้าตี๋ช่วย ๆ กันถ่ายเอาไว้ครับ แสงมีน้อย ถ้าจะถ่ายให้ชัดก็ต้องมือนิ่งมาก ๆ สุดท้ายก็ไปเลือกเอารูปที่วางกล้องไว้บนกระเป๋าเป้แล้วกดตั้งเวลาถ่ายเอาไว้ รูปที่ออกมาก็ชัดกว่าทุก ๆ รูปล่ะครับ รวมแล้วก็ใช้เวลาเกือบ ๆ 10 นาที
รถรางเคยเห็นครับ แต่คงเป็นเพราะว่าผมไปช่วงวันธรรมดาล่ะมั้งครับพี่ตึ๋ง ไม่เคยเห็นรถพวกนี้วิ่งออกนอกวัดเลยครับ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เช้าวันที่ 3 ของการเดินทาง เช้าวันนั้นผมพาเจ้าตี๋กับน้องพีนั่งรถสามล้อไปกินข้าวเช้าแถว ๆ ถนนสินเสรีอุทิศครับ ถ้าเดินเข้าไปตามถนนนั้นจะเป็นตลาดสด หน้าปากซอยมีร้านขายอาหารครับ มื้อนั้นพวกเรากินโจ๊กครับ สั่งเหมือนกันเลย โจ๊กหมูล้วนใส่ไข่ อร่อยอีกแล้วครับ ผมเองก็ยังสั่งมาเพิ่มอีกชามเลย แต่ชามที่ 2 นี้ไม่ใส่ไข่แล้วครับ นึกถึงแล้วหิว
หลังจากที่เทโจ๊ก 2 ชามลงถังน้ำมันไปแล้ว ผมก็พาเด็ก ๆ เดินไปตามถนนที่อยู่กลางเมือง ซึ่งก็คือถนนที่อยู่หน้าสถานีสวรรคโลกเพื่อไปเดินดูบรรยากาศของสถานีสวรรคโลกตอนเช้า ๆ กันสักหน่อย จะเรียกว่าเช้าดีหรือเปล่าครับเนี่ย ตอนนั้นก็ 08.03 น. เข้าไปแล้ว
สถานีสวรรคโลกตั้งอยู่ฝั่งตรงข้าม เยื้อง ๆ กับธนาคารกสิกรไทยที่เห็นอยู่ในรูปข้างบนครับ
มาถึงตอนช่วงเช้าแบบนี้ แสงจะส่องมาจากทางรางหลีก จะเก็บภาพอาคารสถานีจากทางฝั่งนี้ก็ย้อนแสงเต็ม ๆ เลย  _________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
 |
|
Back to top |
|
 |
ExtendeD
1st Class Pass (Air)


Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 28/11/2007 7:17 am Post subject: |
|
|
ก่อนหน้านี้พี่ตึ๋ง ( black_express ) กับน้องแม็กซ์ ( maxell ) เคยนำภาพบรรยากาศของสถานีสวรรคโลกแห่งนี้มาให้ชมกันแล้วในกระทู้
- สำรวจทางรถไฟสายสวรรคโลก
- ควบมอเตอร์ไซด์สำรวจ จาก ศรีนคร - สวรรคโลก
ผมก็จะนำเสนอบรรยากาศของสถานีสวรรคโลกในช่วงกลางเดือนตุลาคม เพิ่มเติมสักเล็กน้อยครับ เริ่มจากมุมมองไกล ๆ บริเวณทางด้านทิศใต้ของสถานีกันก่อนเลยครับ ดูรวม ๆ แล้วไม่แตกต่างอะไรจากเมื่อครั้งที่ผมกับเจ้าตี๋มาที่นี่ครั้งแรกเมื่อเดือนเมษายน ปี 2549 ครับ
เดินเข้าไปใกล้ ๆ ป้ายประเพณีทางด้านทิศใต้อีกหน่อย น่าเสียดายที่มีเสาโทรเลขมาบัง
ตัวอาคารสถานีสวรรคโลกแบบตรง ๆ ครับ
ทางฝั่งนี้ก็คือป้ายประเพณี และบริเวณชานชาลาทางด้านทิศเหนือครับ
สถานีสวรรคโลก ในเส้นทางสายเหนือ ( สถานีชุมทางบ้านดารา - สถานีสวรรคโลก )
เป็นสถานีระดับที่ 3 อักษรย่อ สว. รหัสสถานี 1143
ตั้งอยู่ในตำบลเมืองสวรรคโลก อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย
ระยะทางจากสถานีกรุงเทพ 487.14 กิโลเมตร
ระบบสัญญาณที่ใช้ : ใช้ป้ายเขตสถานี ง. *
* อ้างอิงจาก file station_north.pdf ที่ download มาจาก http://portal.rotfaithai.com
รายละเอียดเกี่ยวกับตำบลเมืองสวรรคโลก อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย สามารถหาเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaitambon.com
