Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311556
ทั่วไป:13356130
ทั้งหมด:13667686
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่
Goto page Previous  1, 2, 3 ... , 399, 400, 401  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 45690
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 22/06/2024 8:46 am    Post subject: Reply with quote

รฟท.เปิดประมูลทางคู่เฟส 2 สายแรก”ขอนแก่น-หนองคาย”2.87 หมื่นล้าน ยื่นซอง 20 ส.ค.นี้ ลุยโยธาติดตั้งระบบ 3 ปี เปิดบริการปี 70
ผู้จัดการออนไลน์ 21 มิ.ย. 2567 19:01

รฟท.เปิดประมูลก่อสร้างรถไฟทางคู่เฟส 2 สายแรก ช่วงขอนแก่น-หนองคาย 167 กม. ราคากลาง 28,719.94 ล้านบาท กำหนดยื่นซองขายซอง 20 ส.ค.67 คาดเซ็นสัญญาปลายปี 67 ลุยก่อสร้าง 3 ปี เปิดบริการปี 70

รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า วันนี้ (21 มิ.ย.67) นายจเร รุ่งฐานีย รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย รักษาการในตำแหน่ง ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ลงนามออกประกาศประกวดราคาจ้างก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงขอนแก่น-หนองคาย ด้วยวิธีประกวดราคา.อิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ราคากลาง 28,719.94 ล้านบาท โดยกำหนดยื่นข้อเสนอ วันที่ 20 สิงหาคม 2567 เวลา09.00-12.00 น. และคาดว่าจะสรุปได้ตัวผู้รับจ้างภายในเดือนตุลาคม 2567 ลงนามสัญญาปลายปี 2567 เริ่มก่อสร้างต้นปี 2568 ระยะเวลาก่อสร้าง 36 เดือน แล้วเสร็จเปิดบริการ ปลายปี 2570

โดยโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงขอนแก่น-หนองคาย ระยะทาง 167 กม. โดยเป็นการก่อสร้างทางรถไฟเพิ่มอีก 1 ทางขนานไปกับทางรถไฟเดิม และปรับแนวเส้นทางใหม่บางส่วน พร้อมติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณและระบบโทรคมนาคมตลอดสายทาง กำหนดระยะเวลาส่งมอบ 1,080 วัน นับถัดจากวันที่ รฟท.แจ้งให้เริ่มงาน

สำหรับ TOR กำหนดคุณสมบัติของผู้ยื่นข้อเสนอ ต้องมีผลงานก่อสร้างประเภทเดียวกันกับงานที่ประกวดราคาจ้างก่อสร้างทางรถไฟในวงเงินไม่น้อยกว่า 4,313.85 ล้านบาท และต้องเป็นงานที่เป็นคู่สัญญากับหน่วยงานรัฐโดยตรง หรือหน่วยงานเอกชนที่ รฟท.เชื่อถือ

กรณีเป็นนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยซึ่งได้จดทะเบียนเกินกว่า 1 ปีกำหนดให้มีมูลค่าสุทธิของกิจการจากผลต่างระหว่างสินทรัพย์สุทธิหักด้วยหนี้สินสุทธิที่ที่ปรากฎในงบแสดงฐานะทางการเงิน ซึ่งต้องมีค่าเป็นบวก 1 ปีสุดท้ายก่อนยื่นข้อเสนอ กรณีผู้ยื่นข้อเสนอเป็นนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย ซึ่งยังไม่มีการรายงานงบแสดงฐานะการเงินกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ให้พิจารณาการกำหนดมูลค่าของทุนจดทะเบียน โดยผู้ยื่นข้อเสนอจะต้องมีทุนจดทะเบียนที่เรียกชำระมูลค่าหุ้นแล้ว ณ วันที่ยื่นข้อเสนอ ไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท เป็นต้น

กรณีผู้ยื่นข้อเสนอที่เป็นนิติบุคคลรายเดียว ต้องเป็นนิติบุคคลไทยที่จดทะเบียนตามกฎหมายไทยต้องมีผลงานก่อสร้างทางรถไฟ(ก) ที่มีมูลค่าก่อสร้างในสัญญาเดียว ไม่น้อยกว่า 4,313.85 ล้านบาท ซึ่งได้รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว

กรณีผู้ยื่นข้อเสนอที่เป็นกิจการร่วมค้า ต้องมีนิติบุคคลไทยที่จดทะเบียนตามกฎหมายไทยป็นผู้เข้าร่วมค้าหลัก (Lead Firm) โดยสมาชิกทุกรายที่รวมตัวกันเป็นกิจการร่วมค้านั้นต้องเป็นนิติบุคคล และต้องมีสัดส่วนนิติบุคคลไทยรายเดียวหรือมากกว่าหนึ่งรายรวมกันในการร่วมค้ามากกว่าร้อยละ 50 โดยผู้เข้าร่วมค้าหลัก (Lead Firm) จะต้องมีสัดส่วนการร่วมค้ามากที่สุดและสัดส่วนนี้จะต้องไม่เปลี่ยนแปลงตลอดระยะเวลาโครงการ ซึ่งในวันยื่นเอกสารประกวดราคา จะต้องยื่นเอกสารข้อตกลงสำหรับการร่วมกันเป็นกิจการร่วมค้า

โดยต้องมีผลงานก่อสร้างทางรถไฟ(ก) ที่มีมูลค่าก่อสร้างในสัญญาเดียว ไม่น้อยกว่า4,313.85 ล้านบาท ซึ่งได้รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้วโดยสามารถนำผลงานก่อสร้างของผู้เข้าร่วมค้าหลัก (Lead Firm) เป็นผลงานของกิจการร่วมค้าได้และผู้เข้าร่วมค้ารายอื่น ๆ ของกิจการร่วมค้าทุกรายต้องมีผลงานอย่างน้อยอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้

ก) ผลงานก่อสร้างทางรถไฟ(ก) ที่มีมูลค่าก่อสร้างในสัญญาเดียวไม่น้อยกว่า 900 ล้านบาท ซึ่งได้รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว ข) ผลงานก่อสร้างงานโยธา(ข) ที่มีมูลค่าก่อสร้างในสัญญาเดียวไม่น้อยกว่า 900 ล้านบาท ซึ่งได้รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว เป็นต้น

นอกจากนี้ ผู้ยื่นข้อเสนอต้องยื่น้สนอผลิตภัณฑ์สำหรับ 3 ระบบหลักของงานอาณัติสัญญาณ ได้แก่ 1. ระบบบังคับสัมพันธ์ด้วยคอมพิวเตอร์ (Computer Based Interlocking: CBI System) 2. ระบบป้องกันเหตุอันตรายของขบวนรถโดยอัตโนมัติ (Automatic Train Protection: ATP) ตามมาตรฐาน European Train Control System (ETCS) Level 1 และ 3. ระบบควบคุมการเดินรถทางไกล (Centralized Traffic Control: CTC System)

พร้อมยื่นหนังสือรับรองผลการใช้งานผลิตภัณฑ์ประเภทเดียวกันกับผลิตภัณฑ์ที่ยื่นเสนอจากผู้ผลิตรายเดียวกันไม่น้อยกว่า 5 ปี หนังสือยืนยันจะจำหน่ายผลิตภัณฑ์ และหนังสือยืนยันการสำรองอะไหล่ และให้การสนับสนุนด้านเทคนิคสำหรับผลิตภัณฑ์ดังกล่าวแก่ รฟท. โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใด ๆ เป็นเวลาอย่างน้อย 20 ปี นับตั้งแต่วันเปิดให้บริการให้แก่โครงการฯ
สำหรับหลักเกณฑ์ที่จะพิจารณาโครงการ คือ จะมีหลักเกณฑ์การพิจารณา 6 หัวข้อ คะแนนรวม 100 คะแนน ผู้ที่จะผ่านการพิจารณาจะต้องได้คะแนนในแต่ละหัวข้อไม่ต่ำกว่า 75% ของคะแนนเต็ม จึงจะถือว่าผ่านการคัดเลือกข้อเสนอ


The State Railway of Thailand (SRT) has opened the bidding for the first route of 2nd phase of the double-track railway project between Khon Kaen and Nong Khai, covering 167 kilometers. The project has a budget of 28.72 billion baht. Interested parties must submit their proposals by August 20, 2024, with the contract expected to be signed by the end of 2024. Construction will begin in early 2025 and is anticipated to be completed by the end of 2027.

The project entails constructing an additional railway track alongside the existing one, realigning certain segments, and installing new signaling and telecommunications systems. The construction period is 36 months from the commencement date.

