Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311551
ทั่วไป:13347685
ทั้งหมด:13659236
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน)
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าวรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน)
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 554, 555, 556, 557  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 45628
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 05/06/2024 7:37 pm    Post subject: Reply with quote

รถไฟความเร็ว​สูง​ เบรคหัวทิ่ม​ เจอด่านมรดกโลกอยุธยา​
สุรเสียง พลับพลาสวรรค์
Jun 5, 2024


https://www.youtube.com/watch?v=4LKN3m7KePo

The construction of a high-speed train in the Ayutthaya area is a world heritage issue.


รถไฟความเร็วสูงช่วงบ้านโพ สร้างรออยุธยานานแล้วน้า อัพเดตสัญญา4-3 ช่วงสถานีรถไฟบ้านโพ (ช่วงปลายสัญญา)
nanny official
Jun 6, 2024

โครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ช่วงสถานีบ้านโพ สัญญาที่4-3 (นวนคร - บ้านโพ) เป็นงานก่อสร้างโครงสร้างแบบยกระดับตลอดแนว ระยะทาง 23 กิโลเมตร หรือประมาณ 14 ไมล์ มูลค่าโครงการ 11,525 ล้านบาท ดำเนินการก่อสร้างโดย กิจการร่วมค้าซีเอส - เอ็นดับบลิวอาร์ - เอเอส ปัจจุบันดำเนินการคืบหน้าไปแล้ว 21.30% ค่ะ


https://www.youtube.com/watch?v=nHabSxVhKwI

High-Speed Rail at Ban Pho Station Has Been Waiting for Ayutthaya for a Long Time, Update on Contract 4-3 at Ban Pho Station (End of Contract)

Nanny Official
June 6, 2024

The Thai-Chinese high-speed rail project at Ban Pho Station under Contract 4-3 (Nava Nakorn - Ban Pho) involves the construction of an elevated structure along the entire stretch, covering a distance of 23 kilometers (approximately 14 miles). The project is valued at 11,525 million baht and is being constructed by the CS-NWR-AS Joint Venture. Currently, the project has progressed 21.30%.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 45628
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 06/06/2024 9:36 pm    Post subject: Reply with quote

Update HSR Thailand |BanDonKlang -Saraburi |June 2024
Iron Wheels Roaming
Jun 6, 2024


https://www.youtube.com/watch?v=Ss7euSk7qLA
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 45628
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 07/06/2024 9:04 pm    Post subject: Reply with quote

Update HDR Thailand contract 4-7 SaraBuri-KaengKhoi in Early of June 2024
Iron Wheels Roaming
Jun 7, 2024


https://www.youtube.com/watch?v=cREgrr0Y83I

อัพเดทความคืบหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูง ช่วงสระบุรี-แก่งคอย (สัญญา 4-7) - ต้นเดือนมิถุนายน

การก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงช่วงสระบุรี-แก่งคอยยังคงมีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับเดือนก่อนๆ ล่าสุด รถไฟ 339 สามารถวิ่งบนรางที่ 1 ได้เป็นครั้งแรกในรอบปี หลังจากประกอบเสร็จที่สถานี นับเป็นก้าวสำคัญของโครงการรถไฟความเร็วสูง

การอัพเดทครั้งนี้จะเน้นไปที่งานก่อสร้างของสัญญา 4-7 ระยะทาง 12.99 กิโลเมตร โดย บริษัท ซีวิลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) ซึ่งจะเน้นไปที่งานโยธาในสถานีสระบุรีแห่งใหม่ และจุดเชื่อมต่อแก่งคอยแห่งใหม่

แม้จะพบอุปสรรคบ้าง แต่การก่อสร้างยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีการหยุดชะงัก หากต้องการดูความก้าวหน้าในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ท่านสามารถรับชมวิดีโอด้านล่าง โดยเริ่มตั้งแต่นาทีที่ 23 เป็นต้นไป

https://www.youtube.com/watch?v=NdET3ot1iYM&t=167s

หวังว่าการอัพเดทครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ โปรดติดตามการอัพเดทในครั้งต่อไปของโครงการรถไฟความเร็วสูง


High-Speed Rail Construction Update: Saraburi-Kaeng Khoi Section (Contracts 4-7) - Early June

Construction on the Saraburi-Kaeng Khoi high-speed rail line continues to make steady progress compared to previous months. For the first time in a year, Train 339 ran on Track 1 after being reassembled at the station. This marks a significant milestone in the development of the high-speed rail line.

This update focuses on the ongoing construction of contract 4-7 by Civil Engineering PCL, covering 12.99 km of the route. We'll primarily highlight the civil works at the new Saraburi station and the new Kaeng Khoi Junction.

Despite challenges, construction has continued without interruption. To see the progress made in the last three months, you can watch the video clip below, starting from the 23-minute mark:

https://www.youtube.com/watch?v=NdET3ot1iYM&t=167s

We hope you find this update informative and concise. Please stay tuned for future updates as the high-speed rail project progresses.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 45628
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 10/06/2024 4:51 am    Post subject: Reply with quote

ลุ้นบอร์ด กพอ.ถก ปลดล็อก'ไฮสปีด' เร่งออกNTPสิ้นปี
Source - ผู้จัดการรายวัน 360 องศา
Monday, June 10, 2024 03:12

ผู้จัดการรายวัน360 - เดินหน้าปิดดีลแก้ปัญหาไฮสปีด 3 สนามบิน รายงานคืบหน้าบอร์ด กพอ.วันนี้ (10 มิ.ย.) หลังคณะ กก.กำกับฯ ไฟเขียวปลดล็อกเงื่อนไข NTP ตัดบีโอไอ คาดเซ็นสัญญาในปีนี้ เริ่มสร้างอย่างช้าต้นปี 68

ผู้จัดการรายวัน360 - เดินหน้าปิดดีลแก้ปัญหาไฮสปีด 3 สนามบิน รายงานคืบหน้าบอร์ด กพอ.วันนี้ (10 มิ.ย.) หลังคณะ กก.กำกับฯ ไฟเขียวปลดล็อกเงื่อนไข NTP ตัดบีโอไอ คาดเซ็นสัญญาในปีนี้ เริ่มสร้างอย่างช้าต้นปี 68

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ในวันนี้ (10 มิ.ย.) เวลา 09.30 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ จะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (บอร์ด กพอ.) โดยคาดว่าจะมีการรายงานความคืบหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) และการแก้ปัญหาโครงการฯ ซึ่งล่าสุดคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท. ที่มี นาย จิรุตม์ วิศาลจิตร เป็นประธาน ในการประชุมเมื่อวันที่ 23 พ.ค. 67 ได้รับทราบข้อสรุปผลการเจรจาเรื่อง หลักการแก้ไขปัญหาโครงการฯ ตามที่ รฟท. สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) และบริษัท เอเชียเอราวัน จำกัด (บริษัทในเครือบริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด) คู่สัญญาผู้รับสัมปทานฯ ได้ตกลงร่วมกันแล้ว

และเมื่อวันที่ 4 มิ.ย. 67 ที่ผ่านมา คณะกรรมการกำกับดูแลโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน (คณะกรรมการกำกับฯ) ตาม พ.ร.บ. อีอีซี ได้มีการประชุมและรับทราบผลการแก้ไขปัญหาตามที่คณะทำงานร่วม 3 ฝ่าย ได้ข้อสรุปแล้ว ดังนั้น ตามขั้นตอนหลังจากนี้จะเป็นการเสนอ บอร์ด กพอ. พิจารณาเห็นชอบเพื่อเสนอ ครม. อนุมัติ ก่อนส่งให้สำนักงานอัยการสูงสุดตรวจร่างสัญญาฯ ส่วนแก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จ สามารถลงนามแก้ไขสัญญาได้ในปลายปี 67 และ รฟท. จะสามารถส่งมอบพื้นที่และออกหนังสือให้เอกชนเริ่มงาน (NTP : Notice to Proceed) เริ่มก่อสร้างไม่เกินต้นปี 68

