รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่

Mongwin · Posted: 26/11/2017 7:44 pm Post subject:

คค.ชงครม.สัญจรแผนจัดการน้ำท่วม
INN News วันอาทิตย์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ.2560 7:54 น.

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เสนอแผนบริหารจัดน้ำท่วมที่ประชุมครม.สัญจร 27-28 พ.ย. ขณะรถไฟทางคู่หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์,ชุมพร-สุราษฎร์ธานี สรุปผล ธ.ค.2560
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร 27-28 พฤศจิกายน 2560 ในส่วนของกระทรวงคมนาคมได้เตรียมเสนอแผนบริการจัดการน้ำท่วมการช่วยเหลือ และการซ่อมแซมถนนให้กับที่ประชุมครม.สัญจรพิจารณาเห็นชอบ ส่วนงบประมาณ เบื้องต้นได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สรุปพื้นที่ที่ได้ความเสียหายเช่น ถนน ทั้งเส้นทางหลักและเส้นทางรอง เพื่อเตรียมงบประมาณสำหรับดำเนินการ

ขณะที่ ในส่วนความคืบหน้ารถไฟภาคใต้ เช่น โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ขับเคลื่อนด้านระบบไฟฟ้า ช่วง หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ มูลค่า 7,941.80 ล้านบาทและโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงชุมพร – สุราษฎร์ธานี อยู่ระหว่างการศึกษารายละเอียดและออกแบบ โดยจะเร่งผลการศึกษาและสรุปผลให้แล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม 2560 ส่วนโครงการรถไฟทางคู่แต่ละเส้นทาง อยู่ระหว่างการบรรจุเข้าสู่ที่ประชุมครม.

Mongwin · Posted: 27/11/2017 8:21 pm Post subject:

เอกชนเสนอครม.สัญจรภาคใต้ เร่งพัฒนาระบบขนส่งครอบคลุม ลดต้นทุน สร้างงานคนในพื้นที่
NBT NEWS Published on Nov 26, 2017

ข่าว NBT 27 พ.ย. 2560

https://www.youtube.com/watch?v=pCSYishObRs

Mongwin · Posted: 28/11/2017 7:22 am Post subject:

นายกรัฐมนตรี ร่วมประชุมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมจังหวัดภาคใต้และภาคใต้ชายแดน เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาตามยุทธศาสตร์ภาค
สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ 27 พ.ย. 2560

นายกรัฐมนตรี ร่วมประชุมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมจังหวัดภาคใต้และภาคใต้ชายแดน เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาตามยุทธศาสตร์ภาค

วันนี้ (27 พ.ย. 60) เวลา 20.53 น. ณ ห้องประชุมสมิหลา โรงแรมบีพี สมิหลา บีช อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมจังหวัดภาคใต้และภาคใต้ชายแดน (Working Dinner) ร่วมกับคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้แทนภาคเอกชน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และผู้แทนเกษตรกร ภาคใต้และภาคใต้ชายแดน เพื่อหารือเกี่ยวกับทิศทางการพัฒนาภาคใต้และทิศทางการพัฒนาภาคใต้ชายแดน ดังนี้

ที่ประชุมได้พิจารณาทิศทางการพัฒนาภาคใต้ที่มีศักยภาพด้านแหล่งท่องเที่ยวที่สร้างรายได้ให้กับพื้นที่ รวมทั้งการผลิต ภาคเกษตร และการได้เปรียบด้านที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ จึงกำหนดให้ยุทธศาสตร์การพัฒนามุ่งเน้นในเรื่องการพัฒนาการท่องเที่ยวของภาคใต้ เป็นแหล่งท่องเที่ยวคุณภาพชั้นน้ำของโลก พัฒนาอุตสาหกรรม การแปรรูปยางพารา และปาล์มน้ำมัน พัฒนาผลิตสินค้าเกษตร และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสนับสนุนการท่องเที่ยว การพัฒนาเขตอุตสาหกรรม และเชื่อมโยงการค้าโลก