Bidders must meet specific criteria, including having previous railway construction experience worth at least 4.31 billion baht and being either a state-registered Thai entity or a credible private entity recognized by SRT. Joint ventures are permitted, provided the lead firm is a Thai entity with more than 50% participation.

Proposals must include plans for key signaling systems and offer long-term support and spare parts for at least 20 years. Evaluation criteria will cover six categories with a total of 100 points, and proposals must score at least 75% in each category to be considered.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 45690
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 22/06/2024 2:54 pm    Post subject: Reply with quote

จับตา! 20 ส.ค.นี้ เอกชนยื่นประมูลทางคู่เฟส 2 เส้นแรก “ขอนแก่น-หนองคาย” 2.8 หมื่นล้าน
เดลินิวส์ 22 มิถุนายน 2567 13:23 น.
นวัตกรรมขนส่ง

เปิดประมูลแล้ว! ทางคู่เฟส 2 เส้นแรก “ขอนแก่น-หนองคาย” 169 กม. 2.87 หมื่นล้าน ให้เอกชนยื่นซอง 20 ส.ค. นี้ ปักธงเปิดบริการปี 70 เชื่อม สปป.ลาว-จีน คาดปีแรกผู้โดยสารใช้บริการ 3,300 คนต่อวัน ขนส่งสินค้า 3.3 ล้านตัน

เอกชนยื่นซอง 20 ส.ค. นี้ ปักธงเปิดบริการปี 70 เชื่อม สปป.ลาว-จีน คาดปีแรกผู้โดยสารใช้บริการ 3,300 คนต่อวัน ขนส่งสินค้า 3.3 ล้านตัน

รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) แจ้งว่า ขณะนี้ฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง รฟท. ได้ออกประกาศรายละเอียดขอบเขตงาน (TOR) เรื่อง จ้างก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงขอนแก่น-หนองคาย ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) มีราคากลาง 28,719,940,000 ล้านบาท โดยเปิดให้ยื่นข้อเสนอ และเสนอราคาทางระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์ ในวันที่ 20 ส.ค. 67 ระหว่างเวลา 09.00-12.00 น. เบื้องต้นคาดว่าจะสามารถลงนามสัญญากับเอกชนผู้ชนะประมูลได้ในปลายปี 67 จากนั้นจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างทันที คาดว่าจะแล้วเสร็จ และเปิดบริการประมาณปี 70

รายงานข่าวแจ้งต่อว่า ผู้ยื่นข้อเสนอต้องมีคุณสมบัติ อาทิ ไม่อยู่ระหว่างเลิกกิจการ, ไม่เป็นบุคคลอยู่ระหว่างถูกระงับการยื่นข้อเสนอ หรือทำสัญญากับหน่วยงานรัฐ, ไม่เป็นบุคคลซึ่งถูกระบุชื่อไว้ในบัญชีรายชื่อผู้ทิ้งงาน, ต้องมีผลงานก่อสร้างประเภทเดียวกันกับงานที่ประกวดราคาจ้างก่อสร้างทางรถไฟ วงเงินไม่น้อยกว่า 4,313,850,000 บาท ซึ่งต้องเป็นผลงานที่เป็นคู่สัญญาโดยตรงกับหน่วยงานของรัฐ หรือหน่วยงานเอกชนที่ รฟท. เชื่อถือ และผู้ยื่นข้อเสนอที่เป็นกิจการร่วมค้า ต้องมีนิติบุคคลไทยที่จดทะเบียนตามกฎหมายไทยเป็นผู้เข้าร่วมค้าหลัก (Lead Firm) โดยสมาชิกทุกรายที่รวมตัวกันเป็นกิจการร่วมค้านั้นต้องเป็นนิติบุคคล และมีสัดส่วนนิติบุคคลไทยรายเดียว หรือมากกว่าหนึ่งรายรวมกันในการร่วมค้ามากกว่า 50% เป็นต้น

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า สำหรับรถไฟทางคู่ ช่วงขอนแก่น-หนองคาย ถือเป็นเส้นแรกใน 7 เส้นทางของโครงการรถไฟทางคู่ ระยะ (เฟส) ที่ 2 ที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 16 ต.ค. 66 และได้ดำเนินการเปิดประมูล โดยเส้นทางดังกล่าวมีระยะทาง 169 กิโลเมตร (กม.) ต่อจากรถไฟทางคู่จิระ-ขอนแก่น จุดเริ่มต้นโครงการที่ กม.454+000 ที่สถานีขอนแก่น และสิ้นสุดที่ กม.623+000 ที่สถานีหนองคาย ส่วนใหญ่เป็นทางระดับดิน ระยะทาง 159.5 กม. เป็นทางยกระดับ 2 แห่ง ระยะทาง 9.5 กม. มี 15 สถานี 2 ที่หยุดรถ โดยเป็นชานชาลาสูงทั้งหมด มีการก่อสร้างย่านกองเก็บตู้สินค้า (CY) 3 แห่ง ที่สถานีโนนสะอาด พื้นที่ขนาด 10,500 ตารางเมตร (ตร.ม.), สถานีหนองตะไก้ 21,750 ตร.ม. และสถานีนาทา 19,000 ตร.ม.

มีการก่อสร้างโรงซ่อมบำรุงเบาที่สถานีหนองคาย และยกเลิกจุดตัดทางรถไฟเสมอระดับทุกแห่ง และก่อสร้างสะพานรถยนต์ และทางรถยนต์ลอดใต้ทางรถไฟแทน โดยโครงการนี้มีการเวนคืนพื้นที่รวมประมาณ 184 ไร่ ค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินประมาณ 369 ล้านบาท ใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 36 เดือน หรือ 3 ปี อย่างไรก็ตาม คาดว่าในปีแรกของการเปิดให้บริการ ปริมาณผู้โดยสารจะอยู่ที่ประมาณ 3,300 คนต่อวัน และเพิ่มขึ้นเป็น 5,500 คนต่อวันในปีที่ 30 ขณะที่ปริมาณการขนส่งสินค้าอยู่ที่ประมาณ 3.30 ล้านตันต่อปีในปีแรก และเพิ่มขึ้นเป็น 4.20 ล้านตันในปีที่ 30 

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า รถไฟทางคู่ ช่วงขอนแก่น-หนองคาย มีเส้นทางเชื่อม 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดขอนแก่น, อุดรธานี และหนองคาย มีสถานีและที่หยุดรถ ประกอบด้วย สถานีขอนแก่น, สถานีสำราญ, สถานีโนนพยอม, ที่หยุดรถบ้านวังชัย, สถานีน้ำพอง, สถานีห้วยเสียว, สถานีเขาสวนกวาง, สถานีโนนสะอาด, สถานีห้วยเกิ้ง, สถานีกุมภวาปี, สถานีห้วยสามพาด, สถานีหนองตะไก้, ที่หยุดรถคำกลิ้ง, สถานีหนองขอนกว้าง, สถานีอุดรธานี, สถานีนาพู่, สถานีนาทา และสถานีหนองคาย ทั้งนี้ เส้นทางดังกล่าวจะทำให้โครงข่ายทางรางของประเทศไทยมีความสมบูรณ์มากขึ้น และสนับสนุนการขนส่งสินค้าทางรางระหว่างประเทศไทย, สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) และประเทศจีนด้วย


Attention! August 20: Private Sector Bids for Phase 2 of the First Dual-Track Railway "Khon Kaen - Nong Khai" 28 Billion Baht
Daily News June 22, 2024, 13:23 PM
Transportation Innovation


Bidding has opened for the Phase 2 double-track railway project, the first route "Khon Kaen - Nong Khai," spanning 169 km with a budget of 28.7 billion baht. Private sector bids are to be submitted on August 20, aiming to start service by 2027. This route will connect Thailand with Laos and China, with an expected initial daily ridership of 3,300 passengers and a freight capacity of 3.3 million tons annually.

The State Railway of Thailand (SRT) has announced the details and scope of the project (TOR) for the construction of the double-track railway from Khon Kaen to Nong Khai via electronic bidding. The project has a median price of 28,719,940,000 baht. Proposals and pricing must be submitted electronically on August 20, 2024, between 9:00 AM and 12:00 PM. The contract is expected to be signed with the winning bidder by the end of 2024, with construction commencing immediately and completing by 2027.

Bidders must meet several qualifications, including not being under business dissolution, not being barred from government contracts, and having a history of similar construction projects valued at no less than 4,313,850,000 baht. Joint ventures must have a lead Thai firm with more than 50% Thai ownership.

