View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Air_Reservoir
1st Class Pass (Air)
Joined: 31/03/2006 Posts: 2338
Location: บึงกุ่ม, สุไหงโก-ลก
|
Posted: 03/03/2009 1:34 am Post subject: |
|
|
ในอดีตบ้านหลังนี้เคยถูกขายไปแล้วครับ แต่เหลนของท่านสามารถซื้อกลับมาได้ เลยเอามาทำเป็นเกสต์เฮาส์ให้นักท่องเที่ยวได้มาพัก ตอนนี้ผู้ที่ดูแลคือ "Tengku Yahaya" และเป็นผู้จัดการอยู่ด้วยครับ
หลังจากพบผู้ดูแล ผมก็ได้กุญแจห้องหมายเลข 108 (ที่นี่มีสองชั้นนะครับ) ซึ่งดูแล้วในอดีตน่าจะเป็นห้องบ่าว ไม่ได้ใหญ่โตมากครับ ประตูห้องน้ำสีสันสดใส ทีวีมีแต่ช่องทั่วไป ไม่มีเคเบิ้ลของ Astro นะครับ
หน้าต่างบานที่เห็นนี้สามารถเปิดออกไปได้ครับ แต่ก็แนะนำว่าไม่ควรจะเปิด เพราะด้านหลังเป็นสุสานคริสต์ หรือถ้าใครอยากเปิดก็ตามสบาย แต่สำหรับพวกผม ขอบายครับ
อ้อ ห้องที่ผมพักอยู่นี่ตกราคาคืนละ 80 ริงกิตนะครับ หากสนใจลองเข้าไปในเว็บไซด์ http://segaraninda.com/ ได้ครับ
Last edited by Air_Reservoir on 15/08/2009 1:07 am; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
Air_Reservoir
1st Class Pass (Air)
Joined: 31/03/2006 Posts: 2338
Location: บึงกุ่ม, สุไหงโก-ลก
|
Posted: 03/03/2009 1:52 am Post subject: |
|
|
แน่นอนว่าเมื่อมาถึงที่พัก พวกผมก็จัดการอาบน้ำในเวลาอันรวดเร็วเพื่อออกมาชมเมืองจอร์จทาวน์ ก็จะไปตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เท่าที่เวลาจะอำนวยได้ เราตัดสินใจว่าจะใช้บริการรถเมล์เพื่อความรวดเร็ว (ยกเว้นในบางสถานที่ที่อาจจะไม่ได้ไกลนัก) ป้ายรถเมล์ที่นี่ไม่ใหญ่มาก แต่มีทางขึ้นสำหรับผู้พิการด้วย และมีรั้วกั้นด้านหน้าป้าย เพื่อป้องกันรถที่จะวิ่งเข้ามาเฉี่ยวชนผู้โดยสารครับ
สักพักหนึ่งพวกผมก็ได้ขึ้นรถเมล์กัน บรรยากาศภายในไม่ต่างจากรถเมล์เหลืองของบ้านเราเลยครับ และรถเมล์ทุกคันจะให้ผู้โดยสารขึ้นประตูหน้า และลงประตูหลัง และก่อนที่รถจะออกจากป้าย พขร. จะปิดประตูให้สนิทก่อนทุกครั้งเพื่อกันมิให้เกิดอุบัติเหต (บ้านเราน่าจะทำแบบนี้บ้างนะ)
|
|
Back to top |
|
|
Air_Reservoir
1st Class Pass (Air)
Joined: 31/03/2006 Posts: 2338
Location: บึงกุ่ม, สุไหงโก-ลก
|
Posted: 03/03/2009 2:07 am Post subject: |
|
|
เวลาขึ้นรถเมล์ที่นี่ เราจะต้องบอกสถานที่กับ พขร (ที่นี่ไม่มีกระเป๋ารถเมล์นะครับ) และจ่ายเงินที่เค้า และก็จะให้ตั๋วเรามา และกรุณาเตรียมเงินให้พอดีนะครับ ไม่มีเงินทอน (เหมือนเมโทรบัสบ้านเราเลย)
ที่เห็นอยู่นี่คือท่าเรือยอร์ชครับ จะอยู่ใกล้ๆ กับท่าเรือเฟอร์รี่ ดูแล้วอยากมีเรือยอร์ชเป็นของตัวเองมาเทียบท่าที่นี่จัง (ฝันกลางวันสุดๆ )
|
|
Back to top |
|
|
Air_Reservoir
1st Class Pass (Air)
Joined: 31/03/2006 Posts: 2338
Location: บึงกุ่ม, สุไหงโก-ลก
|
Posted: 03/03/2009 2:24 am Post subject: |
|
|