สำหรับทิศทางการพัฒนาภาคใต้ชายแดนนั้น โดยที่ภาคใต้ชายแดน ซึ่งยึดการผลิตด้านการเกษตร รูปแบบเดิมและแปรรูปชั้นต้น รวมทั้งพื้นที่ยังเผชิญกับปัญหาความไม่สงบ แต่ศักยภาพของภาคยังมีอีกมาก เช่น แหล่งท่องเที่ยว และพื้นที่อุตสาหกรรม เป็นต้น จึงวางแผนการพัฒนาภาคโดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาความมั่นคงให้กับการผลิตภาคเกษตร พัฒนาเมืองสุไหงโก-ลก และเมืองเบตง ให้เป็นเมืองการค้าและเมืองท่องเที่ยวชายแดน และเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน

ในโอกาสนี้ นายวัฒนา ธนาศักดิ์เจริญ รองประธานหอการค้าไทยและประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคใต้ หอการค้าไทย ได้มีข้อเสนอการกำหนดแนวทางการพัฒนาภาคใต้และภาคใต้ชายแดน “ด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสนับสนุนการท่องเที่ยว และการค้า การลงทุน” โดยมุ่งเน้นการเชื่อมโยงโครงข่ายโลจิสติกส์เชื่อมโยง 2 ฝั่งทะเล (อ่าวไทย และอันดามัน) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและสนับสนุนการท่องเที่ยว การค้า การลงทุน และการขนส่งของภาคใต้ ซึ่งจะส่งผลต่อขีดความสามารถในการแข่งขันและการพัฒนาในทุกด้าน โดยการพัฒนาเชื่อมโยงโครงข่ายทั้งระบบให้สมบูรณ์ (ทางราง ทางทะเล ทางอากาศ และทางบก) และเพิ่มศักยภาพในการเชื่อมโยงจากจีนสู่ภาคใต้ รวมทั้งประเทศในกลุ่มอาเซียน+6 และกลุ่มประเทศ BIMSTEC เพื่อเปิดประตูภาคใต้สู่การเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคม ประกอบด้วย
(1) การพัฒนาเส้นทางรถไฟเชื่อมโยงโครงข่ายระบบราง
(2) การพัฒนาท่าเรือเชื่อมโยงโครงข่ายทางทะเล
(3) การพัฒนาและปรับปรุงสนามบินเชื่อมโยงโครงข่ายทางบกและทางราง เช่น การพัฒนาสนามบินหลักและสนามบินรองที่มีศักยภาพในการเชื่อมโยงโครงข่ายทางบกและทางรางที่สะดวกสามารถรองรับนักท่องเที่ยวและผู้เดินทางที่มีปริมาณเพิ่มขึ้น และ
(4) การพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพโครงข่ายทางถนน

