View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
sompotch
VIP Member
Joined: 09/12/2007 Posts: 66
|
Posted: 07/08/2008 9:01 am Post subject: นิทานธรรมมะ อ่านไว้ไม่เสียหลาย |
|
|
ผมได้อ่านนิทานธรรมมะ เรื่องลูกกตัญญู จาก www. bynationonline.com เห็นว่ามีสาระดี และเดือนนี้เป็นเดือนสิงหาคม มีวันแม่แห่งชาติ จึงขออนุญาตเผยแพร่ให้สมาชิกและทุกท่านได้อ่านบ้าง ดังนี้
เด็กคนหนึ่ง (เป็นชาวจีน) ไม่มีพ่อ มีแต่แม่
เวลาเด็กคนนี้ถูกแม่ตีสั่งสอน ก็ยิ้มทุกครั้ง ไม่มีครั้งไหนเลยที่เด็กคนนี้ไม่ยิ้ม และทุกครั้งที่ถูกแม่ตัวเองตี ก็จะนั่งหมอบให้แม่ตีทุกครั้งไป ไม่ว่าแม่จะตีด้วยอะไร มือ ไม้ หรือหวาย
...... นานแล้วแม่ไม่ได้ตี จนกระทั่งเด็กคนนี้เติบใหญ่
ครั้งหนึ่ง เด็กออกไปเรียน แล้วเผลอถูกเพื่อนชวนไปเที่ยว ทำให้กลับบ้านช้า
พอกลับมาถึงบ้าน แม่ก็โกรธ "บอกว่ามัวแต่เถลไถล" เลิกเรียนแล้วก็น่าจะกลับบ้านทันที
แม่ก็เอาไม้มาตี แต่อนิจจา..... ไม้หลุดมือ แม่ไม่มีแรงถือไม้แล้ว เด็กคนนี้น้ำตาซึม
แม่ก็เอามือเปล่าๆ มาตีแทน เด็กคนนี้ก็ร้องไห้โฮ แล้วทรุดลงไปยิ่งกว่าที่เคยหมอบในอดีตอีก แม่สงสัยว่าตอนเด็กๆ โดนตีก็ยิ้มทุกวัน ทำไมวันนี้ร้องไห้ใหญ่เลย
แม่ถามว่า "แม่ตีแรงใช่ไหม? แม่ขอโทษนะ"
เด็กบอกว่า "ไม่ใช่หอกครับ เพราะแม่นั้นอ่อนแอลง แก่ไปมากแล้ว เมื่อก่อนแม่เคยตีผมแรงๆ ได้ แสดงว่าแม่แข็งแรง แต่ตอนนี้แม่แก่แล้ว ผมรู้สึกเศร้าใจ เพราะเหลือเวลาอีกไม่เท่าไหร่แล้วที่ผมจะได้อยู่กับแม่"
แม่เด็กคนนั้น ก็ถึงกับทรุด ไม่นึกเลยว่าลูกตัวเองจะเป็นเด็กที่มีความคิดประเสริฐเช่นนี้
ทั้งสองแม่ลูกก็กอดกัน แล้วร้องไห้
ผมนึกถึงเรื่องนี้แล้วก็ร้องไห้ทุกที ผมรู้สึกเสียใจที่ตอนเด็กๆ ผมดื้อ แล้วพอพ่อแม่ตีก็โกรธอีก
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า เราโชคดีที่มีพ่อแม่คอยสั่งสอน
นิทาน ธรรมะ "ลูกยอดกตัญญ" อ่านไว้ไม่เสียหาย ก่อนพ่อกับแม่จะจากเราไป
ปล. บุตรเมื่อมีความกตัญญู กตเวที แล้ว ย่อมเป็นมนุษย์โดยสมบูรณ์ |
|
Back to top |
|
|
KaittipsBOT
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 4150
|
Posted: 07/08/2008 9:51 am Post subject: |
|
|
เห็นด้วยอย่างยิ่งกับนิทานเรื่องนี้ เด็กในสมัยก่อนโตมาด้วยไม้เรี่ยว และการสั่งสอนจาก พ่อแม่ ครูบาอาจารย์ ต่างกับเด็กในสังคมเมืองใหญ่ๆ ยุคนี้ส่วนมากได้รับการเลี้ยงดูจากพ่อแม่ แบบยุงไม่ให้ไต่ ไรไม่ให้ตอม หรือที่ชาวบ้านเขาเรียกว่า "พ่อแม่รังแกฉัน"
วันแม่แห่งชาติ..
