เที่ยวแสนสุขใจ นั่งรถไฟไปกับ KTM

[Air_Reservoir]

พูดถึงค่าแท๊กซี่ ก็จะมีดังนี้ครับ
1. ค่าโดยสาร
- ค่าโดยสาร 1 กิโลเมตรแรก 3 เหรียญ (ถ้าเป็นโตโยต้าหรือฮุนได 2.80 เหรียญ อ้อ มีแท๊กซี่เบนซ์ด้วย เริ่มต้นเท่าไหร่อันนี้ไม่ทราบครับ)
- กิโลเมตรถัดมาถึงกิโลเมตรที่ 10 ทุก 380 เมตร เพิ่มระยะละ 0.20 เหรียญ
- มากกว่า 10 กิโลเมตร ทุกๆ 330 เมตร ระยะละ 0.20 เหรียญ
- หากไม่ขยับ ทุกๆ 45 วินาที เพิ่มครั้งละ 0.20 เหรียญ
2. การจอง
- เวลาเร่งด่วน จันทร์ - ศุกร์ เวลา 07.00 น. - 09.30 น. และ 17.00 น. - 23.00 น. คิดครั้งละ 3.50 เหรียญ
- นอกเวลาเร่งด่วน รวมไปถึง เสาร์ - อาทิตย์ และวันหยุดราชการ คิดครั้งละ 2.50 เหรียญ
3. เขตเมือง
- วิ่งผ่านเขตเมือง จันทร์ - เสาร์ เวลา 17.00 น. ถึงเที่ยงคืน คิดครั้งละ 3 เหรียญ
4. เวลาเร่งด่วน
- จันทร์ - ศุกร์ เวลา 07.00 น. - 09.30 น. และ จันทร์ - เสาร์ เวลา 17.00 น. - 20.00 น. คิดเพิ่ม 35 เปอร์เซ็นต์จากราคาค่าโดยสาร
5. วันหยุดราชการ
- ตั้งแต่ 18.00 น. ถึงเที่ยงคืน และวันสำคัญเช่นวันปีใหม่ วันฮารีรายา วันตรุษจีน วันคริสมาส คิดเพิ่มครั้งละ 1 เหรียญ
6. หลังเที่ยงคืน
- เที่ยงคืนถึง 05.59 น. คิดเพิ่ม 50 เปอร์เซนต์ของราคาค่าโดยสาร
ส่วนการเรียกจากสนามบินชางงี (จริงๆ ไม่แนะนำหรอกครับ นั่งรถไฟฟ้าจะประหยัดกว่ามาก) ก็จะคิดตามที่กำหนดไว้ครับ (ศุกร์ - อาทิตย์ 17.00 น. ถึงเที่ยงคืน ครังละ 5 เหรียญ นอกเหนือจากนั้นครั้งละ 3 เหรียญครับ



ซึ่งจากการนั่งแท๊กซี่ของผม เจอทั้งช่วงเวลาเร่งด่วน ผ่านเขตเมือง และโทรจอง ก็ฟาดไปอ่วมเลยครับ (ถ้าบ้านเราทำแบบนี้บ้าง สงสัยผู้โดยสารคงด่ากันระงม)

พวกผมมาถึงสถานีสิงคโปร์ก่อนเวลารถออกราวๆ 1 ชั่วโมงครับ ก่อนขึ้นรถก็ต้องจัดเตรียมทุกอย่างให้พร้อม เพราะผมกับแซมมี่จะแยกกันที่นี่ครับ (ผมกลับรถไฟ ส่วนแซมมี่กลับไทยแอร์เอเชียเที่ยว 20.40 น.ครับ)

[Air_Reservoir]

ประตูจะยังไม่เปิดครับ จนกว่าภายในจะพร้อม ซึ่งส่วนใหญ่ก็ราวๆ 30 นาทีก่อนรถออก (ชานชลาที่ 2 เป็นชานรถขาออกนะครับ)



เมื่อประตูเปิด ผมก็แยกจากแซมมี่ตรงนี้ โดยที่ตอนเข้ามา ทุกคนจะต้องตรวจพาสปอร์ตโดยเจ้าหน้าที่ของมาเลเซีย (ด่าน ตม. ของมาเลเซียจะตรวจกันจากที่นี่เลยครับ และจะไม่มีการประทับตราในพาสปอร์ต แค่ให้ใบผ่านแดนสำหรับเข้าเมืองซึ่งประทับตราแล้วเท่านั้น และเราจะต้องกรอกให้เรียบร้อย ส่วนด่านของสิงคโปร์ต้องไปตรวจที่วู้ดแลนด์ส ที่เป็นแบบนี้เพราะทั้งสองประเทศมีข้อตกลงเรื่องการผ่านแดน ซึ่งจะไม่ขออธิบายครับ เพราะมันยุ่งยากพอสมควร)

ขบวนที่ผมจะขึ้นก็คือขบวนรถด่วนติมูรัน (XT/14 Singapore - Tumpat) หลายๆ คนอาจจะงงว่าทำไมผมกลับขบวนนี้ เพราะว่าผมลงที่ปาเซอร์มัสเพื่อนั่งรถกลับมาฝั่งไทยได้ทันที ไม่เหมือนกับฝั่งตะวันตก ที่ต้องโดยสารรถด่วนมาลัม และรถด่วนลังกาวี ซึ่งใช้เวลานานกว่าครับ

คันท้ายสุดของรถเป็นเพาเวอร์คาร์ครับ ที่นี่จะมีเพาเวอร์คาร์ 2 แบบคือ 1 เครื่องยนต์ กับ 2 เครื่องยนต์(เหมือนของ E&O) แต่จริงๆ แค่ 1 เครื่องยนต์ก็จ่ายไฟสำหรับ 14 - 15 โบกี้ได้อย่างสบายๆ แล้วล่ะครับ



ขอลงไว้เท่านี้ก่อน พรุ่งนี้ก็คงจะมาลงให้จบแล้วล่ะครับ เหลืออีกนิดเดียวแล้ว หากใครมีคำถามอะไรก็ถามทิ้งไว้ได้นะครับ

[Air_Reservoir]

ป้ายสถานีสิงคโปร์ครับ เป็นภาษามาเลย์อ่านว่าซีงาปูรา



วันนี้ทำขบวนโดย YDM4 หมายเลข 6614 ครับ แต่ออกไปถ่ายไม่ได้เพราะฝนตกครับ

[Air_Reservoir]

การนั่งรถออกจากสิงคโปร์จะมีราคาค่อนข้างแพงครับ เพราะที่นี่จะคิดเป็นดอลลาร์สิงคโปร์ สมมติว่านั่งรถจากเคแอลมาสิงคโปร์ราคา 68 ริงกิต แต่ในทางกลับกัน ถ้าออกจากสิงคโปร์ไปเคแอลจะคิดราคา 68 ดอลลาร์สิงคโปร์ (จำนวนเลขเท่ากัน เปลี่ยนแค่ค่าเงินเท่านั้น) ซึ่งในกรณีของผมถ้านั่งรถนอนจากสิงคโปร์ออกไปลงตุมปัตจะเจอราคา 54 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 1,270 บาท) แต่ถ้าผมซื้อตั๋วออกไปลงยะโฮร์บาห์รู (7 ดอลลาร์สิงคโปร์) แล้วซื้อตั๋วจากยะโฮร์บาห์รูไปลงตุมปัต (รถนอนปรับอากาศชั้น 2 เตียงบน ราคา 48 ริงกิต) ผมจะเสียเงินไม่เกิน 700 บาทเท่านั้น

การนั่งรถก็นั่งจากแค่ที่ตั๋วระบุไว้เท่านั้นครับ หลังจากถึงด่านวู้ดแลนด์และตรวจพาสปอร์ทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผมก็มานั่งยังรถนอนที่ซื้อไว้ได้เลยครับ



พูดถึงขบวนรถด่วนติมูรันนี่ เป็นรถที่วิ่งระยะทางยาวที่สุดของ KTM แล้วครับ จากสิงคโปร์ถึงตุมปัตระยะทางประมาณ 748 กิโลเมตรครับ

ออกจากยะโฮร์บาห์รูก็เดินไปรถเสบียงเพื่อจะไปหาข้าวกิน ซึ่งก็ต้องเซ็งเล็กน้อยเพราะแอร์รถเสบียงเสีย ทำให้ในรถอบอ้าวจนเหมือนมาซาวน่าไม่มีผิด อ้อ สั่งเป๊บซี่มาทานด้วยนะครับ แต่นอกจากจะไม่แช่แล้ว ยังไม่มีน้ำแข็งให้ด้วย ก็ต้องทานกันแบบนั้นล่ะ ซึ่งหลังจากทานเสร็จ ก็กลับมานอนเอาแรงยังรถนอนทันที

จากตอนแรกที่ตั้งใจไว้ว่าอยากจะนั่งไปให้ถึงตุมปัต แต่เปลี่ยนใจกระทันหัน เลยมาลงที่สถานีปาเซอร์มัส (Pasir Mas) แทน ซึ่งก็ช้ามาไม่กี่นาทีเท่านั้น (เวลาในขณะนั้น 08.06 น. ตามเวลาท้องถิ่น)

[Air_Reservoir]

เมื่อมาถึงแล้ว ผมก็มองหารถแท๊กซี่ทันทีครับ ซึ่งก็หาได้ไม่ยากนัก เพราะมาจอดรอรับส่งผู้โดยสารเต็มไปหมด ซึ่งบางส่วนก็นั่งรถเพื่อมาลงที่รันเตาปันจาง (Rantau Panjang) เพื่อข้ามมายังประเทศไทยด้วยครับ อย่างที่บอกครับว่าแท๊กซี่ที่นี่ต้องตกลงราคากันก่อน ในกรณีของผมตกลงกันได้ที่ 20 ริงกิต ซึ่งก็ไม่มีปัญหาครับ



การเดินทาง เรามาตามทางหลวงหมายเลข 3 (เริ่มต้นที่ Rantau Panjang ผ่านเข้าไปยัง Kota Bharu เมืองหลวงของรัฐกลันตัน และไปสิ้นสุดที่ Johor Bharu ระยะทางประมาณ 800 กิโลเมตร) ซึ่งจากปาเซอร์มัสมารันเตาปันจางแค่ 22 กิโลเมตรเท่านั้น

[Air_Reservoir]

เมื่อมาถึงยังรันเตาปันจาง ก็ทำการตรวจพาสปอร์ททั้งฝั่งมาเลย์และฝั่งไทยเป็นที่เรียบร้อยครับ แต่ที่ไม่เรียบร้อยคือยังไม่มีตั๋วรถไฟกลับกรุงเทพ เลยรีบแจ้นมายังสถานีสุไหงโกลก แต่ผลที่ได้คือเต็มทุกชั้นทุกขบวนยกเว้นชั้น 3 เลยคิดว่าจะนั่งรถท้องถิ่นที่ 452 สุไหงโกลก - นครศรีธรรมราช ไปลงที่ชุมทางหาดใหญ่แทน เพราะคิดว่าไหนๆ ก็แล้ว จะรถฟรีหรือซื้อตั๋วชั้น 3 ก็ไม่ต่างกัน ขอไปนั่งรถเล่นแทนดีกว่า



รถท้องถิ่นไม่ว่าจะเสียเงินหรือรถฟรี เรื่องผู้โดยสารแน่นก็ไม่ต่างกัน กว่าจะลากสังขารมาถึงชุมทางหาดใหญ่ก็โทรมมิใช่น้อย (ในขณะที่แซมมี่นอนตีพุงเป็นแมวน้ำอยู่กับบ้านเพราะนั่งเครื่องบินกลับมาก่อน) แต่สงสัยสวรรค์จะเข้าข้าง เพราะตอนเดินไปซื้อตั๋วปรากฏว่ามีรถนอน ข.36 ว่างอยู่ 1 ที่ ซึ่งไม่ต้องคิดมากตัดสินใจซื้อทันที แต่ไม่รู้เพราะอะไร วันนั้น ข.36 ออกจากสถานีชุมทางหาดใหญ่ช้าไป 1 ชั่วโมง กว่าจะถึงกรุงเทพก็เล่นไป 11 โมงกว่า แถมเจอพี่เบียร์มาเดินอยู่แถวบางซื่อด้วย

ทิ้งท้ายกับยามเย็นที่สถานีชุมทางหาดใหญ่ครับ



ทั้งนี้ก็ต้องขอขอบคุณ
- ที่ปรึกษาพิเศษประเทศมาเลเซีย พี่บอย พัธราชัย
- เนวิเกเตอร์ผู้เชี่ยวชาญการซอกซอนในมาเลเซีย (นิยามโดยพี่บอย) และข้อมูล KTM เคลื่อนที่ น้องแซมมี่
ข้อมูลสำคัญๆ ที่อ้างอิงและแนะนำการท่องเที่ยว
- หนังสือ Lonelyplanet ฉบับมาเลเซียและสิงคโปร์ และเว็บ http://www.lonelyplanet.com
- http://www.wikipedia.org ทั้งของมาเลเซีย สิงคโปร์
- หนังสือใครๆ ก็ไปเที่ยวมาเลเซีย และ หนังสือเที่ยวไม่ง้อทัวร์ ตีตั๋วตะลุยสิงคโปร์
- http://www.visitsingapore.com
- http://www.keretapi.com, http://www.ktmb.com.my
สุดท้ายนี้ก็หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นแนวทางสำหรับผู้ที่ต้องการไปเที่ยวมาเลเซียและสิงคโปร์ได้ไม่มากก็น้อย หากมีสิ่งใดบกพร่องก็ต้องขออภัยไว้ ณ. ที่นี้ หากมีโอกาส คงจะได้นำเสนอเรื่องราวใหม่ๆ ให้ได้รับชมกันอีก และขอบคุณที่ (อดทน) ดูจนจบครับ

จบบริบูรณ์ (เสียที )

[pattharachai]

ระยะทางที่ไกลที่สุดของรถไฟมาเลเซีย ใกล้กว่าระยะทาง กรุงเทพ-เชียงใหม่ อีกนะเนี่ย 555+

ทางรถไฟไปทางซีกตะวันออกของคาบสมุทรมลายู ก็เป็นอีกเส้นทางที่สนใจ แต่ว่า ก็ยังไม่สามารถวางแผนให้ลงตัวเพื่อเดินทางในเส้นทางนี้

ป.ล. ตอนนี้สนใจเส้นทางรถไฟแห่งรัฐซาบาห์มากทีเดียว ฮี่ๆ

[BanPong1]

[black_express]

ติดตามมาจนจบ ได้ข้อมูลอะไรมิต่ออะไรที่เป็นประโยชน์สำหรับผู้คิดที่จะเดินทางไปมาเลเซีย-สิงคโปร์ ทางรถไฟ ตั้งเยอะแยะเลย

นับถือในความทรหดจริงๆ ครับ...

[coach]

คงจะเหนื่อยมากนะครับ ขอบคุณ ที่เผื่อแผ่ สิ่งต่างๆครับ