รายงานข่าวแจ้งว่า หลักการเจรจาแก้ไขสัญญาร่วมทุนฯรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน อยู่ภายใต้หลักการภาครัฐ โดย รฟท.ไม่เสียผลประโยชน์ และเอกชนจะไม่ได้รับผลประโยชน์เกินควร ซึ่งทุกฝ่ายต้องการให้โครงการได้เริ่มต้นเดินหน้าก่อสร้างเสียที เนื่องจากลงนามสัญญามานานแล้ว

สำหรับการแก้ไขสัญญา มี 4 ประเด็นคือ 1. ปรับให้เอกชนผ่อนชำระค่าสิทธิร่วมลงทุนโครงการแอร์พอร์ต เรลลิงก์ (ARL) โดย รฟท.ได้รับค่า สิทธิฯ ครบจำนวน 10,671.09 ล้านบาท บวกดอกเบี้ยและค่าเสียโอกาสของ รฟท.อีกจำนวน 1,060 ล้านบาท รวมเป็น 11,717.09 ล้านบาท โดยให้ผ่อนจ่าย 7 งวด โดยงวดที่ 1-6 ชำระงวดละ 10% งวดที่ 7 จะชำระส่วนที่เหลือพร้อมดอกเบี้ย ซึ่ง กพอ.ได้เห็นชอบและรายงานครม.รับทราบไปก่อนหน้านี้แล้ว

2. การปรับเปลี่ยนวิธีการชำระเงินที่รัฐร่วมลงทุนโครงการ (PIC) คิดเป็นมูลค่าปัจจุบันไม่น้อยกว่า 119,425 ล้านบาท ซึ่งกำหนดให้รัฐร่วมลงทุนในปีที่ 6 -ปีที่ 15 หรือเมื่อก่อสร้างโครงการเสร็จเปิดเดินรถแล้ว แต่เนื่องจากการดำเนินงานมีปัญหาอุปสรรค ทั้งโรค โควิด-19 สถานการณ์สงคราม รัสเซียยูเครน และวิกฤตการณ์ของระบบสถาบันการเงิน อัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น เอกชนไม่สามารถกู้เงินได้ จึงเสนอแก้ไข ปรับการจ่ายเงินที่ฝ่ายรัฐร่วมลงทุนให้เร็วขึ้น เป็นเดือนที่ 18 หรือประมาณ 1 ปีครึ่ง นับจากออก NTP ซึ่งจะเป็นการปรับจาก รัฐจ่ายร่วมลงทุนเมื่อโครงการเสร็จเป็น สร้างไป-จ่ายไป

3. ยกเลิกเงื่อนไขออกหนังสือ NPT ให้เอกชนเริ่มงาน เดิมที่ระบุให้เอกชน ผู้รับสัมปทานฯ ต้องขอส่งเสริมการลงทุนกับคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ก่อน รวมไปถึงเรื่องการส่งมอบพื้นที่ TOD มักกะสันขนาด 150 ไร่ โดยเอกชนต้องจดทะเบียนสิทธิการเช่า ปัญหาที่ต้องถอนสภาพลำรางสาธารณะก่อน ทั้งหมด เป็นการปลดล็อก และจะทำให้ รฟท.สามารถออก NTP ได้ทันทีหลังลงนามแก้ไขสัญญา

และ 4. ให้เอกชนวางหนังสือค้ำประกันโดยธนาคารหรือ แบงก์การันตี เพิ่มเติมอีก 2 ส่วน คือ 1. แบงก์การันตี ในส่วนของค่าสิทธิร่วมลงทุนแอร์พอร์ต เรล ลิงก์จำนวน 10,671.09 ล้านบาท เพื่อยืนยันกรณีแบ่งจ่ายค่าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ จากงวดเดียวเป็น 7 งวด โดยเมื่อแก้ไขสัญญา เอกชนจ่ายงวดแรก 1,067 ล้านบาทและวางแบงก์การันตีที่เหลือประมาณ 9,600 ล้านบาท ส่วนดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียมทางการเงินอื่นๆ ที่ต้องจ่ายจากการผ่อนชำระจะแยกจ่ายอีกส่วนหนึ่งในแต่ละงวด ทั้งนี้ หลังลงนามแก้ไขสัญญา เอกชนต้องชำระค่าสิทธิ์แอร์พอร์ตเรลลิงก์งวดแรกทันที

ส่วนที่ 2 เป็นแบงก์การันตี เต็มวงเงินค่าก่อสร้างหรือในส่วนของเงินฝ่ายรัฐร่วมลงทุน วงเงิน 119,425 ล้านบาท ทั้งนี้ เพื่อให้ภาครัฐมีความมั่นใจว่าเอกชนคู่สัญญาจะสามารถดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จ กรณีปรับเงื่อนไขการจ่ายเงินภาครัฐจากปีที่ 6 เป็นสร้างไปจ่ายไป โดยวางแบงก์การันตีภายใน 270 วันหลังลงนามแก้ไขสัญญา

รายงานข่าวแจ้งว่า การแก้ไขสัญญาครั้งนี้ เป็นการปลดล็อกเงื่อนไข ที่ทำให้โครงการต้องติดขัดเดินหน้า ไม่ได้ และยังทำให้รัฐมั่นใจว่าโครงการจะสำเร็จตามเป้าหมาย รวมถึงภาครัฐไม่ต้องรับความเสี่ยง โดยเอกชนยอมวางแบงก์การันตีเต็มมูลค่าก่อสร้าง ดังนั้น กรณีที่เอกชนไม่ทำโครงการต่อ รฟท. ยังมั่นใจว่ามีเงินที่จะก่อสร้างโครงการต่อไปได้ อีกทั้งหลังก่อสร้างเสร็จเอกชนจะต้องโอนกรรมสิทธิ์ รฟท.ทันที รูปแบบ B-T-O ดังนั้น หากเกิดเหตุ ที่อาจทำให้ต้องยกเลิกสัญญาระหว่างทาง โครงการนี้จะไม่ซ้ำรอย โฮปเวลล์ที่ ยกเลิกสัญญาแล้ว แต่ รฟท.เข้าพื้นที่ไม่ได้ เพราะเอกชนยังเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์อยู่ จนกลายเป็นปัญหาข้อพิพาทยืดเยื้อ.

ที่มา: นสพ.ผู้จัดการรายวัน 360 องศา ฉบับวันที่ 10 มิ.ย. 2567


Board KPOT Discusses Unlocking 'High-Speed' Project; Accelerated NTP Issuance by Year-End

Source: Manager Daily 360 Degrees
Monday, June 10, 2024, 03:12

Manager Daily 360 – The high-speed train project connecting three airports is moving forward to resolve existing issues. A progress report will be presented to the KPOT Board today (June 10), following the oversight committee's approval to lift the NTP conditions and cut BOI incentives. The contract is expected to be signed this year, with construction starting by early 2025 at the latest.

A news report from the Government House revealed that at 9:30 AM today (June 10), Phumtham Wechayachai, Deputy Prime Minister and Minister of Commerce, will chair the Eastern Economic Corridor Policy Committee (KPOT Board) meeting. The progress of the high-speed rail project connecting Don Mueang, Suvarnabhumi, and U-Tapao airports will be discussed, along with the resolution of issues related to the project. On May 23, 2024, the SRT Board, chaired by Jirut Wisarnjit, acknowledged the conclusions of the negotiations concerning the project's problem-solving principles. These were agreed upon by the SRT, the Eastern Economic Corridor Office (EECO), and Asia Erawan Co., Ltd., a subsidiary of Charoen Pokphand Holdings.

On June 4, 2024, the oversight committee for the high-speed rail project connecting three airports, as per the EEC Act, convened and acknowledged the resolutions from the joint three-party working group. The next step is for the KPOT Board to approve and forward the proposal to the Cabinet for final approval, after which the Office of the Attorney General will review the revised contract. The amended contract is expected to be signed by the end of 2024, enabling the SRT to hand over the site and issue the Notice to Proceed (NTP) by early 2025.

The report highlighted that the principles of the contract amendment aim to ensure no loss of benefits for the SRT and prevent excessive gains for the private sector. The amendments include:

1. Allowing the private sector to pay for the Airport Rail Link (ARL) project rights in installments. The total amount of 10.67 billion baht plus 1.06 billion baht in interest and opportunity costs will be paid in seven installments.

2. Changing the payment method for the state's investment in the project (PIC) to be disbursed over 18 months from the NTP issuance instead of after project completion.

