RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311551
ทั่วไป:13347315
ทั้งหมด:13658866
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 397, 398, 399, 400  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43048
Location: NECTEC

PostPosted: 13/06/2024 7:15 pm    Post subject: Reply with quote

ตัวอย่างสถานีรถไฟอีสานใต้ (สถานียกระดับ)
รถไฟทางคู่สายอีสาน
.
รถไฟทางคู่ ชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี ระยะทาง 308 กม. วงเงิน 36,683 ล้านบาท รายงาน EIA ได้รับความเห็นชอบแล้วเมื่อวันที่ 20 ก.ย. 2563
.
รายละเอียดโครงการทางคู่ สายอิสานใต้ ชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี โครงการทางคู่ ชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี เป็นโครงการทางคู่ซึ่งสร้างบนเขตทางรถไฟเดิม ของทางรถไฟเดิม และพัฒนาโครงการตามแผนแม่บทการพัฒนาระบบรางปี 2561
.
ระยะทางของโครงการ 308 กิโลเมตร
ขนาดราง 1 เมตร ออกแบบด้วยมาตรฐานทางคู่ใหม่คือ ความเร็วสูงสุด 160 กม/ชม. และความเร็วผ่านพื้นที่เมือง 120 กม/ชม.
.
ผ่านพื้นที่ 5 จังหวัด คือ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์
ศรีสะเกษ อุบลราชธานี มีสถานีรถไฟทั้งหมด 34 สถานีได้แก่ สถานีบุรีรัมย์ สถานีสุรินทร์ สถานีศรีสะเกษ และสถานีอุบลราชธานี (วารินชำราบ)
.
จะมีสถานีรถไฟยกระดับพร้อมกับทางยกระดับผ่านพื้นที่ชั้นในของเมือง 3 สถานี คือ บุรีรัมย์ สุรินทร์ และศรีสะเกษ
.
รูปแบบสถานียกระดับ (ตัวอย่างตามภาพด้านบน)
จะเป็นสถานี 2 ชั้น คล้ายกับสถานีรถไฟขอนแก่น พร้อมกับการทำบันไดเลื่อน และลิฟต์ สำหรับผู้โดยสาร และสาธารณูปโภค พร้อมสำหรับผู้โดยสาร
ความสูงของชานชาลาชั้น 2
.
มีสถานีขนถ่ายสินค้า (CY) 4 แห่งคือ
บ้านตะโก (บุรีรัมย์) บุฤาษี (สุรินทร์) หนองแวง (ศรีสะเกษ) และบุ่งหวาย (อุบลราชธานี)
.
ทางวิ่งยกระดับในช่วงเขตเมืองชั้นใน ที่รถไฟผ่านกลางเมือง คือ บุรีรัมย์ สุรินทร์ และศรีสะเกษ ระยะประมาณ 5 กิโลเมตร
.
ในโครงการจะทำให้เป็นทางรถไฟระบบปิดเพื่อความปลอดภัยและเร่งความเร็วได้เต็มที่ จึงต้องทำการแก้ไขปัจจุบันจุดตัดระดับดินทั้งหมดที่ตัดผ่านโครงการ 131 แห่ง เป็น 4 รูปแบบคือ ปิดจุดตัด 4 แห่ง ให้ใช้จุดตัดข้างเคียง รูปสะพานถนน overpass แนวตรง 1 แห่ง รูปแบบสะพานถนน ocerpass แบบ U-Turn เกือกม้า 15 แห่ง ก่อสร้างท่อลอด 100 แห่ง และทางรถไฟยกระดับ 3 แห่ง
.
ในอนาคต จะมีการขยายปลายทางจากสถานีอุบลราชธานี ไปยังด่านช่องเม็ก
์Note: ในอนาคต จะมีการขยายปลายทางจากสถานีอุบลราชธานี ไปยังด่านช่องเม็ก => เริ่มที่สถานีบุ่งหวาย แล้ววกทางใต้ ก่อนอ้อมอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิรินธร กว่าจะไปถึงช่องเม็ก ดูๆ ไปแล้ว รอให้ทางฝั่งลาวไปทางปากเซก่อนดีกว่า
https://www.facebook.com/CountrysideBuriramstyle/posts/1005342761474582
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43048
Location: NECTEC

PostPosted: 14/06/2024 1:54 pm    Post subject: Reply with quote

ยันไม่ทับสะพานสีมาธานี สร้างทางรถไฟลอดใต้สะพานแทน #รถไฟความเร็วสูง #ประเทศไทย #โคราช

Kowitchanel47

️ซึ่งตามแบบเดิมนั้นจะเป็นการยกระดับโดยใช้คันดินแต่ได้มีการกลุ่มชาวบ้านในพื้นที่ได้ออกมาเรียกร้องให้เปลี่ยนแบบเนื่องจากแบบคันดินนั้นจะเป็นการแบ่งเมืองออกเป็น 2 ฝั่ง ทำให้การเดินทางสัญจรนั้นค่อนข้างลำบาก และปัญหาที่สำคัญก็คือจะเกิดปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ เพราะตั้งแต่ตำบลโคกกรวดตลอดจนถึงตำบลบ้านใหม่นั้นเกิดปัญหาน้ำท่วมอยู่เป็นประจำทุกปีโดยเฉพาะในพื้นที่ตำบลบ้านใหม่ ซึ่งหลังจากมีการประท้วงคัดค้านทางการรถไฟได้มีการประชุมหารือในการเปลี่ยนจากคันดินเป็นตอม่อแล้วโดยเพิ่มงบประมาณไปอีกกว่า 7 พันล้านบาท เพื่อสร้างเป็นตอม่อ
️ซึ่งเป็นปัญหายาวนานมากว่า 9 ปีแล้ว โดยรูปแบบปัจจุบันที่มีการนำเสนอจากการรถไฟแห่งประเทศไทยนั้นจะเป็นรูปแบบของการยกระดับรถไฟทางคู่แต่ไม่มีการทุบสะพานข้ามทางรถไฟสีมาธานี แต่ทางกลุ่มตัวแทนประชาชนได้มีความต้องการที่จะให้ทางการรถไฟนั้นทุบสะพานข้ามทางรถไฟสีมาธานีทิ้ง เพื่อความสะดวกในการเดินทางของประชาชนใน
️ภายหลังการประชุม นายชัยวัฒน์ วงศ์เบญจรัตน์ คณะกรรมการที่ปรึกษาหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา ในฐานะตัวแทนภาคเอกชนได้ออกมาเปิดเผยว่า ในฐานะที่เป็นตัวแทนภาคเอกชนที่ได้มีการส่วนร่วมในการประชุมโครงการรถไฟความเร็วสูงและรถไฟทางคู่มาโดยตลอดนั้น ในมุมมองส่วนตัวตนมีความคิดเห็นว่าควรจะทุบสะพานข้ามทางรถไฟสีมาธานีทิ้ง เพราะว่าประชาชนจะได้ประโยชน์จากการเดินทางที่สะดวกยิ่งขึ้น เพราะในรูปแบบเดิมตั้งแต่มีการคุยกันตั้งแต่ช่วงปี 2562 นั้น จะเป็นการทุบสะพานทิ้งและมีการสร้างอุโมงค์ทางลอดทางรถไฟ ซึ่งถ้าสร้างตามแบบที่คุยกันไว้นั้นชาวโคราชจะได้ประโยชน์ในการเดินทางสะดวกยิ่งขึ้นเพราะไม่จำเป็นต้องไปขึ้นสะพานเกือกม้ากลับรถถ้าหากไม่ทุบสะพานทิ้งก็จำเป็นต้องมีสะพานกลับรถ อีกทั้งยังเป็นการสอดรับกับโครงการสร้างอุโมงค์ทางลอดอีก 2 โครงการที่กำลังก่อสร้างอยู่ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งประชาชนชาวโคราชมีแต่ได้ประโยชน์ถ้าทางการรถไฟฯนั้นสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบโครงการ
️สำหรับข้อดีของการไม่ทุบสะพาน และทำทางรถไฟยกระดับลอดใต้สะพานสีมาธานีนั้น จะทำให้ทางรถไฟไม่แบ่งแยกชุมชน การสัญจรของประชาชนไปได้เหมือนเดิมโดยสะดวก ไม่มีผลกระทบต่อการจราจรของทางหลวงจากการรื้อสะพาน อีกทั้งยังแก้ปัญหาจุดตัดเสมอระดับ ทางลักผ่านได้ทุกจุด โดยไม่ต้องก่อสร้างสะพานลอย อุโมงค์ และจุดกลับรถรวม 9 จุด ไม่กีดขวางทางระบายน้ำด้วย อีกทั้งสะพานยังมีสภาพดีไม่ทรุดโทรม แต่ข้อเสียทำให้ค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างทางรถไฟ จากเดิมระดับดิน เป็นทางยกระดับเพิ่มสูงขึ้น
https://www.youtube.com/watch?v=FU1NMOspTrg

Wisarut wrote:
Mongwin wrote:
“คมนาคม” ยันไม่ทุบ “สะพานสีมาธานี” ลุยสร้างทางคู่ สั่งทำกราฟิกแจงชาวบ้าน!
เดลินิวส์ วันอังคาร ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2567 เวลา 18:30 น.
นวัตกรรมขนส่ง


“สุรพงษ์”ถก 2 รมต.เพื่อไทยสายโคราช เคลียร์ชัด ไม่ทุบสะพานสีมาธานี ชี้สร้างรถไฟลอดสะพาน ทางเลือกดีสุด
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันอังคาร ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2567 เวลา 21:19 น.
ปรับปรุง: วันอังคาร ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2567 เวลา 21:19 น.

