นั่งรถไฟ. . .ไปดูสะพานสายอีสาน ปิดฉากสะพานอีสานใต้

[ExtendeD]

[ExtendeD]

เก็บภาพของขบวนที่ 136 ช่วงที่ออกจาก สถานีบุรีรัมย์ เสร็จแล้ว ผมก็ยังไม่กลับไปที่โรงรถจักรสะพานยาวครับ เพราะเห็นว่าอีกไม่นานก็จะมีขบวนรถเข้ามาหยุดรับ - ส่งผู้โดยสารอีก 1 ขบวน ซึ่งก็คือ ขบวนรถท้องถิ่นที่ 419 ต้นทางสถานีนครราชสีมา - ปลายทางสถานีอุบลราชธานี ที่เห็นอยู่ในรูปครับ ผู้โดยสารมากมายล้านแปด ขายดีจริง ๆ




หลังจากขบวนที่ 419 ออกจาก สถานีบุรีรัมย์ ไปไม่นาน ( ประมาณ 2 ชั่วโมง . . . ) ผมก็ได้พบเจอกับขบวนรถพิเศษหินที่ 1272 ที่เพิ่งจะกลับมาจากภารกิจเทหิน ทั้งรถจักรและ บทข. ยังคงเป็นชุดเดิม หลังจากทำการสับเปลี่ยนเสร็จ ก็ทำขบวนเข้าไปรับหินในลานเก็บกองหินเขากระโดงอีกครั้ง แต่ท้ายที่สุดก็ต้องถอยกลับมาจอดอยู่ในรางที่ 3 ที่ สถานีบุรีรัมย์ อีกครั้ง เพราะว่ารถตักหินชำรุด ตามที่ได้แปะ Clip ให้ดูก่อนหน้านี้ครับ


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

ช่วงเย็นวันเดียวกันนั้น ผมกับน้องปู๊นมานั่งกินก๋วยจั๊บอุบลกันที่บริเวณจุดตัดถนนเสมอระดับทางด้านทิศตะวันออกของ สถานีบุรีรัมย์ อยู่ใกล้ทางรถไฟแค่นี้เอง ถ้ามีรถไฟผ่านมาให้เห็นสักขบวนก็คงจะดี . . .




นั่งรอ + กินอยู่สักพักก็ไม่มีรถไฟผ่านมาให้เห็นเลยแม้แต่ขบวนเดียว พอจ่ายเงินเตรียมขึ้นรถกลับบ้าน เครื่องกั้นก็ทำงาน สมหวังล่ะครับ




และสมหวังยิ่งกว่าสมหวังอีกครั้ง เพราะว่ารถจักรที่ทำขบวนมานั้นคือ รถจักรดีเซลไฟฟ้า Hitachi หมายเลข 4514 ทำขบวนรถน้ำมันปลายทาง สถานีอุบลราชธานี ( จำหมายเลขขบวนไม่ได้แล้วครับ ) น่าเสียดายแค่ว่าแบตของกล้องใกล้หมด แถมเนื้อที่ใน Memory Stick เหลือน้อยไม่พอเก็บภาพไว้เป็น Clip แน่นอน ก็เลยได้เป็นภาพนิ่งมาฝากแทนครับ


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

สำหรับเรื่องราวและรูปภาพที่ผมเตรียมเอาไว้นำเสนอใน นั่งรถไฟ . . . ไปดูสะพานสายอีสาน Version 2.2 มินิมาราธอน 11.1 กม. กับสะพานทั้ง 3 ที่ " ลำชี " ก็คงจะมีแต่เพียงเท่านี้ครับ

