View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43714
Location: NECTEC
|
Posted: 12/02/2008 10:13 am Post subject: |
|
|
เท่าที่กวดสอบสะพาน แถวปากน้ำโพได้ความว่า
สะพาน หนองปลิง (สะพานเหล็กโครงขึ้น) กม. 248 + 385 ยาว 40 เมตร ทางสายเหนือ
สะพาน ข้ามคลองบ้านใหม่ กม. 249 + 181 ยาว 61 เมตร ทางสายเหนือ
สะพานข้ามคลองบรเพ็ด (คลองบางปรอง) กม. 249 + 603 ยาว 61 เมตร ทางสายเหนือ
สะพานบึงบรเพ็ด กม. 255 + 631 ยาว 1 x 45 เมตร ทางสายเหนือ
ผิดถูกมาเหยียบยอดอกผมได้เลย |
|
Back to top |
|
|
pak_nampho
1st Class Pass (Air)
Joined: 25/06/2007 Posts: 2371
Location: คนสี่แควพลัดถิ่น ทำมาหากิน ที่เกาะภูเก็ต
|
Posted: 12/02/2008 12:35 pm Post subject: |
|
|
Wisarut wrote: | เท่าที่กวดสอบสะพาน แถวปากน้ำโพได้ความว่า
สะพาน หนองปลิง (สะพานเหล็กโครงขึ้น) กม. 248 + 385 ยาว 40 เมตร ทางสายเหนือ
สะพาน ข้ามคลองบ้านใหม่ กม. 249 + 181 ยาว 61 เมตร ทางสายเหนือ
สะพานข้ามคลองบรเพ็ด (คลองบางปรอง/คลองลาดไผ่) กม. 249 + 603 ยาว 61 เมตร ทางสายเหนือ
สะพานบึงบรเพ็ด กม. 255 + 631 ยาว 1 x 45 เมตร ทางสายเหนือ
ผิดถูกมาเหยียบยอดอกผมได้เลย |
แหย่....เฮียหลับ...เอ้ย แหย่...เฮียวิซี่.... กิโลเมตร ตำแหน่งสะพานยอมให้เฮียเหยียบ.... แต่...
V
V
สภาพภูมิศาสตร์แล้วบริเวณนี้ไม่มีลำคลอง และสะพานเหล่านี้ก้ไม่ได้ข้ามคลอง......ทั้ง 3 สะพาน ช่วง สถานี นครสวรรค์ ถึง ปากน้ำโพ
แท้จริงแล้วทางรถไฟ ตั้งแต่ สถานีนครสวรรค์ ถึง สถานีทับกฤช เป็นการวางรางผ่านที่ราบลุ่มบึงบอระเพ็ดที่น้ำท่วมขัง และสะพานเหล่านี้
เสมือนสร้างขึ้นเพื่อเป็นทางระบายน้ำที่ทางรถไฟไปปิดกั้นน้ำจากบึงบอระเพ็ดสังเกตุได้ยามหน้าแล้งใต้สะพานเหล่านี้จะไม่มีสภาพเป็นลำคลอง
เป้นที่ราบหน้าแล้งเท่านั้น... และที่เรียกคลองบางปรอง แล้วแท้จริงชื่อคลองลาดไผ่ เกิดสภาพเป็นลำคลองเฉพาะถนนสาย นครสวรรค์ - ชุมแสง - ชัยภูมิ
ข้ามผ่านเท่านั้น....โดยมีหมู่บ้านเก่าแก่ตั้งบนเกาะที่เกิดจากกระแสน้ำเจ้าพระยาเปลี่ยนทิศทางเป็นลำคลองกว่างประมาณ 15 เมตรและเกาะนี้เรียกว่า
" เกาะบางปรอง " _________________ +++++++++++++++++ ๑๑๖ ปี รถไฟไทยก้าวไกล....จากรถจักรไอน้ำ +++++++++++++++++
....................บุตร ครฟ. พขร.ตรี แขวงรถพ่วงปากน้ำโพ ................... |
|
Back to top |
|
|
umic2000
2nd Class Pass
Joined: 06/07/2006 Posts: 676
Location: Lenin Grad , U.S.S.R.