“สุรพงษ์”ถก2 รมต.เพื่อไทย“ประเสริฐ จันทรรวงทอง”และ”สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศ”พร้อมผู้ว่าฯ โคราชและตัวแทนภาครัฐ-เอกชนหาข้อสรุปก่อสร้างรถไฟทางคู่ ยันไม่ทุบสะพานสีมาธานี ข้อดีมากกว่าเสีย พร้อมเปิด 2 แนวทางรถไฟยกเหนือหรือลอดใต้สะพาน สั่งรฟท.ทำข้อมูลทำความเข้าใจประชาชน

https://www.youtube.com/watch?v=3bK6cSTuiaA

ไม่ทุบสะพานสีมาธานี! ‘คมนาคม’ เคาะแล้ว สร้างรถไฟทางคู่ยกระดับผ่าเมืองโคราช
https://www.youtube.com/watch?v=erQhnUtDBTc
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43048
Location: NECTEC

PostPosted: 14/06/2024 4:22 pm    Post subject: Reply with quote

#รถไฟทางคู่ยกระดับ สอบถามคนโคราชถ้ายกระดับไปเลยแบบนี้เห็นด้วยหรือไม่ครับไม่ต้องทุบสะพานสีมาธานีด้วย แต่อาจจะต้องมีการคุยเรื่องการปรับงบประมาณที่เพิ่มขึ้นพอสมควรกับเรื่องการย้ายสถานีรถไฟไปสถานีจิระ ด้านล่างเป็นข้อคิดเห็นของคุณชัยวัฒน์ วงศ์เบญจรัตน์ .... ถ้าเป็นตามแบบจริง..ก็ยินดีกับคนโคราชนะ…เพราะแบบนี้ได้แก้ประเด็นที่ติดค้างกันไว้มานาน เพียงแต่ ต้องดูความเป็นไปได้และรายละเอียดเพิ่มเติมกันอีกนิด…โดยมีความเห็นต่อเนื่องดังนี้..
1. แบบยกระดับข้ามทั้ง 2 สะพาน เป็นแนวคิดกันมาตั้งแต่รู้ว่าจะมีทางคู่ผ่านเมือง แต่ รฟท. แจ้งมาตลอดว่า ทำได้ยาก ด้วยข้อจำกัด ทั้งความชัน / แบบสถานี / มูลค่าการก่อสร้าง / ต้นทุนการขนส่งที่รถไฟทางคู่ต้องไต่ระดับ ฯลฯ วันนี้ ถ้าได้ตามแบบจริง ก็ขอขอบคุณ และ ถือว่าเป็นโคราชโมเดล ที่การลงทุนภาครัฐฯ ควรมองการเจริญเติบโตระยะยาวของเมือง มากกว่าการมองระยะสั้น แค่ก่อสร้างให้เสร็จ ภายใต้รูปแบบที่ตนเองสะดวกและง่าย
2. คงต้อง ดูเพิ่มเติมเล็กน้อย ว่า จุดที่จะเริ่มยกระดับขึ้นจนข้ามสะพานเลี่ยงเมือง เริ่มต้นจุดใด ใช้ระยะทางเท่าใดก่อนถึงสะพานเลี่ยงเมือง ถ้ามีผลกระทบไม่มาก ก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ดี ผลกระทบตอนไต่ระดับ ถ้ามีบ้าง ก็ช่วยศึกษาเตรียมแก้ปัญหาให้ชุมชนด้วย
3. เมื่อ ยกระดับข้ามสะพานสีมาธานีแล้ว การลดระดับลงเพื่อเข้าสถานีนครราชสีมา ทำได้หรือไม่ ต้องปรับแก้แบบสถานีนครราชสีมาหรือไม่ อย่างไร หรือเลือกใช้วิธี ข้ามสถานีนครราชสีมา เพื่อ เข้าสถานีจิระแทน ประเด็นนี้ ผู้เกี่ยวข้องทางโคราช จะได้เตรียมแผนการ เชื่อมต่อสถานีความเร็วสูงและสถานีทางคู่ในอนาคต 3. มองไกล ไปถึง ทางคู่ ตอน อุบลฯ- สถานีจิระ ถ้าทางคู่ตอน มาบกะเบา - จิระ ปรับตามแบบในภาพ ทางคู่ ตอน อุบลฯ-จิระ ช่วงผ่านเมือง แถว สะพานหัวทะเล มาเข้าสถานีจิระ ก็ควรเอาโมเดลนี้ไปคิดล่วงหน้า จะได้ไม่ช้า และถกเถียงกันแบบที่ผ่านมา แยกปัญจดารา แยกเบญจรงค์ บริเวณสะพานหัวทะเล จะได้ ถูกคำนึงถึงก่อนออกแบบตั้งแต่แรก นอกนั้น เรื่อง ความสวยงามของเมือง / การเติบโตเศรษฐกิจของเมือง / การไม่สร้างผลกระทบเดือดร้อนซ้ำซากจากการมีสะพานสีมาธานีและสะพานหัวทะเล จะคงสถานะเดิม ไม่เลวร้ายไปกว่าเดิม / การระบายน้ำของเมืองมีแนวทางสดใสเมื่อไม่มีรถไฟมาขวาง / Local Road เส้นใหม่ผ่านเมืองเชื่อมฝั่งหัวทะเลและมิตรภาพโคกกรวด ก็มีความเป็นไปได้ ….ทุกอย่างพูดซ้ำมาเป็นร้อยครั้ง…ยังมีรายละเอียดอีกมาก กว่าจะเดินมาถึงจุดนี้ เอาเป็นว่า…ถ้ามองไกล มองระยะยาว จุดนี้ ควรเกิด ก่อนปี 2560 ป่านนี้ การขนคน การขนสินค้า ต้นทุนประชาชน ต้นทุนผู้ประกอบการ เกิดมูลค่าในทางบวกสูงมากกว่า การลงทุนภาครัฐฯ ไปแล้ว
https://www.facebook.com/KoratForumSkyscrapercity/posts/768108702152664


Wisarut wrote:
ยันไม่ทับสะพานสีมาธานี สร้างทางรถไฟลอดใต้สะพานแทน #รถไฟความเร็วสูง #ประเทศไทย #โคราช


https://www.youtube.com/watch?v=FU1NMOspTrg

Wisarut wrote:
Mongwin wrote:
“คมนาคม” ยันไม่ทุบ “สะพานสีมาธานี” ลุยสร้างทางคู่ สั่งทำกราฟิกแจงชาวบ้าน!
เดลินิวส์ วันอังคาร ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2567 เวลา 18:30 น.
นวัตกรรมขนส่ง


“สุรพงษ์”ถก 2 รมต.เพื่อไทยสายโคราช เคลียร์ชัด ไม่ทุบสะพานสีมาธานี ชี้สร้างรถไฟลอดสะพาน ทางเลือกดีสุด
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันอังคาร ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2567 เวลา 21:19 น.
ปรับปรุง: วันอังคาร ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2567 เวลา 21:19 น.

“สุรพงษ์”ถก2 รมต.เพื่อไทย“ประเสริฐ จันทรรวงทอง”และ”สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศ”พร้อมผู้ว่าฯ โคราชและตัวแทนภาครัฐ-เอกชนหาข้อสรุปก่อสร้างรถไฟทางคู่ ยันไม่ทุบสะพานสีมาธานี ข้อดีมากกว่าเสีย พร้อมเปิด 2 แนวทางรถไฟยกเหนือหรือลอดใต้สะพาน สั่งรฟท.ทำข้อมูลทำความเข้าใจประชาชน

https://www.youtube.com/watch?v=3bK6cSTuiaA

ไม่ทุบสะพานสีมาธานี! ‘คมนาคม’ เคาะแล้ว สร้างรถไฟทางคู่ยกระดับผ่าเมืองโคราช
https://www.youtube.com/watch?v=erQhnUtDBTc
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 45628
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 14/06/2024 4:37 pm    Post subject: Reply with quote

“สุรพงษ์” นั่งรถไฟท่องเที่ยว SRT ROYAL BLOSSOM เร่งสปีด "ทางคู่นครปฐม – ชุมพร"
ฐานเศรษฐกิจ
14 มิ.ย. 2567 | 16:17 น.

“สุรพงษ์” ลงพื้นที่ติดตามแผนเปิดเดินรถไฟทางคู่ ช่วงนครปฐม – ชุมพร พร้อมนั่งรถไฟขบวนพิเศษท่องเที่ยว SRT ROYAL BLOSSOM สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ - สถานีรถไฟหัวหิน
นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ตนได้เดินทางโดยรถไฟขบวนพิเศษท่องเที่ยว SRT ROYAL BLOSSOM จากสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ - สถานีรถไฟหัวหิน ในวันที่ 14 มิถุนายน 2567 เพื่อติดตามความคืบหน้าการเปิดการเดินรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 ระหว่างสถานีนครปฐม - คูบัว การก่อสร้างทางคู่ สัญญาที่ 1 ช่วงนครปฐม – หนองปลาไหล และเยี่ยมชมสถานีรถไฟหัวหิน

“หลังจากที่ได้มอบนโยบายให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ครั้งแรกเมื่อเดือนตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา ให้ดำเนินนำเทคโนโลยี นวัตกรรมที่ทันสมัย มาใช้กับการดำเนินภารกิจของหน่วยงานอย่างสร้างสรรค์ ให้เป็นองค์กรที่ทันสมัย เพื่อให้ประชาชนเกิดประโยชน์สูงสุด และเป็นฟันเฟืองหลักในการพัฒนาระบบขนส่งทางรางให้สามารถแข่งขันกับนานาประเทศได้ เป้าหมายสำคัญจะต้องทำให้ รฟท. กลับมาเป็นองค์กรที่มีความเข้มแข็ง สามารถขับเคลื่อนระบบการขนส่งทางรางของประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

ขณะเดียวกัน ให้ รฟท. เพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการแก่ประชาชนไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวทางรถไฟ สนับสนุนชุมชนท้องถิ่นในเส้นทางท่องเที่ยวให้สามารถจำหน่ายสินค้าของที่ระลึกกับนักท่องเที่ยว เป็นการสร้างงานสร้างอาชีพอย่างยั่งยืน และได้เร่งรัดดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ และรถไฟสายใหม่ทั่วประเทศให้แล้วเสร็จตามแผนงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพระบบการขนส่งทางรางให้เป็นระบบขนส่งหลักของประเทศ ที่มีประสิทธิภาพ สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และการขนส่งสินค้าเชื่อมโยงทุกภูมิภาค รวมถึงมีส่วนช่วยสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวของประเทศด้วย

นอกจากนี้เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2566 รฟท. ได้เปิดให้บริการรถไฟทางคู่สายใต้ ช่วงนครปฐม - ชุมพร ระหว่างสถานีบ้านคูบัว จังหวัดราชบุรี ถึงสถานีสะพลี จังหวัดชุมพร ระยะทาง 347.4 กิโลเมตร