The Khon Kaen - Nong Khai double-track railway is the first of seven routes in Phase 2 of the dual-track railway project approved by the Cabinet on October 16, 2023. The 169 km route extends from the Chira Junction - Khon Kaen double-track, starting at Khon Kaen Station and ending at Nong Khai Station. It includes 159.5 km of at-grade track and 9.5 km of elevated track, with 15 stations and 2 halts. High platforms will be constructed, along with three container yards at Non Sa-at, Nong Takai, and Na Tha stations.

A maintenance depot will be built at Nong Khai Station. All level crossings will be eliminated, replaced by overpasses and underpasses. The project requires the expropriation of approximately 184 rai (29.4 hectares) of land, with a budget of 369 million baht for land acquisition. The construction period is 36 months (3 years).

In its first year, the railway is expected to serve about 3,300 passengers daily, increasing to 5,500 passengers per day by year 30. Freight transport is projected at 3.3 million tons annually initially, growing to 4.2 million tons by year 30.

The Khon Kaen - Nong Khai route will connect the provinces of Khon Kaen, Udon Thani, and Nong Khai. Stations and halts include Khon Kaen, Samran, Non Phayom, Ban Wang Chai Halt, Nam Phong, Huai Sio, Khao Suan Kwang, Non Sa-at, Huai Koeng, Kumphawapi, Huai Sam Phat, Nong Takai, Kham Kling Halt, Nong Khon Kwang, Udon Thani, Na Pue, Na Tha, and Nong Khai. This route will enhance Thailand’s rail network and support freight transport between Thailand, Laos, and China.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 45690
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 22/06/2024 7:40 pm    Post subject: Reply with quote

Lopburi-Saraburi Update [two city of paradise]
22 มิ.ย. 67 18:11
·
สถานีรถไฟลอยฟ้าทางคู่ "สถานีลพบุรี 2" เลี่ยงเมืองลพบุรี โพตลาดแก้ว (มิ.ย.2567) ตัวสถานีเริ่มเป็นรูปเป็นร่างกันแล้ว
มีหลังคาคลุมแดดฝน ลิฟท์ บันไดเลื่อน ห้องน้ำ🚻♿️
ชั้น 1 จอดรถรับส่ง🚗 ชั้น 2 ขายตั๋ว🎫 ชั้น 3 ชานชลา🚉
Cr. Samart Chiengkor

https://www.facebook.com/LopburiSaraburiUpdate/posts/898228835679262

The elevated double-track railway station "Lopburi 2 Station" Lopburi city bypass, Pho Talat Kaew (June 2024) The station is starting to take shape.

It has a roof covering for sun and rain, elevators, escalators, and restrooms 🚻♿️

Level 1: Pick-up and drop-off 🚗 Level 2: Ticket sales 🎫 Level 3: Platform 🚉

Cr. Samart Chiengkor
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43067
Location: NECTEC

PostPosted: 22/06/2024 11:06 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
จับตา! 20 ส.ค.นี้ เอกชนยื่นประมูลทางคู่เฟส 2 เส้นแรก “ขอนแก่น-หนองคาย” 2.8 หมื่นล้าน
เดลินิวส์ วันเสาร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2567 เวลา 13:23 น.
นวัตกรรมขนส่ง

รฟท.เปิดประมูลทางคู่เฟส 2 สายแรก”ขอนแก่น-หนองคาย”2.87 หมื่นล้าน ยื่นซอง 20 ส.ค.นี้ ลุยโยธาติดตั้งระบบ 3 ปี เปิดบริการปี 70
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันศุกร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2567 เวลา 18:40 น.
ปรับปรุง: วันศุกร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2567 เวลา 19:01 น.

รฟท.เปิดประมูลก่อสร้างรถไฟทางคู่เฟส 2 สายแรก ช่วงขอนแก่น-หนองคาย 167 กม. ราคากลาง 28,719.94 ล้านบาท กำหนดยื่นซองขายซอง 20 ส.ค.67 คาดเซ็นสัญญาปลายปี 67 ลุยก่อสร้าง 3 ปี เปิดบริการปี 70

รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า วันนี้ (21 มิ.ย.67) นายจเร รุ่งฐานีย รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย รักษาการในตำแหน่ง ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ลงนามออกประกาศประกวดราคาจ้างก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงขอนแก่น-หนองคาย ด้วยวิธีประกวดราคา.อิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ราคากลาง 28,719.94 ล้านบาท โดยกำหนดยื่นข้อเสนอ วันที่ 20 สิงหาคม 2567 เวลา09.00-12.00 น. และคาดว่าจะสรุปได้ตัวผู้รับจ้างภายในเดือนตุลาคม 2567 ลงนามสัญญาปลายปี 2567 เริ่มก่อสร้างต้นปี 2568 ระยะเวลาก่อสร้าง 36 เดือน แล้วเสร็จเปิดบริการ ปลายปี 2570



โดยโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงขอนแก่น-หนองคาย ระยะทาง 167 กม. โดยเป็นการก่อสร้างทางรถไฟเพิ่มอีก 1 ทางขนานไปกับทางรถไฟเดิม และปรับแนวเส้นทางใหม่บางส่วน พร้อมติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณและระบบโทรคมนาคมตลอดสายทาง กำหนดระยะเวลาส่งมอบ 1,080 วัน นับถัดจากวันที่ รฟท.แจ้งให้เริ่มงาน

สำหรับ TOR กำหนดคุณสมบัติของผู้ยื่นข้อเสนอ ต้องมีผลงานก่อสร้างประเภทเดียวกันกับงานที่ประกวดราคาจ้างก่อสร้างทางรถไฟในวงเงินไม่น้อยกว่า 4,313.85 ล้านบาท และต้องเป็นงานที่เป็นคู่สัญญากับหน่วยงานรัฐโดยตรง หรือหน่วยงานเอกชนที่ รฟท.เชื่อถือ

กรณีเป็นนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยซึ่งได้จดทะเบียนเกินกว่า 1 ปีกำหนดให้มีมูลค่าสุทธิของกิจการจากผลต่างระหว่างสินทรัพย์สุทธิหักด้วยหนี้สินสุทธิที่ที่ปรากฎในงบแสดงฐานะทางการเงิน ซึ่งต้องมีค่าเป็นบวก 1 ปีสุดท้ายก่อนยื่นข้อเสนอ กรณีผู้ยื่นข้อเสนอเป็นนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย ซึ่งยังไม่มีการรายงานงบแสดงฐานะการเงินกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ให้พิจารณาการกำหนดมูลค่าของทุนจดทะเบียน โดยผู้ยื่นข้อเสนอจะต้องมีทุนจดทะเบียนที่เรียกชำระมูลค่าหุ้นแล้ว ณ วันที่ยื่นข้อเสนอ ไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท เป็นต้น

กรณีผู้ยื่นข้อเสนอที่เป็นนิติบุคคลรายเดียว ต้องเป็นนิติบุคคลไทยที่จดทะเบียนตามกฎหมายไทยต้องมีผลงานก่อสร้างทางรถไฟ(ก) ที่มีมูลค่าก่อสร้างในสัญญาเดียว ไม่น้อยกว่า 4,313.85 ล้านบาท ซึ่งได้รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว

กรณีผู้ยื่นข้อเสนอที่เป็นกิจการร่วมค้า ต้องมีนิติบุคคลไทยที่จดทะเบียนตามกฎหมายไทยป็นผู้เข้าร่วมค้าหลัก (Lead Firm) โดยสมาชิกทุกรายที่รวมตัวกันเป็นกิจการร่วมค้านั้นต้องเป็นนิติบุคคล และต้องมีสัดส่วนนิติบุคคลไทยรายเดียวหรือมากกว่าหนึ่งรายรวมกันในการร่วมค้ามากกว่าร้อยละ 50 โดยผู้เข้าร่วมค้าหลัก (Lead Firm) จะต้องมีสัดส่วนการร่วมค้ามากที่สุดและสัดส่วนนี้จะต้องไม่เปลี่ยนแปลงตลอดระยะเวลาโครงการ ซึ่งในวันยื่นเอกสารประกวดราคา จะต้องยื่นเอกสารข้อตกลงสำหรับการร่วมกันเป็นกิจการร่วมค้า

โดยต้องมีผลงานก่อสร้างทางรถไฟ(ก) ที่มีมูลค่าก่อสร้างในสัญญาเดียว ไม่น้อยกว่า4,313.85 ล้านบาท ซึ่งได้รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้วโดยสามารถนำผลงานก่อสร้างของผู้เข้าร่วมค้าหลัก (Lead Firm) เป็นผลงานของกิจการร่วมค้าได้และผู้เข้าร่วมค้ารายอื่น ๆ ของกิจการร่วมค้าทุกรายต้องมีผลงานอย่างน้อยอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้