|
Posted: 12/02/2008 7:01 pm Post subject: |
|
|
pak_nampho wrote: | Wisarut wrote: | เท่าที่กวดสอบสะพาน แถวปากน้ำโพได้ความว่า
สะพาน หนองปลิง (สะพานเหล็กโครงขึ้น) กม. 248 + 385 ยาว 40 เมตร ทางสายเหนือ
สะพาน ข้ามคลองบ้านใหม่ กม. 249 + 181 ยาว 61 เมตร ทางสายเหนือ
สะพานข้ามคลองบรเพ็ด (คลองบางปรอง/คลองลาดไผ่) กม. 249 + 603 ยาว 61 เมตร ทางสายเหนือ
สะพานบึงบรเพ็ด กม. 255 + 631 ยาว 1 x 45 เมตร ทางสายเหนือ
ผิดถูกมาเหยียบยอดอกผมได้เลย |
แหย่....เฮียหลับ...เอ้ย แหย่...เฮียวิซี่.... กิโลเมตร ตำแหน่งสะพานยอมให้เฮียเหยียบ.... แต่...
V
V
สภาพภูมิศาสตร์แล้วบริเวณนี้ไม่มีลำคลอง และสะพานเหล่านี้ก้ไม่ได้ข้ามคลอง......ทั้ง 3 สะพาน ช่วง สถานี นครสวรรค์ ถึง ปากน้ำโพ
แท้จริงแล้วทางรถไฟ ตั้งแต่ สถานีนครสวรรค์ ถึง สถานีทับกฤช เป็นการวางรางผ่านที่ราบลุ่มบึงบอระเพ็ดที่น้ำท่วมขัง และสะพานเหล่านี้
เสมือนสร้างขึ้นเพื่อเป็นทางระบายน้ำที่ทางรถไฟไปปิดกั้นน้ำจากบึงบอระเพ็ดสังเกตุได้ยามหน้าแล้งใต้สะพานเหล่านี้จะไม่มีสภาพเป็นลำคลอง
เป้นที่ราบหน้าแล้งเท่านั้น... และที่เรียกคลองบางปรอง แล้วแท้จริงชื่อคลองลาดไผ่ เกิดสภาพเป็นลำคลองเฉพาะถนนสาย นครสวรรค์ - ชุมแสง - ชัยภูมิ
ข้ามผ่านเท่านั้น....โดยมีหมู่บ้านเก่าแก่ตั้งบนเกาะที่เกิดจากกระแสน้ำเจ้าพระยาเปลี่ยนทิศทางเป็นลำคลองกว่างประมาณ 15 เมตรและเกาะนี้เรียกว่า
" เกาะบางปรอง " |
พี่นพครับ
จริงๆคลองบางปรองตรงสะพานรถไฟด้านทิศใต้สถานีปากน้ำโพ ก่อนหน้านี้มันไม่มีสภาพเป็นคลองด้วยซ้ำไปครับพี่นพ เป็นเพียงทางน้ำผ่านหรือ Spring Way ยามหน้าน้ำหลากตามธรรมชาติของบึงบอระเพ็ดแบบที่พี่พูดถึงนั่นแหละครับ พอไหลผ่านสะพานรถไฟก็ไปรวมกันตรงคลองลาดไผ่แล้วไหลลงแม่น้ำเจ้าพระยา
แต่รู้สึกในช่วงปี พ.ศ.อะไรผมจำไม่ได้แต่จำได้ว่าก่อนหน้าปี พ.ศ. 2538 ที่น้ำท่วมตลาดปากน้ำโพไม่นาน จะมีโครงการอะไรสักอย่างของ อบจ.นครสวรรค์ นี่แหละ ให้ขุดลอกคลองและพัฒนาทางน้ำสาขากับพื้นที่รอบๆ ของบึงบอระเพ็ด นัยว่าเพื่อพัฒนาเป็นแหล่งเก็บกักน้ำกับแหล่งท่องเที่ยวของ จ.นครสวรรค์้่ ทางน้ำผ่านหรือ Spring Way เดิมตรงนี้เลยได้รับขุดลอกให้เป็นบึงรับน้ำ แล้วก็ขุดแนวคลองออกมาบรรจบแนวคลองลาดไผ่ กลายเป็นแนวคลองสายตรงไหลลงแม่น้ำเจ้าพระยาที่ด้านใต้เกาะบางปรอง แถวท่าข้าวกำนันทรงนั่นแหละครับพี่
