View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 07/04/2008 3:55 pm Post subject: |
|
|
ที่เห็นอยู่ในรูปข้างล่างนี้คือบันไดทางขึ้นสู่เขากระโดง ซึ่งเป็นมุมมองจากบนยอดเขาครับ ใกล้ ๆ กับบันไดนี้จะมีป้ายท้าทายความอยากรู้อยากลองของนักท่องเที่ยวที่ได้มาเยือนเขากระโดงแห่งนี้ ให้ลองนับจำนวนขั้นบันไดทางขึ้นสู่เขากระโดงว่ามีอยู่ทั้งหมดกี่ขั้น ผมเองก็ได้นับมาแล้ว แต่คงจะไม่ขอบอกว่านับได้เท่าไหร่นะครับ เอาไว้ให้ลองไปนับกันเอง บอกได้อย่างเดียวว่า กว่าจะขึ้นมาถึงบนยอดเขาได้เนี่ย " เหนื่อยแทบขาดใจ "
ลองดูจากวัยรุ่นอยากลองคู่นี้สิครับ แล้วจะรู้ว่ากว่าจะขึ้นมาถึงข้างบนได้นั้น " เหนื่อยแทบขาดใจ " อย่างที่ผมบอกจริง ๆ
และ...
ในวันนั้นพวกเราขี่มอเตอร์ไซค์ซ้อน 3 ไปที่เขากระโดงครับ หลังจากไปถึงยอดเขาแล้ว ผมก็อาสาเดินลงบันไดไปเอง เพราะคิดว่าถ้ายังคงซ้อน 3 ลงจากเขามาอาจจะไม่ปลอดภัย แต่วัยรุ่นอยากลองคู่นี้คงอยากจะลองนับขั้นบันไดดูแน่ ๆ เลยครับ ก็เลยปีนกลับขึ้นมาอีกครั้ง ผลที่ออกมา ก็เลยเป็นอย่างที่เห็นในรูป... _________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 07/04/2008 4:34 pm Post subject: |
|
|
จาก วนอุทยานเขากระโดง พวกเราก็มาแวะที่ พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ครับ
ภาพหน้าตรงของพระบรมราชานุสาวรีย์แห่งนี้ครับ
นอกจากรายละเอียดของพระบรมราชานุสาวรีย์แห่งนี้ที่อ่านเพิ่มเติมได้จาก website ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย แล้ว website ของกระทรวงวัฒนธรรม ยังได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมเอาไว้ว่า
website ของกระทรวงวัฒนธรรม wrote: | พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
ที่ตั้ง ประดิษฐานอยู่ ณ บริเวณวงเวียนอนุสาวรีย์สี่แยกถนนสายบุรีรัมย์ - สตึก ตัดกับถนนสายบุรีรัมย์ - ประโคนชัย อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ อนุสาวรีย์นี้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสยามบรมราชกุมาร ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงวางศิลาฤกษ์ เมื่อวันศุกร์ที่ 7 เมษายน 2538
ความเป็นมา การสร้างพระบรมราชาอนุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช สร้างขึ้นตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ระบุว่า เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2319 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เมื่อครั้งยังดำรงตำแหน่งสมเด็จเจ้าพระยาจักรีได้ยกกองทัพไปปราบกบฏพระยานางรอง เมื่อเสด็จฯ กลับได้พบเมืองร้างชัยภูมิดี จึงให้รวบรวมผู้คนแล้วก่อตั้งเมืองชื่อว่า " เมืองแปะ " ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น " เมืองบุรีรัมย์ " ด้วยจิตสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันใหญ่หลวงที่มีต่อชาวบุรีรัมย์ ประชาชนชาวบุรีรัมย์จึงพร้อมใจกัน จัดสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชขึ้น |
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 07/04/2008 7:35 pm Post subject: |
|
|
จากนั้นพวกเราก็มาที่ " สวนรมย์บุรี " ครับ
ที่นี่เป็นสถานที่ที่ชาวบุรีรัมย์จะมาทำกิจกรรมหลายอย่างในช่วงเย็น ๆ ไปจนถึงหัวค่ำ
เท่าที่ผมเห็น ส่วนใหญ่คนที่มาที่นี่ก็จะมาออกกำลังกายกันครับ
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 07/04/2008 8:00 pm Post subject: |
|
|