ล่าสุดเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา รฟท. ได้เปิดใช้งานรถไฟทางคู่สายใต้ เพิ่มอีก 72.6 กิโลเมตร ระหว่างสถานีนครปฐม - บ้านคูบัว ระยะทาง 57 กิโลเมตร และสถานีสะพลี - ชุมพร ระยะทาง 15.6 กิโลเมตร ทำให้ รฟท. สามารถเปิดใช้รถไฟทางคู่สายใต้ ช่วงนครปฐม - ชุมพร ได้ตลอดเส้นทาง รวมระยะทางทั้งสิ้น 420 กิโลเมตร ซึ่งจะช่วยลดระยะเวลาเดินทาง เพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งด้วยระบบรถไฟทางคู่ที่สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย ตรงต่อเวลา สามารถเชื่อมต่อการขนส่งและเส้นทางท่องเที่ยว เพิ่มขีดความสามารถทางเศรษฐกิจของพื้นที่และประเทศได้เป็นอย่างดี


Suraphong Inspects Nakhon Pathom - Chumphon Double Track and Promotes Rail Tourism on SRT Royal Blossom Train

Date: June 14, 2024 | 4:17 PM

Deputy Minister of Transport, Suraphong Piyachote, traveled on the SRT Royal Blossom special tourist train from Bangkok to Hua Hin on June 14, 2024. The purpose of his trip was to inspect the progress of the Nakhon Pathom - Chumphon double-track railway project, particularly Phase 2 between Nakhon Pathom and Ku Bua Station, and the construction of Contract 1 between Nakhon Pathom and Nong Pla Lai. He also visited Hua Hin Railway Station.

Suraphong highlighted the importance of implementing modern technology and innovation in the State Railway of Thailand (SRT) to improve the rail transport system's efficiency and competitiveness. He emphasized the need to return SRT to a strong organization capable of driving the country's rail transportation efficiently.

The Deputy Minister urged SRT to enhance public services by promoting rail tourism and supporting local communities along tourist routes. He also stressed the importance of completing double-track railway and new train line projects nationwide to improve the efficiency and safety of the rail transport system.

On December 15, 2023, SRT opened the southern double-track train service between Ban Khu Bua Station in Ratchaburi Province and Saphli Station in Chumphon Province, covering a distance of 347.4 kilometers.

Recently, on June 4, 2024, SRT opened an additional 72.6 kilometers of the southern double-track line, enabling the full opening of the Nakhon Pathom - Chumphon route spanning 420 kilometers. This development is expected to reduce travel time, increase transportation efficiency, connect transportation and tourist routes, and boost the economic potential of the region and the country.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43048
Location: NECTEC

PostPosted: 14/06/2024 7:27 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
“สุรพงษ์” นั่งรถไฟท่องเที่ยว SRT ROYAL BLOSSOM เร่งสปีด "ทางคู่นครปฐม – ชุมพร"
ฐานเศรษฐกิจ
14 มิ.ย. 2567 | 16:17 น.


นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ร่วมคณะนายกรัฐมนตรี เยี่ยมชมสถานีรถไฟหัวหิน และขบวนรถพิเศษท่องเที่ยว SRT Royal Blossom ส่งเสริมศักยภาพการเดินทางและการท่องเที่ยวภายในประเทศตามนโยบายของรัฐบาล
นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ร่วมคณะนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เยี่ยมชมสถานีรถไฟหัวหิน และขบวนรถพิเศษท่องเที่ยว SRT Royal Blossom ส่งเสริมศักยภาพการเดินทางและการท่องเที่ยวภายในประเทศ สอดรับกับนโยบายรัฐบาล IGNITE TOURSIM THAILAND เชื่อมโยงทางการท่องเที่ยวจากเมืองหลักไปสู่เมืองน่าเที่ยว นำไปสู่การกระจายรายได้อย่างทั่วถึง และช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างยั่งยืน โดยมี นางสาวณภัทรา กมลรักษา เลขานุการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบกและประธานกรรมการรถไฟแห่งประเทศไทย นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง ร่วมชมขบวนรถ ในวันที่ 14 มิถุนายน 2567 ณ สถานีรถไฟหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ กล่าวว่า ตามที่นายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายให้กระทรวงคมนาคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปจัดทำแผนรองรับนักท่องเที่ยวในช่วงฤดูท่องเที่ยวไตรมาส 4 ของปี 2567 ตนจึงได้มอบหมายให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จัดทำแผนท่องเที่ยวเพื่อส่งเสริมศักยภาพการเดินทางและการท่องเที่ยวภายในประเทศตามนโยบายของรัฐบาล โดยล่าสุด รฟท. มีแผนเตรียมเปิดให้บริการเดินรถเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ SRT Royal Blossom ซึ่งเป็นรถที่ รฟท. ได้รับมอบจากบริษัท Hokkaido Railway Company (JR Hokkaido) ประเทศญี่ปุ่น จำนวน 10 คัน นำมาปรับปรุงเป็นรถไฟท่องเที่ยว โดยปัจจุบันปรับปรุงเสร็จสมบูรณ์แล้ว 5 คัน และพร้อมเปิดให้บริการแก่นักท่องเที่ยวช่วงเดือนสิงหาคม 2567 ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจของชุมชน สร้างงาน สร้างอาชีพให้ท้องถิ่นได้อย่างยั่งยืน สำหรับขบวนรถที่นายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมนั้น เป็นขบวนรถพิเศษที่ได้รับการตกแต่งสวยงามรองรับการเดินทางของนักท่องเที่ยวแบบพิเศษ มีตู้ VIP 1 ตู้ ตู้โดยสาร 3 ตู้ และตู้เสบียง 1 ตู้ รองรับนักท่องเที่ยวได้ 176 คน
ในส่วนสถานีรถไฟหัวหินแห่งใหม่ ได้เปิดใช้งานแล้ว เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2566 เป็นสถานียกระดับที่มีทางเดินใต้สถานีแห่งแรกในประเทศไทย อาคารสถานีมีความพร้อมด้านความปลอดภัยสูงสุด มีสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครันครอบคลุมผู้ใช้งานทุกลุ่ม ทั้งบันไดเลื่อน ลิฟต์ขึ้นลง ห้องจำหน่ายตั๋ว ห้องปฐมพยาบาล ห้องพักรอสำหรับพระภิกษุสงฆ์ ห้องให้นมบุตร ห้องรับฝากสิ่งของ ฯลฯ ประชาชนและนักท่องเที่ยวจะได้รับความสะดวกสบาย การออกแบบยังคงเอกลักษณ์ของสถานีเดิมตามสถาปัตยกรรมวิกตอเรีย คำนึงถึงความสวยงาม และการมีส่วนร่วมอนุรักษ์บรรยากาศการท่องเที่ยวในพื้นที่ ปัจจุบันมีการเดินรถ (ไป- กลับ) จำนวน 28 ขบวน เป็นการเดินรถด้วยทางคู่ ทำให้เส้นทางกรุงเทพ - หัวหิน ใช้ระยะเวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง ซึ่งเป็นรูปแบบการเดินทางที่สะดวกปลอดภัย ลดเวลาการเดินทางและเลี่ยงจราจรติดขัดช่วงเทศกาล ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สำคัญให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว สถานีรถไฟหัวหินมีการเชื่อมต่อการเดินทาง (feeder) กับระบบขนส่งสาธารณะอื่น ๆ ที่สะดวก ส่วนอาคารสถานีเดิมซึ่งเปิดใช้งานมา 112 ปี ถูกขึ้นทะเบียนโดยกรมศิลปากร รฟท. ยังคงอนุรักษ์ไว้ให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญทางประวัติศาสตร์ของจังหวัด โดยเปิดให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาถ่ายรูป เช็กอินภายในสถานีรถไฟหัวหิน เปรียบเสมือนแลนด์มาร์กที่สำคัญอีกแห่งของการท่องเที่ยวเมืองหัวหิน
https://www.facebook.com/sod.mot/posts/862607472576282
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 45628
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 15/06/2024 8:12 am    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ร่วมคณะนายกรัฐมนตรี เยี่ยมชมสถานีรถไฟหัวหิน และขบวนรถพิเศษท่องเที่ยว SRT Royal Blossom ส่งเสริมศักยภาพการเดินทางและการท่องเที่ยวภายในประเทศตามนโยบายของรัฐบาล
https://www.facebook.com/sod.mot/posts/862607472576282


"รมช.สุรพงษ์"นำนายกฯทดลองนั่งรถไฟทางคู่นครปฐม-ชุมพร รุกบูมท่องเที่ยวใต้
TOP NEWS
Jun 14, 2024


https://www.youtube.com/watch?v=aXLKw31MBUw

เศรษฐาจ้อทีวีเริ่ม22มิ.ย. อิ๊งค์เพ้อซอฟต์พาวเวอร์
Source - ไทยโพสต์
Saturday, June 15, 2024 05:10

ทำเนียบฯ * "คุยกับเศรษฐา" เลื่อนไปออก 22 มิ.ย.นี้ อ้าง รมต.น้ำอยากให้ออกมาดีที่สุด แต่ช่วงนี้ติดโควิด "เสี่ยนิด" โผล่ตรวจสถานีรถไฟหัวหิน "อุ๊งอิ๊ง" น้ำลายแตกฟองเรื่องซอฟต์พาวเวอร์ โว 20 ล้านครอบครัวอู้ฟู่ในปี 70 "อาหารอีสาน-เพลงอีสาน-หนัง สือไทย" จะผงาดต่อสายตานานาชาติ

เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.2567 มีรายงานข่าวแจ้งจากทำเนียบรัฐบาล ถึงแนวคิดฟื้น รายการนายกฯ พบประชาชน โดยจะเป็นรายการคุยกับเศรษฐา ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ที่เดิมจะออกอากาศรายการเทปแรกในเสาร์ที่ 15 มิ.ย.นี้ เวลา 08.00-09.00 น. นั้น ล่าสุดมีการขยับวันออกอากาศเทปแรก เป็นวันเสาร์ที่ 22 มิ.ย.นี้ เวลา 08.00-08.30 น.แทน เนื่องจากมีการปรับแก้ และจะเป็นการออกอากาศสัป ดาห์ที่ 3 ของทุกเดือน ทั้งนี้ นอกจากมีนายธีรัตถ์ รัตนเสวี อดีตโฆษกประจำสำนักนายกฯ ทำหน้าที่เป็นพิธีกรดำเนินรายการเทปแรกแล้ว ได้วางผู้ดำเนินรายการสลับกันทำหน้าที่ อาทิ หมวย-อริสรา กำธรเจริญ ผู้ประกาศข่าว, อั๋น-ภูวนาท คุนผลิน พิธีกรชื่อดัง เป็นต้น

ต่อมานายเศรษฐากล่าวถึงรายการคุยกับเศรษฐา ที่ได้บันทึกเทปไปแล้วว่า จะ ออกอากาศวันไหนตอนนี้ยังไม่ทราบ ขอให้รอ ส่วนเนื้อหาและรายละเอียดยังไม่ขอเปิดเผย ขอให้ติดตามในรายการ และเข้าใจว่าจะมีการจัดทุกเดือน เดือนละครั้ง หรือตามความจำเป็นที่มี รายละเอียดทั้งหมดขอให้รอ น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกฯ เป็นผู้ดำเนินการในเรื่องดังกล่าว

"แต่เมื่อคืนนี้ น.ส.จิราพรได้ส่งข้อความมาบอกว่าติดโควิด-19 และงานนี้ถือว่าเป็นงานชิ้นแรกของ น.ส.จิราพร เชื่อว่า น.ส.จิราพรอยากทำให้ออกมาดีที่สุด จึงขอให้รอรายละเอียดจากทาง น.ส.จิราพร"

ต่อมาในเวลา 15.10 น. ที่สถานีรถไฟหัวหิน (สถานีใหม่) อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายเศรษฐาลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสถานีรถไฟหัวหิน (สถานีเดิม) เพื่อยกระดับเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ส่งเสริมอัตลักษณ์ของหัวหิน และเยี่ยมชมรับฟังสรุปแผนการเดินรถรองรับการท่องเที่ยว STR Royal Blossom สอดรับกับนโยบายรัฐบาล IGNITE TOURISM THAILAND โดยมีนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม, นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.), นายสมคิด จันทมฤก ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และนักท่องเที่ยวให้การต้อนรับ

นายกฯ ยังได้ทักทายประชาชนและนักท่องเที่ยวที่มาให้การต้อนรับ ซึ่งมีนักท่องเที่ยวชายไต้หวันได้มาเข้าทักทายและขอถ่ายรูปกับนายกฯ จากนั้นนายกฯ ได้เดินเยี่ยมชมขบวนรถไฟพร้อมรับฟังบรรยายสรุป โดยนายกฯ ได้ชื่นชมการปรับปรุงขบวนรถไฟว่ามีความสวยงาม มีเอกลักษณ์ แสดงถึงความเป็นไทย ซึ่งคาดว่าจะสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยว


วันเดียวกัน ที่ขอนแก่นฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา ขอนแก่น คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้จัดงาน ISAN Insight Summit 2024 งานเสวนาเศรษฐกิจอีสานแห่งปี ในธีม ISAN Soft Power ขุมทรัพย์ขับเคลื่อนอีสานใหม่สู่สากล โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ร่วมปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ "ISAN Soft Power โอกาสและความท้าทายในการพลิกเศรษฐกิจอีสานให้รุ่งเรืองและยั่งยืน" พร้อมด้วยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม, น.ส.มนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม, นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ, นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าฯ ขอนแก่น และ ดร.ณรงค์ชัย อัครเศรณี นายกสภามหาวิทยาลัยขอนแก่น นำนักวิชาการ นักธุรกิจ และประชาชนที่สนใจเข้าร่วมรับฟังจำนวนมาก

น.ส.แพทองธารกล่าวว่า เชื่อมั่นในความเป็นอีสาน ไม่ว่าจะเป็นอาหารวัฒนธรรม การแสดง ที่จะดึงดูดผู้คน ที่มีความน่าสนใจและจะต่อยอดสร้างรายได้ให้กับประชาชน ซึ่งรัฐบาลจะผลักดันให้อาหารอีสานเป็นที่รู้จักของคนทั้งโลก เพราะมีร้านอาหารนับแสนแห่งกระจายอยู่ทั่วโลก และมียิมมวยไทยกระจายอยู่ทุกแห่ง การแสดงของคนไทย หรือทีป๊อป จะต้องได้ขึ้นโชว์ในเวทีระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นอาหาร วัฒนธรรม การแสดง ที่จะดึงดูดผู้คน มีความน่าสนใจ ที่จะต่อยอดสร้างรายได้ให้กับประชาชน ซึ่งเป้าหมายของรัฐบาลในปี 2570 อยากเห็นคนไทย 20 ล้านครอบครัวมีรายได้ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งนโยบายซอฟต์พาวเวอร์มุ่งสร้างเศรษฐกิจเพื่อสร้างรายได้ให้ทุกคนมีชีวิตที่ดีขึ้น

"รู้สึกตื่นเต้นที่ได้มาบรรยายที่ขอนแก่น วันนี้ที่อยากมาเล่าให้ฟัง ซอฟต์พาวเวอร์กำลังทำอะไรอยู่บ้าง และมีความหมายว่าอย่างไร วันนี้ได้ยินคำว่าซอฟต์พาวเวอร์ จนถึงวันนี้แล้วมีการตีความหลายๆ แบบ ทั้งนักวิชาการและประชาชน โดยความหมายของรัฐบาลซอฟต์พาวเวอร์คือซอฟต์พาวเวอร์ไม่ใช่เพียงสินค้า ซอฟต์พาวเวอร์คือการทำให้คนคล้อยตามได้โดยไม่ใช่สินค้า ซอฟต์พาวเวอร์มีอำนาจหรือมีอะไรที่ทำให้เราจับต้องได้ มีเสน่ห์ โดยรัฐบาลได้พูดถึงภาพรวม อยากให้ประเทศไทยมีเสน่ห์โดยมีเม็ดเงินไหลเข้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งคำถามจากเวทีนี้ คำว่าอีสานมีเสน่ห์อย่างไรบ้าง ดิฉันมองเห็นว่าวัฒนธรรมประเพณีอีสาน ทั้งอาหารอีสานที่ทำให้คนทั้งประเทศรู้จักไปทั่วประเทศ ก็จะทำให้เห็นอาหารอีสานทั่วประเทศ อาหารอีสานทำได้หลายระดับ แต่จากง่ายถึงยาก จากข้างถนนจนถึงระดับสูง เรียกได้ว่าคนอีสานสามารถสร้างซอฟต์พาวเวอร์ได้"
น.ส.แพทองธารกล่าวอีกว่า นอกจากอาหารอีสาน ยังมีเรื่องของดนตรี เช่น เพลง ที่มีภาษาอีสานที่มีวัฒนธรรมและความหลากหลายอยู่ในเพลง จากที่เราทำข้อมูลของคนอีสานทั้งหมดพบว่าพรรคเพื่อไทยรู้จักคนอีสานมากที่สุด โดยเฉพาะภาคเกษตรกร และเรายังได้ สส.จากภาคอีสานทั้งหมดอีกด้วย ซึ่งภาคอีสานต้องการเพียงแค่โอกาสที่จะพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างเป็นระบบ พัฒนาทั้งคนและอุตสาหกรรมด้วย

"เราอยากเห็นคนไทย 20,000,000 ครอบครัวมีรายได้ที่เพิ่มขึ้น อยากเห็นร้านอาหารไทยทั่วโลกมีมากกว่า 100,000 ร้าน ยิมมวยไทยในต่างประเทศมากถึง 100,000 ยิม และเราตั้งไว้ว่าหนังสือไทยจะต้องถูกแปลเป็นภาษาที่สาม และสามารถอยู่ในร้านหนังสือดังๆ อย่างไรก็ดี รัฐบาลเตรียมจัดงานซอฟต์พาวเวอร์ที่กำลังจะขึ้นไปปลายเดือน มิ.ย.ที่ศูนย์ประชุมสิริกิติ์ จะเป็นงานครั้งแรกที่จัดขึ้นโดยรัฐบาลไทยจึงขอเชิญชวนให้ทุกคนได้มาหาประสบการณ์ หาแรงบันดาลใจ หาความรู้ เพื่อที่จะเอามาต่อยอดและพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์ของไทยต่อไป" น.ส.แพทองธารระบุ.

บรรยายใต้ภาพ

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินอย่างอารมณ์ดีในการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสถานีรถไฟหัวหิน (สถานีเดิม) อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อยกระดับเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ส่งเสริมอัตลักษณ์ของหัวหิน เมื่อวันศุกร์ที่ 14 มิถุนายน 2567

ที่มา: นสพ.ไทยโพสต์ ฉบับวันที่ 15 มิ.ย. 2567


Srettha Talks TV Show to Air Starting June 22; Ink Enthusiastic about Soft Power

Source - Thai Post
Saturday, June 15, 2024, 05:10


Government House * The debut of "Talk with Srettha," originally set for June 15, has been postponed to June 22. The postponement is due to adjustments and the Minister of the Office of the Prime Minister contracting COVID-19. Meanwhile, Srettha Thavisin visits Hua Hin Railway Station, and Paetongtarn Shinawatra speaks passionately about soft power, envisioning 20 million prosperous families by 2027 with Isaan cuisine, music, and Thai books gaining international recognition.

On June 14, 2024, government sources revealed plans to revive the Prime Minister's program for the public. The show, "Talk with Srettha," will air on the National Television of Thailand. Initially scheduled for its first broadcast on June 15 from 8:00 to 9:00 AM, it has been rescheduled to June 22 from 8:00 to 8:30 AM. The show will now air monthly, on the third Saturday of each month. The first episode will feature former government spokesperson Theerarat Ratanasevi as the host, with future episodes rotating hosts including news anchor Muay Arisara Kamthorncharoen and famous presenter Aun Phuwanart Kunpalin.