ด้าน นายสิทธิพร จริยพงษ์ รองประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ ได้ขอบคุณรัฐบาลที่มีนโยบายผลักดันนิคมอุตสาหกรรมยางพารา (Rubber City) ในภาคใต้ ซึ่งยางพาราเป็นพืชหลักของเกษตรกรในภาคใต้ จึงขอให้รัฐบาลเร่งรัดและผลักดันอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดการดำเนินการและมีการลงทุนให้เป็นอุตสาหกรรมต่อเนื่องอย่างครบวงจร ประกอบด้วย
(1) ออกมาตรการหรือประกาศเป็นวาระแห่งชาติ เพื่อส่งเสริมให้มีการใช้ยางพาราในประเทศอย่างเป็นรูปธรรม
(2) ให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ส่งเสริมให้เอกชน หรือการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) นำยางมาทำผลิตภัณฑ์เอง เช่น ยางรถยนต์ ยางรถจักรยานยนต์
(3) ประกาศเป็นนโยบายรัฐบาลส่งเสริมสนับสนุนเกษตรกรชาวสวนยางรายย่อย (ที่มีพื้นที่ปลูก 25 ไร่ลงมา) ได้มีอาชีพเสริมในสวนยาง เช่น ปลูกหญ้าเลี้ยงสัตว์ หรือปลูกพืชร่วม พืชแซมยาง อาทิ ปลูกกล้วย ปลูกกาแฟหรือพืชอื่นๆ ตามความต้องการของตลาดและความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ เรื่องของปาล์มน้ำมัน เสนอควรให้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มโดยเร่งด่วน และเสนอให้คณะรัฐมนตรีมีมติให้การพัฒนาปาล์มน้ำมันเป็นไปตามยุทธศาสตร์การปฏิรูปปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มทั้งระบบ ปี 2560 – 2579 สำหรับเรื่องผลไม้และพืชผัก เสนอกำหนดเป็นนโยบายเพื่อควบคุมล้งจีนที่เข้ามาตั้งแผงรับซื้อผักและผลไม้ โดยใช้คนไทยเป็นนอร์มินี ให้กระทรวงพาณิชย์เป็นหน่วยงานรับผิดชอบ รวมทั้งสนับสนุนให้เกษตรกรผลิตผลไม้ที่มีคุณภาพ ปลอดสารพิษเพื่อยกระดับเพิ่มมูลค่าผลผลิตและความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ ตลอดจนจัดหาแหล่งเงินทุนให้กับเกษตรกร องค์กรเกษตรกร เพื่อแปรรูปและเพิ่มมูลค่าผลผลิตและพัฒนาเพื่อส่งออกไปต่างประเทศได้ ด้านแรงงานประมง เสนอให้จัดตั้งศูนย์ฝึกอาชีพให้แรงงานไทยทดแทนแรงงานต่างด้าว และเพื่อรักษาระบบนิเวศชายฝั่งและให้ประชาชนมีอาชีพประมงชายฝั่งอย่างยั่งยืน จะต้องพัฒนาระบบบำบัดน้ำเสียจากชุมชนเมือง ชุมชนริมแม่น้ำโดยบำบัดน้ำเสียก่อนปล่อยสู่คลองธรรมชาติ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ เป็นหน่วยงานรับผิดชอบ ส่วนการเพิ่มศักยภาพการผลิตและการตลาดเสนอการจัดตั้งตลาดกลางสินค้าเกษตรชายแดนสุไหงโก-ลก โครงการพัฒนาการผลิตเนื้อครบวงจร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การส่งออกอาหารฮาลาล จังหวัดชายแดนภาคใต้

ขณะที่ นายนิพนธ์ บุญญามณี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ได้เสนอแนวทางเกี่ยวกับการบริหารงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เช่น การปรับปรุงหลักเกณฑ์ กรณีการใช้จ่ายเงินสะสมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามมาตรการสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเศรษฐกิจ และสังคม ภายในท้องถิ่น การปรับปรุงและฟื้นฟูสถานที่กำจัดขยะมูลฝอยที่ไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการ จังหวัดสงขลา เพื่อแก้ไขปัญหาขยะสะสมตกค้างกว่า 2.4 ล้านตัน และการแก้ไขปัญหาจราจรเขตเมืองใหญ่ โครงการระบบขนส่งมวลชนโดยระบบราง Monorail อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เป็นต้น