3. Removing the condition requiring the concessionaire to seek BOI incentives before NTP issuance and resolving land delivery issues at the 150-rai Makkasan TOD site.

4. Requiring the private sector to provide bank guarantees for the ARL project rights and the full construction cost, amounting to 119.425 billion baht.

These amendments aim to unlock the project, ensuring it progresses without delays while mitigating the state's risks. If the private sector defaults, the SRT can continue the project using the bank guarantees. Upon completion, the private sector will transfer ownership to the SRT, avoiding issues similar to the prolonged Hopewell project dispute.

Source: Manager Daily 360 Degrees, June 10, 2024.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 45628
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 10/06/2024 5:16 pm    Post subject: Reply with quote

ไฮสปีดเทรนเดินหน้า หลังบอร์ดกพอ.รับทราบหลักการแก้ไขสัญญา คาดเริ่มก่อสร้าง ธ.ค.67
Source - IQ สำนักข่าวอินโฟเควสท์
Monday, June 10, 2024 15:22

สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 มิ.ย. 67)

ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ครั้งที่ 3/2567 ที่มีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เป็นประธาน รับทราบความก้าวหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ซึ่งปัจจุบัน การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และบริษัทเอเชีย เอรา วัน จำกัด (บริษัทในเครือบริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด) คู่สัญญาผู้รับสัมปทานฯ ได้ตกลงรับมอบพื้นที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ และเจรจาหลักการแก้ไขปัญหาโครงการจากผลกระทบโควิด-19 และสงครามรัสเซีย-ยูเครน ได้ข้อยุติแล้ว

นายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการบอร์ด กพอ. กล่าวว่า เนื่องจากครั้งนี้ กพอ.มีเวลาประชุมน้อยเนื่องจากนายภูมิธรรม มีภารกิจต่อ จึงยังไม่มีการการพิจารณารายละเอียดเรื่องหลักการแก้ไขปัญหาโครงการฯ โดยให้นำเสนอในการประชุม กพอ.ครั้งต่อไป ซึ่งอาจจะเป็นช่วง ปลายเดือนมิ.ย.หรือต้นเดือนก.ค. 67

ซึ่งตามขั้นตอน หลังกพอ.พิจารณาเห็นชอบแล้ว จะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบในหลักการแก้ไขสัญญา โดยจะมีการทบทวนหลักการ PPP ตามมติ ครม. ที่อนุมัติโครงการไว้ เมื่อวันที่ 27 มี.ค.61 ซึ่งคาดว่าจะเสนอ ครม. ได้ภายในเดือน ก.ค. 67 จากนั้น รฟท. และเอกชนคู่สัญญาจะเจรจาร่างสัญญาแก้ไข เพื่อส่งให้สำนักงาน อัยการสูงสุดตรวจร่างฯ และส่ง กพอ. และ ครม. เห็นชอบอีกครั้งจึงจะลงนามแก้ไขสัญญา และออกหนังสือให้เอกชนเริ่มงาน (NTP : Notice to Proceed) ภายในธ.ค. 67 เพื่อเริ่มงานก่อสร้างต่อไป

ทั้งนี้ หลักการแก้ไขปัญหา จะอยู่บนพื้นฐานความเป็นหุ้นส่วนระหว่างรัฐและเอกชน เป็นธรรมต่อคู่สัญญา รัฐไม่เสีย ประโยชน์ และเอกชนไม่ได้ประโยชน์เกินควร มีหลักการที่สำคัญ ได้แก่ การแก้ไขวิธีชำระเงินที่รัฐร่วมลงทุนในโครงการฯ (PIC) โดย รัฐจะเริ่มลงทุนเร็วขึ้นตามระยะเวลาความแล้วเสร็จของงาน และเอกชนตกลงวางหลักประกัน (Bank Guarantee) เต็มจำนวน ค่าก่อสร้าง และการแก้ไขวิธีการชำระค่าสิทธิโครงการแอร์พอร์ตเรลลิงก์ (ARL) เอกชนแบ่งชำระ 7 งวด โดยรฟท. ยังคงได้รับ ค่าสิทธิครบจำนวน 10,671.09 ล้านบาท เอกชนรับภาระดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายทางการเงินส่วนที่เกินทั้งสิ้น


*สนามบินอู่ตะเภา รันเวย์ที่ 2 คาดสรุปผลประมูลในส.ค.-ก.ย.67

ส่วนโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา และเมืองการบินภาคตะวันออก ความก้าวหน้าในส่วนภาครัฐ กองทัพเรือได้ออกประกาศเชิญชวนยื่นข้อเสนองานจ้างก่อสร้างทางวิ่งที่ 2 และทางขับสนามบินอู่ตะเภา เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งมียื่นข้อเสนอ 7 กลุ่ม คาดว่าจะพิจารณาข้อเสนอทางเทคนิคได้ภายในเดือน มิ.ย.นี้ และสรุปผลประมูลในส.ค.-ก.ย.67 และเสนอครม.เห็นชอบ คาดว่าจะลงนามสัญญาภายในเดือนธ.ค.67 ก่อสร้างแล้วเสร็จภายในปี 71

ส่วนการก่อสร้างเมืองการบินของ บริษัท อู่ตะเภาอินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จำกัด (UTA) นั้น ทางสกพอ. UTA และกองทัพเรือได้หารือ เพื่อวางแผนบริหารการใช้พื้นที่ร่วมกันแล้ว รวมถึงการประสานแผนงานกับ ไฮสปีด 3 สนามบินซึ่งคาดว่า ครม.เห็นชอบหลักการแก้ปัญหา ไฮสปีด 3 สนามบิน จะนำไปสู่การร่วมลงนาม 3 ฝ่าย คือ สกพอ. UTA และ บริษัทเอเชีย เอรา วัน ซึ่งคาดว่าจะแจ้งเอกชนเริ่มก่อสร้างโครงการฯ (NTP) ได้ภายในปี 67 นี้ และเปิดให้บริการภายในปี 72

ขณะที่งานระบบไฟฟ้าและน้ำเย็น มีความก้าวหน้าภาพรวม 26.32% โดยโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ มีความก้าวหน้ากว่า 94.85% งานด้านระบบบริการ เติมเชื้อเพลิงอากาศยาน มีความก้าวหน้ารวม 47.38% งานด้านประปาและบำบัดน้ำเสีย มีความก้าวหน้ารวม 97.62% เป็นต้น

ที่ประชุม กพอ.ยังได้เห็นชอบ การกำหนดอัตราค่าเช่าที่ดินราชพัสดุในเขตส่งเสริมเมืองการบินภาคตะวันออก (EECa) ที่อัตรา 10,6800 บาทต่อไร่ ต่อปี ซึ่งมีหลักเกณฑ์คำนวณในสัดส่วน 3% จากอัตราค่าเช่าที่ดิน ราคาประเมิน 8,900 บาทต่อตารางวา หรือ 3,560,000 บาทต่อไร่ โดยจะมีการปรับอัตราค่าเช่าขึ้น 9% ทุก 3 ปี

โดยในพื้นที่อีอีซี กำหนดเป็น ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา จำนวน 6,500 ไร่ และมีพื้นที่ ที่สกพอ.จัดให้เช่าที่ดินราชพัสดุ เพื่อดำเนินการ 4 กิจกรรม ได้แก่ 1. โครงการพัฒนาศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภา จำนวน 210 ไร่ 2. โครงการศูนย์ฝึกอบรมบุคลากรด้านการบินและอวกาศอู่ตะเภา จำนวน 70 ไร่ 3. สาธารณูปโภคที่จัดทำโดยหน่วยงานรัฐ จำนวน 154 ไร่ 4. อาคารหอบังคับการบิน จำนวน 5.3 ไร่


*คาดท่าเทียบเรือ F1 เปิดดำเนินการภายในปี 70

โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ในส่วนท่าเทียบเรือ F งานก่อสร้างทางทะเล มีความล่าช้าประมาณ 3% โดยมีความก้าวหน้าในภาพรวม 29.02% โดยพื้นที่ถมทะเล 1 และ 2 ได้ดำเนินการถมแล้วเสร็จ ส่วนพื้นที่ถมทะเล 3 อยู่ระหว่างดำเนินการ โดยคาดว่า ยังสามารถส่งมอบพื้นที่ให้กลุ่มบริษัท จีพีซี อินเตอร์เนชั่นแนล เทอร์มินอล จำกัด (GPC) ผู้รับสัมปทานได้ตามกำหนดเดือนพ.ย. 68 และจะเปิดดำเนินการท่าเทียบเรือ F1 ได้ภายในปี 70