พวกผม 3 คนเดินเล่นกันอยู่ที่นี่จนลืมดูเวลาครับ ยังดีที่น้องพีทวงสัญญาที่ผมเคยรับปากเอาไว้ ไม่อย่างนั้นผมก็คงได้เดินอยู่ที่สถานีสวรรคโลกอีกสักพักเลยล่ะครับ ผมรีบพาเด็ก ๆ ออกไปที่ถนนด้านหน้าสถานี แล้วโบกสามล้อกลับไปที่โรงแรม จนลืมที่จะเก็บภาพบรรยากาศภายในอาคารสถานีสวรรคโลกเอาไว้จนได้ ก็คงต้องฝากเอาไว้ให้คณะทัวร์ชุดต่อไปที่จะมาเยี่ยมชมที่สถานีแห่งนี้ ช่วยเก็บภาพแทนผมสักหน่อยนะครับ  _________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
 |
|
Back to top |
|
 |
ExtendeD
1st Class Pass (Air)


Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 28/11/2007 8:15 am Post subject: |
|
|
จุดหมายต่อไปของการเดินทางในครั้งนี้ก็คือ " ตัวเมืองสุโขทัย " ครับ ผม เจ้าตี๋ แล้วก็น้องพี มาขึ้นรถบขส. ที่ท่ารถที่อยู่ฝั่งตรงข้าม เยื้อง ๆ กับโรงแรมเมืองอินทร์นั่นล่ะครับ ผมว่ามาพักที่โรงแรมนี้ ก็เดินทางไป - มาสะดวกดีครับ อยู่ไม่ไกลจากจุดหมายแต่ละที่ที่ผมจะแวะไปสักเท่าไหร่ ต้องขอบคุณคุณลุงคนเมื่อคืนนี้จริง ๆ
ส่วนรถบขส. กรุงเทพ - สวรรคโลก - กรุงเทพ นั้น จะมีวิ่งเป็นช่วง ๆ แต่รวม ๆ แล้วก็ทั้งวันครับ บางช่วงก็มาทุก ๆ 1 ชั่วโมง บางครั้งก็เว้นไปครับ ประมาณว่า 8.00 น. 9.00 น. 10.00 น. 12.00 น. 13.00 น. แบบนี้ล่ะครับ ซึ่งก็จะมีทั้งรถป.1 และ ป.2 ครับ แต่ส่วนใหญ่จะเป็น ป.2 มากกว่า อ้อ... ไม่มี บขส.ป. นะครับ ( แล้วมันคืออะไรล่ะเนี่ย ไม่ได้ไปรู้เรื่องอะไรกับเขาซะหน่อย ทำเป็นพูดมาก )
นี่คือบรรยากาศภายในห้องโดยสารของรถม.2 หมายเลข 925/1590 คันที่ผมกับเด็ก ๆ นั่งเข้าไปที่ตัวเมืองสุโขทัยครับ ส่วนค่าโดยสารที่ผมจ่ายไปวันนั้นก็คือคนละ 27 บาทครับ ไม่ได้นั่งรถแบบนี้ซะนาน ครั้งสุดท้ายก็ตอนที่น้องปาล์มพาผมกับเจ้าตี๋ไปขึ้นรถที่สถานีขนส่งบุรีรัมย์ หลังจากที่ได้ไปดูเส้นทางสายเขากระโดงเมื่อปีก่อนครับ
จากถนนเดิมที่อยู่หน้าโรงแรมเมืองอินทร์ ( ถ้าผมจดมาไม่ผิดก็คือ ถนนจรดวิถีถ่อง ) รถม.2 คันนี้ก็จะขับตรงไปเรื่อย ๆ ก่อนออกจากเขตเทศบาล ก็จะผ่านสวนสาธารณะเทศบาลเมืองสวรรคโลก ที่อยู่ใกล้ ๆ กับสี่แยกที่รถคันนี้ไปจอดติดไฟแดงอยู่ครับ
สักพักใหญ่ ๆ รถก็จะเลี้ยวขวาเข้าถนนหมายเลข 101 ผ่านหน้าวัดท่าเกษม วัดท่าทอง วัดหนองโว้ง แล้วก็เข้าสู่เขตอำเภอศรีสำโรงครับ ส่วนพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่เห็นอยู่ในรูป ก็ประดิษฐานอยู่ในเขตของวัดแห่งหนึ่งที่อยู่ริมถนนที่รถคันนี้วิ่งผ่านไป ผมจำชื่อวัดไม่ได้แล้วครับ
จนมาถึงที่นี่คือ จุดจอดรับ - ส่งผู้โดยสาร ศรีสำโรง เมื่อเวลา 09.20 น. ครับ จากตรงนี้รถก็จะวิ่งตรงไปเรื่อย ๆ ผ่านที่ว่าการอำเภอศรีสำโรง
ข้างทางบริเวณนี้ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านของชาวบ้านครับ เพราะอยู่ในเขตตัวเมือง จนรถวิ่งไปถึงประมาณช่วงกิโลเมตรที่ 25 - 26 ของถนนหมายเลข 101 ก็จะได้เห็นทุ่งนาเขียว ๆ โผล่มาบ้างครับ หลังจากนั้นก็จะวิ่งผ่านวัดราษฎร์ศรัทธาธรรม ผ่านสี่แยกท่าช้างที่ถนนหมายเลข 101 มาตัดกับถนนหมายเลข 12 ถ้าเลี้ยวซ้ายจะเป็นทางไปสู่จังหวัดพิษณุโลก แล้วถ้าเลี้ยวขวาจะไปทางจังหวัดตากครับ _________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
 |
|
Back to top |
|
 |
|