โดยนายกรัฐมนตรี พร้อมรับข้อเสนอของภาคเอกชน ผู้แทนเกษตรกร และผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคใต้และภาคใต้ชายแดน ไปพิจารณาโดยมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปศึกษาถึงความเป็นไปได้และพิจารณาดำเนินการต่อไปตามความเหมาะสม พร้อมเน้นย้ำทุกฝ่ายช่วยกันสร้างรับรู้ให้กับประชาชนในพื้นที่เกิดความเข้าใจและเห็นถึงความสำคัญและจำเป็นต่อการดำเนินโครงการต่างๆ ของรัฐบาลอันจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนในพื้นที่และประเทศโดยรวม รวมทั้งเน้นย้ำการใช้จ่ายงบประมาณเป็นไปอย่างคุ้มค่า และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนและเป็นเทศชาติอย่างแท้จริง ตลอดจนการดำเนินการหรือการประมูลโครงการต่างๆ ต้องเป็นไปด้วยความโปร่งใส เป็นธรรมกับทุกฝ่ายและไม่ก่อให้เกิดการทุจริตเกิดขึ้นโดยเด็ดขาด

ทั้งนี้ การที่รัฐบาลกำหนดให้มีการลงพื้นที่เพื่อตรวจราชการจังหวัดปัตตานีและประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ณ จังหวัดสงขลา เพื่อเร่งรัดขับเคลื่อนให้จังหวัดภาคใต้และภาคใต้ชายแดนได้มีการพัฒนารวดเร็วมากขึ้นและทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกภายนอก

ข้อมูลข่าวและที่มา

ผู้สื่อข่าว : สุธิดา พฤกษ์อุดม
ผู้เรียบเรียง : วสันต์พรรษ จำเริญนุสิต
แหล่งที่มา : สวท.สงขลา

Mongwin · Posted: 28/11/2017 7:28 am Post subject:

กรอ.พิจารณาเมกกะโปรเจกต์ 2 แสนล้าน
Money Channel 13.31 น. 27 พ.ย. 60

หอการค้าภาคใต้ เตรียมเสนอนายกรัฐมนตรี พิจารณา เมกกะโปรเจกต์ 2 แสนล้าน ตั้งเป้า ผลักดันจีดีพีภาคใต้เพิ่มขึ้น 6% ภายใน 30 ปี

ในการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน หรือ กรอ. เพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจจังหวัดภาคใต้และชายแดนใต้ ที่ จ.สงขลา ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในช่วงเย็นวันนี้ หอการค้าภาคใต้ จะเสนอแนวคิดทฤษฎี Big Bang Theory ซึ่งจะเป็นการเสนอทุ่มงบประมาณลงมาในจุดที่สำคัญ วงเงินประมาณ 2 แสนล้านบาท ที่จะเริ่มดำเนินการในปี 2562-2563 เพื่อทำให้เกิดการกระจายตัวของการค้าการลงทุน และเกิดการเชื่อมโยงของเศรษฐกิจตลอดห่วงโซคุณค่า โดยจะมีการเชื่อมโยง อนุภูมิภาค ทั้ง IMT-GT, BIMSTEC, Asean+6, GMS, CLMVT

สำหรับ โครงการพัฒนาภาคใต้และชายแดนใต้ ที่จะเกิดขึ้น ได้แก่ การพัฒนาและขยายโครงข่ายเส้นทางรถไฟจังหวัดชุมพร-จังหวัดระนอง ,โครงการขยายท่าเรือระนอง Land Bridge ชุมพร -ระนอง ,ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และ สปา ชุมพร-ระนอง ,โครงการท่าเทียบเรือสำราญสุราษฎร์ธานี และกระบี่ ,โครงการขยายเส้นทางเพชรเกษมสาย 4 เป็น 4 ช่องจราจร โครงการรถไฟท่องเที่ยวเส้นทางสุราษฎร์ธานี-ท่านุ่น (จ.พังงา) ,การพัฒนารถไฟสายอันดามัน เพื่อการท่องเที่ยว,Smart City จ.ภูเก็ต ,โครงการรถไฟทางคู่ช่วงสุราษฎร์ธานี -ชุมทาง หาดใหญ่ -สงขลา ,โครงการท่าเรือสงขลา 2 ,โครงการศึกษาและออกแบบถนนสะพานสตูล- เปอร์ลิส เพื่อสนับสนุนกิจกรรมเศรษฐกิจในภาคใต้ วงเงิน 2-3 หมื่นล้านบาท ,โครงการพัฒนารถไฟรางคู่ ปาดังเบซาร์ หาดใหญ่,โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สาย หาดใหญ่-ชายแดนมาเลเซีย , โครงการท่าเทียบเรือประมงให้ได้มาตรฐาน ,เขตเศรษฐกิจพิเศษสะเดา จ.สงขลา , พัฒนาท่าอากาศยานนราธิวาส และก่อสร้างท่าอากาศยาน เบตง พัฒนาศักยภาพด่านพรมแดนเบตง