ก) ผลงานก่อสร้างทางรถไฟ(ก) ที่มีมูลค่าก่อสร้างในสัญญาเดียวไม่น้อยกว่า 900 ล้านบาท ซึ่งได้รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว ข) ผลงานก่อสร้างงานโยธา(ข) ที่มีมูลค่าก่อสร้างในสัญญาเดียวไม่น้อยกว่า 900 ล้านบาท ซึ่งได้รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว เป็นต้น

นอกจากนี้ ผู้ยื่นข้อเสนอต้องยื่น้สนอผลิตภัณฑ์สำหรับ 3 ระบบหลักของงานอาณัติสัญญาณ ได้แก่ 1. ระบบบังคับสัมพันธ์ด้วยคอมพิวเตอร์ (Computer Based Interlocking: CBI System) 2. ระบบป้องกันเหตุอันตรายของขบวนรถโดยอัตโนมัติ (Automatic Train Protection: ATP) ตามมาตรฐาน European Train Control System (ETCS) Level 1 และ 3. ระบบควบคุมการเดินรถทางไกล (Centralized Traffic Control: CTC System)

พร้อมยื่นหนังสือรับรองผลการใช้งานผลิตภัณฑ์ประเภทเดียวกันกับผลิตภัณฑ์ที่ยื่นเสนอจากผู้ผลิตรายเดียวกันไม่น้อยกว่า 5 ปี หนังสือยืนยันจะจำหน่ายผลิตภัณฑ์ และหนังสือยืนยันการสำรองอะไหล่ และให้การสนับสนุนด้านเทคนิคสำหรับผลิตภัณฑ์ดังกล่าวแก่ รฟท. โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใด ๆ เป็นเวลาอย่างน้อย 20 ปี นับตั้งแต่วันเปิดให้บริการให้แก่โครงการฯ
สำหรับหลักเกณฑ์ที่จะพิจารณาโครงการ คือ จะมีหลักเกณฑ์การพิจารณา 6 หัวข้อ คะแนนรวม 100 คะแนน ผู้ที่จะผ่านการพิจารณาจะต้องได้คะแนนในแต่ละหัวข้อไม่ต่ำกว่า 75% ของคะแนนเต็ม จึงจะถือว่าผ่านการคัดเลือกข้อเสนอ
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 45690
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 23/06/2024 1:04 pm    Post subject: Reply with quote

ปิดจ๊อบลงทุนระบบราง 2.7 แสนล้าน 3 โปรเจ็กต์ 'รถไฟทางคู่' ล็อตสุดท้าย
Source - กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
Sunday, June 23, 2024 06:14

การรถไฟฯ ปิดจ๊อบลงทุน "รถไฟทางคู่เฟส 2" ผลักดันครบ 7 เส้นทาง เม็ดเงินลงทุนรวมกว่า 2.7 แสนล้านบาท นำร่องเปิดประมูล "ขอนแก่น - หนองคาย" ยื่นข้อเสนอ 20 ส.ค.นี้

คณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา มีมติอนุมัติดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 จำนวน 3 เส้นทาง ระยะทาง 678 กิโลเมตร วงเงินลงทุนรวม 164,915.18 ล้านบาท ประกอบด้วย

1.ช่วงชุมพร - สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 168.2 กิโลเมตร วงเงิน 30,422.53 ล้านบาท

2.ช่วงสุราษฎร์ธานี – สงขลา ระยะทาง 321 กิโลเมตร วงเงิน 66.270.51 ล้านบาท

3.ช่วงเด่นชัย - เชียงใหม่ ระยะทาง 189 กิโลเมตร วงเงิน 68,222.14 ล้านบาท

โดยการอนุมัติ 3 โครงการรถไฟทางคู่ครั้งนี้ เรียกได้ว่าปิดจ๊อบเมกะโปรเจ็กต์ภายใต้แผนลงทุนรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 เนื่องจากตามแผนดังกล่าวมี 7 เส้นทาง วงเงินลงทุนรวม 2.7 แสนล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้ ร.ฟ.ท. เสนอผ่านบอร์ดไปแล้วจำนวน 4 เส้นทาง สถานะล่าสุดเมื่อวันที่ 21 มิ.ย.2567 ร.ฟ.ท. ได้ประกาศรายละเอียดประกวดราคาจ้างก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงขอนแก่น - หนองคาย ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ราคากลาง 28,719.94 ล้านบาท

ทั้งนี้ กำหนดยื่นข้อเสนอ วันที่ 20 ส.ค.2567 เวลา 09.00 - 12.00 น. และคาดว่าจะสรุปได้ตัวผู้รับจ้างภายในเดือน ต.ค. 2567 พร้อมทั้งจะเร่งรัดลงนามสัญญาปลายปี 2567 เพื่อเริ่มก่อสร้างต้นปี 2568 โดยจะใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 36 เดือน โครงการทางคู่สายขอนแก่น – หนองคาย จึงจะเปิดให้บริการปลายปี 2570 เพิ่มโครงข่ายรถไฟทางคู่ในระยะทาง 167 กิโลเมตร

ขณะที่แผนดำเนินงานของ 3 โครงการรถไฟทางคู่ที่เพิ่งผ่านการพิจารณาจากบอร์ด ร.ฟ.ท.นั้น เตรียมจัดทำรายงานโครงการไปยังกระทรวงคมนาคมภายในเดือน มิ.ย.นี้ หลังจากนั้นจะสอบถามความเห็นไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เพื่อพิจารณาความเหมาะสมของแหล่งเงินทุนในการดำเนินงาน โดยอาจเป็นแหล่งเงินกู้ในประเทศ หรือต่างประเทศ รวมทั้งการจัดใช้งบประมาณประจำปี

ทั้งนี้ ร.ฟ.ท.คาดการณ์แผนดำเนินโครงการเบื้องต้น จะสามารถเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาอนุมัติโครงการในช่วงเดือน ก.ค. - ต.ค. 2567 หลังจากนั้นจะออก พรฎ.เวนคืนที่ดิน ระหว่างเดือน พ.ย.2567 - ส.ค.2568 ก่อนเริ่มดำเนินการสำรวจและประเมินราคาอสังหาริมทรัพย์ให้แล้วเสร็จภายใน พ.ค.2568 และเริ่มกระบวนการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินในเดือน มิ.ย.2569 - พ.ค.2570

โดยขั้นตอนดำเนินโครงการเหล่านี้ ร.ฟ.ท.จะเดินหน้าไปพร้อมกับกระบวนการจัดทำร่างเอกสารประกวดราคา (TOR) เพื่อจัดหาผู้รับเหมาก่อสร้างงานโยธา เบื้องต้นกำหนดว่าจะเริ่มจัดทำ TOR ในช่วงเดือน พ.ย.2567 และประกวดราคาแล้วเสร็จในเดือน พ.ค.2568 หลังจากนั้นจะเร่งรัดให้ผู้รับเหมาเริ่มงานก่อสร้างโครงการทันทีในเดือน มิ.ย.2568 โดยโครงการจะใช้เวลาก่อสร้างราว 5 – 6 ปีแล้วเสร็จเปิดให้บริการในปี 2574

Click on the image for full size

Closing Investment on 270 Billion Baht Rail System: Final Three 'Double-Track Railway' Projects

Source: Krungthep Turakij Online
Date: Sunday, June 23, 2024, 06:14


The State Railway of Thailand (SRT) has concluded its investment in "Double-Track Railway Phase 2," encompassing seven routes with a total investment of over 270 billion baht. The initial bidding will open for the "Khon Kaen - Nong Khai" section, with proposals due by August 20.

On June 19, the SRT Board approved the construction of three double-track railway routes in Phase 2, totaling 678 kilometers with an investment of 164.91518 billion baht. The routes are:
    1. Chumphon - Surat Thani: 168.2 kilometers, 30.42253 billion baht.
    2. Surat Thani - Hat Yai Junction - Songkhla: 321 kilometers, 66.27051 billion baht.
    3. Den Chai - Chiang Mai: 189 kilometers, 68.22214 billion baht.
This approval completes the mega project under the Double-Track Railway Phase 2 investment plan, which includes seven routes with a total investment of 270 billion baht. Previously, the SRT had proposed and received approval for four routes. As of June 21, 2024, the SRT has announced details for the e-bidding process for the Khon Kaen - Nong Khai double-track railway project, with a central budget of 28.71994 billion baht.

Proposals are to be submitted by August 20, 2024, from 09:00 to 12:00. The contractor selection is expected by October 2024, with contract signing by the end of 2024. Construction is slated to begin in early 2025, taking 36 months to complete, with the Khon Kaen - Nong Khai route operational by the end of 2027, adding 167 kilometers to the double-track network.