ท่าเรือมาบตาพุด ระยะที่ 3 ช่วงที่ 1 คาดแล้วเสร็จในปี 70

โครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 การก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานในภาพรวม มีความก้าวหน้า 80.93% งานด้านถมทะเล พื้นที่แปลง LNG Plot (แปลง B) และพื้นที่ธุรกิจเกี่ยวเนื่อง (แปลง C) ดำเนินการถม แล้วเสร็จ ส่วนพื้นที่ท่าเรือสินค้าเหลว (แปลง A) มีความก้าวหน้า 30.95% โดยท่าเรือมาบตาพุด ระยะที่ 3 ช่วงที่ 1 คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 70


High-Speed Train Moves Forward After EEC Policy Board Approves Contract Amendments, Construction Expected to Begin in December 2024

Source: IQ InfoQuest News Agency
Date: Monday, June 10, 2024, 15:22


The Eastern Economic Corridor Policy Committee (EEC) held its 3/2567 meeting, chaired by Deputy Prime Minister and Minister of Commerce, Phumtham Wechayachai. The meeting acknowledged progress on the high-speed rail project connecting Don Mueang, Suvarnabhumi, and U-Tapao airports. The State Railway of Thailand (SRT) and Asia Era One Co., Ltd. (a subsidiary of Charoen Pokphand Holding Co., Ltd.) have agreed on the construction areas and reached a resolution on project issues caused by COVID-19 and the Russia-Ukraine war.

Chula Sukmanop, Secretary-General of the EEC Board, noted that due to time constraints at the meeting, detailed considerations of project amendments were postponed to the next meeting, likely in late June or early July 2024.

Once the EEC approves the amendments, they will be submitted to the Cabinet (CM) for acknowledgment. The CM will review the PPP principles as per its March 27, 2018 resolution, and this is expected by July 2024. Following this, the SRT and the private partner will draft the amended contract for review by the Office of the Attorney General, after which it will be resubmitted to the EEC and CM for final approval. The contract signing and Notice to Proceed (NTP) are expected by December 2024, with construction commencing thereafter.

Key amendments include earlier government investment aligned with project milestones, the private sector providing full construction cost guarantees, and revised payment terms for the Airport Rail Link (ARL) project. The private sector will make payments in seven installments, ensuring SRT receives the total sum of 10,671.09 million THB, with the private sector covering all additional financial costs.

U-Tapao Airport’s Second Runway Bid Expected by August-September 2024

The U-Tapao Airport and Eastern Aviation City development project is progressing. The Royal Thai Navy has invited bids for constructing the second runway and taxiways, with seven groups submitting proposals. Technical evaluations are expected by June 2024, with bid results by August-September 2024 and CM approval thereafter. The contract signing is anticipated by December 2024, with construction completion by 2028.

For the Aviation City construction by U-Tapao International Aviation Co., Ltd. (UTA), the EEC, UTA, and the Navy have coordinated on space management, aligning plans with the high-speed rail project. CM approval on the high-speed rail amendments is expected to facilitate a three-party agreement (EEC, UTA, and Asia Era One), with NTP issued within 2024 and service commencing by 2029.

Progress on Utilities and Related Infrastructure

- Electrical and chilled water systems are 26.32% complete.
- Solar power plant construction is 94.85% complete.
- Fueling system construction is 47.38% complete.
- Water supply and wastewater treatment systems are 97.62% complete.

Rental Rates for State Property in EEC Aviation City Set

The EEC meeting approved rental rates for state property in the Eastern Aviation City (EECa) at 106,800 THB per rai per year. The rate, based on 3% of the land’s assessed value (8,900 THB per square wah or 3,560,000 THB per rai), will increase by 9% every three years. The EECa includes 6,500 rai for U-Tapao International Airport and additional land for four projects:
1. Aircraft Maintenance Center (210 rai)
2. Aviation and Space Personnel Training Center (70 rai)
3. Public infrastructure (154 rai)
4. Air Traffic Control Tower (5.3 rai)

Laem Chabang Port Phase 3 and Map Ta Phut Port Phase 3 Updates

- Laem Chabang Port Phase 3: Pier F’s marine construction is delayed by 3%, with overall progress at 29.02%. Land reclamation phases 1 and 2 are complete, with phase 3 ongoing. The area will be handed over to GPC International Terminal Co., Ltd. by November 2024, with Pier F1 operational by 2027.
- Map Ta Phut Industrial Port Phase 3, Phase 1: Overall infrastructure progress is 80.93%, with LNG Plot (Plot B) and related business areas (Plot C) land reclamation complete. Liquid cargo terminal area (Plot A) is 30.95% complete, with project completion expected by 2027.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43048
Location: NECTEC

PostPosted: 10/06/2024 5:24 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
ไฮสปีดเทรนเดินหน้า หลังบอร์ดกพอ.รับทราบหลักการแก้ไขสัญญา คาดเริ่มก่อสร้าง ธ.ค.67
Source - IQ สำนักข่าวอินโฟเควสท์
วันจันทร์ที่ 10 มิถุนายน 2567 เวลา 15:22 น.

สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 มิ.ย. 67)


ลุ้นบอร์ด กพอ.ปลดล็อกแก้ปัญหา "ไฮสปีด" มั่นใจปิดความเสี่ยง เร่งออก NTP ปลายปี 67
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันจันทร์ที่ 10 มิถุนายน 2567 เวลา 06:09 น.
ปรับปรุง: วันจันทร์ที่ 10 มิถุนายน 2567 เวลา 07:24 น.



เดินหน้าปิดดีลแก้ไฮสปีด 3 สนามบิน รายงานคืบหน้าบอร์ด กพอ.วันนี้ (10 มิ.ย.) หลังคณะ กก.กำกับฯ ไฟเขียวปลดล็อกเงื่อนไข NTP ตัดบีโอไอ ปรับรัฐจ่ายเงินร่วมทุนเร็วขึ้น แลกเอกชนวางแบงก์การันตี 1.3 แสนล้านบาท สร้างเสร็จโอนกรรมสิทธิ์ให้ รฟท.ทันที ปิดทุกความเสี่ยง มั่นใจไม่ซ้ำรอย 'โฮปเวลล์' คาดเซ็นสัญญาในปีนี้ เริ่มสร้างอย่างช้าต้นปี 68

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลเปิดเผยว่า ในวันนี้ (10 มิ.ย. 2567) เวลา 09.30 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (บอร์ด กพอ.) โดยคาดว่าจะมีการรายงานความคืบหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) และการแก้ปัญหาโครงการฯ ซึ่งล่าสุดคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท.ที่มีนายจิรุตม์ วิศาลจิตร เป็นประธานในการประชุมเมื่อวันที่ 23 พ.ค. 2567 ได้รับทราบข้อสรุปผลการเจรจาเรื่อง หลักการแก้ไขปัญหาโครงการฯ ตามที่ รฟท. สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) และบริษัทเอเชีย เอรา วัน จำกัด (บริษัทในเครือบริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด) คู่สัญญาผู้รับสัมปทานฯ ได้ตกลงร่วมกันแล้ว

และเมื่อวันที่ 4 มิ.ย. 2567 ที่ผ่านมาคณะกรรมการกำกับดูแลโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน (คณะกรรมการกำกับฯ) ตาม พ.ร.บ.อีอีซี ได้มีการประชุมและรับทราบผลการแก้ไขปัญหาตามที่คณะทำงานร่วม 3 ฝ่ายได้ข้อสรุปแล้ว ดังนั้น ตามขั้นตอนหลังจากนี้จะเป็นการเสนอบอร์ด กพอ.พิจารณาเห็นชอบเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.)​ อนุมัติ ก่อนส่งให้สำนักงานอัยการสูงสุดตรวจร่างสัญญาฯ ส่วนแก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จ สามารถลงนามแก้ไขสัญญาได้ในปลายปี 2567 และ รฟท.จะสามารถส่งมอบพื้นที่และออกหนังสือให้เอกชนเริ่มงาน (NTP : Notice to Proceed) เริ่มก่อสร้างไม่เกินต้นปี 2568