Srettha mentioned that the recording of the first episode is complete but the exact airing date is yet to be confirmed. He urged the public to wait for updates from Minister Jiraporn Sinthuprai, who is overseeing the program. Unfortunately, Minister Jiraporn has contracted COVID-19, delaying the final preparations.

Later that day, at 3:10 PM, Srettha visited Hua Hin Railway Station to elevate it as a tourist attraction that enhances Hua Hin's identity. He reviewed plans to support tourism through the STR Royal Blossom train service, aligned with the government's IGNITE TOURISM THAILAND policy. He was accompanied by Deputy Transport Minister Surapong Piyachote, State Railway of Thailand Governor Nirut Maneephan, Prachuap Khiri Khan Governor Somkid Chanthamaruk, and welcomed by tourists.

During his visit, Srettha interacted with the public and tourists, including a Taiwanese tourist who took a photo with him. He praised the train's renovations for their beauty and Thai identity, anticipating they would impress visitors.


On the same day, the ISAN Insight Summit 2024 was held at Central Plaza Khon Kaen, organized by Khon Kaen University's Faculty of Economics. The summit's theme was ISAN Soft Power, aiming to propel Isaan culture to international recognition. Paetongtarn Shinawatra, head of the Pheu Thai Party and Vice Chair of the National Soft Power Strategy Committee, delivered a keynote on "ISAN Soft Power: Opportunities and Challenges in Revitalizing Isaan's Economy for Sustainable Prosperity." She was joined by Deputy Prime Minister and Transport Minister Suriya Jungrungreangkit, Deputy Transport Minister Monporn Charoensri, and several other officials and academics.

Paetongtarn expressed her confidence in Isaan's unique appeal—its cuisine, culture, and performances. She highlighted the potential of Isaan food to become globally recognized, with countless restaurants worldwide and widespread Muay Thai gyms. She envisioned Thai performances, including T-pop, reaching global stages. The government aims for 20 million Thai families to see increased incomes by 2027, driven by the soft power policy.

She shared her excitement about speaking in Khon Kaen, explaining that soft power encompasses more than products—it’s about influence and charm that attract people and investment, both domestic and international. Paetongtarn noted Isaan's rich cultural heritage and its potential to elevate Thailand's global appeal.

Additionally, she emphasized Isaan's diverse music and cultural representation, asserting that Pheu Thai Party understands Isaan's agricultural sector well. Paetongtarn concluded with the goal of expanding Thai cuisine, Muay Thai gyms, and translated Thai literature globally. The government is planning a soft power event at the Queen Sirikit National Convention Center at the end of June to inspire and educate on developing Thai soft power.

*Caption: Prime Minister Srettha Thavisin cheerfully walks during his visit to Hua Hin Railway Station (old station) in Hua Hin District, Prachuap Khiri Khan, aiming to enhance it as a tourism site showcasing Hua Hin's identity on June 14, 2024.*

Source: Thai Post, June 15, 2024 edition.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 45628
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 15/06/2024 5:37 pm    Post subject: Reply with quote

รมว.คมนาคมรับข้อเสนอชาวโคราชผลักดันสร้างรถไฟทางคู่ยกระดับผ่านเมืองเร่งสร้างมอเตอร์เวย์เชื่อมหนองคาย-แหลมฉบัง
Source - เว็บไซต์สยามรัฐ
Saturday, June 15, 2024 16:10

วันที่ 15 มิถุนายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ที่ห้องประชุมหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคมพร้อมนางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม มอบนโยบายให้กับนายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผวจ.นครราชสีมาและหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง จากการลงพื้นที่ติดตามการแก้ไขปัญหาจราจรบนทางหลวงหมายเลข (ทล.) 2 ถนนมิตรภาพตัดกับ ทล.202 บริเวณสี่แยกสีดา อ.สีดา จ.นครราชสีมาและร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าและรับฟังการบรรยายสรุป เรื่องรถไฟความเร็วสูงและรถไฟทางคู่ มาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ช่วงผ่านตัวเมืองนครราชสีมา

จากนั้นได้ตอบข้อซักถามประเด็นทุบสะพานสีมาธานี ว่า ล่าสุดนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม ร่วมประชุมปรึกษาหารือกับ ส.ส เขตพื้นที่ และทุกภาคส่วนใน จ.นครราชสีมา ข้อสรุปมี 2 แนวทาง 1.ทางลอดใต้สะพานสิมาธานี 2.ยกระดับข้ามสะพานแต่มีปัญหาการหยุดที่สถานีนครราชสีมา จึงไม่ได้ข้อยุติ สิ่งสำคัญขณะนี้ชาวโคราชต้องการให้สร้างทางยกระดับ ตนจะผลักดันขับเคลื่อนผลักดันให้ได้ ตนได้สอบถามข้อมูลในพื้นที่หากเป็นทางลอดใต้สะพาน ประชาชนไม่ยอมรับและเกิดปัญหาแน่ แต่ถ้ายกระดับรถไฟทางคู่อยู่ระดับเดียวกับรถไฟความเร็วสูง ประชาชนยอมรับได้

สำหรับขั้นตอนต่อไปคือการออกแบบและตั้งงบประมาณโดยสั่งการให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ดำเนินการ ยืนยันไม่ล่าช้าเป็นไปตามกระบวนการอย่างไรก็ ตามกระทรวงคมนาคมยึดถือสิ่งที่ประชาชนเรียกร้องก็จะตอบสนองในทุกมิติให้ได้ ดังนั้นเรามีความชัดเจนเลือกแนวทางยกระดับรถไฟทางคู่

ส่วนโครงการมอเตอร์เวย์ M6 บางปะอิน-นครราชสีมา การบริหารก่อนที่ตนจะรับตำแหน่งมีการทำหลายสัญญา เมื่อขัดข้องส่งผลให้เบิกงบประมาณไม่ได้ รวมถึงปัญหาการสำรวจเส้นทางก่อสร้างติดพื้นที่แหล่งน้ำและผืนป่า ขณะนี้ได้ประสานงานจนได้ข้อยุติ โครงการสามารถเดินหน้าต่อไปได้ ส.ส.พื้นที่ ต้องการให้เชื่อมต่อไปยังจังหวัดขอนแก่นและหนองคาย ตนเห็นด้วย จึงนำข้อเสนอผลักดันให้เกิดโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาขีดความสามารถการแข่งขันส่งสินค้าไปประเทศเพื่อนบ้าน ผ่าน สปป.ลาวถึงประเทศจีนและข้อเสนอต้องการเชื่อมต่อเส้นทางไปท่าเรือแหลมฉบัง หากสำเร็จจะสามารถส่งสินค้าได้โดยตรง ช่วยลดต้นทุนการขนส่งสินค้าได้จำนวนมาก

ขณะที่ข้อเรียกร้องให้สร้างสนามบินพาณิชย์ในพื้นที่และต้องการให้มีเที่ยวบินมาลงที่โคราช สภาพข้อเท็จจริง การเดินทางระหว่างกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ต้องไปก่อนเวลาและรอรับสัมภาระสิ่งของ จึงมีปัญหาอุปสรรคไม่สะดวกสบายกว่าจะถึงที่หมายใช้เวลาพอสมควร เมื่อรถไฟความเร็วสูงสามารถเปิดใช้งาน ประชาชนจะหันมาใช้บริการแทน ฉะนั้นการสร้างสนามบินที่โคราชยังไม่มีความจำเป็นรวมทั้งใช้กองบิน 1 เป็นสนามบิน ถ้าเป็นประโยชน์มีคนมาใช้ก็ผลักดันต่อไป


The Transport Minister has agreed to a proposal from Korat residents to build an elevated double-track railway through the city. This decision will also accelerate the construction of a motorway connecting Nong Khai and Laem Chabang.

On June 15, 2024, the Minister of Transport, along with the Deputy Minister of Transport and other officials, visited Nakhon Ratchasima to address traffic issues and discuss plans for high-speed and double-track railways.

During the visit, the Minister addressed concerns about the demolition of the Simathani Bridge. He confirmed that while two options (an underpass or an elevated bridge) had been considered, no final decision had been made. He emphasized that the priority was to build an elevated railway that would be acceptable to the residents of Korat.

The Minister instructed the State Railway of Thailand (SRT) to proceed with the design and budgeting of the elevated railway, ensuring no delays in the process. He reaffirmed the Ministry's commitment to meeting the demands of the people and responding to their needs in all areas.

The Minister also discussed the M6 Motorway Project, Bang Pa-in - Nakhon Ratchasima, acknowledging past delays due to contractual and environmental issues. He confirmed that these issues had been resolved and that the project was moving forward. Additionally, he supported the proposal to extend the motorway to Khon Kaen and Nong Khai provinces and connect it to Laem Chabang Port, enhancing the region's competitiveness and facilitating trade with neighboring countries.

Regarding the demand for a commercial airport in Korat, the Minister stated that while it was not currently a priority, the possibility would be explored if there was sufficient demand and potential for its use.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 45628
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 16/06/2024 9:36 am    Post subject: Reply with quote

ชาวโคราช เฮ! สุริยะ สั่งปรับรูปแบบ รถไฟทางคู่ยกระดับข้ามสะพานสีมาธานี
Source - เว็บไซต์ประชาชาติธุรกิจ
Sunday, June 16, 2024 07:59

ชาวโคราช เฮ! "สุริยะ"รมต.คมนาคมรับปากสั่งรฟท.ปรับรูปแบบ"โครงการรถไฟทางคู่ใหม่ ให้ยกระดับข้ามสะพานสีมาธานี ตามที่ประชาชนเรียกร้อง พร้อมตั้งงบประมาณดำเนินการเร่งด่วน

วันที่ 15 มิถุนายน 2567 ที่ห้องประชุมหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมานายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เป็นประธานในการประชุมหารือกับทุกภาคส่วนของ จ.นครราชสีมา กรณีโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงผ่านเข้าตัวเมืองนครราชสีมา โดยมีนายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ให้การต้อนรับ ซึ่งการประชุมครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมประชุมจากภาคส่วนต่างๆ อาทิ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ทั้ง 12 เขต ของ จ.นครราชสีมา, นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม, นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา, หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม, ตัวแทนภาครัฐและภาคเอกชนในพื้นที่ จ.นครราชสีมา เป็นต้น