Mongwin · Posted: 28/11/2017 2:43 pm Post subject:

รฟท.ชงครม.รถไฟทางคู่ระยะที่2เส้นชุมพร-สุราษฎร์ฯ
INN News ข่าวเศรษฐกิจ วันอังคารที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ.2560 8:44 น.

รฟท. เตรียมเสนอที่ประชุมครม.สัญจร โครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 ช่วง ชุมพร - สุราษฎร์ธานี และช่วง สุราษฎร์ธานี - หาดใหญ่ - ปาดังเบซาร์ วันนี้
นายทนงศักดิ์ พงษ์ประเสริฐ รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า สำหรับการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรในวันนี้ ได้เตรียมเสนอที่ประชุมพิจารณาอนุมัติ โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2ช่วง ชุมพร - สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 167 กม.และช่วง สุราษฎร์ธานี - หาดใหญ่ (สงขลา) ระยะทาง 339 กม. หาดใหญ่ - ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 45เพื่อเชื่อม ต่อกับรถไฟทางคู่ของมาเลเซีย ทั้งนี้หากที่ประชุมครม.เห็นชอบคาดว่าจะออกเอกสารประกวดราคาหรือTOR ได้ในต้นปีหน้าหลังจะนั้นจะเข้าสู่กระบวนการประกาศเชิญชวนผู้สนใจเข้ามาร่วมลงทุนต่อไป

นอกจากนี้ การประชุมครม.สัญจรครั้งนี้คาดว่ากระทรวงคมนาคมจะเสนอแผนงานโครงการก่อสร้างทางพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) สายหาดใหญ่ – สะเดาชายแดนมาเลเซีย ระยะทางรวม 62.59 กม. ของกรมทางหลวง (ทล.) ซึ่งมีวัตถุประสงค์ เพื่อลดการแออัดเร่งระบายสินค้าด่านสะเดา โดยกรมทางหลวงได้ว่าจ้างบริษัทศึกษาความเหมาะสมของโครงการรวมถึงศึกษารูปแบบให้เอกชนร่วมลงทุน แบบ PPP Net Cost คือ เปิดให้เอกชนเข้าร่วมลงทุนเต็มรูปแบบ ทั้งงานก่อสร้างและงานระบบจัดเก็บค่าผ่านทางและซ่อมบำรุง

Mongwin · Posted: 28/11/2017 7:22 pm Post subject:

ครม. เห็นชอบพัฒนาโครงสร้างคมนาคมภาคใต้
ช่อง 7 สี วันที่ 28 พ.ย. 2560 เวลา 15:55 น.

http://s.ch7.com/259041

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบโครงการ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งในพื้นที่ภาคใต้เพื่อให้เชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านทั้งมาเลเซียและอินโดนีเซีย โดยเฉพาะรถไฟทางคู่ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานี-หาดใหญ่ ไปถึงปาดังเบซาร์ รวมถึงโครงการพัฒนาด้านคมนาคมส่วนอื่นๆของประเทศเพื่อให้พื้นที่ภาตใต้มีศักยภาพทัดเทียมกับภูมิภาคอื่นๆ เพิ่มการค้าการลงทุนขณะเดียวกันเชื่อมั่นว่าศักยภาพพื้นที่ภาคใต้จะสามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนภาคใต้ได้ดีมากขึ้น