ส่วนถ้าจะเท้าความไปก่อนหน้านั้นสัก 70 - 80 ปี บึงบอระเพ็ดเป็นเพียงแค่หนองน้ำเล็กๆ กับป่าละเมาะที่มีคลองบอระเพ็ดไหลผ่านเองครับ พอน้ำจากแถว อ.ท่าตะโก อ.ชุมแสง หลากมาก็จะเอ่อท่วมทุ่งกลายเป็นบึงขนาดใหญ่มีทั้งปลา ทั้งจระเข้ชุมไปหมด พอเข้าสู่หน้าแล้งก็กลับไปเหมือนเดิม มาจนปี พ.ศ.2470 รัฐบาลเลยสร้างประตูกั้นน้ำในคลองบอระเพ็ด น้ำก็เลยเอ่อท่วมหนองท่วมทุ่งไปหมดจนเป็นบึงใหญ่มาจนทุกวันนี้ครับ แต่บึงบอระเพ็ดจะว่าไปถึงมีขนาดกว้างใหญ่ก็จริง แต่มีความลึกของบึงโดยเฉลี่ยแค่ 1 เมตรกว่าๆ เองนะครับ ไม่รู้ว่าพอมีโครงการพัฒนาใหม่ของอบจ.นครสวรรค์อีกคราวนี้ จะมีการขุดลอกบึงให้ลึกขึ้นหรือยัง
เอวังด้วยประการฉะนี้แล
ป.ล. จริงๆนครสวรรค์เมื่อตอนพ่อผมยังเด็กๆ มีเกาะกลางแม่น้ำเยอะแยะไปหมด ตั้งแต่เกาะแตงโม เกาะญวน ฯลฯ แต่เดี๋ยวนี้เหลือแต่ชื่อเกือบทั้งหมด เพราะพอแม่น้ำเปลี่ยนทาง คนก็เลยจัดการถมดินแล้วไปซิกแซกออกโฉนดกันเป็นแถวเลย
Last edited by umic2000 on 15/02/2008 2:03 am; edited 2 times in total |
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 13/02/2008 7:45 am Post subject: |
|
|
สภาพเดิมของบึงบอระเพ็ดก็คล้ายๆ กว๊านพะเยาครับ พอกรมประมงสร้างประตูเก็บกักน้ำราวๆ ปี พ.ศ.2482 ถึงได้กลายเป็นบึงขนาดใหญ่ ดังที่เห็นทุกวันนี้
เรื่องการขุดลอกบึงบอระเพ็ด ทางกรมประมง ได้ส่งเรือขุดลอก 2 ลำ ( ใช้ท่อสูบดินใต้น้ำมาทิ้งชายฝั่ง ) มาประจำที่บึงบอระเพ็ด เหมือนที่กว๊านพะเยา ก็มีอยู่ 2 ลำ ผมนั่งรถไฟผ่านบึงบอระเพ็ดเมื่อก่อนยังเห็นเรือขุดเหล่านี้อยู่เลยครับ
แต่คิดว่า กว่าจะขุดดินรอบบึงให้เป็นร่องระบายน้ำขนาดใหญ่กันผู้บุกรุกลงไปในบึงได้ คงใช้เวลาราวๆ ร้อยปีเศษแน่นอน |
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 13/02/2008 6:30 pm Post subject: |
|
|
สะพานแห่งที่ 3 นี้ตั้งอยู่ช่วงเสาโทรเลขที่ 253/13 - 253/14 จากที่เห็นในรูปข้างล่างนี้ก็บอกได้ว่า สะพานแห่งนี้เป็นสะพานเหล็กแบบแผงขึ้น ความยาว 1 ช่วง Span ( เพราะฉะนั้นก็จะไม่มีตอม่อ ) ครับ
เท่าที่ลองวัดความยาวของสะพานแห่งนี้จาก Pointasia ตัวเลขโดยประมาณที่ออกมาก็คือ 20 เมตร ส่วนถนนที่อยู่ทางด้านทิศใต้ของทางรถไฟก็คือถนนเล็ก ๆ ที่ตัดตรงออกมาจาก " ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดนครสวรรค์ " เลียบบึงบอระเพ็ดไปเรื่อย ๆ ครับ
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 13/02/2008 7:10 pm Post subject: |
|
|
แผงเหล็กที่นำมาประกอบเป็นตัวสะพานก็ยังคงใช้วิธีการยึดติดกันแบบหมุดย้ำครับ
โครงสร้างของสะพานที่ตั้งอยู่ที่คอสะพานด้านนอก
ด้านใน... เห็น nameplate แล้วครับ ไม่ต้องมองหาเลย
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 13/02/2008 7:48 pm Post subject: |
|
|
ไหน ๆ ก็มองเห็น nameplate แล้ว ก็ก้มลงมาอ่านข้อความใน nameplate กันสักหน่อยแล้วกันครับ
nameplate wrote: | ปี พ.ศ. 2495
การรถไฟแห่งประเทศไทย