วันที่เราเกิดมาลืมตาดูโลก..วันนั้นผู้หญิงคนหนึ่งได้เอาชีวิตตัวเองเข้าแลก
วันที่เราเกิดมาลืมตาดูโลก..วันนั้นผู้หญิงคนหนึ่งยิ้มด้วยความดีใจเป็นที่สุดที่ได้เห็นเรา
วันที่เราเกิดมาลืมตาดูโลก..วันนั้นผู้หญิงคนหนึ่งเรียกตัวเองว่า..แม่ |
|
Back to top |
|
|
KaittipsBOT
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 4150
|
Posted: 07/08/2008 11:38 am Post subject: |
|
|
เป็นภาพที่ได้รับรางวัลของ ธ.กสิกรไทย เห็นภาพแล้วสะท้อนให้ชีวิตของ 2 Generation ของคนไทยและเป็นวัฒนธรรมการสั่งสอนของคนจากรุ่นสู่รุ่น มองภาพแล้วอ่านบทกวี ที่เรียงร้อยไว้ด้านล่างแล้ว ทำให้ผมรู้สึกอึ้ง......ไปชั่วขณะจริงๆ
หนึ่งภาพ แทนคำ ล้านคำพูด หนึ่งใบ ยายพูด พร่ำบอกหลาน
หนึ่งเรียน ให้รู้ จึงอยู่นาน หนึ่งคน ถึงกาล ย่อมโรยลา
.... อัฐนี้ ยาย อด เจ้าจึงอิ่ม ยามนี้ เจ้าอิ่ม จงเร่งหา
เรียนนี้ ให้รู้ รอบปัญญา แต่นี้ ภายหน้า เป็นคนดี...... |
|
Back to top |
|
|
Aishwarya
1st Class Pass (Air)
Joined: 11/01/2007 Posts: 1721
Location: นพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่
|
Posted: 07/08/2008 1:01 pm Post subject: |
|
|
"สองมือที่ดูนุ่มนวลอ่อนโยน
สองมือที่ดูช่างบอบบางอย่างนั้น
สองมือที่ดังไม่มีความสำคัญ
คือสองมือที่ทำให้โลกหมุนไป
แม้นเพียงร่างกายนั้นเกิดเป็นหญิง
แท้จริงหัวใจนั้นแกร่งยิ่งกว่าชาย
ขอเพียงให้เป็นได้ดังที่ตั้งใจ
จะทุกข์ทนเดียวดาย
ไม่มีความสำคัญ
บันดาลโลกหมุนเวียนวนไปตามจิตใจ
นำพาให้เป็นไปตามต้องการ
ทุกสิ่งเปลี่ยนแปรไปด้วยมือเธอเสกสรรค์
ดังถ้อยคำประพันธ์เปรียบเปรยพรรณนา
ถึงชายได้กวัดแกว่งแผลงจากอาสน์
ซึ่งอำนาจกำแพงแรงยิ่งกว่า
อันมือไกวเปลไซร้แต่ไรมา
คือหัตถาครองพิภพจบสากล."