บรรยากาศดี ๆ แบบนี้ ถ้าได้พาใครสักคนมานั่งดูน้ำพุด้วยกันก็คงจะดี
รอบ ๆ บริเวณของ " สวนรมย์บุรี " แห่งนี้มีพ่อค้าแม่ค้าขายอาหารปลาด้วยครับ วันนั้นน้องปู๊นก็ได้ซื้ออาหารปลามาเลี้ยงฝูงปลาที่อยู่ในสระน้ำด้วย
ส่วนจำนวนของปลาในสระน้ำแห่งนี้ มีมากน้อยแค่ไหน ก็ลองดูจากรูปข้างล่างนี้ได้เลยครับ
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 07/04/2008 9:00 pm Post subject: |
|
|
อีกด้านหนึ่งของเมืองบุรีรัมย์ ที่อยู่ไม่ห่างจาก " สวนรมย์บุรี " มากนัก ก็จะเป็นที่ตั้งของสระน้ำขนาดใหญ่อีก 1 แห่งครับ ถ้าได้อ่านตามป้ายที่ติดตั้งอยู่โดยรอบสระน้ำแห่งนี้ ก็จะรู้ว่าที่นี่คือ " คูเมืองบุรีรัมย์ด้านทิศเหนือ " หรือ " คลองละลม " ครับ
ข้อมูลตามป้าย wrote: | คูเมืองบุรีรัมย์ด้านทิศเหนือ ( คลองละลม )
เป็นส่วนหนึ่งของคูเมืองเมืองบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นเมืองโบราณขนาดใหญ่ รูปร่างค่อนข้างกลมรี มีกำแพงเมือง ( ดิน ) ล้อมรอบ ขนาดของเมืองกว้างประมาณ 1,160 เมตร ยาวประมาณ 1,150 เมตร อาจมีอายุเก่าแก่ถึงสมัยก่อนประวัติศาสตร์ตอนปลายราว 2,000 ปีมาแล้ว
Klong Lalom is one of Muang Buriram's moat. This ancient city is a large moated site with an oval shape mesuring 1,160 metres by 1,150 metres. This moat is probaby dated to late prehistoric times or 2,000 years ago. |
ถึงแม้จะได้รับการปรับปรุงภูมิทัศน์ให้ดูสวยงามคล้าย ๆ กับ " สวนรมย์บุรี " แต่บรรยากาศของ " คูเมืองทางด้านทิศเหนือ " แห่งนี้ เงียบเหงาจนถึงขั้นวังเวง แตกต่างกันจริง ๆ ครับ
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
OLIVE
2nd Class Pass
Joined: 05/03/2008 Posts: 688
Location: 1001-4239-4325
|
Posted: 07/04/2008 11:34 pm Post subject: |
|
|
ติดตามรอชมต่อนะครับ รีบกลับมาต่อไวๆนะครับ
อยากรู้จังครับว่า ปลายทางของการเดินทางครั้งนี้จะอยู่ที่ไหน _________________ การเดินทาง การเเสวงหา คือความสุข คือการเปิดโลกอันกว้างใหญ่ ..........(^_^)........... |
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 08/04/2008 6:55 am Post subject: |
|
|
รุ่งเช้าวันที่ 18 มีนาคม ( เจ้าตี๋ยังไม่ตื่น ) ผมซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ของน้องปู๊นตรงไปที่ สถานีบุรีรัมย์ ครับ แต่ยังไม่ทันจะไปถึงเลย ก็เห็นว่ามีรถจักรดีเซลไฟฟ้า Alsthom ( ดีเซลเปล่า ) วิ่งผ่านมาให้เห็น แถมยังมี บทค. จอดอยู่อีก 1 ขบวนด้วย พอจอดรถเสร็จผมกับน้องปู๊นก็รีบขึ้นมาบนชานชาลา ในตอนนั้นเห็นว่ามีรถจักรดีเซลไฟฟ้า Alsthom จอดอยู่ในรางที่ 2 คันหนึ่งครับ รถจักรคันนั้นก็คือ Alsthom ( AHK. ) หมายเลข 4229 ครับ
คงจะเกิดเหตุขัดข้องบางอย่างก็เลยไม่สามารถทำขบวนต่อไปได้ ตัวผมเองไม่คิดว่าจะเจอเหตุการณ์แบบนี้ ก็เลยไม่ได้พกขาตั้งกล้องไป ไม่อย่างนั้นรูปที่ถ่ายได้น่าจะชัดกว่าที่เห็นอยู่นี้ครับ น่าเสียดายจริง ๆ
ส่วนรถจักรคันที่วิ่งผ่านหน้าผมกับน้องปู๊นไปก่อนที่จะมาถึงสถานีรถไฟนั้น ก็คือรถจักรดีเซลไฟฟ้า Alsthom ( ALS. ) หมายเลข 4137 ที่ทำ ขบวนรถธรรมดาที่ 234 ต้นทางสถานีสุรินทร์ - ปลายทางสถานีกรุงเทพ ผ่านมาในช่วงเวลานั้นพอดี ก็เลยต้องรับหน้าที่พา AHK. 4229 ไปซ่อมที่โรงรถจักรนครราชสีมาด้วยเลยครับ
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 08/04/2008 7:55 am Post subject: |
|
|
หลังจากที่ขบวนที่ 234 เคลื่อนขบวนออกไป ชานชาลาของ สถานีบุรีรัมย์ ก็เข้าสู่ความเงียบเหงาทันที...