รายงานข่าวแจ้งว่า หลักการเจรจาแก้ไขสัญญาร่วมทุนฯ รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินอยู่ภายใต้หลักการภาครัฐ โดยรฟท.ไม่เสียผลประโยชน์ และเอกชนจะไม่ได้รับผลประโยชน์เกินควร ซึ่งทุกฝ่ายต้องการให้โครงการได้เริ่มต้นเดินหน้าก่อสร้างเสียที เนื่องจากลงนามสัญญามานานแล้ว

สำหรับการแก้ไขสัญญามี 4 ประเด็น คือ 1. ปรับให้เอกชนผ่อนชำระค่าสิทธิร่วมลงทุนโครงการแอร์พอร์ตเรลลิงก์ (ARL) โดย รฟท.ได้รับค่าสิทธิฯ ครบจำนวน 10,671.09 ล้านบาท บวกดอกเบี้ยและค่าเสียโอกาสของ รฟท.อีกจำนวน 1,060 ล้านบาท รวมเป็น 11,717.09 ล้านบาท โดยให้ผ่อนจ่าย 7 งวด โดยงวดที่ 1-6 ชำระงวดละ 10% งวดที่ 7 จะชำระส่วนที่เหลือพร้อมดอกเบี้ย ซึ่ง กพอ.ได้เห็นชอบและรายงาน ครม.รับทราบไปก่อนหน้านี้แล้ว

2. การปรับเปลี่ยนวิธีการชำระเงินที่รัฐร่วมลงทุนโครงการ (PIC) คิดเป็นมูลค่าปัจจุบันไม่น้อยกว่า 119,425 ล้านบาท ซึ่งกำหนดให้รัฐร่วมลงทุนในปีที่ 6-ปีที่ 15 หรือเมื่อก่อสร้างโครงการเสร็จเปิดเดินรถแล้ว แต่เนื่องจากการดำเนินงานมีปัญหาอุปสรรค ทั้งโรคโควิด-19 สถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครน และวิกฤตการณ์ของระบบสถาบันการเงิน อัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น เอกชนไม่สามารถกู้เงินได้ จึงเสนอแก้ไข ปรับการจ่ายเงินที่ฝ่ายรัฐร่วมลงทุนให้เร็วขึ้น เป็นเดือนที่ 18 หรือประมาณ 1 ปีครึ่ง นับจากออก NTP ซึ่งจะเป็นการปรับจากรัฐจ่ายร่วมลงทุนเมื่อโครงการเสร็จเป็นสร้างไป-จ่ายไป

3. ยกเลิกเงื่อนไขออกหนังสือให้เอกชนเริ่มงาน (NTP : Notice to Proceed) เดิมที่ระบุให้เอกชน ผู้รับสัมปทานฯ ต้องขอส่งเสริมการลงทุนกับคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ก่อน รวมไปถึงเรื่องการส่งมอบพื้นที่ TOD มักกะสันขนาด 150 ไร่ โดยเอกชนต้องจดทะเบียนสิทธิการเช่า ปัญหาที่ต้องถอนสภาพ ‘ลำรางสาธารณะ’ ก่อนทั้งหมด เป็นการปลดล็อก และจะทำให้ รฟท.สามารถออก NTP ได้ทันทีหลังลงนามแก้ไขสัญญา

4. ให้เอกชนวางหนังสือค้ำประกันโดยธนาคารหรือแบงก์การันตี เพิ่มเติมอีก 2 ส่วน คือ 1. แบงก์การันตีในส่วนของค่าสิทธิร่วมลงทุนแอร์พอร์ตเรลลิงก์ จำนวน 10,671.09 ล้านบาท เพื่อยืนยันกรณีแบ่งจ่ายค่าแอร์พอร์ตเรลลิงก์จากงวดเดียวเป็น 7 งวด โดยเมื่อแก้ไขสัญญา เอกชนจ่ายงวดแรก 1,067 ล้านบาท และวางแบงก์การันตีที่เหลือประมาณ 9,600 ล้านบาท ส่วนดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียมทางการเงินอื่นๆ ที่ต้องจ่ายจากการผ่อนชำระจะแยกจ่ายอีกส่วนหนึ่งในแต่ละงวด ทั้งนี้หลังลงนามแก้ไขสัญญา เอกชนต้องชำระค่าสิทธิ์แอร์พอร์ตเรลลิงก์งวดแรกทันที

ส่วนที่ 2 เป็นแบงก์การันตีเต็มวงเงินค่าก่อสร้างหรือในส่วนของเงินฝ่ายรัฐร่วมลงทุน วงเงิน 119,425 ล้านบาท ทั้งนี้เพื่อให้ภาครัฐมีความมั่นใจว่าเอกชนคู่สัญญาจะสามารถดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จ กรณีปรับเงื่อนไขการจ่ายเงินภาครัฐจากปีที่ 6 เป็นสร้างไปจ่ายไป โดยวางแบงก์การันตีภายใน 270 วันหลังลงนามแก้ไขสัญญา

รายงานข่าวแจ้งว่า การแก้ไขสัญญาครั้งนี้ เป็นการปลดล็อกเงื่อนไขที่ทำให้โครงการต้องติดขัดเดินหน้าไม่ได้ และยังทำให้รัฐมั่นใจว่าโครงการจะสำเร็จตามเป้าหมาย รวมถึงภาครัฐไม่ต้องรับความเสี่ยง โดยเอกชนยอมวางแบงก์การันตีเต็มมูลค่าก่อสร้าง ดังนั้นกรณีที่เอกชนไม่ทำโครงการต่อ รฟท.ยังมั่นใจว่ามีเงินที่จะก่อสร้างโครงการต่อไปได้ อีกทั้งหลังก่อสร้างเสร็จเอกชนจะต้องโอนกรรมสิทธิ์รฟท.ทันที รูปแบบ B-T-O ดังนั้น หากเกิดเหตุที่อาจทำให้ต้องยกเลิกสัญญาระหว่างทาง โครงการนี้จะไม่ซ้ำรอยโฮปเวลล์ที่ ยกเลิกสัญญาแล้วแต่ รฟท.เข้าพื้นที่ไม่ได้ เพราะเอกชนยังเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์อยู่ จนกลายเป็นปัญหาข้อพิพาทยืดเยื้อ
บอร์ด EEC รับทราบแก้สัญญาไฮสปีด-อู่ตะเภาเมืองการบิน เร่งตอกเสาให้ทันปี’67
เศรษฐกิจในประเทศ
วันจันทร์ที่ 10 มิถุนายน 2567 เวลา 14:14 น.


บอร์ด EEC เผยความคืบหน้า 4 โครงสร้างพื้นฐานหลัก รับทราบแก้ไขสัญญารถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน ตามที่ ร.ฟ.ท.เสนอ ด้านสนามบินอู่ตะเภา-เมืองการบิน ประกาศเชิญชวนยื่นข้อเสนองานก่อสร้างทางวิ่งที่ 2 ให้ได้ภายใน มิ.ย. 2567 พร้อมอนุมัติ (ร่าง) แผนสิ่งแวดล้อมอีอีซี

วันที่ 10 มิถุนายน 2567 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังการเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ. หรือบอร์ด EEC) ครั้งที่ 3/2567 ว่า บอร์ด EEC ได้อนุมัติ (ร่าง) แผนสิ่งแวดล้อมในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ. 2566-2570

ซึ่งประกอบด้วย ยุทธศาสตร์ที่ 1 คือ การจัดการของเสียและมลพิษสิ่งแวดล้อม ทั้งน้ำเสีย ของเสีย เฝ้าระวังการจัดการมลพิษจากแหล่งกำเนิดและในสิ่งแวดล้อมจำนวน 31 โครงการ อาทิ โครงการก่อสร้างระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสียในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการขยะมูลฝอยอำเภอแกลง