"คือหัตถาครองพิภพ" ประพันธ์โดย "น้ำอบ"
กระทู้นี้เป็นกระทู้ที่ดีมากๆ เลยค่ะ อ่านนิทานเรื่องนี้แล้ว จิตใจอดหวั่นไหว sensitive ตามไปด้วยไม่ได้เลยจริงๆ "สิงหาคม" เป็นเดือนที่ชาวไทยมักจะตั้งให้เป็นเดือนแห่งการระลึกถึงพระคุณของ "คุณแม่" Cherie เลยขอยกกลอนประพันธ์ข้างต้น ซึ่งเป็นกลอนประพันธ์อันทรงคุณค่าของนักเขียนชื่อดังคนนึงของประเทศไทย "น้ำอบ" ผู้ล่วงลับไปแล้ว ซึ่งมีชื่อว่า "คือหัตถาครองพิภพ" มาฝากให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ให้ได้ชื่นชมกันนะคะ ... กลอนประพันธ์นี้ ได้รับการแต่งเป็นบทเพลง และใช้ประกอบละครชื่อเรื่องเดียวกับกลอนประพันธ์ ได้แก่ "คือหัตถาครองพิภพ" และขับร้องโดย "พี่ก้อย - ศรัณย่า ส่งเสริมสวัสดิ์" ค่ะ.
ฟังเพลงนี้แล้ว Cherie ซึ่งใจ ตื้นตัน และประทับใจทุกครั้ง เพราะเนื้อหาของกลอน ได้รับการประพันธ์เป็นอย่างดี และสวยงาม เห็นภาพชัดเจน เป็นการสดุดี "สตรีเพศ" "เพศแม่" ที่ทรงคุณค่า และยิ่งใหญ่ ... ยังไงก็ตาม บางครั้ง ช่างน่าเศร้า เอน็จอนาถใจเหลือเกิน ที่ "เพศแม่" ได้ถูกนำมาเป็นเหยื่อ กลายเป็น "วัตถุทางเพศ (sexual material)" ให้ "บุรุษเพศ" หลายๆ คน ได้วิจารณ์อย่างสนุกปาก จนเผลอลืมไปว่า สิ่งที่บุรุษเพศเหล่านั้นกำลังเพลินอย่างไร้หัวคิดอยู่นั้น คือเพศเดียวกับ "แม่" ของตนเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าเศร้าใจเหลือเกินที่สังคมสมัยนี้ตกต่ำ และใช้ consideration เพศที่ต้องอุ้มท้อง และประคบประหงมเรามาตั้งแต่การปฎิสนธิ กลายเป็นเพียงแค่การสนองกำหนัดไปวันๆ ... โถ อนาถนัก! !!
Cherie ขอร่วมสดุดี และขอฉลองชัยให้แก่สตรีเพศ ผู้ทำหน้าที่เพศหญิงได้สมบูรณ์แบบ (Maternity) โดยได้ขึ้นชื่อว่าเป็น "ผู้ให้โดยปราศจากเงื่อนไข" "ผู้ที่มอบความรักโดยไม่หวังอันใดตอบแทน" ซึ่งเราเรียกเธอว่า "แม่" ไว้ณ. โอกาสนี้ด้วยค่ะ. |
|
Back to top |
|
|
beer45
1st Class Pass (Air)
Joined: 18/06/2007 Posts: 4249
Location: ประเทศสยาม
|
Posted: 07/08/2008 6:14 pm Post subject: |
|
|
ผมคนหนึ่งล่ะครับที่โตมากับไม้เรียว สมัยเด็กๆ พ่อแม่เข้มงวดมากเรียกว่า อยู่ในกรอบระเบียบมาตลอด เพิ่งเริ่มมาแหกกรอบเอาตอน จบจาก รร มัธยม (ภปร.ราชวิทยาลัยนี่เอง) ปัจจุบันทำงานแล้ว ไม่ได้อยู่ดูแลพ่อแม่เท่าที่ควร ก็ยังนึกเสียใจที่ไม่ได้อยู่ดูแลท่าน ปกติจะกลับไปเยี่ยมดูแลท่านที่ ตจว. อยู่เสมอยิ่งตอนนี้ ท่านไม่ค่อยสบายด้วยก็คิดถึงท่านมากๆๆ ก็โทรหาอยู่ประจำแต่สู้ไปหาไม่ได้ครับ |
|
Back to top |
|
|
|