ขณะเดียวกันที่ประชุมคณะรัฐมนตรีรับทราบที่กระทรวงคมนาคม รายงานความคืบหน้าการซ่อมแซมระบบสาธารณูปโภคในช่วงอุทกภัยครั้งที่ผ่านมาซึ่งได้ดำเนินแก้ไขเสร็จสิ้นไปแล้วกว่าร้อยละ 70 ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างการซ่อมแซมเนื่องจากติดปัญหา เกิดอุทกภัยซ้ำ อีกทั้งคณะรัฐมนตรียังเห็นชอบให้แต่ละจังหวัดไปขุดลอกคูคลองจุดต่างๆ เพื่อเป็นการเร่งระบายน้ำลงสู่ทะเลแก้ไขปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก

สำหรับการแก้ไขราคายางพาราตกต่ำนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ให้เวลากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ศึกษาการเพิ่มปริมาณการใช้ยางพาราให้มากขึ้นโดยตั้งเป้าให้ได้อย่างน้อยสองแสนตัน โดยใช้งบประมาณของท้องถิ่นมาสนับสนุนเช่นการก่อสร้างทางหรือใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ ยืนยันว่ารัฐบาลพยายามหาแนวทางทุกอย่างเพื่อให้สถานการณ์ราคายางตกต่ำนั้นคลี่คลายแต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับราคาในตลาดโลกด้วย

ส่วนการประมงที่ผิดกฎหมายยืนยันว่ารัฐบาลเร่งแก้ไขดำเนินการ ให้สอดคล้องกับเงื่อนไขของไอยูยู แต่ทุกฝ่ายต้องค่อยๆพูดค่อย ค่อยจากัน ขอให้มั่นใจว่ารัฐบาลจะเร่งดำเนินการโดยเร็วที่สุดเพื่อให้ประชาชนลดความเดือดร้อนลง

และตลอดการลงพื้นที่ภาคใต้ทางที่จังหวัดปัตตานีและสงขลาเป็นไปด้วยความเรียบร้อยภายใต้การรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดจากกำลังเจ้าหน้าที่ทหารปฎิบัติการพิเศษปัตตานีและเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ กว่า 1000 นาย

Mongwin · Posted: 28/11/2017 8:18 pm Post subject:

ครม.สัญจร รับข้อเสนอกรอ. เร่งรัดโครงสร้างพื้นฐานลงใต้เอาใจเอกชน
วันที่ 28 พฤศจิกายน 2560 - 17:24 น.

พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม. สัญจร จ.สงขลา มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมรับไปพิจารณาจัดลำดับความสำคัญและความจำเป็นเร่งด่วนในการพัฒนาเส้นทางรถไฟเชื่อมโยงโครงข่ายระบบรางตามข้อเสนอของที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.) ในพื้นที่ภาคใต้ โดยให้คำนึงถึงความเชื่อมโยงระหว่างภาคและอำนวยความสะดวกให้ประชาชน รวมถึงคุ้มค่าต่อการดำเนินงาน ช่วยให้คนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สามารถแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ ประกอบด้วยการพัฒนาเส้นทางรถไฟเชื่อมโยงโครงข่ายระบบราง 1. เร่งรัดโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงสุราษฎร์ธานี-หาดใหญ่ (สงขลา) ระยะทาง 339 กิโลเมตร (ก.ม.) และทางคู่ช่วงหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 75 ก.ม. 2. โครงการก่อสร้างรถไฟสายใหม่เชื่อมรถไฟสายใต้เส้นทางสุราษฎร์ธานี-ท่านุ่น (พังงา) และการก่อสร้างเส้นทางสุราษฎร์ธานี-ดอนสัก 3. เร่งรัดการศึกษาและออกแบบรถไฟสายใหม่จากจ.ชุมพร-ท่าเรือน้ำลึกจ.ระนอง และ 4. บรรจุการก่อสร้างรถไฟทางคู่จากสถานีสุไหงโก-ลก (นราธิวาส) ถึงสถานีโคกโพธิ์ (ปัตตานี) ในแผนพัฒนารถไฟทางคู่ และสนับสนุนโลจิสติกส์ในการขนส่งเชื่อมโยงกับประเทศมาเลเซีย

