Locomotives ใช้ NGV

coach · Posted: 01/09/2009 9:16 pm Post subject:

ล่าสุด คณะ ที่ปรึกษาคณะกรรมการกระทรวงคมนาคมได้ยื่นข้อข้อเสนอกับการรถไฟฯที่จะทดลองการใช้ก๊าซ LNG กับรถดีเซลราง โดยทางรถไฟฯยื่นข้อเสนอว่าจะต้องจัดหา เครื่องยนต์พร้อม Torque Converter มาดัดแปลงเองไม่สามารถให้นำเครื่องที่ใช้การอยู่มาติดตั้งได้ และพร้อมกันนั้น การดัดแปลงทางด้านวิศวกรรม(Control system) จะต้องสามารถต่อกับตัวรถที่ไม่ดัดแปลงได้ โดยให้ทำจำนวน 1 ชุด(train set) ป้องกันการชำรุด แล้วไม่สามารถ ต่อกับรถคันอื่นได้ เชื้อเพลิงที่จะนำมาทดลองคือLNG ซึ่งปัจจุบันได้ใช้อยู่กับโรงผลิตกระแสไฟฟ้า ซึ่งข้อจำกัดจะอยู่ตรงจุดเติมก๊าซครับ ทางฝั่ง ปตท. และคณะที่ปรึกษาคงต้องคิดหนักกับหัวข้อที่เราเสนอไป Embarassed

ส่วน4557 นั้นสรุปสั้นๆ คือวิ่งไปขาดทุนเที่ยวละ 2000บาทครับ(สั้นๆครับ)เมื่อเทียบกับน้ำมันล้วนๆ.....

anusorn · Posted: 04/09/2009 9:10 am Post subject:

อาจต้องเติมก๊าซบ่อย และเสียเวลานานครับ

Hitachi · Posted: 04/09/2009 2:03 pm Post subject:

^
^
อาจารย์ อนุสรณ์ครับ ลืมอีกอย่างหนึ่งครับ อุบัติเหตุครับ
ถ้าเกิดว่าขบวนรถเกิดตกรางหรือ เจอกับคู่ปรับอย่างสิบล้อเนี่ย อาจจะเกิดโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ครับ Sad

ลองคิดดูนะครับว่า ขบวนรถดีเซลรางที่จะทดลองติดตั้งก๊าซเนี่ย เกิดอุบัติเหตุ เช่น ตกราง ลฯล จะเกิดความเสียหาย มากกว่า รถไฟที่ใช้น้ำมันดีเซลครับ เอาตัวอย่างง่ายๆครับ รถสิบล้อที่ใช้ก๊าซ เกิดเสียหลักพลิกคว่ำขึ้นมา ก็เสียวสันหลังเลยครับ

ความเห็นผมก็คือระบบไฮบริดครับ(ไฟฟ้า+น้ำมัน) เหมาะสมแล้วครับสำหรับรถไฟ หรือน้ำมันไบโอดีเซล B100 ก็ได้ครับ เหตุผลก็คือ ปลอดภัยกว่าก๊าซแน่นอน ต่อให้ระบบก๊าซ เซฟตี้ดีแค่ไหน ถ้าเจออุบัติเหตุอย่างแรง ก็เอาไม่อยู่ครับ และอีกอย่างคือ ระบบก๊าซไม่เหมาะกับรถไฟบ้านเรา เพราะผมดูปัจจัยภายนอกด้วยครับ มีอยู่4ข้อครับ

1.สภาพอากาศในประเทศ= ประเทศไทยอยู่ในเขตอากาศร้อน-ชื้น กลางวันจะร้อนจัด35-40องศาเซลเซียส ถ้าขบวนรถที่ติดก๊าซที่ทำขบวนมาถึงสถานีปลายทางในตอนกลางวันแล้วไปจอดที่ในย่านกลางแจ้ง เครื่องก็ร้อน รางก็ร้อน แดดก็แรง มีผลทำให้อุณหภูมิรอบๆถังก๊าซสูงขึ้น ถังอาจจะเสื่อมสภาพเร็วหรือ ถังอาจมีการรั่วซึมก็เป็นไปได้
แต่ที่รัสเซียอากาศหนาวเย็น-ติดลบ จึงไม่มีผลต่อการใช้ระบบก๊าซครับ