ยุทธศาสตร์ที่ 2 การอนุรักษ์ ฟื้นฟู ดูแลรักษา และใช้ประโยชน์ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน เช่น การจัดการทรัพยากรและการใช้ประโยชน์ที่ดิน การจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนจำนวน 65 โครงการ อาทิ โครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแก้มลิงคลองบางไผ่ โครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำพร้อมระบบกระจายน้ำเกาะแสมสาร

ยุทธศาสตร์ที่ 3 การส่งเสริมการดำรงชีวิตและดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน เพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รองรับและปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติจำนวน 40 โครงการ อาทิ โครงการปรับปรุงภูมิทัศน์รอบชายหาดบ้านอำเภอ จังหวัดชลบุรี โครงการขับเคลื่อนสู่ Net Zero EEC สนับสนุนการลงทุนที่เป็นมิตรต่อสภาพภูมิอากาศ

ยุทธศาสตร์ที่ 4 การเสริมความเข้มแข็งแก่ภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อพัฒนาเครื่องมือและนวัตกรรม เพื่อสนับสนุนการบริการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจำนวน 54 โครงการ อาทิ โครงการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตที่สะอาดสำหรับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชีวภาพ เป็นต้น จากนี้สำนักงาน EEC จะต้องนำเสนอเข้าที่ประชุม ครม.ต่อไป

นายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) กล่าวว่า สำหรับความก้าวหน้าโครงสร้างพื้นฐานหลักในพื้นที่ EEC ซึ่งเป็นโครงการร่วมลงทุนรัฐ-เอกชน (PPP) นั้น ที่ประชุมได้รับทราบโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน ปัจจุบันการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) และเอกชนคู่สัญญาตกลงรับมอบพื้นที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ


จุฬา สุขมานพ
และเจรจาหลักการแก้ไขปัญหาโครงการจากผลกระทบโควิด-19 และสงครามรัสเซีย-ยูเครน ได้ข้อยุติแล้ว อยู่ระหว่างเตรียมนำเสนอ กพอ. (บอร์ด EEC) พิจารณา เพื่อเสนอให้ ครม.ทบทวนหลักการ PPP ตามมติ ครม.ที่อนุมัติโครงการไว้ เมื่อวันที่ 27 มี.ค. 2561 คาดว่าจะเสนอ ครม.ได้ภายในเดือน ก.ค. 2567 จากนั้น ร.ฟ.ท.และเอกชนคู่สัญญาจะเจรจาร่างสัญญาแก้ไข เพื่อส่งให้สำนักงานอัยการสูงสุดตรวจ และส่ง กพอ. และ ครม.เห็นชอบ และเริ่มงานก่อสร้างภายในธันวาคม 2567

ทั้งนี้ หลักการแก้ไขปัญหาจะอยู่บนพื้นฐานความเป็นหุ้นส่วนระหว่างรัฐและเอกชน เป็นธรรมต่อคู่สัญญา รัฐไม่เสียประโยชน์ และเอกชนไม่ได้ประโยชน์เกินควร มีหลักการที่สำคัญ ได้แก่ การแก้ไขวิธีชำระเงินที่รัฐร่วมลงทุนในโครงการ (PIC)


โดยรัฐจะเริ่มลงทุนเร็วขึ้นตามระยะเวลาความแล้วเสร็จของงาน และเอกชนตกลงวางหลักประกัน (Bank Guarantee) เต็มจำนวน ค่าก่อสร้าง และการแก้ไขวิธีการชำระค่าสิทธิโครงการแอร์พอร์ตเรลลิงก์ (ARL) เอกชนแบ่งชำระ 7 งวด โดย ร.ฟ.ท.ยังคงได้รับค่าสิทธิครบจำนวน 10,671.09 ล้านบาท เอกชนรับภาระดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียม และค่าใช้จ่ายทางการเงินส่วนที่เกินทั้งสิ้น

โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ความก้าวหน้าในส่วนภาครัฐ กองทัพเรือได้ออกประกาศเชิญชวนยื่นข้อเสนองานจ้างก่อสร้างทางวิ่งที่ 2 และทางขับสนามบินอู่ตะเภาเป็นที่เรียบร้อย และคาดว่าจะพิจารณาข้อเสนอทางเทคนิคได้ภายในเดือน มิ.ย. 2567 และก่อสร้างแล้วเสร็จภายในปี 2571 ด้านงานระบบไฟฟ้าและน้ำเย็น

มีความก้าวหน้าภาพรวม 26.32% โดยโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์มีความก้าวหน้ากว่า 94.85% งานด้านระบบบริการเติมเชื้อเพลิงอากาศยานมีความก้าวหน้ารวม 47.38% งานด้านประปาและบำบัดน้ำเสียมีความก้าวหน้ารวม 97.62% เป็นต้น ในส่วนการประสานแจ้งให้เอกชนเริ่มก่อสร้างโครงการ (NTP) คาดว่าจะสามารถแจ้ง NTP ได้ภายในปี 2567 นี้ ทั้งนี้ คาดว่าสนามบินอู่ตะเภาจะเปิดให้บริการภายในปี 2572

โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 ในส่วนท่าเทียบเรือ F งานก่อสร้างทางทะเล มีความก้าวหน้าในภาพรวม 29.02% โดยพื้นที่ถมทะเล 1 และ 2 ได้ดำเนินการถมแล้วเสร็จ ส่วนพื้นที่ถมทะเล 3 อยู่ระหว่างดำเนินการถม คาดว่าจะเปิดดำเนินการท่าเทียบเรือ F1 ได้ภายในปี 2570

โครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดระยะที่ 3 การก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานในภาพรวม
มีความก้าวหน้า 80.93% งานด้านถมทะเล พื้นที่แปลง LNG Plot (แปลง B) และพื้นที่ธุรกิจเกี่ยวเนื่อง (แปลง C) ดำเนินการถมแล้วเสร็จ ส่วนพื้นที่ท่าเรือสินค้าเหลว (แปลง A) มีความก้าวหน้า 30.95% โดยท่าเรือมาบตาพุด ระยะที่ 3 ช่วงที่ 1 คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2570.

บอร์ดอีอีซีรับทราบแนวทาง "ไฮสปีด" ยังไม่เคาะแก้สัญญาร่วมทุนฯ นัดถกรายละเอียดรอบหน้า
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันจันทร์ที่ 10 มิถุนายน 2567 เวลา 15:03 น.
ปรับปรุง: วันจันทร์ที่ 10 มิถุนายน 2567 เวลา 16:19 น.

บอร์ด กพอ.ยังไม่พิจารณาแก้สัญญาร่วมทุนฯ ไฮสปีด 3 สนามบิน เผยเวลาประชุมน้อยนัดรอบหน้าถกรายละเอียด คาดชง ครม.ก.ค. เซ็นสัญญา ธ.ค. 67 ออก NTP เริ่มก่อสร้าง เผย 7 กลุ่มยื่นชิงรันเวย์ 2 “อู่ตะเภา” สรุป ก.ย.นี้ ส่วนถมทะเล "แหลมฉบังเฟส 3" ล่าช้า 3% มั่นใจส่งมอบพื้นที่ GPC ได้ตามแผน

วันที่ 10 มิ.ย. 2567 นายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ครั้งที่ 3/2567 ที่มีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน ว่า ที่ประชุม กพอ.รับทราบความก้าวหน้าโครงสร้างพื้นฐานหลักในพื้นที่อีอีซี ซึ่งเป็นโครงการร่วมลงทุนรัฐ-เอกชน (PPP) ที่สำคัญ ได้แก่

ad

1. โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ซึ่งปัจจุบันการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และบริษัทเอเชีย เอรา วัน จำกัด (บริษัทในเครือบริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด) คู่สัญญาผู้รับสัมปทานฯ ได้ตกลงรับมอบพื้นที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ และเจรจาหลักการแก้ไขปัญหาโครงการจากผลกระทบโควิด-19 และสงครามรัสเซีย-ยูเครน ได้ข้อยุติแล้ว แต่เนื่องจากครั้งนี้ กพอ.มีเวลาประชุมน้อยเนื่องจากนายภูมิธรรมมีภารกิจต่อ จึงยังไม่มีการพิจารณารายละเอียดเรื่องหลักการแก้ไขปัญหาโครงการฯ โดยให้นำเสนอในการประชุม กพอ.ครั้งต่อไป ซึ่งอาจจะเป็นช่วง ปลายเดือน มิ.ย.หรือต้นเดือน ก.ค. 2567