For the three newly approved projects, the SRT will prepare project reports for the Ministry of Transport by June. Opinions will be solicited from relevant agencies, especially the National Economic and Social Development Council (NESDC), to determine suitable funding sources, possibly through domestic or foreign loans or annual budgets.

The SRT anticipates submitting the preliminary project plans to the Cabinet for approval between July and October 2024. A royal decree for land expropriation is expected between November 2024 and August 2025, followed by property surveys and appraisals by May 2025. Land acquisition will proceed from June 2025 to May 2027.

Simultaneously, the SRT will draft the Terms of Reference (TOR) for civil construction contracts, starting in November 2024, with bidding completion by May 2025. Construction will begin immediately in June 2025, expected to take 5-6 years, with project completion and service commencement by 2031.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 45690
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 23/06/2024 1:55 pm    Post subject: Reply with quote

ทางคู่ พลิกโฉม "รถไฟ" | เนชั่นสุดสัปดาห์ | NationTV22
Jun 22, 2024


https://www.youtube.com/watch?v=yU0qeqi216M

Double Track: Transforming the "Railway"

ในคลิปวิดีโอ "ทางคู่ พลิกโฉมรถไฟ" มีการกล่าวถึงโครงการพัฒนารถไฟทางคู่ในประเทศไทย ที่มุ่งเน้นการปรับปรุงและขยายระบบรางเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งและลดระยะเวลาเดินทาง โครงการนี้เป็นการลงทุนใหญ่ที่คาดว่าจะมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาการขนส่งของประเทศ ซึ่งรวมถึงการสร้างเส้นทางรถไฟทางคู่ใหม่และการปรับปรุงเส้นทางที่มีอยู่แล้ว โดยมีเป้าหมายให้สามารถรองรับปริมาณผู้โดยสารและสินค้าที่เพิ่มขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

รายละเอียดสำคัญที่ได้จากคลิปคือ:
1. การก่อสร้างรถไฟทางคู่ในหลายเส้นทางสำคัญ เช่น สายใต้ (นครปฐม-ชุมพร) และสายอีสาน (มาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ) ซึ่งคาดว่าจะช่วยลดเวลาเดินทางและเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้โดยสาร
2. โครงการนี้เป็นการลงทุนมหาศาล โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งทางราง ลดปัญหาการจราจร และสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจของภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศ
3. มีการคาดการณ์ว่าการเปิดใช้งานรถไฟทางคู่จะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นในภาคขนส่ง


The video "Double Track: Transforming the Railway" discusses Thailand's double-track railway development project, focusing on enhancing and expanding the rail system to improve transportation efficiency and reduce travel time. This major investment is expected to play a crucial role in the country's transportation development by constructing new double-track routes and upgrading existing ones, aiming to handle increased passenger and freight volumes more effectively.

Key points from the video include:
1. Construction of double-track railways on significant routes, such as the southern line (Nakhon Pathom to Chumphon) and the northeastern line (Map Kabao to Chira Junction), which are expected to reduce travel time and improve passenger convenience.
2. The project involves substantial investment, aiming to boost rail transport efficiency, alleviate traffic congestion, and support regional economic development across the country.
3. It is anticipated that the operation of double-track railways will reduce carbon dioxide emissions and promote more efficient energy use in the transport sector.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 45690
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 24/06/2024 9:54 pm    Post subject: Reply with quote

โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ
24 มิ.ย. 67 20:32 น.

อัพเดตความก้าวหน้าโครงการ เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2567
สัญญาที่ 1 ช่วงบ้านกลับ-โคกกะเทียม
(ทางรถไฟยกระดับ)
ความก้าวหน้าสะสม = 92.82%
แผนงานสะสม = 99.14%
ช้ากว่าแผน = -6.32%

https://www.facebook.com/lopburipaknampho/posts/850987396946662


โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ
24 มิ.ย. 67 20:37 น.

อัพเดตความก้าวหน้าโครงการ เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2567
สัญญาที่ 2 ช่วงท่าแค-ปากน้ำโพ
ความก้าวหน้าสะสม = 85.12 %
แผนงานสะสม = 98.49 %
ช้ากว่าแผนงาน = -13.37 %

https://www.facebook.com/lopburipaknampho/posts/850990676946334


โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ
24 มิ.ย. 67 20:40 น.
·
อัพเดตความก้าวหน้าโครงการ เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2567
สัญญาที่ 3 งานระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม (ST8)
ความก้าวหน้าสะสม = 41.68%
แผนงานสะสม = 100.00%
ช้ากว่าแผนงาน = -58.32%

https://www.facebook.com/lopburipaknampho/posts/850992873612781


Double-Track Railway Construction Project: Lopburi-Pak Nam Pho Section
June 24, 2024, 8:32 PM

Project Progress Update: May 2024

Contract 1: Ban Klap-Khok Kathiam Section
(Elevated Railway)
Cumulative progress = 92.82%
Planned progress = 99.14%
Delay = -6.32%

https://www.facebook.com/lopburipaknampho/posts/850987396946662


Double-Track Railway Construction Project: Lopburi-Pak Nam Pho Section
June 24, 2024, 8:37 PM

Project Progress Update: May 2024

Contract 2: Tha Khae-Pak Nam Pho Section
Cumulative progress = 85.12%
Planned progress = 98.49%
Delay = -13.37%

https://www.facebook.com/lopburipaknampho/posts/850990676946334


Double-Track Railway Construction Project: Lopburi-Pak Nam Pho Section
June 24, 2024, 8:40 PM

Project Progress Update: May 2024

Contract 3: Signaling and Telecommunication Systems (ST8)
Cumulative progress = 41.68%
Planned progress = 100.00%
Delay = -58.32%

https://www.facebook.com/lopburipaknampho/posts/850992873612781
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 45690
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 25/06/2024 7:45 am    Post subject: Reply with quote

ชาวโคราชรวมพลังย้ำจุดยืนรบ.ต้องสร้างรถไฟทางคู่ผ่านเมืองลดผลกระทบอนาคต
Source - เว็บไซต์สยามรัฐ
Monday, June 24, 2024 16:38

ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า จากกรณีนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม เป็นประธานการประชุมร่วมกับนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม ส.ส เขต จ.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย (พท.) และพรรคก้าวไกล (กก.) นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผวจ.นครราชสีมา ผู้แทนภาคเอกชนในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา เพื่อหาแนวทางและข้อสรุปการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพมหานคร-นครราชสีมา และรถไฟทางคู่ มาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ช่วงผ่านตัวเมืองนครราชสีมา หากทุบสะพานสีมาธานี จะส่งผลให้ประชาชนไม่ได้รับความสะดวกในการสัญจรและก่อนเริ่มดำเนินการต้องทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) รวมทั้งการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงและทางคู่ ต้องล่าช้าไปด้วย

โดยมีการชี้แจงและทำความเข้าใจถึงความเป็นไปได้และความเหมาะสม 2 แนวทาง ดังนี้ 1.ก่อสร้างทางรถไฟยกระดับลอดใต้สะพานสีมาธานีจะมีช่วงที่รถไฟลดระดับลงลอดใต้สะพานแล้วไต่ขึ้นไปเป็นทางยกระดับ ระยะทางประมาณ 1,600 เมตร โดยไม่ต้องทุบสะพาน 2.ก่อสร้างทางยกระดับข้ามสะพานสีมาธานี แนวทางนี้ทำให้รถไฟต้องไต่ระดับเพื่อยกข้ามสะพานไม่สามารถลดระดับหยุดที่สถานีนครราชสีมาได้ เนื่องจากระยะทางไม่เพียงพอ อาจต้องย้ายสถานีไปอยู่ที่เหมาะสมหรือวิ่งผ่านสถานีไปก่อน ถึงจะค่อยๆลดระดับเข้าสู่สถานีชุมทางถนนจิระที่อยู่ห่างจากสถานีนครราชสีมา ประมาณ 2.6 กิโลเมตรและอาจส่งผลกระทบกับรถไฟความเร็วสูงที่ต้องหยุดที่สถานีนครราชสีมาอีกด้วย แต่เป็นรูปแบบขัดแย้งกับฉันทานุมัติทุกภาคส่วนของชาวโคราชและมติคณะอนุกรรมการจัดการจราจรทางบก (อจร.) นครราชสีมา เห็นชอบให้ปรับรูปแบบสร้างทางรถไฟยกระดับผ่านเมืองและทุบสะพานสีมาธานีรวมทั้งช่วงผ่านกองทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรนารี มีความสูงเกิน 5 เมตร ให้รถยนต์ขนาดใหญ่สามารถลอดผ่านได้สะดวก เพื่อลดผลกระทบต่อวีถีชีวิตในอนาคตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำให้ที่ประชุมไม่ได้ข้อยุติ