2.ความมั่นคงของทาง= บางเส้นทางเป็นพื้นราบ ราง100ปอนด์ แต่อีกพื้นที่ราง70ปอนด์ ทางทรุด รถวิ่งโยกเยกไปมา อาจะทำให้รถตกราง แล้วถังก๊าซอาจกระแทกกับพื้นดิน หรือหิน ทำให้ถังก๊าซเกิดรั่วหรือระเบิดขึ้นมาครับ

3.ภัยธรรมชาติ=ฝนตก น้ำท่วม น้ำป่าไหลหลากทำทางรถไฟขาด แล้วถ้าเกิดขบวนรถที่ติดก๊าซวิ่งผ่านทางที่กระแสน้ำพัดทางรถไฟขาด เกิดตกรางขึ้นมา(อ่านข้อ2)

4.ระเบียบวินัยของคนขับรถ=คนขับรถยนต์ คนขับรถจักรยานยนต์ และคนขับรถบรรทุกบางคน ไม่มีระเบียบวินัย ชอบวัดดวง วิ่งฝ่าเครื่องกั้น ดั่งที่มีข่าวออกหนังสือพิมพ์หน้า1 มาหลายครั้ง บังเอิญขับรถฝ่าเครื่องกั้นไม่พ้น ถูกขบวนรถไฟที่ติดก๊าซพุ่งชนแล้วเกิดตกรางขึ้นมา(อ่านข้อ2) และถ้าเกิดที่ทางตัดในย่านชุมชน จะเกิดอะไรขึ้น คิดดูแล้วกันครับ

ถึงแม้ว่า ก๊าซราคาถูกว่าน้ำมันจริง แต่ก็ไม่ยั่งยืน และไม่ปลอดภัย ในประเทศด้อยพัฒนา และประเทศสารขัณฑ์ บางประเทศ เพราะอีกไม่นาน ก๊าซและน้ำมันหรือ พลังงานจากฟอสซิลอื่นๆ ก็จะหมดไปจากโลกนี้ เพราะฉะนั้นแล้ว ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับระบบขนส่ง ค้นคว้าหาพลังงานอย่างอื่นที่สะอาดและยั่งยืนในอนาคตดีกว่าครับ....
_________________
Click on the image for full size

We Love KOMACHI

donatt76 · Posted: 04/09/2009 3:00 pm Post subject:

ทำไมถึงคิดกันแค่ NGV ล่ะครับ.......

พลังงานสะอาดอื่นๆ อย่างเช่น ไฟฟ้าแรงสูง ก็มี....แต่อาจจะต้องลงทุน วางระบบไฟฟ้าใหม่ซักหน่อย (ซึ่งอันที่จริงก็ไม่หน่อยนะ) แต่ผมว่าผลระยะยาว คุ้มนะครับ...ส่วนรถดีเซลราง ก็ส่งไปอยู่ในทางเขา ที่วางระบบไฟฟ้าแล้วจะยุ่งยาก

ส่วนถ้าเจอกับ 10 ล้อ หรือ รถอะไรก็ตาม....ก็ให้ไฟมันดูคนขับให้นิ่งอยู่ตรงนั้นแหละ ขับประมาทดีนัก
_________________
Click on the image for full size

KaittipsBOT · 1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 4150

คนรถไฟส่วนใหญ่ ชอบจมอยู่กับเทคโนโลยีที่ล้าสมัย ไม่ค่อยเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ แต่ไม่ได้หมายความไม่มีคนไม่สนใจเลย ลองวิเคราะห์ดีๆ เพราะอะไร....

nuttakarn · 3rd Class Pass (Air) Joined: 04/07/2006 Posts: 252

ผมเห็นด้วยที่จะกลับมาใช้พลังงานทางเลือกกับรถจักรดีเซลอีกครั้ง แม้จะไม่ใช้ CNG

และเห็นแย้งกับคุณ Hitachi นิดนึงตรงที่เหล็กที่มาทำท่อหรือถังก๊าซ CNG นั้นแตกต่างกับทำ LPG ชัดเจนตรงที่ถัง LPG ไม่จำเป็นต้องเก็บแรงดันสูงอย่าง CNG จึงใช้เหล็ก carbon ต่ำ และทำการเชื่อมจากนั้นจึงเช็ค Leak