จากนี้ผมก็ต้องขอดัน นั่งรถไฟ . . . ไปดูสะพานสายอีสาน ไปจอดพักขบวนในรางหลีกก่อน แล้วประมาณช่วงวันที่ 22 - 23 กรกฎาคม ผมจะพาพี่ ๆ น้อง ๆ ออกเดินทางต่อไปพร้อม ๆ กับ Version 2.3 และ Version 2.4 ที่เป็นภาคเสริม เพื่อไปสำรวจอีก 4 สะพานที่เห็นอยู่ในรูปข้างล่างนี้ เป็นสะพานที่ไหนบ้างจำได้หรือเปล่าครับ



ยังมี Clip ให้ดูอีกหลาย Clip เช่นเคย แต่จะจบทัน " วันนั้น " ตามที่ตั้งใจเอาไว้หรือเปล่าเนี่ย
_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[nutt8]

รอติดตามชมเช่นเคยครับ
_________________


แชมป์สมัยที่ 19 แล้วนะ อิอิอิ

[black_express]

เห็นพูดพาดพิงถึงลำน้ำสาขาของแม่น้ำมูลที่เส้นทางรถไฟสายอุบลราชธานีข้ามผ่าน เลยขออธิบายเพิ่มเติมครับ

ลำน้ำที่จะข้ามเป็นแห่งแรก ก็คือ ลำตะคอง ที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ก่อนเลียบอ่างเก็บน้ำลำตะคอง

ลำน้ำแห่งที่สอง คือ ลำน้ำมูลตอนบน โดยมีลำพระเพลิงไหลมาสมทบ ที่ อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา

ลำน้ำแห่งที่สาม คือ ลำจักราช ที่ อ.จักราช จ.นครราชสีมา

ลำน้ำแห่งที่สี่ คือ ลำปลายมาศ โดยมีห้วยแถลงไหลมาสมทบ ที่ อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์

ลำน้ำแห่งที่ห้า คือ ลำตะโคง โดยมีห้วยจรเข้มากไหลมาสมทบ ที่ อ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์

ลำน้ำแห่งที่หก คือ ลำชี ซึ่งเป็นเส้นแบ่งเขตจังหวัดบุรีรัมย์ (อ.กระสัง) และจังหวัดสุรินทร์ ที่ อ.เมืองฯ จ.สุรินทร์

ลำน้ำแห่งที่เจ็ด คือ ห้วยทับทัน ซึ่งเป็นเส้นแบ่งเขตจังหวัดสุรินทร์ (อ.สำโรงทาบ) และจังหวัดศรีสะเกษ ที่ อ.ห้วยทับทัน จ.ศรีสะเกษ

ลำน้ำแห่งที่แปด คือ ห้วยสำราญ ที่ อ.เมืองฯ จ.ศรีสะเกษ

ลำน้ำแห่งที่เก้า คือ ห้วยขยุง เป็นเส้นกั้นเขตจังหวัดศรีสะเกษ (อ.กันทรารมย์) และจังหวัดอุบลราชธานี ที่ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี

ซึ่งสะพานข้ามลำน้ำแต่ละแห่ง (ยกเว้นลำตะคอง) มักจะใหญ่โต ตามที่คุณเต้ยไปสำรวจมานั่นแหละครับ

...............

ในส่วนของสถานีลำชี ที่มีวงเวียนกลับรถจักร และเป็นปลายทางขบวนรถโดยสารท้องถิ่นสมัยก่อนด้วยนั้น เพราะมีหน่วยงานของการรถไฟฯ ตั้งอยู่ที่นั่น เช่น ขบท.ลำชี และบ้านพัก ครฟ.ต่างๆ อาจเป็นเพราะมีลำชีไหลผ่าน น้ำท่าเติมรถจักรไอน้ำ ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์กว่าตัวจังหวัด และไม่ห่างไกลตัวจังหวัดสุรินทร์นัก พอเดินทางได้สะดวกนั่นเองครับ

[Mongwin]

[ExtendeD]

นั่งรถไฟ... ไปดูสะพานสายอีสาน Version 2.3 สองคืน หนึ่งวัน กับภารกิจสำรวจสะพาน " ครั้งสุดท้าย " ในแดนอีสานใต้ ( รส. - อน. )