ความยาวของสะพาน 20 เมตร ( เท่ากับที่วัดได้จาก Pointasia )
พิกัดน้ำหนักกดเพลาที่สามารถรับได้ 15 ตัน
B.B.L. 279 ( ไม่ทราบความหมาย )
KISHA SEIZO KAISHA
เมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น |
สำหรับสะพานที่เป็นผลงานของ KISHA SEIZO KAISHA ที่ได้นำเสนอผ่านทาง RFT.com ไปแล้วก็คือ สะพานเหล็กแบบโครงถัก บริเวณเสาโทรเลขที่ 255/14 - 255/15 ในเส้นทางสายเหนือ สะพานเดียวครับ
ต่อไปก็ไปดูการเชื่อมต่อคานเหล็กรับน้ำหนักข้างใต้ทางรถไฟ มองเห็นไม่ค่อยชัดเพราะว่ามีแผ่นเหล็กมาบังอยู่ครับ
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 13/02/2008 8:30 pm Post subject: |
|
|
ในรูปข้างล่างนี้จะเห็นวิธีการเชื่อมต่อคานรับน้ำหนักด้านล่างเข้ากับแผงเหล็กของตัวสะพานครับ
เดินมาถึงกลางสะพานแล้วก็ หยุดพักชมวิวสักครู่ มองออกไปทางขวาของตัวสะพาน พื้นที่ด้านล่างรกมากเลยครับ ในช่วงที่ระดับน้ำในบึงบอระเพ็ดสูง ก็น่าจะเข้าท่วมบริเวณนี้ทั้งหมด
หันไปทางซ้ายจะเห็นบึงบอระเพ็ดอยู่ไกล ๆ พื้นที่ด้านข้างสะพานก็มีสภาพใกล้เคียงกับฝั่งตรงข้ามครับ
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
saraburi
1st Class Pass (Air)
Joined: 03/07/2006 Posts: 3321
Location: ถิ่นเนื้อนุ่ม นมดี กะหรี่(ปํ๊บ)ดัง สระบุรี
|
Posted: 13/02/2008 8:48 pm Post subject: |
|
|
ExtendeD wrote: |
B.B.L. 279 ( ไม่ทราบความหมาย )
|
พี่เต้ยครับ อันนี้ผมว่าเหมือนมีความหมายเป็นนัยๆว่า เป็นผลิตภัณท์หมายเลขที่....อะครับๆ
แบบอันนี้อะครับ เป็นสะพานเก่าที่บ้านหมอ (โดนต้นตะขบขึ้นตรงกลางตัวสะพานเลย)
_________________ ช่างภาพระดับพื้นโลก
|
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 13/02/2008 9:09 pm Post subject: |
|
|
ก่อนจะเดินข้ามสะพานนี้ไปถึงอีกฝั่งหนึ่ง ถ้าหันมองไปที่แผงเหล็กทางด้านขวาจะเห็นตัวอักษรที่ใช้สีสเปรย์พ่นเอาไว้เมื่อครั้งที่มีการทำสีสะพานนี้ครั้งล่าสุดเอาไว้ เมื่อวันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2547 นอกจากนั้นทางด้านล่างสุดก็มีตัวเลขบอกความสูงของคอสะพานเขียนเอาไว้ด้วยครับ ( 0.93 เมตร )
หลังจากข้ามสะพานที่ 3 มาแล้ว เห็นว่าพื้นที่ด้านข้างสะพานมีที่ว่าง ( จริง ๆ ก็ไม่ใช่ที่โล่ง ว่างหรอกครับ แต่พอเดินลุยไปได้ ) ก็เลยได้โอกาสเก็บภาพด้านข้างสะพานแห่งนี้ แบบชัด ๆ มาฝากกัน แล้วก็ถือเป็นรูปปิดท้ายสำหรับสะพานที่ 3 แห่งนี้เลยแล้วกันครับ
นี่ถ้าวันนั้นฟ้าเปิด ท้องฟ้าแจ่มใส รูปนี้จะย้อนแสงเต็ม ๆ เลยล่ะครับ แบบนี้เรียกว่าโชคดีที่ฟ้าไม่สดใส เลยไม่มีแดด หรือว่าโชคร้ายกันแน่ล่ะครับเนี่ย _________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
|