แต่ถัง CNG นั้นต้องใช้เหล็ก carbon กลางจนถึงสูงเพื่อลดค่า Elongation(ความยืดตัว) เพื่อให้ได้คุณสมบัติความแข็ง

จะเห็นว่าไม่ใช้เหล็ก carbon กลางจนถึงสูงก็ได้ ใช้เหล็กรูปพรรณ(carbon ต่ำ) แต่มันต้องหนาเป็นนิ้วซึ่งมึน้ำหนัก

ทีนี้กรรมวิธีการผลิตก็แตกต่างคือ ต้องขึ้นรูปตัวถังหรือท่อให้เป็นชิ้นเดียวไม่มีการเชื่อม ซึ่งเทคโนโลยี Extrusion(ขึ้นรูป) มันต้องนำเข้ามาเพราะเราเองยังไม่มีเทคโนโลยีการทำ ส่วนมากที่ฟังมาจะเป็นจากเกาหลี

ส่วนเรื่องการจอดรถตากแดด ผมว่าถึงเวลานั้นการตรวจสอบจะเป็น Ultrasonic,leak Detector คงจะเอามาใช้ประจำปี

เรื่องอุณหภูมินั้นผมว่าน่าจะเป็นเรื่องเล็ก ไปไปมามาจะดีกว่าใช้น้ำมันซะอีก

ถ้าถัง CNG ได้มาตรฐานจริงอุณหูมิ 35-40 ไปทำให้ค่าความต้านทานความล้า(Fatigue) มันลดลงได้หรอก

ไอ้เรื่องน่าห่วงคือ controler แจ๋วๆ เอาไว้ปรับแต่งการจ่ายก๊าซเพื่อไม่ให้มันชิงจุดระเบิดเอง

ผมว่าน่าจะเสนออาจารย์กิตติให้นักศึกษาทำกล่องอัฉริยะเพื่อเป็นการนำร่องการจ่ายเชื้อเพลิงดีกว่า

ขอบคุณครับ
ณัฐกานต์ อุดมเดชาณัติ

anusorn · Posted: 04/09/2009 4:50 pm Post subject:

nuttakarn · 3rd Class Pass (Air) Joined: 04/07/2006 Posts: 252

[quote="anusorn"]

beer45 · Posted: 08/09/2009 4:58 am Post subject:

ไหนๆก็เปิดประเด็นเรื่องรถก๊าซซึ่งในตอนนี้เรากำลังรณรงค์เรื่อง NGV ในรถไฟก็มีครับ แต่ว่ามีสาเหตุหลายประการที่ต้องล้มเลิกไป ผมจะนำเสนอรถก๊าซ NGV ที่ติดตั้งใน ดีเซล 4557 เป็นความรู้เล็กๆน้อยๆนะครับ

ตามที่ทางรัฐบาลได้มีนโยบาย ที่จะหาพลังงานทดแทนน้ำมันเชื้อเพลิง เนื่องจากราคาน้ำมันตลาดโลกค่อนข้างจะมีราคาเพิ่มสูงขึ้น จึงได้มีโครงการทดลองการใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงร่วมในรถไฟ โดยความร่วมมือระหว่าง การรถไฟแห่งประเทศไทย บริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) โดย สถาบันวิจัยและเทคโนโลยี ปตท.ได้มีการทดลองติดตั้งชุดอุปกรณ์ก๊าซธรรมชาติ(Conversion kit) ในรถจักรดีเซล 4557 ซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญจากบริษัท Energy Conversion Inc.(USA) เป็นผู้ผลิตชุดอุปกรณ์ก๊าซธรรมชาติจากประเทศสหรัฐอเมริกา ทำการตรวจสอบติดตั้งกับรถจักรดีเซล 4557 วิ่งทดลองใช้งานในเส้นทาง ICD.- แหลมฉบัง

beer45 · Posted: 08/09/2009 5:04 am Post subject:

ก่อนที่จะไปดูรถไฟมาทำความเข้าใจว่า NGV CNG คืออะไรมีคุณสมบัติอย่างไร

1. คุณสมบัติของก๊าซปิโตรเลียมเหลว LPG.