นอกจากนี้ ยังให้เร่งรัดการพัฒนาท่าเรือเชื่อมโยงโครงข่ายทางทะเล ได้แก่ 1. พัฒนาท่าเรือครุยส์สมุย จ.สุราษฎร์ธานี (ฝั่งอ่าวไทย) และท่าเรือครุยส์กระบี่ (ฝั่งอันดามัน) 2. ขุดขยายร่องน้ำท่าเรือน้ำลึกจ.ระนอง ให้มีความลึก 18 เมตร และท่าเรือนาเกลือ จ.ตรัง ให้มีความลึก 8 เมตร กว้าง 100 เมตร 3. พัฒนาท่าเรือน้ำลึกสงขลา

“นายกรัฐมนตรี งการให้กระทรวงคมนาคม ร่วมกับกระทรวงการคลัง และกระทรวงมหาดไทย พิจารณาสัมปทานของภาคเอกชนในการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกสงขลาแห่งที่ 1 และพัฒนาท่าเรือน้ำลึกสงขลาแห่งที่ 2 รวมถึงพัฒนาปรับปรุงสนามบินหลักและสนามบินรองในภาคใต้เชื่อมโยงโครงข่ายทางบกและทางราง เช่น ชุมพร ตรัง สงขลา นราธิวาส เป็นต้น โดยจะต้องพิจารณารายละเอียดตามความเหมาะสมในการอำนวยความสะดวกรองรับนักท่องเที่ยวและผู้เดินทางที่มีปริมาณเพิ่มมากขึ้น และสามารถรองรับการขยายตัวของเมืองได้”

ขณะเดียวกัน นายกฯ สั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ร่วมกับกระทรวงคมนาคม กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการคลัง สภาความมั่นคงแห่งชาติ เร่งรัดศึกษาความเป็นไปได้ในการก่อสร้างสะพานสตูล-เปอร์ลิส ประเทศมาเลเซีย เพื่อเชื่อมไทย-มาเลเซีย ต่อไป

Mongwin · Posted: 28/11/2017 8:55 pm Post subject:

28 พ.ย. 60 ครม.มีมติรับทราบกรอบการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งภาคใต้
การพัฒนาโครงข่ายคมนาคมขนส่งทางรถไฟ เพื่อความสะดวกในการเดินทางของประชาชนอย่างยั่งยืน
- โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ จำนวน 6 เส้นทาง เช่น ช่วงชุมพร-สุราษฎร์ธานี ช่วงสุราษฎร์ธานี –หาดใหญ่ – สงขลา และช่วงสุราษฎร์ธานี –พังงา – ภูเก็ต
- โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงหาดใหญ่ – ปาดังเบซาร์
- โครงการระบบขนส่งมวลชนภูเก็ต
ที่มา : สรุปข่าวการประชุมคณะรัฐมนตรี 28 พฤศจิกายน 2560
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 3/2560

http://www.thaigov.go.th/news/contents/details/8393

https://media.thaigov.go.th/uploads/document/74/2017/11/docx/28.11.60.docx

Mongwin · Posted: 29/11/2017 8:04 am Post subject:

นาทีที่ 1:17:00 เป็นวีดิทัศน์ทิศทางการพัฒนาภาคใต้ พูดถึงความต้องการทางรถไฟสายหาดใหญ่-สงขลา ของชาวบ้าน
นาทีที่ 2:29:30 นายกพูดถึงทางรถไฟสายหาดใหญ่-สงขลา

https://www.youtube.com/watch?v=Jmdy03d7K_U

Wisarut · Posted: 29/11/2017 8:21 am Post subject: