RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311495
ทั่วไป:13323515
ทั้งหมด:13635010
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 295, 296, 297 ... 393, 394, 395  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 45337
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 05/07/2021 11:23 am    Post subject: Reply with quote

ตั้งทีมสอบฮั้วประมูลรถไฟทางคู่ พิรุธTORชงอาณัติสัญญาณ2ยี่ห้อ
ผู้จัดการรายวัน 360 องศา ฉบับวันที่ 05 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

ตั้งทีมสอบฮั้วประมูลรถไฟทางคู่ พิรุธTORชงอาณัติสัญญาณ2ยี่ห้อ

ผู้จัดการรายวัน360 - จับตานายกฯ ตั้ง กก.ตรวจสอบประมูลรถไฟทางคู่ "สายเหนือ-อีสาน" แก้ข้อครหาฮั้ว เอื้อผู้รับเหมารายใหญ่ เปิดอีกปม TOR ให้ยื่นอาณัติสัญญาณ 2 ยี่ห้อ รฟท. เสียโอกาสได้ประโยชน์สูงสุด เผยกรมบัญชีกลางเคยระบุเสนอแบบเผื่อเลือกไม่ได้ ประโยชน์จะตกกับเอกชน

ผู้จัดการรายวัน360 - จับตานายกฯ ตั้ง กก.ตรวจสอบประมูลรถไฟทางคู่ "สายเหนือ-อีสาน" แก้ข้อครหาฮั้ว เอื้อผู้รับเหมารายใหญ่ เปิดอีกปม TOR ให้ยื่นอาณัติสัญญาณ 2 ยี่ห้อ รฟท. เสียโอกาสได้ประโยชน์สูงสุด เผยกรมบัญชีกลางเคยระบุเสนอแบบเผื่อเลือกไม่ได้ ประโยชน์จะตกกับเอกชน

จากกรณี นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม รักษาการหัวหน้าพรรคไทยภักดี นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ รองหัวหน้าพรรค ปชป. และนายสาวิทย์ แก้วหวาน เลขาธิการสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.รฟท.) ได้ยื่นหนังสือต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมตรี ขอให้พิจารณาทบทวนการประมูล และตรวจสอบความไม่ถูกต้องในการประมูลก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ สายเหนือ (เด่นชัย-เชียงรายเชียงของ) และ สายอีสาน (บ้านไผ่มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหารนครพนม) มูลค่ารวม 128,376 ล้านบาท ซึ่ง รฟท. ประมูลด้วยระบบ e-Bidding โดยผลราคาลดลงเฉลี่ย 0.08% จากราคากลางเท่ากันทั้ง 2 โครงการ และเป็นการลดราคาที่ถือว่าน้อยมาก เมื่อเทียบกับมูลค่าก่อสร้าง

รวมไปถึงการกำหนด TOR ที่เอื้อกับผู้รับเหมาบางกลุ่ม เช่น การรวมงานติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณ อยู่ในสัญญาเดียวกับงานโยธา จากเดิมที่ รฟท. แยกกันประมูล เพื่อป้องกันการล็อกสเปก และทำให้มูลค่าโครงการแต่ละสัญญาไม่สูงเกินไป

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. 64 นายกรัฐมนตรี ได้มีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ลับ ที่ 147/2564 แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการประกวดราคาก่อสร้างทางรถไฟทางคู่สายเหนือและสายอีสาน โดยมี นายดนัย มู่สา ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษประจำสำนักนายกฯ เป็นประธาน และมีกรรมการร่วม ได้แก่ นายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกฯ, นายประภาศ คงเอียด อธิบดีกรมบัญชีกลาง, นาย ชยธรรม์ พรหมศร ปลัดฯคมนาคม และผู้แทนจากสำนักงบฯ, วิศกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ, สำนักกฎหมาย สำนักงานปลัดสำนักนายกฯ

ซึ่งนายดนัย มู่สา ประธานกรรมการฯได้มีหนังสือถึง นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม รวมถึงนายสามารถ ราชพลสิทธิ์ และ นายสาวิทย์ แก้วหวาน เพื่อเชิญชี้แจงข้อมูลประกอบกับข้อร้องเรียน ในวันนี้ (5 ก.ค. 64) เวลา 09.30 น.ห้อง 109 ชั้น 1 อาคารสำนักงานปลัดสำนักนายกฯ ทำเนียบรัฐบาล

พิรุธ TOR ยื่นอาณัติสัญญาณ 2 ยี่ห้อ

รายงานข่าวแจ้งว่า นอกจากประเด็นการรวมงานโยธา กับงานระบบอาณัติ สัญญาณแล้ว ยังมีข้อสังเกตุเรื่องการกำหนดให้ยื่นข้อเสนอผลิตภัณฑ์อาณัติสัญญาณ โดยใน TOR ข้อ 17 ที่กำหนดให้ยื่นเสนอผลิตภัณฑ์ สำหรับ 3 ระบบหลักของงานอาณัติสัญญาณ ได้แก่ 1. ระบบบังคับสัมพันธ์ด้วยคอมพิวเตอร์ (CBI System) 2. ระบบป้องกันเหตุอันตรายของขบวนรถโดยอัตโนมัติ (ATP) ตามมาตรฐาน ETCS Level 1. และ 3. ระบบควบคุมการเดินรถทางไกล (CTC System)

โดยให้ยื่นเสนอผลิตภัณฑ์ไม่เกิน 2 ผลิตภัณฑ์ สำหรับแต่ละระบบ พร้อมยื่นหนังสือรับรองผลการใช้งานผลิตภัณฑ์ประเภทเดียวกันกับผลิตภัณฑ์ให้แก่โครงการ ซึ่งประมาณปี 50 เคยมีกรณีบริษัทผู้รับเหมายื่นประมูลโดยเสนอรางรถไฟจาก 5 โรงงาน ซึ่งคณะกรรมการประกวดราคาฯ มีมติให้บริษัทดังกล่าวชนะประมูล ขณะที่ รฟท.ได้หารือไปที่กรมบัญชีกลาง ซึ่งกรมบัญชีกลางมีมติว่า รฟท.ไม่สามารถดำเนินการ โดยผู้รับเหมาต้องเสนอเพียงโรงงานเดียว เพราะการเสนอมากกว่า 1 โรงงาน เป็นการเสนอแบบทางเลือก ขณะที่ผู้รับเหมารายอื่นเสนอ 1 โรงงาน

ส่วนการประมูลรถไฟทางคู่ สายเหนือและสายอีสาน เขียน TOR ให้ทุกบริษัท ยื่นเสนออาณัติสัญญาณได้ 2 ยี่ห้อ เป็นการเสนอแบบเผื่อเลือกเช่นกัน ซึ่งผลประโยชน์จะตกกับบริษัท ส่วน รฟท.เสียโอกาสที่จะได้ประโยชน์สูงสุด เนื่องจากราคาอาณัติ สัญญาณแต่ละยี่ห้อไม่เท่ากัน เมื่อบริษัทชนะประมูล จะเลือกยี่ห้อที่ราคาถูกกว่าให้ รฟท.

กรณีแบบนี้ กรมบัญชีกลางเคยมีข้อวินิจฉัยไว้แล้ว ดังนั้น การกำหนด TOR ให้ยื่น ได้ 2 ยี่ห้อ อาจจะเป็นอีกเงื่อนไขที่ทำให้รฟท.เสียประโยชน์ และขัดกับแนวทางที่เคยดำเนินการมา ส่วนการตั้งกรรมการตรวจสอบการประมูลโครงการฯ ยังต้องจับตาดูกันต่อไปว่าจะมีข้อสรุปอย่างไร หรืออาจเป็นเพียงการซื้อเวลาของนักการเมืองเท่านั้น.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42903
Location: NECTEC

PostPosted: 05/07/2021 1:09 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
ตั้งทีมสอบฮั้วประมูลรถไฟทางคู่ พิรุธTORชงอาณัติสัญญาณ2ยี่ห้อ
ผู้จัดการรายวัน 360 องศา ฉบับวันที่ 05 กรกฎาคม พ.ศ. 2564


จับตานายกฯ ตั้งทีมสอบฮั้วประมูลรถไฟทางคู่ เปิดอีกพิรุธ TOR ยื่นอาณัติสัญญาณ 2 ยี่ห้อสุดเอื้อรับเหมา
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันที่ 05 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 เวลา 08:49 น.
ปรับปรุง: วันที่ 05 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 เวลา 08:49 น.

จับตา “นายกฯ” ตั้งสอบประมูลรถไฟทางคู่ “สายเหนือ-อีสาน” ฝ่าครหาฮั้ว เอื้อรับเหมารายใหญ่ เปิดอีกปม TOR ให้ยื่นอาณัติสัญญาณ 2 ยี่ห้อ รฟท.เสียโอกาสได้ประโยชน์สูงสุด เผยกรมบัญชีกลางเคยชี้เสนอแบบเผื่อเลือกไม่ได้ ประโยชน์จะตกแก่เอกชน

รายงานข่าวเปิดเผยว่า จากกรณีที่ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม รักษาการหัวหน้าพรรคไทยภักดี นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายสาวิทย์ แก้วหวาน เลขาธิการสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.รฟท.) ได้ยื่นหนังสือต่อ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมตรี เพื่อให้พิจารณาทบทวนการประมูลและตรวจสอบความไม่ถูกต้องในการประมูลก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ สายเหนือ (เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ) และสายอีสาน (บ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม) มูลค่ารวม 128,376.79 ล้านบาท ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ประมูลด้วยระบบจัดซื้อจัดจ้างอิเล็กทรอนิกส์ (e-Bidding) โดยผลราคาลดลงเฉลี่ย 0.08% จากราคากลางเท่ากันทั้ง 2 โครงการ และเป็นการลดราคาที่ถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับมูลค่าก่อสร้าง

รวมไปถึงการกำหนด TOR ที่เอื้อกับผู้รับเหมาบางกลุ่ม เช่น การรวมงานติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณประมูลอยู่ในสัญญาเดียวกับงานโยธา จากเดิมที่ รฟท.แยกประมูลสัญญางานโยธาและสัญญางานระบบอาณัติสัญญาณ ซึ่งการแยกสัญญาจะป้องกันการล็อกสเปก และทำให้มูลค่าโครงการแต่ละสัญญาไม่สูงเกินไปอีกด้วย

และเมื่อวันที่ 17 มิ.ย. 2564 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ลับ ที่ 147/2564 แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการประกวดราคาก่อสร้างทางรถไฟทางคู่สายเหนือและสายอีสาน โดยมีนายดนัย มู่สา ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ และมีกรรมการร่วม ได้แก่ นายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี, นายประภาศ คงเอียด อธิบดีกรมบัญชีกลาง, นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม และผู้แทนจากสำนักงบประมาณ, วิศกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ, สำนักกฎหมาย สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี

นายดนัย มู่สา ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการฯ ได้มีหนังสือถึง นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม รักษาการหัวหน้าพรรคไทยภักดี รวมถึงนายสามารถ ราชพลสิทธิ์ และนายสาวิทย์ แก้วหวาน เพื่อเชิญชี้แจงข้อมูลประกอบกับข้อร้องเรียน ในวันที่ 5 ก.ค. 2564 เวลา 09.30 น. ห้อง 109 ชั้น 1 อาคารสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล

@เปิดพิรุธ TOR ยื่นอาณัติสัญญาณ 2 ยี่ห้อเอื้อรับเหมา

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า นอกจากประเด็นการรวมงานโยธาผูกกับงานระบบอาณัติสัญญาณแล้ว ยังมีข้อสังเกตเรื่องการกำหนดให้ยื่นข้อเสนอผลิตภัณฑ์อาณัติสัญญาณ โดยใน TOR ข้อ 17 ที่กำหนดให้ยื่นเสนอผลิตภัณฑ์ สำหรับ 3 ระบบหลักของงานอาณัติสัญญาณ ได้แก่ 1. ระบบบังคับสัมพันธ์ด้วยคอมพิวเตอร์ (CBI System) 2. ระบบป้องกันเหตุอันตรายของขบวนรถโดยอัตโนมัติ (ATP) ตามมาตรฐาน ETCS Level 1 และ 3. ระบบควบคุมการเดินรถทางไกล (CTC System)

โดยให้ยื่นเสนอผลิตภัณฑ์ไม่เกิน 2 ผลิตภัณฑ์สำหรับแต่ละระบบ พร้อมยื่นหนังสือรับรองผลการใช้งานผลิตภัณฑ์ประเภทเดียวกันกับผลิตภัณฑ์ให้แก่โครงการ

ซึ่งประมาณปี 2550 เคยมีกรณีบริษัทผู้รับเหมายื่นประมูลโดยเสนอรางรถไฟจาก 5 โรงงาน ซึ่งคณะกรรมการประกวดราคาฯ มีมติให้บริษัทดังกล่าวชนะประมูล ขณะที่ รฟท.ได้หารือไปที่กรมบัญชีกลาง ซึ่งกรมบัญชีกลางมีมติว่า รฟท.ไม่สามารถดำเนินการโดยผู้รับเหมาต้องเสนอเพียงโรงงานเดียว เพราะการเสนอมากกว่า 1 โรงงานเป็นการเสนอแบบทางเลือก ขณะที่ผู้รับเหมารายอื่นเสนอ 1 โรงงาน


ส่วนการประมูลรถไฟทางคู่ สายเหนือ และสายอีสาน เขียน TOR ให้ทุกบริษัทยื่นเสนออาณัติสัญญาณได้ 2 ยี่ห้อ เป็นการเสนอแบบเผื่อเลือกเช่นกัน ซึ่งผลประโยชน์จะตกแก่บริษัท ส่วน รฟท.เสียโอกาสที่จะได้ประโยชน์สูงสุดเนื่องจากราคาอาณัติสัญญาณแต่ละยี่ห้อไม่เท่ากัน เมื่อบริษัทชนะประมูลจะเลือกยี่ห้อที่ราคาถูกกว่าให้ รฟท.

ดังนั้น การที่กรณีแบบนี้กรมบัญชีกลางเคยมีข้อวินิจฉัยไว้แล้ว ดังนั้น การกำหนด TOR ให้ยื่นระบบอาณัติสัญญาณได้ 2 ยี่ห้อ อาจจะเป็นอีกเงื่อนไขที่ทำให้ รฟท.เสียประโยชน์ และขัดกับแนวทางที่เคยดำเนินการมา ส่วนการตั้งกรรมการตรวจสอบการประมูลโครงการฯ ยังต้องจับตาดูกันต่อไป ว่าจะมีข้อสรุปอย่างไร หรืออาจเป็นเพียงการซื้อเวลาของนักการเมืองเท่านั้น

ด้าน นายสาวิทย์ แก้วหวาน ประธานสหภาพฯ รฟท. กล่าวว่า การประมูลรถไฟทางคู่ สายหนือ และสายอีสาน มีข้อพิรุธหลายประการ ซึ่งคาดหวังว่าคณะกรรมการฯ ที่นายกฯ ตั้งขึ้นจะตรวจสอบและทำให้เกิดความโปร่งใส สามารถตอบข้อสงสัยสังคมได้ และหากต้องยกเลิกประมูลและปรับปรุง TOR ใหม่ให้เหมาะสม เช่น แยกงานระบบอาณัติสัญญาณออกจากงานโยธา และแบ่งสัญญาก่อสร้างให้มากกว่า 3 สัญญา เพื่อให้เหลือมูลค่าสัญญาละ 6-7 พันล้านบาท ผู้รับเหมาขนาดกลางจะเข้าร่วมได้หลายรายขึ้น ทำให้เกิดการแข่งขันมากขึ้น ซึ่งเชื่อว่าจะไม่ทำให้โครงการล่าช้า ดังนั้นควรเลือกแนวทางที่รักษาผลประโยชน์ของประเทศและของประชาชนทุกคน
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 45337
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 06/07/2021 3:45 pm    Post subject: Reply with quote

สหภาพฯรถไฟ ยอมรับพบพิรุธประมูลรถไฟทางคู่ สายเหนือ และอีสาน
ไทยโพสต์ 06 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 เวลา 09:18 น.

6 ก.ค. 2564 นายสาวิทย์ แก้วหวาน ประธานสหภาพแรงงาน​รัฐวิสาหกิจการรถไฟแห่งประเทศไทย (สรส.ร.ฟ.ท.) เปิดเผยภายหลังได้เข้าชี้แจงต่อคณะกรรมการตรวจสอบการประกวดราคาก่อสร้างทางรถไฟทางคู่สายเหนือและสายอีสาน ว่าได้ไปชี้แจงในประเด็นที่ได้มีการตั้งข้อสังเกต เรื่อง การปรับปรุงกระบวนร่างเอกสารประกวดราคา (TOR) และเงื่อนไขการประมูล รวมถึงเรื่องราคาประมูลต่ำกว่าราคากลางเฉียดฉิวโดยสายเหนือราคากลาง 72,918 ล้านบาท ผลราคาที่ประมูล 72,858 ล้านบาท ลดลงเพียง 60 ล้านบาท คิดเป็น 0.08% เท่านั้น ส่วนสายอีสาน ราคากลาง 55,456 ล้านบาท ผลราคาประมูลที่ 55,410 ล้านบาท ลดลงแค่ 46 ล้านบาทเท่านั้น คิดเป็น 0.08% เท่ากัน

ทั้งนี้มองว่าการประมูลรถไฟทางคู่ สายหนือ และสายอีสาน มีข้อพิรุธหลายประการ ซึ่งคาดหวังว่าคณะกรรมการฯ ที่นายกฯ ตั้งขึ้นจะตรวจสอบและทำให้เกิดความโปร่งใส สามารถตอบข้อสงสัยสังคมได้ และหากต้องยกเลิกประมูลและปรับปรุง TOR ใหม่ให้เหมาะสม เช่น แยกงานระบบอาณัติสัญญาณออกจากงานโยธา และแบ่งสัญญาก่อสร้างให้มากกว่า 3 สัญญา เพื่อให้เหลือมูลค่าสัญญาละ 6-7 พันล้านบาท ผู้รับเหมาขนาดกลางจะเข้าร่วมได้หลายรายขึ้น ทำให้เกิดการแข่งขันมากขึ้น ซึ่งเชื่อว่าจะไม่ทำให้โครงการล่าช้า ดังนั้นควรเลือกแนวทางที่รักษาผลประโยชน์ของประเทศและของประชาชนทุกคน

นายสาวิทย์ กล่าวว่า หลังจากหน่วยงานที่เกี่ยวทั้งหมดได้เข้าไปชี้แจงรายละเอียดแล้ว ต่อไปเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการฯที่จะสรุปรายละเอียดทั้งหมดเพื่อที่จะรายงานให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต่อไป อย่างไรก็ตามโดยส่วนตัวมองว่าจะใช้เวลาในการสรุปปัญหาไม่นาน ขอให้ดูเรื่องกระบวนการเขียน TOR และที่มาที่ไปของการว่าจ้างที่ปรึกษา มีความจำเป็นสอดคล้องกับความเป็นจริงตามที่การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)ต้องการหรือไม่ ส่วนผลสรุปของคณะกรรมการฯจะออกมาเป็นอย่างไรนั้น ก็รอดูว่าเรายังมีข้อกังวลและสงสัยในส่วนใดอีก ซึ่งหลังจากนี้ต้องรอให้คณะกรรมการฯสรุปก่อน

ด้านนายสามารถ ราชพลสิทธิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าได้เข้าชี้แจงคณะกรรมการตรวจสอบการประกวดราคาก่อสร้างทางรถไฟทางคู่สายเหนือช่วงเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ และสายอีสานช่วงบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม ที่นายยกรัฐมนตรีได้มีคำสั่งแต่งตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2564 โดยมีนายดนัย มู่สา ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน

นายสามารถ กล่าวว่าสาเหตุที่ทำให้การประมูลรถไฟทางคู่สายเหนือและสายอีสานมีราคาประมูลต่ำกว่าราคากลางเท่ากันคือแค่ 0.08% เท่านั้น เกิดจากการแก้ทีโออาร์ ไม่นำทีโออาร์การประมูลรถไฟทางคู่สายใต้มาใช้ ซึ่งสายใต้มีราคาประมูลต่ำกว่าราคากลางถึง 5.66% ถ้าสายเหนือและสายอีสานสามารถประหยัดได้ 5.66% จะคิดเป็นเงินจำนวนมากถึงกว่า 7,200 ล้านบาทยิ่งไปกว่านั้น เมื่อเปรียบเทียบกับการประมูลรถไฟความเร็วสูงช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ของการรถไฟฯ หน่วยงานเดียวกัน ซึ่งแบ่งการประมูลงานโยธาออกเป็น 14 สัญญา โดยได้แยกประมูลงานระบบอาณัติสัญญาณออกจากงานโยธา ปรากฏว่าสามารถประหยัดค่าก่อสร้างได้ถึง 14.65% คิดเป็นเงินจำนวนมากถึง 17,353 ล้านบาท

นายสามารถ กล่าวว่าการขอเปลี่ยนทีโออาร์ตามหนังสือของกระทรวงคมนาคม ถึงเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 13 กรกฎาคม 2563 จากเดิมที่เคยแบ่งการประมูลสายเหนือออกเป็นสัญญา 7 สัญญา ประกอบด้วยงานโยธาและระบบราง 6 สัญญา และงานระบบอาณัติสัญญาณ 1 สัญญา เหลือเพียง 3 สัญญา โดยรวมประมูลงานระบบอาณัติสัญญาณเข้ากับงานโยธา อาจเข้าข่ายองค์ประกอบความผิดตามมาตรา 4, 9, 10, 11, และ 12 แห่ง พรบ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542

ทั้งนี้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับระบบอาณัติสัญญาณนั้น ดร.สามารถได้เสนอให้คณะกรรมการฯ พิจารณา กรณีการรถไฟฯ กำหนดให้ผู้รับเหมาเสนอระบบอาณัติสัญญาณได้ไม่เกิน 2 ยี่ห้อ หากผู้รับเหมาเสนอ 2 ยี่ห้อและเขาชนะการประมูล เขาอาจเลือกใช้ยี่ห้อที่มีราคาถูกกว่า ซึ่งจะทำให้การรถไฟฯ เสียผลประโยชน์หรือไม่? และจะเป็นการเอื้อประโยชน์ให้ผู้รับเหมาหรือไม่

นายสามารถ กล่าวว่าขอให้คณะกรรมการฯ ไปตรวจสอบว่า การรถไฟฯ เคยประมูลราคารางเหล็ก มีผู้เสนอรายหนึ่งเสนอโรงงานผลิตรางมาหลายโรงงาน ปรากฏว่ามีราคาต่ำสุด ในขณะที่ผู้เสนอรายอื่นทุกรายเสนอมาเพียงโรงงานเดียว จึงร้องเรียนมาที่การรถไฟฯ ซึ่งการรถไฟฯ ได้สอบถามไปที่กรมบัญชีกลาง กรมบัญชีกลางให้ความเห็นว่าการเสนอราคาหลายโรงงานมาหลายโรงงานเป็นการเสนอแบบ "เผื่อเลือก" ซึ่งไม่สามารถทำได้ ในที่สุดการรถไฟฯ ต้องยกเลิกการประมูลครั้งนั้น ดร.สามารถได้ย้ำให้คณะกรรมการฯ ไปตรวจสอบว่าจริงหรือไม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่17 มิ.ย. 2564 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ลับ ที่ 147/2564 แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการประกวดราคาก่อสร้างทางรถไฟทางคู่สายเหนือและสายอีสาน โดยมีนายดนัย มู่สา ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ และมีกรรมการร่วม ได้แก่ นายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี, นายประภาศ คงเอียด อธิบดีกรมบัญชีกลาง, นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม และผู้แทนจากสำนักงบประมาณ, วิศกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ, สำนักกฎหมาย สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42903
Location: NECTEC

PostPosted: 07/07/2021 1:46 am    Post subject: Reply with quote

“กรมบัญชีกลาง” ซัด รฟท.ส่อฮั้วประมูลรถไฟทางคู่สายเหนือ-อีสาน
หน้าเศรษฐกิจมหภาค Mega Project
ออนไลน์เมื่อ 04 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 เวลา 18:25 น.
ตีพิมพ์ใน หน้า 7
ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,693 วันที่ 4 - 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

“กรมบัญชีกลาง” เผยฮั้วประมูลรถไฟทางคู่สายเหนือ-อีสาน สังคม-หน่วยงานรัฐมีสิทธิตรวจสอบสั่งเบรกโครงการฯ ยันผู้แพ้ประมูลลุยยื่นฟ้องอุทธรณ์ได้ ฟากรฟท.มั่นใจแบ่งสัญญาใหม่ ไม่กระทบโครงการฯล่าช้า

นายประภาส คงเอียด อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยถึงกรณีข้อสังเกตที่ผู้ชนะการประมูลโครงการรถไฟทางคู่ทั้ง 2 สาย ประกอบด้วย โครงการรถไฟทางคู่สายเด่นชัย-เชียงของ และโครงการรถไฟทางคู่สายบ้านไผ่-นครพนม ที่มีการเสนอราคาห่างจากราคากลางไม่มากนั้น เนื่องจากราคากลางจะมีการเปิดเผยให้ทราบโดยทั่วกันอยู่แล้ว จึงเป็นเรื่องของผู้เข้าประมูลที่จะประเมินราคาที่รับได้ และเสนอราคาเพื่อสู้กับราคากับผู้ร่วมประมูลรายอื่นที่เสนอมา ส่วนกรณีประเด็นมีการฮั้วประมูลกันของรายใหญ่หรือไม่ เป็นเรื่องที่ตอบยาก เพราะไม่สามารถรู้ได้ว่า ผู้เข้าประมูลแต่ละรายมีการพูดคุยกันนอกรอบก่อนเข้าร่วมประมูลหรือไม่ ซึ่งในระบบ e-bidding จะไม่สามารถดูได้ว่ามีใครซื้อซองหรือจะมีใครมาร่วมประมูล

“หากผู้เข้าประมูลรู้กันเอง ก็เป็นเรื่องที่เกินวิสัยที่กรมบัญชีกลางจะไปป้องกันได้ แต่ทุกเรื่องที่เป็นการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ หากพบว่าการมีการกระทำที่อาจมิชอบ หรือพบพิรุธ ผู้ร่วมประมูลรายอื่นที่แพ้การประมูล สามารถยื่นอุทธรณ์ได้ หรือแม้แต่สังคมซึ่งถือเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เพราะเป็นโครงการของรัฐ เป็นบริการสาธารณะ หากพบว่าการกระทำครั้งนี้อาจมิชอบด้วยกฎหมาย หรือ ถ้ามีหลักฐาน ก็สามารถยื่นเรื่องไปยังหน่วยงานที่มีอำนาจในการตรวจสอบได้เช่นกัน เช่น ปปช. สตง. ผู้ตรวจการแผ่นดิน เป็นต้น ซึ่งหน่วยงานเหล่านี้ มีอำนาจเข้าไปตรวจสอบและหากพบพิรุธ ก็สามารถสั่งชะลอโครงการได้ จนกว่าการตรวจสอบข้อเท็จจริงจะแล้วเสร็จ ซึ่งจะมีกฎหมายในการกำกับกระบวนการตรวจสอบของแต่ละหน่วยงาน”

รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวถึงกรณีการฮั้วประมูลรถไฟทางคู่สายเหนือและสายอีสาน ว่า ทางรฟท.ได้มีการปรับเปลี่ยนการแบ่งสัญญา 6+1 ของซูปเปอร์บอร์ด เป็น 3 สัญญา รวมการติดตั้งอาณัติสัญญาณ ตามมติที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติรอบแรก เนื่องจากมีประสบ การณ์เปรียบเทียบสัญญาใหญ่รวม SNL ในโครงการรถไฟทางคู่เส้นทางสายชุมทางจิระ-ชุมทางแก่งคอย โดยมาจากปัจจัยภายนอก เช่น การเวนคืน และการปรับแบบสถานีบ้านไผ่ที่มีชาวบ้านเรียกร้องมา ซึ่งเป็นโครงการที่มีความสำเร็จเสร็จใกล้เคียงกับเป้าหมายและมีความล่าช้าเพียง 6 เดือน

ขณะที่โครงการทางคู่ ระยะที่ 1 ทั้ง 3 สายทาง แบ่งแยกสัญญา SNL ปัจจุบันพบว่า กำหนดแล้วเสร็จของโครงการจะล่าช้าออกไปมากกว่า 2 ปี เพราะมีความล่าช้าตั้งแต่การประกวดราคา inter bid ของงานระบบอาณัติสัญญาณ และการประสานการทำงาน การส่งต่อข้อมูล การมอบพื้นที่ ระหว่างงานโยธากับ SNL จึงเป็นประสบการณ์ว่าการแบ่งสัญญาใหญ่รวม SNL มีผลกับความสำเร็จในการดำเนินงานมากกว่าการแบ่งเป็นสัญญาย่อย ซึ่งไม่ได้เป็นหลักประกันว่าจะเกิดการแข่งขันราคาได้อย่างสมบูรณ์ รวมทั้งค่าวัสดุเหล็กปรับตัวสูงขึ้นถึง 40% ในการประกวดราคาครั้งนี้

รายงานข่าวจากรฟท. กล่าวว่า กรณีที่มีการแบ่งเค้กและฮั้วราคา ในส่วนของรฟท. ได้ดำเนินการทุกอย่างตามระเบียบขอบเขตของรฟท. รวมทั้งดำเนินการทุกขั้นตอนของการประกวดราคา ให้เป็นไปตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 สำหรับระบบการประกวดราคาแบบ e-Bidding เป็นระบบที่ได้พัฒนารูปแบบจากการประกวดราคาด้วยวิธีการยื่นซอง เป็นการประกวดราคาแบบ e-Auction จนกระทั่งเป็นการประกวดราคาแบบ e-Bidding ซึ่งถือว่าเป็นระเบียบที่มีความโปร่งใสมากที่สุดในปัจจุบันของทางราชการ

ขณะเดียวกันในการประมูลโครงการรถไฟทางคู่ 2 สาย รฟท. ได้ดำเนินการตามนโยบาย Thai First ไทยทำ ไทยใช้ คนไทยต้องได้ก่อน โดยกำหนดให้บริษัทที่ยื่นประมูลเป็นคนไทยสามารถยื่นประมูลได้ แต่หากมีการยื่นเป็นชาวต่างชาติต้องมีกลุ่มผู้นำเป็นคนไทย อย่างไรก็ตามงานก่อสร้างอุโมงค์ต้องมีการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้เพิ่มการแข่งขันของงานก่อสร้างเส้นทางรถไฟสายเด่นชัย เชียงราย เชียงของ ซึ่งกำหนดให้งานอุโมงค์ผู้ที่จะยื่นประมูลสามารถนำผลงานในไทยหรือใช้ผลงานจากต่างประเทศได้ และหากผู้ร่วมประมูลเป็นต่างชาติก็สามารถเข้าร่วมกับบริษัทของไทยที่มีผลงานทางรถไฟได้

“กรมบัญชีกลาง” ซัด รฟท.ส่อฮั้วประมูลรถไฟทางคู่สายเหนือ-อีสาน

“รฟท.ไม่ได้นิ่งเฉย ได้มีการมอบหมายให้ที่ปรึกษาการประกวดราคาตรวจสอบยืนยัน ความเหมาะสมของเงื่อนไข และราคากลางของงาน พบว่า ราคากลาง ราคาค่าก่อสร้างทั้ง งานโยธา/งานทางรถไฟ และอาณัติสัญญาณฯ เฉลี่ย ต่อ กม. ของโครงการรถไฟทางคู่สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ และทางคู่สาย บ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม มีราคาต่อ กม. ต่ำกว่าโครงการทางคู่ที่ก่อสร้างมาก่อนหน้านี้ทุกสาย และยังพบว่า ราคาค่าก่อสร้างอุโมงค์ ต่อ กม.ของคู่สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ต่ำกว่างานก่อสร้างอุโมงค์ ช่วงมาบกะเบาในทางคู่ ระยะที่ 1 ของสายตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้งๆ ที่สภาพพื้นดินสายเด่นชัยฯ เป็นชั้นหินผุ ซึ่งทำงานยากกว่า จึงพิสูจน์ได้ว่าราคากลางของโครงการทางคู่สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ และทางคู่สาย บ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม มีราคาที่เหมาะสมและเป็นประโยชน์กับทางราชการสูงสุด”



สำหรับกรณีที่สังคมตั้งข้อสังเกตถึงพิรุธในโครงการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐครั้งนี้ คือ โครงการรถไฟทางคู่เส้นทางใหม่ จำนวน 2 เส้นทาง ระยะทางรวม 678 กม. วงเงินก่อสร้างรวม 127,605.4 ล้านบาท ประกอบด้วย สายเหนือ ช่วงเด่นชัย-เชียงของ ระยะทาง 323 กม. มูลค่าก่อสร้าง 72,921 ล้านบาท และสายอีสาน ช่วงบ้านไผ่-นครพนม ระยะทาง 355 กม. มูลค่าก่อสร้าง 54,684.40 ล้านบาท โดยมีการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท. เป็นเจ้าของโครงการ




อย่างไรก็ตามในการประมูลแบ่งเป็น 5 สัญญา และมีผู้รับเหมาขนาดใหญ่เข้าประมูล 5 ราย และชนะการประมูลทุกราย จึงเป็นข้อพิรุธ ซึ่งอาจเป็นการสมรู้ร่วมคิด ล็อกสเปก ฮั้วประมูล อาจเข้าข่ายฝ่าฝืน พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ 2542 หรือกฎหมายฮั้วประมูล แม้ทางผู้ว่า รฟท.จะออกมาปฏิเสธแล้วว่าการประมูลโปร่งใสก็ตาม ทั้งนี้ รฟท. จะประกาศผลผู้ชนะการเสนอราคาในวันที่ 9 กรกฎาคมนี้ ก่อนจะมีการลงนามสัญญาภายในวันที่ 2 สิงหาคม 2564 โดยจะใช้เวลาในการก่อสร้าง 6 ปี และเปิดให้บริการได้ในปี 2571




ACT เรียกร้องนายกฯทบทวน“ประมูลรถไฟทางคู่”สายเหนือ-อีสานเหตุสังคมแคลงใจ
หน้าการเมือง
05 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 เวลา 17:44 น.
องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ แถลงการณ์เรียกร้อง “นายกฯ” สั่งให้ทบทวนการ “ประมูลรถไฟทางคู่” สายเหนือ-อีสาน เหตุสังคมยังแคลงใจ เกิดข้อครหามากมาย หวั่นกลายเป็นบรรทัดฐานในอนาคตของ “การคอร์รัปชันที่ถูกต้องตามขั้นตอน”

วันนี้ (5 ก.ค.2564) องค์การต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) หรือ ACT ออกแถลงการณ์ เรื่อง “ความจริงใจในการทบทวนการประมูลโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายเหนือและสายอีสาน” โดยเนื้อหาในแถลงกาณ์ระบุ ว่า



ก่อนอื่นใดองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ ขอขอบคุณท่านนายกรัฐมนตรีในการแก้ปัญหาคอร์รัปชัน 3 กรณีสำคัญในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา คือ ทบทวนการแก้ไข พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารฯ แสดงจุดยืนคัดค้าน การแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 144 และ มาตรา 185 และการมีมติ ครม. กำหนดทุกหน่วยงานรัฐต้องใช้ “ข้อตกลงคุณธรรม” ในการจัดซื้อจัดจ้างตามกฎหมายทุกประเภท



อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สังคมยังมีความแคลงใจอย่างยิ่งเกี่ยวกับการประมูลรถไฟทางคู่สายเหนือและสายอีสาน รวม 5 สัญญา ที่เกิดข้อครหาว่า มีการล็อคสเปก ฮั้วประมูล และเอื้อประโยชน์ให้คนบางกลุ่ม



โดยตั้งข้อสังเกตว่า ก่อนการประมูลครั้งนี้ได้มียกเลิกมาตรการป้องกันคอร์รัปชัน ที่ ครม.เคยมีมติเห็นชอบตามข้อเสนอของคณะกรรมการกำกับการจัดซื้อจัดจ้าง (ซูเปอร์บอร์ดจัดซื้อจัดจ้าง) เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2560 ที่วางกรอบแนวทางส่งเสริมให้มีการแข่งขันราคาอย่างเสรีไว้ชัดเจนดีแล้ว ส่งผลให้ทีโออาร์และกติกาการประมูลครั้งนี้เปลี่ยนแปลงไปหลายประการ และนำไปสู่ข้อครหาที่น่าอัปยศอดสูดังกล่าว


การยกเลิกมาตรการป้องกันคอร์รัปชันในการจัดซื้อจัดจ้างฯ และพฤติกรรมที่ปรากฏในการประมูลครั้งนี้จะกลายเป็นบรรทัดฐานในอนาคตของ “การคอร์รัปชันที่ถูกต้องตามขั้นตอน” ที่ส่งผลเสียต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนไทยและนานาชาติ ซึ่งขัดแย้งกับสิ่งที่รัฐบาลประกาศเจตนารมณ์ไว้ทั้งวาระแห่งชาติ ในการต่อต้านคอร์รัปชัน ยุทธศาสตร์ชาติและแผนปฏิรูปประเทศ

ทั้งหมดนี้ย่อมเสื่อมเสียต่อภาพลักษณ์ของประเทศ ที่จะส่งผลต่อการประเมินดัชนีคอร์รัปชันโลก (CPI) และที่สำคัญอย่างยิ่ง คือ การเสื่อมศรัทธาต่อคณะรัฐบาลที่เคยวางตัวเป็นความคาดหวังของสังคม

ไม่มีความเลวร้ายใดจะส่งผลถึงการคดโกงชาติ เท่ากับการปล่อยให้มีระบบอุปถัมภ์ การให้โอกาสพวกพ้องอย่างไม่คำนึงถึงผลเสีย ที่จะตกถึงคนส่วนใหญ่ของชาติ

องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) จึงใคร่เรียนขอให้ท่านนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้ารัฐบาล ที่มีหน้าที่ควบคุมและรับผิดชอบการใช้อำนาจบริหาร ได้โปรดพิจารณาสั่งการให้มีการทบทวนการประมูลดังกล่าวอย่างละเอียดรอบคอบ และสมเหตุสมผลด้วยความจริงใจจริงจัง


พร้อมนำมาตรการป้องกันคอร์รัปชันที่เหมาะสมชัดเจนมาใช้ เพื่อแสดงถึงความโปร่งใสและมีธรรมาภิบาลในการบริหารราชการแผ่นดิน เพื่อรักษาผลประโยชน์ของแผ่นดินอย่างมีจุดยืนที่มั่นคง ด้วยศักดิ์ศรีของผู้นำที่ยึดมั่นในความสุจริตเป็นกลางอย่างที่สุด ก่อนที่สังคมจะเปลี่ยนจากวิกฤติศรัทธาเป็นการเคลื่อนไหวที่ประชาชนต้องลุกมาดูแลผลประโยชน์ของชาติด้วยตนเอง





กังขา! ประมูลรถไฟทางคู่ สายเหนือ – สายอีสาน ดร.สามารถ หอบข้อมูลเข้าตรวจสอบ
หน้าเศรษฐกิจมหภาค Mega Project
05 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 เวลา 12:10 น.
ดร.สามารถ เปิดข้อมูล กังขา ประมูลรถไฟทางคู่ สายเหนือ – สายอีสาน ส่อฮั้ว มีความผิดตาม พ.ร.บ. การเสนอราคา หลังเปลี่ยน ทีโออาร์ และพบราคาประมูล ต่ำกว่าราคากลาง แค่ 0.08% เท่านั้น พร้อมข้อสงสัยหลายประการ

ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ฐานะ ผู้ชำนาญด้านโครงการและแผนแม่บทระบบขนส่งมวลชนและท่าอากาศยาน นำข้อมูล เข้าชี้แจงต่อกรรมการตรวจสอบ การประกวดราคารถไฟทางคู่ สายเหนือ-อีสาน ที่นายกรัฐมนตรี สั่งแต่งตั้งขึ้นมา เพื่อให้มีการทบทวนและตรวจสอบ การประกวดราคา ที่ส่อมีความผิดปกติ

หลัง ดร.สามารถ เดินหน้าตรวจสอบการประมูลดังกล่าวอย่างเข้มข้น พร้อมตั้งข้อสังเกตความผิดปกติ ตั้งแต่ วิธีการประมูล และ ราคาเคาะ ซึ่งเฉียดราคากลางเพียง 0.08% รวมถึงข้อสงสัยเปรียบเทียบในแง่ต่างๆ หลายประการ

โดย ดร. สามารถ ยืนยันว่า การขอเปลี่ยน TOR ตามหนังสือของกระทรวงคมนาคม ถึงเลขาธิการ ครม. ลงวันที่ 13 ก.ค. 2563 อาจเข้าข่ายองค์ประกอบความผิด ตามมาตรา 4, 9, 10, 11 และ 12 แห่ง พ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 ดังนี้ ....



กังขา ประมูลรถไฟทางคู่ สายเหนือ-สายอีสาน


เปรียบเทียบ TOR สายใต้ VS สายเหนือ - สายอีสาน

เทียบชัดๆ ทีโออาร์ประมูลรถไฟทางคู่

ทำไมประมูลต่างกัน ?


มีผู้รับเหมาหลายรายคัดค้าน TOR






"มานะ"ชี้พิรุธรถไฟทางคู่ ไม่เชื่อแล้วว่าเป็นรัฐบาลปราบโกง
หน้าการเมือง
06 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 เวลา 15:01 น.

องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ ออกแถลงการณ์เรียกร้องนายกฯ สั่งทบทวนประมูลรถไฟทางคู่สายเหนือ – อีสาน ชี้สังคมแคลงใจ หวั่นเป็นบรรทัดฐานในอนาคตของ “การคอร์รัปชันที่ถูกต้องตามขั้นตอน” ลั่นหมดความเชื่อมั่นว่าเป็นรัฐบาล "ปราบโกง"

วันที่ 6 ก.ค.2564 ดร.มานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ให้สัมภาษณ์พิเศษคุณสุทธิรักษ์ อุฒมนตรี บรรณาธิการรายการสืบสวนความจริง กรณีองค์การต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) หรือ ACT ออกแถลงการณ์ เรื่อง "ความจริงใจในการทบทวนการประมูลโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายเหนือและสายอีสาน"



ดร.มานะ พุูดถึงแถลงการณ์ว่า องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ ขอบคุณนายกรัฐมนตรี ในการแก้ปัญหาคอร์รัปชัน 3 กรณีสำคัญในเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา คือ
1.ทบทวนการแก้ไข พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารฯ
2.แสดงจุดยืนคัดค้าน การแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 144 และ มาตรา 185 และ
3.การมีมติ ครม. กำหนดทุกหน่วยงานรัฐต้องใช้ “ข้อตกลงคุณธรรม” ในการจัดซื้อจัดจ้างตามกฎหมายทุกประเภท


แต่ในขณะนี้ สังคมยังแคลงใจอย่างยิ่งเกี่ยวกับการประมูลรถไฟทางคู่สายเหนือและสายอีสานรวม 5 สัญญา ที่เกิดข้อครหาว่า มีการล็อคสเปก ฮั้วประมูลและเอื้อประโยชน์ให้คนบางกลุ่ม โดยตั้งข้อสังเกตแว่า ก่อนการประมูลครั้งนี้ได้มียกเลิกมาตรการป้องกันคอร์รัปชันที่ ครม. เคยมีมติเห็นชอบตามข้อเสนอของคณะกรรมการกำกับการจัดซื้อจัดจ้าง (ซูเปอร์บอร์ดจัดซื้อจัดจ้าง) เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2560 ซึ่งวางกรอบแนวทางส่งเสริมให้มีการแข่งขันราคาอย่างเสรีไว้ชัดเจนดีแล้ว ส่งผลให้ทีโออาร์และกติกาการประมูลครั้งนี้เปลี่ยนแปลงไปหลายประการ และนำไปสู่ข้อครหาที่น่าอัปยศอดสูดังกล่าว

การยกเลิกมาตรการป้องกันคอร์รัปชัน ในการจัดซื้อจัดจ้างฯ และพฤติกรรมที่ปรากฏในการประมูลครั้งนี้ จะกลายเป็นบรรทัดฐานในอนาคตของ “การคอร์รัปชันที่ถูกต้องตามขั้นตอน” ที่ส่งผลเสียต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนไทยและนานาชาติ ซึ่งขัดแย้งกับสิ่งที่รัฐบาลประกาศเจตนารมณ์ไว้ทั้งวาระแห่งชาติในการต่อต้านคอร์รัปชัน ยุทธศาสตร์ชาติและแผนปฏิรูปประเทศ ทั้งหมดนี้ย่อมเสื่อมเสียต่อภาพลักษณ์ของประเทศที่จะส่งผลต่อการประเมินดัชนีคอร์รัปชันโลก (CPI)

ที่สำคัญอย่างยิ่ง คือ การเสื่อมศรัทธาต่อคณะรัฐบาลที่เคยวางตัวเป็นความคาดหวังของสังคม

ดร.มานะ อ้างในแถลงการณ์ว่า ไม่มีความเลวร้ายใดจะส่งผลถึงการคดโกงชาติเท่ากับการปล่อยให้มีระบบอุปถัมภ์ การให้โอกาสพวกพ้องอย่างไม่คำนึงถึงผลเสียที่จะตกถึงคนส่วนใหญ่ของชาติ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) จึงใคร่เรียนขอให้ท่านนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้ารัฐบาลที่มีหน้าที่ควบคุมและรับผิดชอบการใช้อำนาจบริหาร ได้โปรดพิจารณาสั่งการให้มีการทบทวนการประมูลดังกล่าวอย่างละเอียดรอบคอบและสมเหตุสมผลด้วยความจริงใจจริงจัง พร้อมนำมาตรการป้องกันคอร์รัปชันที่เหมาะสมชัดเจนมาใช้ เพื่อแสดงถึงความโปร่งใสและมีธรรมาภิบาลในการบริหารราชการแผ่นดิน เพื่อรักษาผลประโยชน์ของแผ่นดินอย่างมีจุดยืนที่มั่นคงด้วยศักดิ์ศรีของผู้นำที่ยึดมั่นในความสุจริตเป็นกลางอย่างที่สุด ก่อนที่สังคมจะเปลี่ยนจากวิกฤติศรัทธาเป็นการเคลื่อนไหวที่ประชาชนต้องลุกมาดูแลผลประโยชน์ของชาติด้วยตนเอง



ดร.มานะ ระบุว่า แม้ไม่มีประจักษ์พยาน หรือหลักฐานการฮั้ว เพราะเป็นการยากที่คนทั่วไปจะหาได้ แต่พฤติกรรมมันฟ้องเจนารมณ์ เพราะถ้าผลประมูลออกมาแบบนี้สันนิษฐานได้เลยว่าต้องไม่ปกติ เพราะมีการยกเลิกกติกาก่อนประมูล จะทำให้พฤติกรรมนี้เป็นบรรทัดฐานการประมูลงานภาครัฐ คืออะไรที่เป็นอุปสรรคการประมูลก็ยกเลิกแบบง่ายๆ เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มาก



ในตอนท้าย ดร.มานะ ตอบคำถามว่า เชื่อมั่นในรัฐบาลปราบโกงอยู่อีกหรือไม่ ตำตอบจากดร.มานะ คือ ไม่เชื่อมั่นแล้ว
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42903
Location: NECTEC

PostPosted: 07/07/2021 6:16 pm    Post subject: Reply with quote

เช็กสถานะ! รถไฟทางคู่ 2 สายใหม่กว่า 1.2 แสนล้าน
*สายเด่นชัย-เชียงของกับเส้นบ้านไผ่-นครพนม
*ติดหล่ม"นักร้อง"ขย่มปมประมูลเขย่าๆไทม์ไลน์
*เลื่อนประกาศผลผู้ชนะ-ลงนามสัญญานับเดือน
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/2946330222255143
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42903
Location: NECTEC

PostPosted: 09/07/2021 3:25 pm    Post subject: Reply with quote

เวทีเสวนาACTชี้พิรุธ 5 สัญญา 5 บริษัท ประมูลรถไฟรางคู่สายเหนือ – อีสาน
หน้าการเมือง
09 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 เวลา 10:39 น.

ACT จัดเสวนาออนไลน์ รวมพลคนต้านคอร์รัปชัน ชี้ข้อพิรุธ 5 สัญญา 5 บริษัท ประมูลรถไฟรางคู่ สายเหนือ - อีสาน 1.28 แสนล้านบาท ฉาวสุดในรอบ 10 ปีของการรถไฟ แนะรัฐบาล หากสังคมคลางแคลงใจ ยังไม่เปิดเผย ไม่ทำอะไรตรงไปมา อย่าเพิ่งด่วนสรุปว่าไม่มีการโกง"

องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน(ประเทศไทย) หรือ ACT เปิดเวทีเสวนาออนไลน์ประเด็นร้อน การประมูลรถไฟรางคู่ความโปร่งใสที่ไม่จริงใจ เมื่อวันพฤหสบดีที่ 8 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยมี ดร.สุเมธ องกิตติคุณ ผู้อำนวยการวิจัย ด้านนโยบายการขนส่งและโลจิสติกส์ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI), รศ.ดร.ต่อตระกูล ยมนาค อดีตกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ , ดร.ประจักษ์ ทรัพย์มณี ผู้สังเกตการณ์โครงการรถไฟรางคู่ และ ดร.มานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กร์ต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) เข้าร่วมเสวนา

ดร.สุเมธ องกิตติคุณ



ดร.สุเมธ กล่าวว่า ถ้าดูจากข้อมูลที่เผยแพร่โครงการรถไฟรางคู่สายเหนือ - อีสาน นี้ต้องตอบคำถามสังคมหลายประเด็นทั้งเรื่องการประมูลและรายละเอียดของการประมูล เรื่องไม่โปร่งใสนั้นต้องมีหลักฐานที่ชี้ชัดว่ามีความไม่โปร่งใส แต่ผลที่ออกมาเป็นอย่างไร น่าจะมีข้อข้องใจที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรต้องออกมาชี้แจงเพิ่มเติม



"ข้อมูลเบื้องต้นที่ทราบกันคือราคาประมูลที่ต่ำกว่าราคากลางเพียงแค่เล็กน้อยทำให้เกิดข้อสงสัยขึ้นมา หลายคนพูดถึงข้อมูลว่าการแข่งขันด้านราคาการก่อสร้างเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาความโปร่งใส การแข่งขันด้านราคาเมื่อเปรียบเทียบกับโครงการของการรถไฟในอดีตการประมูลรางคู่สายใต้ มีการแข่งขันที่สูงกว่านี้แล้วราคาที่ได้คือถูกลงพอสมควร แต่พอมาเจอรางคู่สายเหนือกับสายอีสานซึ่งราคาถูกลงเพียงเล็กน้อยหลายคนก็เลยตั้งคำถาม"
ผู้อำนวยการวิจัย TDRI กล่าว


รศ.ดร.ต่อตระกูล ยมนาค

รศ.ดร.ต่อตระกูล กล่าวว่า กฎหมายและรัฐธรรมนูญกำหนดให้โครงการของรัฐทุกโครงการต้องเปิดเผยข้อมูล ต้องรวมถึงข้อมูลที่ประชาชนต้องการทราบไม่ใช่ข้อมูลที่รัฐอยากให้รู้หรือตอบก็ตอบไม่ตรง



"ความสำคัญของการประมูลคือให้ความเป็นธรรม การที่มีสัญญา 5 โครงการและมีบริษัทเข้าประมูล 5 รายพอดี คำตอบคือให้เข้ามาแล้วแต่ไม่มีใครเข้า เขาไม่มายื่นเองจะทำอย่างไร มี 5 งานยื่น 5 รายแล้วไม่มีใครได้ซ้ำ มันไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปได้ที่จะชนะ 5 รายไม่เหมือนกัน การประมูลต้องให้มีการแข่งขัน ที่ประเทศไทยไม่ให้ต่างชาติเข้ามาก็เพราะผู้รับเหมาเป็นกลุ่มผู้มีอิทธิพล"



"การที่นักประมูลชอบมากที่สุดคือการล็อคผู้เข้าแข่งขัน ล็อคกันจนเหลือ 2 รายก็มี สมัยก่อน 2 รายนั้นเป็นญาติพี่น้องกัน ที่อยู่เดียวกันเบอร์โทรศัพท์เดียวกัน แต่ปัจจุบันที่เรียกว่าฮั้วประมูลไม่มีใครเขาทำแล้ว การให้มีคนเข้าแข่งขันเยอะๆเป็นเรื่องที่สำคัญ แต่ในฐานะที่ผมเป็นวิศวกรบริหารโครงการเราก็รู้ว่าถ้าปล่อยให้เข้ามาเสรีเป็นร้อยๆรายไม่ได้ ต้องเป็นผู้มีประสบการณ์พอ ถ้าเรายังปล่อยให้มีแค่ 5-6 บริษัท อีกกี่ปีก็ไม่เกิดความเจริญในบริษัทรับเหมาก่อสร้างในประเทศไทย การประมูลที่ไม่ยุติธรรมทำให้คนรุ่นใหม่ ตั้งใจดีมีวิชาความรู้ มีเทคนิค มีสมองไม่ได้เกิด"

ดร.ประจักษ์ ทรัพย์มณี



ในขณะที่ ดร.ประจักษ์ กล่าวว่า ในฐานะผู้สังเกตการณ์ต้องตอบว่าโปร่งใสภายใต้กรอบนโยบายที่ทางกระทรวงจัดทำมาให้การรถไฟแห่งประเทศไทยทำ แต่การกำหนดกรอบมีปัญหาทำให้เกิดการตัดไม่ให้มีผู้เข้าร่วมประมูลรายย่อยเข้ามาได้



"คณะผู้สังเกตการณ์ได้แจ้งว่าไม่เห็นพ้องด้วยกับเหตุผลที่ รฟท.เปลี่ยนกติกาการประมูล คือยกเลิกกติกาที่ทางซูเปอร์บอร์ดของการจัดซื้อจัดจ้างทำไว้ตั้งแต่ปี 2560 ว่าให้แยกงานออกเป็นงานย่อยๆ เพื่อให้ผู้ประกอบการรายเล็กขนาดกลางเข้าร่วมได้ แต่ TORนี้ไปรวบงานโยธา ระบบราง และระบบอาณัติสัญญาณเข้าด้วยกันทำให้ผู้ประกอบการขนาดกลางหรือแม้แต่รายใหญ่ก็เข้าร่วมไม่ได้ต้องเฉพาะผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ ซึ่งก็มีอยู่เพียง 5 รายเท่านั้น ทำให้ประเทศไทยถูกผูกขาดอยู่เพียง 5-6 บริษัทใหญ่ๆเท่านั้นเอง อย่างที่ 2 คือที่กระทรวงกำหนดเลยว่า Thai First เพราะเป็นโครงการที่ใช้เงินกู้ภายในประเทศต้องให้บริษัทไทยเท่านั้นเข้าประมูล เราไม่เห็นด้วย กับการกีดกันบริษัทต่างชาติเข้ามาทำให้ไม่มีการถ่ายทอดเทคโนโลยี ไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยน TOR รวบระบบราง ทำให้มีผู้ประมูลเพียง 5 สัญญา"



ดร.ประจักษ์ กล่าวและว่าการกำหนดราคากลางส่วนใหญ่ในโครงการรัฐจะสำรวจเส้นทางและโหวตราคาเพิ่มกำหนดงบประมาณให้สูง โดยไม่มีใครไปดูว่าตรงตามสัญญาที่ระบุหรือไม่ เช่น ระบุว่าบริเวณนี้มีสะพานแต่ถ้าไปดู กลับไม่มีแม่น้ำ เมื่อปฏิบัติจริงๆแล้วเงินจะเหลือ โดยหลักก็คือจะต้องคืนรัฐบาล แต่วิธีการคือมีการเปลี่ยนแปลงแบบก่อสร้าง เช่น บอกว่าประชาชนร้องขอให้ทำสะพาน ทำถนนลอด บางโครงการใช้เงิน 400 ล้านบาทก็มี แค่ทำแบบมาขออนุมัติจากรถไฟ สามารถก่อสร้างได้เลย ปัญหาคือมันคุ้มค่าหรือไม่ มีทางเลือกอื่นหรือไม่



ดร.มานะ นิมิตรมงคล



ด้าน ดร.มานะ กล่าวว่า โครงการนี้ดูเหมือนจะโปร่งใสแต่อยู่ภายใต้กรอบของนักการเมือง กรอบกระทรวงคมนาคม แล้วหน่วยงานต้องปฏิบัติ เมื่อการรถไฟทำก็บอกว่าเป็นไปตามกรอบกระทรวง โปร่งใส ถูกต้อง ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมาโครงการนี้เป็นโครงการที่อื้อฉาวและถูกตั้งคำถามมากที่สุดของการรถไฟ ทำไมสังคมจึงตั้งคำถามมาก กติกาในการประมูล ข้อมูลที่ให้สังคมรับรู้เกิดอะไรขึ้น



"การที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี บอกว่าจะทำให้ประเทศไทยปลอดคอร์รัปชัน ทำให้การปลอดคอร์รัปชันเป็นวาระแห่งชาติ เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราเห็น การจัดซื้อจัดจ้าง ให้สิทธิสัมปทาน ต้องใช้ข้อตกลงคุณธรรม เดือนที่แล้วยังเห็นรัฐบาลถอดร่าง พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร หลังจากที่ภาคประชาชนชี้ว่าไม่ถูกต้องหลายๆอย่างและขัดต่อการปฏิรูปประเทศที่วางแผนไว้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรรมนูญมาตรา 144 และ 185 นี่เป็นการหยุดการคอร์รัปชันที่จะเกิดขึ้น เพราะฉะนั้นหากยังเป็นประเด็นใหญ่ที่สังคมคลางแคลงใจ คนข้องใจว่ายังไม่เปิดเผย ไม่ทำอะไรตรงไปมา อย่าเพิ่งด่วนสรุปว่าไม่มีการโกง"



"โครงการใหญ่ขนาดนี้ไม่ใช่แค่คนไทยเห็น ต่างชาติก็เห็น ถ้าคอร์รัปชันขนาดใหญ่ เสียงประชาชนทักท้วงกันมากมาย สื่อมวลชนทักท้วง นักวิชาการทักท้วงใครๆก็พูดแล้วยังปล่อยเลยตามเลยให้ออกไปได้ มันจะทำให้ต่างชาติหรือนักลงทุนใหญ่เขาตั้งข้อสงสัยว่ามีประเทศไทยมีมาตรฐานการลงทุนอย่างไร ถ้าเข้ามาจะเชื่อมั่นเรื่องความโปร่งใสตรงไปตรงมาได้อย่างไร



สิ่งที่ตามมาคือเสียภาพลักษณ์ของประเทศ เมื่อจัดอันดับประเทศที่คอร์รัปชันระดับโลกแล้วอันดับตกก็อย่าไปร้องแรกแหกกระเชอเพราะสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่รัฐกระทำ เราไม่อยากให้ประชาชนเสื่อมศรัทธาต่อรัฐบาล
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 45337
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 12/07/2021 2:33 pm    Post subject: Reply with quote

สศช.เบรกลงทุนทางคู่ คุมงบหนุนแก้พิษโควิด
กรุงเทพธุรกิจ 12 กรกฎาคม 2564

การรถไฟฯ รับทางคู่เฟสสองยังติดหล่ม หลัง สศช.คุมเข้มใช้งบลงทุนเซฟเงินช่วยโควิด-19 พร้อมสั่งทบทวนทางคู่หาดใหญ่ – ปาดังเบซาร์ ชี้ระบบไฟฟ้าไม่หนุนไทย
รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 โดยระบุว่า ขณะนี้โครงการลงทุนรถไฟทางคู่อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ซึ่งทาง สศช.ย้ำว่าในระยะสั้นนี้จะรับพิจารณาเฉพาะโครงการรถไฟทางคู่ที่เหมาะสม และจำเป็นเท่านั้น มีเพียงโครงการเดียวที่เข้าข่ายพิจารณา คือ โครงการรถไฟทางคู่ เส้นทางขอนแก่น-หนองคาย ส่วนเส้นทางอื่นๆ ขอชะลอโครงการไปก่อนจากปัญหาภาระงบประมาณของรัฐบาลในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

ส่วนโครงการทางคู่ เส้นทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ซึ่ง ร.ฟ.ท.จะพัฒนาให้เป็นรถไฟระบบไฟฟ้าเส้นทางแรก เพื่อสนับสนุนเทคโนโลยีการขนส่งรูปแบบใหม่ และรองรับต่อการขนส่งระบบรางเชื่อมต่อกับรถไฟของมาเลเซีย เพื่อส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวระหว่างประเทศให้สะดวกมากขึ้น ซึ่งรถไฟทางคู่สายนี้มีระยะทาง 45 กิโลเมตร (กม.) วงเงินลงทุน 7,864 ล้านบาท ปัจจุบันได้รับความเห็นชอบรายการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมแล้ว ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 2561

โดยขณะนี้อยู่ระหว่างเสนอเรื่องเพื่อขออนุมัติโครงการต่อคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ และเสนอขอความไปยัง สศช. ก่อนเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติโครงการต่อไป โดยล่าสุด สศช.มีความเห็นไม่เห็นด้วยกับโครงการทางคู่ เส้นทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ที่จะพัฒนาเป็นระบบไฟฟ้า โดยให้เหตุผลว่าระบบไฟฟ้าอาจจะเอื้อประโยชน์ให้กับระบบเศรษฐกิจ การค้า การท่องเที่ยวของประเทศมาเลเซียมากกว่าการเอื้อประโยชน์คมนาคมของไทย

“ตอนนี้โครงการทางคู่เฟสสอง ทางสภาพัฒน์ขอชะลอการพิจารณาออกไปก่อน ยกเว้นแต่โครงการสายขอนแก่น – หนองคายที่จะสนับสนุนต่อการขนส่งเชื่อมต่ออีอีซี และประเทศเพื่อนบ้านอย่างลาวและเชื่อมไปจีน”

ส่วนโครงการทางคู่ เส้นทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ สศช.ขอให้ ร.ฟ.ท.ไปทบทวนโครงการใหม่ทั้งหมด โดยถอดระบบไฟฟ้าออก และปรับให้เป็นรถไฟทางคู่เหมือนโครงการอื่นๆ แทนเพื่อให้สนับสนุนการขนส่งของระบบรางไทยมากกว่า ดังนั้นโครงการนี้อาจจะต้องชะลอการนำเสนอโครงการไปก่อน ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะเริ่มดำเนินโครงการได้อีกครั้งเมื่อไหร่ ทำให้โครงการล่าช้าไปจากแผนเดิม ที่ ร.ฟ.ท.ตั้งเป้าว่า จะนำเสนอโครงการให้ ครม. พิจารณาอนุมัติได้ช่วงไตรมาส 3-4 ปีนี้ และผลักดันการประกวดราคาต้นปีหน้า เพื่อเริ่มก่อสร้างกลางปี 2565
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 45337
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 12/07/2021 5:58 pm    Post subject: Reply with quote

รถไฟ แจงหลังคาชานชาลา-สะพานลอยคนข้าม สถานีรถไฟชุมทางจิระ-ขอนแก่น
นสพ.บ้านเมือง วันจันทร์ ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2564, 14.51 น.

การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ระบุว่า ตามที่มีประชาชน อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา ร้องเรียนปัญหาการใช้บริการสถานีรถไฟ โครงการรถไฟทางคู่ชุมทางจิระ-ขอนแก่น เนื่องจากการก่อสร้างหลังคาชานชาลาผู้โดยสารพักคอยมีความสูงและความลาดเอียงที่ไม่เหมาะสม เมื่อฝนตกหนักหรือแดดส่องชาวบ้านไม่สามารถนั่งพักคอยได้ ขณะที่สะพานลอยก็มีความสูงชันมากเกินไป ผู้สูงอายุและผู้พิการไม่สามารถมาใช้บริการรถไฟได้

การรถไฟฯขอเรียนชี้แจง ดังนี้ โครงการรถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางถนนจิระฯ ได้ก่อสร้างหลังคาชานชาลา สะพานลอย และสิ่งอำนวยความสะดวกในสถานี ตามที่ผู้ออกแบบได้ออกแบบไว้ในขั้นตอนการศึกษาออกแบบรายละเอียดโครงการฯ โดยสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เป็นผู้ศึกษา ซึ่งโดยหลักการแล้วโครงสร้างหลังคาคลุมชานชาลาตามรูปแบบที่ใช้โดยทั่วไปของ ร.ฟ.ท.จะต้องมีความสูงและมีระยะห่างจากรางรถไฟเพียงพอเพื่อให้พ้นจากเขตโครงสร้าง ซึ่งจะทำให้เกิดความปลอดภัยในการเดินรถ และเนื่องจากรถของ ร.ฟ.ท.เป็นระบบรถดีเซลไฟฟ้าซึ่งมีการปลดปล่อยเขม่าควัน การออกแบบจึงจะต้องคำนึงถึงเรื่องการระบายอากาศจากเขม่าและควันรถด้วย

สำหรับประเด็นสะพานลอยคนข้ามนั้น เนื่องจากสถานีเป็นชานชาลาสูงจึงมีความจำเป็นต้องสร้างสะพานลอยคนข้ามเพื่ออำนวยความสะดวกในการข้ามระหว่างชานชาลา และในการออกแบบความสูงของสะพานลอยคนข้ามในโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่จำเป็นต้องออกแบบให้สูงจากระดับสันรางเพียงพอเพื่อให้ได้ระยะปลอดภัยที่ต้องการ ซึ่งเป็นความสูงที่เป็นมาตรฐานเผื่อไว้สำหรับการปรับเปลี่ยนเป็นระบบรถไฟฟ้าที่จะต้องมีการติดตั้งสายส่งไฟฟ้าเหนือตัวรถในอนาคต

ทั้งนี้ เนื่องจากโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วง ชุมทางถนนจิระฯ ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นลงแล้วในการปรับปรุงให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มเติม เช่น ที่พักผู้โดยสารที่สามารถกันแดดกันฝนได้บริเวณชาลา ตามที่ประชาชนร้องขอนั้น การรถไฟฯ สามารถพิจารณาดำเนินการได้ในภายหลัง และเนื่องจากปัจจุบันการรถไฟฯ อยู่ระหว่างการดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะที่ 1 ในเส้นทางอื่นๆ อีกด้วย จึงควรจะต้องพิจารณากำหนดรูปแบบสิ่งอำนวยความสะดวกดังกล่าวให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน

การรถไฟฯจะรับข้อเสนอแนะดังกล่าวไว้พิจารณาดำเนินการให้มีความเหมาะสมสอดคล้องตามความต้องการของประชาชนผู้ใช้บริการต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42903
Location: NECTEC

PostPosted: 12/07/2021 6:00 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
สศช.เบรกลงทุนทางคู่ คุมงบหนุนแก้พิษโควิด
กรุงเทพธุรกิจ 12 กรกฎาคม 2564


“สศช.”สั่งโละระบบไฟฟ้าทางคู่หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์
*ใช้ไฟฟ้าขับเคลื่อนเอื้อมาเลเซียมากกว่าไทย
*สายใหม่ได้ไปต่อแค่ "ขอนแก่น-หนองคาย"
*รัฐบาลไม่มีเงินลงทุนต้องใช้แก้ปัญหาโควิด
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/2950033235218175
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 45337
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 13/07/2021 3:39 pm    Post subject: Reply with quote

รฟท.พร้อมรับฟังข้อเสนอแนะกรณีการก่อสร้างหลังคาชานชาลาผู้โดยสารพักคอยลาดเอียงที่ไม่เหมาะสม-สะพานลอยก็มีความสูงชันมากเกินไป เพื่อปรับปรุงสถานีรถไฟชุมทางจิระ-ขอนแก่น
13 ก.ค. 2564

ตามที่มีประชาชน อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา ร้องเรียนปัญหาการใช้บริการสถานีรถไฟ โครงการรถไฟทางคู่ชุมทางจิระ-ขอนแก่น เนื่องจากการก่อสร้างหลังคาชานชาลาผู้โดยสารพักคอยมีความสูงและความลาดเอียงที่ไม่เหมาะสม เมื่อฝนตกหนักหรือแดดส่องชาวบ้านไม่สามารถนั่งพักคอยได้ ขณะที่สะพานลอยก็มีความสูงชันมากเกินไป ผู้สูงอายุและผู้พิการไม่สามารถมาใช้บริการรถไฟได้นั้น

นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ชี้แจงว่า โครงการรถไฟทางคู่ช่วงชุมทางจิระ-ขอนแก่น ได้ก่อสร้างหลังคาชานชาลา สะพานลอยและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในสถานี ตามที่ผู้ออกแบบได้ออกแบบไว้ โดยสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เป็นผู้ศึกษา ซึ่งโครงสร้างหลังคาคลุมชานชาลาที่ใช้ทั่วไปของการรถไฟฯ ต้องมีความสูงและมีระยะห่างจากรางรถไฟเพียงพอเพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการเดินรถและเนื่องจากหัวรถจักรเป็นระบบดีเซลไฟฟ้าซึ่งมีการปล่อยเขม่าควัน การออกแบบจึงต้องคำนึงถึงการระบายอากาศจากเขม่าและควันรถ

ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า เนื่องจากสถานีเป็นชานชาลาสูงจึงจำเป็นต้องสร้างสะพานลอยคนข้ามเพื่อสะดวกในการข้ามระหว่างชานชาลาและการออกแบบความสูงของสะพานลอยจำเป็นต้องออกแบบให้สูงจากระดับสันรางเพียงพอเพื่อให้ได้ระยะปลอดภัยที่ต้องการ ซึ่งเป็นความสูงที่เป็นมาตรฐานเผื่อไว้สำหรับการปรับเปลี่ยนเป็นระบบรถไฟฟ้าที่จะต้องติดตั้งสายส่งไฟฟ้าเหนือตัวรถในอนาคต

ทั้งนี้ โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น ได้เสร็จสิ้นลงแล้ว ส่วนการปรับปรุงให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มเติม เช่น ที่พักผู้โดยสารที่สามารถกันแดดกันฝนได้บริเวณชาลาตามที่ประชาชนร้องขอนั้น การรถไฟฯ สามารถดำเนินการได้ในภายหลังและเนื่องจากปัจจุบันการรถไฟฯ อยู่ระหว่างการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะที่ 1 ในเส้นทางอื่นๆ ด้วย จึงควรพิจารณากำหนดรูปแบบสิ่งอำนวยความสะดวกดังกล่าวให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน

การรถไฟฯ จะรับข้อเสนอแนะดังกล่าวไว้พิจารณาดำเนินการให้มีความเหมาะสมสอดคล้องตามความต้องการของประชาชนผู้ใช้บริการต่อไป

ข้อมูลข่าวและที่มา
ผู้สื่อข่าว : วีระเดช คชเสนีย์ / สนข.
ผู้เรียบเรียง : วีระเดช คชเสนีย์ / สนข.
แหล่งที่มา : หน่วยงานสำนักข่าว
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 295, 296, 297 ... 393, 394, 395  Next
Page 296 of 395

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©