ซึ่งตามขั้นตอน หลัง กพอ.พิจารณาเห็นชอบแล้วจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบในหลักการแก้ไขสัญญา โดยจะมีการทบทวนหลักการ PPP ตามมติ ครม.ที่อนุมัติโครงการไว้เมื่อวันที่ 27 มี.ค. 2561 ซึ่งคาดว่าจะเสนอ ครม.ได้ภายในเดือน ก.ค. 2567 จากนั้น รฟท.และเอกชนคู่สัญญาจะเจรจาร่างสัญญาแก้ไขเพื่อส่งให้สำนักงานอัยการสูงสุดตรวจร่างฯ และส่ง กพอ. และ ครม.เห็นชอบอีกครั้งจึงจะลงนามแก้ไขสัญญา และออกหนังสือให้เอกชนเริ่มงาน (NTP : Notice to Proceed) ภายในธันวาคม 2567 เพื่อเริ่มงานก่อสร้างต่อไป

ทั้งนี้ หลักการแก้ไขปัญหาจะอยู่บนพื้นฐานความเป็นหุ้นส่วนระหว่างรัฐกับเอกชน เป็นธรรมต่อคู่สัญญา รัฐไม่เสียประโยชน์ และเอกชนไม่ได้ประโยชน์เกินควร มีหลักการที่สำคัญ ได้แก่ การแก้ไขวิธีชำระเงินที่รัฐร่วมลงทุนในโครงการฯ (PIC) โดยรัฐจะเริ่มลงทุนเร็วขึ้นตามระยะเวลาความแล้วเสร็จของงาน และเอกชนตกลงวางหลักประกัน (Bank Guarantee) เต็มจำนวน ค่าก่อสร้าง และการแก้ไขวิธีการชำระค่าสิทธิโครงการแอร์พอร์ตเรลลิงก์ (ARL) เอกชนแบ่งชำระ 7 งวด โดย รฟท.ยังคงได้รับค่าสิทธิครบจำนวน 10,671.09 ล้านบาท เอกชนรับภาระดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายทางการเงินส่วนที่เกินทั้งสิ้น



@ เผย 7 กลุ่มยื่นชิงรันเวย์ 2 “อู่ตะเภา” คาดสรุปเสนอ ครม.ใน ก.ย.นี้

2. โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา และเมืองการบินภาคตะวันออก ความก้าวหน้าในส่วนภาครัฐ กองทัพเรือได้ออกประกาศเชิญชวนยื่นข้อเสนองานจ้างก่อสร้างทางวิ่งที่ 2 และทางขับสนามบินอู่ตะเภาเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งมียื่นข้อเสนอ 7 กลุ่ม คาดว่าจะพิจารณาข้อเสนอทางเทคนิคได้ภายในเดือน มิ.ย. 2567 และสรุปผลประมูลใน ส.ค.-ก.ย. 2567 และเสนอ ครม.เห็นชอบ คาดว่าจะลงนามสัญญาภายในเดือน ธ.ค. 2567 ก่อสร้างแล้วเสร็จภายในปี 2571

ส่วนการก่อสร้างเมืองการบินของ บริษัท อู่ตะเภาอินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จำกัด (UTA) นั้น ทาง สกพอ. UTA และกองทัพเรือได้หารือเพื่อวางแผนบริหารการใช้พื้นที่ร่วมกันแล้ว รวมถึงการประสานแผนงานกับไฮสปีด 3 สนามบินซึ่งคาดว่า ครม.เห็นชอบหลักการแก้ปัญหา ไฮสปีด 3 สนามบิน จะนำไปสู่การร่วมลงนาม 3 ฝ่าย คือ สกพอ. UTA และ บริษัท เอเชีย เอรา วัน ซึ่งคาดว่าจะแจ้งเอกชนเริ่มก่อสร้างโครงการฯ (NTP) ได้ภายในปี 2567 นี้ และเปิดให้บริการภายในปี 2572

ขณะที่งานระบบไฟฟ้าและน้ำเย็น มีความก้าวหน้าภาพรวม 26.32% โดยโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์มีความก้าวหน้ากว่า 94.85% งานด้านระบบบริการ เติมเชื้อเพลิงอากาศยาน มีความก้าวหน้ารวม 47.38% งานด้านประปาและบำบัดน้ำเสีย มีความก้าวหน้ารวม 97.62% เป็นต้น



@ถมทะเล "แหลมฉบัง เฟส 3" ล่าช้า 3% มั่นใจส่งมอบพื้นที่ GPC ได้ตามแผน

3. โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ในส่วนท่าเทียบเรือ F งานก่อสร้างทางทะเล มีความล่าช้าประมาณ 3% โดยมีความก้าวหน้าในภาพรวม 29.02% โดยพื้นที่ถมทะเล 1 และ 2 ได้ดำเนินการถมแล้วเสร็จ ส่วนพื้นที่ถมทะเล 3 อยู่ระหว่างดำเนินการ โดยคาดว่ายังสามารถส่งมอบพื้นที่ให้กลุ่มบริษัท จีพีซี อินเตอร์เนชั่นแนล เทอร์มินอล จำกัด (GPC) ผู้รับสัมปทานได้ตามกำหนดเดือนพ.ย. 2568 และจะเปิดดำเนินการท่าเทียบเรือ F1 ได้ภายในปี 2570

โครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 การก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานในภาพรวม มีความก้าวหน้า 80.93% งานด้านถมทะเล พื้นที่แปลง LNG Plot (แปลง B) และพื้นที่ธุรกิจเกี่ยวเนื่อง (แปลง C) ดำเนินการถมแล้วเสร็จ ส่วนพื้นที่ท่าเรือสินค้าเหลว (แปลง A) มีความก้าวหน้า 30.95% โดยท่าเรือมาบตาพุด ระยะที่ 3 ช่วงที่ 1 คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2570


Last edited by Wisarut on 10/06/2024 7:59 pm; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43048
Location: NECTEC

PostPosted: 10/06/2024 5:51 pm    Post subject: Reply with quote


ความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง สัญญาที่ 3-5 งานโยธาช่วงโคกกรวด-นครรราชสีมา รวมถึงการสร้างอาคารสถานีนครราชสีมาหลังใหม่ ประจำเดือนพฤษภาคม 2567
แผนงานของเดือน พ.ค. 67 4.67%
ผลงานของเดือน พ.ค. 67 0.55%
แผนงานสะสมถึงเดือน พ.ค. 67 18.98%
ผลงานสะสมถึงเดือน พ.ค. 67 7.61%
ช้า(-)/เร็ว(+) กว่าแผนงานสะสม - 11.37%
https://www.youtube.com/watch?app=desktop&si=HDIYp3vYpOiNLHI1&v=tsVUc4IrD7c
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 45628
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 11/06/2024 6:49 am    Post subject: Reply with quote

Update HSR Thailand in June 2024 |KAENGKHOI-MUAKLEK
Iron Wheels Roaming
Jun 11, 2024


https://www.youtube.com/watch?v=WRBQPKVRCgQ
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43048
Location: NECTEC

PostPosted: 11/06/2024 5:56 pm    Post subject: Reply with quote

รถไฟเชื่อม 3 สนามบิน เรียบร้อยโรงเรียน ‘ซีพี’
Deep SPACE
วันอังคารที่ 11 มิถุนายน 2567 เวลา 15:54



โครงการรถไฟเชื่อมสามสนามบินจบแบบตามใจซีพี
ยื้อเวลาจนสามารถต่อรองสิ่งที่ต้องการได้เรียบร้อย
ขั้นตอนสุดท้ายรอ ครม.ประทับตรายางอนุมัติการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข
economy-high-speed-train-airport-SPACEBAR-Hero.jpg
เวลาผ่านไปเกือบ 5 ปี โดยไม่ได้ทำอะไรเลยนับตั้งแต่ซีพี ชนะการประมูลโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา) วันนี้เริ่มมีสัญญาณที่ดีว่า โครงการนี้จะไปต่อ ได้ตอกเสาเข็มต้นแรกกันสักที เพราะซีพี ได้ในสิ่งที่ต้องการแล้ว