ด้านนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม ได้สอบถามข้อมูลในพื้นที่หากเป็นทางลอดใต้สะพาน ประชาชนไม่ยอมรับและเกิดปัญหาแน่ ถ้ายกระดับรถไฟทางคู่อยู่ระดับเดียวกับรถไฟความเร็วสูง ประชาชนยอมรับได้ จึงรับข้อเสนอของที่ประชุมมาพิจารณาและมอบหมายให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ดำเนินการออกแบบเป็นภาพกราฟิกทั้ง 2 แนวทางและระดับความสูงของแต่ละตอม่อที่ยกระดับผ่าน เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนสามารถนำไปสื่อสารทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ต่อไปยืนยันไม่ล่าช้าเป็นไปตามกระบวนการและกระทรวงคมนาคมยึดถือสิ่งที่ประชาชนเรียกร้องก็จะตอบสนองในทุกมิติ

ล่าสุดวันที่ 24 มิถุนายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ที่ห้องประชุมมูลนิธิหลักเสียงเซี่ยงตึ๊ง สว่างเมตตาธรรมสถานโคราช นายสุรวุฒิ เชิดชัย อดีตนายกเทศมนตรีนคร (ทน.) นครราชสีมา ในฐานะกรรมการบริษัท รถไฟฟ้า รฟท. จำกัด พร้อมนายชัยวัฒน์ วงศ์เบญจรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหอการค้านครราชสีมา จัดเวทีชี้แจงและความคืบหน้ารูปแบบการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงผ่านตัวเมือง กรณีทางระดับพื้นและยกระดับให้กับผู้ประกอบการค้าและภาคประชาชนให้ความสนใจมาร่วมกิจกรรมหลาย 100 คน เนื่องจากเห็นตัวอย่างทางรถไฟระดับดินแล้วสร้างสะพานเกือกม้าหรือทางลอดผ่านได้สร้างปัญหาความเดือดร้อนให้กับสองฝั่งรถไฟทางคู่ ชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น

โดย นายสุรวุฒิ กล่าวว่า ภาคเอกชนมีมติให้รถไฟทางคู่ยกระดับผ่านเมืองตลอดเส้นทางในระยะทาง 5 กิโลเมตร เพื่อผลลดกระทบและปัญหาอุปสรรคทางข้ามทางรถไฟที่เป็นจุดตัดทางเชื่อมชุมชน รูปแบบที่ รฟท.นำเสนอจะส่งผลกระทบต่อสภาวะเศรษฐกิจหลายประเด็น ดังนี้ 1. ทัศนีย์ภาพของเส้นทางเข้าสู่ตัวเมือง หากยกระดับระบบการเชื่อมโยงการคมนาคมกับเส้นทางรถไฟความเร็วสูงและไม่ปิดกั้นการเชื่อมโยงเส้นทาง จะทำให้ภาพรวมของเมืองดีขึ้น 2.บริเวณสี่แยกอัมพวันใต้สะพานสีมาธานีก่อสร้างปี 2508 และต่อเติมแล้วเสร็จปี 2530 ส่งผลกระทบธุรกิจการค้าขายซบเซา คนในพื้นที่ยอมรับเพื่อส่วนรวมและความเจริญของเมือง ขณะนี้เรากำลังมีสิ่งใหม่เข้ามา หากมีสะพานประกอบกับรถไฟทางคู่มาลอดใต้สะพานจะทำให้บริเวณดังกล่าวเป็นเครื่องหมายบวกปิดกั้นแนวเขตทางทั้งหมดในรัศมี 1.6 ตารางกิโลเมตร ส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจเงียบเหงาซบเซามากกว่าเดิม ดังนั้นการยกระดับให้ลอยข้ามเมืองไป ทำให้ชุมชนดำรงชีพได้อย่างปกติ เศรษฐกิจจะเติบโต

ส่วน 3.ผลกระทบการระบายน้ำท่วม หากยกระดับรถไฟทางคู่ จะสามารถบริหารจัดการพื้นที่ใต้รางรถไฟให้การระบายน้ำมีประสิทธิภาพมากกว่าทางระดับดิน 4.ต้นทุนการเสียเวลาและสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงในการเดินทาง การใช้ชีวิตไปมาหาสู่กันต้องเพิ่มระยะทางจากเดิม ข้อมูล การสัญจรผ่านถนนสืบศิริ มีปริมาณยานพาหนะวันละ 20,000 คัน ในอนาคตมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ซึ่งงบทุบสะพานประมาณ 400 ล้านบาท และก่อสร้างทางลอด 800 ล้านบาท รวมเป็น 1.2 พันล้านบาท หากเปรียบเทียบกับชาวโคราชต้องอยู่กับรถไฟ การลงทุนคุ้มค่าในระยะยาว ดังนั้นการยกระดับรถไฟทางคู่เป็นสิ่งจำเป็นและสำคัญสำหรับเมืองในอนาคต

นายชัยวัฒน์ ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้เป็นการสร้างความสมดุลระหว่างภาครัฐและความต้องการของประชาชนที่ยังสับสนทางรถไฟยกระดับและการทุบสะพานสีมามีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้าง ตนในฐานะผู้แทนภาคเอกชนได้เข้าร่วมประชุมกับกระทรวงคมนาคมมาตลอด วันที่ 15 มิ.ย ที่ผ่านมา รมว.คมนาคม ให้นโยบายสนับสนุนดำเนินการตามความต้องการของชาวโคราช สิ่งที่รอคอยต้องการเห็นแบบตัวจริง ที่ผ่านมามีแต่กราฟิกและปรับแบบมาตลอดจึงเกิดความไม่เข้าใจ ทั้งนี้ทางรถไฟผ่านตัวเมืองโคราชในอนาคตต้องอยู่กันเป็น 100 ปี เราจึงออกมาเคลื่อนไหวให้รัฐบาลดำเนินการตามมติทุกภาคส่วน

Korat residents unite to reiterate their stance that the double-track railway must be elevated through the city to mitigate future impacts.

Source - Siamrath website
Monday, June 24, 2024 16:38


Reporters reported that Mr. Surapong Piyachoti, Deputy Minister of Transport, chaired a meeting with Mr. Prasert Chanthararuangthong, Minister of Digital Economy and Society, Ms. Sudawan Wangsuphakitkosol, Minister of Culture, MPs from Nakhon Ratchasima Province, Pheu Thai Party (PTP) and Move Forward Party (MFP), Mr. Chayawut Chuenkosum, Governor of Nakhon Ratchasima, and representatives of the private sector in Nakhon Ratchasima Province. The meeting aimed to find solutions and conclusions regarding the construction of the Bangkok-Nakhon Ratchasima high-speed railway and the Mab Ka Bao-Chum Tang Thanon Chira double-track railway through Nakhon Ratchasima city. If the Sima Thani Bridge is demolished, it will cause inconvenience to the public and delay the Environmental Impact Assessment (EIA) process, as well as the construction of the high-speed railway and double-track railway.

There were explanations and discussions about the feasibility and suitability of two approaches:

1. Constructing an elevated railway under the Sima Thani Bridge, with a section where the railway descends under the bridge and then climbs back up to an elevated track, for a distance of approximately 1,600 meters, without the need to demolish the bridge.

2. Constructing an elevated railway over the Sima Thani Bridge, which would require the railway to climb to cross the bridge and be unable to stop at Nakhon Ratchasima Station due to insufficient distance. This approach might necessitate relocating the station to a suitable location or bypassing the station before gradually descending to Chum Tang Thanon Chira Station, located about 2.6 kilometers from Nakhon Ratchasima Station. This could also impact the high-speed railway, which needs to stop at Nakhon Ratchasima Station. However, this approach conflicts with the consensus of all sectors in Korat and the resolution of the Nakhon Ratchasima Land Traffic Management Subcommittee (LTMC), which agreed to adjust the design to elevate the railway through the city and demolish the Sima Thani Bridge, including the section passing the 2nd Army Area, Suranaree Camp, with a height exceeding 5 meters to allow large vehicles to pass through conveniently, to mitigate the inevitable impact on future lifestyles. As a result, the meeting did not reach a conclusion.

Mr. Suriya Juangroongruangkit, Minister of Transport, inquired about the situation in the area, stating that if the railway goes under the bridge, the public will not accept it and problems will arise. If the double-track railway is elevated to the same level as the high-speed railway, the public will accept it. Therefore, he took the meeting's proposal into consideration and assigned the State Railway of Thailand (SRT) to design graphic representations of both approaches and the height of each elevated pier to provide a clear picture for communicating and explaining to the public in the area. He confirmed that there will be no delays, as the process will proceed according to the Ministry of Transport's commitment to respond to the public's demands in all aspects.