ถัดมาใกล้ๆ กันก็จะเป็นหอนาฬิกาควีนวิคตอเรีย* (Queen Victoria Memorial Clock Tower) อยู่ตรงบริเวณวงเวียนเล็กๆ ใกล้ๆ กับท่าเรือเจ็ต (Pengakalan Swettenham Pier มีเรือไปลังกาวีวันละ 2 เที่ยว) สร้างเนื่องในโอกาสการเฉลิมฉลองพระชนมายุ 60 พรรษาของพระราชินีวิคตอเรียแห่งอังกฤษในปี ค.ศ.1897 โดยมหาเศรษฐีชาวปีนังชื่อ เซียะห์ เช็น อ๊ก โดยที่หอนาฬิกาแห่งนี้สูง 60 ฟุต
ต่อมาพวกผมได้เดินทางมายังศาลากลางเมือง* (Town Hall) เป็นอาคารยุคอาณานิคมสมัยศตวรรษที่ 19 เสียดายที่ไม่ได้ถ่ายรูปศาลาว่าการเมืองปีนัง (City Hall) มาด้วย
ชมเมืองค้างไว้เท่านี้ก่อนนะครับ พรุ่งนี้จะมาต่อ
-----------------
*ที่มา : หนังสือใครๆ ก็ไปเที่ยวมาเลเซีย |
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 03/03/2009 8:33 am Post subject: |
|
|
เข้าใจเลือกที่พักนะครับ แถมได้เกร็ดประวัติศาสตร์แถมมาให้ด้วย |
|
Back to top |
|
|
CENTENNIAL
1st Class Pass (Air)
Joined: 30/03/2006 Posts: 3642
Location: Thailand
|
Posted: 03/03/2009 11:17 am Post subject: |
|
|
มาติดตามชมครับ
เคยคิดจะไปนั่งรถไฟ KTM อยู่เหมือนกันครับ แต่อยากนั่งสายตะวันออกมากกว่า เพราะยังมีความเป็นธรรมชาติอยู่สูง
ถ้าจะไปเมื่อไหร่ พี่คงต้องรบกวนแซม หรือไม่ก็บอล ในการให้คำแนะนำ รวมทั้งตารางรถแบบล่าสุดอีกครั้งครับ เพราะถือว่าน้องทั้งสองคนเป็นผู้ชำนาญการเกี่ยวกับรถไฟ KTM ไปแล้ว |
|
Back to top |
|
|
vut_kmitnb
3rd Class Pass (Air)
Joined: 08/07/2006 Posts: 253
Location: กฟผ.ส่วนกลาง บางกรวย จ.นนทบุรี
|
|
Back to top |
|
|
Serberk
3rd Class Pass (Air)
Joined: 17/07/2006 Posts: 380
Location: Burirum United
|
Posted: 03/03/2009 2:58 pm Post subject: |
|
|
Air_Reservoir wrote: |
บรรยากาศภายในไม่ต่างจากรถเมล์เหลืองของบ้านเราเลยครับ และรถเมล์ทุกคันจะให้ผู้โดยสารขึ้นประตูหน้า และลงประตูหลัง และก่อนที่รถจะออกจากป้าย พขร. จะปิดประตูให้สนิทก่อนทุกครั้งเพื่อกันมิให้เกิดอุบัติเหต (บ้านเราน่าจะทำแบบนี้บ้างนะ) |
ถ้าเป็นที่บ้านเรา เปิดก่อนถึงป้าย(ไม่รู้ว่ามันจะรีบไปไหน) รถออกไปจนจะถึงป้ายหน้าแล้วยังไม่ปิด(มันลืมรึไงว่ามีประตูอยู่) อันนี้รถร่วมเจอน้อย ส่วนมากจะเป็นรถ ขสมก.โดยเฉพาะรถเมลล์ฟรี แย่จริงๆ |
|
Back to top |
|
|
Air_Reservoir
1st Class Pass (Air)
Joined: 31/03/2006 Posts: 2338
Location: บึงกุ่ม, สุไหงโก-ลก
|
Posted: 04/03/2009 1:16 am Post subject: |
|
|
พาไปทัวร์ต่อครับ ที่นี่โบสถ์เซนต์จอร์จ* (St. George's Church) เป็นโบสถ์นิกายแองกิลันที่เก่าแก่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1818 โดยแรงงานนักโทษ ออกแบบโดยกัปตันโรเบิร์ต สมิธ (Captain Robert Smith) พื้นที่ทางเข้าโบสถ์มีคำจารึกถึงเซอร์ ฟรานซิส ไลท์** (Sir Francis Light) ผู้เข้ามาพัฒนาเกาะปีนังคนแรกและเสียชีวิตที่เกาะปีนังเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม ค.ศ. 1794