ทั้งนี้ภายหลังจากที่ประชาชนชาว จ.นครราชสีมา ได้มีการเรียกร้องให้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา - ชุมทางถนนจิระ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) จุดเข้าตัวเมืองนครราชสีมา ผ่านถนนมิตรภาพที่มีสะพานสีมาธานีขวางทางอยู่

ซึ่งก่อนหน้านั้น รฟท.ยืนยันว่าจะทำทางวิ่งลอดสะพานสีมาธานี ส่งผลให้ประชาชนเกิดความไม่พอใจ เพราะเกรงว่าจะกระทบต่อการสัญจรไปมาของประชาชนทั้ง 2 ฝั่ง และกระทบกับการพัฒนาเมืองได้ในอนาคต เนื่องจากทางรถไฟทางคู่จะมีการปิดกั้นรั้วทั้ง 2 ฝั่ง

โดยภาคประชาชนในพื้นที่ จ.นครราชสีมา มีการเรียกร้องมาอย่างต่อเนื่องว่าให้มีการปรับรูปแบบเป็นยกระดับ ซึ่งอาจจะต้องทุบสะพานสีมาธานี แต่ยังไม่ได้มีข้อสรุป จนกระทั่งเมื่อวันที่ 11 มิ.ย. 67 ตัวแทนจากกระทรวงคมนาคม ได้ประชุมหารือกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา และได้ข้อสรุปว่าจะไม่มีการทุบสะพานสีมาธานีแน่นอน แต่จะมีการพิจารณาปรับรูปแบบเป็น 2 แนวทาง ได้แก่

1.ก่อสร้างทางรถไฟยกระดับ ลอดใต้สะพานสีมาธานี ซึ่งจะมีช่วงระยะทางรถไฟลดระดับลงลอดใต้สะพานสีมาธานี และขึ้นไปเป็นทางยกระดับ ประมาณ 1,600 เมตร โดยไม่ต้องทุบสะพานสีมาธานี

2.ก่อสร้างทางรถไฟยกระดับ ข้ามสะพานสีมาธานี โดยไม่ต้องทุบสะพานสีมาธานี แนวทางนี้ รฟท. ชี้แจงว่า อาจส่งผลกระทบกับโครงการรถไฟความเร็วสูง ช่วงกรุงเทพมหานคร - นครราชสีมา ที่ขบวนรถไฟความเร็วสูงต้องหยุดที่สถานีโคราชและรถไฟทางคู่ เมื่อยกระดับข้ามสะพานสีมาธานีแล้วไม่สามารถลดระดับเพื่อหยุดที่สถานีโคราชได้ เนื่องจากระยะทางไม่เพียงพอ ซึ่งอาจต้องย้ายสถานีโคราชไปอยู่ที่เหมาะสม หรืออาจยกระดับผ่านสถานีโคราชแล้วลดระดับเข้าสู่สถานีจิระแทน

โดยภายหลังจากใช้เวลาในการประชุมหารือ ประมาณ 1 ชั่วโมง นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม กล่าวว่า เรื่องนี้ นายสุระพงศ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม ได้หารือกับทุกภาคส่วนของ จ.นครราชสีมา จะพิจารณาดำเนินการใน 2 แนวทางคือ ทำทางลอด กับทางยกระดับ วันนี้ตนเองจึงลงพื้นที่มาติดตาม และจากการรับฟังความคิดเห็นของ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ทั้ง 12 เขต ของ จ.นครราชสีมา และฟังความคิดเห็นของภาครัฐ ภาคเอกชน และตัวแทนประชาชนในพื้นที่

วันนี้มึความเห็นตรงกันว่าต้องการให้มีการปรับรูปแบบโครงการรถไฟทางคู่ เป็นยกระดับข้ามสะพานสีมาธานี ไม่ต้องการให้ทำทางลอด ถ้าทำทางลอดทุกคนไม่ยอมรับแน่นอน ซึ่งตนเองพร้อมที่จะสั่งการให้รฟท. ไปทำการออกแบบให้เป็นรูปแบบยกระดับตามที่ประชาชนในพื้นที่เรียกร้อง โดยทางกระทรวงคมนาคมจะได้ตั้งงบประมาณในการดำเนินการให้แล้วเสร็จ เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนให้ได้ในทุกมิติต่อไป

นายชัยวัฒน์ วงศ์เบญจรัตน์ ตัวแทนภาคประชาชน จ.นครราชสีมา กล่าวว่า ที่ผ่านมาประชาชนในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ได้เรียกร้องให้มีการทำทางรถไฟทางคู่ยกระดับมาโดยตลอด แต่การสื่อสารสับสนเรื่องของการทุบหรือไม่ทุบสะพาน ซึ่งเรื่องทุบหรือไม่ทุบสะพานนั้น เป็นประเด็นรอง เนื่องจากขณะนั้นรฟท. บอกว่า ถ้ายกระดับแล้วต้องทำในแนวเดียวกันกับสะพานสีมาธานี เนื่องจากถ้าทำสูงเกินไป จะมีปัญหาในช่วงการวิ่งขึ้นและวิ่งลงของรถไฟทางคู่มาที่สถานีชุมทางรถไฟจิระ ซึ่งมีระยะใกล้กับจุดสะพานสีมาธานีมาก จึงมีการพูดถึงการทุบสะพานสีมาธานีกันมาต่อเนื่อง

ดังนั้นข้อสรุปในวันนี้ที่ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมมารับฟังปัญหาที่ จ.นครราชสีมา ซึ่งรมว.ก็ยืนยันแล้วว่าจะใช้แนวทางยกระดับข้ามสะพานสีมาธานี ก็ทำให้ชาว จ.นครราชสีมา รู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก ซึ่งต้องขอขอบคุณนายสุระพงศ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม และนายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ที่ช่วยผลักดันเรื่องนี้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

จนนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม ลงพื้นที่มาด้วยตนเอง และได้นำเรื่องนี้ไปดำเนินการตามที่ประชาชนชาว จ.นครราชสีมา เรียกร้องมาโดยตลอด ส่วนการรถไฟแห่งประเทศไทย จะไปออกแบบอย่างไร หรืองบประมาณจะต้องใช้มากน้อยเพียงใดนั้น ชาวโคราชต้องติดตามความคืบหน้ากันต่อไป


Korat residents are pleased with the decision of Suriya Juangroongruangkit, Thailand's Minister of Transport, to revise the design of the new double-track railway project. The revised design will elevate the railway over the Simathani Bridge, as requested by the people.

This decision comes after concerns were raised about the original plan, which would have seen the railway built under the bridge. Residents feared this would negatively impact movement and development in the city.

Two alternative designs were initially considered:

1. An elevated railway that dips under the Simathani Bridge for a short distance before rising again.
2. An elevated railway that crosses over the Simathani Bridge, potentially impacting the Bangkok-Nakhon Ratchasima high-speed rail project.

However, after meeting with local representatives and hearing their concerns, the Minister of Transport has confirmed that the railway will be elevated over the Simathani Bridge. He has assured residents that the Ministry of Transport will allocate the necessary budget to complete the project in a way that meets the needs of the people.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 45628
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 16/06/2024 11:15 am    Post subject: Reply with quote

เปิดใช้ทางคู่นครปฐม-ชุมพรย่นเวลาขนส่งทุเรียน-ยางพารา พร้อมหนุนท่องเที่ยวในประเทศ
Source - IQ สำนักข่าวอินโฟเควสท์
Sunday, June 16, 2024 11:04

สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 มิ.ย. 67)

Click on the image for full size

นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม ลงพื้นที่ตรวจเส้นทางรถไฟทางคู่ กล่าวว่า โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงประจวบคีรีขันธ์ - ชุมพร มีการก่อสร้างลานกองเก็บตู้สินค้าคอนเทนเนอร์ (CY) สองแห่ง คือ สถานีสามร้อยยอด และสถานีนาผักขวง ที่สถานีสะพลี จังหวัดชุมพร มีพื้นที่สำหรับรองรับการขนส่งสินค้าคอนเทนเนอร์อยู่แล้ว โดยมีเอกชนผู้ประกอบการ 2 ราย มาใช้บริการขนส่งยางพาราบรรจุใส่ตู้คอนเทนเนอร์ มีรถยกตู้คอนเทนเนอร์ (reach stacker) จำนวน 1 คัน เพื่อยกขึ้นแคร่บรรทุกสินค้าตู้คอนเนอร์ ในช่วงเดือนมิถุนายน - สิงหาคมของทุกปี เป็นช่วงทุเรียนในพื้นที่จังหวัดชุมพรมีปริมาณมากเพียงพอที่จะส่งออกไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยปีที่ผ่านมาได้มีการขนส่งทุเรียนทางรางไปคุนหมิงและกวางโจ สาธารณรัฐประชาชนจีน ในช่วงเดือนเมษายน - กรกฎาคม 2566 รวมประมาณ 150 ตู้ และปีนี้เริ่มขนส่งทุเรียนจากภาคตะวันออกไปสาธารณรัฐประชาชนจีนทางรถไฟ ประมาณ 300 ตู้แล้ว และได้มีการขนส่งทุเรียนใส่ตู้คอนเทนเนอร์แบบควบคุมความเย็น (reefer container) ทางรถไฟเส้นทางสะพลี - มาบตาพุด ตั้งแต่วันที่ 14 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา จำนวน 15 ตู้ต่อครั้ง วิ่งวันเว้นวัน เพื่อไปรวมกับทุเรียนในพื้นที่ภาคตะวันออกก่อนขนส่งไปสาธารณรัฐประชาชนจีน

สำหรับในปีนี้ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้เปิดใช้ทางคู่ช่วงนครปฐม - ชุมพร ระยะทาง 420 กิโลเมตรเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา ประกอบกับได้เปิดใช้ทางคู่ช่วงชุมทางถนนจิระ - ขอนแก่น ระยะทาง 187 กิโลเมตรเมื่อปี 2562 ที่ผ่านมา ทำให้ระยะเวลาในการขนส่งสินค้าทางรถไฟรวดเร็วขึ้น ประกอบกับปัจจุบันสถานีสะพลีเป็นจุดขนถ่ายตู้สินค้าที่ใกล้อำเภอหลังสวนที่มีจำนวนล้งทุเรียนอยู่จำนวนมากและมีพื้นที่ลานกองเก็บตู้สินค้า 9,000 ตารางเมตร สามารถพัฒนาเป็นศูนย์กระจายสินค้าทางรถไฟภาคใต้ได้