แต่คงเป็นแค่ช่วงเวลาสั้น ๆ เท่านั้นล่ะครับ เพราะว่าเสียงประกาศผ่านลำโพงแจ้งให้รู้ว่า ขบวนรถด่วนที่ 67 ต้นทางสถานีกรุงเทพ - ปลายทางสถานีอุบลราชธานี ( เพิ่งจะมา... ) กำลังจะเข้ามาหยุดรับ - ส่งผู้โดยสารในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า น้องปู๊นเองก็ไม่ขัดข้องที่ผมขออยู่ที่นี่ต่ออีกสักพัก เพื่อรอเก็บภาพของขบวนที่ 67 มาฝากครับ
ในวันนั้น ขบวนรถด่วนที่ 67 ต้นทางสถานีกรุงเทพ - ปลายทางสถานีอุบลราชธานี ได้รถจักรดีเซลไฟฟ้า General Electric ( GEA. ) หมายเลข 4537 ทำขบวนครับ ( ก่อนหน้านี้เห็นไปทำขบวนรถปูนซีเมนต์อยู่ตั้งนาน ) ได้รถจักรสีสด ๆ แสบตาแบบนี้ ผมก็เลยกดไปหลายรูปครับ ขอเลือกรูปตอนที่ทำขบวนออกจาก สถานีบุรีรัมย์ ( เวลา 07.13 น. ) มาให้ดูก็แล้วกันครับ
ส่วนรูปตอนที่หยุดรับ - ส่งผู้โดยสารอยู่ที่สถานีจะส่งลง Gallery ครับ
ปล. GEA. 4537 นี่เอามายั่วน้องอ๋องโดยเฉพาะครับ ( ไม่ย้อนแสงด้วยนะ ) ไม่ได้มีแค่รูปเดียวนะ เดี๋ยวมีอีก แล้วก็ไม่ได้เจอ GEA. สีสด ๆ แค่ 4537 คันเดียวนะ เดี๋ยวลงใต้ก็ยังเจออีก แต่ไม่เจอ Hitachi สีแจ่ม ๆ เลย _________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 08/04/2008 9:00 am Post subject: |
|
|
ตอนที่มาเยือน สถานีบุรีรัมย์ เป็นครั้งแรก ผมไม่ได้เก็บรายละเอียดเกี่ยวกับขนาด และที่มาของรางเอาไว้เลย พอมาครั้งนี้นึกขึ้นได้ก็เลย เก็บภาพมาให้ดูเพิ่มเติมครับ
ทางประธานเป็นรางเชื่อม ส่วนขนาดและที่มาก็เป็นไปตามที่พี่วิศรุตเคยได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมไว้ในกระทู้ ตุลาฮาเฮ... แบกเป้ " ตะลอนทั่วอีสาน " ครับ
Wisarut wrote: | นี่มันราง 100 ปอนด์จากโรงเหล็ก Angang นคร Anshan ประเทศสาธารณรัฐประชนชนจีน (จีนแผ่นดินใหญ่) สั่งเข้ามาใช้เมืองไทย เมื่อปี 2548
URL http://www.ansc.com.cn |
เดินดูตามทางรถไฟไปเรื่อย ๆ ก็เห็นว่า ทางประธานที่อยู่ที่นี่ไม่ได้ใช้รางเหล็กจากประเทศจีนเพียงอย่างเดียวครับ รางเหล็กที่เห็นอยู่นี้ผลิตขึ้นในปี ค.ศ. 2002...
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 08/04/2008 9:19 am Post subject: |
|
|
ข้ามมาดูรางที่ 2 บ้าง ถึงแม้รางเหล็กที่เห็นอยู่นี้ จะมีอายุมากกว่า 80 ปี แต่ก็ยังคงเห็นตัวอักษรที่สลักอยู่ที่รางชัดเจนมากครับ
และนี่คือรายละเอียดของรางที่ 3 ครับ
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
|