2.1 มีส่วนประกอบด้วยก๊าซ 2 ชนิดคือ โปรเพนและบิวเทนในอัตราส่วนผสมปริมาณ 30:70 จนถึง 70:30

2.2 เป็นของเหลวเมื่ออยู่ในถังบรรจุที่ความดันตั้งแต่ 7-10 บาร์

2.3 เบากว่าน้ำแต่หนักว่าอากาศ เมื่อรั่วไหลจะลอยสะสมอยู่เหนือน้ำ , ตามพื้นมีความไวไฟสูงสามารถติดไฟได้ทันทีจากประกายไฟเพียงเล็กน้อย

2.4 ราคา xx.xx บาท/ปริมาตรเท่ากับดีเซล 1 ลิตร

2. คุณสมบัติของก๊าซ NGV.หรือ CNG.

1.1 ก๊าซ NGV.หรือCNG. มีคุณสมบัติที่เบากว่าอากาศ ดังนั้นเมื่อก๊าซธรรมชาติเกิดการรั่วไหลออกมาจากถัง ก๊าซจะลอยขึ้นที่สูงกระจายตัวหายไปในอากาศอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดการติดไฟขึ้นได้ยากมาก

1.2 สามารถจุดให้ติดไฟได้เมื่อมีส่วนผสมระหว่างอากาศและเชื้อเพลิง 5-15% เท่านั้น คุณสมบัติของก๊าซที่เบาทำให้โอกาสการสะสมจนมีส่วนผสม 5-15% เกิดขึ้นได้น้อย

1.3 เป็นเชื้อเพลิงก๊าซที่คงสภาพก๊าซถึงแม้ว่าจะอัดที่ความดันสูง

1.4 ต้องอัดให้มีปริมาตรต่ำสะดวกต่อการใช้ในรถยนต์ จึงมีความดันสูงถึง 200 บาร์ และต้องใช้ถังบรรจุก๊าซที่ทนความดันสูงได้ ถังบรรจุก๊าซจึงมีน้ำหนักมากและราคาสูง ถึงแม้ว่าจะอัดด้วยความดันสูงก็ยังมีปริมาตรสูงกว่าน้ำมันดีเซลที่มีค่าพลังงานเท่ากันถึง 5 เท่า

1.5 มีความปลอดภัยในการใช้งานสูงเนื่องจากเบากว่าอากาศ ไม่เป็นพิษและราคาถูก

1.6 ราคา xx.xx บาท/ปริมาตรเท่ากับดีเซล 1 ลิตร

3. ส่วนประกอบของก๊าซธรรมชาติ NGV.หรือ CNG.

ก๊าซมีเทน C1 72%
ก๊าซอีเทน C2 7%
ก๊าซโปรเพน C3 2%
ก๊าซบิวเทน C4 1%
ก๊าซเชื้อเพลิงอื่น 1%
ก๊าซไนโตรเจน N2 2%
ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ CO2 15%

4. มาตรฐานของถังที่บรรจุและการติดตั้ง

- เป็นไปตามมาตรฐาน ISO 11439 ผ่านขั้นตอนการตรวจสอบก่อนรับรองมาตรฐาน
- คุณสมบัติของวัสดุ
- แบบเชิงวิศวกรรม
- ทดสอบความทนทานของถังต้นแบบ
- ทดสอบความทนทานของตัวอย่างถังที่ผลิตแต่ละรุ่น
- ตรวจสอบการรั่วไหลและความดันของทุกถังก่อนที่จะนำไปใช้งาน

5. ความมั่นคงของการติดตั้งถังก๊าซ

- ทนแรงในแนวหน้าหลังของรถได้ถึง 20 เท่าของน้ำหนักถังรวมก๊าซ
- ทนแรงในแนวข้างและขึ้นลงได้ถึง 8 เท่าของน้ำหนักถังรวมก๊าซ
- มีการป้องกันถังในแนวไปหน้าหรือหลัง
- ทดสอบความทนทานของถังต้นแบบ
- ทดสอบความทนทานของตัวอย่างถังที่ผลิตแต่ละรุ่น
- ตรวจสอบการรั่วไหลและความดันของทุกถังที่จะนำไปใช้งาน