ทางบริษัท โกลบอล มัลติโมดัล โลจิสติกส์ จำกัด (GML) จึงมีแผนที่จะขนส่งทุเรียนด้วยตู้คอนเทนเนอร์แบบควบคุมความเย็น (reefer container) ทางรถไฟ เส้นทางสะพลี - หนองคาย ผ่านสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) เพื่อส่งต่อไปยังนครคุนหมิง และอีก 4 มณฑลของสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยกระทรวงคมนาคม กรมการขนส่งทางราง รฟท. และบริษัท GML ได้ประชุมร่วมกันเพื่อพิจารณาแนวทางการปรับปรุงลานกองเก็บตู้สินค้าคอนเทนเนอร์ (CY) ที่สถานีสะพลีเพิ่มเติม เช่น การติดตั้งระบบไฟฟ้าแสงสว่างพร้อมปลั๊กเสียบเพื่อรองรับตู้คอนเทนเนอร์แบบควบคุมความเย็น (reefer container) การติดตั้งระบบโทรทัศน์วงจรปิด และเพิ่มรถยกตู้คอนเทนเนอร์ (reach stacker) เพื่อรองรับการขนส่งทุเรียนที่เพิ่มขึ้นในอนาคต พร้อมทั้งปรับตารางเวลาเดินรถไฟขบวนขนส่งทุเรียนเพื่อลดระยะเวลาในการขนส่งเส้นทางสะพลี - หนองคาย จากเดิม 4 วัน เหลือ 2 วัน ซึ่งจะเป็นการเพิ่มการขนส่งสินค้าทางราง ช่วยลดอุบัติเหตุทางถนนและลดต้นทุนโลจิสติกส์ในการขนส่ง

นายสุรพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันการขนส่งสินค้าจากภาคใต้ไปยังภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ต้องผ่านสะพานพระรามหก ซึ่งมีข้อจำกัด คือ ไม่สามารถเดินขบวนรถไฟสวนกันบนสะพานพระรามหกได้ รวมทั้งการขนส่งสินค้าในเขตกรุงเทพมหานคร ที่ส่งผลกระทบต่อการจราจรติดขัด จึงขนส่งสินค้าในเขตกรุงเทพมหานครได้เฉพาะช่วงเวลา 22.00 - 04.00 น. จึงได้มอบหมายให้ รฟท. ศึกษาความเหมาะสมเส้นทางสายใหม่ เชื่อมชุมทางหนองปลาดุกกับชุมทางบ้านภาชี ซึ่งปัจจุบันมีทางรถไฟเลี่ยงเมือง (chord line) ที่เป็นทางคู่เชื่อมต่อไปยังภาคต่าง ๆ ได้สะดวก โดย รฟท. ได้รับจัดสรรงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 แล้ว อยู่ระหว่างดำเนินการจ้างที่ปรึกษา และขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 เพื่อออกแบบรายละเอียด เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จจะช่วยให้การขนส่งสินค้ามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

หลังจากนั้น นายสุรพงษ์ พร้อมคณะได้เดินทางโดยขบวนรถไฟพิเศษท่องเที่ยว SRT ROYAL BLOSSOM ไปยังสถานีทุ่งมะเม่า ซึ่งเป็นบริเวณที่เส้นทางรถไฟอยู่ใกล้ชายทะเล เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวทางรถไฟในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สอดรับกับนโยบาย IGNITE TOURISM THAILAND ของรัฐบาล และจากการปรับเวลาเดินรถสายใต้ของ รฟท. เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา ทำให้ผู้โดยสารใช้เวลาในการเดินทางน้อยลง และถึงจุดหมายปลายทางเร็วขึ้น ประมาณ 1.30 ชั่วโมง เป็นการอำนวยความสะดวกการเดินทางของประชาชน รวมทั้งการขนส่งสินค้าไม่ต้องเสียเวลาในการรอหลีกขบวนรถ เกิดประสิทธิภาพในการบริหารจัดการเดินรถ ทำให้สามารถรองรับขบวนรถได้เพิ่มขึ้น ช่วยลดต้นทุนการขนส่งด้านโลจิสติกส์ รวมทั้งเพิ่มความปลอดภัย ลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุบริเวณจุดตัดทางเสมอระดับรถไฟ - รถยนต์ โดยยกเลิกทางข้ามเสมอระดับทางรถไฟ และเปิดใช้สะพานกลับรถ (U-Turn)/สะพานข้ามทางรถไฟ (Overpass)


Double-track Railway from Nakhon Pathom to Chumphon to Reduce Durian and Rubber Transport Time and Promote Domestic Tourism

Source: IQ News Agency
Date: Sunday, June 16, 2024, 11:04 AM

InfoQuest News Agency (June 16, 2024)

Mr. Surapong Piyachote, Deputy Minister of Transport, inspected the double-track railway project and stated that the double-track railway construction between Prachuap Khiri Khan and Chumphon includes two container yard (CY) stations at Sam Roi Yot and Na Phak Khuang. At Saphli Station in Chumphon, there is already a facility for container cargo handling, used by two private operators for rubber transportation. A reach stacker is available for container lifting. From June to August annually, the area sees a significant durian harvest, sufficient for export to the People's Republic of China. Last year, about 150 containers of durians were transported by rail to Kunming and Guangzhou between April and July. This year, approximately 300 containers have been transported from the eastern region to China. Additionally, starting June 14, 2024, 15 refrigerated containers (reefer containers) of durians have been transported bi-daily from Saphli to Map Ta Phut, to be combined with eastern durians for export to China.

This year, the State Railway of Thailand (SRT) inaugurated the 420-kilometer double-track railway from Nakhon Pathom to Chumphon on June 4, 2024. Previously, in 2019, the 187-kilometer Chira Road Junction to Khon Kaen double-track section was opened. These developments have expedited rail cargo transportation. Saphli Station, near Lang Suan District with many durian warehouses, has a 9,000 square meter container yard, poised to become a southern rail freight distribution center.

Global Multimodal Logistics Co., Ltd. (GML) plans to transport durians in reefer containers via the Saphli-Nong Khai rail route through Laos, targeting Kunming and four other Chinese provinces. The Ministry of Transport, Department of Rail Transport, SRT, and GML have discussed upgrading Saphli Station’s container yard with lighting systems and reefer container power plugs, installing CCTV, and adding more reach stackers to handle increased durian transport. They aim to reduce the Saphli-Nong Khai transport time from four days to two, enhancing rail freight efficiency, reducing road accidents, and lowering logistics costs.

Mr. Surapong added that current south-to-north, northeast, and eastern freight routes via Rama VI Bridge have limitations, including single-track bridge crossings and congestion in Bangkok, restricting operations to 10 PM - 4 AM. SRT has been tasked to study a new route linking Nong Pladuk Junction and Ban Phachi Junction, supported by the fiscal year 2024 budget, with consultant hiring in progress. The 2025 budget will cover detailed design, aiming to improve freight efficiency.

Mr. Surapong and his team also took the SRT Royal Blossom special tourist train to Thung Mamao Station, near the coastal railway, to promote Prachuap Khiri Khan tourism. The IGNITE TOURISM THAILAND policy aligns with this initiative. The revised southern rail schedule on December 15, 2023, has reduced travel time by 1.5 hours, enhancing passenger convenience and freight management efficiency, reducing logistical costs, and increasing safety by eliminating level crossings and introducing U-turns and overpasses.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43048
Location: NECTEC

PostPosted: 16/06/2024 8:04 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
เปิดใช้ทางคู่นครปฐม-ชุมพรย่นเวลาขนส่งทุเรียน-ยางพารา พร้อมหนุนท่องเที่ยวในประเทศ
Source - IQ สำนักข่าวอินโฟเควสท์
Sunday, June 16, 2024 11:04

สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 มิ.ย. 67)

Click on the image for full size

มอบรฟท.ศึกษาเส้นทางสายใหม่ เชื่อมชุมทางหนองปลาดุก-บ้านภาชี เพิ่มประสิทธิภาพขนส่งสินค้า
วันที่ 15 มิถุนายน 2567 - 17:55 น.


มอบรฟท.ศึกษาเส้นทางสายใหม่ เชื่อมชุมทางหนองปลาดุก-ชุมทางบ้านภาชี ลดจราจรติดขัด ในเมือง เพิ่มประสิทธิภาพขนส่งสินค้า

เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ติดตามความคืบหน้าการเปิดเดินรถไฟทางคู่ ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพรและการพัฒนาลานกองเก็บสินค้าตู้คอนเทนเนอร์ (Container Yard :CY) ที่สถานีสะพลี โดยมี น.ส.ณภัทรา กมลรักษา เลขานุการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก และประธานกรรมการรถไฟแห่งประเทศไทย นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง ร่วมเดินทาง และมีนายอวิรุทธ์ ทองเนตร รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย บรรยายสรุปปัญหาและอุปสรรคการเปิดการเดินรถทางคู่ และพัฒนาลานกองเก็บตู้สินค้าคอนเทนเนอร์ (CY) ที่สถานีสะพลี และนายชูรินทร์ กิตติวิบูลย์ ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการขนส่งทางราง บริษัท โกลบอล มัลติโมดัล โลจิสติกส์ จำกัด (GML) บรรยายการขนส่งทุเรียนเส้นทางสะพลี-หนองคายทางรถไฟ เพื่อขนส่งไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีน





นายสุรพงษ์กล่าวว่า โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร มีการก่อสร้างลานกองเก็บตู้สินค้าคอนเทนเนอร์ (CY) สองแห่ง ที่สถานีสามร้อยยอดและสถานีนาผักขวง แต่อย่างไรก็ตาม พบว่า ปัจจุบันที่สถานีสะพลี จังหวัดชุมพร มีพื้นที่สำหรับรองรับการขนส่งสินค้าคอนเทนเนอร์อยู่แล้ว โดยมีเอกชนผู้ประกอบการ 2 รายมาใช้บริการขนส่งยางพาราบรรจุใส่ตู้คอนเทนเนอร์ โดยมีรถยกตู้คอนเทนเนอร์ (reach stacker) จำนวน 1 คัน เพื่อยกขึ้นแคร่บรรทุกสินค้าตู้คอนเนอร์ (บทต.) ในการขนส่งทางรถไฟอยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือนมิถุนายน-สิงหาคมของทุกปี ซึ่งเป็นฤดูที่ทุเรียนในพื้นที่จังหวัดชุมพรมีปริมาณมากเพียงพอที่จะส่งออกไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยปีที่ผ่านมาได้มีการขนส่งทุเรียนทางรางไปคุณหมิงและกวางโจ สาธารณรัฐประชาชนจีน ช่วงเดือนเมษายน-กรกฎาคม 2566 รวมประมาณ 150 ตู้ และปีนี้เริ่มขนส่งทุเรียนจากภาคตะวันออกไปสาธารณรัฐประชาชนจีนทางรถไฟประมาณ 300 ตู้แล้ว และได้มีการขนส่งทุเรียนใส่ตู้คอนเทนเนอร์แบบควบคุมความเย็น (reefer container) ทางรถไฟเส้นทางสะพลี-มาบตาพุด ตั้งแต่วันที่ 14 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา จำนวน 15 ตู้ต่อครั้ง วิ่งวันเว้นวัน เพื่อไปรวมกับทุเรียนในพื้นที่ภาคตะวันออกก่อนขนส่งไปสาธารณรัฐประชาชนจีนต่อไป

สำหรับในปีนี้ การรถไฟแห่งประเทศไทยได้มีการเปิดใช้ทางคู่ช่วงนครปฐม-ชุมพร ระยะทาง 420 กิโลเมตรเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา ประกอบกับได้เปิดใช้ทางคู่ช่วงชุมทางถนนจิระ- ขอนแก่น ระยะทาง 187 กิโลเมตรเมื่อปี 2562 ที่ผ่านมา ทำให้ระยะเวลาในการขนส่งสินค้าทางรถไฟรวดเร็วขึ้น ประกอบกับปัจจุบันสถานีสะพลีเป็นจุดขนถ่ายตู้สินค้าที่ใกล้อำเภอหลังสวนที่มีจำนวนล้งทุเรียนอยู่จำนวนมากและมีพื้นที่ลานกองเก็บตู้สินค้า 9,000 ตารางเมตร สามารถพัฒนาเป็น “ศูนย์กระจายสินค้าทางรถไฟภาคใต้” ได้


ทางบริษัท GML จึงมีแผนที่จะขนส่งทุเรียนด้วยตู้คอนเทนเนอร์แบบควบคุมความเย็น (reefer container) ทางรถไฟ เส้นทางสะพลี-หนองคาย ผ่านสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) เพื่อส่งต่อไปยังนครคุณหมิง และอีก 4 มณฑลของสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยกระทรวงคมนาคม กรมการขนส่งทางราง การรถไฟแห่งประเทศไทยและบริษัท GML จึงประชุมร่วมกัน เพื่อพิจารณาแนวทางการปรับปรุงลานกองเก็บตู้สินค้าคอนเทนเนอร์ (CY) ที่สถานีสะพลีเพิ่มเติม เช่น การติดตั้งระบบไฟฟ้าแสงสว่างพร้อมปลั๊กเสียบเพื่อรองรับตู้คอนเทนเนอร์แบบควบคุมความเย็น (reefer container) การติดตั้งระบบโทรทัศน์วงจรปิด และเพิ่มรถยกตู้คอนเทนเนอร์ (reach stacker) เพื่อรองรับการขนส่งทุเรียนที่เพิ่มขึ้นในอนาคต พร้อมทั้งปรับตารางเวลาเดินรถไฟขบวนขนส่งทุเรียนเพื่อลดระยะเวลาในการขนส่งเส้นทางสะพลี-หนองคาย จากเดิม 4 วัน เหลือ 2 วัน ซึ่งจะเป็นการเพิ่มการขนส่งสินค้าทางราง ช่วยลดอุบัติเหตุทางถนนและลดต้นทุนโลจิสติกส์ในการขนส่ง

นายสุรพงษ์กล่าวว่า ปัจจุบันการขนส่งสินค้าจากภาคใต้ไปยังภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกยังต้องผ่านสะพานพระรามหก ซึ่งมีข้อจำกัดไม่สามารถเดินขบวนรถไฟสวนกันบนสะพานพระรามหกได้ รวมทั้งการขนส่งสินค้าในเขตกรุงเทพมหานคร ซึ่งส่งผลกระทบต่อการจราจรติดขัด จึงติดเรื่องเวลาการขนส่งสินค้าในเขตกรุงเทพมหานครได้เฉพาะช่วงเวลา 22.00-04.00 น. จึงได้มอบหมายให้ รฟท.ศึกษาความเหมาะสมเส้นทางสายใหม่ เชื่อมชุมทางหนองปลาดุกกับชุมทางบ้านภาชี ซึ่ง ปัจจุบันมีทางรถไฟเลี่ยงเมือง (chord line) ที่เป็นทางคู่เชื่อมต่อไปยังภาคต่างๆ ได้สะดวก โดย รฟท.ได้รับจัดสรรงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 แล้วอยู่ระหว่างดำเนินการจ้างที่ปรึษา และขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 เพื่อออกแบบรายละเอียด ซึ่งเมื่อดำเนินการแล้วจะช่วยให้การขนส่งสินค้ามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

จากนั้นนายสุรพงษ์ พร้อมคณะได้เดินทางโดยขบวนรถไฟพิเศษท่องเที่ยว SRT ROYAL BLOSSOM ไปยังสถานีทุ่งมะเม่า ซึ่งเป็นบริเวณที่เส้นทางรถไฟใกล้ชายทะเล เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวทางรถไฟในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สอดรับกับนโยบาย IGNITE TOURISM THAILAND ของรัฐบาล และที่ผ่านมาได้มอบนโยบายให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ดำเนินนโยบาย Quick Win “คมนาคม ของประชาชน” เมื่อตุลาคม 2566 ที่ผ่านมาเพื่อมุ่งนำเทคโนโลยี นวัตกรรมที่ทันสมัย มาใช้กับการดำเนินภารกิจของหน่วยงานอย่างสร้างสรรค์ ให้เป็นองค์กรที่ทันสมัย เพื่อให้ประชาชนเกิดประโยชน์สูงสุด และเป็นฟันเฟืองหลักในการพัฒนาระบบขนส่งทางรางให้สามารถแข่งขันกับนานาประเทศได้ เป้าหมายสำคัญจะต้องทำให้ รฟท. กลับมาเป็นองค์กรที่มีความเข้มแข็ง สามารถขับเคลื่อนระบบการขนส่งทางรางของประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ



ขณะเดียวกัน ให้ รฟท.เพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการแก่ประชาชนไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวทางรถไฟ สนับสนุนชุมชนท้องถิ่นในเส้นทางท่องเที่ยวให้สามารถจำหน่ายสินค้าของที่ระลึกกับนักท่องเที่ยว เป็นการสร้างงานสร้างอาชีพอย่างยั่งยืน และได้เร่งรัดดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ และรถไฟสายใหม่ทั่วประเทศให้แล้วเสร็จตามแผนงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพระบบการขนส่งทางรางให้เป็นระบบขนส่งหลักของประเทศ ที่มีประสิทธิภาพ สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และการขนส่งสินค้าเชื่อมโยงทุกภูมิภาค รวมถึงมีส่วนช่วยสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวของประเทศด้วย

นายสุรพงษ์กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อเปิดใช้รถไฟทางคู่สายใต้ ช่วงนครปฐม-ชุมพร ได้ตลอดเส้นทาง รวมระยะทางทั้งสิ้น 420 กิโลเมตร ซึ่งจะช่วยลดระยะเวลาเดินทาง เพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งด้วยระบบรถไฟทางคู่ที่สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย ตรงต่อเวลา สามารถเชื่อมต่อการขนส่งและเส้นทางท่องเที่ยว โดยเฉพาะสถานีหัวหิน สถานีประจวบคีรีขันธ์ และสถานีทุ่งมะเม่า จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งอยู่ใกล้ชายทะเล ซึ่งได้ตนได้มอบหมายให้สำนักงานขนส่งจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ประสานงานกับการรถไฟแห่งประเทศไทยและท่องเที่ยวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ผ่านการประชุมระดับจังหวัดที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน เพื่อนพิจารณาจัดรถขนส่งสาธารณะมารองรับการเชื่อมต่อระหว่างสถานีรถไฟกับแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ

เนื่องจากที่ผ่านมากระทรวงคมนาคมได้ออกกฎกระทรวงกระจายอำนาจให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นผู้ให้บริการเดินรถขนส่งสาธารณะ (operator) โดยขออนุญาตกรมการขนส่งทางบกผ่านคณะกรรมการขนส่งทางบกกลาง ที่กำหนดลักษณะรถและเส้นทางการเดินรถขนส่งสาธาณะ ก่อนดำเนินการต่อไป พร้อมทั้งมอบหมายให้ รฟท.จัดเตรียมพื้นที่บริเวณย่านสถานีรถไฟที่สำคัญ เพื่อรองรับเป็นที่จอดระบบขนส่งสาธารณะ (feeder) ในรูปแบบขนส่งแบบไร้รอยต่อระหว่างรถกับราง เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับผู้โดยสาร ส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถทางเศรษฐกิจของพื้นที่และประเทศได้เป็นอย่างดีต่อไป... อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.matichon.co.th/economy/news_4629658

จากแผนของกรมการขนส่งทางราง ได้มีการฟื้นฟูสถานีหนองผักชี และทางคู่จากหนองปลาดุกไปหนองผักชี ยาว 61.31 กม. และ จากหนองผักชี ไปเหนือสถานีมาบพระจันทร์ ยาว 67.50 กิโลเมตรก่อนทำทางในเขตรถไฟยาง 8.5 กิโลเมตรเข้าบ้านภาชี ระยะทางรวม 137.31 กิโลเมตร
https://www.facebook.com/Thailand.Infra/posts/878811632557317
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 397, 398, 399, 400  Next
Page 398 of 400

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©