On June 24, 2024, reporters reported that at the meeting room of the Hlaksiangsiengting Sawang Metta Thammachart Korat Foundation, Mr. Surawut Cherdshe, former Mayor of Nakhon Ratchasima and a board member of SRT Electrified Train Co., Ltd., along with Mr. Chaiyawat Wongbencharat, Chief Advisor of the Nakhon Ratchasima Chamber of Commerce, organized a forum to clarify and provide updates on the design of the double-track railway through the city, in the case of ground-level and elevated tracks. The event was attended by hundreds of business operators and members of the public who were interested in the issue, as they had seen examples of ground-level railways with horseshoe bridges or underpasses causing problems and difficulties for both sides of the Chum Tang Thanon Chira-Khon Kaen double-track railway.

Mr. Surawut stated that the private sector has agreed to elevate the double-track railway through the city along the entire 5-kilometer route to mitigate impacts and problems with railway crossings at community intersections. The design proposed by the SRT will impact the economy in several aspects:

1. The landscape of the entrance to the city. If the railway is elevated, the connectivity with the high-speed railway and the absence of barriers will improve the overall image of the city.
2. The area of Amphawan Intersection under the Sima Thani Bridge, built in 1965 and completed in 1990, has resulted in a decline in business and trade. People in the area have accepted it for the common good and the development of the city. Now, we are facing new developments. If there is a bridge combined with a double-track railway passing under it, the area will become a plus sign, blocking all areas within a 1.6 square kilometer radius, causing more economic stagnation than before. Therefore, elevating the railway to bypass the city will allow the community to live normally and the economy to grow.

3. The impact of flooding. If the double-track railway is elevated, the area under the railway can be managed for more efficient drainage than at ground level.
4. The cost of time and fuel consumption for travel. Commuting and visiting each other will require longer distances than before. Data shows that there are 20,000 vehicles passing through Suebsiri Road per day, with a tendency to increase in the future. The budget for demolishing the bridge is about 400 million baht, and the construction of the underpass is 800 million baht, totaling 1.2 billion baht. If compared to the people of Korat having to live with the railway, the investment is worthwhile in the long run. Therefore, elevating the double-track railway is necessary and important for the city in the future.

Mr. Chaiyawat stated in an interview that today is about creating a balance between the government and the needs of the people who are still confused about the elevated railway and the demolition of the Sima Thani Bridge, and what the advantages and disadvantages are. As a representative of the private sector, he has been attending meetings with the Ministry of Transport. On June 15th, the Minister of Transport gave a policy to support the implementation according to the needs of the people of Korat. What they are waiting for is to see the actual design, as there have only been graphics and modifications in the past, leading to misunderstandings. The railway passing through Korat city will be there for 100 years, so they have come out to urge the government to proceed according to the consensus of all sectors.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43067
Location: NECTEC

PostPosted: 26/06/2024 12:03 pm    Post subject: Reply with quote

ประมูลแล้ว ‘ขอนแก่น-หนองคาย’ รถไฟทางคู่เส้นแรกของเฟส 2
ไลน์ทาง
โดย นายสปีด
25 มิถุนายน 2567 เวลา 08:00 น.

ประกาศจ้างก่อสร้างแล้วสำหรับโครงการรถไฟทางคู่ช่วงขอนแก่น-หนองคาย ราคากลาง 28,719,940,000 ล้านบาท รถไฟทางคู่เส้นแรกในจำนวน 7 เส้นทางของโครงการรถไฟทางคู่ ระยะ(เฟส) ที่ 2 การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดให้เสนอราคาทางระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์(e-bidding) วันที่ 20 ส.ค. 2567 เวลา 09.00-12.00 น.


ผู้ยื่นข้อเสนอต้องมีคุณสมบัติ อาทิ ไม่อยู่ระหว่างเลิกกิจการ, ไม่เป็นบุคคลอยู่ระหว่างถูกระงับการยื่นข้อเสนอ หรือทำสัญญากับหน่วยงานรัฐ, ไม่เป็นบุคคลซึ่งถูกระบุชื่อไว้ในบัญชีรายชื่อผู้ทิ้งงาน, ต้องมีผลงานก่อสร้างประเภทเดียวกันกับงานที่ประกวดราคาจ้างก่อสร้างทางรถไฟ วงเงินไม่น้อยกว่า 4,313,850,000 บาท  ต้องเป็นผลงานที่เป็นคู่สัญญาโดยตรงกับหน่วยงานของรัฐ หรือหน่วยงานเอกชนที่ รฟท. เชื่อถือ


และผู้ยื่นข้อเสนอที่เป็นกิจการร่วมค้า ต้องมีนิติบุคคลไทยที่จดทะเบียนตามกฎหมายไทยเป็นผู้เข้าร่วมค้าหลัก (Lead Firm) โดยสมาชิกทุกรายที่รวมตัวกันเป็นกิจการร่วมค้านั้นต้องเป็นนิติบุคคล และมีสัดส่วนนิติบุคคลไทยรายเดียว หรือมากกว่าหนึ่งรายรวมกันในการร่วมค้ามากกว่า 50% เป็นต้น



เบื้องต้นรฟท. วางแผนลงนามสัญญากับเอกชนผู้ชนะประมูลได้ในปลายปี 2567 และให้เริ่มก่อสร้างทันที  เพื่อเปิดบริการได้ประมาณปี 2570-2571

ใจความสำคัญของรถไฟทางคู่ช่วงขอนแก่น-หนองคาย   ถูกจัดไว้เป็นอันดับที่ 1 ของโครงการรถไฟทางคู่เฟส2 (ทั้งหมด 7 เส้นทาง ระยะทางรวม 1,479 กม. วงเงิน 275,301 ล้านบาท)  ภายใต้ยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทย  ผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี( ครม.) ตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค. 2566  เพื่อเชื่อมโครงการรถไฟทางคู่เฟสแรกช่วงชุมทางจิระ-ขอนแก่น  ที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง(โครงการรถไฟทางคู่เฟสแรกมี 7 เส้นทาง รวม 993 กม. วงเงินรวม 1.2 แสนล้านบาท) 


รถไฟทางคู่ช่วงขอนแก่น-หนองคาย  จะเชื่อมต่อเส้นทางหนองคาย-นครราชสีมา-สระบุรี-ฉะเชิงเทรา- แหลมฉบัง-มาบตาพุด   ทำให้โครงข่ายทางรางของประเทศไทยมีความสมบูรณ์มากขึ้น  เพิ่มศักยภาพการให้บริการขนส่งทางราง  ช่วยลดอุบัติเหตุทางถนน ลดมลพิษ ลดต้นทุนการขนส่งสินค้า สามารถประหยัดการใช้พลังงานของประเทศได้ในระยะยาว  สนับสนุนการขนส่งผู้โดยสารและสินค้าทางรางระหว่างประเทศไทย, สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) และประเทศจีน

ตลอดเส้นทางยาว 169 กิโลเมตร(กม.) ต่อจากรถไฟทางคู่จิระ-ขอนแก่น  (เฟส1) จุดเริ่มต้นโครงการกม.454+000 ที่สถานีขอนแก่น และสิ้นสุดกม.623+000 ที่สถานีหนองคาย  เป็นโครงการก่อสร้างทางรถไฟใหม่ขนาดทาง 1.00 เมตร เพิ่มขึ้น 1 ทาง ขนานไปกับเส้นทางรถไฟเดิม ส่วนใหญ่เป็นทางระดับดิน ระยะทาง 159.5 กม. เป็นทางยกระดับ 2 แห่ง  ระยะทาง 9.5 กม. มี 15 สถานี 2 ที่หยุดรถ โดยเป็นชานชาลาสูงทั้งหมด  มีการก่อสร้างย่านกองเก็บตู้สินค้า(CY) 3 แห่ง ที่สถานีโนนสะอาด พื้นที่ขนาด 10,500 ตารางเมตร(ตร.ม.), สถานีหนองตะไก้ 21,750 ตร.ม. และสถานีนาทา 19,000 ตร.ม.    พร้อมก่อสร้างโรงซ่อมบำรุงเบาที่สถานีหนองคาย และยกเลิกจุดตัดทางรถไฟเสมอระดับทุกแห่ง  ก่อสร้างสะพานรถยนต์ข้ามทางรถไฟ 31 แห่ง ถนนลอดใต้ทางรถไฟ 53 แห่ง และก่อสร้างรั้วตลอดแนวเส้นทางรถไฟ