ซีพีต้องการแก้ไขสัญญาร่วมลงทุน ที่มีการลงนามไปแล้ว เมื่อเดือนตุลาคม 2562 ในเรื่องการเงิน 2 เรื่องคือ

1.เงินที่จะต้องจ่ายให้ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) 10,671 ล้านบาท เป็นค่ารับโอนสิทธิเดินรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ ซึ่งต้องจ่ายเต็มจำนวน ทันทีที่รับโอนแอร์พอร์ตลิงค์ ซีพีขอผ่อนจ่ายเป็น 7 งวด งวดที่ 1-6 ชำระงวดละ 10 % งวดที่ 7 ชำระส่วนที่เหลือพร้อมดอกเบี้ย

ซีพี อ้างว่าโควิดทำให้ผู้โดยสารแอร์พอร์ตลิงค์ลดลงไปจากเดิมมาก จึงขอ ‘ผ่อนชำระ’ รัฐบาลที่แล้วอนุมัติให้มีการแก้ไขสัญญาในข้อนี้

2. เงินอุดหนุนค่าก่อสร้าง 117,727 ล้านบาท ที่ รฟท. ต้องจ่ายคืนให้ ซีพี เมื่อเปิดบริการแล้ว 1 ปี โดยทยอยจ่าย 10 ปี ซีพีขอรับเงินเร็วขึ้น คือให้ขอรับเงินอุดหนุนในปีที่ 2 ของการก่อสร้าง เร็วกว่าที่กำหนดในสัญญา 4-5 ปี ซึ่งจะทำให้ซีพี ไม่ต้องกู้เงินมาก สามารถลดต้นทุนดอกเบี้ยได้มหาศาล เพราะสร้างไป เบิกไป แต่ รฟท. มีภาระการเงินเพิ่มต้องหาเงินมาจ่ายตั้งแต่ปีที่ 2 ของการก่อสร้าง

รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ‘ไม่ยอมให้แก้สัญญา’ ในข้อนี้ ประจวบกับเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาล รัฐบาลนี้ไม่ให้ความสำคัญกับการพัฒนา ‘เขตเศรษฐกิจพิเศษ อีอีซี’ เลยเพราะเป็นโครงการที่รัฐบาลที่แล้ว เป็นผู้ริเริ่มโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ คือ รถไฟความเร็วสูง สนามบินและเมืองการบินอู่ตะเภา ท่าเรือแหลมฉบังและมาบตาพุด ก็ประมูลเซ็นสัญญาไปหมดแล้ว ‘ไม่เหลือ’ อะไรให้รัฐบาลนี้เลย

โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน จึงหยุดนิ่งอยู่กับที่ จนกระทั่งต้นปีที่ผ่านมาการเจรจาระหว่างซีพี รฟท. และ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ซึ่งเป็นผู้กำกับดูแลการลงทุนในอีอีซีจึงเริ่มมีความคืบหน้า

โดยยอมตามความต้องการของซีพี เปลี่ยนรูปแบบการจ่ายเงินอุดหนุนให้เร็วขึ้น จากเดิมจ่ายในปีที่ 6 คือ ก่อสร้าง 5 ปี เสร็จแล้วเปิดบริการปีแรก มาเป็นการ สร้างไป จ่ายไป คือเริ่มจ่ายหลังจาก รฟท. ออกหนังสือให้เริ่มงาน หรือ NTP (Notice To Proceed) ไปแล้ว 1 ปีครึ่ง

เพื่อป้องกันไม่ให้ซ้ำรอยโครงการ โฮปเวลล์ที่สร้างไป เบิกไป พอ ‘กอร์ดอน วู’ มีปัญหาสภาพคล่องก็ทิ้งงาน รฟท. จึงให้ ซีพีวางหลักประกันเป็นแบงก์การรันตี ทั้งในส่วนของค่าสิทธิเดินรถแอร์พอร์ตลิงค์ที่ขอผ่อนชำระ และค่าก่อสร้าง 117,000ล้านบาท

และซีพีต้องโอนกรรมสิทธิ์โครงการให้ รฟท. ทันที่ทีก่อสร้างเสร็จ จากเดิมที่ต้องโอนหลังจากครบอายุสัญญา 50 ปี เพราะ รฟท. ได้กลายเป็น ‘ผู้รับภาระ’ การลงทุนเกือบทั้งหมดแทนซีพีไปแล้ว ทั้งเวนคืนที่ดิน จ่ายค่าก่อสร้าง ซีพีลงทุนแค่ ระบบเดินรถ และบริหารจัดการ เก็บค่าโดยสารไปอีก 50 ปี

การประชุมบอร์ดอีอีซี วันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา เห็นชอบการแก้ไขสัญญานี้ หลังจากผ่านด่านที่ 1 คือ บอร์ดการรถไฟแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม ผ่านด่านที่ 2 คือ คณะกรรมการกำกับ บริหารสัญญา เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน

เหลือด่านสุดท้ายคือ ครม. ที่จะต้องให้ความเห็นชอบการแก้ไขสัญญา ซึ่งไม่น่าจะมีปัญหาเพราะเรื่องใหญ่แบบนี้คงมีการ ‘พูดคุยตกลง’ กันกับผู้มีอำนาจทั้งบนโต๊ะ ใต้โต๊ะ มาเรียบร้อยแล้ว เพื่อให้โครงการได้เริ่มต้นสักที และจะมีผลเกี่ยวเนื่องไปถึง การแจ้งเกิดของอีอีซีด้วย

ถ้าจะมีอุปสรรค เรื่องเดียวคืออาจมีใครไปฟ้องศาลปกครองว่า เป็นการแก้สัญญาที่ไม่ชอบเพราะตอนขายซองเปิดประมูล เป็นสัญญาร่วมลงทุนรัฐ เอกชน แต่ตอนจบทำไมกลายเป็น รฟท. เป็นผู้ลงทุนหลัก รับความเสี่ยงเต็ม ๆ ซีพี เป็นแค่ผู้รับเหมาก่อสร้างและรับจ้างเดินรถ

Wisarut wrote:
Mongwin wrote:
ไฮสปีดเทรนเดินหน้า หลังบอร์ดกพอ.รับทราบหลักการแก้ไขสัญญา คาดเริ่มก่อสร้าง ธ.ค.67
Source - IQ สำนักข่าวอินโฟเควสท์
วันจันทร์ที่ 10 มิถุนายน 2567 เวลา 15:22 น.

สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 มิ.ย. 67)


ลุ้นบอร์ด กพอ.ปลดล็อกแก้ปัญหา "ไฮสปีด" มั่นใจปิดความเสี่ยง เร่งออก NTP ปลายปี 67
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันจันทร์ที่ 10 มิถุนายน 2567 เวลา 06:09 น.
ปรับปรุง: วันจันทร์ที่ 10 มิถุนายน 2567 เวลา 07:24 น.

บอร์ด EEC รับทราบแก้สัญญาไฮสปีด-อู่ตะเภาเมืองการบิน เร่งตอกเสาให้ทันปี’67
เศรษฐกิจในประเทศ
วันจันทร์ที่ 10 มิถุนายน 2567 เวลา 14:14 น.

บอร์ดอีอีซีรับทราบแนวทาง "ไฮสปีด" ยังไม่เคาะแก้สัญญาร่วมทุนฯ นัดถกรายละเอียดรอบหน้า
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันจันทร์ที่ 10 มิถุนายน 2567 เวลา 15:03 น.
ปรับปรุง: วันจันทร์ที่ 10 มิถุนายน 2567 เวลา 16:19 น.
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43048
Location: NECTEC

PostPosted: 11/06/2024 8:53 pm    Post subject: Reply with quote


พื้นที่สถานีนครราชสีมา รื้ออาคารเก่า พื้นที่ขอคือ..ไม่ออก
รถจักรไอน้ำ #รถไฟความเร็วสูง #ไทยจีน

11 มิ.ย. 2024
https://www.youtube.com/watch?v=9CRY5sOzlUg
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 554, 555, 556, 557  Next
Page 555 of 557

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©