เราเดินทางกันต่อมายังอีกสถานที่สำคัญ สำหรับพุทธศาสนิกชนแล้วถือว่าไม่ควรพลาด นั่นคือวัดเก๊ก ล๊ก ซี*** (Kek Lok Si Temple) เป็นวัดพุทธที่ใหญ่ที่สุดในมาเลเซีย พระภิกษุที่สร้างวัดนี้คือ พระเปียว เหลียน พระจีนจากมณฑลฟูเจี้ยน เมื่อปี 2530 วัดนี้โดดเด่นด้วยมหาเจดีย์แห่งพระพุทธรูปหนึ่งหมื่นองค์ (Pagoda of Ten Thousand Buddhas) ใช้เวลาก่อนสร้างยาวนานกว่า 20 ปี ด้วยสถาปัตยกรรมผสมผสาน 3 แบบคือ ฐานแบบจีน ส่วนกลางงานศิลป์แบบไทย และส่วนยอดเป็นแบบพม่า
วัดนี้เปิดเวลา 09.00 น. และปิดเวลา 18.00 น. อ้อ ถ้าท่านนั่งรถเมล์มา จะต้องเดินขึ้นบันไดมานะครับ เพราะวัดเก๊ก ล๊ก ซี ตั้งอยู่บริเวณเนินเขา แต่ถ้าขับรถมาก็สามารถขับขึ้นมาจอดด้านบนได้เลยครับ
(*)(**)ที่มา : หนังสือใครๆ ก็ไปเที่ยวมาเลเซีย
**เซอร์ ฟรานซิส ไลท์ พ่อค้าและนักผจญภัยชาวอังกฤษได้เดินทางมาถึงเมื่อปี 1786 เขาเล็งเห็นว่าถ้าได้ครอบครองเกาะแห่งนี้ จะเป็นประโยชน์ในการทำให้เกาะปีนังเป็นสถานีการค้าของบริษัทบริติช อีสต์อินเดีย (British East India Company) ใช้เป็นที่พักเรือระหว่างเดินทางไปค้าขายกับเมืองจีน และใช้เป็นฐานที่มั่นในการหาประโยชน์ทางการค้าให้แก่ประเทศอังกฤษในภูมิภาคนี้
เขาเริ่มแผนโน้มน้าวให้สุลต่่านรัฐเคดาห์ยอมให้บริษัทบริติช อีสต์อินเดียเช่าเกาะปีนัง แลกกับการคุ้มครองไม่ให้ถูกรุกรานจากประเทศสยาม (ตรงกับสมัยรัชกาลที่ 1) แต่อย่างไรก็ตามเคดาห์ ก็เสียดินแดนบนคาบสมุทรในส่วนของ เซอเบอรังไปร (Seberang Prai) หรือเมืองบัตเตอร์เวอร์ธ ให้แก่ประเทศสยาม
เมื่อทำข้อตกลงกันเป็นที่เรียบร้อย จึงยกพลขึ้นบกบริเวณที่เป็นศาลาว่าการเมืองในปัจจุบัน เดิมพื้นที่บริเวณนี้เป็นป่ารก บรรดาแรงงานที่เกณฑ์มาจากอินเดีย ไม่มีใครอยากเข้าไปถางพง เซอร์ ฟรานซิส ไลท์ จึงยิงเหรียญเงินเข้าไปในป่าตรงนั้นและประกาศว่าถ้าใครอยากได้เงินก็ให้ถางป่าเข้าไปหาได้เลย ทำให้ป่าแถบนี้โล่งเตียนในเวลาอันรวดเร็ว แล้วพัฒนาตรงนี้ให้เป็นท่าเรือและตั้งชื่อเกาะนี้ว่า เกาะปริ๊นซ์ออฟเวลล์ (Prince of Wales Island)
เมื่อได้เกาะปีนังมาครอบครอง อังกฤษจึงตั้งเป็นท่าเรือเสรี โดยไม่เก็บภาษีการค้าทั้งนำเข้าและส่งออก ทำให้พ่อค้าจากเมืองต่างๆ ไหลเข้ามาเกาะนี้ในเวลาอันรวดเร็ว กลายเป็นชุมชนเมืองขึ้นมา และได้ตั้งชื่อเมืองท่าแห่งนี้ว่า "เมืองจอร์จทาว์น" ตามพระนามของสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 3 แห่งอังกฤษ
***ที่มา : หนังสือใครๆ ก็ไปเที่ยวมาเลย์เซีย / http://en.wikipedia.org/wiki/Kek_Lok_Si |
|
Back to top |
|
|
Air_Reservoir
1st Class Pass (Air)
Joined: 31/03/2006 Posts: 2338
Location: บึงกุ่ม, สุไหงโก-ลก
|
Posted: 04/03/2009 1:30 am Post subject: |
|
|
ให้ดูกันชัดๆ กับมหาเจดีย์พระพุทธรูปหนึ่งหมื่นองค์ เสียดายที่ไม่ได้เข้าไปชมภายในมหาเจดีย์ แต่ว่าตรงนี้คิดค่าเข้าเจดีย์ท่านละ 2 ริงกิตนะครับ
โบสถ์ภายในวัดเก๊ก ล๊ก ซีครับ สถาปัตยกรรมวิจิตรบรรจงเลยทีเดียว (ไม่ได้ถ่ายภายในโบสถ์นะครับ) ถ้าท่านมาที่นี่แล้ว อย่าลืมถวายเทียนตามวัฒนธรรมของที่นี่ด้วยนะครับ
|
|
Back to top |
|
|
|