มีแนวเส้นทางเชื่อม 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดขอนแก่น, อุดรธานี และหนองคาย มีสถานี และที่หยุดรถ ประกอบด้วย สถานีขอนแก่น, สถานีสำราญ, สถานีโนนพยอม, ที่หยุดรถบ้านวังชัย, สถานีน้ำพอง, สถานีห้วยเสียว, สถานีเขาสวนกวาง, สถานีโนนสะอาด, สถานีห้วยเกิ้ง, สถานีกุมภวาปี, สถานีห้วยสามพาด, สถานีหนองตะไก้, ที่หยุดรถคำกลิ้ง, สถานีหนองขอนกว้าง, สถานีอุดรธานี, สถานีนาพู่, สถานีนาทา และสถานีหนองคาย


โครงการมีการเวนคืนที่ดินรวมประมาณ 184 ไร่ ค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน 369 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 36 เดือน หรือ 3 ปี  ในปีแรกของการเปิดบริการคาดการณ์ปริมาณผู้โดยสารอยู่ที่  3,300 คนต่อวัน และเพิ่มขึ้นเป็น 5,500 คนต่อวันในปีที่ 30 ขณะที่ปริมาณการขนส่งสินค้าอยู่ที่ประมาณ 3.30 ล้านตันต่อปีในปีแรก และเพิ่มขึ้นเป็น 4.20 ล้านตันในปีที่ 30

ส่วนอีก 6 เส้นทางของโครงการทางคู่เฟส2นั้น  ที่ประชุมคณะกรรมการ(บอร์ด) รฟท. เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. 2567 เห็นชอบให้ดำเนินโครงการ 3 เส้นทางลอตสุดท้าย ระยะทาง 678กม. วงเงินรวม 1.64 แสนล้านบาท  ประกอบด้วย 1.ช่วงชุมพร-สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 168 กม. วงเงิน 30,422 ล้านบาท 2.ช่วงสุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา ระยะทาง 321 กม. วงเงิน 66,270 ล้านบาท และ 3.ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ ระยะทาง 189 กม. วงเงิน 68,222 ล้านบาท  จะเสนอกระทรวงคมนาคมภายในเดือน มิ.ย. 2567 ก่อนเสนอครม. อนุมัติประมาณเดือน ก.ค.-ต.ค.2567


ขณะที่  3 เส้นทาง ได้แก่
1.ช่วงปากน้ำโพ-เด่นชัย ระยะทาง 281 กม. วงเงิน 81,143 ล้านบาท
2.ช่วงชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี ระยะทาง 308 กม. วงเงิน 44,103 ล้านบาท และ
3.ช่วงชุมทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 45 กม. วงเงิน 7,900 ล้านบาท 
บอร์ดรฟท. เห็นชอบไปก่อนแล้ว  กระทรวงคมนาคมเตรียมเสนอครม.อนุมัติภายในปี 2567 เช่นกัน  

ประชาชนรับรู้ว่ารถไฟทางคู่เฟส1-2 รวม 14 เส้นทางทั่วประเทศ 2,472  กม. หากก่อสร้างเสร็จจะ ช่วยลดระยะเวลาการเดินทางและขนส่งสินค้าได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้นแน่นอนไม่ต้องรอสับหลีก …..แต่นั่นหมายความว่า  ต้องมีรถไฟโดยสารใหม่ๆ  มาให้บริการประชาชนด้วย… ไม่ใช่สร้างแต่ทางคู่ทิ้งไว้แต่ขาดแคลนรถเหมือนทุกวันนี้.

—————
... สามารถติดตามต่อได้ที่ : https://www.dailynews.co.th/articles/3567260/
Wisarut wrote:
Mongwin wrote:
จับตา! 20 ส.ค.นี้ เอกชนยื่นประมูลทางคู่เฟส 2 เส้นแรก “ขอนแก่น-หนองคาย” 2.8 หมื่นล้าน
เดลินิวส์ วันเสาร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2567 เวลา 13:23 น.
นวัตกรรมขนส่ง

รฟท.เปิดประมูลทางคู่เฟส 2 สายแรก”ขอนแก่น-หนองคาย”2.87 หมื่นล้าน ยื่นซอง 20 ส.ค.นี้ ลุยโยธาติดตั้งระบบ 3 ปี เปิดบริการปี 70
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันศุกร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2567 เวลา 18:40 น.
ปรับปรุง: วันศุกร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2567 เวลา 19:01 น. อ
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 45690
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 27/06/2024 8:17 pm    Post subject: Reply with quote

หัวหินทาสีตีเส้นทางม้าลาย หน้าสถานีรถไฟ สร้างความปลอดภัยผู้ใช้ถนน
Source - เว็บไซต์สยามรัฐ
Thursday, June 27, 2024 20:00

วันที่ 27 มิ.ย.67 นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน พร้อมด้วย นางสาวณัฐวรรณ มิตรดี ที่ปรึกษานายกเทศมนตรี นายอุดม ดวงแข ประธานสภา นายธงชัย เพชรสงคราม นายชีพ สุกสี นายอมร พัฒน์ทอง และนางสาวนงลักษณ์ ผดุงทศ สมาชิกสภาเทศบาล นายธีระวัฒน์ ลิ้มคุณธรรมโม ประธานชุมชนสะพานขี้เหล็ก เจ้าหน้าที่งานรักษาความสงบ และเจ้าหน้าที่กองช่าง ลงพื้นที่ ถนนเลียบทางรถไฟหน้าสถานีรถไฟหัวหิน (สถานีใหม่) โดยมี นายพรชัย หนูสิทธิ์ นายสถานีรถไฟหัวหิน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หัวหิน ร่วมลงพื้นที่ ณ ถนนเลียบทางรถไฟหน้าสถานีรถไฟหัวหิน (สถานีใหม่)

นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน กล่าวว่า เนื่องจากมีประชาชนแจ้งข้อมูล กรณีเรื่องความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน เนื่องจากไม่มีทางข้ามหรือทางม้าลายที่บริเวณหน้าสถานีรถไฟหัวหิน(สถานีใหม่) ซึ่งเป็นจุดที่มีการจราจรหนาแน่น อาจเป็นอันตรายกับประชาชนที่จำเป็นต้องเดินข้ามถนน จึงอยากให้เทศบาลเมืองหัวหินประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาดังกล่าว

ภายหลังทุกหน่วยงานร่วมลงพื้นที่ จึงได้ข้อสรุปในการกำหนดจุดทาสีตีเส้นทางม้าลาย บริเวณด้านเหนือของจุดจอดรถหน้าสถานีรถไฟหัวหิน(สถานีใหม่) เพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยให้กับผู้ใช้ถนน ซึ่งเจ้าหน้าที่กองช่างเทศบาลเมืองหัวหิน ได้เข้าดำเนินการทาสีตีเส้นในบริเวณดังกล่าวแล้ว โดยคาดว่าจะใช้เวลาประมาณหนึ่งวัน จะสามารถใช้ทางม้าลายในบริเวณดังกล่าวได้


Hua Hin Paints Zebra Crossings in Front of Train Station to Enhance Road Safety

Source: Siam Rath Website
Thursday, June 27, 2024, 20:00


On June 27, 2567, Mr. Nopporn Wuttikul, Mayor of Hua Hin, along with Ms. Nattawan Mitdee, Advisor to the Mayor, Mr. Udom Duangkae, Chairman of the Council, Mr. Thongchai Phetsongkram, Mr. Cheep Suksri, Mr. Amorn Phatthong, and Ms. Nonglak Phadungthos, Municipal Council Members, and Mr. Theerawat Limkuntammo, Chairman of the Saphan Khee Lek Community, as well as peacekeeping officers and engineering officers, visited the area along the railway road in front of the new Hua Hin Train Station. Mr. Pornchai Nusi, Stationmaster of Hua Hin Train Station, and officers from the Hua Hin Police Station were also present.

Mr. Nopporn Wuttikul, Mayor of Hua Hin, stated that due to public reports regarding road safety issues caused by the lack of a pedestrian crossing or zebra crossing in front of the new Hua Hin Train Station, a heavily trafficked area, there is a potential danger for pedestrians needing to cross the road. The residents requested that the Hua Hin Municipality coordinate with relevant agencies to address this issue.

After on-site inspections by all involved agencies, they concluded to paint a zebra crossing north of the parking area in front of the new Hua Hin Train Station to enhance road safety. The municipal engineering officers have already commenced painting the zebra crossings in the designated area, which is expected to be completed within a day, after which the crossings will be available for public use.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... , 399, 400, 401  Next
Page 400 of 401

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©