การเดินทางเยือนดินแดนที่ราบสูงในครั้งนี้ เริ่มต้นขึ้นในคืนวันที่ 8 กรกฏาคมที่ผ่านมา ผมขึ้น ขบวนรถธรรมดาที่ 210 ต้นทางสถานีบ้านตาคลี - ปลายทางสถานีกรุงเทพ มาถึงหัวลำโพงที่เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางในเวลาประมาณ 20.40 น. ครับ

จากนั้นก็เดินเอ้อระเหยมาจนถึงบริเวณต้นชานชาลาที่ 8 - 9 ซึ่งในค่ำคืนนั้นค่อนข้างเงียบสงบไม่มีผู้คนพลุกพล่านมากนัก เหมาะแก่การนั่งดูรถไฟ + คิดอะไรเพลิน ๆ อยู่เงียบ ๆ คนเดียวเป็นที่สุด หลังจากนั่งปักหลักหยั่งรากลงบนเก้าอี้ตัวแรกที่อยู่ที่ต้นชานชาลาได้ไม่นาน ขบวนรถเร็วที่ 115 ต้นทางสถานีกรุงเทพ - ปลายทางสถานีพิษณุโลก ที่ทำขบวนโดยรถจักรดีเซลไฟฟ้า Alsthom ( AHK. ) หมายเลข 4220 ก็เคลื่อนขบวนออกไป




ต่อจากนั้นก็ใช้เวลาอยู่กับตัวเอง นั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย จนกระทั่งได้เปิดกล้องเพื่อเก็บภาพมาฝากพี่ ๆ น้อง ๆ อีกครั้งก็เป็นช่วงที่รถจักรดีเซลไฟฟ้า General Electric ( GEK. ) หมายเลข 4039 ซึ่งเป็นรถจักรสับเปลี่ยนเพียงคันเดียวที่วิ่งเข้า - ออกรางโน้นที รางนี้ที พาชุดรถโดยสารของ ขบวนรถเร็วที่ 141 ต้นทางสถานีกรุงเทพ - ปลายทางสถานีอุบลราชธานี เข้าเทียบในรางที่ 8 ส่วนที่เห็นอยู่ในรางที่ 7 นั้นก็คือ ขบวนรถด่วนดีเซลรางปรับอากาศที่ 73 ต้นทางสถานีกรุงเทพ - ปลายทางสถานีศีขรภูมิ ที่กำลังจะเข้าเทียบชานชาลาครับ


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[nutt8]

ติดตามชมครับ พี่เต้ย

ขอชมรายละเอียดของสะพานด้วยคน

เดือนว่าจะไปสำรวจสะพานอีกครั้ง (ชักเริ่มติดใจแล้ว)
_________________


แชมป์สมัยที่ 19 แล้วนะ อิอิอิ

[ExtendeD]

ในรางที่ 10 ขบวนรถด่วนที่ 51 ต้นทางสถานีกรุงเทพ - ปลายทางสถานีเชียงใหม่ ที่ได้รถจักรดีเซลไฟฟ้า Alsthom ( AHK. ) หมายเลข 4204 ทำขบวน ก็พร้อมที่จะออกเดินทางแล้วครับ อยากขึ้นเหนือจริง ๆ เลย แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา . . .




เวลาผ่านไปจนถึง 23.15 น. ซึ่งในเวลานั้นน่าจะมีเพียงแค่ ขบวนรถเร็วที่ 143 ต้นทางสถานีกรุงเทพ - ปลายทางสถานีอุบลราชธานี จอดเทียบอยู่ในรางที่ 9 เพียงแค่ขบวนเดียวเท่านั้น แต่สิ่งที่เกิดขึ้น มันไม่เป็นแบบนั้น เพราะ . . . ( ให้รูปบรรยาย . . . ) แล้วผมจะไปกับรถขบวนไหนดีล่ะครับ . . .


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.